instruction
stringclasses
1 value
output
stringlengths
42
1.55k
input
stringlengths
525
195k
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วิษณุ ยันโรดแม็ปตามขั้นตอนเดิม เชื่อ สนช.หยุดพูดขยับเลือกตั้ง ปัดวิจารณ์ ยึดตามกรอบเวลา ย้ำเริ่มนับโรดแม็ปเมื่อ รธน.ประกาศใช้
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่า การเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปถึงปี 2561 ว่า ขอให้ไปสอบถามกับ สนช. แต่เชื่อว่าคงไม่กล้าพูดอีก เพราะทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งที่ สนช.พูดเนื่องจากผูกกับกฎหมายของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ตนจึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่รัฐบาลยืนยันว่ายังเดินตามโรดแม็ป ซึ่งโรดแม็ปมองได้สองแบบ คือ มีลำดับขั้นตอนและการกำหนดช่วงเวลา โดยเริ่มต้นจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้รัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศใช้ จึงยังเริ่มนับหนึ่งไม่ถูก จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการร่างกฎหมายประกอบร่างรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก ภายใน 240 วัน ก่อนจะส่งกลับให้ สนช.พิจารณา ภายใน 2 เดือน ,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า หากมีการแก้ไขก็จะมีการพิจารณาร่วมกับ กรธ.อีก 1 เดือน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย ภายใน 90 วัน และจะเข้าสู่การเลือกตั้งภายในระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้คือโรดแม็ปที่ยังเป็นแบบเดิมอยู่ ส่วนเดิมที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้ภายในปี 60 นั้น เพราะมาจากสมมติฐานของขั้นตอนเดิมทั้งหมด แต่เมื่อมีเหตุสวรรคตทุกอย่างจึงต้องเลื่อนออกไป ส่วนการพิจารณากฎหมายลูกทั้งหมด 4 ฉบับ ขณะนี้กรธ.พิจารณาแล้วเสร็จ 2 ฉบับ คือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และพ.ร.ป. คณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่ พ.ร.ป.การเลือกตั้งควรจะพิจารณาได้เร็วกลับล่าช้า ดังนั้น กรธ.จะต้องออกชี้แจงถึงเหตุผลว่าทำไมพิจารณากฎหมายดังกล่าวล่าช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ส่วนกรณีที่ สนช. ระบุว่า มีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.เป็นจำนวนมาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อโรดแม็ปนั้น รัฐบาลเคยบอกไว้แล้วว่าในช่วงนี้ของโรดแม็ปกฎหมายจะเยอะกว่าที่ผ่านมา ดังนั้น สนช.จะต้องบริหารจัดการกันเอง เพราะได้มีการเพิ่มสมาชิก สนช.ให้แล้ว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รอกันมา 2 สัปดาห์ บอลสโมสรลีกต่างๆของยุโรปก็กลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งในวีกนี้ ช่วงฟีฟ่าเดย์ รอบล่าสุดทิ้งทวนคัดบอลโลก มีประเด็นให้ฮือฮากันหลังจากอิตาลี หนึ่งในทีมอมตะของวงการลูกหนังโลก
พ่ายสวีเดนด้วยประตูรวม 0–1 ตกรอบเพลย์ออฟไปอย่างน่าเสียดาย ชวดเล่นบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี,น้ำตาท่วมดินแดนรองเท้าบู๊ต แฟนบอลส่วนใหญ่เว้นแต่พวกอายุ 70 ปีขึ้นไป (อนุมานว่าเด็ก 10 ขวบจำความหลังครั้งตกรอบคัดเลือกปี 1958 ได้) เคยเห็นทีมตัวเองเล่นรอบสุดท้ายเวิลด์คัพมาตลอด แบบนี้พวกเขาจะทำอะไรในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า เมื่อไม่มีบอลให้เชียร์,โค้ชจัมปิเอโร เวนตูรา โดนเด้งไปแล้ว รอดูต่อไปว่ากุนซืออิตาลีคนใหม่จะเป็นใคร กระแสของคาร์โล อันเชลอตติ มาแรงเป็นเต็ง 1 รายการต่อไปคือ รอบคัดเลือกยูโร 2020,หลังจากเปรูชนะนิวซีแลนด์ 2-0 ในเกมเพลย์ออฟ นัดที่ 2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เปรูเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ไปรัสเซีย,สรุป 32 ทีมสุดท้ายให้ดูกันอีกครั้งก่อนฟีฟ่าจับสลากแบ่งสายที่กรุงมอสโก วันที่ 1 ธ.ค. มีดังนี้ครับ,รัสเซีย (เจ้าภาพ), เยอรมนี (แชมป์เก่า), บราซิล, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, เบลเยียม, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, โครเอเชีย, เดนมาร์ก, อียิปต์,อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, โมร็อกโก, ไนจีเรีย, ปานามา, เปรู, โปแลนด์, โปรตุเกส, ซาอุดีอาระเบีย, เซเนกัล, เซอร์เบีย, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตูนิเซีย และอุรุกวัย,ทีมที่จะเป็นตัวยืนในแต่ละกลุ่ม จากโถที่ 1 ในพิธีแบ่งสาย คือ รัสเซีย, เยอรมนี, บราซิล, โปรตุเกส, อาร์เจนตินา, เบลเยียม, โปแลนด์ และฝรั่งเศส,ฟีฟ่าใช้อันดับโลกเดือนตุลาคม 2017 เป็นตัวชี้วัดทีมวางอันดับ ทำให้สเปน (อันดับ 8) และอังกฤษ (อันดับ 12) ต้องไปอยู่ในโถที่ 2 จะถูกจับไปชนกับตัวยืนในโถที่ 1,เต็ง 1 เกจิทั่วโลกยกให้ อินทรีเหล็ก เยอรมนี ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า และมีลุ้นทำสถิติเป็นทีมแรกต่อจากบราซิลที่ได้แชมป์โลกติดต่อกัน 2 สมัย ทีมแซมบ้าเป็นชาติเดียวที่ทำได้ในปี 1958 และ 1962 ซึ่งเป็นยุคทองของเปเล่,เยอรมนีภายใต้การคุมทีมของโยอาคิม เลิฟ ทำผลงานรอบคัดเลือกได้คงเส้นคงวา ไม่แพ้ใครรอบคัดเลือกเวิลด์คัพทั้งรอบคัดเลือกและรอบสุดท้ายมาตั้งแต่ปี 2010 ที่พ่ายสเปนในรอบตัดเชือกบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้,เต็ง 2 คือ บราซิล รอบคัดเลือกครั้งนี้ 6 นัดแรกอาการหนักชนะแค่นัดเดียว ทำให้กุนซือดุงก้าถูกปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อได้ติเต้เข้ามาแทน เขานำทีมชนะ 10 นัด เสมอ 2 ลอยลำคว้าแชมป์รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ได้สำเร็จ,ตัวเต็งรองลงมา ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนตินา, เบลเยียม, อังกฤษ และโปรตุเกส แต่หลังจากแบ่งสายแล้ว อาจมีการปรับเปลี่ยนได้หากทีมชั้นนำเหล่านี้เจอศึกหนัก.,โต้ บ้านแหลม
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อังคณา กสม. โพสต์ระบุเตรียมเข้าร้องต่อ ปอท.เรื่องการถูกละเมิดสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ถูกเกลียดชังโดยการใช้ภาพ และข้อความเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กต่างๆ
โดยล่าสุดถูกปั่นว่าเรียกร้องให้สังคมให้อภัยเปรี้ยว6 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.59 น. ที่ผ่านมาอังคณา นีละไพจิตรกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับ อังคณา พร้อระบุว่า ทำงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิฯมานาน พรุ่งนี้(7 มิ.ย.60) 10.00 น. จะไปแจ้ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 4 อาคาร B เรื่องการถูกละเมิดสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ถูกเกลียดชังโดยการใช้ภาพ และข้อความเผยแพร่ทาง facebook ต่างๆ โดยล่าสุด คือกรณี เปรี้ยว ทั้งที่ไม่ได้อยู่ประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้คำพูดเพื่อสร้างความเกลียดชัง (HateSpeech) บนแอพพลิเคชั่น เริ่มมีมากขึ้นตั้งแต่ทำหน้าที่ กรรมการสิทธิฯ ในฐานะที่รับผิดชอบ สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรื่องร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิฯต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบางคน
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบเกาะนาคาน้อย ภายหลังที่ ครอบครัว หิรัญพฤกษ์ ออกมาระบุว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์เตรียมเข้ามาแผ้วถางพื้นที่บนเกาะ และข่มขู่
วันนี้ (7 เม.ย.2559) นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่ดินของบริษัท ภูเขาหกลูก ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก เลขที่ 3977 เนื้อที่ 24 ไร่เศษ บนเกาะนาคาน้อย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งตั้งติดกับที่ดินของครอบครัว หิรัญพฤกษ์ หลังจากครอบครัวดังกล่าวออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีคนของบริษัทดังกล่าวซึ่งมีอาวุธครบมือ จะเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าบนเกาะนาคาน้อย รวมทั้งจะนำรถแบ็คโฮ เข้าไปปรับพื้นที่ด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่พบการตัดต้นไม้ใหญ่ยกเว้นมีการทำทางเดินเป็นขั้นบันไดโดยใช้ปูนหยอด ขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบนเกาะ เนื่องจากพื้นที่มีความลาดชันและการดำเนินการเช่นนี้ ถือว่า ยังไม่มากเกินไป ส่วนกระบวนการเพิกถอนตามที่มีการร้องเรียนว่าได้มาโดยมิชอบนั้น กรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรรมการสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารและพยานบุคคล โดยมีห้วงระยะเวลาในการโต้แย้งสิทธิ 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 24 เม.ย.นายสายันห์ สรรบรรณ คนเฝ้าพื้นที่ของบริษัท ภูเขาหกลูก เล่าว่า ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับนายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา เจ้าของที่ดินและผู้หญิงสูงอายุประมาณ 8 - 9 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ขายที่ดินให้กับนายชาญวิทย์ เมื่อมาถึงนายภูริ หิรัญพฤกษ์ ได้เดินลัดเลาะเข้ามาสอบถามว่า มาทำไม ขณะที่พูดคุย ฝ่ายนายภูริได้อัดคลิปวีดิโอไว้ด้วย และยืนยันว่า ไม่ได้พกอาวุธหรือยิงปืนข่มขู่ ส่วนของรถแบ็คโฮ ก็ไม่ได้นำมาแต่อย่างใด
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
อันโตนิโอ คอนเต สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน หลังพาสังกัดคว้าชัย 5 เกมรวด ในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลของศึกกัลโช เซเรียอา อิตาลี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ย. ว่า หลังจากที่ทัพ เนรัซซูรี หรือที่รู้จักกันในชื่อ อินเตอร์ มิลาน เก็บชัยชนะ 5 เกมรวด โดยเกมล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาเปิดถิ่น จูเซปเป เมอัซซา เฉือนเอาชนะ ลาซิโอ 1-0 จากลูกโหม่งของ ดานิโล ดัมโบรซิโอ ในนาทีที่ 23 ,ส่งผลให้งูใหญ่ที่นอกจากจะคว้าชัย 5 เกมรวดแล้ว ยังทำให้ขึ้นไปรั้งเป็นจ่าฝูงของตารางกัลโชอีกด้วย โดยเก็บได้ 15 คะแนนเต็ม ซึ่งทีมที่ตามมาคือ แชมป์เก่า ยูเวนตุส มี 13 คะแนน และอตาลันตา 10 คะแนน ,นอกจากนี้ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือดังชาวอิตาเลียน ยังสร้างสถิติ กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของอินเตอร์ มิลาน ที่พาทีมเก็บชัยชนะรวดตั้งแต่ 5 เกมแรก ซึ่งเจ้าตัวก็มีดีกรีไม่เบา เคยพาทัพม้าลายเถลิงแชมป์ลีกมาแล้ว 3 ครั้งในฤดูกาล 2011-2012, 2012 -2013 และ 2013-2014 ก่อนจะโดน เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี ชักชวนให้มาคุมทีม และก็สามารถพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ด้วยในซีซั่น 2017-2018 และคว้าถ้วย เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลต่อมา 
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
พาณิชย์ ยืนเป้าส่งออกปีนี้ยังเติบโต 5% ไว้เป็นกำลังใจในการทำงาน แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว จ่อปรับแผนส่งออกใหม่ หวังเจาะตลาดใหม่ๆให้เข้าเป้า ดันยอดเพิ่ม เล็งหารือเป็นรายกลุ่ม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเซ็นเอ็มโอยูหน่วยงาน
