|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
50,0010,001,อนัตตา.
|
|
50,0010,002,๒๔๗๒
|
|
50,0010,003,ถ. เหตุไฉนกิเลสกามและวัตถุกาม จึงได้ชื่อว่ามารและบ่วง
|
|
50,0010,004,แห่งมาร ? เมื่อเป็นเช่นนั้นจะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหลุดพ้นไปจาก
|
|
50,0010,005,บ่วงแห่งมารได้ ?
|
|
50,0010,006,ต. เพราะเหตุว่า กิเลสกามมีตัณหาเป็นต้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว
|
|
50,0010,007,ย่อมเป็นโทษล้างผลาญคุณความดีของคนและทำคนให้เสียหาย จึงได้
|
|
50,0010,008,ชื่อว่ามาร. ส่วนวัตถุกามมีรูปอันน่ารักเป็นต้น เป็นอารมณ์เครื่องผูก
|
|
50,0010,009,ในให้ติดแห่งมาร จึงได้ชื่อว่าเป็นบ่วงแห่งมาร. ปฏิบัติอย่างนี้ คือระวัง
|
|
50,0010,010,จิตสำรวมจิตด้วยอาการ ๓ อย่างคือ ๑. สำรวมอินทรีย์มิให้ความ
|
|
50,0010,011,ยินดีครอบงำในเมื่อเห็นรูปอันน่าปรารถนาเป็นต้น ๒. มนสิการ
|
|
50,0010,012,กัมมัฏฐาน อันเป็นปฏิปักษ์ต่อกามฉันท์มีอสุภะเป็นต้น ๓. เจริญ
|
|
50,0010,013,วิปัสสนา คือพิจารณาสังขารให้เห็นว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
|
|
50,0010,014,อนัตตา จึงจะหลุดพ้นไปจากบ่วงแห่งมารได้.
|
|
50,0010,015,๒๔๗๖
|
|
50,0010,016,ถ. เห็นสังขารทั้งปวงว่าไม่เที่ยง ก็ย่อมหน่ายในทุกข์ เห็นว่า
|
|
50,0010,017,สังขารทั้งปวงอนัตตา ก็ย่อมหน่ายในทุกข์ จึงเป็นทางแห่งวิสุทธิ
|
|
50,0010,018,ถ้าเห็นว่าไม่เที่ยงย่อมหน่ายในความไม่เที่ยง จะเป็นทางแห่งวิสุทธิ
|
|
50,0010,019,ได้หรือไม่ ? เหตุไฉนจึงว่าอย่างนั้น ? อันที่จริงบางแห่งท่านก็สอนให้
|
|
50,0010,020,พิจารณาเห็นเฉพาะลักษณะอย่างเดียวเท่านั้น เช่นอนัตตลักขณสูตร
|
|
|