dhamma-scholar-book / 34 /340036.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
34,0036,001,๑. โลภอยากได้ของเขา คือคิดอยากมีที่จะเอาสิ่งของของผู้อื่นมาเป็น
34,0036,002,ของตน โดยวิธีทุจริต แม้ได้สิ่งนี้มาแล้ว ก็ยังคิดโลภอยากได้สิ่งอื่นอีก
34,0036,003,ต่อไป ยิ่งได้ ก็ยิ่งคิดโลภอยากได้อยู่นั่นเอง.
34,0036,004,๒. พยาบาทปองร้ายเขา คือคิดจองล้างจองผลาญเขา มุ่งที่จะให้
34,0036,005,ทรัพย์สมบัติ เกียรติชื่อเสียง ร่างกายชีวิตของเขาพินาศไป.
34,0036,006,๓. เห็นผิดจากคลองธรรม คือคิดเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความ
34,0036,007,เป็นจริง ความเป็นจริงท่านเรียกว่าคลองธรรม ๆ มีอยู่ว่า บุญ - บาป
34,0036,008,"มีอยู่ บิดามารดามีคุณ ทำเหตุดี ได้ผลดี ทำเหตุชั่ว ได้ผลชั่ว, คนจะ"
34,0036,009,"ได้ดีหรือชั่วเพราะการกระทำ, สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง, แต่ความเห็นผิด"
34,0036,010,"ตรงกันข้าม คือคิดเห็นว่า บุญ - บาปไม่มี, บิดามารดาไม่มีคุณ, คนดี"
34,0036,011,"ความชั่วไม่มีเหตุ, คนจะดีหรือชั่ว ก็ดีเอว ชั่วเอง ไม่ใช่เพราะการกระทำ"
34,0036,012,สังขารทั้งปวงเที่ยง เป็นอย่างไร ก็คงเป็นอย่างนั้นตลอดไป.
34,0036,013,ทุจริตทั้ง ๓ อย่างนี้ ล้วนแต่เป็นกิจที่ชั่วร้ายเสียหายด้วยกัน หาก
34,0036,014,จะพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน ก็จะเห็นได้ว่า มโนทุจริต เป็นความเสียหาย
34,0036,015,ร้ายแรงที่สุด เพราะคนเรานี้มีใจเป็นสำคัญที่สุด เมื่อใจชั่วเพราะคิดเห็น
34,0036,016,ผิดจากทำนองคลองธรรมแล้ว การทำทางกาย การพูดทางวาจา ก็ย่อม
34,0036,017,ชั่วตามไปด้วย ก่อความเดือดร้อนใจแก่ตนก่อนแล้ว ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
34,0036,018,ด้วยการทำ การพูด ภายหลัง.
34,0036,019,ฉะนั้น ทุจริตทั้ง ๓ อย่างนี้ เป็นกิจไม่ควรทำ ควรจะละเสีย.