|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
20,0006,001,ในอำนาจ ความเป็นของสูญสักว่าเป็นสภาวธรรม ความเป็นสภาพ
|
|
20,0006,002,ไม่มีเจ้าของ เป็นอนัตตลักขณะ เครื่องหมายที่จะให้รู้ให้เห็นว่าเป็น
|
|
20,0006,003,อนัตตา. ให้สาธุชนผู้เจริญพระวิปัสสนาปัญญานั้น พึงรู้ฐานะ ๖ อย่าง
|
|
20,0006,004,ด้วยประการฉะนี้.
|
|
20,0006,005,เมื่อรู้ฐานะทั้ง ๖ ประการฉะนี้แจ้งชัดแล้ว พึงกำหนดสังขาร
|
|
20,0006,006,โดยประเภท มีนามรูปเป็นต้น กำหนดกายกับทั้งจิตเจตสิกนี้โดย
|
|
20,0006,007,กองทั้ง ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ส่วนมี ผม ขน
|
|
20,0006,008,เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น อันฉิบหายเพราะปัจจัยเป็นข้าศึก มีเย็นร้อน
|
|
20,0006,009,"เป็นต้น เป็นกองรูป, ความเสวยอารมณ์ สุข ทุกข์ ไม่ทุกข์ไม่สุข"
|
|
20,0006,010,"ส่วนนี้กองเวทนา, ความจำได้ จำไว้ จำรูป จำเสียง จำกลิ่น จำรส"
|
|
20,0006,011,"จำสัมผัส จำธรรมารมณ์ก็ดี ส่วนนี้กองสัญญา, สัญเจตนา ความ"
|
|
20,0006,012,คิดอ่านต่อใจก็ด เจตสิกธรรมที่เกิดในจิตทั้งปวง ยกเสียแต่เวทนา
|
|
20,0006,013,"และสัญญาแล้ว เหลือนั้นเป็นกองสังขารธรรมที่ปรุงใจ, วิญญาณ"
|
|
20,0006,014,ในที่รู้อารมณ์ต่าง ๆ ที่เป็นไปในจักข์ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มนะ
|
|
20,0006,015,ส่วนนี้กองวิญญาณ. เมื่อกำหนดเป็นขันธ์ ๕ ประการฉะนี้แล้ว ย่น
|
|
20,0006,016,ลงเป็น ๒ คือ รูป ๑ นาม ๑ รูปขันธ์คงเป็นรูป แต่อรูปขันธ์ที่ ๔
|
|
20,0006,017,คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นเป็นนาม. เมื่อกำหนด
|
|
20,0006,018,ธรรมเป็นไปใน ๓ ภูมิลงได้ โดยเป็นนาม ๑ รูป ๑ ฉะนี้ ก็ได้ความ
|
|
20,0006,019,สันนิษฐานว่า สัตว์หรือบุคคล เทวดาหรือพรหมอื่น ยิ่งขึ้นไปกว่า
|
|
20,0006,020,นามรูปนี้ไม่มี ส่วนที่ ๒ คือ นาม ๑ รูป ๑ นี้อาศัยกันและกัน
|
|
20,0006,021,ประหนึ่งมนุษย์เรืออาศัยกันและกันไป ณ สมุทรสาครฉะนั้น.
|
|
|