ด้านฮาลาล ธนาคารพาณิชย์ร่วมมือกันดันส่งออก,นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนยังคงยืนยันเป้าหมายการทำงาน ที่จะผลักดันการส่งออกในปีนี้ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% โดยจะยังไม่มีการทบทวนเป้าหมาย เพราะถือเป็นตัวเลขในการทำงาน แม้ว่าขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจโลก จะขยายตัวลดลงกว่าการคาดการณ์เดิมก็ตาม และตนจะมีการทบทวนแผนการทำงาน เพื่อผลักดันการส่งออกให้ได้เพิ่มขึ้น ทั้งการทำตลาดแบบเจาะจง เป็นรายสินค้าและรายตลาด ที่ต้องทำงานเชิงลึกมากขึ้น,การผลักดันให้ตัวเลขการส่งออกขยายตัวเป็นบวกมากๆเหมือนในอดีตทำได้ยาก แต่ก็จะเร่งทำ คือ การรักษาส่วนแบ่งตลาดส่งออกของสินค้าไทยเอาไว้ให้ได้ เพราะที่ผ่านมาแม้การส่งออกจะติดลบ แต่ก็ติดลบน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่สำคัญ ไทยยังรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้,สำหรับสินค้าที่ไทยยังส่งออกได้ดีอยู่ คือ กลุ่มยานยนต์ ซึ่งเร็วๆนี้จะหารือกับผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าว เพื่อผลักดันยอดการส่งออกให้เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และอัญมณี ที่คาดว่าการส่งออกยังขยายตัวได้ ส่วนสินค้าเกษตรในแง่ปริมาณยังส่งออกได้ดี แต่มูลค่าไม่มาก เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งต้องมีการปรับแผนเพื่อผลักดันการส่งออก เพราะสินค้าเกษตรบางตัว ยังส่งออกได้ดีอยู่ เช่น ไก่สดและแปรรูป ที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการเปิดตลาดหลังจากที่ไทยแก้ไขสถานการณ์ไข้หวัดนกภายในประเทศจนต่างประเทศเชื่อมั่นต่อสินค้าไก่ของประเทศไทย,นอกจากนี้ จะมุ่งเจาะตลาดใหม่ๆ เช่น ตลาดอเมริกากลางที่มีโอกาสสูง โดยได้มอบให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประจำเม็กซิโก ศึกษาช่องทางในการทำการค้า และผลักดันการส่งออก ส่วนตลาดเดิมมีแผนการเจาะตลาดไปยังหัวเมืองรองในประเทศที่ไทยส่งออกอยู่แล้ว เช่น จีน อินเดีย ตลาดอเมริกาใต้ แอฟริกา ฯลฯ,นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงได้กำหนดยุทธศาสตร์สำหรับภาคการค้าระหว่างประเทศในระยะ 5 ปี โดยเน้นการยกระดับเศรษฐกิจการค้าของประเทศเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ ที่สร้างสรรค์มูลค่าเพิ่ม การผลักดันการส่งออกภาคบริการ การเสริมสร้างขีดความสามารถของเอสเอ็มอี เป็นต้น,สำหรับในโอกาสครบรอบ 64 ปี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ใน 5 หัวเรื่องสำคัญ อาทิ ความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สินค้า และธุรกิจบริการฮาลาล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ความร่วมมือโครงการเอสเอ็มอีกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฯลฯ ซึ่งความร่วมมือ ดังกล่าว จะช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศและช่วยผลักดันให้การส่งออกขยายตัวได้ตามที่ตั้งไว้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
บิ๊กปั๊ดแย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี หลังเรียกประชุมชุดสืบสวนคดีบึมป่วนกรุง สั่งพนักงาน สอบสวน 3 ท้องที่เกิดเหตุทยอยขอศาลออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด
คัดพวกประวัติสะอาด กระจายจุด-ตามแผน แต่มีกลุ่มบงการเดิม จ่อออกหมายจับเพิ่ม,บิ๊กปั๊ดแย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี หลังเรียกประชุมชุดสืบสวนคดีบึมป่วนกรุง สั่งพนักงาน สอบสวน 3 ท้องที่เกิดเหตุทยอยขอศาลออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด ด้านญาติลูไอ-วิลดัน 2 มือบึม สตช.แห่เยี่ยม หลังถูกนำไปสอบสวนที่ศูนย์ซักถาม จ.ยะลา โดยแนวทางสืบสวนพบช่วงปลายเดือน ก.ค. คนร้ายแต่ละทีมแยกย้ายกันเข้ามาดูเป้าหมาย เน้นรอบบริเวณสถานที่ประชุม รมต.อาเซียน ส่วนวันเกิดเหตุ ทีมบึม สตช.แวะรับระเบิดที่ห้างดังใกล้จตุจักร ใช้พวกหน้าขาวไม่มีประวัติ ด้านบิ๊กตู่ป้องบิ๊กแดง โพล่งฟันธงเกี่ยวข้องกับเหตุปี 49 เป็นแค่การเปรียบเทียบเหตุในอดีตที่คล้ายคลึงกัน,จากเหตุกลุ่มวัยรุ่นแนวร่วมโจรใต้ยกทีมขึ้นมาวางระเบิดป่วนกรุงเทพมหานครหลายจุด แยกย้ายกันวางระเบิดแสวงเครื่อง เริ่มตั้งแต่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้านขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ และหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 คน ตำรวจตามลากคอนายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี 2 หนุ่มชาวนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยที่ลงมือซุกระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทันควันที่ จ.ชุมพร หลังลงมือเสร็จนั่งรถทัวร์กำลังจะกลับถิ่น ก่อนถูกคุมตัวกลับไปสอบสวนยัง บช.ภ.9 ขยายผล โฆษก ตร.เผย ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้ง 2 คนให้การเป็นประโยชน์ สามารถขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการได้ ขณะที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หัวหน้าชุดสืบสวน ประสาน ผบช.ภ.9 ส่งทีมสืบสวนตามความเคลื่อนไหว กลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่เดินทางกลับเข้าพื้นที่แล้วกว่า 10 คน ส่วน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.เร่งพนักงานสอบสวนสอบพยานสเกตช์ภาพ ระบุรูปพรรณสัณฐานคนร้ายอย่างละเอียด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้งหมดให้ได้ภายใน 7 วัน,บิ๊กปั๊ดเรียกประชุมทีมคลี่คลาย,ความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีระเบิดป่วนกรุงหลายจุด โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดทั่วกรุง มี พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่นครบาล ร่วมประชุม,จ่อหมายจับ 2 มือบึมศูนย์ราชการ,ในที่ประชุมมีรายงานว่า พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขออนุมัติหมายจับมือวางระเบิด 2 รายตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุวางระเบิดภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ รายแรกเป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำคาดที่ลำตัว และกระเป๋าสีเขียวคล้องไว้ที่ไหล่ซ้าย ก่อเหตุวางระเบิดจุดที่ 1 และจุดที่ 2 บริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารบี คนร้ายรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมหน้ากากอนามัย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทาดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำที่หลัง ถือกระเป๋าสีส้ม วางระเบิดจุดที่ 3 และจุดที่ 4 หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ห่างจากจุดระเบิดอาคารบี ประมาณ 200 เมตร,บีทีเอสช่องนนทรี–ประตูน้ำด้วย,รายงานข่าวระบุอีกว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท อยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพวงจรปิด ที่ลงมือก่อเหตุวางระเบิดเพลิงจนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ 3 จุด ประกอบด้วย 1.ตลาดไซด์วอร์ค ดีดีเฮาส์ ภายในซอยเพชรบุรี 19 ทำให้มีร้านค้าเสียหาย 60 แผง 2.ร้านขายเสื้อผ้า ร้าน ฮ็อบ และ 3.ร้าน ปุ๋ย แฟชั่น ชั้นล่างโรงแรมอินทรา รวมถึงห้องแถวที่อยู่หน้าตลาดเฉลิมลาภ ในส่วน สน.ยานนาวา ที่เกิดเหตุบริเวณทางลงประตู 3 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และอีก 2 จุด หน้าตึกมหานคร โดยพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ท้องที่ นำพยานหลักฐานที่ได้มาอาทิ ภาพถ่าย (ที่จับภาพผู้ต้องสงสัยได้) ที่รวบรวมมาจากจุดต่างๆ เข้าประชุมในวันนี้,แย้มเร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี,หลังประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยว่า เร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี แต่จะมีการ แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น ไม่รับปาก หากมีเหตุผลที่จำเป็น โฆษก ตร.คงจะแถลง อะไรที่จะแถลงได้ก็จะแถลง แต่ในส่วนปฏิบัติคงให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ ส่วนจะออกหมายจับใครหรือไม่นั้น ในส่วนนี้เมื่อถึงเวลาจะบอก ขอให้มั่นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจทำ จนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนของการรายงานความคืบหน้าให้ทางนายกรัฐมนตรีทราบส่วนนี้ต้องรายงานตามสายการบังคับบัญชา มีการรายงานอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบในรายละเอียด ในส่วนของการปฏิบัติก็ทำกันอยู่แยกกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้การให้ข่าวกับพี่น้องประชาชนถ้าถึงจุดที่ทำได้จะให้ข่าวแน่นอน ตอนนี้ขอให้เชื่อมั่นการทำงาน ทุกคนก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน,ญาติโร่เยี่ยม ลูไอ–วิลดัน,ส่วนนายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี 2 หนุ่มชาวนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกจับกุมได้ที่ จ.ชุมพร และถูกส่งตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า ต.สะเตง อ.เมืองยะลา โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ญาติและครอบครัวของนายลูไอและนายวิลดัน เดินทางจาก จ.นราธิวาส ไปเยี่ยมผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า โดยญาติคนหนึ่งกล่าวว่า มาเยี่ยมเพื่อต้องการทราบว่าทั้งคู่มีความเป็นอยู่อย่างไร เกรงจะถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมวิงวอนฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่าอย่าทำร้ายร่างกายผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน หากต้องถูกสอบสวนดำเนินการให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ระหว่างนี้ครอบครัวจะหาเวลาเดินทางมาเยี่ยมบ่อยๆ,แฉ 2 มือบึม มีทีมงานพาชี้เป้า,มีรายงานว่า คดีวางระเบิดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้ง 2 คน ได้แก่ นายลูไอและนายวิลดัน แนวทางสืบสวนพบว่า รับงานจากแกนนำฝั่งประเทศมาเลเซีย ช่วงเดือน ก.ค. เดินทางเข้าออกหลายครั้งผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองเพื่อกำหนดเป้าหมาย กำหนดเส้นทางโดยสาร ปลายเดือน ก.ค. ได้โดยสารรถทัวร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาที่สถานี ขนส่งหมอชิต จากนั้นมีทีมงานมารับพาดูจุดที่จะก่อเหตุ คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พาไปห้างสรรพสินค้าพารากอน เพื่อสำรวจสถานที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนพามาดูจุดที่รับระเบิดอยู่ข้างห้าง JJ Mall และจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สถานีขนส่งหมอชิต ก่อนกำหนดวันลงมือก่อเหตุ วางระเบิดที่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันที่ 1 ส.ค. โดยเข้ามาเตรียมก่อเหตุวันที่ 31 ก.ค.,รับระเบิดจากนายอาแบ JJ mall,รายงานสืบสวนระบุต่อว่า ผู้ต้องหาเดินทางรถทัวร์ จ.ยะลา โดยก่อนหน้าเตรียมซื้อแมสก์ปิดปาก เพื่ออำพรางใบหน้า 1 แพ็ก รถทัวร์ถึง กทม.ช่วงเช้า มีคนมารับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าห้าง JJ mall เป็นจุดที่รับระเบิดจากนายอาแบ ข้างห้าง JJ mall จากนั้นเดินทางต่อโดยเรียกรถแท็กซี่ ไปที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เปิดสวิตซ์ระเบิดนำไปวางไว้ที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำชั้น G เสร็จแล้วเดินข้ามสะพานไปยังฝั่งตรงข้ามของสยามพารากอน เรียกรถแท็กซี่ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำหมอชิตขึ้นรถทัวร์ไปต่อที่สถานีขนส่งสายใต้เพื่อเดินทางกลับก่อนถูกตำรวจตรวจพบที่จุดตรวจพื้นที่ จ.ชุมพร,เป้าป่วนรอบที่ประชุุม รมต.อาเซียน,มีรายงานด้วยว่า เหตุระเบิดป่วนจุดอื่นน่าจะ เป็นการแยกชุดทำงานที่ต่างคนต่างรับงานจากผู้บงการ ไม่มีความเชื่อมโยงกัน เป็นกลุ่มคนหน้าใหม่ ที่ไม่มีประวัติก่อเหตุมาก่อน เรียกกลุ่มหน้าขาว กำหนดให้แต่ละกลุ่มนำระเบิดแสวงเครื่องและระเบิดเพลิงนำมาวางเป้าหมายในช่วงกลางคืนเพื่อให้ระเบิดตั้ง เวลาทำงานพร้อมกัน เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โดยรอบการประชุม รมต.อาเซียน ย่านปทุมวัน ชุด สืบสวนได้เบาะแสภาพกล้องวงจรปิดเชื่อมโยงกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 10 คน ในพื้นที่ศูนย์ราชการมีภาพคนร้ายที่ก่อเหตุชัดเจน ได้ประสานข้อมูลชุดสืบสวน บช.ภ.9 เข้าตรวจสอบกลุ่มเป้าหมาย บ้านพักกลุ่มผู้ต้องสงสัยเตรียมเข้าจับกุมหลังขออนุมัติหมายจับ,ผบ.ตร.ยันกลุ่มเดิมใช้คนหน้าใหม่,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างน้อย 2-3 จุด ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจาก ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นผู้มีประสบการณ์มีการเตรียมการมาอย่างดี สำรวจพื้นที่ก่อนลงมือก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัย 2 รายที่จับกุมได้ที่ จ.