title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
โสภณ พรโชคชัย: เอาที่ดินมักกะสันไปทำสวนสาธารณะไม่ได้ | มีความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มที่จะเอาพื้นที่โรงซ่อมรถไฟมักกะสันไปทำสวนสาธารณะ แนวคิดนี้คล้ายดูดี แต่จะหวังฉวยเอามาประเคนให้เฉพาะคนกรุงเทพมหานครแถบนั้น คงไม่เหมาะสมเช่นกันพื้นที่โรงซ่อมรถไฟมักกะสันนี้มีขนาดเกือบ 400 ไร่ เป็นโรงซ่อมมานานและพื้นที่ส่วนมากถูกปล่อยรกร้างว่างเปล่ามานาน จนครั้งหนึ่งเคยมีผู้พบเห็นและสามารถจับเสือที่แอบซ่อนอยู่ในพื้นที่นี้ได้ แสดงว่าพื้นที่นี้ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเท่าที่ควร จนต่อมาได้มีการก่อสร้างทางด่วนและถนนเข้าไปใสพื้นที่บางส่วนทางด้านข้าง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนับเป็นทำเลทองสำคัญเพราะด้านทิศเหนือติดกับทางด่วน ด้านทิศตะวันออกติดกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (รถไฟฟ้า MRT) และทางด้านทิศใต้ติดกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail Link Airport Rail Link)การรถไฟแห่งประเทศไทยมีแนวคิดที่จะนำที่ดินแปลงนี้มาจัดประโยชน์ในเชิงธุรกิจ แต่ก็ถูกคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มนักอนุรักษ์ นักรักพื้นที่สีเขียว ฯลฯ เป็นจำนวนมาก อันที่จริง การแก้ปัญหาการขาดทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สมควรจะแก้ไขโดยการหากำไรจากทางอื่นมาโปะเพื่อตัดหรือลดการขาดทุน การขาดทุนเกิดขึ้นจากการทุจริต การบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ การตัดการขาดทุนด้วยวิธีนี้ ก็เท่ากับเป็นการรักษาไว้ซึ่งระบบการทุจริตหรือไม่ได้แก้ไขปัญหาทุจริตการนำที่ดินแปลงนี้ไปทำสวนสาธารณะนั้นเป็นแนวคิดที่ดูคล้ายจะดี เพราะทำให้กรุงเทพมหานครมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น กรุงเทพมหานครเองก็มีพื้นที่สีเขียวอยู่น้อยมาก ขนาดว่ากรุงเทพมหานครนำเอาที่หนองบึง สวนสาธารณะในหมู่บ้านจัดสรร ค่ายทหาร พื้นที่สีเขียวบนเกาะกลางถนน ฯลฯ ไปนับรวมแล้ว ประชากรกรุงเทพมหานครยังมีพื้นที่สีเขียวเพียง 4.6 ตารางเมตรต่อคนเท่านั้น การเคลื่อนไหวของผู้คนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ก็ดูศิวิไลซ์ น่ารักน่าชังที่ต่างเห็นแก่สิ่งแวดล้อม เห็นแก่เมือง เห็นแก่ส่วนรวมกันอย่างไรก็ตาม การที่คิดจะเอาพื้นที่นี้ไปทำสวนสาธารณะก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรทำเช่นกัน สิ่งที่พึงเข้าใจก็คือที่ดินแปลงนี้ไม่ใช่ของชาวกรุงเทพมหานคร เป็นของประชาชนทั่วประเทศโดยรวมที่ถือครองโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ประชาชนเจ้าของประเทศทุกคนเป็นเจ้าของโดยการดูแลของรัฐบาล หากชาวกรุงเทพมหานครจะถือวิสาสะ เอาที่ดินแปลงนี้ไปเป็นสาธารณะเพื่อประโยชน์ของตน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้พื้นที่นี้แล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ควรทบทวนเป็นอย่างยิ่งที่ดินแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แถวสี่แยกอโศกแถวขนาดไม่เกิน 10 ไร่นั้น หากเป็นของเอกชนก็จะขายได้ ณ ราคาตารางวาละ 600000 บาท หรือไร่ละ 240 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ถ้าที่ดินแปลงนี้ที่มีขนาด 400 ไร่ หักแบ่งเป็นถนนและสาธารณูปโภคอื่นสัก 