question_id
int32 1
4k
| article_id
int32 665
954k
| context
stringlengths 75
87.2k
| question
stringlengths 11
135
| answers
sequence |
---|---|---|---|---|
464 | 816,195 | เคียวโกะ ฮินะมิ เคียวโกะ ฮินะมิ เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1994 เป็นนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นผลงานละครโทรทัศน์ผลงาน. ละครโทรทัศน์. - Hammer Session! (2010) - Rokudenashi Blues (2011) - Unofficial Sentai Akibaranger as Mitsuki Aoyagi/Akiba Blue (2012) - Unofficial Sentai Akibaranger: Season 2 as Mitsuki Aoyagi/Akiba Blue (2013, episode 1)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - Vanished: Age 7 (2011) - Princess Sakura: Forbidden Pleasures (2013) - Shimauma (2016)
| เคียวโกะ ฮินะมิ นักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่น แสดงภาพยนตร์ในปี 2016 มีชื่อเรื่องว่าอะไร | {
"answer": [
"Shimauma"
],
"answer_begin_position": [
524
],
"answer_end_position": [
532
]
} |
1,576 | 816,195 | เคียวโกะ ฮินะมิ เคียวโกะ ฮินะมิ เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1994 เป็นนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นผลงานละครโทรทัศน์ผลงาน. ละครโทรทัศน์. - Hammer Session! (2010) - Rokudenashi Blues (2011) - Unofficial Sentai Akibaranger as Mitsuki Aoyagi/Akiba Blue (2012) - Unofficial Sentai Akibaranger: Season 2 as Mitsuki Aoyagi/Akiba Blue (2013, episode 1)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - Vanished: Age 7 (2011) - Princess Sakura: Forbidden Pleasures (2013) - Shimauma (2016)
| วันเกิดของ เคียวโกะ ฮินะมิ คือวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"6"
],
"answer_begin_position": [
139
],
"answer_end_position": [
140
]
} |
465 | 205,830 | ฟุจิวะระ โนะ อะกิซุเอะ ฟุจิวะระ โนะ อาคิสุอิ (ญ๊ปุ่น:藤原顕季) (ค.ศ. 1055 – 27 กันยายน ค.ศ. 1123) เป็นสมาชิกของตระกูลฟุจิวะระ และเป็นขุนนางในยุคเฮอัง เขาเป็นบุตรชายของ ฟุจิวะระ โนะ ทาคาชิ เคอิ (藤原隆経) อาคิอิสุ เป็นคนสนิทใน สมเด็จพระจักรพรรดิชิรากาวะ เพราะมารดาของเขาเป็น พระพี่เลี้ยงในพระจักรพรรดิ เขามีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ ฟุจิวะระ โนะ อาคิสุเนะ ในสมัยของอาคิสุอิ อำนาจของตระกูลฟุจิวะระเริ่มอ่อนแอ อันเนื่องจากเกิดปัญหาในทางการเมือง
| ลูกชายของ ฟุจิวะระ โนะ ทาคาชิ เคอิ มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ฟุจิวะระ โนะ อาคิสุอิ"
],
"answer_begin_position": [
120
],
"answer_end_position": [
141
]
} |
466 | 205,830 | ฟุจิวะระ โนะ อะกิซุเอะ ฟุจิวะระ โนะ อาคิสุอิ (ญ๊ปุ่น:藤原顕季) (ค.ศ. 1055 – 27 กันยายน ค.ศ. 1123) เป็นสมาชิกของตระกูลฟุจิวะระ และเป็นขุนนางในยุคเฮอัง เขาเป็นบุตรชายของ ฟุจิวะระ โนะ ทาคาชิ เคอิ (藤原隆経) อาคิอิสุ เป็นคนสนิทใน สมเด็จพระจักรพรรดิชิรากาวะ เพราะมารดาของเขาเป็น พระพี่เลี้ยงในพระจักรพรรดิ เขามีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ ฟุจิวะระ โนะ อาคิสุเนะ ในสมัยของอาคิสุอิ อำนาจของตระกูลฟุจิวะระเริ่มอ่อนแอ อันเนื่องจากเกิดปัญหาในทางการเมือง
| พ่อของฟุจิวะระ โนะ อาคิสุเนะ มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ฟุจิวะระ โนะ ทาคาชิ เคอิ"
],
"answer_begin_position": [
261
],
"answer_end_position": [
285
]
} |
467 | 826,327 | สุรพล อิสรไกรศีล นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล แพทย์เชี่ยวชาญด้านมะเร็งโรคเลือดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยอมรับของแพทย์ไทย และแพทย์ต่างชาติ และท่านยังเป็นราชบัณฑิตยสภาอีกด้วยประวัติ ประวัติ. ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 ที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรชายคนโตของนายกิมฮง และนางสมพร อิสรไกรศีล มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน สมรสกับรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรัตนา อิสรไกรศีล มีบุตรและธิดาทั้งหมด 3 คน คือ นางสาวฤชุตา อิสรไกรศีล, นางสาววิชญา อิสรไกรศีล และนายแพทย์ภคภณ อิสรไกรศีลการศึกษา การศึกษา. สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดอมรญาติสมาคม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี, ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเมธีชุณหะวัณวิทยาลัย อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม, ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และระดับปริญญาตรีที่คณะวิทยาศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลเมื่อปี พ.ศ. 2515 และ 2517 ตามลำดับ จากนั้นจึงได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์ แพทยสภาในปี พ.ศ. 2521 ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่ University of Ulm ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และได้รับประกาศนียบัตร ในสาขา Experimental Hematology เมื่อปี พ.ศ. 2525 ต่อมาจึงได้รับประกาศนียบัตรจาก Fred Hutchinson Cancer Research Center มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2529 และได้รับการอนุมัติให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวเมื่อปี พ.ศ. 2528ประวัติการทำงาน ประวัติการทำงาน. นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ระดับ 11 สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปลูกถ่ายไขกระดูกจุฬาภรณ์ , ผู้อำนวยการศูนย์โลหิตวิทยา โรงพยาบาลวัฒโนสถ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคเลือด โรงพยาบาลธนบุรีเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2543 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) - พ.ศ. 2540 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) - พ.ศ. 2551 - เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาแพทยศาสตร์รางวัลเกียรติคุณรางวัลเกียรติคุณ. - พ.ศ. 2535 ผลงานวิจัยดีเด่นทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล - พ.ศ. 2536 ผลงานวิจัยดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติ - พ.ศ. 2536 รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล-บี บราวน์ เพื่อการแพทย์และสาธารณสุขไทย (ร่วมรับรางวัล) - พ.ศ. 2537 ศิษย์เก่าดีเด่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล - พ.ศ. 2538 ผลงานวิจัยดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติ (ร่วมรับรางวัล) - พ.ศ. 2538 รางวัลนักวิจัยอาวุโส สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) - พ.ศ. 2539 ศิษย์เก่าดีเด่น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ๒๕๓๙ - พ.ศ. 2541 รางวัลจาก National Heart, Lung and Blood Institute (NHLBI),National Institute of Health (NIH) สหรัฐอเมริกา ในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี ของ NHLBI - พ.ศ. 2548 เมธีวิจัยอาวุโส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย - พ.ศ. 2549 หัวหน้ากลุ่มวิจัยโครงการเครือข่ายกลยุทธ์เพื่อการผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา - พ.ศ. 2551 รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการวิจัยผลงานผลงาน. - ผู้ก่อตั้ง Asia Pacific Bone Marrow Transplantation, เมื่อปี พ.ศ. 2531 - ผู้ก่อตั้ง Asian Hematology Association- การค้นคว้าวิจัยเรื่องโรคโลหิตจางอะพลาสติกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2546 - ผลงานวิจัยเรื่องการปลูกถ่ายไขกระดูกและการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด - การศึกษาวิจัยเรื่อง เซลล์ต้นกำเนิดและเซลล์ต้นกำเนิดบำบัด (stem cell and stem cell ther
| ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล แพทย์เชี่ยวชาญด้านมะเร็งโรคเลือด เป็นคนจังหวัดใด | {
"answer": [
"จังหวัดราชบุรี"
],
"answer_begin_position": [
375
],
"answer_end_position": [
389
]
} |
468 | 826,327 | สุรพล อิสรไกรศีล นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล แพทย์เชี่ยวชาญด้านมะเร็งโรคเลือดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยอมรับของแพทย์ไทย และแพทย์ต่างชาติ และท่านยังเป็นราชบัณฑิตยสภาอีกด้วยประวัติ ประวัติ. ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 ที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรชายคนโตของนายกิมฮง และนางสมพร อิสรไกรศีล มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน สมรสกับรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรัตนา อิสรไกรศีล มีบุตรและธิดาทั้งหมด 3 คน คือ นางสาวฤชุตา อิสรไกรศีล, นางสาววิชญา อิสรไกรศีล และนายแพทย์ภคภณ อิสรไกรศีลการศึกษา การศึกษา. สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดอมรญาติสมาคม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี, ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเมธีชุณหะวัณวิทยาลัย อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม, ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และระดับปริญญาตรีที่คณะวิทยาศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลเมื่อปี พ.ศ. 2515 และ 2517 ตามลำดับ จากนั้นจึงได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์ แพทยสภาในปี พ.ศ. 2521 ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่ University of Ulm ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และได้รับประกาศนียบัตร ในสาขา Experimental Hematology เมื่อปี พ.ศ. 2525 ต่อมาจึงได้รับประกาศนียบัตรจาก Fred Hutchinson Cancer Research Center มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2529 และได้รับการอนุมัติให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวเมื่อปี พ.ศ. 2528ประวัติการทำงาน ประวัติการทำงาน. นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ระดับ 11 สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปลูกถ่ายไขกระดูกจุฬาภรณ์ , ผู้อำนวยการศูนย์โลหิตวิทยา โรงพยาบาลวัฒโนสถ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคเลือด โรงพยาบาลธนบุรีเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2543 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) - พ.ศ. 2540 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) - พ.ศ. 2551 - เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาแพทยศาสตร์รางวัลเกียรติคุณรางวัลเกียรติคุณ. - พ.ศ. 2535 ผลงานวิจัยดีเด่นทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล - พ.ศ. 2536 ผลงานวิจัยดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติ - พ.ศ. 2536 รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล-บี บราวน์ เพื่อการแพทย์และสาธารณสุขไทย (ร่วมรับรางวัล) - พ.ศ. 2537 ศิษย์เก่าดีเด่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล - พ.ศ. 2538 ผลงานวิจัยดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติ (ร่วมรับรางวัล) - พ.ศ. 2538 รางวัลนักวิจัยอาวุโส สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) - พ.ศ. 2539 ศิษย์เก่าดีเด่น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ๒๕๓๙ - พ.ศ. 2541 รางวัลจาก National Heart, Lung and Blood Institute (NHLBI),National Institute of Health (NIH) สหรัฐอเมริกา ในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี ของ NHLBI - พ.ศ. 2548 เมธีวิจัยอาวุโส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย - พ.ศ. 2549 หัวหน้ากลุ่มวิจัยโครงการเครือข่ายกลยุทธ์เพื่อการผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา - พ.ศ. 2551 รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการวิจัยผลงานผลงาน. - ผู้ก่อตั้ง Asia Pacific Bone Marrow Transplantation, เมื่อปี พ.ศ. 2531 - ผู้ก่อตั้ง Asian Hematology Association- การค้นคว้าวิจัยเรื่องโรคโลหิตจางอะพลาสติกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2546 - ผลงานวิจัยเรื่องการปลูกถ่ายไขกระดูกและการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด - การศึกษาวิจัยเรื่อง เซลล์ต้นกำเนิดและเซลล์ต้นกำเนิดบำบัด (stem cell and stem cell ther
| ภรรยาของนายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล คือใคร | {
"answer": [
"รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรัตนา อิสรไกรศีล"
],
"answer_begin_position": [
468
],
"answer_end_position": [
507
]
} |
469 | 31,375 | ดุสิตธานี ดุสิตธานี เป็นเมืองจำลองรูปแบบระบอบประชาธิปไตย ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 บริเวณพระราชวังพญาไท ดุสิตธานีเป็นเมืองเล็ก ๆ มีเนื้อที่ 3 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณรอบพระที่นั่งอุดร ในพระราชวังดุสิต มีลักษณะเป็นเมืองเล็ก ๆ คล้ายเมืองตุ๊กตา มีขนาดพื้นที่ 1 ใน 20 เท่าของเมืองจริง ประกอบด้วย พระราชวัง ศาลารัฐบาล วัดวาอาราม สถานที่ราชการ โรงทหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาดร้านค้า ธนาคาร โรงละคร ประมาณเกือบสองร้อยหลัง เพื่อเป็นแบบทดลองของการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยโปรดให้มีพระธรรมนูญการปกครองลักษณะนัคราภิบาล ซึ่งเปรียบลักษณะของเมือง มีพรรคการเมือง 2 พรรค การเลืองตั้งนัคราภิบาล หรือนายกเทศมนตรี(ตำแหน่งนี้ปัจจุบันเปรียบได้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน) และมีสภาการเมือง(หรือรัฐสภาในปัจจุบัน)แบบระบอบประชาธิปไตย ต่อมาดุสิตธานีได้โตขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีที่จะสร้างบ้านเรือน พอดีกับเวลาที่จะสร้างพระราชฐานใหม่ที่พระราชวังพญาไทจึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองทั้งเมืองไปตั้งที่บริเวณพระราชวังพญาไท เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2462 ในจำนวนบ้านเล็ก ๆ นั้น มีศาลาว่าการมณฑลดุสิตธานี(ปัจจุบันเทียบเท่ากับศาลากลางจังหวัด)และมีนาคาศาลา(เทียบได้กับศาลากลางบ้านหรือศาลากลางชุมชน) ซึ่งมีความหมายว่า ศาลาของประชาชน เท่ากับว่าเป็นที่ตั้งสภาจังหวัด รัชกาลที่ 6 ทรงเป็นนาคาแห่งดุสิตธานีผู้หนึ่ง ทรงใช้พระนามแฝงว่า นายราม ณ กรุงเทพ ทรงเป็นทนายและทรงเป็นมรรคนายกวัดพระบรมธาตุ ทรงเป็นพระราชมุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมธิปไตย และทรงแสดงพระธรรมเทศนาจริง ๆ ด้วย นอกจากนี้ทรงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องที่ดินที่มาและประวัติ ที่มาและประวัติ. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเริ่มโครงการเมืองทดลอง หรือ เมืองตุ๊กตานี้ ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งองค์มกุฎราชกุมาร ประมาณกลางปี พ.ศ. 2446 ได้สร้างเมืองมัง นับได้ว่าเป็นเมืองดุสิตธานี สมัยที่หนึ่ง ณ พระตำหนักอัมพวา โดยทำเป็นเมืองขนาดเล็กเรียกว่า เมืองตุ๊กตา และเมืองมัง ก็ยุติลง เมื่อพระองค์ทรงผนวช เมื่อปี พ.ศ. 2448 ต่อมาเมื่อพระองค์ได้เป็นผู้สำเร็จราชการในปี พ.ศ. 2450 จึงได้ทรงทดลองวิธีการปกครองบ้านเมืองแบบเมืองมัง อีกครั้งหนึ่ง โดยทรงสร้างเป็นเรือนแถวขึ้นตลอดแนวกำแพงที่กั้นพระตำหนักจิตรลดารโหฐานกับวังปารุสกวันเก่า โดยทรงสมมุติว่าเป็นหมู่บ้านและสมมุติให้มหาดเล็กเป็นเจ้าของบ้าน มีลักษณะการบริหารแบบนี้ว่า นคราภิบาล(ตำแหน่งนี้ปัจจุบันเปรียบได้กับตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปัจจุบัน) นับได้ว่าเป็นดุสิติธานีสมัยที่ 2 ของสยามประเทศ ภายหลังการเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2453 ก็ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย จึงทำให้โครงการเมืองทดลองชะงักไปชั่วคราว จนในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 ก็ได้ทรงสร้างเมืองดุสิตธานีขึ้นต่ออีก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2461 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ทวยนาครดุสิตธานีมาประชุม เพื่อการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามพระธรรมนูญในคราวนี้ พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) ได้รับเลือกเป็นนคราภิบาลอย่างถูกต้องเป็นคนแรก และป็นการเลือกเป็นครั้งที่สองข้อวิพากษ์วิจารณ์ ข้อวิพากษ์วิจารณ์. นอกจากนี้ในเมืองดุสิตธานีมีการออกหนังสือพิมพ์วิพากษ์วิจารณ์ และเสนอข่าวในเมืองจำลอง เพื่อเพียรพยายามปลูกฝังหัดการปกครองระบอบรัฐสภา กระนั้นก็ตามมีผู้วิจารณ์ว่า การสร้างเมืองจำลองดุสิตธานี เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เหมือนกับทรงเล่นละครเรื่องอื่น พระองค์ทรงหาได้ตั้งใจที่จะก่อตั้งรูปการปกครองแบบประชาธิปไตยที่จะก่อตั้งรูปแบบการปกครองประชาธิปไตยอย่างจริงจังหรือไม่ สถานการณ์ช่วงนั้น นับวันผู้ที่มีความรู้เพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาหลายคนมีความเห็นและให้ทัศนะไปในทางเดียวกันว่า การปกครองระบอบราชาธิปไตย ที่องค์พระมหากษัตริย์ใช้ในทางนิติบัญญัติ ใช้ในทางบัญญัติ ใช้ในทางบริหารและใช้ในทางตุลาการแต่พระองค์เองนั้น เป็นการพ้นสมัยเสียแล้ว ไม่อาจพารัฐก้าวหน้าอย่างที่ควรจะเป็นไป โดยกลุ่มคนยุคใหม่(ในสมัยนั้น) ได้ยกตัวอย่างเช่น อังกฤษ ในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ประเทศฝรั่งเศสได้เกิดการปฏิวัติใหญ่ เพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ราชาธิราช ในปี ค.ศ. 1689เป็นต้น แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในเอเชียด้วยกันก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง
| พระมหากษัตริย์พระองค์ใดเป็นผู้สร้างพระราชวังดุสิต | {
"answer": [
"พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว"
],
"answer_begin_position": [
142
],
"answer_end_position": [
178
]
} |
1,409 | 31,375 | ดุสิตธานี ดุสิตธานี เป็นเมืองจำลองรูปแบบระบอบประชาธิปไตย ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 บริเวณพระราชวังพญาไท ดุสิตธานีเป็นเมืองเล็ก ๆ มีเนื้อที่ 3 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณรอบพระที่นั่งอุดร ในพระราชวังดุสิต มีลักษณะเป็นเมืองเล็ก ๆ คล้ายเมืองตุ๊กตา มีขนาดพื้นที่ 1 ใน 20 เท่าของเมืองจริง ประกอบด้วย พระราชวัง ศาลารัฐบาล วัดวาอาราม สถานที่ราชการ โรงทหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาดร้านค้า ธนาคาร โรงละคร ประมาณเกือบสองร้อยหลัง เพื่อเป็นแบบทดลองของการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยโปรดให้มีพระธรรมนูญการปกครองลักษณะนัคราภิบาล ซึ่งเปรียบลักษณะของเมือง มีพรรคการเมือง 2 พรรค การเลืองตั้งนัคราภิบาล หรือนายกเทศมนตรี(ตำแหน่งนี้ปัจจุบันเปรียบได้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน) และมีสภาการเมือง(หรือรัฐสภาในปัจจุบัน)แบบระบอบประชาธิปไตย ต่อมาดุสิตธานีได้โตขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีที่จะสร้างบ้านเรือน พอดีกับเวลาที่จะสร้างพระราชฐานใหม่ที่พระราชวังพญาไทจึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองทั้งเมืองไปตั้งที่บริเวณพระราชวังพญาไท เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2462 ในจำนวนบ้านเล็ก ๆ นั้น มีศาลาว่าการมณฑลดุสิตธานี(ปัจจุบันเทียบเท่ากับศาลากลางจังหวัด)และมีนาคาศาลา(เทียบได้กับศาลากลางบ้านหรือศาลากลางชุมชน) ซึ่งมีความหมายว่า ศาลาของประชาชน เท่ากับว่าเป็นที่ตั้งสภาจังหวัด รัชกาลที่ 6 ทรงเป็นนาคาแห่งดุสิตธานีผู้หนึ่ง ทรงใช้พระนามแฝงว่า นายราม ณ กรุงเทพ ทรงเป็นทนายและทรงเป็นมรรคนายกวัดพระบรมธาตุ ทรงเป็นพระราชมุนี เจ้าอาวาสวัดธรรมธิปไตย และทรงแสดงพระธรรมเทศนาจริง ๆ ด้วย นอกจากนี้ทรงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องที่ดินที่มาและประวัติ ที่มาและประวัติ. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเริ่มโครงการเมืองทดลอง หรือ เมืองตุ๊กตานี้ ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งองค์มกุฎราชกุมาร ประมาณกลางปี พ.ศ. 2446 ได้สร้างเมืองมัง นับได้ว่าเป็นเมืองดุสิตธานี สมัยที่หนึ่ง ณ พระตำหนักอัมพวา โดยทำเป็นเมืองขนาดเล็กเรียกว่า เมืองตุ๊กตา และเมืองมัง ก็ยุติลง เมื่อพระองค์ทรงผนวช เมื่อปี พ.ศ. 2448 ต่อมาเมื่อพระองค์ได้เป็นผู้สำเร็จราชการในปี พ.ศ. 2450 จึงได้ทรงทดลองวิธีการปกครองบ้านเมืองแบบเมืองมัง อีกครั้งหนึ่ง โดยทรงสร้างเป็นเรือนแถวขึ้นตลอดแนวกำแพงที่กั้นพระตำหนักจิตรลดารโหฐานกับวังปารุสกวันเก่า โดยทรงสมมุติว่าเป็นหมู่บ้านและสมมุติให้มหาดเล็กเป็นเจ้าของบ้าน มีลักษณะการบริหารแบบนี้ว่า นคราภิบาล(ตำแหน่งนี้ปัจจุบันเปรียบได้กับตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปัจจุบัน) นับได้ว่าเป็นดุสิติธานีสมัยที่ 2 ของสยามประเทศ ภายหลังการเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2453 ก็ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย จึงทำให้โครงการเมืองทดลองชะงักไปชั่วคราว จนในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 ก็ได้ทรงสร้างเมืองดุสิตธานีขึ้นต่ออีก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2461 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ทวยนาครดุสิตธานีมาประชุม เพื่อการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามพระธรรมนูญในคราวนี้ พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) ได้รับเลือกเป็นนคราภิบาลอย่างถูกต้องเป็นคนแรก และป็นการเลือกเป็นครั้งที่สองข้อวิพากษ์วิจารณ์ ข้อวิพากษ์วิจารณ์. นอกจากนี้ในเมืองดุสิตธานีมีการออกหนังสือพิมพ์วิพากษ์วิจารณ์ และเสนอข่าวในเมืองจำลอง เพื่อเพียรพยายามปลูกฝังหัดการปกครองระบอบรัฐสภา กระนั้นก็ตามมีผู้วิจารณ์ว่า การสร้างเมืองจำลองดุสิตธานี เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เหมือนกับทรงเล่นละครเรื่องอื่น พระองค์ทรงหาได้ตั้งใจที่จะก่อตั้งรูปการปกครองแบบประชาธิปไตยที่จะก่อตั้งรูปแบบการปกครองประชาธิปไตยอย่างจริงจังหรือไม่ สถานการณ์ช่วงนั้น นับวันผู้ที่มีความรู้เพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาหลายคนมีความเห็นและให้ทัศนะไปในทางเดียวกันว่า การปกครองระบอบราชาธิปไตย ที่องค์พระมหากษัตริย์ใช้ในทางนิติบัญญัติ ใช้ในทางบัญญัติ ใช้ในทางบริหารและใช้ในทางตุลาการแต่พระองค์เองนั้น เป็นการพ้นสมัยเสียแล้ว ไม่อาจพารัฐก้าวหน้าอย่างที่ควรจะเป็นไป โดยกลุ่มคนยุคใหม่(ในสมัยนั้น) ได้ยกตัวอย่างเช่น อังกฤษ ในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ประเทศฝรั่งเศสได้เกิดการปฏิวัติใหญ่ เพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ราชาธิราช ในปี ค.ศ. 1689เป็นต้น แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในเอเชียด้วยกันก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง
| พระราชวังดุสิตเป็นเมืองจำลองรูปแบบระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่กี่ไร่ | {
"answer": [
"3 ไร่"
],
"answer_begin_position": [
281
],
"answer_end_position": [
286
]
} |
470 | 280,840 | ดาการ์ ดาการ์ () เป็นเมืองหลวงของประเทศเซเนกัล ตั้งอยู่บริเวณแหลมกัปแวร์ ทางชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของประเทศ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเซเนกัล ตำแหน่งของเมืองอยู่ทางปลายทิศตะวันตกของทวีปแอฟริกา (ถือเป็นเมืองตะวันตกของแอฟริกา) ซึ่งเป็นจุดค้าขายของแถบมหาสมุทรแอตแลนติกและยุโรป และเป็นเมืองท่าสำคัญของละแวกนี้ จากข้อมูลเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 เมืองดาการ์มีประชากรอยู่ที่ 1,030,594 คน ที่ในย่านผู้อาศัยแถบเมืองดาการ์ตกราว 2.45 ล้านคน ดาการ์ยังเป็นศูนย์กลางการบริหาร เป็นที่ตั้งของสภาแห่งชาติเซเนกัล
| เมืองหลวงของประเทศเซเนกัลมีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ดาการ์"
],
"answer_begin_position": [
88
],
"answer_end_position": [
94
]
} |
471 | 280,840 | ดาการ์ ดาการ์ () เป็นเมืองหลวงของประเทศเซเนกัล ตั้งอยู่บริเวณแหลมกัปแวร์ ทางชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของประเทศ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเซเนกัล ตำแหน่งของเมืองอยู่ทางปลายทิศตะวันตกของทวีปแอฟริกา (ถือเป็นเมืองตะวันตกของแอฟริกา) ซึ่งเป็นจุดค้าขายของแถบมหาสมุทรแอตแลนติกและยุโรป และเป็นเมืองท่าสำคัญของละแวกนี้ จากข้อมูลเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 เมืองดาการ์มีประชากรอยู่ที่ 1,030,594 คน ที่ในย่านผู้อาศัยแถบเมืองดาการ์ตกราว 2.45 ล้านคน ดาการ์ยังเป็นศูนย์กลางการบริหาร เป็นที่ตั้งของสภาแห่งชาติเซเนกัล
| สภาแห่งชาติเซเนกัล ตั้งอยู่ที่เมืองอะไร | {
"answer": [
"เมืองดาการ์"
],
"answer_begin_position": [
484
],
"answer_end_position": [
495
]
} |
472 | 245,553 | ลักษณวงศ์ ลักษณวงศ์ เป็นนิทานคำกลอน เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ ประพันธ์โดย สุนทรภู่ สันนิษฐานว่ามีสำนวนของผู้อื่นแต่งเติม สำนวนกลอนบางตอนคล้ายกับดัดแปลงมาจากเรื่อง โคบุตรเรื่องย่อ เรื่องย่อ. ท้าวพรหมทัต มีมเหสี ชื่อ สุวรรณอำภา และมีพระราชโอรส ชื่อ ลักษณวงศ์ ทรงพามเหสีพร้อมด้วยพระราชโอรสเสด็จประพาสป่า ได้พบนางยักษ์แปลงเป็นสาวสวยทำเล่ห์กลจนท้าวพรหมทัตลุ่มหลง ต่อมาจึงสั่ง ประหาร มเหสี และพระโอรส แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยไป นางสุวรรณอำภาถูกพระยายักษ์พาตัวไป ฤๅษีนำลักษณวงศ์ไปเลี้ยงคู่กับนางทิพย์เกสร เมื่อโตขึ้นเรียนวิชาจนสำเร็จและได้นางทิพย์เกสรเป็นชายา ได้ฝากนางไว้กับฤๅษี ออกตามหามารดาจนพบและ กู้บ้านเมืองได้ และได้นางยี่สุ่น เป็นชายา นางทิพย์เกสรปลอมเป็นพราหมณ์ติดตามมาพบพระลักษณวงศ์ ด้วยความน้อยใจ จึงไม่แสดงตนให้พระลักษณวงศ์รู้ นางยี่สุ่นริษยาที่สามี ใส่ใจพราหมณ์มากจึงวางอุบาย กำจัดพราหมณ์เกสร ในที่สุดพราหมณ์ถูกประหาร ร่างของนางจึงกายเป็นหญิง ลักษณวงศ์เสียใจมากต่อมา พระลักษณวงศ์ได้นำโอรสน้อยไปเลี้ยงดู ตั้งชื่อให้ว่า เกสรสุริยวงศ์ จนถึงวันเผาศพนางทิพเกสร วิญญาณของ ฤๅษีมหาเมฆ พระอาจารย์ของพระลักษณวงศ์และนางทิพเกสรได้ลงมาเปิดโกศนำศพของนางทิพเกสรไปทำพิธีชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น นางจันทรังสี เมื่อพระลักษณวงศ์พบว่า ศพของนางทิพเกสรหายไป ก็ให้โหราจารย์ทำนายดู โหราจารย์ก็ทำนายว่า มีผู้นำศพของนางทิพเกสรไปทำพิธีชุบชีวิต ทำให้พระลักษณวงศ์ดีใจมาก และคิดจะออกไปตามหานางทิพเกสรเมื่อเกสรสุริยวงศ์โตแล้ว ซึ่งกว่าจะตามหานางทิพเกสรพบก็ผ่านเรื่องราวอีกมากมาย จนเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข
| นิทานคำกลอนจักรๆ วงศ์ๆ เรื่อง ลักษณวงศ์ ผู้ประพันธ์คือใคร | {
"answer": [
"สุนทรภู่"
],
"answer_begin_position": [
152
],
"answer_end_position": [
160
]
} |
473 | 245,553 | ลักษณวงศ์ ลักษณวงศ์ เป็นนิทานคำกลอน เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ ประพันธ์โดย สุนทรภู่ สันนิษฐานว่ามีสำนวนของผู้อื่นแต่งเติม สำนวนกลอนบางตอนคล้ายกับดัดแปลงมาจากเรื่อง โคบุตรเรื่องย่อ เรื่องย่อ. ท้าวพรหมทัต มีมเหสี ชื่อ สุวรรณอำภา และมีพระราชโอรส ชื่อ ลักษณวงศ์ ทรงพามเหสีพร้อมด้วยพระราชโอรสเสด็จประพาสป่า ได้พบนางยักษ์แปลงเป็นสาวสวยทำเล่ห์กลจนท้าวพรหมทัตลุ่มหลง ต่อมาจึงสั่ง ประหาร มเหสี และพระโอรส แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยไป นางสุวรรณอำภาถูกพระยายักษ์พาตัวไป ฤๅษีนำลักษณวงศ์ไปเลี้ยงคู่กับนางทิพย์เกสร เมื่อโตขึ้นเรียนวิชาจนสำเร็จและได้นางทิพย์เกสรเป็นชายา ได้ฝากนางไว้กับฤๅษี ออกตามหามารดาจนพบและ กู้บ้านเมืองได้ และได้นางยี่สุ่น เป็นชายา นางทิพย์เกสรปลอมเป็นพราหมณ์ติดตามมาพบพระลักษณวงศ์ ด้วยความน้อยใจ จึงไม่แสดงตนให้พระลักษณวงศ์รู้ นางยี่สุ่นริษยาที่สามี ใส่ใจพราหมณ์มากจึงวางอุบาย กำจัดพราหมณ์เกสร ในที่สุดพราหมณ์ถูกประหาร ร่างของนางจึงกายเป็นหญิง ลักษณวงศ์เสียใจมากต่อมา พระลักษณวงศ์ได้นำโอรสน้อยไปเลี้ยงดู ตั้งชื่อให้ว่า เกสรสุริยวงศ์ จนถึงวันเผาศพนางทิพเกสร วิญญาณของ ฤๅษีมหาเมฆ พระอาจารย์ของพระลักษณวงศ์และนางทิพเกสรได้ลงมาเปิดโกศนำศพของนางทิพเกสรไปทำพิธีชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น นางจันทรังสี เมื่อพระลักษณวงศ์พบว่า ศพของนางทิพเกสรหายไป ก็ให้โหราจารย์ทำนายดู โหราจารย์ก็ทำนายว่า มีผู้นำศพของนางทิพเกสรไปทำพิธีชุบชีวิต ทำให้พระลักษณวงศ์ดีใจมาก และคิดจะออกไปตามหานางทิพเกสรเมื่อเกสรสุริยวงศ์โตแล้ว ซึ่งกว่าจะตามหานางทิพเกสรพบก็ผ่านเรื่องราวอีกมากมาย จนเรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข
| พระราชบิดาของลักษณวงศ์ ในนิทานคำกลอนที่แต่งโดยสุนทรภู่ มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"ท้าวพรหมทัต"
],
"answer_begin_position": [
268
],
"answer_end_position": [
279
]
} |
474 | 33,813 | โคทม อารียา รองศาสตราจารย์ โคทม อารียา เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2486 เป็นอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. 2540-2544) ฝ่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2549 ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล จบการศึกษา DIPLÔME INGÉNIEUR ÉCOLE SUPÉRIEURE D’ÉLECTRICITÉ, FRANCE Dr.Ing. มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2521-2522 ในเหตุการณ์การประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.โคทม อารียา ผอ. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เรียกร้องให้เขตวัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทาน จนเป็นข่าวในแวดวงสังคมไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2541 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
| เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่รองศาสตราจารย์โคทม อารียา ได้จัดอยู่ในชั้นอะไร | {
"answer": [
"ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)"
],
"answer_begin_position": [
894
],
"answer_end_position": [
927
]
} |
1,410 | 33,813 | โคทม อารียา รองศาสตราจารย์ โคทม อารียา เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2486 เป็นอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. 2540-2544) ฝ่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2549 ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล จบการศึกษา DIPLÔME INGÉNIEUR ÉCOLE SUPÉRIEURE D’ÉLECTRICITÉ, FRANCE Dr.Ing. มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2521-2522 ในเหตุการณ์การประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.โคทม อารียา ผอ. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เรียกร้องให้เขตวัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทาน จนเป็นข่าวในแวดวงสังคมไทยเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2541 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
| รองศาสตราจารย์โคทม อารียา เกิดเดือนอะไร | {
"answer": [
"กันยายน"
],
"answer_begin_position": [
142
],
"answer_end_position": [
149
]
} |
475 | 658,642 | เชกอิตออฟ (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์) "เชกอิตออฟ" () เป็นเพลงของนักร้องอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ จากสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ห้า 1989 (ค.ศ. 2014) เพลงเขียนโดยสวิฟต์, แมกซ์ มาร์ติน และเชลล์แบ็ก เป็นเพลงแนวอัปเทมโปป็อป ไม่ได้เป็นแนวคันทรีป็อปอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ "เชกอิตออฟ" เป็นเพลงลำดับที่หกในอัลบั้มและเป็นซิงเกิลนำของอัลบั้ม เพลงออกอากาศครั้งแรกในรายการสดรายการหนึ่งของยาฮู! เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2014 มิวสิกวิดีโอออกอากาศในวันเดียวกัน หลังจากนั้นหลายชั่วโมง "เชกอิตออฟ" ออกให้ดาวน์โหลด "เชกอิตออฟ" ได้รับคำชมเป็นส่วนใหญ่จากนักวิจารณ์เพลงที่ยกย่องแนวดนตรีของเพลง ขณะเดียวกัน มิวสิกวิดีโอได้รับคำวิจารณ์แบบคละกัน "เชกอิตออฟ" เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2014 กลายเป็นซิงเกิลที่สองของสวิฟต์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเป็นเพลงลำดับที่ 22 ในประวัติศาสตร์ที่เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตดังกล่าว เพลงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลพีเพิลส์ช้อยส์อะวอดส์ 2015 สาขาเพลงยอดเยี่ยม และได้เข้าชิงรางวัลสาขาบันทึกเสียงแห่งปี เพลงแห่งปี และการแสดงเดี่ยวป็อปยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลแกรมมี่ 2015 ด้วย
| ในปี ค.ศ. 2014 นักร้องสาวชาวอเมริกันที่ร้องเพลง เชกอิตออฟ คือใคร | {
"answer": [
"เทย์เลอร์ สวิฟต์"
],
"answer_begin_position": [
182
],
"answer_end_position": [
198
]
} |
1,557 | 658,642 | เชกอิตออฟ (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์) "เชกอิตออฟ" () เป็นเพลงของนักร้องอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ จากสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ห้า 1989 (ค.ศ. 2014) เพลงเขียนโดยสวิฟต์, แมกซ์ มาร์ติน และเชลล์แบ็ก เป็นเพลงแนวอัปเทมโปป็อป ไม่ได้เป็นแนวคันทรีป็อปอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ "เชกอิตออฟ" เป็นเพลงลำดับที่หกในอัลบั้มและเป็นซิงเกิลนำของอัลบั้ม เพลงออกอากาศครั้งแรกในรายการสดรายการหนึ่งของยาฮู! เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2014 มิวสิกวิดีโอออกอากาศในวันเดียวกัน หลังจากนั้นหลายชั่วโมง "เชกอิตออฟ" ออกให้ดาวน์โหลด "เชกอิตออฟ" ได้รับคำชมเป็นส่วนใหญ่จากนักวิจารณ์เพลงที่ยกย่องแนวดนตรีของเพลง ขณะเดียวกัน มิวสิกวิดีโอได้รับคำวิจารณ์แบบคละกัน "เชกอิตออฟ" เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2014 กลายเป็นซิงเกิลที่สองของสวิฟต์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเป็นเพลงลำดับที่ 22 ในประวัติศาสตร์ที่เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตดังกล่าว เพลงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลพีเพิลส์ช้อยส์อะวอดส์ 2015 สาขาเพลงยอดเยี่ยม และได้เข้าชิงรางวัลสาขาบันทึกเสียงแห่งปี เพลงแห่งปี และการแสดงเดี่ยวป็อปยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลแกรมมี่ 2015 ด้วย
| มิวสิกวิดีโอเพลงเชกอิตออฟของนักร้องเทย์เลอร์ สวิฟต์ ออกอากาศเมื่อวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"18"
],
"answer_begin_position": [
495
],
"answer_end_position": [
497
]
} |
476 | 929,579 | ริยา ทิปสี ริยา ทิปสี () เป็นนักแสดงสาวชาวอินเดีย มีชื่อเสียงโด่งดังจากบท พระนางคานธารี จากซีรีส์เรื่อง มหาภารตะ และบทบาท เจ้าหญิงบาร์ซิน บุตรสาวของ พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 ในซีรีส์เรื่อง ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ (โปรุส ศึกสองราชันย์)ผลงานละครโทรทัศน์
| นักแสดงหญิงชาวอินเดีย มีชื่อเสียงโด่งดังจากบท พระนางคานธารี มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ริยา ทิปสี"
],
"answer_begin_position": [
96
],
"answer_end_position": [
106
]
} |
477 | 929,579 | ริยา ทิปสี ริยา ทิปสี () เป็นนักแสดงสาวชาวอินเดีย มีชื่อเสียงโด่งดังจากบท พระนางคานธารี จากซีรีส์เรื่อง มหาภารตะ และบทบาท เจ้าหญิงบาร์ซิน บุตรสาวของ พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 ในซีรีส์เรื่อง ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ (โปรุส ศึกสองราชันย์)ผลงานละครโทรทัศน์
| ริยา ทิปสี รับบทบาทเป็นเจ้าหญิงบาร์ซิน ในซีรีส์เรื่องอะไร | {
"answer": [
"ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์"
],
"answer_begin_position": [
269
],
"answer_end_position": [
305
]
} |
478 | 3,703 | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (อังกฤษ: Prince of Songkla University; อักษรย่อ: ม.อ.) เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคใต้ของประเทศไทย ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. ๒๕๑๑ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 จึงถือว่าวันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันสงขลานครินทร์ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ จาก กระทรวงศึกษาธิการ ในปี พ.ศ. 2552 ในระยะแรกของการก่อตั้ง ได้รับนักศึกษาเข้าศึกษาครั้งแรกในคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหิดล) เป็นสถานที่ศึกษา และปีต่อมา พ.ศ. 2511 ก็เริ่มย้ายนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มาเรียนที่จังหวัดปัตตานี ในปี พ.ศ. 2514 ย้ายนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์มาเรียนที่ วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาเขตที่ใหญ่ที่สุด พ.ศ. 2520 เปิดวิทยาเขตภูเก็ต พ.ศ. 2533 เปิดวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และ พ.ศ. 2534 เปิดวิทยาเขตตรังประวัติ ประวัติ. เมื่อปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่ภาคใต้ โดยเริ่มต้นจากการจัดตั้ง "วิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์" เพื่อรอการพัฒนาขึ้นเป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมา ในปี พ.ศ. 2508 คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติหลักการในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคใต้ขึ้นที่ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยจะใช้เป็นที่ตั้งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และใช้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "มหาวิทยาลัยภาคใต้" ซึ่งมีสำนักงานชั่วคราวของมหาวิทยาลัยอยู่ที่อาคารคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (อาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบัน) หลังจากนั้น คณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ โดย พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานชื่อให้แก่มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่มหาวิทยาลัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 ตามพระนามทรงกรมของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก คือ กรมหลวงสงขลานครินทร์ ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงถือว่าวันที่ 22 กันยายน ของทุกปีเป็น "วันสงขลานครินทร์" ในปี พ.ศ. 2510 มหาวิทยาลัยที่จังหวัดปัตตานีก่อสร้างเสร็จในบางส่วนแล้วนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สตางค์ มงคลสุข และคณะ ได้เดินทางไปตรวจการก่อสร้าง พบว่า บริเวณดังกล่าวไม่เหมาะสมสำหรับเป็นที่ตั้งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า มหาวิทยาลัยที่จังหวัดปัตตานีนั้นควรใช้เป็นอาคารของคณะศึกษาศาสตร์ และคณะทางศิลปศาสตร์ และได้ย้ายคณะวิศวกรรมศาสตร์ไปตั้งที่ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ต่อมา วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ขึ้น มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น "วันสถาปนามหาวิทยาลัย" ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีสาระสำคัญคือได้ยกเลิก พ.ร.บ. ฉบับปี พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2541 และได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้เปิดคณะวิชาต่าง ๆ 25 คณะ โดยเปิดสอนสาขาวิชาการต่าง ๆ จำนวน 236 สาขา เป็นการศึกษาระดับปริญญาเอกและเทียบเท่า 20 สาขา หลักสูตรฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทาง 9 สาขา ปริญญาโท 86 สาขา ประกาศนียบัตรบัณฑิต 2 สาขา และปริญญาตรี (4-6 ปี) 121 สาขาสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย. - ชื่อมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย สงขลานครินทร์ คือ พระนามฐานันดรศักดิ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช ดำรงพระนามอิสริยยศฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้ากรม โดยพระราชทานชื่อ เมืองสงขลา เป็นพระนามทรงกรม เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองสงขลา เมื่อ พ.ศ. 2446 เสมือนเป็นเจ้าแห่งนครสงขลา - ตราประจำสถาบัน ได้แก่ อักษร ม.อ. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ และ จักรกับตรีศูล- พระมหาพิชัยมงกุฏ คือ ศิราภรณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญแสดงว่าเป็นพระมหากษัตริย์ - จักรกับตรีศูล คือ ตราเครื่องหมายประจำราชวงศ์จักรี - ม.อ. คือ อักษรย่อมาจากพระนาม "มหิดลอดุลเดช" อันเป็นพระนามเดิมของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก - ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกศรีตรัง - สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีน้ำเงินอธิการบดี อธิการบดี. นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีอธิการบดีมาแล้ว 12 คน ดังรายนามต่อไปนี้ หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี เป็นคำนำหน้านามในขณะดำรงตำแหน่งวิทยาเขต วิทยาเขต. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ภาคใต้ ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยจึงมีเจตนาที่จะเป็นมหาวิทยาลัยหลายวิทยาเขต ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ประกอบด้วย 5 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตปัตตานี, วิทยาเขตหาดใหญ่, วิทยาเขตภูเก็ต, วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี, และวิทยาเขตตรังวิทยาเขตปัตตานีวิทยาเขตปัตตานี. - บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาเขตปัตตานี - คณะศึกษาศาสตร์ - คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - วิทยาลัยอิสลามศึกษา- คณะศิลปกรรมศาสตร์ - คณะวิทยาการสื่อสาร - คณะรัฐศาสตร์ - คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตปัตตานีวิทยาเขตหาดใหญ่วิทยาเขตหาดใหญ่. - คณะวิศวกรรมศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์ - คณะแพทยศาสตร์ - คณะทันตแพทยศาสตร์ - คณะการแพทย์แผนไทย - คณะเภสัชศาสตร์ - คณะเทคนิคการแพทย์ - คณะพยาบาลศาสตร์ - คณะอุตสาหกรรมเกษตร - คณะทรัพยากรธรรมชาติ - คณะวิทยาการจัดการ- คณะนิติศาสตร์ - คณะศิลปศาสตร์ - คณะเศรษฐศาสตร์ - คณะสัตวแพทยศาสตร์ - คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม - วิทยาลัยนานาชาติ - บัณฑิตวิทยาลัย - สถาบันสันติศึกษา - สถาบันการจัดการระบบสุขภาพภาคใต้ - สถาบันทรัพยากรทะเลและชายฝั่งวิทยาเขตภูเก็ตวิทยาเขตภูเก็ต. - คณะการบริการและการท่องเที่ยว - คณะวิเทศศึกษา - ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ - บัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการวิทยาศาสตร์ระบบโลกและการจัดการภัยธรรมชาติอันดามัน- คณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม - วิทยาลัยชุมชนภูเก็ต - วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี. - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม - คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ- วิทยาลัยชุมชนสุราษฎร์ธานีวิทยาเขตตรังวิทยาเขตตรัง. - คณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์- วิทยาลัยนวัตกรรมการแสดงและการจัดการสถาบันสมทบ สถาบันสมทบ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับวิทยาลัยพยาบาลในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข เข้าสมทบในมหาวิทยาลัย ดังนี้- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานีสถาบันเรียนร่วม สถาบันเรียนร่วม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับนักศึกษาแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) ชั้นปีที่ 2-3 มาเรียนในรายวิชาปรีคลินิก เช่น ชีวเคมีการแพทย์พื้นฐาน มหกายวิภาคศาสตร์ จุลกายวิภาคศาสตร์ คัพภวิทยา ประสาทกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยาทางการแพทย์ จุลชีววิทยาทางการแพทย์และวิทยาอิมมูน ปรสิตวิทยาทางการแพทย์ เภสัชวิทยาการแพทย์ พยาธิวิทยากายวิภาค พยาธิวิทยาคลินิก และเวชพันธุศาสตร์ โดยมีคณาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และอาจารย์รับเชิญพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียนการสอนเครือข่ายวิจัย เครือข่ายวิจัย. สาขาความเป็นเลิศ/สถานวิจัยความเป็นเลิศ/สถานวิจัย/หน่วยวิจัยที่ได้รับ- สาขาความเป็นเลิศ (Discipline of Excellence ; DoE)- ชีวเคมี (ปี 44-53) - อุตสาหกรรมเกษตร (สิ้นสุดโครงการปี 49) - อิสลามศึกษา (สิ้นสุดโครงการปี 49) - ระบาดวิทยา (ปี 47-56) - วิศวกรรมเคมี (ก.ค.52-ก.ค.57) - โครงการสู่ความเป็นเลิศสาขาเภสัชศาสตร์ ระยะ 2 - สถานวิจัยความเป็นเลิศ (Center of Excellence;CoE)- สถานวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย (ปี49- 53) Centre for Biopersity of Peninsular Thailand - ศูนย์เครือข่ายความเป็นเลิศด้านนาโนเทคโนโลยีภาคใต้ (สิ้นสุดโครงการปี 54) NANOTEC Center of Excellence at PSU - สถานวิจัยความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยียางพารา (พ.ย.50-พ.ย.55) Center of Excellence in Natural Rubber Technology - สถานวิจัยความเป็นเลิศเทคโนโลยีชีวภาพเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ ระยะที่2 (ส.ค.57-.ส.ค.62) Center of Excellence in Agricultural and Natural Resources Biotechnology please II - สถานวิจัยความเป็นเลิศระบบนำส่งยา (ก.พ.52-ก.พ.57) Drug Delivery System Excellence Center - สถานวิจัยความเป็นเลิศด้านนาโนเทคโนโลยีเพื่อการพลังงาน Center of Excellence in Nanotechnology for Energy (CENE) - สถานวิจัย (Research Center ; RC) - หน่วยวิจัย (Research Unit; RU)การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ. โดยวิธีรับตรงจากนักเรียนที่กำลังศึกษาในโรงเรียน 14 จังหวัดภาคใต้ โครงการรับตรงต่าง ๆ ที่เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย และร่วมสอบคัดเลือกกับสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย โดยสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ งานรับนักศึกษา สังกัดกองทะเบียนและประมวลผล ที่เว็บไซต์ http://www.entrance.psu.ac.th/อันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัยการประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย อันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัย. การประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย. ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน "โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย" โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มที่ 3 ในด้านการเรียนการและด้านการวิจัยของประเทศไทยได้คะแนนร้อยละ 65-69 จากคะแนนเต็ม 100% ส่วนการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการโดย สกว. ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยครั้งที่ 3 ในปีพ.ศ. 2554 พบว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการประเมินในระดับ 5 หรือในระดับดีเยี่ยมในกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร และสัตวแพทยศาสตร์ (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร) ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และระดับ 4 หรือในระดับดีในกลุ่มสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรม คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี , ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร และสัตวแพทยศาสตร์ (Plant and Soil Science) ภาควิชาพืชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ (อายุรศาสตร์) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ชีวเวชศาสตร์ พยาธิวิทยา หน่วยระบาดวิทยา รังสีวิทยา เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และสถาบันโรคระบบทางเดินอาหารและตับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ (เภสัชศาสตร์) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อันดับมหาวิทยาลัย อันดับมหาวิทยาลัย. นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน ได้แก่การจัดอันดับโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies การจัดอันดับโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies หรือ CWTS Leiden University ประจำปี 2016 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารที่ปรากฏชื่ออยู่ในฐานข้อมูล Web of Science database มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 5 ของประเทศไทย และอันดับที่ 822 ของโลกการจัดอันดับโดย Center for World University Rankings การจัดอันดับโดย Center for World University Rankings. การจัดอันดับโดย Center for World University Rankings หรือ CWUR ที่มีเกณฑ์การจัดอันดับคือ คุณภาพงานวิจัย ศิษย์เก่าที่จบไป คุณภาพการศึกษา คุณภาพของอาจารย์ และภาควิชาต่าง ๆ ประจำปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ติดอันดับการจัดอันดับโดย Quacquarelli Symonds การจัดอันดับโดย Quacquarelli Symonds. แควกเควเรลลี ไซมอนด์ส หรือ QS จัดอันดับมหาวิทยาลัยในสองส่วน คือ การจัดอันดับเป็นระดับโลก(QS World University Rankings) และระดับทวีปเอเชีย(QS University Rankings: Asia) มีระเบียบวิธีจัดอันดับ ดังนี้ QS World1. ชื่อเสียงทางวิชาการ จากการสำรวจมหาวิทยาลัยทั่วโลก ผลของการสำรวจคัดกรองจาก สาขาที่ได้รับการตอบรับว่ามีความเป็นเลิศโดยมหาวิทยาลัยสามารถส่งสาขาให้ได้รับการคัดเลือกตั้งแต่ 2 สาขาขึ้นไป โดยจะมีผู้เลือกตอบรับเพียงหนึ่งสาขาจากที่มหาวิทยาลัยเลือกมา 2. การสำรวจผู้ว่าจ้าง เป็นการสำรวจในลักษณะคล้ายกับในด้านชื่อเสียงทางวิชาการแต่จะไม่แบ่งเป็นคณะหรือสาขาวิชา โดยนายจ้างจะได้รับการถามให้ระบุ 10 สถาบันภายในประเทศ และ 30 สถาบันต่างประเทศที่จะเลือกรับลูกจ้างที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้น ๆ รวมถึงคุณสมบัติสำคัญที่ต้องการ 2 ข้อ 3. งานวิจัยที่อ้างต่อ 1 ชิ้นรายงาน โดยข้อมูลที่อ้างอิงจะนำมาจาก Scopus ในระยะ 5 ปี 4. H-index ซึ่งคือการชี้วัดจากทั้งผลผลิต และ อิทธิพลจากการตีพิมพ์ผลงานทั้งจากนักวิทยาศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 5 ของประเทศไทย และอยู่ช่วงอันดับที่ 701+ ของโลก น้ำหนักการชี้วัด การแบ่งคะแนนจะต่างกันในแต่ละสาขาวิชา เช่น ทางด้านการแพทย์ ซึ่งเป็นสาขาที่มีอัตราการเผยแพร่งานวิจัยสูง การวัดการอ้างอิงและh-index ก็จะคิดเป็น 25 เปอร์เซนต์ สำหรับแต่ละมหาวิทยาลัย ในทางกลับกันสาขาที่มีการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่น้อยกว่า เช่น สาขาประวัติศาสตร์ จะคิดเป็นร้อยละที่ต่ำกว่าคือ 15 เปอร์เซนต์ จากคะแนนทั้งหมด ในขณะเดียวกันสาขาศิลปะและการออกแบบ ซึ่งมีผลงานตีพิมพ์น้อยก็จะใช้วิธีการวัดจากผู้ว่าจ้างและการสำรวจด้านวิชาการ QS Asia1. ชื่อเสียงทางวิชาการ (30 เปอร์เซนต์) เป้าหมายของตัวชี้วัดนี้เพื่อจะบอกว่ามหาวิทยาลัยใดมีชื่อเสียงในในระดับนานาชาติ 2. การสำรวจผู้จ้างงาน (20 เปอร์เซนต์) 3. อัตราส่วนของคณะต่อนักศึกษา (15 เปอร์เซนต์) วัดจากอัตราส่วนของบุคลากรทางการศึกษาต่อจำนวนนักศึกษา และการติดต่อและให้การสนับสนุนของบุคลากรที่มีต่อนักศึกษา 4. การอ้างอิงในรายงาน (10 เปอร์เซนต์) และผลงานของคณะ (10 เปอร์เซนต์) เป็นการรวมทั้งงานที่อ้างอิงใน scopusและ การตีพิมพ์ผลงานโดยคณะนั้นๆเอง 5. บุคลากรระดับดุษฎีบัณฑิต (5 เปอร์เซนต์) 6. สัดส่วนคณะที่เป็นหลักสูตรนานาชาติ (2.5 เปอร์เซนต์) และนักศึกษาต่างชาติ (2.5 เปอร์เซนต์) 7. สัดส่วนของรับนักศึกษาและเปลี่ยนที่เข้ามาศึกษา (2.5 เปอร์เซนต์) และการส่งนักศึกษาออกไปแลกเปลี่ยน (2.5 เปอร์เซนต์) โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 8 ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 185 ของเอเชียการจัดอันดับโดย Round University Rankings การจัดอันดับโดย Round University Rankings. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก Round University Rankings 2016 โดย RUR Rankings Agency ของประเทศรัสเซีย เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก (a ranking of leading world universities) ในปี ค.ศ. 2016 มีเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับโดยการพิจารณาตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในระดับสากล 4 ด้าน 20 ตัวชี้วัด คือด้านการสอน (Teaching) 5 ตัวชี้วัด คิดเป็น 40% การวิจัย (Research) 5 ตัวชี้วัด 40% ด้านความเป็นนานาชาติ (International Diversity) 5 ตัวชี้วัด 10% และด้านความยั่งยืนทางการเงิน (Financial Sustainability) 5 ตัวชี้วัด 10% มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของประเทศไทย และอันดับที่ 618 ของโลกการจัดอันดับโดย SCImago Institutions Ranking การจัดอันดับโดย SCImago Institutions Ranking. อันดับมหาวิทยาลัยโดย SCImago Institutions Ranking หรือ SIR ซึ่งเป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ ซึ่งจะไม่ใด้นับเฉพาะมหาวิทยาลัย แต่จะนับสถาบันเฉพาะทางด้วย เช่น สถาบันเทคโนโลยี วิทยาลัย โรงพยาบาล ในปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 552 ของโลก และเป็นอันดับ 7 ของประเทศไทยการจัดอันดับโดย The Times Higher Education การจัดอันดับโดย The Times Higher Education. The Times Higher Education หรือ THE มีระเบียบวิธีการจัดอันดับโดยแบ่งตัวชี้วัดเป็น 5 ประการ วัดคะแนนเป็นเปอร์เซนต์ การสอน (บรรยากาศการเรียน) คิดเป็น 30 เปอร์เซนต์ ประกอบไปด้วย การสำรวจชื่อเสียงทางวิชาการ 15 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนของจำนวนบุคลากรต่อนักศึกษา 4.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตต่อบัณฑิต 2.25 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนบุคลากรระดับดุษฎีบัณฑิต 6 เปอร์เซนต์ รายรับของมหาวิทยาลัย 2.25 เปอร์เซนต์ การวิจัย (ปริมาณ รายรับ และชื่อเสียง) 30 เปอร์เซนต์ ประกอบไปด้วย สำรวจความมีชื่อเสียงทุกปี โดย Academic Reputation Survey 18 เปอร์เซนต์ รายรับจากงานวิจัย 6 เปอร์เซนต์ ปริมาณงานวิจัย 6 เปอร์เซนต์ การอ้างอิง อิทธิพลของงานวิจัย 30 เปอร์เซนต์ ทัศนะจากนานาชาติ (บุคลากร นักศึกษาและงานวิจัย) 7.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนนักศึกษาต่างชาติต่อนักศึกษาในประเทศ 2.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนบุคลากรต่างชาติต่อในประเทศ 2.5 เปอร์เซนต์ ความร่วมมือระดับนานาชาติ 2.5 เปอร์เซนต์ การส่งต่อความรู้ 2.5เปอร์เซนต์ การที่มหาวิทยาลัยมีนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ที่นำไปใช้ต่อยอดในภาคอุตสาหกรรม โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และอันดับที่ 801+ ของโลกการจัดอันดับโดย University Ranking by Academic Performance การจัดอันดับโดย University Ranking by Academic Performance. อันดับที่จัดโดย University Ranking by Academic Performance หรือ URAP ปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และอันดับ 904 ของโลก โดยมีพื้นฐานทางด้านวิชาการตรงตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คุณภาพและปริมาณของบทความตีพิมพ์ทางวิชาการ บทความวิจัย การเผยแพร่ และการอ้างอิงการจัดอันดับโดย U.S. News & World Report การจัดอันดับโดย U.S. News & World Report. U.S. News & World Report นิตยสารการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกล่าสุด “Best Global Universities Rankings 2017” จากการสำรวจมหาวิทยาลัย 60 ประเทศทั่วโลก และมีเกณฑ์จัดอันดับหลายด้าน เช่น ชื่อเสียงการวิจัยในระดับโลก และระดับภูมิภาค สื่อสิ่งพิมพ์ การถูกนำไปอ้างอิง ความร่วมมือระหว่างประเทศ จำนวนบุคลากรระดับปริญญาเอก เป็นต้น โดยมีมหาวิทยาลัยของไทยติดอันดับ 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย และอันดับที่ 933 ของโลกอันดับมหาวิทยาลัยด้านอื่นๆการจัดอันดับโดย Webometrics อันดับมหาวิทยาลัยด้านอื่นๆ. การจัดอันดับโดย Webometrics. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของเว็บโอเมตริกซ์ ประจำปี พ.ศ. 2559 จัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก อันดับ Webometrics จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ในเว็บไซต์ของสถาบัน โดยพิจารณาจากจำนวน Link ที่เชื่อมโยงเข้าสู่เว็บนั้น ๆ จากเว็บภายนอกโดยวัดจากการสืบค้นด้วยSearch Engine และนับจำนวนเอกสารตีพิมพ์ออนไลน์ในกลุ่มของไฟล์ .pdf .ps .ppt และ .doc และจำนวนเอกสารที่มีการอ้างอิง (Citation) แบบออนไลน์ผ่านกูเกิลสกอลาร์ (Google Scholar) โดยจะจัดอันดับปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ เดือนมกราคม และ เดือนกรกฎาคม โดยล่าสุดการจัดอันดับรอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 7 ของประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 834 ของโลกการจัดอันดับสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วย การจัดอันดับสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วย. ข้อมูลจากการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า 10 อันดับสูงสุดของสถาบันการศึกษาที่ผลิตครู ที่มีนักศึกษาสอบผ่านเกณฑ์และขึ้นบัญชีในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู อันดับ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มากที่สุด จำนวน 1,320 คน รองลงมาคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จำนวน 1,247 คน และมหาวิทยาลัยทักษิณ จำนวน 1,189 คน ตามลำดับวันสำคัญวันสถาปนามหาวิทยาลัย วันสำคัญ. วันสถาปนามหาวิทยาลัย. วันที่ 12 มีนาคม 2511 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 85 ตอน 24 โดยเรียกว่า “พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2511” และวันที่ 13 มีนาคม เป็นวันที่พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีผลบังคับใช้ ดังนั้น มหาวิทยาลัย จึงได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัย โดยถือว่าวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย “วันสถาปนามหาวิทยาลัย”วันสงขลานครินทร์ วันสงขลานครินทร์. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กำหนดให้วันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยคือวัน “สงขลานครินทร์” เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการพระราชทานชื่อแก่มหาวิทยาลัยภาคใต้ (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในปัจจุบัน) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2510 ว่า “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ตามพระนามฐานันดรศักดิ์ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก คือ กรมหลวงสงขลานครินทร์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทอดทูนเกียรติของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ทรงมีมหากรุณาธิคุณแด่การศึกษาแพทย์และการพยาบาลของไทยวันมหิดล วันมหิดล. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กำหนดให้วันที่ 24 กันยายนของทุกปีเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยเรียกว่า “วันมหิดล” เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเสด็จทิวงคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ โดยมหาวิทยาลัยร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชนจะจัดให้มีกิจกรรมวางพวงมาลา หน้าพระบรมรูป ฯ ในทุกวิทยาเขต เพื่อเฉลิมพระเกียรติและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม "วันถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก ในการสร้างความเจริญแก่ประเทศชาติโดยไม่หวังผลตอบแทน เพิ่มอีกหนึ่งกิจกรรมด้วยวันรูสะมิแล วันรูสะมิแล. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้เริ่มดำเนินการก่อตั้งที่ตำบลรูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อ พ.ศ. 2509 โดยในเวลาดังกล่าวมหาวิทยาลัยมีสำนักงานชั่วคราวอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อมาในปี 2510 มหาวิทยาลัย ได้เปิดรับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะแรก และในปี 2511 ก็เปิดรับนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ โดยอาศัยพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นที่ทำการเช่นเดียวกัน เมื่อการก่อสร้างอาคารที่ปัตตานีแล้วเสร็จเป็นบางส่วนในภาคการศึกษาที่ 2 นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยก็ได้ย้ายมาอยู่ที่วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมกันเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2511 ดังนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปีจึงเรียกว่าวัน “รูสะมิแล” ซึ่งมีความหมายว่า “สนเก้าต้น” ตามชื่อตำบลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเพื่อระลึกถึงการมาอยู่ที่ตำบลรูสะมิแลวันแรกพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พิธีพระราชทานปริญญาบัตร. พิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดให้มีขึ้นในเดือนกันยายนของทุกปี โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร ณ วิทยาเขตปัตตานี และวิทยาเขตหาดใหญ่ จนถึงปีพุทธศักราช 2530 หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร และในปีพุทธศักราช 2541 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แต่หลังจากปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมาได้จัดขึ้นที่วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญาบัตรแต่บัณฑิตกิตติมศักดิ์ และบัณฑิตจากทุกวิทยาเขต โดยตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นมาสถานที่จัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร คือ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีบุคคลสำคัญ บุคคลสำคัญ. ดูเพิ่ม รายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (อดีตอาจารย์พิเศษคณะศึกษาศาสตร์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2536 - สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ (ศิษย์เก่าศึกษาศาสตร์) พิธีกร, โปรดิวเซอร์, ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด - วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ (ศิษย์เก่ามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) ผู้ก่อตั้ง นิตยสาร A Day - ฐปณีย์ เอียดศรีไชย (ศิษย์เก่าวิทยาการจัดการ) - อัครพล ทองธราดล (ศิษย์เก่าคณะวิทยาการจัดการ) หนุ่มแพรว ประจำปี พ.ศ. 2546
| มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ใช้ชื่อย่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ม.อ."
],
"answer_begin_position": [
194
],
"answer_end_position": [
198
]
} |
479 | 3,703 | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (อังกฤษ: Prince of Songkla University; อักษรย่อ: ม.อ.) เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคใต้ของประเทศไทย ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. ๒๕๑๑ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 จึงถือว่าวันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันสงขลานครินทร์ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ จาก กระทรวงศึกษาธิการ ในปี พ.ศ. 2552 ในระยะแรกของการก่อตั้ง ได้รับนักศึกษาเข้าศึกษาครั้งแรกในคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหิดล) เป็นสถานที่ศึกษา และปีต่อมา พ.ศ. 2511 ก็เริ่มย้ายนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มาเรียนที่จังหวัดปัตตานี ในปี พ.ศ. 2514 ย้ายนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์มาเรียนที่ วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาเขตที่ใหญ่ที่สุด พ.ศ. 2520 เปิดวิทยาเขตภูเก็ต พ.ศ. 2533 เปิดวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และ พ.ศ. 2534 เปิดวิทยาเขตตรังประวัติ ประวัติ. เมื่อปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่ภาคใต้ โดยเริ่มต้นจากการจัดตั้ง "วิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์" เพื่อรอการพัฒนาขึ้นเป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมา ในปี พ.ศ. 2508 คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติหลักการในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคใต้ขึ้นที่ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยจะใช้เป็นที่ตั้งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และใช้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "มหาวิทยาลัยภาคใต้" ซึ่งมีสำนักงานชั่วคราวของมหาวิทยาลัยอยู่ที่อาคารคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (อาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบัน) หลังจากนั้น คณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ โดย พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานชื่อให้แก่มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่มหาวิทยาลัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 ตามพระนามทรงกรมของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก คือ กรมหลวงสงขลานครินทร์ ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงถือว่าวันที่ 22 กันยายน ของทุกปีเป็น "วันสงขลานครินทร์" ในปี พ.ศ. 2510 มหาวิทยาลัยที่จังหวัดปัตตานีก่อสร้างเสร็จในบางส่วนแล้วนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สตางค์ มงคลสุข และคณะ ได้เดินทางไปตรวจการก่อสร้าง พบว่า บริเวณดังกล่าวไม่เหมาะสมสำหรับเป็นที่ตั้งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า มหาวิทยาลัยที่จังหวัดปัตตานีนั้นควรใช้เป็นอาคารของคณะศึกษาศาสตร์ และคณะทางศิลปศาสตร์ และได้ย้ายคณะวิศวกรรมศาสตร์ไปตั้งที่ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ต่อมา วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ขึ้น มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น "วันสถาปนามหาวิทยาลัย" ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีสาระสำคัญคือได้ยกเลิก พ.ร.บ. ฉบับปี พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2541 และได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้เปิดคณะวิชาต่าง ๆ 25 คณะ โดยเปิดสอนสาขาวิชาการต่าง ๆ จำนวน 236 สาขา เป็นการศึกษาระดับปริญญาเอกและเทียบเท่า 20 สาขา หลักสูตรฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทาง 9 สาขา ปริญญาโท 86 สาขา ประกาศนียบัตรบัณฑิต 2 สาขา และปริญญาตรี (4-6 ปี) 121 สาขาสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย. - ชื่อมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย สงขลานครินทร์ คือ พระนามฐานันดรศักดิ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช ดำรงพระนามอิสริยยศฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้ากรม โดยพระราชทานชื่อ เมืองสงขลา เป็นพระนามทรงกรม เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองสงขลา เมื่อ พ.ศ. 2446 เสมือนเป็นเจ้าแห่งนครสงขลา - ตราประจำสถาบัน ได้แก่ อักษร ม.อ. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ และ จักรกับตรีศูล- พระมหาพิชัยมงกุฏ คือ ศิราภรณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญแสดงว่าเป็นพระมหากษัตริย์ - จักรกับตรีศูล คือ ตราเครื่องหมายประจำราชวงศ์จักรี - ม.อ. คือ อักษรย่อมาจากพระนาม "มหิดลอดุลเดช" อันเป็นพระนามเดิมของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก - ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกศรีตรัง - สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีน้ำเงินอธิการบดี อธิการบดี. นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีอธิการบดีมาแล้ว 12 คน ดังรายนามต่อไปนี้ หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี เป็นคำนำหน้านามในขณะดำรงตำแหน่งวิทยาเขต วิทยาเขต. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ภาคใต้ ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยจึงมีเจตนาที่จะเป็นมหาวิทยาลัยหลายวิทยาเขต ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ประกอบด้วย 5 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตปัตตานี, วิทยาเขตหาดใหญ่, วิทยาเขตภูเก็ต, วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี, และวิทยาเขตตรังวิทยาเขตปัตตานีวิทยาเขตปัตตานี. - บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาเขตปัตตานี - คณะศึกษาศาสตร์ - คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - วิทยาลัยอิสลามศึกษา- คณะศิลปกรรมศาสตร์ - คณะวิทยาการสื่อสาร - คณะรัฐศาสตร์ - คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตปัตตานีวิทยาเขตหาดใหญ่วิทยาเขตหาดใหญ่. - คณะวิศวกรรมศาสตร์ - คณะวิทยาศาสตร์ - คณะแพทยศาสตร์ - คณะทันตแพทยศาสตร์ - คณะการแพทย์แผนไทย - คณะเภสัชศาสตร์ - คณะเทคนิคการแพทย์ - คณะพยาบาลศาสตร์ - คณะอุตสาหกรรมเกษตร - คณะทรัพยากรธรรมชาติ - คณะวิทยาการจัดการ- คณะนิติศาสตร์ - คณะศิลปศาสตร์ - คณะเศรษฐศาสตร์ - คณะสัตวแพทยศาสตร์ - คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม - วิทยาลัยนานาชาติ - บัณฑิตวิทยาลัย - สถาบันสันติศึกษา - สถาบันการจัดการระบบสุขภาพภาคใต้ - สถาบันทรัพยากรทะเลและชายฝั่งวิทยาเขตภูเก็ตวิทยาเขตภูเก็ต. - คณะการบริการและการท่องเที่ยว - คณะวิเทศศึกษา - ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ - บัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการวิทยาศาสตร์ระบบโลกและการจัดการภัยธรรมชาติอันดามัน- คณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม - วิทยาลัยชุมชนภูเก็ต - วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี. - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม - คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ- วิทยาลัยชุมชนสุราษฎร์ธานีวิทยาเขตตรังวิทยาเขตตรัง. - คณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ - คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์- วิทยาลัยนวัตกรรมการแสดงและการจัดการสถาบันสมทบ สถาบันสมทบ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับวิทยาลัยพยาบาลในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข เข้าสมทบในมหาวิทยาลัย ดังนี้- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา - วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานีสถาบันเรียนร่วม สถาบันเรียนร่วม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับนักศึกษาแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) ชั้นปีที่ 2-3 มาเรียนในรายวิชาปรีคลินิก เช่น ชีวเคมีการแพทย์พื้นฐาน มหกายวิภาคศาสตร์ จุลกายวิภาคศาสตร์ คัพภวิทยา ประสาทกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยาทางการแพทย์ จุลชีววิทยาทางการแพทย์และวิทยาอิมมูน ปรสิตวิทยาทางการแพทย์ เภสัชวิทยาการแพทย์ พยาธิวิทยากายวิภาค พยาธิวิทยาคลินิก และเวชพันธุศาสตร์ โดยมีคณาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และอาจารย์รับเชิญพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียนการสอนเครือข่ายวิจัย เครือข่ายวิจัย. สาขาความเป็นเลิศ/สถานวิจัยความเป็นเลิศ/สถานวิจัย/หน่วยวิจัยที่ได้รับ- สาขาความเป็นเลิศ (Discipline of Excellence ; DoE)- ชีวเคมี (ปี 44-53) - อุตสาหกรรมเกษตร (สิ้นสุดโครงการปี 49) - อิสลามศึกษา (สิ้นสุดโครงการปี 49) - ระบาดวิทยา (ปี 47-56) - วิศวกรรมเคมี (ก.ค.52-ก.ค.57) - โครงการสู่ความเป็นเลิศสาขาเภสัชศาสตร์ ระยะ 2 - สถานวิจัยความเป็นเลิศ (Center of Excellence;CoE)- สถานวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย (ปี49- 53) Centre for Biopersity of Peninsular Thailand - ศูนย์เครือข่ายความเป็นเลิศด้านนาโนเทคโนโลยีภาคใต้ (สิ้นสุดโครงการปี 54) NANOTEC Center of Excellence at PSU - สถานวิจัยความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยียางพารา (พ.ย.50-พ.ย.55) Center of Excellence in Natural Rubber Technology - สถานวิจัยความเป็นเลิศเทคโนโลยีชีวภาพเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ ระยะที่2 (ส.ค.57-.ส.ค.62) Center of Excellence in Agricultural and Natural Resources Biotechnology please II - สถานวิจัยความเป็นเลิศระบบนำส่งยา (ก.พ.52-ก.พ.57) Drug Delivery System Excellence Center - สถานวิจัยความเป็นเลิศด้านนาโนเทคโนโลยีเพื่อการพลังงาน Center of Excellence in Nanotechnology for Energy (CENE) - สถานวิจัย (Research Center ; RC) - หน่วยวิจัย (Research Unit; RU)การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ. โดยวิธีรับตรงจากนักเรียนที่กำลังศึกษาในโรงเรียน 14 จังหวัดภาคใต้ โครงการรับตรงต่าง ๆ ที่เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย และร่วมสอบคัดเลือกกับสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย โดยสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ งานรับนักศึกษา สังกัดกองทะเบียนและประมวลผล ที่เว็บไซต์ http://www.entrance.psu.ac.th/อันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัยการประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย อันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัย. การประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย. ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน "โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย" โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มที่ 3 ในด้านการเรียนการและด้านการวิจัยของประเทศไทยได้คะแนนร้อยละ 65-69 จากคะแนนเต็ม 100% ส่วนการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการโดย สกว. ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยครั้งที่ 3 ในปีพ.ศ. 2554 พบว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการประเมินในระดับ 5 หรือในระดับดีเยี่ยมในกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร และสัตวแพทยศาสตร์ (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร) ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และระดับ 4 หรือในระดับดีในกลุ่มสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรม คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี , ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร และสัตวแพทยศาสตร์ (Plant and Soil Science) ภาควิชาพืชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ (อายุรศาสตร์) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ชีวเวชศาสตร์ พยาธิวิทยา หน่วยระบาดวิทยา รังสีวิทยา เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และสถาบันโรคระบบทางเดินอาหารและตับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ (เภสัชศาสตร์) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์อันดับมหาวิทยาลัย อันดับมหาวิทยาลัย. นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน ได้แก่การจัดอันดับโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies การจัดอันดับโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย Centrum voor Wetenschap en Technologie Studies หรือ CWTS Leiden University ประจำปี 2016 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารที่ปรากฏชื่ออยู่ในฐานข้อมูล Web of Science database มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 5 ของประเทศไทย และอันดับที่ 822 ของโลกการจัดอันดับโดย Center for World University Rankings การจัดอันดับโดย Center for World University Rankings. การจัดอันดับโดย Center for World University Rankings หรือ CWUR ที่มีเกณฑ์การจัดอันดับคือ คุณภาพงานวิจัย ศิษย์เก่าที่จบไป คุณภาพการศึกษา คุณภาพของอาจารย์ และภาควิชาต่าง ๆ ประจำปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ติดอันดับการจัดอันดับโดย Quacquarelli Symonds การจัดอันดับโดย Quacquarelli Symonds. แควกเควเรลลี ไซมอนด์ส หรือ QS จัดอันดับมหาวิทยาลัยในสองส่วน คือ การจัดอันดับเป็นระดับโลก(QS World University Rankings) และระดับทวีปเอเชีย(QS University Rankings: Asia) มีระเบียบวิธีจัดอันดับ ดังนี้ QS World1. ชื่อเสียงทางวิชาการ จากการสำรวจมหาวิทยาลัยทั่วโลก ผลของการสำรวจคัดกรองจาก สาขาที่ได้รับการตอบรับว่ามีความเป็นเลิศโดยมหาวิทยาลัยสามารถส่งสาขาให้ได้รับการคัดเลือกตั้งแต่ 2 สาขาขึ้นไป โดยจะมีผู้เลือกตอบรับเพียงหนึ่งสาขาจากที่มหาวิทยาลัยเลือกมา 2. การสำรวจผู้ว่าจ้าง เป็นการสำรวจในลักษณะคล้ายกับในด้านชื่อเสียงทางวิชาการแต่จะไม่แบ่งเป็นคณะหรือสาขาวิชา โดยนายจ้างจะได้รับการถามให้ระบุ 10 สถาบันภายในประเทศ และ 30 สถาบันต่างประเทศที่จะเลือกรับลูกจ้างที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้น ๆ รวมถึงคุณสมบัติสำคัญที่ต้องการ 2 ข้อ 3. งานวิจัยที่อ้างต่อ 1 ชิ้นรายงาน โดยข้อมูลที่อ้างอิงจะนำมาจาก Scopus ในระยะ 5 ปี 4. H-index ซึ่งคือการชี้วัดจากทั้งผลผลิต และ อิทธิพลจากการตีพิมพ์ผลงานทั้งจากนักวิทยาศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 5 ของประเทศไทย และอยู่ช่วงอันดับที่ 701+ ของโลก น้ำหนักการชี้วัด การแบ่งคะแนนจะต่างกันในแต่ละสาขาวิชา เช่น ทางด้านการแพทย์ ซึ่งเป็นสาขาที่มีอัตราการเผยแพร่งานวิจัยสูง การวัดการอ้างอิงและh-index ก็จะคิดเป็น 25 เปอร์เซนต์ สำหรับแต่ละมหาวิทยาลัย ในทางกลับกันสาขาที่มีการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่น้อยกว่า เช่น สาขาประวัติศาสตร์ จะคิดเป็นร้อยละที่ต่ำกว่าคือ 15 เปอร์เซนต์ จากคะแนนทั้งหมด ในขณะเดียวกันสาขาศิลปะและการออกแบบ ซึ่งมีผลงานตีพิมพ์น้อยก็จะใช้วิธีการวัดจากผู้ว่าจ้างและการสำรวจด้านวิชาการ QS Asia1. ชื่อเสียงทางวิชาการ (30 เปอร์เซนต์) เป้าหมายของตัวชี้วัดนี้เพื่อจะบอกว่ามหาวิทยาลัยใดมีชื่อเสียงในในระดับนานาชาติ 2. การสำรวจผู้จ้างงาน (20 เปอร์เซนต์) 3. อัตราส่วนของคณะต่อนักศึกษา (15 เปอร์เซนต์) วัดจากอัตราส่วนของบุคลากรทางการศึกษาต่อจำนวนนักศึกษา และการติดต่อและให้การสนับสนุนของบุคลากรที่มีต่อนักศึกษา 4. การอ้างอิงในรายงาน (10 เปอร์เซนต์) และผลงานของคณะ (10 เปอร์เซนต์) เป็นการรวมทั้งงานที่อ้างอิงใน scopusและ การตีพิมพ์ผลงานโดยคณะนั้นๆเอง 5. บุคลากรระดับดุษฎีบัณฑิต (5 เปอร์เซนต์) 6. สัดส่วนคณะที่เป็นหลักสูตรนานาชาติ (2.5 เปอร์เซนต์) และนักศึกษาต่างชาติ (2.5 เปอร์เซนต์) 7. สัดส่วนของรับนักศึกษาและเปลี่ยนที่เข้ามาศึกษา (2.5 เปอร์เซนต์) และการส่งนักศึกษาออกไปแลกเปลี่ยน (2.5 เปอร์เซนต์) โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 8 ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 185 ของเอเชียการจัดอันดับโดย Round University Rankings การจัดอันดับโดย Round University Rankings. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก Round University Rankings 2016 โดย RUR Rankings Agency ของประเทศรัสเซีย เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก (a ranking of leading world universities) ในปี ค.ศ. 2016 มีเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับโดยการพิจารณาตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในระดับสากล 4 ด้าน 20 ตัวชี้วัด คือด้านการสอน (Teaching) 5 ตัวชี้วัด คิดเป็น 40% การวิจัย (Research) 5 ตัวชี้วัด 40% ด้านความเป็นนานาชาติ (International Diversity) 5 ตัวชี้วัด 10% และด้านความยั่งยืนทางการเงิน (Financial Sustainability) 5 ตัวชี้วัด 10% มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของประเทศไทย และอันดับที่ 618 ของโลกการจัดอันดับโดย SCImago Institutions Ranking การจัดอันดับโดย SCImago Institutions Ranking. อันดับมหาวิทยาลัยโดย SCImago Institutions Ranking หรือ SIR ซึ่งเป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ ซึ่งจะไม่ใด้นับเฉพาะมหาวิทยาลัย แต่จะนับสถาบันเฉพาะทางด้วย เช่น สถาบันเทคโนโลยี วิทยาลัย โรงพยาบาล ในปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 552 ของโลก และเป็นอันดับ 7 ของประเทศไทยการจัดอันดับโดย The Times Higher Education การจัดอันดับโดย The Times Higher Education. The Times Higher Education หรือ THE มีระเบียบวิธีการจัดอันดับโดยแบ่งตัวชี้วัดเป็น 5 ประการ วัดคะแนนเป็นเปอร์เซนต์ การสอน (บรรยากาศการเรียน) คิดเป็น 30 เปอร์เซนต์ ประกอบไปด้วย การสำรวจชื่อเสียงทางวิชาการ 15 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนของจำนวนบุคลากรต่อนักศึกษา 4.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตต่อบัณฑิต 2.25 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนบุคลากรระดับดุษฎีบัณฑิต 6 เปอร์เซนต์ รายรับของมหาวิทยาลัย 2.25 เปอร์เซนต์ การวิจัย (ปริมาณ รายรับ และชื่อเสียง) 30 เปอร์เซนต์ ประกอบไปด้วย สำรวจความมีชื่อเสียงทุกปี โดย Academic Reputation Survey 18 เปอร์เซนต์ รายรับจากงานวิจัย 6 เปอร์เซนต์ ปริมาณงานวิจัย 6 เปอร์เซนต์ การอ้างอิง อิทธิพลของงานวิจัย 30 เปอร์เซนต์ ทัศนะจากนานาชาติ (บุคลากร นักศึกษาและงานวิจัย) 7.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนนักศึกษาต่างชาติต่อนักศึกษาในประเทศ 2.5 เปอร์เซนต์ อัตราส่วนบุคลากรต่างชาติต่อในประเทศ 2.5 เปอร์เซนต์ ความร่วมมือระดับนานาชาติ 2.5 เปอร์เซนต์ การส่งต่อความรู้ 2.5เปอร์เซนต์ การที่มหาวิทยาลัยมีนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ที่นำไปใช้ต่อยอดในภาคอุตสาหกรรม โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และอันดับที่ 801+ ของโลกการจัดอันดับโดย University Ranking by Academic Performance การจัดอันดับโดย University Ranking by Academic Performance. อันดับที่จัดโดย University Ranking by Academic Performance หรือ URAP ปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และอันดับ 904 ของโลก โดยมีพื้นฐานทางด้านวิชาการตรงตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คุณภาพและปริมาณของบทความตีพิมพ์ทางวิชาการ บทความวิจัย การเผยแพร่ และการอ้างอิงการจัดอันดับโดย U.S. News & World Report การจัดอันดับโดย U.S. News & World Report. U.S. News & World Report นิตยสารการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกล่าสุด “Best Global Universities Rankings 2017” จากการสำรวจมหาวิทยาลัย 60 ประเทศทั่วโลก และมีเกณฑ์จัดอันดับหลายด้าน เช่น ชื่อเสียงการวิจัยในระดับโลก และระดับภูมิภาค สื่อสิ่งพิมพ์ การถูกนำไปอ้างอิง ความร่วมมือระหว่างประเทศ จำนวนบุคลากรระดับปริญญาเอก เป็นต้น โดยมีมหาวิทยาลัยของไทยติดอันดับ 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย และอันดับที่ 933 ของโลกอันดับมหาวิทยาลัยด้านอื่นๆการจัดอันดับโดย Webometrics อันดับมหาวิทยาลัยด้านอื่นๆ. การจัดอันดับโดย Webometrics. การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของเว็บโอเมตริกซ์ ประจำปี พ.ศ. 2559 จัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก อันดับ Webometrics จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ในเว็บไซต์ของสถาบัน โดยพิจารณาจากจำนวน Link ที่เชื่อมโยงเข้าสู่เว็บนั้น ๆ จากเว็บภายนอกโดยวัดจากการสืบค้นด้วยSearch Engine และนับจำนวนเอกสารตีพิมพ์ออนไลน์ในกลุ่มของไฟล์ .pdf .ps .ppt และ .doc และจำนวนเอกสารที่มีการอ้างอิง (Citation) แบบออนไลน์ผ่านกูเกิลสกอลาร์ (Google Scholar) โดยจะจัดอันดับปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ เดือนมกราคม และ เดือนกรกฎาคม โดยล่าสุดการจัดอันดับรอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 7 ของประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 834 ของโลกการจัดอันดับสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วย การจัดอันดับสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วย. ข้อมูลจากการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า 10 อันดับสูงสุดของสถาบันการศึกษาที่ผลิตครู ที่มีนักศึกษาสอบผ่านเกณฑ์และขึ้นบัญชีในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู อันดับ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มากที่สุด จำนวน 1,320 คน รองลงมาคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จำนวน 1,247 คน และมหาวิทยาลัยทักษิณ จำนวน 1,189 คน ตามลำดับวันสำคัญวันสถาปนามหาวิทยาลัย วันสำคัญ. วันสถาปนามหาวิทยาลัย. วันที่ 12 มีนาคม 2511 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 85 ตอน 24 โดยเรียกว่า “พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2511” และวันที่ 13 มีนาคม เป็นวันที่พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีผลบังคับใช้ ดังนั้น มหาวิทยาลัย จึงได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัย โดยถือว่าวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย “วันสถาปนามหาวิทยาลัย”วันสงขลานครินทร์ วันสงขลานครินทร์. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กำหนดให้วันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยคือวัน “สงขลานครินทร์” เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการพระราชทานชื่อแก่มหาวิทยาลัยภาคใต้ (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในปัจจุบัน) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2510 ว่า “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ตามพระนามฐานันดรศักดิ์ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก คือ กรมหลวงสงขลานครินทร์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทอดทูนเกียรติของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ทรงมีมหากรุณาธิคุณแด่การศึกษาแพทย์และการพยาบาลของไทยวันมหิดล วันมหิดล. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กำหนดให้วันที่ 24 กันยายนของทุกปีเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยเรียกว่า “วันมหิดล” เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเสด็จทิวงคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ โดยมหาวิทยาลัยร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชนจะจัดให้มีกิจกรรมวางพวงมาลา หน้าพระบรมรูป ฯ ในทุกวิทยาเขต เพื่อเฉลิมพระเกียรติและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม "วันถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก ในการสร้างความเจริญแก่ประเทศชาติโดยไม่หวังผลตอบแทน เพิ่มอีกหนึ่งกิจกรรมด้วยวันรูสะมิแล วันรูสะมิแล. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้เริ่มดำเนินการก่อตั้งที่ตำบลรูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อ พ.ศ. 2509 โดยในเวลาดังกล่าวมหาวิทยาลัยมีสำนักงานชั่วคราวอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อมาในปี 2510 มหาวิทยาลัย ได้เปิดรับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะแรก และในปี 2511 ก็เปิดรับนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ โดยอาศัยพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นที่ทำการเช่นเดียวกัน เมื่อการก่อสร้างอาคารที่ปัตตานีแล้วเสร็จเป็นบางส่วนในภาคการศึกษาที่ 2 นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยก็ได้ย้ายมาอยู่ที่วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมกันเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2511 ดังนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปีจึงเรียกว่าวัน “รูสะมิแล” ซึ่งมีความหมายว่า “สนเก้าต้น” ตามชื่อตำบลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเพื่อระลึกถึงการมาอยู่ที่ตำบลรูสะมิแลวันแรกพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พิธีพระราชทานปริญญาบัตร. พิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดให้มีขึ้นในเดือนกันยายนของทุกปี โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร ณ วิทยาเขตปัตตานี และวิทยาเขตหาดใหญ่ จนถึงปีพุทธศักราช 2530 หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร และในปีพุทธศักราช 2541 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แต่หลังจากปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมาได้จัดขึ้นที่วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญาบัตรแต่บัณฑิตกิตติมศักดิ์ และบัณฑิตจากทุกวิทยาเขต โดยตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นมาสถานที่จัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร คือ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีบุคคลสำคัญ บุคคลสำคัญ. ดูเพิ่ม รายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (อดีตอาจารย์พิเศษคณะศึกษาศาสตร์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2536 - สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ (ศิษย์เก่าศึกษาศาสตร์) พิธีกร, โปรดิวเซอร์, ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด - วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ (ศิษย์เก่ามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) ผู้ก่อตั้ง นิตยสาร A Day - ฐปณีย์ เอียดศรีไชย (ศิษย์เก่าวิทยาการจัดการ) - อัครพล ทองธราดล (ศิษย์เก่าคณะวิทยาการจัดการ) หนุ่มแพรว ประจำปี พ.ศ. 2546
| มหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคใต้ของประเทศไทย คือมหาวิทยาลัยอะไร | {
"answer": [
"มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"
],
"answer_begin_position": [
120
],
"answer_end_position": [
144
]
} |
480 | 466,670 | ดีดีเย โอโวโน ดีดีเย ฌ็องวีเย โอโวโน เอบัง (; 23 มกราคม ค.ศ. 1983 — ) เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติกาบอง ผู้ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับเลอม็องยูเนียนคลับ 72ในสายอาชีพ ในสายอาชีพ. ใน ค.ศ. 2008 เขาได้รับชัยชนะในรายการลีกจอร์เจียร่วมกับสโมสรฟุตบอลดีนาโมทบิลิซี และในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2009 เขาก็ได้ย้ายจากทีมดีนาโมทบิลิซี มายังเลอม็องยูเนียนคลับ 72 ในลีกเอิง ที่ซึ่งเขาได้รับการทำสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปีจนถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 เขาได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2010 ให้แก่ประเทศกาบอง ซึ่งสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่งโดยเป็นฝ่ายมีชัยเหนือแคเมอรูนในการเปิดเกม
| การแข่งขันในรายการแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2010 ทีมชาติกาบอง ชนะประเทศอะไรในนัดเปิดเกมส์ | {
"answer": [
"แคเมอรูน"
],
"answer_begin_position": [
640
],
"answer_end_position": [
648
]
} |
3,942 | 466,670 | ดีดีเย โอโวโน ดีดีเย ฌ็องวีเย โอโวโน เอบัง (; 23 มกราคม ค.ศ. 1983 — ) เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติกาบอง ผู้ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับเลอม็องยูเนียนคลับ 72ในสายอาชีพ ในสายอาชีพ. ใน ค.ศ. 2008 เขาได้รับชัยชนะในรายการลีกจอร์เจียร่วมกับสโมสรฟุตบอลดีนาโมทบิลิซี และในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2009 เขาก็ได้ย้ายจากทีมดีนาโมทบิลิซี มายังเลอม็องยูเนียนคลับ 72 ในลีกเอิง ที่ซึ่งเขาได้รับการทำสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปีจนถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 เขาได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2010 ให้แก่ประเทศกาบอง ซึ่งสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่งโดยเป็นฝ่ายมีชัยเหนือแคเมอรูนในการเปิดเกม
| ใน ค.ศ. 2008 ดีดีเย ฌ็องวีเย โอโวโน เอบังได้รับชัยชนะในรายการลีกชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"ลีกจอร์เจีย"
],
"answer_begin_position": [
293
],
"answer_end_position": [
304
]
} |
481 | 21,731 | เลโอนิด เลวิน เลโอนิด เลวิน นักวิทยาศาสตร์ชาวยูเครน เกิดเมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านของ ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ และ ทฤษฎีพื้นฐานของการเข้ารหัส นอกจากนี้ เลวินยังมีชื่อเสียงมากในด้านของการเขียนผลงานวิจัยที่สั้นมาก เลวินเป็นผู้ที่ค้นพบปัญหาเอ็นพีบริบูรณ์ เช่นเดียวกับ สตีเฟน คุก (โดยการค้นพบของทั้งสองท่านไม่ขึ้นต่อกัน และเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันโดยบังเอิญ) เลโอนิด เลวิน เกิดที่ยูเครน และได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University)
| เลโอนิด เลวิน เป็นนักวิทยาศาสตร์ เกิดที่ประเทศอะไร | {
"answer": [
"ยูเครน"
],
"answer_begin_position": [
131
],
"answer_end_position": [
137
]
} |
2,445 | 21,731 | เลโอนิด เลวิน เลโอนิด เลวิน นักวิทยาศาสตร์ชาวยูเครน เกิดเมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านของ ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ และ ทฤษฎีพื้นฐานของการเข้ารหัส นอกจากนี้ เลวินยังมีชื่อเสียงมากในด้านของการเขียนผลงานวิจัยที่สั้นมาก เลวินเป็นผู้ที่ค้นพบปัญหาเอ็นพีบริบูรณ์ เช่นเดียวกับ สตีเฟน คุก (โดยการค้นพบของทั้งสองท่านไม่ขึ้นต่อกัน และเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันโดยบังเอิญ) เลโอนิด เลวิน เกิดที่ยูเครน และได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University)
| เลโอนิด เลวิน นักวิทยาศาสตร์ชาวยูเครนเกิดเมื่อวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"2"
],
"answer_begin_position": [
148
],
"answer_end_position": [
149
]
} |
482 | 629,631 | ปูโต ปูโต (puto) หรือ ขนมปูโต เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งนำไปนึ่ง เป็นขนมฟิลิปปินส์ รสชาติคล้ายขนมถ้วยฟูของไทย สามารถบริโภคแบบเปล่าๆ หรือกับเนยและมะพร้าวขูด หรืออาจนำไปรับประทานกับอาหารคาวอื่นๆ เช่น ดีนูกูอาน (dinuguan) ก็ได้เช่นกัน
| ขนมปูโตเป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งนำไปนึ่ง เป็นขนมของชาติใด | {
"answer": [
"ฟิลิปปินส์"
],
"answer_begin_position": [
156
],
"answer_end_position": [
166
]
} |
483 | 629,631 | ปูโต ปูโต (puto) หรือ ขนมปูโต เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งนำไปนึ่ง เป็นขนมฟิลิปปินส์ รสชาติคล้ายขนมถ้วยฟูของไทย สามารถบริโภคแบบเปล่าๆ หรือกับเนยและมะพร้าวขูด หรืออาจนำไปรับประทานกับอาหารคาวอื่นๆ เช่น ดีนูกูอาน (dinuguan) ก็ได้เช่นกัน
| ขนมปูโตเป็นขนมฟิลิปปินส์ มีรสชาติคล้ายขนมอะไรของไทย | {
"answer": [
"ขนมถ้วยฟู"
],
"answer_begin_position": [
178
],
"answer_end_position": [
187
]
} |
484 | 115,517 | มะตูม มะตูม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aegle marmelos ภาคเหนือเรียกว่า มะปิน ภาคใต้เรียกว่า กะทันตาเถร, ตูม และตุ่มตัง ภาคอีสานเรียกว่า หมากตูม ภาษาเขมรเรียกว่า พะโนงค์ ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า มะปีส่า เป็นไม้ผลยืนต้นพื้นเมืองในพื้นที่ป่าดิบแล้วบนเนินเขาและที่ราบในอินเดียตอนกลางและตอนใต้ พม่า ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล เวียดนาม ลาว และกัมพูชา มีการนำไปเพาะปลูกทั่วไปในอินเดีย รวมทั้งในศรีลังกา แหลมมลายูตอนเหนือ เกาะชวา และฟิลิปปินส์ จัดเป็นพืชเพียงสปีชีส์เดียวที่อยู่ในจีนัส Aegleลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์. ลำต้นมีความสูง 18 เมตร เปลือกลำต้นมีสีเทาเรียบเป็นร่องตื้น เนื้อไม้แข็ง มีสีขาวแกมเหลือง และมีกลิ่นหอม โคนต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลม ยาว แข็ง ออกเดี่ยวหรือเป็นคู่ตามกิ่ง ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปไข่หรือรูปหอกมี 3 ใบ มองดูคล้ายตรีศูลของพระศิวะ ดอกสีขาวหรือขาวอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลมีเปลือกแข็งเรียบและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-15 เซนติเมตร บางผลมีเปลือกแข็งมากจนต้องกระเทาะเปลือกออกโดยใช้ค้อนทุบ เนื้อผลเหนียวข้น มีกลิ่นหอม และมีเมล็ดจำนวนมากแทรกอยู่ในเนื้อผล โดยเมล็ดจะมีขนหนาปกคลุมการใช้ประโยชน์ การใช้ประโยชน์. ผลมะตูมใช้รับประทานได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง น้ำจากผลเมื่อนำไปกรองและเติมน้ำตาลจะได้เครื่องดื่มคล้ายน้ำมะนาว และยังใช้ในการทำ Sharbat ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการนำเนื้อผลมะตูมไปผสมกับมะขาม ผลอ่อนฝานแล้วตากแห้งนำไปต้มกับน้ำเป็นน้ำมะตูม นำมายำ ใบอ่อนและยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสลัด กินกับน้ำพริก ลาบ และข้าวยำ ผลแก่แต่เปลือกยังนิ่มนำมาฝานแล้วทำเป็นมะตูมเชื่อม ซึ่งนำไปเป็นส่วนผสมของขนมอื่นอีกหลยอย่าง มะตูมสุก เนื้อเละใช้รับประทานเป็นผลไม้ และใช้เป็นยารักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลำไส้ ตาแห้งไข้หวัดธรรมดา และยังใช้รักษาอาการท้องผูกเรื้อรังได้เป็นอย่างดีความเชื่อ ความเชื่อ. คนไทยถือว่ามะตูมเป็นไม้มงคล นิยมปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ศาสนาฮินดู เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระศิวะ ดังนั้นจึงพบต้นมะตูมได้ทั่วไปในสวนของวิหารในประเทศอินเดีย และใบมะตูมยังเป็นส่วนประกอบในพิธีกรรมทางศาสนา เช่นการทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์หรือครอบครูสัญลักษณ์ สัญลักษณ์. ต้นมะตูมเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดชัยนาท ผู้ที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงหรืองานสมรสพระราชทานจะได้รับพระราชทานใบมะตูมเพื่อเป็นสิริมงคลชื่อท้องถิ่นของมะตูม ชื่อท้องถิ่นของมะตูม. ชื่อสามัญของมะตูมในภาษาต่างๆ ได้แก่- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้- /ou' shi'/ หรือ /oʊʔ ʃiʔ/ - /pnɨv/ - /mȁːk tuːm/ - (ต้นไม้) - เอเชียใต้- ภาษาเบงกาลี: বেল - ภาษาฮินดี: बिल्व [Bilva] - ภาษากันนาดา: ಬೇಲದ ಹಣ್ಣು - ภาษากงกณี: gorakamli - ภาษามาลายาลัม: കൂവളം - ภาษามราฐี: बेल or कवीठ (Kaveeth) - ภาษาปัญจาบ: Beel - ภาษาสันสกฤต : बिल्वम् - ภาษาสินธี: ڪاٺ گدرو - ภาษาสิงหล: බෙලි (Beli) - ภาษาทมิฬ: வில்வம் (Vilvam) - ภาษาเตลูกู: మారేడు (maredu) - Sir Phal (ภาษาฮินดีโบราณ)
| มะตูมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าอะไร | {
"answer": [
"Aegle marmelos"
],
"answer_begin_position": [
113
],
"answer_end_position": [
127
]
} |
1,443 | 115,517 | มะตูม มะตูม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aegle marmelos ภาคเหนือเรียกว่า มะปิน ภาคใต้เรียกว่า กะทันตาเถร, ตูม และตุ่มตัง ภาคอีสานเรียกว่า หมากตูม ภาษาเขมรเรียกว่า พะโนงค์ ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า มะปีส่า เป็นไม้ผลยืนต้นพื้นเมืองในพื้นที่ป่าดิบแล้วบนเนินเขาและที่ราบในอินเดียตอนกลางและตอนใต้ พม่า ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล เวียดนาม ลาว และกัมพูชา มีการนำไปเพาะปลูกทั่วไปในอินเดีย รวมทั้งในศรีลังกา แหลมมลายูตอนเหนือ เกาะชวา และฟิลิปปินส์ จัดเป็นพืชเพียงสปีชีส์เดียวที่อยู่ในจีนัส Aegleลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์. ลำต้นมีความสูง 18 เมตร เปลือกลำต้นมีสีเทาเรียบเป็นร่องตื้น เนื้อไม้แข็ง มีสีขาวแกมเหลือง และมีกลิ่นหอม โคนต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลม ยาว แข็ง ออกเดี่ยวหรือเป็นคู่ตามกิ่ง ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปไข่หรือรูปหอกมี 3 ใบ มองดูคล้ายตรีศูลของพระศิวะ ดอกสีขาวหรือขาวอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลมีเปลือกแข็งเรียบและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-15 เซนติเมตร บางผลมีเปลือกแข็งมากจนต้องกระเทาะเปลือกออกโดยใช้ค้อนทุบ เนื้อผลเหนียวข้น มีกลิ่นหอม และมีเมล็ดจำนวนมากแทรกอยู่ในเนื้อผล โดยเมล็ดจะมีขนหนาปกคลุมการใช้ประโยชน์ การใช้ประโยชน์. ผลมะตูมใช้รับประทานได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง น้ำจากผลเมื่อนำไปกรองและเติมน้ำตาลจะได้เครื่องดื่มคล้ายน้ำมะนาว และยังใช้ในการทำ Sharbat ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการนำเนื้อผลมะตูมไปผสมกับมะขาม ผลอ่อนฝานแล้วตากแห้งนำไปต้มกับน้ำเป็นน้ำมะตูม นำมายำ ใบอ่อนและยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสลัด กินกับน้ำพริก ลาบ และข้าวยำ ผลแก่แต่เปลือกยังนิ่มนำมาฝานแล้วทำเป็นมะตูมเชื่อม ซึ่งนำไปเป็นส่วนผสมของขนมอื่นอีกหลยอย่าง มะตูมสุก เนื้อเละใช้รับประทานเป็นผลไม้ และใช้เป็นยารักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลำไส้ ตาแห้งไข้หวัดธรรมดา และยังใช้รักษาอาการท้องผูกเรื้อรังได้เป็นอย่างดีความเชื่อ ความเชื่อ. คนไทยถือว่ามะตูมเป็นไม้มงคล นิยมปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ศาสนาฮินดู เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระศิวะ ดังนั้นจึงพบต้นมะตูมได้ทั่วไปในสวนของวิหารในประเทศอินเดีย และใบมะตูมยังเป็นส่วนประกอบในพิธีกรรมทางศาสนา เช่นการทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์หรือครอบครูสัญลักษณ์ สัญลักษณ์. ต้นมะตูมเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดชัยนาท ผู้ที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงหรืองานสมรสพระราชทานจะได้รับพระราชทานใบมะตูมเพื่อเป็นสิริมงคลชื่อท้องถิ่นของมะตูม ชื่อท้องถิ่นของมะตูม. ชื่อสามัญของมะตูมในภาษาต่างๆ ได้แก่- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้- /ou' shi'/ หรือ /oʊʔ ʃiʔ/ - /pnɨv/ - /mȁːk tuːm/ - (ต้นไม้) - เอเชียใต้- ภาษาเบงกาลี: বেল - ภาษาฮินดี: बिल्व [Bilva] - ภาษากันนาดา: ಬೇಲದ ಹಣ್ಣು - ภาษากงกณี: gorakamli - ภาษามาลายาลัม: കൂവളം - ภาษามราฐี: बेल or कवीठ (Kaveeth) - ภาษาปัญจาบ: Beel - ภาษาสันสกฤต : बिल्वम् - ภาษาสินธี: ڪاٺ گدرو - ภาษาสิงหล: බෙලි (Beli) - ภาษาทมิฬ: வில்வம் (Vilvam) - ภาษาเตลูกู: మారేడు (maredu) - Sir Phal (ภาษาฮินดีโบราณ)
| ต้นมะตูมเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดอะไร | {
"answer": [
"ชัยนาท"
],
"answer_begin_position": [
2000
],
"answer_end_position": [
2006
]
} |
485 | 880,441 | หอคอยบีเล็ม หอคอยบีเล็ม (Belem Tower) ตั้งอยู่เมืองลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส หอคอยบีเล็มแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกกับองค์กรยูเนสโกในปี 1983 หอคอยแห่งถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าคิงจอร์นที่สอง (King John II) ในศตรวรรตที่ 16 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบโปรตุเกส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันเมืองริมฝั่งแม่น้ำทากัส (Tagus River) ตัวหอคอยบีเล็มประกอบไปด้วยหินอ่อนและตัวป้อมปราการมีความสูงกว่า 30 เมตร
| Belem Tower ตั้งอยู่ที่เมืองลิสบอนซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอะไร | {
"answer": [
"ประเทศโปรตุเกส"
],
"answer_begin_position": [
156
],
"answer_end_position": [
170
]
} |
1,579 | 880,441 | หอคอยบีเล็ม หอคอยบีเล็ม (Belem Tower) ตั้งอยู่เมืองลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส หอคอยบีเล็มแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกกับองค์กรยูเนสโกในปี 1983 หอคอยแห่งถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าคิงจอร์นที่สอง (King John II) ในศตรวรรตที่ 16 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบโปรตุเกส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันเมืองริมฝั่งแม่น้ำทากัส (Tagus River) ตัวหอคอยบีเล็มประกอบไปด้วยหินอ่อนและตัวป้อมปราการมีความสูงกว่า 30 เมตร
| ผู้สร้างหอคอยบีเล็มตั้งอยู่ที่เมืองลิสบอน มีนามว่าอะไร | {
"answer": [
"พระเจ้าคิงจอร์นที่สอง"
],
"answer_begin_position": [
266
],
"answer_end_position": [
287
]
} |
486 | 901,166 | อเล็กซิส ซิปราส อเล็กซิส ซิปราส (, ; เกิด 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1974) เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐกรีซ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2015 ก่อนหน้านี้เขาก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2015 จนถึง 27 สิงหาคม ค.ศ. 2015 ซปราสเป็นผู้นำที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบฝ่ายซ้าย พรรคการเมืองของเขาชื่อ พรรคซีรีซา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ซิปราสเกิดที่เมืองเอเธนส์เมื่อปี ค.ศ. 1974 เขาเข้าร่วมกับขบวนการเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งกรีซ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองในนักศึกษา ซิปราสจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่อปี ค.ศ. 2000 สาขาวิศวกรรมโยธาที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งชาติเอเธนส์ และภายหลังจบปริญญาโท สาขาวิชาการวางแผนชนบทและภูมิภาค ในปี ค.ศ. 1999 ถึง ค.ศ. 2003 ซิปราสทำหน้าที่เป็นเลขาธิการขบวนการเยาวชนซินาสพิสมอส เขาได้รับการเลือกให้เป็นสมาชิกกรรมการกลางของซินาสพิสมอส ในปี ค.ศ. 2004 และในปี ค.ศ. 2006 ได้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการเอเธนส์ แต่ได้รับคะแนนเสียงเพียง 10.5% ในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค ซีรีซา และเขาได้เลือกให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน จากการเลือกตั้งซ่อมในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ค.ศ. 2012 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะรัฐมนตรีเงา ในช่วงเวลานั้น
| อเล็กซิส ซิปราส จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาอะไร | {
"answer": [
"สาขาวิชาการวางแผนชนบทและภูมิภาค"
],
"answer_begin_position": [
734
],
"answer_end_position": [
765
]
} |
1,583 | 901,166 | อเล็กซิส ซิปราส อเล็กซิส ซิปราส (, ; เกิด 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1974) เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐกรีซ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2015 ก่อนหน้านี้เขาก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2015 จนถึง 27 สิงหาคม ค.ศ. 2015 ซปราสเป็นผู้นำที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบฝ่ายซ้าย พรรคการเมืองของเขาชื่อ พรรคซีรีซา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ซิปราสเกิดที่เมืองเอเธนส์เมื่อปี ค.ศ. 1974 เขาเข้าร่วมกับขบวนการเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งกรีซ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองในนักศึกษา ซิปราสจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่อปี ค.ศ. 2000 สาขาวิศวกรรมโยธาที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งชาติเอเธนส์ และภายหลังจบปริญญาโท สาขาวิชาการวางแผนชนบทและภูมิภาค ในปี ค.ศ. 1999 ถึง ค.ศ. 2003 ซิปราสทำหน้าที่เป็นเลขาธิการขบวนการเยาวชนซินาสพิสมอส เขาได้รับการเลือกให้เป็นสมาชิกกรรมการกลางของซินาสพิสมอส ในปี ค.ศ. 2004 และในปี ค.ศ. 2006 ได้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการเอเธนส์ แต่ได้รับคะแนนเสียงเพียง 10.5% ในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค ซีรีซา และเขาได้เลือกให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน จากการเลือกตั้งซ่อมในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ค.ศ. 2012 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะรัฐมนตรีเงา ในช่วงเวลานั้น
| อเล็กซิส ซิปราส เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐกรีซ เมื่อวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"21"
],
"answer_begin_position": [
200
],
"answer_end_position": [
202
]
} |
487 | 45,650 | มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 พระประมุขมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 () (4 มกราคม พ.ศ. 2456 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2550) เป็นพระประมุขแห่งรัฐเอกราชซามัว ทรงพระราชสมภพในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2456 เป็นพระราชโอรสใน มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 และโมโมเอ ลูเปอูลูอีวา มาเลอิเซอา ทรงขึ้นครองราชย์พร้อมกับ พระราชาธิบดีประมุขแห่งรัฐมุขตูปัว ตามาเซเซ ซึ่งครองราชย์อยู่ 2 ปี โดยส่วนพระองค์นับถือศาสนาบาไฮ พระราชาธิบดีประมุขแห่งรัฐมาลีเอตัว ขณะครองราชย์ทรงเคยเป็นประมุขแห่งรัฐ ที่มีพระชนมพรรษามากที่สุดในโลก และ ครองราชย์ยาวนานเป็นอันดับ 3 ของโลก พระองค์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ซามัวเป็นเอกราชจากนิวซีแลนด์ได้สิ้นพระชนม์ สิ้นพระชนม์. พระประมุข มาลีเอตัว สิ้นพระชนม์ลงเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ด้วยพระชันษา 94 พรรษา ด้วยโรคนิวโมเนีย
| พระประมุขมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 แห่งรัฐเอกราชซามัว ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคอะไร | {
"answer": [
"โรคนิวโมเนีย"
],
"answer_begin_position": [
792
],
"answer_end_position": [
804
]
} |
488 | 45,650 | มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 พระประมุขมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 () (4 มกราคม พ.ศ. 2456 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2550) เป็นพระประมุขแห่งรัฐเอกราชซามัว ทรงพระราชสมภพในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2456 เป็นพระราชโอรสใน มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 1 และโมโมเอ ลูเปอูลูอีวา มาเลอิเซอา ทรงขึ้นครองราชย์พร้อมกับ พระราชาธิบดีประมุขแห่งรัฐมุขตูปัว ตามาเซเซ ซึ่งครองราชย์อยู่ 2 ปี โดยส่วนพระองค์นับถือศาสนาบาไฮ พระราชาธิบดีประมุขแห่งรัฐมาลีเอตัว ขณะครองราชย์ทรงเคยเป็นประมุขแห่งรัฐ ที่มีพระชนมพรรษามากที่สุดในโลก และ ครองราชย์ยาวนานเป็นอันดับ 3 ของโลก พระองค์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ซามัวเป็นเอกราชจากนิวซีแลนด์ได้สิ้นพระชนม์ สิ้นพระชนม์. พระประมุข มาลีเอตัว สิ้นพระชนม์ลงเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ด้วยพระชันษา 94 พรรษา ด้วยโรคนิวโมเนีย
| พระประมุขมาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 แห่งรัฐเอกราชซามัว ทรงนับถือคือศาสนาอะไร | {
"answer": [
"ศาสนาบาไฮ"
],
"answer_begin_position": [
467
],
"answer_end_position": [
476
]
} |
489 | 17,521 | ประเทศเอลซัลวาดอร์ เอลซัลวาดอร์ () หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ (สเปน: ) เป็นประเทศในแถบอเมริกากลาง มีจำนวนประชากรเกือบ 6.7 ล้านคน เป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในแผ่นดินใหญ่ของ (ทวีป) อเมริกา (โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงซานซัลวาดอร์) และเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมมากที่สุดในภูมิภาค ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้ยกเลิกสกุลเงินโกลอนและเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแทนในปี ค.ศ. 2001ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์. ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับประกาศอิสรภาพจากสเปนในปี ค.ศ. 1821 และจากสหรัฐอเมริกากลางในปี ค.ศ. 1839การเมืองการปกครองการแบ่งเขตการปกครอง การแบ่งเขตการปกครอง. เอลซัลวาดอร์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 14 จังหวัด (department) ได้แก่ภูมิศาสตร์ ภูมิศาสตร์. ประเทศเอลซัลวาดอร์ตั้งอยู่ในอเมริกากลาง มีพื้นที่ประเทศมาณ 21,040 ตารางกิโลเมตร หรือ 8,123 ตารางไมล์ เป็นประเทศที่เล็กที่สุดในอเมริกากลาง ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจ. ประเทศเอลซัลวาดอร์มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในอเมริกากลางรองจาก กัวเตมาลา และ คอสตาริกา เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยขนาดจีดีพี เศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์แยกเป็น ด้านบริการ 64.1% อุตสหกรรม 24.7% และเกษตรกรรม 11.2%ประชากร ประชากร. ประเทศเอลซัลวาดอร์มีประชากรประมาณ 6,948,073 คน แบ่งได้เป็นเมสติโซ (เชื้อสายผสมสเปน-พื้นเมือง) ร้อยละ 90 ผิวขาวร้อยละ 9 อเมรินเดียนร้อยละ 1วัฒนธรรม
| เมืองหลวงของประเทศเอลซัลวาดอร์ มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"เมืองหลวงซานซัลวาดอร์"
],
"answer_begin_position": [
321
],
"answer_end_position": [
342
]
} |
1,407 | 17,521 | ประเทศเอลซัลวาดอร์ เอลซัลวาดอร์ () หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ (สเปน: ) เป็นประเทศในแถบอเมริกากลาง มีจำนวนประชากรเกือบ 6.7 ล้านคน เป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในแผ่นดินใหญ่ของ (ทวีป) อเมริกา (โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงซานซัลวาดอร์) และเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมมากที่สุดในภูมิภาค ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้ยกเลิกสกุลเงินโกลอนและเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแทนในปี ค.ศ. 2001ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์. ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับประกาศอิสรภาพจากสเปนในปี ค.ศ. 1821 และจากสหรัฐอเมริกากลางในปี ค.ศ. 1839การเมืองการปกครองการแบ่งเขตการปกครอง การแบ่งเขตการปกครอง. เอลซัลวาดอร์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 14 จังหวัด (department) ได้แก่ภูมิศาสตร์ ภูมิศาสตร์. ประเทศเอลซัลวาดอร์ตั้งอยู่ในอเมริกากลาง มีพื้นที่ประเทศมาณ 21,040 ตารางกิโลเมตร หรือ 8,123 ตารางไมล์ เป็นประเทศที่เล็กที่สุดในอเมริกากลาง ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจ. ประเทศเอลซัลวาดอร์มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในอเมริกากลางรองจาก กัวเตมาลา และ คอสตาริกา เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยขนาดจีดีพี เศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์แยกเป็น ด้านบริการ 64.1% อุตสหกรรม 24.7% และเกษตรกรรม 11.2%ประชากร ประชากร. ประเทศเอลซัลวาดอร์มีประชากรประมาณ 6,948,073 คน แบ่งได้เป็นเมสติโซ (เชื้อสายผสมสเปน-พื้นเมือง) ร้อยละ 90 ผิวขาวร้อยละ 9 อเมรินเดียนร้อยละ 1วัฒนธรรม
| ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้รับประกาศอิสรภาพจากสเปนในปี ค.ศ. ใด | {
"answer": [
"1821"
],
"answer_begin_position": [
574
],
"answer_end_position": [
578
]
} |
490 | 548,864 | มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ () หรือเรียกย่อๆ ว่า RWU คือ มหาวิทยาลัยทางด้านศิลปศาสตร์ของอเมริกา (liberal arts university) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 140 เอเคอร์ (0.57 ตารางกิโลเมตร ในเมืองบริสโทล (Bristol) รัฐโรดไอแลนด์ เหนืออ่าว Mt. Hope มหาวิทยาลัยก่อตั้งใน ค.ศ. 1956 และถูกตั้งชื่อตามนักเทววิทยา และผู้ร่วมก่อตั้งรัฐโรดไอแลนด์ นามว่า โรเจอร์ วิลเลียมส์ประวัติ ประวัติ. การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยเริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1919 เมื่อมหาวิทยาลัยนอร์ทอิสเทิร์น เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เปิดสาขาวิทยาเขตในอาคารวายเอ็มซีเอ เมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ใน ค.ศ. 1940 คณะกรรมการวายเอ็มซีเอได้ควบคุมโรงเรียนและสถาบันวายเอ็มซีเอ โดยอนุญาตให้เปิดสอนใน ค.ศ. 1948 และใน ค.ศ. 1956 สถาบันได้รับใบอนุญาตจากรัฐและอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยจูเนียร์โรเจอร์ วิลเลียมส์" (Roger Williams Junior College) ระหว่างทศวรรษ 1960 วิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์เริ่มการสอนระดับปริญญาตรี และต้องการขยายวิทยาเขตให้ใหญ่ขึ้น ทางวิทยาลัยซื้อที่ดิน 80 เอเคอร์ ริมทะเล และย้ายวิทยาเขตหลักไปยังเมืองบริสโทลใน ค.ศ. 1969 (ต่อมามีการขยายวิทยาเขต สาขาเมืองพรอวิเดนซ์) ใน ค.ศ. 1989 อธิการบดีคนใหม่ ดร. นาตาล เอ ซิคูโร (Dr. Natale A. Sicuro) เริ่มแผนโรเจอร์ วิลเลียมส์ในทศวรรษ 1990 และเป็นผู้ก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ และใน ค.ศ. 1992 ให้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์" มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์หรือ RWU เฉลิมฉลองการก่อตั้งครบรอบ 50 ปี ใน ค.ศ. 2006
| ชื่อย่อของมหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ ใช้ว่าอะไร | {
"answer": [
"RWU"
],
"answer_begin_position": [
185
],
"answer_end_position": [
188
]
} |
491 | 548,864 | มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ () หรือเรียกย่อๆ ว่า RWU คือ มหาวิทยาลัยทางด้านศิลปศาสตร์ของอเมริกา (liberal arts university) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 140 เอเคอร์ (0.57 ตารางกิโลเมตร ในเมืองบริสโทล (Bristol) รัฐโรดไอแลนด์ เหนืออ่าว Mt. Hope มหาวิทยาลัยก่อตั้งใน ค.ศ. 1956 และถูกตั้งชื่อตามนักเทววิทยา และผู้ร่วมก่อตั้งรัฐโรดไอแลนด์ นามว่า โรเจอร์ วิลเลียมส์ประวัติ ประวัติ. การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยเริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1919 เมื่อมหาวิทยาลัยนอร์ทอิสเทิร์น เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เปิดสาขาวิทยาเขตในอาคารวายเอ็มซีเอ เมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ใน ค.ศ. 1940 คณะกรรมการวายเอ็มซีเอได้ควบคุมโรงเรียนและสถาบันวายเอ็มซีเอ โดยอนุญาตให้เปิดสอนใน ค.ศ. 1948 และใน ค.ศ. 1956 สถาบันได้รับใบอนุญาตจากรัฐและอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยจูเนียร์โรเจอร์ วิลเลียมส์" (Roger Williams Junior College) ระหว่างทศวรรษ 1960 วิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์เริ่มการสอนระดับปริญญาตรี และต้องการขยายวิทยาเขตให้ใหญ่ขึ้น ทางวิทยาลัยซื้อที่ดิน 80 เอเคอร์ ริมทะเล และย้ายวิทยาเขตหลักไปยังเมืองบริสโทลใน ค.ศ. 1969 (ต่อมามีการขยายวิทยาเขต สาขาเมืองพรอวิเดนซ์) ใน ค.ศ. 1989 อธิการบดีคนใหม่ ดร. นาตาล เอ ซิคูโร (Dr. Natale A. Sicuro) เริ่มแผนโรเจอร์ วิลเลียมส์ในทศวรรษ 1990 และเป็นผู้ก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ และใน ค.ศ. 1992 ให้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์" มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์หรือ RWU เฉลิมฉลองการก่อตั้งครบรอบ 50 ปี ใน ค.ศ. 2006
| มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ เป็นมหาวิทยาลัยทางด้านศิลปศาสตร์ของอเมริกา ตั้งอยู่ในรัฐใด | {
"answer": [
"รัฐโรดไอแลนด์"
],
"answer_begin_position": [
333
],
"answer_end_position": [
346
]
} |
492 | 795,740 | จอร์จีนีโย ไวนัลดึม จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม (; เกิด 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990) เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับลิเวอร์พูลและทีมชาติเนเธอร์แลนด์สโมสรอาชีพนิวคาสเซิลยูไนเต็ดลิเวอร์พูลฤดูกาล 2016-17 สโมสรอาชีพ. ลิเวอร์พูล. ฤดูกาล 2016-17. ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูลทำสัญญากับไวนัลดึมจากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี โดยไวนัลดึมได้สวมเสื้อหมายเลข 5 ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 ไวนัลดึมลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกโดยลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้ แอดัม ลัลลานา ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3 ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1 ต่อมา ในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เชลซี 1-1 ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1 ต่อมา ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-1 ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ มิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไวนัลดึมทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ จบฤดูกาล ไวนัลดึมยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 6 ประตูจาก 36 นัดฤดูกาล 2017-18 ฤดูกาล 2017-18. ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 3-0 ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ไวนัลดึมทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จสถิติอาชีพสโมสรประตูในนามทีมชาติเกียรติประวัติสโมสร เกียรติประวัติ. สโมสร. ไฟเยอโนร์ด- KNVB Cup: 2007–08 เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน- KNVB Cup: 2011–12 - Eredivisie: 2014–15ทีมชาติ ทีมชาติ. เนเธอร์แลนด์- FIFA World Cup Third Place: 2014 - UEFA U-21 Championship Semi-finalist: 2013รางวัลส่วนตัวรางวัลส่วนตัว. - Rotterdam talent of the year: 2007 - Dutch Footballer of the Year: 2014–15 - Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มกราคม 2017, มีนาคม 2017 - ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: ธันวาคม 2016
| จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ เล่นในตำแหน่งใด | {
"answer": [
"ตำแหน่งกองกลางตัวรุก"
],
"answer_begin_position": [
217
],
"answer_end_position": [
237
]
} |
1,573 | 795,740 | จอร์จีนีโย ไวนัลดึม จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม (; เกิด 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990) เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับลิเวอร์พูลและทีมชาติเนเธอร์แลนด์สโมสรอาชีพนิวคาสเซิลยูไนเต็ดลิเวอร์พูลฤดูกาล 2016-17 สโมสรอาชีพ. ลิเวอร์พูล. ฤดูกาล 2016-17. ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูลทำสัญญากับไวนัลดึมจากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี โดยไวนัลดึมได้สวมเสื้อหมายเลข 5 ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 ไวนัลดึมลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกโดยลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้ แอดัม ลัลลานา ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3 ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1 ต่อมา ในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เชลซี 1-1 ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1 ต่อมา ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-1 ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ มิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไวนัลดึมทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ จบฤดูกาล ไวนัลดึมยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 6 ประตูจาก 36 นัดฤดูกาล 2017-18 ฤดูกาล 2017-18. ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 3-0 ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ไวนัลดึมทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จสถิติอาชีพสโมสรประตูในนามทีมชาติเกียรติประวัติสโมสร เกียรติประวัติ. สโมสร. ไฟเยอโนร์ด- KNVB Cup: 2007–08 เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน- KNVB Cup: 2011–12 - Eredivisie: 2014–15ทีมชาติ ทีมชาติ. เนเธอร์แลนด์- FIFA World Cup Third Place: 2014 - UEFA U-21 Championship Semi-finalist: 2013รางวัลส่วนตัวรางวัลส่วนตัว. - Rotterdam talent of the year: 2007 - Dutch Footballer of the Year: 2014–15 - Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มกราคม 2017, มีนาคม 2017 - ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: ธันวาคม 2016
| จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ เกิดเมื่อวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"11"
],
"answer_begin_position": [
159
],
"answer_end_position": [
161
]
} |
493 | 481,841 | โอสมาร์ (นักฟุตบอล) โอสมาร์ อิบัญเญซ บาร์บา () หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอสมาร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1988 ในเมืองซันตอญญา เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก และเขาเคยเล่นให้กับสโมสรราซิงซันตันเดร์ สโมสรฟุตบอลชื่อดังจากลาลิกา ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศสเปนอีกด้วย
| โอสมาร์ อิบัญเญซ บาร์บาเป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เกิดที่เมืองอะไร | {
"answer": [
"เมืองซันตอญญา"
],
"answer_begin_position": [
212
],
"answer_end_position": [
225
]
} |
1,534 | 481,841 | โอสมาร์ (นักฟุตบอล) โอสมาร์ อิบัญเญซ บาร์บา () หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอสมาร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1988 ในเมืองซันตอญญา เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก และเขาเคยเล่นให้กับสโมสรราซิงซันตันเดร์ สโมสรฟุตบอลชื่อดังจากลาลิกา ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศสเปนอีกด้วย
| โอสมาร์ อิบัญเญซ บาร์บาหรือที่รู้จักกันในชื่อ โอสมาร์ เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เกิดเมื่อวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"15"
],
"answer_begin_position": [
188
],
"answer_end_position": [
190
]
} |
494 | 110,493 | พระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) พระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) เป็นบุตรของพระยาจุฬาราชมนตรี (เถื่อน) มารดาคือคุณหญิงนก เกิดในสมัยรัชกาลที่ 2 แต่ไม่ทราบปี เข้ารับราชการในกรมท่าขวาในสมัยรัชกาลที่ 3เป็นพระราชเศรษฐี ได้ว่าการคลังวิเศษในกรมท่าหลวง และกำกับชำระตั๋วเฮียชำระฝิ่นและได้เลื่อนเป็นจางวางคลังวิเศษกำกับราชการกรมพระคลังนอก คลังพิเศษ คลังในซ้าย พระคลังใน คลังคำนวณ กำกับภาษีร้อยชักสาม ในสมัยรัชกาลที่ 4 นอกจากนั้น ท่านยังมีส่วนร่วมในการปราบจลาจลภาคใต้ และวางระเบียบปกครองหัวเมืองฝ่ายใต้ และเป็นข้าหลวงตรวจการภาคใต้จนเหตุการณ์สงบ จนกระทั่งพระยาจุฬาราชมนตรี (น้อย)ถึงแก่อนิจกรรมใน พ.ศ. 2410 ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นจุฬาราชมนตรีสืบแทนจนถึงแก่อนิจกรรมใน พ.ศ. 2432 ศพของท่านฝังอยู่ที่มัสยิดต้นสน
| พระมารดาของพระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"คุณหญิงนก"
],
"answer_begin_position": [
192
],
"answer_end_position": [
201
]
} |
495 | 110,493 | พระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) พระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) เป็นบุตรของพระยาจุฬาราชมนตรี (เถื่อน) มารดาคือคุณหญิงนก เกิดในสมัยรัชกาลที่ 2 แต่ไม่ทราบปี เข้ารับราชการในกรมท่าขวาในสมัยรัชกาลที่ 3เป็นพระราชเศรษฐี ได้ว่าการคลังวิเศษในกรมท่าหลวง และกำกับชำระตั๋วเฮียชำระฝิ่นและได้เลื่อนเป็นจางวางคลังวิเศษกำกับราชการกรมพระคลังนอก คลังพิเศษ คลังในซ้าย พระคลังใน คลังคำนวณ กำกับภาษีร้อยชักสาม ในสมัยรัชกาลที่ 4 นอกจากนั้น ท่านยังมีส่วนร่วมในการปราบจลาจลภาคใต้ และวางระเบียบปกครองหัวเมืองฝ่ายใต้ และเป็นข้าหลวงตรวจการภาคใต้จนเหตุการณ์สงบ จนกระทั่งพระยาจุฬาราชมนตรี (น้อย)ถึงแก่อนิจกรรมใน พ.ศ. 2410 ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นจุฬาราชมนตรีสืบแทนจนถึงแก่อนิจกรรมใน พ.ศ. 2432 ศพของท่านฝังอยู่ที่มัสยิดต้นสน
| พระบิดาของพระยาจุฬาราชมนตรี (นาม) มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"พระยาจุฬาราชมนตรี (เถื่อน)"
],
"answer_begin_position": [
157
],
"answer_end_position": [
183
]
} |
496 | 726,769 | สหภาพประชาชนหมู่บ้าน สหภาพประชาชนหมู่บ้าน (Village People's Union; ภาษาอินโดนีเซีย: Persatuan Rakjat Desa, PRD) เป็นพรรคการเมืองในอินโดนีเซีย มีฐานเสียงในหมู่ชาวซุนดาในชวาตะวันตก ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2498 พรรคได้รับเลือกตั้ง 1 ที่นั่ง หลังจากนั้นได้รวมเข้ากับกลุ่มสนับสนุนแถลงการณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายในสภา
| พรรคสหภาพประชาชนหมู่บ้าน เป็นชื่อพรรคการเมืองของประเทศอะไร | {
"answer": [
"อินโดนีเซีย"
],
"answer_begin_position": [
225
],
"answer_end_position": [
236
]
} |
497 | 726,769 | สหภาพประชาชนหมู่บ้าน สหภาพประชาชนหมู่บ้าน (Village People's Union; ภาษาอินโดนีเซีย: Persatuan Rakjat Desa, PRD) เป็นพรรคการเมืองในอินโดนีเซีย มีฐานเสียงในหมู่ชาวซุนดาในชวาตะวันตก ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2498 พรรคได้รับเลือกตั้ง 1 ที่นั่ง หลังจากนั้นได้รวมเข้ากับกลุ่มสนับสนุนแถลงการณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายในสภา
| พรรคสหภาพประชาชนหมู่บ้าน ได้รับการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2498 กี่ที่นั่ง | {
"answer": [
"1 ที่นั่ง"
],
"answer_begin_position": [
319
],
"answer_end_position": [
328
]
} |
498 | 551,450 | ฉลอง สิมะเสถียร ฉลอง สิมะเสถียร นักแสดงชาวไทยผู้ล่วงลับ อดีตพระเอกดาราที่มีชื่อเสียง ในละครเวที หลังสงครามมหาเอเซียบูรพา จนถึงยุคจอแก้วทางไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหมประวัติ ประวัติ. ชาวไทย เชื้อสายจีนฮกเกี้ยนตระกูลซิม/ซิ้ม (สมัยรัชกาลที่ 3) เกิดที่ตำบลวัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 เป็นบุตรคนที่สองในบรรดาพี่น้องรวม 8 คน ของนายสุจินต์ และนางสังวาลย์ สิมะเสถียร หลังจบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้เข้าทำงานที่ บริษัทสหไทยวัฒนา จำกัดในวงการเพลงและการแสดง ในวงการเพลงและการแสดง. สมัครเป็นนักร้องวงทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จนยุบวงแล้วไปสมัครเป็นนักแสดงละครเวทีของคณะศิวารมย์ เริ่มด้วย ขุนทัพพญายม ของ อรวรรณ พ.ศ. 2492 ตามด้วย ราชินีบอด ของ สุวัฒน์ วรดิลก พ.ศ. 2493 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ปีเดียวกัน บนเวทีศาลาเฉลิมไทย นำแสดงเป็น กษัตริย์อริยวัต ในละครประกอบเพลงวงสุนทราภรณ์ จุฬาตรีคูณ ของ พนมเทียน ซึ่งมี มัณฑนา โมรากุล รับบท เจ้าหญิงดาราราย ,ชาลี อินทรวิจิตร รับบท เจ้าชายอนุวัต และ สวลี ผกาพันธุ์ รับบท เจ้าหญิงอารียา บทเด่นที่ยังเป็นที่กล่าวขวัญจนทุกวันนี้คือ ชายกลาง คู่กับ พจมาน (สวลี ผกาพันธุ์) คู่แรกของเมืองไทย ใน บ้านทรายทอง ของ ก.สุรางคนางค์ โดยคณะอัศวินการละคร ปีต่อมา และบทอื่นๆ เช่น ขุนวรวงศาธิราช ใน เจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เป็นต้น เมื่อหมดยุคละครเวที ขณะมีอายุราว 32 ปี จำนง รังสิกุล ผู้อำนวยการบริษัทไทยโทรทัศน์ จำกัด ชวนเข้าทำงานเป็นหัวหน้าแผนกผู้ประกาศ ฝ่ายจัดรายการ ของสถานีไทยทีวีช่อง 4 บางขุนรหม ยุคบุกเบิก รับผิดชอบการเตรียมบทผู้ประกาศเช้า-เย็น และเริ่มปรากฏตัวทางจอแก้วใน ละครชวนหัวภาคค่ำชุด นุสรา ด้วยบท คุณทายาท ทนายความหนุ่มใหญ่ สามีของนุสรา สาวน้อยจอมยุ่ง (อารีย์ นักดนตรี) ร่วมด้วยป้ากัลยา (กัณฑรีย์ นาคประภา) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงเปิดสถานีใหม่ ๆ พ.ศ. 2501 - 2504นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รวบรวมเพลงเก่ายุคละครเวทีเพื่อนำมาสอนเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องสำหรับรายการ เพลงแห่งความหลัง ออกอากาศ พ.ศ. 2507 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ที่ช่อง 4 ช่วงแรกมักคู่กับ อารีย์ นักดนตรี หากเป็นละครหรือรายการที่มีการขับร้องเพลง เมื่อเป็นผู้จัดและพระเอกละคร คณะกัญชลิกา (ชื่อบุตรสาว) ได้นำเรื่อง บ้านทรายทอง กลับมาแสดงเป็นละครทีวีครั้งแรกคู่กับ สวลี อีกครั้ง และหลายปีต่อมา คู่กับ อรัญญา นามวงศ์ ละครเด่นอื่นๆ อีกหลายเรื่อง เช่น ศรอนงค์ ,นันทาเทวี ,ค่าของคน ฯลฯ บันทึกแผ่นเสียงไว้หลายเพลง ปัจจุบันยังมีเผยแพร่ในรูปแบบซีดี เช่น นันทาเทวี ,น้ำตาแสงไต้ ,เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน ,ค่าของคน ,สำคัญที่ใจ (คู่ รวงทอง ทองลั่นทม ) ฯลฯความภูมิใจความภูมิใจ. - รางวัล ใบโพธิ์ทองพระราชทาน (ในฐานะผู้ประกาศทางโทรทัศน์ผู้เผยแพร่ภาษาไทยได้ชัดเจนถูกต้อง) จัดโดย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2514ผลงานละครเวทีผลงาน. ละครเวที. - 2492: ขุนทัพพญายม - 2493: ราชินีบอด (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) ,จุฬาตรีคูณ (คู่กับ มัณฑนา โมรากุล) - 2494: บ้านทรายทอง (คู่กับ สวลี ผกาพันธ์) - 249-: ผาคำรณ (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) - 2498: นเรนทร์ริษยา (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) - 249-: เจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ (คู่กับ กัณฑรีย์ นาคประภา) - 2518: นันทาเทวี (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) ฯลฯรายการโทรทัศน์รายการโทรทัศน์. - 2501 - 2504: นุสรา (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2501 , 2513: บ้านทรายทอง (คู่กับ สวลี ผกาพันธ์ และ อรัญญา นามวงศ์ ตามลำดับ) - 2502: ศรอนงค์ (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2502 , 2507: นันทาเทวี (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2507: เพลงแห่งความหลัง (นักร้อง) - 2512: ค่าของคน (คู่กับ อรัญญา นามวงศ์) - 251-: คุณแม่ไม่โง่ (คู่กับ เยาวเรศ นิศากร) ฯลฯภาพยนตร์ภาพยนตร์. - 2497: เจ้าสาวชาวไร่ (คู่กับ กรองจิตต์ เตมียศิลปิน) - 2498: แม่พระ (คู่กับ สวลี ผกาพันธุ์) - 2500: กะล่อนทอง ,โชคมนุษย์ , ปักธงไชย (พากย์ลงฟิล์มแทน สมยศ อินทรกำแหง ดารานำแสดง) - 2502: เชลยศักดิ์ (พากย์ลงฟิล์มแทน ประศาสน์ คุณะดิลก ดารานำแสดง)
| บริษัทที่นายฉลอง สิมะเสถียร ได้ทำหลังเรียนจบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"บริษัทสหไทยวัฒนา จำกัด"
],
"answer_begin_position": [
521
],
"answer_end_position": [
543
]
} |
1,544 | 551,450 | ฉลอง สิมะเสถียร ฉลอง สิมะเสถียร นักแสดงชาวไทยผู้ล่วงลับ อดีตพระเอกดาราที่มีชื่อเสียง ในละครเวที หลังสงครามมหาเอเซียบูรพา จนถึงยุคจอแก้วทางไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหมประวัติ ประวัติ. ชาวไทย เชื้อสายจีนฮกเกี้ยนตระกูลซิม/ซิ้ม (สมัยรัชกาลที่ 3) เกิดที่ตำบลวัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 เป็นบุตรคนที่สองในบรรดาพี่น้องรวม 8 คน ของนายสุจินต์ และนางสังวาลย์ สิมะเสถียร หลังจบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้เข้าทำงานที่ บริษัทสหไทยวัฒนา จำกัดในวงการเพลงและการแสดง ในวงการเพลงและการแสดง. สมัครเป็นนักร้องวงทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จนยุบวงแล้วไปสมัครเป็นนักแสดงละครเวทีของคณะศิวารมย์ เริ่มด้วย ขุนทัพพญายม ของ อรวรรณ พ.ศ. 2492 ตามด้วย ราชินีบอด ของ สุวัฒน์ วรดิลก พ.ศ. 2493 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ปีเดียวกัน บนเวทีศาลาเฉลิมไทย นำแสดงเป็น กษัตริย์อริยวัต ในละครประกอบเพลงวงสุนทราภรณ์ จุฬาตรีคูณ ของ พนมเทียน ซึ่งมี มัณฑนา โมรากุล รับบท เจ้าหญิงดาราราย ,ชาลี อินทรวิจิตร รับบท เจ้าชายอนุวัต และ สวลี ผกาพันธุ์ รับบท เจ้าหญิงอารียา บทเด่นที่ยังเป็นที่กล่าวขวัญจนทุกวันนี้คือ ชายกลาง คู่กับ พจมาน (สวลี ผกาพันธุ์) คู่แรกของเมืองไทย ใน บ้านทรายทอง ของ ก.สุรางคนางค์ โดยคณะอัศวินการละคร ปีต่อมา และบทอื่นๆ เช่น ขุนวรวงศาธิราช ใน เจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เป็นต้น เมื่อหมดยุคละครเวที ขณะมีอายุราว 32 ปี จำนง รังสิกุล ผู้อำนวยการบริษัทไทยโทรทัศน์ จำกัด ชวนเข้าทำงานเป็นหัวหน้าแผนกผู้ประกาศ ฝ่ายจัดรายการ ของสถานีไทยทีวีช่อง 4 บางขุนรหม ยุคบุกเบิก รับผิดชอบการเตรียมบทผู้ประกาศเช้า-เย็น และเริ่มปรากฏตัวทางจอแก้วใน ละครชวนหัวภาคค่ำชุด นุสรา ด้วยบท คุณทายาท ทนายความหนุ่มใหญ่ สามีของนุสรา สาวน้อยจอมยุ่ง (อารีย์ นักดนตรี) ร่วมด้วยป้ากัลยา (กัณฑรีย์ นาคประภา) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงเปิดสถานีใหม่ ๆ พ.ศ. 2501 - 2504นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รวบรวมเพลงเก่ายุคละครเวทีเพื่อนำมาสอนเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องสำหรับรายการ เพลงแห่งความหลัง ออกอากาศ พ.ศ. 2507 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ที่ช่อง 4 ช่วงแรกมักคู่กับ อารีย์ นักดนตรี หากเป็นละครหรือรายการที่มีการขับร้องเพลง เมื่อเป็นผู้จัดและพระเอกละคร คณะกัญชลิกา (ชื่อบุตรสาว) ได้นำเรื่อง บ้านทรายทอง กลับมาแสดงเป็นละครทีวีครั้งแรกคู่กับ สวลี อีกครั้ง และหลายปีต่อมา คู่กับ อรัญญา นามวงศ์ ละครเด่นอื่นๆ อีกหลายเรื่อง เช่น ศรอนงค์ ,นันทาเทวี ,ค่าของคน ฯลฯ บันทึกแผ่นเสียงไว้หลายเพลง ปัจจุบันยังมีเผยแพร่ในรูปแบบซีดี เช่น นันทาเทวี ,น้ำตาแสงไต้ ,เมื่อแดนฟ้าขาดเดือน ,ค่าของคน ,สำคัญที่ใจ (คู่ รวงทอง ทองลั่นทม ) ฯลฯความภูมิใจความภูมิใจ. - รางวัล ใบโพธิ์ทองพระราชทาน (ในฐานะผู้ประกาศทางโทรทัศน์ผู้เผยแพร่ภาษาไทยได้ชัดเจนถูกต้อง) จัดโดย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2514ผลงานละครเวทีผลงาน. ละครเวที. - 2492: ขุนทัพพญายม - 2493: ราชินีบอด (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) ,จุฬาตรีคูณ (คู่กับ มัณฑนา โมรากุล) - 2494: บ้านทรายทอง (คู่กับ สวลี ผกาพันธ์) - 249-: ผาคำรณ (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) - 2498: นเรนทร์ริษยา (คู่กับ สุพรรณ บูรณะพิมพ์) - 249-: เจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ (คู่กับ กัณฑรีย์ นาคประภา) - 2518: นันทาเทวี (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) ฯลฯรายการโทรทัศน์รายการโทรทัศน์. - 2501 - 2504: นุสรา (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2501 , 2513: บ้านทรายทอง (คู่กับ สวลี ผกาพันธ์ และ อรัญญา นามวงศ์ ตามลำดับ) - 2502: ศรอนงค์ (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2502 , 2507: นันทาเทวี (คู่กับ อารีย์ นักดนตรี) - 2507: เพลงแห่งความหลัง (นักร้อง) - 2512: ค่าของคน (คู่กับ อรัญญา นามวงศ์) - 251-: คุณแม่ไม่โง่ (คู่กับ เยาวเรศ นิศากร) ฯลฯภาพยนตร์ภาพยนตร์. - 2497: เจ้าสาวชาวไร่ (คู่กับ กรองจิตต์ เตมียศิลปิน) - 2498: แม่พระ (คู่กับ สวลี ผกาพันธุ์) - 2500: กะล่อนทอง ,โชคมนุษย์ , ปักธงไชย (พากย์ลงฟิล์มแทน สมยศ อินทรกำแหง ดารานำแสดง) - 2502: เชลยศักดิ์ (พากย์ลงฟิล์มแทน ประศาสน์ คุณะดิลก ดารานำแสดง)
| มารดาของฉลอง สิมะเสถียร นักแสดงชาวไทย คือใคร | {
"answer": [
"นางสังวาลย์ สิมะเสถียร"
],
"answer_begin_position": [
450
],
"answer_end_position": [
472
]
} |
499 | 577,565 | สุรเกียรติ บุนนาค สุรเกียรติ บุนนาค (27 มีนาคม พ.ศ. 2536 - ) นักแสดง, พิธีกร และนายแบบไทย เกิดที่จังหวัดกรุงเทพฯ มีพี่ชาย 1 คน จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมปลายโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภาพยนตร์และวิดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าสู่วงการบันเทิงโดยสังกัดค่ายอาร์เอส มีผลงานมิวสิควีดีโอหลายชื้น เป็นพิธีกรหลายรายการผลงานละครโทรทัศน์ผลงาน. ละครโทรทัศน์. - 2555 ลูกไม้ หลายหลายต้น รับบท อาร์ม (รับเชิญ) ช่อง ไทยพีบีเอส - 2558 คู่ปรับฉบับหัวใจ รับบท อภิชาต (ตัวร้าย) ช่อง 7 - 2560 Love Songs Love Series ตอน ยังโสด รับบท ปาล์ม ช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 - 2561 นักสู้สะท้านฟ้า รับบท ดอน ช่อง 7 - 2561 ไฮโซสะออน ช่อง 7 (กำลังถ่ายทำ)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - 2555 รัก An Ordinary Love Story รับบท กายมิวสิควีดีโอมิวสิควีดีโอ. - 2552 เพลง อยู่บำรุง - ว่าน ธนกฤต - 2552 เพลง เสียงลมหายใจ - ปราโมทย์ - 2553 เพลง คำว่ารัก...แปลว่าไม่รัก - Beauty G - 2556 จุด จุด จุด Dot Dot Dot - SHUU - พระเอกMV เพลง น้ำไหลที่ตาแต่เจ็บที่หัวใจ - เพลงรวมของ Yaak TV - 2557 เพลง อยากจีบคนโสดของ Shuผลงานเพลงผลงานเพลง. - เพลง Turn Me On รักไม่ยาก ร่วมกับ พิธีกร YAAK TV ได้แก่ กราฟ-โอสธี ซุ่นมงคล, โยชิ-นิมิต มนัสพล, พิชญ์-พิชญ์ กาไชย, ปั้นจั่น-กวิน อิ่มอโนทัย, บิ๊ก-ทองภูมิ สิริพิพัฒน์, โด่ง-ศิระ รัตนโภคาสถิต, จูน-ธัญชนก ผดุงเกียรติวงษ์ และ แอปเปิ้ล-สีสะเหงียน สีหาราช - เพลง กัด (Suck it) - เพลง มากับเขาแล้วหงายังไง (How) - เพลง หัวใจวาย - เพลง โสดโปรดจีบ - เพลง อกหักแล้วไงพิธีกร พิธีกร. APOP บันเทิง 34 ทางช่อง Amarin TV 34รายการในอดีตรายการในอดีต. - รายการ ไฮเฟรนด์ ของอาร์เอส (ช่อง 5) - รายการ ไวรัสมิวสิค (ช่องโมเดิร์นไนน์) - รายการ ไทยแลนด์วาไรตี้ (ช่องสตาร์แมกซ์แชนเนล) - รายการ น่ารักอ๊ะ (ช่องย๊าค ทีวี ฟรีทีวี) - รายการ เพลงโส๊ดสด ช่อง you channel 18.00-21.00 - รายการ vamp family ช่อง you channel เวลา 15.00น.
| บ้านเกิดของคุณสุรเกียรติ บุนนาค อยู่ที่จังหวัดใด | {
"answer": [
"จังหวัดกรุงเทพฯ"
],
"answer_begin_position": [
189
],
"answer_end_position": [
204
]
} |
500 | 577,565 | สุรเกียรติ บุนนาค สุรเกียรติ บุนนาค (27 มีนาคม พ.ศ. 2536 - ) นักแสดง, พิธีกร และนายแบบไทย เกิดที่จังหวัดกรุงเทพฯ มีพี่ชาย 1 คน จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมปลายโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภาพยนตร์และวิดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าสู่วงการบันเทิงโดยสังกัดค่ายอาร์เอส มีผลงานมิวสิควีดีโอหลายชื้น เป็นพิธีกรหลายรายการผลงานละครโทรทัศน์ผลงาน. ละครโทรทัศน์. - 2555 ลูกไม้ หลายหลายต้น รับบท อาร์ม (รับเชิญ) ช่อง ไทยพีบีเอส - 2558 คู่ปรับฉบับหัวใจ รับบท อภิชาต (ตัวร้าย) ช่อง 7 - 2560 Love Songs Love Series ตอน ยังโสด รับบท ปาล์ม ช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 - 2561 นักสู้สะท้านฟ้า รับบท ดอน ช่อง 7 - 2561 ไฮโซสะออน ช่อง 7 (กำลังถ่ายทำ)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - 2555 รัก An Ordinary Love Story รับบท กายมิวสิควีดีโอมิวสิควีดีโอ. - 2552 เพลง อยู่บำรุง - ว่าน ธนกฤต - 2552 เพลง เสียงลมหายใจ - ปราโมทย์ - 2553 เพลง คำว่ารัก...แปลว่าไม่รัก - Beauty G - 2556 จุด จุด จุด Dot Dot Dot - SHUU - พระเอกMV เพลง น้ำไหลที่ตาแต่เจ็บที่หัวใจ - เพลงรวมของ Yaak TV - 2557 เพลง อยากจีบคนโสดของ Shuผลงานเพลงผลงานเพลง. - เพลง Turn Me On รักไม่ยาก ร่วมกับ พิธีกร YAAK TV ได้แก่ กราฟ-โอสธี ซุ่นมงคล, โยชิ-นิมิต มนัสพล, พิชญ์-พิชญ์ กาไชย, ปั้นจั่น-กวิน อิ่มอโนทัย, บิ๊ก-ทองภูมิ สิริพิพัฒน์, โด่ง-ศิระ รัตนโภคาสถิต, จูน-ธัญชนก ผดุงเกียรติวงษ์ และ แอปเปิ้ล-สีสะเหงียน สีหาราช - เพลง กัด (Suck it) - เพลง มากับเขาแล้วหงายังไง (How) - เพลง หัวใจวาย - เพลง โสดโปรดจีบ - เพลง อกหักแล้วไงพิธีกร พิธีกร. APOP บันเทิง 34 ทางช่อง Amarin TV 34รายการในอดีตรายการในอดีต. - รายการ ไฮเฟรนด์ ของอาร์เอส (ช่อง 5) - รายการ ไวรัสมิวสิค (ช่องโมเดิร์นไนน์) - รายการ ไทยแลนด์วาไรตี้ (ช่องสตาร์แมกซ์แชนเนล) - รายการ น่ารักอ๊ะ (ช่องย๊าค ทีวี ฟรีทีวี) - รายการ เพลงโส๊ดสด ช่อง you channel 18.00-21.00 - รายการ vamp family ช่อง you channel เวลา 15.00น.
| ผลงานภาพยนตร์ที่คุณสุรเกียรติ บุนนาค ได้แสดงในปี พ.ศ. 2555 มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"รัก An Ordinary Love Story"
],
"answer_begin_position": [
790
],
"answer_end_position": [
816
]
} |
501 | 579,386 | พระธาตุจอมจันทร์ พระธาตุจอมจันทร์ ตั้งอยู่ในวัดจอมจันทร์ ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม และเป็นปูชนียสถานสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงรายประวัติพระธาตุจอมจันทร์ ประวัติพระธาตุจอมจันทร์. ผู้สร้างพระธาตุจอมจันทร์ คือ พระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2458 พระครูบาทิพย์ ชักชวนสาธุชนร่วมกันก่อสร้างพระเจดีย์ ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ได้ก่อสร้างวิหาร กุฎิ และศาลา ตั้งชื่อว่า "วัดพระธาตุจอมจันทร์" มีภิกษุจำพรรษาติดต่อกันมา จนถึง พ.ศ. 2480 ได้เกิดไฟป่าลุกลามไหม้ศาลาและกุฎิจนหมด เหลือแต่พระเจดีย์และวิหาร ด้วยศรัทธาชาวบ้านจึงย้ายมาสร้างวัดอยู่ข้างล่าง ห่างวัดเดิม 300 เมตร วัดพระธาตุจอมจันทร์จึงได้กลายเป็นวัดร้างแต่นั้นมา จนถึง พ.ศ. 2542 จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ความเชื่อ ความเชื่อ. ในการไหว้ พระธาตุจอมจันทร์ เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้คำบูชาพระธาตุจอมจันทร์ คำบูชาพระธาตุจอมจันทร์. อิทัง วันทามิ เจติยัง สักกัจจัง วะระสัญญิตัง อะหัง วันทามิ ธาตุโย อิธะปัพะเต ปะติฏฐิตา เอตนะ มะมะปุญญานุพาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเต
| พระธาตุจอมจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่จัน จังหวัดอะไร | {
"answer": [
"จังหวัดเชียงราย"
],
"answer_begin_position": [
172
],
"answer_end_position": [
187
]
} |
502 | 579,386 | พระธาตุจอมจันทร์ พระธาตุจอมจันทร์ ตั้งอยู่ในวัดจอมจันทร์ ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม และเป็นปูชนียสถานสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงรายประวัติพระธาตุจอมจันทร์ ประวัติพระธาตุจอมจันทร์. ผู้สร้างพระธาตุจอมจันทร์ คือ พระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2458 พระครูบาทิพย์ ชักชวนสาธุชนร่วมกันก่อสร้างพระเจดีย์ ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ได้ก่อสร้างวิหาร กุฎิ และศาลา ตั้งชื่อว่า "วัดพระธาตุจอมจันทร์" มีภิกษุจำพรรษาติดต่อกันมา จนถึง พ.ศ. 2480 ได้เกิดไฟป่าลุกลามไหม้ศาลาและกุฎิจนหมด เหลือแต่พระเจดีย์และวิหาร ด้วยศรัทธาชาวบ้านจึงย้ายมาสร้างวัดอยู่ข้างล่าง ห่างวัดเดิม 300 เมตร วัดพระธาตุจอมจันทร์จึงได้กลายเป็นวัดร้างแต่นั้นมา จนถึง พ.ศ. 2542 จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ความเชื่อ ความเชื่อ. ในการไหว้ พระธาตุจอมจันทร์ เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้คำบูชาพระธาตุจอมจันทร์ คำบูชาพระธาตุจอมจันทร์. อิทัง วันทามิ เจติยัง สักกัจจัง วะระสัญญิตัง อะหัง วันทามิ ธาตุโย อิธะปัพะเต ปะติฏฐิตา เอตนะ มะมะปุญญานุพาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเต
| พระธาตุจอมจันทร์ ตั้งอยู่ในวัดจอมจันทร์ ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ใครเป็นผู้สร้าง | {
"answer": [
"พระครูบาทิพย์"
],
"answer_begin_position": [
344
],
"answer_end_position": [
357
]
} |
503 | 128,771 | ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ (Reinhold Messner) เกิดวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1944 (พ.ศ. 2487) นักปีนเขาชาวอิตาลี ผู้เป็นตำนานที่ยังมีชีวิต มนุษย์คนแรกที่ขึ้นสู่ ยอดเขาเอเวอเรสต์ เพียงลำพัง โดยไม่ใช้ ถังออกซิเจนสำรอง ไม่ใช้ลูกหาบ รวมทั้งไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือที่ใช้กันทั่วไป เช่น หมุดยึด และเชือกนิรภัย เป็นเจ้าของสถิติ พิชิตยอดเขาที่มีความสูงเกิน 8,000 เมตร ครบทั้ง 14 แห่ง เป็นคนแรกของโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 และจนถึงปัจจุบันมีผู้สามารถพิชิต 14 ยอดเขาดังกล่าวได้ครบเพียง 14 คน หลังประสบความสำเร็จในการปีนเขาสูงแล้ว ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ยังได้สร้างสถิติการเดินเท้าในทางราบ เช่นเดินเท้าสู่ขั้วโลกเหนือ ระยะทาง 200 กิโลเมตร เดินเท้าข้าม เกาะกรีนแลนด์ ระยะทางถึง 2,000 กิโลเมตร เดินเท้าข้ามทิเบตตะวันออก ระยะทาง 1000 กิโลเมตร และเดินเท้าวนรอบ ทะเลทรายโกบี ระยะทางถึง 2,000 กิโลเมตร เป็นต้นสถิติการพิชิตยอดเขาสูงของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์สถิติการพิชิตยอดเขาสูงของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์. - ปี ค.ศ. 1950 ติดตามโจเซฟ เมสเนอร์ (Josef Messner) ผู้เป็นบิดา พิชิตยอดเขาสูง 900 เมตรใน เทือกเขาไกสเลอร์ชปิตเซน ได้เมื่ออายุเพียง 5 ขวบ - ปี ค.ศ. 1970 พิชิตยอดเขา นังกาปาร์บัต (Nanga Parbat) ยอดเขาสูงอันดับ 9 ของโลก (ความสูง 8,125 เมตร) โดยร่วมทีมกับน้องชายคือ กึนเธอร์ เมสเนอร์ (Günther Messner) ปีนขึ้นจากด้านที่ยากที่สุดจนสำเร็จ แต่ในการลงจากยอดเขา กึนเธอร์ได้หายสาบสูญไประหว่างเส้นทาง และไรน์โฮลด์ต้องตัดนิ้วเท้าทิ้งถึง 7 นิ้วเนื่องจากถูกหิมะกัด จากการพยายามค้นหาน้องชาย ในสภาพอากาศเย็นจัดเป็นเวลานาน แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไรน์โฮลด์ ยังตัดสินใจปีนเขาต่อไป และกลายเป็นจุดกำเนิดของตำนานการปีนเขาที่ยิ่งใหญ่ - ปี ค.ศ. 1972 พิชิตยอดเขา มนัสลู (Manaslu) ยอดเขาสูงอันดับ 8 ของโลก (ความสูง 8,163 เมตร) - ปี ค.ศ. 1975 ร่วมกับ ปีเตอร์ ฮาเบเลอร์ (Peter Habeler) พิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 1 (Gasherbrum I หรือ K5) ยอดเขาสูงอันดับ 11 ของโลก (ความสูง 8,068 เมตร) โดยไม่ใช้อุปกรณ์ปีนเขาสูงที่ใช้กันตามปกติ ทั้ง แคมป์ เชือก หมุดยึด และถังออกซิเจน และไม่ใช้ลูกหาบ ได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1977- พิชิตยอดเขา เธาลาคีรี (Dhaulagiri) ยอดเขาสูงอันดับ 7 ของโลก (ความสูง 8,167 เมตร) - บินทดสอบโดยไม่ปรับความดันอากาศที่ความสูงระดับยอดเขาเอเวอเรสต์ (ประมาณ 9 พันเมตร) ว่าจะสามารถอยู่รอดโดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรองได้หรือไม่ - ปี ค.ศ. 1978- ในเดือนพฤษภาคม ร่วมกับ ปีเตอร์ ฮาเบเลอร์ (Peter Habeler) พิชิต ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Everest) ยอดเขาสูงที่สุดในโลก (ความสูง 8,850 เมตร) โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรอง ไม่ใช้อุปกรณ์ปีนเขาสูงที่ใช้กันตามปกติ ทั้ง แคมป์ เชือก หมุดยึด และไม่ใช้ลูกหาบ ได้สำเร็จเป็นทีมแรกของโลก - ในเดือนสิงหาคม ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา นังกาปาร์บัต ซ้ำอีกครั้งเพียงลำพังคนเดียวได้สำเร็จ แต่ไรน์โฮลด์ยังคงค้นหาร่างของน้องชายไม่พบ - ปี ค.ศ. 1979 พิชิตยอดเขา เคทู (K2 หรือ Chogori) ยอดเขาสูงอันดับ 2 ของโลก (ความสูง 8,611 เมตร) ที่ขึ้นชื่อว่า ปีนยากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก - ปี ค.ศ. 1980 ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ กลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลก ที่ขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์เพียงลำพัง โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรองได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1981 พิชิตยอดเขา ชิชาพังมะ (Shisha Pangma) ยอดเขาสูงอันดับ 13 ของโลก (ความสูง 8,046 เมตร) - ปี ค.ศ. 1982- พิชิตยอดเขา กันเจนชุงคา (Kangchenjunga) ยอดเขาสูงอันดับ 3 ของโลก (ความสูง 8,586 เมตร) - พิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 2 (Gasherbrum II หรือ K4) ยอดเขาสูงอันดับ 14 ของโลก (ความสูง 8,035 เมตร) - พิชิตยอดเขา บรอดพีก (Broad Peak หรือ K3) ยอดเขาสูงอันดับ 12 ของโลก (ความสูง 8,047 เมตร) - พิชิตยอดเขา โชโอยู (Cho Oyu) ยอดเขาสูงอันดับ 6 ของโลก (ความสูง 8,201 เมตร) - ปี ค.ศ. 1983 ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา โชโอยู (Cho Oyu) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1984- ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 1 (Gasherbrum I หรือ K5) อีกครั้ง - ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 2 (Gasherbrum II หรือ K4) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1985- พิชิตยอดเขา อันนะปุรณะ (Annapurna) ยอดเขาสูงอันดับ 10 ของโลก (ความสูง 8,091 เมตร) ที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก - ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา เธาลาคีรี (Dhaulagiri) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1986- พิชิตยอดเขา มะกะลู (Makalu) ยอดเขาสูงอันดับ 5 ของโลก (ความสูง 8,463 เมตร) - ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ กลายเป็นมนุษย์คนแรก ที่สามารถพิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรได้ครบทั้ง 14 แห่ง เมื่อสามารถพิชิตยอดเขา โลตเซ (Lhotse) ยอดเขาสูงอันดับ 4 ของโลก (ความสูง 8,516 เมตร) ได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1989 ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา โลตเซ (Lhotse) อีกครั้งสถิติการเดินเท้าในทางราบของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ สถิติการเดินเท้าในทางราบของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์. ภายหลังประสบความสำเร็จสูงสุดในการพิชิตภูเขาสูง ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ได้เปลี่ยนไปทำสถิติในทางราบ คือ- ปี ค.ศ. 1992 เดินเท้าข้าม ทะเลทราย ตากลา มากัน (Takla Makan) ใน ซินเกียง ประเทศจีน ระยะทาง 200 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1993 เดินเท้าข้าม เกาะกรีนแลนด์ ระยะทาง 2000 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1995 เดินเท้าจาก สถานีขั้วโลก ไป ขั้วโลกเหนือ ระยะทาง 200 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1996 เดินเท้าข้าม ทิเบตตะวันออก ระยะทาง 1000 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 2000 เดินเท้าข้าม เซาท์จอร์เจีย (สหราชอาณาจักร) ระยะทาง 42 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 2004 เดินเท้าวนรอบ ทะเลทรายโกบี ระยะทาง 2000 กิโลเมตรการสังหารความเป็นไปไม่ได้ การสังหารความเป็นไปไม่ได้. ในบทความเรื่อง "การสังหารความเป็นไปไม่ได้" (The Murder of the Impossible) ที่ ไรน์โฮลด์ เมนเนอร์ เขียนขึ้นเมื่ออายุ 27 ปี ไรน์โฮลด์ ได้อุทธรณ์แทนภูเขา ที่ไม่สามารถ "ปกป้องตัวเอง" และอุทธรณ์แทนนักปีนเขา ที่สูญเสียโอกาส ในการพิสูจน์ความกล้าหาญ และความสามารถของตัวเอง โดยได้กล่าวโจมตีการปีนเขา ที่ใช้หมุดยึดเพื่อช่วยยึดเกาะ ขณะที่ไรน์โฮล์แน่วแน่กับการไม่ใช้หมุดยึด และไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรอง ซึ่งมีชื่อเรียก วิธีการปีนเขาแบบนี้ว่า การปีนเขาแบบอัลไพน์ (alpine-style climbing) ความสำเร็จในการปีนเขาสูง ในแนวทางของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ได้ช่วยปลดปล่อยนักปีนเขาและภูเขา ให้เป็นอิสระ ด้วยการนำเสนอทางเลือก ที่แตกต่างจากการปีนเขาสูง ที่มีค่าใช้จ่ายแพงๆ แบบเดิมๆ เช่น การต้องจ้างลูกหาบพื้นเมือง เพื่อช่วยขนถังออกซิเจนสำรอง น้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม ต่อนักปีนเขาหนึ่งคนขึ้นไปด้วย ความสำเร็จอย่างงดงามในการปีนเขาของ ไรน์โฮลด์็ ยังได้ทำลายความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า มนุษย์มีขีดจำกัด ที่จะไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ที่ความสูงเกินระดับ 7,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และทำให้เขาเปรียบเหมือน มือสังหาร ที่เข่นฆ่า "ความเป็นไปไม่ได้" และกลบฝังพวกมันให้จมดิน ช่วงท้ายของชีวิตในวัยกว่า 60 ปี ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ทุ่มเทสร้างพิพิธภัณฑ์ภูเขาขึ้น 5 แห่ง แห่งสุดท้ายคือ ภูเขาไกรลาส ซึ่งเมื่อผนวกเข้ากับ พิพิธภัณฑ์อีกสี่แห่งที่สร้างขึ้นก่อนหน้า จะรวมกันเป็น พิพิธภัณฑ์ภูเขาของเมสเนอร์ (Messner Mountain Museum , MMM) ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับภูเขา" เขาเห็นว่า พิพิธภัณฑ์ทั้งหมดนี้ ประกอบไปด้วยสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อ การทดสอบ ขีดจำกัดของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบาก ความพยายามจนสุดกำลัง และการอยู่ในสภาพอากาศอันเลวร้าย ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ มีแนวคิดมุ่งมั่นที่จะเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาเบื้องหลังความสำเร็จของเขา โดยได้กล่าวไว้ว่า " หากเราทำถนนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ เราจะไม่มีวันได้พบกับภูเขา หากเราเตรียมการทุกอย่างและมีคนนำทางคอยดูแลความปลอดภัย เราก็จะไม่มีวันได้พบกับภูเขา การได้พบและเป็นหนึ่งเดียวกับภูเขาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณ... เผชิญหน้ากับมันด้วยขีดจำกัดของตัวคุณเอง "รายนามผู้พิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรครบทั้ง 14 แห่งรายนามผู้พิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรครบทั้ง 14 แห่ง. 1. ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ (Reinhold Messner) ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1970-1986 2. Jerzy Kukuczka ชาวโปแลนด์ ระหว่างปี ค.ศ. 1979-1987 3. Erhard Loretan ชาวสวิส ระหว่างปี ค.ศ. 1982-1995 4. Carlos Carsolio ชาวเม็กซิโก ระหว่างปี ค.ศ. 1985-1996 5. Krzysztof Wielicki ชาวโปแลนด์ ระหว่างปี ค.ศ. 1980-1996 6. Juanito Oiarzabal ชาวสเปน ระหว่างปี ค.ศ. 1985-1999 7. Sergio Martini ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1976-2000 8. Hong-Gil Um ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1988-2000 9. Park Young Seok ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2001 10. Alberto Inurrategi ชาวสเปน ระหว่างปี ค.ศ. 1991-2002 11. Han Wang Yong ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1994-2003 12. Ed Viesturs ชาวสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ. 1989-2005 13. Alan Hinkes ชาวอังกฤษ ระหว่างปี ค.ศ. 1987-2005 14. Silvio Mondinelli ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2007
| เมื่อตอนไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ อายุ 5 ขวบ ในปี ค.ศ. 1950 ได้พิชิตเทือกเขาที่มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"เทือกเขาไกสเลอร์ชปิตเซน"
],
"answer_begin_position": [
1064
],
"answer_end_position": [
1087
]
} |
1,447 | 128,771 | ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ (Reinhold Messner) เกิดวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1944 (พ.ศ. 2487) นักปีนเขาชาวอิตาลี ผู้เป็นตำนานที่ยังมีชีวิต มนุษย์คนแรกที่ขึ้นสู่ ยอดเขาเอเวอเรสต์ เพียงลำพัง โดยไม่ใช้ ถังออกซิเจนสำรอง ไม่ใช้ลูกหาบ รวมทั้งไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือที่ใช้กันทั่วไป เช่น หมุดยึด และเชือกนิรภัย เป็นเจ้าของสถิติ พิชิตยอดเขาที่มีความสูงเกิน 8,000 เมตร ครบทั้ง 14 แห่ง เป็นคนแรกของโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 และจนถึงปัจจุบันมีผู้สามารถพิชิต 14 ยอดเขาดังกล่าวได้ครบเพียง 14 คน หลังประสบความสำเร็จในการปีนเขาสูงแล้ว ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ยังได้สร้างสถิติการเดินเท้าในทางราบ เช่นเดินเท้าสู่ขั้วโลกเหนือ ระยะทาง 200 กิโลเมตร เดินเท้าข้าม เกาะกรีนแลนด์ ระยะทางถึง 2,000 กิโลเมตร เดินเท้าข้ามทิเบตตะวันออก ระยะทาง 1000 กิโลเมตร และเดินเท้าวนรอบ ทะเลทรายโกบี ระยะทางถึง 2,000 กิโลเมตร เป็นต้นสถิติการพิชิตยอดเขาสูงของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์สถิติการพิชิตยอดเขาสูงของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์. - ปี ค.ศ. 1950 ติดตามโจเซฟ เมสเนอร์ (Josef Messner) ผู้เป็นบิดา พิชิตยอดเขาสูง 900 เมตรใน เทือกเขาไกสเลอร์ชปิตเซน ได้เมื่ออายุเพียง 5 ขวบ - ปี ค.ศ. 1970 พิชิตยอดเขา นังกาปาร์บัต (Nanga Parbat) ยอดเขาสูงอันดับ 9 ของโลก (ความสูง 8,125 เมตร) โดยร่วมทีมกับน้องชายคือ กึนเธอร์ เมสเนอร์ (Günther Messner) ปีนขึ้นจากด้านที่ยากที่สุดจนสำเร็จ แต่ในการลงจากยอดเขา กึนเธอร์ได้หายสาบสูญไประหว่างเส้นทาง และไรน์โฮลด์ต้องตัดนิ้วเท้าทิ้งถึง 7 นิ้วเนื่องจากถูกหิมะกัด จากการพยายามค้นหาน้องชาย ในสภาพอากาศเย็นจัดเป็นเวลานาน แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไรน์โฮลด์ ยังตัดสินใจปีนเขาต่อไป และกลายเป็นจุดกำเนิดของตำนานการปีนเขาที่ยิ่งใหญ่ - ปี ค.ศ. 1972 พิชิตยอดเขา มนัสลู (Manaslu) ยอดเขาสูงอันดับ 8 ของโลก (ความสูง 8,163 เมตร) - ปี ค.ศ. 1975 ร่วมกับ ปีเตอร์ ฮาเบเลอร์ (Peter Habeler) พิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 1 (Gasherbrum I หรือ K5) ยอดเขาสูงอันดับ 11 ของโลก (ความสูง 8,068 เมตร) โดยไม่ใช้อุปกรณ์ปีนเขาสูงที่ใช้กันตามปกติ ทั้ง แคมป์ เชือก หมุดยึด และถังออกซิเจน และไม่ใช้ลูกหาบ ได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1977- พิชิตยอดเขา เธาลาคีรี (Dhaulagiri) ยอดเขาสูงอันดับ 7 ของโลก (ความสูง 8,167 เมตร) - บินทดสอบโดยไม่ปรับความดันอากาศที่ความสูงระดับยอดเขาเอเวอเรสต์ (ประมาณ 9 พันเมตร) ว่าจะสามารถอยู่รอดโดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรองได้หรือไม่ - ปี ค.ศ. 1978- ในเดือนพฤษภาคม ร่วมกับ ปีเตอร์ ฮาเบเลอร์ (Peter Habeler) พิชิต ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Everest) ยอดเขาสูงที่สุดในโลก (ความสูง 8,850 เมตร) โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรอง ไม่ใช้อุปกรณ์ปีนเขาสูงที่ใช้กันตามปกติ ทั้ง แคมป์ เชือก หมุดยึด และไม่ใช้ลูกหาบ ได้สำเร็จเป็นทีมแรกของโลก - ในเดือนสิงหาคม ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา นังกาปาร์บัต ซ้ำอีกครั้งเพียงลำพังคนเดียวได้สำเร็จ แต่ไรน์โฮลด์ยังคงค้นหาร่างของน้องชายไม่พบ - ปี ค.ศ. 1979 พิชิตยอดเขา เคทู (K2 หรือ Chogori) ยอดเขาสูงอันดับ 2 ของโลก (ความสูง 8,611 เมตร) ที่ขึ้นชื่อว่า ปีนยากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก - ปี ค.ศ. 1980 ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ กลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลก ที่ขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์เพียงลำพัง โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรองได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1981 พิชิตยอดเขา ชิชาพังมะ (Shisha Pangma) ยอดเขาสูงอันดับ 13 ของโลก (ความสูง 8,046 เมตร) - ปี ค.ศ. 1982- พิชิตยอดเขา กันเจนชุงคา (Kangchenjunga) ยอดเขาสูงอันดับ 3 ของโลก (ความสูง 8,586 เมตร) - พิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 2 (Gasherbrum II หรือ K4) ยอดเขาสูงอันดับ 14 ของโลก (ความสูง 8,035 เมตร) - พิชิตยอดเขา บรอดพีก (Broad Peak หรือ K3) ยอดเขาสูงอันดับ 12 ของโลก (ความสูง 8,047 เมตร) - พิชิตยอดเขา โชโอยู (Cho Oyu) ยอดเขาสูงอันดับ 6 ของโลก (ความสูง 8,201 เมตร) - ปี ค.ศ. 1983 ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา โชโอยู (Cho Oyu) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1984- ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 1 (Gasherbrum I หรือ K5) อีกครั้ง - ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา แกเชอร์บรูม 2 (Gasherbrum II หรือ K4) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1985- พิชิตยอดเขา อันนะปุรณะ (Annapurna) ยอดเขาสูงอันดับ 10 ของโลก (ความสูง 8,091 เมตร) ที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก - ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา เธาลาคีรี (Dhaulagiri) อีกครั้ง - ปี ค.ศ. 1986- พิชิตยอดเขา มะกะลู (Makalu) ยอดเขาสูงอันดับ 5 ของโลก (ความสูง 8,463 เมตร) - ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ กลายเป็นมนุษย์คนแรก ที่สามารถพิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรได้ครบทั้ง 14 แห่ง เมื่อสามารถพิชิตยอดเขา โลตเซ (Lhotse) ยอดเขาสูงอันดับ 4 ของโลก (ความสูง 8,516 เมตร) ได้สำเร็จ - ปี ค.ศ. 1989 ย้อนกลับไปพิชิตยอดเขา โลตเซ (Lhotse) อีกครั้งสถิติการเดินเท้าในทางราบของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ สถิติการเดินเท้าในทางราบของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์. ภายหลังประสบความสำเร็จสูงสุดในการพิชิตภูเขาสูง ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ได้เปลี่ยนไปทำสถิติในทางราบ คือ- ปี ค.ศ. 1992 เดินเท้าข้าม ทะเลทราย ตากลา มากัน (Takla Makan) ใน ซินเกียง ประเทศจีน ระยะทาง 200 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1993 เดินเท้าข้าม เกาะกรีนแลนด์ ระยะทาง 2000 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1995 เดินเท้าจาก สถานีขั้วโลก ไป ขั้วโลกเหนือ ระยะทาง 200 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 1996 เดินเท้าข้าม ทิเบตตะวันออก ระยะทาง 1000 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 2000 เดินเท้าข้าม เซาท์จอร์เจีย (สหราชอาณาจักร) ระยะทาง 42 กิโลเมตร - ปี ค.ศ. 2004 เดินเท้าวนรอบ ทะเลทรายโกบี ระยะทาง 2000 กิโลเมตรการสังหารความเป็นไปไม่ได้ การสังหารความเป็นไปไม่ได้. ในบทความเรื่อง "การสังหารความเป็นไปไม่ได้" (The Murder of the Impossible) ที่ ไรน์โฮลด์ เมนเนอร์ เขียนขึ้นเมื่ออายุ 27 ปี ไรน์โฮลด์ ได้อุทธรณ์แทนภูเขา ที่ไม่สามารถ "ปกป้องตัวเอง" และอุทธรณ์แทนนักปีนเขา ที่สูญเสียโอกาส ในการพิสูจน์ความกล้าหาญ และความสามารถของตัวเอง โดยได้กล่าวโจมตีการปีนเขา ที่ใช้หมุดยึดเพื่อช่วยยึดเกาะ ขณะที่ไรน์โฮล์แน่วแน่กับการไม่ใช้หมุดยึด และไม่ใช้ถังออกซิเจนสำรอง ซึ่งมีชื่อเรียก วิธีการปีนเขาแบบนี้ว่า การปีนเขาแบบอัลไพน์ (alpine-style climbing) ความสำเร็จในการปีนเขาสูง ในแนวทางของ ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ได้ช่วยปลดปล่อยนักปีนเขาและภูเขา ให้เป็นอิสระ ด้วยการนำเสนอทางเลือก ที่แตกต่างจากการปีนเขาสูง ที่มีค่าใช้จ่ายแพงๆ แบบเดิมๆ เช่น การต้องจ้างลูกหาบพื้นเมือง เพื่อช่วยขนถังออกซิเจนสำรอง น้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม ต่อนักปีนเขาหนึ่งคนขึ้นไปด้วย ความสำเร็จอย่างงดงามในการปีนเขาของ ไรน์โฮลด์็ ยังได้ทำลายความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า มนุษย์มีขีดจำกัด ที่จะไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ที่ความสูงเกินระดับ 7,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และทำให้เขาเปรียบเหมือน มือสังหาร ที่เข่นฆ่า "ความเป็นไปไม่ได้" และกลบฝังพวกมันให้จมดิน ช่วงท้ายของชีวิตในวัยกว่า 60 ปี ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ ทุ่มเทสร้างพิพิธภัณฑ์ภูเขาขึ้น 5 แห่ง แห่งสุดท้ายคือ ภูเขาไกรลาส ซึ่งเมื่อผนวกเข้ากับ พิพิธภัณฑ์อีกสี่แห่งที่สร้างขึ้นก่อนหน้า จะรวมกันเป็น พิพิธภัณฑ์ภูเขาของเมสเนอร์ (Messner Mountain Museum , MMM) ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับภูเขา" เขาเห็นว่า พิพิธภัณฑ์ทั้งหมดนี้ ประกอบไปด้วยสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อ การทดสอบ ขีดจำกัดของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบาก ความพยายามจนสุดกำลัง และการอยู่ในสภาพอากาศอันเลวร้าย ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ มีแนวคิดมุ่งมั่นที่จะเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาเบื้องหลังความสำเร็จของเขา โดยได้กล่าวไว้ว่า " หากเราทำถนนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ เราจะไม่มีวันได้พบกับภูเขา หากเราเตรียมการทุกอย่างและมีคนนำทางคอยดูแลความปลอดภัย เราก็จะไม่มีวันได้พบกับภูเขา การได้พบและเป็นหนึ่งเดียวกับภูเขาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณ... เผชิญหน้ากับมันด้วยขีดจำกัดของตัวคุณเอง "รายนามผู้พิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรครบทั้ง 14 แห่งรายนามผู้พิชิตยอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตรครบทั้ง 14 แห่ง. 1. ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ (Reinhold Messner) ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1970-1986 2. Jerzy Kukuczka ชาวโปแลนด์ ระหว่างปี ค.ศ. 1979-1987 3. Erhard Loretan ชาวสวิส ระหว่างปี ค.ศ. 1982-1995 4. Carlos Carsolio ชาวเม็กซิโก ระหว่างปี ค.ศ. 1985-1996 5. Krzysztof Wielicki ชาวโปแลนด์ ระหว่างปี ค.ศ. 1980-1996 6. Juanito Oiarzabal ชาวสเปน ระหว่างปี ค.ศ. 1985-1999 7. Sergio Martini ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1976-2000 8. Hong-Gil Um ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1988-2000 9. Park Young Seok ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2001 10. Alberto Inurrategi ชาวสเปน ระหว่างปี ค.ศ. 1991-2002 11. Han Wang Yong ชาวเกาหลีใต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1994-2003 12. Ed Viesturs ชาวสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ. 1989-2005 13. Alan Hinkes ชาวอังกฤษ ระหว่างปี ค.ศ. 1987-2005 14. Silvio Mondinelli ชาวอิตาลี ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2007
| ไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ หรือ Reinhold Messner นักปีนเขาชาวอิตาลี เกิดวันที่เท่าไร | {
"answer": [
"17"
],
"answer_begin_position": [
161
],
"answer_end_position": [
163
]
} |
504 | 907,029 | พระนางยุนซาน พระนางยุนซาน ( ; 1713–1771) พระอัครมเหสีใน พระเจ้าอลองพญา ปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์คองบอง และเป็นพระราชมารดาของกษัตริย์แห่งราชวงศ์อลองพญาถึง 3 พระองค์คือ พระเจ้ามังลอก กษัตริย์องค์ที่ 2 , พระเจ้ามังระ กษัตริย์องค์ที่ 3 และ พระเจ้าปดุง กษัตริย์องค์ที่ 6 พระนางเป็นที่รู้จักจากการเข้ามายุติความขัดแย้งของพระราชโอรสองค์ใหญ่ 2 พระองค์คือ มังลอก และ มังระ ภายหลังจากพระเจ้าอลองพญาสวรรคตใน ค.ศ. 1760 ทำให้มังลอกได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าอลองพญา พระนางยุนซานสวรรคตในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1771 ในรัชสมัยพระเจ้ามังระ
| พระอัครมเหสีในพระเจ้าอลองพญา ปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์คองบอง มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"พระนางยุนซาน"
],
"answer_begin_position": [
100
],
"answer_end_position": [
112
]
} |
505 | 907,029 | พระนางยุนซาน พระนางยุนซาน ( ; 1713–1771) พระอัครมเหสีใน พระเจ้าอลองพญา ปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์คองบอง และเป็นพระราชมารดาของกษัตริย์แห่งราชวงศ์อลองพญาถึง 3 พระองค์คือ พระเจ้ามังลอก กษัตริย์องค์ที่ 2 , พระเจ้ามังระ กษัตริย์องค์ที่ 3 และ พระเจ้าปดุง กษัตริย์องค์ที่ 6 พระนางเป็นที่รู้จักจากการเข้ามายุติความขัดแย้งของพระราชโอรสองค์ใหญ่ 2 พระองค์คือ มังลอก และ มังระ ภายหลังจากพระเจ้าอลองพญาสวรรคตใน ค.ศ. 1760 ทำให้มังลอกได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าอลองพญา พระนางยุนซานสวรรคตในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1771 ในรัชสมัยพระเจ้ามังระ
| บุตรของพระนางยุนซาน ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์อลองพญา กี่พระองค์ | {
"answer": [
"3 พระองค์"
],
"answer_begin_position": [
239
],
"answer_end_position": [
248
]
} |
506 | 150,800 | พรรคชัยเตลังคานา พรรคชัยเตลังคานา (Jai Telangana Party) เป็นพรรคการเมืองในรัฐอันธรประเทศ ประเทศอินเดีย ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2541 เป็นส่วนหนึ่งของ ราษฏริยชันตทัล ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อแยกรัฐเตลังคานาออกจากรัฐอันธรประเทศ ผู้ก่อตั้งพรรคคือ พี อินทรา เรดดี ซึ่งเคยทำงานกับพรรคเตลุกุเทเสมมาก่อน ต่อมาจึงได้ชักชวนลักษมี ปาราวตีและกลุ่มของเธอมาตั้งพรรคชัยเตลังคานา หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 พรรคชัย เตลังคานาได้รวมเข้ากับพรรคคองเกรส ส่วนเรดดีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ พ.ศ. 2543
| พรรคชัยเตลังคานาเป็นพรรคการเมืองในรัฐใดของประเทศอินเดีย | {
"answer": [
"รัฐอันธรประเทศ"
],
"answer_begin_position": [
165
],
"answer_end_position": [
179
]
} |
507 | 150,800 | พรรคชัยเตลังคานา พรรคชัยเตลังคานา (Jai Telangana Party) เป็นพรรคการเมืองในรัฐอันธรประเทศ ประเทศอินเดีย ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2541 เป็นส่วนหนึ่งของ ราษฏริยชันตทัล ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อแยกรัฐเตลังคานาออกจากรัฐอันธรประเทศ ผู้ก่อตั้งพรรคคือ พี อินทรา เรดดี ซึ่งเคยทำงานกับพรรคเตลุกุเทเสมมาก่อน ต่อมาจึงได้ชักชวนลักษมี ปาราวตีและกลุ่มของเธอมาตั้งพรรคชัยเตลังคานา หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 พรรคชัย เตลังคานาได้รวมเข้ากับพรรคคองเกรส ส่วนเรดดีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ พ.ศ. 2543
| พรรคชัยเตลังคานาเป็นพรรคการเมืองในรัฐอันธรประเทศของอินเดีย ผู้ก่อตั้งคือใคร | {
"answer": [
"พี อินทรา เรดดี"
],
"answer_begin_position": [
351
],
"answer_end_position": [
366
]
} |
508 | 70,369 | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ (พ.ศ. 2277 - 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2342) หรือพระนามเดิมว่า แก้ว พระธิดาลำดับที่สองในสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประสูติจากพระอัครชายาหยก ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ เป็นพระพี่นางพระองค์รองในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี ทรงสถาปนาท่านขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ มีพระโอรส-ธิดา กับ เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน คหบดีชาวจีนที่สืบเชื้อสายมาจากขุนนางจีนในกรุงปักกิ่ง 6 พระองค์ คือ1. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตัน กรมหลวงเทพหริรักษ์ เป็นต้น 2. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิม กรมขุนอนัคฆนารี 3. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าขุนเณร (สิ้นพระพระชนม์เมื่อพระชันษา 7 ปี) 4. สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระนามเดิม บุญรอด เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 5. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี เป็นต้น 6. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเกศ กรมขุนอิศรานุรักษ์ เป็นต้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์นั้น มีพระตำหนักอยู่เบื้องหลังหมู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และพระวิมานรัตยา เรียกว่าพระตำหนักแดง ได้ทรงราชการทรงกำกับเครื่องใหญ่ในโรงวิเศษต้น และการสะดึงและอื่นๆ เป็นหลายอย่าง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 1 เมื่อวันอาทิตย์ แรม 11 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม จ.ศ. 1161 ตรงกับ พ.ศ. 2342 พระชันษา 60 ปี เศษ
| พระมารดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"พระอัครชายาหยก"
],
"answer_begin_position": [
346
],
"answer_end_position": [
360
]
} |
1,430 | 70,369 | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ (พ.ศ. 2277 - 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2342) หรือพระนามเดิมว่า แก้ว พระธิดาลำดับที่สองในสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ประสูติจากพระอัครชายาหยก ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ เป็นพระพี่นางพระองค์รองในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี ทรงสถาปนาท่านขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ มีพระโอรส-ธิดา กับ เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน คหบดีชาวจีนที่สืบเชื้อสายมาจากขุนนางจีนในกรุงปักกิ่ง 6 พระองค์ คือ1. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตัน กรมหลวงเทพหริรักษ์ เป็นต้น 2. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิม กรมขุนอนัคฆนารี 3. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าขุนเณร (สิ้นพระพระชนม์เมื่อพระชันษา 7 ปี) 4. สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระนามเดิม บุญรอด เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 5. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี เป็นต้น 6. สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเกศ กรมขุนอิศรานุรักษ์ เป็นต้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์นั้น มีพระตำหนักอยู่เบื้องหลังหมู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และพระวิมานรัตยา เรียกว่าพระตำหนักแดง ได้ทรงราชการทรงกำกับเครื่องใหญ่ในโรงวิเศษต้น และการสะดึงและอื่นๆ เป็นหลายอย่าง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 1 เมื่อวันอาทิตย์ แรม 11 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม จ.ศ. 1161 ตรงกับ พ.ศ. 2342 พระชันษา 60 ปี เศษ
| สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 1 เมื่อวันอะไร | {
"answer": [
"อาทิตย์"
],
"answer_begin_position": [
1537
],
"answer_end_position": [
1544
]
} |
509 | 861,498 | พระยาประชาชีพ (ศิลา) สมเด็จเจ้าฟ้าศิลา หรือ พระยาประชาชีพ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับราชการจนได้รับพระราชทาน ให้ดำรงบรรดาศักดิ์และราชทินนาม ที่ พระยาประชาชีพ พระองค์ทรงเป็นต้นสกุล "ศิลานนท์"พระโอรส-พระธิดา พระโอรส-พระธิดา. พระองค์มีพระโอรส-พระธิดา คือ- คุณหญิงทับ เป็นหม่อมในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุริยา กรมพระรามอิศเรศ ต้น - คุณหญิงพลับ เป็นหม่อมในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพงศ์อิศเรศ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช ต้น - คุณหญิงหนู - คุณชายอิ่ม เป็นหลวงราชนรารักษ์ ต้นสกุลศิลานนท์
| พระบิดาของสมเด็จเจ้าฟ้าศิลาหรือพระยาประชาชีพ มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"
],
"answer_begin_position": [
169
],
"answer_end_position": [
194
]
} |
510 | 861,498 | พระยาประชาชีพ (ศิลา) สมเด็จเจ้าฟ้าศิลา หรือ พระยาประชาชีพ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับราชการจนได้รับพระราชทาน ให้ดำรงบรรดาศักดิ์และราชทินนาม ที่ พระยาประชาชีพ พระองค์ทรงเป็นต้นสกุล "ศิลานนท์"พระโอรส-พระธิดา พระโอรส-พระธิดา. พระองค์มีพระโอรส-พระธิดา คือ- คุณหญิงทับ เป็นหม่อมในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุริยา กรมพระรามอิศเรศ ต้น - คุณหญิงพลับ เป็นหม่อมในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพงศ์อิศเรศ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช ต้น - คุณหญิงหนู - คุณชายอิ่ม เป็นหลวงราชนรารักษ์ ต้นสกุลศิลานนท์
| สมเด็จเจ้าฟ้าศิลา หรือ พระยาประชาชีพ พระองค์ทรงเป็นต้นสกุลอะไร | {
"answer": [
"ศิลานนท์"
],
"answer_begin_position": [
342
],
"answer_end_position": [
350
]
} |
511 | 446,352 | เทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ เทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ () เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมเป็นประจำทุกปี ที่เขตอะดะจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นที่แม่น้ำอะระกะวะ ในปีที่ 33 ที่จัดเทศกาลดังกล่าว คือ พ.ศ. 2554 เทศกาลนี้ได้รับการเลื่อนการจัดออกไปเนื่องด้วยผลที่ตามมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม โดยได้รับการพิจารณาย้ายมาเป็นวันที่ 8 ตุลาคมแทน โดยเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมของรอบประวัติศาสตร์ 33 ปีที่จัดขึ้น รวมถึงเป็นครั้งแรกที่นำเสนอ "ดอกไม้ไฟแห่งเซ็นจู" ที่เคยมีในสมัยก่อน
| เทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในเดือนอะไรเป็นประจำทุกปี | {
"answer": [
"เดือนกรกฎาคม"
],
"answer_begin_position": [
170
],
"answer_end_position": [
182
]
} |
512 | 446,352 | เทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ เทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ () เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมเป็นประจำทุกปี ที่เขตอะดะจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นที่แม่น้ำอะระกะวะ ในปีที่ 33 ที่จัดเทศกาลดังกล่าว คือ พ.ศ. 2554 เทศกาลนี้ได้รับการเลื่อนการจัดออกไปเนื่องด้วยผลที่ตามมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม โดยได้รับการพิจารณาย้ายมาเป็นวันที่ 8 ตุลาคมแทน โดยเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมของรอบประวัติศาสตร์ 33 ปีที่จัดขึ้น รวมถึงเป็นครั้งแรกที่นำเสนอ "ดอกไม้ไฟแห่งเซ็นจู" ที่เคยมีในสมัยก่อน
| สถานที่จัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟอะดะจิ ในประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นที่บริเวณใด | {
"answer": [
"แม่น้ำอะระกะวะ"
],
"answer_begin_position": [
249
],
"answer_end_position": [
263
]
} |
513 | 341,998 | โทมัส เนเวอร์กรีน โทมัส เนเวอร์กรีน (, เกิด 6 มกราคม พ.ศ. 2521 —) มีชื่อจริงว่า โทมัส คริสเตียนเซน () นักร้องเพลงป็อปจากเมืองอาฮุส ประเทศเดนมาร์ก ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2552 เขาได้เข้าแข่งขันการประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์ 2009 ในนามประเทศรัสเซียมาแล้ว จนในปี พ.ศ. 2553 เขาได้ชนะเลิศในการแข่งขันประกวดร้องเพลง Dansk Melodi Grand Prix 2010 ร่วมกับคริสตินา ชานี ในปีเดียวกันนั้นเองเนเวอร์กรีนและชานีก็ได้เข้าแข่งขันประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์ 2010 ด้วยบทเพลง "In a Moment Like This" ซึ่งเนเวอร์กรีนและชานีได้ขับร้องเพลงนี้ในแข่งขัน และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 โดยได้คะแนนถึง 149 คะแนนผลงานอัลบั้มSince You've Been Gone ผลงาน. อัลบั้ม. Since You've Been Gone. ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2003 โดย CD Baby1. Since You've Been Gone 2. Don't Give Up 3. Your All I Ever Wanted 4. Living On a Desert Island 5. Never Forget 6. I Play for You 7. I Have Been Searching 8. Every Time (I See Your Smile) 9. If Only I Could Reach You 10. You Never Gave Me Your Love 11. I'll Never Let You Go 12. Your All I Ever Wanted (Album Version)In a Moment Like This In a Moment Like This. ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ร่วมกับคริสตินา ชานี โดยมายเวย์มิวสิก1. In a Moment Like This 2. See You Same Time Tomorrow 3. Everytime I Look Into Your Eyes 4. Head Over Heels 5. All You'll Ever Need 6. Here Comes the Rain 7. You're Not in Love 8. One More Try 9. Give Me Back My Heart 10. How Can I Make You Love Me 11. Pick Up the Phone 12. Life Goes On 13. Sleepless 14. Making Miraclesซิงเกิลเพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - เพลงประกอบสำหรับ Humørkortstativsælgerens sønเพลงที่ร้องร่วมกับศิลปินอื่นเพลงที่ร้องร่วมกับศิลปินอื่น. - เพลง Since You've Been Gone (ร้องเดี่ยว) จากอัลบั้ม Мой HiT Выпуск #1 ของประเทศคาซัคสถานมิวสิกวิดีโอมิวสิกวิดีโอ. 1. Every Time (I See Your Smile) (2000) 2. Since You've Been Gone (2003) 3. Just Another Love Song (2004) 4. She Believes in Gold (2005) 5. I Play for You (2007) 6. In a Moment Like This (2010)
| โทมัส คริสเตียนเซน นักร้องเพลงป็อปจากเมืองอาฮุส ประเทศอะไร | {
"answer": [
"ประเทศเดนมาร์ก"
],
"answer_begin_position": [
223
],
"answer_end_position": [
237
]
} |
1,748 | 341,998 | โทมัส เนเวอร์กรีน โทมัส เนเวอร์กรีน (, เกิด 6 มกราคม พ.ศ. 2521 —) มีชื่อจริงว่า โทมัส คริสเตียนเซน () นักร้องเพลงป็อปจากเมืองอาฮุส ประเทศเดนมาร์ก ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2552 เขาได้เข้าแข่งขันการประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์ 2009 ในนามประเทศรัสเซียมาแล้ว จนในปี พ.ศ. 2553 เขาได้ชนะเลิศในการแข่งขันประกวดร้องเพลง Dansk Melodi Grand Prix 2010 ร่วมกับคริสตินา ชานี ในปีเดียวกันนั้นเองเนเวอร์กรีนและชานีก็ได้เข้าแข่งขันประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์ 2010 ด้วยบทเพลง "In a Moment Like This" ซึ่งเนเวอร์กรีนและชานีได้ขับร้องเพลงนี้ในแข่งขัน และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 โดยได้คะแนนถึง 149 คะแนนผลงานอัลบั้มSince You've Been Gone ผลงาน. อัลบั้ม. Since You've Been Gone. ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2003 โดย CD Baby1. Since You've Been Gone 2. Don't Give Up 3. Your All I Ever Wanted 4. Living On a Desert Island 5. Never Forget 6. I Play for You 7. I Have Been Searching 8. Every Time (I See Your Smile) 9. If Only I Could Reach You 10. You Never Gave Me Your Love 11. I'll Never Let You Go 12. Your All I Ever Wanted (Album Version)In a Moment Like This In a Moment Like This. ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ร่วมกับคริสตินา ชานี โดยมายเวย์มิวสิก1. In a Moment Like This 2. See You Same Time Tomorrow 3. Everytime I Look Into Your Eyes 4. Head Over Heels 5. All You'll Ever Need 6. Here Comes the Rain 7. You're Not in Love 8. One More Try 9. Give Me Back My Heart 10. How Can I Make You Love Me 11. Pick Up the Phone 12. Life Goes On 13. Sleepless 14. Making Miraclesซิงเกิลเพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - เพลงประกอบสำหรับ Humørkortstativsælgerens sønเพลงที่ร้องร่วมกับศิลปินอื่นเพลงที่ร้องร่วมกับศิลปินอื่น. - เพลง Since You've Been Gone (ร้องเดี่ยว) จากอัลบั้ม Мой HiT Выпуск #1 ของประเทศคาซัคสถานมิวสิกวิดีโอมิวสิกวิดีโอ. 1. Every Time (I See Your Smile) (2000) 2. Since You've Been Gone (2003) 3. Just Another Love Song (2004) 4. She Believes in Gold (2005) 5. I Play for You (2007) 6. In a Moment Like This (2010)
| โทมัส เนเวอร์กรีน ได้เข้าแข่งขันการประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์ 2009 ในนามของประเทศอะไร | {
"answer": [
"ประเทศรัสเซีย"
],
"answer_begin_position": [
356
],
"answer_end_position": [
369
]
} |
514 | 178,921 | จอร์จ สตีเฟนสัน จอร์จ สตีเฟนสัน () เป็นผู้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำคนแรกของโลก เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2324 ที่ตำบลวีลัม นอร์ททัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ จอร์จ สตีเฟนสัน ได้รับการยกย่องว่าเป็น "บิดาแห่งการรถไฟ" จอร์จสตีเฟนสัน จอร์จสตีเฟนสัน (9 มิถุนายน 1781 - 12 สิงหาคม 1848) เป็นวิศวกรโยธาและวิศวกรเครื่องกลชาวอังกฤษผู้ที่ สร้างทางรถไฟวิ่งบริการสาธารณะระหว่างเมืองเป็นสายแรกในโลกที่ใช้หัวรถจักรไอน้ำระหว่างเมืองลิเวอร์พูลและ เมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1830 โดยที่เขาถูกขานนามในฐานะ "บิดาของรถไฟ" พระราชินีวิกตอเรียได้กล่าวว่า เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของการริเริ่มประยุกต์และไฝ่หาการปรับปรุง,ซามูเอลสไมล์นักเขียนหนังสือเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง ได้กล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกย่องความสำเร็จของเขา, ขนาดความกว้างของทางรถไฟ 4 ฟุต 8 1/2 นิ้ว (1,435 มม. ) บางครั้งเรียกว่า "ขนาดความกว้างของสตีเฟนสัน" เป็นขนาดทางรถไฟมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก.ประวัติ ประวัติ. จอร์จ สตีเฟนสัน เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บิดาทำงานอาชีพเป็นกรรมกรขุดเหมืองถ่านหิน ตัวเขาเองจึงต้องทำงานช่วยบิดาหาเงินตั้งแต่เด็ก พออายุ 14 ปี เขาจึงเขาทำงานในเหมืองถ่านหิน โดยช่วยพ่อคัดแยกถ่านหิน เขาชอบเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกลต่างๆภายในเหมือง รวมทั้งยังใช้เวลากลางคืนไปเรียนหนังสือจนเขาสามารถเป็นนายช่างที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเครื่องจักรได้
| ผู้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำคนแรกของโลกคือใคร | {
"answer": [
"จอร์จ สตีเฟนสัน"
],
"answer_begin_position": [
245
],
"answer_end_position": [
260
]
} |
1,392 | 178,921 | จอร์จ สตีเฟนสัน จอร์จ สตีเฟนสัน () เป็นผู้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำคนแรกของโลก เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2324 ที่ตำบลวีลัม นอร์ททัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ จอร์จ สตีเฟนสัน ได้รับการยกย่องว่าเป็น "บิดาแห่งการรถไฟ" จอร์จสตีเฟนสัน จอร์จสตีเฟนสัน (9 มิถุนายน 1781 - 12 สิงหาคม 1848) เป็นวิศวกรโยธาและวิศวกรเครื่องกลชาวอังกฤษผู้ที่ สร้างทางรถไฟวิ่งบริการสาธารณะระหว่างเมืองเป็นสายแรกในโลกที่ใช้หัวรถจักรไอน้ำระหว่างเมืองลิเวอร์พูลและ เมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1830 โดยที่เขาถูกขานนามในฐานะ "บิดาของรถไฟ" พระราชินีวิกตอเรียได้กล่าวว่า เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของการริเริ่มประยุกต์และไฝ่หาการปรับปรุง,ซามูเอลสไมล์นักเขียนหนังสือเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง ได้กล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกย่องความสำเร็จของเขา, ขนาดความกว้างของทางรถไฟ 4 ฟุต 8 1/2 นิ้ว (1,435 มม. ) บางครั้งเรียกว่า "ขนาดความกว้างของสตีเฟนสัน" เป็นขนาดทางรถไฟมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก.ประวัติ ประวัติ. จอร์จ สตีเฟนสัน เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บิดาทำงานอาชีพเป็นกรรมกรขุดเหมืองถ่านหิน ตัวเขาเองจึงต้องทำงานช่วยบิดาหาเงินตั้งแต่เด็ก พออายุ 14 ปี เขาจึงเขาทำงานในเหมืองถ่านหิน โดยช่วยพ่อคัดแยกถ่านหิน เขาชอบเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกลต่างๆภายในเหมือง รวมทั้งยังใช้เวลากลางคืนไปเรียนหนังสือจนเขาสามารถเป็นนายช่างที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมเครื่องจักรได้
| จอร์จ สตีเฟนสัน บิดาแห่งการรถไฟ เกิดเมื่อวันอะไร | {
"answer": [
"วันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2324"
],
"answer_begin_position": [
172
],
"answer_end_position": [
199
]
} |
515 | 414,048 | ชื่นชอบ คงอุดม ชื่นชอบ คงอุดม อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นบุตรชายของนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีต สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานครและผู้บริหาร หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ปัจจุบันสังกัด พรรคพลังท้องถิ่นไทประวัติ ประวัติ. นายชื่นชอบ คงอุดม (ชื่อเล่น: เอ็ม) เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2519 เข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ (กทม.) และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี (นนทบุรี) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จาก Schiller University ประเทศอังกฤษ ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับนางพิมพ์อร คงอุดม (นามสกุลเดิม ฉายากุล) มีบุตรธิดา 3 คนงานการเมือง งานการเมือง. ชื่นชอบ คงอุดม เข้าสู่งานการเมืองโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 สังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 10 (เขตบางซื่อ) กระทั่งวันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561 นายชื่นชอบได้ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มอดีต ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เพื่อย้ายไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไทซึ่งมีนายชัชวาลย์ผู้เป็นบิดาเป็นแกนนำพรรคเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2555 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.) - พ.ศ. 2554 - ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
| บิดาของชื่นชอบ คงอุดม คือใคร | {
"answer": [
"นายชัชวาลย์ คงอุดม"
],
"answer_begin_position": [
193
],
"answer_end_position": [
211
]
} |
516 | 414,048 | ชื่นชอบ คงอุดม ชื่นชอบ คงอุดม อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นบุตรชายของนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีต สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานครและผู้บริหาร หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ปัจจุบันสังกัด พรรคพลังท้องถิ่นไทประวัติ ประวัติ. นายชื่นชอบ คงอุดม (ชื่อเล่น: เอ็ม) เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2519 เข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ (กทม.) และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี (นนทบุรี) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จาก Schiller University ประเทศอังกฤษ ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับนางพิมพ์อร คงอุดม (นามสกุลเดิม ฉายากุล) มีบุตรธิดา 3 คนงานการเมือง งานการเมือง. ชื่นชอบ คงอุดม เข้าสู่งานการเมืองโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 สังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 10 (เขตบางซื่อ) กระทั่งวันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561 นายชื่นชอบได้ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มอดีต ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เพื่อย้ายไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไทซึ่งมีนายชัชวาลย์ผู้เป็นบิดาเป็นแกนนำพรรคเครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2555 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.) - พ.ศ. 2554 - ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
| ภรรยาของชื่นชอบ คงอุดม มีนามสกุลเดิมว่าอะไร | {
"answer": [
"ฉายากุล"
],
"answer_begin_position": [
645
],
"answer_end_position": [
652
]
} |
517 | 51,658 | สมชาย เข็มกลัด สมชาย เข็มกลัด เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่กรุงเทพมหานคร นักร้อง นักแสดงชาวไทยที่มีชื่อเสียงประวัติ ประวัติ. เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญที่เกิดในครอบครัวฐานะยากจน โดยมีผู้เป็นย่าเป็นผู้เลี้ยงดูมาตลอด เริ่มเข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนท่าเรือวิทยา และได้ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พ.ศ. 2544 เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักนำของ พจน์ อานนท์ ให้ไปถ่ายแบบลงหนังสือ เธอกับฉัน จากนั้นก็ก้าวสู่วงการจอแก้วในละครโทรทัศน์เรื่อง "นางฟ้าสีรุ้ง" ทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2533 ในฐานะตัวประกอบ และเข้าสู่บทบาทในจอเงินภายใต้ชื่อเรื่องว่า “สะแด่วแห้ว” จากนั้นได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น มีอัลบั้มเป็นของตัวเองชื่อ “เต๋า หัวโจก” ในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งถือเป็นผลงานสร้างชื่อให้เต๋ากลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นด้วยแฟชั่นผ้าโพกหัวและเสื้อลายสก๊อตจากมิวสิกวีดีโอเพลง "บอดี้การ์ด" คู่กับ สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต่อมาเหมือนเป็นดาราคู่ขวัญกัน ตามมาด้วยอัลบั้มชุดที่ 2 “สมชายจดปลายเท้า” และอัลบั้มพิเศษ “สมชายโอที” ในปี พ.ศ. 2538 และอัลบั้มชุดที่ 3 "สมชาย 100 แรงม้า" ในปี พ.ศ. 2541 นอกจากนี้ยังมีผลงานทางการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์อีกมากมาย อาทิเช่น ละครเรื่อง “เวลาในขวดแก้ว”, "น้ำใสใจจริง" และโด่งดังเป็นพลุแตกในบทบาทของ “เฮียเมฆ” ในเรื่อง "ข้าวเปลือก" ตามมาด้วยบทของ “เผดิมพงศ์” แห่ง "เกาะสวาท หาดสวรรค์" คู่พระคู่นางและคู่กัดของ “ยายตุ่มแตก” หรือ “นภาพร” ที่สวมบทโดย สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ในส่วนของภาพยนตร์ เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้อย่างมากคือ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ในปี พ.ศ. 2538 ที่เล่นคู่กับนางเอกคู่ขวัญ สุทธิดา ตามมาด้วย "ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน", "แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว", "มือปืน โลก/พระ/จัน", "สายล่อฟ้า" และที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2550 คือเรื่อง "โอปปาติกะ" และ "นาคปรก" รับเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ให้กับสินค้ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า สำหรับกลุ่มวัยรุ่นชายตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่ ๆ ในรุ่น ฮอนด้า โนวา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรุ่น ฮอนด้า โซนิก ซึ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นชายเช่นกัน รวมถึงเคยเป็นพิธีกรรายการ 4+1 ถึงจะเท่ห์ ร่วมกับ สายฟ้า เศรษฐบุตร, ปราโมทย์ แสงศร และจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นนักฟุตบอล เคยติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนมาแล้วชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. ในอดีต เคยใช้ชีวิตคู่กับ นัท มีเรียแต่ก็ไปกันไม่ได้ ต้องจดทะเบียนหย่า จนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ได้จดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรัก กับอัฐมาศ อัศววิมล รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดนิตยสารดิฉันและคอสโมโพลิแทน ปัจจุบันมีบุตรชาย 1 คน และบุตรสาว 1 คน ชื่อน้องสมใจ และน้องสุขใจผลงานอัลบั้มเพลงผลงาน. อัลบั้มเพลง. - "เต๋า หัวโจก" ปี 2536 - "สมชายจดปลายเท้า" ปี 2538 - "สมชาย 100 แรงม้า" ปี 2541อัลบั้มพิเศษอัลบั้มพิเศษ. - "สมชาย โอ.ที." ปี 2538อัลบั้มรวมศิลปินอัลบั้มรวมศิลปิน. - "อาร์เอส อันปลั๊ก ดนตรีนอกเวลา" ปี 2537 - "ซูเปอร์ทีนส์" ปี 2539 - "The Celebration (ฉลองครบรอบ 20 ปี อาร์เอส) " ปี 2544เพลงประกอบละครเพลงประกอบละคร. - น้ำใสใจจริง ปี 2537 - ข้าวเปลือก ปี 2537 - ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม ปี 2539 - เกาะสวาท หาดสวรรค์ ปี 2539 - ลูกผู้ชายเหยียบฝัน ปี 2540 - หักเหลี่ยมกุหลาบ ปี 2544 - ฝันกลางตะวัน ปี 2546 - คลื่นรักสีคราม ปี 2548 - ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ปี 2559เพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ปี 2538 - ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน ปี 2539 - แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว ปี 2542ละครโทรทัศน์ผลงานละครชุดซิทคอมภาพยนตร์มิวสิกวิดีโอคอนเสิร์ตคอนเสิร์ตรางวัลรางวัล. - รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่5 พ.ศ. 2538 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่25 พ.ศ. 2544 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก "มือปืน/โลก/พระ/จัน" - สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ "นาคปรก"
| ใครเป็นผู้ชักชวนสมชาย เข็มกลัด เข้าวงการบันเทิง | {
"answer": [
"พจน์ อานนท์"
],
"answer_begin_position": [
521
],
"answer_end_position": [
532
]
} |
518 | 51,658 | สมชาย เข็มกลัด สมชาย เข็มกลัด เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่กรุงเทพมหานคร นักร้อง นักแสดงชาวไทยที่มีชื่อเสียงประวัติ ประวัติ. เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญที่เกิดในครอบครัวฐานะยากจน โดยมีผู้เป็นย่าเป็นผู้เลี้ยงดูมาตลอด เริ่มเข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนท่าเรือวิทยา และได้ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พ.ศ. 2544 เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักนำของ พจน์ อานนท์ ให้ไปถ่ายแบบลงหนังสือ เธอกับฉัน จากนั้นก็ก้าวสู่วงการจอแก้วในละครโทรทัศน์เรื่อง "นางฟ้าสีรุ้ง" ทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2533 ในฐานะตัวประกอบ และเข้าสู่บทบาทในจอเงินภายใต้ชื่อเรื่องว่า “สะแด่วแห้ว” จากนั้นได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น มีอัลบั้มเป็นของตัวเองชื่อ “เต๋า หัวโจก” ในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งถือเป็นผลงานสร้างชื่อให้เต๋ากลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นด้วยแฟชั่นผ้าโพกหัวและเสื้อลายสก๊อตจากมิวสิกวีดีโอเพลง "บอดี้การ์ด" คู่กับ สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต่อมาเหมือนเป็นดาราคู่ขวัญกัน ตามมาด้วยอัลบั้มชุดที่ 2 “สมชายจดปลายเท้า” และอัลบั้มพิเศษ “สมชายโอที” ในปี พ.ศ. 2538 และอัลบั้มชุดที่ 3 "สมชาย 100 แรงม้า" ในปี พ.ศ. 2541 นอกจากนี้ยังมีผลงานทางการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์อีกมากมาย อาทิเช่น ละครเรื่อง “เวลาในขวดแก้ว”, "น้ำใสใจจริง" และโด่งดังเป็นพลุแตกในบทบาทของ “เฮียเมฆ” ในเรื่อง "ข้าวเปลือก" ตามมาด้วยบทของ “เผดิมพงศ์” แห่ง "เกาะสวาท หาดสวรรค์" คู่พระคู่นางและคู่กัดของ “ยายตุ่มแตก” หรือ “นภาพร” ที่สวมบทโดย สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ในส่วนของภาพยนตร์ เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้อย่างมากคือ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ในปี พ.ศ. 2538 ที่เล่นคู่กับนางเอกคู่ขวัญ สุทธิดา ตามมาด้วย "ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน", "แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว", "มือปืน โลก/พระ/จัน", "สายล่อฟ้า" และที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2550 คือเรื่อง "โอปปาติกะ" และ "นาคปรก" รับเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ให้กับสินค้ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า สำหรับกลุ่มวัยรุ่นชายตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่ ๆ ในรุ่น ฮอนด้า โนวา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรุ่น ฮอนด้า โซนิก ซึ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นชายเช่นกัน รวมถึงเคยเป็นพิธีกรรายการ 4+1 ถึงจะเท่ห์ ร่วมกับ สายฟ้า เศรษฐบุตร, ปราโมทย์ แสงศร และจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นนักฟุตบอล เคยติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนมาแล้วชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. ในอดีต เคยใช้ชีวิตคู่กับ นัท มีเรียแต่ก็ไปกันไม่ได้ ต้องจดทะเบียนหย่า จนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ได้จดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรัก กับอัฐมาศ อัศววิมล รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดนิตยสารดิฉันและคอสโมโพลิแทน ปัจจุบันมีบุตรชาย 1 คน และบุตรสาว 1 คน ชื่อน้องสมใจ และน้องสุขใจผลงานอัลบั้มเพลงผลงาน. อัลบั้มเพลง. - "เต๋า หัวโจก" ปี 2536 - "สมชายจดปลายเท้า" ปี 2538 - "สมชาย 100 แรงม้า" ปี 2541อัลบั้มพิเศษอัลบั้มพิเศษ. - "สมชาย โอ.ที." ปี 2538อัลบั้มรวมศิลปินอัลบั้มรวมศิลปิน. - "อาร์เอส อันปลั๊ก ดนตรีนอกเวลา" ปี 2537 - "ซูเปอร์ทีนส์" ปี 2539 - "The Celebration (ฉลองครบรอบ 20 ปี อาร์เอส) " ปี 2544เพลงประกอบละครเพลงประกอบละคร. - น้ำใสใจจริง ปี 2537 - ข้าวเปลือก ปี 2537 - ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม ปี 2539 - เกาะสวาท หาดสวรรค์ ปี 2539 - ลูกผู้ชายเหยียบฝัน ปี 2540 - หักเหลี่ยมกุหลาบ ปี 2544 - ฝันกลางตะวัน ปี 2546 - คลื่นรักสีคราม ปี 2548 - ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ปี 2559เพลงประกอบภาพยนตร์เพลงประกอบภาพยนตร์. - โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ปี 2538 - ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน ปี 2539 - แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว ปี 2542ละครโทรทัศน์ผลงานละครชุดซิทคอมภาพยนตร์มิวสิกวิดีโอคอนเสิร์ตคอนเสิร์ตรางวัลรางวัล. - รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่5 พ.ศ. 2538 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่25 พ.ศ. 2544 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก "มือปืน/โลก/พระ/จัน" - สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ "นาคปรก"
| บุตรชายของสมชาย เข็มกลัดกับอัฐมาศ อัศววิมล มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"น้องสุขใจ"
],
"answer_begin_position": [
2522
],
"answer_end_position": [
2531
]
} |
519 | 571,724 | กนกวรรณ ด่านอุดม กนกวรรณ ด่านอุดม เกิดเมื่อ(6 มกราคม พ.ศ. 2488) เป็นนักแสดง, ผู้จัดละครในอดีต และอดีตนางเอกดาวค้างฟ้าคู่ขวัญของพิศาล อัครเศรณี เคยมีฉายาว่า “อีหน้างอกหน้ากระดาน” จากละครเรื่องขุนศึกมหาราช ที่เคยรับบทเป็นต้อยติ่งประวัติ ประวัติ. กนกวรรณ ด่านอุดม จบการศึกษาระดับ ม.ศ.5 จากโรงเรียนเบญจมราชาลัย ขณะที่เรียนใกล้จบการศึกษา คุณสัมพันธ์ พันธุ์มณีได้คัดเลือกเธอให้แสดงละครเรื่อง เรื่อง พระมหาเทวี ที่สร้างโดยท่านผู้หญิงประภาพรรณ วิจิตรวาทกร นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชาลัยและภรรยาของหลวงวิจิตรวาทกร ซึ่งละครเรื่องนี้ได้ถูกคัดบางตอนเข้าไปออกอากาศในช่อง 4 บางขุนพรหม พอเรียนจบ จงได้ทำงานแผนกการเงินในสถานีจากการชักชวนของคุณจำนงค์ รังสิกุล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม พร้อมกับเรียนนาฏศิลป์ ฟันดาบ ร้องเพลงทั้งไทยเดิมและไทยสากล รวมทั้งเป็นผู้ประกาศรายการโทรทัศน์ ต่อมาจึงได้แสดงละครเรื่องแรกทางช่อง 4 เรื่อง หนามยอกเอาหนามบ่ง ร่วมกับบุษรา นฤมิตร และ กำธร สุวรรณปิยะศิริ ต่อด้วย ขุนศึกมหาราช ซึ่งสร้างชื่อเสียงในบทต้อยติ่ง เด็กสาวจอมแก่นชอบเตะต่อยเหมือนผู้ชาย จนได้รับฉายาว่าอีหน้างอกหน้ากระดาน และทำให้ผู้ชมติดภาพของเธอในฐานะนางเอกจอมแก่น นอกจากนี้เธอยังได้ร้องเพลงที่ชื่อว่าต้อยติ่งคู่กับกำธรด้วย จากนั้นพลิกบทบาทเป็นคนเรียบร้อยในเรื่องแม่ศรีเรือน, น้ำผึ้งขม คู่กับสะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ และยังเคยเป็นนางเอกคู่ขวัญกับพิศาล อัครเศรณีในเรื่อง แววมยุรา, ละอองดาว เป็นต้น เธอยังมีผลงานละครอื่นๆ ตามมาหลายเรื่องทางช่อง 4 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้แก่ พันท้ายนรสิงห์, เปาบุ้นจิ้น, น้ำเซาะทราย ฯลฯ จากนั้นจึงได้ผันตัวเป็นผู้จัดละครโทรทัศน์และผลิตละครมาหลายเรื่อง ผลงานที่เด่นคือ ผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 9 ต่อมาได้ย้ายไปจัดละครให้กับช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร เริ่มจากพล นิกร กินหงวน, ผู้กองยอดรัก, ยอดรักผู้กอง ต่อด้วย ทิวาหวาม, เมียหลวง และข้างหลังภาพ ซึ่งละครทั้งสามเรื่องนี้เธอได้ลงทุนพากองถ่ายไปถ่ายทำถึงต่างประเทศ ชีวิตส่วนตัวสมรสแล้วและมีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านจัดงานละคร ทำธุรกิจส่วนตัว และผันตัวมาเป็นครูสอนลีลาศ ผลงานทางละครล่าสุดคือ หมูแดง ทางช่อง 3ผลงานการแสดงละครผลงานการแสดง. ละคร. - หนามยอกเอาหนามบ่ง (ช่อง 4) - พระมหาเทวี (ช่อง 4) - ขุนศึกมหาราช (ช่อง 4) รับบท ต้อยติ่ง - พันท้ายนรสิงห์ (ช่อง 4) - เปาบุ้นจิ้น (ช่อง 4) - แม่ศรีเรือน (ช่อง 4) - น้ำผึ้งขม ปี 2511 (ช่อง 4) รับบท กังสดาล - วิมานไฟ ปี 2515 (ช่อง 4) รับบท โรยทอง - จำเลยรัก ปั 2517 (ช่อง 4) รับบท โศรยา - พล นิกร กิมหงวน ปี 2518-19 (ช่อง 9) รับบท นันทา - ละอองดาว ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท ละอองดาว - แววมยุรา ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท แวว - ศิวาราตรี ปี 2520 (ช่อง 9) - ผู้ชนะสิบทิศ ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท ตะละแม่กุสุมา - ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท มาลินี - เลือดขัตติยา ปี 2521 (ช่อง 9) รับบท ดารากุมารี - น้ำเซาะทราย ปี 2523 (ช่อง 5) รับบท พุดกรอง - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ปี 2525 (ช่อง 5) รับบท หญิงใหญ่ - หมูแดง ปี 2555 (ช่อง 3) รับบท หม่อมระย้าภาพยนตร์ภาพยนตร์. - ละครเร่ (2512) รับบท มารำผลงานกำกับการแสดงละครผลงานกำกับการแสดง. ละคร. - ออกอากาศทางช่อง 9 - ผู้ชนะสิบทิศ (2523)- ออกอากาศทางช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร - ขุนศึก (2520) - ทิวาหวาม (2521) - สี่แผ่นดิน (2522) - ดาวเรือง (2522) - น้ำผึ้งขม (2522) - ระฆังวงเดือน (2522) - สายรุ้ง (2522) - ค่าของคน (2522) - ผู้กองยอดรัก (2522) - ยอดรักผู้กอง – ผู้กองอยู่ไหน (2522) - เคหาสน์สีแดง (2522) - จำเลยรัก (2523) - ในฝัน (2523) - จ้อนกับแดง (2523-2525)- น้ำเซาะทราย (2523) - ในม่านเมฆ (2524) - อย่าลืมฉัน (2524) - พล นิกร กิมหงวน (2524) - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2525) - สิ้นสวาท (2525) - วงเวียนชีวิต - ทัดดาวบุษยา (2527) - ดรรชนีนาง - เดชแม่ยาย (2530) - สลักจิต (2530) - คมพยาบาท (2531) - ชื่นชีวานาวี - เยื่อกิ่งไผ่ - ออกอากาศทางช่อง 7 ในนามของรัศมีดาวการละคร - หัวใจเถื่อน (2525)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - นี่หรือความรัก (2522)
| นางเอกดาวค้างฟ้าคู่ขวัญของพิศาล อัครเศรณี คือใคร | {
"answer": [
"กนกวรรณ ด่านอุดม"
],
"answer_begin_position": [
108
],
"answer_end_position": [
124
]
} |