ชุมพร พื้นเพมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังก่อเหตุเดินทางกลับพื้นที่ให้การเป็นประโยชน์ การสืบสวนคืบหน้าไปได้ดี แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเมื่อปี 59 มองว่าในการก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มเดิมๆ ใช้คนหน้าใหม่มาก่อเหตุ ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามปล่อยข่าวสร้างความตื่นตระหนก ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลฝ่ายความมั่นคงควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ ชุดสืบสวนคดีคืบหน้าไปได้เรื่อยๆ,เตรียมแจงผลคดี ครม.,ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช.สยศ.1 ในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีระเบิดกล่าวว่า คาดว่าวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะชี้แจงภาพรวมเหตุการณ์ความคืบหน้าของ คดีระเบิดทั้งหมดให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ โดยตนจะต้องเข้าพบ ผบ.ตร.เพื่อรับทราบนโยบายและรายละเอียด ส่วนการชี้แจงข่าวสาร ผบ.ตร.จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพียงผู้เดียว,รอผลดีเอ็นเอ 2 มือระเบิด สตช.,ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของวัตถุพยานจากเหตุระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น ขวดน้ำ กล่องผลไม้ กล่องมันฝรั่ง ตัวตั้งเวลา หรือไอซีทามเมอร์ เสื้อผ้าที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยเปลี่ยนและทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ที่ผู้ต้องสงสัยนั่งไปส่งที่สถานีรถขนส่ง มาตรวจพิสูจน์ ก่อนส่งไปยังพิสูจน์หลักฐานภาค 9 เพื่อเทียบเคียงดีเอ็นเอกับ 2 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จะทราบผล,บิ๊กอู๊ดยันกล้องด่านจับภาพชัด,ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออกของนายลูไอและนายวิลดัน ก่อนเกิดเหตุมีการเดินทางเข้าออกนอกประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านด่านตม.นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับหน้าผู้ต้องสงสัยได้อย่างชัดเจน ส่วนวันเวลาเดินทางหรือเดินทางเข้าออกกับใครนั้น รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริง ข้อมูลทั้งหมดรายงานไปเรียบร้อย ทั้งนี้ ผบ.ตร.สั่งการ บช.สตม.ให้กำชับและสั่งการไปยังทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ในการเพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะด่าน ตม.ภาคใต้ ให้เก็บรายละเอียด ตรวจค้นยานพาหนะ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้า-ออก พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบมากขึ้น,รองโฆษก ตร.เผย เร่งหาคนผิดมาลงโทษ,ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เผยถึงเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ กทม.และใกล้เคียง ขอเรียนชี้แจงข้อมูลความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน ข้อมูลข่าวสารที่ไม่กระทบต่อรูปคดี ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบเป็นระยะ หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้เร่งพิสูจน์ทราบและจับกุมคนร้ายที่พยายามสร้างสถานการณ์ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมขยายผลผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เร่งระดมสรรพกำลังหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย,มีผู้ไม่หวังดีโพสต์บิดเบือน,รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง นำเข้าข้อมูล ทั้งโพสต์และแชร์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้สังคมเกิดความสับสน สร้างความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ลงข่าวในลักษณะที่ว่าแค้นทหาร แกนนำที่ถูกควบคุมเสียชีวิตในค่ายทหาร และใต้สงบ งบไม่มา มีการจัดฉากขึ้นโดยทหารเลวๆของตู่ที่ส่งไปประจำการ เพื่อกินงบ เสียงจากตำรวจ ได้รับแจ้งให้ไปเก็บกู้ระเบิด แต่เมื่อไปถึงทหารที่ตรึงพื้นที่ได้ไล่ให้กลับ ดูให้จบจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาคใต้นี่คือเหตุ อย่างที่ผมเคยบอกหลายครั้งแล้วว่า การแก้ปัญหาภาคใต้นั้นไม่ยาก หากรัฐบาลและกองทัพจริงจังจริงใจนี่คือ เรื่องจริงครับพี่น้อง เนื้อหาในคลิปที่เผยแพร่ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.แชน วรงคไพสิฐ หรือดาบแชน ตำรวจเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดขณะไปตรวจที่เกิดเหตุ ปัจจุบัน พล.ต.ท.แชน เสียชีวิตไปตั้งแต่ 28 ต.ค. 56 จากการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส,อัศวิน สั่งเฝ้าระวังจุดคนหนาแน่น,อีกด้านหนึ่งที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์กรุงเทพฯ ว่า หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตามสถานการณ์ ขณะเดียวกัน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. สั่งการให้สำนักงานเขต และหน่วยงานของ กทม. ทุกหน่วยงาน ดูแล สอดส่อง และตรวจสอบอย่างเข้มข้น เฝ้าระวังจุดที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น เช่น สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง ป้ายรถเมล์ อาคาร หรือสถานที่ขนาดใหญ่ ทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถานที่สำคัญๆ สถานที่ประวัติศาสตร์ สถานที่เขต สำนักพระราชวัง ขณะที่ กอ.รมน.กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึก ประเมินสถานการณ์ สนับสนุนการทำงานของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับการก่อเหตุนี้ได้แล้วบางส่วน,นายกฯป้องบิ๊กแดงด่วนฟันธง,ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดป่วน กทม. เมื่อเวลา 07.25 น. ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ว่า ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหา 2 คนที่จับกุมได้ ทราบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้อง 10 กว่าคน ขณะนี้ไม่ได้ตัดสาเหตุจูงใจใดทิ้ง ขอให้ใจเย็นๆเพราะมีผู้เกี่ยวข้องอีก 10 กว่าคน ต้องตามจับให้ได้ว่าสาเหตุที่เกี่ยวข้องมาจากอะไร หากไปกดดันเจ้าหน้าที่จะทำงานลำบาก เรื่องเช่นนี้พร้อมที่จะเกิดขึ้นในหลายเวทีของโลกนี้ คนเราแตกต่างทางความคิด ยังไม่ได้มุ่งหมายว่าเป็นกลุ่มไหน ส่วนที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ระบุว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2549 เป็นแค่เพียงการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ที่มีการยึดโยงกัน และมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน กลุ่มการเมืองจะอยู่เบื้องหลังหรือไม่ยังไม่ทราบ อย่าเพิ่งไปสรุปอะไร,ประณามคนทำ ใจร้ายใจดำ,เมื่อถามว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่ตัดเหตุการณ์ใดออก เมื่อถามถึงกรณีที่มารดาของผู้ต้องหาต้องการทราบที่อยู่ของบุตรชาย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่แม่ต้องเป็นห่วงลูก ทั้งหมดเป็นไปตามวัตถุประสงค์พยาน และกล้อง CCTV รวมถึงหลักฐานที่ตรวจสอบพบ เช่น ถุงเสื้อผ้ามีอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องฟังทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ไม่ว่าที่ใดก็ตามมีปัญหากันหมด โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในห้วงเวลานี้ คนที่ดำเนินการหรือคนที่เกี่ยวข้องยังไม่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นใคร แต่ถือว่าใจร้ายใจดำ ที่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย,ไม่เกี่ยวปมนายกฯ คุมทหาร–ตำรวจ,เมื่อถามว่า การลอบวางระเบิดครั้งนี้เกิดจากแรงจูงใจที่นายกฯ ดูแลทั้งทหารและตำรวจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน คุยกับพี่น้องทุกคน ทั้ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รวมถึงกระทรวงมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนให้แนวทางไปกับตำรวจว่า ทุกอย่างต้องดูแลให้เกิดความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามได้จัดคณะทำงานให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นในการสืบสวนสอบสวนคดี และเน้นย้ำว่าการให้ข้อมูลข่าวสารใดก็ตามที่จะทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความไม่พอใจส่วนตัวขอให้เบาๆกันไว้บ้าง,อย่าโยงสโลแกน สงบจบที่ ลุงตู่,เมื่อถามว่า เหตุจูงใจน่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หาเสียงเอาไว้ว่าหากเลือกความสงบจบที่ ลุงตู่ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนไม่ได้เป็นคนพูด ใครจะเลือกใครเป็นเรื่องของการเมืองก็เลือกกันไป ในช่วงนั้นพยายามที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง หลายพรรคก็หาเสียงกันทุกเรื่อง อย่าเอาประเด็นโยงกันไปมา แค่นี้ปัญหาเยอะพอสมควรอยู่แล้ว ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบหรือไร คนที่ไม่ดีทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงกับประเทศชาติต้องถูกดำเนินการ ในฐานะที่ตนเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ได้บูรณาการการทำงาน และสั่งการเพิ่มเติมให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.) รวมถึงเรื่องการข่าวประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านดูแลการผ่านแดนให้มากกว่าเดิม,เฉ่งพวกไร้ตรรกะมอง รบ.ทำเอง,เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายรัฐบาลมีพิรุธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า รัฐบาลมีพิรุธอย่างไร อยากให้มองในประเด็นใหญ่ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่ เรากำลังประชุมระดับนานาชาติ มีต่างประเทศเข้าร่วม ทั้งในกรอบอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ถามว่าใครจะทำแบบนั้น เว้นแต่ว่าเป็นการทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ อยากให้มองในมุมนี้บ้าง อย่ามองในประเด็นที่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์เอง จะทำทำไม ตนอยู่ดีๆเฉยๆไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรืออย่างไร อยากให้คิดให้มีตรรกะ,วันนอร์ แจ้งจับโพสต์หมิ่น,ส่วนที่ สภ.เมืองนราธิวาส ช่วงสายวันเดียวกัน นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคประชาชาติ ได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อนายปิยะพงษ์ ประสาททอง ในข้อหาหมิ่นประมาทและผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภายหลังโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค.ว่า พรรคประชาชาติเป็นผู้บงการระเบิดป่วนเมืองกรุง และยังนำโลโก้ของพรรคมาลงต่อท้ายข้อความ นายกมลศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าผู้โพสต์มีเจตนาอะไร หลังจากตำรวจจับกุมชาวบ้าน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 2 คน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิด สร้างความเสียหายต่อพรรคประชาชาติที่มีนโยบายการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการสันติภาพ ในฐานะที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ขอเร่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีให้คลี่คลายโดยเร็วเพื่อปลดล็อกมุมมองพรรคประชาชาติในแง่ลบ,หนุ่มตานีโวย ปารีณา แชร์โยงบึม,เช่นเดียวกับที่ สภ.เมืองปัตตานี นายกามารุดดิน โต๊ะดง อายุ 25 ปี ชาว จ.ปัตตานี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แชร์ภาพของตนที่ถ่ายคู่กับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกตำรวจจับกุมคดีลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกัน ขณะเดียวกันนายมะยุ เจ๊ะนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ได้รับผลกระทบลักษณะเดียวกันได้เข้าแจ้งความด้วย นายกามารุดดินเผยว่า น.ส.ปารีณาโพสต์รูปตนเชื่อมโยงผู้ต้องหาคดีระเบิดที่กรุงเทพฯ มีคนแชร์ต่อไป 400 กว่าคน ทำให้ตนและครอบครัวไม่สบายใจ ส่งผลกระทบต่อจิตใจการงาน และครอบครัว เพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงชายแดนใต้ ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ขอให้ผู้โพสต์ให้ความเป็นธรรมช่วยลบออกด้วย รวมทั้งคนที่แชร์อย่าเล่นสนุกอย่างเดียวให้มองคนที่ได้รับผลกระทบด้วย
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เซบีญาย้ำแค้นม่วง 2-0 ลิ่วชิงยูโรปากับดนิโปร
