File size: 3,566 Bytes
c5b6280
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Book,Page,LineNumber,Text
12,0041,001,เข้าไปจับอยู่ที่ภูเขาทอง   ครั้นกลับมาสู่บ้านเรือนแล้วก็กลับกลายเป็นดำไป 
12,0041,002,ด้วยอกุศล  เหมือนกาอันบินออกมาจากภูเขาทองนั้น.   ในบทว่า  กุสลา
12,0041,003,ธมฺมา  นั้น  ว่า  กุศลธรมม ๕๙ ดวง  คือ  อัญญสมานา ๑๓ โสภณ-
12,0041,004,เจตสิก ๒๕  กุศลจิต ๒๑ เป็น ๕๙ ดวงด้วยกัน  อันนี้ว่าโดยพิสดาร
12,0041,005,ถ้าจะจัดโดยสังเขปนั้น  กุศลจิต ๒๑ ท่านนับเอาแต่ ๑  เหตุว่าจิต
12,0041,006,มีลักษณะอันรู้ซึ่งอารมณ์เหมือนกัน  และเจตสิกธรรมทั้งปวงมีผัสส-
12,0041,007,เจตสิกเป็นต้นนั้น  มีลักษณะอันต่าง ๆ กัน  พระพุทธองค์เจ้าเทศนา
12,0041,008,ว่า  กุสลา  ธมฺมา.   ข้อที่ว่า  กุสลา  ธมฺมา  ยังบาปธรรมให้ไหวยิ่งนัก
12,0041,009,สงเคราะห์เอารูปวจรกุศล  อรุปาวจรกุศล<sup>๑</sup>   เมื่อพระโยคาพจรเจ้า
12,0041,010,จำเริญภาวนา  ได้  ปฐมฌาน  ทุติยฌาน  ตติยฌาน  จตุตถฌาน
12,0041,011,และอรูปสมาบัติทั้ง ๔ คือ อากาสนัญจายตนฌาน  วิญญา  อากิญ-
12,0041,012,จัญญา  เนวสัญญา  ฯ ล ฯ   ฌาน<sup>๒</sup>นั้น  กระทำกาลกิริยาด้วยฌาน
12,0041,013,สมาบัติแล้ว  ก็ขึ้นไปบังเกิดในรูปพรหมและอรูปพรหม  เสวยสุขด้วย
12,0041,014,ผลแห่งสมาบัติช้านาน   ทั้งนี้ด้วยกำลังฌานเป็นวิกขัมภนปหาน  ข่ม
12,0041,015,บาปลงไว้มิให้บังเกิดเหมือนศิลาทับหญ้า  ยังมิขาดจากสันดานก่อน
12,0041,016,ถ้าศิลานั้นเคลื่อนจากที่เมื่อใด  หญ้าก็งอกขึ้นเมื่อนั้น  ฉันใดก็ดี  พระ
12,0041,017,โยคาพจรอันได้สมาบัติ  เสวยสุขอยู่ในพรหมโลกนั้น   ครั้นสิ้นกำลัง
12,0041,018,สมาบัติแล้ว  อกุศลก็บังเกิดให้ได้เสวยซึ่งทุกข์ไปใหม่เล่า.   อนึ่งพระ
12,0041,019,โยคาพจรถึงโลกุตตรกุศลเป็นต้นว่า  พระโสดา  สกิทาคา  อนาคา