query
stringlengths 22
185
| positive
sequencelengths 1
2
| negative
sequencelengths 28
30
| cluster
int64 0
27
|
---|---|---|---|
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เสียชีวิตที่ไหน? | [
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ทรงลาออกจากราชการและเสด็จไปประทับ ณ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับครอบครัวเมื่อ พ.ศ. 2476 ต่อมาประชวรจนกระทั่งวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2479 จึงสิ้นพระชนม์ที่โรงพยาบาลในประเทศสิงคโปร์ สิริพระชันษาได้ 55 ปี พระชายาได้เชิญพระศพกลับกรุงเทพฯ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลโปรดให้ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร แล้วประกอบการพระราชกุศลทักษิณานุปทานในวันที่ 8-9 ตุลาคม[5]"
] | [
"หม่อมเจ้าโสภณภราไดย สวัสดิวัตน์\nหม่อมเจ้าโสภณภราไดย เสกสมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2473 มีโอรสคือ หม่อมราชวงศ์พรรธนภณ สวัสดิวัฒน์ (นามเดิม หม่อมราชวงศ์ฉัตรโสภณ สวัสดิวัตน์) ",
"สถานีกำแพงเพชร\nสถานีกำแพงเพชร (, รหัส BL12) เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ที่ถนนกำแพงเพชร กรุงเทพมหานคร ใช้ชื่อตามถนนกำแพงเพชร ซึ่งตั้งตามพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งค้าขายที่สำคัญคือตลาดนัดจตุจักร ตลาดกลางองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และตลาดสัตว์เลี้ยง องค์การส่งเสริมกิจการโคมนมแห่งประเทศไทย",
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร\nครั้นวันรุ่งขึ้น วันที่ 8 มีนาคม 2448 ร.5 ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ตั้งหม่อมเจ้า บุตรีในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล เป็นพระองค์เจ้าตามพระมารดา ตามกฎมณเฑียรบาลราชประเพณีที่มีมา โดยทรงโปรดเกล้าฯ ตั้งขึ้นเป็น พระหลานเธอ พระองค์เจ้า ทั้งสายที่จะร่วมพระครรภ์สืบไป ",
"เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่\nเจ้าลดาคำ เสกสมรสครั้งแรกกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระธิดาสององค์ได้แก่",
"ตราบุรฉัตร\nตราบุรฉัตร เป็นตราวงกลมทำจากเหล็กหล่อสีแดงน้ำหมาก สร้างขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ในการที่พระองค์ทรงนำรถจักรดีเซลคันแรกมาใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2471 โดยตราบุรฉัตรจะติดข้างรถจักรดีเซลไฟฟ้าทุกคัน",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาวาด ประสูติเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2424 ขณะทรงพระเยาว์เริ่มศึกษาที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ",
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร\nพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร (27 มิถุนายน พ.ศ. 2464 — 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยุบรวมกรมทางไปขึ้นกับกรมรถไฟหลวง โดยให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมขุนกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ทรงรับผิดชอบงานสร้างถนนและสะพานทั่วประเทศ เช่น สะพานกษัตริย์ศึก เป็นสะพานลอยข้ามทางรถไฟแห่งแรก และสะพานรัษฎาภิเศก จังหวัดลำปาง สะพานพุทธ สะพานพระราม 6",
"หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ณ อยุธยา\nหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ณ อยุธยา (สกุลเดิม: สารสาส; 7 มิถุนายน พ.ศ. 2458 – 18 ตุลาคม พ.ศ. 2526) เป็นหม่อมในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล",
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร\nศาสตราจารย์พิเศษ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร (12 สิงหาคม พ.ศ. 2458 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2524) พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล ประสูติเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2458 ",
"ประยอม ซองทอง\nประยอม ซองทอง สมรสกับ หม่อมราชวงศ์อรฉัตร สุขสวัสดิ์ ธิดาหม่อมเจ้าประสมสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ โอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศุขสวัสดี กรมหลวงอดิศรอุดมเดช กับ หม่อมเขียน และหม่อมเจ้าหญิงกาญจนฉัตร ฉัตรไชย ธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน กับ หม่อมเพี้ยน สุรคุปต์ มีบุตรธิดา 3 คน คือ",
"พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล\nพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล (11 มิถุนายน พ.ศ. 2428 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506) เป็นพระธิดาพระองค์สุดท้องในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ กับหม่อมราชวงศ์สว่าง จักรพันธุ์ และเป็นพระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน",
"พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล\nพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล เป็นพระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน มีพระโอรส 1 องค์ และ พระธิดา 3 องค์ ซึ่งพระโอรสธิดาที่ประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล จะมีฐานันดรศักดิ์เป็น\"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า\"ทั้งหมด",
"หม่อมเจ้าสุรฉัตร ฉัตรชัย\nหม่อมเจ้าสุรฉัตร ฉัตรชัย ประสูติเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2472 เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธินกับหม่อมเผือด พึ่งรักวงศ์ พระองค์มีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว",
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร\nพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร มีพระนามเล่นว่า ตุ๊ เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล ประสูติเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2464 พระองค์มีพระเชษฐภคินีและพระเชษฐา คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร, พระองค์เจ้าหญิง และพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร",
"สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร\nเป็นทรงแปดเหลี่ยมซ้อนกัน ก่ออิฐถือปูนทำผิวหินล้าง มีลายปั้นเป็นแบบรักร้อยห้องทั้ง 4 ด้าน บนสุดเป็นฉัตรโลหะ 5 ชั้นตามพระนาม ภายในบรรจุพระสรีรางคารของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน (ในเจ้าจอมมารดาวาด กัลยาณมิตร) พระชายา พระโอรสและพระธิดา ในสายราชสกุลฉัตรไชย",
"หม่อมเจ้าอุทัยเฉลิมลาภ วุฒิชัย\nหม่อมเจ้าอุทัยเฉลิมลาภ วุฒิชัย เสกสมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล มีบุตรและธิดา คือหม่อมเจ้าอุทัยเฉลิมลาภ วุฒิชัย สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2501 สิริพระชันษา 44 ปี",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nการดำเนินกิจการรถไฟในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงให้ชาวต่างประเทศเป็นผู้ควบคุมการบริหารกิจการทั้งหมด กระทั่งปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร รักษาการตำแหน่งเจ้ากรมรถไฟสายเหนือ ในปี พ.ศ. 2460 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมกรมรถไฟสายเหนือกับสายใต้เข้าเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า \"กรมรถไฟหลวง\" และให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมขุนกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และทรงบุกเบิกพัฒนากิจการต่างๆ ของกรมรถไฟหลวง ขยายเส้นทางเดินรถไฟสายเหนือและสายใต้เข้าด้วยกัน สายตะวันออกเฉียงเหนือทรงสร้างทางรถไฟจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี สายตะวันออกจากฉะเชิงเทราถึงอรัญประเทศ และในปี พ.ศ. 2471 พระองค์ยังได้ทรงสั่งซื้อรถจักรดีเซล จำนวน 2 คัน (หมายเลข 21 และ 22) จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีกำลัง 180 แรงม้า เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่า รถจักรไอน้ำลากจูงขบวนรถไม่สะดวก และไม่ประหยัด อีกทั้งลูกไฟที่กระจายออกมาเป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร และอาจทำให้เกิดไฟไหม้ไม้หมอนอีกด้วย ซึ่งรถจักรดีเซลทั้งสองคันดังกล่าว เป็นรถจักรดีเซลคันแรกในทวีปเอเชีย และถือว่าประเทศไทยนำรถจักรดีเซลเข้ามาใช้งานเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียด้วย [6]",
"หม่อมราชวงศ์อรฉัตร ซองทอง\nหม่อมราชวงศ์อรฉัตร เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2485 เป็นธิดาในหม่อมเจ้าประสมสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ กับหม่อมเจ้ากาญจนฉัตร ฉัตรชัย พระนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ต้นราชสกุลฉัตรชัย และเป็นพระนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศุขสวัสดี กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ต้นราชสกุลสุขสวัสดิ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมรสกับประยอม ซองทอง บุตรของฮด กับมี ซองทอง มีบุตรธิดา 3 คน คือ",
"เจ้าบุญสารเสวตร์ ณ ลำปาง\nภายหลังการถึงแก่พิราลัยของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ในปี พ.ศ. 2465 เจ้าบุญสารเสวตร์ จึงได้รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินกิจการอุตสาหกรรมป่าไม้ของเจ้าบิดาต่อเนื่องมา จนกระทั่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับราชการในกรมทางหลวง ภายใต้การบังคับบัญชาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน โดยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สร้างทางหลวงสายแพร่-น่าน",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรเสด็จกลับประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2447 ทรงรับราชการทหาร เหล่าทหารช่าง กรมยุทธนาธิการทหารบก ทรงดำรงตำแหน่งจเรทหารช่างพระองค์แรกในปี พ.ศ. 2451 และทรงดำรงตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลา 17 ปี ทรงนำความรู้ในวิชาการทหารแผนใหม่ตามแบบอย่างประเทศตะวันตกมาปรับปรุงกิจการทหารช่าง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วางรากฐานกิจการทหารช่างแผนใหม่ และกองทัพ",
