|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
34,0030,001,ในกาลจบพระคาถา พระนางดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.
|
|
34,0030,002,"ลำดับนั้น พระศาสดา ตรัสกะพระนางว่า ""เขมา สัตว์"
|
|
34,0030,003,เหล่านี้ เยิ้มอยู่ด้วยราคะ<SUP>๑</SUP> ร้อนอยู่ด้วยโทสะ<SUP>๒</SUP> งงงวยอยู่ด้วยโมหะ
|
|
34,0030,004,จึงไม่อาจเพื่อก้าวล่วงกระแสตัณหาของตนไปได้ ต้องข้องอยู่ในกระแส
|
|
34,0030,005,"ตัณหานั้นนั่นเอง"" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระ"
|
|
34,0030,006,คาถานี้ว่า:-
|
|
34,0030,007,"<B>""สัตว์ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะ ย่อมตกไปสู่กระแส"
|
|
34,0030,008,ตัณหา เหมือนแมลงมุม ตกไปยังใยที่ตัว
|
|
34,0030,009,ทำไว้เองฉะนั้น. ธีรชนทั้งหลาย ตัดกระแส
|
|
34,0030,010,ตัณหาแม้นั้นแล้ว เป็นผู้หมดห่วงใย ละเว้นทุกข์
|
|
34,0030,011,"ทั้งปวงไป.""</B>"
|
|
34,0030,012,[แก้อรรถ]
|
|
34,0030,013,บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า <B>มกฺกฏโกว ชาลํ</B> ความว่า
|
|
34,0030,014,เหมือนอย่างว่า แมลงมุม ทำข่ายคือใยแล้ว ก็นอนอยู่ในศูนย์ไส้
|
|
34,0030,015,ในที่ท่ามกลาง แล้วก็รีบวิ่งไปฆ่าตั๊กแตน หรือตัวแมลง ที่ตกไปใน
|
|
34,0030,016,ริมสายใย สูบกินรสของมันแล้ว ก็กลับมานอนอยู่ในที่นั้นอย่างเดิม
|
|
34,0030,017,ฉันใด; สัตว์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะ โกรธแล้ว
|
|
34,0030,018,"ด้วยโทสะ หลงแล้วด้วยโมหะ, สัตว์เหล่านั้น ย่อมตกไปสู่กระแสตัณหา"
|
|
34,0030,019,ที่ตัวทำไว้เอง คือ เขาไม่อาจเพื่อก้าวล่วงกระแสตัณหานั้นไปได้ ฉันนั้น
|
|
34,0030,020,เหมือนกัน; กระแสตัณหา บุคคลล่วงได้ยากอย่างนี้.
|
|
34,0030,021,
|
|
34,0030,022,๑. ผู้อันราคะย้อมแล้ว ๒. อันโทสะประทุษร้ายแล้ว.
|
|
|