|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
03,037,001,พระกรรณทั้งสอง ให้ปวดพระเศียร เสียดพระอุทร ร้อนในพระกาย
|
|
03,037,002,"เป็นกำลัง, แม้ได้เสวยทุกขเวทนากล้าถึงเพียงนี้ ทุกขเวทนานั้นไม่"
|
|
03,037,003,อาจครอบงำพระหฤทัยให้กระสับกระส่าย มีพระสติตั้งมั่นไม่ฟั่นเฟือน
|
|
03,037,004,ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน. ครั้นทรงเห็นว่าการทำอย่างนี้ไม่ใช่ทาง
|
|
03,037,005,ตรัสรู้ จึงเปลี่ยนอย่างอื่นอีก.
|
|
03,037,006,วาระที่ ๓ ทรงอดพระอาหาร ผ่อนเสวยแต่วันละน้อย ๆ บ้าง
|
|
03,037,007,"เสวยพระอาหารละเอียดบ้าง, จนพระกายเกี่ยวแห้ง พระฉวีเศร้า"
|
|
03,037,008,"หมอง พระอัฐิปรากฏทั่วพระกาย, เมื่อทรงลูบพระกาย เส้นพระ"
|
|
03,037,009,"โลมามีรากอันเน่าหลุดร่วงจากขุมพระโลมา, พระกำลังน้อยถอยลง"
|
|
03,037,010,"จะเสด็จไปข้างไหนก็ซวนล้ม, จนชนทั้งหลายได้เห็นแล้วกล่าวทักว่า"
|
|
03,037,011,"พระสมณโคดม ดำไป, บางพวกกล่าวว่า ไม่ดำ เป็นแต่คล้ำไป, บาง"
|
|
03,037,012,พวกกล่าวว่า ไม่เป็นอย่างนั้น เป็นแต่พร้อยไป.
|
|
03,037,013,ภายหลังทรงสันนิษฐานว่า การทำทุกรกิริยาไม่ใช่ทรงตรัสรู้
|
|
03,037,014,แน่แล้ว ได้ทรงเลิกเสียด้วยประการทั้งปวง กลับเสวยพระอาหาร
|
|
03,037,015,โดยปกติ ไม่ทรงอดต่อไปอีก.
|
|
03,037,016,พระอาจารย์ผู้รจนาบาลีมัชฌิมนิกาย<SUP>๑</SUP> แสดงเหตุทรงปรารภ
|
|
03,037,017,บำเพ็ญทุกรกิริยาแล้วเลิกเสียดังนี้ว่า ครั้งนั้น อุปมา ๓ ข้อ ที่พระ
|
|
03,037,018,มหาบุรุษไม่เคยทรงสดับ มาปรากฏแจ่มแจ้งแก่พระองค์ว่า :-
|
|
03,037,019,สมณพราหมณ์<SUP>๒</SUP>เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ซึ่งมีกายไม่ได้หลีกออกจากกาม
|
|
|