Dataset Viewer
Auto-converted to Parquet
Text
stringlengths
66
3.09k
เมนูอบรมปล่อยแถว การอบรมปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าเวร แต่ต้องดำเนินการอบรมปล่อยแถวตามเวลาผลัดตรวจที่กำหนดไว้ใน Web Police 4.0 ทั้งนี้ การอบรมปล่อยแถวต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด (0-30 นาที ก่อนถึงเวลาผลัดตรวจ) ตัวอย่าง: ผลัดตรวจที่ 1 เวลา 08:00 - 16:00 น. สามารถอบรมปล่อยแถวได้ในช่วงเวลา 07:30 - 08:00 น.
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ไม่มีอยู่ในระบบ Web Police 4.0
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ หมายถึง การตรวจที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย ซึ่งมาจากประเภทสายตรวจที่แตกต่างกัน มาตรวจจุดเดียวกัน วิธีการตรวจ: 1. กำหนดชนิดจุดตรวจที่หน้า Web Police 4.0 ให้เป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" 2. เจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง 2 นาย ต้องลงชื่อเข้าเวรแยกตามประเภทสายตรวจ 3. ทำการตรวจผ่านเมนู Redbox ตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ โดยต้องดำเนินการตรวจพร้อมกันภายในเวลา 5 นาที
เงื่อนไขการตรวจให้ขึ้นในรายงานขับเคลื่อนหน้าที่ของตำแหน่ง ผู้กำกับการ, รองผู้กำกับการ, สารวัตรป้องกันปราบปราม - ตรวจตู้บังคับ เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (ตัวอย่าง: ผกก เลือกรหัส 1) ประเภทการตรวจ: ผู้บังคับบัญชางานป้องกันปราบปราม ตรวจตู้แดงในเขตของสายตรวจหลัก (รถยนต์, รถจักรยานยนต์) จำนวน 7 จุด ครอบคลุมทุกเขต ใช้เวลา 1.30 - 6 ชั่วโมง - ตรวจจุดเสี่ยง เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (ตัวอย่าง: ผกก เลือกรหัส 1) ประเภทการตรวจ: นายตำรวจตรวจท้องที่ ตรวจตู้แดงในเขตพื้นที่ 7 จุด โดยจุดที่ 6 ตรวจหลัง 1.30 ชั่วโมง และจุดที่ 7 ต้องไม่เกิน 6 ชั่วโมง
การตรวจตู้แดง QR-Code การตรวจตู้แดง QR-Code เป็นการตรวจจุดตรวจที่ต้องสร้างจุดตรวจ QR-Code ไว้ใน Web Police 4.0 โดยมีขั้นตอนดังนี้: 1. เข้าไปที่เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ 2. กรอกข้อมูลจุดตรวจและพิกัดของสถานที่ที่จะติดตั้ง QR-Code 3. เมื่อสร้างจุดตรวจเรียบร้อยแล้ว ให้พิมพ์ QR-Code ออกมาเพื่อนำไปติดตั้งยังสถานที่ต่าง ๆ 4. ใช้แอปพลิเคชัน Police 4.0 (เมนู Redbox) ในการออกตรวจและสแกน QR-Code 5. ระบบจะตรวจสอบพิกัด GPS โดยเจ้าหน้าที่ต้องอยู่ไม่ห่างจากจุดตรวจเกิน 100 เมตร 6. เมื่อสแกน QR-Code เสร็จสิ้น ให้กดเข้าไปที่จุดตรวจอีกครั้ง ระบบจะมีเวลานับถอยหลัง 7. เมื่อเวลาครบ ให้กดปุ่ม "ยืนยันจุดตรวจ" ปัญหาที่อาจพบ: -สแกน QR-Code ไม่ได้: ให้ตรวจสอบการพิมพ์ QR-Code หากพื้นที่รอบ ๆ มีโทนสีที่เข้ม อาจทำให้ระบบ Android ไม่สามารถอ่านได้ ให้เข้าไปที่หน้า Web Police 4.0 -> เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ ค้นหาจุดที่สแกนไม่ได้ กดปุ่ม "บันทึก" หนึ่งครั้งเพื่ออัปเดตข้อมูลจุดตรวจ จากนั้นพิมพ์ QR-Code ใหม่และนำไปติดตั้งอีกครั้ง -ยืนยันจุดตรวจไม่ได้ การตรวจตู้แดงจะต้องทำการยืนยันจุดตรวจทุกจุดหากไม่ทำการยืนยันจุดตรวจผลการปฏิบัติของจุดนั้นจะไม่แสดงในรายงาน หากรอจนครบเวลาแล้วขึ้นข้อความว่าหมดเวลายืนยันจุดตรวจ ให้ตรวจสอบที่หน้าลงชื่อเข้าเวรว่าเจ้าหน้าที่ยืนยันจุดตรวจนอกเวลาผลัดตรวจหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่านอกเวลาผลัดตรวจตรวจ ให้ทำการลงชื่อออกเวรแล้วลงชื่อเข้าเวรตามเวลาที่ถูกต้องแล้วสแกนตรวจอีกครั้ง เมื่อรอจนครบเวลาจะมีปุ่มให้กดยืนยันจุดตรวจ อีกกรณีที่ขึ้นหมดเวลายืนยันจุดตรวจ คือ เจ้าหน้าที่ตั้งเวลาผลัดตรวจตรวจใน web police4.0 เป็น 08.00-08.00 เจ้าหน้าที่จะต้องแก้ไขเป็น 08.00-07.59 แทน หลังจากแก้ไขเรียบร้อย ให้ทำการลงชื่อออกเวรแล้วลงชื่อเข้าเวรตามเวลาที่ถูกต้องแล้วสแกนตรวจอีกครั้ง เมื่อรอจนครบเวลาจะมีปุ่มให้กดยืนยันจุดตรวจ -ปัญหา GPS: หากพบว่าพิกัดไม่ตรงกับตำแหน่งปัจจุบัน ให้กดปุ่มสามเหลี่ยมบนแผนที่ 2-3 ครั้งเพื่อดึงพิกัด หากยังไม่ตรงให้ตรวจสอบผ่าน Google Maps หรือปิด-เปิด GPS ใหม่
จุดก้าวสกัดจับ จุดก้าวสกัดจับเป็นประเภทจุดตรวจที่สร้างขึ้นใน Web Police 4.0 1. เข้าไปที่เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ 2. เลือกประเภทจุดตรวจเป็น จุดก้าวสกัดจับ
บุคคลพ้นโทษ การเพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษสามารถดำเนินการได้ผ่านเมนู บุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ ปัญหาที่อาจพบ: 1. ตรวจสอบวันที่พ้นโทษ: หากวันที่พ้นโทษเกิน 1 ปี หรือเป็นวันที่ในอนาคต รายชื่อบุคคลพ้นโทษจะไม่แสดงในรายงานตรวจเยี่ยม 2. ตรวจสอบสถานะการจำหน่าย: หากบุคคลพ้นโทษไม่ได้กลับไปจำคุกหรือไม่ได้เสียชีวิต ไม่ต้องระบุสถานะใด ๆ ในหัวข้อการจำหน่าย 3. ตรวจสอบช่องที่ต้องเลือกข้อมูล: หากกรอกข้อมูลในช่องที่ต้องเลือก (เช่น คำนำหน้า, กลุ่มคดี, ข้อหา) โดยไม่ใช้ตัวเลือกที่ระบบกำหนด ข้อมูลบุคคลพ้นโทษจะไม่ถูกบันทึก
รายงาน อ. รายงานอ. เป็นรายงานที่มีอยู่ในโปรแกรม OBS หลังจากที่พัฒนาให้ใช้งานผ่าน website police4.0 ทางบริษัทจึงไม่ได้นำรายงานอ. มาไว้ใน website เนื่องจากรายงานนี้ยังต้องมีการปรับปรุงอยู่ ในอนาคตหากปรับปรุงและพัฒนาเสร็จจะนำมาไว้บน web police4.0 จากที่จเรใหญ่แจ้งทางบริษัทว่าต้องการตรวจแค่ รายงาน อ. 1 - อ. 3 เราจึงพัฒนาให้สามารถดึงรายงาน อ. 1-อ. 3 บนเว็บได้ แต่รายงาน อ. 4-อ. 13 ระบบเรายังไม่ได้รองรับให้สามารถดึงได้พร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องจากเมื่อก่อนได้มีการปิดรายงานอ. ไปจึงไม่ได้พัฒนาต่อ จึงขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ให้ดึงแค่รายงาน อ. 1-อ. 3 ที่อยู่บนเว็บ police4.0 ครับ หากจเรหน่วยต้องการตรวจรายงาน อ. อื่นๆ สามารถนำข้อความที่ทางบริษัทชี้แจง แจ้งต่อจเรหน่วยได้เลยครับ
เข้าสู่ระบบ application police4.0 การเข้าสู่ระบบ application police4.0 ครั้งแรกหลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อยระบบจะให้กรอก username/password เมื่อกดเข้าสู่ระบบจะให้กรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการรับรหัส OTP หลังจากเข้าไปใช้งานแล้วมีการปัดแอพทิ้ง เมื่อเข้าใช้งานอีกครั้งระบบจะให้ทำการกำหนด PIN Code 6หลัก เมื่อมีการเข้าใช้งานครั้งต่อไประบบจะสามารถใช้งานได้เจ้าหน้าที่ต้องกรอกรหัส PIN Code 6หลัก ที่ได้ทำการตั้งค่าไว้ ปัญหาที่อาจพบ: -ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ ให้แจ้งแอดมินประจำ สภ. เพื่อเข้าตรวจสอบ username/password ที่หน้าเว็บ police4.0 ที่เมนูเจ้าหน้าที่ -เบอร์โทรศัพท์ซ้ำ วิธีการแก้ไข 1. ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ว่าถูกต้องหรือไม่ หากเบอร์โทรศัพท์ถูกต้องแล้วให้ตรวจสอบใน web police 4.0 ว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นใช้เบอร์นี้หรือไม่ 2. หากตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แล้ว พบว่า เบอร์โทรศัพท์ไม่ถูกต้อง ให้ทำการแก้ไขเบอร์โทรศัพท์แล้วลองเข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้งหรือตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นใช้งานเบอร์โทรศัพท์อยู่ให้ทำการแก้ไขที่หน้า web police4.0ให้ถูกต้อง -ไม่ได้รับOTP ไม่ได้รับรหัส OTP วิธีแก้ไขมี2วิธี 1. ตรวจสอบเบอร์โทรศัพทฺ์ที่แสดงอยู่ที่หน้าจอ หากถูกต้องแล้ว ให้รอ5นาที จากนั้นกดขอรหัส otp อีกครั้ง 2. หากตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่แสดงอยู่ที่หน้าจอแล้วพบว่าเบอร์ผิดให้กดปุ่ม "เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์" แล้วทำการกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกต้องอีกครั้ง -จำรหัสPINไม่ได้ หากจำรหัส PIN ไม่ได้ วิธีการแก้ไขคือ ให้เจ้าหน้าที่ทำการกดปุ่ม "ลืมรหัส PIN" ด้านล่างแล้วทำการกรอก "รหัสผ่าน" สำหรับเข้าใช้งาน application police4.0 หลังจากนั้นระบบจะให้เจ้าหน้าที่ทำการกำหนด PIN ใหม่อีกครั้ง
