title
stringlengths
15
178
author
stringlengths
2
19
date
stringlengths
18
25
tags
sequence
content
stringlengths
128
24.1k
กูเกิลจดเครื่องหมายการค้า Pigweed เอกสารระบุว่ามันคือระบบปฏิบัติการ
mk
6 February 2020 - 16:48
[ "Google", "Operating System", "Trademark" ]
กูเกิลจดเครื่องหมายการค้าคำว่า Pigweed โดยระบุว่าอยู่ในหมวดระบบปฏิบัติการ แต่ยังไม่มีข้อมูลอื่นใดมากกว่านี้ เว็บไซต์ 9to5google ค้นพบคำว่า pigweed ในโค้ดของระบบปฏิบัติการ Fuchsia แต่โค้ดที่อ้างถึง Pigweed ถูกแก้เป็น Fuchsia แทน พร้อมคอมเมนต์ว่าเป็นการอ้างถึงที่ผิดพลาด ตอนนี้จึงไม่แน่ชัดว่า Pigweed เป็นระบบปฏิบัติการใหม่แยกต่างหาก หรือยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Fuchsia ชื่อ Pigweed เป็นวัชพืชกลุ่มหนึ่งในวงศ์บานไม่รู้โรย (Amaranthaceae) ค่อนข้างมีลักษณะคล้ายกับผักโขม ที่มา - USPTO, 9to5google ภาพจาก Google
ยอดขาย Apple Watch ทั้งปี 2019 สูงกว่านาฬิกา Swiss-made ทุกแบรนด์
nismod
6 February 2020 - 15:38
[ "Apple Watch", "Strategy Analytics", "Watch", "Apple" ]
Strategy Analytics บริษัทวิเคราะห์ตลาดเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายของ Apple Watch ตลอดปี 2019 ที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 30.7 ล้านเรือน เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 36% ที่น่าสนใจคือยอดขายของ Apple Watch แบรนด์เดียวสูงกว่านาฬิกา Swiss-Made ทุกแบรนด์รวมกันที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 21.1 ล้านเรือน เติบโตลดลง 13% Strategy Analytics ระบุว่านาฬิกาแอนาล็อกส่วนใหญ่ยังคงรับความนิยมในหมู่ผู้สูงอายุมากกว่า ขณะที่คนรุ่นใหม่มักเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ จากทั้งดีไซน์และฟังก​์ชันการใช้งาน และทำให้กลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา Swiss-Made อย่าง Tissot หรือ TAG Heuer อาจพ่ายแพ้ในสงครามนี้ในระยะยาว ที่มา - Strategy Analytics
องค์กรการกุศล 129 แห่งกดดัน Facebook อย่าทำแชทเข้ารหัส เพราะเอื้อต่อการละเมิดเด็ก
sunnywalker
6 February 2020 - 14:37
[ "Facebook" ]
มาร์ก ซักคอเบิร์ก โดนองค์กรการกุศล และการศึกษา 129 แห่งทั่วโลก ลงนามกดดันให้ Facebook หยุดการทำแชทเข้ารหัสในทุกแพลตฟอร์มในเครืออย่างที่ Facebook เคยประกาศไว้ (ทั้ง Facebook, WhatsApp และ Instagram) เพราะจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ร้ายที่หวังหาประโยชน์และล่วงละเมิดเด็ก ในจดหมายมีระบุว่า การเข้ารหัสจะทำให้การล่อลวงเด็กผ่านแชทเพิ่มขึ้น ผู้ร้ายอาจแฝงตัวเป็นเด็กอีกคนมาคุย และหลอกให้ไปใช้แชทแพลตฟอร์มอื่นที่ผู้ร้ายจะติดต่อเด็กได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ Facebook แชร์ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรคุ้มครองเด็ก เพื่อที่จะได้ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบได้ ด้าน David Miles หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Facebook ในยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา บอกว่า การเข้ารหัสช่วยยืนยันความปลอดภัยจากแฮกเกอร์ และอาชญากรทั้งหลาย โปรเจกต์เข้ารหัสเป็นโปรเจกต์ระยะยาว การปกป้องเด็กก็เป็นประเด็นสำคัญของบริษัทด้วยเช่นกัน และให้สัญญาว่าจะสร้างมาตรการที่ปลอดภัย ที่มา - Financial Times
ซิสโก้ออกแพตช์อุดช่องโหว่ CDP แฮกเกอร์ใช้เจาะอุปกรณ์มารันโค้ดได้
lew
6 February 2020 - 13:43
[ "Cisco", "Security Patch" ]
ซิสโก้ออกแพตช์ความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ของตัวเองชุดใหญ่ กระทบตั้งแต่อุปกรณ์เน็ตเวิร์คอย่างสวิตช์และเราท์เตอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์ไคลเอนต์อย่างไอพีโฟน โดยความร้ายแรงของช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าไปรันโค้ดบนอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่เกิดจากโค้ดส่วน Cisco Discovery Protocol (CDP) ที่อุปกรณ์ซิสโก้จะประกาศตัวว่าอยู่บนเน็ตเวิร์ค ทำให้อุปกรณ์ตัวอื่นๆ มองเห็นอุปกรณ์ข้างเคียง การอิมพลีเมนต์ที่ผิดพลาดทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างแพ็กเก็ต CDP มุ่งร้ายเพื่อเจาะระบบ ช่องโหว่กระทบเป็นวงกว้าง ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้ FXOS, NX-OS, และ IOS XR รวมไปถึงโทรศัพท์ไอพีของซิสโก้ อย่างไรก็ดี IOS XR นั้นปิดการทำงาน CDP เป็นค่าเริ่มต้น และการโจมตีจะต้องโจมตีจากบนเครือข่ายเดียวกัน ไม่สามารถยิงการโจมตีจากระยะไกลแบบไอพีได้ ช่องโหว่แจ้งโดยนักวิจัยจากบริษัท Armis โดยบริษัทเรียกช่องโหว่ชุดนี้ว่า CDPwn พร้อมกับเผยแพร่รายงานการวิเคราะห์ช่องโหว่ไว้ด้วย ที่มา - Cisco, IT News
ครั้งแรกของบริษัทเกมเกาหลี Nexon ประกาศขึ้นค่าแรงพนักงานเพิ่มอีก 6.8%
sunnywalker
6 February 2020 - 13:43
[ "Nexon", "South Korea", "Games" ]
บริษัทเกมเกาหลี Nexon ประกาศขึ้นค่าแรงพนักงานเพิ่มอีก 6.8% ตามข้อตกลงของสหภาพแรงงานของบริษัทภายใต้ชื่อ Starting Point โดย Nexon ถือเป็นบริษัทเกมแห่งแรกในเกาหลีที่ประกาศปรับขึ้นค่าแรง มีการสำรวจผู้พัฒนาเกมมากกว่า 4,000 คน พบว่า 54% ของผู้พัฒนาเกมคิดว่าควรมีการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงาน ซึ่งปัจจุบันในเกาหลี มีแค่บริษัทเกมแห่งเดียวที่มีสหภาพแรงงานคือ Smilegate ภาพจาก Nexon ที่มา - Venture Beat
แบงก์ชาติอนุญาตให้ธนาคารทดสอบยืนยันตัวตนข้ามกัน เปิดทางใช้ NDID
sunnywalker
6 February 2020 - 13:13
[ "Bank of Thailand", "NDID", "Thailand" ]
ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศเปิดให้ธนาคารพาณิชย์ ทำการทดสอบยืนยันตัวตนดิจิทัลข้ามธนาคารเพื่อเปิดบัญชี โดยเป็นการทดสอบผ่านแพลตฟอร์ม NDID (National Digital ID) ในวงจำกัด ภายใต้ Regulatory Sandbox ประโยชน์ของการยืนยันตัวตนดิจิทัคือ ช่วยให้ประชาชนสามารถเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารแห่งใหม่ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร โดยใช้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากธนาคารที่ตนเองเคยมีบัญชีเงินฝาก ด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ไม่ต้องเดินทางมาแสดงตนที่สาขา และลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ระยะแรกของการทดสอบใน Regulatory Sandbox ของ ธปท. สำหรับบริการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัลโดยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านแพลตฟอร์ม NDID มีธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชีช่วง 07.00 - 22.00 น. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชีช่วง 06.00 - 21.00 น. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชี 24 ชั่วโมง ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชีช่วง 07.30 - 20.00 น. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชีช่วง 06.00 - 22.00 น. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทดสอบเปิดบัญชีช่วง 07.00 - 22.30 น. ทุกธนาคารข้างต้นเปิดให้ทดสอบยืนยันตัวตน 24 ชั่วโมงผ่านแอปของแต่ละธนาคาร ยกเว้นของ ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่จำกัดการทดสอบยืนยันตัวตนที่ 07.00 - 22.30 น. ภาพจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ด้าน NDID คือบริษัททำแพลตฟอร์มยืนยันตัวตน มีสมาคมธนาคารไทยและบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติเป็นแกนหลักในการจัดตั้ง ปัจจุบันผู้ถือหุ้นในบริษัท NDID ประกอบด้วย ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ สมาคมสถาบันการเงินรัฐ ไปรษณีย์ไทย รวมแล้วกว่า 60 บริษัท ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย
Microsoft ปรับโครงสร้างบริหาร ให้ Panos ดูแลทีมใหม่ที่รับผิดชอบทั้ง Windows และ Hardware
arjin
6 February 2020 - 12:56
[ "Microsoft", "Windows", "Management" ]
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับโครงสร้างบริหารภายใน โดยมีประเด็นสำคัญคือการรวมทีม Windows และทีมฮาร์ดแวร์รวมทั้ง Surface เข้ามาเป็นทีมเดียวกัน โดยมี Panos Panay หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และหัวหน้าฝ่าย Surface เป็นหัวหน้าทีมใหม่นี้ นักวิเคราะห์มองว่าการปรับเปลี่ยนนี้ สะท้อนว่าไมโครซอฟท์กำลังมุ่งไปสู่ยุทธศาสตร์ควบคุมประสบการณ์ใช้งาน ตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการให้เป็นหนึ่งเดียว การปรับเปลี่ยนดังกล่าว ยังไม่ทำให้ Panos ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ โดยเขายังขึ้นตรงกับ Rajesh Jha หัวหน้าฝ่าย Experiences and Devices ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอื่น โดย Joe Belfiore ที่เดิมดูแล Windows จะย้ายไปทีม Office ส่วน Microsoft Teams ได้ Jeff Teper ซึ่งดูแล OneDrive กับ SharePoint อยู่แล้ว มารับผิดชอบเพิ่มเติม เนื่องจาก Brian Macdonald หัวหน้าทีมคนเดิมเกษียณ ที่มา: Business Insider
WireGuard เข้าสู่เคอร์เนลลินุกซ์แล้ว คาดออกตัวจริงเวอร์ชั่น 5.6
lew
6 February 2020 - 12:50
[ "WireGuard", "Open Source", "VPN" ]
WireGuard ซอฟต์แวร์ VPN น้องใหม่ที่เปิดโค้ดออกสู่สาธารณะเมื่อปี 2016 ส่งซอร์สโค้ดเข้าไปอยู่ในโครงการเคอร์เนลลินุกซ์เป็นทางการ โดยคาดว่าโค้ดชุดนี้จะมาพร้อมกับลินุกซ์ 5.6 ที่กำลังจะออกเดือนเมษายนนี้ WireGuard เป็นซอฟต์แวร์ VPN ที่มีจุดเด่นในการใช้งานค่อนข้างง่าย, คอนฟิกไม่ซับซ้อน, และรองรับกระบวนการเข้ารหัสใหม่ๆ หลายตัว เช่น ChaCha20, Poly1305, BLAKE2 ทำให้ไม่โหลดซีพียูนักเมื่อใช้งานในซีพียูประสิทธิภาพต่ำ ตัวโค้ดของ WireGuard นั้นมีขนาดเล็กเพียงประมาณ 4,000 บรรทัดเท่านั้น เทียบกับ OpenVPN ที่มีขนาดโค้ดนับแสนบรรทัด ที่มา - ZDNet
Xiaomi เปิดตัวอะแดปเตอร์ USB PD 65 วัตต์รุ่นใหม่ เล็กลงกว่ารุ่นเดิม 27%
BlackMiracle
6 February 2020 - 12:27
[ "Xiaomi" ]
อุปกรณ์พกพาในปัจจุบันใช้การชาร์จไฟด้วยพอร์ต USB Type C กันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่า Xiaomi ก็มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขายอยู่เช่นกันและชาร์จไฟด้วย USB Type C โดยตัวอะแดปเตอร์ก็มีขายแยกตาม AliExpress อยู่ด้วย ล่าสุด Xiaomi ได้เปิดตัวอะแดปเตอร์ USB PD (Power Delivery) รุ่นใหม่ ให้กำลังไฟ 65 วัตต์ จุดเด่นคือมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 27% และแน่นอนว่าเมื่อรองรับมาตรฐาน Power Delivery ก็แปลว่าสามารถนำไปชาร์จโน้ตบุ๊กยี่ห้ออื่นได้เช่นกัน รวมถึงแท็บแล็ตและสมาร์ทโฟนที่รองรับมาตรฐาน USB PD ส่วนขาปลั๊กก็พับเก็บได้ Xiaomi ระบุว่าอะแดปเตอร์รุ่นใหม่นี้ถูกปรับปรุงให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างแม่นยำให้อุปกรณ์ที่นำไปชาร์จ รวมถึงกระแสไฟก็นิ่งมากขึ้นด้วย อีกทั้งบอดี้ก็ใช้พลาสติกกันไฟเพื่อความปลอดภัย ที่มา - Gizmochina
Netflix เริ่มสตรีมหนังที่เข้ารหัส AV1 บน Android เป็นแพลตฟอร์มแรก, ขนาดไฟล์เล็กลง 20%
mk
6 February 2020 - 11:33
[ "Netflix", "AV1", "Online streaming", "Codec" ]
Netflix เพิ่งประกาศเริ่มใช้ตัวเข้ารหัสวิดีโอ AV1 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ล่าสุดบริษัทประกาศแล้วว่าจะเริ่มสตรีมวิดีโอที่เป็น AV1 โดยเริ่มจากแอพ Android ก่อนเป็นแพลตฟอร์มแรก Netflix บอกว่า AV1 มีประสิทธิภาพมากกว่า VP9 ถึงประมาณ 20% จึงเหมาะกับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพามากที่สุด เพราะมีทั้งเรื่องการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร และข้อจำกัดเรื่องแพ็กเกจข้อมูลของผู้ใช้ (อ่านบทความ รู้จัก AV1 มาตรฐานบีบอัดวิดีโอ 4K ตัวใหม่ท้าชน HEVC บีบอัดข้อมูลดีกว่าคู่แข่ง 30% ประกอบ) ตัวเข้ารหัส-ถอดรหัสของ Netflix นำโครงการ dav1d ที่เริ่มพัฒนาโดย VLC มาปรับแต่งให้รองรับการแสดงผลสีแบบ 10-bit และจะร่วมพัฒนาฟีเจอร์นี้ในฝั่งโอเพนซอร์สต่อไป การใช้งาน AV1 บน Android ตอนนี้ต้องกดเปิดใช้ฟีเจอร์ Save Data ก่อน และยังรองรับเฉพาะภาพยนตร์บางเรื่องเท่านั้น Netflix บอกว่าในระยะยาวแล้วต้องการขยาย AV1 ไปยังทุกแพลตฟอร์ม แต่ก็ยังไม่ระบุช่วงเวลา ที่มา - Netflix
Apple ให้นักพัฒนาขายแอปแบบใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม macOS กับ iOS แล้ว
arjin
6 February 2020 - 11:29
[ "App Store", "iOS", "macOS", "Apple", "Developer", "Xcode" ]
แอปเปิลเปิดให้นักพัฒนาพอร์ตแอปบน iOS มาเป็นเวอร์ชัน macOS ผ่านโครงการ Catalyst มาระยะหนึ่ง ล่าสุดแอปเปิลได้เพิ่มตัวเลือกให้นักพัฒนาสามารถขายแอปแบบ unified กล่าวคือใช้งานได้ทั้งบน macOS และ iOS แล้ว จากเดิมที่ต้องขายแยกกัน ทั้งนี้นักพัฒนาสามารถกำหนดค่าดังกล่าวได้ใน Xcode 11.4 beta สำหรับแอปที่พอร์ตผ่าน Catalyst อย่างไรก็ตามหากนักพัฒนาทำแอป macOS แยกออกมาตั้งแต่ต้น ก็อาจลำบากสักหน่อย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ App Store ของบน iOS และ macOS จึงได้ปรับเพิ่มชื่อหมวดของแอปให้สอดคล้องกันทั้งสองระบบด้วย ที่มา: 9to5Mac
Chrome จะบล็อคโฆษณาต้นคลิปวิดีโอที่ข้ามไม่ได้, โฆษณากลางคลิป, YouTube โดนด้วย
mk
6 February 2020 - 10:34
[ "Chrome", "YouTube", "Google", "Browser", "Online Video", "Ad Blocking", "Advertising" ]
Chrome เริ่มบล็อคโฆษณา "ที่น่ารำคาญ" มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 โดยอ้างอิงนิยามของกลุ่ม Coalition for Better Ads ที่กูเกิลร่วมกับเฟซบุ๊กก่อตั้งในปี 2016 เพื่อตอบโต้ซอฟต์แวร์บล็อคโฆษณา ล่าสุดกลุ่ม Coalition for Better Ads ขยายผลเรื่องโฆษณาที่น่ารำคาญมายังวิดีโอ โดยนิยามโฆษณาวิดีโอที่ผู้ใช้ไม่ชอบ 3 รูปแบบ จากการสำรวจความเห็นของผู้ใช้ 45,000 คนใน 8 ประเทศ โฆษณาช่วงต้นคลิป (pre-roll) ที่ยาวเกิน 31 วินาที และกดข้ามไม่ได้ภายใน 5 วินาทีแรก โฆษณาช่วงกลางคลิป (mid-roll) ข้อความหรือรูปภาพที่ขึ้นบังตรงกลางวิดีโอ คิดเป็นพื้นที่ 1/3 ของหน้าต่างวิดีโอ หรือ 20% ของคอนเทนต์วิดีโอ Chrome ระบุว่าจะเริ่มบล็อคโฆษณาลักษณะนี้ในวันที่ 5 สิงหาคม 2020 สิ่งที่หลายคนคงสนใจคือ YouTube จะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ เพราะมีโฆษณาที่เข้าข่ายเช่นกัน ตรงนี้กูเกิลบอกว่าจะปรับโฆษณาของ YouTube ให้ตรงตามสเปกของ Coalition for Better Ads ด้วย นอกจากกูเกิลแล้ว บริษัทอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของ Coalition for Better Ads ก็ตอบรับมาตรฐานโฆษณาวิดีโอแบบใหม่เช่นกัน ตัวอย่างคือ GroupM เอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ของโลก ก็ระบุว่าจะเริ่มทดสอบโฆษณาแบบใหม่แล้ว ที่มา - Chromium Blog, Coalition for Better Ads
หัวหน้าสตูดิโอพัฒนา Gears of War ลาออกไปดูแล Diablo ให้ Blizzard
nismod
6 February 2020 - 09:47
[ "Diablo", "Microsoft", "Games", "Blizzard" ]
Rod Fergusson โปรดิวเซอร์และหัวหน้าสตูดิโอ The Coalition ที่ดูแลแฟรนไชส์ Gears of War ประกาศลาออกจากบริษัทและจะย้ายไปร่วมงานกับ Blizzard เพื่อช่วยดูแลแฟรนไชส์ Diablo Fergusson แต่เดิมเคยร่วมงานกับไมโครซอฟท์ในอุตสาหกรรมเกมตั้งแต่ยุค 90 หนึ่งในผลงานของเขาคือ Microsoft Train Simulator ก่อนจะย้ายไปร่วมกับกับ Epic Games ในช่วงปี 2005 ช่วยพัฒนาแฟรนไชส์ Gears of War และย้ายไป Irrational Games ในปี 2012 ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะจ้าง Fergusson อีกครั้งในปี 2015 หลังไมโครซอฟท์ซื้อ Gears of War มาจาก Epic และเปลี่ยนชื่อสตูดิโอเป็น The Coalition ที่มา - Polygon Rod Fergusson คนขวา
YouTube Music บนแอนดรอยด์เริ่มแสดงผลเนื้อเพลงแล้ว
nismod
6 February 2020 - 09:33
[ "YouTube Music", "YouTube" ]
YouTube Music เวอร์ชัน 3.51 บนแอนดรอยด์เริ่มแสดงผลเนื้อเพลง (lyrics) แล้ว อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้มีรายงานว่าแค่ผู้ใช้บางรายเท่านั้นที่ได้ก่อน การแสดงผลเนื้อเพลงจะปรากฎเมื่อผู้ใช้กดไอคอนรูป i บริเวณด้านซ้ายของชื่อเพลง เพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับนักร้อง อัลบั้ม จำนวนยอดวิวและไลค์ โดยเนื้อเพลงจะปรากฎต่อขึ้นมาด้านล่าง และเมื่อเลื่อนดูเนื้อเพลงลงไปข้างล่างสุด จะบอกแหล่งที่ Google ดึงข้อมูลเนื้อเพลงมา เหมือนกับการแสดงผลในหน้า search ด้วย ที่มา - 9to5Google
Qualcomm ไตรมาสล่าสุด รายได้กลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการขยายตัวของตลาด 5G
arjin
6 February 2020 - 09:16
[ "Qualcomm", "Financial Report" ]
Qualcomm รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (ตุลาคม-ธันวาคม) รายได้เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 5,057 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,151 ล้านดอลลาร์ ที่ผ่านมารายได้ของ Qualcomm ลดลงต่อเนื่องหลายไตรมาส แต่ในไตรมาสนี้รายได้กลับมาเติบโตเป็นครั้งแรก Steve Mollenkop ซีอีโอ Qualcomm กล่าวว่าผลประกอบการไตรมาสที่แข็งแกร่งนี้สะท้อนจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ Qualcomm เริ่มรับรู้จากการเติบโตของ 5G ที่มา: Qualcomm และ Investors
LinkedIn เปลี่ยนตัวซีอีโอ นำรองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นมาแทน
BlackMiracle
6 February 2020 - 08:47
[ "LinkedIn" ]
