|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
31,0033,001,อย่างนี้ คือ ศีล สำหรับกำจัดกิเลสอย่างหยาบ อันให้ล่วงทางกาย ทาง
|
|
31,0033,002,"วาจา เรียกว่าวิติกกมะ, สมาธิ สำหรับกำจัดกิเลสอย่างกลาง ที่ให้"
|
|
31,0033,003,"กลัดกลุ้มรุมใจ เรียกว่าปริยุฏฐาน, ปัญญา สำหรับกำจัดกิเลสอย่าง"
|
|
31,0033,004,ละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน เรียกว่าอนุสัย.
|
|
31,0033,005,๒๔๕๗
|
|
31,0033,006,ถ. จงแสดงกิจแห่งสิกขา ๓ อย่าง ?
|
|
31,0033,007,"ต. ศีลมีอันป้องกันวิติกกมโทษเป็นกิจ, สมาธิ มีอันปราบปราม"
|
|
31,0033,008,"ปริยุฏฐานกิเลสเป็นกิจ, ปัญญา มีอันกำจัดอนุสัยกิเลสเป็นกิจ."
|
|
31,0033,009,๒๔๕๗
|
|
31,0033,010,ถ. จงแสดงสิกขาของภิกษุ อธิบายพอได้ความ เพื่อเป็นทาง
|
|
31,0033,011,ปฏิบัติ ?
|
|
31,0033,012,ต. สิกขาของภิกษุนั้นท่านจัดเป็น ๓ อย่าง คือ ศีล ๑ สมาธิ ๑
|
|
31,0033,013,ปัญญา ๑ ความสังวรตามพระวินัย ยังอาการกายวาจาให้เรียบร้อยไม่
|
|
31,0033,014,ล่วงพระพุทธบัญญัติ และบำเพ็ญวัตรจริยาที่ยังควรจะทำได้ ยังตนให้
|
|
31,0033,015,เป็นคนสุภาพ นี้จัดเป็นศีล การรู้วิธีทำใจให้ปลอดจากนิวรณ์ต่าง ๆ
|
|
31,0033,016,เรียกว่าสมาธิ ทำจิตให้อาจให้ควรแก่การงานในคราวที่ต้องการ เรียกว่า
|
|
31,0033,017,ปัญญา แปลตามศัพท์ว่า ธรรมชาติรู้เห็นชัด หรือธรรมชาติเป็นเหตุ
|
|
31,0033,018,ให้เห็นชัด แต่ในพระพุทธศาสนามุ่งความบริสุทธิ์เป็นผล และความ
|
|
31,0033,019,บริสุทธิ์นั้นจะมีได้ก็เพราะปัญญากำหนดรู้สังขารภายใน กล่าวคือ กาย
|
|
31,0033,020,กับใจนี้ การมีปรีชาหยั่งรู้ธรรมดานิยมและเข้าใจสภาวะทั้งหลาย ตาม
|
|
31,0033,021,เป็นไปอย่างไร เรียกว่าความรอบรู้ในกองสังขาร.
|
|
31,0033,022,๒๔๕๘
|
|
|