|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
24,0048,001,แห่งคำพหูพจน์. และถือเอาความชอบใจในฌาน ความใคร่ในฌาน และความ
|
|
24,0048,002,สุขในฌานแล้ว จึงกล่าวว่า บุญทั้งหลายนำความสุขมาให้ดังนี้.
|
|
24,0048,003,ได้ยินว่า เทวดานั้น ได้มีความคิดว่า โอหนอ สัตว์ทั้งหลายเจริญ
|
|
24,0048,004,ฌานแล้ว มีฌานยังไม่เสื่อม กระทำกาละแล้ว พึงดำรงอยู่ในพรหมโลกตลอด
|
|
24,0048,005,เวลาอันยาวนาน คือประมาณ ๑ กัปบ้าง ๔ กัปบ้าง ๘ กัปบ้าง ๑๖ กัปบ้าง ๓๒
|
|
24,0048,006,กัปบ้าง ๖๔ กัปบ้าง ดังนี้ เพราะตนเองเกิดในพรหมโลกที่มีอายุยาวนานจึง
|
|
24,0048,007,เห็นสัตว์ทั้งหลาย ผู้กำลังตาย กำลังเกิดที่มีอายุน้อยในเทวดาชั้นกามาวจรเบื้อง
|
|
24,0048,008,ต่ำ เช่นกับการตกลงแห่งเม็ดฝนพอถูกกระทบก็แตกไป เพราะฉะนั้น จึง
|
|
24,0048,009,กล่าวแล้วอย่างนี้.
|
|
24,0048,010,ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงดำริว่า ก็เทวดานี้ ย่อมกล่าววัฎฏกถา
|
|
24,0048,011,(ถ้อยคำอันเป็นไปในวัฏฏะ) อันไม่เหมาะสม เมื่อจะทรงแสดงวิวัฏฏกถาแก่
|
|
24,0048,012,เทวดานั้น จึงตรัสพระคาถาที่ ๒.
|
|
24,0048,013,บรรดาบทแห่งคาถาที่ ๒ เหล่านั้น บทว่า <B>โลกามิสํ</B> ได้แก่โลกามิส
|
|
24,0048,014,๒ อย่าง คือปริยายโลกามิส (โลกามิสที่เป็นเหตุ) นิปปริยายโลกามิส (โลกามิส
|
|
24,0048,015,ที่ไม่เป็นเหตุ) วัฏฏะอันเป็นไปในภูมิ ๓ เรียกว่า ปริยายโลกามิส. ปัจจัยคือ
|
|
24,0048,016,เครื่องอาศัย ๔ อย่าง เรียกว่า นิปปริยายโลกามิส. ในที่นี้ ท่านประสงค์เอา
|
|
24,0048,017,ปริยายโลกามิส อันที่แท้ แม้นิปปริยายโลกามิสก็ควรในที่นี้เหมือนกัน.
|
|
24,0048,018,บทว่า <B>สนฺติเปกฺโข</B> อธิบายว่ามุ่งอยู่ ต้องการอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่ง
|
|
24,0048,019,สันติอันยั่งยืนกล่าวคือพระนิพพาน.
|
|
24,0048,020,<I>จบอรรถกถาอุปเนยยสูตรที่ ๓</I>
|
|
|