ลงชื่อเข้าเวร การลงชื่อเข้าเวรในแอปพลิเคชัน Police 4.0 สามารถดำเนินการได้โดยการเข้าไปที่เมนู "ลงชื่อเข้าเวร" ระบบจะบังคับให้กรอกข้อมูลดังต่อไปนี้: 1. วันที่: ระบบจะตั้งค่าเป็นวันที่ปัจจุบันโดยอัตโนมัติ 2. รหัสสายตรวจ 3. ผลัดตรวจ 4. ประเภทการตรวจ: ระบบจะแสดงข้อมูลตามประเภทงานที่ได้มีการตั้งค่าไว้ใน Web Police 4.0 วิธีการกำหนดประเภทงานให้ถูกต้อง: 1. ประเภทงาน สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์: ประเภทสายตรวจที่สามารถเลือกประเภทงานนี้ได้ต้องเป็นประเภท "สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์" เท่านั้น หากมีการตั้งค่าแยกเป็น สายตรวจรถยนต์ 1 สาย, สายตรวจรถจักรยานยนต์ 1 สาย, ร้อยเวร 20 1 สาย ควรรวมรหัสทั้งหมดไว้ในประเภทเดียว และตั้งชื่อประเภทเป็น "สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์" ประเภทที่ไม่ได้ใช้งานให้ระบุคำว่า "(เก่า)" ต่อท้ายรหัส เช่น "121(เก่า)" ประเภทการตรวจที่จะแสดงข้อมูล: "สายตรวจ" 2. ประเภทงาน นายตำรวจตรวจท้องที่: ประเภทสายตรวจที่สามารถเลือกประเภทงานนี้ได้ ต้องเป็นประเภท "ผู้บังคับบัญชา" เท่านั้น รวมรหัสของ ผู้กำกับการ (ผกก. ), รองผู้กำกับการ (รอง ผกก. ), สารวัตรป้องกันปราบปราม (สวป. ) ไว้ในประเภทเดียวกัน และตั้งชื่อประเภทสายตรวจว่า "ผู้บังคับบัญชา" ตัวอย่าง: -เดิม: ผู้กำกับการ 1 สาย, รองผู้กำกับการ 1 สาย, สารวัตรป้องกันปราบปราม 1 สาย -ปรับใหม่: รวมรหัสทั้งหมดไว้ในประเภทเดียว และตั้งชื่อเป็น "ผู้บังคับบัญชา" -สำหรับประเภทสายตรวจที่ไม่ได้ใช้งาน ให้ระบุคำว่า "(เก่า)" ต่อท้ายรหัส เช่น "1(เก่า)" ปัญหาที่อาจพบและแนวทางแก้ไข: 1. ไม่สามารถลงชื่อเข้าเวรได้: -หากหลังจากลงชื่อเข้าเวรแล้วระบบแสดงอาการหมุนค้าง ให้กดย้อนกลับไปที่เมนู "ฉัน" แล้วเลือก "อัปเดตข้อมูล" -หากยังใช้งานไม่ได้ ให้ตรวจสอบที่ Web Police 4.0 โดยไปที่เมนู สายตรวจ → ประเภทสายตรวจ ตรวจสอบว่าผลัดตรวจหมดอายุหรือไม่ หากหมดอายุให้ทำการแก้ไขแล้วลองลงชื่อเข้าเวรใหม่อีกครั้ง -หากยังไม่สามารถลงชื่อเข้าเวรได้อีกให้ตรวจสอบที่ประเภทงาน เข้าไปที่ web police4.0 แล้วไปที่เมนู สายตรวจ->ประเภทสายตรวจ จากนั้นเลือกประเภทสายตรวจที่เจ้าหน้าที่ลงชื่อเข้าเวรแล้วมีอาการหมุน เมื่อกดเข้าไปจะมีหัวข้อประเภทงาน หากเจ้าหน้าที่เพิ่มประเภทสายตรวจผ่านโปรแกรม OBS ในช่องประเภทงานจะเป็นค่าว่าง ให้ทำการเพิ่มประเภทงานให้ถูกต้อง 2. ปัญหาคู่ตรวจ: ใน 1 คู่ตรวจสามารถลงชื่อเข้าเวรได้เพียง 1 คน หากระบบแจ้งว่า "คุณเป็นคู่ตรวจกับ..." ให้คู่ตรวจอีกฝ่ายลงชื่อออกเวรก่อน เจ้าหน้าที่จึงจะสามารถลงชื่อเข้าเวรได้ 3. ปัญหาการลงชื่อคู่ตรวจพร้อมกัน: หากเจ้าหน้าที่ทั้งสองพยายามลงชื่อเข้าเวรพร้อมกัน ระบบจะไม่สามารถระบุได้ว่าใครลงชื่อก่อน ตอนลงชื่อออกจากเวร เจ้าหน้าที่ทั้งสองจะไม่สามารถลงชื่อออกได้ จำเป็นต้องติดต่อแอดมินบริษัทเพื่อแก้ไขระบบ 4. ข้อความแจ้ง "NULL NULL" ขณะลงชื่อเข้าเวร: ข้อความนี้เกิดจากการลบข้อมูลคู่ตรวจออกจากระบบ ให้แจ้งแอดมินบริษัทเพื่อดำเนินการแก้ไขในระบบ 5. ไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก: ชื่อคู่ตรวจจะแสดงเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ลงชื่อเข้าเวรและยังไม่ถูกเลือกเป็นคู่ตรวจโดยเจ้าหน้าที่คนอื่น 6. ข้อมูลในแอปพลิเคชัน Police 4.0 ไม่ครบถ้วน: อาจเกิดจากข้อมูลในแอปพลิเคชันยังไม่อัปเดต หรือมีการเพิ่มข้อมูลใหม่ใน Web Police 4.0 ให้เข้าไปที่เมนู "ฉัน" แล้วกด "อัปเดตข้อมูล" 7. แจ้งเตือนผลการปฏิบัติไม่ครบตามเงื่อนไขขณะลงชื่อออกเวร: การตรวจของผู้บังคับบัญชาหรือนายตำรวจจะมีการบันทึกผลการตรวจลงในแคชของระบบ หากข้อมูลบางส่วนไม่บันทึกสำเร็จ แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าการตรวจครบถ้วน ระบบจะคำนวณผลการปฏิบัติงานให้อีกครั้งในตอนออกรายงาน
เมนู Strong Together เมนูนี้เป็นเมนูที่จัดทำขึ้นตามคำร้องขอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) เพื่อนำมาใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Police 4.0 ทั้งนี้ ทางบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูนี้
ออกจากระบบ แอปพลิเคชัน Police 4.0 ไม่สามารถออกจากระบบได้ เนื่องจากการออกแบบตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) ซึ่งกำหนดให้ โทรศัพท์ 1 เครื่อง สามารถล็อกอินได้เพียง 1 ผู้ใช้งาน (User) เท่านั้น หากเจ้าหน้าที่มีการเข้าสู่ระบบผิดuser ให้ทำการลบapplicationแล้วติดตั้งใหม่ หากยังไม่สามารถออกจากระบบได้ให้แก้ไขตามวิธีต่อไปนี้ ขั้นตอนแก้ไขปัญหาสำหรับระบบ Android: 1. เข้าไปที่ "การตั้งค่า" (Settings) บนโทรศัพท์มือถือ 2. เลือก "การจัดการแอปพลิเคชัน" (App Management) 3. เลื่อนหาแอปพลิเคชัน Police 4.0 4. ไปที่ "จัดการข้อมูล" (Manage Data) 5. กด "ลบแคช" (Clear Cache) และ "ลบข้อมูล" (Clear Data) 6. เปิดแอปพลิเคชัน Police 4.0 อีกครั้ง และดำเนินการล็อกอินใหม่
โปรแกรม OBS โปรแกรม OBS เป็นโปรแกรมที่ต้องติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) ทางบริษัทได้พัฒนาเว็บไซต์ Police 4.0 ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ทางบริษัทได้ยุติการพัฒนาโปรแกรม OBS อย่างเป็นทางการ ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ต้องการ เพิ่ม/แก้ไขข้อมูลต่าง ๆ กรุณาดำเนินการผ่านเว็บไซต์ Police 4.0 แทน เนื่องจากการใช้งานโปรแกรม OBS อาจทำให้ข้อมูลบางส่วนไม่ถูกต้องหรือไม่อัปเดตตามระบบปัจจุบัน
แอปพลิเคชัน Police 4.0 ล่ม หากพบปัญหา การเชื่อมต่อล้มเหลว ในการใช้งานแอปพลิเคชัน Police 4.0 ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้: 1. ตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต: ตรวจสอบว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ 2. ปิดและเปิดแอปพลิเคชันใหม่: หากอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ตามปกติ ให้ปิดแอปพลิเคชัน Police 4.0 แล้วเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง 3. ติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่: หากปิดและเปิดใหม่แล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้ดำเนินการลบแอปพลิเคชันออกจากอุปกรณ์ ติดตั้งแอปพลิเคชัน Police 4.0 ใหม่อีกครั้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แจ้งผู้ดูแลระบบ (Admin): 4. หากดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้แจ้งแอดมินบริษัทเพื่อตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม
เว็บไซต์ Police 4.0 ล่ม หากพบปัญหาในการใช้งานเว็บไซต์ Police 4.0 ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. หากหน้าจอแสดงข้อความ "200 OK": ให้เจ้าหน้าที่แจ้งแอดมินประจำสถานีตำรวจ (สภ. ) เพื่อตรวจสอบปัญหาและดำเนินการแก้ไข 2. หากหน้าจอแสดงข้อความ "Session not found" (NsRx1FJc8q11026D805): ให้เจ้าหน้าที่กดปุ่ม "Restart Dashboard" เพื่อรีเซ็ตการทำงานของระบบ 3. หากหน้าเว็บแสดงอาการโหลดหมุนตลอดเวลา: ตรวจสอบสัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ หากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตปกติ แต่ยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ให้ลองเปลี่ยนการเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย Wi-Fi อื่นและเข้าใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง
ตรวจเยี่ยมประชาชน เมนูนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับ การตรวจเยี่ยมประชาชน และ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Police 4.0 ในเมนู "ตรวจเยี่ยมประชาชน" ทั้งนี้ เพื่อให้การตรวจเยี่ยมเป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ต้อง ลงชื่อเข้าเวรให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ก่อนดำเนินการตรวจเยี่ยมประชาชน ปัญหาที่อาจพบและแนวทางแก้ไข: 1. ข้อมูลในรายงานกับหน้าเว็บไม่ตรงกัน: บนหน้าเว็บจะแสดงผลการตรวจเยี่ยมประชาชนในเดือนนั้น ๆ ทั้งหมด โดยไม่คำนึงว่าเจ้าหน้าที่จะลงชื่อเข้าเวรไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ในรายงานจะแสดงเฉพาะผลการตรวจเยี่ยมประชาชนของเจ้าหน้าที่ที่ ลงชื่อเข้าเวรในเดือนที่มีการออกรายงานเท่านั้น 2. บันทึกข้อมูลเลขบัตรประชาชนซ้ำกัน: หากเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลการตรวจเยี่ยมประชาชนโดยใช้ เลขบัตรประชาชนซ้ำกัน ระบบจะนับข้อมูลนั้นเป็น 1 คน เท่านั้น
อบรมปล่อยแถวไม่ได้ สาเหตุที่เป็นไปได้ การอบรบปล่อยแถวต้องอบรมปล่อยแถวตามเวลาผลัดตรวจที่ได้มีการตั้งค่าไว้ใน web police4.0และ การอบรมปล่อยแถวต้องดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด (0-30 นาที ก่อนถึงเวลาผลัด) ยกตัวอย่าง ผลัดตรวจที่ 1 เวลา 08:00 - 16:00 จะอบรมปล่อยแถวได้ตอน 07:30 - 08:00
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 สาเหตุที่เป็นไปได้ แผนการตรวจป. 4 ตย.2ไม่มีในระบบ police4.0
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ ให้ทำการตั้งค่าชนิดจุดตรวจที่หน้า web police4.0 เป็นจุดตรวจสัมพันธ์ ตอนออกตรวจสัมพันธ์ ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย ลงชื่อเข้าเวรคนละประเภทสายตรวจ และทำการตรวจโดยใช้เมนู Redbox ตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ โดยต้องตรวจพร้อมกันในระยะเวลา 5 นาที
เงื่อนไขการตรวจให้ขึ้นในรายงานขับเคลื่อนหน้าที่ของตำแหน่ง ผู้กำกับการ , รองผู้กำกับการ , สารวัตรป้องกันปราบปราม วิธีการตรวจเลือกรหัสสายตรวจที่อยู่ในประเภท นายตำรวจตรวจท้องที่ -ตรวจตู้บังคับ ยกตัวอย่าง ผกก เลือกรหัส 1 เลือกประเภทการตรวจเป็น ผู้บังคับบัญชางานป. ออกตรวจตู้แดงในเขตของ สายตรวจหลักรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 7จุดครอบคลุมทุกเขต ใช้เวลา1.30-6ชม. -ตรวจจุดเสี่ยง ยกตัวอย่าง ผกก เลือกรหัส 1 เลือกประเภทการตรวจเป็น นายตำรวจตรวจท้องที่ ออกตรวจตู้แดงในเขตของ นายตำรวจตรวจท้องที่ตรวจ 7 จุด จุดที่6ตรวจหลัง1.30+จุดที่7 แต่ไม่เกิน6ชม.
เกี่ยวกับ QR-Code สาเหตุที่เป็นไปได้ -ตรวจสอบการปริ้น QR-CODE หากสีรอบๆ QR-CODE มีโทนสีที่เข้ม อาจจะทำให้ระบบ Android ไม่สามารถอ่าน QR-CODE ได้ -ให้เข้าไปที่หน้า web police4.0 แล้วไปที่เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ แล้วไปที่จุดตรวจที่ไม่สามารถสแกนได้ ให้ทำการกดปุ่มบันทึก1ครั้งเพื่อเป็นการอัพเดตข้อมูลจุดตรวจ จากนั้นปริ้น qr-code ใหม่เพื่อนำไปติดตั้ง
จุดก้าวสกัดจับ ให้ทำการตั้งค่าประเภทจุดตรวจที่หน้า web police4.0 แล้วไปที่เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ ให้เลือกประเภทจุดตรวจเป็นจุดก้าวสกัดจับ
บุคคลพ้นโทษ -เช็คข้อมูลวันที่พ้นโทษหากวันที่พ้นโทษเกิน1ปีหรือกรอกวันที่ในอนาคตจะไม่แสดงรายชื่อให้ตรวจเยี่ยม -เช็คสถานะการจำหน่ายหากบุคคลพ้นโทษนั้นไม่ได้กลับไปจำคุกหรือไม่ได้เสียชีวิตไม่ต้องเลือกอะไรในหัวข้อการจำหน่าย -เช็คช่องที่ให้เลือกข้อมูล ได้กรอกข้อมูลเองไหม หากกรอกข้อมูลเข้าไปเองในช่องที่ต้องเลือกข้อมูลข้อมูลบุคคลพ้นโทษจะไม่ถูกบันทึก เช่น ช่องคำนำหน้า , ช่องกลุ่มคดี , ช่องข้อหา
รายงาน อ. ขอชี้แจงเพิ่มเติมครับ จากที่จเรใหญ่แจ้งทางบริษัทว่าต้องการตรวจแค่ รายงาน อ. 1 - อ. 3 เราจึงพัฒนาให้สามารถดึงรายงาน อ. 1-อ. 3 บนเว็บได้ แต่รายงาน อ. 4-อ. 13 ระบบเรายังไม่ได้รองรับให้สามารถดึงได้พร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องจากเมื่อก่อนได้มีการปิดรายงานอ. ไปจึงไม่ได้พัฒนาต่อ จึงขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ให้ดึงแค่รายงาน อ. 1-อ. 3 ที่อยู่บนเว็บ police4.0 ครับ หากจเรหน่วยต้องการตรวจรายงาน อ. อื่นๆ สามารถนำข้อความที่ทางบริษัทชี้แจง แจ้งต่อจเรหน่วยได้เลยครับ
เบอร์โทรศัพท์ วิธีการแก้ไข คือ 1. ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ว่าถูกต้องหรือไม่ หากเบอร์โทรศัพท์ถูกต้องแล้วให้ตรวจสอบใน web police 4.0 ว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นใช้เบอร์นี้หรือไม่ 2. หากตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์แล้ว พบว่า เบอร์โทรศัพท์ไม่ถูกต้อง ให้ทำการแก้ไขเบอร์โทรศัพท์แล้วลองเข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง หรือตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ใช้งานเบอร์โทรศัพท์อยู่ให้ทำการแก้ไขที่หน้า web police4.0ให้ถูกต้อง
เข้าสู่ระบบ application police4.0 หากไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ให้แจ้งแอดมินประจำ สภ. เพื่อเข้าตรวจสอบ username/password ที่หน้าเว็บ police4.0 ที่เมนูเจ้าหน้าที่
OTP หากไม่ได้รับรหัส OTP วิธีแก้ไขมี2วิธี 1. ตรวจสอบเบอร์ที่แสดงอยู่ที่หน้าจอ หากถูกต้องแล้ว ให้รอ5นาที จากนั้นกดขอรหัส otp อีกครั้ง 2. หากตรวจสอบเบอร์ที่แสดงอยู่ที่หน้าจอแล้วพบว่าเบอร์ผิดให้กดปุ่ม "เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์"
PIN หากจำรหัส PIN ไม่ได้ วิธีการแก้ไขคือ ให้เจ้าหน้าที่ทำการกดปุ่ม "ลืมรหัส PIN" ด้านล่างแล้วทำการกรอก "รหัสผ่าน" สำหรับเข้าใช้งาน application police4.0 หลังจากนั้นระบบจะให้เจ้าหน้าที่ทำการกำหนด PIN ใหม่อีกครั้ง
ลงชื่อเข้าเวร หากไม่สามารถลงชื่อเข้าเวรได้ ลงชื่อเข้าเวรแล้วหมุนให้ทำการกดย้อนกลับแล้วไปที่เมนู "ฉัน" แล้วทำการกดอัพเดตข้อมูลอหากกดอัพเดตแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ให้เข้าไปที่ web police4.0 แล้วไปที่เมนู สายตรวจ->ประเภทสายตรวจ จากนั้นเข้าเช็คประเภทสายตรวจที่ลงชื่อเข้าเวรตรวจสอบที่ผลัดตรวจว่าหมดอายุหรือไม่ หากพบเจอว่าหมดอายุให้ทำการแก้ไขแล้วลงชื่อเข้าเวรอีกครั้ง
คู่ตรวจ -ใน1คู่ตรวจสามารถลงชื่อเข้าเวรได้แค่1คน หากเจ้าหน้าที่ลงชื่อเข้าเวรแล้วขึ้นว่า ไม่สามารถลงชื่อเข้าเวรได้เนื่องจากคุณเป็นคู่ตรวจกับ ... หากเจ้าหน้าที่ต้องการลงชื่อเข้าเวรให้เจ้าหน้าที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ตรวจกับ... ลงชื่อออกเวรก่อนเจ้าหน้าที่จึงจะลงชื่อเข้าเวรได้ -อีกกรณีหากเจ้าหน้าที่รอลงชื่อเข้าเวรพร้อมกันแล้วผลัดกันเลือกชื่อคู่ตรวจระบบจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเจ้าหน้าที่ท่านใดลงชื่อเข้าเวรก่อน ตอนลงชื่อออกจากเวร เจ้าหน้าที่ทั้ง2จะไม่สามารถลงชื่อออกจากเวรได้ต้องติดต่อแอดมินบริษัทเพื่อทำการแก้ไขระบบ -หากเจ้าหน้าที่พบข้อความว่า ไม่สามารถลงชื่อเข้าเวรได้เนื่องจากคุณเป็นคู่ตรวจกับ NULL NULL แสดงว่าเจ้าหน้าที่มีการลบข้อมูลเจ้าหน้าที่อีกคนออกจากระบบให้ทำการแจ้งแอดมินบริษัทเพื่อดำเนินการแก้ไขในระบบ -หากเจ้าหน้าที่ลงชื่อเข้าเวรแล้วไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ชื่อคู่ตรวจที่แสดงจะเป็นรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าเวรและไม่ถูกเจ้าหน้าที่ท่านอื่นเลือกเป็นคู่ตรวจ