"โครงการโฮปเวลล์\nถนนเลียบโครงการโฮปเวลล์ หรือ โลคอลโรด เป็นถนนที่ก่อสร้างในเขตทางรถไฟ เส้นทางเลียบไปกับโครงสร้างของโครงการโฮปเวลล์ ก่อสร้างโดยงบประมาณของกรมทางหลวง เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2542 ส่วนเลียบทางรถไฟสายเหนือ-อีสาน มีชื่อเป็นทางการว่า ถนนกำแพงเพชร 5 และถนนกำแพงเพชร 6 และส่วนเลียบทางรถไฟสายตะวันออก มีชื่อเป็นทางการว่า ถนนกำแพงเพชร 7 ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน",
"วิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย\nวิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย ถือกำเนิดขึ้นระยะแรก ราวปี พ.ศ. 2470-2472 โดยพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึ่งทรงริเริ่มทดลองส่งวิทยุกระจายเสียง เป็นครั้งแรกในประเทศสยาม โดยทรงตั้งชื่อว่า “สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท” เนื่องจากส่งกระจายเสียงจากพระราชวังพญาไท และยังทรงมอบหมายให้กรมไปรษณีย์โทรเลข โดยกองช่างวิทยุ ดำเนินการทดลองส่งวิทยุกระจายเสียง เป็นการคู่ขนานกับสถานีส่วนพระองค์ โดยผู้ฟังนิยมเรียกว่า “สถานีวิทยุศาลาแดง” เนื่องจากสถานีส่งกระจายเสียง ตั้งอยู่ในบริเวณย่านที่เรียกว่าศาลาแดง และต่อมาสถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท เปิดกระจายเสียงอย่างเป็นทางการ เริ่มด้วยการถ่ายทอดเสียงสด กระแสพระราชดำรัส เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อวันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 จากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร",
"เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่\nเจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ (7 ธันวาคม พ.ศ. 2439 — 15 มิถุนายน พ.ศ. 2527) เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือท่านหนึ่ง ทั้งเคยเป็นอดีตหม่อมในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว",
"หม่อมเจ้าสุรฉัตร ฉัตรชัย\nหม่อมเจ้าสุรฉัตร ฉัตรชัย (15 มิถุนายน พ.ศ. 2472 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2536) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน\nนายพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระนามเดิม พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร (23 มกราคม พ.ศ. 2424 - 14 กันยายน พ.ศ. 2479) อดีตจเรทหารช่าง อดีตผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง อดีตเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม และ ผู้ริเริ่มการค้นหาปิโตรเลียมในประเทศสยามเป็นครั้งแรก",
"ฉัตรสุดา วงศ์ทองศรี\nท่านผู้หญิงฉัตรสุดา วงศ์ทองศรี (นามเดิม: หม่อมเจ้าฉัตรสุดา ฉัตรไชย; เกิด: 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2463 — ถึงแก่อนิจกรรม 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2539) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน กับเจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ ",
"วิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย\nพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เสนาบดี กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม ในรัชกาลที่ 7 ทรงเป็นผู้บุกเบิกและริเริ่มใ ห้มีการทดลองส่งวิทยุกระจายเสียง ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยปี พ.ศ. 2470 พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ได้ทรงซื้อเครื่องส่งวิทยุเข้ามาเพื่อศึกษายังที่ประทับของพระองค์เองคือวังบ้านดอกไม้ ทั้งศึกษาและทดลองเอาโทรศัพท์และเสียงเพลงมาส่งเสียงพูด พร้อมเสียงดนตรีกระจายออกไป",
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร\nพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร (7 มีนาคม พ.ศ. 2448 — 11 สิงหาคม พ.ศ. 2513) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมลประสูติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2448 เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล ",
"หม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย\nร้อยตรี หม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย (6 ตุลาคม พ.ศ. 2477 - 13 มกราคม พ.ศ. 2553) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ประสูติแต่ หม่อมเอื้อม ฉัตรชัย ณ อยุธยา (สกุลเดิม อรุณทัต) และทรงเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้เขียนบทภาพยนตร์ชาวไทย สิ้นชีพิตักษัยที่วัง ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังจากประชวรด้วยโรคพาร์กินสัน เป็นเวลาถึง 15 ปี ซึ่งหม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรไชย เป็นอนุชาต่างมารดา กับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร ที่สิ้นพระชนม์ก่อนหม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย เพียง 1 เดือน นับเป็นการสูญเสียเจ้านายชั้นสูงที่นับถือของราชสกุลฉัตรชัย"
] | 3 |
เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดลฤดูกาลที่ 5 ใครเป็นผู้ชนะ ? | [
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ชนะในฤดูกาลนี้ คือ มอรีน ว็อบเบลวิทซ์ จาก ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเธอจะได้รับรถยนต์ ซูบารุ อิมเปรซ่า หนึ่งคัน, ถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ทและขึ้นหน้าปกให้กับ นิตยสาร ไนล่อน แม็กกาซีน สิงคโปร์ และเซ็นสัญญานางแบบกับเอเจนซี่ สตอร์ม โมเดล แมเนจเมนท์ ที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ"
] | [
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 3\nต่อมา โมนิก้า ได้พูดคุยกับจอร์จิน่า ซึ่งโมนิก้าได้เผยว่า ตัวเธอไม่ได้เป็นคนเสแสร้ง และไม่ได้เป็นคนขี้โกหก และการถ่ายภาพที่เธอประสบปัญหามากที่สุดคือ การถ่ายแคตตาล็อกของ ซาโลรา และเมื่อจอร์จิน่าถามว่า เธอคิดว่าใครควรชนะการแข่งขัน เธอได้ตอบว่า กานี่ เนื่องจากเธอเชื่อมันศักยภาพในตัวกานี่เป็นอย่างมาก ว่าจะสามารถไปได้ไกลในวงการแฟชั่น โครงหน้าของเธอสามารถทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม และสุดท้ายเธอได้เผยว่า กานี่ คือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเธอ",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1 เป็นฤดูกาลแรกของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบ ในระดับมืออาชีพ โดยสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมากจากเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ชิงตำแหน่งสามคนสุดท้าย: มิญ ตู้ เหงียน, มอรีน ว็อบเบลวิทซ์ และชิคิน โกเมซ เอเชีย เน็กซ์ ทอป โมเดล: มอรีน ว็อบเบลวิทซ์ ช่างถ่ายภาพ: ยู ไซ แขกรับเชิญพิเศษ: เพีย วูร์ทซบาค, รูบี้ แอดเลอร์, อะเดล ชาน, เกล็น ตัน, แดเนียล บอย, นูราอซิลาห์ โกเมซ, โรซินะห์ บินตี้ ยาฮายะห์, ลึง จื่อ เถียน, ฉึ่ง หวิก ซี, เอ็นริโก้ นิดิวิดาด, เดซี่ นิดิวิดาด",
"นิโคล ฟ็อกซ์\nนิโคลเป็นผู้ผ่านรอบคัดเลือกรอบ 14 คนสุดท้ายของรายการ อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 13 ซึ่งเป็นฤดูกาลสำหรับสาวที่สูงไม่เกิน 5 ฟุต 7 และเธอก็เป็นผู้ชนะในฤดูกาลนั้น ไม่กี่เดือนก่อนที่จะเปิดรอบคัดตัว นิโคลก็ได้พบกับช่างภาพเดนเวอร์ ที่อาร์ทแกลอรี่ ซึ่งเขาได้แนะนำให้เธอลองมาออดิชั่นเหมือนกับที่เคยแนะนำ แอลลิสัน ฮาร์วาร์ด จาก อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 12 มาแล้ว",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1\nสุดท้ายแล้ว กลุ่มสองเป็นกลุ่มที่ชนะ และภาพของพวกเธอ จะได้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสาร ฮาร์เปอร์บาซาร์ จีและสเตฟานี่ ต้องตกเป็นสองคนสุดท้าย จากภาพถ่ายที่ออกมาจืดชืด และไม่มีชีวิตชีวา แต่ นาเดีย ได้กล่าวว่า เนื่องจาก โมนิก้า ได้ออกจากการแข่งขัน ในสัปดาห์นี้พวกเธอทั้งคู่จะได้รับโอกาสให้แก้ตัวอีกครั้ง โดยจะไม่มีใครถูกคัดออกจากการแข่งขัน",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nซึ่งการตัดสินนั้น จะตัดสินจากภาพเซลฟี่แบบรายบุคคล โดยสาวๆต่างแยกย้ายกันออกไปถ่ายภาพตามมุมต่างๆภายในบ้านพัก ซึ่งภาพถ่ายที่องค์ประกอบภาพออกมาโดยรวมถูกใจ แอนเดรีย มากที่สุด คือภาพของ วาเลรี่ เธอจึงเป็นผู้ชนะในครั้งนี้ ทำให้เธอได้รับคะแนนจากการแข่งขันสูงที่สุด ในขณะที่ เลย์ลา ได้รับคะแนนต่ำที่สุด ซึ่งทำให้ มิญ ตู้ ที่สนิทกับ เลย์ลา รู้สึกกังวลแทนเธอเป็นอย่างมาก ต่อมา พวกเธอได้รับข้อความจากซินดี้ ว่าให้ไปดูที่ริมสระว่ายน้ำ เมื่อพวกเธอออกไป จึงพบว่า มีอาหารและเครื่องดื่ม เป็นจำนวนมาก จัดเตรียมไว้ให้แก่พวกเธอ พวกเธอจึงดื่มและรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน",
"อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 21\nอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 21 (หนุ่มหล่อ & สาวสวย2) เป็นฤดูกาลที่ 21 ของอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล โดยในฤดูกาลนี้ จะเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์รายการ ทีมีผู้เข้าแข่งขันเป็นผู้ชาย ร่วมเข้าแข่งขันในรายการด้วย ซึ่งฤดูกาลนี้จะเริ่ม ออกอากาศใน ปี 2557 โดยคณะกรรมการยังประกอบไปด้วย ไทรา แบงส์, เคลลี่ ครูโทน, สุดยอดนายแบบชาย ร็อบ อีวานส์ ถูกเปลี่ยนเป็น เจ.อเล็กซานเดอร์ และ ผู้กำกับการถ่ายภาพ เปลี่ยนจาก จอห์นนี่ วูเจ็ค เป็น ยู ไซ โดยที่ในฤดูกาลนี้ประชาชนยังสามารถโหวตให้คะแนนผู้เข้าแข่งขัน ได้เหมือนใน สองฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการคัดออกในแต่ละสัปดาห์ได้เหมือนเดิม",
"อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1\nในรอบสามคนสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันต้องถูกคณะกรรมการประเมินผลงานทั้งหมดที่ผ่านมาเพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียงสองคนสำหรับเข้าสู่การเดินแบบรอบสุดท้าย โดยแชนน่อนเป็นคนแรกที่ผ่านเข้ารอบ และเอลิสกับเอเดรียนน์ที่เป็นสองคนสุดท้าย และผู้ตัดสินต่างลงความเห็นว่าจนถึงตอนนี้เอลิสก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นนางแบบไม่เพียงแต่สวยอย่างเดียวเท่านั้นยังต้องมีความฉลาดอีกด้วยและนั่นจึงทำให้เธอต้องตกรอบ\nหลังจากที่เอเดรียนน์และแชนน่อนได้เดินแบบให้กับโชว์ของเบบี้แฟทแล้ว สองสาวก็ต้องเข้าพบคณะกรรมการเพื่อให้ประเมินผลงานอีกเป็นครั้งสุดท้าย การเดินแบบบนรันเวย์ของแชนน่อนได้รับคำชมจากกรรมการเป็นอย่างมาก และคณะกรรมการได้ลงความเห็นว่าเธอน่าจะขายได้ในวงการแฟชั่น ไทร่ารู้สึกแปลกใจที่เอเดรียนน์มาไกลได้ถึงขนาดนี้เพราะในตอนรกทั้งรูปลักษณ์และการพูดจาของแอนเดรียนน์ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่านางแบบเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ตัดสินใจกันได้เรียบร้อยแล้ว ไทร่าได้เรียกผู้เข้าแข่งขันทั้งสองกลับเข้ามาแล้วบอกว่าภาพที่อยู่ด้านหลังคณะกรรมการคือผู้ชนะ และเมื่อดึงผ้าที่ปิดอยู่ออกมาปรากฏว่า ผู้ชนะคนแรกของอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดลก็คือ เอเดรียนน์ เคอร์รี่",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ผู้ที่ถูกคัดออกจากการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะการแข่งขันประจำสัปดาห์ ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกจากการแข่งขัน แต่ได้รับโอกาสให้แก้ตัวอีกครั้ง ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะการแข่งขันประจำสัปดาห์ และถูกคัดออกจากการแข่งขัน แต่ได้รับโอกาสให้แก้ตัวอีกครั้ง ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกเพิ่มเข้ามา แต่ที่จริงแล้ว เป็นกรรมการที่ปลอมตัวมาเป็นผู้เข้าแข่งขัน",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 4\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 4 เป็นฤดูกาลที่ 4 ของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบ ในระดับมืออาชีพ โดยสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมากจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะถ่ายทำรายการ ใน ประเทศสิงคโปร์ เริ่มออกอากาศวันที่ 9 มีนาคม 2559 เป็นวันแรก โดยในฤดูกาลนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะตัดสินโดยการให้คะแนนจากการแข่งขันประจำสัปดาห์และคะแนนจากคณะกรรมการในห้องตัดสิน",
"อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 11\nหลังจากที่ถ่ายภาพให้กับนิตยสารเซเว่นทีนแล้ว สองสาวต้องเดินโชว์บนรันเวย์ให้กับ แอดดีย์ แวน เดน ครอมเมนแอ็คเกอร์ โดยมี วิทนีย์ ทอมป์สัน ผู้ชนะจากฤดูกาลที่ 10 และ อนันดา มาร์คชิลดอน จาก เนเธอร์แลนด์ เน็กซ์ ท็อปโมเดลฤดูกาลที่ 4 เข้าร่วมด้วย โดยพวกเธอต้องเดินบนรันเวย์ที่ยาวและดูแปลกในคอนเซปต์แฟรี่เทลล์ และในการตัดสินครั้งสุดท้าย ทั้งคู่ต่างสูสีกันอย่างมากอย่างกินกันไม่ลงทั้งการเดินโชว์บนรันเวย์ และภาพถ่ายที่ผ่านมา แม็กคีย์ดูมีความหลากหลายและเป็นแฟชั่นชั้นสูง ส่วนซาแมนธ่าดูเข้าถึงง่ายและเป็นตัวแทนของสาวสุขภาพดี ทำให้กรรมการต้องลำบากใจในการตัดสินครั้งนี้มาก และหลังจากที่พิจารณากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว คณะกรรมการก็ตัดสินใจและประกาศว่า ผู้ชนะของฤดูกาลที่ 11 ก็คือ แม็กคีย์ ซูลลิแวน",
"อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 13\nอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 13 (America's Next Top Model, Cycle 13) เป็นฤดูกาลที่ 13 ของอเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ออกอากาศครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา ทางช่อง CW ในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552 สำหรับฤดูกาลนี้มีผู้เข้าแข่งขันจำนวนเท่ากับ ฤดูกาลที่ 10 และ 11 โดยมีทั้งสิ้น 14 คน และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สุดยอดนางแบบ หญิงสาวสูง 5 ฟุต 7 นิ้วและเตี้ยกว่านั้น , ความงามอยู่ภายใต้มาตรฐานความสูง เพื่อก้าวสู่ผู้ชนะ 14 สาวต้องพิสูจน์ความงามที่มาในทุกรูปทรง , ขนาดและความสูง สำหรับคำโฆษณาที่ใช้ในฤดูกาลนี้คือ \"'The Lineup Is 5\"7' And Under. Not The Usual Suspects. BOOK 'EM!\" และเพลงที่ใช้สำหรับประกอบตัวอย่างของรายการในฤดูกาลนี้คือเพลง \"Good Girls Go Bad\" ของ Cobra Starship",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก: มิญ ตู้ เหงียน ผู้ที่ตกเป็นสองคนสุดท้าย: เลย์ลา อ๋อง และ โดโรธี เพทโซลด์ ผู้ที่ถูกคัดออก: เลย์ลา อ๋อง ช่างถ่ายภาพ: ยู ไซ แขกรับเชิญพิเศษ: แอนเดรีย ชง, เจสัน ก็อดฟรี, แม็ดดี้ รอสส์",
"ออสเตรเลียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1\nผู้ชนะคนแรกของออสเตรเลียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล คือ เจมมา แซนเดอร์สัน อายุ 22 ปี จากเมือง นิวคาสเซิล",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 2\nเริ่มต้นสัปดาห์นี้ อดัม ได้เข้ามาปลุกสาวๆที่บ้านพักแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมตัวเดินทางออกไปทำโจทย์ประจำสัปดาห์ โดยหัวข้อในครั้งนี้คือ การออกกำลังกาย ในระหว่างที่เดินทางออกไปยังค่าย แจนิซ ได้พูดถึง เทีย ในแง่ลบ ซึ่งทำให้มารี และพูจา รู้สึกประหลาดใจ เนื่องจากสาวๆในบ้านคิดว่า พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ในการแข่งขัน สาวๆจะได้แข่งกันเป็นทีม โดยผู้ที่ได้ภาพที่ดีที่สุดในครั้งก่อน จะได้เป็นหัวหน้าทีม คือ มารี และ โจเซฟิน ซึ่งสุดท้ายแล้ว เทีย เป็นคนเดียวที่ไม่มีใครเลือกเลย เธอจึงต้องเป็นทีมที่มีคนเดียว โดยสาวๆแต่ละทีม จะต้องฝ่าด่านต่างๆของการฝึก ซึ่งทีมที่ทำเวลาได้น้อยที่สุด จะได้เป็นทีมที่ชนะ สุดท้ายแล้ว เทีย ซึ่งมีร่างกายที่แข็งแรง ทำเวลาได้น้อยที่สุด เธอจึงเป็นผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้ รางวัลของเธอคือ จะได้ใช้เวลาในการทำสปาทรีทเม้นท์ โดยเธอได้เลือก แจนิซ ร่วมแบ่งปันรางวัลกับเธอด้วย",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดในสัปดาห์ ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ผู้ที่ถูกคัดออกจากการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกจากการแข่งขัน แต่ได้รับโอกาสให้แก้ตัวอีกครั้ง ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายหลัง แต่ที่จริงแล้ว เป็นกรรมการที่ปลอมตัวมา",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก: ชิคิน โกเมซ ผู้ที่ตกเป็นสามคนสุดท้าย: ซินดี้ เฉิน, โดโรธี เพทโซลด์ และวาเลรี่ คราสนาเดวี ผู้ที่ถูกคัดออก: โดโรธี เพทโซลด์ และ วาเลรี่ คราสนาเดวี ผู้กำกับวิดีโอ: เควิน โอ แขกรับเชิญพิเศษ: คิม โจนส์, เรย์น รีด",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 2\nการตัดสินครั้งที่สองจะเป็น การตัดสินจากการเดินแบบครั้งสุดท้าย และเป็นอีกครั้งที่ ชีน่า ได้รับการยกย่องว่า มีใบหน้าที่เป็นเอเชียแบบทันสมัย ในขณะที่ โจดิลลี่ ก็มีการเดินแบบที่แข็งแกร่ง และยังมีใบหน้าที่เป็นสาวเอเชียแบบคลาสสิค และเมื่อทั้งสองคนถูกเรียกกลับมา ผู้ชนะ ของเอเชีย เน็กซ์ ทอป โมเดล ฤดูกาลที่สอง คือ ชีน่า เลียม",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 2\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 2 เป็นฤดูกาลที่ 2 ของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบ ในระดับมืออาชีพ โดยสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมากจากเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะถ่ายทำรายการ ใน ประเทศมาเลเซีย และเริ่มออกอากาศวันที่ 8 มกราคม 2557 เป็นวันแรก",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 1\nต่อมา สาวๆได้เดินทางมาที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการเดินแบบครั้งสุดท้าย พวกเธอจะได้สวมชุดราตรีที่ออกแบบโดย เฟรเดอริก ลี ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก วัฒนธรรมชาวเขาของเอเชีย โดยจะได้สาวๆที่ถูกคัดออกไปแล้ว เฮเลน่า, โซเฟีย, ทรัง, ฟีแลนโทรปี, เคย์ล่า และอาสธา รวมถึง โซฟี่ ซัมเนอร์ ผู้ชนะจาก อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 18 มาร่วมเดินแบบอีกด้วย ซึ่งพวกเธอ ก็สามารถทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งหลังจากเดินแบบเสร็จ ไทรา แบงส์ จึงได้เข้ามาพูดคุยกับสาวๆที่หลังเวที",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nในการแข่งขัน สาวๆต่างเลือกจับคู่กันเอง และถ่ายภาพให้ซึ่งกันและกัน ซึ่งสาวๆแต่ละกลุ่ม ก็ประสบปัญหาที่แตกต่างกันออกไป สุดท้ายแล้ว โดโรธี เป็นผู้ชนะในครั้งนี้ จากภาพถ่ายที่ออกมาดูสร้างสรรค์มากที่สุด เมื่อผลคะแนนการแข่งขันปรากฏออกมา ได้เกิดความตึงเครียดขึ้น เมื่อ วาเลรี่ รู้สึกว่า โดโรธี ไม่ควรชนะการแข่งขันในครั้งนี้ จึงเกิดการโต้แย้งกันระหว่าง นามีธา, วาเลรี่ และเวโรนิก้า",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5 เป็นฤดูกาลที่ 5 ของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบ ในระดับมืออาชีพ โดยสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะถ่ายทำรายการ ใน ประเทศสิงคโปร์ เริ่มออกอากาศ 5 เมษายน 2560 โดยในฤดูกาลนี้จะยังคงตัดสินโดยการให้คะแนนจากการแข่งขันประจำสัปดาห์และคะแนนจากคณะกรรมการในห้องตัดสินเช่นเดียวกันกับ ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยธีมของฤดูกาลนี้ คือ \"คาดหวังในสิ่งที่ไม่คาดคิด\" (Expect The Unexpected)",
