dhamma-scholar-book / 33 /330019.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
raw
history blame
3.1 kB
Book,Page,LineNumber,Text
33,0019,001,- จับหญิงคนเดียว ครั้งเดียว ไม่ปล่อย แม้ตลอดวันตลอดคืน
33,0019,002,ก็ต้องอาบัติตัวเดียว.
33,0019,003,- จับหญิงหลายคนในขณะเดียวกัน ต้องอาบัติเท่าจำนวนคน.
33,0019,004,- จับต้องโดยไม่แกล้ง ไม่ต้องอาบัติ.
33,0019,005,<B>สิกขาบทที่ ๓ พูดเกี้ยวหญิง.</B>
33,0019,006,สิกขาบทนี้ เป็นสจิตตกะ.
33,0019,007,ภิกษุมีความกำหนัดอยู่ พูดเกี้ยวหญิงผู้รู้เดียงสา มีโทษดังนี้ :-
33,0019,008,ก. พูดพาดพิงทวารหนัก ทวารเบา เมถุน ต้องสังฆาทิเสส.
33,0019,009,ข. พูดพาดพิงอวัยวะเหนือเข่าขึ้นไป ใต้ไหปลาร้าลงมา ใต้ข้อ
33,0019,010,ศอกเข้าไป ต้องถุลลัจจัย.
33,0019,011,ค. พูดพาดพิงอวัยวะนอกนั้น ต้องทุกกฏ.
33,0019,012,อนึ่ง หญิงผู้รู้เดียงสา เป็นวัตถุแห่งสังฆาทิเสส. บัณเฑาะก์ เป็น
33,0019,013,วัตถุแห่งถุลลัจจัย. บุรุษ เป็นวัตถุแห่งทุกกฏ. พูดกับคนคนเดียว ต้อง
33,0019,014,"อาบัติตัวเดียว, พูดกับคนมากคน ต้องอาบัติเท่าจำนวนคน."
33,0019,015,<B>สิกขาบทที่ ๔ พูดล่อให้หญิงบำเรอตนด้วยกาม.</B>
33,0019,016,สิกขาบทนี้ เป็นสจิตตกะ.
33,0019,017,ภิกษุกำหนัดอยู่ พูดล่อให้หญิงผู้รู้เดียงสาให้บำเรอตน คือ ชวน
33,0019,018,"เสพเมถุนธรรม, หญิงเข้าใจ ต้องสังฆาทิเสส, ถ้าหญิงไม่เข้าใจ ไม่ต้อง"
33,0019,019,อาบัติ.
33,0019,020,<B>สิกขาบทที่ ๕ ชักสื่อชายหญิงให้เป็นผัวเมียกัน.</B>
33,0019,021,ภิกษุชักสื่อชายหญิงให้เป็นผัวเมียกัน โดยชอบด้วยกฏหมายก็ตาม
33,0019,022,ไม่ชอบก็ตาม ย่อมมีโทษดังนี้ :-