|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
37,0010,001,เสียได้แล้ว รากแห่งความดีงามซึ่งเป็นอัตถะคือสิ่งเป็นประโยชน์กล่าว
|
|
37,0010,002,คืออโลภะเป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นในจิต เมื่อเกิดขึ้นแล้วเขาก็ย่อมทำพูด
|
|
37,0010,003,คิดแต่ในทางดีที่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนและคนอื่น ซึ่งเรียกว่ากายสุจริต
|
|
37,0010,004,เป็นต้น ก็ย่อมนำมาซึ่งผลคือความสุขความเจริญ ทั้งแก่ตนและคนอื่น
|
|
37,0010,005,ทั้งสองฝ่าย นี้เป็นอธิบายในประเด็นที่ ๒ เมื่อทราบอธิบายในประเด็น
|
|
37,0010,006,ที่ ๒ เช่นนี้แล้ว พึงทราบอรรถาธิบายในประเด็นที่ ๒ ต่อไป.
|
|
37,0010,007,ในประเด็นที่ ๓ ที่ว่า ผู้มีขันติชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์
|
|
37,0010,008,และนิพพานนั้น อธิบายว่า ผู้มีขันติไม่ใช่จะนำประโยชน์อย่างธรรมดา
|
|
37,0010,009,สามัญในมนุษยโลกนี้ ที่เรียกว่า มนุษย์สมบัติ มาอย่างเดียวเท่านั้น
|
|
37,0010,010,แต่ยังสามารถนำประโยชน์อย่างกลางซึ่งเรียกว่าสวรรค์สมบัติ และ
|
|
37,0010,011,ประโยชน์อย่างสูงซึ่งเรียกว่านิพพานสมบัติมาได้ด้วย เพราะเขาได้ดำเนิน
|
|
37,0010,012,ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน กล่าวคือศีล สมาธิ และปัญญา โดย
|
|
37,0010,013,ที่มาใช้ขันติระงับยับยั้งทนทานในอารมณ์ต่าง ๆ ไม่เป็นไปในอำนาจ
|
|
37,0010,014,แห่งอกุศลมูล ทำกุศลมูลให้เกิดมีขึ้นในจิต แล้วประพฤติสุจริตทาง
|
|
37,0010,015,กายวาจาอันจัดเป็นศีล ผู้มีขันติตั้งมั่นอยู่ในศีล ย่อมได้รับอานิสงส์
|
|
37,0010,016,คือเกียรติคุณอันงามในโลกนี้ชั้นหนึ่งแล้ว ตายไปยังได้ความบันเทิงใจ
|
|
37,0010,017,ในสวรรค์อีกชั้นหนึ่งเป็นแน่แท้ สมด้วยกระแสสาวกภาษิต อันมีมา
|
|
37,0010,018,ในขุททกนิกาย เถรคาถาว่า
|
|
37,0010,019,<B>อิเธว กิตฺตึ ลภติ เปจฺจ สคฺเค จ สุมโน
|
|
37,0010,020,สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร สีเลสุ สุสมาหิโต</B>
|
|
37,0010,021,ผู้มีปรีชาตั้งมั่นในศีล ย่อมได้ชื่อเสียงในโลกนี้ ละไปแล้วก็ย่อม
|
|
|