title
stringlengths 15
178
| author
stringlengths 2
19
| date
stringlengths 18
25
| tags
sequence | content
stringlengths 128
24.1k
|
---|---|---|---|---|
Firefox 73 ออกแล้ว เพิ่มตัวเลือก Page Zoom ทุกเว็บ ไม่ต้องปรับแยกทีละเว็บ | mk | 13 February 2020 - 09:12 | [
"Firefox",
"Browser",
"Mozilla",
"Accessibility"
] | Mozilla ออก Firefox 73 ตามนโยบายใหม่ที่ปรับรอบการออกรุ่นให้เร็วขึ้น ของใหม่ในเวอร์ชันนี้ได้แก่
เพิ่มตัวเลือกใน Options เพื่อปรับการซูมหน้าเว็บ (page zoom) ให้ใหญ่ขึ้นแบบ global คือปรับทีเดียวได้ผลทุกเว็บไซต์ ไม่ต้องมาปรับแยกเองทีละเว็บเหมือนของเดิม (ปรับแยกทีละเว็บยังทำได้อยู่)
ปรับวิธีการทำงานของโหมด High Contrast เพื่อช่วยให้คนที่มีปัญหาสายตา ของเดิมจะปิดการแสดงผลภาพพื้นหลังทั้งหมด ของใหม่จะแทรกกล่องสี่เหลี่ยมพร้อมสีพื้นใต้ข้อความ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น โดยไม่ต้องปิดภาพพื้นหลังทั้งหมด
ที่มา - Mozilla |
กูเกิลเปิดตัว Emoji Kitchen ผสมอีโมจิ 2 ตัวเป็นอีโมจิใหม่ ใช้ได้บน Gboard Android | mk | 13 February 2020 - 08:52 | [
"Emoji",
"Gboard",
"Google"
] | กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจชื่อ Emoji Kitchen มันเป็นการนำอีโมจิ 2 ตัวมารวมร่างกัน กลายเป็นสติ๊กเกอร์อันใหม่ที่สามารถส่งให้กันได้
ฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้เฉพาะบน Gboard เวอร์ชัน Android และยังไม่มีข้อมูลว่าจะตามมายังเวอร์ชัน iOS ด้วยหรือไม่
ที่มา - Google |
ประกาศยกเลิกงาน MWC 2020 แล้ว จากเหตุไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ | arjin | 13 February 2020 - 05:09 | [
"MWC",
"GSMA",
"Health",
"COVID-19"
] | GSM Association หรือ GSMA ผู้จัดงาน Mobile World Congress (MWC) ประกาศยกเลิกการจัดงานในปีนี้ จากเหตุระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีหลายบริษัทออกมาประกาศงดเข้าร่วมงาน
แถลงการณ์ของ GSMA ระบุว่าด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยทางสุขภาพในเมืองบาร์เซโลนา เมืองที่จัดงาน MWC ตลอดจนปัญหาข้อจำกัดในการเดินทางที่ประกาศก่อนหน้านี้ ทำให้ GSMA ไม่สามารถจัดงานได้เลย จึงตัดสินใจยกเลิกงานในปีนี้ โดย GSMA ยังคงแผนจัดงาน MWC ในปี 2021 ต่อไป
ก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทได้ประกาศไม่เข้าร่วมงาน อาทิ Ericsson, NVIDIA, LG, Amazon, โซนี่, Intel, Vivo และ NTT ซึ่งตอนแรก GSMA ออกประกาศมาตรการดูแลความสะอาด จำกัดผู้เข้าร่วมจากจีน ตลอดจนห้ามการจับมือภายในงาน แต่ด้วยจำนวนบริษัทที่ประกาศยกเลิกยังเพิ่มขึ้น จึงต้องยกเลิกงานในที่สุด
ที่มา: GSMA ผ่าน The Verge |
ไปไม่รอด บริษัทสมาร์ทโฟน Essential ของ Andy Rubin ประกาศปิดตัวแล้ว หยุดออกแพตช์ทันที | BlackMiracle | 13 February 2020 - 02:29 | [
"Essential",
"Andy Rubin"
] | เมื่อกลางปี 2017 เราเห็นการเปิดตัว Essential Phone PH-1 สมาร์ทโฟนจาก Andy Rubin บิดาของระบบปฏิบัติการ Android แต่ทำยอดขายได้ไม่ดีนัก ก่อนจะหยุดขายไปเมื่อช่วงสิ้นปี 2018
ต่อมาในเดือนตุลาคม 2019 ก็ได้เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Project GEM มีดีไซน์แคบและยาว
ล่าสุดวันนี้บริษัท Essential ประกาศทางบล็อกว่าบริษัทมองไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะนำ Project GEM ออกสู่ตลาด จึงตัดสินใจปิดกิจการ
Essential Phone PH-1
Essential ระบุว่าแพตช์ความปลอดภัยเดือนกุมภาพันธ์ที่เพิ่งออกให้ Essential Phone จะเป็นแพตช์สุดท้ายของโทรศัพท์รุ่นนี้ แต่หากนักพัฒนาอยากปรับแต่งหรือเล่นกับมือถือรุ่นนี้ต่อก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลทุกอย่างรวมถึงอิมเมจได้ที่ GitHub นอกจากนี้แอพอีเมล Newton ที่เพิ่งซื้อกิจการไปก็จะให้บริการถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้
มือถือ Essential Phone สร้างกระแสฮือฮาจากการที่เป็นมือถือหน้าจอไร้ขอบรุ่นแรก รวมถึงมีติ่งกล้องเป็นครั้งแรกด้วย (iPhone X เปิดตัวหลัง Essential Phone) อีกทั้งยังเป็นมือถือ Android เพียงยี่ห้อเดียวที่ได้รับแพตช์ความปลอดภัยรายเดือนพร้อม Google Pixel
ที่มา - The Verge, Essential Blog |
WhatsApp ประกาศยอดจำนวนผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคนแล้ว | nutmos | 12 February 2020 - 23:32 | [
"WhatsApp",
"Facebook"
] | WhatsApp แอปแชทในเครือ Facebook ประกาศยอดผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคนเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านคนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย WhatsApp ยังคงให้บริการฟรีไม่มีโฆษณาจนถึงทุกวันนี้
WhatsApp ถือเป็นแอปที่สองของ Facebook ที่มีจำนวนผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคน (แอปแรกคือ Facebook) ซึ่งโดยรวมแล้วแอปในเครือของ Facebook ซึ่งมีทั้ง Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp จะมีผู้ใช้ 2.26 พันล้านคนที่เปิดอย่างน้อย 1 แอปในแต่ละวัน (ข้อมูลจากรายงานไตรมาสของ Facebook)
Facebook เข้าซื้อ WhatsApp ด้วยมูลค่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2014 หรือ 6 ปีมาแล้ว โดย WhatsApp เกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้วจากสองผู้ร่วมสร้าง Brian Acton และ Jan Koum ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนได้ลาออกจาก Facebook แล้ว
ปัจจุบันฐานผู้ใช้หลักของ WhatsApp อยู่ที่อินเดีย ซึ่งเมื่อกลางปีที่แล้ว WhatsApp ประกาศว่าผู้ใช้ในอินเดียเพิ่มจาก 200 ล้านคนเป็น 400 ล้านคนในเวลา 2 ปี จึงทำให้ WhatsApp มีฟีเจอร์หลายอย่างเอาใจกลุ่มลูกค้าคนอินเดียโดยเฉพาะ รวมถึงออกแอปบน KaiOS ซึ่งเป็น OS ของมือถือฟีเจอร์โฟนราคาประหยัดที่นิยมมากในอินเดีย
ที่มา - WhatsApp Blog, TechCrunch |
เกมหาย! Activision Blizzard ถอนเกมค่ายตัวเองออกจากบริการ GeForce Now | mk | 12 February 2020 - 23:03 | [
"GeForce Now",
"NVIDIA",
"Cloud Gaming",
"Game Streaming",
"Activision Blizzard",
"Games"
] | GeForce Now บริการเกมสตรีมมิ่งของ NVIDIA ที่เพิ่งปลดสถานะเบต้า กลับเสียเกมดังจากค่าย Activision Blizzard (เช่น Call of Duty และ Destiny 2) ออกไปจากระบบ
NVIDIA แถลงว่า Activision Blizzard เป็นฝ่ายขอถอนเกมไปจาก GeForce Now เอง แต่ก็ไม่ได้ให้เหตุผลไปมากกว่านั้น
เว็บไซต์ The Verge วิเคราะห์ว่าสงครามคลาวด์เกมมิ่งกำลังเริ่มดุเดือด (อ่านบทความ
Cloud Gaming แพลตฟอร์มเกมยุคหน้าที่อาจทำให้ไมโครซอฟท์กลับมาครองตลาดเกม
ประกอบ) จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า Activision Blizzard กำลังเจรจานำเกมของตัวเองไปลงบริการคลาวด์เกมมิ่งเจ้าอื่น หรือไม่ก็เป็นกลวิธีในการเจรจาให้ได้ส่วนแบ่งรายได้จาก NVIDIA เพิ่มขึ้นนั่นเอง
ที่มา - NVIDIA, The Verge |
Olympus เปิดตัว OM-D E-M1 Mark III ปรับปรุงระบบกันสั่นใหม่, ชาร์จไฟผ่าน USB-C | nutmos | 12 February 2020 - 20:38 | [
"Olympus",
"Camera",
"Mirrorless",
"Micro 4/3"
] | Olympus เปิดตัวกล้อง OM-D E-M1 Mark III พร้อมปรับปรุงระบบกันสั่นใหม่, ชาร์จไฟผ่าน USB-C และระบบถ่ายภาพความละเอียดสูง
ตัวกล้อง E-M1 Mark III ใช้เซนเซอร์ Four Thirds Live MOS 20 ล้านพิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ TruePic IX อัดวิดีโอได้สูงสุด DCI 4K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที มีกันสั่นในตัวกล้อง 5 แกน สามารถลดการสั่นได้สูงสุด 7 สต็อป และหากใช้ร่วมกับเลนส์ที่กำหนดจะลดการสั่นได้สูงสุด 7.5 สต็อป
ตัวกล้องมีจุดโฟกัส On-chip Phase Detection AF 121 จุด เป็น cross-type ทั้งหมด ครอบคลุม 75% ในแนวตั้ง และ 80% ในแนวนอน พร้อมอัลกอริทึมใหม่ช่วยให้ระบบโฟกัสทำงานแม่นยำแม้วัตถุจะเคลื่อนที่เร็ว ทำงานได้แม้ว่าจะเปิดรูรับแสงสูงสุดที่ F1.2
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็มี Live ND filter ที่จะถ่ายภาพหลาย ๆ ภาพมาต่อกันเป็นภาพที่เหมือนเปิดหน้ากล้องยาว สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง, 50MP Handheld High-Res Shot ที่ตัวกล้องจะถ่ายภาพ 16 ภาพมารวมกันเป็นภาพ 50 ล้านพิกเซลภาพเดียว, Tripod High Res Shot นำภาพถ่ายหลาย ๆ ภาพมารวมกันจนได้ภาพถ่ายความละเอียดสูงได้ถึง 80 ล้านพิกเซล (ต้องใช้ขาตั้งกล้อง)
ตัวบอดี้ของกล้อง E-M1 Mark III เป็นแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมโครงสร้างทนทานต่อสภาพอากาศมาตรฐาน IPX1 เพิ่มจอยสติ๊กสำหรับออโต้โฟกัส 8 ทิศทางด้านหลังกล้อง รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB-C PD สูงสุดถึง 100 วัตต์ ชัตเตอร์ทนต่อการใช้งาน 4 แสนครั้ง
สำหรับราคาของ OM-D E-M1 Mark III บอดี้อย่างเดียวอยู่ที่ 1,799.99 ดอลลาร์หรือราว 56,000 บาท ส่วนกล้องพร้อมเลนส์ M.ZUIKO 12-40mm F2.8 Pro อยู่ที่ 2,499.99 ดอลลาร์หรือราว 78,000 บาท และกล้องพร้อมเลนส์ M.ZUIKO 12-100mm F4 Pro อยู่ที่ 2,899 ดอลลาร์หรือราว 90,000 บาท
ที่มา - dpreview |
กสิกรไทยทำศูนย์กลางบัตรสมาชิกบนแอป K PLUS โอนคะแนนจากบัตรเครดิตออกไปบริษัทอื่นได้ด้วย | lew | 12 February 2020 - 20:11 | [
"Kasikorn Bank"
] | ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัว Digital Loyalty Platform เป็นศูนย์กลางการสะสมคะแนนของธุรกิจต่างๆ ผ่านแอป K PLUS โดยตอนนี้มี 4 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่
เพิ่มบัตรเพื่อเช็คยอดคะแนน
สมัครสมาชิกรายการสะสมคะแนน
โอนคะแนนจากบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยไปยัง 3 รายการ ได้แก่ PTT Blue Card, The1, และ AIS Points
สะสมคะแนนอัตโนมัติเมื่อจ่ายผ่าน K PLUS QR หรือซื้อสินค้าบน K+ Market
โครงการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจที่บัตรสะสมคะแนนต่างๆ จะเริ่มทำงานร่วมกันได้ อย่างไรก็ดีฟีเจอร์ที่ขาดไปคือการโอนคะแนนกลับเข้าเป็นคะแนนสะสมบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ทำให้ผู้ใช้ยังไม่สามารถโอนคะแนนข้ามกันไปมาจากบัตรที่อาจจะไม่ได้ใช้งานมากนักไปยังบัตรที่อยากใช้สิทธิ์มากกว่า
ตอนนี้มีบริษัทร่วมฟีเจอร์นี้ 16 บริษัท โดยมีฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ต่างกันไป (ดูตารางท้ายข่าว)
ที่ผ่านมามีการใช้บัตรสะสมคะแนนบน K PLUS แล้วมากกว่าหกแสนใบ และทางธนาคารตั้งเป้าว่าจะเกินล้านใบในปีนี้ ขณะที่บัตรเครดิตที่มีการใช้งานบน K PLUS ก็สูงถึง 1.9 ล้านใบ
ที่มา - จดหมายข่าวธนาคารกสิกรไทย |
Nikon เปิดสเปคฉบับเต็มของเรือธง Nikon D6 อย่างเป็นทางการ เตรียมขายก่อนงานโอลิมปิก | nutmos | 12 February 2020 - 19:54 | [
"Nikon",
"DSLR",
"Camera"
] | Nikon เปิดสเปคกล้องเรือธง D6 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เผยภาพตัวกล้องที่อยู่ระหว่างการพัฒนาออกมา
ตัวกล้อง Nikon D6 ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด FX ที่ 20.8 ล้านพิกเซล เท่ากับ Nikon D5 พร้อมหน่วยประมวลผล EXPEED 6 มีช่วง ISO อยู่ระหว่าง 100-102,400 ขยายได้สูงสุดถึง 3.2 ล้าน ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบ focus peaking และบันทึกวิดีโอเป็นฟอร์แมต MP4
ส่วนด้านระบบโฟกัส ทาง Nikon ได้ยกเครื่องระบบโฟกัสบน Nikon D6 ใหม่ทั้งหมด จุดโฟกัสบนเซนเซอร์มีทั้งหมด 105 จุด น้อยกว่าเดิมแต่ทั้งหมดเป็น cross-type และสามารถเลือกได้ โดย Nikon ระบุว่าจุดโฟกัสทุกจุดใช้ triple-sensor arrangement ที่จะทำให้ระบบออโต้โฟกัสครอบคลุมกว่า D5 ถึง 1.6 เท่า จุดโฟกัสทุกจุดสามารถทำงานได้มืดสุดที่ -4EV ส่วนจุดกลางทำได้มืดสุดถึง -4.5EV รวมถึงปรับระบบ detection area สำหรับ single point AF และ dynamic area AF เพื่อให้ออโต้โฟกัสยังคงทำงานได้แม้ว่าวัตถุจะหลุดออกจากโซนที่กำหนดไปเล็กน้อย
ในด้านความเร็ว ตัวกล้องสามารถถ่ายภาพได้ไวสุดที่ 14 ภาพต่อวินาทีในโหมดชัตเตอร์กลไก หากใช้กับเลนส์ E-type (เลนส์ที่มีไดอะแฟรมแบบควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์), 10.5 ภาพต่อวินาทีในโหมดเงียบ เพิ่มได้สูงสุดถึง 30 ภาพต่อวินาทีหากเลือกถ่ายภาพ 8 ล้านพิกเซล หรือ 60 ภาพต่อวินาทีหากถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซลในโหมด live view
น้ำหนักของตัวกล้อง Nikon D6 อยู่ที่ 1.44 กิโลกรัม (รวมแบตเตอรี่และเมมโมรี่แล้ว) เพิ่มจาก D5 เล็กน้อย มีช่องเสียบการ์ด XQD และ CFExpress, มี Wi-Fi, Bluetooth และ GPS ในตัว, มี Gigabit Ethernet ในตัวที่ Nikon เคลมว่าถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วกว่า D5 ถึง 15%
Nikon D6 จะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ก่อนงานโอลิมปิกในกรุงโตเกียว โดยราคาตัวบอดี้อยู่ที่ 6,499.95 ดอลลาร์ หรือราว 202,000 บาท
ที่มา - dpreview |
ดอนเมือง โทลเวย์เตรียมรองรับ EasyPass/M-Pass ระบบกำหนดเสร็จสิ้นเดือนเมษายนปีหน้า | lew | 12 February 2020 - 19:22 | [
"Thailand",
"Cashless"
] | กิจการร่วมค้า คิวฟรี-ยูเทล ประกาศชัยชนะในการประมูลงานพัฒนาระบบจัดเก็บค่าทางด่วน ที่จะพัฒนาให้ทางด่วนดอนเมือง โทลเวย์สามารถรองรับทั้งบัตร EasyPass และ M-Pass ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ระบบทางด่วนอื่นๆ รับบัตรทั้งสองระบบได้ก่อนแล้ว
ตัวโครงการที่จริงพัฒนาทั้งการจับเก็บเงินสดตามปกติ (Manual Toll Collection System - MTC) และการเก็บค่าทางด่วนผ่านบัตร (Electronic toll Collection System - ETC) โดยโครงการรวม 323 ล้านบาท ระยะเวลาสิ้นสุด 30 เมษายน 2021 หรือปีหน้า
คิวฟรี-ยูเทล เป็นกิจการรวมร่วมค้าระหว่างบริษัท ยูไนเต็ด เทเลคอม เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (UTEL) และบริษัท คิวฟรี ประเทศไทย จำกัด
ความได้เปรียบของการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งคือการตัดเงินชำระที่รวดเร็วกว่าเงินสด ในกรณีของทางด่วนนี้จะเห็นได้ชัดว่าหากระบบทำได้ดี รถจะสามารถเคลื่อนที่ผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดขัดบริเวณด่านจ่ายเงิน
ที่มา - จดหมายข่าวบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด
ภาพจากบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) |
William Gerstenmaier อดีตหัวหน้าโครงการระดับท็อปๆ ของ NASA เข้าร่วมงานกับ SpaceX | BlackMiracle | 12 February 2020 - 18:22 | [
"SpaceX",
"NASA"
] | หนึ่งในโครงการที่สำคัญมากของ SpaceX ขณะนี้คือโครงการ Crew Dragon ที่มีเป้าหมายส่งมนุษย์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ซึ่ง SpaceX ก็ไม่เคยมีประสบการณ์การส่งมนุษย์ออกสู่อวกาศมาก่อน จึงได้ประกาศจ้าง William Gerstenmaier อดีตหัวหน้าโครงการระดับท็อปๆ หลายโครงการของ NASA เข้ามาเป็นที่ปรึกษา
ในวงการการเดินทางด้วยยานอวกาศ William Gerstenmaier มีชื่อเสียงที่เรียกได้ว่าเป็นระดับต้นๆ ของโลก เขาเคยคุมโครงการกระสวยอวกาศของ NASA, โครงการสถานีอวกาศนานาชาติ, โครงการส่งมนุษย์ไปอวกาศ รวมถึงโครงการสำรวจอวกาศหลายโครงการมานานกว่าสิบปี เรียกว่าประสบการณ์ด้านนี้ไม่มีใครเทียบ
ภาพโดย NASA
อย่างไรก็ตาม ตอนกลางปี 2019 Jim Bridenstine ผู้อำนวยการ NASA ได้ปรับตำแหน่งของ Gerstenmaier จากผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการ Human Exploration and Operations ที่มีหน้าที่ดูแล ISS, พัฒนากระสวยอวกาศรุ่นใหม่ รวมถึงสำรวจอวกาศ ไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษให้รองผู้อำนวยการ NASA แทน ซึ่งถือเป็นการลดตำแหน่งหน้าที่ เพราะ Bridenstine คิดว่าโครงการสำรวจอวกาศยังเดินหน้าไม่เร็วพอ ทำให้สร้างความปั่นป่วนต่อพาร์ทเนอร์ที่อาจจะเสียความเชื่อมั่นไป
ที่ SpaceX เขาจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาเหมือนเดิม แต่จะเป็นงานเต็มเวลาไม่ใช่ที่ปรึกษาครั้งคราว ซึ่งคาดว่าเขาจะมาเป็นตัวแปรหลักในการดูแลเรื่องความปลอดภัยของภารกิจ รวมถึงช่วยให้ SpaceX ได้ใบอนุญาตส่งมนุษย์สู่อวกาศ
ในการนี้ Dmitry Rogozin ผู้อำนวยการ Roscosmos หน่วยงานที่ดำเนินงานด้านอวกาศให้รัฐบาลรัสเซีย ถึงกับทวีตแสดงความยินดีกับ SpaceX และ Gerstenmaier เลยทีเดียว
ที่มา - Ars Technica |
ไมโครซอฟท์เปิดฟีเจอร์ XLOOKUP ที่ใช้แทน VLOOKUP/HLOOKUP ให้ผู้ใช้ Excel แล้ว | mk | 12 February 2020 - 16:56 | [
"Excel",
"Microsoft Office",
"Microsoft"
] | จากข่าว Excel เปิดตัวฟังก์ชัน XLOOKUP อย่างเป็นทางการ ใช้แทน VLOOKUP และ HLOOKUP โดยเปิดให้กลุ่ม Office Insiders ลองใช้กันตั้งแต่ช่วงปลายปี
วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่า เปิดฟีเจอร์ XLOOKUP ให้ผู้ใช้งาน Excel เป็นการทั่วไปแล้ว (generally available) ทั้งเวอร์ชันบนวินโดวส์ แมค และเว็บ
ผมลองใน Excel เครื่องตัวเองที่เป็น Office 365 (เลขเวอร์ชันคือ 2002 หรืออัพเดตรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2020) ก็พบว่าใช้งานได้แล้ว
ที่มา - Microsoft |
Huawei Nova 7i เปิดตัวในมาเลเซีย, กล้อง 4 ตัว 48MP ในราคาประมาณ 8,300 บาท | mk | 12 February 2020 - 16:23 | [
"Huawei",
"Mobile"
] | Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่ Nova 7i ในประเทศมาเลเซีย (ขยับตัวเลขของซีรีส์ Nova จาก 5 ไป 7 เลย)
สเปกเท่าที่เปิดเผยคือ กล้องหลัง 4 ตัว 48MP พร้อมโหมดถ่ายกลางคืน Super Night Mode 2.0, หน่วยประมวลผล Kirin 810, ระบบชาร์จเร็ว 40 วัตต์, หน้าจอ 6.4" FHD+ แบบเจาะรู, แรม 8GB, สตอเรจ 128GB, แบตเตอรี่ 4200 mAh
ราคาเปิดพรีออเดอร์ในมาเลเซียอยู่ที่ 1,099 ริงกิต (ประมาณ 8,300 บาท) โดยจะแถม Huawei Band 4 ด้วย
เว็บไซต์ Huawei Central ระบุว่ามือถือตัวนี้คือการนำ Nova 6 SE เวอร์ชันจีนมารีแบรนด์ใหม่
ที่มา - Huawei Mobile Malaysia, Huawei Central |
[Preview] สัมผัสแรก Galaxy Z Flip กิมมิคฝาพับเวิร์คกว่า Galaxy Fold | nismod | 12 February 2020 - 16:01 | [
"Galaxy Z Flip",
"Samsung",
"Mobile"
] | วันนี้ซัมซุงประเทศไทยจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนชุดใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนที่ซานฟรานซิสโกทั้ง Galaxy S20 ซีรีส์ และ Galaxy Z Flip สมาร์ทโฟนฝาพับรุ่นที่ 2 ของซัมซัง
ผมมีโอกาสได้ลองเล่น Galaxy Z Flip แบบสั้น ๆ พบว่าค่อนข้างน่าประทับใจและรู้สึกใช้งานได้จริงมากกว่ากรณีของ Galaxy Fold ที่ทั้งใหญ่และหนากว่า เลยขอเขียนมาฝากกันสั้น ๆ ครับ
ตัวเครื่อง Galaxy Z Flip เวลาพับขนาดจะประมาณแค่ฝ่ามือ ไม่กว้างหรือหนามากนัก มีกล้อง 2 ตัวและหน้าจอขนาดเล็ก สำหรับแสดงผลนาฬิกา การแจ้งเตือน หรือกดปุ่มล็อกหน้าจอ (ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว) 2 ครั้งเพื่อนถ่ายเซลฟี่ก็ได
ขณะที่เมื่อกางออกมา สัดส่วนหน้าจอ 21.9:9 ซึ่งซัมซุงบอกว่าเป็นอัตราส่วนเดียวกับในโรงภาพยนตร์ สีสันคมชัดสวยงามตามมาตรฐานซัมซุง
ขนาดความหนาหรือน้ำหนักเมื่อกางฝาพับออกรู้สึก พอดีมือมาก ความกว้างไม่กว้างเกินไปพอให้นิ้วโป้งขยับไปแตะขอบด้านซ้ายได้ ตัวเครื่องก็ค่อนข้างบาง (หนาประมาณ 7 มม.) ขอบจอก็บาง ทำให้ความรู้สึกเวลาอยู่บนมือคือมันลงตัวไปหมด ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจมาก ๆ
อย่างไรก็ตามการเปิดฝาพับใช้มือเดียวค่อนข้างยาก (ไม่ practical) เพราะไม่ได้มีร่องด้านข้างสำหรับงัดหน้าจอขึ้นมา รวมถึงว่าด้วยขนาดตัวเครื่องทำให้ต้องใช้แรงค่อนข้างมากสำหรับมือเดียว สรุปคือใช้ 2 มือตอนเปิดดีที่สุด
ส่วนข้อพับถ้าถามความรู้สึกแบบเร็ว ๆ คือค่อนข้างแข็งแรง ในแง่ดีไซน์ซัมซุงบอกว่ากันฝุ่นเข้าไปสร้างความเสียหายข้างในด้วย รวมถึงองศาในการพับก็รองรับ 180 องศา สามารถกางเปิดไว้ตำแหน่งไหนก็ได้เหมือนแล็บท็อป
บริเวณหน้าจอ มีรอยบาง ๆ ของการพับก็จริงถ้ามองจากด้านข้างและหันหน้าเข้าแสง แต่ตอนใช้งานจริงก็ไม่ได้สัมผัสได้หรือมองเห็นชัด รบกวนการใช้งานเท่าไหร่
และด้วยดีไซน์แบบตลับแป้งคุณผู้หญิง ทำให้ Galaxy Z Flip รองรับการเปิดใช้งานแอป 2 ตัวพร้อมกันแบบบน-ล่าง หรือแอปเดียว แต่แบ่งการแสดงผลเป็นบน-ล่างก็มีเช่นกัน (น่าจะเฉพาะบางแอปที่รองรับ)
สรุป