"บริเทนส์เน็กซต์ท็อปโมเดล\nในฤดูกาลที่ 7 ทางรายการได้เปลี่ยนชื่อรายการจาก \"บริเทนส์เน็กซต์ท็อปโมเดล\" มาเป็น \"บริเทนแอนด์ไอร์แลนส์เน็กซต์ท็อปโมเดล\" เพื่อเปิดกว้างการรับสัมครนางแบบในประเทศไอร์แลนด์ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อกลับเป็นเหมือนเดิม แต่ยังคงรับสมัครนางแบบในไอร์แลนด์\nในปี 2555 ผู้เข้าแข่งจากฤดูกาลที่ 2 - 5 ได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 18 ในชื่อว่า อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล:บริทิช อินเวชั่น (America's Next Top Model: British Invasion) โดยทั้งหมดจะต้องไปแข่งขันเป็นทีมกับนางแบบชาวอเมริกัน และ โซฟี่ ซัมเนอร์ จากฤดูกาลที่ 5 ได้คว้าตำแฟน่งผู้ชนะเลิศในฤดูกาลดังกล่าวด้วย",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 3\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 3 เป็นฤดูกาลที่ 3 ของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบ ในระดับมืออาชีพ โดยผู้ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมากจากเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะถ่ายทำรายการ ใน ประเทศสิงคโปร์ เริ่มออกอากาศวันที่ 25 มีนาคม 2558 เป็นวันแรก",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล () เป็นรายการเรียลลิตีโชว์ที่ทำการคัดเลือกสาวๆจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย ที่ใฝ่ฝันจะเป็นสุดยอดนางแบบในระดับมืออาชีพ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องขับเคี่ยวและฟ่าฝ่าอุปสรรคต่างๆนานา ในการขึ้นอยู่ไปอยู่ในระดับสุดยอดนางแบบ ทั้งการถ่ายภาพ การถ่ายโฆษณา ซึ่งเริ่มออกอากาศครั้งแรกทางช่อง สตาร์เวิลด์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5\nหมวดหมู่:เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล หมวดหมู่:การแข่งขัน หมวดหมู่:การประกวดนางแบบ หมวดหมู่:เรียลลิตีโชว์",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 6\nซึ่งผู้ชนะในฤดูกาลนี้ คือ เดนา สโลซาร์ ตัวแทนจาก ประเทศไทย ซึ่งเธอจะได้รับรถยนต์ ซูบารุ เอ็กซ์วี หนึ่งคัน, ถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ทและขึ้นหน้าปกให้กับ นิตยสาร ฮาร์เปอร์ บาซาร์ ไทยแลนด์, ได้เป็นตัวละครส่วนหนึ่งของเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ อเมริกาส์เน็กซ์ท็อปโมเดล และเซ็นสัญญานางแบบกับเอเจนซี่ สตอร์ม โมเดล แมเนจเมนท์ ที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ",
"บริเทนส์เน็กซต์ท็อปโมเดล\nบริเทนส์เน็กซต์ท็อปโมเดล () เป็นรายการเรียลลิตีโชว์ที่ออกอากาศอยู่ทางช่อง ลิวิง โดยจะทำการคัดเลือกหญิงสาวจากทั่วประเทศที่ใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นนางแบบ ในเงื่อนไขที่ว่า ผู้สมัครเข้าแข่งขันต้องไม่เคยทำงานหรือทำสัญญากับบริษัทโมเดลลิ่งใดๆ มาก่อนเลยในระยะเวลา 5 ปี โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องผ่านบททดสอบมากมาย และผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ และเป็นใบเบิกทางสำหรับอาชีพนางแบบต่อไป",
"เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 6\nเอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 6 เป็นฤดูกาลที่ 6 ของ เอเชียส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ที่ต้องการค้นหาสุดยอดนางแบบ เพื่อทำงานในวงการนางแบบในระดับมืออาชีพ โดยสาวๆ ที่เข้าแข่งขัน จะต้องมีเชื้อสายของเอเชียเท่านั้น โดยส่วนมากจะมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลแรกที่จะถ่ายทำรายการ ใน ประเทศไทย เริ่มออกอากาศ 22 สิงหาคม 2561 โดยในฤดูกาลนี้จะยังคงตัดสินโดยการให้คะแนนจากการแข่งขันประจำสัปดาห์และคะแนนจากคณะกรรมการในห้องตัดสินเช่นเดียวกันกับ ฤดูกาลที่ผ่านมา และในฤดูกาลนี้จะมีโมเดลเมนเทอร์คอยดูแลและให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งมี โมนิกา ซานตา มาเรีย อดีตผู้เข้าแข่งขันจาก ฤดูกาลที่ 3 ชิคิน โกเมซ และ มิญ ตู้ เหงียน อดีตผู้เข้าแข่งขันจาก ฤดูกาลที่ 5 มาทำหน้าที่ในครั้งนี้ โดยธีมของฤดูกาลนี้ คือ \"\"เหนือขีดจำกัด\" (Beyond Limits)\""
] | 18 |
บางรักซอย 9/1 เป็นเรื่องราวความรักความอลวนต่อจาก บางรักซอย 9 ของชัดเจนและแป้งใช่หรือไม่? | [
"1\nบางรักซอย 9/1 เป็นละครโทรทัศน์ประเภทซิตคอม สร้างโดยเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ กำกับการแสดงโดยพงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ และเสกสรรค์ สิงอุไร นำแสดงโดยศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, พิยดา จุฑารัตนกุล, ตงตง เดอะสตาร์ 12 และกรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ (อ๊ะอาย เดอะวอยซ์คิดส์ 2) เป็นเรื่องราวความรักความอลวนต่อจาก บางรักซอย 9 ของชัดเจนและแป้ง ที่ส่งต่อถึงรุ่นลูกอย่างชัดแจ้งและแป้งหอม ออกอากาศทางช่องวัน ในช่วง วันขำดี คอเมดี้ที่สองทุ่ม ทุกวันอังคาร เวลา 20.00–20.30 น. ก่อนละครดีดูที่ช่องวันประจำวันอังคาร เริ่มออกอากาศวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559[1][2] เฉพาะวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 – 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เพิ่มเวลาเป็น 19.45–20.30 น. ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ได้ปรับเวลาการออกอากาศให้มาเร็วขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มเวลาเป็น 19.15–20.15 น. และล่าสุดตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป พบกับเวลาใหม่เป็น 19.10–19.55 น. ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เป็นเวลา 19.00–20.00 น. และซิตคอมเรื่องนี้จะออกอากาศเป็นตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่ 1 ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561 ฤดูกาลที่ 2 จะกลับมาออกอากาศในวันและเวลาใหม่ ทุกวันอาทิตย์ 17.00–18.00 น."
] | [
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nวันหนึ่งหลังจากที่ชัดเจนเห็นปุ้ม หญิงสาวที่ตัวเองหลงรักเดินจับมือกับชายอื่น ชัดเจนจึงได้เขียนจดหมายไปหาปุ้มเพื่อต่อว่าขณะที่ตนเองกำลังเมา แต่กลับกลายเป็นว่าจดหมายส่งไปผิดบ้าน แป้งเป็นผู้ได้รับจดหมายและเขียนตอบกลับมาเพื่อต่อว่าชัดเจน ทั้งคู่เขียนจดหมายตอบโต้กันไปมาโดยใช้ชื่อเรียกแทนตัวเองว่า \"ชายน้อย\" และ \"ปริศนา\" โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้จักชื่อที่แท้จริงของกันและกัน และไม่เคยเห็นหน้าตากันเลย",
"1\nตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 13 ช่องวันได้ทำสัญญาการออกอากาศร่วมกับไลน์ทีวี ในการนำซิตคอมไปปล่อยให้รับชมย้อนหลัง อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนออกอากาศตอนที่ 13 ทางไลน์ทีวีได้แจ้งว่าเป็นตอนอวสาน จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการออกอากาศว่าซิตคอมจะจบในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ มีการออกอากาศละครเรื่องนี้ตามปกติ และในสัปดาห์นั้นเป็นช่วงที่ช่องวันปรับผังออกอากาศมาเริ่มทำ Facebook Live และ YouTube Live เพิ่มเติม จึงระบุสาเหตุได้อย่างชัดเจนว่าทางไลน์ทีวีไม่ต่อสัญญา แต่เลือกทำสัญญากับซิตคอม เสือ ชะนี เก้ง แทน ส่วนซิตคอม บางรักซอย 9/1 ได้เริ่มลงย้อนหลังทางยูทูปตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดยลงตั้งแต่ตอนที่ 14 เป็นต้นไป ส่วนตอนที่ 10-13 ได้ทยอยลงในเดือนกุมภาพันธ์ตามสัญญาที่คงเหลือกับไลน์ทีวี ทำให้ในไลน์ทีวีมีซิตคอม บางรักซอย 9/1 ออกอากาศเพียง 13 ตอน จากทั้งหมด 55 ตอน และในฤดูกาลที่ 2 ช่องวันได้นำ บางรักซอย 9/1 กลับไปลงย้อนหลังทาง ไลน์ทีวี อีกครั้ง รวมถึงตอนที่ 14–55 ในฤดูกาลแรกด้วย เฉพาะวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 บางรักซอย 9/1 ตอนที่ 17 มีกำหนดออกอากาศช้ากว่าเวลาปกติคือตั้งเริ่มมาแต่เวลา 21.22 น. จนถึงเวลา 21.59 น. เนื่องมาจากเวลา 20.15–21.20 น. ทางสถานีก็ได้ตัดเข้าสัญญาณการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เช่นเดียวกันกับสถานีโทรทัศน์ไทย (ฟรีทีวีและดิจิตอลทีวี) ทุกช่องสถานีวิทยุทุกคลื่นสถานี เข้าสู่การถ่ายทอดสด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพิธีธรรมสวดอภิธรรมพระบรมศพ และพิธีประโคมย่ำยาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 29 ตุลาคม 2560 หรือตลอดทั้งเดือนตุลาคม ทางสถานีของดการออกอากาศละครโทรทัศน์หรือรายการโทรทัศน์ที่สื่อถึงความบันเทิงรื่นเริงใจเนื่องมาจากงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี) ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25–27 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งได้รับคำสั่งและแนวทางในการออกอากาศรายการโทรทัศน์รวมไปถึงสื่อโฆษณาต่าง ๆ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทุกสถานี จากสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT)",
"บางรักซอย 9\nจากนั้นแมนกับรวยก็สงสัยในตัวเจนว่าชอบแป้งจนเป็นความจริง พอเจนจะไปสารภาพรัก เต้ยก็ข้ามาในชีวิตแป้ง เจนก็ได้แต่เสียใจกับทำอะไรไม่ได้ พอรู้ว่าแป้งแอบชอบตนแต่สายไปแล้วเพราะแป้งเลือกเต้ย จนแป้งรับหมั้นเต้ยเจนก็เสียใจกลับสุพรรณไป พอเต้ยประสบอุบัติเหตุเจนจึงรีบมาถ่ายเลือดให้เต้ยมีชีวิตอยู่ดูแลแป้ง แต่เต้ยก็เสียชีวิต จนทำให้พลังพิเศษในตัวแป้งลืมตาตื่นขึ้นมาคือพลังดวงกินผัว แต่งหรือหมั้นกับใครคนนั้นต้องตายเพราะอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ",
