|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
34,0004,001,ธรรมเป็นโลกบาล คือคุ้มครองโลก ๒ อย่าง
|
|
34,0004,002,๑. หิริ ความละอายแก่ใจ
|
|
34,0004,003,๒. โอตตัปปะ ความเกรงกลัว
|
|
34,0004,004,องฺ. ทุก. ๒๐/๖๕ ขุ. อิติ. ๒๕/๒๕๗
|
|
34,0004,005,อธิบายศัพท์
|
|
34,0004,006,๑. <B>หิริ</B> แปลว่า<B>ความละอายแก่ใจ</B>. ได้แก่ความละอายใจในการ
|
|
34,0004,007,ประพฤติชั่ว.
|
|
34,0004,008,ท่านว่า หิรินั้นมีความรังเกียจบาปมีกายทุจริตเป็นต้นเป็นสักษณะ<SUP>๑</SUP>
|
|
34,0004,009,หิริมีความเคารพยำเกรงเป็นลักษณะ<SUP>๒</SUP> อธิบายว่า บางคนเกิดความละอาย
|
|
34,0004,010,อันมีความเคารพเป็นลักษณะโดยเหตุ ๔ อย่างคือ เคารพชาติตระกูลเป็น
|
|
34,0004,011,สำคัญ ๑ เคารพครูอาจารย์เป็นสำคัญ ๑ เคารพทรัพย์มรดกเป็นสำคัญ ๑
|
|
34,0004,012,เคารพคนประพฤติดีเป็นสำคัญ ๑ แล้วไม่กระทำความชั่ว. และหิรินี้
|
|
34,0004,013,มีเหตุภายในเป็นสมุฏฐาน อธิบายว่า บางคนคำนึงถึงชาติ วัย กำลัง
|
|
34,0004,014,ความรู้ของตนว่าเป็นอย่างนี้ ๆ แล้ว ปลงใจว่าไม่ควรทำบาป แล้วก็ไม่ทำ
|
|
34,0004,015,นี้ชื่อว่าเกิดความละอายเพราะเหตุภายใน. อนึ่ง หิริ มีการปรารภตนเป็น
|
|
34,0004,016,ใหญ่ อธิบายว่า บางคนทำตนให้เป็นใหญ่ คำนึงว่าการทำบาปไม่ควรแก่
|
|
34,0004,017,เราผู้มีภาวะอย่างนี้ ๆ แล้วไม่ยอมทำบาป. หิรินี้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยอาการที่
|
|
34,0004,018,กระดากอายนั่นเอง คือถ้าหมดยางอายเสียแล้วก็เป็นอันว่าไม่มีหิริ. ท่าน
|
|
34,0004,019,กล่าวอุปมาไว้ว่า คนรักสวยรักงาม เกลียดของสกปรก รู้อยู่ ย่อมละอาย
|
|
|