ส่วนตัวรู้สึกว่า Galaxy Z Flip เป็นสมาร์ทโฟนที่กิมมิคฝาพับหรือหน้าจอพับได้สามารถใช้งานได้จริง (practical) และเวิร์คกว่า Galaxy Fold และด้วยสเปคที่ระดับเรือธง มันเลยเป็นดูตัวเลือก (สำหรับคนมีเงิน) ที่น่าสนใจกว่า Galaxy Fold มาก ๆ |
ซัมซุงถ่ายงานแถลงข่าว Galaxy S20 ด้วยกล้อง Galaxy S20, ถูกวิจารณ์ว่าคุณภาพไม่ดี | mk | 12 February 2020 - 14:13 | [
"Galaxy S20",
"Samsung",
"Mobile",
"Camera"
] | จุดเด่นของ Samsung Galaxy S20 ที่เปิดตัวเมื่อคืนนี้คือเรื่องกล้อง โดยเฉพาะ Galaxy S20 Ultra ที่จัดหนักมาทั้งกล้องภาพนิ่ง 108MP, ซูม 100 เท่า และถ่ายวิดีโอ 8K
TM Roh ประธานฝ่ายธุรกิจมือถือคนใหม่ของซัมซุง เปิดเผยบนเวทีว่า กล้องทุกตัวที่ใช้ถ่ายวิดีโองานแถลงข่าวเพื่อถ่ายทอดสดนั้นเป็น Galaxy S20 Ultra นี่เอง โดยมันผูกติดกับเมาท์พิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ S20 Ultra โดยเฉพาะ และเขาหยิบ Galaxy S20 Ultra จากช่างกล้องคนหนึ่งขึ้นมาเพื่อโชว์ให้ทุกคนเห็น
เว็บไซต์ Android Police วิจารณ์ว่าคุณภาพของวิดีโอรอบนี้ค่อนข้างมืดเกินไป ซึ่งเป็นเพราะถ่ายด้วย Galaxy S20 Ultra ที่แม้พัฒนาไปมาก ก็ยังเทียบกับกล้องถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพไม่ได้อยู่ดี
ที่มา - Sammobile, Android Police
คลิปถ่ายทอดสดของซัมซุง |
WordPress ยกเลิกงาน WordCamp Asia 2020 ที่กรุงเทพ เพราะปัญหาไวรัสโคโรนา | mk | 12 February 2020 - 13:42 | [
"WordPress",
"Thailand",
"Health"
] | WordPress ประกาศยกเลิกงานสัมมนาใหญ่ครั้งแรกประจำภูมิภาคเอเชีย WordCamp Asia 2020 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพ ในวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยเหตุผลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา
ผู้ที่ซื้อตั๋วเข้างานไปแล้วจะได้รับการติดต่อเรื่องการคืนเงินทางอีเมล และจะได้รับตั๋วเข้าร่วมงาน WordCamp Asia ครั้งต่อไปฟรีด้วย แม้จะคืนเงินตั๋วรอบนี้ไปแล้วก็ตาม
ทีมงาน WordPress คาดว่าจะยกเลิกงาน WordCamp Asia ปี 2020 ไปเลย และคาดว่าจะจัดงานใหม่ในช่วงต้นปี 2021 แทน
Matt Mullenweg หัวหน้าโครงการ WordPress ระบุว่างานนี้จะมีนักพัฒนาเข้าร่วมมากถึง 1,300 คน แต่เขาต้องตัดสินใจไม่จัดงานครั้งนี้ต่อ เพราะมีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้
ที่มา - WordCamp |
กูเกิลจะบังคับผู้ใช้บัญชี Nest ทุกคน ต้องล็อกอินด้วย Two-Factor Authentication | mk | 12 February 2020 - 13:25 | [
"Nest",
"Google",
"Security",
"Authentication"
] | ประเด็นเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT ยังมีเรื่องให้ถกเถียงกันเรื่อยๆ กูเกิลในฐานะเจ้าของแบรนด์ Nest และส่งเสริมให้ลูกค้าย้ายบัญชี Nest เดิมมาล็อกอินด้วยบัญชี Google Account (ตอนแรกบังคับย้าย แต่ตอนหลังยอมถอย ไม่บังคับแล้ว) ประกาศว่าจะบังคับการล็อกอินแบบสองปัจจัย (two-factor authentication) สำหรับบัญชี Nest เดิม
ผู้ที่ล็อกอินบัญชี Nest จะต้องยืนยันรหัส 6 หลักที่ได้จากอีเมล account@nest.com เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเสมอ แต่หากผู้ใช้ย้ายบัญชี Nest มาเป็นบัญชี Google Account จะไม่โดนบังคับลักษณะนี้ เนื่องจากมีระบบป้องกันการโจมตีที่ดีกว่า
นี่อาจถือเป็นครั้งแรกที่กูเกิลบังคับใช้ two-factor authentication กับบริการในเครือ นอกเหนือจากบริการ Advanced Protection ที่เป็นการยกระดับความปลอดภัยของบัญชี ที่บังคับล็อกอิน two-factor
กูเกิลยังประกาศใช้ reCAPTCHA Enterprise สำหรับบัญชี Nest เพื่อป้องกันการเดาสุ่มรหัสผ่านไปเรื่อยๆ (automated attack) ด้วย
ปัจจุบัน Nest มีฮาร์ดแวร์หลายตัว ตั้งแต่เทอร์โมสแตต กล้องวงจรปิด กริ่งประตู ไปจนถึงลำโพงอัจฉริยะและหน้าจออัจฉริยะแบรนด์ Google Home เดิม ที่รีแบรนด์กลายมาเป็น Nest
ที่มา - Google, 9to5google |
ซัมซุงเปิดราคา Galaxy Z Flip ในไทย 44,990 บาท | nismod | 12 February 2020 - 11:19 | [
"Galaxy Z Flip",
"Samsung",
"Mobile"
] | นอกจาก Galaxy S20 ซีรีส์ แล้วซัมซุงประเทศไทยยังนำ Galaxy Z Flip มือถือฝาพับเข้ามาขายด้วย โดยเปิดตัวในราคา 44,990 บาท มีสองสีคือ Mirror Purple และ Mirror Black
ซัมซุงจะเปิดจำหน่ายรอบพิเศษในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ จำกัดจำนวนเพียง 200 เครื่อง ก่อนจะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 6 มีนาคมนี้ |
เปิดราคา Galaxy S20, 20+, 20 Ultra ในไทยที่ 28,900 บาท, 31,900 บาทและ 39,990 บาท | nismod | 12 February 2020 - 11:12 | [
"Galaxy S20",
"Samsung",
"Mobile"
] | ซัมซุงประเทศไทยประกาศเปิดราคา Galaxy S20 Series แล้ววันนี้ มาครบทั้ง 3 รุ่นดังนี้
Galaxy S20 แรม 8GB ความจุ 128GB สี Cosmic Grey, Cloud Blue และ Cloud Pink ราคา 28,900 บาท
Galaxy S20+ แรม 8GB ความจุ 128GB สี Cosmic Black, Cosmic Grey และ Cloud Blue ราคา 31,900 บาท
Galayxy S20 Ultra 5G แรม 12GB ความจุ 128GB สี Cosmic Black, Cosmic Grey ราคา 39,990 บาท
ซัมซุงจะเปิดพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคมนี้ แถมฟรี Galaxy Bud+ มูลค่า 4,990 บาทด้วย |
Malwarebytes สรุปสถิติปี 2019 ภัยคุกคามบนแมคเยอะกว่าบนวินโดวส์ 2 เท่า | mk | 12 February 2020 - 09:39 | [
"Malwarebytes",
"Malware",
"Security",
"Mac"
] | Malwarebytes บริษัทซอฟต์แวร์แอนตี้มัลแวร์ชื่อดัง ออกรายงานสรุปสถิติมัลแวร์ประจำปี 2019 พบว่าตรวจพบภัยคุกคามบนแมคเยอะกว่าบนวินโดวส์เป็นครั้งแรก แถมเจอเยอะกว่าถึงสองเท่าด้วย
สถิติของ Malwarebytes บอกว่าพบภัยคุกคามบนแมคเฉลี่ย 11 จุดต่อเครื่อง (threats per endpoint) ส่วนบนวินโดวส์พบเฉลี่ย 5.8 จุด ในรอบปีที่ผ่านมา ภัยคุกคามบนแมคโตขึ้นถึง 400%
สาเหตุที่ภัยคุกคามบนแมคเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นเพราะโปรแกรมกลุ่ม adware ที่ฝังโฆษณา (Malwarebytes นับรวมเป็นหนึ่งในภัยคุกคาม) ที่พบมากถึง 30 ล้านครั้งในปี 2019 (เทียบกับบนวินโดวส์ 24 ล้านครั้ง) โดยโปรแกรม adware ตระกูล NewTab ที่มาในรูปส่วนขยายของ Safari พบมากที่สุด 28 ล้านครั้ง หรือเท่ากับเกือบทั้งหมดของภัยคุกคามบนแมค
ที่มา - Malwarebytes, รายงานฉบับเต็ม |
Intel, Vivo, NTT ไม่ร่วมงาน MWC, สมาคม GSMA เตรียมประชุมด่วนหารือ | mk | 12 February 2020 - 09:02 | [
"GSMA",
"MWC",
"Intel",
"Vivo",
"NTT"
] | Intel, Vivo, NTT เป็นบริษัทชุดล่าสุดที่ประกาศไม่เข้าร่วมงาน MWC 2020 เนื่องจากปัญหาไวรัสโคโรนา ถัดจาก LG, Ericsson, NVIDIA, Amazon, Sony ที่ประกาศถอนตัวไปก่อนหน้านี้
จากปัญหาบริษัทยักษ์ใหญ่เริ่มถอนตัวไม่เข้าร่วมงาน ทำให้สมาคม GSMA ในฐานะผู้จัดงานต้องหาวิธีรับมือ โดยสื่อสเปน El Periódico รายงานว่า GSMA จะประชุมกันในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อหารือกันว่าจะยกเลิกงานหรือไม่
ที่มา - VentureBeat, The Verge, El Periódico, Notebookcheck |
ซัมซุงจับมือไมโครซอฟท์ นำเกม Forza Street ลง Galaxy Store, อนาคตจะซัพพอร์ต xCloud | mk | 12 February 2020 - 08:55 | [
"Forza",
"Games",
"Samsung",
"Microsoft",
"xCloud"
] | เราเห็นความร่วมมือระหว่างซัมซุงกับไมโครซอฟท์มาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้คือ แอพ Your Phone บนมือถือ Galaxy และ การซิงก์รูปด้วย OneDrive
ล่าสุดในงานแถลงข่าว Galaxy S20 ซัมซุงยังประกาศความร่วมมือของไมโครซอฟท์ด้านเกมอีก 2 เรื่อง
Forza Street เกมแข่งรถจากซีรีส์ Forza เวอร์ชันมือถือ จะลง Galaxy Store ด้วย นอกเหนือจาก Google Play ตามปกติ
มือถือของซัมซุงจะรองรับฟีเจอร์สตรีมเกมจากไมโครซอฟท์ ถึงแม้ไม่ได้พูดชื่อออกมาตรงๆ แต่ก็รู้กันว่าหมายถึง Project xCloud ที่ปัจจุบันรองรับ Android อยู่แล้ว และในอนาคตน่าจะผูกมากับรอมของซัมซุงเลย
ที่มา - Neowin, Xbox |
Infinity Ward ขอโทษแฟนๆ Modern Warfare ที่ไฟล์อัพเดต Season 2 ใหญ่ถึง 100GB | mk | 12 February 2020 - 08:39 | [
"Call of Duty",
"Infinity Ward",
"Games",
"Activision"
] | Call of Duty: Modern Warfare เคยมีประเด็นเรื่องขนาดไฟล์ ที่ต้องการพื้นที่ติดตั้งถึง 175GB ล่าสุดมีประเด็นเดียวกันเกิดขึ้นอีกกับตัวอัพเดต Season 2 ที่เพิ่มเนื้อหาและแผนที่ใหม่ๆ แลกกับขนาดไฟล์ที่ใหญ่ถึง 100GB รอดาวน์โหลดกันจนเหนื่อย
แน่นอนว่าแฟนๆ Modern Warfare ย่อมไม่พอใจและออกมาถล่ม Infinity Ward กันตามคาด จน Paul Haile ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตของเกมต้องออกมาขอโทษแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์ โดยอธิบายว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นครั้งเดียว เพราะ Infinity Ward ตัดสินใจอัพเดตตัวไฟล์กราฟิก (asset packs) ใหม่เพื่อให้ขนาดของเกมโดยรวมลดลงเล็กน้อย และอัพเดตในอนาคตจะไม่มีขนาดไฟล์ใหญ่ระดับนี้อีกแล้ว
นอกจากนี้ Infinity Ward จัดระเบียบไฟล์เกมใหม่ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเก็บไฟล์ DLC ตัวไหนไว้ในฮาร์ดดิสก์บ้างในอนาคต
ที่มา - Gamespot |
เผย Airbnb มีผลประกอบการขาดทุนในปีที่ผ่านมา อาจกระทบแผน IPO ในปีนี้ | arjin | 12 February 2020 - 06:57 | [
"Airbnb",
"Financial Report",
"Rumors",
"IPO"
] | มีรายงานว่า Airbnb ได้แจ้งผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2019 ต่อบอร์ดบริหาร ซึ่งตัวเลขนั้นขาดทุนถึง 322 ล้านดอลลาร์ จากที่ผ่านมา Airbnb เป็นบริษัทมีผลกำไรมาโดยตลอด จึงทำให้บอร์ดตั้งคำถามต่อฝ่ายบริหารว่าเหตุใด ค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มสูงขึ้นกว่ารายได้
แหล่งข่าวบอกว่าผลประกอบการที่ขาดทุนนี้ ยังสร้างความกังวลว่าบริษัทอาจไม่สามารถนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น (ไอพีโอ) ได้ภายในปีนี้ตามแผนเดิม ทั้งนี้ Airbnb มีมูลค่ากิจการจากการเพิ่มทุนครั้งสุดท้าย 31,000 ล้านดอลลาร์
คาดว่า Airbnb จะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นได้อย่างเร็วที่สุดคือไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโคโรน่า ทั้งนี้ตัวแทนของ Airbnb ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
ที่มา: CNBC |
เปิดตัว Galaxy Buds+ หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ แบตใช้ได้ 11 ชม. ไมค์ 3 ตัว ใช้กับ iOS ได้ | mk | 12 February 2020 - 05:45 | [
"Galaxy Buds",
"Samsung",
"Earphones"
] | นอกจากเปิดตัวมือถือใหม่ Galaxy S20 และ Galaxy Z Flip ซัมซุงยังเปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ Galaxy Buds+ ที่เป็นรุ่นอัพเกรดต่อจาก Galaxy Buds ของเมื่อปีที่แล้วด้วย
จุดเด่นของ Galaxy Buds+ คือยกระดับคุณภาพเสียงไปอีกขั้น (ระบบเสียงโดย AKG) มีลำโพงแบบ 2-way รองรับทั้งเสียงสูง (tweeter) และเสียงต่ำ (woofer/bass) และไมโครโฟน 3 ตัว (ด้านใน 1 นอก 2)
ด้านแบตเตอรี่ก็มีอายุใช้งานยาวขึ้น ความจุแบตเตอรี่หูฟัง 85 mAh ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 11 ชั่วโมง, ความจุแบตเตอรี่เคส 270 mAh มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว 3 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง
Galaxy Buds+ ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ iOS/iPhone/iPad แล้ว ซัมซุงยังจับมือกับ Spotify ทำฟีเจอร์แตะทีเดียวที่หูฟังเพื่อเล่นเพลงจาก Spotify ได้ทันทีอีกด้วย
มีให้เลือก 3 สีคือ ฟ้า ขาว ดำ เริ่มขาย 14 กุมภาพันธ์นี้ ราคา 149 ดอลลาร์ ส่วนคนที่ซื้อ Galaxy S20+/S20 Ultra แบบพรีออเดอร์จะได้แถมฟรีด้วย
ที่มา - Samsung |
เปิดตัว Galaxy S20, S20+, S20 Ultra กล้อง 108MP ซูม 100 เท่า วิดีโอ 8K หน้าจอ 120Hz | lew | 12 February 2020 - 03:10 | [
"Samsung",
"Galaxy S20",
"Mobile"
] | ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S20, S20+, S20 Ultra โทรศัพท์เรือธงประจำต้นปี 2020 โดยเน้นสเปคกล้อง
สเปคที่ต่างกันตามประเทศ ได้แก่ ทุกรุ่นใช้ซีพียู 8 คอร์ เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร, ซิมอาจจะเป็นซิมเดี่ยวพร้อมช่อง microSD หรือสองซิม ทุกรุ่นถ่ายวิดีโอ 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และใช้กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล
ความต่างของแต่ละรุ่นอยู่ที่ขนาดหน้าจอ (6.2, 6.7, 6.9 นิ้วตามลำดับ) และแบตเตอรี่ (4000, 4500, 5000 mAh ตามลำดับ) ส่วนกล้องของ S20 และ S20+ มีสเปกเท่ากัน และอัพเกรดเป็นกล้อง 108 ล้านพิกเซล ซูม 100 เท่าในรุ่น Ultra
สเปค Galaxy S20 ได้แก่
จอภาพ 6.2 นิ้ว 3200x1440 พิกเซล HDR10+ 120Hz
แรม 8 GB สำหรับรุ่น LTE และ 12GB สำหรับ 5G
สตอเรจ 128GB
แบตเตอรี่ 4000mAh
กล้องหลัง 3 ตัว มุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล, มุมกว้างพร้อมกันสั่น 12 ล้านพิกเซล, และกล้องซูม 64 ล้านพิกเซล
มี 3 สี เทา, ฟ้า, และชมพู
สเปค Galaxy S20+ ได้แก่
จอภาพ 6.7 นิ้ว 3200x1440 พิกเซล HDR10+ 120Hz
แรม 8 GB สำหรับรุ่น LTE และ 12GB สำหรับ 5G
สตอเรจ 128GB, 256GB, และ 512GB
แบตเตอรี่ 4500mAh
กล้องหลัง 3 ตัว มุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล, มุมกว้างพร้อมกันสั่น 12 ล้านพิกเซล, และกล้องซูม 64 ล้านพิกเซล
กล้อง DepthVision
มี 3 สี ดำ, เทา, และฟ้า
สเปค Galaxy S20 Ultra ได้แก่
จอภาพ 6.9 นิ้ว 3200x1440 พิกเซล HDR10+ 120Hz
แรม 12GB และรุ่นท็อป 16GB
สตอเรจ 128GB, 256GB, และ 512GB (รุ่นแรม 16GB)
แบตเตอรี่ 5000mAh
กล้องหลัง 3 ตัว มุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล, มุมกว้างพร้อมกันสั่น 108 ล้านพิกเซล, และกล้องซูม 48 ล้านพิกเซล ซูมได้สูงสุด 100 เท่า
กล้อง DepthVision
มี 2 สี ดำและเทา
ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สำหรับรุ่น S20 5G, 1,199 ดอลลาร์สำหรับ S20+ 5G และ 1,399 ดอลลาร์สำหรับ S20 Ultra 5G
ที่มา - Samsung
ตารางเปรียบเทียบสเปกของ Galaxy S20, S20+, S20 Ultra |
ซัมซุงเปิดตัวมือถือฝาพับ Galaxy Z Flip มีจอเล็กด้านนอก ให้เลือกสามสี ม่วง, ดำ, ทอง | lew | 12 February 2020 - 02:41 | [
"Samsung",
"Galaxy Z Flip",
"Mobile"
] | Samsung Galaxy Z Flip โทรศัพท์พับแนวตั้งมีภาพหลุดมาหลายวัน ตอนนี้ทางซัมซุงก็เปิดตัวเป็นทางการแล้ว โดยนอกจากจอพับแล้วยังมีจอ 1.1 นิ้วความละเอียด 300x112 พิกเซลอยู่ด้านนอกเพื่อแสดงข้อมูลแบบเดียวกับโทรศัพท์ฝาพับแบบเดิมๆ
ซัมซุงประกาศชัดเจนว่าออก Galaxy Z Flip มาจับตลาดแฟชั่น+เทคโนโลยี เน้นการพับเพื่อพกพาสะดวกในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าถือ
สำหรับสเปคอื่นๆ ได้แก่
ซีพียูไม่ระบุรุ่น ระบุว่าใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรแบบ 8 คอร์ สัญญาณนาฬิกาสูงสุด 2.95GHz
แรม 8GB สตอเรจ 256GB
กล้องมุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล มุมภาพ 123 องศา ความกว้างรูรับแสง F2.2
กล้องมุมกว้าง 78 องศา 12 ล้านพิกเซล ความกว้างรูรับแสง F1.8 ถ่ายภาพความเร็วสูง พร้อมระบบกันสั่น
ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
แบตเตอรี่ 3300mAh
ชาร์จเร็วแบบ QC2.0 และชาร์จไร้สายแบบ WPC พร้อม PowerShare ชาร์จให้อุปกรณ์อื่น
รองรับ 2 ซิม แต่มีช่องซิม 1 ช่อง พร้อม eSIM
ระบบปฎิบัติการ Android 10
สีม่วงและสีเดา Mirror Purple และ Mirror Black จะเริ่มวางขายในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาก่อนช่วงวันวาเลนไทน์นี้ 14 กุมภาพันธ์ 2020 ส่วนรุ่นสีทอง Mirror Gold จะตามมาในภายหลัง
ราคาขายอยู่ที่ 1,349 ดอลลาร์ หรือประมาณ 43,000 บาท
นอกจากรุ่นธรรมแล้วยังมีรุ่น Thom Brown ที่มาพร้อม Galaxy Watch Active2 และ Galaxy Buds+ |
บางเมืองในจีนเริ่มห้ามขายยาลดไข้/แก้ไอ ป้องกันคนปิดบังอาการป่วย | lew | 12 February 2020 - 01:53 | [
"China",
"Health"
] | หนังสือพิมพ์ Strait Times รายงานว่ามีเมืองอย่างน้อย 3 เมืองในประเทศจีนสั่งห้ามขายยาลดไข้และยาแก้ไอ เช่น codeine, ibuprofen, และ aspirin ตลอดจนตำรับยาโบราณ รวมรายชื่อยาต้องห้าม 106 รายการ โดยคำสั่งห้ามนี้มีผลถึงเว็บอีคอมเมิร์ชที่ขายยาด้วยเช่นกัน
อาการไอและมีไข้เป็นอาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อ coronavirus โดยผู้ที่มีอาการทั้งสองอย่างจะได้คำแนะนำให้ไปโรงพยาบาลแทน
สำหรับบางเมืองที่ยังไม่ได้สั่งห้ามการขายยาเหล่านี้ ก็มีคำสั่งให้ร้านขายยาต้องบันทึกตัวตนผู้มาซื้อยา, ขอข้อมูลติดต่อ, และวัดไข้ผู้ซื้อทุกครั้ง
ที่มา - Strait Times |
Arm เปิดตัวซีพียู Cortex-M55 เน้นงาน machine learning และ Ethos-U55 วงจรเร่งความเร็วปัญญาประดิษฐ์สำหรับ IoT | lew | 12 February 2020 - 01:41 | [
"Arm",
"Artificial Intelligence"
] | Arm เปิดตัวพิมพ์เขียวสินค้าชุดใหม่เป็นพิมพ์เขียวสำหรับงานปัญญาประดิษฐ์สำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ต้องการใช้ประมวลผลปัญญาประดิษฐ์บางรูปแบบ เช่น การตรวจจับวัตถุในภาพ
ชิ้นแรกคือ Arm Cortex-M55 เป็นซีพียูสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ขยายชุดคำสั่ง Arm Helium เพิ่มคำสั่งด้าน scalar และ vector อีก 150 คำสั่ง เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการประมวลผลสัญญาณหรือปัญญาประดิษฐ์ไปสูงสุด 15 เท่าตัวจาก Cortex-M รุ่นก่อนหน้า
Arm Ethos-U55 หน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์เฉพาะสามารถทำงานเป็นตัวเร่งความเร็วให้กับ Cortex-M4, Cortex-M7, Cortex-M33, และ Cortex-M55 ถ้าวัดประสิทธิภาพจะเพิ่มพลังประมวลผลให้ Cortex-M55 ถึง 32 เท่า แต่ขึ้นกับการคอนฟิกขนาดที่ยืดหยุ่นได้
Corstone-300 เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการใช้ Cortex-M55 มาประกอบเป็นชิปอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถสร้างชิปได้เร็วขึ้น
สำหรับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์บน Cortex-M55 และ Ethos-U55 นั้นรองรับ TensorFlow Lite Micro
แผนภาพแสดงระดับพลังประมวลผลและปริมาณข้อมูล แสดงความเหมาะสมของแพลตฟอร์มต่างๆ โดย Cortex-M ที่พลังประมวลผลต่ำนั้นสามารถอ่านค่าเซ็นเซอร์ได้เท่านั้น แต่ Cotex-M55 เหมาะกับการเรียนรู้และหาความผิดปกติไปจนถึงการประมวลผลภาพเพื่อตรวจจับวัตถุ ขณะที่ชิปที่เร่งความเร็วด้วย Ethos-U55 อาจอ่านค่า biometric ไปจนถึงการจดจำเสียงได้
ที่มา - Arm Press Release, Arm Blog, Arm Community |
ไมโครซอฟท์ปล่อยอีมูเลเตอร์สำหรับ Windows 10X แนะนำแนวทางการพัฒนาแอปสำหรับอุปกรณ์สองจอ | lew | 12 February 2020 - 01:13 | [
"Windows 10X",
"Windows",
"Microsoft",
"Surface Duo",
"Surface Neo",
"Windows 10"
] | ไมโครซอฟท์จัดงาน Microsoft 365 Developer Day: Dual-screen experiences นำเสนอเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สองจอไม่ว่าจะเป็น Windows 10X ที่จะรันบน Surface Neo หรือโทรศัพท์ Surface Duo ที่รันแอนดรอยด์ พร้อมกับประกาศปล่อยอีมูเลเตอร์ของ Windows 10X ให้ดาวน์โหลด
Windows 10X จะจำลองสภาพแวดล้อมสำหรับแอปแต่ละตัวเป็นคอนเทนเนอร์แยกจากกัน อย่างไรก็ตาม คอนเทนเนอร์สำหรับแอปพลิเคชั่นดั้งเดิมหรือ Win32 นั้นจะมีคอนเทนเนอร์เดียวทั้งระบบและทุกโปรแกรมจะใช้งานร่วมกัน
นอกจาก Windows 10X แล้วในงานนี้ไมโครซอฟท์ยังแนะนำการพัฒนาแอปสำหรับอุปกรณ์สองจอ โดยมี 3 ประเด็นได้แก่
พื้นที่แสดงผลเพิ่มมากขึ้น แอปต้องใช้งานสองหน้าจอได้เต็มที่ เช่นการขยายสองจอให้รวมพื้นที่กัน หรือแสดงเป็นหน้าแบบหนังสือ
มีจุดสนใจ (focused screen) แอปอาจจะแสดงข้อมูสำคัญไว้อีกหน้าจอหนึ่ง แล้วแสดงข้อมูลเสริมหรือชุดเครื่องมือไว้อีกหน้าจอ
แอปทำงานเชื่อมต่อกัน ตัวแอปสามารถทำงานร่วมกับอีกแอปที่อาจจะรันอยู่บนอีกจอได้ หรือแอปเดียวกันอาจจะแยกงานออกเป็นสองส่วนเพื่อทำงานสองจอ เช่น การตอบอีเมลและอ่านอีเมลที่ผ่านมา
อุปกรณ์สองหน้าจอของจริงน่าจะวางขายปลายปีนี้ การเปิดให้นักพัฒนามาเล่นก่อนก็เป็นโอกาสสำหรับการทดสอบแอปล่วงหน้าให้แน่ใจว่าทำงานได้ดีเมื่ออุปกรณ์ออกมาจริง
ที่มา - Windows Blog |
SOLIDWORKS เปิด 3 แพ็กเกจใหม่สำหรับออกแบบเชิงวิศวกรรม ทำงานผ่านคลาวด์ได้ | sunnywalker | 12 February 2020 - 00:11 | [
