|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
19,0012,001,สัตว์ดิรัจฉานเป็นที่สุด ตามแต่จะทำได้เพียงไร. แผ่เมตตาโดยเจาะจง
|
|
19,0012,002,เป็นไปโดยแรงกล้า เป็นเหตุให้ช่วยเหลือกันแข็งแรง แต่เป็นไป
|
|
19,0012,003,ในทางที่แคบ ทั้งเขตแห่งความไม่มีภัยไม่มีเวร ทั้งเขตแห่งความ
|
|
19,0012,004,สำเร็จประโยชน์แก่ผู้อื่น. แผ่เมตตาโดยไม่เจาะจง เป็นไปโดยเพลา
|
|
19,0012,005,แต่เป็นไปในทางที่กว้าง เช่นคนร่วมบ้านร่วมวัดตลอดถึงร่วมชาติ
|
|
19,0012,006,รักใคร่ปรองดองช่วยเหลือกัน แม้ไม่แข็งแรงเหมือนทำให้แก่ครอบครัว
|
|
19,0012,007,ย่อมมีผลกว้างกว่า พาคนหมู่นั้นให้ได้สุขทั่วถึงกัน. เหตุนั้น ในพระ
|
|
19,0012,008,พุทธศาสนาจึงนิยมแผ่เมตตา โดยไม่เจาะจงว่าเป็นเมตตาอย่างสูงอย่าง
|
|
19,0012,009,"กว้าง ในการเจริญกัมมัฏฐาน ท่านผูกบทไว้ให้นึกว่าดังนี้ <B>""สพฺเพ"
|
|
19,0012,010,"สตฺตา อเวรา อพฺยาปชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตุ""</B>"
|
|
19,0012,011,แปลว่า ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความลำบาก ไม่
|
|
19,0012,012,มีทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด. ในชั้นต้น น้อมใจให้ปรารถนาความสุขแก่
|
|
19,0012,013,ผู้อื่นมาได้แล้ว นึกถึงบทสำหรับบริกรรมนี้ จะคุมจิตให้มีเมตตาขึ้น
|
|
19,0012,014,ได้ในขณะนึก. ในขณะใด เมตตาเป็นไปอยู่ ในขณะนั้น จัดว่าได้
|
|
19,0012,015,ผลที่มุ่งหมายแห่งกัมมัฏฐานนี้. จิตสัมปยุตด้วยเมตตาตั้งมั่นแน่แน่ว
|
|
19,0012,016,ลงไป จัดเป็นอุปจารสมาธิ.
|
|
19,0012,017,กัมมัฏฐานนี้ เป็นประโยชน์แก่คนมีพยาบาทเป็นเจ้าเรือน หรือ
|
|
19,0012,018,เรียกว่าโทสจริตตลอดคนเหล่าอื่นทั่วไป มีอานิสงส์ให้อยู่ด้วยความ
|
|
19,0012,019,ไม่มีภัยไม่มีเวร รักใคร่ปรองดองช่วยเหลือกัน. เหตุนั้น จึงควร
|
|
19,0012,020,เจริญตามกาล ถึงคราวควรแผ่เมตตาโดยเจาะจง ก็พึงเจริญโดยเจาะจง
|
|
19,0012,021,ถึงคราวแผ่โดยไม่เจาะจง. ก็พึงเจริญโดยไม่เจาะจง.
|
|
|