File size: 3,501 Bytes
6bd72a3
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
Book,Page,LineNumber,Text
45,0004,001,แตกไซร้  ถ้าว่า  เขามาสู่ความเป็นมนุษย์  เกิดในที่ใด ๆ  ในภายหลัง ก็ 
45,0004,002,จะเป็นผู้มีสกุลสูงในที่นั้น ๆ  มาณพ  ข้อที่บุคคลเป็นผู้ไม่เย่อหยิ่ง  ไม่ถือ
45,0004,003,ตัว  ฯ ล ฯ  ย่อมบูชา  บุคคลผู้ที่ควรบูชา  เป็นปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อมี
45,0004,004,"สกุลสูง ""   ดังนี้."
45,0004,005,บาลีจูฬกัมมวิภังคสูตร  ในจตุตถวรรค  อุปริปัณณาสก์.
45,0004,006,"[๒๖๓]   นัยอันมาในอรรถ<SUP>๑</SUP>กถาจูฬกัมมวิภังคสูตรนั้นว่า "" บทว่า"
45,0004,007,<B>อภิวาเทตพฺพํ<B>  คือ  บุคคลผู้ควรแก่การอภิวาท  ได้แก่  พระพุทธเจ้า
45,0004,008,พระปัจเจกพุทธะ  หรือพระอริยสาวก.   แม้ในบุคคลที่ควรลุกรับเป็นต้น
45,0004,009,ก็นัยนี้เหมือนกัน.
45,0004,010,บทว่า   <B>สมตฺเตน</B>   คือ  อันตนให้บริบูรณ์แล้ว.
45,0004,011,บทว่า   <B>สมาทินฺเนน</B>  คือ  อันตนถือเอาแล้ว  คือลูบคลำแล้ว.
45,0004,012,บทว่า   <B>ยทิทํ</B>  ความว่า   กรรมคือความเป็นผู้กระด้างมีความถือ
45,0004,013,"ตัวจัด  นี้ใด  ปฏิปทานี่. """
45,0004,014,"ฎีกาจูฬกัมมวิภังคสูตรนั้นว่า  "" บทว่า   <B>สมตฺเตน</B>  คือ   อันอาจ"
45,0004,015,ได้แก่สามารถ.   อธิบายว่า  เพราะกรรมอันตนทำ  คือสั่งสมไว้แล้ว   โดย
45,0004,016,อาการที่กรรมนั้นสามารถในอันจะให้ผล.  ก็กรรมเช่นนั้น   ชื่อว่าไม่
45,0004,017,บกพร่องโดยกิจของตน  เพราะเหตุนั้น  พระอรรถกถาจารย์  จึงกล่าวว่า
45,0004,018,""" อันตนให้บริบูรณ์ ""  ดังนี้   การถือเอาคือการลูบคลำด้วยตัณหาและทิฏฐิ"
45,0004,019,ชื่อว่า  สมาทาน  ในบทว่า  <B>สมาทินฺเนน</B>  นี้  ฉะนั้นพระอรรถกถาจารย์
45,0004,020,"จึงกล่าวคำว่า  "" อันตนถือเอาแล้ว  คือลูบคลำแล้ว. ""  ที่ชื่อว่า  ปฏิปทา"
45,0004,021,
45,0004,022,๑.  ป.  สู.   ๓/๖๔๘.