"SOLIDWORKS",
"Engineering",
"Cloud"
] | SOLIDWORKS คือซอฟต์แวร์ออกแบบเชิงวิศวกรรมและอุตสาหกรรม ล่าสุดทาง Dassault Systèmes ผู้พัฒนาได้จัดงาน 3DEXPERIENCE FORUM 2020 ที่แนชวิลล์, รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ ซึ่ง Blognone ได้เข้าร่วมงานด้วย โดยในงานแถลงข่าวได้ประกาศอัพเดตแพ็กเกจ 3DEXPERIENCE platform เสียใหม่
การเปิดตัว 3 แพ็กเกจใหม่เป็นทางเลือกให้บุคคลและบริษัทที่ออกแบบ CAD (computer-aided design) รวมโปรแกรมออกแบบและความสามารถการเข้าถึงแหล่งข้อมูลชุดออกแบบสามมิติไว้ด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 3 ระดับคือ Standard, Professional และ Premium
แต่ละแพ็กเกจมีโปรแกรมยืนพื้นคือ
3D Creator โซลูชันการสร้างแบบจำลอง 3 มิติที่ช่วยให้นักออกแบบและวิศวกรสามารถสร้างตรวจสอบและประเมินโมเดล 3 มิติได้
ENOVIA หรือ Collaborative Design for SOLIDWORKS ซอฟต์แวร์ด้านการจำลองโมเดลทางธุรกิจ (business modeling) และการวางแผนการทำงานร่วมกัน
Collaborative Industry Innovator จัดการการทำงานร่วมกันสำหรับอุตสาหกรรมใหญ่และจัดเก็บทรัพย์สินทางปัญญา ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดขององค์กรรวมถึงข้อมูลการออกแบบ CAD จากหลายแห่งไว้ในที่เดียว
Collaborative Business Innovator ตัวช่วยจัดการธุรกิจ ให้มีส่วนร่วมกันหลายฝ่ายทั้งพนักงาน หุ้นส่วน ลูกค้า
ส่วนแพ็กเกจ Professional และ Premium ก็จะมีโปรแกรมอื่นเพิ่มเข้ามาคือ 3D Sculptor การออกแบบโมเดลสามมิติที่มีรูปทรงและดีไซน์ซับซ้อน และ SOLIDWORKS Simulation Designer ซอฟต์แวร์สร้างระบบซิมูเลชัน จำลองการทำงานของโมเดลเพื่อตรวจสอบการทำงานในโลกเสมือน ก่อนนำไปสร้างชิ้นงานจริง
ปัจจุบันผู้ใช้งาน SOLIDWORKS สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์คือ 3DEXPERIENCE WORKS (เทียบได้กับ Creative Cloud ของ Adobe) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวโซลูชั่นคลาวด์ไปเมื่อปี 2018 และซื้อเป็นโปรแกรมแยก desktop app ได้เช่นกัน
บนแพลตฟอร์มจะรวมซอฟต์แวร์ทุกอย่างของ SOLIDWORKS เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งบริษัทก็สามารถเลือกซื้อแต่ละโปรแกรมให้เข้ากับการใช้งานในอุตสาหกรรมตัวเอง ส่วนแพ็กเกจใหม่สามอย่างข้างต้น ก็เป็นทางเลือกมัดห่อรวมกันให้ซื้อได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน SOLIDWORKS ภายใต้บริษัท Dassault Systèmes จะขายซอฟต์แวร์ผ่านตัวแทนจำหน่ายเสียส่วนใหญ่ กลุ่มลูกค้าในไทยเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ และยังมีตัวอย่างลูกค้าอื่นในไทยเช่น บริษัทหุ่นยนต์ BRAINWORKS เป็นต้น
แม้จะเป็นบริการคลาวด์จ่ายตามจริง แต่บริษัทไม่ได้เปิดเผยราคาแต่ละแพ็กเกจแต่อย่างใด โดยราคาที่เปิดเผยสำหรับ 3DEXPERIENCE platform ตอนนี้มีเพียงราคาทดลองใช้งาน 3 เดือนที่ 339 ดอลลาร์
ที่มา - Dassault Systèmes |
Apple เข้าร่วม FIDO Alliance เพื่อผลักดันมาตรฐานยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยกว่ารหัสผ่าน | nutmos | 11 February 2020 - 22:43 | [
"Apple",
"FIDO",
"Security",
"Authentication"
] | FIDO Alliance กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่เน้นการหาระบบทดแทนรหัสผ่านได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตอนนี้ Apple ได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเป็นสมาชิกระดับบอร์ด (Board Level Members) ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ Amazon, Arm, Facebook, Google, Intel, Lenovo, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอื่น ๆ
แนวคิดของกลุ่ม FIDO คือการสร้างมาตรฐานกลางเพื่อการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยกว่าการใช้รหัสผ่าน เนื่องจากปัจจุบันรหัสผ่านนั้นเป็นระบบการยืนยันตัวตนรูปแบบเก่าที่มีจุดอ่อนหลายข้อ แต่ก็ยังไม่มีมาตรฐานกลางที่จะมาเสริมหรือทดแทนการยืนยันตัวตนแบบรหัสผ่านได้ดีพอ
การที่ Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เข้าร่วมกับ FIDO อีกราย เป็นสัญญาณที่ดีเพื่อผลักดันมาตรฐานกลางที่ออกโดย FIDO ให้ใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ที่มา - FIDO Alliance, AppleInsider, 9to5Mac
ภาพจาก FIDO Alliance |
Word, Excel และ PowerPoint ออกอัพเดตบน iOS ปรับโฉมใหม่ไปใช้ Fluent Design | nutmos | 11 February 2020 - 20:17 | [
"Microsoft Office",
"Mobile App",
"Microsoft Word",
"Excel",
"PowerPoint",
"Microsoft"
] | Microsoft ออกอัพเดตแอปในกลุ่ม Office บนมือถือสำหรับ iOS และ iPadOS สามแอป คือ Word, Excel และ PowerPoint ซึ่งรอบนี้เป็นการรีดีไซน์ตัวแอปใหม่ทั้งหมด แต่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์ใหม่
ดีไซน์ใหม่ของ Microsoft Office เป็นการออกแบบตามแนวทางของ Microsoft ที่ชื่อว่า Fluent Design ที่เน้นการทำงานแบบง่าย รวดเร็ว และสวยงาม ซึ่ง Microsoft เริ่มทยอยอัพเดตแอปของตัวเองให้ใช้ดีไซน์รูปแบบใหม่นี้อยู่เรื่อย ๆ
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นจุดเด่นในครั้งนี้ เป็นฟังก์ชัน XLOOKUP ของ Excel ที่จะนำมาใช้แทน VLOOKUP และ HLOOKUP โดยฟีเจอร์นี้ได้เริ่มทดสอบมาสักระยะหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ XLOOKUP ก็เข้าสู่สถานะ GA พร้อมใช้งานแล้ว
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มาพร้อมอัพเดตครั้งนี้ เช่น ระบบอ่านและตอบคอมเมนท์จากอีเมลโดยตรงบน Excel และ Alt Text pane แบบใหม่ สามารถใส่แคปชั่นลงในช่องคำอธิบาย หรือจะกำหนดให้ element นั้นเป็นสิ่งตกแต่งในชิ้นงานก็ได้
ที่มา - MSPowerUser, Microsoft, Engadget
ภาพจาก Microsoft |
Cloud Gaming แพลตฟอร์มเกมยุคหน้าที่อาจทำให้ไมโครซอฟท์กลับมาครองตลาดเกม | nismod | 11 February 2020 - 14:53 | [
"Xbox",
"PlayStation",
"Stadia",
"Gaming",
"Cloud Gaming",
"Special Report"
] | ปี 2019 ที่ผ่านมาอาจเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการเกม จากการเปิดตัวแพลตฟอร์มการให้บริการเกมผ่านคลาวด์ Stadia ของกูเกิลและ Project xCloud ของไมโครซอฟท์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน
อันที่จริงแนวคิดของ Stadia หรือ xCloud ไม่ใช่ของใหม่ เพราะโซนี่่เองก็มีบริการลักษณะเดียวกันมาสักพักแล้ว แต่การมาถึงของ Stadia และ xCloud สร้างแรงกระเพื่อมในวงการเกมและทำให้ Cloud Gaming ถูกพูดถึงมากขึ้นมาก
หากมองในระยะยาวที่ Cloud Gaming อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มเล่นเกมในยุคหลังคอนโซล กลับเป็นไมโครซอฟท์ที่มีความได้เปรียบที่สุดในตอนนี้
บทความนี้จะพาไปสำรวจสถานการณ์ Cloud Gaming พร้อมกับการมองอนาคตว่าทำไมไมโครซอฟท์ถึงกุมความได้เปรียบเอาไว้ตั้งแต่วันนี้แล้ว
จุดเริ่มต้นของคลาวด์เกมมิ่งกับทศวรรษที่สาบสูญ
ไอเดียคลาวด์เกมมิ่ง ถูกนำเสนอมาตั้งแต่งาน E3 ปี 2000 ที่โชว์เดโมการสตรีมเกมจากพีซีไปเล่นบนอุปกรณ์ handheld ผ่าน Wi-Fi ของ G-Cluster ก่อนจะให้บริการคลาวด์เกมมิ่งได้จริงในปี 2013 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ช่วงทศวรรษ 2000s นอกจาก G-Cluster ยังมี Crytek สตูดิโอพัฒนา Crysis ที่เคยสนใจพัฒนาเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน Cevat Yerli ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอเคยเปิดเผยว่า Crytek ศึกษาวิจัยเทคโนโลยีคลาวด์เกมมิ่งในปี 2005 แต่พับโครงการไปในปี 2007 เพราะเห็นข้อจำกัดเรื่องการสเกลเพื่อลดต้นทุน (economic of scale) และปัญหาอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่พร้อม
กว่าบริการคลาวด์เกมมิ่งจะออกมาถึงมือผู้บริโภคต้องรอถึงปี 2010 ด้วยบริการจาก OnLive ที่เปิดให้เล่นบนพีซี ตามด้วยไมโครคอนโซลแยกสำหรับต่อกับทีวี และรองรับบน iOS/Android ในภายหลัง
แม้รีวิวในช่วงแรก ๆ ของ OnLive ออกมาดี แต่สุดท้าย OnLive ก็ไปไม่รอด เพราะไม่สามารถทำเงินได้ ต้องประกาศล้มละลายในปี 2012 และจบด้วยการขายสินทรัพย์และสิทธิบัตรทั้งหมดให้ Sony Interactive Entertainment ในปี 2015
โซนี่่ยังมี GaiKai บริการคลาวด์เกมมิ่งและสตรีมเกม ที่ถูกซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2012 เมื่อรวมมันเข้ากับเทคโนโลยีของ OnLive กลายมาเป็นบริการ PlayStation Now ในปี 2015 (Remote Play บน PS4 ก็เป็นเทคโนโลยีของ GaiKai นี่แหละ)
อีกบริษัทที่ทดลองเปิดบริการคลาวด์เกมมิ่งในช่วงไล่เลี่ยกันคือ GeForce Now ของ NVIDIA ที่เพิ่งปลดสถานะเบต้าไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
แม้ไอเดียคลาวด์เกมมิ่งเริ่มเกิดมาตั้งแต่ปี 2000 แต่กว่าจะเกิดได้แบบแบบจริงจังต้องรอถึงปี 2014-2015 สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่พร้อม รวมถึงไม่มีโมเดลธุรกิจที่จะทำกำไรจริง ๆ จัง ๆ จากการให้บริการในลักษณะนี้
การหลงทางของ PlayStation Now เพราะคลาวด์ไม่ใช่จุดแข็งของโซนี่
แม้โซนี่จะเปิดตัวบริการคลาวด์เกมมิ่งก่อนใครเพื่อน แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาโซนี่ไม่ค่อยจริงจังและผลักดัน PlayStation Now เท่าไหร่นัก ในแง่การตลาดไม่ค่อยโปรโมท ในแง่ประเทศที่ให้บริการก็มีแค่ 19 ประเทศ
ในแง่ของคอนเทนต์เกมยิ่งเห็นชัด เพราะโซนี่ไม่เคยเอาเกมเอ็กคลูซีฟดัง ๆ ที่เป็นพระเอกของตัวเองมาให้บริการบน PlayStation Now เลย
ในช่วงแรก เกมบน PlayStation Now มีแต่เกมเก่า ๆ บน PS2, PS3 เสียส่วนใหญ่ และต้องรอถึงราวกลางปี 2017 กว่าโซนี่จะเพิ่มเกมดังและใหม่กว่าเข้าไปในคลัง (แต่ก็ยังเก่าอยู่ดี) เช่น God of War 3 Remastered, Saints Row IV: Re-Elected, WWE 2K16, Tropico 5 ส่วนซีรีส์เกมเอ็กคลูซีฟดัง ๆ อย่าง Uncharted 4, God of War, Horizon Zero Dawn, Spider-Man บน PS4 กลับไม่เคยปรากฎในคลัง PlayStation Now เลย
โซนี่เพิ่งเริ่มขยับและเปลี่ยนท่าทีเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา (ก่อน Stadia เปิดให้บริการไม่นาน) โดยนำเกมอย่าง God of War, Uncharted 4 และ GTA V มาให้บริการ
หากมองจากมุมของโซนี่ ก็ค่อนข้างเข้าใจได้ เพราะโมเดลธุรกิจหลักของ Sony Interactive Entertainment คือขายฮาร์ดแวร์คอนโซล PS4 โดยมีตัวขับเคลื่อนคือเกมเอ็กคลูซีฟหัวใหญ่ ๆ ที่โซนี่ลงทุนไปมาก ทั้งเกมจากสตูดิโอภายใน หรือการไปจ่ายเงินลงทุนให้สตูดิโอนอกทำเกม และวางขายแบบเอ็กคลูซีฟ 1 ปี (เช่น Detroit: Become Human หรือ Death Stranding) การนำเกมดังๆ มาให้เล่นบน PlayStation Now จึงเป็นการแย่งฐานลูกค้าเดียวกันกับการขายเกมแบบแผ่น
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ PlayStation Now เป็นแค่บริการเสริมให้กับคนที่ซื้อ PS4 เท่านั้น (แม้ในภายหลังจะรอบรับบนพีซีก็ตาม) ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานอย่างคลาวด์หรือศูนย์ข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการให้บริการคลาวด์เกมมิ่ง ก็ไม่ใช่จุดแข็งของโซนี่เลย ทำให้โซนี่เลยต้องมาพึ่งใบบุญไมโครซอฟท์ในท้ายที่สุด
ด้วยเหตุผลนี้เอง แม้ PlayStation Now มาก่อนใครเพื่อน แต่ยังเหลือพื้นที่เอาไว้ให้ Stadia และ xCloud ที่มาทีหลัง แถมอาจสร้างแรงกระเพื่อมจนกระทบกับธุรกิจเกมของโซนี่ในระยะยาวก็ได้
แพลตฟอร์มเกมยุคหน้าที่ไมโครซอฟท์มีภาษีดีที่สุด
Stadia ของกูเกิลที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายปีที่แล้ว กลายเป็นเหมือนภาพกลับของโซนี่ในทันที เพราะกูเกิลไม่มีฮาร์ดแวร์คอนโซลเป็นของตัวเอง ไม่มีสตูดิโอเกมเป็นของตัวเอง จุดแข็งของกูเกิล มีเพียงเรื่องเทคโนโลยีคลาวด์ เทคโนโลยีสตรีมมิ่งและการวางศูนย์ข้อมูลของตัวเองอยู่ทั่วโลก
ปัญหาของ Stadia ณ ตอนนี้มีอยู่ 2 อย่างคือความหน่วง (latency) เวลาควบคุมเกม ที่เกิดจากข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างของเครือข่าย ซึ่งปัญหานี้ กูเกิลน่าจะแก้ได้ในระยะเวลาไม่นาน
ส่วนปัญหาที่ 2 เป็นเรื่องของเกมบน Stadia ที่มีน้อยและสามารถหาเล่นจากที่อื่นได้ ทางแก้ก็หนีไม่พ้นการสร้างเกมระดับ AAA แบบเอ็กคลูซีฟขึ้นมาในโมเดลเดียวกับโซนี่ ไม่ว่าจะจากสตูดิโอของตัวเอง (ที่กูเกิลเริ่มซื้อมาแล้ว) หรือจะจ่ายเงินลงทุนให้สตูดิโอภายนอกก็ได้
เมื่อพิจารณาข้อจำกัดของทั้งโซนี่และกูเกิล กลายเป็นว่าไมโครซอฟท์ ณ ตอนนี้กลับมีพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะโครงสร้างพื้นฐานหรือคลาวด์ (Azure) ฮาร์ดแวร์ (Xbox) และสตูดิโอเกม (Xbox Game Studios) ที่ตอนนี้มีสตูดิโอย่อยในสังกัดมากถึง 15 สตูดิโอ และน่าจะเพิ่มขึ้นอีก
ในแง่ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และบริการไมโครซอฟท์ก็ตอบโจทย์เกมเมอร์ได้ครอบคลุมกว่าด้วย โดยผมแบ่งเกมเมอร์คอนโซลเป็น 3 กลุ่ม
ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ที่เน้นเล่นเกมใหม่ ซื้อเกมวันแรก (day-one) แบบซื้อขาด เครื่องคอนโซลต้องทรงพลัง
ไมโครซอฟท์มี Xbox One X หรือ Xbox Series X ตอบโจทย์
โซนี่มี PlayStation 4 Pro / PlayStation 5 Pro
กูเกิล ไม่มี
เกมเมอร์ทั่วไป ซื้อเกมทั้งแบบวันแรก, รอลดราคาไปจนถึงเล่นแบบ subscription กราฟิกเครื่องขอให้เล่นได้ลื่นเป็นพอ
ไมโครซอฟท์มี Xbox One S หรือ Xbox รุ่นใหม่ที่ราคาถูก พ่วงไปด้วย Xbox Game Pass บริการ subscription ที่ไมโครซอฟท์มีนโยบายส่งเกมใหม่ให้เล่นตั้งแต่วันแรกด้วย
โซนี่มี PlayStation 4 Slim / PlayStation 5 Slim ที่อาจใช้คู่กับ PlayStation Now แต่แทบไม่มีเกมใหม่หรือเกมเด่นของตัวเอง
กูเกิล ไม่มี
คนเล่นเกมแบบ casual ว่างก็เล่น ไม่ได้ติดว่าจะต้องมีคอนโซล ไม่ได้อยากเล่นทุกเกม แต่บางครั้งอาจอยากเล่นเกม AAA แบบเพื่อนๆ บ้าง คลาวด์เกมมิ่งเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้
ไมโครซอฟท์มี xCloud
โซนี่มี PlayStation Now
กูเกิลมี Stadia
จะเห็นว่าไมโครซอฟท์รับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่คอนโซลกราฟิกแรง ๆ คอนโซลกราฟิกธรรมดา บริการ subscription ที่มีเกมใหม่ให้เล่นตลอดเวลา และคลาวด์เกมมิ่งอย่าง xCloud สำหรับคนที่ไม่มีคอนโซล การบ้านอย่างเดียวของไมโครซอฟท์คือเพิ่มเกมเอ็กคลูซีฟในคลังของตัวเองเท่านั้น ซึ่งไมโครซอฟท์ก็เริ่มเดินเกมนี้แล้ว ทั้งการพัฒนาเกมเอง และการจ่ายเงินให้ค่ายเกมเพื่อดึงเกมเด่นมาให้เล่นบน Xbox Game Pass หรือ xCloud ตั้งแต่วันแรกที่วางขาย
ขณะที่โซนี่แม้เด่นเรื่องคอนโซล แต่ PlayStation Now ยังสู้คู่แข่งไม่ได้ในแง่แพลตฟอร์มที่รองรับ เพราะเล่นได้แค่บนพีซีและ PS4 เท่านั้น (xCloud และ Stadia เล่นบนมือถือได้ด้วย) แถมโซนี่ไม่มีคลาวด์เป็นของตัวเอง
ผู้เล่นรายสุดท้ายคือกูเกิล แม้เราอาจมองได้ว่า Stadia เป็นบริการเช่าเครื่องคอนโซลเล่นผ่านคลาวด์ อาจตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ได้อยู่ แต่ปัญหาของ Stadia คือมีเกมในคลังค่อนข้างน้อย ต้องเสียเงินเพิ่มซื้อซ้ำซ้อน แถมกูเกิลยังไม่มีเกมเป็นของตัวเองที่จะดึงดูดผู้เล่นได้เลย ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมของกูเกิลยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น การจะตามไมโครซอฟท์หรือโซนี่ต้องใช้เวลาอีกนาน
ไมโครซอฟท์ยังมีไพ่เด็ดอีกอันที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา คือการหลอมรวมฮาร์ดแวร์อย่าง Xbox และพีซี Windows เข้าด้วยกัน ถึงแม้ยังเพิ่งเริ่มต้น แต่ในสายตาของไมโครซอฟท์ จะเล่นเกมบนพีซี คอนโซล หรือบนคลาวด์ ก็ได้ทั้งหมด ขอแค่ใช้บริการของไมโครซอฟท์ก็พอ
จุดอ่อนอย่างเดียวในอุตสาหกรรมเกมของไมโครซอฟท์ที่ผ่านมา (ถ้าไม่นับว่าทำเกมเอ็กคลูซีฟสู้โซนี่ไม่ได้ ซึ่งกำลังแก้ไข) คือเรื่องของการทำตลาด เพราะไมโครซอฟท์วางขายและให้บริการ Xbox ในแค่ 42 ประเทศ เทียบกับ Sony ที่ขายและให้บริการในกว่า 71 ประเทศ
ความได้เปรียบทั้งหมดของไมโครซอฟท์ถูกตอกย้ำโดยคำพูดของ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ที่มองว่าโซนี่และนินเทนโดไม่ใช่คู่แข่งสำคัญของไมโครซอฟท์อีกต่อไปแล้ว เพราะทั้งคู่ไม่มีคลาวด์ของตัวเอง คู่แข่งในอนาคตอาจกลายเป็นกูเกิลและอเมซอนเสียมากกว่า ยิ่งชี้ว่าไมโครซอฟท์เองก็มองเห็นแล้วว่าตัวเองยืนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบกว่าคู่แข่งไปแล้ว
หากไมโครซอฟท์เดินเกมได้ครบหมดตามแผน วันหนึ่งเราอาจเห็นดีลโซนี่ขายธุรกิจ PlayStation ทั้งฮาร์ดแวร์และสตูดิโอให้ไมโครซอฟท์ก็เป็นได้ (จะเหลืออะไรในอารยธรรมนี้บ้าง) |
CIA เตรียมอัพเกรดระบบคลาวด์ครั้งใหญ่ มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ | mk | 11 February 2020 - 14:49 | [
"CIA",
"Cloud Computing",
"Government",
"Enterprise"
] | สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ หรือที่เราเรียกตามชื่อย่อว่า CIA มีข่าวว่าเตรียมอัพเกรดระบบคลาวด์ครั้งใหญ่ ในลักษณะเดียวกับโครงการ JEDI Cloud ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่เลือก Azure เหนือ AWS
โครการอัพเกรดคลาวด์ของ CIA อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชื่อ Commercial Cloud Enterprise (C2E) ที่ต้องการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทั้งระบบ โครงการนี้เริ่มวางแผนมาตั้งแต่ปี 2018 และจะประกาศจัดซื้อจัดจ้างภายในช่วงกลางปี 2020
คาดว่าโครงการนี้จะมีมูลค่าระดับหลายหมื่นล้านดอลลาร์ (tens of billions) และอาจเลือกผู้ชนะหลายราย แทนการเลือกผู้ชนะรายเดียวแบบโครงการ JEDI ที่สร้างความขัดแย้งอยู่ในขณะนี้
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก CIA Facebook |
Xerox ยังไม่ยอมแพ้ ขึ้นราคาเสนอซื้อ HP, เตรียมตั้งโต๊ะ Tender Offer ซื้อหุ้นจากรายย่อย | mk | 11 February 2020 - 14:09 | [
"Xerox",
"HP",
"Acquisition"
] | Xerox ยังไม่ยอมแพ้เรื่องการเสนอซื้อกิจการ HP แม้ข้อเสนอรอบก่อนโดนบอร์ดของ HP ปฏิเสธ
รอบนี้ Xerox กลับมาพร้อมข้อเสนอใหม่ ให้ราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมเสนอซื้อที่หุ้นละ 22 ดอลลาร์ เพิ่มเป็น 24 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของ HP ตามข้อเสนอของ Xerox อยู่ที่ 35 พันล้านดอลลาร์
Xerox บอกว่าข้อเสนอนี้ให้ราคาแพงกว่าราคาหุ้นเฉลี่ยของ HP ในรอบ 30 วันล่าสุด (หุ้นละ 17 ดอลลาร์) ถึง 41% และเป็นข้อเสนอที่ดีมากสำหรับผู้ถือหุ้นของ HP แล้ว (ขณะที่เขียนข่าว หุ้น HP ราคา 21.9 ดอลลาร์ มูลค่ากิจการ 31.8 พันล้านดอลลาร์)
Xerox ยังประกาศเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย (tender offer) ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ การเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย ถือเป็นหนึ่งในวิธีการซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร (hostile takeover) ที่ Xerox พยายามทำอยู่ หลังบอร์ดของ HP ไม่สนใจข้อเสนอเดิม ทางออกของ Xerox จึงเป็นการไล่เก็บหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยๆ เพื่อรวมเสียงเข้าไปโหวตเปลี่ยนบอร์ดในที่ประชุมผู้ถือหุ้นนั่นเอง
ที่มา - Xerox, Neowin
ภาพจาก Xerox |
BioWare เผย กำลังยกเครื่องเกม Anthem ครั้งใหญ่ แก้ปัญหาที่ฐานราก | mk | 11 February 2020 - 13:18 | [
"Anthem",
"Games",
"BioWare"
] | Casey Hudson ผู้จัดการใหญ่ของค่ายเกม BioWare เขียนบล็อกเล่าว่า BioWare กำลัง "ยกเครื่อง" เกม Anthem ใหม่ เพื่อแก้ปัญหามากมายของเกมนี้
Hudson บอกว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทีมงาน BioWare เน้นแก้ปัญหาเสถียรภาพของเกม และเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ อีก 3 ซีซัน แต่ทุกคนทราบดีว่าทำแค่นี้ไม่พอ เพราะ Anthem จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (ต้นฉบับใช้คำว่า substantial reinvention) ซึ่งหลังจากนี้ไป ทีมงานจะโฟกัสที่แก้ปัญหาระยะยาว แทนการออกเนื้อหาเสริมแบบสั้นๆ ส่วนรายละเอียดของเกมที่ยกเครื่องใหม่จะทยอยเปิดเผยให้แฟนๆ ทราบเป็นระยะ
ก่อนหน้านี้เราเคยมีเกมใหญ่ที่ล้มเหลว แต่ค่ายเกมกลับไปทำการบ้านใหม่ จนกลับมายิ่งใหญ่ได้คือ Final Fantasy XIV: A Realm Reborn
ที่มา - BioWare |
รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมย้ายพีซี 3.3 ล้านเครื่องไปใช้ลินุกซ์หลัง Windows 7 หมดซัพพอร์ต, เลิกใช้ ActiveX ปีนี้ | lew | 11 February 2020 - 12:54 | [