520 | 571,724 | กนกวรรณ ด่านอุดม กนกวรรณ ด่านอุดม เกิดเมื่อ(6 มกราคม พ.ศ. 2488) เป็นนักแสดง, ผู้จัดละครในอดีต และอดีตนางเอกดาวค้างฟ้าคู่ขวัญของพิศาล อัครเศรณี เคยมีฉายาว่า “อีหน้างอกหน้ากระดาน” จากละครเรื่องขุนศึกมหาราช ที่เคยรับบทเป็นต้อยติ่งประวัติ ประวัติ. กนกวรรณ ด่านอุดม จบการศึกษาระดับ ม.ศ.5 จากโรงเรียนเบญจมราชาลัย ขณะที่เรียนใกล้จบการศึกษา คุณสัมพันธ์ พันธุ์มณีได้คัดเลือกเธอให้แสดงละครเรื่อง เรื่อง พระมหาเทวี ที่สร้างโดยท่านผู้หญิงประภาพรรณ วิจิตรวาทกร นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชาลัยและภรรยาของหลวงวิจิตรวาทกร ซึ่งละครเรื่องนี้ได้ถูกคัดบางตอนเข้าไปออกอากาศในช่อง 4 บางขุนพรหม พอเรียนจบ จงได้ทำงานแผนกการเงินในสถานีจากการชักชวนของคุณจำนงค์ รังสิกุล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม พร้อมกับเรียนนาฏศิลป์ ฟันดาบ ร้องเพลงทั้งไทยเดิมและไทยสากล รวมทั้งเป็นผู้ประกาศรายการโทรทัศน์ ต่อมาจึงได้แสดงละครเรื่องแรกทางช่อง 4 เรื่อง หนามยอกเอาหนามบ่ง ร่วมกับบุษรา นฤมิตร และ กำธร สุวรรณปิยะศิริ ต่อด้วย ขุนศึกมหาราช ซึ่งสร้างชื่อเสียงในบทต้อยติ่ง เด็กสาวจอมแก่นชอบเตะต่อยเหมือนผู้ชาย จนได้รับฉายาว่าอีหน้างอกหน้ากระดาน และทำให้ผู้ชมติดภาพของเธอในฐานะนางเอกจอมแก่น นอกจากนี้เธอยังได้ร้องเพลงที่ชื่อว่าต้อยติ่งคู่กับกำธรด้วย จากนั้นพลิกบทบาทเป็นคนเรียบร้อยในเรื่องแม่ศรีเรือน, น้ำผึ้งขม คู่กับสะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ และยังเคยเป็นนางเอกคู่ขวัญกับพิศาล อัครเศรณีในเรื่อง แววมยุรา, ละอองดาว เป็นต้น เธอยังมีผลงานละครอื่นๆ ตามมาหลายเรื่องทางช่อง 4 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้แก่ พันท้ายนรสิงห์, เปาบุ้นจิ้น, น้ำเซาะทราย ฯลฯ จากนั้นจึงได้ผันตัวเป็นผู้จัดละครโทรทัศน์และผลิตละครมาหลายเรื่อง ผลงานที่เด่นคือ ผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 9 ต่อมาได้ย้ายไปจัดละครให้กับช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร เริ่มจากพล นิกร กินหงวน, ผู้กองยอดรัก, ยอดรักผู้กอง ต่อด้วย ทิวาหวาม, เมียหลวง และข้างหลังภาพ ซึ่งละครทั้งสามเรื่องนี้เธอได้ลงทุนพากองถ่ายไปถ่ายทำถึงต่างประเทศ ชีวิตส่วนตัวสมรสแล้วและมีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านจัดงานละคร ทำธุรกิจส่วนตัว และผันตัวมาเป็นครูสอนลีลาศ ผลงานทางละครล่าสุดคือ หมูแดง ทางช่อง 3ผลงานการแสดงละครผลงานการแสดง. ละคร. - หนามยอกเอาหนามบ่ง (ช่อง 4) - พระมหาเทวี (ช่อง 4) - ขุนศึกมหาราช (ช่อง 4) รับบท ต้อยติ่ง - พันท้ายนรสิงห์ (ช่อง 4) - เปาบุ้นจิ้น (ช่อง 4) - แม่ศรีเรือน (ช่อง 4) - น้ำผึ้งขม ปี 2511 (ช่อง 4) รับบท กังสดาล - วิมานไฟ ปี 2515 (ช่อง 4) รับบท โรยทอง - จำเลยรัก ปั 2517 (ช่อง 4) รับบท โศรยา - พล นิกร กิมหงวน ปี 2518-19 (ช่อง 9) รับบท นันทา - ละอองดาว ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท ละอองดาว - แววมยุรา ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท แวว - ศิวาราตรี ปี 2520 (ช่อง 9) - ผู้ชนะสิบทิศ ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท ตะละแม่กุสุมา - ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท มาลินี - เลือดขัตติยา ปี 2521 (ช่อง 9) รับบท ดารากุมารี - น้ำเซาะทราย ปี 2523 (ช่อง 5) รับบท พุดกรอง - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ปี 2525 (ช่อง 5) รับบท หญิงใหญ่ - หมูแดง ปี 2555 (ช่อง 3) รับบท หม่อมระย้าภาพยนตร์ภาพยนตร์. - ละครเร่ (2512) รับบท มารำผลงานกำกับการแสดงละครผลงานกำกับการแสดง. ละคร. - ออกอากาศทางช่อง 9 - ผู้ชนะสิบทิศ (2523)- ออกอากาศทางช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร - ขุนศึก (2520) - ทิวาหวาม (2521) - สี่แผ่นดิน (2522) - ดาวเรือง (2522) - น้ำผึ้งขม (2522) - ระฆังวงเดือน (2522) - สายรุ้ง (2522) - ค่าของคน (2522) - ผู้กองยอดรัก (2522) - ยอดรักผู้กอง – ผู้กองอยู่ไหน (2522) - เคหาสน์สีแดง (2522) - จำเลยรัก (2523) - ในฝัน (2523) - จ้อนกับแดง (2523-2525)- น้ำเซาะทราย (2523) - ในม่านเมฆ (2524) - อย่าลืมฉัน (2524) - พล นิกร กิมหงวน (2524) - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2525) - สิ้นสวาท (2525) - วงเวียนชีวิต - ทัดดาวบุษยา (2527) - ดรรชนีนาง - เดชแม่ยาย (2530) - สลักจิต (2530) - คมพยาบาท (2531) - ชื่นชีวานาวี - เยื่อกิ่งไผ่ - ออกอากาศทางช่อง 7 ในนามของรัศมีดาวการละคร - หัวใจเถื่อน (2525)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - นี่หรือความรัก (2522)
| อีหน้างอกหน้ากระดาน เป็นฉายาของกนกวรรณ ด่านอุดม ที่แสดงบทบาทในละครเรื่องอะไร | {
"answer": [
"เรื่องขุนศึกมหาราช"
],
"answer_begin_position": [
276
],
"answer_end_position": [
294
]
} |
2,993 | 571,724 | กนกวรรณ ด่านอุดม กนกวรรณ ด่านอุดม เกิดเมื่อ(6 มกราคม พ.ศ. 2488) เป็นนักแสดง, ผู้จัดละครในอดีต และอดีตนางเอกดาวค้างฟ้าคู่ขวัญของพิศาล อัครเศรณี เคยมีฉายาว่า “อีหน้างอกหน้ากระดาน” จากละครเรื่องขุนศึกมหาราช ที่เคยรับบทเป็นต้อยติ่งประวัติ ประวัติ. กนกวรรณ ด่านอุดม จบการศึกษาระดับ ม.ศ.5 จากโรงเรียนเบญจมราชาลัย ขณะที่เรียนใกล้จบการศึกษา คุณสัมพันธ์ พันธุ์มณีได้คัดเลือกเธอให้แสดงละครเรื่อง เรื่อง พระมหาเทวี ที่สร้างโดยท่านผู้หญิงประภาพรรณ วิจิตรวาทกร นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชาลัยและภรรยาของหลวงวิจิตรวาทกร ซึ่งละครเรื่องนี้ได้ถูกคัดบางตอนเข้าไปออกอากาศในช่อง 4 บางขุนพรหม พอเรียนจบ จงได้ทำงานแผนกการเงินในสถานีจากการชักชวนของคุณจำนงค์ รังสิกุล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม พร้อมกับเรียนนาฏศิลป์ ฟันดาบ ร้องเพลงทั้งไทยเดิมและไทยสากล รวมทั้งเป็นผู้ประกาศรายการโทรทัศน์ ต่อมาจึงได้แสดงละครเรื่องแรกทางช่อง 4 เรื่อง หนามยอกเอาหนามบ่ง ร่วมกับบุษรา นฤมิตร และ กำธร สุวรรณปิยะศิริ ต่อด้วย ขุนศึกมหาราช ซึ่งสร้างชื่อเสียงในบทต้อยติ่ง เด็กสาวจอมแก่นชอบเตะต่อยเหมือนผู้ชาย จนได้รับฉายาว่าอีหน้างอกหน้ากระดาน และทำให้ผู้ชมติดภาพของเธอในฐานะนางเอกจอมแก่น นอกจากนี้เธอยังได้ร้องเพลงที่ชื่อว่าต้อยติ่งคู่กับกำธรด้วย จากนั้นพลิกบทบาทเป็นคนเรียบร้อยในเรื่องแม่ศรีเรือน, น้ำผึ้งขม คู่กับสะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ และยังเคยเป็นนางเอกคู่ขวัญกับพิศาล อัครเศรณีในเรื่อง แววมยุรา, ละอองดาว เป็นต้น เธอยังมีผลงานละครอื่นๆ ตามมาหลายเรื่องทางช่อง 4 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้แก่ พันท้ายนรสิงห์, เปาบุ้นจิ้น, น้ำเซาะทราย ฯลฯ จากนั้นจึงได้ผันตัวเป็นผู้จัดละครโทรทัศน์และผลิตละครมาหลายเรื่อง ผลงานที่เด่นคือ ผู้ชนะสิบทิศ ทางช่อง 9 ต่อมาได้ย้ายไปจัดละครให้กับช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร เริ่มจากพล นิกร กินหงวน, ผู้กองยอดรัก, ยอดรักผู้กอง ต่อด้วย ทิวาหวาม, เมียหลวง และข้างหลังภาพ ซึ่งละครทั้งสามเรื่องนี้เธอได้ลงทุนพากองถ่ายไปถ่ายทำถึงต่างประเทศ ชีวิตส่วนตัวสมรสแล้วและมีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านจัดงานละคร ทำธุรกิจส่วนตัว และผันตัวมาเป็นครูสอนลีลาศ ผลงานทางละครล่าสุดคือ หมูแดง ทางช่อง 3ผลงานการแสดงละครผลงานการแสดง. ละคร. - หนามยอกเอาหนามบ่ง (ช่อง 4) - พระมหาเทวี (ช่อง 4) - ขุนศึกมหาราช (ช่อง 4) รับบท ต้อยติ่ง - พันท้ายนรสิงห์ (ช่อง 4) - เปาบุ้นจิ้น (ช่อง 4) - แม่ศรีเรือน (ช่อง 4) - น้ำผึ้งขม ปี 2511 (ช่อง 4) รับบท กังสดาล - วิมานไฟ ปี 2515 (ช่อง 4) รับบท โรยทอง - จำเลยรัก ปั 2517 (ช่อง 4) รับบท โศรยา - พล นิกร กิมหงวน ปี 2518-19 (ช่อง 9) รับบท นันทา - ละอองดาว ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท ละอองดาว - แววมยุรา ปี 2519 (ช่อง 9) รับบท แวว - ศิวาราตรี ปี 2520 (ช่อง 9) - ผู้ชนะสิบทิศ ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท ตะละแม่กุสุมา - ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ปี 2520 (ช่อง 9) รับบท มาลินี - เลือดขัตติยา ปี 2521 (ช่อง 9) รับบท ดารากุมารี - น้ำเซาะทราย ปี 2523 (ช่อง 5) รับบท พุดกรอง - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ปี 2525 (ช่อง 5) รับบท หญิงใหญ่ - หมูแดง ปี 2555 (ช่อง 3) รับบท หม่อมระย้าภาพยนตร์ภาพยนตร์. - ละครเร่ (2512) รับบท มารำผลงานกำกับการแสดงละครผลงานกำกับการแสดง. ละคร. - ออกอากาศทางช่อง 9 - ผู้ชนะสิบทิศ (2523)- ออกอากาศทางช่อง 5 ในนามของรัศมีดาวการละคร - ขุนศึก (2520) - ทิวาหวาม (2521) - สี่แผ่นดิน (2522) - ดาวเรือง (2522) - น้ำผึ้งขม (2522) - ระฆังวงเดือน (2522) - สายรุ้ง (2522) - ค่าของคน (2522) - ผู้กองยอดรัก (2522) - ยอดรักผู้กอง – ผู้กองอยู่ไหน (2522) - เคหาสน์สีแดง (2522) - จำเลยรัก (2523) - ในฝัน (2523) - จ้อนกับแดง (2523-2525)- น้ำเซาะทราย (2523) - ในม่านเมฆ (2524) - อย่าลืมฉัน (2524) - พล นิกร กิมหงวน (2524) - เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2525) - สิ้นสวาท (2525) - วงเวียนชีวิต - ทัดดาวบุษยา (2527) - ดรรชนีนาง - เดชแม่ยาย (2530) - สลักจิต (2530) - คมพยาบาท (2531) - ชื่นชีวานาวี - เยื่อกิ่งไผ่ - ออกอากาศทางช่อง 7 ในนามของรัศมีดาวการละคร - หัวใจเถื่อน (2525)ภาพยนตร์ภาพยนตร์. - นี่หรือความรัก (2522)
| กนกวรรณ ด่านอุดม มีฉายาว่าอะไร | {
"answer": [
"อีหน้างอกหน้ากระดาน"
],
"answer_begin_position": [
248
],
"answer_end_position": [
267
]
} |
521 | 98,939 | จัตุรัสเทียนอันเหมิน จัตุรัสเทียนอันเหมิน (; พินอิน: Tiān'ānmén; แมนจู: Abkai elhe obure duka; แปลว่า "ประตูของสันติภาพอย่างสวรรค์") อยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จัตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญในวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน เพราะว่าจัตุรัสเทียนอันเหมิน คือที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ 880 เมตร ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก 500 เมตร พื้นที่ทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตร สามารถจุประชากรได้ถึง 1,000,000 คน ปัจจุบันจัตุรัสเทียนอันเหมินนับเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัตุรัสเทียนอันเหมิน สร้างเมื่อปีค.ศ. 1417 ในสมัยราชวงศ์หมิงมีชื่อเดิมว่า "เฉิงเทียนเหมิน" พอมาในสมัยจักรพรรดิซุ่นจื้อแห่งราชวงศ์ชิง มีการซ่อมแซมใหม่ในปี ค.ศ. 1651 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เทียนอันเหมิน" คำว่า ‘เทียน’ แปลว่า ฟ้า ‘อัน’ แปลว่า ผาสุก ‘เหมิน’ แปลว่า ประตู จัตุรัสเทียนอันเหมินล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญ ได้แก่ หอประตูเทียนอันเหมินที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจัตุรัส ธงแดงดาว 5 ดวงผืนใหญ่โบกสะบัดอยู่เหนือเสาธงกลางจัตุรัส อนุสาวรีย์วีรชนใจกลางจัตุรัส มหาศาลาประชาคมด้านทิศตะวันตกของจัตุรัส ตลอดจนพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีนทางฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ทางด้านทิศใต้ยังมีหอรำลึกท่านประธานเหมาและหอประตูเจิ้งหยางเหมิน () หรือเฉียนเหมินบทความที่เกี่ยวข้องบทความที่เกี่ยวข้อง. - การชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พ.ศ. 2532
| จัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"จัตุรัสเทียนอันเหมิน"
],
"answer_begin_position": [
425
],
"answer_end_position": [
445
]
} |
1,729 | 98,939 | จัตุรัสเทียนอันเหมิน จัตุรัสเทียนอันเหมิน (; พินอิน: Tiān'ānmén; แมนจู: Abkai elhe obure duka; แปลว่า "ประตูของสันติภาพอย่างสวรรค์") อยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จัตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญในวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน เพราะว่าจัตุรัสเทียนอันเหมิน คือที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ 880 เมตร ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก 500 เมตร พื้นที่ทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตร สามารถจุประชากรได้ถึง 1,000,000 คน ปัจจุบันจัตุรัสเทียนอันเหมินนับเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัตุรัสเทียนอันเหมิน สร้างเมื่อปีค.ศ. 1417 ในสมัยราชวงศ์หมิงมีชื่อเดิมว่า "เฉิงเทียนเหมิน" พอมาในสมัยจักรพรรดิซุ่นจื้อแห่งราชวงศ์ชิง มีการซ่อมแซมใหม่ในปี ค.ศ. 1651 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เทียนอันเหมิน" คำว่า ‘เทียน’ แปลว่า ฟ้า ‘อัน’ แปลว่า ผาสุก ‘เหมิน’ แปลว่า ประตู จัตุรัสเทียนอันเหมินล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญ ได้แก่ หอประตูเทียนอันเหมินที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจัตุรัส ธงแดงดาว 5 ดวงผืนใหญ่โบกสะบัดอยู่เหนือเสาธงกลางจัตุรัส อนุสาวรีย์วีรชนใจกลางจัตุรัส มหาศาลาประชาคมด้านทิศตะวันตกของจัตุรัส ตลอดจนพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีนทางฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ทางด้านทิศใต้ยังมีหอรำลึกท่านประธานเหมาและหอประตูเจิ้งหยางเหมิน () หรือเฉียนเหมินบทความที่เกี่ยวข้องบทความที่เกี่ยวข้อง. - การชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พ.ศ. 2532
| จัตุรัสเทียนอันเหมิน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ใดของจีน | {
"answer": [
"ราชวงศ์หมิง"
],
"answer_begin_position": [
748
],
"answer_end_position": [
759
]
} |
522 | 436,516 | แม่น้ำยูคอน แม่น้ำยูคอน () เป็นแม่น้ำสายหลักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ มีต้นกำเนิดอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ไหลผ่านดินแดนยูคอน และส่วนปลายแม่น้ำไหลในรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา แม่น้ำมีความยาว 1,980 ไมล์ (3,190 กม.) ไหลลงทะเลเบริงบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมยูคอน-คัสโคกวิม แม่น้ำมีอัตราการไหลเฉลี่ยที่ 6,430 ม³/วิ (227,000 ฟุต³/วิ) ครอบคลุมพื้นที่การไหลของน้ำ 832,700 กม² (321,500 ไมล์²) โดยมีพื้นที่ 323,800 กม² (126,300 ไมล์²) ในแคนาดา หรือหากนำมาเปรียบเทียบแล้ว ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 25% ของรัฐเทกซัสหรือรัฐแอลเบอร์ตา
| แม่น้ำสายหลักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ มีชื่อว่าอะไร | {
"answer": [
"แม่น้ำยูคอน"
],
"answer_begin_position": [
98
],
"answer_end_position": [
109
]
} |
523 | 436,516 | แม่น้ำยูคอน แม่น้ำยูคอน () เป็นแม่น้ำสายหลักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ มีต้นกำเนิดอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ไหลผ่านดินแดนยูคอน และส่วนปลายแม่น้ำไหลในรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา แม่น้ำมีความยาว 1,980 ไมล์ (3,190 กม.) ไหลลงทะเลเบริงบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมยูคอน-คัสโคกวิม แม่น้ำมีอัตราการไหลเฉลี่ยที่ 6,430 ม³/วิ (227,000 ฟุต³/วิ) ครอบคลุมพื้นที่การไหลของน้ำ 832,700 กม² (321,500 ไมล์²) โดยมีพื้นที่ 323,800 กม² (126,300 ไมล์²) ในแคนาดา หรือหากนำมาเปรียบเทียบแล้ว ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 25% ของรัฐเทกซัสหรือรัฐแอลเบอร์ตา
| ต้นกำเนิดของแม่น้ำยูคอน อยู่ในรัฐใดของประเทศแคนาดา | {
"answer": [
"รัฐบริติชโคลัมเบีย"
],
"answer_begin_position": [
186
],
"answer_end_position": [
204
]
} |
524 | 556,040 | พิเชษฐ์ บัวขำ พิเชษฐ์ บัวขำ (คิง) ผู้เข้าแข่งขันและตัวแทนทีมแสตมป์เข้าแข่งขันในรอบสุดท้าย ของรายการเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 พ.ศ. 2555ปัจจุบันเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดยูนิเวอร์แซลมิวสิกไทยแลนด์ตั้งแต่ปี 2555 ถึง ปัจจุบัน ประวัติ ประวัติ. พิเชษฐ์ บัวขำ เกิดวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2521 เป็น นักร้อง, ครูสอนร้องเพลงและคอรัสอาชีพ คิงมีความสนใจในดนตรีมาตั้งแต่วัยเยาว์และซึมซับการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นบุตรคนโตจากจำนวนพี่น้อง 3 คน เกิดที่ กรุงเทพมหานคร แต่ เดินทางติดตามคุณพ่อที่เป็นนักดนตรีไปแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร และเลือกเรียนต่อในคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ สาขาดนตรีสากล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สาเหตุที่เขาอยากแข่งขันบนเวที เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 ครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะเขาต้องการที่จะมายืนอยู่ข้างหน้าเวที โดยใช้ชื่อของเขาเอง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นคนร้องคอรัสที่ต้องยืนอยู่ข้างหลังตลอด และเขาก็เลือกเข้าร่วมทีมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุขในการแข่งขันผลงานก่อนเข้าแข่งขันผลงานก่อนเข้าแข่งขัน. - ร่วมร้องเพลงกับศิลปินค่าย "แฟตบอยซ์สตาฟ" (Fatboyzstaff) ของ "ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน" - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม "Yes" กับ พิน กรพินธุ์ พ่วงโพธิ์ ในบทเพลง ขอใช้หัวใจดวงเดียวกับเธอ - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม GMM Jazzy Lover ในบทเพลง รักเธอมากกว่า สังกัด GMM Grammy - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม Synkornize Serial Number Two ในบทเพลง iLove (รักแท้มีได้ครั้งเดียว) และ That is you - ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ 7 ประจัญบานเส้นทางการแข่งขันใน The Voice Thailand Season 1 เส้นทางการแข่งขันใน The Voice Thailand Season 1. หมายเหตุ** นอกจากอันดับ 1 และ 2 แล้ว ในอันดับอื่นๆไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ เพลงอื่นๆ ที่ร้องในรายการ- ตาสว่าง ร้องร่วมกับทีมแสตมป์ เป็นโชว์ของทีม - ติ๋ม ร้องร่วมกับ ป๊อด Moder Dog / แมกซ์ / สวย / นนท์ผลงานหลังจบการแข่งขันผลงานหลังจบการแข่งขัน. - ปี 2555 single ผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก - ปี 2556 บทเพลง "สายเลือดนักสู้" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2556 เพลง theme รายการ "สองมือสร้างเมือง" ผลิตรายการโดย workpoint entertainment - ปี 2556 single อยากกลับมาไหม - ปี 2556 บทเพลง "ใจเหนือชัยชนะ" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "วีรบุรุษไทยไฟต์" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "กษัตริย์นักสู้" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "เพียงเมฆบางๆ" เพลงประกอบภาพยนตร์ แมงกุ๊ดจี่เกา(E)หลีเด้อ - ปี 2560 บทเพลง "รักชนะทุกอย่าง" เพลงประกอบละคร บาปรักทะเลฝัน - ปี 2560 บทเพลง "แสงในม่านหมอก" เพลงประกอบละคร ชุด แสงจากพ่อ - ปี 2561 บทเพลง "คุ้มครอง" เพลงประกอบละคร เงินปากผี
| ผู้เข้าแข่งขันและตัวแทนทีมแสตมป์ เข้าแข่งขันในรอบสุดท้าย ของรายการเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 พ.ศ. 2555 คือใคร | {
"answer": [
"พิเชษฐ์ บัวขำ"
],
"answer_begin_position": [
102
],
"answer_end_position": [
115
]
} |
525 | 556,040 | พิเชษฐ์ บัวขำ พิเชษฐ์ บัวขำ (คิง) ผู้เข้าแข่งขันและตัวแทนทีมแสตมป์เข้าแข่งขันในรอบสุดท้าย ของรายการเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 พ.ศ. 2555ปัจจุบันเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดยูนิเวอร์แซลมิวสิกไทยแลนด์ตั้งแต่ปี 2555 ถึง ปัจจุบัน ประวัติ ประวัติ. พิเชษฐ์ บัวขำ เกิดวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2521 เป็น นักร้อง, ครูสอนร้องเพลงและคอรัสอาชีพ คิงมีความสนใจในดนตรีมาตั้งแต่วัยเยาว์และซึมซับการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นบุตรคนโตจากจำนวนพี่น้อง 3 คน เกิดที่ กรุงเทพมหานคร แต่ เดินทางติดตามคุณพ่อที่เป็นนักดนตรีไปแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร และเลือกเรียนต่อในคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ สาขาดนตรีสากล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สาเหตุที่เขาอยากแข่งขันบนเวที เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 ครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะเขาต้องการที่จะมายืนอยู่ข้างหน้าเวที โดยใช้ชื่อของเขาเอง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นคนร้องคอรัสที่ต้องยืนอยู่ข้างหลังตลอด และเขาก็เลือกเข้าร่วมทีมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุขในการแข่งขันผลงานก่อนเข้าแข่งขันผลงานก่อนเข้าแข่งขัน. - ร่วมร้องเพลงกับศิลปินค่าย "แฟตบอยซ์สตาฟ" (Fatboyzstaff) ของ "ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน" - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม "Yes" กับ พิน กรพินธุ์ พ่วงโพธิ์ ในบทเพลง ขอใช้หัวใจดวงเดียวกับเธอ - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม GMM Jazzy Lover ในบทเพลง รักเธอมากกว่า สังกัด GMM Grammy - ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม Synkornize Serial Number Two ในบทเพลง iLove (รักแท้มีได้ครั้งเดียว) และ That is you - ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ 7 ประจัญบานเส้นทางการแข่งขันใน The Voice Thailand Season 1 เส้นทางการแข่งขันใน The Voice Thailand Season 1. หมายเหตุ** นอกจากอันดับ 1 และ 2 แล้ว ในอันดับอื่นๆไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ เพลงอื่นๆ ที่ร้องในรายการ- ตาสว่าง ร้องร่วมกับทีมแสตมป์ เป็นโชว์ของทีม - ติ๋ม ร้องร่วมกับ ป๊อด Moder Dog / แมกซ์ / สวย / นนท์ผลงานหลังจบการแข่งขันผลงานหลังจบการแข่งขัน. - ปี 2555 single ผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก - ปี 2556 บทเพลง "สายเลือดนักสู้" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2556 เพลง theme รายการ "สองมือสร้างเมือง" ผลิตรายการโดย workpoint entertainment - ปี 2556 single อยากกลับมาไหม - ปี 2556 บทเพลง "ใจเหนือชัยชนะ" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "วีรบุรุษไทยไฟต์" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "กษัตริย์นักสู้" เพลงประกอบรายการ ไทยไฟต์ - ปี 2559 บทเพลง "เพียงเมฆบางๆ" เพลงประกอบภาพยนตร์ แมงกุ๊ดจี่เกา(E)หลีเด้อ - ปี 2560 บทเพลง "รักชนะทุกอย่าง" เพลงประกอบละคร บาปรักทะเลฝัน - ปี 2560 บทเพลง "แสงในม่านหมอก" เพลงประกอบละคร ชุด แสงจากพ่อ - ปี 2561 บทเพลง "คุ้มครอง" เพลงประกอบละคร เงินปากผี
| บ้านเกิดของ พิเชษฐ์ บัวขำ อยู่ที่จังหวัดอะไร | {
"answer": [
"กรุงเทพมหานคร"
],
"answer_begin_position": [
533
],
"answer_end_position": [
546
]
} |
526 | 41,334 | เดวิด เบคแคม เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม () OBE เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 เป็นอดีตนักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ เขาเคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ กาแล็กซี่ และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และเคยเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึง ปี 2009 และเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย เบคแคมเป็นนักเตะหนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 113 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ใน ฟุตบอลโลก 1998, 2002 และ 2006 โดยยิงประตูให้ทีมชาติรวมทั้งหมด 17 ประตู เบคแคมได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งชื่อเสียงของเบคแคมนั้นคนทั่วโลกรู้จักเขาเป็นอย่างดีทั้งรุ่นต่อรุ่นโดยผลงานของเขาสามารถสร้างชื่อเสียงไว้มากมายทั้งใน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และการค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เดวิด เบคแคม ประกาศที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากที่การแข่งขันลีก 1 ของฝรั่งเศส (Ligue 1) ฤดูกาล 2012-13 ภายใต้สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สิ้นสุดลงประวัติ ประวัติ. เดวิด เบคแคม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ ในเขตเมือง เลย์ตันสโตน เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายของ ซานดรา จีออร์จีนา ทำอาชีพช่างเสริมสวย และ เดวิด เอดเวิร์ด อลัน "เทด" เบคแคม" ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอาชีพ เขาจบการศึกษาจาก โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน และได้สมัครเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดไปอยู่ในค่ายเยาวชนฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และจากนั้นได้ย้ายไปอยู่เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ และได้ย้ายไปร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. เบคแคมแต่งงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 กับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์ เกิร์ลส ฉายา "Posh Spice" ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า "Posh and Becks" และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ครอบครัวเบคแคมมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบคแคม (เกิด 1999) โรมีโอ เจมส์ เบคแคม (เกิด 2002) ครูซ เดวิด เบคแคม (เกิด 2005) และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น (เกิด 2011)ชีวิตในวงการฟุตบอลแมนยูไนเต็ด ชีวิตในวงการฟุตบอล. แมนยูไนเต็ด. เบคแฮมได้เซ็นสัญญาเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 เค้าเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกสอนโดย เอริค แฮร์ริสัน เค้าได้พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพรุ่นเยาวชน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ 1992 และชุดแมนยูในตอนนั้นรู้จักในฐานะ ยุคของ 92 เค้าลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรอง ในลีค คัฟ ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 เค้าเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์ ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์. เค้าได้ไปร่วมกับสโมสรฟุตบอลเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในสัญญายิมตัวในฤดุกาล 1994-1995 เพื่อได้รับประสบการณ์ตัวจริง เค้ายังยิงประตูจากการเตะมุมอีกด้วยแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ด. หลังจากการกลับมาเค้าก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 แต่เกมนัดนั้นเสมอ 0-0ฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลก 2006. เบคแคมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบคแคมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้ดวลจุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบคแคมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทนแอลเอ แกแลกซี แอลเอ แกแลกซี. หลังจากที่ยุคของกาลาคติคอสหมดลง เดวิด เบคแคม ได้เซ็นสัญญากับทางแอลเอ แกแลกซีสโมสรเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาด้วยค่าเหนื่อยแพงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ เดวิด เบคแคมมีส่วนทำให้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น ชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาของเขาดูเหมือนจะราบรื่นได้ไม่นาน เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกเท่าไหร่ เดวิด เบคแคมบอกทางผ่านสื่อว่าการที่ได้ไปเล่นให้กับเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกานั้นสำหรับดาราอาจจะใช่ แต่สำหรับนักฟุตบอลที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และหลังจากนั้นเค้าได้ถูกยืมตัวให้กับทางสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานจึงทำให้เค้าคิดที่จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อีกครั้งเอซี มิลาน เอซี มิลาน. เมื่อครึ่งหลังฤดูกาลในปี 2008-2009 ของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ทำการยืมตัว เดวิด เบคแคม มาเล่นให้กับทีมจนจบฤดูกาล ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากมายให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน จนทำให้ทีมได้รองแชมป์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ความหวังที่ เดวิด เบคแคม ต้องการมาเล่นให้กับยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานนั้น สิ่งเดียวที่เค้าหวังคือการที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเค้ารู้ตัวดีว่าถ้าเล่นในเมเจอร์ลีกต่อ นั่นจะทำให้ เดวิด เบคแคม ไม่สามารถโชว์ผลงานเท่าที่คาดคิดไว้ได้ เบคแคมจึงตัดสินใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาเล่นกับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการและนั่นทำให้เค้ากับทางแอลเอ แกแลกซีมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ในที่สุดก็ทำข้อตกลงกันได้คือ หลังจากที่ เดวิด เบคแคม หมดสัญญาการยืมตัวจากสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานในฤดูกาลปี 2008-2009 แล้ว เดวิด เบคแคม จะกลับไปเล่นให้กับแอลเอ แกแลกซี ทันทีและหลังจากหมดฤดูกาลกับทางแอลเอ แกแลกซี เดวิด เบคแคม จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อีกครั้งในฐานะนักเตะของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนในปี 2009ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด. เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้เริ่มกลับมาฝึกฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและได้มีข่าวว่าทางอาร์เซนอลจะเซ็นสัญญากับเบคแคมเป็นผู้เล่นของสโมสรแต่ก็ได้ถูกปฏิเสธไปอย่างเป็นทางการจากอาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล โดยแวงแกร์ได้บอกกับสื่อว่าเหตุที่เขาให้เบคแคมมาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลคือเพื่อให้เบคแคมได้ฝึกสภาพร่างกายของเขาเท่านั้นไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ. สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจึงได้เปิดตัวเขาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โดยนัดแรกของเบคแคมกับปารีแซ็ง แฌร์แม็งคือในนัดที่พับกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นมาเล่นในฐานะตัวสำรองให้กับสโมสรในนาทีที่ 76 และเขายังเป็นผู้เล่นคนที่ 400 ของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งอีกด้วย. ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมและเพื่อนร่วมสโมสรสามารนำปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จด้วยเอาชนะ ออแล็งปิกลียอแน ไป 1-0 แล้วได้คว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยแรกของเบคแคมและสมัยที่สามของสโมสร. เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ออกมาประกาศให้แกสื่อมวลชนว่าเขาจะเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการจบอาชีพการเล่นฟุตบอลที่ ประเทศฝรั่งเศส. ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและนัดสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเขาด้วยการพบกับ สโมสรฟุตบอลแบรสต์ ทื่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยในนัดนี้ การ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้ให้เบคแคมได้ลงเป็นตัวจริงและเป็นกัปตันทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 82 และหลังจากจบการแข่งขัน ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 และคว้าแชมป์ลีกเอิงอย่างเป็นทางการ. และทำให้เบคแคมเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้ถึง 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศสทีมชาติ ทีมชาติ. เบคแคมได้เริ่มเล่นให้กับ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในนัดที่พบกับ ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวา. เบคแคมได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1998รอบคัดเลือกและเขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศฝรั่งเศส, ในปี ค.ศ. 2012 เบคแคมได้มีชื่อติด ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่ชั่วคราว ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012. ประเภทกีฬาฟุตบอล โดยเขาได้ถูกเรียกตัวจากผู้จัดการทีมชาวอังกฤษอย่าง สจวร์ต เพียชร์.สถิติประตูในนามทีมชาติเกียรติประวัติสโมสรเกียรติประวัติ. สโมสร. - แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด- พรีเมียร์ลีก 6 สมัย : 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03 - เอฟเอคัพ 2 สมัย : 1995-96, 1998-99 - ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย : 1998-99 - Intercontinental Cup 1 สมัย : 1999 - คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 4 สมัย : 1993, 1994, 1996, 1997 - เอฟเอยูธคัพ 1 สมัย : 1991-92- เรอัลมาดริด- ลาลีกา 1 สมัย : 2006-07 - ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา 1 สมัย : 2003-04- แอลเอ แกแลกซี- MLS Supporters' Shield 2 สมัย : 2010, 2011 - MLS Cup 2 สมัย : 2011, 2012 - MLS Western Conference- Winners (Regular Season) 3 สมัย: 2009, 2010, 2011 - Winners (Playoffs) 3 สมัย: 2009, 2011, 2012- ปารีส แซงต์ แชร์กแมง- ลีกเอิง 1 สมัย : 2012-13ทีมชาติทีมชาติ. - ทีมชาติอังกฤษ- Tournoi de France 1 สมัย : 1997 - FA Summer Tournament 1 สมัย : 2004เกียรติประวัติส่วนตัวเกียรติประวัติส่วนตัว. - นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำเดือน (1): สิงหาคม 1996 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (1): 1996-97 - FWA Tribute Award: 2008 - Sir Matt Busby Player of the Year (1): 1996-97 - UEFA Club Footballer of the Year (1): 1998-99 - UEFA Club Midfielder of the Year (1): 1998-99 - Premier League 10 Seasons Awards (1992-93 ถึง 2001-02):- Domestic & Overall Team of the Decade - Goal of the Decade (vs. Wimbledon, 17 สิงหาคม 1996) - UEFA Team of the Year 2003 - Real Madrid Player of the Year (1): 2005-06 - PFA Team of the Year (4): 1996-97,1997-98,1998-99,1999-2000 - BBC Sports Personality of the Year (1): 2001 - ฟีฟ่า 100 - ESPY Award – Best Male Soccer Player: 2004 - ESPY Award – Best MLS Player: 2008 - English Football Hall of Fame: 2008 - BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award (1): 2010 - MLS Comeback Player of the Year Award (1): 2011 - Major League Soccer Best XI: 2011รางวัลพิเศษรางวัลพิเศษ. - Officer in the Order of the British Empire by Queen Elizabeth II: 2003 - United Nations Children's Fund (UNICEF) Goodwill Ambassador (2005-ปัจจุบัน) - "Britain's Greatest Ambassador" – 100 Greatest Britons awards - The Celebrity 100, number 15 – Forbes, 2007 - Number 1 on the list of the 40 most influential men under the age of 40 in the UK – Arena, 2007 - Time 100: 2008 - Gold Blue Peter Badge winner, 2001 - Do Something Athlete Award, 2011
| มารดาของเดวิด เบคแคม คือใคร | {
"answer": [
"ซานดรา จีออร์จีนา"
],
"answer_begin_position": [
1393
],
"answer_end_position": [
1410
]
} |
527 | 41,334 | เดวิด เบคแคม เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม () OBE เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 เป็นอดีตนักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ เขาเคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ กาแล็กซี่ และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และเคยเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึง ปี 2009 และเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย เบคแคมเป็นนักเตะหนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 113 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ใน ฟุตบอลโลก 1998, 2002 และ 2006 โดยยิงประตูให้ทีมชาติรวมทั้งหมด 17 ประตู เบคแคมได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งชื่อเสียงของเบคแคมนั้นคนทั่วโลกรู้จักเขาเป็นอย่างดีทั้งรุ่นต่อรุ่นโดยผลงานของเขาสามารถสร้างชื่อเสียงไว้มากมายทั้งใน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และการค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เดวิด เบคแคม ประกาศที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากที่การแข่งขันลีก 1 ของฝรั่งเศส (Ligue 1) ฤดูกาล 2012-13 ภายใต้สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สิ้นสุดลงประวัติ ประวัติ. เดวิด เบคแคม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ ในเขตเมือง เลย์ตันสโตน เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายของ ซานดรา จีออร์จีนา ทำอาชีพช่างเสริมสวย และ เดวิด เอดเวิร์ด อลัน "เทด" เบคแคม" ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอาชีพ เขาจบการศึกษาจาก โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน และได้สมัครเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดไปอยู่ในค่ายเยาวชนฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และจากนั้นได้ย้ายไปอยู่เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ และได้ย้ายไปร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. เบคแคมแต่งงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 กับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์ เกิร์ลส ฉายา "Posh Spice" ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า "Posh and Becks" และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ครอบครัวเบคแคมมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบคแคม (เกิด 1999) โรมีโอ เจมส์ เบคแคม (เกิด 2002) ครูซ เดวิด เบคแคม (เกิด 2005) และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น (เกิด 2011)ชีวิตในวงการฟุตบอลแมนยูไนเต็ด ชีวิตในวงการฟุตบอล. แมนยูไนเต็ด. เบคแฮมได้เซ็นสัญญาเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 เค้าเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกสอนโดย เอริค แฮร์ริสัน เค้าได้พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพรุ่นเยาวชน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ 1992 และชุดแมนยูในตอนนั้นรู้จักในฐานะ ยุคของ 92 เค้าลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรอง ในลีค คัฟ ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 เค้าเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์ ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์. เค้าได้ไปร่วมกับสโมสรฟุตบอลเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในสัญญายิมตัวในฤดุกาล 1994-1995 เพื่อได้รับประสบการณ์ตัวจริง เค้ายังยิงประตูจากการเตะมุมอีกด้วยแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ด. หลังจากการกลับมาเค้าก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 แต่เกมนัดนั้นเสมอ 0-0ฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลก 2006. เบคแคมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบคแคมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้ดวลจุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบคแคมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทนแอลเอ แกแลกซี แอลเอ แกแลกซี. หลังจากที่ยุคของกาลาคติคอสหมดลง เดวิด เบคแคม ได้เซ็นสัญญากับทางแอลเอ แกแลกซีสโมสรเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาด้วยค่าเหนื่อยแพงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ เดวิด เบคแคมมีส่วนทำให้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น ชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาของเขาดูเหมือนจะราบรื่นได้ไม่นาน เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกเท่าไหร่ เดวิด เบคแคมบอกทางผ่านสื่อว่าการที่ได้ไปเล่นให้กับเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกานั้นสำหรับดาราอาจจะใช่ แต่สำหรับนักฟุตบอลที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และหลังจากนั้นเค้าได้ถูกยืมตัวให้กับทางสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานจึงทำให้เค้าคิดที่จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อีกครั้งเอซี มิลาน เอซี มิลาน. เมื่อครึ่งหลังฤดูกาลในปี 2008-2009 ของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ทำการยืมตัว เดวิด เบคแคม มาเล่นให้กับทีมจนจบฤดูกาล ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากมายให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน จนทำให้ทีมได้รองแชมป์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ความหวังที่ เดวิด เบคแคม ต้องการมาเล่นให้กับยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานนั้น สิ่งเดียวที่เค้าหวังคือการที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเค้ารู้ตัวดีว่าถ้าเล่นในเมเจอร์ลีกต่อ นั่นจะทำให้ เดวิด เบคแคม ไม่สามารถโชว์ผลงานเท่าที่คาดคิดไว้ได้ เบคแคมจึงตัดสินใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาเล่นกับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการและนั่นทำให้เค้ากับทางแอลเอ แกแลกซีมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ในที่สุดก็ทำข้อตกลงกันได้คือ หลังจากที่ เดวิด เบคแคม หมดสัญญาการยืมตัวจากสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานในฤดูกาลปี 2008-2009 แล้ว เดวิด เบคแคม จะกลับไปเล่นให้กับแอลเอ แกแลกซี ทันทีและหลังจากหมดฤดูกาลกับทางแอลเอ แกแลกซี เดวิด เบคแคม จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อีกครั้งในฐานะนักเตะของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนในปี 2009ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด. เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้เริ่มกลับมาฝึกฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและได้มีข่าวว่าทางอาร์เซนอลจะเซ็นสัญญากับเบคแคมเป็นผู้เล่นของสโมสรแต่ก็ได้ถูกปฏิเสธไปอย่างเป็นทางการจากอาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล โดยแวงแกร์ได้บอกกับสื่อว่าเหตุที่เขาให้เบคแคมมาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลคือเพื่อให้เบคแคมได้ฝึกสภาพร่างกายของเขาเท่านั้นไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ. สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจึงได้เปิดตัวเขาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โดยนัดแรกของเบคแคมกับปารีแซ็ง แฌร์แม็งคือในนัดที่พับกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นมาเล่นในฐานะตัวสำรองให้กับสโมสรในนาทีที่ 76 และเขายังเป็นผู้เล่นคนที่ 400 ของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งอีกด้วย. ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมและเพื่อนร่วมสโมสรสามารนำปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จด้วยเอาชนะ ออแล็งปิกลียอแน ไป 1-0 แล้วได้คว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยแรกของเบคแคมและสมัยที่สามของสโมสร. เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ออกมาประกาศให้แกสื่อมวลชนว่าเขาจะเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการจบอาชีพการเล่นฟุตบอลที่ ประเทศฝรั่งเศส. ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและนัดสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเขาด้วยการพบกับ สโมสรฟุตบอลแบรสต์ ทื่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยในนัดนี้ การ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้ให้เบคแคมได้ลงเป็นตัวจริงและเป็นกัปตันทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 82 และหลังจากจบการแข่งขัน ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 และคว้าแชมป์ลีกเอิงอย่างเป็นทางการ. และทำให้เบคแคมเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้ถึง 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศสทีมชาติ ทีมชาติ. เบคแคมได้เริ่มเล่นให้กับ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในนัดที่พบกับ ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวา. เบคแคมได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1998รอบคัดเลือกและเขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศฝรั่งเศส, ในปี ค.ศ. 2012 เบคแคมได้มีชื่อติด ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่ชั่วคราว ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012. ประเภทกีฬาฟุตบอล โดยเขาได้ถูกเรียกตัวจากผู้จัดการทีมชาวอังกฤษอย่าง สจวร์ต เพียชร์.สถิติประตูในนามทีมชาติเกียรติประวัติสโมสรเกียรติประวัติ. สโมสร. - แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด- พรีเมียร์ลีก 6 สมัย : 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03 - เอฟเอคัพ 2 สมัย : 1995-96, 1998-99 - ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย : 1998-99 - Intercontinental Cup 1 สมัย : 1999 - คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 4 สมัย : 1993, 1994, 1996, 1997 - เอฟเอยูธคัพ 1 สมัย : 1991-92- เรอัลมาดริด- ลาลีกา 1 สมัย : 2006-07 - ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา 1 สมัย : 2003-04- แอลเอ แกแลกซี- MLS Supporters' Shield 2 สมัย : 2010, 2011 - MLS Cup 2 สมัย : 2011, 2012 - MLS Western Conference- Winners (Regular Season) 3 สมัย: 2009, 2010, 2011 - Winners (Playoffs) 3 สมัย: 2009, 2011, 2012- ปารีส แซงต์ แชร์กแมง- ลีกเอิง 1 สมัย : 2012-13ทีมชาติทีมชาติ. - ทีมชาติอังกฤษ- Tournoi de France 1 สมัย : 1997 - FA Summer Tournament 1 สมัย : 2004เกียรติประวัติส่วนตัวเกียรติประวัติส่วนตัว. - นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำเดือน (1): สิงหาคม 1996 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (1): 1996-97 - FWA Tribute Award: 2008 - Sir Matt Busby Player of the Year (1): 1996-97 - UEFA Club Footballer of the Year (1): 1998-99 - UEFA Club Midfielder of the Year (1): 1998-99 - Premier League 10 Seasons Awards (1992-93 ถึง 2001-02):- Domestic & Overall Team of the Decade - Goal of the Decade (vs. Wimbledon, 17 สิงหาคม 1996) - UEFA Team of the Year 2003 - Real Madrid Player of the Year (1): 2005-06 - PFA Team of the Year (4): 1996-97,1997-98,1998-99,1999-2000 - BBC Sports Personality of the Year (1): 2001 - ฟีฟ่า 100 - ESPY Award – Best Male Soccer Player: 2004 - ESPY Award – Best MLS Player: 2008 - English Football Hall of Fame: 2008 - BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award (1): 2010 - MLS Comeback Player of the Year Award (1): 2011 - Major League Soccer Best XI: 2011รางวัลพิเศษรางวัลพิเศษ. - Officer in the Order of the British Empire by Queen Elizabeth II: 2003 - United Nations Children's Fund (UNICEF) Goodwill Ambassador (2005-ปัจจุบัน) - "Britain's Greatest Ambassador" – 100 Greatest Britons awards - The Celebrity 100, number 15 – Forbes, 2007 - Number 1 on the list of the 40 most influential men under the age of 40 in the UK – Arena, 2007 - Time 100: 2008 - Gold Blue Peter Badge winner, 2001 - Do Something Athlete Award, 2011