เมื่อสามปีก่อน Microsoft เข้าซื้อกิจการของ LinkedIn ล่าสุด Jeff Weiner ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศลงจากตำแหน่งแล้ว ในแถลงการณ์จาก LinkedIn ระบุว่า Ryan Roslansky รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์จะขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยมีหน้าที่ดูแลการวางยุทธศาสตร์ผลิตภัณฑ์และจะรายงานตรงต่อ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ด้าน Weiner ก็จะดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแทน เพื่อคอยดูแลทีมผู้บริหารอีกทีหนึ่ง โดยเขาเป็นซีอีโอของ LinkedIn มาแล้วกว่าสิบปี โดยนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2011 และทำรายได้ให้บริษัท 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว Weiner ระบุว่าเขาตัดสินใจลงจากตำแหน่งซีอีโอเพราะเขารู้สึกว่า "มันถึงเวลาแล้ว" Jeff Weiner ซ้าย และ Ryan Roslansky ขวา | ภาพโดย LinkedIn ที่มา - CNN
ทวิตเตอร์ออกกฎจัดการ deepfake แสดงข้อความเตือนและลดการมองเห็นของทวีต เริ่มเดือนหน้า
nutmos
5 February 2020 - 23:26
[ "Twitter", "Deepfake", "Fake", "Social Media" ]
ทวิตเตอร์ออกกฎใหม่สำหรับจัดการกับสื่อประเภท deepfake อย่างเป็นทางการ โดยนโยบายใหม่นี้จะจำกัดไม่ให้แชร์ข้อมูลปลอมที่อาจสร้างผลกระทบหรือความเสียหายได้ ทวิตเตอร์มีปัจจัยในการพิจารณาทวีตอยู่ 3 ข้อ ว่าจะทำเครื่องหมาย, แสดงข้อความเตือนหรือลบทวีตเหล่านั้นหรือไม่ ดังนี้ สื่อถูกสังเคราะห์หรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นลำดับ, เวลา, เฟรม ไปจนถึงข้อมูลว่าถูกลบหรือสร้างขึ้นมาหรือไม่ และมีคนจริงถูกจำลองหรือปลอมขึ้นมาหรือไม่ สื่อถูกแชร์ในลักษณะตั้งใจให้โกหกหลอกลวงหรือไม่? พิจารณาจากข้อความในทวีต, เมตะดาต้าที่อยู่ในสื่อ, ข้อความบนโปรไฟล์ของผู้ที่แชร์ และเว็บไซต์ที่ลิงก์ในโปรไฟล์หรือในทวีต คอนเทนต์มีผลกระทบต่อความปลอดภัยต่อประชาชน หรืออาจส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคล, ความเสี่ยงในความรุนแรงหรือความไม่สงบในวงกว้าง และภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวหรือสิทธิต่าง ๆ ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ปัจจัยเหล่านี้ ทวิตเตอร์จะนำมาพิจารณาในการใส่ข้อความเตือนลงในทวีต, ใส่เครื่องหมาย, ลดการมองเห็นของทวีตโดยไม่ขึ้นเป็นทวีตแนะนำ และเพิ่มรายละเอียดในแลนดิ้งเพจ โดยทวิตเตอร์จะเริ่มใช้มาตรการนี้ในวันที่ 5 มีนาคม เป้าหมายของการออกกฎจัดการ deepfake ก็เพื่อรับมือกับข้อมูลปลอมก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ โดยกฎนี้กำหนดขึ้นจากแบบร่างที่ทวิตเตอร์ได้เสนอก่อนหน้าและรับฟังความเห็นกว่า 6,500 ความเห็นจากผู้ใช้ทั่วโลกผ่านแฮชแท็ก #TwitterPolicyFeedback เพื่อนำมาปรับปรุงให้เป็นฉบับสมบูรณ์ ที่มา - Twitter, Engadget ภาพจาก Shutterstock
Spotify ไตรมาส 4/2019: จำนวนผู้ใช้เติบโตสูง, รายได้ต่อผู้ใช้ลดลง, ผู้ฟังพอดคาสท์เพิ่มขึ้น
nutmos
5 February 2020 - 22:17
[ "Spotify", "Financial Report" ]
Spotify ออกรายงานไตรมาส 4 ประจำปี 2019 อย่างเป็นทางการ โดยมีรายได้ในไตรมาสนี้ 1,855 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 24% จากปีที่แล้ว เมื่อจำแนกรายได้ของ Spotify จะพบว่าเติบโตทุกทาง ทั้งรายได้จากผู้สมัครสมาชิกพรีเมียม 1,638 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากปีที่แล้ว ส่วนรายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 217 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว Spotify ระบุว่า ในไตรมาสนี้มีสมาชิกบนแพลตฟอร์มรวมแล้ว 271 ล้านคน เพิ่มขึ้น 31% จากปีที่แล้ว โดยจำนวนผู้ใช้พรีเมียมอยู่ที่ 124 ล้านคน เพิ่มขึ้น 29% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากแคมเปญต่าง ๆ โดยเฉพาะการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google Home ที่สมาชิกพรีเมียมจะได้รับ Google Home Mini เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้พรีเมียมเพิ่มจำนวนมากขึ้นในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ดี รายได้ของต่อผู้ใช้ของบริการพรีเมียมลดลง 5% เหลือ 4.65 ยูโรต่อผู้ใช้ 1 คนในไตรมาสที่ผ่านมา (หากไม่คิดผลจากค่าเงิน จะลดลง 6%) เนื่องจาก Spotify ขยายช่วงทดลองใช้ฟรี ส่วนที่น่าสนใจอีกอย่างคือพอดคาสท์ ซึ่ง Spotify ระบุว่าปัจจุบัน 16% ของผู้ใช้ที่แอคทีฟต่อเดือนได้รับชมคอนเทนต์ประเภทพอดคาสท์ เมื่อคิดเป็นจำนวนชั่วโมงแล้วเพิ่มขึ้นเกือบ 200% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่ารายได้ Spotify จะเพิ่มขึ้น แต่ในไตรมาสนี้ Spotify ขาดทุน 77 ล้านยูโร โดยคิดเป็นผลขาดทุนต่อหุ้น 1.14 ยูโรต่อหุ้น ที่มา - TechCrunch, BusinessWire
มูลนิธิบิลเกตส์ ประกาศทุ่มเงิน 100 ล้านดอลลาร์สู้ไวรัสโคโรนา ทั้งป้องกันและวิจัยวัคซีน
mk
5 February 2020 - 21:47
[ "Bill Gates", "Health", "Research", "COVID-19" ]
มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ประกาศทุ่มงบประมาณสูงสุด 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้แก้ปัญหาไวรัสโคโรนาปี 2019 (2019-nCoV) โดยงบประมาณก้อนนี้จะนำไปใช้ใน 3 ด้านคือ ตรวจจับ (detection) กักกัน (isolation) รักษา (treatment) ก่อนหน้านี้มูลนิธิฯ เคยประกาศงบประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่มเป็น 100 ล้านดอลลาร์ ตามขนาดของปัญหาที่ใหญ่ขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้ เงินก้อนแรก 20 ล้านดอลลาร์ จะถูกนำมาใช้แก้ปัญหาในประเทศที่พบผู้ป่วยแล้ว โดยใช้ผ่านองค์กรระดับนานาชาติอย่าง WHO, องค์กรระดับชาติ CDC ของสหรัฐอเมริกาหรือจีน เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ทำงานได้เต็มศักยภาพมากขึ้น มีเงินไปจ่ายค่าบุคลากรและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้งาน เงินก้อนที่สองอีก 20 ล้านดอลลาร์ จะใช้ป้องกันไวรัสระบาดในกลุ่มประเทศยากจน โดยเฉพาะในแอฟริกาและเอเชียใต้ เงินจะส่งมาให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขในประเทศกลุ่มนี้ ปรับปรุงกำลังของหน่วยงานเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เงินก้อนสุดท้าย 60 ล้านดอลลาร์ จะใช้พัฒนาวัคซีนรักษาอาการจากไวรัส 2019-nCoV ทั้งในเรื่องการวิจัยไวรัส การทดสอบวัคซีน และการจูงใจให้บริษัทยาต่างๆ ร่วมผลิตวัคซีนมาใช้งานในวงกว้าง ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ชวนดู บิลล์ เกตส์ บรรยายใน TED ปี 2015 เตือนว่าโลกต้องเตรียมพร้อมรับไวรัสระบาด ที่มา - Bill & Melinda Gates Foundation, ภาพจาก @BillGates
ZTE ยืนยันร่วมงาน MWC 2020, คัดกรองพนักงานเข้มงวด กักบริเวณก่อนงาน 2 สัปดาห์
mk
5 February 2020 - 21:25
[ "ZTE", "MWC", "Health" ]
หลังจากมีข่าว LG ประกาศไม่เข้าร่วมงาน MWC 2020 เพราะกลัวพนักงานติดไวรัสโคโรนา ค่าย ZTE ที่มีข่าวออกมาว่าทยอยยกเลิกนัดหมายในงาน MWC ก็ออกมาแถลงการณ์ยืนยันว่า ยังเข้าร่วมงาน MWC ต่อไป มาตรการด้านความปลอดภัยที่ ZTE ประกาศเพิ่มเติมคือ พนักงานจากจีนแผ่นดินใหญ่ (แม้จะไม่ได้เป็นคนจีน แต่อาศัยอยู่ในจีน) จะถูกคัดกรองอย่างเข้มงวด และยืนยันแล้วว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ 2 สัปดาห์ก่อนร่วมงาน, พนักงานจะถูกให้พักอยู่ที่บ้านในช่วง 2 สัปดาห์นี้เพื่อป้องกันไม่ให้ติดโรค ผู้บริหารระดับสูงของ ZTE ที่ต้องพบปะลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ จะต้องมาพักอยู่ในยุโรป และกักตัวอยู่แต่ในที่พัก เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มงาน พนักงานประจำบูธในงาน MWC จะไม่ได้มาจากจีนเลย โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานในยุโรป ที่มา - ZTE, ภาพจาก ZTE
YouTube เตรียมปิดหน้าเว็บแบบเก่าอย่างถาวร ผลักดันให้ใช้หน้าเว็บ Material Design
nutmos
5 February 2020 - 20:16
[ "YouTube" ]
Google ปรับดีไซน์ YouTube บนเดสก์ท็อปเป็น Material Design มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2017 แล้ว แต่จนตอนนี้ Google ก็ยังมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ที่ยังไม่ต้องการหน้าอินเตอร์เฟสใหม่กลับไปใช้รูปแบบเดิมได้ ล่าสุด Google ประกาศชัดเจนแล้วว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป Google จะปิดเว็บไซต์ YouTube ที่เป็นอินเตอร์เฟสเก่าอย่างถาวร บังคับให้ผู้ใช้ไปใช้ YouTube เวอร์ชันปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งหากผู้ใช้ยังใช้ YouTube แบบเก่าอยู่ จะแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเป็น YouTube เวอร์ชันปัจจุบันที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ แบบที่เวอร์ชันเก่าไม่มี ส่วนผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถใช้เวอร์ชันใหม่ได้เนื่องจากเบราว์เซอร์ไม่ซัพพอร์ต Google จะแนะนำผ่านระบบแจ้งเตือนให้ผู้ใช้อัพเกรดเบราว์เซอร์เพื่อใช้งาน YouTube ต่อไป ที่มา - YouTube Help, Engadget
ปูทางสู่ 5G! CAT จับมือกับ ALT และ edotco ร่วมทำโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน
medkung
5 February 2020 - 17:25
[ "CAT Telecom", "5G", "Telecom" ]
CAT ได้ลงนามในข้อตกลงกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ALT Telecom และ edotco เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมในปัจจุบันและอนาคต ทั้ง 3 บริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม มุ่งสู่การพัฒนาโครงข่าย 5G ทั่วประเทศ สำหรับข่าวนี้ตามมาหลังจากที่ CAT เป็น 1 บริษัทในการเข้าร่วมประมูล 5G ความน่าสนใจของข่าวนี้คือ ผู้เล่นที่มาร่วมกับ CAT นั้นไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดา เพราะ edotco เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่แยกบริษัทมาจาก Axiata ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือใหญ่อันดับ 3 ของมาเลเซียเพื่อจะสามารถหารายได้ใหม่ๆ จากโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ ขณะที่ ALT นั้นให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมในไทย เช่น ไฟเบอร์ออพติก การสร้างเสาโทรคมนาคม ฯลฯ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นรัฐวิสาหกิจของไทยจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นรายใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน เพราะ edotco ถือเป็นผู้เล่นโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่ของมาเลเซีย มีเสาโทรคมนาคมกว่า 29,500 เสาในอาเซียน ขณะที่ ALT มีความสามารถในเรื่องของเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกที่ CAT อาจไปไม่ถึง ช่วยให้ CAT สามารถที่จะขยายเครือข่าย 5G (ถ้าหากขนะการประมูล) ได้ไวมากขึ้น นอกจากนี้ข่าวนี้ยังทำให้เราเห็นเทรนด์การร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือในภูมิภาค เนื่องจากตั้งแต่หลังยุค 4G เป็นต้นมา การลงทุนเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น เสาโทรคมนาคม ไฟเบอร์ออพติก ฯลฯ ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลจนผู้ให้บริการไม่สามารถลงทุนได้ทัน ทำให้ท้ายที่สุดต้องใช้วิธีนี้ แม้ว่าในบางประเทศจะเป็นคู่แข่งโดยตรงก็ตาม ที่มา - CAT, The Nation
ไมโครซอฟท์เปิดซอร์สตัวช่วยสร้าง Dark Mode บน iOS รองรับตั้งแต่ iOS 11
mk
5 February 2020 - 16:58
[ "Microsoft", "Development", "iOS", "Outlook" ]
ไมโครซอฟท์ประกาศโอเพนซอร์ส DarkModeKit ซึ่งเป็นโค้ดที่ใช้ใน Outlook for iOS และรองรับ Dark Mode มาตั้งแต่ iOS 11 ขึ้นไป (แอปเปิลเริ่มรองรับใน iOS 13) ฟีเจอร์ของ DarkModeKit คือสามารถสลับธีมได้ในตัวแอพ โดยไม่ต้องรีสตาร์ตแอพใหม่ และมี API ที่ใช้ง่าย เสียบเข้ากับโค้ดเดิมของแอพได้ทันที โค้ดอยู่บน GitHub ต้องใช้ร่วมกับ Xcode 11 และ Swift 5 ขึ้นไป ที่มา - Microsoft
Dan Houser ผู้ร่วมก่อตั้ง Rockstar, หัวหน้าทีมเขียนบท GTA และ Red Dead ลาออกจากบริษัท
mk
5 February 2020 - 16:22
[ "Rockstar", "Games", "Red Dead Redemption", "GTA" ]
Dan Houser ผู้ร่วมก่อตั้ง Rockstar Games และหัวหน้าทีมเขียนบทเกมดังแทบทุกเกมของค่ายนี้ ตั้งแต่ GTA ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุด, Read Dead Redemption ทั้งสองภาค ประกาศลาออกจากบริษัทแล้ว Dan Houser ไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมถึงลาออก แต่เขาหยุดทำงานมาสักพักแล้ว หลังการวางขาย Red Dead Redemption 2 ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายที่เขามีส่วนร่วม Rockstar Games ก่อตั้งในปี 1998 โดยสองพี่น้องตระกูล Houser และเพื่อนอีกสองคน ในฐานะบริษัทลูกของ Take-Two Interactive ส่วน Sam Houser พี่ชายของ Dan และประธานของ Rockstar ยังทำงานอยู่กับ Rockstar เหมือนเดิม ที่มา - IGN ภาพจาก Rockstar
ลาซาด้าออกมาตรการคุมราคาหน้ากากอนามัย หากเจอราคาไม่เหมาะสม จะนำสินค้าออกจากแพลตฟอร์ม
sunnywalker
5 February 2020 - 16:20
[ "Lazada" ]
เนื่องจากไวรัสโคโรน่าระบาด และหน้ากากอนามัยก็หาซื้อยากมาก ลาซาด้าได้ออกมาตรการควบคุมสินค้าหน้ากากอนามัย โดยระบุว่า ลาซาด้าไม่สนับสนุนการตั้งราคาสินค้าเกินจริงในทุกกรณี หากมีผู้ขายใดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาที่ไม่เหมาะสม ลาซาด้าจะนำสินค้านั้นออกจากแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีมาตรการสต็อกสินค้า ลาซาด้าบอกว่าได้ป้องกันไม่ให้มีการกักตุนสินค้าจากผู้ซื้อ โดยจำกัดจำนวนการสั่งซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ลาซาด้ายังได้จัดวางสินค้าเพื่อสุขอนามัยไว้ในจุดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนบนหน้าแอปพลิเคชั่น ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
Steam ทำสถิติใหม่มีผู้ใช้งานพร้อมกันสูงสุด 18.8 ล้านบัญชี
nostalgias
5 February 2020 - 15:50
[ "Steam", "Valve" ]
SteamDB เว็บไซต์ติดตามข้อมูล Steam ได้เผยว่าตอนนี้มีผู้ใช้งาน Steam พร้อมกันทำสถิติใหม่อยู่ที่ 18,801,944 บัญชี ซึ่งมากกว่าสถิติครั้งที่แล้วเมื่อปี 2018 ที่ 18,537,490 บัญชี หรือเพิ่มมากว่า 3 แสนบัญชีเลยทีเดียว ถึงแม้ผู้เล่นที่กำลังเล่นเกมอยู่ลดลงจากประมาณ 7 ล้านบัญชีเหลือประมาณ 5.9 ล้านบัญชี หรือลดลงกว่า 1 ล้านบัญชี ที่มา - SteamDB
Jigsaw หน่วยบ่มเพาะเทคโนโลยีของ Alphabet ทำเครื่องมือจับผิดภาพดัดแปลง สู้ข่าวปลอม
sunnywalker
5 February 2020 - 14:48
[ "Jigsaw", "Alphabet", "Fake", "Deepfake", "News" ]
Jigsaw หน่วยบ่มเพาะเทคโนโลยีในเครือ Alphabet กำลังพัฒนาเครื่องมือใหม่ Assembler ที่ช่วยตรวจจับรูปภาพที่ผ่านการดัดแปลง ปลอมแปลง หรือใช้เทคโนโลยี deepfake เป้าหมายคือให้นักข่าวสามารถนำเครื่องมือไปใช้ตรวจสอบเนื้อหาได้ เพื่อสู้กับข่าวปลอม ในขณะที่รูปภาพถ้าผ่านการดัดแปลงผ่าน Photoshop ตามนุษย์ยังพอสังเกตความผิดปกติในรูปภาพได้ แต่ก็ยังมีการดัดแปลงรูปภาพอีกหลายอย่างที่คอมพิวเตอร์สามารถมองออก เช่น แพทเทิร์นซ้ำๆ กันในรูปภาพ และภาพที่ดัดแปลงจาก deepfake ซึ่งมีความแนบเนียนมากขึ้นทุกที Jigsaw ให้รายละเอียดการทำงานของ Assembler ว่าเป็นการรวบรวมความสามารถในการจับผิดภาพปลอมที่แตกต่างกันเข้ามาอยู่ในเครื่องมือเดียว เช่น บางเครื่องมือใช้จับผิดรูปภาพที่มีแสงเงาไม่สมจริง, บางเครื่องมือจับผิดลักษณะการคัดลอกของภาพ เป็นต้น ทำให้ Assembler สามารถระบุประเภทการดัดแปลงรูปภาพที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ได้ Assembler ยังอยู่ในขั้นตอนแรกของการพัฒนา และจะเปิดรับเฉพาะนักวิจัย และสำนักข่าวในการเข้าถึงเครื่องมือ via GIPHY ที่มา - Jigsaw, Engadget
Castlevania ซีซัน 3 เตรียมฉายบน Netflix วันที่ 5 มีนาคมนี้ มี 10 ตอน
nismod
5 February 2020 - 11:32
[ "Castlevania", "Netflix" ]
หลังจากที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จจาก 2 ซีซันแรกของ Castlevania บน Netflix แอนิเมชันที่ดำเนินเรื่องราวอ้างอิงจาก Castlevania III: Dracula’s Curse และมีข่าวประกาศทำซีซัน 3 เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด Netflix ประกาศว่าซีซัน 3 จะฉายวันที่ 5 มีนาคมนี้ มีทั้งหมด 10 ตอน (ซีซัน 1 มี 4 ตอน ก่อนจะเพิ่มเป็น 8 ตอนในซีซัน 2) โดยทีมงานทั้งผู้เขียนบท ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ยังคงเป็นชุดเดิมทั้งหมด ส่วนคะแนนบนเว็บมะเขือเน่า Castlevania ได้ Fresh จากนักวิจารณ์ทั้ง 2 ซีซันที่ 88% และ 100% ตามลำดับ (ไม่ได้ Certified Fresh เพราะจำนวนนักวิจารณ์ไม่พอ) ที่มา - NXonNetflix via GameSpot
หลุด Galaxy Buds+ แบตเตอรี่เพิ่มเป็น 85 mAh มีแอปบน iPhone ด้วย
sunnywalker
5 February 2020 - 11:20
[ "Samsung Galaxy", "Galaxy Buds", "iPhone" ]
Evan Blass ผู้มีชื่อเสียงในวงการไอทีเรื่องปล่อยข่าวหลุด เผยภาพสเปคของหูฟัง Galaxy Buds+ มีการอัพเกรดแบตเตอรี่จาก 58 เป็น 85 mAh ส่วนแบตเตอรี่ของเคสใส่หูฟังเพิ่มจาก 252 เป็น 270 mAh ฟังเพลงได้ยาวนาน 11 ชั่วโมง นอกจากนี้ Galaxy Buds+ ยังมีแอปพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานบน iPhone ด้วย สเปคอื่นที่น่าสนใจคือ มีไมโครโฟนแยกออกมาอีกตัว จากที่มีข้างในอยู่แล้ว 1 ตัว เชื่อมต่อได้มากกว่า 1 อุปกรณ์ และตัวทัชแพดสามารถทำงานกับ Spotify ได้ นอกเหนือจากกดหยุด ข้ามเพลง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะควบคุมอย่างไร ในงานเปิดตัว Samsung Galaxy S20 อาจมีรายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีสีแดงและฟ้าให้เลือกนอกจากสีขาวและดำตามปกติ ส่วนราคาอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ หรือ 4,600 บาท อ่านรีวิว Samsung Galaxy Bud ได้ที่นี่ ที่มา - 9to5Google
ยิ่งปัด บริษัทยิ่งรวย รายได้ Tinder ปี 2019 พุ่ง 37,320 ล้านบาท
sunnywalker
5 February 2020 - 10:07
[ "Tinder", "Financial Report", "Match" ]
