|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
07,0047,001,ปกิรณกทุกข์ ก็ย่อมเกิดมีพร้อม เพราะชาติความเกิดเป็นปัจจัย ข้อซึ่ง
|
|
07,0047,002,กองทุกข์ทั้งสิ้นมาเกิดขึ้นพร้อม ย่อมมีย่อมเป็นด้วยประการฉะนี้. จักษุ
|
|
07,0047,003,ญาณปรีชารู้แจ้งชัดสว่างว่า สมุทโย สมุทโย เกิดขึ้นพร้อม เกิดขึ้น
|
|
07,0047,004,พร้อม ดังนี้ ได้เกิดขึ้นแล้วแก่พระมหาบุรุษเจ้า ในธรรมทั้งหลายที่
|
|
07,0047,005,พระองค์ไม่ได้ยินได้ฟังมา ณ กาลก่อนเลย. ครั้งนั้นพระมหาบุรุษทรง
|
|
07,0047,006,แสวงหาความดับสนิทแห่ง ชรา มรณะนั้นต่อไปว่า เมื่ออะไรไม่มีเล่า
|
|
07,0047,007,หนอ ชรา มรณะ จึงไม่มี เพราะดับไม่เหลือแห่งอะไร ชรา มรณะ
|
|
07,0047,008,จึงจะดับไปโดยไม่เหลือ ทรงทำในจิตโดยอุบายชอบ ก็เกิดความตรัสรู้
|
|
07,0047,009,ด้วยปัญญาว่า เมื่อชาติความเกิดแลไม่มีแล้ว ชรา มรณะก็ไม่มี อาศัย
|
|
07,0047,010,ชาติดับสนิท ชรา มรณะจึงจะดับสนิทได้ โดยนัยนี้ ทรงค้นหาแล้ว
|
|
07,0047,011,ตรัสรู้ชัดด้วยปัญญาตามลำดับไปว่า เพราะภพดับสนิท ชาติจึงจะดับสนิท
|
|
07,0047,012,ได้ เพราะอุปทานดับสนิท ภพจึงจะดับสนิท เพราะตัณหาดับสนิทลง
|
|
07,0047,013,อุปาทานจึงจะดับสนิทไป เพราะเวทนาดับสนิท ตัณหาจึงจะดับสนิทได้
|
|
07,0047,014,เพราะผัสสะดับสนิท เวทนาจึงจะดับสนิท เพราะอายตนะ ๖ ประการ
|
|
07,0047,015,ดับสนิทลง ผัสสะจึงจะดับสนิท เพราะนามรูปดับสนิทลง อายตนะ ๖
|
|
07,0047,016,ประการจึงจะดับสนิทได้ เพราะวิญญาณดับสนิท นามรูปจึงดังสนิท
|
|
07,0047,017,ครั้นพระองค์ตรัสรู้ตามลำดับมาฉะนี้แล้ว ทรงพิจารณาว่า เมื่ออะไร
|
|
07,0047,018,ไม่มีเล่าหนอ วิญญาณจึงไม่มี เพราะอะไรดับสนิทไป วิญญาณจึงจะ
|
|
07,0047,019,ดับสนิทได้ อาศัยทำในจิตโดยอุบายชอบ ก็เกิดความตรัสรู้ด้วยปัญญาว่า
|
|
07,0047,020,เมื่อนามรูปและไม่มี วิญญาณจึงไม่มี เพราะนามรูป ดับสนิทเสียได้แล้ว
|
|
07,0047,021,วิญญาณจึงจะดับสนิทลง. ครั้นเกิดความตรัสรู้ฉะนี้แล้ว ก็ทรงสันนิษฐาน
|
|
|