|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
18,0018,001,ทุกข์โทมนัสและอุปายาส ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ย่อมเบื่อ
|
|
18,0018,002,หน่ายทั้งในจักษุ ทั้งในรูป ทั้งในจักษุวิญญาณ ทั้งในจักษุสัมผัส ทั้งใน สุขเวทนา ทุกขเวทนา
|
|
18,0018,003,หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็น ปัจจัย ฯลฯ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในใจ ทั้ง
|
|
18,0018,004,ในธรรมารมณ์ ทั้งในมโนวิญญาณ ทั้ง ในมโนสัมผัส ทั้งในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ
|
|
18,0018,005,อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้น เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะ
|
|
18,0018,006,คลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่าชาติ
|
|
18,0018,007,สิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี
|
|
18,0018,008,พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้วภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มี
|
|
18,0018,009,"พระภาค ก็แหละเมื่อพระองค์ได้ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้อยู่ ภิกษุ ๑,๐๐๐ รูปนั้น ต่างมีจิตหลุดพ้น"
|
|
18,0018,010,จากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่น ดังนี้แล ฯ
|
|
18,0018,011,จบสูตรที่ ๖
|
|
18,0018,012,อันธภูตสูตร
|
|
18,0018,013,[๓๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
|
|
18,0018,014,สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ใกล้
|
|
18,0018,015,พระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่ง
|
|
18,0018,016,ทั้งปวงเป็นสิ่งมืดมน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งทั้งปวงที่เป็น สิ่งมืดมน คืออะไร คือ จักษุ รูป
|
|
18,0018,017,จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส เป็นสิ่งมืดมน แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา
|
|
18,0018,018,ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นสิ่งมืดมน มืดมนเพราะอะไร เรากล่าวว่า มืดมน
|
|
18,0018,019,เพราะชาติชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์
|
|
18,0018,020,มโนวิญญาณ มโนสัมผัส เป็นสิ่งมืดมน แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนา
|
|
18,0018,021,ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นสิ่งมืดมน มืดมน เพราะอะไร เรากล่าวว่า มืดมน
|
|
18,0018,022,เพราะชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวก
|
|
18,0018,023,ผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในจักษุ ทั้งในรูป ทั้งในจักษุวิญญาณ ทั้งใน
|
|
|