|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
23,0031,001,เพื่อจะไม่ให้โอกาสภิกษุบางรูปนั้นพูดจวงจาบได้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า
|
|
23,0031,002,<B>สพฺพนิมิตฺตานํ</B> ได้แก่ นิมิตที่ปรุงแต่งแล้วมีรูปเป็นต้น. บทว่า <B>อชฺฌตฺตํ</B>
|
|
23,0031,003,ความว่า ในภายในตน. บทว่า <B>สุญฺตํ</B> ได้แก่ สุญญตาผลสมาบัติ. บทว่า
|
|
23,0031,004,<B>ตตฺถ เจ</B> เป็นสัตตมีวิภัตติ ลงในอรรถทุติยาวิภัตติ. อธิบายว่า เท่ากับ
|
|
23,0031,005,<B>ตํ เจ.</B> บทว่า <B>ปุน ตตฺร</B> ความว่า พระตถาคตประทับอยู่ท่ามกลางบริษัท
|
|
23,0031,006,นั้น. บทว่า <B>วิเวกนินฺเนน</B> ได้แก่น้อมไปในพระนิพพาน. บทว่า <B>พฺยนฺตีภูเตน</B>
|
|
23,0031,007,ความว่า ปราศจาก คือ สลัดออก ได้แก่ พรากจากธรรมเป็นที่ตั้งแห่งอาสวะ.
|
|
23,0031,008,บทว่า <B>อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺยํ</B> ความว่า ประกอบด้วยวาจาที่ชักชวนอย่างนี้ว่า
|
|
23,0031,009,ท่านทั้งหลายจงไปเถิด. ถามว่า ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้ เวลาไหน
|
|
23,0031,010,ตอบว่า ตรัสในเวลาหลังภัตกิจบ้าง ในเวลาบำเพ็ญพุทธกิจในยามต้นบ้าง.
|
|
23,0031,011,พระผู้มีพระภาคเจ้าสำเร็จสีหไสยาสน์ในพระคันกุฏี ภายหลังภัตตาหาร ออกจาก
|
|
23,0031,012,สีหไสยาสน์แล้ว ประทับนั่งเข้าผลสมาบัติ. ในสมัยนั้น บริษัททั้งหลายย่อม
|
|
23,0031,013,ประชุมกันเพื่อฟังธรรม. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเวลาแล้ว
|
|
23,0031,014,เสด็จออกจากพระคันธกุฏี ตรงไปยังพุทธอาสน์อันประเสริฐ ทรงแสดงธรรม
|
|
23,0031,015,ในให้เวลาล่วงผ่านไป เหมือนบุรุษผู้ถือเอาน้ำมันที่หุงไว้สำหรับประกอบยา
|
|
23,0031,016,ทรงส่งบริษัทไปด้วยจิตที่โน้มไปในวิเวก. เมื่อปุริมยามผ่านไป ทรงส่งบริษัท
|
|
23,0031,017,กลับ ด้วยพระดำรัสอย่างนี้ว่า ดูก่อนวาเสฏฐะ ราตรีผ่านไปแล้วแล บัดนี้
|
|
23,0031,018,พวกท่านจงสำคัญกาลอันสมควรเถิด. นับจำเดิมแต่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบรรลุ
|
|
23,0031,019,พระโพธิญาณแล้ว แม้วิญญาณทั้ง ๑๐ ของพระองค์ ก็น้อมไปเพื่อพระนิพพาน
|
|
23,0031,020,อย่างเดียว.
|
|
23,0031,021,บทว่า <B>ตสฺมาติหานนฺท</B> ความว่า เพราะสุญญตาวิหาร สงบ
|
|
23,0031,022,ประณีต ฉะนั้น. บทว่า <B>อชฺฌตฺตเมว</B> ได้แก่ ภายในโคจรนั่นแหละ.
|
|
23,0031,023,ภายในของตนในบทนี้ว่า <B>อชฺฌตฺตํ สุญฺตํ</B> อธิบายว่า อาศัยเบญจขันธ์
|
|
|