"South Korea",
"Linux"
] | รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มย้ายพีซีในรัฐบาลจำนวนถึง 3.3 ล้านเครื่องจากวินโดวส์ไปยังลินุกซ์ โดยจะใช้ 3 ดิสโทรแยกตามกระทรวงต่างๆ แต่ละดิสโทรมีบริษัทเกาหลีใต้เป็นผู้พัฒนา
กระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลือก Harmonica OS 3.0 ที่พัฒนาต่อมาจาก Ubuntu 18.04 และ Linux Mint พร้อมกับโปรแกรมที่พัฒนาในเกาหลีเองอีกชุดหนึ่ง
ไปรษณีย์เกาหลีใต้ปรับไปใช้ TmaxOS ที่ผูกเข้ากับบริการ Tmax CloudSpace พร้อมเบราว์เซอร์ ToGate ที่พัฒนาต่อจาก Chromium แต่มีฟีเจอร์สำคัญคือรองรับ ActiveX ที่ใช้งานอย่างหนักในเกาหลีใต้
หน่วยงานความมั่นคงบางส่วนจะใช้ Gooroom Cloud OS ที่คล้ายกับ Chrome OS
เป้าหมายของการปรับไปใช้ลินุกซ์ครั้งนี้คาดว่าจะปรับไปได้ 99% โดยไม่ได้บังคับทั้งหมด บางหน่วยงานที่จำเป็นต้องทำงานร่วมกับภายนอกก็ใช้วินโดวส์ต่อไปได้
ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของเกาหลีใต้คือมีการใช้เทคโนโลยี ActiveX ของไมโครซอฟท์อย่างหนัก โดยคาดว่าจะถอด ActiveX ออกทั้งหมดได้ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนแผนระยะยาวคือการปรับไปใช้บริการ desktop-as-a-service (DaaS) ที่เครื่องไคลเอนเป็นเพียงหน้าจอให้กับระบบปฎิบัติการที่รันบนคลาวด์ภายในองค์กร
ที่มา - ZDNet, Daum
ภาพโดย Big_Hearts |
โซนี่เผยมูลค่าสตูดิโอ Insomniac Games ที่ 229 ล้านเหรียญ จ่ายเงินสดเกือบทั้งหมด | nismod | 11 February 2020 - 12:15 | [
"PlayStation",
"Games",
"Sony"
] | เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Sony Interactive Entertainment ประกาศควบรวมสตูดิโอ Insomniac Games โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
ล่าสุดในรายงานผลประกอบการล่าสุด โซนี่เปิดเผยรายละเอียดว่ามูลค่าของ Insomniac ที่ซื้อมาอยู่ที่ 229 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจ่ายเป็นเงินสดเกือบทั้งหมดด้วย
Insomniac เข้ามาเป็นสตูดิโอลำดับที่ 14 ภายใต้ SIE Worldwide Studio
ที่มา - Polygon |
ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีเดือน ม.ค. เพิ่ม 61% ในขณะที่รถน้ำมันร่วง 17% | BlackMiracle | 11 February 2020 - 11:01 | [
"Germany",
"Electric Car",
"Automobile"
] | หน่วยงาน Kraftfahrt-Bundesamt หรือ KBA ของเยอรมนีมีหน้าที่รับจดทะเบียนรถยนต์ใหม่รวมถึงดูแลความปลอดภัยบนท้องถนน (เป็นหน่วยงานย่อยของกระทรวงคมนาคมอีกที) ได้รายงานตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเยอรมนีเดือนมกราคม 2020 ที่ค่อนข้างน่าสนใจ
KBA ระบุว่าตลาดรถยนต์โดยรวมของประเทศถดถอยลง 7.3% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว (year-on-year) แต่ยอดจดทะเบียนของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 61% มีส่วนแบ่งตลาด 3% และรถไฮบริดเพิ่มขึ้น 103% มีส่วนแบ่งตลาด 12.5%
ด้านรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินมียอดจดทะเบียนลดลง 17% มีส่วนแบ่งตลาด 51.5% ส่วนรถดีเซลลดลง 12% มีส่วนแบ่งตลาด 32.6% แปลว่าประชาชนซื้อรถน้อยลงแต่ถ้าซื้อก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริดกันมากขึ้นนั่นเอง
สาเหตุที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นทั้งที่ตลาดโดยรวมถดถอย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะรัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศปรับเพิ่มเงินอุดหนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยหากรถมีราคาไม่เกิน 40,000 ยูโร หรือ 1.36 ล้านบาท จะได้รับเงินอุดหนุนถึง 6,000 ยูโร หรือ 2 แสนบาท (ก่อนหน้านี้ให้ 4,000 ยูโร) แต่หากไปซื้อรถที่ราคาเกิน 60,000 ยูโรจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนเลย
ที่มา - Automotive News Europe, Electrek |
หนังสือ Permanent Record ของ Snowden ในจีนถูกเซ็นเซอร์ส่วนพาดพิงไฟร์วอลล์จีน ชาวเน็ตแชร์ฉบับเต็มในเว็บ TemporaryRecord.com | lew | 11 February 2020 - 00:41 | [
"Edward Snowden",
"China",
"Internet Censorship"
] | หนังสือ Permanent Record ของ Edward Snowden เป็นหนังสือแสดงเบื้องหลังแนวคิดว่าทำไมเขาจึงเลือกที่จะเปิดโปงเอกสารจำนวนมากของ NSA ทำให้โลกได้รับรู้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีศักยภาพในการเข้าถึงข้อมูลได้มากเพียงใด ล่าสุดหนังสือฉบับนี้มีการวางขายฉบับแปลภาษาจีนในประเทศจีนแล้ว อย่างไรก็ตามฉบับที่ขายกลับถูกเซ็นเซอร์บางส่วนที่พาดพิงถึงไฟร์วอลล์ของรัฐบาลจีน หรือ The Great Firewall ออก วันนี้ Snowden ระบุว่ามีกลุ่มผู้อ่านมาช่วยกันแปลให้ครบถ้วนแล้วแจกจ่ายฟรี โดยแจกจ่ายบนเว็บ TemporaryRecord.com
หนังสือ 爱德华·斯诺登《永久记录》แจกจ่ายเป็นไฟล์ PDF, ไฟล์ .torrent, และ magnet link
ผู้โพสลิงก์ร่วมแชร์หนังสือเล่มนี้ เช่น Ai Weiwei ศิลปินชาวจีน และตัว Snowden เองก็ออกมาสนับสนุนให้แชร์ออกไปให้กว้างที่สุดโดยทวีตทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน
ที่มา - @Snowden |
Slack ได้ลูกค้ารายใหญ่ IBM ทั้งองค์กร พนักงาน 350,000 คนจะย้ายมาใช้ Slack ทั้งหมด | mk | 10 February 2020 - 21:47 | [
"Slack",
"IBM",
"Enterprise"
] | Slack ประกาศเซ็นสัญญาลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท คือ IBM ที่จะย้ายพนักงาน 350,000 คนทั่วโลกมาใช้ Slack กันทั้งบริษัท (ตอนนี้ย้ายมาแล้ว 300,000 คน เหลืออีก 50,000 คน)
ก่อนหน้านี้ IBM ใช้ Slack กันอยู่บ้างแล้วแต่เป็นแค่บางทีมหรือบางฝ่ายเท่านั้น แต่เมื่อปีที่แล้ว IBM ตัดสินใจย้ายระบบแชทภายในมาอยู่บน Slack ทั้งหมดเพื่อปรับปรุงเครื่องมือสื่อสารภายในให้ทันสมัย
Konrad Lagard ผู้บริหารที่ดูแลระบบไอทีของ IBM ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุผลที่ IBM เลือก Slack ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า "พนักงานชอบใช้" ในแง่การตัดสินใจว่าจะใช้อะไรเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ในทางปฏิบัติก็เจอข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ช่วงแรกๆ นั้น Slack รองรับจำนวนพนักงานสูงสุดแค่ 2,000 คน เทียบกันไม่ได้เลยกับจำนวนพนักงานของ IBM ทั้งหมด หรือ การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของ IBM ที่ค่อนข้างซับซ้อน
Stewart Butterfield ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Slack บอกว่าตอนที่เขียน Slack ขึ้นครั้งแรกก็ไม่เคยจินตนาการว่าจะมีองค์กรใหญ่ระดับ IBM มาใช้เหมือนกัน และ Slack ก็ยินดีปรับตัวตามความต้องการของ IBM มาเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันนี้ที่ IBM ทั้งองค์กรใช้ Slack
การที่ IBM เลือกใช้ Slack ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ Slack ที่สามารถดึงลูกค้าองค์กรใหญ่ระดับนี้มาได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่ Slack กำลังต่อสู้กับ Microsoft Teams อย่างดุเดือด และไมโครซอฟท์มีประสบการณ์กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เยอะกว่ามาก
ที่มา - Business Insider, ภาพจาก Slack |
กูเกิลกำลังเพิ่ม Ecosia เสิร์ชเอนจินรักโลกเป็นทางเลือกค้นหาเว็บใหม่ใน Chrome | Job_The_Gamer | 10 February 2020 - 21:43 | [
"Search Engine",
"Chrome",
"Google"
] | หลังจากที่กูเกิลได้เพิ่ม DuckDuckGo เข้ามาเป็นเสิร์ชเอนจินทางเลือกใน Chrome ไปเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้ทางบริษัทก็ได้เริ่มอัพเดตตัวเลือกเสิร์ชเอนจินที่มีใช้งานแบบเงียบๆ อีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นคราวของ Ecosia เสิร์ชเอนจินที่มีเป้าหมายในการสร้างรายได้เพื่อจุดประสงค์ที่ต่างจากเจ้าอื่นๆ ซึ่งนั่นก็คือการฟื้นฟูป่าทั่วโลก
โดยกำไรจากการโฆษณาผ่านเสิร์ชเอนจินที่ทาง Ecosia ได้ จะถูกนำไปบริจาคเพื่อสนับสนุนการปลูกต้นไม้ผ่านองค์กรท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตรซึ่งทำกิจกรรมฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ปัจจุบัน Ecosia ได้ให้เงินทุนเพื่อสนับสนุนการปลูกต้นไม้ไปแล้วถึง 80 กว่าล้านต้น
กูเกิลได้ทดลองเพิ่ม Ecosia เข้ามาเป็นตัวเลือกใน Chrome เวอร์ชัน 81 บน Canary/Dev Channel เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ซึ่งส่งผลให้ MS Edge Chromium ได้รับตัวเลือกนี้เช่นกัน) คาดว่าผู้ใช้ทั่วไปที่สนใจจะสามารถเลือกใช้งานได้จากการตั้งค่าที่เมนู Settings > Search Engines เมื่อ Chrome เวอร์ชัน 81 ออกรุ่นจริง
อนึ่ง เอนจินค้นหาเบื้องหลังที่ Ecosia ใช้คือ Bing ของไมโครซอฟท์ เพราะฉะนั้นอาจใช้กับคำค้นที่เป็นภาษาไทยได้ไม่ถูกใจเท่าเสิร์ชเอนจินเจ้าตลาดนะครับ
ที่มา - MSPoweruser, Techdows |
ผู้เขียนบทรางวัลออสการ์ปีนี้ เสนอให้ Apple เปลี่ยนคีย์บอร์ด เนื่องจากใช้งานแย่กว่าบนพีซี | arjin | 10 February 2020 - 19:49 | [
"Oscar",
"Apple",
"Keyboard",
"Macbook"
] | Taika Waititi นักแสดง, ผู้อำนวยการ และนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในปีนี้ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก Jojo Rabbit ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลังรับรางวัล โดยเมื่อถูกถามว่าผู้เขียนบทควรเรียกร้องอะไรจากผู้ผลิตภาพยนตร์ คำตอบของเขาอาจจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย
เพราะเขาบอกว่าแอปเปิลควรแก้ปัญหาคีย์บอร์ด เนื่องจากมันแทบจะใช้เขียนบทไม่ได้เลย คุณภาพมันแย่ลง ทำให้บรรดานักเขียนบทต้องหันกลับไปใช้พีซีแทน เนื่องจากคีย์บอร์ดพีซีมีการตอบสนองที่ดีกว่า
นอกจากนี้เขายังบอกว่าการใช้คีย์บอร์ดแอปเปิลส่งผลต่อไหล่ และอาการปวดต่าง ๆ ต่อร่างกาย เขาจึงเสนอให้สมาคมนักเขียนพยายามเรียกร้องให้แอปเปิลแก้ปัญหา ทั้งนี้ Waititi ไม่ได้บอกว่าคีย์บอร์ดรุ่นไหนของแอปเปิลที่ใช้แล้วมีปัญหา ก็อาจเดาไปเบื้องต้นว่าหมายถึงคีย์บอร์ด Butterfly ซึ่งตอนนี้แอปเปิลทยอยเปลี่ยนไปแล้วนั่นเอง
เพิ่มเติม: ผลงานเด่นของ Taika Waititi อีกชิ้นคือการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ Thor: Ragnarok
ที่มา: The Verge |
Sony เป็นบริษัทล่าสุดที่ประกาศงดเข้าร่วม MWC 2020 จากเหตุไวรัสโคโรนา | arjin | 10 February 2020 - 19:04 | [
"Sony",
"MWC",
"COVID-19"
] | โซนี่ เป็นบริษัทล่าสุดที่ประกาศงดเข้าร่วมงาน Mobile World Congress (MWC) ประจำปีนี้ ต่อจาก LG, Ericsson, NVIDIA และ Amazon ที่ประกาศไม่เข้าร่วมงานก่อนหน้านี้ จากเหตุไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยโซนี่ออกแถลงการณ์ระบุว่าบริษัทได้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ สื่อมวลชน ตลอดจนพนักงานของบริษัท จึงตัดสินใจงดเข้าร่วมงาน MWC ในปีนี้
ทั้งนี้ โซนี่จะแถลงข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ผ่านทางช่อง YouTube Xperia แทน
ที่มา: The Verge |
Visa ปรับค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ เพิ่มค่าธรรมเนียมเว็บอีคอมเมิร์ช ลดให้การศึกษาและอสังหาริมทรัพย์ | lew | 10 February 2020 - 19:00 | [
"Visa",
"Cashless"
] | สำนักข่าว Bloomberg อ้างเอกสารของ Visa ที่ไม่ได้เปิดเผยคนทั่วไปปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี โดยปรับตามประเภทธุรกิจ เช่น เว็บอีคอมเมิร์ชนั้นจะถูกขึ้นค่าธรรมเนียม ขณะที่ร้านค้าปลีกบางประเภท, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, และการศึกษา จะปรับลดค่าธรรมเนียมลง
การใช้งานออนไลน์ หรือ card-not-present จะปรับค่าธรรมเนียมสูงขึ้นทั้งหมด ส่งผลให้เว็บอีคอมเมิร์ชต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแพงขึ้น โดยบัตรพรีเมียมจะขึ้นค่าธรรมเนียมเป็น 2.6% จาก 2.5% แต่การซื้อของชำในร้านจะลดค่าธรรมเนียมลงจาก 2.3% เป็น 1.5% โดยอัตราเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า Visa ต้องการขยายการใช้งานบัตรเครดิตให้สูงขึ้นในธุรกิจที่อาจจะไม่ยอมรับบัตรมาก่อนหน้านี้
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ธุรกิจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการรับบัตรสูงมากโดยเฉลี่ย 2.2% ยอดรวมทะลุแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจในออสเตรเลียนั้นจ่ายค่าธรรมเนียมเฉลี่ยเพียง 0.8% เท่านั้น
ที่มา - Bloomberg
ภาพโดย multifacetedgirl |
Ofo อดีตแอปแชร์จักรยานดาวรุ่ง เปลี่ยนมาโฟกัสอีคอมเมิร์ซแทนแล้ว | arjin | 10 February 2020 - 18:14 | [
"Ofo",
"Bike",
"E-commerce"
] | มีรายงานว่า Ofo หนึ่งในสตาร์ทอัพแชร์จักรยานดาวรุ่งของจีน ที่ประสบปัญหาการเงิน ถูกลูกค้าเรียกร้องขอเงินมัดจำคืน แต่บริษัทพยายามให้ข้อเสนอเปลี่ยนเป็นซื้อสินค้าแทน ล่าสุดแอปของ Ofo จะปรับโฉมใหม่ท้งหมด
โดยในแอปเวอร์ชัน 4.0 นั้น Ofo เน้นไปที่อีคอมเมิร์ซ ระบุว่าเป็นแอปแชร์จักรยาน ที่ทุกการใช้จ่ายสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสำหรับซื้อสินค้าได้ ผ่านแพลตฟอร์มทั้ง JD.com, Tmall, Taobao และ Ele.me จึงดูเหมือนบริษัทมาเน้นที่อีคอมเมิร์ซมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานในจีนต่างรีวิวแอปเวอร์ชันนี้ทางลบ โดยบอกว่าบริษัทยังคงเลี่ยงการคืนเงินมัดจำ ด้วยการทำปุ่มให้ยืนยันเปลี่ยนเงินทั้งหมดเป็นแต้มสะสมสำหรับซื้อสินค้าแทน
ที่มา: TechNode |
เก็บไม่อยู่แล้ว ซัมซุงยิงโฆษณา Galaxy Z Flip มือถือพับได้แนวตั้งก่อนวันเปิดตัว | mk | 10 February 2020 - 14:25 | [
"Samsung Galaxy",
"Samsung",
"Mobile",
"Galaxy Z Flip"
] | หลังมีภาพหลุด Galaxy Z Flip ออกมาหลายรอบ ซัมซุงคงเลิกหวังเก็บความลับแล้วเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานแถลงข่าวของตัวเอง และหันมายิงโฆษณา Galaxy Z Flip ก่อนวันเปิดตัวมันซะเลย
ซัมซุงเลือกยิงโฆษณานี้ระหว่างงานประกาศรางวัลออสการ์เมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนรับชมทีวีสูงมากที่สุดช่วงหนึ่ง ในคลิปโฆษณาเป็นมือถือพับได้ที่ยังไม่ได้เผยชื่อรุ่น โชว์ความสามารถการพับหน้าจอ การตั้งจอเพื่อถ่ายภาพ และการแจ้งเตือนผ่านจอขนาดเล็กที่ด้านหน้า ก่อนจบด้วยการโปรยให้ติดตามงาน Galaxy Unpacked ต่อไป
ที่มา - XDA |
Amazon ถอนตัวจากงาน Mobile World Congress, Huawei ให้พนักงานกักตัวเองก่อนร่วมงานเพื่อยืนยันว่าไม่มีโรค | lew | 10 February 2020 - 12:51 | [
"MWC",
"Amazon",
"COVID-19"
] | Amazon ประกาศถอนตัวจากงาน Mobile World Congress (MWC) ปีนี้ นับเป็นบริษัทขนาดใหญ่บริษัทที่ 4 ต่อจาก LG, Ericsson, และ NVIDIA ที่งดเข้าร่วมงานจากเหตุไวรัสโคโรนา โดยแผนเดิมนั้น AWS จะเป็นเจ้าภาพงานสัมมนาเต็มวันในวันแรกของงาน
ทาง GSMA ยืนยันจัดงานต่อไปแม้จะมีบริษัทขนาดใหญ่ถอนตัวหลายราย ขณะที่บริษัทจากจีน เช่น Huawei และ ZTE ประกาศกักตัวพนักงานก่อนไปร่วมงาน 2 สัปดาห์
ที่ผ่านมามีชาวจีนร่วมงาน MWC ประมาณ 5,000-6,000 คน
ที่มา - South China Morning Post |
ปัญหามาอีก พบบั๊ก Windows 7 ไม่สามารถสั่งปิดเครื่องได้ เพราะไม่มี Permission | mk | 10 February 2020 - 10:17 | [
"Windows 7",
"Microsoft",
"Bug",
"Operating System"
] | มีผู้ใช้ Windows 7 หลายราย แจ้งปัญหาว่าไม่สามารถสั่งปิดเครื่องได้ โดยเจอข้อความแจ้งเตือน You don't have permission to shut down this computer
กลุ่มผู้ใช้ใน Reddit แนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น (workaround) ด้วยการสร้างบัญชีแอดมินใหม่อีกอัน สลับบัญชี แล้วใช้บัญชีนั้นสั่งปิดเครื่องแทน หรืออีกวิธีหนึ่งคือเข้าไปเปลี่ยนค่า "User Account Control: Run all administrators in Admin Approval Mode." ใน Registry (อ่านวิธีอย่างละเอียดได้ตามที่มา)
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าสาเหตุของบั๊กนี้เกิดจากอะไร และไมโครซอฟท์จะยังอัพเดตแพตช์แก้บั๊กนี้ให้หรือไม่ เพราะ Windows 7 หมดระยะซัพพอร์ตไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะออกแพตช์เพิ่มเติม เพื่อแก้บั๊กเรื่องภาพพื้นหลัง
ที่มา - Reddit, ZDNet |
Vodafone ประกาศแผนถอดอุปกรณ์ Huawei ออกจากโครงข่ายหลัก ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี | mk | 10 February 2020 - 09:12 | [
"Vodafone",
"Huawei",
"Telecom",
"United Kingdom"
] | Vodafone ประกาศแผนเริ่มย้ายอุปกรณ์เครือข่ายของ Huawei ออกจากโครงข่ายหลัก (core network) ในยุโรป ซึ่งต้องใช้เวลา 5 ปีถึงจะเสร็จสิ้น
เหตุผลที่ Vodafone ย้ายระบบเกิดจากกฎใหม่ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ของ Huawei กับโครงข่ายหลัก ส่วนโครงข่ายที่เป็น non-core ก็ไม่ให้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเกิน 35% ของเครือข่าย 5G ทั้งประเทศเพื่อป้องกันการผูกขาด
แผนการนี้จะใช้กับธุรกิจทั้งหมดของ Vodafone ในยุโรป โดย Nick Read ซีอีโอของ Vodafone ให้สัมภาษณ์ว่าต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีเพราะระบบมีความซับซ้อนสูงมาก แถมยังทำให้การให้บริการ 5G ต้องช้าออกไปอีก
งบประมาณทั้งหมดที่ Vodafone ใช้ย้ายระบบคือ 200 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท
ที่มา - Financial Times
ภาพจาก Flickr Vodafone |
Facebook ซื้อ Scape Technologies สตาร์ทอัพพัฒนาเทคโนโลยี computer vision ช่วยระบุตำแหน่ง | nutmos | 10 February 2020 - 09:10 | [
"Facebook",
"Acquisition"
] | Facebook เข้าซื้อบริษัท Scape Technologies สตาร์ทอัพด้าน computer vision จากลอนดอนที่พัฒนาเทคโนโลยีระบุตำแหน่งที่แม่นยำกว่า GPS
Scape Technologies ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 พัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ชื่อว่า Visual Positioning Service ที่พัฒนาอยู่บน computer vision โดยใช้ AI อ่านภาพจากกล้องเพื่อระบุสิ่งที่อยู่รอบข้าง ช่วยให้การระบุตำแหน่งแม่นยำกว่าการใช้ GPS เพียงอย่างเดียว ซึ่งเทคโนโลยีนี้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แอป AR, ระบบคมนาคมขนส่ง หรือหุ่นยนต์
Facebook เข้าซื้อหุ้นของ Scape Technologies ทั้งหมด 75% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัททันที
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก Scape Technologies |
งาน MWC 2020 ประกาศมาตรการจากไวรัสโคโรนา: เพิ่มเงื่อนไขผู้เดินทางจากจีน, รณรงค์งดจับมือ | arjin | 10 February 2020 - 07:25 | [
"MWC",
"Health",
"GSMA"
] | จากการที่หลายบริษัทประกาศไม่เข้าร่วมงาน Mobile World Congress 2020 ที่บาร์เซโลนาช่วงปลายเดือนนี้ เนื่องจากกังวลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ทาง GSMA ผู้จัดงาน ประกาศออกมาตรการดูแลผู้เข้าร่วมงานแล้ว
โดยผู้ที่เดินทางมาจากหูเป่ย์จะไม่รับอนุญาตให้เข้าร่วมงาน ส่วนผู้ที่เดินทางจากจีน จะต้องแสดงข้อมูลเช่น หนังสือเดินทาง หรือใบตรวจสุขภาพ ว่าได้ออกนอกประเทศจีนมาแล้วเกิน 14 วัน ส่วนภายในงานจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิติดตั้ง รวมทั้งขอให้ผู้ร่วมงานยืนยันว่าไม่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
นอกจากนี้ GSMA จะติดประกาศรณรงค์ตามจุดต่าง ๆ ภายในงาน เพื่อเพิ่มการรับรู้, เพิ่มทีมแพทย์ภายในงาน, เพิ่มระดับการรักษาความสะอาด, ปรับแผนการใช้ไมโครโฟนเพื่อความสะอาด, และออกนโยบายงดการจับมือระหว่างเจรจาในงานด้วย
ที่มา: GSMA |
เครื่องบิน Boeing 747 ของ British Airways ทำสถิติบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วที่สุดในย่าน subsonic | BlackMiracle | 10 February 2020 - 00:11 | [
"British Airways",
"Boeing",
"Flight"
] | เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เครื่องบิน Boeing 747-400 ของสายการบิน British Airways เที่ยวบิน BA112 จากท่าอากาศยาน John F. Kennedy เมืองนิวยอร์กไปท่าอากาศยาน Heathrow เมืองลอนดอน ได้ทำสถิติบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วที่สุดในย่านความเร็ว subsonic (ความเร็วต่ำกว่าเสียง) โดยทำความเร็วสูงสุดถึง 717 น็อต หรือราว 1,327 กม./ชม.