ข้อมูลใน application police4.0 ไม่ครบถ้วน อาจเกิดจากข้อมูลใน application police4.0 ยังไม่อัพเดต ให้เข้าไปที่เมนู "ฉัน" แล้วทำการกดอัพเดตข้อมูล
strong together เมนูนี้เป็นเมนูของทางตร. ที่มาขอแปะไว้ใน Application poliec4.0 ทางเราจึงไม่มีข้อมูลในส่วนนี้
ออกจากระบบ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนว่า ตามนโยบายของทางตร. คือ โทรศัพท์ 1 เครื่อง สามารถ login ได้แค่ 1 User จึงไม่สามารถออกจากระบบได้ หากเจ้าหน้าที่มีการเข้ารหัสผิด ให้ทำการลบติดตั้งใหม่ หากยังไม่สามารถใช้งานได้ -ระบบ android ให้เข้าไปที่การตั้งค่าของโทรศัพท์มือถือ->แล้วไปที่การจัดการแอพ->เลื่อนหา application police4.0->ไปที่การจัดการข้อมูล ให้ทำการกดลบแคช และลบข้อมูล จากนั้นเข้าใช้งาน application police4.0 ใหม่อีกครั้ง
ยืนยันจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ต้องทำการยืนยันจุดตรวจทุกจุดหากไม่ทำการยืนยันจุดตรวจผลการปฏิบัติของจุดนั้นจะไม่แสดงในรายงาน วิธีการยืนยันจุดตรวจ หลังจากสแกน QR-Code ตรวจจุดตรวจที่เมนู Redbox บันทึกเรียบร้อยให้กดเข้าไปที่จุดที่สแกน จะมีเวลานับถอยหลัง หลังจากรอเวลาจะมีปุ่มให้กดยืนยันจุดตรวจ -หมายเหตุ หากรอจนครบเวลาแล้วขึ้นข้อความว่าหมดเวลายืนยันจุดตรวจ ให้ตรวจสอบที่หน้าลงชื่อเข้าเวรว่าเจ้าหน้าที่ยืนยันจุดตรวจนอกเาลาผลัดหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่านอกเวลาผลัดตรวจ ให้ทำการลงชื่อออกเวรแล้วลงชื่อเข้าเวรตามเวลาที่ถูกต้องแล้วสแกนตรวจอีกครั้ง เมื่อรอจนครบเวลาจะมีปุ่มให้กดยืนยันจุดตรวจ อีกกรณีที่ขึ้นหมดเวลายืนยันจุดตรวจ คือ เจ้าหน้าที่ตั้งเวลาผลัดตรวจใน web police4.0 เป็น 08.00-08.00 เจ้าหน้าที่จะต้องแก้ไขเป็น 08.00-07.59 แทน หลังจากแก้ไขเรียบร้อย ให้ทำการลงชื่อออกเวรแล้วลงชื่อเข้าเวรตามเวลาที่ถูกต้องแล้วสแกนตรวจอีกครั้ง เมื่อรอจนครบเวลาจะมีปุ่มให้กดยืนยันจุดตรวจ
โปรแกรม OBS ขอแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หากต้องการ เพิ่ม / แก้ไข ข้อมูลต่าง ๆ รบกวนเจ้าหน้าที่ใช้งานผ่านทางเว็บ police 4.0 แทน เนื่องจากทางบริษัทได้หยุดพัฒนาโปรแกรม OBS ไปแล้ว หากเจ้าหน้าที่ยังใช้งานโปรแกรม OBS อยูาอาจจะทำให้ข้อมูลบางส่วนไม่ถูกต้อง
application police4.0 ล่ม หากพบปัญหาการเชื่อมต่อล้มเหลว ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก่อนว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ หากใช้งานได้ปกติ ให้ลองปิดแอปพลิเคชันแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง หากไม่หายให้เจ้าหน้าที่ลองลบแอปพลิเคชันแล้วติดตั้งใหม่อีกครั้ง หากยังไม่สามารถใช้งานได้ให้ทำการแจ้งแอดมินบริษัทเพื่อเข้าตรวจสอบ
web police4.0 ล่ม -หากเจ้าหน้าที่เห็นหน้าจอใน web police4.0 แจ้งว่า200ok ให้เจ้าหน้าที่แจ้งแอดมินประจำ สภ. เพื่อเข้าตรวจสอบ -หากเจอข้อความว่า ไม่พบ Sesion (Session not found: NsRx1FJc8q11026D805 ) ให้กดปุ่ม Restart Dashboard -หากเข้า web police4.0 แล้วหมุน ให้ทำการตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ หากใช้งานได้ปกติแล้วยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้เจ้าหน้าที่ลองเปลี่ยนไวไฟแล้วลองเข้าใช้งานดูอีกครั้ง
GPS หากเจ้าหน้าที่สแกนจุดตรวจแล้วพิกัดไม่ตรงกับตำแหน่งปัจจุบันของเจ้าหน้าที่หรือเจอข้อความว่า ไม่สามารถสแกน QR-Code ได้ เนื่องจากคุณอยู่ห่างจากจุดตรวจให้เจ้าหน้าที่กดปุ่มสามเหลี่ยมในแผนที่2-3ครั้งเพื่อดึงพิกัดมาตำแหน่งปัจจุบันหากพิกัดยังไม่ตรง ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิกัดใน application googlemap ว่าพิกัดอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันหรือยังหากไม่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันให้ทำการปิด-เปิด GPS ใหม่อีกครั้ง
ลงชื่อออกเวรขึ้นแจ้งเตือนผลการปฏิบัติไม่ครบตามเงื่อนไข การตรวจของผู้บังคับบัญชาหรือนายตำรวจ จะมีการเก็บผลการตรวจลงในแคช อาจจะมีบางจังหวะข้อมูลบันทึกลงในแคชไม่สำเร็จ หากเจ้าหน้าที่มั่นใจแล้วว่าตรวจครบถ้วนถูกต้อง ไม่ต้องกังวล ตอนที่ออกรายงานระบบจะคำนวนผลการปฏิบัติงานให้อีกครั้ง
ตรวจเยี่ยมประชาชน หลักๆมี2กรณี 1. ในเว็บจะแสดงผลการตรวจเยี่ยมประชาชนในเดือนนั้นๆทั้งหมด ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะลงชื่อเข้าเวรค้างไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในรายงานจะแสดงผลการตรวจเยี่ยมประชาชนเฉพาะของเจ้าหน้าที่ ที่ลงชื่อเข้าเวรในเดือนที่ออกรายงานเท่านั้น 2. หากเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมประชาชนแล้วบันทึกข้อมูลเลขบัตรประชาชนซ้ำกัน ระบบจะนับรวมกันเป็น1คน
เมนูอบรมปล่อยแถว การอบรมปล่อยแถวกำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมอบรมก่อนเริ่มผลัดตรวจโดยไม่ต้องลงชื่อเข้าเวร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอบรมปล่อยแถวภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอยู่ในช่วง 0-30 นาทีก่อนเริ่มผลัดตรวจตามเวลาที่ระบุใน Web Police 4.0 ตัวอย่าง: สำหรับผลัดตรวจที่ 1 (08:00 - 16:00 น. ) สามารถเข้ารับการอบรมปล่อยแถวได้ระหว่าง 07:30 - 08:00 น.
เมนูอบรมปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมอบรมปล่อยแถว ไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าเวร แต่ต้องเข้ารับการอบรมภายใน 30 นาทีก่อนถึงเวลาผลัดตรวจตามที่กำหนดใน Web Police 4.0 ตัวอย่าง: หากผลัดตรวจเริ่ม 08:00 - 16:00 น. ต้องเข้ารับการอบรมปล่อยแถวระหว่าง 07:30 - 08:00 น.
เมนูอบรมปล่อยแถว เมนูอบรมปล่อยแถวกำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต้องเข้าร่วมการอบรมก่อนเริ่มงาน โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าเวร เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามเวลาที่กำหนดใน Web Police 4.0 ซึ่งช่วงเวลาการอบรมจะอยู่ภายใน 30 นาทีก่อนเริ่มผลัดตรวจ ตัวอย่าง: หากเวลาผลัดตรวจคือ 08:00 - 16:00 น. เจ้าหน้าที่สามารถเข้ารับการอบรมปล่อยแถวได้ระหว่าง 07:30 - 08:00 น.
เมนูอบรมปล่อยแถว การอบรมปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่ต้องลงชื่อเข้าเวร แต่ต้องเข้าร่วมการอบรมตามเวลาที่กำหนดใน Web Police 4.0 ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 30 นาทีก่อนถึงเวลาผลัดตรวจ ตัวอย่าง: หากผลัดตรวจเริ่มเวลา 08:00 - 16:00 น. การอบรมปล่อยแถวจะต้องดำเนินการระหว่าง 07:30 - 08:00 น.
เมนูอบรมปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้าร่วมอบรมปล่อยแถวไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าเวร แต่ต้องเข้าอบรมก่อนเริ่มผลัดตรวจ โดยต้องทำภายใน 30 นาทีก่อนเวลาผลัดตรวจที่กำหนดใน Web Police 4.0 ตัวอย่าง: ถ้าผลัดตรวจเริ่ม 08:00 - 16:00 น. สามารถอบรมปล่อยแถวได้ระหว่าง 07:30 - 08:00 น.