เซบีญา ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมสมราคาแชมป์เก่า หลังบุกไปย้ำแค้นเอาชนะ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ถึงถิ่น 2-0 ส่งผลให้รวมผล 2 นัด เซบีญาลิ่วเข้าไปป้องกันแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวมขาดลอยถึง 5-0 ขณะที่ดนิโปรฯพลิกล็อกเปิดรังเฉือนชนะนาโปลี 1-0 รวม 2 นัด ดนิโปรฯซิวชัย 2-1 พลิกเข้าชิงกับแชมป์เก่า เซบีญา ในศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา,ที่สนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ทีมดังแห่งศึกกัลโชซีรีเอ อิตาลี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แชมป์เก่า เซบีญา โดยนัดแรกนั้น เซบีญาเป็นฝ่ายเปิดรังถล่มชนะขาดลอยมาได้ก่อนถึง 3-0 เกมนี้ เจ้าบ้านฟิออเรนตินาวางโมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฮัวคิน ซานเชซ และดาวิด ปิซาร์โร เป็นสามประสานแนวรุก ขณะที่เซบีญาส่ง คาร์ลอส บัคคา เป็นตัวความหวังในแดนหน้า,เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้ 22 นาที เป็นเซบีญา ที่บุกมาพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่เอเวอร์ บาเนกา เปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาเข้าไปหน้าประตู และเป็นคาร์ลอส บัคคา ซัดบอลเข้าประตูไป จากนั้นอีก 5 นาทีให้หลัง แชมป์เก่า ได้ประตูนำห่างเจ้าถิ่นเป็น 2-0 จากการซัดของดาเนียล คาร์ริโก หมดครึ่งแรก เซบีญาบุกมานำห่างก่อน 2-0,ส่วนเกมครึ่งหลังฟิออเรนตินายังไม่ยอมง่ายๆ เดินหน้าบุกหนักหวังทวงประตูคืน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะแนวรับแชมป์เก่าเซบีญาได้ จบเกม เซบีญาบุกมาย้ำแค้นเอาชนะฟิออเรนตินาได้อีกคำรบ 2-0 รวมผล 2 นัด เซบีญาผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์อีกสมัย ด้วยสกอร์รวมขาดลอย 5-0,ทางด้านเกมรอบรองฯ นัด 2 ระหว่างดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสก์ ทีมม้ามืดจากยูเครน เปิดสนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงเคียฟ ดวลกับ อัซซูรา นาโปลี ทีมแกร่งจากเวทีกัลโชซีรีเอ อิตาลี หลังจากนัดแรกทั้งคู่เสมอกันมา 1-1 ที่บ้านของนาโปลี,ผลดวลแข้ง 90 นาทีปรากฏว่า ดนิโปรฯเปิดบ้านเฉือนเอาชนะนาโปลีลงได้ 1- 0 จากประตูชัยโทนของเยฟเฮน เซเลซนียอฟ ในนาทีที่ 58 ส่งผลให้ดนิโปรฯเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยประตูรวม 2 นัด 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับแชมป์เก่า เซบีญา ที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ในวันพุธที่ 27 พ.ค.นี้ต่อไป.,วิลลาอ่วม โดนเอฟเอปรับเงิน 2 แสนป.,สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อ่วมอรทัยแน่ หลังโดนเอฟเอสั่งลงโทษปรับเงินก้อนโตถึง 200,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) โทษฐานที่ปล่อยให้แฟนบอลของตัวเองบุกลงไปในสนาม ระหว่างเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 ที่เจอกับเวสต์บรอมวิช อัลเบียน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา,สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งลงดาบปรับเงิน แอสตัน วิลลา สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นจำนวนถึง 200,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) จากความผิดที่ทีมปล่อยให้แฟนบอลของตัวเองบุกลงไปในสนามวิลลา พาร์ก ระหว่างเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 ซึ่งวิลลาเปิดบ้านเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียน คู่อริร่วมเมือง ขาดลอย 2-0 เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา,แถลงการณ์ของเอฟเอระบุว่า แอสตัน วิลลา โดนปรับเงิน 200,000 ปอนด์ หลังจากยอมรับข้อหาแฟนบอลของพวกเขาประพฤติตัวไม่เหมาะสม ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 6 กับเวสต์บรอมวิช เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2015 โดยวิลลาถูกตั้งข้อหาว่าไม่สามารถควบคุมแฟนบอลของตัวเองได้ ทำให้มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งบุกลงไปในสนามวิลลา พาร์ก ขณะเดียวกัน แอสตัน วิลลา ก็โดนตักเตือนห้ามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต,ทั้งนี้ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทีมของกุนซือทิม เชอร์วูด หลังจากเอาชนะเวสต์บรอมวิช 2-0 ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 6 ก็ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะปราบลิเวอร์พูลลงได้ 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล แชมป์เก่า ที่เวมบลีย์ ในวันที่ 30 พ.ค.นี้.,เอเชียนแฮนดิแคป 16 พฤษภาคม,พรีเมียร์ลีก,18.45 น. เซาแธมป์ตัน-วิลลา 0 : 0.5/1,21.00 น. เบิร์นลีย์-สโต๊ก 0 : 0,21.00 น. ควีนสปาร์ก-นิวคาสเซิล 0/0.5 : 0,21.00 น. ซันเดอร์แลนด์-เลสเตอร์ 0 : 0,21.00 น. สเปอร์ส-ฮัลล์ 0 : 0.5/1,21.00 น. เวสต์แฮม-เอฟเวอร์ตัน 0 : 0,23.30 น. ลิเวอร์พูล-พาเลซ 0 : 1/1.5,บุนเดสลีกา,20.30 น. เลเวอร์คูเซน-ฮอฟเฟนไฮม์ 0 : 1/1.5,20.30 น. เอาก์สบวร์ก-ฮันโนเวอร์ 0 : 0/0.5,20.30 น. แฮร์ธา-แฟรงก์เฟิร์ต 0 : 0.5,20.30 น. ไมน์ซ-โคโลญ 0 : 0/0.5,20.30 น. ไฟร์บวร์ก-บาเยิร์น 1 : 0,20.30 น. ชาลเก้-พาเดอร์บอร์น 0 : 1,20.30 น. สตุตการ์ต-ฮัมบวร์ก 0 : 0.5/1,20.30 น. เบรเมน-กลัดบัค 0.5/1 : 0,20.30 น. โวล์ฟสบวร์ก-ดอร์ทมุนด์ 0 : 0,กัลโช ซีรีเอ,23.00 น. อินเตอร์ฯ-ยูเวนตุส 0 : 0/0.5,01.45 น. ซามพ์โดเรีย-ลาซิโอ 0/0.5 : 0
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
Mercedes Benz เปิดตัว Maybach 2015 อภิมหายนตรกรรมพันธุ์หรูสำหรับบุคคลสำคัญและผู้บริหารระดับสูง ปล่อยราคาท้าความร่ำรวยที่ 16.9 ล้านบาทเท่านั้นจ้า
6 สิงหาคม 2558 Mercedes Benz ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Maybach (เมอร์เซเดส-มายบัค) ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรู เหนือระดับ จัดหนักใส่ความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในที่เลิศหรู ล้ำสมัยในทุกอณู รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยความยาวตัวถัง และระยะฐานล้อที่เพิ่มมากขึ้น เป็นยนตรกรรมที่ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารภายในมีความเงียบมากที่สุดในโลกอีกด้วย Mercedes-Maybach S 500 พร้อม เปิดให้จองได้ในราคา 16,900,000 บาท ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น,ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes Benz Thailand กล่าวว่า Mercedes-Maybach นับเป็นค่ายยนตรกรรมหรูลำดับที่ 2 ภายใต้แบรนด์ Mercedes ต่อจาก Mercedes-AMG โดยรุ่นที่ทางบริษัทฯ นำมาเปิดตัวในประเทศไทยนั้น คือรุ่น Mercedes-Maybach S 500 ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่หรูหราล้ำสมัย สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแบรนด์ในการมอบ สิ่งที่ดีที่สุด และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ให้แก่ลูกค้า โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูงและกลุ่มธุรกิจฟลีทกับโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองไทยสำหรับให้บริการเหล่าลูกค้าคนสำคัญ,มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes Benz Thailand กล่าวว่า Mercedes-Maybach S500 โดดเด่นด้วย ดีไซน์ภายนอก อันหรูหราสง่างาม โดยการคงไว้ซึ่งการออกแบบบริเวณด้านหน้าให้ยังคงความหรูหราแบบ The new S-Class เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับโลโก้ Mercedes Benz บนฝากระโปรงลาย 3 แถบ เสริมโครเมียม ฝากระโปรงหน้าที่ยาว พร้อม คิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคันพร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System, ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก, ปลายท่อไอเสียคู่, ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์แบบ Run-flat tyres และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ขนาดใหญ่ พร้อมปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยโลโก้ Maybach บนฝากระโปรงหลัง,Mercedes-Maybach มาพร้อมกับความยาวตัวรถประมาณ 5,453 มม. (S-Class ยาว 5,246 มม.) ระยะฐานล้อ 3,365 มม. (S-Class ยาว 3,165 มม.) ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสำหรับ ดีไซน์ภายในยังคงเน้นการผสมผสานความหรูหรา ความนุ่มสบายขณะขับขี่ และความกว้างขวาง เข้าไว้ด้วยกันโดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa แบบ Exclusive Package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, ด้านบนของคอนโซลหน้า และส่วนกลางของแผงประตูหุ้มหนัง nappa, ผ้าหลังคาและแผงบังแดดหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre, นาฬิกาแบบอนาล็อก ที่มาพร้อมกับ IWC ดีไซน์ รวมถึงระบบมัลติมีเดียอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบ COMAND Online เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และระบบ นำทาง (navigation system) พร้อมรีโมตควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, เครื่องเล่นดีวีดีแบบ 6 แผ่น (DVD Changer), ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ระบบเครื่องเสียงแบบ Burmester® high-end 3D surround sound system, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า (Head-up display) และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังพร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง,ห้องโดยสารภายใน,มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังริมหน้าต่าง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอุ่นเบาะนั่งและระบายอากาศพร้อมทั้งสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าได้มากกว่าปกติถึง 4 เซนติเมตรและเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 เซนติเมตร เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ multi-contour ที่มาพร้อมระบบที่นั่งแบบ First Class และโต๊ะทำงานแบบพับได้ รวมถึงการเพิ่มความสบายตลอดการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นนวด ENERGIZING สำหรับเบาะด้านหลัง ที่ใช้หลักการนวดผ่อนคลายเหมือนการใช้หินร้อนโดยสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 รูปแบบ ได้แก่ Hot Relaxing Massage Back, Hot Relaxing Massage Shoulder,Activating Massage, Classic Massage, Mobilizing Massage และ Workout ที่พร้อมเพิ่มความสบายในการพักผ่อนด้วยรองขาปรับระดับ สำหรับผู้โดยสารด้านหลังซ้าย-ขวา,ตู้เย็นภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลัง, ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา และด้านหลัง ที่สามารถปรับเลื่อนขึ้น-ลงด้วยระบบไฟฟ้า,ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC หน้า-หลัง รวมถึงการช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 7 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ,นอกจากนี้ Mercedes-Maybach ได้ทำการติดตั้งระบบ active perfuming system ที่มาพร้อมกับ AIR-BALANCE Package โดยระบบจะผลิตกลิ่นหอมและปรับระดับความหอมได้ด้วยตัวคุณเอง ผ่านการใช้น้ำหอมปรับอากาศคุณภาพสูงเพื่อให้ความสดชื่นและความรื่นรมย์มากขึ้น โดยกลิ่นหอมที่ใช้มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่,FREE SIDE MOOD,NIGHTLIFE MOOD,DOWNTOWN MOOD,SPORTS MOOD,รวมถึงอีก 1 กลิ่นพิเศษสำหรับ Mercedes-Maybach โดยเฉพาะ อย่างกลิ่น AGARWOOD,เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย,Mercedes-Maybach ได้ถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system และ PRE-SAFE impulse system, ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (PRE-SAFE rear system) ที่มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยแบบถุงลมเพื่อลดแรงกระแทกเมื่อ เกิดอุบัติเหตุและหัวล็อกเข็มขัดนิรภัยแบบเรืองแสง, ถุงนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า,ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ElectronicStability Program - ESP), ฟังก์ชั่นช่วยการทรงตัวขณะเร่งแซงทางโค้ง (Curve Dynamic Assist), ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบช่วยเบรก (Brake Assist – BAS), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist, ไฟเบรกกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Lights), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Accelerationskid control –ASR), สัญญาณป้องกันการโจรกรรมพร้อมระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST), ระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ (AIRMATIC), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre pressure monitoring system), ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ฟังก์ชั่นที่ฉีดน้ำกระจกบังลมหน้าติดตั้งบริเวณใบปัดน้ำฝน (MAGIC VISION CONTROL), ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน (Night view assist), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus), ระบบช่วงล่างแบบ MAGIC BODY CONTROL และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง,Mercedes-Maybach S 500 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบใหม่ล่าสุด 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 4,663 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 455 แรงม้าที่ 5,250-5,550 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาทีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.,Mercedes-Maybach S 500 ราคา 16,900,000 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดพร้อมสั่งจองรถยนต์ได้ที่ผู้จำหน่าย Mercedes Benz อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th, ,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom, 