ปกติแล้วไฟลท์ดังกล่าวจะใช้เวลาบินราว 6 ชั่วโมง 13 นาที แต่ไฟลท์นี้ใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมง 56 นาที โดยตามรายงานระบุว่าช่วงเวลาที่เครื่องบินมาถึงลอนดอนก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พายุ Ciara เคลื่อนตัวเข้าเกาะอังกฤษพอดี เป็นเหตุให้เครื่องบินทำความเร็วได้สูงกว่าปกติจากกระแสลมของพายุ
นอกจากไฟลท์ BA112 แล้ว ยังมีไฟลท์ VS4 ของสายการบิน Virgin Atlantic ที่บินเส้นทางเดียวกันและทำความเร็วได้ใกล้เคียงกันแต่เป็นเครื่องบิน Airbus A350 โดยใช้เวลาบินทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง 57 นาที (ช้ากว่า BA112 เพียง 1 นาที) และไฟลท์ VS46 ที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 59 นาที
สถิติเดิมของเส้นทางนี้เป็นของสายการบิน Norwegian ทำไว้ที่ 5 ชั่วโมง 13 นาที เมื่อเดือนมกราคม 2018
อย่างไรก็ตาม พายุ Ciara ส่งผลกระทบต่อการบินแถบอังกฤษมาก โดยขณะนี้มีไฟลท์ของ British Airways ถูกยกเลิกไปแล้วอย่างน้อย 140 ไฟลท์ และมีเครื่องบินที่ลงจอดไม่ได้อีกจำนวนมาก
ย้ำว่าสถิติในข่าวนี้คือสถิติของความเร็วย่าน subsonic เท่านั้น โดยสถิติบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วที่สุดเป็นของเครื่องบิน Concorde ที่ 2 ชั่วโมง 53 นาที ทำไว้เมื่อปี 1996 โดยทำความเร็วสูงสุดที่ 2,172 กม./ชม.
ที่มา - CNN |
CoreOS ประกาศหยุดซัพพอร์ตเดือน พ.ค. 2020, ให้ย้ายไปใช้ Fedora CoreOS แทน | mk | 9 February 2020 - 21:06 | [
"CoreOS",
"Fedora",
"Linux",
"Container",
"Open Source",
"Red Hat"
] | CoreOS Container Linux (CL) ระบบปฏิบัติการลินุกซ์สำหรับคอนเทนเนอร์ ของบริษัท CoreOS เดิมที่ถูก Red Hat ซื้อกิจการเมื่อปี 2018 จะสิ้นอายุขัยในวันที่ 26 พฤษภาคม 2020
Red Hat ซื้อ CoreOS แล้วผนวกเอาดิสโทร Container Linux เข้ามารวมกับโครงการ Fedora กลายเป็น Fedora CoreOS (FCOS) ทำให้ตัว Container Linux ต้องหลีกทางให้กับดิสโทรใหม่
ตอนนี้ทีมงาน CoreOS ถอด Container Linux ออกจากหน้าอิมเมจของ AWS Marketplace แล้ว จากนั้นจะออกอัพเดตครั้งสุดท้ายให้ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2020 และปิดเซิร์ฟเวอร์อย่างถาวรในวันที่ 1 กันยายน
รายละเอียดเรื่องการย้าย OS อ่านได้จากเอกสารของ Fedora CoreOS
ที่มา - CoreOS |
ซีเกตเตรียมขายฮาร์ดดิสก์ขนาด 20TB ในปีนี้ | lew | 9 February 2020 - 19:13 | [
"Seagate",
"Storage"
] | ซีเกตระบุกับเว็บ ArsTechnica ว่าบริษัทเตรียมวางตลาดฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat Assisted Magnetic Recording (HAMR) ขนาด 20TB ภายในปีนี้ หลังจากบริษัทประกาศวิจัยเทคโนโลยี HAMR มาตั้งแต่ปี 2002
ประกาศของซีเกตครั้งนี้ใกล้เคียงกับ Western Digital ที่ประกาศวางขายฮาร์ดดิสก์ขนาด 20TB ภายในปีนี้เช่นกัน แม้ว่าทาง Western Digital นั้นจะส่งมอบฮาร์ดดิสก์ให้ลูกค้าบางรายไปก่อนแล้ว
ซีเกตเคยส่งมอบฮาร์ดดิสก์ขนาด 16TB ให้ลูกค้าไปทดสอบมาก่อนแล้ว โดยระบุว่าฮาร์ดดิสก์ HAMR นั้นควรทดแทนฮาร์ดดิสก์แบบเดิมได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาที่เท่าเทียมกัน และความเร็ว อย่างไรก็ดีทาง ArsTechnica เตือนว่าตัวฮาร์ดดิสก์ HAMR นั้นใช้เทคโนโลยี Shingled Magnetic Recording (SMR) ประกอบด้วย และที่ผ่านมาก็มีรายงานว่าฮาร์ดดิสก์ SMR นั้นมีประสิทธิภาพต่ำลงมากในบางกรณี
ที่มา - ArsTechnica
ภาพจากซีเกต |
[แก้ไขแล้ว] SCB Easy ล่มตั้งแต่ช่วงบ่ายสามโมงครึ่งที่ผ่านมา ทางธนาคารกำลังแก้ไข | lew | 9 February 2020 - 18:16 | [
"SCB",
"Availability"
] | ธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งลูกค้าว่าระบบมีปัญหาทั้ง SCB EASY, ตู้ ATM, และสาขาของธนาคาร โดยผมตรวจพบว่ามีการรายงานปัญหาครั้งแรกๆ เมื่อช่วงบ่ายสามโมงครึ่งที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ระยะเวลารวมระบบล่มนานกว่าสองชั่วโมงแล้ว
ผมทดสอบใช้งานผ่านแอป SCB EASY พบว่าเข้าไม่ได้เลย ขณะที่เว็บ scbeasy.com นั้นยังล็อกอินได้ และตรวจสอบยอดเงินได้ แต่โอนเงินไม่สำเร็จ
เหตุล่มครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองของธนาคารไทยพาณิชย์ในเดือนนี้
ที่มา - Facebook: SCB Thailand |
บริษัทฐานข้อมูล Snowflake ระดมทุนครั้งใหญ่ มูลค่าทะลุ 3.9 แสนล้านบาท, Salesforce ลงทุนด้วย | mk | 9 February 2020 - 17:00 | [
"Snowflake",
"Data Warehouse",
"Database",
"Startup",
"Salesforce",
"Enterprise"
] | Snowflake บริษัทซอฟต์แวร์ data warehouse บนคลาวด์ที่กำลังมาแรง ประกาศระดมทุนรอบใหม่ 479 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) ทำให้บริษัทมีมูลค่า 12.4 พันล้านดอลลาร์ (3.9 แสนล้านบาท) เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นสตาร์ตอัพสายองค์กรที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
Snowflake ก่อตั้งในปี 2012 โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน data warehouse จำนวน 3 คน (สองคนเคยทำงานกับ Oracle) บริษัทเรียกผลิตภัณฑ์ของตัวเองว่า Cloud Data Platform ที่ทำงานบนคลาวด์หลายยี่ห้อ (ปัจจุบันรองรับทั้ง AWS, Azure, GCP) และมีโมเดลคิดเงินแบบ as a service คือมีเฉพาะเวอร์ชันคลาวด์เท่านั้น จ่ายเท่าที่ใช้งานจริง และลดภาระการดูแลเซิร์ฟเวอร์ลง
ช่วงแรกของ Snowflake ได้ Bob Muglia อดีตหัวหน้าฝ่ายเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์มาเป็นซีอีโอจนถึงปี 2019 ส่วนซีอีโอคนปัจจุบัน Frank Slootman เคยเป็นซีอีโอของบริษัท ServiceNow มาก่อน ซึ่งเคยมีประสบการณ์พาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว
การระดมทุนของ Snowflake ในรอบนี้มีบริษัทลงทุน Dragoneer Investment Group เป็นนักลงทุนหลัก แต่มี Salesforce Ventures บริษัทลงทุนในเครือ Salesforce เข้าร่วมด้วย ทำให้ Snowflake กลายมาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Salesforce ทำตลาดร่วมกัน รวมถึงสร้างการคาดเดาว่า Salesforce สนใจซื้อกิจการ Snowflake ในระยะถัดไปด้วย (ต่อจากที่ซื้อ Tableau ไปเมื่อปี 2019)
ที่มา - CNBC, ZDNet |
กูเกิลปล่อยฟีเจอร์ call screening บล็อกสายสแปมอัตโนมัติ ให้ Pixel รุ่นเก่าทุกรุ่นแล้ว | BlackMiracle | 9 February 2020 - 16:55 | [
"Google Pixel 4",
"Google Pixel 3",
"Google Pixel 2",
"Google Pixel",
"Google"
] | ปัญหาสายสแปมโฆษณาหรือ robocalls ที่เป็นเทปอัดไว้นั้นเป็นปัญหาใหญ่ หลายๆ ครั้งเราต้องละความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่มารับสายเพื่อพบว่าเป็นโฆษณา
ตอนที่สมาร์ทโฟน Pixel 4 เปิดตัวก็มีฟีเจอร์ชื่อ Call Screening ติดมาด้วย โดยเมื่อมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก โทรศัพท์จะยังไม่ดังและใช้ Google Assistant รับสายแทนก่อน หากสายนั้นเป็นเทปที่อัดไว้ก็จะตัดสายทิ้งให้อัตโนมัติ แต่หากเป็นคนพูดจึงจะมีเสียงริงโทนดังออกมาพร้อมกับแสดงข้อความถอดคำพูดของบุคคลปลายสาย เพื่อให้เจ้าของเครื่องอ่านก่อนว่าจะรับสายนั้นหรือไม่
ภาพโดยกูเกิล
ล่าสุดกูเกิลเริ่มปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้ Pixel รุ่นเก่าแล้วโดยได้รับกันครบทุกรุ่นย้อนไปถึง Pixel รุ่นแรกเลยทีเดียว โดยต้องอัพเดตแอพโทรศัพท์เป็นเวอร์ชันเบต้าล่าสุดก่อน (สมัครได้ที่นี่) แต่ผู้ใช้ Pixel ในประเทศไทยก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวมีให้ใช้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ที่มา - Android Police |
Ericsson, NVIDIA ถอนตัวไม่เข้าร่วม MWC 2020 เพราะกลัวปัญหาไวรัสโคโรนา | mk | 9 February 2020 - 16:27 | [
"MWC",
"Ericsson",
"NVIDIA",
"Health",
"COVID-19"
] | เราเห็นข่าว LG ประกาศถอนตัวไม่เข้าร่วมงาน MWC 2020 เพราะกลัวไวรัสโคโรนาระบาด ไปแล้ว ล่าสุดมีบริษัทใหญ่อีก 2 รายคือ Ericsson และ NVIDIA ที่ประกาศถอนตัวแบบเดียวกัน
Ericsson บอกว่ากังวลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้า จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมงาน MWC 2020 ที่บาร์เซโลนา และเลือกจะจัดงานขนาดเล็กชื่อ Ericsson Unboxed เพื่อโชว์เทคโนโลยีในประเทศต่างๆ แทน - Ericsson
NVIDIA เป็นอีกบริษัทที่ไม่เข้าร่วม และให้เหตุผลเรื่องสุขภาพของพนักงานเช่นเดียวกัน โดยจะหาวิธ๊โชว์เทคโนโลยี AI, 5G, vRAN (virtualized radio access network) ผ่านช่องทางอื่นแทน - NVIDIA
ส่วนบริษัทอื่นๆ โดยเฉพาะบริษัทจีนอย่าง Huawei, ZTE, Oppo ยังยืนยันว่าจะร่วมงาน MWC แต่มีมาตรการเข้มงวดขึ้น เช่น ZTE ที่ประกาศคัดกรองพนักงานที่เข้าร่วมงาน หรือ Huawei บอกว่าจะไม่ใช้พนักงานจากประเทศจีนเลย
ด้านสมาคม GSMA ในฐานะผู้จัดงาน ยืนยันว่ายังจัดงานต่อไปตามแผนเดิม แต่เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย ความสะอาด และบุคลากรด้านสุขภาพมากขึ้น - GSMA
ที่มา - CNET |
ข้อมูลหลุด macOS Catalina รุ่น Beta อ้างถึงโค้ดเนมซีพียูจาก AMD | mk | 9 February 2020 - 10:46 | [
"AMD",
"Ryzen",
"Apple",
"macOS",
"Catalina",
"Leak"
] | บัญชีทวิตเตอร์ @_rogame ซึ่งเคยมีประวัติปล่อยข้อมูลหลุดสายแอปเปิลมาก่อน โพสต์ข้อมูลจากไฟล์ของระบบปฏิบัติการ macOS Catalina 10.15.4 Beta 1 ที่มีการอ้างถึงซีพียูจาก AMD ด้วย
ในโค้ดของ Catalina อ้างถึงโค้ดเนมของซีพียู AMD หลายตัว เช่น Raven Ridge (Ryzen 2000), Picasso (Ryzen 3000), Renoir (Ryzen 4000) รวมถึงซีพียูใหม่โค้ดเนม "Van Gogh" ที่ยังไม่เปิดตัวด้วย
ฝั่งของจีพียูอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลใช้จีพียู AMD อยู่แล้ว แต่ในโค้ดเนมที่หลุดออกมาก็มีอ้างถึงชื่อ Navi 12 และ Navi 21 ที่ยังไม่เปิดตัวด้วยเช่นกัน (คาดว่า Navi 21 คือจีพียูตัวที่จะใช้ในการ์ด Radeon RX 5900)
จากสายสัมพันธ์ของแอปเปิลและ AMD ที่มีมายาวนาน ก็อาจไม่น่าแปลกใจนักหากแอปเปิลทดลองใช้ซีพียูจาก AMD เป็นการภายใน ส่วนจะนำมาใช้ในสินค้ารุ่นผลิตจริงๆ หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่แฟนๆ ต้องลุ้นกันต่อไป
ที่มา - Reddit, Engadget |
Facebook ประกาศปิดแอพเวอร์ชัน Windows 10 แต่ Messenger ยังได้ไปต่อ | mk | 8 February 2020 - 22:18 | [
"Facebook",
"Windows 10"
] | หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า Facebook มีแอพเวอร์ชัน Windows 10 ให้ดาวน์โหลดบน Microsoft Store ด้วย และชะตากรรมของแอพที่คนใช้น้อยๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องเดากันยากนัก
ล่าสุด Facebook แจ้งเตือนผู้ใช้แอพเหล่านี้ว่าจะปิดแอพในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020 โดยแนะนำให้ใช้ Facebook ผ่านเว็บเบราว์เซอร์แทน ส่วนแอพ Messenger for Windows ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ที่มา - MSPoweruser |
นักพัฒนาสาย Java ย้ายไปใช้ OpenJDK มากขึ้น, Kotlin เริ่มนิยม, IntelliJ คือ IDE ยอดฮิต | mk | 8 February 2020 - 21:59 | [
"Java",
"OpenJDK",
"Kotlin",
"Programming",
"IntelliJ",
"IDE",
"Development"
] | Snyk บริษัทด้านค้นหาช่องโหว่ของซอร์สโค้ด ออกรายงานสำรวจข้อมูลของนักพัฒนาซอฟต์แวร์สาย Java จำนวนประมาณ 2,000 คน ประจำปี 2020 มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
ภาษา Kotlin ได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก ถึงแม้นักพัฒนา 86.9% ยังเขียนภาษา Java เป็นหลัก แต่ Kotlin ก็เติบโตจาก 2.4% เมื่อปีก่อนมาเป็น 5.5% และกลายเป็นภาษายอดนิยมอันดับสอง เหนือกว่า Clojure หรือ Scala แล้ว - อ้างอิง
นักพัฒนาจำนวนมากเริ่มย้ายหนีจาก Oracle JDK ที่เก็บเงิน ไปใช้ OpenJDK แทน โดยปีก่อนมีคนใช้ Oracle JDK 70% แต่ปีนี้ลดเหลือเพียง 34% - อ้างอิง
Java เวอร์ชันที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังเป็น Java 8 ที่ส่วนแบ่ง 64% ตามด้วย Java 11 ที่ 25% ส่วนเหตุผลหลักที่ยังไม่ย้ายคือยังโอเคกับ Java 8 อยู่ (51%) ตามด้วยต้นทุนในการย้ายเวอร์ชันเยอะเกินไป (32%)
ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (55%) บอกว่าจะเลือกใช้ Java ที่เป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) เท่านั้น มีเพียง 11% ที่บอกว่าจะใช้ Java เวอร์ชันล่าสุดเสมอ - อ้างอิง
IDE ที่นักพัฒนาสาย Java ใช้กันเยอะที่สุด IntelliJ IDEA นำแบบทิ้งห่างที่ 62% (นับทั้งตัวฟรีและเสียเงิน) ตามด้วย Eclipse IDE (20%), NetBeans (10%) ถ้าดูจากกราฟแสดงความนิยม จะเห็นว่า Eclipse ร่วงลงอย่างมาก ในขณะที่ IntelliJ เติบโตพุ่งขึ้นแบบสวนทาง - อ้างอิง |
แอนดรอยด์ออกแพตช์ความปลอดภัยเดือนกุมภาพันธ์ ช่องแรงสุดเปิดทางให้แฮกเกอร์รันโค้ดผ่าน Bluetooth | lew | 8 February 2020 - 21:34 | [
"Android",
"Security Patch"
] | โครงการแอนดรอยด์ออกแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนกุมภาพันธ์ โดยช่องโหว่ชุดที่ร้ายแรงที่สุดได้แก่ CVE-2020-2022 ที่เป็นช่องโหว่รันโค้ดระยะไกลที่คนร้ายยิงโค้ดเข้ามารันในเครื่องได้เมื่อเครื่องของเหยื่อเปิด Bluetooth โดยยืนยันว่ากระทบแอนดรอยด์ 8.0 ถึง 9.0 ส่วนเวอร์ชั่น 10 นั้นทำให้โมดูล Bluetooth แครชเท่านั้น ไม่ได้เปิดทางให้รันโค้ดแต่อย่างใด
ช่องโหว่นี้รายงานโดยบริษัท EMRW บริษัทด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จากเยอรมัน
หากยังไม่ได้รับแพตช์ ผู้ใช้มีทางลดความเสี่ยงคือปิด Bluetooth เมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยช่องโหว่นี้จะเจาะได้เฉพาะช่วงเวลาที่ Bluetooth อยู่ในโหมด discoverable หรือช่วงเวลาสแกนเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ดีโทรศัพท์บางรุ่นเปิดโหมด discoverable ไว้ตลอดเวลา
สำหรับ Android 10 กูเกิลแพตช์ช่องโหว่คล้ายกันและระบุว่าเป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติเหมือนกัน คือ CVE-2020-2023 แม้จะยังไม่มีรายละเอียดออกมาแต่แพตช์ระบุว่าแก้ไขการเข้าถึงรายชื่อติดต่อ (phone book) ในโมดูล Bluetooth จึงเป็นไปได้ว่าช่องโหว่นี้อาจเปิดทางอ่านข้อมูลติดต่อจากระยะไกล
ที่มา - The Register, Android, EMRW Insinuator |
เปิดตัว Moto G Stylus มีปากกาสไตลัส, Moto G Power เน้นแบตอึด 5,000 mAh | mk | 8 February 2020 - 21:19 | [
"Motorola",
"Mobile",
"Moto G"
] | Motorola เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ Moto G Stylus ที่มาพร้อมปากกาสไตลัส ตามภาพหลุดก่อนหน้านี้) และ Moto G Power ที่เน้นแบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh
Moto G Stylus เป็นมือถือสเปกระดับกลาง มีจุดเด่นที่ปากกาสไตลัสในตัว เหมือนกับซีรีส์ Galaxy Note ของซัมซุง สามารถใช้วาดรูปหรือจดบันทึกได้ มาพร้อมกับแอพ Moto Note แต่ยังไม่มีข้อมูลสเปกปากกามากนัก ราคาขายอยู่ที่ 299 ดอลลาร์
หน้าจอ 6.4" FHD+ (2300x1080)
หน่วยประมวลผล Snapdragon 665
หน่วยความจำ 4GB, สตอเรจ 128GB + microSD
กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 48MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้องแอคชั่นมุมกว้าง 16MP
กล้องหน้า 16MP
แบตเตอรี่ 4,000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 10W
พอร์ต USB Type-C พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
Moto G Power มีสเปกใกล้เคียงกัน ทั้งขนาดหน้าจอ, หน่วยประมวลผล, หน่วยความจำ แต่ตัดสตอเรจลงมาเหลือ 64GB, ลดสเปกกล้องหลังลงมา แล้วเพิ่มแบตเตอรี่เป็น 5,000 mAh ที่คุยว่าอยู่ได้นาน 3 วัน ราคาขายตัวละ 249 ดอลลาร์
หน้าจอ 6.4" FHD+ (2300x1080)
หน่วยประมวลผล Snapdragon 665
หน่วยความจำ 4GB, สตอเรจ 64GB + microSD
กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 16MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้องมุมกว้าง 8MP
กล้องหน้า 16MP
แบตเตอรี่ 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 10W
พอร์ต USB Type-C พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
ที่มา - Motorola |
ราวกับอูเบอร์ SpaceX เปิดหน้าเว็บจองส่งดาวเทียม เริ่มต้น 200 กิโลกรัม 30 ล้านบาท | lew | 8 February 2020 - 14:24 | [
"SpaceX"
] | SpaceX เปิดโครงการ Rideshare เปิดทางให้ผู้ที่ต้องการส่งดาวเทียมขนาดเล็กสามารถกดจองระวางการนำส่งได้ด้วยตัวเอง ราคาเริ่มต้น 1 ล้านดอลลาร์สำหรับน้ำหนักดาวเทียม 200 กิโลกรัม และนำส่งขึ้นวงโคจร SSO หรือ LEO หากน้ำหนักเกินคิดเพิ่มกิโลกรัมละ 5,000 ดอลลาร์
ผู้สนใจสามารถกดเลือกเที่ยวบินและวางมัดจำ 5,000 ดอลลาร์เพื่อแสดงความสนใจ จากนั้นที่เหลือแบ่งจ่าย 3 งวด งวดสุดท้ายต้องจ่ายภายใน 5 วันหลังจาก SpaceX ยืนยันเที่ยวบิน
หน้าเว็บแสดงให้เห็นว่า SpaceX ยังเตรียมภารกิจเฉพาะสำหรับโครงการ Rideshare ทุก 6 เดือนตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงปีหน้า โดยหากคำนวณแล้ว SpaceX คิดราคาเพิ่มเติมสำหรับโครงการ Rideshare พอสมควร โดยค่าใช้ Falcon 9 แบบเหมาลำโดยใช้จรวดใช้ซ้ำจะอยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์ และที่ผ่านมา SpaceX ใช้นำส่งดาวเทียม Starlink ได้ครั้งละ 60 ดวง ที่น้ำหนัก 220 กิโลกรัม การซื้อแยกทีละสล็อต 200 กิโลกรัมจึงแพงกว่าค่าซื้อเหมาประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์
ที่มา - TechCrunch |
SpaceX อาจแยก Starlink ออกเป็นอีกบริษัท นำเข้าตลาดหุ้น | lew | 8 February 2020 - 13:35 | [
"SpaceX",
"IPO"
] | Gwynne Shotwell ประธาน SpaceX ไปพูดในงานประชุมนักลงทุนที่จัดโดย JPMorgan ระบุถึงแผนการดำเนินการในอนาคตระบุว่าธุรกิจ Starlink น่าจะ (likely) แยกออกจาก SpaceX และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ก่อนหน้านี้ Elon Musk เคยระบุว่าจะไม่นำหุ้น SpaceX เข้าตลาดหลักทรัพย์เพราะต้องการให้บรรลุภารกิจนำมนุษย์เดินทางไปยังดาวอังคาร แต่สำหรับโครงการ Starlink นั้นเป็นโครงการเพื่อทำเงินอย่างเต็มรูปแบบ โดยตอนนี้มีดาวเทียม Starlink ในวงโคจรแล้ว 240 ดวง และหากครบ 400 ดวงก็จะเริ่มให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทั้งโลก โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการบางพื้นที่ได้ภายในปีนี้
Shotwell ระบุว่าอินเทอร์เน็ตจาก Starlink นั้นจะเร็วกว่าอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ 5-10 เท่า แต่ราคาถูกกว่า
ที่มา - Bloomberg
ภาพการปล่อยดาวเทียม Starlink เมื่อต้นปีที่ผ่านมา |
CNET ทดสอบพับ Moto Razr ได้แค่ 28,000 ครั้ง, ถูกวิจารณ์ว่าพับเปิดปิดไม่สนิท | nismod | 8 February 2020 - 13:14 | [