"บางรักซอย 9\nก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่ ชัดเจน จะมาเช่าบ้าน แป้ง ด้วยคำโปรยของ ละครเวที ที่ว่า \"หัวใจบางๆตามหาที่พัก แล้วความรักก็เริ่มต้น\" เปิดแสดง 21 รอบ ตั้งแต่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 16 มีนาคม และเพิ่มรอบการแสดงอีก 5 รอบ ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2551 รวมทั้งหมด 26 รอบการแสดง ที่",
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nณ ริมคลองแห่งหนึ่ง ชัดเจนยืนเหม่อมองอยู่ที่ราวสะพานและได้พบกับอาตุ๊ขี้เมา ผู้ที่ทำกิจการโรงน้ำแข็งร่วมกับเพื่อนชื่อนพดลแล้วโดนโกงจนล้มละลาย บ้านโดนธนาคารยึดจึงต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านแม่ยายในบางรักซอย 9 อาตุ๊ได้บอกชัดเจนว่าจะแบ่งบ้านให้เช่า ชัดเจนจึงไปตามที่อยู่ที่อาตุ๊ให้ไว้เพื่อที่จะขอเช่าบ้านและได้พบกับแป้ง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกัน",
"บางรักซอย 9\nผ่านไปอีก 9 ปีต่อมา (หรือ 18 ปีนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก) ชัดแจ้ง ตรีทิพย์ศิริ ลูกชายของทั้ง 2 คน ได้พูดถึงเรื่องราวความรักของพ่อแม่ตนเอง รวยกับลำดวนมีลูกชาย 1 คน ชื่อสเตฟาน แมนส่งเสียก๋วยเจ๊งเรียนต่อถึงมหาวิทยาลัย ส่วนน้าเยาว์ที่รออาตุ๊ไม่ไหวก็หน้าด้านตามไปหาผัวอยู่อังกฤษ น้ายีก็ยังอยู่ในประเทศไทย ฉากจบของบางรักซอยเก้าเกิดขึ้นเมื่อแป้งกำลังจะบันทึกไดอารี่ และพบกับข้อความของเจนในท้ายไดอารี่ที่เจนแอบเขียนไว้หลัจากชัดแจ้งเกิดมา ซึ่งไดอารี่นั้นเป็นเรื่องราวที่บันทึกเรื่องราวของชัดเจนไว้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกับเจน จนกระทั่งเมื่อตนเองกำลังจะตั้งท้องลูกคนที่ 2 แป้งได้เข้ามาโอบกอบเจนและชัดแจ้ง ทั้ง 2 ได้ฝ่าฟันเรื่องราวมาตลอด 9 ปี จนกระทั่งได้แต่งงานมีลูกและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป",
"1\nบางรักซอย 9 เนื้อเรื่องภาคแรก ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage เนื้อเรื่องการพบกันระหว่างชัดเจนและแป้งครั้งแรก",
"บางรักซอย 9/1\nเจนกับแป้งมีลูกชายชื่อ ชัดแจ้ง ลูกสาวชื่อ แป้งหอม",
"1\nบางรักซอย 9/1 เรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงชีวิตของ บางรักซอย 9 ระหว่างปี พ.ศ. 2546–2555 ซึ่งภาคแรกคือเรื่องของลูกสาวเจ้าของบ้านเช่า มีความฝันอย่างเปิดร้านเบเกอรีแต่ต้องคอยทำเค้กขายตามบ้านกับเป็นครูสอนพิเศษไปวัน ๆ กับสถาปนิกหนุ่มที่เป็นคนเช่าบ้าน โดยทั้งคู่ต่างชอบกันแต่ไม่กล้าบอก เพราะกลัวเสียหน้า กับมีอุปสรรคต่าง ๆ คือหมียวแฟนเก่าเจนมาก่อกวน ปูนิ่มลูกสาวเจ้านายเจนที่กุมความลับเจน (ความลับไม่มีอะไรเลย) พี่เต้ยรุ่นพี่ของแป้ง แล้วความรักก็จบลงเมื่อแป้งตกลงรับหมั้นเต้ย แต่พลังดวงกินผัวของแป้งลืมตาตื่นทำให้เต้ยถูกรถชน เจนจึงรีบไปถ่ายเลือดช่วย แต่เต้ยก็เสียชีวิต ต่อมาเจนมาปลอบแป้งจนความรักของทั้งคู่ก่อตัวเป็นรูปร่างคือ ลำดวนไปฟังผิดว่าเจนทำเหมียวท้อง กับให้ทำแท้ง พอแป้งไปถามเจน จนเจนบอกว่าไม่ได้ทำ กับเผลอบอกชอบแป้งไป แป้งก็ตีตัวออกห่าง แต่พอรู้ว่าก่อนเต้ยตาย ช่วยกลับมาให้เลือดรักษาคุณเต้ย จนแป้งเริ่มชอบเจน แต่เจนที่ไม่เห็นความหวังคิดกลับสุพรรณ พอแป้งรู้จึงหน้าด้านมาตามง้อ จนทั้งคู่แอบคบกัน แต่คนใกล้ตัวทั้งคู่ก็มาจับได้ทีละคน ชายเหวงที่ป้าจันทร์เรียกมาดูตัวแป้งก็จับได้ใส่ความเจน เจนแฉตัวเองกับน้าเยาว์ ทำคะแนนได้มาก แต่บริษัทเจนก็เจ๊ง เจนแมน รวยจึงรีบลาออกมาเป็นบริษัทที่บ้านเช่าเจนคอยทำงานออกแบบหาเงินจากลูกค้าเก่า ๆ พอเจนเห็นความรักของแมนกับคุณรินที่จบแบบสายเกินไป จึงคิดขอแป้งแต่งงาน ชายเหวงก็ทำตาม จนเรื่องจนวุ่นวายกับน้าเยาว์เข้าโรงพยาบาล พอพ่อเลี้ยงแป้งมาช่วยให้เจนกับแป้งแต่งงานกัน แต่พลังดวงกินผัวของแป้งก็หวังฆ่าเจนกับป๊าอ่ำจนรถชน ทางเจนรอดแต่ความจำเสื่อม พอแป้งถามประโยคประจำตัว เจนกลับมาจำได้ พอเจนหายดี กลับมาแต่งงานกัน แต่ต้องย้ายที่แต่งงานไปแต่งที่สุพรรณ เพราะป๊าอ่ำเอาคืนเรื่องพาเจนกับแป้งย้ายไปสุพรรณไม่ได้ น้าเยาว์จึงต้องยอม",
"บางรักซอย 9\nบ้านนี้ที่บางรัก ที่นำนักแสดงซิตคอมบางรักซอย 9 และบ้านนี้มีรัก มาแสดงร่วมกัน ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage บางรักซอย 9/1",
"บางรักซอย 9\nช่วงพักการแสดงละครเวทีในเดือนเมษายน 2551 ก่อนที่ ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage จะกลับมาอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2551 ละครซิตคอม บางรักซอย 9 ได้เชื่อมโยง 3 ตัวแสดงจากละครเวทีให้มาอยู่ใน บางรักซอย 9 ทางโทรทัศน์ด้วย คือ \"ปุ้ม\" แฟนเก่าของชัดเจนที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้ชัดเจนเขียนจดหมายไปหา และจดหมายส่งผิดไปบ้านแป้ง, \"นพดล\" เพื่อนที่อาตุ๊หุ้นทำกิจการโรงน้ำแข็งด้วย และทำให้อาตุ๊ล้มละลาย และ \"บุรุษไปรษณีย์\" ให้ปรากฏตัวทางโทรทัศน์",
"บางรักซอย 9\nคือคำว่ารักเธอ โดย แจ๊ค สุขารมณ์ เวอร์ชันช้า ถามใจ โดย วิเชียร ตันติพิมลพันธ์ ใช้ในช่วงแรก จนถึงการเสียชีวิตของพี่เต้ย ใจจะขาด โดย อาร์ เดอะสตาร์ 3 (อัลบั้ม R-Positive) ใช้ตั้งแต่การเสียชีวิตของเต้ยจนถึงตอนที่ชัดเจนหลุดปากบอกรักแป้ง โทรมา...ว่ารัก โดย บี้ เดอะสตาร์ 3 (อัลบั้ม นัดพิเศษ) ใช้ตั้งแต่ชัดเจนหลุดปากบอกรักแป้งเป็นต้นมา รักเธอไปทุกวัน โดย วง Potato (อัลบั้ม Refresh) ใช้ตั้งแต่ ละครเวที ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage แสดงมาได้ระยะหนึ่ง สละโสด โดย ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ใช้ตั้งแต่ ชัดเจนและแป้งแต่งงานกัน กันเอง โดย กัน เดอะสตาร์ 6 (อัลบั้ม กันเอง) ใช้ในช่วงโปรเจกต์บ้านนี้ที่บางรัก",
"บ้านนี้ที่บางรัก\nบ้านนี้ที่บางรัก เป็นซิตคอมโปรเจกต์พิเศษของเอ็กแซ็กท์ ที่นำซิตคอมเรื่อง บางรักซอย 9 และ บ้านนี้มีรัก ของ เอ็กแซ็กท์ และ ซีเนริโอ มาผสมผสานกัน โดยมีตัวละครเหมือนเดิม และมาแสดงร่วมกัน กำกับการแสดงโดย พงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ และ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล นอกจากนี้ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษคือ ปิยธิดา วรมุสิก และตัวละครใหม่ของเรื่องบ้านนี้มีรัก รับบทโดย บุษกร ตันติภนา ออกอากาศทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 - 19.00 น. ออกอากาศวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 โดยออกอากาศทั้งหมด 16 ตอนเป็นตอนแรกที่เปิดตัวนักแสดงทั้งหมด และความสัมพันธ์ของแต่ละคน เช่น แป้ง กับ รัก เป็นเพื่อนสนิทกัน น้าเยาว์ กับ คุณน้อย สนิทกัน ปิ๊ก ไม่ถูกกันกับ ลิงก์ เนื่องเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นทั้งคู่ก็ดันมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันอีก สกล ก็ไม่ถูกกับ เฮียหมู และ ก๊วยเจ๋ง กับ มิค สนิทกัน แฮงค์ กับ ฮาร์ท เป็นฝาแฝดกัน ในเรื่องนี้ เป็นต้น",
"บางรักซอย 9/1\nพอผ่านไป 16 ปี คือในปี พ.ศ. 2571 จากบางรักซอย 9 ถูกทำถนนเพิ่มซอยขึ้นจนกลายเป็นบางรักซอย 9/1 ส่วนคนรู้จักของเจนกับแป้งต่างแยกย้ายกันไปจนหมด ได้แก่ ",
"บางรักซอย 9\nหมายเหตุ: รวมทั้งสิ้น 50 ตอน บ้านนี้ที่บางรัก ที่ออกอากาศในบางรักซอย 9 รวมทั้งสิ้น 9 ตอน",
"บางรักซอย 9\nบางรักซอย 9 เป็นละครโทรทัศน์ประเภทซิตคอม (Situation Comedy) สร้างโดยบริษัท เอ็กแซ็กท์ กำกับการแสดงโดย จิรศักดิ์ โย้จิ้ว และ พงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ นำแสดงโดย ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และ พิยดา อัครเศรณี เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชัดเจน สถาปนิกหนุ่มเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ ได้เช่าบ้านของแป้งแม่เยาว์และพ่อตุ๊ขี้เมา เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในบ้าน ความสัมพันธ์ของชัดเจนกับแป้งที่ก่อตัวขึ้น ออกอากาศครั้งแรกทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี ทุกวันเสาร์ เวลา 18.00 น. - 19.00 น. เริ่มออกอากาศวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2546 ถึงวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 และได้มีการจัดทำเป็นวีซีดี ละครเวทีในปี พ.ศ. 2551 ที่มีชื่อตอนว่า ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage",
"บางรักซอย 9\nอย่างไรก็ตาม บางรักซอย 9 กลับมาอีกครั้งในชื่อ บางรักซอย 9/1 ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 20.00-20.30 น. ทาง ช่องวัน เริ่มวันที่ 4 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป โดยมีการเพิ่มนักแสดงรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ได้แก่ กฤษกร กนกธร กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ ชานน สันตินธรกุล และ ธีธัช รัตนศรีทัย",
