File size: 3,936 Bytes
6bd72a3
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
Book,Page,LineNumber,Text
41,0015,001,"อักขรบท""  ดังนี้  ก็ใช้ได้  เพราะท่านกล่าวไว้ในคัมภีร์สันธิ<SUP>๑</SUP>พาลาตาร"
41,0015,002,"ว่า  ""การนิยมอักษร  พึงชื่อว่าฉันท์,  การนิยมครุและลหุพึงชื่อว่า "
41,0015,003,"พฤทธิ""  และเพราะท่านกล่าวไว้ในฎีกาแห่งสันธิพาลาตาร<SUP>๑</SUP>  นั้นว่า"
41,0015,004,"""การนิยม  คือวิธีวิเศษอันท่านกำหนดด้วยอักษรเหล่านี้  คือ  <B>ย, ร, ต, "
41,0015,005,"ภ, ช, ส, ม, น,</B><SUP>๒</SUP>  กล่าวคือ  <B>ยชมาน</B>  (ผู้บูชายัญ)  <B>รวิ</B>  (พระอาทิตย์)"
41,0015,006,<B>โตย</B>  (น้ำ)  <B>ภูมิ</B>  (แผ่นดิน)  <B>ชลน</B>  (ไฟ)   <B>โสม</B>  (พระจันทร์)
41,0015,007,<B>มารุต</B> (ลม)  <B>นภ</B>  (ฟ้า)  พึงชื่อว่าฉันท์   เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า
41,0015,008,"""ปิดเสียงซึ่งโทษ""  การกำหนดด้วยครุและลหุทั้งหลาย  พึงชื่อว่าพฤทธิ"
41,0015,009,"เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า  ""เป็นเครื่องกล่าว (คาถา).  ก็คณะ ๘ ย่อม"
41,0015,010,ได้ชื่อว่า <B>ย</B>  คณะเป็นต้น  ด้วยสามารถแห่งอักษร ๘  เหล่าใด  อักขระ
41,0015,011,๘  มี <B>ย</B>  อักษรเป็นต้นเหล่านั้นแล  ท่านถือเอาแล้วด้วยศัพท์ว่าอักษร
41,0015,012,ในบทว่า  <B>อกฺขรปทํ</B>  นี้.  ในการนิยม ๒  อย่างนั้น  การนิยมอักษร
41,0015,013,ได้ในวรรณพฤทธิ;  และในวรรณพฤทธิ  นั้น  ม  คณะมีครุ ๓ น  คณะ
41,0015,014,"มีลหุ ๓.  ส่วนการนิยมครุและลหุ  ได้ในมาตราพฤทธิ,  และในมาตรา"
41,0015,015,พฤทธินั้น  ม  คณะมีครุ ๒  น  คณะมีลหุ ๔.  ส่วนคณะที่เหลือในพฤทธิ
41,0015,016,ทั้ง ๒  เป็นเช่นเดียวกันแล.
41,0015,017,[ข้อความเบ็ดเตล็ด]
41,0015,018,"[๑๒]  บทว่า  <B>อชฺฌภาสิ</B>  แปลว่า  ได้กล่าวแล้ว,  ความว่า"
41,0015,019,ทูลถาม.  ส่วนศัพท์ว่า  <B>อธิ </B>นั้น  เป็นเพียงอุปสัค.
41,0015,020,
41,0015,021,๑.  ปกรณ์แรก  เป็นบาลี  ปกรณ์หลัง  เป็นฎีกา  เป็นคัมภีร์ในจำพวกสัททาวิเสส
41,0015,022,๒.  เป็นชื่อคณะฉันท์  ย่อมมาจากศัพท์แสดงเบญจธาตุกับตะวัน  เดือน  พราหมณ์บูชายัญ  ๘
41,0015,023,ด้วยกัน  รวมเรียก  อษฺฏมุรติ  คือ  ๘  รูปกายของพระอิศวร