| เดวิด เบคแคมเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติอังกฤษอย่างเป็นทางการเมื่อไร | {
"answer": [
"วันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996"
],
"answer_begin_position": [
6855
],
"answer_end_position": [
6881
]
} |
3,832 | 41,334 | เดวิด เบคแคม เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม () OBE เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 เป็นอดีตนักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ เขาเคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ กาแล็กซี่ และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และเคยเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึง ปี 2009 และเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย เบคแคมเป็นนักเตะหนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 113 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ใน ฟุตบอลโลก 1998, 2002 และ 2006 โดยยิงประตูให้ทีมชาติรวมทั้งหมด 17 ประตู เบคแคมได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งชื่อเสียงของเบคแคมนั้นคนทั่วโลกรู้จักเขาเป็นอย่างดีทั้งรุ่นต่อรุ่นโดยผลงานของเขาสามารถสร้างชื่อเสียงไว้มากมายทั้งใน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และการค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เดวิด เบคแคม ประกาศที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากที่การแข่งขันลีก 1 ของฝรั่งเศส (Ligue 1) ฤดูกาล 2012-13 ภายใต้สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สิ้นสุดลงประวัติ ประวัติ. เดวิด เบคแคม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ ในเขตเมือง เลย์ตันสโตน เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายของ ซานดรา จีออร์จีนา ทำอาชีพช่างเสริมสวย และ เดวิด เอดเวิร์ด อลัน "เทด" เบคแคม" ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอาชีพ เขาจบการศึกษาจาก โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน และได้สมัครเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดไปอยู่ในค่ายเยาวชนฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และจากนั้นได้ย้ายไปอยู่เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ และได้ย้ายไปร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชีวิตส่วนตัว ชีวิตส่วนตัว. เบคแคมแต่งงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 กับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์ เกิร์ลส ฉายา "Posh Spice" ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า "Posh and Becks" และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ครอบครัวเบคแคมมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบคแคม (เกิด 1999) โรมีโอ เจมส์ เบคแคม (เกิด 2002) ครูซ เดวิด เบคแคม (เกิด 2005) และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น (เกิด 2011)ชีวิตในวงการฟุตบอลแมนยูไนเต็ด ชีวิตในวงการฟุตบอล. แมนยูไนเต็ด. เบคแฮมได้เซ็นสัญญาเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 เค้าเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกสอนโดย เอริค แฮร์ริสัน เค้าได้พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพรุ่นเยาวชน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ 1992 และชุดแมนยูในตอนนั้นรู้จักในฐานะ ยุคของ 92 เค้าลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรอง ในลีค คัฟ ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 เค้าเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์ ยืมตัวเพรสตันนอร์ทเอนด์. เค้าได้ไปร่วมกับสโมสรฟุตบอลเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในสัญญายิมตัวในฤดุกาล 1994-1995 เพื่อได้รับประสบการณ์ตัวจริง เค้ายังยิงประตูจากการเตะมุมอีกด้วยแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ด. หลังจากการกลับมาเค้าก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 แต่เกมนัดนั้นเสมอ 0-0ฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลก 2006. เบคแคมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบคแคมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้ดวลจุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบคแคมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทนแอลเอ แกแลกซี แอลเอ แกแลกซี. หลังจากที่ยุคของกาลาคติคอสหมดลง เดวิด เบคแคม ได้เซ็นสัญญากับทางแอลเอ แกแลกซีสโมสรเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาด้วยค่าเหนื่อยแพงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ เดวิด เบคแคมมีส่วนทำให้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น ชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาของเขาดูเหมือนจะราบรื่นได้ไม่นาน เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกเท่าไหร่ เดวิด เบคแคมบอกทางผ่านสื่อว่าการที่ได้ไปเล่นให้กับเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกานั้นสำหรับดาราอาจจะใช่ แต่สำหรับนักฟุตบอลที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และหลังจากนั้นเค้าได้ถูกยืมตัวให้กับทางสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานจึงทำให้เค้าคิดที่จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อีกครั้งเอซี มิลาน เอซี มิลาน. เมื่อครึ่งหลังฤดูกาลในปี 2008-2009 ของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ทำการยืมตัว เดวิด เบคแคม มาเล่นให้กับทีมจนจบฤดูกาล ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากมายให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน จนทำให้ทีมได้รองแชมป์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ความหวังที่ เดวิด เบคแคม ต้องการมาเล่นให้กับยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานนั้น สิ่งเดียวที่เค้าหวังคือการที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเค้ารู้ตัวดีว่าถ้าเล่นในเมเจอร์ลีกต่อ นั่นจะทำให้ เดวิด เบคแคม ไม่สามารถโชว์ผลงานเท่าที่คาดคิดไว้ได้ เบคแคมจึงตัดสินใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาเล่นกับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการและนั่นทำให้เค้ากับทางแอลเอ แกแลกซีมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ในที่สุดก็ทำข้อตกลงกันได้คือ หลังจากที่ เดวิด เบคแคม หมดสัญญาการยืมตัวจากสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานในฤดูกาลปี 2008-2009 แล้ว เดวิด เบคแคม จะกลับไปเล่นให้กับแอลเอ แกแลกซี ทันทีและหลังจากหมดฤดูกาลกับทางแอลเอ แกแลกซี เดวิด เบคแคม จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อีกครั้งในฐานะนักเตะของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนในปี 2009ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ แขวนสตั๊ด. เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้เริ่มกลับมาฝึกฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและได้มีข่าวว่าทางอาร์เซนอลจะเซ็นสัญญากับเบคแคมเป็นผู้เล่นของสโมสรแต่ก็ได้ถูกปฏิเสธไปอย่างเป็นทางการจากอาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล โดยแวงแกร์ได้บอกกับสื่อว่าเหตุที่เขาให้เบคแคมมาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลคือเพื่อให้เบคแคมได้ฝึกสภาพร่างกายของเขาเท่านั้นไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ. สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจึงได้เปิดตัวเขาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โดยนัดแรกของเบคแคมกับปารีแซ็ง แฌร์แม็งคือในนัดที่พับกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นมาเล่นในฐานะตัวสำรองให้กับสโมสรในนาทีที่ 76 และเขายังเป็นผู้เล่นคนที่ 400 ของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งอีกด้วย. ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมและเพื่อนร่วมสโมสรสามารนำปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จด้วยเอาชนะ ออแล็งปิกลียอแน ไป 1-0 แล้วได้คว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยแรกของเบคแคมและสมัยที่สามของสโมสร. เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ออกมาประกาศให้แกสื่อมวลชนว่าเขาจะเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการจบอาชีพการเล่นฟุตบอลที่ ประเทศฝรั่งเศส. ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและนัดสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเขาด้วยการพบกับ สโมสรฟุตบอลแบรสต์ ทื่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยในนัดนี้ การ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้ให้เบคแคมได้ลงเป็นตัวจริงและเป็นกัปตันทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 82 และหลังจากจบการแข่งขัน ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 และคว้าแชมป์ลีกเอิงอย่างเป็นทางการ. และทำให้เบคแคมเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้ถึง 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศสทีมชาติ ทีมชาติ. เบคแคมได้เริ่มเล่นให้กับ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในนัดที่พบกับ ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวา. เบคแคมได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1998รอบคัดเลือกและเขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศฝรั่งเศส, ในปี ค.ศ. 2012 เบคแคมได้มีชื่อติด ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่ชั่วคราว ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012. ประเภทกีฬาฟุตบอล โดยเขาได้ถูกเรียกตัวจากผู้จัดการทีมชาวอังกฤษอย่าง สจวร์ต เพียชร์.สถิติประตูในนามทีมชาติเกียรติประวัติสโมสรเกียรติประวัติ. สโมสร. - แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด- พรีเมียร์ลีก 6 สมัย : 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03 - เอฟเอคัพ 2 สมัย : 1995-96, 1998-99 - ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย : 1998-99 - Intercontinental Cup 1 สมัย : 1999 - คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 4 สมัย : 1993, 1994, 1996, 1997 - เอฟเอยูธคัพ 1 สมัย : 1991-92- เรอัลมาดริด- ลาลีกา 1 สมัย : 2006-07 - ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา 1 สมัย : 2003-04- แอลเอ แกแลกซี- MLS Supporters' Shield 2 สมัย : 2010, 2011 - MLS Cup 2 สมัย : 2011, 2012 - MLS Western Conference- Winners (Regular Season) 3 สมัย: 2009, 2010, 2011 - Winners (Playoffs) 3 สมัย: 2009, 2011, 2012- ปารีส แซงต์ แชร์กแมง- ลีกเอิง 1 สมัย : 2012-13ทีมชาติทีมชาติ. - ทีมชาติอังกฤษ- Tournoi de France 1 สมัย : 1997 - FA Summer Tournament 1 สมัย : 2004เกียรติประวัติส่วนตัวเกียรติประวัติส่วนตัว. - นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำเดือน (1): สิงหาคม 1996 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ - นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (1): 1996-97 - FWA Tribute Award: 2008 - Sir Matt Busby Player of the Year (1): 1996-97 - UEFA Club Footballer of the Year (1): 1998-99 - UEFA Club Midfielder of the Year (1): 1998-99 - Premier League 10 Seasons Awards (1992-93 ถึง 2001-02):- Domestic & Overall Team of the Decade - Goal of the Decade (vs. Wimbledon, 17 สิงหาคม 1996) - UEFA Team of the Year 2003 - Real Madrid Player of the Year (1): 2005-06 - PFA Team of the Year (4): 1996-97,1997-98,1998-99,1999-2000 - BBC Sports Personality of the Year (1): 2001 - ฟีฟ่า 100 - ESPY Award – Best Male Soccer Player: 2004 - ESPY Award – Best MLS Player: 2008 - English Football Hall of Fame: 2008 - BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award (1): 2010 - MLS Comeback Player of the Year Award (1): 2011 - Major League Soccer Best XI: 2011รางวัลพิเศษรางวัลพิเศษ. - Officer in the Order of the British Empire by Queen Elizabeth II: 2003 - United Nations Children's Fund (UNICEF) Goodwill Ambassador (2005-ปัจจุบัน) - "Britain's Greatest Ambassador" – 100 Greatest Britons awards - The Celebrity 100, number 15 – Forbes, 2007 - Number 1 on the list of the 40 most influential men under the age of 40 in the UK – Arena, 2007 - Time 100: 2008 - Gold Blue Peter Badge winner, 2001 - Do Something Athlete Award, 2011
| ใครคือภรรยาของเดวิด เบคแคม อดีตนักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ | {
"answer": [
"วิคตอเรีย อดัมส์"
],
"answer_begin_position": [
1812
],
"answer_end_position": [
1828
]
} |
528 | 232,281 | หลวงพ่อเพ็ชร (วัดท่าถนน) หลวงพ่อเพ็ชร์ เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะสำริด ปางมารวิชัย (ขัดสมาธิเพชร) ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว มีพุทธลักษณะงดงามมาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดท่าถนน ชาวอุตรดิตถ์นับถือว่า เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ มีงานนมัสการประจำปีในวันกลางเดือนสี่ของทุกปีประวัติหลวงพ่อเพ็ชร์ ประวัติหลวงพ่อเพ็ชร์. เมื่อปี พ.ศ. 2436 หลวงพ่อด้วง เจ้าอาวาสวัดหมอนไม้ อำเภอหนองโพ ซึ่งเป็นอำเภอเมืองปัจจุบัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เดินทางผ่านอุโบสถร้าง ครั้นเมื่อหลวงพ่อด้วงพบจอมปลวกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งรูปร่างรูปแหลมผิดกลับจอมปลวกทั่วไป จึงได้เอาไม้เคาะปลายแหลมที่เป็นยอดของจอมปลวกนั้นจนดินหลุดออก เห็นเกศพระพุทธรูปโผล่ออกมา หลวงพ่อด้วงจึงสั่งให้พระและลูกศิษย์วัดที่ร่วมเดินทางไปด้วยช่วยกันขุดดิน จอมปลวกออก ก็พบพระพุทธรูปขนาดค่อนข้างใหญ่ ฝังอยู่ในจอมปลวกแห่งนั้น จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นั้นไปไว้ที่วัดหนอนไม้ ต่อมาหลวงพ่อด้วงเห็นว่า วัดหมอนไม้ไม่มีพระอุโบสถที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับมีประชาชนที่ทราบข่าวพระพุทธรูปองค์นี้ ได้มากราบไหว้บูชาสักการะเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังอาจมีปัญหาเรื่องโจรผู้ร้าย จึงพิจารณาเห็นว่า หากเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ไปประดิษฐานที่วัดวังเตาหม้อ (คือวัดท่าถนนในปัจจุบัน) ซึ่งมีหลวงพ่อเพ็ชร์เป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดแห่งนี้มีพระอุโบสถ และตั้งอยู่ในที่ชุมนุมชน สะดวกแก่การไปนมัสการของประชาชน ท่านจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ที่วัดวังเตาหม้อ และถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อเพ็ชร์อัญเชิญไปวัดเบญจมบพิตร อัญเชิญไปวัดเบญจมบพิตร. ปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร ได้มีการรวบรวมพระพุทธรูปที่เก่าแก่และสวยงาม ที่อยู่ตามหัวเมืองต่าง ๆ มาประดิษฐานไว้ที่วัดเหล่านี้ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์มีพุทธลักษณะงาม ก็ได้รับเลือกสรรให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร พร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ จากทั่วราชอาณาจักร การที่ต้องนำหลวงพ่อเพ็ชร์ไปจากวัดวังเต้าหม้อทำให้เจ้าอาวาสเสียใจมาก จึงได้ออกจากวัดธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ สุดท้ายได้มรณภาพบนภูเขาในป่า บ้านนาตารอด ตำบลบ้านด่าน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์อัญเชิญกลับมาจังหวัดอุตรดิตถ์ อัญเชิญกลับมาจังหวัดอุตรดิตถ์. ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์กลับคืนไปประดิษฐานไว้ที่วัดวังเตาหม้อตามคำขอของชาวเมืองอุตรดิตถ์ ดังข้อความซึ่งปรากฏอยู่ที่ฐานของพระพุทธรูป " หลวงพ่อเพ็ชร์" ว่า "พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อ ร.ศ.119 พระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้อัญเชิญจาก วัดท่าถนนไปไว้ วัดเบญจมบพิตร ครั้น ร.ศ. 129 หลวงนฤบาล ( จะพันยา ) อัญเชิญกลับมาไว้ วัดท่าถนน " เหตุที่มีรับสั่งให้นำหลวงพ่อเพ็ชร์มาคืนชาวอุตรดิตถ์ครั้งนี้มี มีคำบอกเล่ามาว่าเทวดาประจำองค์หลวงพ่อได้ไปเข้าสุบินสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงว่า อยากกลับอุตรดิตถ์ พระองค์จึงทรงทำตามพระสุบินนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2473 พระครูธรรมกิจจาภิบาล (ทองสุก) หรือพระสุธรรมเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับประชาชนชาวเมืองอุตรดิตถ์ได้ช่วยกันสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์มาประดิษฐานไว้ในพระวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาสักการบูชาได้สะดวก ปัจจุบันหลวงพ่อเพ็ชร์ประดิษฐานอยู่ในวิหารทางด้านทิศเหนือของอุโบสถ
| หลวงพ่อเพ็ชร์ เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะสำริด ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดอะไร | {
"answer": [
"วัดท่าถนน"
],
"answer_begin_position": [
289
],
"answer_end_position": [
298
]
} |
529 | 232,281 | หลวงพ่อเพ็ชร (วัดท่าถนน) หลวงพ่อเพ็ชร์ เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะสำริด ปางมารวิชัย (ขัดสมาธิเพชร) ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว มีพุทธลักษณะงดงามมาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดท่าถนน ชาวอุตรดิตถ์นับถือว่า เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ มีงานนมัสการประจำปีในวันกลางเดือนสี่ของทุกปีประวัติหลวงพ่อเพ็ชร์ ประวัติหลวงพ่อเพ็ชร์. เมื่อปี พ.ศ. 2436 หลวงพ่อด้วง เจ้าอาวาสวัดหมอนไม้ อำเภอหนองโพ ซึ่งเป็นอำเภอเมืองปัจจุบัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เดินทางผ่านอุโบสถร้าง ครั้นเมื่อหลวงพ่อด้วงพบจอมปลวกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งรูปร่างรูปแหลมผิดกลับจอมปลวกทั่วไป จึงได้เอาไม้เคาะปลายแหลมที่เป็นยอดของจอมปลวกนั้นจนดินหลุดออก เห็นเกศพระพุทธรูปโผล่ออกมา หลวงพ่อด้วงจึงสั่งให้พระและลูกศิษย์วัดที่ร่วมเดินทางไปด้วยช่วยกันขุดดิน จอมปลวกออก ก็พบพระพุทธรูปขนาดค่อนข้างใหญ่ ฝังอยู่ในจอมปลวกแห่งนั้น จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นั้นไปไว้ที่วัดหนอนไม้ ต่อมาหลวงพ่อด้วงเห็นว่า วัดหมอนไม้ไม่มีพระอุโบสถที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับมีประชาชนที่ทราบข่าวพระพุทธรูปองค์นี้ ได้มากราบไหว้บูชาสักการะเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังอาจมีปัญหาเรื่องโจรผู้ร้าย จึงพิจารณาเห็นว่า หากเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ไปประดิษฐานที่วัดวังเตาหม้อ (คือวัดท่าถนนในปัจจุบัน) ซึ่งมีหลวงพ่อเพ็ชร์เป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดแห่งนี้มีพระอุโบสถ และตั้งอยู่ในที่ชุมนุมชน สะดวกแก่การไปนมัสการของประชาชน ท่านจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ที่วัดวังเตาหม้อ และถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อเพ็ชร์อัญเชิญไปวัดเบญจมบพิตร อัญเชิญไปวัดเบญจมบพิตร. ปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร ได้มีการรวบรวมพระพุทธรูปที่เก่าแก่และสวยงาม ที่อยู่ตามหัวเมืองต่าง ๆ มาประดิษฐานไว้ที่วัดเหล่านี้ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์มีพุทธลักษณะงาม ก็ได้รับเลือกสรรให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร พร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ จากทั่วราชอาณาจักร การที่ต้องนำหลวงพ่อเพ็ชร์ไปจากวัดวังเต้าหม้อทำให้เจ้าอาวาสเสียใจมาก จึงได้ออกจากวัดธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ สุดท้ายได้มรณภาพบนภูเขาในป่า บ้านนาตารอด ตำบลบ้านด่าน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์อัญเชิญกลับมาจังหวัดอุตรดิตถ์ อัญเชิญกลับมาจังหวัดอุตรดิตถ์. ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์กลับคืนไปประดิษฐานไว้ที่วัดวังเตาหม้อตามคำขอของชาวเมืองอุตรดิตถ์ ดังข้อความซึ่งปรากฏอยู่ที่ฐานของพระพุทธรูป " หลวงพ่อเพ็ชร์" ว่า "พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อ ร.ศ.119 พระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้อัญเชิญจาก วัดท่าถนนไปไว้ วัดเบญจมบพิตร ครั้น ร.ศ. 129 หลวงนฤบาล ( จะพันยา ) อัญเชิญกลับมาไว้ วัดท่าถนน " เหตุที่มีรับสั่งให้นำหลวงพ่อเพ็ชร์มาคืนชาวอุตรดิตถ์ครั้งนี้มี มีคำบอกเล่ามาว่าเทวดาประจำองค์หลวงพ่อได้ไปเข้าสุบินสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงว่า อยากกลับอุตรดิตถ์ พระองค์จึงทรงทำตามพระสุบินนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2473 พระครูธรรมกิจจาภิบาล (ทองสุก) หรือพระสุธรรมเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับประชาชนชาวเมืองอุตรดิตถ์ได้ช่วยกันสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์มาประดิษฐานไว้ในพระวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาสักการบูชาได้สะดวก ปัจจุบันหลวงพ่อเพ็ชร์ประดิษฐานอยู่ในวิหารทางด้านทิศเหนือของอุโบสถ
| ในปี พ.ศ. 2443 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์ ปางมารวิชัย ไปยังวัดใด | {
"answer": [
"วัดเบญจมบพิตร"
],
"answer_begin_position": [
1578
],
"answer_end_position": [
1591
]
} |
530 | 362,682 | ยุทธนา เปื้องกลาง ยุทธนา เปื้องกลาง (ชื่อเล่น ตูมตาม) เป็นนักร้องชาวไทย สังกัด GMM Grammy เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชนะเลิศจากรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 รายการเรียลลิตี้ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ทีวีประวัติ ประวัติ. ยุทธนา เปื้องกลาง เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 ภูมิลำเนา จังหวัดนครสวรรค์ เป็นบุตรของประดิษฐ์ กับ ภาวนา เปื้องกลาง มีพี่ชายชื่อ ธนรัชต์ เปื้องกลาง สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนห้วยน้ำหอมวิทยาคาร จังหวัดนครสวรรค์ (แผนการเรียน วิทย์-คณิต) ปัจจุบันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โดยได้รับทุนพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สาขาวัฒนธรรมไทย ประเภทนักร้องลูกทุ่งความสามารถทางดนตรีและร้องเพลง ความสามารถทางดนตรีและร้องเพลง. ยุทธนา เปื้องกลาง มีความสามารถในการแต่งเพลง และเล่นเครื่องดนตรี 3 ชนิด คือ ขลุ่ย กีตาร์ และ อูคูเลเล่ และสามารถร้องเพลงได้ทั้ง เพลงลูกทุ่ง และ เพลงสตริงผลงานเพลงมิวสิควีดีโอผลงานเพลง. มิวสิควีดีโอ. - เงาในหัวใจ - เป๊กซ์ Zeal feat. หนูนา หนึ่งธิดา - วัดกันมั้ย (เพลงประกอบซิทคอม มาวัดกันมั้ย) ศิลปิน : หนูดิด คิตตี้รางวัล/ตำแหน่งที่ได้รับรางวัล/ตำแหน่งที่ได้รับ. - KBU Mr. & Miss University Award 2010 (ขวัญใจคาร์ฟูร์) (2553) - รางวัลชนะเลิศจากรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 (2554) - ศิลปินหน้าใหม่ยอดนิยม Kazz Awards 2012 - Most popular Of The Year จากรางวัล OK Awards 2011 - สุดยอดเพลงฮิตแห่งปี “เพลงจินตนาการ” จาก Gmember Awards 2011 - รับพระราชทานโล่วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555 - ศิลปินทูตวิสาขพุทธชยันตี ปี 2555 - รับพระราชทานเข็มวันอานันทมหิดล พ.ศ. 2555 - รับรางวัลพระลักษมีทองคำ ปี 2556 - รับรางวัล SPICY IDOLS 2013 และ รางวัลพิเศษ ขวัญใจสไปซี่ - รับรางวัล'ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ปี 2556' และได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่เแห่งชาติ ประจำปี2556 จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯ - รับรางวัล EFM AWARDS นักแสดงยอดนิยม จากละครคุ้มนางครวญ เดือนกุมภาพันธ์ 57 - รับรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 2557 ในสาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม - ทูตของโครงการ "Million gifts million smiles ของขวัญจากใจ เพื่อรอยยิ้ม ความหวัง และกำลังใจ" ครั้งที่ 5 ปี2557 - รับรางวัล "ศิลปิน ดารา และสื่อสารมวลชนเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ครั้งที่ 6" ปี2558 - รับรางวัลศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทูตพระพุทธศาสนามาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๘ - รับรางวัลศิลปินดีเด่นในเครือ GMM Grammy ปี 2014 - รับรางวัล EFM AWARDS สาขา ดารายอดนิยม จากละครเรื่องเงาใจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558อัลบั้มเดี่ยวSingle พิเศษSingle พิเศษ. - เพลง ทวงสัญญาใจ (เพลงที่แต่งเองเพื่อใช้ประกวด The Star 7 ในสัปดาห์ที่ 6 - มินิคอนเสิร์ตความยาว 15 นาที ) - เพลง ไม่ใช่ฝัน ฉันตื่นแล้ว (เพลงประกอบโฆษณา clean & clear) - เธอคือของหวง (เพลงประกอบโฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า) - เพลง ในหลวงของแผ่นดิน - เพลง ตรงนี้มีฉันอยู่ ฉันสัญญา (เพลงประกอบละคร น้ำขึ้นให้รีบรัก) - เพลง แม่ของคนไทย (บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระราชินี 80 พรรษา) - ร้องร่วมกับเหล่าศิลปิน GMM - เพลง แสงที่เธอศรัทธา (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง คนรุ่นใหม่ - ร้องร่วมกับ อาร์, สิงโต, เน็ท กานดา (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง สายธารที่ต่างกัน -ร้องร่วมกับ อาร์, สิงโต, เน็ท กานดา, ตี๋ ดอกสะเดา, รัดเกล้า (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ผิดหวัง - ร้องร่วมกับ นก สินจัย, ตูมตาม, สิงโต, รัดเกล้า, ตี๋ ดอกสะเดา, อาร์ (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง แตกแยก - ร้องร่วมกับ สิงโต, อาร์ The Star, นก สินจัย (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ผิดคำสาบาน - ร้องร่วมกับ นก สินจัย, สิงโต, อาร์ The Star (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลงแผ่นดินร้อนพวกขายชาติ (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ความหวังคืนมายังแผ่นดิน - ร้องร่วมกับ รัดเกล้า, นก สินจัย, พินต้า (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง บทสรุป (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง "แพ้คนขี้เหงา" olives feat. ตูมตาม - เพลง ฤดูรักษ์ (ตูมตาม เดอะสตาร์) OST.ภาพยนตร์สารคดี "ฤดูรักษ์" รายการเมืองเรืองแสง - เพลง รักของฉันนั้นคือเธอ ร้องร่วมกับศิลปินเดอะสตาร์ อัลบั้ม 10 YEARS OF LOVE บทเพลงรักจากเดอะสตาร์ - เพลง จากลูกของแผ่นดิน - รวมศิลปิน - เพลง อยากสอยหัวใจ (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) - เพลง คิดฮอดสาวฟังลำ (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) - เพลง กลับคำสาหล่า (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) ต้นฉบับ ไมค์ ภิรมย์พร - เพลง คำว่าฮักกัน มันเหี่ยถิ่มไส (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) ต้นฉบับ มนต์แคน แก่นคูนผลงานการแสดงละครโทรทัศน์ละครเวทีซิทคอมซีรีส์ภาพยนตร์Brand Ambassadorผลงานการแสดง. Brand Ambassador. - "Dapper Star" จากโครงการ Make-A-Wish-Foundation Thailand - ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า Clean&Clearโฆษณาโฆษณา. - โฆษณา Clean&Clear - โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า รสหมูสับPresenterPresenter. - AIIZ LOVE CHARITY - MAC JEAN - วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555 - พรีเซ็นเตอร์ดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติ ประจำปี2556 จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯ - ทูตของโครงการ "Million gifts million smiles ของขวัญจากใจ เพื่อรอยยิ้ม ความหวัง และกำลังใจ" ครั้งที่ 5
| ผู้ชนะเลิศจากรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 คือใคร | {
"answer": [
"ยุทธนา เปื้องกลาง"
],
"answer_begin_position": [
110
],
"answer_end_position": [
127
]
} |
531 | 362,682 | ยุทธนา เปื้องกลาง ยุทธนา เปื้องกลาง (ชื่อเล่น ตูมตาม) เป็นนักร้องชาวไทย สังกัด GMM Grammy เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชนะเลิศจากรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 รายการเรียลลิตี้ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ทีวีประวัติ ประวัติ. ยุทธนา เปื้องกลาง เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 ภูมิลำเนา จังหวัดนครสวรรค์ เป็นบุตรของประดิษฐ์ กับ ภาวนา เปื้องกลาง มีพี่ชายชื่อ ธนรัชต์ เปื้องกลาง สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนห้วยน้ำหอมวิทยาคาร จังหวัดนครสวรรค์ (แผนการเรียน วิทย์-คณิต) ปัจจุบันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โดยได้รับทุนพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สาขาวัฒนธรรมไทย ประเภทนักร้องลูกทุ่งความสามารถทางดนตรีและร้องเพลง ความสามารถทางดนตรีและร้องเพลง. ยุทธนา เปื้องกลาง มีความสามารถในการแต่งเพลง และเล่นเครื่องดนตรี 3 ชนิด คือ ขลุ่ย กีตาร์ และ อูคูเลเล่ และสามารถร้องเพลงได้ทั้ง เพลงลูกทุ่ง และ เพลงสตริงผลงานเพลงมิวสิควีดีโอผลงานเพลง. มิวสิควีดีโอ. - เงาในหัวใจ - เป๊กซ์ Zeal feat. หนูนา หนึ่งธิดา - วัดกันมั้ย (เพลงประกอบซิทคอม มาวัดกันมั้ย) ศิลปิน : หนูดิด คิตตี้รางวัล/ตำแหน่งที่ได้รับรางวัล/ตำแหน่งที่ได้รับ. - KBU Mr. & Miss University Award 2010 (ขวัญใจคาร์ฟูร์) (2553) - รางวัลชนะเลิศจากรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 (2554) - ศิลปินหน้าใหม่ยอดนิยม Kazz Awards 2012 - Most popular Of The Year จากรางวัล OK Awards 2011 - สุดยอดเพลงฮิตแห่งปี “เพลงจินตนาการ” จาก Gmember Awards 2011 - รับพระราชทานโล่วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555 - ศิลปินทูตวิสาขพุทธชยันตี ปี 2555 - รับพระราชทานเข็มวันอานันทมหิดล พ.ศ. 2555 - รับรางวัลพระลักษมีทองคำ ปี 2556 - รับรางวัล SPICY IDOLS 2013 และ รางวัลพิเศษ ขวัญใจสไปซี่ - รับรางวัล'ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ปี 2556' และได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่เแห่งชาติ ประจำปี2556 จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯ - รับรางวัล EFM AWARDS นักแสดงยอดนิยม จากละครคุ้มนางครวญ เดือนกุมภาพันธ์ 57 - รับรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 2557 ในสาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม - ทูตของโครงการ "Million gifts million smiles ของขวัญจากใจ เพื่อรอยยิ้ม ความหวัง และกำลังใจ" ครั้งที่ 5 ปี2557 - รับรางวัล "ศิลปิน ดารา และสื่อสารมวลชนเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ครั้งที่ 6" ปี2558 - รับรางวัลศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทูตพระพุทธศาสนามาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๘ - รับรางวัลศิลปินดีเด่นในเครือ GMM Grammy ปี 2014 - รับรางวัล EFM AWARDS สาขา ดารายอดนิยม จากละครเรื่องเงาใจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558อัลบั้มเดี่ยวSingle พิเศษSingle พิเศษ. - เพลง ทวงสัญญาใจ (เพลงที่แต่งเองเพื่อใช้ประกวด The Star 7 ในสัปดาห์ที่ 6 - มินิคอนเสิร์ตความยาว 15 นาที ) - เพลง ไม่ใช่ฝัน ฉันตื่นแล้ว (เพลงประกอบโฆษณา clean & clear) - เธอคือของหวง (เพลงประกอบโฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า) - เพลง ในหลวงของแผ่นดิน - เพลง ตรงนี้มีฉันอยู่ ฉันสัญญา (เพลงประกอบละคร น้ำขึ้นให้รีบรัก) - เพลง แม่ของคนไทย (บทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระราชินี 80 พรรษา) - ร้องร่วมกับเหล่าศิลปิน GMM - เพลง แสงที่เธอศรัทธา (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง คนรุ่นใหม่ - ร้องร่วมกับ อาร์, สิงโต, เน็ท กานดา (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง สายธารที่ต่างกัน -ร้องร่วมกับ อาร์, สิงโต, เน็ท กานดา, ตี๋ ดอกสะเดา, รัดเกล้า (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ผิดหวัง - ร้องร่วมกับ นก สินจัย, ตูมตาม, สิงโต, รัดเกล้า, ตี๋ ดอกสะเดา, อาร์ (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง แตกแยก - ร้องร่วมกับ สิงโต, อาร์ The Star, นก สินจัย (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ผิดคำสาบาน - ร้องร่วมกับ นก สินจัย, สิงโต, อาร์ The Star (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลงแผ่นดินร้อนพวกขายชาติ (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง ความหวังคืนมายังแผ่นดิน - ร้องร่วมกับ รัดเกล้า, นก สินจัย, พินต้า (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง บทสรุป (เพลงประกอบละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล) - เพลง "แพ้คนขี้เหงา" olives feat. ตูมตาม - เพลง ฤดูรักษ์ (ตูมตาม เดอะสตาร์) OST.ภาพยนตร์สารคดี "ฤดูรักษ์" รายการเมืองเรืองแสง - เพลง รักของฉันนั้นคือเธอ ร้องร่วมกับศิลปินเดอะสตาร์ อัลบั้ม 10 YEARS OF LOVE บทเพลงรักจากเดอะสตาร์ - เพลง จากลูกของแผ่นดิน - รวมศิลปิน - เพลง อยากสอยหัวใจ (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) - เพลง คิดฮอดสาวฟังลำ (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) - เพลง กลับคำสาหล่า (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) ต้นฉบับ ไมค์ ภิรมย์พร - เพลง คำว่าฮักกัน มันเหี่ยถิ่มไส (เพลงประกอบละคร ดาวจรัสฟ้า) ต้นฉบับ มนต์แคน แก่นคูนผลงานการแสดงละครโทรทัศน์ละครเวทีซิทคอมซีรีส์ภาพยนตร์Brand Ambassadorผลงานการแสดง. Brand Ambassador. - "Dapper Star" จากโครงการ Make-A-Wish-Foundation Thailand - ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า Clean&Clearโฆษณาโฆษณา. - โฆษณา Clean&Clear - โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า รสหมูสับPresenterPresenter. - AIIZ LOVE CHARITY - MAC JEAN - วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2555 - พรีเซ็นเตอร์ดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติ ประจำปี2556 จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯ - ทูตของโครงการ "Million gifts million smiles ของขวัญจากใจ เพื่อรอยยิ้ม ความหวัง และกำลังใจ" ครั้งที่ 5
| ยุทธนา เปื้องกลาง ได้รับทุนพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในสาขาใด | {
"answer": [
"สาขาวัฒนธรรมไทย"
],
"answer_begin_position": [
757
],
"answer_end_position": [
772
]
} |
532 | 737,334 | โรงเรียนเทพมงคลรังษี โรงเรียนเทพมงคลรังษี (อังกฤษ: Thepmongkhonrangsri School) (อักษรย่อ:ท.ษ.) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแบบสหศึกษาและเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีเนื้อที่ 14 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ถนนเจ้าขุนเณร ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีประวัติโรงเรียน ประวัติโรงเรียน. โรงเรียนเทพมงคลรังษี ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 โดยถือจากการริเริ่มของ พระเดชพระคุณ พระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทวสังฆารามและอดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้เห็นความยากลำบากของผู้ปกครองเมื่อเด็กจบชั้นประถมศึกษาแล้ว เพราะโรงเรียนประจำจังหวัดอยู่ไกลจากชุมชนมาก และโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีอยู่ก็รับเด็กเข้าเรียนได้ไม่หมด ท่านจึงมีความคิด ที่จะให้มีโรงเรียนมัธยมศึกษาในวัดเทวสังฆารามขึ้น จึงได้ดำเนินการจัดหาที่ดินที่ติดกับวัด เพื่อเป็นที่ตั้งโรงเรียน และเนื่องจากโรงเรียนการช่างกาญจนบุรีที่ตั้งอยู่ในวัด มีโครงการจะย้ายออกไปตั้งในสถานที่ใหม่ ดังนั้น จึงได้ที่ดินรวมทั้งอาคารต่างๆ เพื่อเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมศึกษา ตามเจตนา ในช่วงแรก มีจำนวนนักเรียน 111 คน อาศัยเรียนที่ตึกรวิเทวนันท์ ซึ่งเป็นอาคารเรียนพระปริยัติธรรม และสอนพระพุทธศาสนา ต่อมาก็มีนักเรียนเพิ่มขึ้นตามลำดับ และได้เริ่มเปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในปีการศึกษา 2524 ในปี 2560 - 2561 ได้มีข่าว นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษของโรงเรียน แจ้งความว่าสลากกินแบ่งของตนเองสูญหายซึ่งสลากชุดนั้นถูกรางวัลที่ 1 ได้รางวัลเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ได้มีการสร้างหลักฐานเท็จ พยานเท็จ ต่างๆมาเพื่อหวังจะได้เงินจำนวนดังกล่าว แต่ในหลักฐานจริงที่ปรากฏ ตัวครูคนนี้ไม่ได้ทำหล่นและไม่ได้ถูกรางวัลแต่อย่างใด เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2561 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เดินทางเข้าควบคุมตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ ที่ โรงเรียนเทพมงคลรังษี อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแสดงหมายจับนายปรีชา และขอนำตัวนายปรีชาออกจากโรงเรียน และขอเข้าตรวจค้นห้องพักของนายปรีชา วันที่ 2 มี.ค.2561 เวลา 10.45 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบ ได้เบิกตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ ผู้ต้องหาคดีล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ไปส่งศาลอาญารัชดา เวลา 14.50 น. ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ของทั้งสองแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายปรีชา และ น.ส.รัตนาพร ประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข และให้ทั้งสองมารายงานตัวต่อศาลเมื่อครบกำหนดฝากขังในวันที่ 14 มี.ค.อาคารและสถานที่ภายในโรงเรียน
| ใครเป็นคนริเริ่มสร้างโรงเรียนเทพมงคลรังษี | {
"answer": [
"พระเดชพระคุณ พระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธโชติ)"