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ แทน ผู้ใหญ่บัติ ที่ถูกฆ่าพร้อมครอบครัว 8 ศพ จนท.ยังคุ้มกันหนาแน่น 3 พยาน ขณะที่พ่อตาคนตายวอนภาครัฐช่วยเรื่องถูกโกงที่ดิน
ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ แทน ผู้ใหญ่บัติ ที่ถูกฆ่าพร้อมครอบครัว 8 ศพ จนท.ยังคุ้มกันหนาแน่น 3 พยาน ขณะที่พ่อตาคนตายวอนภาครัฐช่วยเรื่องถูกโกงที่ดิน     ,วันที่ 8 ส.ค.60 ที่ศาลาประชาคม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นายวุฒิชัย บัวทอง นายอำเภออ่าวลึก พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ ร่วมกันดูแลการจัดการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน แทนนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตพร้อมครอบครัวและญาติๆ รวม 8 ศพ บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัคร 3 ราย คือ นางวันดี จงรักษ์, นายจักกฤษณ์ หนูรินทร์ และนายไชยา มาตย์บุตร บรรยากาศการใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้มีประชาชนชาวหมู่ 1 ต.บ้านกลาง ทยอยเดินทางมาลงคะแนนไม่ขาดสาย ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง มีผู้มาใช้สิทธิ์แล้วกว่า 400 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 878 คน ,นายวุฒิชัย บัวทอง นายอำเภออ่าวลึก กล่าวว่า หลังปิดหีบเชื่อว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีการจัดเจ้าหน้าที่ อส. ร่วมกับตำรวจกว่า 20 นาย มาคอยดูแลสถานที่เลือกตั้งในครั้งนี้ โดยในส่วนของผู้สมัครแต่ละรายนั้น ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ส่วนการทำผิดกฎหมายจนถึงขณะนี้ยังไม่พบ คาดว่าประมาณ 5 โมงเย็นจะทราบผลการเลือกตั้งว่า ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่คือใคร,ส่วนที่บ้านของ นายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของนายวรยุทธ ยังมีเพื่อนบ้านเดินทางมาเยี่ยมไม่ขาดสาย และยังตั้งเต็นท์ไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อรอทำบุญครบรอบ 1 เดือน และ 40 วัน ตามพิธีทางศาสนา ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลพยานที่รอดชีวิต คือ นางอัชญลี บุตรเติบ และลูกสาว 2 คน ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน,นายจรีย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีนั้น เชื่อว่าอีกไม่นานนี้ทางตำรวจจะส่งฟ้องได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มาตามชาวบ้านไปสอบปากคำเพิ่มเติมหลายราย ส่วนปัญหาเรื่องโฉนดที่ดิน ที่ถูกนายซูริก์ฟัต ผู้ต้องหาโกงไปนั้น ขณะนี้มีชาวบ้านมาแจ้งขอความช่วยเหลือกับทางอำเภอ และยุติธรรม จ.กระบี่ แล้วกว่า 10 ราย อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือให้เต็มที่ เพราะชาวบ้านถูกหลอกโกงเอาที่ดินไปจนไม่มีบ้านจะอยู่ ,ขณะที่ พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ กล่าวว่า คดีขณะนี้ยังอยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการตรวจพยานวัตถุ ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ส่งกลับมา หากส่งมาก็จะสามารถเร่งสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ขณะนี้ได้ฝากขังเป็นผัดที่ 2 ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และจะครบกำหนดในวันที่ 11 สิงหาคมนี้.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
บุ๋ม ปนัดดา เปิดบริษัท 13 ถ้ำหลวง ดูแลสิทธิประโยชน์ 13 หมูป่าติดถ้ำ ประกาศต่อไปนี้ ใครจะเชิญไปไหน สร้างหนังต้องติดต่อผ่านบริษัทเท่านั้น หลังจากถูกผู้ใหญ่ใช้งานฟรี เอาประโยชน์สร้างผลงานตัว
เอง,เมื่อวันที่ 3 มี.ค.62 ที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย บุ๋มปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกรชื่อดัง และแคนดี้ รากแก่น หมอลำชื่อกระฉ่อน พร้อมนักฟุตบอล 13 หมูป่า ร่วมจุดธูปเทียน วางดอกไม้เซ่นไหว้เจ้าแม่นางนอน และทำพิธีไหว้บอกกล่าวรูปปั้นจ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีล ที่สละชีพกลางถ้ำหลวง ในภารกิจช่วยเหลือ 13 หมู่ป่าติดถ้ำ ที่หน้าพิพิธ ภัณฑ์ถ้ำหลวง ก่อนจะเดินทางไปที่วัดพระธาตุดอยเวา ทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลแผ่ส่วนบุญกุศลให้จ่าแซม และพันผ้ารอบพระธาตุดอยเวา พร้อมกับทำพิธีตัดริบบิ้นเปิด บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด เพื่อดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ ของ 13 หมูป่าติดถ้ำ หลังจากมีการเจรจาพูดคุยกับผู้ปกครองมีข้อตกลงมอบให้ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดูแลผลประโยชน์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นกับทีมฟุตบอลเยาวชน 13 หมูป่า โดยมีแนวทางเน้นการศึกษา และฝึกซ้อมบอล ปั่นจักยาน กิจกรรมที่ชอบ เป็นอันดับแรก ก่อนจะไปทำกิจกรรมอย่างอื่น,บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งบริษัท 13 ถ้ำหลวง เป็นการจัดตั้งเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของเด็ก ในการรับงานต่าง ๆ จากนี้เป็นต้นไปใครจะติดต่อประสานงานให้ผ่านบริษัท จะได้ดูแลน้อง ๆ ได้เต็มที่ จะได้เรียนไปตามเส้นทางที่ฝัน ซึ่งการบริหารจะเป็นลักษณะแบบครอบครัว จะมีการดูแลกันตลอดไป จนกว่าทุกคนจะเติบโต ทำอนาคตให้สำเร็จตามที่ทุก ๆ คนหวังไว้ และตามความปรารถนา ของคนทั้งโลกที่จะให้เด็กมีอนาคตที่ดีเป็นที่รักของคนทั่วไป ท้ายสุดขอฝากให้กำลังใจบริษัท 13 ถ้ำหลวง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใกล้ชิดกับ 13 หมูป่าติดถ้ำ เล่าว่า ผู้ปกครองนักฟุตบอลเยาวชน ต่างเข็ดเขี้ยวหน่วยงานราชการที่สั่งให้ไปไหน ต่อไหนโดยไม่คำนึงถึงเวลาเรียน เวลาซ้อมบอลของเด็ก ต้องการให้ไปออกงานไหน ต้องไปให้ได้โดยไม่กล้าปฎิเสธ ทำให้เด็กเสียโอกาสการเรียน การฝึกซ้อมเตะบอล วิถีชีวิตเปลี่ยน ถูกผู้ใหญ่กำหนดขีดเส้นให้เดิน ไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง และทุกครั้งที่ไปก็ไม่มีค่าเหนื่อย ต้องดิ้นรนทำเสื้อยึดขาย นำเงินมาใช้จ่ายกันเอง ส่วน ผู้ใหญ่ได้หน้าบาน มีผลงาน จึงเป็นมูลเหตุต้องให้ บุ๋ม ปนัดดา มาตั้งบริษัทช่วยดูแลสิทธิ์ประโยชน์ให้เด็ก ๆ.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ยายวัย 62 ปีเหยื่อรถแรลลี่ข้ามจังหวัดถูกรถชนกระเด็นดับ ขณะที่ เจ้าของรถแรลลี่ไม่เหลียวแล จนศพใกล้เผา จึงส่งทีมเข้าช่วยเหลือ มอบเงินเยียวยา ส่วนญาติให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนชนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนที่ จังหวัดสระบุรี หลังจากทางโลกโซเชียล มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องเกี่ยวกับ ยายวัย 62 ปี ถูกรถแข่งแรลลี่ชนกระเด็นเสียชีวิต ขณะขับรถ จยย. ข้ามถนน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ช่วง 17.00 น. จากนั้นก็มีการเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่ชนมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันทางญาตินำศพฌาปนกิจตามประเพณี โดยขณะที่ ญาติ ไม่พบผู้ชนที่รับผิดหรือทีมงานเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด จนมีการวิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์ ถึงการกระทำผิดที่ไม่ไยดีกับผู้เสียชีวิต
,เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ส.ค.2560 ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่วัดท่าพลู หมู่ที่ 4 ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพราะในวันนี้เป็นวันที่มีการฌาปนกิจเหยื่อรถแข่งแรลลี่ นาง บุญมา เอี่ยมสะอาด อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 5 ต.เขาน้อย อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี โดยภายในงานกำลังเตรียมเผาร่างผู้เสียชีวิต โดยมีเพื่อนบ้านและญาติ ทั้งสามีลูกหลานมาร่วมงานจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาศพได้เคลื่อนสู่เมรุทำการเผา
,นายสอน อุดราช อายุ 63 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้น วันที่ 18 ส.ค. ช่วงประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ตายหรือภรรยา ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน งขฟ 607 ชลบุรี ออกจากบ้าน เพื่อไปซื้อกระสอบมาใส่ของในบ้าน ในขณะที่ผู้ตายขับออกจากบ้านไปประมาณครึ่งชั่วโมง มีเพื่อนบ้านบอกว่า ภรรยาของตนถูกรถชนตาย ตนเองจึงได้มาที่เกิดเหตุเป็นถนนสายบ้านทรัพย์ดินดำ-เขาวง ม.6 ต.ลำยากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นสามแยกพอดี,เมื่อตนเองมาถึงพบร่างภรรยาของตน ขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต นอนอยู่ข้างป่าริมถนน ส่วนรถ จยย.พบถูกชนกระเด็นลากไปประมาณ 50 เมตร โดยตนพบว่ามีตรายี่ห้อรถโตโยต้าตกอยู่กับรถ จยย. และเศษชิ้นส่วนบังโคลนรถ 1 ชิ้น ขณะที่ตนเห็นว่าภรรยายังได้หายใจอยู่ จึงได้ช่วยกันกับเพื่อนบ้านที่มามุงดูนำส่งโรงพยาบาลปากช่องนานา แต่อาการสาหัสมากและได้เสียชีวิตลง จากนั้นตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำตู้ยามลำสมพุง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามรถคันที่ชนภรรยาของตนให้มาดำเนินคดี
