buddhist-theology / 41 /410020.csv
uisp's picture
initial upload
6bd72a3
Book,Page,LineNumber,Text
41,0020,001,กถาว่าด้วยเสพและไม่เสพพาลและบัณฑิต
41,0020,002,[แก้พาลศัพท์]
41,0020,003,[๑๗] ส่วนความพิสดารในคาถาที่ ๑ นี้ ดังต่อไปนี้ :-
41,0020,004,การไม่คบ ความไม่มีคนพาลนั้นเป็นเพื่อน ความไม่เข้าพวกด้วย
41,0020,005,คนพาลนั้น ชื่อว่าการไม่เสพ. สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่งผู้ประกอบด้วย
41,0020,006,อกุศลกรรมบถ ๑๐ มีปาณาติบาตเป็นต้น ชื่อว่า คนพาล. อีกประการ
41,0020,007,"หนึ่ง ครูทั้ง ๖ นี้ คือปรูณ กัสสป, มักขลิ โคสาล, นิครนถ นาฏบุตร"
41,0020,008,"สญชัย เวลัฏฐบุตร, ปกุทธ กัจจายนะ, อชิต เกสกัมพล, และปาป-"
41,0020,009,บุคคลเหล่าอื่นจากครูทั้ง ๖ นั้น มีพระเทวทัตและโกกาลิกภิกษุเป็นต้น
41,0020,010,"พึงทราบว่า ""คนพาล."" จริงอยู่ คนเหล่านั้น แม้ทั้งหมด ท่านเรียกว่า"
41,0020,011,คนพาล เพราะไม่เป็นอยู่ด้วยความเป็นอยู่ด้วยปัญญา เป็นอยู่
41,0020,012,ด้วยอาการสักว่าหายใจ. ด้วนเหตุนั้น ในอรรถกถา<SUP>*</SUP>ท่านจึงกล่าวว่า
41,0020,013,"""ชนเหล่าใด เป็นอยู่ อธิบายว่า ดำรงชีพอยู่ ด้วยอาการสักว่าลม"
41,0020,014,หายใจเข้าออก หาใช่เป็นอยู่ด้วยปัญญาอันประเสริฐไม่ เหตุนั้น ชน
41,0020,015,"เหล่านั้น จึงชื่อว่า พาล."" แม้ในสัททนีติปกรณ์ ท่านก็กล่าวไว้ว่า"
41,0020,016,"""<B>พล</B> ธาตุ เป็นไปในอรรถว่าปราณ. ปราณ ก็คือความเป็นอยู่และ"
41,0020,017,การหายใจ; ผู้ใด ย่อมเป็นอยู่ คือยังหายในเข้าและหายใจเข้าออกอยู่
41,0020,018,มีคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า ดำรงชีพอยู่ ด้วยอาการสักว่าหายใจเข้าออก
41,0020,019,"หาเป็นอยู่ด้วยปัญญาอันประเสริฐไม่ เหตุนั้น จึงชื่อว่า <B>พาล</B>"""
41,0020,020,
41,0020,021,* ปรมัตถโชติกา ขุททกปกฐวัณณนา ๑๓๗.