dhamma-scholar-book / 30 /300018.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
30,0018,001,เลี้ยงชีพเนื่องถึงกัน เช่นต่างย่อมซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเป็นต้น. เมื่อ
30,0018,002,เป็นเช่นนี้ ผู้ขายจะเชื่อว่าบุรพการีของผู้ซื้อ ๆ ชื่อว่ากตัญญูกตเวทีแก่
30,0018,003,ผู้ขายได้หรือไม่ ? เหตุไรจึงว่าเช่นนั้น ?
30,0018,004,ต. ต่างไม่ได้ชื่อว่าเป็นบุรพการี และกตัญญูกตเวทีของกันและกัน
30,0018,005,ได้ เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ได้ทำด้วยเมตตาจิต. อัน
30,0018,006,บุคคลจะชื่อว่าเป็นบุรพการีของเขาได้ ก็เพราะทำด้วยไม่คิดราคาตอบ
30,0018,007,แทน ทำไปด้วยเมตตาจิต หวังความสุขความเจริญให้แก่เขา. ส่วนผู้
30,0018,008,จะชื่อว่ากตัญญูกตเวทีนั้น ก็ต้องทำด้วยมีแก่ใจ ทำด้วยระลึกถึง
30,0018,009,อุปการะของท่านผู้มีคุณ ไม่ทำด้วยจำเป็นหรือถูกบังคับเหมือนอย่างซื้อ
30,0018,010,ของเขาแล้วจำเป็นต้องให้ทรัพย์เขาฉะนั้น.
30,0018,011,๑๕/๗/๖๑
30,0018,012,ถ. บุคคลอกตัญญูกตเวที คือคนเช่นไร ? จงแสดงให้เห็น
30,0018,013,เป็นตัวอย่างของผู้รักถูก.
30,0018,014,ต. คือบุคคลผู้รู้สึกไม่อุปการคุณของท่านผู้มีพระคุณ และไม่
30,0018,015,ตอบอุปการะท่าน. เช่นตนเมื่อบิดามารดาอุปถัมภ์บำรุงมาด้วยความ
30,0018,016,เหนื่อยยากและสิ้นเปลือง แล้วไม่รู้สึกบุญคุณของท่าน และเมื่อ
30,0018,017,สามารถ ไม่ปฏิการะตอบ ไม่เลี้ยงดูท่าน เป็นต้น ชื่อว่าเป็นลูกหนี้
30,0018,018,ของท่าน แล้วไม่คิดเปลืองหนี้ เหมือนอย่างบุคคลผู้หยิบยืมกู้ทรัพย์
30,0018,019,ของผู้อื่นมาแล้วตระบัดเสีย<SUP>๑</SUP> ฉะนั้น บุคคลเห็นปานนี้ ชื่อว่าอกตัญญู-