buddhist-theology / 34 /340022.csv
uisp's picture
initial upload
6bd72a3
Book,Page,LineNumber,Text
34,0022,001,"<B>จากป่าแล้ว ยังเล่นไปสู่ป่าตามเดิม, ท่านทั้ง "
34,0022,002,หลายจงดูบุคคลนั้นนั่นแล; เขาพ้นแล้ว (จาก
34,0022,003,"เครื่องผูก) ยังแล่นไปสู่เครื่องผูกตามเดิม.""</B>"
34,0022,004,[แก้อรรถ]
34,0022,005,"เนื้อความแห่งพระคาถานั้นว่า ""บุคคลใด ชื่อว่ามีอาลัยดุจหมู่"
34,0022,006,ไม้อันตั้งอยู่ในป่าออกแล้ว เพราะความที่ตนละทิ้งหมู่ไม้อันตั้งอยู่ใน
34,0022,007,ป่า กล่าวคืออาลัยในความเป็นคฤหัสถ์แล้วบวช น้อมไปในป่าคือ
34,0022,008,ตปะ กล่าวคือวิหารธรรม เป็นผู้พ้นจากป่าคือตัณหา ซึ่งจัดเป็น
34,0022,009,เครื่องผูกคือการครองเรือนแล้ว ยังแล่นไปหาป่าคือตัณหานั่นแหละ
34,0022,010,"อันเป็นเครื่องผูกคือการครองเรือนนั้นอีก, ท่านทั้งหลายจงดูบุคคลนั้น"
34,0022,011,อย่างนั้น; บุคคลนั่น พ้นจากเครื่องผูกคือการครองเรือนแล้ว ยังแล่น
34,0022,012,ไปสู่เครื่องผูกคือการครองเรือนอีกทีเดียว.
34,0022,013,เขานั่งฟังธรรมเทศนานี้ อยู่บนปลายหลาว ในระหว่างพวก
34,0022,014,ราชบุรุษนั่นแล เริ่มตั้งความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแล้ว ยก (จิต)
34,0022,015,ขึ้นสู่ไตรลักษณ์ พิจารณาอยู่ซึ่งสังขารทั้งหลายบรรลุโสดาปัตติผลแล้ว
34,0022,016,เสวยสุขเกิดแต่สมาบัติอยู่ เหาะขึ้นสู่เวหาสมาสู่สำนักพระศาสดาโดย
34,0022,017,อากาศนั่นเอง ถวายบังคมพระศาสดาแล้วบวช ได้บรรลุพระอรหัต
34,0022,018,ณ ท่ามกลางบริษัทพร้อมด้วยพระราชานั่นเอง ดังนี้แล.
34,0022,019,เรื่องวิพภันตกภิกษุ จบ.