buddhist-theology / 46 /460006.csv
uisp's picture
initial upload
6bd72a3
raw
history blame
3.97 kB
Book,Page,LineNumber,Text
46,0006,001,"อินทรีย์ทั้งหลาย."" "
46,0006,002,"ปกรณ์<SUP>๑</SUP>วิเสสชื่อวิสุทธิมรรคว่า "" หลายบทว่า <B>จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา</B>"
46,0006,003,ความว่า เห็นรูปด้วยวิญญาณอันอาศัยจักษุซึ่งสามารถในการเห็นรูปอัน
46,0006,004,ได้โวหารว่า จักษุ ด้วยอำนาจแห่งเหตุ. บทว่า <B>น นิมิตฺตคฺคาหี</B>
46,0006,005,ความว่า ภิกษุไม่ยึดถือซึ่งสตรีนิมิตและบุรุษนิมิต หรือนิมิตอันเป็น
46,0006,006,ที่ตั้งแห่งกิเลสมีสุภนิมิตเป็นต้น คือย่อมตั้งอยู่ในนิมิตสักว่าเห็นแล้ว
46,0006,007,เท่านั้น. บทว่า <B>นานุพฺยฺชนคฺคาหี</B> ความว่า ไม่ยึดถือซึ่งอาการอัน
46,0006,008,ต่างโดยมือ เท้า การหัวเราะ ยิ้มแย้ม เจรจา และ เหลียวดูเป็นต้น
46,0006,009,อันได้โวหารว่า อนุพยัญชนะ เพราะปรากฏเนือง ๆ คือการกระทำ
46,0006,010,ความเป็นของปรากฏแห่งกิเลสทั้งหลาย ได้แก่ ถือเอาซึ่งอวัยวะน้อย
46,0006,011,ใหญ่อันมีอยู่ในสรีระนั้นอย่างเดียว. ในคำว่า <B>ยตฺวาธิกรณเมนํ</B> เป็น
46,0006,012,ต้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ : ธรรมมีอภิชฌาเป็นต้นเหล่านั่น พึงซ่าน
46,0006,013,ไปตาม คือติดตามบุคคลผู้นั้น คือผู้ไม่สำรวมอินทรีย์คือจักษุ ได้แก่
46,0006,014,เป็นผู้ไม่ปกปิดจักษุทวารด้วยบานประตูคือสติอยู่ เพราะเหตุใด ? คือ
46,0006,015,เพราะเหตุแห่งการไม่สำรวมอินทรีย์คือจักษุใด ? หลายบทว่า <B>ตสฺส
46,0006,016,สํวราย ปฏิปชฺชติ</B> ความว่า ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์ แก่การปิด
46,0006,017,อินทรีย์คือจักษุนั้น ด้วยบานประตูคือสติ. ก็ภิกษุผู้ปฏิบัติอยู่โดยอาการ
46,0006,018,อย่างนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า ย่อมรักษาอินทรีย์คือจักษุ
46,0006,019,"บ้าง, ว่า ""ย่อมถึงความสำรวมในอินทรีย์คือจักษุบ้าง."""
46,0006,020,"[๔๗๕] ฎีกา<SUP>๒</SUP>วิสุทธิมรรคว่า ""บทว่า <B>การณวเสน</B> คือ ด้วย"
46,0006,021,
46,0006,022, ๑. วิ. ม. ๑/๒๔. ๒. ป. มฺ. ๗/๖๙.