,สามีผู้ตายกล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวหลังจากที่ตนได้แจ้งความตำรวจให้ติดตามคนร้ายที่ขับชนเพื่อมาดำเนินคดี ตนเองและญาติก็ได้ทำการนำศพมาทำพิธีการทางศาสนาที่วัดท่าพลู ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จน 3 วันแล้ว ก็ยังไม่มีผู้จะมารับผิดชอบหรือช่วยเหลือแต่อย่างใดเลย เพราะว่า หลังจากที่ภรรยาของตนได้ถูกรถนักแข่งแรลลี่ชนนั้น ตนเองและครอบครัวก็พอทราบเบาะแสว่า รถที่ชนเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มรถในขบวนที่จัดแรลลี่ ที่วิ่งผ่านมาทางพื้นที่ของชาวบ้านตน แต่แล้ววันงานไม่เห็นมีใครที่จะมาร่วมเยียวยาใจ หรือสำนึกผิดแม้แต่นิดเดียวที่ชนคนตาย,นายสอน กล่าวอีกว่า จนกระทั่งประมาณวันที่ 21 ที่ผ่านมาลูกๆ หลานๆ ได้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่โลกโซเชียล เพื่อขอความเป็นธรรมแก่คนตาย และขอให้ช่วยตามรถผู้กระทำความผิดที่มาขับร่วมจัดการแข่งขัน โดยตนเองเชื่อว่าทางผู้จัดงานเชื่อว่าน่าจะมีข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุนี้ด้วย และเชื่อว่า น่าจะมีข้อมูลในการเดินทางของรถแต่ละคันและวันเวลาใกล้เคียงกับที่ชน,สามีผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากนั้น จนเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ช่วงเวลา 14.00 น. ตนได้รับทราบจาก นักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้มาประสานกับตนและครอบครัว โดยในขณะนั้นกำลังเตรียมงานศพอยู่ว่า ได้มีเจ้าของบริษัทที่ร่วมจัดการแข่งขันรถแรลลี่ข้ามจังหวัด ในครั้งนี้ได้โทรศัพท์มาเพื่อขอช่วยเหลือเรื่องศพในเบื้องต้น โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา มาก่อน 4 แสนบาท พร้อมโอนผ่านมาให้ทันที โดยที่ตนก็ดีใจรับเงินไปทำการใช้จ่ายในงาน,ถึงแม้ว่าทางเจ้าของจัดงานรถแรลลี่ จะช่วยเยียวยาในเบื้องต้นในงานศพนั้น ตนเองและครอบครัวก็ดีใจและขอบคุณมาก แต่กลับกันทางด้านคดีความตนมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 โดยในส่วนคดีความ ยังไม่ได้เข้าให้การปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะติดจัดงานศพอยู่ และตนเองก็ยังไม่ทราบว่ารถคันไหนชนภรรยา แต่พอรู้แค่คร่าวๆ ว่า จะต้องเป็นในขบวนรถแข่งแน่นอน ซึ่งตนเสร็จงานตนเองก็จะเข้าให้ปากคำตำรวจเพื่อที่จะหารถคันที่ชนมาดำเนินคดี นายสอน กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง,ส่วน พ.ต.อ.ธัชกร รอดเจียม ผกก.สภ.มวกเหล็ก กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวหลังจากทางเจ้าหน้าที่รับแจ้ง ก็มีพนักงานสอบสวนลงตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามรถคันที่ชน โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานไปทางผู้จัดการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐานและดูว่าในการแข่งขันมีรถกี่คัน และดูเวลาที่ลงนัดครั้งสุดท้ายที่ใกล้กับเหตุการณ์ที่ชน จะได้เชิญตัวเจ้าของรถที่ต้องสงสัยมาสอบสวนเพื่อหาคนผิดและรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี ส่วนทางด้านสอบปากคำทางญาติผู้ตายทราบว่า หลังเสร็จงานศพตนจะดำเนินการสอบสวนต่อไป.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ชาวกรุงเก่าเริ่มผวา โครงเหล็กป้ายโฆษณา LED ขนาดยักษ์โผล่ตระหง่านหลังคาตึกสูง หวั่นล้มครืนลงมาทับบ้านเรือนประชาชน เทศบาลเมืองอโยธยายอมรับผิดแบบ เตรียมสั่งรื้อ
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 นายการุณ บันลือสุข สมาชิกสภาเทศบาลเมืองอโยธยา เขต 3 พร้อมตัวแทนชาวบ้านชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องเรียนต่อนายวุฒิชัย ด่านชัยวิจิตร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอโยธยา หลังจากที่มีบริษัทเอกชนก่อสร้างโครงเหล็กเพื่อติดตั้งจอป้ายโฆษณาระบบ LED ขนาดใหญ่บนหลังคาตึกริมถนนโรจนะขาออกจากเมือง ก่อนถึงแยกวัดพระญาติการาม ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งป้ายดังกล่าวมีขนาดใหญ่อยู่บนหลังคาตึกสูง 3 ชั้น ขึ้นไปอีกประมาณ 5-6 เมตร โดยโครงเหล็กและฐานของป้ายดังกล่าวมีขนาดใหญ่โต และคาดว่าน้ำหนักน่าจะหลายสิบตัน เกรงว่าจะล้มลงมาทับบ้านเรือนหรือรถยนต์ที่สัญจรไปมา หากเกิดลมพายุฝนก็เป็นได้,นายการุณ สมาชิกเทศบาลเมืองอโยธยา เขต3 และเป็นตัวแทนของชุมชนศาลเจ้าพ่อจุ้ย กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านในชุมชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้มาปรึกษาตนถึงกรณีที่มีการสร้างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ได้มีการเริ่มก่อสร้างมาแล้วประมาณ 1 เดือน เดิมทีก็คิดว่าเป็นโครงขนาดเล็กๆ ธรรมดา จนสังเกตเห็นว่ามีขนาดใหญ่มาก จึงสอบถามมาทางเทศบาลเมืองอโยธยา และทางเทศบาลเมืองอโยธยาแจ้งว่าได้มีการขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณาอย่างถูกต้อง ตนและชาวบ้านจึงได้เดินทางมาร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อว่าป้ายดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการล้มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนได้ และเกรงว่าตัวอาคารจะรับน้ำหนักไม่ได้ เพราะตึกดังกล่าวสร้างมานานกว่า 45 ปีแล้ว อีกทั้งป้ายยังมีน้ำหนักมาก และอาจจะถูกลมพายุพัดลงมาได้ จึงอยากให้ทางวิศวกรออกไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน,นางสมจิตร กลิ่นดี อายุ 75 ปี กล่าวว่า ตนเองได้เปิดร้านซ่อมหม้อน้ำรถยนต์มานานกว่า 40 ปี และพักอาศัยอยู่ติดกับตึกที่มีการสร้างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ช่วงแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นป้ายขนาดเก่าและทำการปรับปรุงซ่อมแซม แต่มารู้อีกทีว่าเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ จึงเกรงกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้ทุกวันนี้ตนนอนไม่ค่อยหลับ ต้องหายาทานทุกวันเพื่อไม่ให้เครียด จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยแก้ปัญหาให้ด้วย,ทางด้าน นายวุฒิชัย รองนายกเทศบาลเมืองอโยธยา กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนแล้วและให้กองช่างออกไปสำรวจตรวจสอบพบว่า ป้ายดังกล่าวตรวจสอบได้ทำการขออนุญาตทำป้ายกับทางเทศบาลเมืองอโยธยาแล้ว ขนาดของป้ายที่ได้รับอนุญาตคือ ความกว้าง 5 เมตร และความยาว 12 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงตัวป้าย ไม่เกิน 15 เมตร แต่ทางบริษัทได้ทำผิดแบบที่ขอไว้ ความสูงเกินไปประมาณ 4 ถึง 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 10 ตัน แต่ถ้าทางบริษัทรีบดำเนินการแก้ไขทำให้ถูกต้อง ก็สามารถดำเนินการสร้างต่อได้ แต่ถ้าบริษัทไม่แก้ไข ทางเทศบาลเมืองอโยธยาจะต้องระงับการก่อสร้างทันที ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 53 (พ.ศ.2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งเบื้องต้นแจ้งด้วยวาจาไปแล้ว เนื่องจากสูงเกินมาก และยังมีอีกบางแห่งที่มีเอกชนมาขออนุญาตติดตั้งป้าย แล้วติดตั้งเกินกว่าที่กำหนด ซึ่งหากไม่แก้ไขก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
มาร์ค พิวจ์ ยิงประตูชัยช่วยให้ เดอะ เชอร์รีส์ บอร์นมัธ เปิดบ้านเอาชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ขยับขึ้นที่ 8 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดุกาล 2016-17 ประจำวันอังคารที่ 13 ธ.ค. คู่ที่น่าสนใจ เดอะ เชอร์รีส์ บอร์นมัธ อันดับ 12 ของตารางเปิดสนามวิตาลิตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14 ของตาราง,เปิดฉากครึ่งแรกมา 3 นาที บอร์นมัธ ทักทายได้น่ากลัว จากจังหวะที่ ชาร์ลี ดาเนียลส์ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง อดัม สมิธ พุ่งมาโขก แต่บอลไม่โดนบอล บอลเลยผ่านหน้าประตูออกไปหวุดหวิด,จากนั้นนาทีที่ 7 เลสเตอร์ น่าได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อิสลาม สลิมานี จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทาให้ เจมี วาร์ดี หลุดไปล็อกหลบ อาเธอรื โบรุต นายด่านของบอนร์นมัธ ไปแล้ว แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดบล็อก สตีฟ คุก กองหลังของบอร์นมัะ อย่างน่าเสียดาย,นาทีที่ 22 บอร์นมัธ ได้ลุ้นขึ้นนำ จากจังหวะที่ แจ็ค วิลเชียร์ ได้ยิงจากนอกกรอบ แต่ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ เซฟไว้ได้,ถึงนาทีที่ 34 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ จากจังหวะที่ อดัม สมิธ หลุดมาในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายย้อนมาให้ เบนิค อโฟเบ ซัดเต็มข้อ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ เซฟออกมาเข้าทาง มาร์ค พิวจ์ วอลเลย์สวนเข้าไปตุงตาข่าย,ถึงนาทีที่ 42 เลสเตอร์ ได้ลุ้นตีเสมอ จากจังหวะที่ คริสเตียน ฟุคส์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เวสต์ มอร์แกน ได้ขึ้นโหม่ง แต่ อาเธอร์ โบรุค ผู้รักษาประตูบอร์นมัธเซฟไว้ได้ ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 53 บอร์นมัธ เกือบได้ประตุเพิ่ม จากจังหวะที่ ไซมอน ฟรานซิส จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ อดัม สมิธ ซัดด้วยขวา บอลเหินเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว,จากนั้นนาทีที่ 63 เป็นโอกาสของเลสเตอร์ จากจังหวะที่ เจมี วาร์ดี เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แแอนดี คิง ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคานออกไป,ถึงนาทีที่ 74 เลสเตอร์ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทา บอลเลยมาถึงเสาสอง โรเบิร์ต ฮุธ โขกน้นๆ เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ,ถัดมานาทีเดียว เลสเตอร์ น่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ชินจิ โอกาซากิ พาบอลมาถึงหน้าเขตโทา แล้วซัดเน้นๆ บอลแฉลบนักเตะเจ้าถิ่นหลุดกรอบออกไปนิดเดียว,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาแพ้ บอร์นมัธ 0-1 มี 16 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 14 ส่วน บอร์นมัธ เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 8
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อภิปรายในงาน แขวนเสรีภาพ เสนอการแก้ไขเฉพาะ ม. 112 อย่างเดียวไม่พอ เสนอตั้ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เน้นรณรงค์ปฏิรูปสถาบันรอบด้าน
ชี้ถ้าไม่ยกเลิกองค์ประกอบอย่างมาตรา 8 ไทยก็ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยสมศักดิ์ เปิดการอภิปรายด้วยการกล่าวถึงการจัดงานเผาพระเมรุที่ท้องสนามหลวงเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ซึ่งมองว่าเป็นตัวดัชนีชิวัดความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยได้ จากการดูว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์หรืออภิปรายเรื่องดังกล่าวในที่สาธารณะได้หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่ได้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เพราะหากใช้มาตรฐานเดียวกันกับนักการเมือง เช่น หากญาติของนักการเมืองเสียชีวิต แล้วมีการใช้เงินหลายพันล้านบาท เพื่อที่จะใช้จ่ายเป็นค่าจัดงานศพ แล้ว เหล่านักวิชาการหรือภาคส่วนอื่นๆ ก็จะคงจะทนไม่ได้ออกมาคัดค้านอย่างเป็นแน่แท้ หากแต่เมื่อเป็นเรื่องของสถาบันกษัตริย์ กลับไม่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์mso-bidi-language:TH>เช่นเดียวกับการนำเสนอข่าวพระราชสำนักในเวลาสองทุ่ม ไม่มีการนำเสนอข่าวสารที่ใด ที่เป็นการนำเสนอด้านเดียวเช่นนี้ และยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้อีก จึงแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ในขณะนี้ประเทศไม่ได้เป็นประชาธิปไตยmso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>เมื่อโยงเข้ามากับเรื่องการรณรงค์ของคณะกรรมการรณรงค์เพื่อแก้ไขมาตรา mso-bidi-language:TH>ประเมินการรณรงค์ของครก. mso-bidi-language:TH>จึงมีข้อเสนอคือ ให้มุ่งเปลี่ยนการรณรงค์เพียงการแก้ไขม. mso-bidi-language:TH>คำถามในตอนนี้ก็คือว่า ทำไมเราไม่ยกระดับการรณรงค์เรื่องนี้ไปสู่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มตัว เพราะถ้าหากว่ากลุ่มที่รณรงค์ต้องการจะเปิดพื้นที่การดีเบตจริงๆ หรือให้มีการยกเลิกม. mso-bidi-language:TH>112mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>ในบริบทสังคมไทย การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ก็คือการต่อสู้เพื่อยุติสถานะสถาบันกษัตริย์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าไม่แก้เรื่องสถานะของสถาบันกษัตริย์ ตัวกฎหมายมาตรา mso-bidi-language:TH>ถ้าเราจะรณรงค์เรื่องนี้ในระยะยาว ก็ต้องเข้าใจและชัดเจนว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ว่าอุดมคติที่เราอยากเห็นคืออะไร มองว่าเรื่องม.mso-bidi-language:TH>ประเด็นที่สำคัญคือ เราต้องยุติของสถานะของสถาบันกษัตริย์ ที่มักถูกเอาไปอ้างกัน เพราะในประเทศอื่นๆ ไม่ว่าในประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ หรือเบลเยี่ยม ก็ไม่อ้างกันแล้ว แต่ที่ไทยยังอ้างอยู่ ก็เป็นเพราะอุดมการณ์ทางกษัตริย์นิยม และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ประกอบกันขึ้นมา จะเห็นจากเหตุผล mso-bidi-language:TH>8 mso-bidi-language:TH>ต่อให้รณรงค์ให้ตาย ตราบใดที่ยังมีข่าวสองทุ่ม มีโครงการหลวงอยู่ มันก็แก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น บ้านเราฟังดูมันโชคร้าย เรามาถึงจุดที่ว่า ถ้าคุณต้องการแก้ mso-bidi-language:TH>112112 mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>ตราบใดที่เราปฏิบัติกับสถาบันกษัตริย์แบบเดียวกับที่เราปฏิบัติกับนักการเมืองไม่ได้ การวิจารณ์มันก็ไม่มีความหมาย เพราะก็จะทำให้ชีวิตทางการเมืองของสังคมมันไม่มีความหมาย