40% ก็จะเหลือที่ดิน 240 ไร่ที่จะขายได้ แต่โดยที่ที่ดินแปลงนี้ไม่ได้ติดถนนใหญ่ปัจจุบัน ราคาอาจลดหย่อนกว่าปกติประมาณ 30% ดังนั้นจึงน่าจะมีราคาตลาด (หากขายได้) เป็นเงินไร่ละ 168 ล้าน รวม 240 ไร่ ก็จะเป็นเงินถึง 40320 ล้านบาทเข้าไปแล้วโดยนัยนี้ ประชาชนไทยโดยรวม จะยอมยกที่ดินที่มีมูลค่าสูงเท่านี้ประเคนให้คนกรุงเทพมหานครไปใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โดยที่ตนเองอาจได้มีโอกาสไปนั่งเล่นบ้างชาตินี้สักหนสองหน หรือในอีกทางหนึ่ง คนกรุงเทพมหานครจะ กลืน ที่ดินแปลงนี้ซึ่งเป็นของคนไทยทั้งชาติได้ลงคอเชียวหรือ หรือแม้หากกรุงเทพมหานครจะเจียดเอางบประมาณแผ่นดินที่เก็บจากภาษีของคนกรุงเทพมหานครมาซื้อ คนในกรุงเทพมหานครที่อยู่ในเขตที่ห่างไกลออกไปก็อาจไม่ยินยอมพร้อมใจให้ซื้อก็ได้ เพราะตนก็จะได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าไปด้วยในที่นี้ ผมจึงเสนอทางออกให้มาที่ดินแปลงนี้มาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า หอประชุม-สัมมนา โรงแรม ที่พักอาศัยให้เช่าระยะยาว ฯลฯ โดยใช้พื้นที่เพียง 60% ของที่ดินทั้งหมด (240 ไร่จากประมาณ 400 ไร่) พื้นที่ส่วนที่เหลือ นอกจากเป็นถนนและสาธารณูปโภคต่าง ๆ แล้ว ยังอาจเป็นสวนสาธารณะรอบ ๆ พื้นที่ก่อสร้างอาคาร เพื่อเพิ่มมูลค่าของที่ดิน และควรประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้าทั้งสองสายเพื่อเชื่อมสถานี ตลอดจนการจัดทำรถไฟฟ้ามวลเบา (Light Rail / Monorial) วิ่งอยู่ภายในโครงการเพื่อลดปัญหามลพิษอีกด้วย หากจัดการให้ดี ราคาที่ดินที่คาดว่าจะได้รับเป็นเงินไร่ละ 168 ล้านบาท หรือ 70% ของราคาตลาด ก็อาจได้รับรู้มูลค่าสูงกว่านี้ ทำให้โครงการมีความเป็นไปได้ทางการเงินมากกว่านี้เสียอีกโครงการนี้ไม่พึงให้เอกชนรายใดรายหนึ่งประมูลไปทำแบบเหมาเข่ง ควรจัดสรรแปลงที่ดินตามแผนแม่บทให้เรียบร้อยแล้วแยกประมูลเป็นแปลงย่อยไป และควรทำสัญญาให้รัดกุม หากเอกชนรายใดไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จตามกำหนด ก็สามารถเปลี่ยนรายใหม่ได้ โดยไม่กลายเป็นปัญหาเช่นที่เคยเกิดขึ้นแล้วในกรณีโครงการโฮปเวลล์ เป็นต้นและโดยที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่ดิน หรือแม้แต่หน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจอื่นใดที่ครอบครองที่ดินอยู่แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ควรคืนหลวง ให้กรมธนารักษ์ โดยบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ โดยยกระดับหน่วยงานนี้ให้เป็นหน่วยงานที่ชำนาญการพัฒนาที่ดิน เช่นเดียวกับ Urban Redevelopment Authority ของประเทศสิงคโปร์รัฐบาลพึงนำรายได้ที่ได้จากการนี้มาพัฒนาประเทศโดยรวม จึงจะเหมาะสมกับที่ดินแปลงนี้เป็นสมบัติของประชาชนทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม บางท่านอาจเกรงว่ารัฐบาลที่ขึ้นมาบริหารประเทศ (ไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดก็ตาม) จะโกง กรณีการโกง หน่วยงานที่ตรวจสอบหรือคณะบุคคลที่อาสาตรวจสอบ ก็ต้องตรวจสอบเป็นเรื่อง ๆ ไป แบบ กัดไม่ปล่อย จะอ้างเอาการทุจริตขึ้นมาเพื่อจะได้ไม่ต้องทำอะไร ประเทศก็ไม่พัฒนา แล้วปล่อยให้เกิดการ มือใครยาวสาวได้สาวเอา จากทรัพยากรของประเทศโดยรวม ก็ย่อมไม่ได้การจัดการที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมจริง ๆ ต้องมองให้ไกลกว่าปลายจมูก | ที่มาของภาพประกอบ: maps.google.com มีความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มที่จะเอาพื้นที่โรงซ่อมรถไฟมักกะสันไปทำสวนสาธารณะ แนวคิดนี้คล้ายดูดี แต่จะหวังฉวยเอามาประเคนให้เฉพาะคนกรุงเทพมหานครแถบนั้น | คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | บึงมักกะสัน,ผังเมือง,พื้นที่สาธารณะ,มักกะสัน,สวนรถไฟมักกะสัน,สวนสาธารณะ,โสภณ พรโชคชัย | https://prachatai.com/journal/2013/06/47392 |
หายทั้งองค์ 2 โจรแสบบุกขโมยพระพรหมหน้า อบต.ราชบุรี กลางดึก | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 58 นายเรืองฤทธิ์ คุณเมฆ นายก อบต.เขาแร้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต. ตรวจสอบที่บริเวณศาลพระพรหม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้า อบต.เขาแร้ง หลังได้รับแจ้งจากคนงานที่จะเข้าไปทำความสะอาดบริเวณศาล ว่า องค์พระพรหมที่อยู่ในศาลหายไป ตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยของคนร้าย เนื่องจากอยู่ด้านหน้าติดกับถนน ประกอบกับในช่วงกลางคืนที่ผ่านมานั้นมีฝนตกตลอดทั้งคืน,นายก อบต.เขาแร้ง กล่าวว่า องค์พระพรหมมีหน้าตักกว้าง 15 นิ้ว เป็นทองเหลืองทั้งองค์ นำมาประดิษฐานตั้งแต่ปี 55 และมีโครงการจะย้ายองค์พระพรหมไปประดิษฐานในที่แห่งใหม่ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ทำการ อบต. เพราะจะมีการสร้างอาคารในบริเวณดังกล่าว แต่ก็มาถูกคนร้ายย่องมาขโมยไปเสียก่อน ส่วนกล้องวงจรปิดของ อบต. ยังไม่มี เนื่องจากอยู่ในช่วงของการเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาในการติดตั้ง และศาลพระพรหมอยู่ห่างจากตัวอาคารของสำนักงาน ทำให้เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยมองไม่เห็น,ส่วนคนร้ายนั้น ชาวบ้านที่ขับรถผ่านเห็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อมาจอดด้านข้างศาลพระพรหม แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนมาหากบข้างถนน จนกระทั่งมาทราบในช่วงเช้าว่า องค์พระพรหมหายไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ติดตามหาเบาะแสคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป. | โจร 2 หนุ่มแสบ ขี่จักรยานยนต์จอดหน้าทางเข้า อบต.เขาแร้ง จ.ราชบุรี ก่อนยกองค์พระพรหมทองเหลือง หน้าตัก 15 นิ้ว หนีลอยนวลกลางดึก ด้าน จนท. เผย เตรียมย้ายประดิษฐานที่ใหม่ แต่โดนขโมยเสียก่อน | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยพระพรหม,ลักพระพรหม,พระพรหมหาย,โจรขโมยพระพรหม,เรืองฤทธิ์ คุณเมฆ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/525902 |
สวอนซี ซิตี้บุกชนะบาเลนเซีย 3-0 ในฟุตบอล ยูโรป้า ลีก | เกมที่สนามเมสตาญ่า สเตเดี้ยม ทีม เจ้าค้างคาว บาเลนเซีย เปิดบ้านพบกับ สวอนซี ซิตี้ ตัวแทนจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดย เจ้าบ้าน มีเฮลเดอร์ โปสติกา กับ อันเดรส กวาร์ดาโด เป็นกำลังหลัก ส่วนทีมเยือนส่ง มิชู กับ วิลเฟร็ด โบนี เป็นนักเตะตัวจริง ผลปรากฏว่า สวอนซี เล่นได้ยอดเยี่ยม เป็นฝ่ายชนะไป 3-0 จากประตูของ วิลเฟร็ด โบนี่ นาทีที่ 14 มิชู นาทีที่ 58 และ โจนาธาน เดอ กูสมัน นาทีที่ 62 ขณะที่ บาเลนเซีย มีผู้เล่นถูกไล่ออกจากสนาม 1 คน คือ อาดริล รามี่ นาทีที่ 10 