dhamma-scholar-book / 49 /490013.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
49,0013,001,บุคคลก็ไม่สามารถจะทรงชีวิตอยู่ได้ การที่บุคคลทำการอาชีพกันอยู่
49,0013,002,ทุกวันนี้ ก็เพื่อจะได้ทรัพย์มาเป็นเครื่องจ่ายโอสถคืออาหาร สำหรับ
49,0013,003,รักษาโรคคือความหิวนี้เองเป็นข้อใหญ่ ต้องหากันไปทุกวันไม่มีที่
49,0013,004,สิ้นสุด เพราะโรคคือความหิวนี้ เป็นโรคมีประจำสัตว์ดังกล่าวแล้ว
49,0013,005,ต้องรักษาเยียวยากันไปจนกว่าชีวิตจะดับ จึงจะหมดธุระรักษากัน
49,0013,006,คราวหนึ่ง ที่สุดของโรคคือความหิวนี้ ไปจบลงที่ตายในชาติหนึ่ง
49,0013,007,"หมดกันไปตอนหนึ่ง เพราะอย่างนี้ พระศาสนาจึงตรัสว่า "" ความหิว"
49,0013,008,"เป็นโรคอย่างยิ่ง "" ฯ ด้วยเหตุที่ต้องรักษากันเสมอเรื่อยไป ไม่มี"
49,0013,009,ว่างเว้นดังกล่าวแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะชีวิตร่างกายนั้น เป็น
49,0013,010,สังขารอันปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเจริญต่อไป
49,0013,011,ได้ ก็ต้องอาศัยปัจจัยคืออาหารเป็นเครื่องสนับสนุนต่อไปอีก เพราะ
49,0013,012,สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ย่อมต้องเป็นไปตามปัจจัย สมดังพระราช-
49,0013,013,ภาษิตว่า
49,0013,014,<B> ยถาปจฺจยํ ปวตฺตนฺติ</B>
49,0013,015,สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ย่อมเป็นไปตามปัจจัย ดังนี้ ฯ สิ่งที่
49,0013,016,ปัจจัยปรุงแต่งกล่าวคือสังขารนั้น จำเป็นต้องปรนปรือหาเครื่องสนับ
49,0013,017,สนุนทะนุบำรุงเรื่อยไป จึงต้องเป็นทุกข์ สมดังกระทู้พุทธภาษิต
49,0013,018,บาทที่ ๒ ว่า
49,0013,019,<B> สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา</B>
49,0013,020,แปลว่า สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ฯ อันสังขารทั้งหลาย
49,0013,021,นั้นแยกโดยประเภทเป็น ๒ คือ อุปาทินนกสังขาร สังขารที่มีใจ