Tinder ขึ้นแท่นแอปพลิเคชั่นที่มีการดาวน์โหลดสูงและมีการใช้จ่ายในแอปสูงด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวแอปจะทำเงินได้เยอะด้วย ล่าสุด Tinder ออกผลประกอบการพบว่าสามารถทำเงินได้ล้นหลาม 1.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 ที่ผ่านมาหรือราว 37,320 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 43% รายได้หลักของ Tinder มาจากบริการ subscription ในแพ็กเกจ Tinder Plus และ Tinder Gold ที่ให้ผู้ใช้สามารถปัดเลือกคู่เรื่อยๆ ไม่จำกัด และยังมีรายได้จากการซื้อในแอป ไม่ว่าจะเป็นการทำให้โปรไฟล์โดดเด่นกว่าคนอื่นด้วย Boosts โดย Match บริษัทแม่ของ Tinder ระบุว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการ subscription 5.9 ล้านราย Match เป็นเจ้าของบริการหาคู่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น OKCupid, Plenty of Fish รวมๆ แล้ว Match มีรายได้ 2.1 พันล้านดอลลาร์ แต่ Tinder ก็ครองรายได้ไปกว่าครึ่งแล้ว ที่มา - CNET
Epic Games Store แจกฟรีเกม Farming Simulator 19 แบบจำกัดเวลา
mk
5 February 2020 - 08:49
[ "Farming Simulator", "Epic Games", "Games" ]
Epic Games Store ประกาศแจกฟรีเกมซิมูเลเตอร์ทำฟาร์มชื่อดัง Farming Simulator 19 โดยมีเวลากดกันจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ Farming Simulator 19 รุ่นที่แจกฟรีเป็นรุ่นมาตรฐาน มูลค่า 14.99 ดอลลาร์ (ราคาบน Steam ตอนนี้คือ 550 บาท) แต่ถ้าต้องการอัพเกรดเป็น Platinum Edition ก็สามารถจ่ายเพิ่มได้ รวมถึง DLC เพิ่มเติมอื่นๆ เช่น รถเก็บฝ้ายของ John Deer หรืออุปกรณ์จากบริษัท Anderson Group ที่มา - Epic Games Store
LG ประกาศไม่เข้าร่วมงาน MWC 2020 เพราะกลัวพนักงานติดไวรัสโคโรนา
mk
5 February 2020 - 07:35
[ "LG", "MWC", "COVID-19" ]
LG Electronics ประกาศถอนตัวไม่เข้าร่วมงาน Mobile World Congress 2020 ที่บาร์เซโลนาช่วงปลายเดือนนี้ ด้วยเหตุผลว่ากลัวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่อาจกระทบต่อพนักงานของบริษัทหลายร้อยคนที่ต้องเดินทางไปบาร์เซโลนา ส่วนการแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตั้งใจจัดที่ MWC 2020 จะย้ายมาเป็นงานแถลงข่าวย่อยๆ แทน LG ถือเป็นบริษัทแรกที่ประกาศไม่เข้าร่วมงาน MWC แต่ก็มีรายงานว่าบางบริษัทอย่าง ZTE เริ่มยกเลิกนัดหมายที่งาน MWC แล้วเช่นกัน ที่มา - LG, 9to5google ภาพงาน MWC ปี 2017 จาก LG
เกมสตรีมมิ่ง GeForce Now ปลดสถานะเบต้า, เดือนละ 4.99 ดอลลาร์, เล่นฟรีครั้งละ 1 ชม.
mk
5 February 2020 - 07:26
[ "GeForce Now", "NVIDIA", "Games", "Game Streaming" ]
NVIDIA ถือเป็นบริษัทแรกๆ ที่ให้บริการเกมสตรีมมิ่งมาตั้งแต่ปี 2014 โดยช่วงแรกใช้ชื่อว่า NVIDIA Grid และเปลี่ยนชื่อมาเป็น GeForce Now หลายปีที่ผ่านมา GeForce Now มีสถานะเป็น Beta มาตลอด (แต่เก็บเงิน 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือนมานานแล้ว) ล่าสุด NVIDIA ประกาศเปิดบริการ GeForce Now อย่างเป็นทางการกับเขาสักที แพ็กเกจใหม่ของ GeForce Now แบ่งเป็น 2 ระดับ ฟรี จำกัดการเล่นครั้งละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เสียเงิน (Founders) เดือนละ 4.99 ดอลลาร์ (ราคานี้ตลอดปี 2020) เล่นเกมได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และได้ฟีเจอร์กราฟิก RTX On GeForce Now มีเกมฟรีจากพีซีให้เล่นประมาณ 30 เกม (เช่น Fortnite) และหากลูกค้ามีเกมที่ซื้อไว้แล้วบนร้านออนไลน์ และเป็นเกมที่ซัพพอร์ต GeForce Now ก็สามารถเล่นเกมนั้นๆ แบบสตรีมมิ่งได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อใหม่ (ต้องยืนยันการซื้อและเพิ่มเกมลงไลบรารีใน GeForce Now ก่อน) เท่าที่ผมลองหารายชื่อเกมที่ GeForce Now รองรับ มีเกมใหม่ๆ อย่าง Modern Warfare, Mortal Kombat 11, Borderlands 3, The Division 2, Destiny 2, NBA 2K19 รวมถึงเกมใหญ่ๆ ของค่าย Activision Blizzard กับ Ubisoft แต่ยังขาดเกมของฝั่ง EA ทั้งหมด รวมถึงค่ายฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Capcom หรือ Square Enix ด้วย อุปกรณ์ที่รองรับมีทั้งพีซี แมค แอนดรอยด์ และ NVIDIA Shield โดยปีนี้จะเพิ่ม Chromebook เข้ามาอีกหนึ่งประเภท ที่มา - NVIDIA
[อัพเดต] เจ้าของตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) สนใจซื้อกิจการ eBay
arjin
5 February 2020 - 07:22
[ "eBay", "Rumors", "NYSE", "Acquisition" ]
มีรายงานว่า Intercontinental Exchange หรือ ICE เจ้าของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ได้แสดงความสนใจเบื้องต้นที่จะซื้อกิจการทั้งหมดของ eBay โดยมูลค่าอาจสูงกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ รายงานบอกว่าเหตุผลที่ ICE สนใจซื้อกิจการของ eBay เพื่อกระจายธุรกิจไปยังหมวดอื่น และลดแรงกดดันจากนโยบายลดค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ โดย ICE สนใจซื้อเฉพาะธุรกิจมาร์เก็ตเพลสของ eBay เท่านั้น ไม่ต้องการซื้อธุรกิจโฆษณา (Classified) ซึ่ง eBay ก็มีแผนจะขายส่วนธุรกิจนี้ออกไปอยู่แล้ว ตัวแทนของ ICE และ eBay ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว อัพเดต: ICE ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับ eBay จริง แต่ข้อเสนอจากทาง eBay ทำให้ตกลงไม่ได้ จึงไม่มีการเจรจาเกิดขึ้นต่อ (ที่มา) ที่มา: Reuters
Sony ไตรมาสล่าสุด ธุรกิจ Image Sensor รายได้เพิ่มสูง ส่วนธุรกิจเกมยอดขายลด เพราะลูกค้ารอ PS5
arjin
5 February 2020 - 07:07
[ "Sony", "Financial Report" ]
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (ตุลาคม-ธันวาคม 2019) รายได้รวม 2.46 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.29 แสนล้านเยน กลุ่มธุรกิจที่รายได้เพิ่มขึ้นสูงคือบริการทางการเงิน และผลิตเซ็นเซอร์กล้อง ขณะที่ธุรกิจเกมรายได้ลดลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินคาดหมายเพราะบริษัทประกาศเตรียมออก PlayStation 5 PlayStation 4 ขายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา 6.1 ล้านเครื่อง ส่วนธุรกิจสมาร์ทโฟนขายมือถือได้ 1.3 ล้านเครื่อง ที่มา: โซนี่, GSM Arena และ The Verge
ราคาหุ้น Tesla พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดที่ 887.06 ดอลลาร์ต่อหุ้น
arjin
5 February 2020 - 06:44
[ "Tesla", "Stock" ]
ราคาหุ้นของ Tesla ยังคงทะยานอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ราคาอยู่ที่ 780 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนคืนที่ผ่านมาราคาพุ่งไปถึง 968.99 ดอลลาร์ ก่อนจะปิดที่ 887.06 ดอลลาร์ ทำให้นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ราคาหุ้น Tesla เพิ่มขึ้นแล้วมากกว่า 100% ช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้นของ Tesla หลายอย่าง ทั้งผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ยังคงมีกำไรต่อเนื่อง รวมทั้งข่าวล่าสุดที่ Panasonic เปิดเผยว่าบริษัทร่วมทุนในการผลิตแบตเตอรี่ตอนนี้มีกำไรแล้วเป็นครั้งแรก สะท้อนความว่า Tesla สามารถผลิตรถยนต์ได้มากขึ้น และมีกำไรจากธุรกิจแล้ว มูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Cap) ของ Tesla ตอนนี้อยู่ที่ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเกือบสองเท่าของมูลค่ากิจการ GM (4.9 หมื่นล้านดอลลาร์) และ Ford (3.6 หมื่นล้านดอลลาร์) รวมกัน ที่มา: Reuters
Disney+ มีผู้สมัครใช้งานแล้ว 26.5 ล้านคน
arjin
5 February 2020 - 06:16
[ "Disney+", "Disney", "Financial Report", "Video Streaming" ]
ดิสนีย์เปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานบริการสตรีมมิ่ง Disney+ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส หลังเริ่มให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครใช้งาน 26.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากวันแรกที่มีผู้สมัครใช้งาน 10 ล้านคน ซีอีโอ Bob Iger บอกว่า 20% ของผู้สมัครใช้งาน เป็นการสมัครทดลองใช้งานฟรี 12 เดือน ของลูกค้า Verizon ขณะที่ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นการสมัครใช้งานผ่านเว็บไซต์ของ Disney+ โดยตรง ตัวเลขนี้มากหรือน้อยอาจเทียบได้กับบริการสตรีมมิ่งตัวอื่นของดิสนีย์เช่นกัน โดย ESPN+ มีผู้สมัครใช้งาน 6.6 ล้านคน ส่วน Hulu มี 30.4 ล้านคน ที่มา: CNBC
ชวนดู บิลล์ เกตส์ บรรยายใน TED ปี 2015 เตือนว่าโลกต้องเตรียมพร้อมรับไวรัสระบาด
lew
5 February 2020 - 01:46
[ "Bill Gates", "Medical" ]
เมื่อปี 2015 บิลล์ เกตส์ ไปบรรยายในงาน TED หัวข้อ "The next outbreak? We're not ready" โดยระบุว่าที่ผ่านมามีการเตรียมพร้อมรับสงคราม แต่ที่จริงแล้วความเสี่ยงสูงสุดของมนุษชาติกลับเป็นโรคระบาดที่อาจคร่าชีวิตเหยื่อได้นับล้าน เขาเตือนว่าตอนนี้เราไม่มีระบบรองรับโรคระบาด โดยกระบวนการส่งต่อข้อมูลยังล่าช้าและขาดความแม่นยำ ไม่มีกำลังคนที่เตรียมพร้อม แม้จะมีองค์การอนามัยโลกก็ทำได้เพียงตรวจตราว่าเกิดโรคระบาดขึ้นหรือไม่ แต่ไม่มีโครงสร้างรับมือที่พร้อม และเหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างโรคอีโบล่านั้นการระบาดไม่หนักมากเพราะตัวโรคทำให้ผู้ป่วยล้มป่วยหนักได้รวดเร็ว และโรคไม่แพร่เข้าเมืองใหญ่ แต่ครั้งต่อๆ ไปหากโรคติดไปกับคนเดินทางทางเครื่องบินก็จะพาโรคไปได้กว้างขวาง เขาระบุว่าการเตรียมพร้อมโรคระบาดต้องใช้โครงสร้างทางทหารที่สามารถระดมพลจำนวนมากได้รวดเร็ว พร้อมกับโครงสร้าง ได้แก่ ระบบสาธารณะสุขที่ดี, กำลังพลด้านสาธารณสุขสำรอง, การทำงานร่วมระหว่างสาธารณสุขและทหารเพื่ออาศัยกำลังทหารในการขนส่งและรักษาความปลอดภัย, การซ้อมรับมือโรคระบาดแบบเดียวกับการซ้อมรบ, และการลงทุนวิจัย วิดีโอความยาว 8 นาทีครึ่ง มีคำบรรยายภาษาไทยให้ด้วย ที่มา - TED
สถิติ Docker Hub ปี 2019: pull เดือนละ 8 พันล้านครั้ง, busybox/nginx/redis นิยมสูงสุด
lew
5 February 2020 - 01:19
[ "Docker" ]
Docker รายงานการใช้งาน Docker Hub และ Docker Desktop ปี 2019 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าอัตราการ pull อิมเมจสูงถึง 8 พันล้านครั้งต่อเดือน เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 5.5 พันล้านครั้ง แสดงให้เห็นว่าอัตราเติบโตยังสูงอยู่ สำหรับอิมเมจยอดนิยมนับตามการ pull ได้แก่ busybox, nginx, redis, mongo, postgres, alpine, traefik, ubuntu, node, และ mysql น่าสนใจว่า node เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาตัวเดียวที่ติดอันดับ แต่หากนับจากอัตราการค้นหา อันดับจะเป็น mysql, nginx, ubuntu, python, node, php, centos, jenkins, java, และ redis แสดงให้เห็นว่าพอเป็นการค้นหาจริงๆ คนก็ค้นแพลตฟอร์มพัฒนากันบ่อย อัตราการการใช้ Docker Desktop นั้นยังเป็นผู้ใช้แมคถึง 61% แต่ลดลงจากช่วงต้นปีที่อยู่ที่ 66% ที่มา - Docker
วิศวกรกูเกิลเสนอ UA-CH เพื่อป้องกันการติดตาม โดนถามกลับทำไมยังส่ง x-client-data ระบุตัวตนผู้ใช้ไปโดเมนของกูเกิล
lew
5 February 2020 - 01:00
[ "Chrome", "Privacy" ]
Yoav Weiss วิศวกรทีมงาน Google Chrome โพสข้อเสนอสเปค HTTP header ตัวใหม่ที่ชื่อว่า UA-CH (User Agent Client Hint) สำหรับใช้งานแทนที่สตริง User-Agent ทุกวันนี้ที่แสดงข้อมูลผู้ใช้จำนวนมาก ทั้งเวอร์ชั่นย่อยเบราว์เซอร์และระบบปฎิบัติการจนเว็บไซต์สามารถติดตามผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยใน UA-CH เว็บไซต์จะต้องขออนุญาตอ่านข้อมูลเบราว์เซอร์เป็นกรณีไป ไม่เช่นนั้นจะได้เพียงชื่อเบราว์เซอร์และเวอร์ชั่นหลักของเบราว์เซอร์เท่านั้น อย่างไรก็ดี ขณะที่กระทู้กำลังพูดคุยเรื่องเสปค ก็มีผู้ถามว่าถ้ากูเกิลสนใจความเป็นส่วนตัว ทำไมจึงยังเติม HTTP header ที่ชื่อว่า x-client-data ที่เป็นเลขสุ่มระบุตัวตนผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ และทำงานเฉพาะโดเมนของกูเกิลอยู่ x-client-data ทำงานกับโดเมนจำนวนมากของกูเกิล เช่น google.com, android.com, gstatic.com แต่ก็ยังทำงานกับโดเมนยิงโฆษณาอย่าง doubleclick.com และ doubleclick.net ด้วย (ซอร์สโค้ดอยู่ในไฟล์ google_util.cc ฟังก์ชั่น IsGoogleAssociatedDomainUrl) โดยหากผู้ใช้เปิดยินยอมส่งค่ากลับกูเกิลเพื่อวิเคราะห์การใช้งาน ค่า x-client-data จะเป็นเลขสุ่มความละเอียดสูง (high entropy) ทำให้ระบุตัวตนเบราว์เซอร์ได้อย่างแม่นยำ หรือแม้จะปิดการส่งข้อมูลกลับ Chrome ก็จะส่งค่า x-client-data กลับไปอยู่ดี แต่ลดความแม่นยำลงโดยค่าสุ่มจะมี 8000 ค่า แต่ก็ช่วยทำให้การติดตามผู้ใช้ง่ายลงเป็นอย่างมาก การปิดค่า x-client-data มีเพียงการใช้งานในโหมด Incognito เท่านั้น หรือหากต้องการลดการติดตามตัว ต้องสั่งออปชั่น --reset-variation-state ทุกครั้งที่เปิดเบราว์เซอร์เอาเอง ที่มา - GitHub: w3ctag
Google ออกอัพเดต Chrome 80 เตรียมพร้อมสำหรับการบล็อคคุกกี้ที่ติดตามข้ามไซต์
nutmos
4 February 2020 - 22:43
[ "Chrome", "Google", "Privacy" ]
Google ออกอัพเดต Chrome 80 โดยรอบอัพเดตครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือเรื่องคุกกี้ตามที่แจ้งไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว การเปลี่ยนแปลงในฝั่งนักพัฒนา คือตัวคุกกี้ที่สร้างขึ้นมาจะต้องระบุค่า SameSite เอาไว้ด้วย ถ้าไม่ระบุค่านี้ Chrome จะเซ็ทค่าเริ่มต้นเป็น SameSite=Lax โดยอัตโนมัติ ซึ่งค่านี้เป็นค่าที่ปลอดภัยแต่อาจส่งผลต่อเซอร์วิสบางอย่างบนเว็บที่ต้องใช้ระบบติดตามข้ามไซต์ (cross-site tracking) ส่วนฝั่งผู้ใช้ Google ทยอยปล่อยอัพเดต Chrome 80 แล้ว แต่ Google จะเริ่มทยอยเริ่มบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงนี้ให้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยเริ่มจากผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ ก่อน และจะค่อย ๆ ขยายจำนวนผู้ใช้ออกไปเรื่อย ๆ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่หน้านี้ ถ้าแสดงสีเขียวทุกแถวแสดงว่าเบราว์เซอร์เริ่มใช้ค่าเริ่มต้นแบบใหม่แล้ว ที่มา - Chromium Blog, Engadget
Google Photos เจอบั๊ก export แล้วติดรูป,วิดีโอของคนอื่นมาด้วย, ได้รับการแก้ไขแล้ว
sunnywalker
4 February 2020 - 22:15
[ "Google Photos", "Bug", "Google", "Cybersecurity" ]
กูเกิลเผยว่า มีบั๊กใน Google Photos ช่วงวันที่ 21 - 25 พ.ย. ปี 2019 ที่ผ่านมา พบว่าระบบส่งข้อมูลวิดีโอส่วนตัวที่ผู้ใช้สำรองไว้บนคลาวด์ไปให้ผู้ใช้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยผ่านฟีเจอร์ Download your data กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้ทำการดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองออกมา จะติดเอารูปภาพและวิดีโอที่ไม่ใช่ของตัวเองเข้ามาด้วย กูเกิลระบุว่าได้แก้ไขบั๊กตัวนี้แล้ว กูเกิลแนะนำผู้ใช้ที่ export ข้อมูลของตัวเองออกไปในช่วง 21 - 25 พ.ย. ปีที่ผ่านมาให้ลอง export ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กูเกิลไม่ได้บอกว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกี่ราย บอกเพียงว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ 0.01% ของจำนวนผู้ใช้งาน Google Photos ที่มา - Engadget
Poco X2 เปิดตัว จอ 120Hz, กล้องหลัง 4 ตัว, Snapdragon 730G ราคาเริ่มต้นราว 7 พันบาท
mk
4 February 2020 - 20:31
[ "POCO", "Xiaomi", "Mobile", "India" ]
Poco บริษัทลูกของ Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ Poco X2 ตามสัญญา หน้าจอ อัตรารีเฟรช 120Hz ที่ Poco เรียกว่า RealityFlow หน่วยประมวลผล Snapdragon 730G พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX686, กล้องมุมกว้าง 8MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้องวัดระยะลึก 2MP กล้องหน้า 2 ตัว เจาะรูที่มุมด้านขวาบน 20MP + 2MP แบตเตอรี่ 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 27 วัตต์ ให้สายชาร์จเร็วมาในกล่อง ตัวสแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง ระบบปฏิบัติการ MIUI 11 เวอร์ชันรับแต่งโดย POCO Poco X2 มีด้วยกัน 3 ขนาดความจุและแรม เริ่มขายในอินเดียวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนที่ประเทศอื่นต้องรอประกาศกันอีกรอบ แรม 6GB + สตอเรจ 64GB ราคา 15,999 รูปี (ประมาณ 7,000 บาท) แรม 6GB + สตอเรจ 128GB ราคา 16,999 รูปี (ประมาณ 7,400 บาท) แรม 8GB + สตอเรจ 256GB ราคา 19,999 รูปี (ประมาณ 8,700 บาท) อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ POCO เลือกวางตำแหน่งของ X2 ไปชนกับ Realme X2 (ชื่อรุ่นเดียวกันอีกด้วย) ที่สเปกใกล้เคียงกัน แต่สเปกของ POCO X2 ดีกว่าเล็กน้อยในแทบทุกจุด และขายในราคาถูกกว่าเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงมือถือกลุ่มนี้ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดจริงๆ ที่มา - XDA
ประมูลคลื่น 5G มีบริษัทยื่นเอกสาร 5 ราย มาครบทั้ง AIS, dtac, TrueMove H, TOT และ CAT
arjin
4 February 2020 - 20:27
[ "NBTC", "Telecom", "Auction" ]
กสทช. สรุปข้อมูลผู้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 700MHz, 1800MHz, 2600MHz และ 26GHz ซึ่งเรียกรวมกันว่าเป็นการประมูล 5G โดยมีผู้มายื่นทั้งหมด 5 ราย ได้แก่ (1) บริษัท ทรู มูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (2) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (3) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (4) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ (5) บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด คลื่นความถี่ที่นำออกมาประมูลครั้งนี้ ประกอบด้วย คลื่น 700MHz 3 ใบอนุญาต, 1800MHz 7 ใบอนุญาต, 2600MHz 19 ใบอนุญาต และ 26GHz 27 ใบอนุญาต ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องวางหลักประกัน 507.6 ล้านบาท ในขั้นตอนต่อไป กสทช. จะพิจารณาคุณสมบัติ และเตรียมจัดการประมูลในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่มา: กสทช.