ส่วนผลอีกคู่ของกลุ่มนี้ เซนต์ กัลเล่น เปิดบ้านชนะ คูบาน คราสโนดาร์ ไป 2-0ส่วนความเคลื่อนไหวกีฬาอื่นๆ คีมี่ ไรโคเน่น นักขับของทีม โลตัส เรโนลด์ ที่กำลังจะย้ายไปร่วมทีม เฟอร์รารี่ หลังจบฤดูกาลนี้ ให้สัมภาษณ์ก่อนการแข่งขัน สิงคโปร์ กรังซ์ ปรีด์ ในสุดสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าการปรับตัวกับทีมเฟอร์รารี่ ไม่ใช่ปัญหา เพราะเคยร่วมงานกันมาก่อนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และยังมีความสนิทกับทีมงานหลายคนในทีมเฟอร์รารี่ด้วย | ทีมสวอนซี ซิตี้ ทำผลงานยอดเยี่ยม เป็นฝ่ายบุกไปชนะบาเลนเซีย ถึงสเปน ทำให้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ในการแข่งขันฟุตบอล ยูโรป้า ลีก เมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) | กีฬา | บาเลนเซีย,ฟุตบอล,ยูโรป้า ลีก,สวอนซี ซิตี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/196805 |
กองทัพสื่อ เกาะติดคดีหวย 30 ล้าน รอ ผบ.ตร.แถลงบ่ายนี้ | ภาพจากแฟ้มข่าว,สื่อมวลชนเดินทางมาเกาะติดการแถลงข่าวคดีหวย 30 ล้านที่ สตช. คาดว่า จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินคดี อดีตผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ,เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2561 อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ก็จะเป็นเวลาที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแถลงข่าวความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ขณะนี้ก็มีสื่อมวลชนหลายสำนักทยอยเดินทางมาเกาะติดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคดีนี้ถือเป็นคดีที่น่าสนใจของสังคม และยืดเยื้อยาวนาน โดยประเด็นในการแถลงข่าววันนี้ ก็คาดว่าจะเป็นความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับอดีตผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ,วันนี้คาดว่าการแถลงข่าวจะประกอบไปด้วยคณะทำงานในคดีนี้ เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึง กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ซึ่งคาดว่าจะร่วมกันแถลงถึงความเชื่อมโยงของตัวละครในคดีนี้ ที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ผู้ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และกลุ่มที่เป็นกองเชียร์แสดงความคิดเห็น โดยคาดว่าจะมีการออกหมายจับบุคคลในจำนวน 3 กลุ่มนี้เพิ่มเติม ซึ่งจากรายงานข่าวแจ้งว่าเป็นพยานฝ่ายครูปรีชา ในกลุ่มบุคคลที่ 2 คือ กลุ่มพยานที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมกันนี้ยังเตรียมออกหมายเรียก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา และ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น มารับทราบข้อกล่าวหาเดียวกันนี้ด้วย,คาดว่า วันนี้จะมีความชัดเจนในการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 หลังจากที่ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ได้ให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ผู้ทำสำนวนคดี เสร็จสิ้นแล้ว รวมถึง ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อเป็นพยานยืนยันประกอบสำนวนคดีเอาผิดด้วย โดยในวันนี้ พนักงานสอบสวน ปปป.ได้เรียกพลตำรวจตรีสุทธิ มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีรายงานว่าขณะนี้ พล.