"Motorola",
"RAZR",
"Mobile"
] | สิ่งที่สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้จะต้องโดนทดสอบคือการพับหน้าจอว่าจะสามารถทนทานได้มากแค่ไหน ซึ่ง CNET ที่เคยทดสอบกับ Galaxy Fold มาแล้วก็จับเจ้า Moto RAZR รุ่นฝาพับมาทดสอบพับกับเครื่องของ Square Trade ให้ดูแบบไลฟ์สด
หลังทดสอบพับหน้าจอไปที่ราว 28,000 ครั้งก็พบว่าข้อต่อพับหน้าจอส่งเสียงแปลก ๆ และมีปัญหา (แต่ตัวหน้าจอยังใช้งานได้ปกติ) และเมื่อใส่กลับเข้าไปที่เครื่อง Square Trade ตัวเครื่องก็ไม่สามารถพับหน้าจอได้แล้ว อย่างไรก็ตามทีมงานถูกวิจารณ์ว่าตัว Moto RAZR ไม่ได้ถูกกางเปิดและพับปิดจนสุดเหมือนที่ทดสอบกับ Galaxy Fold
ด้านโมโตโรลาก็ออกแถลงการณ์หลังการทดสอบดังกล่าว ระบุว่าเครื่อง Square Trade ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการทดสอบพับหน้าจอ Moto RAZR ทำให้สร้างปัญหาให้กับข้อพับระหว่างการทดสอบ โดยเฉพาะการที่ตัวเครื่องไม่ได้ถูกกางและพับปิดสนิทอย่างที่ควรจะเป็น ขณะที่ทางโมโตโรลาเองก็เคยโชว์การทดสอบการพับของ Moto RAZR แล้วว่าสามารถทนทานได้กว่าแสนครั้ง
ที่มา - CNET via Android Police |
Chrome 82 จะเริ่มบล็อคไฟล์ที่ดาวน์โหลดผ่าน HTTP แบบไม่เข้ารหัส ป้องกันถูกยัดไส้ | mk | 8 February 2020 - 10:40 | [
"Chrome",
"HTTPS",
"HTTP",
"Security",
"Browser"
] | Chrome ประกาศแผนการบล็อคไม่ให้ดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน HTTP แบบไม่เข้ารหัส โดยจะเริ่มจาก Chrome 82 ที่ออกช่วงเดือนเมษายน 2020
ปัจจุบัน Chrome ยอมให้เราเข้าเว็บที่เป็น HTTPS แล้วดาวน์โหลดบางไฟล์ผ่านโปรโตคอล HTTP (mixed content download) ซึ่งกูเกิลมองว่าไฟล์อาจถูกยัดไส้เป็นมัลแวร์ หรือโดนดักข้อมูลระหว่างทางได้ (เช่น ดาวน์โหลดไฟล์สรุปข้อมูลการเงินจากเว็บไซต์ธนาคาร)
Chrome 82 จะเริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้หากดาวน์โหลดไฟล์ .exe ผ่านโปรโตคอล HTTP ที่ไม่ปลอดภัย จากนั้นจะค่อยๆ ยกระดับการแจ้งเตือนไปยังไฟล์ชนิดอื่นๆ เช่น .zip, .pdf, .doc, .png จนถึง Chrome 86 จะบล็อคการดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภทผ่าน HTTP (ดูตารางประกอบ)
ผู้ใช้จะเห็นการแจ้งเตือนว่า file can't be donwloaded securely ในแถบดาวน์โหลดของ Chrome ตามภาพ
ที่มา - Google |
Xiaomi ปฏิเสธข่าวมือถือจีนร่วมกันทำสโตร์แข่ง Google Play บอก GDSA เป็นแค่ตัวช่วยอัพโหลด | mk | 8 February 2020 - 10:34 | [
"Xiaomi",
"China",
"Google Play",
"Android"
] | จากที่มีข่าวออกมาว่า Huawei เตรียมเข้าร่วม GSDA สร้างแอปสโตร์สำหรับผู้ผลิตมือถือจีน ร่วมกับ Xiaomi, Oppo, Vivo
Xiaomi ในฐานะหนึ่งในพาร์ทเนอร์ของ Global Developer Service Alliance (GDSA) ออกแถลงการณ์มาแก้ข่าวว่า GDSA เป็นบริการช่วยอำนวยความสะดวกในการอัพโหลดแอพขึ้นสโตร์เท่านั้น เพื่อให้นักพัฒนาอัพโหลดไฟล์ครั้งเดียว ส่งขึ้นสโตร์ของพาร์ทเนอร์ทั้ง 3 รายได้เลย (Xiaomi, Oppo, Vivo) ดังนั้น GDSA ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาแข่งกับ Google Play Store แต่อย่างใด
ในแถลงการณ์ของ Xiaomi ยังระบุชื่อพาร์ทเนอร์เพียงแค่ 3 รายเท่านั้น ยังไม่มีชื่อของ Huawei เข้าร่วมด้วย
จากหน้าเว็บของ GDSA ระบุว่าแอพที่อัพโหลดผ่าน GDSA จะส่งขึ้นมาขายบนสโตร์ของ Oppo ที่ทำตลาดในประเทศไทยด้วย (สโตร์ของ Xiaomi กับ Vivo ไม่ได้ทำตลาดในไทย) ถ้าใครมีมือถือ Oppo ฝากช่วยยืนยันข้อมูลนี้ด้วยครับ
ที่มา - XDA |
Apple ถูกทางการฝรั่งเศสปรับ 850 ล้านบาท จากเหตุ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง ถ้าแบตเตอรี่เสื่อม | arjin | 8 February 2020 - 08:42 | [
"Apple",
"Lawsuits",
"France"
] | DGCCRF หน่วยงานกำกับดูแลคุ้มครองผู้บริโภคของฝรั่งเศส สั่งปรับแอปเปิลเป็นเงิน 25 ล้านยูโร หรือราว 850 ล้านบาท จากเหตุออกอัพเดต iOS ที่ทำให้ iPhone ทำงานช้าลง
จากเหตุการณ์นั้นแอปเปิลได้ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้า โดยอธิบายว่า iOS ออกแบบมาให้ทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ ซึ่งแอปเปิลก็ได้ประกาศปรับลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ลงเป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งเพิ่มตัวเลือกตั้งแต่ iOS 11.3 ให้ผู้ใช้เลือกได้กรณีแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ว่าจะให้ iPhone ทำงานช้าลงหรือเต็มประสิทธิภาพตามปกติ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่ได้แจ้งลูกค้าให้ทราบในประเด็นนี้ชัดเจน จึงมีลูกค้าจำนวนหนึ่งฟ้องร้องนั่นเอง โดยนอกจากแอปเปิลต้องจ่ายค่าปรับแล้ว แอปเปิลต้องขึ้นข้อความอธิบายแนวทางปฏิบัติต่อจากนี้บนหน้าเว็บไซต์ของแอปเปิลในฝรั่งเศส เป็นเวลา 1 เดือน
ที่มา: Engadget |
Microsoft Edge ออกอัพเดตเวอร์ชัน 80 รองรับ Windows 10 ARM เต็มรูปแบบ | nutmos | 8 February 2020 - 07:56 | [
"Microsoft Edge",
"Browser",
"Microsoft",
"Arm"
] | Microsoft ออกอัพเดตเบราว์เซอร์ Edge ที่ใช้ Chromium เป็นฐานเวอร์ชัน 80 โดยฟีเจอร์สำคัญของเวอร์ชันนี้คือรองรับ Windows 10 บน ARM และ Dolby Vision
Microsoft ได้เริ่มทดสอบเบราว์เซอร์ Edge Chromium บน ARM มาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งการทำซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับซีพียู ARM โดยเฉพาะ จะให้ผลดีกว่าการใช้เวอร์ชัน x86 ทั้งด้านประสิทธิภาพและการใช้งานแบตเตอรี่
Microsoft เองก็เคยบอกไว้ว่างานบน Windows 10 ราว 50% คือเว็บเบราว์เซอร์ ดังนั้นถ้ามีเบราว์เซอร์แบบเนทีฟ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ Surface Pro X รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ Windows 10 ARM อย่างมาก
นอกจากรองรับ ARM แล้ว Edge 80 ได้เพิ่มฟีเจอร์ Dolby Vision สำหรับระบบเล่นวิดีโอ, ปรับปรุงระบบจัดการเว็บแอป รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรอีกหลายจุด ซึ่ง Microsoft จะเริ่มทยอยอัพเดต Edge ให้ผู้ใช้ในสัปดาห์ถัด ๆ ไป
ที่มา - Windows Central, Engadget
ภาพจาก @MicrosoftEdge |
[ไม่ยืนยัน] Huawei เตรียมเข้าร่วม GDSA สร้างแอปสโตร์สำหรับผู้ผลิตมือถือจีน ร่วมกับ Xiaomi, Oppo, Vivo | lew | 7 February 2020 - 23:05 | [
"Huawei",
"China",
"Mobile App"
] | สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่า Huawei จะเข้าร่วมกับค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจีนรายอื่น ในการเปิดตัว Global Developer Service Alliance (GDSA) ที่จะสร้างแอปสโตร์ร่วมกัน
สมาชิกของ GDSA ตอนนี้มี Xiaomi, Oppo, และ Vivo (สองรายหลังมีเจ้าของเดียวกัน) หาก Huawei เข้าร่วมจริงก็จะมีส่วนแบ่งตลาดรวมสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตามสมาชิกทั้งสามรายยังไม่มีใครออกมายืนยันว่า Huawei จะเข้าร่วมจริง
GDSA มีเป้าหมายจะเปิดตลาดใน 9 ตลาด ตามที่ผู้ผลิตโทรศัพท์ทำตลาด แต่ระบุชื่อออกมาแล้ว ได้แก่ อินเดีย, อินโดนีเซีย, รัสเซีย, สเปน, เวียดนาม, มาเลเซีย, ไทย, ฟิลิปปินส์ โดยในไทยนั้นทาง Oppo จะนำเข้ามาทำตลาด โดยเมื่อนักพัฒนาอัพโหลดแอปไปยัง GDSA ที่เดียวก็จะสามารถทำตลาดในทุกตลาดที่ GDSA ครอบคลุมได้ทันที
แหล่งข่าวระบุว่า GDSA น่าจะเปิดบริการเดือนมีนาคมนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์โรคระบาด coronavirus จะทำให้ต้องเลื่อนออกไปหรือไม่
ที่มา - Reuters
ภาพโทรศัพท์ Redmi 1S จาก mi.com |
Tesla จดสิทธิบัตรพวงมาลัยแบบใหม่ มีหน้าจอสัมผัส, แสดงตัวอักษรบอกเกียร์ที่ใช้อยู่ | BlackMiracle | 7 February 2020 - 17:50 | [
"Tesla",
"Electric Car"
] | Tesla ได้จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับพวงมาลัยแบบใหม่ โดยพวงมาลัยสามารถแสดงตัวหนังสือบอกเกียร์ที่ใช้งานอยู่ได้ (P, R, N, D) ซึ่งจะเป็นไฟสว่างขึ้นมา อีกทั้งพวงมาลัยอาจรองรับ RFID และ NFC ได้ด้วย แต่ Tesla ไม่ได้ระบุว่าเอาไว้ใช้งานด้านใด
นอกจากนี้เอกสารยังระบุว่าผู้ขับขี่จะควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้ผ่านหน้าจอสัมผัส เช่นเปลี่ยนเพลง, ปรับความดังลำโพง, โทรออก/รับสาย รวมถึงตั้งค่าระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อผู้ใช้กดสั่งงานก็จะมี haptic feedback สั่นและเสียงยืนยันกลับมาด้วย
เอกสารสิทธิบัตรระบุว่าผู้ออกแบบพวงมาลัยดังกล่าวคือ Felix Godard และ Joris Aerts โดย Godard เคยอยู่ในทีมออกแบบรถ Porsche Taycan ก่อนจะย้ายมาอยู่ Tesla แต่ขณะนี้ลาออกไปอยู่ Lucid Motors แล้ว ส่วน Aerts เป็นวิศวกรไฟฟ้าที่ทำงานกับ Tesla มา 6 ปี และลาออกไปแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการจดสิทธิบัตรลักษณะนี้ไม่ได้เป็นการการันตีว่ามันจะมาอยู่ในรถที่วางขายจริง
สามารถอ่านเอกสารสิทธิบัตรฉบับเต็มได้ที่ Scribd
ที่มา - Electrek |
Huawei ลงมาเล่นตลาดโน้ตบุ๊กราคาถูก เปิดตัว MateBook D15 ราคา 17,990 บาท | nismod | 7 February 2020 - 17:46 | [
"Huawei",
"Notebook",
"MateBook"
] | Huawei ประเทศไทยเปิดตัว Huawei MateBook D15 โน้ตบุ๊กราคาถูก แต่บอดี้และดีไซน์ยังมีความพรีเมียมจากวัสดุโลหะ หน้าจอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด FHD ซีพียู Ryzen 5 3500U การ์ดจอ Radeon Vega 8 แรม 8GB หน่วยความจำ PCIe SSD 256GB + 1TB HDD มาพร้อม Windows 10 Home และระบบ Huawei Share
แบตเตอรี่ขนาด 42Wh ชาร์จผ่าน USB-C พร้อมพอร์ตอย่าง USB-A, HDMI และ 3.5 มม. กล้องหน้า 1 ล้านพิกเซล ถูกซ่อนเอาไว้ที่ปุ่ม F6 มีสี Mystic Silver และ Space Grey ราคา 17,990 บาท เปิดจอง 6-14 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมของแถมมูลค่า 6,960 บาท แบ่งเป็นกระเป๋าเป้, Wireless Mouse, Huawei Freelace และ Huawei Power Bank
และหากจองผ่าน JD Central จะได้รับคูปองส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท พร้อมตัวเลือกผ่อน 0% 10 เดือน |
AirPods / AirPods Pro อาจขาดตลาด เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนสำหรับผลิตจากเหตุโรคระบาด | nismod | 7 February 2020 - 15:20 | [
"AirPods",
"Apple"
] | Nikkie รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวหลายแหล่งในสายการผลิตชิ้นส่วนของ AirPods และ AirPods Pro ของแอปเปิลว่า สินค้าอาจผลิตไม่ทันความต้องการ เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จะนำมาประกอบการผลิต AirPods และ AirPods Pro ได้รับผลกระทบจากการคำสั่งห้ามเดินทางข้ามเมืองหรือสั่งปิดโรงงานชั่วคราว เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา
Nikkie ระบุว่า Luxshare-ICT, Goertek และ Inventec 3 บริษัทที่ผลิตและประกอบ AirPods / AirPods Pro มีชิ้นส่วนเพียงพอจะผลิตได้อีกราว 2 สัปดาห์เท่านั้น และก็ต้องรอดูโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ทั่วจีนอีกครั้งในวันจันทร์หน้าว่าสามารถกลับมาผลิตอีกได้มากน้อยแค่ไหน
AirPods และ AirPods Pro ค่อนข้างเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยแอปเปิลสั่งผลิตไปราว 45 ล้านชิ้นภายในครึ่งปีแรก โดยตอนนี้ AirPods ยังพอเหลือของอยู่ในสต๊อก ขณะที่ AirPods Pro ของเริ่มขาดในหลายประเทศแล้ว (เว็บ Apple สหรัฐขึ้นว่า Ships in 4 weeks)
ที่มา - Nikkei |
[ไม่ยืนยัน] กูเกิลจะเพิ่มฟีเจอร์อัพโหลดเพลงเข้า library ใน YouTube Music | sunnywalker | 7 February 2020 - 15:16 | [
"YouTube Music",
"Google Play Music"
] | กูเกิลยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะยุบบริการ Google Play Music รวมเข้ากับ YouTube Music หรือไม่ แต่ล่าสุดมีข่าวลือว่า หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ Google Play Music อย่างการอัพโหลดเพลงเข้า library เพลงได้นั้น จะมีบน YouTube Music ด้วย
หากเป็นความจริง ก็จะช่วยให้ผู้ใช้งาน Google Play Music ย้ายมายัง YouTube Music ได้ง่ายขึ้น
ที่มา - The Next Web |
กระทรวงการคลังออสเตรเลียประกาศรวบระบบ ERP รัฐบาลเข้าเป็นระบบเดียว ใช้ SAP S/4HANA | lew | 7 February 2020 - 14:29 | [
"SAP",
"Australia",
"ERP"
] | กระทรวงการคลังออสเตรเลียเลือก SAP S/4HANA เป็นแพลตฟอร์มสำหรับอิมพลีเมนต์ ERP กลางสำหรับรัฐบาลเป็นการรวบระบบจากเดิมที่แยกกันอยู่ 6 ระบบ โดยคาดว่าจะเปิดทางให้การจัดการทางการเงินและบุคลากรสามารถมองเห็นข้อมูลทันที
ระบบทั้ง 6 ระบบเดิมนั้นเป็น SAP อยู่แล้ว 5 ระบบที่มีแผนต้องอัพเกรดตามกำหนดหมดซัพพอร์ตของ SAP อยู่แล้ว และมีเพียงกรมสรรพากรเท่านั้นที่ใช้ระบบเฉพาะที่ไม่ใช่ SAP ทางกระทรวงการคลังคาดกว่าการรวบระบบเข้ามาเช่นนี้จะลดต้นทุนลง
ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการคลังออสเตรเลียแสดงจุดยืนว่าจะรวบระบบทั้ง 6 เข้าด้วยกันมาก่อนแล้วแต่เปิดกว้างว่าอาจจะใช้แพลตฟอร์มใดก็ได้ และเพิ่งมาตัดสินใจใช้ SAP S4/HANA ในสัปดาห์นี้
ที่มา - IT News
ภาพการประชุมประจำปีของ SAP เมื่อปี 2019 |
Instagram ทำฟีเจอร์แสดงบัญชีที่โพสต์รกไทม์ไลน์ให้ จะได้เลือกคนที่จะ unfollow ได้ง่ายขึ้น | sunnywalker | 7 February 2020 - 14:13 | [
"Instagram"
] | ในบางครั้งผู้ใช้งาน Instagram อาจเผลอกดติดตามคนอื่นๆ มากเกินไป จนพบว่าหน้าฟีดเต็มไปด้วยโพสต์ของใครก็ไม่รู้มากมาย ล่าสุด Instagram ออกฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเราตัดสินใจว่าควร unfollow ใครออกไปบ้าง
เมื่อผู้ใช้งานกดปุ่ม following บนหน้าโปรไฟล์ของผุ้ใช้ก็จะเห็นว่า Instagram แนะนำรายการบัญชีผู้ใช้มาสองกลุ่มคือ บัญชีไหนที่โพสต์ภาพปรากฏบนหน้าฟีดของเรามาก กับบัญชีผู้ใช้กลุ่มไหนที่เรามีส่วนร่วมด้วยน้อย กดเข้าไปก็จะเจอบัญชีเหล่านั้น ให้กด unfollow ได้
ที่มา - Engadget |
Disney+ ยังผลิตเนื้อหาไม่ทันใจคนดู ซีอีโอบอกว่าเน้นที่คุณภาพก่อนปริมาณ | sunnywalker | 7 February 2020 - 12:20 | [
"Disney+",
"Streaming",
"Netflix"
] | Disney+ ถือเป็นสตรีมมิ่งรายใหม่ที่ประสบความสำเร็จกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังดูเหมือนว่า Disney+ ต้องพยายามอีกหลายอย่างเพื่อจะไล่ให้ทันความเร็วในการลงคอนเทนต์ของ Netflix เพราะหลังจากซีรีส์เรื่อง The Mandalorian จบลง คนก็ยังคงสงสัยกันว่า ซีรีส์เรือธงเรื่องต่อไปที่ควรดูของ Disney+ คืออะไร และยังมีข้อสงสัยจากนักลงทุนถาม Disney ว่า ทางเลือกคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ มีอะไรอีกบ้าง
Bob Iger ซีอีโอ Disney ยอมรับว่า ในการเปิดตัวสตรีมมิ่งจะยังมีคอนเทนต์ไม่มาก และการสร้างคอนเทนต์ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งในตอนนี้ การตัดสินใจของบริษัทจะดำเนินการอยู่บนคุณภาพ ไม่ใช่แค่ปริมาณเท่านั้น
Disney+ ในตอนนี้มีปริมาณคอนเทนต์พอสมควร แต่คนก็ชินกับการที่ Netflix ป้อนเนื้อหามาให้ไม่ขาด และยังมีความเร็วในการเพิ่มคอนเทนต์ด้วย Netflix ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่ามีคอนเทนต์เพิ่มเข้ามาทุกเดือน ทุกสัปดาห์
และมีความหลากหลายสูง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนคาดหวังกับ Disney+ ที่มีสตูดิโอใหญ่ในเครือคือ Star Wars, Marvel, Pixar, และ Disney
นักลงทุนมีคำถามเรื่องจำนวนผู้ใช้งานลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจาก The Mandalorian จบ Iger บอกว่า การที่ Disney+ ผูกบริการ ESPN + และ Hulu จะช่วยลดความสูญเสียของสมาชิกได้
Disney+ เพิ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา ก็สามารถทำยอดดาวน์โหลดได้สูงในสหรัฐฯ และมียอดผู้ใช้งาน subscription แล้ว 26.5 ล้านราย โดยมีซีรีส์เรือธงคือ The Mandalorian และมีซีรีส์ Marvel, Disney ใหม่ๆ รอต่อคิวลงฉายอีกมากมาย และมีแผนจะเปิดตัวในยุโรปเดือนมีนาคมนี้
ที่มา - The Verge |
The Outer Worlds เวอร์ชัน Nintendo Switch เลื่อนวางจำหน่ายไม่มีกำหนด จากเหตุไวรัสโคโรน่า | arjin | 7 February 2020 - 10:57 | [
"The Outer Worlds",
"Games",
"Obsidian Entertainment",
"Nintendo Switch"
] | ผลกระทบจากเหตุไวรัสโคโรน่า ไม่ได้จำกัดแค่สินค้าที่ผลิตในจีน แต่ล่าสุดเกม The Outer Worlds ที่ประกาศว่าจะออกเวอร์ชัน Nintendo Switch เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ได้ประกาศเลื่อนกำหนดวางขายไปแล้ว จากเดิม 6 มีนาคม เป็นเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
สาเหตุก็เนื่องจาก Virtuous บริษัทพัฒนาที่รับผิดชอบการพอร์ตเกม The Outer Worlds มาลง Switch มีสำนักงานอยู่ในจีนซึ่งยังคงปิดทำการ โดยบริษัทได้ขยายวันหยุดออกไปจนถึงสัปดาห์หน้า จึงยังไม่สามารถกำหนดวันวางขายใหม่ได้
อย่างไรก็ตามมีข่าวดีเล็ก ๆ นั่นคือ The Outer Worlds จะออกเวอร์ชันตลับเกมสำหรับคนที่ต้องการเวอร์ชันตลับไว้เก็บสะสมด้วย
ที่มา: Obsidian และ Engadget |
Activision ยืนยัน Call of Duty ปี 2020 มาแน่ แต่จะขายดีไม่เท่า Modern Warfare | mk | 7 February 2020 - 09:49 | [
"Call of Duty",
"Games",
"Activision Blizzard",
"Activision"
] | Activision Blizzard ยืนยันว่าปีนี้จะออก Call of Duty ภาคใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ออกภาคใหม่ทุกปี แต่ยังไม่ให้ข้อมูลอื่นใดของเกม รวมถึงสตูดิโอที่รับผิดชอบการพัฒนาด้วย (ตามคิวแล้วควรเป็น Sledgehammer Games ที่ทำภาค WWII)
ประเด็นที่น่าสนใจคือ Activision Blizzard ประเมินว่า Call of Duty ภาคปี 2020 จะขายไม่ดีเท่ากับ Modern Warfare ของปี 2019 ที่ขายดีมาก (ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์) และขายดีกว่า Black Ops 4 ของปี 2018 ในระดับเปอร์เซนต์เป็นเลขสองหลัก (double-digit growth)
ที่มา - Gamespot |
Firefox ประกาศหยุดรองรับ TLS 1.0, 1.1 ต้นเดือนมีนาคม 2020, ต้องเป็น TLS 1.2 ขึ้นไป | mk | 7 February 2020 - 09:42 | [
"Firefox",
"Mozilla",
"HTTPS",
"TLS",
"Security"
] | Mozilla ประกาศแผนหยุดซัพพอร์ตโปรโตคอล Transport Layer Security (TLS) เวอร์ชันเก่า 1.0 และ 1.1 บน Firefox โดยจะเริ่มมีผลใน Firefox 74 ที่จะออกตัวจริงช่วงเดือนมีนาคม 2020
เหตุผลที่เลิกใช้ TLS 1.0 และ 1.1 เป็นเพราะพบช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ช่องโหว่ BEAST, CRIME, POODLE ในขณะที่โปรโตคอลเวอร์ชันใหม่ TLS 1.3 ออกตั้งแต่ปี 2018 และรองรับตั้งแต่ Firefox 63
Mozilla เคยประกาศเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่กลางปี 2019 และเบราว์เซอร์อื่นๆ ทั้ง Chrome/Edge/Safari ก็ประกาศแผนหยุดรองรับช่วงต้นปี 2020 เช่นกัน
