|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
42,0035,001,ของปราสาทนั้น. พวกฟ้อนชื่อว่า <B>คนฺธ<SUP>๑</SUP>พฺพา.</B> บาทคาถาว่า
|
|
42,0035,002,<B>ฉ สหสฺสานิ สตฺตธา</B> ได้แต่ นักฟ้อน ๖ พัน (แบ่ง) เป็น ๗ พวก.
|
|
42,0035,003,[๑๔๐] ท้าวมหาปนาทะทรงทำบุญมีทานเป็นต้น สวรรคต
|
|
42,0035,004,แล้วเสด็จไปสู่เทวโลกตามเดิม. ปราสาทนั้นจมไปตามกระแสแม่น้ำ
|
|
42,0035,005,มหาคงคาแล้ว. ในที่ตรงหน้าบันไดใกล้ปราสาทนั้น เขาสร้างนครชื่อ
|
|
42,0035,006,"ปยาคปติฏฐานะ, ในที่ตรงยอดปราสาทนั้น มีบ้านชื่อโกฏิคาม. ใน"
|
|
42,0035,007,พุทธุปบาทกาลนี้ นฬการเทพบุตรนั้น จุติจากเทวโลก ได้เป็นบุตร
|
|
42,0035,008,ของภัททิยเศรษฐีผู้มีสมบัติ ๘๐ โกฏิ ในภัททิยนคร ชื่อภัททชิกุมาร.
|
|
42,0035,009,กาลนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยภัททิยนคร ประทับอยู่ที่ชาติ<SUP>๒</SUP>ยาวัน.
|
|
42,0035,010,ชาวพระนครได้สร้างมณฑปสำหับถวายทาน ที่ใจกลางพระนครแล้ว
|
|
42,0035,011,ถวายมหาทาน. พระศาสดาทรงทำภัตตกิจในที่นั้นแล้ว ได้ทรงทำ
|
|
42,0035,012,อนุโมทนา. แม้ภัททชิกุมาร เข้าไปเฝ้าพระศาสดาฟังธรรมอยู่ ได้
|
|
42,0035,013,บรรลุพระอรหัตแล้ว ไปสู่วิหารพร้อมกับพระศาสดา ได้เป็นผู้บรรพชา
|
|
42,0035,014,อุปสมบทแล้ว. พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในที่นั้น ๗ วันแล้ว เสด็จ
|
|
42,0035,015,จาริกไปถึงบ้านโกฏิคาม ทรงทำภัตตกิจแล้ว ได้ทรงทำอนุโมทนา.
|
|
42,0035,016,ในกาลที่ทรงทำอนุโมทนา พระภัททชิเถระไปนอกบ้าน อธิษฐานใจว่า
|
|
42,0035,017,
|
|
42,0035,018,๑. ตามคติศาสนาพราหมณ์ เป็นภูตจำพวก ๑ เข้าพวกเทพดาก็ได้ เข้าพวกมนุษย์
|
|
42,0035,019,ก็ได้ เพราะมีที่อยู่ ทั้งในสวรรค์ ทั้งในมนุษย์โลก. อีกนัยหนึ่ง ว่ามีโลกอยู่ส่วนหนึ่ง
|
|
42,0035,020,เรียกว่าคนธรรพโลก ชนจำพวกนี้ ชำนาญในการฟ้อนรำ ขับร้อง และดนตรีปี่พาทย์
|
|
42,0035,021,มีราชาเรียกว่าจิตรรถหรือจิตเสน แต่ในมหาสมัยสูตรเรียกว่าธตรฐ วิชาที่ว่าด้วยการ
|
|
42,0035,022,ชนิดนี้ ตามคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า คานธรรพเวท พระภรตมุนี เป็นผู้
|
|
42,0035,023,เรียบเรียง. ๒. ป่าไม้จันทน์ หรือสวนมลิ.
|
|
|