tripitaka-siamrath / 04 /040002.csv
uisp's picture
include all 45 books
9385590
Book,Page,LineNumber,Text
04,0002,001,เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
04,0002,002,เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
04,0002,003,เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
04,0002,004,เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
04,0002,005,เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้.
04,0002,006,ปฏิจจสมุปบาท ปฏิโลม
04,0002,007,อนึ่ง เพราะอวิชชานั่นแหละดับโดยไม่เหลือด้วยมรรคคือวิราคะ สังขาร จึงดับ
04,0002,008,เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
04,0002,009,เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ
04,0002,010,เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
04,0002,011,เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
04,0002,012,เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
04,0002,013,เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
04,0002,014,เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
04,0002,015,เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
04,0002,016,เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
04,0002,017,เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
04,0002,018,เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมดับ ด้วยประการฉะนี้.
04,0002,019,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้น
04,0002,020,ว่าดังนี้:-
04,0002,021,พุทธอุทานคาถาที่ ๑
04,0002,022,เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พราหมณ์
04,0002,023,ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้น ความสงสัยทั้งปวง
04,0002,024,ของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เพราะมารู้ธรรม
04,0002,025,พร้อมทั้งเหตุ.