|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
03,0009,001,โดยที่แท้ การกระทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อ
|
|
03,0009,002,ความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว ...
|
|
03,0009,003,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกภิกษุณี จงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ว่า ดังนี้:
|
|
03,0009,004,พระบัญญัติ
|
|
03,0009,005,๖.๒. อนึ่ง ภิกษุณีใด รู้อยู่ว่าภิกษุณีล่วงอาบัติปาราชิก ไม่โจทด้วยตน ไม่บอกแก่
|
|
03,0009,006,คณะ ในเวลาที่ภิกษุณีนั้นยังดำรงเพศอยู่ก็ดี เคลื่อนไปแล้วก็ดี ถูกนาสนะแล้วก็ดี ไปเข้ารีด
|
|
03,0009,007,เดียรถีย์เสียก็ดี ภายหลังนางจึงบอกอย่างนี้ว่า แม่เจ้า เจ้าข้า เมื่อก่อนดิฉันรู้จักภิกษุณีนั่น
|
|
03,0009,008,ได้ดีทีเดียวว่า นางเป็นพี่หญิง น้องหญิง มีความประพฤติเช่นนี้และมีความประพฤติเช่นนี้
|
|
03,0009,009,แต่ดิฉันไม่โจทด้วยตน ไม่บอกแก่คณะ แม้ภิกษุณีนี้ก็เป็นปาราชิก ชื่อวัชชปฏิจฉาทิกา
|
|
03,0009,010,หาสังวาสมิได้.
|
|
03,0009,011,เรื่องภิกษุณีสุนทรีนันทา จบ.
|
|
03,0009,012,สิกขาบทวิภังค์
|
|
03,0009,013,[๑๓] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ...
|
|
03,0009,014,บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ...
|
|
03,0009,015,นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
|
|
03,0009,016,ที่ชื่อว่า รู้อยู่ คือ รู้เองก็ดี คนอื่นบอกแก่เธอก็ดี เจ้าตัวบอกก็ดี.
|
|
03,0009,017,คำว่า ล่วงอาบัติปาราชิก คือ ต้องอาบัติปาราชิกข้อใดข้อหนึ่ง ในปาราชิก ๘.
|
|
03,0009,018,คำว่า ไม่โจทด้วยตน คือ ไม่โจทเอง.
|
|
03,0009,019,คำว่า ไม่บอกแก่คณะ คือ ไม่บอกแก่ภิกษุณีอื่นๆ
|
|
03,0009,020,[๑๔] พากย์ว่า ในเวลาที่ภิกษุณีนั้น ยังดำรงเพศอยู่ก็ดี เป็นต้น อธิบายว่า ภิกษุณี
|
|
03,0009,021,ผู้ดำรงอยู่ในเพศของตน ตรัสเรียกว่า ผู้ยังดำรงเพศอยู่ ผู้ถึงมรณภาพ ตรัสเรียกว่า ผู้เคลื่อนไป
|
|
03,0009,022,ผู้สึกเองก็ตาม ถูกผู้อื่นนาสนะเสียก็ตาม ตรัสเรียกว่า ผู้ถูกนาสนะ เข้าไปสู่ลัทธิเดียรถีย์ ตรัส
|
|
03,0009,023,เรียกว่า เขารีดเดียรถีย์.
|
|
|