|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
28,0045,001,"พระองค์ตรัสห้ามเสียแล้ว ทรงแสดงธรรมแก่เขาว่า ""มรรค "
|
|
28,0045,002,๘ ไม่มีในธรรมวินัยใด พระสมณะ ๔ เหล่า ไม่มีในธรรมวินัย
|
|
28,0045,003,นั้น มรรค ๘ มีในธรรมวินัยของตถาคตเท่นั้น สมณะ ๔ ย่อม
|
|
28,0045,004,"มีด้วย."""
|
|
28,0045,005,สุภัททะฟังธรรมนี้แล้วแสดงตนเป็นอุบาสกแล้ว ขออุปสม-
|
|
28,0045,006,"บท. พระองค์ตรัสว่า ""คนนอกพุทธศาสนาต้องอยู่ปริวาส ๔"
|
|
28,0045,007,"เดือนจึงบวชได้."" สุภัททะว่า ""ให้อยู่สัก ๔ ปีก็อา."" พระองค์ตรัส"
|
|
28,0045,008,ให้พระอานนท์นำสุภัททะไปบรรพชา.
|
|
28,0045,009,๒๒. <B>สุภัททะเป็นสักขีสาวก</B> พระอานนท์นำสุภัททะไปบรรพชาให้
|
|
28,0045,010,เป็นสามเณร แล้วนำเข้าถวายพระพุทธเจ้า พระองค์ให้สุภัททะ
|
|
28,0045,011,อุปสมบทเป็นภิกษุ และบอกกัมมัฏฐานให้ไม่ช้านัก เธอก็ได้
|
|
28,0045,012,สำเร็จอรหันต์ทันตาเห็น เป็น <B>สักขีสาวก</B> ของพระศาสดา (สาวก
|
|
28,0045,013,องค์หลังสุดของพระพุทธเจ้า).
|
|
28,0045,014,"๒๓. <B>ทรงประทานโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์</B> ว่า ""ธรรมก็ดี วินัยก็ดี อันใด"
|
|
28,0045,015,ที่เราแสดงบัญญัติไว้แล้ว ธรรมและวินัยนั้นแล จักเป็นศาสดา
|
|
28,0045,016,"ของท่านทั้งหลาย โดยกาลที่ล่วงไปแห่งเรา."""
|
|
28,0045,017,๒๔. <B>ตรัสให้ภิกษุเรียกกันโดยคารวะโวหาร</B> ๒ อย่าง คือ :-
|
|
28,0045,018,(๑) ผู้แก่เรียกผู้อ่อน ใช้คำว่า <B>อาวุโส</B> หรือ <B>ออกชื่อโคตร</B>
|
|
28,0045,019,ก็ได้.
|
|
28,0045,020,(๒) ผู้อ่อนเรียกผู้แก่ ใช้คำว่า <B>ภนฺเต</B> หรือ <B>อายสฺมา</B> ก็ได้.
|
|
|