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ไม่ปรากฏอยู่ในระบบ Web Police 4.0
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ระบบ Web Police 4.0 ไม่มีแผนการตรวจ ป. 4 ตย.2
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ไม่พบแผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ในระบบ Web Police 4.0
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในระบบ Web Police 4.0
แผนการตรวจ ป. 4 ตย.2 ในระบบ Web Police 4.0 ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแผนการตรวจ ป. 4 ตย.2
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ หมายถึงการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย ซึ่งมาจากสายตรวจประเภทต่างกัน เพื่อตรวจสอบจุดเดียวกัน ขั้นตอนการตรวจ: 1. กำหนดชนิดของจุดตรวจใน Web Police 4.0 เป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" 2. เจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งสองต้องลงชื่อเข้าเวรตามประเภทของตน 3. ทำการตรวจผ่านเมนู Redbox ภายใต้หมวด "ตรวจจุดตรวจสัมพันธ์" โดยต้องดำเนินการตรวจพร้อมกันภายใน 5 นาที
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ คือการที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย จากสายตรวจประเภทต่างกัน มาทำการตรวจจุดเดียวกัน วิธีการตรวจ: 1. ตั้งค่าจุดตรวจใน Web Police 4.0 เป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" 2. เจ้าหน้าที่แต่ละนายลงชื่อเข้าเวรแยกกันตามประเภทสายตรวจ 3. ตรวจจุดร่วมกันผ่านเมนู Redbox ภายในเวลา 5 นาที
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ คือกระบวนการตรวจจุดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย จากสายตรวจประเภทต่างกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. ตั้งค่าประเภทจุดตรวจเป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" ใน Web Police 4.0 2. เจ้าหน้าที่ทั้งสองต้องลงชื่อเข้าเวรตามประเภทสายตรวจของตน 3. ดำเนินการตรวจร่วมกันผ่านเมนู Redbox และต้องเสร็จสิ้นภายใน 5 นาที
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ หมายถึงการที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย จากหน่วยงานต่างประเภทมาตรวจที่จุดเดียวกัน ขั้นตอนการตรวจ: 1. ตั้งค่าจุดตรวจใน Web Police 4.0 เป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" 2. เจ้าหน้าที่แต่ละคนต้องลงชื่อเข้าเวรตามสายตรวจของตน 3. ตรวจผ่านเมนู Redbox พร้อมกัน และต้องเสร็จภายใน 5 นาที
การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ การตรวจจุดตรวจสัมพันธ์ เป็นการตรวจที่ต้องมีเจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 นาย จากประเภทสายตรวจต่างกัน มาตรวจที่จุดเดียวกัน วิธีดำเนินการ: 1. ตั้งค่าจุดตรวจให้เป็น "จุดตรวจสัมพันธ์" ใน Web Police 4.0 2. เจ้าหน้าที่ทั้งสองต้องลงชื่อเข้าเวรแยกกันตามประเภทสายตรวจ 3. ตรวจผ่านเมนู Redbox โดยต้องทำพร้อมกันและให้เสร็จภายใน 5 นาที
เงื่อนไขการตรวจให้ขึ้นในรายงานขับเคลื่อนหน้าที่ของตำแหน่ง ผู้กำกับการ, รองผู้กำกับการ, สารวัตรป้องกันปราบปราม - การตรวจตู้บังคับ 1. เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (เช่น ผู้กำกับการเลือกใช้รหัส 1) 2. ประเภทการตรวจ: ผู้บังคับบัญชางานป้องกันปราบปราม 3. ตรวจตู้แดงในเขตของสายตรวจหลัก ครอบคลุมทั้ง 7 จุด (สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์) 4. ใช้เวลาตรวจระหว่าง 1.30 - 6 ชั่วโมง - การตรวจจุดเสี่ยง 1. เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (เช่น ผู้กำกับการเลือกใช้รหัส 1) 2. ประเภทการตรวจ: นายตำรวจตรวจท้องที่ 3. ตรวจตู้แดง 7 จุดในพื้นที่ที่กำหนด 4. จุดที่ 6 ต้องตรวจหลังจากเริ่มตรวจ 1.30 ชั่วโมง และจุดที่ 7 ต้องตรวจภายในเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมง
เงื่อนไขการตรวจให้ขึ้นในรายงานขับเคลื่อนหน้าที่ของตำแหน่ง ผู้กำกับการ, รองผู้กำกับการ, สารวัตรป้องกันปราบปราม - การตรวจตู้บังคับ 1. เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (ตัวอย่าง: ผกก ใช้รหัส 1) 2. ระบุประเภทการตรวจเป็น "ผู้บังคับบัญชางานป้องกันปราบปราม" 3. ตรวจตู้แดงในเขตสายตรวจหลักให้ครบ 7 จุด ครอบคลุมทุกเขต (รถยนต์และรถจักรยานยนต์) 4. ต้องดำเนินการตรวจภายในช่วงเวลา 1.30 - 6 ชั่วโมง - การตรวจจุดเสี่ยง 1. เลือกรหัสสายตรวจที่กำหนด (ตัวอย่าง: ผกก ใช้รหัส 1) 2. ระบุประเภทการตรวจเป็น "นายตำรวจตรวจท้องที่" 3. ตรวจตู้แดงในพื้นที่ที่กำหนด รวม 7 จุด 4. จุดที่ 6 ต้องทำการตรวจหลังจาก 1.30 ชั่วโมงแรก และจุดที่ 7 ต้องไม่เกิน 6 ชั่วโมง
การตรวจตู้แดง QR-Code การตรวจตู้แดงด้วย QR-Code เป็นกระบวนการตรวจสอบจุดตรวจที่ต้องสร้าง QR-Code ล่วงหน้าในระบบ Web Police 4.0 ตามขั้นตอนดังนี้: 1. เข้าสู่เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ 2. กรอกข้อมูลจุดตรวจและพิกัดของสถานที่ที่ต้องการติดตั้ง QR-Code 3. หลังจากสร้างจุดตรวจเรียบร้อยแล้ว ให้พิมพ์ QR-Code และติดตั้ง ณ สถานที่กำหนด 4. ใช้แอป Police 4.0 (เมนู Redbox) ในการออกตรวจและสแกน QR-Code 5. ระบบจะตรวจสอบพิกัด GPS โดยต้องอยู่ในระยะไม่เกิน 100 เมตรจากจุดตรวจ 6. เมื่อสแกน QR-Code แล้ว ให้เข้าไปที่จุดตรวจ ระบบจะเริ่มนับเวลาถอยหลัง 7เมื่อเวลาครบ ให้กดปุ่ม ยืนยันจุดตรวจ ปัญหาที่อาจพบและแนวทางแก้ไข: - QR-Code สแกนไม่ได้: 1. ตรวจสอบคุณภาพของ QR-Code หากพื้นหลังมีสีเข้ม อาจทำให้ระบบ Android อ่านไม่ได้ 2. แก้ไขโดยเข้า Web Police 4.0 -> เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ ค้นหาจุดที่มีปัญหา กดปุ่ม บันทึก แล้วพิมพ์ QR-Code ใหม่เพื่อติดตั้งอีกครั้ง - ไม่สามารถยืนยันจุดตรวจได้: 1. ต้องทำการยืนยันทุกจุด มิฉะนั้น ผลการปฏิบัติงานจะไม่แสดงในรายงาน 2. หากหมดเวลายืนยัน ให้ตรวจสอบเวลาที่ลงชื่อเข้าเวร หากเป็นเวลานอกผลัดตรวจ ให้ลงชื่อออกแล้วลงชื่อเข้าใหม่ให้ถูกต้อง 3. หากเวลาผลัดตรวจตั้งเป็น 08:00-08:00 ควรแก้เป็น 08:00-07:59 แล้วลงชื่อเข้าเวรใหม่ - ปัญหา GPS: 1. หากพิกัดไม่ตรง ให้กดปุ่มสามเหลี่ยมบนแผนที่ 2-3 ครั้ง 2. หากยังไม่ตรง ตรวจสอบผ่าน Google Maps หรือปิด-เปิด GPS ใหม่
การตรวจตู้แดง QR-Code เจ้าหน้าที่ต้องสร้างจุดตรวจ QR-Code ใน Web Police 4.0 ก่อนใช้งาน โดยมีขั้นตอนดังนี้: 1. เข้าเมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ และกรอกข้อมูลจุดตรวจ 2. สร้าง QR-Code และพิมพ์เพื่อนำไปติดตั้งที่จุดตรวจ 3. ใช้แอป Police 4.0 (เมนู Redbox) สแกน QR-Code 4. ระบบจะตรวจสอบพิกัด GPS (ต้องอยู่ไม่เกิน 100 เมตร) 5. สแกนแล้วรอเวลานับถอยหลัง แล้วกดยืนยันจุดตรวจ ปัญหาที่อาจพบ: - QR-Code สแกนไม่ได้: ตรวจสอบคุณภาพ QR-Code และพิมพ์ใหม่ - ยืนยันจุดตรวจไม่ได้: ตรวจสอบเวลาผลัดตรวจและแก้ไขการลงชื่อเข้าเวร - GPS ไม่ตรง: กดอัปเดตพิกัดบนแผนที่หรือรีสตาร์ท GPS
การตรวจตู้แดง QR-Code วิธีดำเนินการ 1. เข้าเมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ 2. กรอกข้อมูลจุดตรวจและพิกัดสถานที่ 3. สร้าง QR-Code และพิมพ์เพื่อติดตั้ง 4. ใช้แอป Police 4.0 (เมนู Redbox) สแกน QR-Code 5. ระบบจะตรวจสอบตำแหน่ง (ต้องอยู่ไม่เกิน 100 เมตร) 6. ระบบเริ่มนับถอยหลัง ให้รอจนหมดเวลาแล้วกดยืนยัน ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีการแก้ไข 1. QR-Code สแกนไม่ได้ - ตรวจสอบพื้นหลัง QR-Code หากสีเข้มอาจมีปัญหาสำหรับ Android - เข้า Web Police 4.0 -> เมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ กด บันทึก แล้วพิมพ์ QR-Code ใหม่ 2. ยืนยันจุดตรวจไม่ได้ - แก้ไขเวลาผลัดตรวจ (ควรตั้งเป็น 08:00-07:59 ไม่ใช่ 08:00-08:00) 3.GPS ไม่ตรง - กดปุ่มอัปเดตพิกัดบนแผนที่ หรือปิด-เปิด GPS ใหม่
