|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
20,0011,001,ก็ยกสังขารทั้งหลายเหล่านั้นนั่นแลขึ้นยังพระไตรลักษณ์ กำหนด
|
|
20,0011,002,พิจารณาด้วยปฏิสังขานุปัสสนาญาณ เพื่อจะทำอุบายแห่งความปลด
|
|
20,0011,003,เปลื้องให้บริบูรณ์ขึ้นว่า สังขารทั้งปวงเป็นของสูญ ๆ ดังนี้ คือ
|
|
20,0011,004,เห็นว่ารูปไม่มีสาระ มีสาระอันออกเสียแล้ว ปราศจารสาระ สาระ
|
|
20,0011,005,คือความเป็นของเที่ยง หรือสาระคือความเป็นของยั่งยืน หรือสารคือ
|
|
20,0011,006,ความเป็นสุข หรือสาระคือความเป็นอาตมตัวตน ไม่มี ณ รูปนี้ ๆไม่
|
|
20,0011,007,มีสาระเหล่านี้ทุกสิ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีสาระ
|
|
20,0011,008,คือความเป็นของเที่ยงและสุขและเป็นอาตมตัวตน ประหนึ่งว่าไม้
|
|
20,0011,009,เนื้ออ่อนไม่มีแก่นฉะนั้น. เมื่อเห็นสังขารโดยเป็นของสูญฉะนี้แล้วยกขึ้น
|
|
20,0011,010,ยังลักษณะ ๓ กำหนดสังขารทั้งหลายเป็นอารมณ์อยู่ ก็ละความกลัว
|
|
20,0011,011,และความเพลินเสียได้แล้ว เป็นผู้มัธยัสถ์ในสังขารทั้งหลาย ไม่ถือว่า
|
|
20,0011,012,เรา ว่าของเรา ประหนึ่งบุรุษมีภริยาอันสละเสียแล้วฉะนั้น เมื่อ
|
|
20,0011,013,กุลบุตรผู้บำเพ็ญเพียรนี้ ได้บรรลุสังขารุเบกขาญาณแล้ว วิปัสสนา
|
|
20,0011,014,เป็นวุฏฐานคามินี ถึงยอด ถึงความเป็นปัญญาอันอุดม ในกาลเป็น
|
|
20,0011,015,ที่สุดแห่งสังขารุเบกขาญาณ วิปัสสนาจิต ๒ บ้าง ๓ บ้าง ปรารภ
|
|
20,0011,016,ลักษณะทั้ง ๓ อันใดอันหนึ่งเป็นอารมณ์เกิดขึ้น โดยชื่อว่าบริกรรม
|
|
20,0011,017,อุปจารอนุโลม อันนี้ชื่อว่าอนุโลมญาณ. ญาณอันเนื้ออนุโลมตามแก่
|
|
20,0011,018,อะไร? อนุโลมตามแก่วิปัสสนาญาณทั้ง ๘ เบื้องต้น และโพธิปักขิย-
|
|
20,0011,019,ธรรม ๓๗ เบื้องบน ในลำดับแห่งอนุโลมจิตนั้น โคตรภูจิตหน่วง
|
|
20,0011,020,นิพพานเป็นอารมณ์ ก้าวล่วงโคตรปุถุชนอยู่ หยั่งลงโคตรพระอริย-
|
|
20,0011,021,เจ้าเกิดขึ้น วิปัสสนาญาณที่พิจารณาสังขารโดยลักษณะ ๓ จำเดิม
|
|
|