dhamma-scholar-book / 41 /410044.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
41,0044,001,ต. การพิจารณาสิ่งทั้งปวงโดยความเป็นของว่างเปล่านั้น คือ
41,0044,002,ว่างเปล่าจากสมมติ เช่น สมมติว่าเรา ว่าเป็นเรา ว่าเป็นของเรา
41,0044,003,เป็นต้น. การพิจารณาอย่างนี้ ผิดกับนัตถิกทิฏฐิ. เพราะนัตถิกทิฏฐิ
41,0044,004,เห็นว่าไม่มีทุกอย่าง เป็นการปฏิเสธทุกอย่าง เช่น ไม่มีสมมติสัจจะ
41,0044,005,ปรมัตถสัจจะ ความดีความชั่วไม่มี ผลของกรรมดี กรรมชั่วไม่มี
41,0044,006,เป็นต้น แต่การพิจารณาดังกล่าวแล้ว ไม่เป็นอย่างนัตถิกทิฏฐิ ยังมี
41,0044,007,การยอมรัยในเรื่องกรรมและผลของกรรมว่ามี เป็นต้น.
41,0044,008,๒๕๑๐
41,0044,009,ถ. อนัตตาไม่หมายเอาสังขารดอกหรือ ? ไฉนในธรรมนิยาม
41,0044,010,จึงใช้ศัพท์ว่า ธรรม แปลกกับ ๒ บทข้างต้น ?
41,0044,011,ต. หมายเอาสังขาร. ที่ท่านใช้ศัพท์ว่าธรรมในที่นี้ เพราะอนัตตา
41,0044,012,หมายเอาทั้งสังขารและวิสังขาร คือพระนิพพานด้วย.
41,0044,013,๒๔๖๑
41,0044,014,ถ. ความไม่เที่ยงกับความเป็นทุกข์แห่งสังขาร และความเป็น
41,0044,015,อนัตตาแห่งธรรม ท่านเรียกว่าธรรมนิยาม ธรรมฐิติ นั้น นำให้
41,0044,016,สันนิษฐานว่าอย่างไร ? จงตอบให้ชอบแก่หลัก.
41,0044,017,ต. นำให้สันนิษฐานว่า เป็นกฎแห่งธรรมดา หรือตั้งอยู่ตาม
41,0044,018,ธรรมดา คือว่าในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ สังขารทั้งหลายล้วน
41,0044,019,ประกอบด้วยลักษณะ ๓ เสมอไป อีกนัยหนึ่ง ลักษณะ ๓ เป็นความ
41,0044,020,จริงของโลก ซึ่งทุกคนที่เกิดมาในโลกแล้ว จำต้องประสบความจริง
41,0044,021,ทั้ง ๓ ทั่วกันเสมอกัน แต่ใครจะรู้เห็นความเป็นจริงหรือไม่นั้น