File size: 4,174 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
49,0041,001,ก็การบำเพ็ญสัมมัปธาน ๔  อย่างนี้เล่า  ที่จะบริบูรณ์ได้และให้
49,0041,002,เป็นไปถูกต้อง   ไม่มีผิดพลาด  ต้องใช้สติควบคุมด้วย  จึงจะบำเพ็ญเพียร
49,0041,003,มิให้ผิดทางได้  ฉะนั้น  สติจึงจำปรารถนาอย่างยิ่งในการประกอบความ
49,0041,004,เพียร  เหมือนนายท้ายผู้เป็นกัปตันต้องมีประจำเรือเสมอ   มิฉะนั้น 
49,0041,005,เรือก็อับปาง  แล่นไปสู่ที่หมายไม่ได้   แม้ในการประกอบการงานทุก ๆ
49,0041,006,อย่าง  ก็จำปรารถนาสติด้วยเหมือนกัน   การงานนั้น ๆ  จึงจะดำเนินไป
49,0041,007,ด้วยดี  บรรลุความสำเร็จสมตามที่มุ่งหมายไม่อากูล   เช่นคนผู้เดินไปใน
49,0041,008,ทาง  ถ้าไม่มีสติคอยระวังก็จะได้รับอันตรายในการเดินทาง  เช่นพลาดตก
49,0041,009,เหว  ตกหล่ม  ชนโน่นชนนี่เป็นต้น  เมื่อมีสติควบคุมอยู่เสมอ ๆ แล้ว กิจ
49,0041,010,การที่ทำย่อมไม่มีพลั้งพลาดเสียหาย  เพราะการมีสติอยู่เสมอนั้นย่อมเป็น
49,0041,011,เช่นกับการตื่นอยู่ของบุคคล  ธรรมดาบุคคลผู้ตื่นอยู่  ย่อมรู้สึกเหตุการณ์
49,0041,012,เกิดขึ้น  อันไม่เกินวิสัยได้  ผิดกับผู้นอนหลับ  ผู้หลับย่อมไม่รู้สึกตัว
49,0041,013,มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้   ผู้ขาดสติก็เหมือนคนนอนหลับ  ผู้มีสติก็
49,0041,014,เหมือนคนผู้ตื่น  ความเป็นผู้มีสติไพบูล  จึงชื่อว่าเป็นอุปการธรรมที่สำคัญ
49,0041,015,ประการหนึ่ง  เมื่อมีสติไพบูลแล้ว  การบำเพ็ญเพียรเพื่อละอกุศลและเพียร
49,0041,016,เพื่อพอกพูนกุศลก็เป็นไปสม่ำเสมอ   ไม่ขาดสายและไม่ผิดพลาด  เป็น
49,0041,017,เหตุถอนตนจากตัณหาอุปาทานเสียได้  ด้วยเหตุผลดังบรรยายมานี้   จึงชี้
49,0041,018,ให้เห็นได้ว่าสติเป็นสิ่งจำปรารถนาในที่ทั้งปวง  หรือในการประกอบการ
49,0041,019,งานทุก ๆ อย่าง   แม้การบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุวิโมกข์ก็ต้องปรารถนา
49,0041,020,ฉะนั้น  จึงสมด้วยธรรมภาษิตของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า   กรมพระยา
49,0041,021,วชิรญาณวโรรส   อันจัดเป็นข้อที่ ๓ ว่า