ถึงเวลาขึ้นราคา VMware ประกาศค่าไลเซนส์ใหม่ ใช้ได้ไม่เกิน 32 คอร์ ถ้าเกินต้องซื้อไลเซนส์เพิ่ม
lew
4 February 2020 - 19:01
[ "VMware", "Licensing" ]
VMware ประกาศปรับแนวทางการคิดค่าไลเซนส์จากเดิมคิดตามจำนวนซ็อกเก็ตซีพียูอย่างเดียวมาเป็นการนับจำนวนคอร์ด้วย โดยแต่ละไลเซนส์จะใช้ได้ไม่เกิน 32 คอร์ สินค้าบางตัวของ VMware คิดราคาตามจำนวนคอร์อยู่แล้ว เช่น VMware Enterprise PKS และ VMware NSX Data Center แต่ซอฟต์แวร์ส่วนมากยังคิดตามจำนวนซีพียูอยู่ โดยประกาศครั้งนี้จะมีผลกับซอฟต์แวร์ที่คิดราคาตามจำนวนซีพียูทุกตัวของ VMware สำหรับลูกค้าที่ซื้อไลเซนส์ก่อน 30 เมษายนนี้การคิดค่าไลเซนส์จะยังคงแบบเดิมต่อไป ซีพียูช่วงหลังๆ มีจำนวนคอร์สูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น AMD EPYC 7002 นั้นมีคอร์ถึง 64 คอร์ ที่มา - VMware
ธนาคารกสิกรไทยเตรียมขยายจุดยืนยันตัวตนไม่ต้องไปสาขาให้ครบ 1 แสนจุด ดันยอดผู้ใช้ดิจิทัลให้ถึง 2.6 ล้านบัญชี
sunnywalker
4 February 2020 - 16:32
[ "Kasikorn Bank", "KPLUS" ]
ช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2019 ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว "บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล" (K-eSavings) ผ่านแอป K PLUS ที่สามารถเปิดบัญชีโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคาร แต่ต้องยืนยันตัวตนที่จุด K Check ID ตามสาขาธนาคารกสิกรไทย ล่าสุด ทางธนาคารเผยว่าจะขยายฐานลูกค้าบัญชี K-eSavings ให้ถึง 2.6 ล้านบัญชี จากปัจจุบันที่มี 180,000 บัญชี และจะเพิ่มจุดยืนยันตัวตน K Check ID ให้ครอบคลุม 1 แสนจุดทั่วประเทศ โดยจะสามารถยืนยันตัวตนผ่านจุดที่ตั้งครอบคลุมทั้งเคแบงก์ เซอร์วิส, ตู้เอทีเอ็ม, สาขาธนาคาร พร้อมเตรียมเปิดให้บริการร่วมกับพันธมิตร เช่น บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์, มินิบิ๊กซี, และที่ทำการไปรษณีย์ไทย ขั้นตอนการเปิดบัญชี และกรอกข้อมูลสำคัญ ผู้ใช้งานสามารถทำผ่านแอป K PLUS ได้ และจะเปิดบัญชีสำเร็จก็ต่อเมื่อเอาบัตรประชาชนไปเสียบที่ตู้ K Check ID และถ่ายรูปสแกนหน้าด้วย นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่ากลุ่มเป้าหมายของบริการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์บน K PLUS (K-eSavings) คือ กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยมีบัญชีกับธนาคาร แต่อยากเปิดบัญชีและไม่อยากมีสมุดบัญชีให้ยุ่งยาก ซึ่งการเปิดบัญชี K-eSavings ไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
สยบทุกข่าวลือ dtac ยื่นเอกสาร กสทช. เข้าร่วมประมูลความถี่ 5G
mk
4 February 2020 - 15:45
[ "dtac", "NBTC", "Telecom", "Auction" ]
นายชารัด เมห์โรทรา ซีอีโอคนใหม่ของ dtac ที่เพิ่งมารับตำแหน่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เข้ายื่นเอกสารกับ กสทช. เพื่อประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคม (multiband auction) หรือที่เราเรียกว่าความถี่ 5G ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ การยื่นเอกสารครั้งนี้ช่วยสร้างความมั่นใจว่า dtac จะเข้าร่วมประมูล หลังมีข่าวออกมาว่านางอเล็กซานดรา ไรช์ อดีตซีอีโอที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่ง มีปัญหากับบอร์ดของ dtac เพราะนางอเล็กซานดราอยากให้ dtac เข้าร่วมประมูล ในขณะที่บอร์ดมองว่าราคาประมูลแพงเกินไป ที่มา - dtac
Twitter แถลงพบแอคเคาท์ปลอมจำนวนมาก ค้นหาบัญชีผู้ใช้คนอื่นจากเบอร์โทร
nismod
4 February 2020 - 15:19
[ "Twitter", "Security" ]
Twitter แถลงในบล็อกด้านความเป็นส่วนตัว (privacy blog) ของตัวเองเรื่องการค้นพบแอคเคาท์ปลอมจำนวนมาก ที่เกี่ยวโยงกับรัฐบาลอิหร่าน อิสราเอลและมาเลเซีย (state-sponsored actor) abuse ฟีเจอร์ของ Twitter นำเบอร์โทรศัพท์ไปค้นหาบัญชีผู้ใช้ พร้อมขอโทษถึงปัญหาที่เกิดขึ้น Twitter มีฟีเจอร์ที่ให้ผูกเบอร์โทรศัพท์เข้ากับบัญชี เพื่อความง่ายในการค้นหาแนะนำเพื่อนที่อาจรู้จัก (let people who have your phone number find you on Twitter) ทว่าแอคเคาท์ปลอมจำนวนมากข้างต้น กลับนำเบอร์โทรศัพท์มาค้นหาตัวตนและบัญชีเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ โดย Twitter บอกว่าได้แค่ไขแล้วว่าไม่ให้แสดงผลชื่อบัญชีบางอย่างเมื่อค้นหาด้วยวิธีนี้ (it could no longer return specific account names in response to queries) Twitter บอกว่าผู้ที่กระทบจะมีแค่คนที่นำเบอร์ผูกกับทวิตเตอร์และเปิดฟีเจอร์ let people who have your phone number find you on Twitter ข้างต้นเท่านั้น รวมถึงได้ปิดบัญชีปลอมทั้งหมดไปแล้ว ที่มา - Twitter
บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ตรวจสอบระบบไอทีสนามบิน 100 แห่ง มีเพียง 3 แห่งที่ผ่านมาตรฐาน
sunnywalker
4 February 2020 - 15:08
[ "Cybersecurity", "Airport", "Application" ]
ImmuniWeb บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ ทำการสำรวจการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบไอทีในสนามบินแห่งชาติ 100 แห่ง พบว่ามีสนามบินเพียงแค่ 3 แห่งที่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยพื้นฐาน สนามบินทั้ง 3 แห่งคือ สนามบิน Amsterdam Schiphol ในประเทศเนเธอร์แลนด์, สนามบิน Helsinki Vantaa ในประเทศฟินแลนด์ และสนามบินนานาชาติดับลินในประเทศไอร์แลนด์ ภาพจาก schiphol.nl ImmuniWeb ทำการทดสอบรายการดังต่อไปนี้ มีการใช้ HTTPS อย่างเหมาะสม เซิร์ฟเวอร์อีเมลของสนามบินซัพพอร์ตมาตรฐาน DKIM (DomainKey Identified Email) และ SPF (Sender Policy Framework) และมาตรฐาน DMARC หรือไม่ การจัดการเนื้อหาหรือ Content Management System (CMS) ทำงานด้วยเวอร์ชั่นล่าสุดหรือไม่ มีการทดสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS, NIST และ HIPAA ทางสนามบินมีการใช้แอปพลิเคชั่นไฟร์วอลหรือ WAF หรือไม่ มีการทดสอบความผิดพลาดในระบบคุกกี้ และความปลอดภัยทั่วไปหรือไม่ ตัวแอปพลิเคชั่นของสนามบิน ใช้ส่วนประกอบที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือไม่ ตัวแอปพลิเคชั่นใช้ซอฟต์แวร์และเฟรมเวิร์คของบริษัทภายนอกหรือไม่ ตัวแอปพลิเคชั่นใช้การตั้งค่าความปลอดภัยพื้นฐานหรือไม่ หรือใช้การเขียนโปรแกรมที่ไม่ปลอดภัย มีข้อมูลสนามบินที่เข้าถึงได้จากสตอเรจบน public cloud หรือไม่ มีข้อมูลสนามบินที่เข้าถึงได้จากบริการเก็บซอร์สโค้ดสาธารณะหรือไม่ มีข้อมูลสนามบินที่สามารถค้นพบได้ใน dark web หรือเว็บแฮกเกอร์หรือไม่ ผลการตรวจสอบที่น่าสนใจพบว่า 97% ของเว็บไซต์สนามบิน ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล้าสมัย, กว่า 70% ของเว็บไซต์ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานความเป็นส่วนตัว GDPR, และมาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS, แอปพลิเคชั่นสนามบินทั้ง 100% มีการใช้เฟรมเวิร์คของบริษัทภายนอก และมีช่องโหว่อย่างน้อย 2 แห่ง ด้านการเก็บข้อมูลบนคลาวด์, การค้นพบข้อมูลบน dark web พบว่า 66% ของสนามบินสามารถหาข้อมูลพบข้อมูลบน dark web, 87% ของสนามบินมีการรั่วไหลของข้อมูลในที่เก็บโค้ดสาธารณะ (public code repository) ที่มา - ZDnet
YouTube ออกมาตรการ แบนคลิปที่จงใจให้ข้อมูลเลือกตั้งผิด รับมือการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020
sunnywalker
4 February 2020 - 09:45
[ "YouTube" ]
หลังจากทวิตเตอร์เปิดให้ผู้ใช้รายงานบัญชีและโพสต์ที่แนะนำข้อมูลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แบบผิดๆ ล่าสุด YouTube ก็ออกมาตรการแบนวิดีโอที่พยายามชี้นำการเลือกตั้งที่มีข้อมูลผิดด้วย YouTube ระบุว่า จะลบวิดีโอที่ละเมิดกฎแพลตฟอร์มดังนี้ วิดีโอที่ถูกปลอมแปลงในลักษณะที่ทำให้คนดูเข้าใจผิด เช่น deepfake เนื้อหาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลงคะแนน หรือให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับวันลงคะแนนเสียง เนื้อหาที่ผู้บรรยายอ้างสิทธิ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นความจริง YouTube ยังบอกด้วยว่าได้ระงับช่องที่พยายามปลอมตัว ปลอมแปลงประเทศที่สังกัด หรือหรือปกปิดความสัมพันธ์กับรัฐบาล และระงับช่องที่ใช้ระบบอัตโนมัติเพิ่มยอดวิว ยอดไลค์ หรือใช้ระบบอัตโนมัติสร้างคอมเม้นท์ เป็นต้น ที่มา - YouTube
Blizzard ขอโทษแฟนๆ เรื่อง Warcraft III: Reforged แล้ว, เปิดให้คืนเงินได้อัตโนมัติ
mk
4 February 2020 - 09:23
[ "Warcraft", "Blizzard", "Games" ]
ต่อจากข่าว Warcraft III: Reforged โดนวิจารณ์ยับ คุณภาพเกมไม่ดีตามที่โฆษณาไว้ บั๊กเพียบ ในที่สุด Blizzard ก็ออกมาชี้แจงกับแฟนๆ Blizzard ขอโทษแฟนๆ ที่เกมไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ และยืนยันว่า Warcraft III: Reforged เป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของ Blizzard จะออกแพตช์แก้ปัญหาตามมาอีกชุดใหญ่ เริ่มจากแพตช์ชุดแรกที่แก้บั๊กแอนิเมชัน เสียง และ UI รวมถึงกราฟิกในโหมด Classic (กราฟิกเดิม) ที่สีเพี้ยนไปจากเดิมด้วย จากนั้นจะออกแพตช์แก้ปัญหาของระบบออนไลน์ ซึ่งรวมถึงไคลเอนต์เวอร์ชันใหม่สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อ Reforged ด้วย ยืนยันเรื่องคัตซีน ว่าจงใจทำให้คล้ายกับเกมต้นฉบับมากที่สุด โดยปรับปรุงแค่กราฟิกให้ความละเอียดสูงขึ้น และทำแอนิเมชันใหม่เท่านั้น ส่วนประเด็นเรื่องการคืนเงิน มีผู้ที่ซื้อเกมไปแล้วและเล่นไปเยอะพอสมควร รายงานว่าสามารถขอคืนเงินได้อัตโนมัติ (instant refund) ผ่านหน้าเว็บของ Blizzard ซึ่งถือว่าปรับปรุงจากก่อนหน้านี้ ที่ต้องทำเรื่องและรอให้ Blizzard พิจารณาก่อน ที่มา - Blizzard, Kotaku
รัฐ West Virginia เตรียมให้คนพิการโหวตเลือกประธานาธิบดีผ่านสมาร์ทโฟนได้
sunnywalker
4 February 2020 - 08:15
[ "USA", "Election", "Security" ]
ขณะนี้ เข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว โดยรัฐ West Virginia จะเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯที่ให้ผู้พิการโหวตลือกตั้งประธานาธิบดีผ่านสมาร์ทโฟนได้ Jim Justice ผู้ว่าการรัฐ West Virginia สังกัดพรรครีพับลิกัน เตรียมลงนามในกฎหมายที่ให้แต่ละรัฐจัดทำการโหวตเลือกตั้งในรูปแบบออนไลน์ให้ผู้มีสิทธเิ์เลือกตั้งที่เป็นผู้พิการให้สามารถโหวตผ่านมือถือได้ ก่อนหน้านี้ รัฐ West Virginia เคยทดลองใช้การเลือกตั้งออนไลน์มาแล้วในการเลือกครั้งกลางเทอม โดยใช้บริการของบริษัทสตาร์ตอัพ Voatz ซึ่ง Mac Warner เลขาธิการรัฐระบุว่าคราวนี้ก็จะใช้บริการ Voatz หรือแอปอื่นที่คล้ายกันให้เป็นทางเลือกที่ง่ายขึ้น มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการโหวตเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าการลงคะแนนออนไลน์ทุกประเภทจะเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยโดยไม่จำเป็น แต่ Warner ที่สนับสนุนกฎหมายนี้ระบุว่าการโหวตออนไลน์ สามารถให้สิทธิ์ในการโหวตแก่คนพิการที่มีโอกาสยากจะออกไปลงคะแนนเสียง ภาพจาก Shutterstock ที่มา - Engadget
นักวิจัยพบ TeamViewer เก็บรหัสผ่านไว้ใน registry แล้วกู้กลับออกมาได้ ควรระวังการใช้รหัสซ้ำ
lew
4 February 2020 - 07:55
[ "TeamViewer", "Security" ]
whynotsecurity นักวิจัยความปลอดภัยที่ไม่เปิดเผยตัวตนรายงานถึงกระบวนการเก็บรหัสผ่านของโปรแกรม TeamViewer ที่ใช้สำหรับการล็อกอินระยะไกลที่นิยมใช้ในการซัพพอร์ตระบบไอที โดยพบว่ารหัสผ่านของผู้ใช้จะถูกเข้ารหัสแบบ AES-128-CBC ด้วยกุญแจและค่า IV เดียวกันทั้งหมด หากผู้ใช้ตั้งรหัสผ่านซ้ำกันระหว่างเครื่องต่างๆ ก็มีโอกาสที่แฮกเกอร์จะเข้าถึงบางเครื่องและกู้รหัสผ่านกลับออกมาได้ นักวิจัยรายงานว่าเขาพบช่องโหว่นี้หลังจากพบว่าหากสำเนาค่า registry ของ TeamViewer แล้วนำไปวางบนเครื่องอื่นๆ เครื่องเหล่านั้นก็จะมีรหัสผ่านเดียวกัน หลังจากวิเคราะห์จึงพบว่ารหัสผ่านถูกเก็บในรีจิสตรีของระบบ ที่มีหลายค่าที่ถูกเข้ารหัสด้วยกุญแจเดียวกัน ได้แก่ OptionsPasswordAES, SecurityPasswordAES, SecurityPasswordExported, ServerPasswordAES, ProxyPasswordAES, และ LicenseKeyAES ทาง whynotsecurity ระบุว่าแจ้งช่องโหว่นี้ไปยัง TeamViewer ตั้งแต่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้รับอีเมลตอบกลับมาครั้งเดียวว่ากำลังตรวจสอบเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ในรายงานมีทั้งสคริปต์ไพธอนสำหรับถอดรหัสรหัสผ่าน และโมดูล Metasploit ไว้ให้แล้ว ที่มา - whynotsecurity ภาพหน้าจอ TeamViewer
Alphabet ไตรมาส 4/2019 เผยรายได้โฆษณา YouTube ไตรมาสที่ผ่านมา เกือบ 1.5 แสนล้านบาท
arjin
4 February 2020 - 07:28
[ "Alphabet", "YouTube", "Google", "Financial Report" ]
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 รายได้รวม 46,075 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10,671 ล้านดอลลาร์ ไตรมาสนี้ Alphabet ได้เปิดเผยรายได้แยกตามส่วนธุรกิจที่สำคัญของกูเกิลเป็นครั้งแรก จากเดิมที่เรียกรวมเป็นกลุ่มโฆษณากับอื่น ๆ โดยรายได้จากโฆษณาบน YouTube นั้นสูงถึง 4,717 ล้านดอลลาร์ จากรายได้โฆษณารวมของกูเกิล 37,934 ล้านดอลลาร์ สำหรับรายได้ส่วนอื่น รายได้จาก Google Cloud 2,614 ล้านดอลลาร์, กลุ่มธุรกิจอื่นของกูเกิล (ฮาร์ดแวร์, subscription รวมทั้ง YouTube) 5,264 ล้านดอลลาร์ และกลุ่มธุรกิจใหม่ Other Bets 172 ล้านดอลลาร์ Alphabet ยังเปิดเผยตัวเลขผู้สมัครสมาชิก YouTube แบบเสียเงิน โดย YouTube มีผู้สมัครใช้บริการ Premium และ Music Premium รวมกว่า 20 ล้านบัญชี และ YouTube TV มากกว่า 2 ล้านบัญชี ซีอีโอ Sundar Pichai กล่าวว่า การเติบโตและสร้างโอกาสใหม่ของ Alphabet เป็นผลจากการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เชิงลึก ทั้ง AI, Ambient Computing, Cloud Computing ทำให้กูเกิลเติบทั้งจากธุรกิจเสิร์ชและ YouTube ที่มา: Alphabet และ The Verge
อวสานมือถือยี่ห้อ BlackBerry หลัง TCL ประกาศหยุดทำต่อ เพราะหมดสัญญาใช้แบรนด์
mk
4 February 2020 - 07:21
[ "BlackBerry", "TCL", "Mobile" ]