เจ้าของเว็บไซต์หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์จำเป็นต้องขยับเวอร์ชันของ TLS เป็น 1.2 ขึ้นไป (ซึ่งในทางปฏิบัติก็เปลี่ยนกันไปเกือบหมดแล้ว) หากยังใช้ TLS เวอร์ชันต่ำกว่านั้นก็จะเห็นหน้าจอ secure connection failed ตามภาพ
ที่มา - Mozilla |
Netflix เพิ่มตัวเลือก ปิด Autoplay พรีวิว ขณะค้นหาคอนเทนต์ | arjin | 7 February 2020 - 07:22 | [
"Netflix"
] | Netflix ประกาศเพิ่มตัวเลือกปิดการเล่นเนื้อหาพรีวิวอัตโนมัติ (Autoplay) ขณะที่กำลังค้นหาคอนเทนต์เพื่อรับชม ซึ่งหลายคนอาจชอบ แต่หลายคนก็ไม่ชอบ
โดย Netflix อธิบายผ่านบัญชี Twitter ว่าบริษัทรับฟังความเห็น ซึ่งเรื่องนี้มีคนเสนอเข้ามามากขึ้น จึงตัดสินใจเพิ่มตัวเลือกปิด
สำหรับขั้นตอนการปิด Autoplay นั้น ผู้ใช้งานต้องล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ เลือกจัดการ Profile ที่ต้องการ จากนั้นนำเครื่องหมายออกจาก Autoplay previews ซึ่งจะยังไม่มีผลในทันที แต่สามารถบังคับรีเฟรชได้ โดยสลับโปรไฟล์ใช้งานแล้วสลับกลับมาอีกครั้ง
ที่มา: PhoneArena |
ซีอีโอ Uber คาด บริษัทจะเริ่มมีกำไรในไตรมาส 4 ปี 2020 | arjin | 7 February 2020 - 06:57 | [
"Uber",
"Financial Report"
] | Uber รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มียอดการจอง เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 18,131 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นธุรกิจเดินทาง (Rides) 13,512 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13%, ส่งอาหาร (Eats) 4,374 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 71% และขนส่งสินค้า (Freight) 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 74% ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่น บันทึกเป็นรายได้บริษัท 4,069 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37% ขาดทุนสุทธิอีก 1,096 ล้านดอลลาร์
Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber กล่าวว่าบริษัทยังคงโฟกัสที่การทำให้ธุรกิจมีกำไร ในวันนี้นักลงทุนไม่ได้ต้องการแค่ธุรกิจที่เติบโต แต่ต้องมีกำไรด้วย เขายังเผยว่าจากแผนเดิมที่ Uber น่าจะมีกำไรในปี 2021 ตอนนี้เขาได้ปรับเป้าหมายใหม่มาเป็นไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ขณะที่ซีเอฟโอ Nelson Chai กล่าวว่าการขาย Uber Eats ที่อินเดียล่าสุดนั้น เป็นตัวอย่างการควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อให้บริษัทมีผลกำไร
Khosrowshahi ยังบอกว่าในปีนี้ Uber จะขยายรูปแบบการขายแบบ subscription ให้มากขึ้น หลังจากทดลองมาแล้วในบริการรถโดยสารและส่งอาหาร พบว่าช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้งานเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เท่า
ที่มา: Uber และ CNBC |
Pinterest ไตรมาส 4/2019 รายได้ยังเติบโตถึง 46% | arjin | 7 February 2020 - 06:35 | [
"Pinterest",
"Financial Report"
] | Pinterest รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 399.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 35.7 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้น 26% เป็น 335 ล้านบัญชี
Ben Silbermann ซีอีโอ Pinterest กล่าวว่าในปี 2020 Pinterest จะยังคงมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์รวมแรงบันดาลใจ โดยเน้นการแนะนำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปรับปรุงประสบการณ์ทั้งการช้อปปิ้ง และโฆษณาที่แสดงขึ้นมา ให้ผู้ใช้งานสะดวกสำหรับการรับชมและสั่งซื้อสินค้า
ที่มา: Pinterest |
TrueMoney Wallet แนะผู้ใช้อัพเดต Android 5.0 และ iOS 10.0 ขึ้นไป, เครื่องรูทหรือเจลเบรคไม่สามารถใช้งานได้ | Mekokung | 7 February 2020 - 02:30 | [
"TrueMoney",
"Security",
"Mobile Banking",
"Jailbreak"
] | TrueMoney Wallet ประกาศอย่างเป็นทางการทาง Facebook ให้ผู้ใช้งานอัพเดตเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดโดยจะต้องเป็นเวอร์ชั่น Android 5.0 และ iOS 10.0 ขึ้นไปเพื่อให้สามารถใช้งานแอพได้ต่อ และเครื่องที่มีการรูทหรือเจลเบรคจะไม่สามารถใช้งานได้ ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยผู้ใช้ TrueMoney Wallet ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการต่ำกว่า Android 5.0 และ iOS 10.0 จะทำให้การใช้งานไม่ได้ โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 9 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
และ TrueMoney ได้มีการประกาศเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ว่ามือถือของผู้ใช้ที่มีการรูท หรือเจลเบรค จะไม่อนุญาตให้ใช้งานตัวแอพได้จนกว่าจะมีการแก้ไขการรูท หรือเจลเบรค แอพจะแจ้งเตือนให้ทราบเมื่อเปิดแอพ มีผลในวันที่ 23 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
ที่มา - TrueMoney, TrueMoney's Fanpage |
รีวิว Galaxy Note 10 Lite ปากกา S Pen ทำได้เหมือนรุ่นใหญ่ ในราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง | mk | 6 February 2020 - 23:07 | [
"Galaxy Note 10",
"Mobile",
"Samsung",
"Review"
] | นับตั้งแต่ Galaxy Note รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2011 สมาร์ทโฟนซีรีส์ Note ถือเป็น "เรือธงตัวสูงสุด" ของซัมซุงมาโดยตลอด (แพงกว่าหรืออย่างน้อยก็ราคาเท่ากับซีรีส์ S) โดยซัมซุงใช้วิธียึดโยงปากกา S Pen เข้ากับความสามารถในเชิง productivity ที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ และต้องจ่ายแพงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิใช้งาน
ซัมซุงเคยออก Note รุ่นถูกมาแล้วหนึ่งครั้งตอน Note 3 Neo ในปี 2014 แต่ก็ไม่ได้ทำอีกเลย เราอาจนับ Galaxy Note FE แต่จริงๆ แล้วมันก็คือการนำ Note 7 ที่ตกรุ่นไปแล้วมาวางขายเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
แต่การเปิดตัว Note 10 Lite รอบนี้แตกต่างไปจากเดิม เพราะซัมซุงแสดงตัวชัดเจนว่าต้องการออก "มือถือมีปากกาที่ราคาถูกลงมา" ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของยุทธศาสตร์ Note ที่ใช้มาตลอด
นิยามที่หนึ่ง: Note 10+ ในราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง
ซัมซุงเปิดตัว Note 10 Lite หลัง Note 10 ประมาณ 4 เดือน (สิงหาคม 2019 และมกราคม 2020) โดยจุดต่างสำคัญคือ "ราคา" ที่ต่างกันมากพอสมควร (อ้างอิงจากหน้าเว็บซัมซุงประเทศไทย)
Galaxy Note 10 รุ่นปกติจอ 6.3" ความจุ 256GB ราคาเปิดตัว 32,900 บาท ปัจจุบันขายอยู่ 28,900 บาท
Galaxy Note 10+ รุ่นจอใหญ่ 6.8" ความจุ 256GB ราคาเปิดตัว 37,900 บาท ปัจจุบันขายอยู่ 32,900 บาท
Galaxy Note 10 Lite จอใหญ่ 6.7" ใกล้เคียง Note 10+ ความจุ 128GB ราคาเปิดตัว 17,900 บาท
หากเทียบราคาของ Note 10 Lite กับ Note 10+ ที่มีขนาดเครื่องใกล้เคียงกัน จะเห็นว่าราคาเปิดตัวต่างกันถึง 20,000 บาท หรือถ้าเอาราคาในปัจจุบันมาเทียบกันก็คือต่างกัน 15,000 บาท คิดเป็น 83% หรือเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ก่อนซื้อคงเป็นว่า ราคาต่างกันเกือบเท่าตัว แล้วมันต่างกันอย่างไรบ้าง
นิยามที่สอง: Galaxy A71 มีปากกา
ผมพยายามหานิยามของ Galaxy Note 10 Lite ว่ามันคืออะไรกันแน่ จึงลองนำสเปกของมือถือซัมซุงรุ่นที่ใกล้เคียงมากางเทียบกันแบบละเอียดๆ และได้คำตอบว่า Note 10 Lite คือการนำโครงของ Galaxy A71 ที่เปิดตัวไล่เลี่ยกัน (ธันวาคม 2019) มาอัพเกรดเป็นหน่วยประมวลผลตัวเดียวกับ Galaxy Note 9, ได้ปากกาตัวเดียวกับ Note 9 และได้ฟีเจอร์ฝั่งซอฟต์แวร์เกือบเท่ากับ Note 10+
อ่านแล้วอาจดูซับซ้อน ลองดูตารางเปรียบเทียบอาจเข้าใจง่ายกว่าครับ
จากตารางจะเห็นว่า สเปกของ Note 10 Lite และ Galaxy A71 ใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่หน่วยประมวลผลและกล้องหลังเท่านั้น
ส่วนของหน้าตาก็เรียกได้ว่าเหมือนกันแทบ 100% เนื่องจากผมไม่มีเครื่อง Galaxy A71 มาด้วย เลยขอใช้ภาพเรนเดอร์จากเว็บไซต์ซัมซุงมาเทียบกันให้ดู
หากดูขนาดเครื่องตามสเปก มือถือทั้งสองรุ่นมีความยาว x ความกว้างเท่ากันคือ 163.6 x 76.0 มิลลิเมตร โดยที่ A71 บางกว่า (7.7 มิลลิเมตร vs 8.7 มิลลิเมตร) และเบากว่า (179 vs 199 กรัม) ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องปากกา S Pen ที่เพิ่มเข้ามา
อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Note 10 Lite มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรด้วย (เหมือนกับ A71 แต่ Note 10 ไม่มี) แถมเป็นจอแบนขอบไม่โค้งซะด้วย (จริงๆ มีโค้ง แต่นิดเดียว นิดมากๆ ตรงขอบกระจก) หลายคนอาจมองว่าสองปัจจัยนี้เป็นจุดเด่นเหนือรุ่นพี่อย่าง Note 10/10+ ด้วยซ้ำ
จุดที่ Note 10 Lite เหนือกว่า A71 ชัดเจนคือหน่วยประมวลผล ที่ Note 10 Lite ใช้ Exynos 9810 ตัวเดียวกับ Note 9 แม้จะตกรุ่นไปแล้วปีกว่า (Note 9 ออกปี 2018) แต่ก็ยังถือเป็นอดีตเรือธง ในขณะที่ A71 ใช้ Snapdragon 730 ที่ใหม่กว่า (ออกช่วงต้นปี 2019) แต่เป็นซีรีส์รองเรือธง
หากดูที่ราคาเทียบกับสเปกเพียงอย่างเดียว จะเห็นว่าส่วนต่างของ Note 10 Lite กับ A71 ต่างกันอยู่ 4,000 บาทถ้วน ตรงนี้เราจะได้หน่วยประมวลผลที่อัพเกรดขึ้น และปากกา S Pen ที่เพิ่มเข้ามา คนที่อยากได้ปากกามาวาดรูปหรือจดบันทึกข้อความต่างๆ คงต้องพิจารณากันว่า จ่ายเพิ่มอีก 4,000 บาทแล้วคุ้มหรือไม่
นิยามที่สาม: Galaxy Note 9.5 ปากกาทำได้ทุกอย่างเท่า Galaxy Note 9
เมื่อทราบตำแหน่งแห่งที่ (product positioning) ของ Note 10 Lite ในบรรดากองทัพมือถือของซัมซุงด้วยกันเองแล้ว เรามาเจาะกันที่ฟีเจอร์ชูโรงคือปากกา S Pen ของ Note 10 Lite ว่าเหมือน-ต่างจากรุ่นพี่อย่างไรบ้าง
ส่วนตัวแล้วผมใช้สมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note มาตลอด (นับตั้งแต่ Note 3 และข้ามรุ่น อัพเกรดทุก 2 ปีคือ Note 5, Note 8, Note 10+) จึงคุ้นเคยกับรอมซัมซุง และฟีเจอร์ปากกา S Pen เป็นอย่างดี
คนที่ติดตามซีรีส์ Galaxy Note มาคงทราบว่าซัมซุงดันปากกา S Pen มาจนสุดทางแล้ว ในแง่ความละเอียดของแรงกด การสัมผัส มาถึงจุดสูงสุดตอน Note 8 ทำให้ซัมซุงต้องหนีไปพัฒนาแง่ฟีเจอร์อื่นของปากกาแทน
Note 9 เปลี่ยนปากกาให้เป็น Bluetooth ชาร์จได้ในตัว ทำให้เราสามารถใช้ปากกา S Pen เป็นรีโมทควบคุมสมาร์ทโฟนได้จากการกดปุ่มบนตัวปากกา (เช่น คลิกเพื่อถ่ายรูป) พอมาถึงยุคของ Note 10 เพิ่มไจโรสโคปเข้ามา ให้ดักการเคลื่อนไหวของปากกาได้ เกิดเป็นท่าโบกปากกาไปซ้าย ขวา หรือวนเป็นวงแบบไม้กายสิทธิ์ เพื่อสั่งงานแอพต่างๆ
สำหรับปากกาของ Note 10 Lite ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพร์สผมทีเดียว เพราะมันทำได้ทุกอย่างเท่ากับปากกา Note 9 นั่นคือมี Bluetooth ใช้เป็นรีโมทคลิกได้ ชาร์จได้ในตัว สิ่งที่หายไปมีแค่ท่าโบกปากกาแบบ Note 10 เท่านั้น (ซึ่งจากการใช้ Note 10 มาหลายเดือนก็คือไม่ได้ใช้เลยสักนิด! ไม่เป็นปัญหาใดๆ)
ปากกาของ Note 10 Lite (ซ้าย) และ Note 10+ (ขวา)
หน้าจอตั้งค่า S Pen เป็นรีโมท และ Air actions เวลาดึงปากกาออกมาจากเครื่อง
ฟีเจอร์ Air actions ของ Note 10 Lite ทำได้แค่กดปุ่มเท่านั้น_
เทียบกับ Air actions ของ Note 10+ ที่มีฟีเจอร์เยอะกว่ากันมาก
แต่นอกจากเรื่อง Air actions กวาดท่า gesture แล้ว ต้องบอกว่าซัมซุงไม่กั๊กฟีเจอร์ปากกาของ Note 10 Lite เลย เพราะได้ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์เทียบเท่ากับ Note 10 รุ่นปกติ เช่น การแปลงลายมือเป็นข้อความ (ใช้กับภาษาไทยได้) หรือการเอาปากกาชี้คำศัพท์เพื่อแปลภาษาอัตโนมัติ
ภาพรวมของการใช้ปากกาบน Note 10 Lite จึงน่าประทับใจ เพราะทำได้ทุกอย่างเหมือนมือถือราคาสามหมื่นกว่าบาท เว้นแต่ฟีเจอร์ Air actions ที่ในชีวิตจริงก็แทบไม่ได้ใช้สักเท่าไร
Note 10+ (ซ้าย) และ Note 10 Lite (ขวา)
กล้องหลัง 3 ตัว ดีกว่าที่คิดแต่ยังเป็นรอง Note 10+
กล้องหลังของ Note 10 Lite มีทั้งหมด 3 ตัว ทุกตัวมีความละเอียด 12MP เท่ากันคือ
เลนส์หลัก 12MP f/1.7, Dual Pixel ช่วยเรื่องออโต้โฟกัส, OIS กันสั่น
เลนส์เทเล 12MP f/2.4, OIS, 2x optical zoom
เลนส์มุมกว้าง 12MP f/2.2
ตรงนี้ถือเป็นจุดแตกต่างกับกล้องหลังของทั้ง Note 10+ (กล้องหลัง 4 ตัว เพิ่ม TOF หรือเซ็นเซอร์วัดระยะลึก) และ Galaxy A71 (กล้องหลัง 4 ตัวแต่เป็นคนละชุดกัน มีเลนส์มาโครมาแทนเทเล)
ถ้าให้เทียบกันแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นที่กล้องหลังคล้าย Note 10 Lite ที่สุดคือ Note 10 ตัวธรรมดา (กล้องหลัง 3 ตัวไม่มี TOF, เป็นกล้องหลัก เทเล มุมกว้าง เหมือนกัน) แต่ในรายละเอียดก็มีความแตกต่างกันอยู่ดังนี้ (ข้างล่างคือสเปกของ Note 10/10+ ที่ไม่รวม TOF)
เลนส์หลัก 12MP เท่ากัน เซ็นเซอร์ขนาด 1.4µm เหมือนกัน แต่เป็น Dual Aperture f/1.5-2.4
เลนส์เทเล เหมือนกับเกือบทุกอย่าง ยกเว้นค่า f-stop คือ f/2.4 (Note 10 Lite) และ f/2.1 (Note 10)
เลนส์มุมกว้าง ของ Note 10 มีความละเอียดมากกว่าคือ 16MP, ค่า f/2.2 เท่ากัน, ของ Note 10 มีฟีเจอร์ Super Steady video
ส่วนกล้องหน้าของ Note 10 Lite เป็นตัวเดียวกับ A71 คือ 32MP f/2.2 ในขณะที่ Note 10/10+ เป็น 10MP f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่าและมี Dual Pixel
ดูจากสเปกบนกระดาษก็พอสรุปได้ว่ากล้องของ Note 10 Lite เป็นรอง Note 10/10+ อยู่บ้าง (ก็ตามราคานะครับ) ไปดูภาพถ่ายของจริงดีกว่า (ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยโหมด Auto และไม่ปรับแต่งใดๆ ยกเว้นย่อขนาดไฟล์ให้เหมาะกับแสดงผลบนหน้าเว็บ)
ภาพถ่ายกลางวัน ในร่ม
Note 10 Lite ทำผลงานได้น่าประทับใจดี เก็บรายละเอียดของผิวส้มได้ครบ
ภาพถ่ายกลางวัน กลางแจ้ง
Note 10 Lite ให้ภาพสีสดกว่า คอนทราสต์จัดกว่า ซึ่งดูเกินจริงกว่าที่สายตาเห็นไปพอสมควร ตรงนี้ Note 10+ เก็บภาพได้เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ข้อเสียคือสีจะออกติดเหลืองมากกว่า
ภาพถ่ายกลางคืน พอมีแสงไฟ
ทดสอบการถ่ายภาพกลางคืน ในซอยที่มีไฟถนนส่องถึงใบกล้วย รายละเอียดของใบกล้วยที่โดนแสงไฟเก็บได้พอๆ กัน (Note 10+ จะติดเหลืองเหมือนเดิม) แต่ Note 10+ จะเก็บรายละเอียดของใบไม้มืดๆ ที่อยู่ด้านหลังได้ดีกว่า
ภาพถ่ายกลางคืน มีแสงไฟน้อย
ทดสอบในซีนที่ยากขึ้นไปอีก คือในซอยจุดที่แสงไฟส่องไม่ค่อยถึง ซึ่งภาพออกมาไม่ดีนักทั้งคู่ในโหมด Auto แต่ Note 10+ เก็บรายละเอียดในจุดที่มืดได้ดีกว่า (สังเกตกระถางต้นไม้อันกลาง)
ภาพถ่ายกลางคืน มีแสงไฟน้อย ใช้ Night Mode
ลองถ่ายซีนเดิมที่สภาพแสงน้อย แล้วใช้ Night Mode ช่วย ตรงนี้เห็นความแตกต่างของ Note 10+ กับ Note 10 Lite ชัดเจนว่าภาพของ Note 10+ ดีกว่ามาก เห็นรายละเอียดของภาพเกือบหมด (สังเกตกระถาง) ส่วน Note 10 Lite นอกจากเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีเท่า ยังเร่งคอนทราสต์จนสีเพี้ยนไปอีก
ภาพรวมของกล้อง Note 10 Lite ถ้าเทียบกับ Note 10+ ก็ต้องสรุปว่า "ตามราคา" เพราะไม่อย่างนั้นตอบไม่ได้ว่าทำไมราคาต่างกันถึง 15,000 บาท แต่ถ้าวัดเฉพาะกล้องของ Note 10 Lite แล้วถือว่าน่าพอใจทีเดียว สำหรับกล้องในราคาระดับนี้
ซอฟต์แวร์: Android 10 แต่ไม่มี Samsung Pay และ DeX
ระบบปฏิบัติการของ Note 10 Lite เป็นรอม One UI 2.0 / Android 10 มาตั้งแต่โรงงานเลย (เปิดเครื่องมาจะได้อัพเดตเป็นแพตช์รอบเดือน 1 มกราคม 2020 ทันที)
ซอฟต์แวร์ที่มากับเครื่องก็ตามมาตรฐานรอมซัมซุง ไม่มีอะไรพิสดาร ที่มากับเครื่องมี Bixby, Galaxy Store, Samsung Pass และ Samsung Notes ติดมาให้สำหรับจดโน้ต (แต่ไม่มี Samsung Pay และ DeX นะครับ เก็บไว้เป็นจุดขายให้ตัวแพง)
ส่วนซอฟต์แวร์อื่นอย่าง Samsung Internet, Galaxy Gift, Samsung Health สามารถดาวน์โหลดได้เองในภายหลัง
ประเด็นอื่นๆ จากการลองใช้งาน
จากการลองใช้งาน Note 10 Lite เทียบกับ Note 10+ พบว่าความรู้สึกในแง่ขนาดแทบไม่ต่างกัน เพราะเป็นมือถือจอใหญ่ระดับใกล้เคียงกัน แต่ Note 10 Lite มีความโค้งมนมากกว่า (ในแง่การใช้งานก็ไม่รู้สึกอะไร) และวัสดุมัน ลื่นมือมากกว่า ทำตกได้ง่ายหากไม่ใส่เคสที่พื้นผิวขรุขระสักหน่อย
การมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ย่อมทำให้มีตัวเลือกเรื่องหูฟังมากขึ้น แต่ถ้าใครย้ายมาสู่หูฟัง USB-C หรือหูฟังไร้สาย true wireless แล้วก็ไม่มีปัญหา รองรับทุกอย่าง
จุดที่น่าสนใจแบบแปลกๆ คือซัมซุงย้ายปุ่มปรับระดับเสียงและปิดหน้าจอของ Note 10 Lite กลับมาไว้ทางขวาเหมือนเดิม ซึ่งต่างจาก Note 10/10+ ที่ย้ายมาไว้ทางซ้ายแบบงงๆ ชีวิต (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าย้ายไปทำไม แล้วย้ายกลับ) โดยปุ่ม power สามารถตั้งค่าได้เช่นกันว่าจะเป็นปิดหน้าจอ หรือเรียก Bixby
ถาดใส่ซิมของ Note 10 Lite ย้ายจากขอบบนของเครื่อง (ที่ซัมซุงใช้มาตลอดในมือถือเกือบทุกรุ่น) มาอยู่ที่ขอบด้านซ้ายบนแทน ซึ่งในการใช้งานก็ไม่มีผลอะไรเช่นกัน
บทสรุป: Note 10 Lite การปลดล็อคปากกาสู่มหาชน
ในฐานะแฟนซีรีส์ Note ยอมรับเลยครับว่า Note 10 Lite ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดมากๆ เพราะในราคาที่ถูกกว่า Note 10/10+ เป็นหลักหมื่น เราได้
ปากกา S Pen ที่เป็นจุดขายหลักของ Note โดยฟีเจอร์เท่ากันเกือบหมด ยกเว้นท่าสะบัดปากกา Air command ที่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกในชีวิตจริง
หน้าจอใหญ่เท่ากัน ความละเอียดอาจด้อยกว่า แต่ในชีวิตจริง ใช้ความละเอียด FHD+ ก็เหลือเฟือแล้ว ใช้ WQHD+ เปลืองแบตเตอรี่เปล่าๆ
สเปกที่ด้อยกว่าเรือธงนิดหน่อย ซึ่งไม่มีผลมากถ้าไม่ได้เล่นเกมอะไรเวอร์วัง
กล้องที่ด้อยกว่าเรือธงนิดหน่อย แต่ถือว่าค่อนข้างโอเคแล้วสำหรับยุคสมัยนี้
แถมบางอย่างอาจดูเหนือกว่าด้วยซ้ำ
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย (4500 mAh vs 4300 mAh)
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่เรือธงไม่มี
จอไม่โค้ง หลายคนน่าจะพึงพอใจ
สิ่งที่อาจต้องจับตาดูคงเป็นเรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์ (ที่ซัมซุงทำได้ดีขึ้นมากๆ ในรอบปีที่ผ่านมานี้) ว่า Note 10 Lite จะได้อัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหญ่ต่อไปแค่ไหน เมื่อเทียบกับเรือธง Note 10/10+ ที่ย่อมได้ความสำคัญมากกว่า แต่จากประวัติเก่าของซัมซุงตอน Note FE ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร (Nougat > Oreo > Pie ได้อัพเดต 2 รอบใหญ่)
ถ้าไม่ติดใช้ฟีเจอร์บางตัวใน Note รุ่นใหญ่ (เช่น สะบัดปากกา, DeX หรือ Samsung Pay) ผมคิดว่า Note 10 Lite เป็นมือถือที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากได้ปากกา S Pen มาจดงาน แต่ติดขัดที่เรื่องราคาของ Note แพงเกินไป