],
"answer_begin_position": [
541
],
"answer_end_position": [
583
]
} |
533 | 737,334 | โรงเรียนเทพมงคลรังษี โรงเรียนเทพมงคลรังษี (อังกฤษ: Thepmongkhonrangsri School) (อักษรย่อ:ท.ษ.) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแบบสหศึกษาและเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีเนื้อที่ 14 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ถนนเจ้าขุนเณร ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีประวัติโรงเรียน ประวัติโรงเรียน. โรงเรียนเทพมงคลรังษี ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 โดยถือจากการริเริ่มของ พระเดชพระคุณ พระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทวสังฆารามและอดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้เห็นความยากลำบากของผู้ปกครองเมื่อเด็กจบชั้นประถมศึกษาแล้ว เพราะโรงเรียนประจำจังหวัดอยู่ไกลจากชุมชนมาก และโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีอยู่ก็รับเด็กเข้าเรียนได้ไม่หมด ท่านจึงมีความคิด ที่จะให้มีโรงเรียนมัธยมศึกษาในวัดเทวสังฆารามขึ้น จึงได้ดำเนินการจัดหาที่ดินที่ติดกับวัด เพื่อเป็นที่ตั้งโรงเรียน และเนื่องจากโรงเรียนการช่างกาญจนบุรีที่ตั้งอยู่ในวัด มีโครงการจะย้ายออกไปตั้งในสถานที่ใหม่ ดังนั้น จึงได้ที่ดินรวมทั้งอาคารต่างๆ เพื่อเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมศึกษา ตามเจตนา ในช่วงแรก มีจำนวนนักเรียน 111 คน อาศัยเรียนที่ตึกรวิเทวนันท์ ซึ่งเป็นอาคารเรียนพระปริยัติธรรม และสอนพระพุทธศาสนา ต่อมาก็มีนักเรียนเพิ่มขึ้นตามลำดับ และได้เริ่มเปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในปีการศึกษา 2524 ในปี 2560 - 2561 ได้มีข่าว นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษของโรงเรียน แจ้งความว่าสลากกินแบ่งของตนเองสูญหายซึ่งสลากชุดนั้นถูกรางวัลที่ 1 ได้รางวัลเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ได้มีการสร้างหลักฐานเท็จ พยานเท็จ ต่างๆมาเพื่อหวังจะได้เงินจำนวนดังกล่าว แต่ในหลักฐานจริงที่ปรากฏ ตัวครูคนนี้ไม่ได้ทำหล่นและไม่ได้ถูกรางวัลแต่อย่างใด เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2561 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เดินทางเข้าควบคุมตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ ที่ โรงเรียนเทพมงคลรังษี อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแสดงหมายจับนายปรีชา และขอนำตัวนายปรีชาออกจากโรงเรียน และขอเข้าตรวจค้นห้องพักของนายปรีชา วันที่ 2 มี.ค.2561 เวลา 10.45 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบ ได้เบิกตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ ผู้ต้องหาคดีล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ไปส่งศาลอาญารัชดา เวลา 14.50 น. ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ของทั้งสองแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายปรีชา และ น.ส.รัตนาพร ประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข และให้ทั้งสองมารายงานตัวต่อศาลเมื่อครบกำหนดฝากขังในวันที่ 14 มี.ค.อาคารและสถานที่ภายในโรงเรียน
| โรงเรียนเทพมงคลรังษีเริ่มเปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในปีการศึกษาใด | {
"answer": [
"ในปีการศึกษา 2524"
],
"answer_begin_position": [
1311
],
"answer_end_position": [
1328
]
} |
534 | 112,685 | พุ่ม สาคร นายพุ่ม สาคร เกิดประมาณ พ.ศ. 2426 นักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงคนแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเลือกให้เป็นผู้ตามเสด็จ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ไปศึกษาต่อวิชาการทหารโรงเรียนเสนาธิการที่จักรวรรดิรัสเซียในปี พ.ศ. 2441 ภายหลังได้รับสัญญาบัตรแล้วเข้าเป็นนายทหารม้าฮุสซาร์ของจักรพรรดิซาร์นิโคลาสที่ 2 จากนั้นได้ศึกษาต่อในโรงเรียนเสนาธิการ 2 ปี หลังจบการศึกษาแล้ว นายพุ่มตัดสินใจไม่กลับประเทศ โดยได้โอนสัญชาติเป็นรัสเซียและเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธด็อกซ์ (รัสเซียออร์โธด็อกซ์) โดยมีนามในศาสนาว่า นิโคลาส พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นนายนิโคลัย พุ่มสกี้ (Nikolai Pumsky) และเข้ารับราชการในกองทัพบกรัสเซียจนมียศเป็นพันเอก เมื่อรัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ในปี พ.ศ. 2460 ได้หันไปร่วมกับนายทหารรัสเซียที่นิยมการปฏิวัติอยู่พักหนึ่ง แต่ได้หลบหนีออกจากประเทศรัสเซียไปประเทศฝรั่งเศส ทำงานเป็นเสมียนธนาคาร จนกระทั่งพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงชวนมาเป็นเลขานุการประจำตัวหม่อมคัทริน ถึงแก่กรรมที่บ้านเทรเดซี ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490ประวัติวัยเด็ก ประวัติ. วัยเด็ก. นายพุ่ม เป็นบุตรของนายซุ้ยกับนางชื่น (นางชื่นเป็นน้องสาวของจางวางสอน ภมรสมิต) ตาชื่อหลวงจำนงทวยหาญ (แย้ม) มีลูกพี่ลูกน้องชื่อ พระวารินพจนสาส์น (วาศ ภมรสมิต) และ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้โปรดเกล้าพระราชทานนามสกุลว่า สาคร นายพุ่ม สาคร เกิดและโตแถวคลองบางหลวง ตลาดพลู เป็นครอบครัวที่มีฐานะดี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาคือ นางโต๊ะ (เป็นภรรยาพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชื่น บุนนาค) มีบุตรีชื่อ คุณอัญชันย์ บุนนาค) นางถนอม (เป็นภรรยาพระยาสุริยวงศ์) และนายพุ่มเป็นบุตรคนที่ 3 และนางผัน (เป็นภรรยานายกฤษณ์) บิดาได้ส่ง นายพุ่ม สาคร มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบสายอังกฤษ (ซึ่งยังไม่ได้ใช้ชื่อว่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (2454) และได้ใช้ตึกแม้นนฤมิตรของโรงเรียนเทพศิรินทร์เป็นสถานที่ศึกษา ซึ่งต่อมาเรียกว่า "โรงเรียนสวนกุหลาบตึกแม้นนฤมิตร" และต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็น "โรงเรียนเทพศิรินทร์ตึกแม้นนฤมิตร" จนเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์) ระหว่างเรียนนายพุ่มได้เคยบวชเป็นสามเณรที่วัดประยูรวงศาวาส นายพุ่มเป็นคนที่เรียนเก่ง และก็คงจะเป็นผู้มีบุคลิกดี ตลอดจนมีกิริยามารยาท การพูดจาปราศรัยดี กล้าหาญ จึงได้รับเลือกจากกรรมการคัดเลือก บุตรข้าราชการนักเรียนดีเด่นในสมัยนั้น ในคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริว่าจะนำนักเรียนไทยไปศึกษาในประเทศต่าง ๆ โดยคัดนักเรียนไทยตามเสด็จ 19 คน เป็นพระราชวงศ์ 5 พระองค์ อีก 13 คนเป็นลูกหลานขุนนาง โดยมี 1 คนที่คัดจากผู้เรียนดีเด่นที่คัดจาก 10 คน โดยมีพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) อัครราชทูตไทยประจำราชสำนักเซ็นต์เยมส์แห่งอังกฤษ เป็นผู้คัดเลือก ขั้นตอนคัดเลือก ท่านทูตใช้วิธีเรียกตัวมาพิจารณาคนละ 4 วัน โดยท่านทูตพิจารณาเอง 2 วัน แล้วส่งไปให้เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ทรงพิจารณาอีก 2 วัน โดยมีพันโท ซี.วี.ฮยูม และ ดร. เอ็ม.เอฟ.ยาร์ พระอภิบาลและแพทย์ประจำพระองค์ของเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธถวายคำปรึกษาแก่เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ด้วย หลังการพิจารณา ท่านทูตได้มีจดหมายกราบบังคมทูลไปยังพระเจ้าอยู่หัว ความว่า “นายพุ่ม เป็นคนไม่ใช่บุตรผู้มีตระกูล แต่เกิดมาเป็นช้างเผือก กิริยาวาจาเป็นที่ชอบของคนทั้งหลาย ฉลาดในการเล่าเรียน อายุ 15 ปี ทูลกระหม่อมเล็กเลือกเป็นที่หนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้าก็ชอบ และได้กราบทูลไว้แล้วครั้งหนึ่งที่เนเปิลว่าหลักแหลมมาก” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบท่านทูตว่า “...นายพุ่มเป็นคนไม่มีตระกูลแต่เป็นคนฉลาดเฉียบแหลมอยู่ ก็คงจะได้ราชการดีในภายหน้า และบางทีจะได้ติดตัวลูกทำการร่วมหน้าที่กันต่อไป ข้อสำคัญก็เพียงแต่ให้เป็นที่พึงพอใจกันกับลูกชายเล็กได้จริง ๆ...”ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ศึกษาต่อที่รัสเซีย ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ศึกษาต่อที่รัสเซีย. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ จักรวรรดิรัสเซีย ตามคำกราบบังคมทูลของ จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย แห่งรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ของ ประเทศรัสเซีย พระองค์ ได้เสด็จมาเยี่ยมประเทศไทย ขอให้ส่ง พระราชโอรสไปทรงศึกษา เล่าเรียน ที่ประเทศรัสเซียบ้าง สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไปตามนั้น และ ยังได้ทรงขอร้องต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาส ขอให้ได้ให้เกียรติ นายพุ่ม สาคร ให้ได้รับความเป็นอยู่ ศึกษา เล่าเรียนทุกอย่างให้เหมือนกับ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เพื่อให้ นายพุ่ม สาคร เป็นเพื่อนเรียน และ มิตรแท้ ของ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ในต่างแดนและเพื่อให้เจ้าฟ้าพระองค์นี้ ทรงมีขัตติยมานะเพียรในการเรียนมากยิ่งขึ้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ไปส่ง สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และนายพุ่ม สาคร โดยเรือพระที่นั่งจักรี (ลำเก่า) ถึงที่ประเทศสิงคโปร์ นายพุ่ม สาคร ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2439 ไปถึงประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2441 ซึ่งทางจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ได้จัดขบวนนายทหารและคณะมารับที่ชายแดนโดยหัวหน้าเป็นนายพลนายทหารองครักษ์ของพระเจ้าซาร์เลยทีเดียว จากนั้น ได้นำเสด็จไปประทับยังวังฤดูหนาวของพระเจ้าซาร์นิโคลาส ในสมัยนั้นจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 มีกองทัพทหารที่เกรียงไกรมาก อยู่ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งแต่นั้น นายพุ่ม สาคร จึงเป็นเสมือนมิตรแท้ และเพื่อนตายของ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม สาคร ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก ซึ่งเป็นสำนักศึกษาที่ใกล้ชิดกับ พระเจ้าซาร์นิโคลาสมากที่สุด ในการเรียนนี้จะต้องมีความมานะพยายามในการเล่าเรียน และ ฝึกอย่างหนัก เพราะจะต้องแข่งกับคนรัสเซียที่เป็นนักเรียนด้วยกันซึ่งเราเสียเปรียบด้านภาษาและความเคยชิน แต่เมื่อผลการเรียนออกมา ผลการสอบไล่ปี พ.ศ. 2443 สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ทรงสอบได้เป็นอันดับ 2 และนายพุ่ม สาคร ได้เป็นอันดับที่ 4 ทั้งๆ ที่สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯและนายพุ่ม มักจะต้องไปร่วมงานต่างๆ ของราชสำนักพระเจ้าซาร์นิโคลาส อยู่เสมอ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม จะต้องไปถวายปฏิบัติ กับพระราชมารดาของ จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และจักรพรรดินีอะเลคซันดรา ฟอโดรอฟนา แห่งรัสเซียด้วย ผลการสอบครั้งสุดท้ายก่อนจะจบจากโรงเรียน สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สอบได้เป็นที่1 และ นายพุ่ม สาคร สอบได้เป็นที่ 2 และ ได้รับการบรรจุเข้าเป็น นายร้อยตรีแห่งกรมทหารม้าฮุสซาร์ นายร้อยตรีพุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับมาที่เมืองไทยครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2446 และได้เข้าประจำการกรมทหารม้ารักษาพระองค์กรุงเทพฯ ได้รับยศ ร้อยตรีทหารม้า จากนั้น ร.ต.พุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับไปศึกษาที่จักรวรรดิรัสเซียอีกครั้งเพื่อเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการชั้นสูง และ สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2448 ร.ต.พุ่ม สาคร ได้เข้าประจำการใน กรมทหารม้าฮุสซาร์ อีกครั้งหนึ่ง และ ได้รับยศ พันเอก เป็น พันเอก พุ่ม สาคร แห่งกรมทหารม้าฮุสซาร์ ที่เป็นที่หนึ่ง และ โด่งดังในด้านการรบ ในครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 พันเอกพุ่ม สาคร ในฐานะนายทหารรัสเซีย ได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารสัมพันธมิตร ในสงคราม โลกครั้งที่1 ร่วมกับกองทัพเยอรมันจนได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนั้น พันเอกพุ่ม สาคร ได้เริ่มเหินห่างจากสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ทรงเข้าพิธีสมรสกับ หม่อมคัทริน เคสนิคสกี้ และแยกทางกับ พ.อ.พุ่ม สาคร เพื่อเสด็จกลับประเทศไทย ซึ่งพ.อ.พุ่ม สาคร จะขออยู่ต่อเพื่อศึกษาภาษาฝรั่งเศส ในการนี้ทางกระทรวงกลาโหมของไทยไม่ยอม จึงเกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงจนทางกระทรวงกลาโหมได้สั่งให้ขังบริเวณ พ.อ.พุ่ม สาคร ในสถานทูตไทย กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งการที่พ.อ.พุ่ม สาคร โดนขังในครั้งนี้ ได้ก่อความเคียดแค้นให้แก่ นายทหารฮุสซาร์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นการทำให้กรมทหารม้า นี้เสียเกียรติ จึงได้ลักพาตัว พ.อ.พุ่ม สาคร ออกจากสถานทูต จึงทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้น ถึงกับ พ.อ.พุ่ม สาคร ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นรัสเซีย ซึ่งเป็นเหตุทำให้ พ.อ.พุ่ม สาคร ไม่กลับประเทศไทยได้อีกปฏิวัติในรัสเซีย ปฏิวัติในรัสเซีย. ประเทศรัสเซียได้เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ. 2460 ซึ่งนำทางไปสู่ลัทธิคอมมิวนิสต์ นายทหารรัสเซียถูกปลดออกจากประจำการจำนวนมาก และได้ยอมให้ทหารชั้นผู้น้อยเลือกผู้บังคับบัญชาเอง พันเอกพุ่มสกี้ (ได้โอนสัญชาติรัสเซียแล้ว) ได้รับ การคัดเลือกจากนายทหารชั้นผู้น้อย ให้เป็นผู้บังคับบัญชาต่อไป แต่เนื่องจากความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของ พ.อ.พุ่มสกี้ ที่มีต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาสเป็นอันมากจึงไม่ยอมรับตำแหน่งหน้าที่นี้ และถือโอกาสหนีออกจากประเทศรัสเซียไปที่ประเทศฝรั่งเศส มาเป็น นายพุ่ม สกี้ มาทำงานเป็นเสมียน และ ต่อมาได้พำนักกับ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และได้รับมอบหมายให้เป็นเลขานุการของหม่อมคัทริน เคสนิคสกี้บั้นปลายชีวิต บั้นปลายชีวิต. นายพุ่มสกี้ ได้กลับเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงเสนอเรื่องขอเปลี่ยนสัญชาติให้ นายพุ่มสกี้ กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้งหนึ่งเป็น นายพุ่ม สาคร การจากเมืองไทยไปถึง 33 ปี ทำให้นายพุ่ม สาคร ตื่นตาตื่นใจเป็นอันมากที่ ได้กลับมาเห็น บ้านเกิดเมืองนอนของตนอีก การกลับมาในครั้งนั้น ก็เป็นที่กล่าวขวัญของคนไทยมาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เชิญ และ ขอร้องนายพุ่ม สาคร ให้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ให้ยศพันโททหารประจำกองทัพไทย แต่ว่านายพุ่ม สาคร ตอบปฏิเสธ ต่อมาจึงได้เดินทางกลับประเทศอังกฤษ พร้อมกับการเสด็จกลับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ไปพำนักอยู่ที่บ้านพักเทรเดซี่ของ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบอดมินห์ ประเทศอังกฤษ นายพุ่มถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 เมื่ออายุ 70 ปี ด้วยอาการหัวใจวาย ขณะที่พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เสด็จไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ศพของนายพุ่ม สาคร ยังคงฝังอยู่ ณ สุสานใกล้บ้าน ของ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
| นักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงคนแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 คือใคร | {
"answer": [
"นายพุ่ม สาคร"
],
"answer_begin_position": [
94
],
"answer_end_position": [
106
]
} |
535 | 112,685 | พุ่ม สาคร นายพุ่ม สาคร เกิดประมาณ พ.ศ. 2426 นักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงคนแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเลือกให้เป็นผู้ตามเสด็จ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ไปศึกษาต่อวิชาการทหารโรงเรียนเสนาธิการที่จักรวรรดิรัสเซียในปี พ.ศ. 2441 ภายหลังได้รับสัญญาบัตรแล้วเข้าเป็นนายทหารม้าฮุสซาร์ของจักรพรรดิซาร์นิโคลาสที่ 2 จากนั้นได้ศึกษาต่อในโรงเรียนเสนาธิการ 2 ปี หลังจบการศึกษาแล้ว นายพุ่มตัดสินใจไม่กลับประเทศ โดยได้โอนสัญชาติเป็นรัสเซียและเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธด็อกซ์ (รัสเซียออร์โธด็อกซ์) โดยมีนามในศาสนาว่า นิโคลาส พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นนายนิโคลัย พุ่มสกี้ (Nikolai Pumsky) และเข้ารับราชการในกองทัพบกรัสเซียจนมียศเป็นพันเอก เมื่อรัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ในปี พ.ศ. 2460 ได้หันไปร่วมกับนายทหารรัสเซียที่นิยมการปฏิวัติอยู่พักหนึ่ง แต่ได้หลบหนีออกจากประเทศรัสเซียไปประเทศฝรั่งเศส ทำงานเป็นเสมียนธนาคาร จนกระทั่งพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงชวนมาเป็นเลขานุการประจำตัวหม่อมคัทริน ถึงแก่กรรมที่บ้านเทรเดซี ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490ประวัติวัยเด็ก ประวัติ. วัยเด็ก. นายพุ่ม เป็นบุตรของนายซุ้ยกับนางชื่น (นางชื่นเป็นน้องสาวของจางวางสอน ภมรสมิต) ตาชื่อหลวงจำนงทวยหาญ (แย้ม) มีลูกพี่ลูกน้องชื่อ พระวารินพจนสาส์น (วาศ ภมรสมิต) และ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้โปรดเกล้าพระราชทานนามสกุลว่า สาคร นายพุ่ม สาคร เกิดและโตแถวคลองบางหลวง ตลาดพลู เป็นครอบครัวที่มีฐานะดี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาคือ นางโต๊ะ (เป็นภรรยาพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชื่น บุนนาค) มีบุตรีชื่อ คุณอัญชันย์ บุนนาค) นางถนอม (เป็นภรรยาพระยาสุริยวงศ์) และนายพุ่มเป็นบุตรคนที่ 3 และนางผัน (เป็นภรรยานายกฤษณ์) บิดาได้ส่ง นายพุ่ม สาคร มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบสายอังกฤษ (ซึ่งยังไม่ได้ใช้ชื่อว่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (2454) และได้ใช้ตึกแม้นนฤมิตรของโรงเรียนเทพศิรินทร์เป็นสถานที่ศึกษา ซึ่งต่อมาเรียกว่า "โรงเรียนสวนกุหลาบตึกแม้นนฤมิตร" และต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็น "โรงเรียนเทพศิรินทร์ตึกแม้นนฤมิตร" จนเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์) ระหว่างเรียนนายพุ่มได้เคยบวชเป็นสามเณรที่วัดประยูรวงศาวาส นายพุ่มเป็นคนที่เรียนเก่ง และก็คงจะเป็นผู้มีบุคลิกดี ตลอดจนมีกิริยามารยาท การพูดจาปราศรัยดี กล้าหาญ จึงได้รับเลือกจากกรรมการคัดเลือก บุตรข้าราชการนักเรียนดีเด่นในสมัยนั้น ในคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริว่าจะนำนักเรียนไทยไปศึกษาในประเทศต่าง ๆ โดยคัดนักเรียนไทยตามเสด็จ 19 คน เป็นพระราชวงศ์ 5 พระองค์ อีก 13 คนเป็นลูกหลานขุนนาง โดยมี 1 คนที่คัดจากผู้เรียนดีเด่นที่คัดจาก 10 คน โดยมีพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) อัครราชทูตไทยประจำราชสำนักเซ็นต์เยมส์แห่งอังกฤษ เป็นผู้คัดเลือก ขั้นตอนคัดเลือก ท่านทูตใช้วิธีเรียกตัวมาพิจารณาคนละ 4 วัน โดยท่านทูตพิจารณาเอง 2 วัน แล้วส่งไปให้เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ทรงพิจารณาอีก 2 วัน โดยมีพันโท ซี.วี.ฮยูม และ ดร. เอ็ม.เอฟ.ยาร์ พระอภิบาลและแพทย์ประจำพระองค์ของเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธถวายคำปรึกษาแก่เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ด้วย หลังการพิจารณา ท่านทูตได้มีจดหมายกราบบังคมทูลไปยังพระเจ้าอยู่หัว ความว่า “นายพุ่ม เป็นคนไม่ใช่บุตรผู้มีตระกูล แต่เกิดมาเป็นช้างเผือก กิริยาวาจาเป็นที่ชอบของคนทั้งหลาย ฉลาดในการเล่าเรียน อายุ 15 ปี ทูลกระหม่อมเล็กเลือกเป็นที่หนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้าก็ชอบ และได้กราบทูลไว้แล้วครั้งหนึ่งที่เนเปิลว่าหลักแหลมมาก” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบท่านทูตว่า “...นายพุ่มเป็นคนไม่มีตระกูลแต่เป็นคนฉลาดเฉียบแหลมอยู่ ก็คงจะได้ราชการดีในภายหน้า และบางทีจะได้ติดตัวลูกทำการร่วมหน้าที่กันต่อไป ข้อสำคัญก็เพียงแต่ให้เป็นที่พึงพอใจกันกับลูกชายเล็กได้จริง ๆ...”ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ศึกษาต่อที่รัสเซีย ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ศึกษาต่อที่รัสเซีย. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ จักรวรรดิรัสเซีย ตามคำกราบบังคมทูลของ จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย แห่งรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ของ ประเทศรัสเซีย พระองค์ ได้เสด็จมาเยี่ยมประเทศไทย ขอให้ส่ง พระราชโอรสไปทรงศึกษา เล่าเรียน ที่ประเทศรัสเซียบ้าง สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไปตามนั้น และ ยังได้ทรงขอร้องต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาส ขอให้ได้ให้เกียรติ นายพุ่ม สาคร ให้ได้รับความเป็นอยู่ ศึกษา เล่าเรียนทุกอย่างให้เหมือนกับ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เพื่อให้ นายพุ่ม สาคร เป็นเพื่อนเรียน และ มิตรแท้ ของ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ในต่างแดนและเพื่อให้เจ้าฟ้าพระองค์นี้ ทรงมีขัตติยมานะเพียรในการเรียนมากยิ่งขึ้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ไปส่ง สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และนายพุ่ม สาคร โดยเรือพระที่นั่งจักรี (ลำเก่า) ถึงที่ประเทศสิงคโปร์ นายพุ่ม สาคร ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2439 ไปถึงประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2441 ซึ่งทางจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ได้จัดขบวนนายทหารและคณะมารับที่ชายแดนโดยหัวหน้าเป็นนายพลนายทหารองครักษ์ของพระเจ้าซาร์เลยทีเดียว จากนั้น ได้นำเสด็จไปประทับยังวังฤดูหนาวของพระเจ้าซาร์นิโคลาส ในสมัยนั้นจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 มีกองทัพทหารที่เกรียงไกรมาก อยู่ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งแต่นั้น นายพุ่ม สาคร จึงเป็นเสมือนมิตรแท้ และเพื่อนตายของ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม สาคร ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก ซึ่งเป็นสำนักศึกษาที่ใกล้ชิดกับ พระเจ้าซาร์นิโคลาสมากที่สุด ในการเรียนนี้จะต้องมีความมานะพยายามในการเล่าเรียน และ ฝึกอย่างหนัก เพราะจะต้องแข่งกับคนรัสเซียที่เป็นนักเรียนด้วยกันซึ่งเราเสียเปรียบด้านภาษาและความเคยชิน แต่เมื่อผลการเรียนออกมา ผลการสอบไล่ปี พ.ศ. 2443 สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ทรงสอบได้เป็นอันดับ 2 และนายพุ่ม สาคร ได้เป็นอันดับที่ 4 ทั้งๆ ที่สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯและนายพุ่ม มักจะต้องไปร่วมงานต่างๆ ของราชสำนักพระเจ้าซาร์นิโคลาส อยู่เสมอ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม จะต้องไปถวายปฏิบัติ กับพระราชมารดาของ จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และจักรพรรดินีอะเลคซันดรา ฟอโดรอฟนา แห่งรัสเซียด้วย ผลการสอบครั้งสุดท้ายก่อนจะจบจากโรงเรียน สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สอบได้เป็นที่1 และ นายพุ่ม สาคร สอบได้เป็นที่ 2 และ ได้รับการบรรจุเข้าเป็น นายร้อยตรีแห่งกรมทหารม้าฮุสซาร์ นายร้อยตรีพุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับมาที่เมืองไทยครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2446 และได้เข้าประจำการกรมทหารม้ารักษาพระองค์กรุงเทพฯ ได้รับยศ ร้อยตรีทหารม้า จากนั้น ร.ต.พุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับไปศึกษาที่จักรวรรดิรัสเซียอีกครั้งเพื่อเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการชั้นสูง และ สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2448 ร.ต.พุ่ม สาคร ได้เข้าประจำการใน กรมทหารม้าฮุสซาร์ อีกครั้งหนึ่ง และ ได้รับยศ พันเอก เป็น พันเอก พุ่ม สาคร แห่งกรมทหารม้าฮุสซาร์ ที่เป็นที่หนึ่ง และ โด่งดังในด้านการรบ ในครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 พันเอกพุ่ม สาคร ในฐานะนายทหารรัสเซีย ได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารสัมพันธมิตร ในสงคราม โลกครั้งที่1 ร่วมกับกองทัพเยอรมันจนได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนั้น พันเอกพุ่ม สาคร ได้เริ่มเหินห่างจากสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ทรงเข้าพิธีสมรสกับ หม่อมคัทริน เคสนิคสกี้ และแยกทางกับ พ.อ.พุ่ม สาคร เพื่อเสด็จกลับประเทศไทย ซึ่งพ.อ.พุ่ม สาคร จะขออยู่ต่อเพื่อศึกษาภาษาฝรั่งเศส ในการนี้ทางกระทรวงกลาโหมของไทยไม่ยอม จึงเกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงจนทางกระทรวงกลาโหมได้สั่งให้ขังบริเวณ พ.อ.พุ่ม สาคร ในสถานทูตไทย กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งการที่พ.อ.พุ่ม สาคร โดนขังในครั้งนี้ ได้ก่อความเคียดแค้นให้แก่ นายทหารฮุสซาร์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นการทำให้กรมทหารม้า นี้เสียเกียรติ จึงได้ลักพาตัว พ.อ.พุ่ม สาคร ออกจากสถานทูต จึงทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้น ถึงกับ พ.อ.พุ่ม สาคร ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นรัสเซีย ซึ่งเป็นเหตุทำให้ พ.อ.พุ่ม สาคร ไม่กลับประเทศไทยได้อีกปฏิวัติในรัสเซีย ปฏิวัติในรัสเซีย. ประเทศรัสเซียได้เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ. 2460 ซึ่งนำทางไปสู่ลัทธิคอมมิวนิสต์ นายทหารรัสเซียถูกปลดออกจากประจำการจำนวนมาก และได้ยอมให้ทหารชั้นผู้น้อยเลือกผู้บังคับบัญชาเอง พันเอกพุ่มสกี้ (ได้โอนสัญชาติรัสเซียแล้ว) ได้รับ การคัดเลือกจากนายทหารชั้นผู้น้อย ให้เป็นผู้บังคับบัญชาต่อไป แต่เนื่องจากความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของ พ.อ.พุ่มสกี้ ที่มีต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาสเป็นอันมากจึงไม่ยอมรับตำแหน่งหน้าที่นี้ และถือโอกาสหนีออกจากประเทศรัสเซียไปที่ประเทศฝรั่งเศส มาเป็น นายพุ่ม สกี้ มาทำงานเป็นเสมียน และ ต่อมาได้พำนักกับ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และได้รับมอบหมายให้เป็นเลขานุการของหม่อมคัทริน เคสนิคสกี้บั้นปลายชีวิต บั้นปลายชีวิต. นายพุ่มสกี้ ได้กลับเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงเสนอเรื่องขอเปลี่ยนสัญชาติให้ นายพุ่มสกี้ กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้งหนึ่งเป็น นายพุ่ม สาคร การจากเมืองไทยไปถึง 33 ปี ทำให้นายพุ่ม สาคร ตื่นตาตื่นใจเป็นอันมากที่ ได้กลับมาเห็น บ้านเกิดเมืองนอนของตนอีก การกลับมาในครั้งนั้น ก็เป็นที่กล่าวขวัญของคนไทยมาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เชิญ และ ขอร้องนายพุ่ม สาคร ให้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ให้ยศพันโททหารประจำกองทัพไทย แต่ว่านายพุ่ม สาคร ตอบปฏิเสธ ต่อมาจึงได้เดินทางกลับประเทศอังกฤษ พร้อมกับการเสด็จกลับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ไปพำนักอยู่ที่บ้านพักเทรเดซี่ของ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบอดมินห์ ประเทศอังกฤษ นายพุ่มถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 เมื่ออายุ 70 ปี ด้วยอาการหัวใจวาย ขณะที่พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เสด็จไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ศพของนายพุ่ม สาคร ยังคงฝังอยู่ ณ สุสานใกล้บ้าน ของ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
| หลังจากนายพุ่ม สาคร ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร | {
"answer": [
"นายนิโคลัย พุ่มสกี้ (Nikolai Pumsky)"
],
"answer_begin_position": [
658
],
"answer_end_position": [
694
]
} |
536 | 195,016 | วัดชลธาราสิงเห วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4ที่ตั้งและอาณาเขต ที่ตั้งและอาณาเขต. วัดชลธาราสิงเหตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสประวัติ ประวัติ. วัดชลธาราสิงเหนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์พรมแดนไทย-มาเลเซีย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่สยามใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการปักปันเขตแดนในปี 2452 ในอดีตเมื่อมลายูตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ อังกฤษพยายามที่จะผนวกจังหวัดนราธิวาสให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคม ด้วยกุศโลบายอันแยบยล สยามนั้นได้ใช้ข้ออ้างว่าวัดชลธาราสิงเห เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอตากใบ มีอาคารสถานที่และถาวรวัตถุเป็นแบบไทย ที่สร้างมาอย่างวิจิตรพิสดารทรงคุณค่าในเชิงศิลป์ ยากยิ่งที่คนต่างชาติจะสร้างสรรค์ได้ ประกอบกับท้องที่อำเภอตากใบมีวัด และคนไทยพุทธอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอังกฤษจึงได้ยอมรับให้เป็นจังหวัดนราธิวาสในประเทศไทยต่อไป มีผลให้ 4 อำเภอชายแดนไทยไม่ต้องผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซียอาคารต่างๆในวัดชลธาราสิงเหพระอุโบสถ พระอุโบสถ. เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ หลังคาซ้อน 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน ประดับลวดลายปูนปั้น เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเขียนโดยพระภิกษุชาวสงขลา เป็นลายเทพชุมนุม พุทธประวัติ และวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาวบ้านองค์พระเจดีย์ องค์พระเจดีย์. เป็นฐานสี่เหลี่ยม ล้อมด้วยกำแพงแก้วและสถูปทรงระฆังคว่ำหอพระนารายณ์ หอพระนารายณ์. เป็นฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐ หลังซ้อน 4 ชั้น มุงกระเบื้อง มุมหลังคาแต่ละชั้นประดับด้วยหัวนาค หลังคาชั้นที่ 4 เป็นฐานรองยอดหล่อด้วยซีเมนต์ เป็นรูปมงกุฎกุฏิ กุฏิ. ก่อสร้างเป็นทรงไทยแบบพื้นเมือง หลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยปูนปั้นและไม้ฉลุ ฝาผนังเป็นภาพจิตรกรรมศาลา ศาลา. ลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะภาคใต้และจีน ตกแต่งด้วยใบระกา หางหงส์ ปูนปั้นวิหารเก่าด้านหลัง วิหารเก่าด้านหลัง. มีปูนปั้นรูปพระนารายณ์ 4 กร และเครื่องใช้ภาชนะสมัยราชวงศ์ซ้องของประเทศจีน
| วัดชลธาราสิงเห เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 อยู่ในจังหวัดใดของภาคใต้ | {
"answer": [
"จังหวัดนราธิวาส"
],
"answer_begin_position": [
171
],
"answer_end_position": [
186
]
} |
537 | 195,016 | วัดชลธาราสิงเห วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4ที่ตั้งและอาณาเขต ที่ตั้งและอาณาเขต. วัดชลธาราสิงเหตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสประวัติ ประวัติ. วัดชลธาราสิงเหนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์พรมแดนไทย-มาเลเซีย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่สยามใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการปักปันเขตแดนในปี 2452 ในอดีตเมื่อมลายูตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ อังกฤษพยายามที่จะผนวกจังหวัดนราธิวาสให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคม ด้วยกุศโลบายอันแยบยล สยามนั้นได้ใช้ข้ออ้างว่าวัดชลธาราสิงเห เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอตากใบ มีอาคารสถานที่และถาวรวัตถุเป็นแบบไทย ที่สร้างมาอย่างวิจิตรพิสดารทรงคุณค่าในเชิงศิลป์ ยากยิ่งที่คนต่างชาติจะสร้างสรรค์ได้ ประกอบกับท้องที่อำเภอตากใบมีวัด และคนไทยพุทธอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอังกฤษจึงได้ยอมรับให้เป็นจังหวัดนราธิวาสในประเทศไทยต่อไป มีผลให้ 4 อำเภอชายแดนไทยไม่ต้องผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซียอาคารต่างๆในวัดชลธาราสิงเหพระอุโบสถ พระอุโบสถ. เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ หลังคาซ้อน 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน ประดับลวดลายปูนปั้น เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเขียนโดยพระภิกษุชาวสงขลา เป็นลายเทพชุมนุม พุทธประวัติ และวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาวบ้านองค์พระเจดีย์ องค์พระเจดีย์. เป็นฐานสี่เหลี่ยม ล้อมด้วยกำแพงแก้วและสถูปทรงระฆังคว่ำหอพระนารายณ์ หอพระนารายณ์. เป็นฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐ หลังซ้อน 4 ชั้น มุงกระเบื้อง มุมหลังคาแต่ละชั้นประดับด้วยหัวนาค หลังคาชั้นที่ 4 เป็นฐานรองยอดหล่อด้วยซีเมนต์ เป็นรูปมงกุฎกุฏิ กุฏิ. ก่อสร้างเป็นทรงไทยแบบพื้นเมือง หลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยปูนปั้นและไม้ฉลุ ฝาผนังเป็นภาพจิตรกรรมศาลา ศาลา. ลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะภาคใต้และจีน ตกแต่งด้วยใบระกา หางหงส์ ปูนปั้นวิหารเก่าด้านหลัง วิหารเก่าด้านหลัง. มีปูนปั้นรูปพระนารายณ์ 4 กร และเครื่องใช้ภาชนะสมัยราชวงศ์ซ้องของประเทศจีน
| ในจังหวัดนราธิวาส มีวัดอะไรที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างพรมแดนไทยกับมาเลเซีย | {
"answer": [
"วัดชลธาราสิงเห"
],
"answer_begin_position": [
341
],
"answer_end_position": [
355
]
} |
538 | 601,825 | สุขสันต์ วันสว่าง สุขสันต์ วันสว่าง (เกิด พ.ศ. 2506 -)มีชื่อจริงว่า สมชาย คำราม เป็นชาวจังหวัดพัทลุง เป็นนักร้องลูกทุ่งชายจากแดนใต้ ชอบแนวเพลงของรุ่งเพชร แหลมสิงห์ นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเจ้าของเพลง "ฝนเดือนหก" สุขสันต์ จึงนำเพลงของรุ่งเพชรมาขับร้องใหม่อยู่เสมอ คือ สงกรานต์บ้านนา, ควันหลงสงกรานต์ เป็นต้นผลงานเพลงผลงานเพลง. - ชุด "ควันหลงสงกรานต์" - ชุด "รับจำนำเมียน้อย" - ชุด "ฝากย่าฝากยาย" - ชุด "สุขสันต์มาแล้ว"
| สุขสันต์ วันสว่าง มีชื่อจริงว่าอะไร | {
"answer": [
"สมชาย คำราม"
],
"answer_begin_position": [
160
],
"answer_end_position": [
171
]
} |
539 | 601,825 | สุขสันต์ วันสว่าง สุขสันต์ วันสว่าง (เกิด พ.ศ. 2506 -)มีชื่อจริงว่า สมชาย คำราม เป็นชาวจังหวัดพัทลุง เป็นนักร้องลูกทุ่งชายจากแดนใต้ ชอบแนวเพลงของรุ่งเพชร แหลมสิงห์ นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเจ้าของเพลง "ฝนเดือนหก" สุขสันต์ จึงนำเพลงของรุ่งเพชรมาขับร้องใหม่อยู่เสมอ คือ สงกรานต์บ้านนา, ควันหลงสงกรานต์ เป็นต้นผลงานเพลงผลงานเพลง. - ชุด "ควันหลงสงกรานต์" - ชุด "รับจำนำเมียน้อย" - ชุด "ฝากย่าฝากยาย" - ชุด "สุขสันต์มาแล้ว"
| เจ้าของเพลง "ฝนเดือนหก" คือใคร | {
"answer": [
"รุ่งเพชร แหลมสิงห์"
],
"answer_begin_position": [
237
],
"answer_end_position": [
255
]
} |
540 | 624,551 | ซางทัง ทัง () เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซางในประวัติศาสตร์จีน ทรงครองราชย์ระหว่าง 1675–1646 ปีก่อนคริสตกาล รัชกาล 29 ปี โดยพระองค์ทรงโค้นล่มพระเจ้าเจี่ย กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เซี่ยโค่นล้มราชวงศ์เซี่ย โค่นล้มราชวงศ์เซี่ย. ในรัชกาลของพระเจ้าเจี๋ย ชาวซางทางตะวันออกได้รุ่งเรืองขึ้น โดยมีหัวหน้าชื่อทัง ทังได้อ้างว่า สวรรค์มีบัญชาให้เขาโค่นล้มราชวงศ์เซี่ย ทังนำทัพปราบปรามดินแดนที่เป็นมิตรกับราชวงศ์เซี่ยทางตะวันออกก่อน แล้วจึงโจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์เซี่ย พระเจ้าเจี่ยหนีไปเมืองอันอี้ ทังยกทัพตามไปรบกันที่เมืองหมิงเถียว พระเจ้าเจี่ยพ่ายแพ้ หนีไปเมืองหนานเฉา และสิ้นพระชนม์ที่นั่น ทังได้เรียกประชุมนครรัฐต่างๆและตั้งเมืองหลวงที่อินซฺวี หรือเมืองอันหยาง
| ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซางในประวัติศาสตร์จีน ในปี 1675-1646 มีพระนามว่าอะไร | {
"answer": [
"ทัง"
],
"answer_begin_position": [
88
],
"answer_end_position": [
91
]
} |
541 | 624,551 | ซางทัง ทัง () เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซางในประวัติศาสตร์จีน ทรงครองราชย์ระหว่าง 1675–1646 ปีก่อนคริสตกาล รัชกาล 29 ปี โดยพระองค์ทรงโค้นล่มพระเจ้าเจี่ย กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เซี่ยโค่นล้มราชวงศ์เซี่ย โค่นล้มราชวงศ์เซี่ย. ในรัชกาลของพระเจ้าเจี๋ย ชาวซางทางตะวันออกได้รุ่งเรืองขึ้น โดยมีหัวหน้าชื่อทัง ทังได้อ้างว่า สวรรค์มีบัญชาให้เขาโค่นล้มราชวงศ์เซี่ย ทังนำทัพปราบปรามดินแดนที่เป็นมิตรกับราชวงศ์เซี่ยทางตะวันออกก่อน แล้วจึงโจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์เซี่ย พระเจ้าเจี่ยหนีไปเมืองอันอี้ ทังยกทัพตามไปรบกันที่เมืองหมิงเถียว พระเจ้าเจี่ยพ่ายแพ้ หนีไปเมืองหนานเฉา และสิ้นพระชนม์ที่นั่น ทังได้เรียกประชุมนครรัฐต่างๆและตั้งเมืองหลวงที่อินซฺวี หรือเมืองอันหยาง
| พระเจ้าเจี่ย กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เซี่ย สิ้นพระชนม์ที่เมืองอะไร | {
"answer": [
"เมืองหนานเฉา"
],
"answer_begin_position": [
632
],
"answer_end_position": [
644
]
} |
542 | 102,202 | บุศย์ ปัทมศริน บุศย์ ปัทมศริน เป็นอดีตมหาดเล็กห้องบรรทมในรัชกาลที่ 8 ผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เมื่อ พ.ศ. 2489 ต่อมาได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวและได้รับการตัดสินโทษประหารชีวิตในปี พ.ศ. 2498 นายบุศย์ ปัทมศริน เป็นบุตรของขุนวิสูตรเสนีย์กับนางปุก ปัทมศริน เกิดเมื่อ พ.ศ. 2443 จบการศึกษาระดับมัธยมศีกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เข้ารับราชการครั้งแรกในกรมปลัดบัญชี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จนิวัติพระนครใน พ.ศ. 2488 จึงได้เลื่อนเป็นมหาดเล็กตั้งเครื่อง และมหาดเล็กห้องบรรทมตามลำดับ เมื่อเกิดเหตุการณ์การสวรรคตของรัชกาลที่ 8 นายบุศย์ได้ขึ้นให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนพฤตติการณ์ในการที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต หรือ "ศาลกลางเมือง" ในฐานะพยานสำคัญ เนื่องจากนายบุศย์เป็น 1 ใน 2 คนที่อยู่ใกล้ชิดกับห้องพระบรรทมของรัชกาลที่ 8 มากที่สุด แต่ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2490 นายบุศย์พร้อมด้วยบุคคลอื่นอีก 4 คน ได้ถูกจับกุมด้วยข้อหามีส่วนร่วมในการวางแผนลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 ซึ่งต่อมาอัยการได้สั่งฟ้องนายบุศย์พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายเฉลียว ปทุมรส และนายชิต สิงหเสนี ในการพิจารณาคดีชั้นศาล ศาลอาญาได้พิพากษาให้ปล่อยตัวนายบุศย์ แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายบุศย์พร้อมกับนายชิต ที่สุดแล้วเมื่อมีการพิจารณาในชั้นศาลฎีกา ได้มีการพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยในคดีนี้ทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2497 นายบุศย์จึงได้ถูกนำตัวไปประหารชีวิตที่เรือนจำบางขวาง ในเช้ามืดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 เวลา 5.10 น. ขณะมีอายุได้ 55 ปี ศพของนายบุศย์ได้รับการบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฎกษัตริยาราม ในเวลาต่อมาได้มีการวิเคราะห์และศึกษาเกี่ยวกับกรณีสวรรคต โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในภายหลังคดีได้รับการพิพากษา ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานในหมู่ผู้ศึกษาเรื่องดังกล่าวว่า นายบุศย์ ปัทศริน พร้อมทั้งจำเลยร่วมอีก 2 คนที่ถูกประหารชีวิตพร้อมกัน อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2481 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 5 (อ.ป.ร.5)
| ใครเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เมื่อ พ.ศ. 2489 | {
"answer": [
"บุศย์ ปัทมศริน"
],
"answer_begin_position": [
104
],
"answer_end_position": [
118
]
} |
3,883 | 102,202 | บุศย์ ปัทมศริน บุศย์ ปัทมศริน เป็นอดีตมหาดเล็กห้องบรรทมในรัชกาลที่ 8 ผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เมื่อ พ.ศ. 2489 ต่อมาได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวและได้รับการตัดสินโทษประหารชีวิตในปี พ.ศ. 2498 นายบุศย์ ปัทมศริน เป็นบุตรของขุนวิสูตรเสนีย์กับนางปุก ปัทมศริน เกิดเมื่อ พ.ศ. 2443 จบการศึกษาระดับมัธยมศีกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เข้ารับราชการครั้งแรกในกรมปลัดบัญชี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จนิวัติพระนครใน พ.ศ. 2488 จึงได้เลื่อนเป็นมหาดเล็กตั้งเครื่อง และมหาดเล็กห้องบรรทมตามลำดับ เมื่อเกิดเหตุการณ์การสวรรคตของรัชกาลที่ 8 นายบุศย์ได้ขึ้นให้การต่อคณะกรรมการสอบสวนพฤตติการณ์ในการที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต หรือ "ศาลกลางเมือง" ในฐานะพยานสำคัญ เนื่องจากนายบุศย์เป็น 1 ใน 2 คนที่อยู่ใกล้ชิดกับห้องพระบรรทมของรัชกาลที่ 8 มากที่สุด แต่ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2490 นายบุศย์พร้อมด้วยบุคคลอื่นอีก 4 คน ได้ถูกจับกุมด้วยข้อหามีส่วนร่วมในการวางแผนลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 ซึ่งต่อมาอัยการได้สั่งฟ้องนายบุศย์พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายเฉลียว ปทุมรส และนายชิต สิงหเสนี ในการพิจารณาคดีชั้นศาล ศาลอาญาได้พิพากษาให้ปล่อยตัวนายบุศย์ แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายบุศย์พร้อมกับนายชิต ที่สุดแล้วเมื่อมีการพิจารณาในชั้นศาลฎีกา ได้มีการพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยในคดีนี้ทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2497 นายบุศย์จึงได้ถูกนำตัวไปประหารชีวิตที่เรือนจำบางขวาง ในเช้ามืดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 เวลา 5.10 น. ขณะมีอายุได้ 55 ปี ศพของนายบุศย์ได้รับการบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฎกษัตริยาราม ในเวลาต่อมาได้มีการวิเคราะห์และศึกษาเกี่ยวกับกรณีสวรรคต โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในภายหลังคดีได้รับการพิพากษา ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานในหมู่ผู้ศึกษาเรื่องดังกล่าวว่า นายบุศย์ ปัทศริน พร้อมทั้งจำเลยร่วมอีก 2 คนที่ถูกประหารชีวิตพร้อมกัน อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์. - พ.ศ. 2481 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 5 (อ.ป.ร.5)
| มารดาของบุศย์ ปัทมศรินเป็นอดีตมหาดเล็กห้องบรรทมในรัชกาลที่ 8 คือใคร | {
"answer": [
"นางปุก ปัทมศริน"
],
"answer_begin_position": [
387
],
"answer_end_position": [
402
]
} |