บริษัท BlackBerry เลิกทำสมาร์ทโฟนมาตั้งแต่ปี 2016 โดยขายไลเซนส์แบรนด์ให้บริษัทจีน TCL ผลิตสมาร์ทโฟนยี่ห้อ BlackBerry แทน (TCL ใช้คำว่า BlackBerry Mobile ทำตลาด) ส่วนตัวเองหันไปทำซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยขายตลาดองค์กร ล่าสุด TCL ประกาศว่าไลเซนส์แบรนด์ BlackBerry จะหมดอายุในวันที่ 31 สิงหาคม 2020 ทำให้บริษัทตัดสินใจไม่ต่ออายุและหยุดผลิต ส่วนบริการซัพพอร์ตหลังขายจะยังมีต่อไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2022 บริษัท BlackBerry ออกมาขอบคุณ TCL ที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันมาตลอดหลายปี แต่ยังไม่ได้ให้ข้อมูลว่าจะมีบริษัทอื่นมารับช่วงแบรนด์ BlackBerry ไปทำมือถือต่อหรือไม่ (คาดว่าไม่น่าจะมี และถือเป็นจุดอวสานของมือถือแบรนด์ BlackBerry นั่นเอง) ที่ผ่านมา TCL ออกขายสมาร์ทโฟนยี่ห้อ BlackBerry ประมาณ 4 รุ่นคือ KeyOne, Motion, Key2 และ Key2 LE รุ่นสุดท้ายที่ออกช่วงกลางปี 2018
Facebook แต่งตั้งซีอีโอ Dropbox ร่วมเป็นกรรมการบอร์ดบริษัท
arjin
4 February 2020 - 06:59
[ "Facebook", "Dropbox" ]
Facebook ประกาศแต่งตั้ง Drew Houston ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Dropbox เป็นกรรมการบอร์ดบริหารของบริษัท โดยมีผลทันที จากประกาศนี้ทำให้ปัจจุบัน Facebook มีบอร์ดบริหารรวม 8 คน ได้แก่ Mark Zuckerberg (ซีอีโอ), Peggy Alford (รองประธานอาวุโส PayPal), Marc Andreessen (กองทุน Andreessen Horowitz), Kenneth Chenault (ประธาน General Catalyst), Sheryl Sandberg (ซีโอโอ), Peter Thiel (Founders Fund), Jeffrey Zients (ซีอีโอ Cranemere ) และ Drew Houston Mark Zuckerberg กล่าวว่า Houston เป็นคนที่ความสามารถ เข้าใจว่าเทคโนโลยีเคลื่อนไปอย่างไร ทั้งยังมีวิธีจัดการวัฒนธรรมองค์กรให้สามารถสร้างสินค้าที่ใช้งานได้ดี ที่มา: Facebook
แอปเปิลเสนอมาตรฐาน SMS สำหรับส่งรหัสแบบใช้ครั้งเดียว เปิดทางเติมรหัสอัตโนมัติ
lew
4 February 2020 - 01:38
[ "Apple", "Security" ]
ทีมงาน WebKit ของแอปเปิลเสนอฟอร์แมตมาตรฐานสำหรับการส่ง SMS รหัสแบบใช้ครั้งเดียว (one-time code) ที่เว็บต่างๆ มักใช้ SMS สำหรับการล็อกอินขั้นตอนที่สอง แต่มีข้อจำกัดว่าฟอร์แมตข้อความที่ส่งนั้นไม่ตรงกัน ทำให้เขียนโปรแกรมอ่านได้ยาก แม้แอนดรอยด์ช่วงหลังจะเริ่มคาดเดาตัวรหัสได้ แต่ก็ไม่สามารถอ่านได้ว่าเป็นรหัสผ่านของเว็บใดทำให้ระบบล็อกอินให้บริการอัตโนมัติไม่สมบูรณ์ แนวทางของ WebKit คือเสนอให้บรรทัดสุดท้ายของ SMS ต้องขึ้นต้นด้วย "@" แล้วระบุโดเมนเว็บ จากนั้นใส่เครื่องหมาย "#" แล้วตามด้วยรหัส เช่น สถานะล่าสุดฝั่งกูเกิลก็เห็นด้วยกับการออกมาตรฐานนี้ แต่ฝั่ง Mozilla ยังไม่ได้แสดงความเห็นแต่อย่างใด ที่มา - GitHub: WebKit ภาพโดย relaxhotels
Check Point รายงานช่องโหว่ Azure Stack: เก็บภาพหน้าจอเครื่องโดยไม่ต้องล็อกอิน, รันโค้ดทะลุ sandbox
lew
4 February 2020 - 00:03
[ "Microsoft Azure", "Security" ]
Check Point Research รายงานถึงช่องโหว่ของชุดซอฟต์แวร์ Azure Stack ที่ใช้สร้างคลาวด์ on-premise ของไมโครซอฟท์โดยมีช่องโหว่รันโค้ดที่ร้ายแรงระดับวิกฤติด้วย ช่องโหว่ CVE-2019-1372 เป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติจากการจัดการความจำบัฟเฟอร์ของ Azure Stack ในส่วนของ Azure App Service ที่ใช้รันโค้ดจากผู้ใช้หลายๆ รายบนโครงสร้างร่วมกัน การจัดการหน่วยความจำผิดพลาดทำให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดนอก sandbox และได้สิทธิ์ NT AUTHORITY/SYSTEM ในเครื่อง ส่วนช่องโหว่ CVE-2019-1234 เป็นช่องโหว่ของ DataService ที่เรียกใช้งานได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์อื่นที่ใช้งานในคลาวด์เดียวกัน และสามารถดูภาพ screenshot ของเครื่องอื่นๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ได้ ไมโครซอฟท์ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ทั้งสองไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่มา - DarkReading, Check Point Research
Microsoft Teams ไม่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก สาเหตุจากใบรับรองหมดอายุ
nutmos
3 February 2020 - 23:35
[ "Microsoft Teams", "Microsoft", "Service Outage" ]
ผู้ใช้ Microsoft Teams บริการแชทภาคองค์กรคู่แข่ง Slack จาก Microsoft พบปัญหาไม่สามารถเข้าใช้งานได้ทั่วโลก โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะตัวแอป Microsoft Teams ไม่สามารถเชื่อมต่อไปหาเซิร์ฟเวอร์ผ่าน HTTPS ได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นของ Microsoft Teams นี้ ทาง Microsoft ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการผ่านบัญชี @MSFT365Status ว่าเนื่องจากใบรับรองของบริการ Microsoft Teams หมดอายุ จึงทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ตอนนี้ Microsoft กำลังดีพลอยใบรับรองใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อน Teams จะกลับมาใช้งานได้ อัพเดต: Microsoft แจ้งผ่าน @MSFT365Status ว่าตอนนี้สามารถใช้งานได้แล้ว ที่มา - @MSFT365Status, The Verge
ถ้าไม่ใช้ Avast แล้วใช้แอนตี้ไวรัสตัวไหนดี รวมแอนตี้ไวรัสแนะนำ รอบต้นปี 2020
mk
3 February 2020 - 22:41
[ "Avast", "Antivirus", "Security" ]
จากกรณี Avast ถูกแฉว่านำข้อมูลผู้ใช้ไปขายต่อ สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ใช้ Avast พร้อมเกิดคำถามว่า "ไม่ใช้ Avast แล้วไปใช้แอนตี้ไวรัสตัวไหนดี" (กรณีนี้รวมถึง AVG ที่เป็นบริษัทลูกของ Avast ด้วย) บทความนี้จึงเป็นการสำรวจการจัดอันดับแอนตี้ไวรัสของสื่อต่างประเทศสำนักต่างๆ ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกแอนตี้ไวรัส ที่อาจใช้แทน Avast/AVG ได้ (บทความนี้เน้นเฉพาะแอนตี้ไวรัสบน Windows เพียงอย่างเดียว นับข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020) ภาพจาก Avast PCMag PCMag เป็นนิตยสารคอมพิวเตอร์เก่าแก่ ที่มีการทดสอบแอนตี้ไวรัสมายาวนาน รวมถึงเป็นหนึ่งในสื่อที่ออกมาแฉเรื่อง Avast/AVG ด้วย รุ่นฟรี แนะนำ Kaspersky Security Cloud Free (ได้ Editor's Choice) เพียงตัวเดียว - อ้างอิง รุ่นเสียเงิน มี Editor's Choice ทั้งหมด 4 ตัวคือ McAfee, Kaspersky, Bitdefender, Webroot โดยมี McAfee และ Kaspersky สองตัวที่มีฟีเจอร์ครบทุกประเภท - อ้างอิง หมายเหตุ: PGMag ระบุว่าทราบเรื่อง Kaspersky ถูกโจมตีว่าใกล้ชิดรัฐบาลรัสเซีย แต่มองว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่น่าเชื่อถือ AV-Test AV-Test เป็นสถาบันอิสระด้านความปลอดภัย และมีห้องแล็บที่ทดสอบแอนตี้ไวรัสอย่างเป็นระบบ รุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน แนะนำหลายตัวคือ AhaLab, Avast, AVG, Avira, BullGuard, K7, Kaspersky, Windows Defender, Norton, Viper แต่ตัวที่ได้คะแนนเต็มทุกหมวดมี 3 ตัวคือ BullGuard, Kaspersky, Norton - อ้างอิง รุ่นสำหรับองค์กร แนะนำเพียง 2 ยี่ห้อคือ Kaspersky และ Norton ซึ่งได้คะแนนเต็มทุกหมวดทั้งคู่ - อ้างอิง AV-Comparatives เป็นสถาบันทดสอบด้านซอฟต์แวร์ความปลอดภัยอีกรายหนึ่ง ไม่แยกรุ่นฟรี-เสียเงิน แต่ตัวที่แนะนำมี 5 ตัวคือ Avira, Bitdefender, Symantec, Total Defense, VIPRE - อ้างอิง TechRadar รุ่นฟรี Bitdefender Free Edition ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Avast และ Sophos - อ้างอิง รุ่นเสียเงิน Bitdefender ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Norton และ Webroot - อ้างอิง Tom's Guide รุ่นฟรี Kaspersky ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Bitdefender และ Avast - อ้างอิง รุ่นเสียเงิน Kaspersky ได้คะแนนสูงสุด ตามด้วย Bitdefender และ Norton - อ้างอิง Tom's Guide ยังแนะนำ Malwarebytes ในฐานะเครื่องมือลบมัลแวร์ ที่ใช้งานเมื่อพบว่าติดมัลแวร์แล้ว CNET รุ่นฟรี Microsoft Windows Defender ตามด้วย Bitdefender - อ้างอิง รุ่นเสียเงิน Norton ตามด้วย McAfee, ESET และ Trend Micro - อ้างอิง แนะนำ Malwarebytes ในฐานะเครื่องมือลบมัลแวร์เช่นกัน หมายเหตุ: CNET ตัดชื่อ Kaspersky ออกจากแอนตี้ไวรัสแนะนำ เพราะกังวลเรื่องความเชื่อมโยงกับรัสเซีย และตัด Avast ออกจากข่าวการขายข้อมูล PCWorld รุ่นฟรี แนะนำ Windows Defender หรือถ้าไม่มั่นใจ แนะนำ Bitdefender - อ้างอิง รุ่นเสียเงิน แนะนำ Norton ได้คะแนนรวมสูงสุด และเป็นรายเดียวที่ได้ 4.5/5 ดาว - อ้างอิง สรุป จากชื่อแอนตี้ไวรัสที่แนะนำของสำนักต่างๆ จะเห็นว่า Kaspersky, Bitdefender และ Norton เป็นชื่อที่พบบ่อยที่สุด ส่วนประเด็นที่มาของ Kaspersky ที่อาจเอี่ยวกับรัฐบาลรัสเซีย คงเป็นเรื่องของผู้ใช้แต่ละคนที่ต้องตัดสินใจว่ายังเชื่อมั่นใน Kaspersky หรือไม่ (Bitdefender เป็นบริษัทโรมาเนีย ส่วน Norton เป็นบริษัทอเมริกัน) เชื่อว่าชาว Blognone น่าจะมีประสบการณ์ลองผิดลองถูกกับแอนตี้ไวรัสกันมาพอสมควร ตัวไหนที่ประทับใจ/ไม่ประทับใจอย่างไร มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์ครับ
Google ออกรายงานโครงการ bug bounty ประจำปี 2019 จ่ายเงินให้นักวิจัยทั้งปีรวม 6.5 ล้านดอลลาร์
nutmos
3 February 2020 - 21:58
[ "Google", "Bug Bounty", "Security" ]
Google ออกรายงานโครงการ bug bounty หรือรายงานช่องโหว่รับเงินรางวัลประจำปี ซึ่งโครงการนี้จัดมาตั้งแต่ปลายปี 2010 โดยตลอดระยะเวลา 9 ปีกว่า ๆ Google ได้มอบรางวัลให้นักวิจัยกว่า 21 ล้านดอลลาร์ Google เผยว่า เมื่อปีที่แล้วทั้งปี โครงการนี้จ่ายเงินให้นักวิจัยไปแล้วกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์ กับนักวิจัย 461 คน ทำลายสถิติเดิมของปี 2018 ที่ 3.4 ล้านดอลลาร์กับนักวิจัย 317 คน ในรายงานรอบนี้ Google ได้แบ่งเป็นจำนวนเงินรางวัลใน 4 หมวดผลิตภัณฑ์ใหญ่ ๆ คือ Google Play 8 แสนดอลลาร์, Chrome 1 ล้านดอลลาร์, Android 1.9 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 2.1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วนักวิจัยเลือกบริจาคเงินรางวัลทั้งหมด 507,000 ดอลลาร์ สูงกว่าปีก่อนหน้าราว 5 เท่า โดยจำนวนเงินรางวัลสูงที่สุดที่จ่ายต่อการรายงานช่องโหว่ 1 ครั้งอยู่ที่ 201,000 ดอลลาร์ ที่มา - Google Security Blog VentureBeat ภาพจาก Google
สหประชาชาติโดนแฮ็กระบบแต่ปิดข่าว สาเหตุมาจากไม่ยอมอัพเดตแพตช์ SharePoint
mk
3 February 2020 - 21:53
[ "United Nations", "Hacking", "Security", "SharePoint" ]
มีเอกสารภายในขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) หลุดออกมาทางเว็บไซต์ข่าวด้านสิทธิมนุษยชน The New Humanitarian ว่าระบบเครือข่ายของ UN ในเจนีวาและเวียนนา โดนแฮ็กในช่วงเดือนกรกฎาคม 2019 และมีข้อมูลถูกขโมยออกมาจำนวนหนึ่ง แต่ UN ปิดข่าวเรื่องนี้ไว้ แม้แต่พนักงานของ UN เองก็ไม่ทราบเรื่องนี้ หลังจาก The New Humanitarian รายงานข่าวนี้ โฆษกของ UN ก็ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่บอกว่ายังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ชัด ทำให้ UN ตัดสินใจไม่เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ ในเอกสารที่หลุดออกมาระบุว่าไฟล์ log ถูกแฮ็กเกอร์ลบทิ้งไป และคาดว่ามีข้อมูลประมาณ 400GB ถูกนำออกไปจากเซิร์ฟเวอร์ของ UN ซึ่งข้อมูลที่น่าเป็นกังวลมาจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (The Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights - OHCHR) ซึ่งมีข้อมูลลับของคนที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้หากถูกเผยแพร่ว่าเป็นใครบ้าง แต่แถลงการณ์ของ UN ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลสำคัญถูกแฮ็กไปด้วย ส่วนสาเหตุที่เซิร์ฟเวอร์ของ UN โดนเจาะมาจากช่องโหว่ของ Mirosoft SharePoint ที่ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ให้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 (CVE-2019-0604) แต่เจ้าหน้าที่ของ UN ไม่ยอมติดตั้งแพตช์ตัวนี้ ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถเจาะเข้ามายังเซิร์ฟเวอร์ที่เวียนนาได้ และขยายผลต่อไปยังสำนักงานใหญ่ที่เจนีวาอีกด้วย ที่มา - AP, The Register, Threatpost ภาพจาก @UNGeneva
บริษัทตัวแทนช้อปออนไลน์ในฮ่องกงระบุ ยอดซื้อหน้ากากอนามัยพุ่งสัปดาห์เดียว 7.5 ล้านชิ้น นำเข้าจากไทย, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, เกาหลีใต้
lew
3 February 2020 - 17:57
[ "Hong Kong", "E-commerce" ]
Buyandship บริษัทตัวแทนสั่งสินค้าออนไลน์ในฮ่องกงโพสเฟซบุ๊กขอโทษลูกค้าที่การส่งสินค้าล่าช้ากว่าปกติ โดยระบุว่าเกิดจากยอดสั่งซื้อหน้ากากอนามัยจำนวนมาก โดยสัปดาห์ที่ผ่านมายอดสั่งซื้อหน้ากากอนามัยจากทั่วโลกคิดเป็น 15,000 กล่อง เฉลี่ยแต่ละกล่องมีกล่องหน้ากาก 50 ชิ้นอยู่ 10 กล่อง รวมยอดสั่งซื้อ 7.5 ล้านชิ้นในสัปดาห์เดียว นับเป็นยอดสั่งซื้อที่สูงกว่าเทศกาล Black Friday เสียอีก คลังสินค้าของ Buyandship กำลังทำงานเต็มกำลังโดยเฉพาะคลังในญี่ปุ่นนั้นจัดการสินค้าเกินความสามารถไปแล้ว และบริษัทต้องส่งพนักงานจากฮ่องกงไปช่วย พร้อมกับระบุว่าคลังสินค้าในไทย, เกาหลีใต้, และสหรัฐฯ นั้นก็ตึงตัวเหมือนกัน หน้าเว็บอีคอมเมิร์ชในจีนอย่าง Taobao และ JD.com ล้วนไม่มีหน้ากากอนามัยขายในตอนนี้ บางเว็บเปิดให้สั่งล่วงหน้าเท่านั้น ไปรษณีย์ญี่ปุ่นเองก็ออกมาขออภัยที่การจัดส่งสินค้าไปยังจีน, ฮ่องกง, และมาเก๊าจะล่าช้าในช่วงนี้ ที่มา - Abacus
Google Photos ทดลองบริการรายเดือน ปรินท์รูปที่ดีที่สุดให้ เดือนละ 10 รูป ราคา 250 บาท
sunnywalker
3 February 2020 - 14:41
[ "Google Photos", "Google" ]
Google Photos ทดลองบริการใหม่เป็น subscription รายเดือน ให้กูเกิลปรินท์รูปที่ดีที่สุดของเราให้เดือนละ 10 รูป โดยมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 7.99 ดอลลาร์หรือราว 250 บาท โดยผู้ใช้งานจะได้รูปขนาด 4x6 นิ้ว หรือขนาดโปสการ์ด พิมพ์บนกระดาษด้านมีเส้นขอบ ตัวบริการมี 3 ธีมให้เลือกคือ รูปคนและสัตว์เลี้ยง, รูปวิวทิวทัศน์, รูปรวมๆ ทั้งคน สัตว์เลี้ยงและวิว ตัวรูปจะใส่มาในซองสีน้ำตาล ซึ่งกูเกิลระบุว่ารูปที่ได้สามารถนำไปตกแต่งห้อง หรือส่งต่อเป็นของขวัญให้คนอื่นได้ บริการนี้ยังทดลองเฉพาะผู้ใช้งานบางส่วนในสหรัฐฯ ที่มา - 9to5Google
Google Maps ถูกป่วนด้วยสมาร์ทโฟน 99 เครื่องเคลื่อนที่ไปตามถนน หลอกให้เข้าใจว่าจราจรติดขัด
nismod
3 February 2020 - 14:17
[ "Google Maps", "Google" ]
