File size: 6,950 Bytes
9385590 |
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 |
Book,Page,LineNumber,Text
31,0023,001,กัน ... เมื่อละราคะ ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถวิราคานุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละ
31,0023,002,ฆนสัญญา ธรรมทั้งหลายเกิดด้วยสามารถขยานุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ...เมื่อละสมุทัย
31,0023,003,ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถนิโรธานุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละความถือมั่น ธรรม
31,0023,004,ทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถปฏินิสสัคคานุปัสนาย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละอายูหนะ (การทำ
31,0023,005,ความเพียรเพื่อประโยชน์แก่สังขาร) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถวยานุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกัน
31,0023,006,และกัน ...เมื่อละธุวสัญญา (ความสำคัญว่ายั่งยืน) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถวิปริณามานุ
31,0023,007,ปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละนิมิตร ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถอนิมิตตานุปัสนา
31,0023,008,ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละปณิธิ ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถอัปปณิหิตานุปัสนา ย่อมไม่
31,0023,009,ล่วงกันและกัน ... เมื่อละอภินิเวส(ความยึดมั่นว่ามีตัวตน) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถสุญญตา
31,0023,010,นุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละสาราทานาภินิเวส (ความยึดมั่นด้วยการถือว่าเป็นแก่น
31,0023,011,สาร) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถอธิปัญญาธรรมวิปัสนา (ความเห็นแจ้งซึ่งธรรมด้วยปัญญา
31,0023,012,อันยิ่ง) ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละสัมโมหาภินิเวส(ความยึดมั่นด้วยความหลงใหล) ธรรม
31,0023,013,ทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถยถาภูตญาณทัสนะ ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละอาลยาภินิเวส (ความ
31,0023,014,ยึดมั่นด้วยความอาลัย) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถอาทีนวานุปัสนา ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ...
31,0023,015,เมื่อละอัปปฏิสังขา (ความไม่พิจารณา) ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถปฏิสังขานุปัสนา ย่อมไม่
31,0023,016,ล่วงกันและกัน ... เมื่อละสัญโญคาภินิเวส(ความยึดมั่นด้วยกิเลสเครื่องประกอบสัตว์) ธรรมทั้งหลาย
31,0023,017,ที่เกิดด้วยสามารถด้วยวิวัฏฏานุปัสนา (ความตามเห็นกามเป็นเครื่องควรหลีกไป) ย่อมไม่ล่วงกันและ
31,0023,018,กัน ... เมื่อละกิเลสที่ตั้งอยู่รวมกันกับทิฐิ ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถโสดาปัตติมรรค
31,0023,019,ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละกิเลสอย่างหยาบ ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยสามารถสกทาคามิมรรค
31,0023,020,ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละกิเลสอย่างละเอียด ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยความสามารอนาคามิ
31,0023,021,มรรค ย่อมไม่ล่วงกันและกัน ... เมื่อละกิเลสทั้งปวง ธรรมทั้งหลายที่เกิดด้วยความสามารถอรหัตมรรค
31,0023,022,ย่อมไม่ล่วงกันและกัน เพราะฉะนั้น ชื่อว่าภาวนา ด้วยอรรถว่าธรรมทั้งหลายที่เกิดในภาวนานั้น
31,0023,023,ไม่ล่วงกันและกัน ชื่อว่าภาวนา ด้วยอรรถว่าธรรมทั้งหลายที่เกิดในภาวนานั้นไม่ล่วงกันและกัน
31,0023,024,อย่างนี้ ฯ
31,0023,025,[๗๔] ชื่อว่าภาวนา ด้วยอรรถว่าอินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอย่างเดียวกันอย่างไร
31,0023,026,เมื่อพระโยคาวจรละกามฉันทะ อินทรีย์ ๕ มีกิจเป็นอย่างเดียวกันด้วยสามารถ
31,0023,027,เนกขัมมะ เพราะฉะนั้น ชื่อว่าภาวนา ด้วยอรรถว่าอินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอย่างเดียวกัน เมื่อละ
|