การตรวจตู้แดง QR-Code การตรวจตู้แดง QR-Code เป็นระบบที่ใช้ QR-Code เป็นจุดตรวจ โดยเจ้าหน้าที่ต้องตั้งค่าผ่าน Web Police 4.0 ตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. ตั้งค่าจุดตรวจใน Web Police 4.0 -> เมนูสายตรวจ -> จุดตรวจ 2. กรอกพิกัดและข้อมูลของจุดตรวจ 3. พิมพ์ QR-Code แล้วติดตั้งที่จุดตรวจ 4. ใช้แอป Police 4.0 สแกน QR-Code เพื่อตรวจจุด 5. ระบบจะตรวจสอบพิกัด ต้องอยู่ในระยะไม่เกิน 100 เมตร 6. รอเวลานับถอยหลังแล้วกดยืนยันจุดตรวจ ปัญหาที่พบบ่อย: 1.QR-Code สแกนไม่ได้ → ตรวจสอบพื้นหลังและพิมพ์ใหม่ 2. ยืนยันจุดตรวจไม่ได้ → ตรวจสอบเวลาผลัดตรวจและแก้ไขเวลาลงชื่อเข้าเวร 3.GPS ไม่ตรง → กดอัปเดตพิกัด หรือปิด-เปิด GPS ใหม่
การตรวจตู้แดง QR-Code การตรวจตู้แดง QR-Code เป็นการตรวจจุดที่ใช้ QR-Code ซึ่งต้องสร้างล่วงหน้าใน Web Police 4.0 โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. เข้าเมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ แล้วเพิ่มข้อมูลจุดตรวจ 2. สร้างและพิมพ์ QR-Code เพื่อติดตั้ง 3. ใช้แอป Police 4.0 สแกน QR-Code ระหว่างการตรวจ 4. ตรวจสอบ GPS ให้อยู่ในระยะไม่เกิน 100 เมตร 5. รอเวลานับถอยหลัง จากนั้นกดยืนยันจุดตรวจ ปัญหาที่อาจพบและการแก้ไข 1.QR-Code สแกนไม่ได้: พื้นหลังสีเข้มอาจรบกวน ให้พิมพ์ใหม่ 2. ยืนยันจุดตรวจไม่ได้: ตรวจสอบเวลาผลัดตรวจ หากผิด ให้แก้ไขและลงชื่อเข้าเวรใหม่ 3.GPS ไม่ตรง: กดรีเฟรชพิกัด หรือปิด-เปิด GPS ใหม่
จุดก้าวสกัดจับ จุดก้าวสกัดจับ เป็นจุดตรวจที่ต้องกำหนดในระบบ Web Police 4.0 โดยมีขั้นตอนดังนี้: 1. ไปที่ เมนูสายตรวจ -> จุดตรวจ 2. กำหนดประเภทของจุดตรวจเป็น จุดก้าวสกัดจับ
จุดก้าวสกัดจับ จุดก้าวสกัดจับ คือจุดตรวจที่ต้องตั้งค่าใน Web Police 4.0 ตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. เข้าสู่ เมนูสายตรวจ -> จุดตรวจ 2. เลือกประเภทเป็น จุดก้าวสกัดจับ
จุดก้าวสกัดจับ การตั้งค่า จุดก้าวสกัดจับ ในระบบ Web Police 4.0 ทำได้โดย: 1. เปิดเมนู สายตรวจ -> จุดตรวจ 2. ตั้งค่าประเภทจุดตรวจเป็น จุดก้าวสกัดจับ
จุดก้าวสกัดจับ จุดก้าวสกัดจับ เป็นหนึ่งในประเภทจุดตรวจที่สามารถสร้างใน Web Police 4.0 โดยต้องทำตามขั้นตอนนี้: 1. ไปที่ เมนูสายตรวจ -> จุดตรวจ 2. เลือกประเภทเป็น จุดก้าวสกัดจับ
จุดก้าวสกัดจับ หากต้องการตั้งค่า จุดก้าวสกัดจับ ใน Web Police 4.0 ให้ทำตามขั้นตอนนี้: 1. เข้าเมนูสายตรวจ -> จุดตรวจ 2. ตั้งค่าประเภทเป็น จุดก้าวสกัดจับ
บุคคลพ้นโทษ สามารถเพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษได้ผ่านเมนู บุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ ปัญหาที่อาจพบและแนวทางแก้ไข: 1. ตรวจสอบวันที่พ้นโทษ – หากวันพ้นโทษเกิน 1 ปี หรือเป็นวันที่ในอนาคต รายชื่อจะไม่ปรากฏในรายงานตรวจเยี่ยม 2. ตรวจสอบสถานะการจำหน่าย – หากบุคคลพ้นโทษไม่ได้ถูกส่งกลับไปคุมขังหรือเสียชีวิต ไม่ต้องระบุสถานะใดในหัวข้อการจำหน่าย 3. ตรวจสอบข้อมูลที่ต้องเลือก – หากเลือกค่าที่ไม่อยู่ในตัวเลือกที่ระบบกำหนด เช่น คำนำหน้า, กลุ่มคดี, หรือข้อหา ข้อมูลจะไม่ถูกบันทึก
บุคคลพ้นโทษ สามารถเพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษผ่าน เมนูบุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ ปัญหาที่อาจพบ: 1. วันพ้นโทษไม่ถูกต้อง → ถ้าวันพ้นโทษเกิน 1 ปี หรือเป็นอนาคต รายชื่อจะไม่ขึ้นในรายงาน 2. สถานะการจำหน่าย → หากไม่ได้กลับไปคุมขังหรือเสียชีวิต ไม่ต้องระบุสถานะ 3. ข้อมูลที่ต้องเลือก → หากใช้ค่าที่ไม่มีในระบบ เช่น คำนำหน้าไม่ถูกต้อง ระบบจะไม่บันทึกข้อมูล
บุคคลพ้นโทษ การเพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษ - สามารถดำเนินการผ่าน เมนูบุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ ข้อควรระวังในการบันทึกข้อมูล 1. วันที่พ้นโทษ: หากวันพ้นโทษเกิน 1 ปีหรือเป็นวันที่ในอนาคต รายชื่อจะไม่ปรากฏในรายงาน 2. สถานะการจำหน่าย: ไม่ต้องเลือกหากบุคคลพ้นโทษไม่ได้กลับไปคุมขังหรือเสียชีวิต 3. ตัวเลือกข้อมูล: ต้องเลือกค่าที่ถูกต้องตามระบบ มิฉะนั้นข้อมูลจะไม่ถูกบันทึก
บุคคลพ้นโทษ การเพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษ สามารถทำได้ผ่าน เมนูบุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ ปัญหาที่อาจพบ: 1. วันพ้นโทษผิดพลาด: ถ้าเกิน 1 ปี หรือเป็นวันที่ในอนาคต รายชื่อจะไม่แสดงในรายงาน 2. สถานะการจำหน่าย: ไม่ต้องเลือก หากบุคคลพ้นโทษไม่ได้ถูกส่งกลับคุมขังหรือเสียชีวิต 3. ข้อมูลไม่ถูกบันทึก: ต้องเลือกตัวเลือกที่ระบบกำหนด เช่น คำนำหน้าหรือกลุ่มคดีให้ถูกต้อง
บุคคลพ้นโทษ เพิ่มข้อมูลบุคคลพ้นโทษ ได้ที่ เมนูบุคคลพ้นโทษ -> รายการทะเบียนบุคคลพ้นโทษ สิ่งที่ต้องระวัง: 1. วันพ้นโทษ – หากนานเกิน 1 ปี หรือเป็นอนาคต รายชื่อจะไม่แสดงในรายงาน 2. สถานะการจำหน่าย – ไม่ต้องเลือกหากบุคคลพ้นโทษไม่ได้กลับไปคุมขังหรือเสียชีวิต 3. ข้อมูลไม่ถูกบันทึก – ต้องใช้ค่าที่ระบบกำหนด เช่น คำนำหน้าหรือข้อหาให้ถูกต้อง
รายงาน อ. รายงาน อ. เป็นรายงานที่มีอยู่ในโปรแกรม OBS แต่หลังจากพัฒนาให้สามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ Police 4.0 ทางบริษัทจึงยังไม่นำรายงานนี้เข้าสู่ระบบ เนื่องจากต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม ทั้งนี้ เมื่อการพัฒนาเสร็จสิ้น จะมีการนำรายงานดังกล่าวเข้าสู่ Web Police 4.0 ในอนาคต ตามที่จเรใหญ่แจ้งว่าต้องการตรวจเฉพาะ รายงาน อ. 1 - อ. 3 ทางบริษัทจึงได้พัฒนาให้สามารถดึงข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ได้ อย่างไรก็ตาม รายงาน อ. 4 - อ. 13 ยังไม่รองรับการดึงข้อมูลพร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องจากรายงาน อ. เคยถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่มีการพัฒนาต่อ ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ดึงเฉพาะ รายงาน อ. 1 - อ. 3 ผ่านเว็บไซต์ Police 4.0 หากจเรหน่วยต้องการตรวจสอบรายงาน อ. อื่น ๆ สามารถใช้ข้อมูลชี้แจงจากบริษัทเพื่ออธิบายเพิ่มเติมได้
รายงาน อ. เดิม รายงาน อ. อยู่ในโปรแกรม OBS แต่หลังจากพัฒนาระบบให้ใช้งานผ่าน Web Police 4.0 ทางบริษัทไม่ได้เพิ่มรายงานนี้เข้ามา เนื่องจากยังต้องปรับปรุงเพิ่มเติม โดยในอนาคตหากพัฒนาเสร็จ จะนำเข้าระบบให้ใช้งานได้ - ปัจจุบัน จเรใหญ่ขอให้ตรวจแค่ รายงาน อ. 1 - อ. 3 ทางบริษัทพัฒนาให้สามารถดึง อ. 1 - อ. 3 บนเว็บได้แล้ว ส่วน อ. 4 - อ. 13 ยังไม่รองรับทั่วประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการปิดรายงานนี้ไป - ขอความร่วมมือ ดึง เฉพาะ รายงาน อ. 1 - อ. 3 ผ่านเว็บ Police 4.0 หากจเรหน่วยต้องการตรวจ อ. อื่น ๆ สามารถแจ้งข้อมูลชี้แจงจากบริษัทให้ทราบ
เข้าสู่ระบบ application police4.0 เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน Police 4.0 และเข้าสู่ระบบเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่ต้องกรอก Username/Password และยืนยันตัวตนผ่าน OTP โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ของตน หากมีการปิดแอปพลิเคชันและเปิดใหม่ ระบบจะขอให้ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก ซึ่งต้องใช้สำหรับการเข้าสู่ระบบครั้งถัดไป ปัญหาที่อาจพบและแนวทางแก้ไข: 1. ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ - ติดต่อแอดมินประจำสถานีตำรวจ (สภ. ) เพื่อตรวจสอบ Username/Password ผ่านเมนูเจ้าหน้าที่ใน Web Police 4.0 2. หมายเลขโทรศัพท์ซ้ำ - ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ว่าถูกต้องหรือไม่ - หากหมายเลขถูกต้องแล้ว ให้ตรวจสอบใน Web Police 4.0 ว่ามีเจ้าหน้าที่อื่นใช้หมายเลขเดียวกันหรือไม่ - หากหมายเลขผิด ให้แก้ไขข้อมูลในระบบและลองเข้าสู่ระบบใหม่ 3. ไม่ได้รับ OTP - ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงบนหน้าจอ หากถูกต้องแล้ว รอ 5 นาที ก่อนขอรหัส OTP ใหม่ - หากหมายเลขโทรศัพท์ผิด ให้กด "เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์" และกรอกหมายเลขที่ถูกต้อง 4. ลืมรหัส PIN - กด "ลืมรหัส PIN" และกรอก Password เพื่อเข้าใช้งาน หลังจากนั้นระบบจะให้ตั้งรหัส PIN ใหม่
