|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
20,0038,001,มังสะกับเอ็นนี้เป็นดุจสายพานสำหรับชักให้ไหวกาย เช่นคู่เหยียดแขนขา
|
|
20,0038,002,เป็นต้น สำเร็จอิริยาบถนั้น ๆ และทำท่าทางต่าง ๆ ได้ เช่นเดียวกับ
|
|
20,0038,003,รูปหุ่นที่กระดุกระดิกได้เพราะคนชักสาย นี้ตรงกับคำบาลีว่า <B>กายวิญฺ-
|
|
20,0038,004,ตฺติ</B> คือกิริยาที่ไหวกายได้ และทำให้เปล่งเสียงได้ เช่นเดียวกันกับ
|
|
20,0038,005,คนดีดพิณ ๆ ดังเพราะสาย ที่คอหอยก็มีสายเอ็นเหมือนกัน นี้ตรงกับ
|
|
20,0038,006,คำบาลีว่า <B>วจีวิญฺตฺติ</B> คือกิริยาที่ไหววาจาได้ และภายในกายตอนบน
|
|
20,0038,007,ในโครงอก มีหัวใจตั้งอยู่ท่ามกลางที่เต้นอยู่เสมอ มีปอด คือมังสะ ๒
|
|
20,0038,008,ก้อน มีขั้วอันเดียว ปกอยู่ทั้ง ๒ ข้างเว้นช่องกลาง หัวใจนั้น ภายใน
|
|
20,0038,009,ปันเป็นห้อง ๆ ซีกข้างขวาอีก ๒ ห้อง สำหรับฉีดโลหิตออกไปเลี้ยงทั่ว
|
|
20,0038,010,สรรพางค์กาย ซีกข้างขวาอีก ๒ ห้อง สำหรับรับโลหิตที่เดินวกกลับ
|
|
20,0038,011,มาจากสรรพางค์กาย และฉีดเข้าไปในปอด และปอดนั้นสำหรับสูบลม
|
|
20,0038,012,อากาศภายนอกเข้าไป ได้แก่หายใจเข้า และระบายลมเสียออกภายนอก
|
|
20,0038,013,ได้แก่หายใจออก เมื่อโลหิตในปอดต้องสัมผัสลมอากาศเข้า ก็มีสีแดง
|
|
20,0038,014,ก่ำและมีไอร้อน ที่เรียกตามบาลีว่า <B>สนฺตปฺปคฺคิ</B> แปลว่า ไฟบอกาย
|
|
20,0038,015,ให้อุ่น นับในหมวดเตโชธาตุ เดินจากปอดเข้าหัวใจ ๆ ก็ฉีดไปทั่ว
|
|
20,0038,016,สรรพางค์กาย เมื่อโลหิตแล่นไปทั่วกายแล้ว ก็เดินวกลับเข้าหัวใจ
|
|
20,0038,017,แต่ในขณะนี้สีคล้ำไป เพราะไม่ได้ลมอากาศ โลหิตนี้เดินตามเส้น
|
|
20,0038,018,ใหญ่น้อยที่แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย สมด้วยคำในคัมภีร์วิสุทธิมรรค
|
|
20,0038,019,ที่เรียกชื่อโลหิตแดงว่า สังสรณโลหิต แปลว่า โลหิตอันแล่นไป เรียก
|
|
20,0038,020,ชื่อโลหิตคล้ำว่า สันนิจิตโลหิต แปลว่า โลหิตอันสะสมเข้า และใน
|
|
|