การที่ซัมซุงยอมปล่อยปากกา S Pen ออกมาสู่มือถือราคาระดับกลางๆ (ต่ำสองหมื่นเล็กน้อย) ถือเป็นการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของซีรีส์ Note เลยทีเดียว เพราะ Note 10 Lite ถือว่าเหลือเฟือแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป และจะกลายเป็นว่ามันไปตัดยอดขายของ Note รุ่นเรือธงด้วยซ้ำ (ตรงนี้ซัมซุงคงคิดมาดีแล้วว่ายอมให้ตัดยอดขายระหว่างรุ่นกันเอง น่าจะดีกว่าปล่อยให้คู่แข่งมาแย่งตลาดไป)
มือถือที่จะหวาดกลัว Note 10 Lite มากที่สุดคงหนีไม่พ้น Galaxy Note เรือธงรุ่นถัดไป (Galaxy Note 20?) หากไม่สามารถสร้างนวัตกรรมที่เหนือชั้นกว่ามากๆ ได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องจ่ายแพงกว่าเป็นหมื่นอีกแล้ว |
SAP ยอมถอย ยืดอายุ SAP Business Suite 7 ไปจนถึงปี 2030 | lew | 6 February 2020 - 22:19 | [
"SAP",
"Enterprise"
] | SAP ประกาศยืดอายุซัพพอร์ตซอฟต์แวร์หลายตัว โดยเฉพาะ SAP Business Suite 7 ที่ยังมีการใช้งานกันจำนวนมาก จากเดิมมีกำหนดหยุดซัพพอร์ตปี 2025 กลายเป็นซัพพอร์ตจนถึงปี 2027 และสามารถจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อซัพพอร์ตยืดระยะไปจนถึงปี 2030
ประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับการยืนยันว่าทาง SAP จะซัพพอร์ต SAP S/4HANA ไปจนถึงปี 2040
การยืดอายุซัพพอร์ตเช่นนี้อาจจะเป็นการสะท้อนว่าลูกค้าของ SAP ไม่พร้อมที่จะย้ายซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนสูงไปยังแพลตฟอร์มใหม่ แต่ทาง SAP ก็ระบุว่าผลสำรวจกลุ่มผู้ใช้ในสหรัฐฯ นั้นไม่มีลูกค้ารายใดเลยที่ไม่มีแผนจะย้ายไปยัง SAP S/4HANA
ที่มา - SAP
ภาพห้องวิจัย SAP ในประเทศจีน |
ทวิตเตอร์ไตรมาส 4/2019: รายได้แตะพันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก, mDAU เพิ่มเป็น 152 ล้านบัญชี | nutmos | 6 February 2020 - 22:18 | [
"Twitter",
"Financial Report"
] | ทวิตเตอร์ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ประจำปี 2019 อย่างเป็นทางการ โดยไตรมาสนี้ทวิตเตอร์มีรายได้สูงถึง 1.01 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นรายได้ต่อไตรมาสที่ผ่านจุดพันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกของบริษัท
เมื่อแจกแจงรายได้ของทวิตเตอร์ จะพบว่ารายได้ส่วนโฆษณาโดยรวมอยู่ที่ 885 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้ว โดย engagement กับโฆษณาเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อ engagement ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
รายได้ส่วนอื่นของทวิตเตอร์นอกจากโฆษณาแล้วก็ยังมีการให้สิทธิ์การใช้ข้อมูลและอื่น ๆ รวมเป็น 123 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สำหรับไตรมาสนี้ ทวิตเตอร์รายงานกำไรสุทธิ 119 ล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.15 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ส่วนด้านจำนวนผู้ใช้ทุกวันที่สร้างรายได้ (mDAU) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 152 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจาก 145 ล้านบัญชีในไตรมาสที่แล้ว แบ่งเป็น mDAU ในสหรัฐฯ 31 ล้านบัญชี และในตลาดโลกอีก 121 ล้านบัญชี
ที่มา - TechCrunch, sec.gov |
เปิดราคารถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE ในไทย 2.29 ล้านบาท จำกัดเพียง 25 คัน | BlackMiracle | 6 February 2020 - 22:05 | [
"Mini",
"Electric Car"
] | วันนี้ MINI ประเทศไทยได้จัดงานเปิดตัว MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท หลังจากเปิดตัวที่เมืองนอกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยตั้งราคาไว้ที่ 2.29 ล้านบาท
MINI Cooper SE รุ่นที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 217 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร
ด้านการชาร์จ หากชาร์จที่สถานีชาร์จด่วน 50 กิโลวัตต์ จะใช้เวลา 35 นาทีชาร์จได้ 80% แต่หากใช้ตู้ชาร์จที่บ้านขนาด 7.4 กิโลวัตต์จะใช้เวลา 3.2 ชั่วโมงได้ 80% หรือ 4.2 ชั่วโมงในการชาร์จจนเต็ม 100% และยังมีตู้ชาร์จขนาด 11 กิโลวัตต์ที่ชาร์จจนเต็ม 100% ได้ภายใน 3.5 ชั่วโมง แต่หากเสียบปลั๊กไฟบ้านปกติจะใช้เวลา 12 ชั่วโมงในการชาร์จจนเต็ม
สำหรับราคา 2.29 ล้านบาท จะรวมประกัน MSI สามปีหรือ 60,000 กิโลเมตร และสายชาร์จปลั๊กไฟบ้าน 1 เส้น ส่วนตู้ชาร์จขนาด 7.4 กิโลวัตต์ราคา 100,000 บาท และขนาด 11 กิโลวัตต์ราคา 120,000 บาท
MINI ประเทศไทยได้โควต้าล็อตแรกมาเพียง 25 คัน โดยจะเปิดรับจองพร้อมกันทางออนไลน์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 14:14 น. ทางเว็บไซต์ minionlinesales.com และรับรถช่วงกลางปีนี้
ที่มา - MINI Thailand
ภาพโดย MINI |
หัวหน้าทีม Xbox บอกโซนี่-นินเทนโดไม่ใช่คู่แข่งอีกแล้ว กลัวกูเกิล-อเมซอนมากกว่า | mk | 6 February 2020 - 21:53 | [
"Xbox",
"Microsoft",
"Games",
"Sony",
"Nintendo",
"Google",
"Amazon",
"Phil Spencer"
] | Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ที่รับผิดชอบงานด้านเกมมิ่งทั้งหมดของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไอทีแห่งใหม่ Protocol พยากรณ์วงการเกมปี 2020
ประเด็นที่น่าสนใจคือ Phil Spencer มองว่า โซนี่และนินเทนโดไม่ใช่คู่แข่งสำคัญของไมโครซอฟท์อีกต่อไปแล้ว เหตุเพราะทั้งสองบริษัทไม่มีคลาวด์ระดับโลกแบบเดียวกับ Azure ซึ่งไมโครซอฟท์มองว่าคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคตจะกลายเป็นกูเกิลและอเมซอนแทน
Spencer บอกว่าเขายังเคารพทั้งนินเทนโดและโซนี่ในฐานะคู่แข่ง แต่บริษัทเกมแบบดั้งเดิมอยู่ยากแล้วในยุคสมัยใหม่ และการสร้างคลาวด์แบบ Azure ขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไมโครซอฟท์ลงทุนไปเป็นหมื่นๆ ล้านดอลลาร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา (ช่วงกลางปีที่แล้วเราเห็นข่าวช็อคโลกคือ โซนี่เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรคลาวด์กับไมโครซอฟท์)
เขายังบอกว่าอยากร่วมมือกับนินเทนโดและโซนี่ในเรื่องต่างๆ เช่น การ cross play ข้ามแพลตฟอร์ม เนื่องจากไม่ต้องการเปิดศึกกับนินเทนโด-โซนี่ จนเปิดช่องว่างให้กูเกิลหรืออเมซอนมาฉกฉวย
ที่มา - Protocol
Phil Spencer ภาพจาก Microsoft |
Facebook ปิดเครือข่ายโฆษณา Audience Network สำหรับเว็บและวิดีโอ แต่โฆษณาแอพยังอยู่ | mk | 6 February 2020 - 21:37 | [
"Facebook",
"Advertising"
] | Facebook มีเครือข่ายโฆษณา Facebook Audience Network มาตั้งแต่ปี 2014 รูปแบบธุรกิจเหมือนกับ Google AdSense หรือ AdMob ที่หาโฆษณามาลงแอพ เว็บหรือวิดีโอ ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบของ Facebook เอง
แต่ล่าสุด Facebook ประกาศปิดบริการ Audience Network สำหรับเว็บไซต์และวิดีโอแล้ว เหลือแต่โฆษณาบนแอพเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในวันที่ 11 เมษายน 2020 ซึ่ง Facebook แนะนำให้เจ้าของเว็บหรือวิดีโอถอดโค้ดโฆษณาออกจากระบบของตัวเอง
Facebook ไม่ได้ระบุเหตุผลชัดๆ ว่าทำไมถึงปิดบริการส่วนนี้ บอกแค่ว่ามีความต้องการโฆษณาบนเว็บน้อยกว่าบนแอพ ซึ่งเว็บไซต์ด้านโฆษณา Digiday ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นผลจากเบราว์เซอร์ยุคหลังเริ่มบล็อคคุกกี้ข้ามไซต์ (Chrome, Firefox, Edge) อาจทำให้โฆษณาของ Facebook ทำงานยากขึ้น
ที่มา - Facebook, Digiday |
Grab เปิดตัว GrabInvest บริการจัดพอร์ตลงทุนส่วนบุคคล ให้บริการสิงคโปร์ที่แรก | arjin | 6 February 2020 - 21:20 | [
"Grab",
"FinTech",
"Acquisition"
] | Grab สิงคโปร์ ประกาศเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพ Bento ที่ให้บริการระบบจัดการลงทุนอัตโนมัติ (Robo Advisor) โดยไม่เปิดเผยมูลค่าดีล ซึ่ง Grab จะรีแบรนด์บริการนี้เป็น GrabInvest และให้บริการผ่านแอป Grab
Chandrima Das ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Bento จะมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Grab Financial หน่วยธุรกิจด้านการเงินของ Grab ที่ตอนนี้มีบริการอยู่แล้วได้แก่ GrabPay, GrabRewards, GrabFinance และ GrabInsure
GrabInvest จะให้บริการจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคล โดยใช้ระบบจัดพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ เน้นค่าธรรมเนียมที่ต่ำ โดยจะเริ่มให้บริการที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรก เนื่องจากได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นแล้ว จากนั้นจะให้บริการต่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เป็นฐานลูกค้าของ Grab อยู่แล้วต่อไป
ที่มา: Grab |
AIS PLAY ประกาศยกเลิกช่อง HBO ทั้งเซ็ต 13 มี.ค. เตรียมเพิ่มช่องทดแทน พร้อมลดราคาแพ็คเกจ | BlackMiracle | 6 February 2020 - 20:02 | [
"AIS Play",
"AIS",
"HBO"
] | นี่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับคอหนัง เพราะ AIS ผู้ให้บริการ AIS PLAY บริการสตรีมมิ่งที่ได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดช่องภาพยนตร์ HBO แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้ประกาศยกเลิกการให้บริการช่อง HBO ทั้งเซ็ต รวมถึง HBO GO สตรีมมิ่งออนดีมานด์ที่รวมภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดไว้จำนวนมาก ที่ดังที่สุดก็น่าจะเป็น Game of Thrones และ Chernobyl
นอกจากนี้ยังถอดช่องอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งเช่น Cinemax, ช่องการ์ตูน Nick Jr., ช่องสารคดี Nat Geo People, ช่องข่าว Sky News กับ Fox News และช่องเพลง Channel V โดยทุกช่องข้างต้นจะให้บริการในวันที่ 12 มีนาคมนี้เป็นวันสุดท้าย
AIS PLAY ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม จะเพิ่มช่องใหม่ๆ มาทดแทน เช่นช่องซีรี่ส์เกาหลี VIU, บริการสตรีมมิ่ง HOOQ และภาพยนตร์ HITS Movies ส่วนคอกีฬาน่าจะชอบเพราะนำช่องดังๆ มาเพิ่มคือ beIN Sports และ Eurosport สำหรับนักปั่นก็สามารถติดตามรายการ Tour de France ได้จากช่องนี้ นอกจากนี้ยังมีช่องสารคดีอย่าง Discovery Channel กับ Animal Planet ด้วย
อย่างไรก็ดี การเสียช่อง HBO ไปทั้งเซ็ตนั่นหมายถึงค่าลิขสิทธิ์ที่ AIS จะต้องจ่ายก็คงหายไปเยอะ เลยปรับลดราคาแพ็คเกจเหลือเดือนละ 299 และ 199 บาท จากที่ปัจจุบันแพ็คเกจแพงสุดอยู่ที่เดือนละ 599 บาท ตามภาพ
ทั้งนี้ใครเห็นว่าแพ็คเกจใหม่ไม่คุ้มแล้วก็สามารถยกเลิกแพ็คเกจได้จากแอพ AIS PLAY และกล่อง PLAYBOX ได้ทันที
AIS ให้บริการช่อง HBO มาได้ราวสามปีเต็มพอดี โดยจัดงานแถลงข่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 และเริ่มให้บริการในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน
ดูรายละเอียดเต็มๆ ได้จากที่มา
ที่มา - AIS |
AIS รายงานผลประกอบการปี 2562 ยังเป็นเบอร์ 1 รายได้โต 8% จำนวนผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านเลขหมาย | arjin | 6 February 2020 - 19:26 | [
"AIS",
"AIS Fibre",
"Financial Report"
] | เอไอเอสประกาศผลประกอบการของปี 2562 มีรายได้รวมเติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน โดยมีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4.6% เป็น 31,051 ล้านบาท
ส่วนแบ่งการตลาดของเอไอเอสยังคงเป็นอันดับ 1 ทั้งในด้านของรายได้ (48%) และจำนวนผู้ใช้บริการ (45%) ซึ่ง ณ สิ้นสุดปี 2562 เอไอเอสมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3/2562 อีก 455,700 เลขหมาย รวมเป็นกว่า 42 ล้านเลขหมาย การให้บริการด้าน 4G ของเอไอเอส ที่มีสถานีฐานมากกว่า 158,000 สถานี ทำให้มีลูกค้าที่เปลี่ยนมาใช้งานมากขึ้นโดยมีจำนวน 71% ของลูกค้าทั้งหมด เทียบกับกับปีก่อนที่ 59% และมีอัตราการใช้งานดาต้าเฉลี่ย 12.7GB ต่อหมายเลขต่อเดือน เพิ่มขึ้น 17%
ขณะที่ธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตถึง 42% มากกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม และมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายแล้ว ด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence ผสาน 3 บริการคือ อินเทอร์เน็ตมือถือ, อินเทอร์เน็ตบ้าน และคอนเทนต์ของ AIS Playbox หรือแอป AIS Play
ในปี 2563 เอไอเอสมีแผนยกระดับงานบริการเพื่อการดูแลในธีม "อุ่นใจ...ได้มากกว่า" โดยเตรียมพร้อมเครือข่ายให้รองรับการขยายตัวในอนาคต, ยกระดับบริการและสินค้าที่ล้ำสมัย, สร้างประสบการณ์ที่ดี เข้าถึงลูกค้าทุกวัย ทุกภูมิภาค และดำเนินนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในโครงการอุ่นใจไซเบอร์ รวมทั้งรณรงค์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ E-Waste อย่างถูกวิธี
ที่มา: อีเมลประชาสัมพันธ์ และรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ |
คนจีนใส่หน้ากากอนามัย กระทบการสแกนใบหน้ามือถือ และตามจุดต่างๆ ของเมือง | sunnywalker | 6 February 2020 - 18:46 | [
"China",
"Facial Recognition"
] | ประเทศจีนมีการใช้งานระบบสแกนใบหน้าตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้มือถือ การสแกนใบหน้าชำระเงิน, สแกนใบหน้าเข้าที่พักอาศัย
ชาวเน็ตจีนโพสต์บ่นใน Weibo กันว่า ตั้งแต่ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกวันก็เข้าใช้งานมือถือได้ยาก, Face ID ไม่มีประโยชน์เลยในเวลานี้ แต่ก็มีผู้ใช้งานหลายคนแนะนำให้สแกนนิ้วแทน
การสแกนใบหน้าสำคัญกับการดำรงชีวิตประจำวันชาวจีนมากกว่าประเทศอื่นๆ สนามบิน 200 แห่งทั่วประเทศจีน ติดตั้งระบบสแกนใบหน้า, แม้แต่การสั่งอาหาร การเข้าห้องน้ำก็ใช้ด้วย โดยในห้องน้ำที่จีนติดตั้งสแกนใบหน้าไว้เพราะป้องกันคนดึงทิชชู่เช็ดมือออกมาใช้มากเกินไป
ภาครัฐเองก็ใช้ระบบจดจำใบหน้า เดือนธันวาคมที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกกฎหมายใหม่ซึ่งบังคับให้ทุกคนที่ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือใหม่ได้รับการสแกนใบหน้าเพื่อปกป้อง "สิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์ของประชาชนในไซเบอร์สเปซ" ในบางโรงเรียนยังใช้ระบบจดจำใบหน้าควบคุมและประเมินพฤติกรรมนักเรียนด้วย
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - QUARTZ |
Google Maps ฉลองครบรอบ 15 ปีปรับโฉมโลโก้ใหม่ พร้อมอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ | nismod | 6 February 2020 - 18:12 | [
"Google Maps",
"Google"
] | Google Maps ฉลองครบรอบ 15 ปี หลังเริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2005 ด้วยการเผยโฉมโลโก้ใหม่ เป็นรูปหมุดที่ปักในแผนที่บนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Google นอกจากนี้ยังพร้อมปรับปรุงแท็บด้านล่างของ Google Maps จากเดิม 3 แท็บเป็น 5 แท็บดังนี้
Explore (สำรวจ) หาร้านอาหารหรือ Tourist Attraction รอบตัว
Commute (การเดินทาง)
Save (บันทึกไว้) หมุดสถานที่ต่าง ๆ ที่บันทึกไว้
Contribute (การมีส่วนร่วม) Google ดูเหมือนจะให้ความสำคัญเรื่องการอัพเดตข้อมูลจากผู้ใช้มากยิ่งขึ้น เลยขยับแท็บ Contribute มาเอาไว้หน้าหลัก
Updates (อัพเดต) เป็นแท็บใหม่ที่จะแสดงสถานที่นิยมรอบตัว ไปจนถึงร้านอาหารหรือสถานที่เปิดใหม่จาก Local Guides และสื่อต่าง ๆ
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาเรียกว่า Transit Attribute ที่จะให้ผู้ใช้ Google Maps ช่วยกันระบุข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะคู่ไปกับข้อมูลการคาดการณ์ความหนาแน่นของคนและความล่าช้า ได้แก่ การรองรับ accessibility สำหรับผู้พิการ, พื้นที่หรือตู้โดยสารสำหรับผู้หญิง, บอกความปลอดภัยในการใช้บริการ, บอกอุณหภูมิล่วงหน้าในรถไฟหรือรถเมล์ว่านั่งตรงไหนอุ่นตรงไหนเย็นและสุดท้ายคือบอกจำนวนตู้โดยสารที่จะรองรับเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ Transit Attribute จะเริ่มปล่อยให้ใช้งานในเดือนมีนาคม โดยจะค่อย ๆ ปล่อยให้ผู้ใช้แบบสุ่ม |
ผู้กำกับ Super Smash Bros. Ultimate ยอมรับ มีตัวละครจาก Fire Emblem เยอะไปจริงๆ | mk | 6 February 2020 - 17:02 | [
"Super Smash Bros.",
"Games",
"Nintendo",
"Fire Emblem"
] | ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีกระแสความขัดแย้งในหมู่แฟนๆ เกมไฟติ้ง Super Smash Bros. Ultimate หลังนินเทนโดเปิดตัวละครใหม่ที่เป็น DLC คือ Byleth ตัวละครเอกจากเกม Fire Emblem: Three Houses (เลือกเพศของ Byleth ได้ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย) โดยแฟนๆ มองว่า Super Smash Bros. Ultimate มีตัวละครจากซีรีส์ Fire Emblem มากเกินไปแล้ว เพราะถือเป็นตัวละครตัวที่แปดเข้าไปแล้ว
ล่าสุด Masahiro Sakurai ผู้กำกับเกมนี้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเกม Famitsu ของญี่ปุ่น ยอมรับว่า Super Smash Bros. Ultimate มีตัวละครจาก Fire Emblem เยอะไปจริงๆ และตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบตัวละครนี้ การตัดสินใจเพิ่มตัวละครใดเข้ามาเป็นของนินเทนโดล้วนๆ เมื่อการตัดสินใจเกิดขึ้นแล้ว เขาก็จะทำหน้าที่ต่อให้ดีที่สุด
Sakurai ยังให้ข้อมูลว่า DLC ชุดหน้าจะมีตัวละครเพิ่มอีก 6 ตัว ซึ่งเคาะกันไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่เปิดเผยว่ามีใครบ้าง
ที่มา - Gamespot |
Nintendo ระบุ เหตุไวรัสโคโรน่า กระทบต่อการผลิต Switch และ Ring Fit | arjin | 6 February 2020 - 16:52 | [
"Nintendo",
"Nintendo Switch"
] | นินเทนโดเป็นบริษัทล่าสุดที่ออกมาประกาศผลกระทบการผลิตสินค้า เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ที่มีหลายโรงงานในจีนประกาศหยุดการผลิตชั่วคราวก่อนหน้านี้
สินค้าที่ได้รับผลกระทบทันทีคือ Nintendo Switch รุ่นพิเศษ Animal Crossing จากเดิมจะเปิดให้พรีออเดอร์สัปดาห์นี้ เป็นเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
นินเทนโดยังบอกว่าคอนโซล Switch รวมทั้ง Joy-Con ที่ผลิตในจีนเพื่อส่งมาจำหน่ายในญี่ปุ่น จะมีปัญหาเลื่อนส่งสินค้าจึงอาจทำให้สินค้าขาดตลาดได้ เช่นเดียวกับ Ring Fit Adventure ที่สินค้าขาดตลาดอยู่แล้ว ก็จะมีปัญหานี้ต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ และบริษัทก็ได้ขอโทษลูกค้าในเหตุการณ์ดังกล่าว
ประกาศนี้เจาะจงไปที่ Switch ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น ซึ่งผลิตโดย Foxconn ส่วนรุ่นที่ขายในอเมริกานั้นคาดว่าไม่ได้ผลิตในจีนจึงไม่รวมในผลกระทบดังกล่าว
ที่มา: The Verge |