เพราะถ้าหากการวิจารณ์ไม่ได้ใช้หลักการและบรรทัดฐานเดียวกัน ก็เหมือนกับเป็นการด่ากันในเรื่องส่วนตัว ดังนั้น สรุปได้ง่ายๆ ว่า ในบริบทของประเทศไทย ถ้าคุณไม่ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้ใช้บรรทัดฐานเดียวกับที่ใช้กับคนทั่วไปได้ มิเช่นนั้น คุณก็ไม่มีประชาธิปไตย mso-bidi-language:TH>mso-bidi-language:TH>เมื่อมีการเสนอให้ทำอะไรกับมาตรา mso-bidi-language:TH>ตอนแรกตนเข้าใจสิ่งที่นิติราษฎร์เสนอให้คงกฎหมายเรื่องหมิ่นประมาทประมุขไว้ เพราะเข้าใจว่าสังคมไทยอาจจะยังไม่พร้อม แต่จริงๆ แล้ว การที่นิติราษฎร์เสนอเช่นนี้ เพราะเข้าใจข้อหนึ่งและสองคนละแบบ คือ เสนอว่า ต่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว กฎหมายคุ้มครองประมุขจากการหมิ่นประมาท ก็ยังคงต้องมีอยู่เพื่อคุ้มครองประมุขซึ่งมีสถานะพิเศษ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า จริงๆ แล้ว ในหลักการประชาธิปไตย กฎหมายนี้ไม่ควรมีอยู่ คือให้คุ้มครองด้านอื่นได้ แต่ไม่ควรห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ และต้องถามว่ามีความจำเป็นหรือ เพราะกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาก็มีอยู่แล้ว mso-bidi-language:TH>อย่างในยุโรป ที่ยังมีกฎหมายห้ามหมิ่นประมาทประมุขอยู่ ก็เพราะมรดกทางการต่อสู้ทางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน อย่างในอังกฤษ ก็ไม่มีกฎหมายหมิ่นฯ แล้ว แต่มีกฎหมาย mso-bidi-language:TH>seditious libel2009 mso-bidi-language:TH>ไทยเอง ก็น่าจะเอาแบบอย่างของประเทศที่ไม่มีกฎหมายนั้นใช้แล้ว โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ไทยน่าจะศึกษาและมีความคล้ายคลึงกับไทยมากที่สุด โดยในบรรดารัฐธรรมนูญที่กษัตริย์เป็นประมุขทั้งหมด ญี่ปุ่นระบุไว้ชัดที่สุดว่ากษัตริย์ต้องมาจากการเสนอและเห็นชอบโดยรัฐมนตรีเท่านั้น และไม่สามารถกระทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ การมีจักรพรรดิของญี่ปุ่นถูกยกเลิกไปโดยสหรัฐอเมริกา หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งได้ยกเลิกการใช้กฎหมายหมิ่นไปด้วยเช่นเดียวกัน คงไว้ซึ่งเพียงกฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา mso-bidi-language:TH>ถ้าเราจะต้องสู้ทางอุดมการณ์เพื่อเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปเรื่องสถาบันกษัตริย์ มองว่าต้องทำแบบญี่ปุ่น คือต้องเสนอให้ยกเลิกทั้งหมด ทั้งมาตราแปดและมาตรา mso-bidi-language:TH>ถ้าเช่นนั้น ในปัจจุบันเราจะเสนอได้แค่ไหน นักวิชาการต้องถามตัวเองว่าอะไรคืออุดมคติของไทยเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และถ้าสามารถเสนอได้ ก็เสนอไป ตั้งธงเอาไว้ อย่าง mso-bidi-language:TH>ถ้าเสนอได้แล้วไม่ติดคุก ต้องเสนอ และต้องทำงานความคิดต่อสู้กันไป ก็ต้องมาดูกันว่าเราต้องการอะไร ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศที่มันขึ้นต่อสถาบัน ให้เป็นประเทศที่ปกติธรรมดาของศตวรรษที่ mso-bidi-language:TH>ต่อคำถามเรื่องแผนสำรองในการรณรงค์เพื่อแก้ไขม. mso-bidi-language:TH>ข้อเสนอก็คือ ในการต่อสู้ทางอุดมการณ์ จะต้องเป็นบรรทัดฐานที่วางไว้ว่าต้องสู้แล้วสำเร็จ ต้องเสนอยันว่ายังไงก็ต้องเลิก เพราะมันใช้เวลาแน่นอน อย่างคราวนี้ เป็นครั่งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่สามารถอภิปรายเรื่องนี้ได้จริงจังเมื่อเทียบกับเมือเทียบกับช่วงทศวรรษ mso-bidi-language:TH>ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดชนชั้นกลางของไทยจึงยังต้องการรัฐที่มีสถานะของอำนาจสถาบันกษัตริย์แบบนี้ ไม่คัดง้างกับสถาบัน รวมถึงทักษิณด้วย แต่ตอบตรงๆ ก็เพราะว่า เขาอยากจะรักษาโครงสร้างแบบนี้ให้อยู่ เพราะน่าจะได้ประโยชน์ในอนาคต ถึงแม้ทักษิณเองก็มีคุณูปการทางประวัติศาสตร์ที่เปิดประเด็นวิจารณ์เปรม เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่เปรมทำมาตลอดไม่เคยมีใครหยิบยกมาพูด แต่หลังจากนั้น ก็กลับไปจับมือกัน ในทางปัญหาใหญ่ ทำไมในสังคมไทย นักการเมืองไทยจึงเป็นเช่นนี้ เพราะอย่างประเทศอื่นรัฐสภาก็เป็นฝ่ายที่คัดง้างกับสถาบันmso-bidi-language:TH>สุดท้ายนี้ ฝากอย่างซีเรียส สังคมไทยต้องการองค์กรถาวรที่ทำงานเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ อย่าหวังแต่นิติราษฎร์ หรือตนเอง ทั้งหมดนี้ มันเกี่ยวพันกับการพูดทางการเมืองในอนาคต เราจำเป็นจะต้องแก้ประเด็นนี้ให้ตก อาจจะเปลี่ยนจาก ครก.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
เปาวลีรับดูใจเอิร์ธ กานต์ ลูกชายซูโม่กิ๊กมานาน 4 ปีแล้ว ย้ำไม่ได้ปิดบังเรื่องความรัก เผยฝ่ายชายเข้าใจการทำงานเพราะอีกฝ่ายทำงานเบื้องหลัง ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเพราะงานเยอะ แฟนคลับเข้าใจไร้ปัญหา
ข่าวคราวความรักเงียบเชียบมาตลอด แต่ล่าสุดก็มีข่าวเซอร์ไพรส์วงการเพลงลูกทุ่งว่านักร้องสาวค่ายแกรมมี่โกลด์ เปา เปาวลี พรพิมล คบหาดูใจ เอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ ลูกชายพิธีกรตลกชื่อดัง ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ หรือ ป๋ากิ๊ก พิธีกรรายการ วันวานยังหวานอยู่ ทางช่อง 7 ได้เจอเปาวลีมาร่วมงานเปิดตัว การ์ด ยูเอสบี สมเด็จเจ้าฟ้าไอที ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เลยสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว,ซึ่ง เปาวลี เผยถึงเรื่องนี้ว่า จริงๆ ก็ไม่อยากเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ อยากให้เป็นข่าวเรื่องงานมากกว่า เพราะว่าในเมื่อทุกคนถามเราก็ยินดีตอบค่ะ ถามว่าคบกันนานรึยัง คบกันมาเรื่อยๆ 4 ปีแล้วค่ะ เงียบมากเลย ปิดข่าวรึเปล่า? ที่จริงไม่ได้ปิดเลยนะคะ เราก็คบกันธรรมดา ก็พูดคุยกันปกติทั่วไป แต่ไม่ได้หวือหวา หรือบอกให้ใครฟัง ถูกใจเค้าตรงไหน? เค้าเป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไป ติดดินง่ายๆ อะไรก็ได้ เป็นคนรักครอบครัว รู้จักกันได้ยังไง? เมื่อ 4 ปีก่อน เราก็ไปถ่ายรายการหนึ่งแล้วได้เจอเค้าด้วยความบังเอิญและมีผู้ใหญ่แนะนำ เราก็คุยกันปกติค่ะ (หัวเราะ) เค้าเข้ามาจีบรึเปล่า? ไม่ค่ะ ผู้ใหญ่แนะนำ แล้วก็มีโอกาสคุยกันค่ะ สมัยนั้นยังเป็นบีบีอยู่เลย ผู้ใหญ่ไฟเขียว? ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายก็รับรู้ค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ก็อยู่ในสายตาทั้งคู่ค่ะ 4 ปีมีคุยเรื่องอนาคตมั้ย? ยังไม่กล้าเลยค่ะ (หัวเราะ) ที่เราคบกันเหมือนคนทั่วไป ยังไม่กล้าวางอนาคต เพิ่งจะ 23 ปีเองด้วย และเราก็มีงานที่ดีในตอนนี้ และทำงานเต็มที่ทั้ง 2 ฝ่าย,เค้าเข้าใจมั้ย เพราะเราก็เหมือนไม่มีเวลาให้? เค้าก็เข้าใจเพราะเค้าเองก็ทำงานเบื้องหลัง เค้างานเยอะกว่าเราอีกก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ก็มีให้กำลังใจกันทางโทรศัพท์ พ่อเค้าแซวเราบ้างมั้ย? รู้กันหมดแล้วใช่มั้ย (หัวเราะ) เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เค้าก็คอยให้กำลังใจ ตอนแรกที่กานต์เรียนอยู่ต่างประเทศ เราก็ได้แต่คุยกัน แต่พอมีโอกาสได้กลับมาเมืองไทยก็มีกินข้าวด้วยกันบ้าง นานๆ ที ก็ไปกับครอบครัวเค้าบ้าง เรียกแฟนได้รึยัง? อะไรก็ได้ค่ะ ครอบคลุมทุกอย่าง แฟนคลับเราโอเคมั้ย มีหวงเรารึเปล่า? โชคดีที่พี่ๆ แฟนคลับน่ารักทุกคนค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนสนิทและรู้จักกันทุกคนอยู่แล้ว ก็มีอะไร เค้าก็คอยเป็นกำลังใจมากกว่า เค้าก็รู้เรื่องนี้และไม่ได้ว่าอะไร เวลาเราทำอะไรเค้าก็รู้ว่าเรามีกำลังใจหลายๆ ทาง.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ปัญหาไฟไหม้โรงสีหลายแห่ง ในเวลาใกล้เคียงกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงสาเหตุเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งอดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อน และการเผาเพื่อทำลายหลักฐานการทุจริตในโครงการรับนำข้าว
นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ระบุสาเหตุเพลิงไหม้ โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวหลายครั้ง เมื่อเดือน กรกฎาคมปี 2555 ถึงมีนาคม 2556 ในหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือและอีสาน อาจมาจาก 2 กรณี ทั้งอากาศร้อนจัด หรือเผาเพื่ออำพราง ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วจากการตรวจสอบไปยังโรงสีที่ถูกไฟไหม้บางแห่ง เช่น โรงสีข้าวเจริญพาณิชย์ จังหวัดพิษณุโลกที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งไม่พบความเสียหายของข้าวเปลือก ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ เนื่องจากเป็นการไหม้พื้นที่เก็บแกลบด้านหลังโรงสี สาเหตุจากอากาศร้อนและไฟฟ้าลัดวงจร เช่นเดียวกับโรงสีเพชรธัญญะกิจ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ระบุว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรขณะที่กรมการค้าภายใน ระบุว่า จากการตรวจสอบโรงสีที่เพลิงไหม้ พบว่าเกิดจากสภาพอากาศร้อนจัดแต่ไม่ส่งผลต่อข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำ ซึ่งหากเกิดไฟไหม้ข้าวในโครงการ โรงสีต้องรับผิดชอบ พร้อมกำชับให้โรงสีเร่งส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาไฟไหม้ และเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสต็อกข้าว เพื่อป้องกันปัญหาสต็อกลม
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
วิษณุ ระบุ ประชุมร่วม ครม.-คสช.19 พ.ค. เคาะแก้ รธน.ชั่วคราว เปิดประตูรองรับ ถ้าทำประชามติ เผย ครม.จ้องหั่น ร่าง รธน.เพียบ รวมถึง ม.181-182 ส่วนนายกฯ คนนอกต้องเขียนข้อยกเว้นให้ชัด เล็ง สร้างอำนาจให้รบ.ใหม่จัดการขรก.เอี่ยวโกง
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 พ.ค. จะมีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ว่า จะเปิดทางให้มีการลงประชามติหรือไม่ หากที่ประชุมเห็นชอบจะไปดำเนินการว่า จะแก้ไขอะไรบ้าง เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาภายใน 15 วัน ส่วนหลังจากนั้นจะมีการทำประชามติหรือไม่ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวเปิดไว้ให้ทำแล้ว ตัดสินใจได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากที่ประชุมไม่ให้ความเห็นชอบ บอกว่า ประตูปิดล็อกดีอยู่แล้ว ถือว่าจบ ไม่ต้องพูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก,อย่างไรก็ตาม กรณีที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ตนจะขอหลักการว่า การทำประชามติจะต้องทำอย่างไร ยกตัวอย่าง จะทำประชามติก่อนหรือหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นหลังประกาศใช้ ไม่รู้จะทำไปทำไม ทำก่อนดีกว่า จะได้ตอบสังคมให้ชัด และจะให้เวลาทำประชามติเท่าไร โดยน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน รวมทั้งต้องคิดหากทำแล้วไม่ผ่านจะทำอย่างไรต่อไป จะมีการเสนอทางเลือก 3-4 ทาง เพื่อที่เขียนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม นอกจากนี้ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจมีการแก้ไขในส่วนของระยะเวลาการแปรญัตติของ กมธ.ยกร่างฯ ที่อาจขยายให้ จากเดิมกำหนดไว้ 60 วัน เป็นภายในไม่เกิน 90 วัน,รองนายกฯ กล่าวว่า ต่อจากนั้นในการประชุม ครม.ตนจะรายงานถึงข้อเสนอและความเห็นจากกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ องค์กรอิสระ นักวิชาการ และประชาชน โดยใช้วิธีการฉายภาพให้เห็น สรุปว่า มีกี่ประเด็นที่จะส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ เพื่อขอความเห็นชอบจาก ครม. จากนั้นจะทำเอกสารส่งไปยัง กมธ.ยกร่างฯ ทั้งนี้ กรอบที่ ครม.จะเสนอไปมีเยอะมาก แบ่งเป็นประเภท คือ 1. การแก้ไขถ้อยคำที่ไม่มีความชัดเจนและเกิดความไม่เข้าใจ 2. ประเภทที่ไม่ควรบัญญัติไว้ แต่ควรไปบัญญัติไว้ที่อื่น หากอยู่ในรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ หรือบางเรื่องไม่ควรจะอยู่ในหมวดนี้มาตรานี้ 3. สิ่งที่ควรจะเขียนแต่กลับไม่เขียน ตรงนี้เราจะบอก และ 4. หลักการสำคัญที่ควรทบทวนตัดออก บางเรื่องเป็นข่าวไปแล้ว ส่วนที่จะมีการตัดมาตราให้เหลือ 200 กว่ามาตรานั้น คิดตรงกัน ส่วนหลักใหญ่ๆ ที่จะต้องตัดยังไม่ขอบอก,เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะที่ให้มีการแก้ไขเรื่องมาตรา 181-182 และกรณีนายกฯ คนนอก นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องที่มานายกฯ เห็นด้วยกับสิ่งที่ กมธ.