กลไกการแสดงผลจราจรของ Google Maps คืออ้างอิงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ Google Maps บนท้องถนน ณ ตอนนั้น (อาจรวมถึงสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เครื่องที่ไม่ได้เปิด Google Maps ด้วย) เพื่อคำนวนความหนาแน่นของรถแบบคร่าวๆ บนถนนเส้นหนึ่ง ๆ อย่างไรก็ตามชายคนหนึ่งที่ชื่อ Simon Weckert โพสต์ลงบล็อกตัวเองถึงการปั่น Google Maps ด้วยการนำสมาร์ทโฟน 99 เครื่อง ทุกเครื่องเปิด Google Maps ใส่รถล้อลากขนาดเล็ก เดินไปตามถนน จนทำให้ Google Maps แสดงการจราจรบนถนนเส้นที่เขาผ่านเป็นสีแดง ซึ่งเขาเรียกว่า Google Maps Hacks Simon ไม่ได้โพสต์รายละเอียดถึงเหตุผลหรือแรงจูงใจที่ทำ ว่าต้องการทดสอบอะไรหรือแค่ทำเพื่อความสนุกเท่านั้น ขณะที่ฝั่ง Google ก็ยังไม่มีคำชี้แจงว่ามีวิธีการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคตหรือไม่ ที่มา - SimonWeckert Blog via 9to5Google
Uber ระงับบัญชีผู้ใช้งานในเม็กซิโก 240 ราย หลังพบว่ามีคนขับอาจติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
sunnywalker
3 February 2020 - 14:10
[ "Uber", "Mexico" ]
Uber ประกาศระงับบัญชีผู้ใช้งานในเม็กซิโก 240 ราย เพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่าระบาด หลังทางบริษัทพบว่ามีคนขับ 2 คนให้บริการแก่ผู้โดยสารที่คาดว่ามีเชื้อไวรัสโคโรน่า ทางบริษัทจึงระงับบัญชีอีก 240 คนที่คาดว่าใช้บริการคนขับดังกล่าวด้วย ทาง Uber บอกว่าได้รับข้อมูลเรื่องคนที่อาจติดเชื้อมาจาก Mexico City’s Health Department และได้บอกผู้ใช้งานทั้ง 240 คนด้วยว่าให้ติดต่อหาหมอหรือหน่วยงาน Epidemiological Intelligence and Health Unit (UIES) ของเม็กซิโก เพื่อรายงานอาการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าพบคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในเม็กซิโก ที่มา - Gizmodo
ไปไกลกว่าบล็อคมัลแวร์ Microsoft Edge บล็อคซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ด้วย
mk
3 February 2020 - 13:40
[ "Microsoft Edge", "Browser", "Microsoft" ]
Microsoft Edge เวอร์ชัน Beta เพิ่มตัวเลือกบล็อคการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ (unwanted apps) ซึ่งหมายถึงซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้เป็นมัลแวร์ แต่ทำให้รำคาญ เช่น มีโฆษณาแทรก หรือพวกทูลบาร์ต่างๆ ปัจจุบัน เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chrome หรือ Firefox มีระบบบล็อคการดาวน์โหลดมัลแวร์อยู่แล้ว (โดยใช้ฐานข้อมูล Safe Browser ของกูเกิล) ส่วน Edge เดิมก็มีระบบ SmartScreen Filter ทำงานแบบเดียวกัน แต่เป็นฐานข้อมูลของไมโครซอฟท์เอง ไมโครซอฟท์มีระบบบล็อคซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์อยู่ก่อนแล้ว แต่เดิมทีใช้กับ Windows Defender Advanced Threat Protection เวอร์ชันจ่ายเงินสำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น ล่าสุดคือเริ่มนำมาให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานผ่าน Edge กันแล้ว ที่มา - The Verge
รวมโฆษณาบริษัท Tech ใน Super Bowl ปีนี้ ทั้ง Amazon, Facebook และ Microsoft
arjin
3 February 2020 - 13:31
[ "NFL", "Advertising", "Microsoft", "Amazon", "Facebook", "Hyundai", "Super Bowl" ]
ในการแข่งขัน Super Bowl ครั้งที่ 54 สีสันหนึ่งในช่วงเวลาการถ่ายทอดสดก็คือโฆษณาในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งมีค่าโฆษณาสูงมาก แต่บริษัทขนาดใหญ่ก็ต่างยอมเสียเงินเพื่อนำเสนอโฆษณาใหม่ที่เปิดตัวในการแข่งขันนี้เช่นกัน ซึ่งเมื่อพูดถึงค่าโฆษณาที่แพงมาก บริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่งซึ่งมีงบประมาณสูง ก็ต่างเลือกลงโฆษณาด้วย มาดูกันว่ามีบริษัทใดบ้าง Hyundai โชว์เทคโนโลยีจอดรถอัตโนมัติ Remote Smart Parking Assist ในรถยนต์ Sonato รุ่นปี 2020 โดยเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Smaht Pahk กูเกิล นำเสนอ Google Assistant ในการเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำที่ดีกับคนที่เรารัก (รายละเอียด) ไมโครซอฟท์ เป็นเรื่องราวของ Katie Sowers ผู้ช่วยโค้ชทีมบุก ของทีม San Francisco 49ers (เข้าชิงปีนี้ แต่แพ้ให้กับ Kansas City Chiefs) ซึ่งเป็นโค้ชหญิงคนแรกในเกมการแข่งขันนี้ Amazon ได้ Ellen DeGeneres กับ Portia de Rossi มานำแสดง โดยตั้งคำถามว่าสมัยก่อนที่จะมี Alexa ไว้เป็นผู้ช่วย คนเขาทำอย่างไรกัน Facebook นำเสนอฟีเจอร์ Groups ที่มีกลุ่มหลากหลายความสนใจ ได้ Sylvester Stallone และ Chris Rock ร่วมแสดง ที่มา: TechCrunch
กูเกิลยิงโฆษณา Google Assistant ในงาน Super Bowl ซึ้งจนหลายคนต้องหลั่งน้ำตา
sunnywalker
3 February 2020 - 13:08
[ "Google", "Google Assistant", "Advertisement", "Super Bowl" ]
พื้นที่โฆษณาของงาน Super Bowl เป็นที่จับตามองทุกปีว่าแต่ละแบรนด์จะงัดไม้เด็ดอะไรมาลงโฆษณา ซึ่งโฆษณาของกูเกิล เลือกที่จะขาย Google Assistant ในแง่ผู้ช่วยที่ทำให้เราไม่ลืมความทรงจำดีๆ ของคนที่เรารัก ซึ่งเรียกน้ำตาได้ดีทีเดียว ตัวคลิปเป็นหน้าจอค้นหาของกูเกิล หาวิธีที่จะไม่ลืม เล่าเรื่องโดยชายสูงอายุที่ไม่อยากลืมเรื่องของ Loretta คนรัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น อายุมากความทรงจำเลือนราง หรือมีภาวะอัลไซเมอร์ เขาจึงใช้กูเกิลเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ไม่ลืม ซึ่งกูเกิลก็จะมีข้อมูลรูปภาพเก่าๆ ของเขากับ Loretta ในอดีตเก็บไว้ ชาวเน็ตต่างก็แสดงความเห็นต่างๆ นานา เช่นว่า กูเกิลไม่ควรทำอย่างนี้เลย แทนที่จะได้ดูกีฬาสนุกๆ กลับต้องมาร้องไห้เพราะโฆษณา ที่มา - Mashable
Twitter แบน ZeroHedge แอคเคาน์ด้านการเงินที่มีผู้ติดตามถึง 670,000 คน ฐานปล่อยข่าวไวรัส
lew
3 February 2020 - 12:30
[ "Twitter" ]
ทวิตเตอร์แบนบัญชี @ZeroHedge ฐานปล่อยข่าวลือเชื่อมโยง coronavirus ว่าเป็นอาวุธชีวภาพ โดยเป็นการแบนถาวรหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทวิตเตอร์ออกมาเตือนว่าจะแบนผู้ที่ปล่อยข่าวสือ coronavirus เป็นวงกว้าง บัญชี ZeroHedge มีผู้ติดตามถึง 670,000 รายก่อนจะถูกแบน ที่น่าสนใจคือผู้ร้องเรียนกับทวิตเตอร์คือ BuzzFeed บริษัทสื่อรายใหญ่ โดย BuzzFeed ระบุว่า ZeroHedge ปล่อยข้อมูลส่วนตัวของนักวิทยาศาสตร์ ทั้งอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ พร้อมทั้งข้อความเชิญชวนผู้คนว่าอาจจะควรไป "เยี่ยม" นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ ทวิตเตอร์ระบุว่าบัญชีถูกแบนเพราะขัดต่อนโยบายการชี้นำแพลตฟอร์ม (platform manipulation policy) ที่มา - Reuters
CERN เลิกใช้ Facebook Workplace เพราะบุคคลากรไม่ค่อยใช้กัน เป็นห่วงข้อมูลส่วนตัว
mk
3 February 2020 - 10:04
[ "CERN", "Workplace by Facebook", "Facebook", "Social Network", "Privacy", "Enterprise" ]
CERN หน่วยงานวิจัยนิวเคลียร์ของยุโรป ที่เรารู้จักกันจากโครงการ Large Hadron Collider แต่ก็ยังมีโครงการอื่นอีกมาก (WWW ก็เกิดที่นี่) ประกาศเลิกใช้งาน Facebook Workplace บริการโซเชียลสำหรับลูกค้าองค์กรของ Facebook แล้ว CERN บอกว่าทดลองใช้ Facebook Workplace มาได้สักระยะหนึ่ง เนื่องจาก Facebook เปิดให้ลองใช้ฟรี แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก มีบุคคลากรในเครือข่าย CERN มาเปิดบัญชีประมาณ 1,000 คน และมีผู้ใช้งานจริงๆ (active user) ประมาณ 150 คนต่อสัปดาห์เท่านั้น โดย CERN วิเคราะห์ว่าสาเหตุน่าจะมาความไม่เชื่อมั่นเรื่องความเป็นส่วนตัวข้อมูลที่เก็บไว้บน Facebook เมื่อ Facebook เริ่มเก็บเงินค่าใช้บริการ และหาก CERN เลือกใช้เวอร์ชันฟรีต่อไป ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook แทน ทำให้ CERN ตัดสินใจยกเลิกการใช้งาน Facebook Workplace ทั้งหมด CERN ให้ข้อมูลว่าปัจจุบันใช้งาน Mattermost เป็นระบบแชทภายใน และ Discourse เป็นเว็บบอร์ดแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่ง CERN ใช้เวอร์ชันที่โฮสต์เองทั้งหมด เพื่อการันตีเรื่องการเก็บรักษาข้อมูล ที่มา - CERN, Computerworld ภาพ LHC จาก CERN
หลุดคลิป Galaxy Z Flip มือถือจอพับได้แนวตั้งของซัมซุง มีจอเล็กที่ฝาด้านหน้า
mk
3 February 2020 - 09:35
[ "Galaxy Z Flip", "Samsung Galaxy", "Mobile", "Leak", "Samsung" ]
ใกล้วันแถลงข่าว Samsung Unpacked ในสัปดาห์หน้า (11 ก.พ.) มาเรื่อยๆ ก็มีข้อมูลหลุดตามมาเป็นปกติ ล่าสุดมีคลิปหลุดของมือถือพับได้แนวตั้ง Galaxy Z Flip ออกมา แสดงให้เห็นมือถือที่พับแล้วมีขนาดเกือบเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัสพอดี จากคลิปเราเห็นกล้องหลัง 2 ตัว และกล้องหน้า 1 ตัว ที่ฝาพับด้านหน้ายังมีหน้าจอเล็กๆ อยู่ข้างกล้อง เอาไว้แสดงนาฬิกาและสถานะแบตเตอรี่ด้วย ที่มา - SamMobile
Nokia ขอรับรองโทรศัพท์ระบบปฎิบัติการ GAFP คาดเป็นแอนดรอยด์รุ่นฟีเจอร์โฟน
lew
3 February 2020 - 01:07
[ "Nokia", "Google", "Feature Phone" ]
โนเกียขอรับรองโทรศัพท์ Nokia 400 4G (TA-1208) จาก Wi-Fi Alliance ทำให้มีข้อมูลว่าโนเกียกำลังพัฒนาโทรศัพท์ใหม่ที่ไม่ใช่แอนดรอยด์ แต่เป็นระบบปฎิบัติการ "GAFP" คาดว่า GAFP นี้จะเป็นแอนดรอยด์รุ่นพิเศษที่ปรับให้ทำงานกับฟีเจอร์โฟนได้ โดยก่อนหน้านี้มีวิดีโอหลุดตั้งแต่ปีที่แล้วว่าโนเกียกำลังใช้แอนดรอยด์กับฟีเจอร์โฟน ฟีเจอร์โฟนส่วนมากของโนเกียในช่วงหลังใช้ KaiOS เป็นหลักแต่ฝั่งกูเกิลนั้นก็แสดงความสนใจที่จะบุกตลาดโทรศัพท์ราคาถูกมาโดยตลอดโดยตอนนี้มี Android Go สำหรับโทรศัพท์รุ่นถูกสุดเป็นหลัก ที่มา - Slashgear ภาพ Nokia 2720 Flip ฟีเจอร์โฟนที่ใช้ KaiOS ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
OpenAI ประกาศใช้ PyTorch เป็นหลัก
lew
3 February 2020 - 00:39
[ "OpenAI", "Artificial Intelligence", "PyTorch" ]
OpenAI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่เน้นผลกำไรที่ก่อตั้งในปี 2015 มีผลงานเด่นๆ ต่อเนื่อง ออกมาประกาศว่าจะพยายามพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ใหม่ๆ โดยใช้ PyTorch เป็นไลบรารีมาตรฐานแทนที่จะพิจารณาเป็นรายโครงการเหมือนที่ผ่านมา โครงการเด่นๆ ของ OpenAI ที่ผ่านมา อย่าง GPT-2 ปัญญาประดิษฐ์ทำนายคำที่ใช้สร้างแชตบอตหรือตัวช่วยเขียนโปรแกรมนั้นใช้ Tensorflow ในการพัฒนา ตัวโครงการ PyTorch เป็นเฟรมเวิร์คที่พัฒนาโดยเฟซบุ๊ก ช่วงสองสามปีมานี้เราเริ่มเห็นบริษัทต่างๆ เริ่มเลือกข้างกับเฟรมเวิร์คที่ใช้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น อาจจะเป็นเพราะบริษัทที่ควบคุมกระบวนการพัฒนาเฟรมเวิร์คก็กำหนดทิศทางให้ตรงความต้องการของตนได้ และตัว Tensorflow ก็ถูกควบคุมด้วยกูเกิลอยู่มาก ขณะที่ AWS นั้นเลือกใช้ MXNet ที่มา - OpenAI
แอปเปิลประกาศปิดสำนักงาน, ร้านค้าปลีก, คอลเซ็นเตอร์ ในจีนทั้งหมดป้องกันโรคระบาด
lew
3 February 2020 - 00:17
[ "Apple", "China", "Health" ]
แอปเปิลประกาศปิดสำนักงาน, หน้าร้านค้าปลีก, และศูนย์คอลเซ็นเตอร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด โดยระบุว่าได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคน โดยกำหนดจะปิดถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากก่อนหน้านี้แอปเปิลประกาศปิดร้านค้าปลีก 3 แห่งเพื่อป้องกัน coronavirus ไปก่อนแล้ว ผลกระทบ coronavirus ต่อแอปเปิลค่อนข้างสูงจากการที่บริษัทมีห่วงโซ่อุปทานในจีนจำนวนมาก และบริษัทจำนวนหนึ่งก็ตั้งอยู่ในเมืองอู่ฮั่นจุดศูนย์กลางของการระบาดโรคโดยตรง ที่มา - Reuters ภาพ Tim Cook หน้า Apple Store จากแอปเปิล
ชะตาชีวิตของ Docker Inc. และ Mesosphere ผู้แพ้สงครามให้กับ Kubernetes
mk
2 February 2020 - 16:30
[ "Kubernetes", "Mesosphere", "Docker", "Container", "Enterprise" ]
สงคราม container orchestration จบลงอย่างรวดเร็วด้วยชัยชนะของ Kubernetes ทำให้เราเห็นบริษัทไอทียักษ์ใหญ่เกือบทุกราย หันมาสนับสนุน Kubernetes อย่างเต็มตัว เช่น Red Hat, IBM, NetApp, VMware, Microsoft, HPE ฯลฯ แต่บนชัยชนะของ Kubernetes ก็มีซากของผู้แพ้ บริษัทที่เข้ามาแข่งในตลาดซอฟต์แวร์ orchestration แต่ต้องพ่ายแพ้ไปก็คือ Docker Inc. และ Mesosphere (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น D2iQ) Docker Inc. พ่ายสงครามจนต้องขายธุรกิจไปครึ่งบริษัท ชื่อ Docker ถูกใช้เป็นคำเรียกแทน container อย่างแพร่หลาย และซอฟต์แวร์ Docker เวอร์ชันโอเพนซอร์สก็กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ตัวบริษัท Docker Inc. กลับไม่สามารถกอบโกยเงินจากซอฟต์แวร์ที่ตัวเองสร้างไว้ได้ บริษัท Docker Inc. พยายามต่อยอดตลาด container ด้วยซอฟต์แวร์จัดการคลัสเตอร์ Docker Swarm ที่ได้รับคำชมว่าใช้ง่ายกว่า แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี จนทำให้บริษัท Docker ต้องยอมซัพพอร์ต Kubernetes ควบคู่ไปกับ Swarm อย่างไรก็ตาม ตัวบริษัท Docker Inc. ก็ไปไม่รอดในตลาดซอฟต์แวร์จัดการคลัสเตอร์ จนต้องยอมขายธุรกิจ Docker Enterprise ทิ้งให้กับ Mirantis เหลือแต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนเนอร์ (Docker Desktop และ Docker Hub) เพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน Docker Swarm อยู่ภายใต้การดูแลของ Mirantis และยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับการพัฒนาต่อหรือไม่ Mesosphere เปลี่ยนชื่อบริษัทหนี บริษัท Mesosphere ก่อตั้งในปี 2013 โดย Benjamin Hindman ผู้ริเริ่มสร้างซอฟต์แวร์ Apache Mesos สมัยเป็นนักเรียนปริญญาเอกในปี 2009 (ก่อน Docker ที่สร้างในปี 2010 ด้วยซ้ำ) เทคโนโลยี Apache Mesos ไม่เหมือน Docker/Kubernetes ซะทีเดียว (แต่มุ่งแก้ปัญหาเดียวกัน) บริษัท Mesosphere นำ Apache Mesos และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องมาพัฒนาต่อในเชิงพาณิชย์ ใช้ชื่อว่า Datacenter Operating System (DC/OS) โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากไมโครซอฟท์และ HPE ด้วย ซอฟต์แวร์ในชุด DC/OS ที่เทียบเคียงได้กับ Kubernetes และ Docker Swarm คือ Marathon แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเช่นกัน ทางออกของบริษัท Mesosphere จึงไม่มีทางอื่น นอกจากการยอมซัพพอร์ต Kubernetes ตามความต้องการของตลาดด้วย แต่เมื่อตัวบริษัทใช้ชื่อว่า Mesosphere ทุกคนย่อมเข้าใจว่ามีแต่ Apache Mesos ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่ว่า D2iQ และมีผลิตภัณฑ์ 2 ขาคือ Mesosphere เดิม (Apache Mesos) และ Ksphere ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่สำหรับ Kubernetes เวอร์ชันของตัวเอง ส่วน Apache Mesos ยังพอมีที่ทางของตัวเองอยู่บ้าง ในงานสาย big data (เช่น Apache Spark หรือ Hadoop) ที่ไม่ได้รันแบบอิมเมจ อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก Data Center Knowledge