เข้าสู่ระบบ application police4.0 1. ครั้งแรกหลังติดตั้ง ต้องกรอก Username/Password และยืนยัน OTP ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 2. หากเปิดแอปใหม่หลังจากปิด ระบบจะขอให้ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก 3. ใช้รหัส PIN ที่ตั้งไว้ทุกครั้งเมื่อล็อกอินเข้าแอป ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไข: 1. เข้าสู่ระบบไม่ได้ - ติดต่อแอดมิน สภ. เพื่อตรวจสอบ Username/Password 2. เบอร์โทรศัพท์ซ้ำ - ตรวจสอบและแก้ไขหมายเลขใน Web Police 4.0 3. ไม่ได้รับ OTP - รอ 5 นาที หรือเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์หากผิด 4. ลืมรหัส PIN - กด "ลืมรหัส PIN" และตั้งค่าใหม่โดยใช้ Password
เข้าสู่ระบบ application police4.0 ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ 1. กรอก Username/Password ในครั้งแรก 2. ยืนยัน OTP ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 3. หลังจากปิดแอปแล้วเปิดใหม่ ระบบจะขอให้ตั้ง PIN Code 6 หลัก 4. การเข้าสู่ระบบครั้งถัดไปต้องใช้ PIN Code ที่ตั้งไว้ ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข: 1. ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ - แจ้งแอดมิน สภ. เพื่อตรวจสอบ Username/Password ใน Web Police 4.0 2. เบอร์โทรศัพท์ซ้ำ - ตรวจสอบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ถูกต้อง - ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่อื่นใช้หมายเลขนี้หรือไม่ - แก้ไขข้อมูลใน Web Police 4.0 หากหมายเลขผิด 3. ไม่ได้รับ OTP - ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ → หากถูกต้องให้รอ 5 นาทีแล้วกดขอรหัสใหม่ - หากหมายเลขผิด → กด "เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์" แล้วกรอกหมายเลขใหม่ 4. ลืมรหัส PIN - กด "ลืมรหัส PIN" → กรอก Password → ตั้ง PIN ใหม่
เข้าสู่ระบบ application police4.0 วิธีเข้าสู่ระบบแอป Police 4.0 1. ติดตั้งแอป → กรอก Username/Password → ยืนยันตัวตนด้วย OTP 2. หากเปิดแอปใหม่หลังจากปิด ระบบจะให้ตั้ง PIN 6 หลัก 3. ใช้ PIN Code ที่ตั้งไว้ทุกครั้งเมื่อล็อกอิน ปัญหาที่อาจพบ 1. เข้าสู่ระบบไม่ได้ → ติดต่อแอดมิน สภ. เพื่อตรวจสอบ Username/Password 2. เบอร์โทรศัพท์ซ้ำ → ตรวจสอบว่าเบอร์โทรถูกต้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่คนอื่นใช้ 3. ไม่ได้รับ OTP → รอ 5 นาที หรือแก้ไขหมายเลขโทรศัพท์หากผิด 4. ลืมรหัส PIN → กด "ลืมรหัส PIN" แล้วตั้งรหัสใหม่
ลงชื่อเข้าเวร เจ้าหน้าที่สามารถลงชื่อเข้าเวรผ่าน เมนู "ลงชื่อเข้าเวร" โดยต้องกรอกข้อมูลดังต่อไปนี้: 1. วันที่ – ระบบกำหนดเป็นวันที่ปัจจุบันอัตโนมัติ 2. รหัสสายตรวจ 3. ผลัดตรวจ 4. ประเภทการตรวจ – ระบบจะดึงข้อมูลจาก Web Police 4.0 ตามการตั้งค่าประเภทงาน แนวทางการกำหนดประเภทงานให้ถูกต้อง: 1. สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์ → ต้องเลือกประเภท "สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์" เท่านั้น 2. นายตำรวจตรวจท้องที่ → ต้องเลือกประเภท "ผู้บังคับบัญชา" รวมรหัสของ ผกก. , รอง ผกก. , และ สวป. ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไข: 1. ลงชื่อเข้าเวรไม่ได้ → อัปเดตข้อมูล หรือ ตรวจสอบผลัดตรวจใน Web Police 4.0 2. ปัญหาคู่ตรวจ → ให้คู่ตรวจอีกฝ่ายลงชื่อออกก่อน 3. ลงชื่อคู่ตรวจพร้อมกันไม่ได้ → ติดต่อแอดมินบริษัทเพื่อแก้ไข 4. แสดงข้อความ "NULL NULL" → แจ้งแอดมินบริษัทให้แก้ไขระบบ 5. ไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก → ตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายลงชื่อเข้าเวรหรือถูกเลือกไปแล้ว 6. ข้อมูลในแอปไม่ครบ → กด "อัปเดตข้อมูล" ที่เมนู "ฉัน" 7. แจ้งเตือนผลการปฏิบัติไม่ครบ → ระบบจะอัปเดตข้อมูลใหม่เมื่อออกจากเวร
ลงชื่อเข้าเวร 1. เข้า เมนู "ลงชื่อเข้าเวร" 2. กรอก รหัสสายตรวจ / ผลัดตรวจ / ประเภทงาน 3. ระบบกำหนดวันที่อัตโนมัติ ประเภทงานที่ต้องเลือกให้ถูกต้อง 1. สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์ → ใช้เฉพาะสายตรวจที่กำหนด 2. นายตำรวจตรวจท้องที่ → รวมรหัสของ ผกก. , รอง ผกก. , และ สวป. ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไข 1. ลงชื่อเข้าเวรไม่ได้ → อัปเดตข้อมูล หรือแก้ไขผลัดตรวจใน Web Police 4.0 2. ปัญหาคู่ตรวจ → ให้คู่ตรวจอีกฝ่ายลงชื่อออกก่อน 3. ลงชื่อคู่ตรวจพร้อมกันไม่ได้ → ต้องติดต่อแอดมินบริษัท 4. ข้อความ "NULL NULL" → แจ้งแอดมินเพื่อแก้ไข 5. ไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก → ตรวจสอบสถานะคู่ตรวจ 6. ข้อมูลในแอปไม่ครบ → กด "อัปเดตข้อมูล" 7. แจ้งเตือนผลการปฏิบัติไม่ครบ → ระบบจะคำนวณใหม่ในรายงาน
ลงชื่อเข้าเวร วิธีลงชื่อเข้าเวรใน Police 4.0 1. ไปที่ เมนู "ลงชื่อเข้าเวร" 2. เลือกวันที่ (จะถูกตั้งเป็นวันที่ปัจจุบันอัตโนมัติ) 3. กรอกข้อมูล รหัสสายตรวจ / ผลัดตรวจ / ประเภทงาน 4. กดยืนยัน ระบบจะบันทึกข้อมูล ข้อควรระวังในการเลือกประเภทงาน 1. สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์ → ต้องใช้ประเภทที่กำหนด 2. นายตำรวจตรวจท้องที่ → ต้องรวมรหัสของ ผกก. , รอง ผกก. , และ สวป. ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไข 1. ลงชื่อเข้าเวรไม่ได้ - ลอง "อัปเดตข้อมูล" ในเมนู "ฉัน" - ตรวจสอบผลัดตรวจใน Web Police 4.0 2. ปัญหาคู่ตรวจ - คู่ตรวจ 1 คนสามารถลงชื่อเข้าเวรได้คนเดียว 3. ลงชื่อออกไม่ได้เพราะลงชื่อคู่ตรวจพร้อมกัน - ติดต่อแอดมินบริษัทให้แก้ไข 4. ข้อความ "NULL NULL" ขณะลงชื่อเข้าเวร - แจ้งแอดมินบริษัทเพื่อแก้ไขข้อมูล 5. ไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก - ตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ถูกเลือกเป็นคู่ตรวจหรือยังไม่ได้ลงชื่อเข้าเวร 6. ข้อมูลในแอปไม่ครบ - เข้า เมนู "ฉัน" > อัปเดตข้อมูล 7. แจ้งเตือนผลการปฏิบัติไม่ครบ - ระบบจะประมวลผลใหม่เมื่อออกรายงาน
ลงชื่อเข้าเวร ลงชื่อเข้าเวรใน Police 4.0 ทำยังไง? 1. เข้า เมนู "ลงชื่อเข้าเวร" 2. กรอกข้อมูล รหัสสายตรวจ / ผลัดตรวจ / ประเภทงาน 3. ระบบจะตั้งวันที่ให้เอง ประเภทงานต้องเลือกให้ถูกต้อง 1. สายตรวจรถยนต์/รถจักรยานยนต์ → ต้องเป็นประเภทที่กำหนด 2. นายตำรวจตรวจท้องที่ → ต้องรวมรหัส ผกก. , รอง ผกก. , และ สวป. ปัญหาที่อาจพบและการแก้ไข 1. ลงชื่อเข้าเวรไม่ได้ → อัปเดตข้อมูล หรือเช็กผลัดตรวจใน Web Police 4.0 2. ปัญหาคู่ตรวจ → ต้องให้คู่ตรวจอีกฝ่ายลงชื่อออกก่อน 3. ลงชื่อคู่ตรวจพร้อมกันไม่ได้ → ติดต่อแอดมินบริษัท 4. ข้อความ "NULL NULL" → แจ้งแอดมินให้แก้ไข 5. ไม่มีชื่อคู่ตรวจให้เลือก → ตรวจสอบสถานะของคู่ตรวจ 6. ข้อมูลในแอปไม่ครบ → กด "อัปเดตข้อมูล" 7. ผลการปฏิบัติงานไม่ครับ → ระบบจะคำนวณใหม่ในรายงาน
เมนู Strong Together เป็นเมนูที่พัฒนาขึ้นตามคำขอของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Police 4.0 อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูนี้
เมนู Strong Together ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) และใช้งานร่วมกับแอป Police 4.0 ทั้งนี้ บริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูดังกล่าว
