dhamma-scholar-book / 48 /480046.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
48,0046,001,เวลาฐานที่และอื่น ๆ ไม่มีข้อแตกต่าง คำพยานมีลักษณะอย่างนี้ควรฟัง
48,0046,002,ได้ ข้อว่าเห็นเทียบกันได้กับเห็นนั้น เช่นพยานโจทก์เบิกความสมโดย
48,0046,003,ใจความ แต่แตกต่างบ้างโดยพลความอันไม่สำคัญ คำพยานมีลักษณะ
48,0046,004,เช่นนี้ควรฟังได้เหมือนกัน ข้อว่าเห็นยันกัน ไม่เข้ากันนั้น เช่นพยาน
48,0046,005,โจทก์เบิกความแตกต่างจากคำของโจทก์โดยใจความสำคัญ หรือคำของ
48,0046,006,พยานผู้นั้นเอง ในเมื่อถูกซัก เบิกต้นกับปลายไม่สมกัน คำพยานมี
48,0046,007,ลักษณะอย่างนี้ไม่ควรฟังโดยแท้ คำจำเลยกับพยานของจำเลย ก็พึง
48,0046,008,สันนิษฐานโดยลักษณะอย่างเดียวกัน และคำพยานในฝ่ายเดียวกัน
48,0046,009,สนับสนุนกันหรือหักล้างกัน ก็พึงรู้โดยลักษณะนั้น แม้คำพยานผ่า
48,0046,010,หมากเช่นคำพยานฝ่ายจำเลยเบิกสมมาข้างโจทก์ และคำพยานฝ่ายโจทก์
48,0046,011,เบิกสมไปข้างจำเลย ควรฟังได้ตามลักษณะนี้เหมือนกัน.
48,0046,012,"พระมติของสมเด็จ ฯ ว่า บท "" สวจนียํ "" "" ความเป็นผู้มีคำ"
48,0046,013,"อันจะพึงกล่าว "" "" สวนียํ "" "" คำอันจะพึงฟัง "" ได้แก่การสืบพยานหรือ"
48,0046,014,คำพยาน.
48,0046,015,เมื่อผู้พิจารณาทำคำวินิจฉัยแถลงแก่สงฆ์แล้ว สงฆ์ย่อมมีธุระ
48,0046,016,๒ อย่าง คือ :-
48,0046,017,๑. สอดส่อง.
48,0046,018,๒. รับรอง.
48,0046,019,ทิฏฐาวิกัมม์ (ทำความเห็นให้แจ้ง คือแสดงความเห็นแย้ง)
48,0046,020,อันชอบแก่ระเบียบนั้น ดังนี้ :-