แอปเปิลเริ่มให้บริการซ่อมแบบ onsite ในบางเมืองของสหรัฐ
nismod
2 February 2020 - 14:26
[ "Apple", "USA" ]
การซ่อมอุปกรณ์แอปเปิลอย่าง iMac หรือ Mac Pro น่าจะมีปัญหาหลัก ๆ อยู่ที่การยกตัวเครื่องขนาดใหญ่ไปถึง Apple Store ทว่า MacRumors รายงานว่าในหน้า Apple Support ในบางเมือง มีตัวเลือกให้บริการตรวจเช็คและซ่อมอุปกรณ์ถึงบ้าน (onsite) ด้วย การบริการ onsite ของแอปเปิลเป็นบริการผ่านพาร์ทเนอร์ที่ชื่อ Go Tech Services (แอปเปิลไม่ได้ส่งคนของตัวเองไปโดยตรง) และจะมีให้บริการเฉพาะบางเมืองเท่านั้น และจะมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาแอปเปิลบริการ onsite เฉพาะลูกค้าองค์กรอย่างเดียวเท่านั้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ขยายมาให้บริการลูกค้าทั่วไปด้วย ที่มา - MacRumors ภาพจาก Shutterstock
[อัพเดต] WeWork แต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ มีประสบการณ์ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์กว่า 8 ปี
nismod
2 February 2020 - 14:13
[ "WeWork", "Rumour", "SoftBank" ]
Wall Street Journal รายงานว่า WeWork เตรียมแต่งตั้ง Sandeep Mathrani เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่ แทนที่ Artie Minson และ Sebastian Gunningham ที่ตอนนี้เป็นซีอีโอร่วมกันอยู่ Mathrani ตอนนี้เป็นซีอีโอของ Brookfield Property Partners ก่อนหน้านั้นก็เป็นซีอีโอของ General Growth Properties ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ด้วยกันทั้งคู่ (General Growth Properties ถูก Brookfield ควบไปและตั้งให้ Mathrani นั่งซีอีโอ) เป็นระยะเวลารวมกันกว่า 8 ปี เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอสังหาเชิงพาณิชย์มานาน Wall Street Journal ระบุว่า Mathrani จะขึ้นตรงกับ Marcelo Claure ซีโอโอของ SoftBank และประธานบริหารของ We Co. และน่าจะเริ่มงานวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนว่า SoftBank ต้องการปรับภาพลักษณ์และทิศทางของ WeWork จากบริษัทสตาร์ทอัพเทค (ที่ไม่มีเทค) มาเป็นบริษัทอสังหาเต็มตัว ที่มา - WSJ อัพเดต ล่าสุด WeWork ประกาศแต่งตั้ง Sandeep Mathrani เป็นซีอีโออย่างเป็นทางการแล้วและจะเริ่มงานวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ - WeWork Newsroom *Sandeep Mathrani จาก Brookfield *
Mozilla เปิดตัว Hello WebXR เว็บไซต์รวมกิจกรรมสำหรับสวมแว่น VR เข้าไปทดลองเล่น
sunnywalker
2 February 2020 - 12:47
[ "Mozilla", "Virtual Reality", "Oculus" ]
Mozilla เปิดตัว Hello WebXR ช่องทางรวมกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเล่นโดยใช้แว่น VR ไม่ว่าจะเป็นเข้าดูสถานที่จริง สิ่งแวดล้อมจริงของสถานที่ใดที่หนึ่ง ชมงานศิลปะ เล่นดนตรี วาดรูป โดยใช้เคอเซอร์ควบคุมกิจกรรม Hello WebXR สามารถเปิดได้ในหลากหลายบราวเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Oculus Browser บน Oculus Quest หรือ Google Chrome บน Oculus Rift รวมถึง Firefox Reality ของ Mozilla เองด้วย เมื่อผู้ใช้งานเข้าไปในเว็บไซต์ (สามารถเข้าบนบราวเซอร์ปกติได้ด้วย ไม่ต้องสวมแว่น) จะเห็นห้องใหญ่ที่รวมเอาหลากหลายกิจกรรม เช่นใช้สเปรย์วาดรูปบนกำแพงขาว กดที่ลูกบอลกลมๆ เพื่อให้ระบบนำเราเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมจริงในอีกสถานที่หนึ่ง เล่นเครื่องดนตรีไซโลโฟน (คล้ายระนาด) เป็นต้น Mozilla ระบุว่าในอนาคตจะมีโปรโตไทป์ให้เล่นอีกเยอะ ตอนนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการหากรณีศึกษาและกิจกรรมใหม่ๆ ของการใช้ VR ที่มา - Mozilla
ยอดขายสมาร์ทโฟนปี 2019 Huawei ขึ้นเบอร์สองโลก โต 17%, แอปเปิลยอดขายตก 7%
mk
2 February 2020 - 11:47
[ "Canalys", "Huawei", "Apple", "Market Share" ]
บริษัทวิจัยตลาด Canalys ประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนตลอดปี 2019 ผลคือ Huawei สามารถแซงแอปเปิลขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลกได้สำเร็จ ซัมซุงยังครองแชมป์ที่ส่วนแบ่งตลาด 21.8% (เพิ่มขึ้นจากปี 2018 เล็กน้อย) ยอดขาย 298.2 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 2% Huawei ผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์สองที่ส่วนแบ่ง 17.6% ยอดขาย 240.6 ล้านเครื่อง เติบโต 17% มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด แอปเปิลตกมาอยู่อันดับสาม ส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 14.5% และยอดขายก็ลดลงเหลือ 198 ล้านเครื่อง ลดลง 7% จากปีก่อน แถมแอปเปิลยังเป็นผู้เล่นรายเดียวในกลุ่ม Top 5 ที่ยอดขายลดลงด้วย แต่ถ้าดูสถิติเฉพาะไตรมาส 4/2019 แอปเปิลกลับมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งด้วยพลัง iPhone 11 ในขณะที่ยอดขายไตรมาส 4/2019 ของ Huawei กลับลดลง 7% จากการถูกสหรัฐอเมริกาแบน อันดับสี่ Xiaomi ส่วนแบ่งตลาด 9.2% เติบโต 4% และอันดับห้า Oppo ส่วนแบ่งตลาด 8.8% เติบโต 4% เท่ากัน ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนปี 2019 ขายได้ 1,366.7 ล้านเครื่อง ลดลง 2% จากปี 2018 ที่มา - Canalys
รัฐสภายุโรปลงมติท่วมท้น เห็นชอบแนวทางสายชาร์จมาตรฐาน ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
mk
2 February 2020 - 00:00
[ "Europe", "European Commission", "EU", "Standard" ]
ต่อจากข่าว ยุโรปเตรียมเสนอใช้พอร์ต USB-C เป็นสายชาร์จมาตรฐาน เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา รัฐสภายุโรป (European Parliament) ได้ลงมติโหวตให้คณะกรรมการยุโรป (European Commission) เดินหน้าผลักดันให้เกิดมาตรฐานสายชาร์จ ด้วยคะแนนเห็นด้วย 582 เสียง, ไม่เห็นด้วย 40 เสียง, งดออกเสียง 37 มติของรัฐสภาระบุให้คณะกรรมการยุโรป ออกคำสั่งบังคับใช้เรื่องนี้ภายในเดือนกรกฎาคม 2020 และนอกจากเรื่องมาตรฐานสายชาร์จ รัฐสภายังเรียกร้องให้คณะกรรมการยุโรปผลักดันเรื่อง มาตรฐานการชาร์จไร้สาย ให้อุปกรณ์ต่างยี่ห้อใช้งานข้ามกันได้ หาวิธีเพิ่มจำนวนสายชาร์จที่นำไปรีไซเคิล หาวิธีให้ผู้บริโภคไม่ถูกบังคับซื้อสายชาร์จพร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีสายชาร์จมาตรฐานแล้ว ผู้บริโภคควรมีสิทธิซื้อแยกเฉพาะตัวอุปกรณ์ เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่มา - European Parliament ภาพจาก Apple
[IDC] ตลาดแท็บเล็ตปี 2019 ลดลง 1.5%, iPad ยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 แบบทิ้งห่าง
arjin
1 February 2020 - 23:55
[ "IDC", "Apple", "iPad", "Tablet", "Market Research" ]
บริษัทวิจัยตลาด IDC รายงานภาพรวมของตลาดแท็บเล็ตประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 จำนวนส่งมอบรวมลดลง 0.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 43.5 ล้านเครื่อง หากดูตัวเลขตลอดปี 2019 อยู่ที่ 144 ล้านเครื่อง ลดลง 1.5% แอปเปิลยังคงครองส่วนแบ่งมากที่สุดถึง 36.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 29.6% ด้วยจำนวน 15.9 ล้านเครื่อง ตามด้วยอันดับ 2 คือซัมซุง (16.1%) ส่วนอันดับ 3 หัวเหว่ย (9.1%) อันดับ 4 คือ Amazon และอันดับ 5 Lenovo ที่น่าสนใจคือตลาดแท็บเล็ตนั้นมีการกระจายแบรนด์อยู่มาก โดยอันดับที่เหลือคิดเป็นส่วนแบ่งรวมถึง 25.7% ที่มา: IDC
ทวิตเตอร์ปรับรูปแบบแสดงการตอบทวีตใหม่ ช่วยให้ติดตามทวีตที่ตอบได้ง่ายขึ้น
nutmos
1 February 2020 - 23:37
[ "Twitter" ]
ทวิตเตอร์ปรับรูปแบบแสดงการตอบทวีตใหม่อีกครั้งบน iOS หลังจากทดสอบผ่านแอปเบต้า Twttr มาสักระยะหนึ่ง โดยเลย์เอาท์แบบใหม่นี้จะดูเป็น thread ที่แยกระหว่างทวีตต้นทางกับทวีตที่ตอบชัดเจนขึ้น ปัจจุบัน รูปแบบที่ทวิตเตอร์แสดงสำหรับการตอบทวีตในหน้าโฮม จะเป็นเส้นและเรียงทวีตเพียงแนวเดียว ซึ่งรอบนี้ทวิตเตอร์ได้ปรับให้ทวีตที่ตอบมีขนาดเล็กกว่าต้นฉบับ ปรับย่อหน้า และลากด้วยเส้นให้ดูเป็นการตอบแบบ thread มากขึ้น โดยจะแสดงเฉพาะคนที่เราติดตามเท่านั้น ทวิตเตอร์ระบุว่าเลย์เอาท์แบบใหม่นี้จะช่วยให้เห็นการตอบทวีตและติดตามทวีตได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งตอนนี้เลย์เอาท์การตอบทวีตรูปแบบใหม่ยังเปิดใช้เฉพาะ iOS ส่วน Android จะตามมาทีหลัง ที่มา - Engadget ภาพจากทวิตเตอร์
แอพ Your Phone ของ Windows 10 เริ่มปล่อยฟีเจอร์รับสายเข้า-โทรออกจากสมาร์ทโฟน Android ให้ผู้ใช้ทั่วไปแล้ว
Job_The_Gamer
1 February 2020 - 22:31
[ "Phone Link", "Android", "Windows 10", "Microsoft" ]
หลังจากที่ได้เปิดให้สมาชิก Windows Insider ได้ทดสอบ Calls ฟีเจอร์นำสายเข้า-โทรออกจากสมาร์ทโฟน Android มาคุยในแอพ Your Phone บนพีซีมาได้ระยะหนึ่ง เมื่อต้นสัปดาห์ไมโครซอฟท์ก็เริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ดังกล่าวให้ผู้ใช้ Windows 10 ทั่วไปได้ใช้งานแล้ว และแม้ว่าเรื่องนึ้จะยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางบริษัทเอง แต่เว็บข่าวสายไมโครซอฟท์อย่าง MSPoweruser และ Windows Central ก็ได้รายงานข่าวนี้ตรงกัน (ส่วนตัวผู้เขียนข่าวเองก็เพิ่งได้รับอัพเดตฟีเจอร์นี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเช่นกัน) ทั้งนี้การโทรศัพท์บนแอพ Your Phone ทำงานในลักษณะเดียวกันกับการโทรผ่านบลูทูธบนเครื่องเสียงรถยนต์ การเชื่อมต่อบลูทูธระหว่างสมาร์ทโฟนกับพีซีจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงแค่นั้นฟีเจอร์ Calls ยังต้องการพีซีที่ใช้ Windows 10 เวอร์ชัน 1903 ขึ้นไป ส่วนตัวสมาร์ทโฟนต้องใช้ Android 7.0 ขึ้นไปครับ ที่มา - Windows Central
[แก้ไขแล้ว] แอป SCB Easy ล่มรับต้นเดือน เว็บและตู้เอทีเอ็มยังใช้งานได้
lew
1 February 2020 - 20:28
[ "SCB", "Availability" ]
update: @scb_thailand แจ้งว่าปัญหาแก้ไขเรียบร้อยแล้วเมื่อเวลา 3 ทุ่ม 12 นาที ผู้ใช้แอป SCB Easy รายงานปัญหาแอปล่ม ตั้งแต่ช่วงเวลา 1 ทุ่ม 36 นาที ล่าสุดทางธนาคารออกมาตอบรับว่ารับทราบปัญหาแล้ว และแนะนำว่าให้ใช้ช่องทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นเว็บ SCB Easy หรือตู้เอทีเอ็ม แอป SCB Easy เป็นแอปธนาคารที่ค่อนข้างเสถียรมาตลอดปี 2019 ยกเว้นช่วงท้ายปีที่มีการย้ายไปใช้ AWS Elastic Load Balancing (ELB) จนทำให้สถิติแอปล่มมีระยะเวลาสูงสุดในไตรมาสที่สี่ ที่มา - Facebook: SCB Thailand
Warcraft III: Reforged โดนวิจารณ์ยับ คุณภาพเกมไม่ดีตามที่โฆษณาไว้ บั๊กเพียบ
mk
1 February 2020 - 16:50
[ "Warcraft", "Blizzard", "Games" ]
Warcraft III: Reforged เวอร์ชันรีมาสเตอร์เพิ่งวางจำหน่าย แต่ก็มีประเด็นวิจารณ์มากมาย นอกจากประเด็นสิทธิการเป็นเจ้าของเกมแบบคัสตอม ที่ถกเถียงกันอย่างมาก ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกหลายอย่าง ประเด็นสำคัญที่สุดคือ กราฟิกที่ลงทุนยกเครื่องใหม่เพื่อเป็นจุดขาย ในเกมเวอร์ชันที่วางขายจริงกลับทำไม่ได้ตามที่โม้ไว้ตอนโชว์ครั้งแรกในงาน BlizzCon 2018 ที่ดูอลังการกว่ามาก จุดที่เป็นประเด็นสำคัญคือคัตซีน ตัวโชว์มีมุมกล้องเหมือนภาพยนตร์ แต่ของจริงถูกถอยกลับมาเป็นมุมสูงอย่างเดียว ตรงนี้ Blizzard ให้เหตุผลว่า "ต้องการเคารพต้นฉบับ" Blizzard ยังเคยโฆษณาไว้ว่าจะยกเครื่อง UI ของเกม (ที่ล้าสมัยแล้วเพราะออกแบบมาตั้งแต่ปี 2002) และโชว์ในเวอร์ชันเดโมด้วย แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ทำออกมาในเวอร์ชันจริง โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Blizzard ประกาศ "ปลดเกษียณ" ตัวไคลเอนต์ของ Warcraft III เวอร์ชันต้นฉบับ (ขนาด 1.3GB) เพื่อให้ใช้ไคลเอนต์ของ Warcraft III: Reforged (ขนาด 26GB) แทน แปลว่าคนที่ซื้อ Warcraft III เวอร์ชันต้นฉบับ แต่ไม่ได้ซื้อเวอร์ชัน Reforged ต้องดาวน์โหลดไคลเอนต์ตัวใหม่มาเพื่อเล่นออนไลน์อยู่ดี นอกจากนี้ยังมีประเด็นยิบย่อยอื่นๆ ที่เกิดจากบั๊กหรือความไม่พร้อมของเกม (เช่น ตัวละคร NPC ไม่มีเงา แต่ตัวละครหลักที่ควบคุมได้มีเงา) ทำให้ Reforged ไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น และหลายอย่างด้อยลงด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับเกมเวอร์ชันต้นฉบับ Blizzard ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ในเรื่องนี้ แต่แฟนๆ ใน Reddit เปลี่ยนชื่อเกมเป็น Warcraft III: Refunded กันไปเรียบร้อยแล้ว ที่มา - Ars Technica, VentureBeat
Sony เผยยอดขายเกม PS4 รวมทั้งหมด 1.18 พันล้านชุด
mk
1 February 2020 - 14:03
[ "PS4", "PlayStation", "Games", "Sony" ]
Sony Interactive Entertainment (SIE) ประกาศตัวเลขยอดขายซอฟต์แวร์ของ PS4 นับถึงวันที่ 31 มกราคม 2020 ที่ 1,181 ล้านชุด (เป็นการบวกยอดขายส่ง sell-through ที่ขายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และยอดขายแบบดิจิทัลผ่าน PS Store โดยไม่นับรวม DLC หรือคอนเทนต์เสริม) ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 924 ล้านชุดที่ประกาศเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2019 หรือเพิ่มขึ้นมา 257 ล้านชุดในรอบ 1 ปี PS4 กลายเป็นคอนโซลเครื่องที่สอง ที่มียอดขายซอฟต์แวร์เกิน 1 พันล้านชุด ส่วนแชมป์อันดับหนึ่งตลอดกาลคือ PS2 ทำไว้ที่ 1.53 พันล้านชุด ซึ่งมีโอกาสน้อยที่ PS4 จะสามารถแซงได้ทัน ส่วนตัวเลขยอดขายฮาร์ดแวร์ PS4 เมื่อต้นเดือนมกราคม 2020 ประกาศไว้ที่ 106 ล้านเครื่อง ส่วน PS2 ทำไว้ที่ประมาณ 155 ล้านเครื่อง (เฉลี่ยแล้ว 1 เครื่องซื้อประมาณ 10 เกมพอๆ กัน) ที่มา - SIE, DualShockers
Byte (Vine ในอดีต) เล่นใหญ่ ทดลองแบ่งรายได้โฆษณาให้อินฟลูเอนเซอร์ทั้งหมด
sunnywalker
1 February 2020 - 12:30
[ "Byte", "Vine" ]
Vine แอปวิดีโอสั้นในอดีตกลับมาอีกครั้งในชื่อใหม่ Byte เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลดไป ซึ่งไม่ง่ายเลยเมื่อในตลาดโซเชียลมีเดียแบบวิดีโอสั้น มี TikTok และ Instagram Stories ครองอยู่แล้ว ดังนั้น Byte จึงเลือกที่จะใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการดึงดูดคนดูเข้ามาใช้แอปมากขึ้น ทาง Byte ออกแนวทางสำหรับ Partner Program ระบุว่าจะจ่ายเงินครีเอเตอร์ที่เข้ามาทำคลิปใน Byte ยิ่งมีคนดูเยอะ ยิ่งได้เงินมาก โดยเงินก็มาจากรายได้โฆษณานั่นเอง โดยในช่วงแรกของการมดลอง Byte จะนำเงินโฆษณามาจ่ายให้อินฟลูเอนเซอร์แบบ 100% อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงโครงการทดลองเท่านั้น และเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์ที่ Byte เชิญเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้ เริ่มต้นที่สหรัฐฯ ก่อน ทาง Byte ระบุว่า โฆษณาจะไม่ปรากฏตอนเริ่มต้นคลิป กลางคลิป แม้เงินที่แบ่งให้อินฟลูเอนเซอร์จะมาจากโฆษณาก็ตาม ทางระบบจะคำนวณรายได้ให้ครีเอเตอร์ผ่าน Viewership Brackets และจะได้รับเงินเป็นงวดละ 30 วัน คำนวณจากโพสต์ที่ครีเอเตอร์สร้างในช่วงระยะเวลา 30 วันนั้น ที่มา - The Verge, Byte