เมนู Strong Together - เป็นเมนูที่จัดทำขึ้นตามคำขอของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) - ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Police 4.0 - บริษัทผู้พัฒนาแอปไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูนี้
เมนู Strong Together ถูกออกแบบตามคำร้องขอของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับแอป Police 4.0 อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูนี้
เมนู Strong Together เป็นฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามคำขอของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) เพื่อใช้งานร่วมกับแอป Police 4.0 แต่ทางบริษัทที่พัฒนาแอปไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูนี้
ออกจากระบบ แอปพลิเคชัน Police 4.0 ไม่สามารถออกจากระบบได้ เนื่องจากถูกออกแบบให้ โทรศัพท์ 1 เครื่องสามารถล็อกอินได้เพียง 1 ผู้ใช้งาน ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) หากมีการเข้าสู่ระบบผิดบัญชี (User) จำเป็นต้องลบแอปพลิเคชันและติดตั้งใหม่ หากยังไม่สามารถออกจากระบบได้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสำหรับ อุปกรณ์ Android ตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. เข้าไปที่ "การตั้งค่า" (Settings) บนโทรศัพท์ 2. เลือก "การจัดการแอปพลิเคชัน" (App Management) 3. ค้นหาแอป Police 4.0 4. ไปที่ "จัดการข้อมูล" (Manage Data) 5. กด "ลบแคช" (Clear Cache) และ "ลบข้อมูล" (Clear Data) 6. เปิดแอป Police 4.0 อีกครั้ง แล้วเข้าสู่ระบบใหม่
ออกจากระบบ แอปนี้ไม่สามารถออกจากระบบได้ เพราะออกแบบให้ 1 อุปกรณ์ล็อกอินได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) หากล็อกอินผิดบัญชี (User) - ลบแอปและติดตั้งใหม่ ถ้ายังใช้งานไม่ได้ ให้ทำตามวิธีนี้: 1. ไปที่ "การตั้งค่า" (Settings) 2. เลือก "การจัดการแอป" (App Management) 3. ค้นหาแอป Police 4.0 4. เลือก "จัดการข้อมูล" (Manage Data) 5. กด "ลบแคช" และ "ลบข้อมูล" 6. เปิดแอปแล้วเข้าสู่ระบบใหม่
ออกจากระบบ ไม่สามารถออกจากระบบได้ - แอปพลิเคชันถูกออกแบบให้ ล็อกอินได้เพียง 1 บัญชีต่อเครื่อง ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) - หากล็อกอินผิดบัญชี ต้อง ลบแอปแล้วติดตั้งใหม่ วิธีแก้ไขหากยังไม่สามารถเปลี่ยนบัญชีได้: 1. เข้าไปที่ "การตั้งค่า" (Settings) 2. เลือก "การจัดการแอปพลิเคชัน" (App Management) 3. ค้นหาแอป Police 4.0 4. ไปที่ "จัดการข้อมูล" (Manage Data) 5. กด "ลบแคช" (Clear Cache) และ "ลบข้อมูล" (Clear Data) 6. เปิดแอป Police 4.0 และเข้าสู่ระบบใหม่
โปรแกรม OBS โปรแกรม OBS เป็นซอฟต์แวร์ที่ต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) ได้กำหนดแนวทางให้พัฒนา เว็บไซต์ Police 4.0 ขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ส่งผลให้บริษัท ยุติการพัฒนาโปรแกรม OBS อย่างเป็นทางการ ดังนั้น หากต้องการ เพิ่มหรือแก้ไขข้อมูล กรุณาดำเนินการผ่าน เว็บไซต์ Police 4.0 เนื่องจากการใช้งาน โปรแกรม OBS อาจส่งผลให้ข้อมูลบางส่วนไม่ถูกต้องหรือไม่อัปเดตตามระบบปัจจุบัน
โปรแกรม OBS เดิม โปรแกรม OBS ต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้งาน แต่ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) ได้พัฒนา เว็บไซต์ Police 4.0 เพื่อเพิ่มความสะดวก ส่งผลให้โปรแกรม OBS หยุดพัฒนาอย่างเป็นทางการ กรณีต้องการแก้ไขข้อมูล: - ใช้งานผ่าน เว็บไซต์ Police 4.0 - หลีกเลี่ยงการใช้ OBS เพราะอาจทำให้ข้อมูลไม่อัปเดตหรือผิดพลาด
โปรแกรม OBS โปรแกรม OBS เดิมต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้งาน แต่ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) ได้พัฒนา เว็บไซต์ Police 4.0 เพื่อให้สะดวกยิ่งขึ้น จึงทำให้บริษัท ยุติการพัฒนาโปรแกรม OBS อย่างเป็นทางการ ข้อแนะนำสำหรับการใช้งาน - หากต้องการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูล กรุณาใช้ เว็บไซต์ Police 4.0 - การใช้ OBS อาจทำให้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่อัปเดต
แอปพลิเคชัน Police 4.0 ล่ม หากพบปัญหา การเชื่อมต่อล้มเหลว ในการใช้งานแอป Police 4.0 ให้ดำเนินการตามลำดับดังนี้: 1. ตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต - ตรวจสอบว่าอินเทอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ตามปกติ 2. ปิดและเปิดแอปพลิเคชันใหม่ - หากอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ ให้ปิดแอปและลองเปิดใหม่อีกครั้ง 3. ติดตั้งแอปใหม่ - หากปิดและเปิดใหม่แล้วยังพบปัญหา ให้ลบแอป Police 4.0 ออกจากอุปกรณ์ แล้วติดตั้งใหม่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ 4. แจ้งผู้ดูแลระบบ (Admin) - หากดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้แจ้ง แอดมินบริษัท เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม
แอปพลิเคชัน Police 4.0 ล่ม แอป Police 4.0 ใช้งานไม่ได้? ลองแก้ไขตามนี้: 1. เช็กอินเทอร์เน็ต → ตรวจสอบว่ามีสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไม่ 2. รีสตาร์ทแอป → ปิดแอป Police 4.0 แล้วเปิดใหม่ 3. ติดตั้งใหม่ → หากยังใช้งานไม่ได้ ให้ลบและติดตั้งแอปใหม่ 4. แจ้งแอดมิน → หากทำทั้งหมดแล้วยังมีปัญหา ให้แจ้งแอดมินบริษัท
แอปพลิเคชัน Police 4.0 ล่ม วิธีแก้ปัญหาเมื่อแอป Police 4.0 ล่ม 1. ตรวจสอบอินเทอร์เน็ต - ตรวจดูว่าเครือข่ายมือถือหรือ Wi-Fi ทำงานได้ปกติ 2. ปิดและเปิดแอปใหม่ - หากอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ แต่แอปยังค้าง ให้ลองปิดและเปิดใหม่ 3. ลบและติดตั้งแอปใหม่ - หากปิดและเปิดใหม่แล้วยังไม่ได้ผล ให้ลบแอปแล้วติดตั้งใหม่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ 4. แจ้งแอดมินบริษัท - หากลองทำทุกวิธีแล้วยังมีปัญหา ให้ติดต่อแอดมินเพื่อช่วยตรวจสอบ
แอปพลิเคชัน Police 4.0 ล่ม แก้ไขง่ายๆ ตามขั้นตอนนี้ 1. ตรวจสอบอินเทอร์เน็ต → ลองเปิดเว็บหรือแอปอื่นดูว่าใช้งานได้ไหม 2. ปิดแล้วเปิดแอปใหม่ → รีสตาร์ทแอปและลองอีกครั้ง 3. ติดตั้งแอปใหม่ → ลบแอปออกแล้วโหลดใหม่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ 4. แจ้งแอดมิน → ถ้ายังใช้ไม่ได้ ให้แจ้งแอดมินบริษัทช่วยแก้ไข
เว็บไซต์ Police 4.0 ล่ม หากพบปัญหาในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ Police 4.0 ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้: 1. กรณีหน้าจอแสดงข้อความ "200 OK" - แจ้ง แอดมินประจำสถานีตำรวจ (สภ. ) เพื่อตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข 2. กรณีหน้าจอแสดงข้อความ "Session not found" (NsRx1FJc8q11026D805) - กดปุ่ม "Restart Dashboard" เพื่อรีเซ็ตระบบ 3. กรณีหน้าเว็บโหลดไม่หยุด (หมุนค้างตลอดเวลา) - ตรวจสอบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ - หากอินเทอร์เน็ตปกติแต่ยังเข้าใช้งานไม่ได้ ให้ลองเปลี่ยนไปใช้ Wi-Fi อื่น แล้วลองเข้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง
เว็บไซต์ Police 4.0 ล่ม 1. ขึ้นข้อความ "200 OK" → แจ้ง แอดมิน สภ. ให้ช่วยตรวจสอบ 2. ขึ้นข้อความ "Session not found" → กด "Restart Dashboard" 3. หน้าเว็บหมุนไม่หยุด - เช็กอินเทอร์เน็ต - ลองเปลี่ยนไปใช้ Wi-Fi อื่น แล้วเข้าใหม่
เว็บไซต์ Police 4.0 ล่ม วิธีแก้ปัญหาเมื่อเว็บไซต์ Police 4.0 ล่ม 1. กรณีขึ้นข้อความ "200 OK" - แจ้ง แอดมินประจำ สภ. เพื่อตรวจสอบและแก้ไข 2. กรณีขึ้นข้อความ "Session not found" - กดปุ่ม "Restart Dashboard" เพื่อรีเซ็ตระบบ 3. กรณีหน้าเว็บโหลดไม่หยุด - เช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ต - หากอินเทอร์เน็ตปกติแต่ยังเข้าไม่ได้ → ลองเปลี่ยน Wi-Fi แล้วเข้าใหม่
End of preview. Expand in Data Studio
README.md exists but content is empty.
Downloads last month
38