|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
07,0017,001,สระสนธิ
|
|
07,0017,002,ในสระสนธิ ได้สนธิกิริโยปรกณ์ ๗ อย่าง คือ โลโป ๑ อาเทโส ๑
|
|
07,0017,003,อาคโม ๑ วิกาโร ๑ ปกติ ๑ ทีโฆ ๑ รสฺสํ ๑. ขาดแต่สญฺโโค
|
|
07,0017,004,อย่างเดียว เพราะสระจะซ้อนกันไม่ได้.
|
|
07,0017,005,<B>โลปสระสนธิ<B/> มี ๒ คือ ปุพฺพโลโป ลบสระหน้า ๑ อุตฺตรโลโป
|
|
07,0017,006,"ลบสระหลัง ๑. สระที่สุดของศัพท์หน้าเรียก สระหน้า, สระหน้าของ"
|
|
07,0017,007,ศัพท์หลัง เรียกสระเบื้องปลายหรือสระหลัง เช่น ยสฺส=อินฺทฺริยานิ
|
|
07,0017,008,๒ ศัพท์นี้ ยสฺส เป็นศัพท์หน้า อินฺทฺริยานิ เป็นศัพท์หลัง. สระที่สุด
|
|
07,0017,009,"ของ ยสฺส อันเป็นศัพท์หน้าก็คือ อะ. อะ จึงเป็นสระหน้า, สระหน้า"
|
|
07,0017,010,"ของ อินฺทริยานิ อันเป็นศัพท์หน้าก็คิด อิ. อิ จึงเป็นสระหลัง, เวลาจะ"
|
|
07,0017,011,ต่อเข้ากัน ลบ อะ ที่ สะ แห่ง ยสฺส เสียแล้ว เอาไปต่อกับสระหลัง
|
|
07,0017,012,จึงเป็น ยสฺสินฺทฺริยานิ ดังนี้เป็นต้น. ทั้งสระหน้าและสระหลังนี้ ต้องไม่มี
|
|
07,0017,013,พยัญชนะอื่นคั่นในระหว่าง จึงจะลงได้ ถ้ามีพยัญชนะคั่น ลบไม่ได้.
|
|
07,0017,014,ลบสระหน้านั้น คือ :-
|
|
07,0017,015,ก. สระหน้าเป็นรัสสะ สระเบื้องปลายอยู่หน้าพยัญชนะสังโยค
|
|
07,0017,016,หรือเป็นทีฆะ เมื่อลบสระหน้าแล้ว ไม่ต้องทำอย่างอื่น เป็นแต่ต่อเข้า
|
|
07,0017,017,กับสระเบื้องปลายทีเดียว เช่น ยสฺส=อินฺทฺริยานิ ลบสระหน้า คือ อะ
|
|
07,0017,018,"ที่สุดแห่งศัพท์ ยสฺส เสีย สนธิเป็น ยสฺสินฺทฺริยานิ, โนหิ=เอตํ ลบสระ"
|
|
07,0017,019,"หน้าคือ อิ ที่สุดแห่งศัพท์ โนหิ เสีย สนธิเป็น โนเหตํ, สเมตุ=อายสฺมา"
|
|
07,0017,020,ลบสระหน้า คือ อุ ที่สุดแห่งศัพท์ สเมตุ เสีย สนธิเป็น สเมตายสฺมา.
|
|
07,0017,021,ข. ถ้าสระทั้ง ๒ เป็นรัสสะ แต่มีรูปไม่เสมอกัน คือ ข้างหนึ่ง
|
|
|