Apple และ Broadcom ถูกศาลตัดสิน จ่ายค่าเสียหายกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ฐานละเมิดสิทธิบัตร Wi-Fi
arjin
1 February 2020 - 11:47
[ "Apple", "Broadcom", "Lawsuits", "Patent" ]
ศาลแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินคดีที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology - CalTech) ฟ้องแอปเปิลและ Broadcom ฐานละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยี Wi-Fi โดยให้ CalTech เป็นฝ่ายชนะ และแอปเปิลกับ Broadcom ต้องจ่ายค่าเสียหายรวม 1,100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 34,000 ล้านบาท คดีดังกล่าวมีการยื่นฟ้องตั้งแต่ปี 2016 โดยมีผลกับสินค้าแอปเปิลที่ใช้ชิปของ Broadcom ทั้งนี้แอปเปิลจะต้องจ่ายค่าเสียหาย 837.8 ล้านดอลลาร์ ส่วน Broadcom จ่ายค่าเสียหาย 270.2 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามทั้งสองบริษัทระบุว่าจะมีการอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป ที่มา: TechCrunch
Google Kubernetes Engine (GKE) รองรับคอนเทนเนอร์ Windows Server แล้ว
mk
1 February 2020 - 11:09
[ "Kubernetes", "Google Cloud", "Windows Server", "Container", "Google" ]
Google Kubernetes Engine (GKE) บริการ Kubernetes ของ Google Cloud Platform (GCP) ประกาศรองรับโหนดที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Server ในคอนเทนเนอร์แล้ว ตัวซอฟต์แวร์ Kubernetes เวอร์ชันต้นน้ำเริ่มรองรับ Windows มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 ทำให้ดิสโทร Kubernetes รวมถึงคลาวด์ยี่ห้อต่างๆ ทยอยซัพพอร์ตคอนเทนเนอร์ Windows กัน ข้อดีของการรันคอนเทนอร์ Windows คือสามารถรันงานทั้ง Linux และ Windows ในคลัสเตอร์เดียวกันได้ (ตามภาพ) เหมาะสำหรับองค์กรที่อาจมีแอพพลิเคชันเก่าๆ ต้องรันบน Windows Server แต่ก็อยากย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีขึ้นมาอยู่บนระบบคลัสเตอร์ ผู้เล่นรายใหญ่ของวงการคลาวด์อย่าง Amazon EKS รองรับ Windows ไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019, Azure AKS รองรับแบบพรีวิวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 ล่าสุดเป็น GKE ที่มาช้ากว่าใครเพื่อน โดยประกาศรองรับแบบเบต้า ที่มา - Google
ผู้เล่น Stadia โวยกูเกิล ประกาศเกมใหม่ช้า, ฟีเจอร์ไม่ครบตามที่สัญญาไว้
mk
1 February 2020 - 10:55
[ "Stadia", "Google", "Games" ]
Google Stadia เปิดตัวไม่สวยงามเท่าไรนัก ทั้งในแง่ฟีเจอร์ที่ยังมีไม่ครบตามที่โฆษณาไว้ตอนแรก (นับถึงปัจจุบันยังรองรับเฉพาะมือถือ Pixel, ยังไม่รองรับ 4K บนเบราว์เซอร์) และจำนวนเกมที่ยังมีให้เล่นน้อย Stadia ยังมีเวอร์ชัน Pro ที่คิดค่าสมาชิกรายเดือน แลกกับการมีเกมฟรีมาให้เล่นต่อเนื่อง แต่หลังจากช่วงเปิดตัวผ่านมาแล้วเป็นเดือน กูเกิลกลับยังไม่ประกาศเกมฟรีเพิ่มให้อย่างที่สัญญาไว้ (หมายเหตุ: กูเกิลเพิ่งประกาศ Gylt และ Metro Exodus สองเกมบน Stadia Pro เปิดให้เล่นวันนี้ 1 ก.พ.) นอกจากนี้ กูเกิลยังเคยโฆษณาไว้ว่า Stadia จะมีเกมให้เล่น 120 เกมในปี 2020 แต่ก็เงียบหายไปอีกเช่นกัน ทำให้ลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อ Stadia ช่วงเปิดตัว (ได้สมาชิก Pro นาน 3 เดือน) เริ่มไม่พอใจ และออกมาบ่นกันในกระทู้ Reddit ล่าสุดโฆษกของกูเกิลแจ้งกับ GameIndustry.biz ว่าเวลาการเปิดตัวเกมบน Stadia แต่ละเกม ขึ้นกับผู้จัดจำหน่ายเกมแต่ละราย กูเกิลมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนด้านการตลาดเท่านั้น เว้นแต่เกมที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟของ Stadia ที่กูเกิลมีอำนาจตัดสินใจว่าจะเปิดตัวเมื่อไร ส่วนฟีเจอร์หลายอย่างที่ขาดไป เช่น การรองรับ 4K บนเบราว์เซอร์, การรองรับสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่น, การเชื่อมต่อกับ Assistant จะตามมาในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2020 ถ้านับจนถึงปัจจุบัน Stadia Pro มีเกมฟรีให้เล่นแล้ว 7 เกม (ต้องกดรับสิทธิให้ทันในเวลาที่กำหนดด้วย แบบเดียวกับ PlayStation Plus) ซึ่งยังถือว่าไม่เยอะนัก และอาจทำให้ลูกค้าที่ซื้อชุดจอย Stadia ตอนเปิดตัว เลือกจะไม่ต่ออายุสมาชิก Stadia Pro เมื่อครบช่วง 3 เดือนในเดือนหน้า ที่มา - Reddit, GameIndustry.biz
ลดข่าวลือ Weibo ประกาศเร่งยืนยันตัวตนผู้ใช้ในอู่ฮั่น
lew
31 January 2020 - 19:26
[ "Sina Weibo", "China" ]
Weibo ประกาศเร่งกระบวนการยืนยันตัวตนผู้ใช้จากเมืองอู่ฮั่นหลังทางการจีนปิดไม่ให้คนเข้าออก ส่งผลให้มีข่าวสารออกมาจำนวนมาก แต่หลายครั้งก็ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือโกหก โดยล่าสุด Weibo ได้ยืนยันบัญชีไป 131 บัญชี ได้รับเครื่องหมาย V เพื่อแสดงว่าเป็นตัวตนจริง ใน 131 บัญชีนี้เป็นของแพทย์และพยาบาลในพื้นที่ 1 ใน 3 ที่เหลือเป็นผู้อยู่อาศัยในเมือง หรือผู้ที่มีญาติอยู่ในเมือง โดยตอนนี้ Weibo สนับสนุนให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดด้วยข้อมูลจริง ข้อความที่ผู้ใช้ Weibo รายงานออกมา เช่นผู้อาศัยในเมืองรายงานว่าพ่อป่วยแต่กลับไม่มีโรงพยาบาลรับรักษา หรือผู้ใช้รายงานว่าร้านค้าไม่มีของขาย ทาง Abacus สำนักข่าวในฮ่องกงสังเกตพบว่าทางการจีนผ่อนปรนต่อการเซ็นเซอร์ข่าวมากขึ้นในช่วงนี้ เสียงบ่นว่ารัฐบาลถูกปล่อยให้โพสได้ ยกเว้นข่าวอ่อนไหวบางส่วนเท่านั้น ที่มา - Abacus ภาพถนนในจีนจาก Pixabay
[ข่าวลือ] อินเทลแก้ซีพียูขาดตลาด จ้าง GlobalFoundries อดีตบริษัทลูก AMD ช่วยผลิต
mk
31 January 2020 - 17:02
[ "Intel", "GlobalFoundries", "Rumor" ]
เว็บไซต์ Wccftech อ้างข่าวลือจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวว่า อินเทลเตรียมแก้ปัญหาซีพียูขาดตลาด ด้วยการจ้างบริษัทอื่นช่วยผลิตให้ และบริษัทที่ว่านี้คือ GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานของ AMD (ปัจจุบันแยกขาดเป็นอิสระจากกันแล้ว และ AMD ใช้โรงงาน TSMC) ส่วนสาเหตุที่อินเทลเลือก GlobalFoundries ก็อาจดูมีเหตุมีผล เพราะโรงงาน GlobalFoundries ยังติดอยู่ที่ 14 นาโนเมตร เหมือนกับอินเทล (ที่เพิ่งเริ่มทำ 10 นาโนเมตรได้แค่บางส่วน) จึงเหมาะกับการจ้างผลิตซีพียูรุ่นต่ำๆ อย่าง Celeron หรือ Pentium ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตรุ่นใหม่ล่าสุด ในอดีต Wccftech เคยให้ข้อมูลผิดมาหลายครั้ง และรอบนี้ Wccftech เองก็ออกตัวว่าไม่สามารถยืนยันข่าวนี้จากแหล่งข่าวสายอื่นของตัวเองได้ จึงต้องฟังหูไว้หูกันหน่อยครับ ที่มา - Wccftech, ภาพจาก Globalfoundries
Firefox และ Chrome แบนส่วนขยายจำนวนมาก ที่มีพฤติกรรมประสงค์ร้ายต่อผู้ใช้
mk
31 January 2020 - 16:50
[ "Firefox", "Chrome", "Browser", "Extension" ]
Mozilla และ Google ในฐานะสองผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายใหญ่ แบนส่วนขยาย (extension) จำนวนมากที่อาจสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ Mozilla แบนส่วนขยายของ Firefox ไปเกือบ 200 ตัวด้วยเหตุผลต่างกันไป แต่ส่วนขยายจำนวน 129 ตัวมาจากบริษัทเดียวกันชื่อ 2Ring ที่มีพฤติกรรมดาวน์โหลดโค้ดจากเซิร์ฟเวอร์อื่นมารันอีกที ซึ่งขัดกับนโยบายของ Mozilla ส่วนทีมงาน Chrome ประกาศว่าพบส่วนขยาย (แบบเสียเงิน) จำนวนมากที่มีพฤติกรรมละเมิดผู้ใช้งาน จนต้องปิดรับการส่งส่วนขยายแบบเสียเงินขึ้น Chrome Web Store ชั่วคราว เพื่อหาโซลูชันที่ดีกว่าในระยะยาว แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักว่ามีส่วนขยายใดบ้างที่เข้าข่าย ระยะหลัง ส่วนขยายของเบราว์เซอร์และปลั๊กอินของ CMS กลายเป็นช่องทางของแฮ็กเกอร์ในการโจมตีผู้ใช้ เพราะมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยที่น้อยกว่าตัวโปรแกรมหลัก จนองค์กรที่พัฒนาเบราว์เซอร์ต้องหันมาคุมเข้มส่วนขยายมากขึ้น ทั้งในแง่สิทธิการเข้าถึง API และการตรวจสอบตอนส่งเข้าระบบเผยแพร่ ที่มา - ZDNet, Chrome, Ars Technica
[ลือ] มาอีกหนึ่งแชท Google กำลังพัฒนาแอปแชทองค์กรชน Slack, MS Teams
nismod
31 January 2020 - 16:43
[ "Google", "Slack", "Rumour" ]
The Information รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในของ Google ระบุว่าบริษัทกำลังพัฒนาแอปแชทสำหรับองค์กร ลักษณะเดียวกับ Slack และ Microsoft Teams อยู่ ตัวแชทจะเชื่อมและทำงานร่วมกับบริการอื่น ๆ ของ Google อย่าง Gmail, Google Drive, Hangout Meet และ Hangout Chat และแอปตัวนี้จะให้บริการอยู่ในชุด G Suite สำหรับองค์กร ที่มา - The Information
ทวิตเตอร์ จะเปิดให้รายงานโพสต์ที่ข่มขู่,ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ
sunnywalker
31 January 2020 - 16:23
[ "Twitter", "Politics" ]
ทวิตเตอร์ทำฟีเจอร์เปิดให้ผู้ใช้งานรายงานโพสต์ที่แนะนำข้อมูลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 แบบผิดๆ วิธีการคือเป็นการรายงานโพสต์ตามปกติ แต่เพิ่มเหตุผลที่รายงานเข้ามาด้วยว่า รายงานเพราะเป็นโพสต์ที่ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เมื่อกดรายงานโพสต์ ทวิตเตอร์จะให้ผู้ใช้ระบุเหตุผลเฉพาะเจาะจงขึ้นไปอีกว่าเป็นข้อมูลผิดแบบไหน เช่น เป็นข้อมูลแนะนำวิธีการโหวตแบบผิดๆ, เป็นโพสต์ที่พยายามยับยั้งหรือข่มขู่ไม่ให้ทุกคนไปเลือกตั้ง, เป็นโพสต์ที่พยายามปลอมตัวเป็นนักการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง องค์กรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่มา - Twitter
EA เผยยอดขาย Star Wars Jedi: Fallen Order ดีกว่าที่คาด อาจถึง 10 ล้านชุด
nismod
31 January 2020 - 16:00
[ "Star Wars", "EA", "Games" ]
EA เคยตบตีกับคนในวงการเกมมาแล้วจากประเด็นที่บอกว่าเกมประเภทเล่นคนเดียวตามเนื้อเรื่อง (single-player) ตายแล้ว ขณะเดียวกันเกม Star Wars นับตั้งแต่ EA ได้ลิขสิทธิ์ไปก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อย่างไรก็ตามหลัง Star Wars Jedi: Fallen Order วางจำหน่ายกลับได้รับคำชมอย่างล้นหลาม สร้างปรากฎการณ์เกม Star Wars และกู้หน้าให้กับ EA ขึ้นมาได้ ก่อนที่ล่าสุดบริษัทจะออกมาเปิดเผยว่ายอดขายของ Star Wars Jedi: Fallen Order สูงเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก ซีเอฟโอของ EA เผยว่าบริษัทตั้งเป้าเอาไว้ที่ 6-8 ล้านชุดภายใน 1 ปีงบประมาณของบริษัทที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมนี้ แต่กลับสามารถทำได้แค่ภายในระยะเวลา 3 ไตรมาส (นับถึงปีใหม่) เท่านั้น ทำให้ EA คาดว่าเมื่อหมดปีงบประมาณยอดขายน่าจะอยู่ที่ราว 10 ล้านชุด ที่มา - Venturebeat
ไมโครซอฟท์เปิดโครงการ Bug Bounty สำหรับ Xbox Live จ่ายเงินสูงสุด 20,000 เหรียญ
nismod
31 January 2020 - 15:23
[ "Xbox", "Bug Bounty", "Security", "Xbox LIVE" ]
ไมโครซอฟท์เปิดโครงการ Xbox Bug Bounty โดยจะเน้นไปที่ช่องโหว่บนเครือข่ายและบริการของ Xbox Live โดยเงินรางวัลจะจ่ายให้ตามความรุนแรงของช่องโหว่ตั้งแต่ 500 เหรียญไปจนถึงสูงสุดอย่างช่องโหว่รันโค้ดทางไกลระดับร้ายแรงที่ 20,000 เหรียญ ไมโครซอฟท์ระบุไว้ด้วยว่าช่องโหว่หรือปัญหาที่ไม่เข้าข่ายรับเงินรางวัล อาทิ DDoS, CSRF ที่ผลกระทบต่ำ หรือ URL Redirects เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดและช่องทางการรายงานช่องโหว่ได้ที่นี่ ที่มา - Microsoft
มาร์ค ซักเคอเบิร์ก เผยเป้าหมายใหม่ อยากให้ผู้คนเข้าใจจุดยืนของเขาและ Facebook มากขึ้น
sunnywalker
31 January 2020 - 14:50
[ "Mark Zuckerberg", "Facebook" ]
หลัง Facebook ประกาศผลประกอบกิจการไตรมาสล่าสุดซึ่งเป็นไปในทางที่ดี มาร์ค ซักเคอเบิร์ก ก็ออกมาโพสต์ยาวเรื่องเป้าหมายของเขาในอนาคต นอกเหนือจากการโฟกัสไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปัญหาที่ค้างคาของ Facebook แล้ว เขายังบอกด้วยว่าอยากให้คนอื่นเข้าใจจุดยืนของเขามากขึ้นโดยไม่ต้องรู้สึกชื่นชอบเขาก็ได้ เขาบอกว่าหนึ่งในเรื่องที่ Facebook โดนวิจารณ์หนักคือ พยายามทำตัวเป็นที่ชื่นชอบมากเกินไป และไม่ได้สื่อสารให้ชัดเจนเพียงพอเพราะมัวแต่กังวลว่าคนจะไม่พอใจ มันนำไปสู่ความเชื่อมั่นในเชิงบวกแต่ก็เป็นความรู้สึกผิวเผินเท่านั้น มาร์คบอกว่าต่อจากนี้จะเน้นการสื่อสารหลักการของบริษัทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การยืนหยัดเพื่อมอบปากเสียงแก่ผู้คน ซึ่งค้านกันกับกลุ่มที่ต้องการเซนเซอร์เสียงและความคิดเห็นของคน, ยืนหยัดในการเข้ารหัสแชทแม้จะค้านกับฝั่งที่ไม่เห็นด้วย เพราะมันจะไปเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี, การยืนหยัดเพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กมีโอกาสมากขึ้นและมีเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งค้านกับอีกฝั่งที่บอกว่า targeted ads คือปัญหา เป็นต้น ที่มา - มาร์ค ซักเคอเบิร์ก
Facebook จะลบโพสต์และบล็อกแฮชแท็กที่แพร่ข้อมูลปลอม และวิธีการรักษาไวรัสโคโรน่าแบบผิดๆ
sunnywalker
31 January 2020 - 12:15
[ "Facebook", "Fake" ]
Facebook ประกาศมาตรการด้านข้อมูลไวรัสโคโรน่าบนแพลตฟอร์ม เริ่มลบเนื้อหาปลอมที่คัดกรองโดยองค์กรที่เกี่ยวกับสุขภาพภายนอก พุ่งเป้าไปที่เนื้อหาการรักษาไวรัสแบบผิดๆ เช่น ดื่มเครื่องดื่มอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดเชื้อไวรัส เป็นต้น และบล็อกแฮชแท็กที่เผยแพร่ข้อมูลผิดเกี่ยวกับไวรัสด้วย นอกจากนี้ Facebook ระบุด้วยว่าจะให้องค์กรที่เผยแพร่ข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าฟรีทั้งบน Facebook และ Instagram นอกจากนี้ ถ้าผู้ใช้งานกดค้นหาข้อมูลหรือกดแฮชแท็กเกี่ยวกับไวรัส ระบบจะขึ้นป๊อบอัพแสดงข้อมูลที่น่าเชื่อถือจาก WHO (World Health Organization) ขึ้นมาก่อน ทาง Facebook ยังมอบข้อมูลแผนที่ความหนาแน่นประชากรที่มีความละเอียดสูงให้สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัย Tsing Hua ของไต้หวัน เพื่อเป็นเครื่องมือให้สถาบันนำไปพยากรณ์คาดการณ์การแพร่กระจายของไวรัสต่อไปได้ ภาพจาก Shutterstock ที่มา - Facebook