"บางรักซอย 9\nในตอนอวสานของบางรักซอย 9 ที่ชื่อว่า \"นิยามรัก ชัดเจน + แป้ง\" จะต่อเนื่องจากความเดิมตอนที่แล้วที่เจนได้ประสบอุบัติเหตุจากการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ตกลงคลอง (เป็นการประสบอุบัติเหตุครั้งที่ 3 ของเจน ต่อจากครั้งที่ถูกรถชนพร้อมกับรัก และถูกรถชนพร้อมกับป๋าอ่ำ โดยทุกทีที่เจนโดนเพราะแป้งควบคุมพลังพิเศษพลังดวงกินผัวของตัวเองไม่ได้ จนเจนบาดเจ็บเกือบตาย) พอเจนฟื้นออกจากโรงพยาบาล เจนความจำเสื่อมหนักกว่าเก่า จนเป็นปัญญาอ่อนไปถึงขนาดจำทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เลย ถึงขั้นไม่พูดกับใคร จนกระทั่งเมื่อรวยเล่นมุขน้ำเน่าใส่ลำดวน รวยพูดประโยคประจำตัวของเจนคือ ถึงน้ำเจะน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ ทำให้เจนจำได้จึงเอ่ยประโยคประจำตัวตนเองมาพร้อมกับความจำทั้งหมด แต่แกล้งจำแป้งไม่ได้สักพัก จนกระทั่งได้บอกว่าจำแป้งได้แล้ว สร้างความประทับใจให้กับทุกๆคนมาก แมนได้บอกว่าจะไปอวยพรโจกับแจ๋วให้มีชีวิดที่ดี ทางปิ๊กก็ตัดสินใจบอกรักน้องพิมออกสื่อ ับแฉว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์จนโดนเด้งออกจากงานไป แล้วในฉากต่อมาเป็นฉากที่ทุกคนกำลังคิดชื่อของลูกเจนและแป้ง ลำดวนเผลอทำแกงร้อนใส่รวยแล้วเอาผ้ามาเช็ดให้รวยจนเกิดคืนดีกัน แต่ละคนได้คิดชื่อมา เฮียหมูตั้งชื่อให้ว่า \"กระท่อม\" เพราะเป็นสถานที่ที่เจนกับแป้งเคยหลบฝนด้วยกัน รวยได้ตั้งชื่อให้ว่า \"โลเล\" เพราะตรงกับจิตใจของเจนตอนกำลังจะบอกรักแป้ง และลำดวนก็ตั้งชื่อให้ว่า \"ลังเล\" ด้วยเหตุผลเดียวกับรวย ส่วนแมนก็ตั้งชื่อลูกว่า \"บ้านเช่า\" เพราะเหตุผลว่าเป็นสถานที่แรกที่เจนกับแป้งเจอกันครั้งแรกของเรื่องราวความรักของทั้งคู่ โดยชื่อเต็มคือ \"บ้านเช่าหลังละพันห้า จ่ายช้าน้าเยาว์ปรับวันละร้อย งกชิบเป๋ง!\" โดยชื่อที่แมนคิดกระจอกกว่ากระท่อมมาก แล้วกระจอกที่สุด ซึ่งทุกคนได้โต้เถียงกันเรื่องชื่อลูกของเจน ทางเจนและแป้งขอคิดชื่อลูกเอง ตัดมาที่ฉากหลังบ้าน แป้งนั่งคิดกับเจนนั่งพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่เจนจะคิดชื่อลูกต่อ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเจนที่ตอนความจำเสื่อมแป้งได้ตั้งท้อง เจนได้ใช้ประสบการณ์เป็นพ่อคนไประยะหนึ่ง ถาเกิดแป้งท้องตอนเจนไม่ความจำเสื่อมเผลอๆ ดีไม่ดีเจนอาจเครียดกับเป็นบ้าไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวถึงขั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว กับพอเจนความจำกลับมา จึงได้ประสบการณ์กับมีความสุข แล้วพลังพิเศษพลังดวงกินผัวในตัวแป้งที่เป็นต้นเหตุทวีความรุนแรงหมายจะฆ่าเจนเหมือนตอนเต้ยก็หายไป",
"บางรักซอย 9\n“บางรักซอย 9” เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงชีวิตของคนในวัยทำงาน ที่มีทั้งเรื่องอาชีพ อนาคตและความรักเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อน สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบันออกมานำเสนอในรูปแบบตลกและแฝงแง่คิด ความรู้สึก",
"บางรักซอย 9/1\nบางรักซอย 9/1 เป็นละครโทรทัศน์ประเภทซิตคอม สร้างโดยเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ กำกับการแสดงโดยพงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ และเสกสรรค์ สิงอุไร นำแสดงโดยศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, พิยดา จุฑารัตนกุล, ตงตง เดอะสตาร์ 12 และกรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ (อ๊ะอาย เดอะวอยซ์คิดส์ 2) เป็นเรื่องราวความรักความอลวนต่อจาก \"บางรักซอย 9\" ของชัดเจนและแป้ง ที่ส่งต่อถึงรุ่นลูกอย่างชัดแจ้งและแป้งหอม ออกอากาศทางช่องวัน ในช่วง วันขำดี คอเมดี้ที่สองทุ่ม ทุกวันอังคาร เวลา 20.00–20.30 น. ก่อนละครดีดูที่ช่องวันประจำวันอังคาร เริ่มออกอากาศวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เฉพาะวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 – 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เพิ่มเวลาเป็น 19.45–20.30 น. ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ได้ปรับเวลาการออกอากาศให้มาเร็วขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มเวลาเป็น 19.15–20.15 น. และล่าสุดตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป พบกับเวลาใหม่เป็น 19.10–19.55 น. ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เป็นเวลา 19.00–20.00 น. และซิตคอมเรื่องนี้จะออกอากาศเป็นตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่ 1 ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561 ฤดูกาลที่ 2 จะกลับมาออกอากาศในวันและเวลาใหม่ ทุกวันอาทิตย์ 17.00–18.00 น.",
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage คือ ละครเวที ที่อ้างอิงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า (prequel) ละคร ซิตคอม เรื่อง บางรักซอย 9 ทาง ช่อง 9 อสมท. ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 18.00-19.00น. โดยออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2546",
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nก่อนจะถึง บางรักซอย9 on stage คือ เรื่องเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่ ชัดเจน จะมาเช่าบ้าน แป้ง ที่อยู่ใน บางรักซอย 9",
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nเรื่องราวใน ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage คือเรื่องราวในปี พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2545 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ชัดเจนจะมาเช่าบ้านของแป้งอยู่ เขียนบทโดยทีมผู้ผลิตซิตคอมอันโด่งดังจากเรื่อง บางรักซอย 9 เป็นต่อ บ้านนี้มีรัก ผู้กองเจ้าเสน่ห์ กำกับการแสดงโดย จิรศักดิ์ โย้จิ้ว และควบคุมคุณภาพละครเวทีโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ",
"บางรักซอย 9/1\n\"บางรักซอย 9/1\" เรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงชีวิตของ \"บางรักซอย 9\" ระหว่างปี พ.ศ. 2546–2555 ซึ่งภาคแรกคือเรื่องของลูกสาวเจ้าของบ้านเช่า มีความฝันอย่างเปิดร้านเบเกอรีแต่ต้องคอยทำเค้กขายตามบ้านกับเป็นครูสอนพิเศษไปวัน ๆ กับสถาปนิกหนุ่มที่เป็นคนเช่าบ้าน โดยทั้งคู่ต่างชอบกันแต่ไม่กล้าบอก เพราะกลัวเสียหน้า กับมีอุปสรรคต่าง ๆ คือหมียวแฟนเก่าเจนมาก่อกวน ปูนิ่มลูกสาวเจ้านายเจนที่กุมความลับเจน (ความลับไม่มีอะไรเลย) พี่เต้ยรุ่นพี่ของแป้ง แล้วความรักก็จบลงเมื่อแป้งตกลงรับหมั้นเต้ย แต่พลังดวงกินผัวของแป้งลืมตาตื่นทำให้เต้ยถูกรถชน เจนจึงรีบไปถ่ายเลือดช่วย แต่เต้ยก็เสียชีวิต ต่อมาเจนมาปลอบแป้งจนความรักของทั้งคู่ก่อตัวเป็นรูปร่างคือ ลำดวนไปฟังผิดว่าเจนทำเหมียวท้อง กับให้ทำแท้ง พอแป้งไปถามเจน จนเจนบอกว่าไม่ได้ทำ กับเผลอบอกชอบแป้งไป แป้งก็ตีตัวออกห่าง แต่พอรู้ว่าก่อนเต้ยตาย ช่วยกลับมาให้เลือดรักษาคุณเต้ย จนแป้งเริ่มชอบเจน แต่เจนที่ไม่เห็นความหวังคิดกลับสุพรรณ พอแป้งรู้จึงหน้าด้านมาตามง้อ จนทั้งคู่แอบคบกัน แต่คนใกล้ตัวทั้งคู่ก็มาจับได้ทีละคน ชายเหวงที่ป้าจันทร์เรียกมาดูตัวแป้งก็จับได้ใส่ความเจน เจนแฉตัวเองกับน้าเยาว์ ทำคะแนนได้มาก แต่บริษัทเจนก็เจ๊ง เจนแมน รวยจึงรีบลาออกมาเป็นบริษัทที่บ้านเช่าเจนคอยทำงานออกแบบหาเงินจากลูกค้าเก่า ๆ พอเจนเห็นความรักของแมนกับคุณรินที่จบแบบสายเกินไป จึงคิดขอแป้งแต่งงาน ชายเหวงก็ทำตาม จนเรื่องจนวุ่นวายกับน้าเยาว์เข้าโรงพยาบาล พอพ่อเลี้ยงแป้งมาช่วยให้เจนกับแป้งแต่งงานกัน แต่พลังดวงกินผัวของแป้งก็หวังฆ่าเจนกับป๊าอ่ำจนรถชน ทางเจนรอดแต่ความจำเสื่อม พอแป้งถามประโยคประจำตัว เจนกลับมาจำได้ พอเจนหายดี กลับมาแต่งงานกัน แต่ต้องย้ายที่แต่งงานไปแต่งที่สุพรรณ เพราะป๊าอ่ำเอาคืนเรื่องพาเจนกับแป้งย้ายไปสุพรรณไม่ได้ น้าเยาว์จึงต้องยอม",
"1\nพอผ่านไป 16 ปี คือในปี พ.ศ. 2571 จากบางรักซอย 9 ถูกทำถนนเพิ่มซอยขึ้นจนกลายเป็นบางรักซอย 9/1 ส่วนคนรู้จักของเจนกับแป้งต่างแยกย้ายกันไปจนหมด ได้แก่",
"บ้านนี้มีรัก\nรักเกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2521 เป็นเพื่อนแป้งกับเดือนในเรื่องบางรักซอย 9 จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยศิลปากรด้วยกัน แต่เรียนคนละคณะ ตอนไปบ้านแป้ง ก่อเรื่องเกือบทำให้เต้ยเลิกกับแป้ง หลอกถามเดือนจนรู้ว่าแป้งเคยชอบเจน เมาเผลอบอกเจน",
"ก่อนจะถึง บางรักซอย 9 on stage\nในเวลาต่อมา แป้งเป็นทั้งเพื่อนพูดคุยและเป็นทั้งผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรักของชัดเจน โดยที่แป้งเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้เริ่มชอบชัดเจนตั้งแต่เมื่อไหร่ ในจดหมายฉบับหนึ่งชัดเจนเขียนมาหาแป้งเพื่อขอคำปรึกษาในการจีบน้องแคทหญิงสาวคนใหม่ที่ชัดเจนแอบชอบ ถึงแป้งเองจะเสียใจที่ได้รู้ว่าชัดเจนมีคนที่แอบชอบอยู่แต่แป้งก็ได้ให้คำแนะนำชัดเจนในการจีบน้องแคท แล้วก็ไม่ลืมที่จะบอกให้ชัดเจน \"ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง\" ในที่สุดเมื่อชัดเจนรู้หัวใจตัวเองแล้วว่าจริงๆชอบใครระหว่างน้องแคทกับปริศนา ชัดเจนจึงตัดสินใจที่จะบอกให้หญิงคนนั้นรับรู้ และเขียนจดหมายไปขอบคุณปริศนาที่บอกให้ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองและบอกปริศนาว่าต่อไปนี้จะไม่เขียนจดหมายหาปริศนาอีก ทำให้แป้งผิดหวังเพราะเข้าใจว่าชัดเจนชอบน้องแคทจริงๆ ในวันที่ชัดเจนตั้งใจที่จะไปบอกรักปริศนา ชัดเจนก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อแป้งได้ย้ายออกจากบางรักซอย 19 ไปแล้ว",
"พิยดา จุฑารัตนกุล\n2546 - 2555 - บางรักซอย 9 รับบท แป้ง ออกอากาศทางช่อง 9 แสดงคู่กับ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง 2553 - บ้านนี้ที่บางรัก รับบท แป้ง ออกอากาศทางช่อง 9 แสดงคู่กับ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง 2559 - ปัจจุบัน - บางรักซอย 9/1 รับบท แป้ง ออกอากาศทางช่องวัน แสดงคู่กับ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง",
"บางรักซอย 9\nผู้คิดโครงเรื่องละคร คือ ถกลเกียรติ วีรวรรณ, ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, จิรศักดิ์ โย้จิ้ว, ศุภกร เหรียญสุวรรณ, ดนัย อัมพรดนัย และในวันที่ 28 เมษายน 2555 ละครบางรักซอย 9 จะเป็นการออกอากาศครั้งสุดท้ายโดยให้เหตุผลว่าละคร บางรักซอย 9 มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ไม่อยากให้คนเมาอีก"
] | 12 |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี มีพี่น้องกี่คน ? | [