ยกร่างฯ เขียน แต่อยากให้ว่า เป็นข้อยกเว้นจริงๆ ไม่ใช่ไปเลือกนายกฯ คนนอก ส่วนมาตรา 181-182 หากไม่มีใครเสนอให้ตัดตนจะเสนอให้ตัดอยู่แล้ว เพราะไม่เห็นประโยชน์จาก 2 มาตรานี้ เป็นแค่การชิงไหวชิงพริบกันเท่านั้น ส่วนประเด็นคณะกรรมการคัดสรรหาผู้สมัคร ส.ว. มองว่าเป็นความหวังดี แต่จะเกิดคนแพ้ในรอบแรกที่ถูกตัดออกไป คนที่ถูกคัดออกคงน้อยใจ จึงไม่ควรจะมีคณะกรรมการชุดนี้ เชื่อว่าคนที่จะสมัครแต่ละสมัครมีไม่เกิน 10 คนอยู่แล้ว/,นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทุจริตในแวดวงข้าราชการ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 โยกย้ายข้าราชการที่พัวพันการทุจริต ว่า สิ่งสำคัญต้องเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงต้องให้ความเป็นธรรม ระวังการกลั่นแกล้ง อย่างเช่นสมัยก่อน ที่มีการปราบปรามยาเสพติด สุดท้ายมีเรื่องฆ่าตัดตอน เจ้าหน้าที่ไม่ชอบใครแล้วเอายาไปยัด วันนี้จึงต้องใช้หลักฐานที่องค์กรต่างๆ มีอยู่ ที่ทำวันนี้มี 2 ขั้นตอน คือ ย้ายออกจากตำแหน่งแล้วไปช่วยราชการ แต่เงินเดือน สิทธิประโยชน์ ตำแหน่งยังเหมือนเดิม เป็นการย้ายออกเพื่อให้ผู้รักษาการในตำแหน่งนั้น สามารถส่งพยานหลักฐานเข้ามาได้,และ 2. หากตรวจสอบแล้วทำผิดจริง จะย้ายแล้วคืนตำแหน่งเพื่อตั้งคนอื่นทำหน้าที่แทน ในอนาคตเราคิดว่า อำนาจแบบนี้เราต้องให้ไว้แก้รัฐบาลใหม่ เพื่อคลายปัญหาบางอย่างได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 แต่จะมีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอีก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชุด เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างข้าราชการโดยรวม แต่ถ้าไม่จัดการระบบราชการนั้นแหละจะสั่นคลอน สุดท้ายจะอายเขาตายชัก เพราะคดีขาดอายุความหมด อย่างไรก็ตาม บรรดาคนที่มีรายชื่อนั้น น้อยรายจะเป็นความผิดเฉพาะตัว แต่ทำกันเป็นกลุ่ม 10-20 คน บางพื้นที่โดนไปหมด เรื่องเดียวกันทั้งนั้น แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีแค่ข้าราชการอย่างเดียว แต่ยังมีทหารและตำรวจด้วย นายวิษณุ กล่าว
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
ตร.พัทลุง ส่งศพสาว แฟนทนายหนุ่ม ถูกยิงที่ศีรษะ ไปผ่าพิสูจน์ ที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ ตามความประสงค์ของญาติ ด้านทนายหนุ่มรับ มีปากเสียงกันในรถ ก่อนแฟนสาวจะหยิบปืนของตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตาย จึงได้เข้าแย่ง จนปืนลั่น
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ชุติมณฑน์ สิงหะพล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.1 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ถูกกระสุนปริศนาเข้าที่บริเวณกกหูขวา กระสุนทะลุบนศีรษะจนเสียชีวิต ขณะ นายวีรชาต นุ้ยขาว อายุ 38 ปี ทนายความชื่อดังคนหนึ่งของ จ.พัทลุง อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 3 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง แฟนหนุ่มได้นำส่ง รพ.พัทลุง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ,โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เขม่าดินปืนทั้งผู้ตาย และทนายหนุ่ม เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น,ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ต.อ.ภวัต ประชาญสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง เผยว่า นายวีรชาต พร้อมเพื่อนทนาย ได้เดินทางมาให้ปากคำต่อ พ.ต.อ.เพ็ญศักดิ์ แก้วพา พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง และ พ.ต.ต.วิจิตร เกื้อรุ่ง พงส.สภ.เมืองพัทลุง โดยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับแฟนสาวในรถเก๋งคันดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ต่อมาผู้ตายได้หยิบปืนของตนที่เก็บไว้ในช่องเก็บของระหว่างเบาะนั่ง พร้อมจ่อขมับตนเองเพื่อฆ่าตัวตาย จึงเข้าแย่งปืน จนปืนลั่นขึ้น จากนั้นจึงได้พาแฟนสาวส่ง รพ.พัทลุง และเดินทางเข้าพบตำรวจในคืนเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายวีรชาต ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุผลอันควร ซึ่งทางด้าน นายวีรชาต ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา,พ.ต.อ.ภวัต กล่าวอีกว่า ตอนสายวันเดียวกัน ทางตำรวจก็ได้นำศพของ น.ส.ชุติมณฑน์ ไปผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (รพ.มอ.หาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามความประสงค์ของมารดาผู้ตายและคณะญาติๆ แล้ว ทั้งนี้ เพื่อตรวจพิสูจน์หาร่องรอยวิถีกระสุนในศพผู้ตาย ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกันนั้นก็ได้รายงานให้ พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จว.พัทลุง และ พ.ต.อ.สมเกียรติ ฤทธิ์เลื่อน รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าวได้รับทราบแล้ว.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
โรงงานปั่นฝ้ายย่านพระสมุทรเจดีย์ ไฟไหม้ช่วงกลางดึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเผย ได้ยินเสียงระเบิดก่อนเห็นเปลวเพลิง รีบแจ้ง จนท.ดับเพลิง ระดมฉีดน้ำกว่า 1 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. 60 ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง รอง สว.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตฝ้าย บริษัท อู่ทรัพย์ คอตตอล จำกัด เลขที่ 419 ม.6 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู รถดับเพลิง เทศบาลแหลมฟ้าผ่า และ อบต.ในคลองบางปลากด จำนวน 4-5 คัน รุดดับเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียวบนเนื้อที่กว่า 300 ตร.ว. พบเพลิงกำลังลุกไหมใยฝ้ายจำนวนมากที่เป็นวัตถุดิบ ต้นเพลิงเกิดจากด้านหน้าโรงงานที่เป็นทางเข้าของกระแสไฟฟ้าจากภายนอก เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนติดเครื่องปั่นฝ้ายเพลิงและลามไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 1 ชม. เพลิงจึงสงบ แต่ยังมีการคุขึ้นมาเป็นช่วงๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องเฝ้าดับจนกว่าเพลิงจะดับสนิท จากการตรวจสอบพบว่าฝ้ายที่เป็นวัตถุดิบและที่ผลิตออกมาเป็นเส้นด้ายและเครื่องจักรประมาณ 6 เครื่อง เสียหายทั้งหมด ส่วนตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหาย,จากการสอบถาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ในคลองบางปลากด ซึ่งมีบ้านปลูกติดกับโรงงาน เล่าว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ผ่านมา ยังมีคนงานทำงานอยู่ประมาณ 20 คน จากนั้นไม่นานก็เลิกงานกลับบ้านไปทั้งหมดโดยปิดประตูโรงงานล็อกไว้ กระทั่ง 01.30 น. ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง และไฟฟ้าดับ เมื่อออกมามองไปทางโรงงานเห็นมีไฟลุกไหม้สายไฟฟ้าที่เดินเข้าไปภายในโรงงานและลุกลามเข้าไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง,ร.ต.อ.อิสระ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ และจะได้ติดตามหาเจ้าของโรงงานมาสอบสวนเนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในโรงงาน ส่วนค่าเสียหายต้องรอเจ้าของโรงงานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง.
จงสรุปเรื่องต่อไปนี้
แอตเเลนตา ฮอว์กส์ ทีมจ่าฝูงสายตะวันออก ทำสถิติสุดสวยหรูด้วยการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมท้ายตารางอย่างฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส ไปอย่างสนุก 91-58 เก็บชัยเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 1 ก.พ. ว่า การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2014-15 ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) แอตแลนตา ฮอว์กส์ ทีมแกร่งจากสายอีสต์เทิร์น เซาธ์อีสต์ เปิดบ้านที่สนามฟิลิปส์ อารีนา รับการมาเยือนของฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส อันดับ 4 จากสายอีสต์เทิร์น แอนแลนติก ,เริ่มเกมในควอเตอร์แรก เจ้าบ้านที่คุมเกมไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ออกนำไปก่อน 22-10 ส่วนควอเตอร์ที่สองยังคงเป็นแอตแลนตา ที่ยังคงเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องทิ้งห่างเป็น 49-34,จากนั้นในควอเตอร์ที่สาม แบรตต์ บราวน์ โค้ชของทีมเยือนเกมมาดี ทำให้ฟิลาเดลเฟียทำเพิ่ม 32 แต้มไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 71-66 และในควอเตอร์ที่สี่ ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่สุดท้ายเป็นแอตแลนตา ฮอว์กส์ ที่เปิดบ้านเฉือน ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส อย่างสนุก 91-85 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน และเป็นนัดที่ 40 ในฤดูกาลปกติ ขณะที่ทีมเยือน แพ้เป็นนัดที่สามจากสิบนัดหลังสุด จมอยู่ในอันดับรองบ๊วยสายตะวันออก,สำหรับผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของทั้งสองทีม แอตแลนตา ฮอว์กส์ ได้แก่ อัล ฮอร์ฟอร์ด ทำไป 23 คะแนน 11 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ ส่วนฟิลาเดลเฟีย ตกเป็นของ ไมเคิล คาร์เตอร์-วิลเลียมส์ ทำไป 13 คะแนน 6 รีบาวด์ กับอีก 8 แอสซิสต์,ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ชนะ ออร์แลนโด เมจิก 108-93,โตรอนโต แร็ปเตอร์ส ชนะ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ 120-116,ซาคราเมนโต คิงส์ ชนะ อินเดียนา เพเซอร์ส 99-94,ฮุสตัน ร็อกเกตส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ 101-114,คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ชนะ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 106-90,โอกลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ แพ้ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ 74-85,ปอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส แพ้ มิลวอกี บักส์ 88-95,ชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ ชนะ เดนเวอร์ นักเกตส์ 104-86,แอลเอ คลิปเปอร์ส ชนะ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 105-85,โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส ชนะ ฟีนิกส์ ซันส์ 106-87,(ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน)

🤖 Super AI Engineer Development Program Season 4 - Pangpuriye House - ThaiSum40k

logo

Original Dataset

We adopt this from ThaiSum dataset from https://huggingface.co/datasets/thaisum the original repository. We used this dataset during the fine-tuning of Panguriye's LLM. The dataset is available under the Creative Commons Attribution 2.0. The original dataset consists of 380,868 rows of title, body, and summary in Thai. We modified this dataset by subsetting only 40,000 rows and used จงสรุปเรื่องต่อไปนี้ as an instruction. The input we set by the given context, and the output is the summarization version of the given context.

We think that the ThaiSum dataset will aid in fine-tuning our instruction-tuned LLM in shortening the answers and defining logical summarizations. During the fine-tuning phase, we want to include summaries to reduce the output length as much as feasible.

Call Dataset

The following code is an example calling from datasets library.

from datasets import load_dataset

dataset = load_dataset("AIAT/Pangpuriye-public_ThaiSum40k")

Citation Information

We acknowledge the original dataset, and please redirect to the original paper as follow:

Please refer to the original dataset here https://huggingface.co/datasets/thaisum.

@mastersthesis{chumpolsathien_2020,
    title={Using Knowledge Distillation from Keyword Extraction to Improve the Informativeness of Neural Cross-lingual Summarization},
    author={Chumpolsathien, Nakhun},
    year={2020},
    school={Beijing Institute of Technology}
Downloads last month
0
Edit dataset card

Models trained or fine-tuned on AIAT/Pangpuriye-public_ThaiSum40k