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระองค์มีพระขนิษฐาที่ประสูติร่วมพระมารดาอีก 2 พระองค์ ซึ่งมีพระนามที่คล้องจองกัน ได้แก่ ศรีวิไลยลักษณ์ สุวพักตร์วิไลยพรรณ และบัณฑรวรรณวโรภาส"
] | [
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nการที่พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายในที่ \"กรมขุน\" นั้นเป็นการทรงกรมเท่ากับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ชั้นเจ้าฟ้า ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้รับพระราชทานจากพระบรมราชชนกเป็นพิเศษอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากตามธรรมเนียมการทรงกรมของพระเจ้าลูกเธอ ชั้นพระองค์เจ้านั้น จะเริ่มทรงกรมที่ \"กรมหมื่น\" และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ชั้นเจ้าฟ้าจะเริ่มทรงกรมที่ \"กรมขุน\"[6] นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 พระองค์แรกและเป็นพระเจ้าลูกเธอ ชั้นพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ 5 พระองค์เดียวที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าต่างกรม",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปในงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพของกรมขุนสุพรรณภาควดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ ก็ประชวรและสิ้นพระชนม์ ด้วยพระอาการไข้พิษ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448[13][14] ซึ่งในสี่แผ่นดินกล่าวว่า \"ต้องเชิญพระศพพระเจ้าลูกเธอองค์หนึ่งลงมา แล้วเชิญพระศพของอีกพระองค์ขึ้นไป\"[15]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระองค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนี้[20]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.)",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nหลังจากพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดีสิ้นพระชนม์ ณ ตำหนักภายในพระบรมมหาราชวังเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชทานน้ำสรงพระศพ และพระบรมวงศานุวงศ์สรงน้ำพระศพ แล้วจึงโปรดให้เจ้าพนักงานทรงเครื่องพระศพและเชิญลงพระลองในประกอบพระโกศกุดั่นใหญ่ แล้วจึงเชิญพระศพขึ้นประดิษฐานแว่นฟ้า 3 ชั้น ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี สมเด็จพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี พระนางเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเสงี่ยม พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nเนื่องจากพระองค์เป็นที่เคารพรักแก่พระเจ้าน้อง ดังนั้น เมื่อพระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายในนั้น พระเจ้าน้องนางเธอทั้งหลายต่างพากันยินดีและได้ทรงเข้าเงินกันทำสร้อยพระกรประดับเพชรถวายพระองค์ด้วย และในงานฉลองการทรงกรมในครั้งนั้น เป็นที่กล่าวขานถึงความสนุกสนานและยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการการจัดงานนิทรรศการและการประกวดตลับงาซึ่งมีผู้ส่งตลับงาเข้าร่วมงานครั้งนี้หลายร้อยใบ[10]",
"พระราชวังบางปะอิน\nพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประสูติก่อนที่พระองค์จะเสด็จฯ ขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระราชธิดาคู่ทุกข์คู่ยากของรัชกาลที่ 5 หลังจากการทรงกรมเป็น \"กรมขุนสุพรรณภาควดี \"[9] ได้เพียง 1 ปี ก็สิ้นพระชนม์[10] รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระราชวังบางปะอิน โดยใช้พระที่นั่งไอสวรรย์ทิพยอาสน์เป็นที่ประดิษฐานพระศพ และโปรดให้จัดงานพระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ[11] ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่ชาววังว่า ใครไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นคนนอกสังคมชาววัง[2]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 เจ้าพนักงานได้เชิญพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดีออกจากพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ออกไปทางประตูศักดิไชยสิทธิ์ขึ้นประดิษฐานบนรถพระศพ แล้วประกอบพระลองในด้วยพระโกศทองเล็กห้อยเฟื่อง แล้วจึงเชิญพระศพไปยังสถานีรถไฟเพื่อเชิญพระศพไปยังพระราชวังบางปะอินต่อไป",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระองค์ได้รับพระกรุณายกย่องพระเกียรติยศไว้ยิ่งกว่าพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นหลายประการ เช่น ทรงมีสร้อยพระนาม คือ \"สุนทรศักดิกัลยาวดี\" ซึ่งตามปกติแล้วสร้อยพระนามมักจะมีแต่ในพระนามของเจ้าฟ้าที่ประสูติแต่พระภรรยาเจ้า[6] และในพิธีโสกันต์ยังโปรดให้ทำพิธีเขาไกรลาสใหญ่เช่นเดียวกับเขาไกรลาสของเจ้าฟ้า เป็นต้น",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nเจดีย์ซุ้มเรือนแก้ว วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ซุ้มเรือนแก้วขึ้นภายในวัดนิเวศธรรมประวัติเพื่อใช้บรรจุพระอัฐิของพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี ถนนสุพรรณ (ชื่อเดิม ถนนส้มมือหนู) ตั้งตามชื่อเครื่องลายครามที่มีภาพส้มมือผลไม้ของจีนซึ่งถือว่าเป็นโอสถรับประทานแล้วอายุยืน ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ ถนนส้มมือหนู เป็น ถนนสุพรรณ ตรงกับพระนามพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี [22] บ้านสวนสุพรรณ ตั้งอยู่ที่อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นที่พำนักของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ตั้งตามพระนามพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี [23][24]",
"สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์\nสิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการไข้พิษ ณ วรนาฎเกษมสานต์ พระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปในงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้สถาปนาเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร วโรฬารลักษณสมบัติ รัตนกุมารี กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระองค์เป็นพระเจ้าลูกเธอ ชั้นพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ 5 พระองค์เดียวที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าต่างกรมที่ \"กรมขุนสุพรรณภาควดี\" ซึ่งภายหลังจากการทรงกรมเพียง 1 ปี พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ลง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้จัดการพระราชทานเพลิงพระศพที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร โดยให้ตั้งพระศพทรงบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระราชวังบางปะอิน",
"สภากาชาดไทย\nสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร วโรฬารลักษณสมบัติ รัตนกุมารี กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล สรรพสกนธ์กัลยาณี กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เกสร ในรัชกาลที่ 5",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\n\"...กรมพระราชวังบวรฯ (กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ) มิสเตอร์น๊อกซ์ (โทมัส ยอร์ช น็อกซ์) กงสุลอังกฤษ คิดจะเอาพระโอรสองค์ใหญ่มีพระนามว่า พระองค์เจ้าวิลัย (พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิลัยวรวิลาศ) ส่งไปประเทศอังกฤษ เพื่อมิสเตอร์น๊อกซ์จะเปิดเผยที่เมืองอังกฤษว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่มีพระบรมราชโอรสมีแต่พระราชธิดาพระองค์ใหญ่คือ กรมขุนสุพรรณฯ ส่วนกรมพระราชวังบวรฯ มีพระโอรส พระโอรสนี้จะเป็นรัชทายาทต่อไป เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบดังนี้แล้ว จึงทรงพระวิตก คิดจะให้สมเด็จวังบูรพากำชับให้กรมขุนสุพรรณฯ ออกไปเรียนวิชา ณ ประเทศอังกฤษ ความที่ทรงหวังในเวลานั้นจะโปรดเกล้าให้กรมขุนสุพรรณฯ เป็นควีนวิคตอเรีย สมเด็จวังบูรพาเป็น ปรินซ์อารเบิด (เจ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามี) เวลานั้นได้จัดผู้ที่จะตามเสด็จไปประเทศยุโรปไว้พร้อมถึงกับได้กำหนดวันที่จะเสด็จออกจากกรุงเทพฯ เวลานี้ข้าราชการทั่วไปพากันตื่นเต้นเข้าไปเฝ้าอยู่ทั่วทุกชั้น เวลานั้นจะมีอุปสรรคอันใดเกิดขึ้นจึงได้ระงับเหตุดังกล่าวนี้ในเวลาไม่กี่เดือนก็รับทราบว่า สมเด็จพระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) ทรงพระครรภ์ในไม่ช้าก็ประสูติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พระราชดำริดังกล่าวนี้จึงเป็นอันระงับไป\"",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nต่อมา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระศพออกจากพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์นำไปประดิษฐานบนเรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยเพื่อเชิญไปพระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ เมื่อถึงวัดนิเวศธรรมประวัติ เจ้าพนักงานเชิญพระศพขึ้นประดิษฐานเหนือพระจิตกาธารยอดพระเกี้ยว ประกอบพระโกศจันทน์ หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจุดเพลิงพระราชทานพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี วันรุ่งขึ้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเก็บพระอัฐิบรรจุลงพระโกศทองคำ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระอัฐิลงประดิษฐานเหนือบุษบกเรือพระที่นั่งชลวิมานไชย แล้วจึงเชิญขึ้นประดิษฐานในบุษบกทองคำ ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เพื่อบำเพ็ญพระกุศลพระอัฐิ หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ซุ้มเรือนแก้วขึ้นภายในวัดนิเวศธรรมประวัติเพื่อใช้บรรจุพระอัฐิของพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nหมวดหมู่:พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 5 หมวดหมู่:พระองค์เจ้า หมวดหมู่:กรมขุน หมวดหมู่:พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. (ฝ่ายใน) หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายใน) หมวดหมู่:สมาชิกเหรียญจักรพรรดิมาลา หมวดหมู่:สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร.2",
"สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี\nระหว่างทรงพระเยาว์ มีเหตุการณ์ผันผวนทางการเมืองหลายครั้ง เช่น การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 และกบฏบวรเดช ทำให้ต้องทรงย้ายที่ประทับอยู่ตลอดเวลา เช่น ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี ในพระบรมมหาราชวัง, พระตำหนักสวนหงส์ พระราชวังดุสิต, ตำหนักเขาน้อย จังหวัดสงขลา, พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ในสวนสุนันทา และพระตำหนักเขียว วังสระปทุม",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nนอกจากนี้ พระองค์ยังได้รับตำแหน่งให้เป็นอุปนายิกาสภาอุณาโลมแดง (สภากาชาดไทยในปัจจุบัน) ร่วมกับเจ้านายฝ่ายในอีกหลายพระองค์[19]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบางปะอินก่อนล่วงหน้า 1 วัน เมื่อพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดีมาถึงสถานีรถไฟบางปะอินในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ รอรับพระศพ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระศพประดิษฐานเหนือชั้นแว่นฟ้าในเรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยเพื่อเชิญพระศพไปยังพระราชวังบางปะอิน การจัดขบวนเรือครั้งนี้ โปรดฯ ให้จัดขบวนเรือยาวอย่างขบวนเรือถวายผ้าพระกฐิน หลังจากขบวนเรือถึงพระราชวังบางปะอินแล้ว เจ้าหน้าที่เชิญพระศพขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เหนือแว่นฟ้าทองคำ 1 ชั้น มีฐานเขียวรอง มีบัวกลุ่มรองพระโกศ ห้อยฉัตรตาดทอง 5 ชั้น แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่ชาววังว่า ใครไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นคนนอกสังคมชาววัง[16]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพงศาวลีของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี 16. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก8. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย17. สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี4. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว18. เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน9. สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี19. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์2. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว20. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว10. สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์21. เจ้าจอมมารดาทรัพย์5. สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี22. บุศย์11. หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา23. แจ่ม1. Main Page24. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค)12. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)25. ท่านผู้หญิงจันทร์ บุนนาค6. เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค)26. หลวงแก้วอายัติ (จาต บุนนาค)13. ท่านผู้หญิงกลิ่น บุนนาค27. ลิ้ม บุนนาค3. เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ ในรัชกาลที่ 5)7. ท่านผู้หญิงอิ่ม สุรวงศ์ไวยวัฒน์",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระองค์เป็นพระเจ้าลูกเธอที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวที่พระองค์ทรงประสบปัญหาต่าง ๆ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในระยะแรก ซึ่งสมเด็จพระบรมชนกนาถมีรับสั่งว่าพระองค์ทรงเป็น \"ลูกคู่ทุกข์คู่ยาก\"[4][5]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nนอกจากนี้ พระองค์ยังได้รับพระราชทานเหรียญราชอิสริยาภรณ์จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวเมื่อครั้งได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น \"กรมขุนสุพรรณภาควดี\" ได้แก่ เหรียญจักรพรรดิมาลาและเหรียญรัตนาภรณ์[21]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nส่วนการพระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดีนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัวมีพระราชดำริว่า ต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งพระองค์ทรงได้พืชพันธุ์มาจากพุทธคยา แล้วทรงเพาะและปลูกไว้ที่วัดนิเวศธรรมประวัติเป็นวันเดียวกับวันประสูติของพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี ดังนั้น พระองค์จึงมีพระราชดำริให้จัดการพระราชทานเพลิงพระศพที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดนิเวศธรรมประวัติ โดยให้ตั้งพระศพทรงบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระราชวังบางปะอิน",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nในการพระราชพิธีทวีธาภิเษกสมโภชสิริราชสมบัติในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงพระราชดำริว่า \"ในการพระราชพิธีทวิธาภิเศกสมโภชศิริราชสมบัติครั้งนี้ การทั้งปวงได้จัดเป็นคู่ ๆ กันมา ได้พระราชทานพระเกียรติยศพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์หนึ่งแล้ว ควรจะพระราชทานพระเกียรติยศแก่พระเจ้าลูกเธอพระองค์หนึ่งให้เป็นคู่กัน ตามราชประเพณีแต่ก่อนก็เคยมีตัวอย่าง\" ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายในเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2446 มีพระนามว่า \"พระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\"[9]",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเจริญกมลสุขสวัสดิ์\nพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเจริญกมลสุขสวัสดิ์สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2417 พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุผ้าขาว วัดสระเกศ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2419 ในงานงานพระเมรุของพระองค์นั้นพระบรมวงศานุวงศ์ล้วนฉลองพระองค์ดำทั้งหมด ยกเว้นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดีที่ทรงฉลองพระองค์ขาว เพราะแม้กรมขุนสุพรรณภาควดีจะทรงมีพระชนมายุเดือนมากกว่าแต่พระองค์เจ้าเจริญกมลสุขสวัสดิ์ทรงอยู่ในฐานะเป็นพระขนิษฐาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องนี้ปรากฏในหนังสือ \"ธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย\" ว่า",
"มัณฑนา โมรากุล\nมัณฑนา โมรากุล เกิดที่วังสวนสุพรรณที่พำนักของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร (เป็นที่ประทับตามพระนามพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี) เป็นบุตรีคนที่ 4 ในจำนวน 6 คนของหลวงสิริราชทรัพย์ (ชัย โมรากุล) (2439-2504) ข้าราชการกรมบัญชีกลางเชื้อสายจีน กับนางผัน โมรากุล (สกุลเดิม เครือสุวรรณ) ซึ่งเป็นครูละครในวังสวนสุพรรณ ",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nหม่อมเจ้าหญิงศรีวิไลยลักษณ์ (2411) พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี (2411-2446) พระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี (2446-2453) พระเจ้าพี่นางเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี (2453-2477) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี (2477-ปัจจุบัน)",
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี\nพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี (24 กรกฎาคม พ.ศ. 2411 — 26 ตุลาคม พ.ศ. 2447) พระนามเดิม<i data-parsoid='{\"dsr\":[632,659,2,2]}'>หม่อมเจ้าศรีวิไลยลักษณ์ เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ) เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงได้รับพระกรุณายกย่องพระเกียรติยศไว้ยิ่งกว่าพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นหลายประการและสมเด็จพระบรมชนกนาถถึงกับรับสั่งว่าพระองค์เป็น \"ลูกคู่ทุกข์คู่ยาก\""
] | 25 |
พ.ศ. 2470 ประเทศไทยมีนายกหรือยัง ? | ["พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หั(...TRUNCATED) | ["พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอ(...TRUNCATED) | 23 |
"ช่อง 7 เอชดี เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งท(...TRUNCATED) | ["ช่อง 7 เอชดี\nช่อง 7 เอชดี (Channel 7 HD) (ชื่อเด(...TRUNCATED) | ["สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย\nร(...TRUNCATED) | 5 |
"พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้(...TRUNCATED) | ["พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชร(...TRUNCATED) | ["อุโมงค์ขุนตาน\nอุโมงค์ขุนตาน เป็นอ(...TRUNCATED) | 3 |
"แผ่นดินไหวใน พ.ศ. 2559 สามารถตรวจวัดแผ่(...TRUNCATED) | ["แผ่นดินไหวในไต้หวัน พ.ศ. 2559\nแผ่นดินไ(...TRUNCATED) | ["แผ่นดินไหวใน พ.ศ. 2561\n\"สังเกตว่าจำนวน(...TRUNCATED) | 12 |
จัสติน บีเบอร์ สัญชาติอะไร ? | ["จัสติน บีเบอร์\nจัสติน ดรูว์ บีเบอร์(...TRUNCATED) | ["เบบี้ (เพลงจัสติน บีเบอร์)\n\"เบบี้\" เป(...TRUNCATED) | 24 |
"ความลับของ Superstar ออกอากาศครั้งแรกปีอ(...TRUNCATED) | ["ความลับของ Superstar\nความลับของ Superstar ออกอา(...TRUNCATED) | ["ความลับของ Superstar\nรัญญา ศิยานนท์ ... บี","(...TRUNCATED) | 6 |
End of preview. Expand
in Dataset Viewer.
README.md exists but content is empty.
Use the Edit dataset card button to edit it.
- Downloads last month
- 40