ต.ต.สุทธิ อยู่ระหว่างการลาพักราชการ แต่จะเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงบ่ายวันนี้ แต่หาก พล.ต.ต.สุทธิ ยังไม่เดินทางมาตามนัดหมาย หากกลับมาทำงานตามปกติ ก็จะถูกเรียกตัวมาทันทีโดยไม่ต้องรอออกหมายเรียกแต่อย่างใด,ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ย้ำว่า อยากให้โอกาสพยานในการคิดทบทวนว่า คิดและจำอะไรผิดพลาดไปหรือไม่ ให้การเท็จโดยตั้งใจหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้คดีใกล้ถึงบทสรุปที่ชัดเจนเข้าไปทุกทีแล้ว,ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันด้วยว่า ภายในสัปดาห์หน้าคดีนี้ต้องจบทุกกระบวนการ และจะต้องสรุปสำนวนการสอบสวนให้แล้วเสร็จและส่งฟ้องต่ออัยการทันก่อนครบกำหนดการฝากขังผู้ต้องหาในผัดที่ 2 วันที่ 14 มี.ค. นี้แน่นอน ซึ่งก็ต้องจับตามองการแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้ว่าจะมีความชัดเจนทางด้านใด จะสามารถระบุได้หรือไม่ว่าหวยเป็นของใคร รวมถึงออกหมายจับคนกลุ่มใดเพิ่มเติมบ้าง,รายงานความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป. | สื่อมวลชนเดินทางมาเกาะติดการแถลงข่าวคดีหวย 30 ล้านที่ สตช. คาดว่า ความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินคดี อดีตผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม | ข่าว,อาชญากรรม | หวย 30 ล้าน,หวยหาย,จักรทิพย์ ชัยจินดา,ผบ.ตร.,ออกหมายจับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1223638 |
เร่งจัดสถานที่งาน ธารโบกขรณีที่พ่อเคยมา รำลึกวันเสด็จฯ 57 ปีก่อน | เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่ อ.อ่าวลึก ได้เร่งจัดสร้างซุ้มต่างๆ เพื่อประดับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ครั้งเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังอุทยานแห่งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2502 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และร่วมแสดงความอาลัย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯ จ.กระบี่ เพื่อให้มีความพร้อมในการจัดงาน ธารโบกขณีที่พ่อเคยมา ซึ่งทางอุทยานฯ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในอำเภอจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-30 พฤศจิกายน 2559,นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ กล่าวว่า กิจกรรมในงานธารโบกขรณีที่พ่อเคยมา เตรียมจัดขึ้นในวันที่ 24-30 พ.ย. 59 ซึ่งเป็นการจำลองสร้างซุ้มรับเสด็จแบบต่างๆ เมื่อครั้งปี 2502 ที่ชาวกระบี่ในขณะนั้นร่วมกันจัดขึ้น โดยสร้างด้วยไม้ไผ่ ทั้งซุ้มทางเข้า บริเวณลานรับเสด็จ และที่หน้าถ้ำน้ำลอด ที่ได้สร้างแพขนาดเท่าแพครั้งนั้น ที่ทั้ง 2 พระองค์เสด็จประทับชมความสวยงามของน้ำตก และทรงลงพระปรมาภิไธย ภปร และ สก ไว้ที่หน้าผาบริเวณหน้าถ้ำน้ำลอด (,อช.ธารโบกขรณี เปิดให้ชมพระปรมาภิไธย ภปร-พระนามาภิไธย สก,),ส่วนภายในงาน มีกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัย วาดภาพบริเวณลานกษัตริย์ศิลปิน ลานดนตรีกษัตริย์ นิทรรศการตามรอยพ่อ และโครงการพระราชดำริต่างๆ ใน จ.กระบี่ ซึ่งงานในครั้งนี้ ได้จัดสร้างให้คล้ายเมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯ เพื่อร่วมกันเทิดพระเกียรติ และรำลึกถึงพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย. | จนท.อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เร่งจัดงาน ธารโบกขรณีที่พ่อเคยมา ทำซุ้มประดับพระบรมฉายาลักษณ์ จำลองสถานที่ให้เหมือนครั้ง 2 ล้นเกล้า เสด็จฯ จ.กระบี่ ประทับแพไม้ไผ่ และทรงลงพระปรมาภิไธย ภปร - สก | ข่าว,ทั่วไทย | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระราชกรณียกิจ,พระราชประวัติ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระบรมฉายาลักษณ์,พระบรมสาทิสลักษณ์,ธารโบกขรณี,อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี,กระบี่,พระปรมาภิไธย,ถ้ำน้ำลอด | https://www.thairath.co.th/news/local/785707 |
สัตวแพทย์เผย ตุ๊กแกทองแดง ป่วย ไขมันพอกตับ | วันนี้ (27 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายสมมาตร อายุ 62 ปี นำพาตุ๊กแกเพศผู้ ตัวใหญ่ ลายสีส้ม อายุประมาณ 2-3 ปี มารักษาอาการป่วย ที่โรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ล่าสุด น.สพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา หรือ หมอวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Taweesak Anunsiriwattana ว่า จากการตรวจพบว่าหางที่มีขนาดใหญ่เนื่องจากหางเคยขาดมาแล้วและมีการสร้างขึ้นมาใหม่ ขณะที่อาการของตุ๊กแกที่นิ่ง อ่อนแรง ไม่ขยับตัว และมีอาการสั่นนั้นจากการอัลตราซาวนด์พบว่า มีภาวะไขมันพอกตับ ก่อให้เกิดอ่อนแรงจากภาวะตับเสื่อม โดยจะต้องติดตามต่อไปว่าอาการจะดีขึ้นหรือไม่ โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังนี้สาเหตุที่หางบวมตุ๊กแก เจ้าทองแดง❗️❗️❗️ที่เคยมีข่าวว่าไม่สบายเนื่องจากหางบวม หลังจากมีการรักษามาก่อนแต่น้องทองแดงก็ยังไม่ยอมกินอาหาร (แมลง) และที่มีข่าวว่าหางบวมอักเสบ อันที่จริงหลังจากการตรวจแล้วหางที่ดูมีขนาดใหญ่คือหางที่เคยขาดแล้วมีการสร้างหางขึ้นมาใหม่ ส่วนที่น้องมีอาการนิ่ง อ่อนแรง ไม่ขยับตัว และมีอาการสั่นนั้น บ่งถึงภาวะที่ไม่สบาย ไม่ได้เกิดจากที่หางบวมอักเสบนะครับ เพราะหลังทำการเอ็กซเรย์พบว่าหางที่ขนาดค่อนข้างใหญ่นั้นคือจุดที่เคยขาดแล้วร่างกายสร้างหางขึ้นมาใหม่ซึ่งไม่สัมพันธ์กับขนาดเดิม แต่หลังอัลตราซาวด์ภายในพบว่า มีภาวะไขมันพอกตับชัดเจน (Fatty Liver) ก่อให้อ่อนแรงจากภาวะตับเสื่อมนะครับ ติดตามลุ้นกันต่อไปว่าอาการจะดีขึ้นหรือไม่นะครับขอบคุณคุณลุงที่มาไกลจากจังหวัดตาก ผมจะดูแลให้ดีที่สุดครับผม | สัตวแพทย์เผย ตุ๊กแกทองแดงป่วยจากอาการไขมันพอกตับทำให้มีอาการนิ่ง ไม่ขยับตัว ต้องติดตามอาการต่อไป ขณะที่หางที่มีขนาดใหญ่จากเคยขาดแล้วมีการสร้างใหม่ | สิ่งแวดล้อม | ตุ๊กแก,สัตว์เลื้อยคลาน,ไขมันพอกตับ | https://news.thaipbs.or.th/content/287453 |
ชาวนาเรียกร้องให้เปิดจุดรับจำนำข้าวนอกพื้นที่เพิ่มเติม | คณะกรรมการนโยบายระดับจังหวัด เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวนา 4 อำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ด เรียกร้องให้คณะกรรมการนโยบายข้าวระดับจังหวัด เปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่เพิ่มเติม โดยอ้างว่าทั้งโรงสี 12 แห่งที่เปิดจุดรับจำนำรวม 37 จุดกดราคาด้วยการหักค่าความชื้นและสิ่งเจือปนสูงกว่าความเป็นจริง หากพบว่าโรงสีใดกดราคารับซื้อก็จะดำเนินการเอาผิดทันที ขณะที่ข้อเรียกร้องเรื่องการเปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ ขณะนี้ได้เสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช.เพื่อพิจารณาแล้วด้านหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ออกหมายเรียกในคดีร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โครงการทุจริตจำนำข้าวปี 2554/2555 ส่งผลให้ภาครัฐเกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 44 ล้านบาท โดยขณะนี้ ผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 22 คนเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครบทุกคนแล้ว แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งตำรวจภูธรหนองกี่ มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการจังหวัดสั่งฟ้องศาลได้ภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้ส่วนชาวนาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูนกว่า 400 คน ชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาจุดรับจำนำข้าวไม่เพียงพอกับความต้องการ หลังโรงสีสองแห่งของห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์ไรท์ ตำบลสันปูเลย และ ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ต้องหยุดรับจำนำข้าว และเร่งระบายข้าว เนื่องจากมีชาวนาจำนวนมากนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำพร้อมกันจนเกินกว่าที่โรงสีจะรับได้ โดยตัวแทนชาวนาระบุว่า แม้ทางจังหวัดเชียงใหม่ จะเปิดจุดรับจำนำเพิ่มจากเดิม 5 จุด เป็น 8 จุด เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ชาวนายังต้องการภาครัฐอนุมัติให้โรงสีจากพื้นที่ภาคกลางเข้ามาเปิดรับจำนำในพื้นที่ เพื่อบรรเทาปัญหาโรงสีข้าวไม่เพียงพอ และ ลดปัญหาเรื่องการตีราคาข้าวที่ไม่เป็นธรรม | ชาวนาในจังหวัดร้อยเอ็ด เรียกร้องให้เปิดจุดรับจำนำข้าวนอกพื้นที่เพิ่มเติม โดยอ้างว่าถูกโรงสีที่เข้าร่วมโครงการกดราคา ล่าสุดได้ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการข้าวแห่งชาติพิจารณาแล้ว ส่วนคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ฤดูกาลปี 2554/2555 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 22 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมด | สิ่งแวดล้อม | ชาวนา,รับจำนำข้าว | https://news.thaipbs.or.th/content/123748 |
ตบสาวไทยไม่พลาด ต้อนอิเหนา 3-0 เซต เก็บชัยประเดิมซีเกมส์ | วันที่ 23 ส.ค.60 การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยในวันนี้เป็นการลงสนามนัดแรกในกลุ่มเอ ระหว่าง ทีมชาติไทยแชมป์เก่า พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย,เริ่มเกมในเซตแรก ทีมสาวไทยเดินเกมรุกได้อย่างไหลลื่นและเหนือกว่าอินโดนีเซียมาก ออกนำห่างไปก่อนที่ 18-10 และปิดเกมได้สำเร็จที่ 25-18 ขึ้นนำ 1-0 เซต,ถัดมาในเซตที่ 2 แม้อินโดนีเซียจะพยายามยกระดับเกมให้สูสีในช่วงต้น แต่ก็ไม่อาจทานต้านความแข็งแกร่งของสาวไทยได้ โดนทีมไทยเอาชนะไปอีก 25-16 ขึ้นนำเป็น 2-0 เซต,และในเซตที่ 3 ทีมลูกยางสาวไทยยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ โดยเฉพาะการขึ้นทำแต้มหน้าเน็ตของ น้องเพียว อัจฉราพร คงยศ ช่วยให้ไทยเผด็จศึกไปอย่างขาดลอย 25-10,ทำให้จบเกม ทีมชาติไทยไล่ต้อนเอาชนะอินโดนีเซีย 3-0 เซต 25-18, 25-16, 25-10 เก็บชัยชนะประเดิมซีเกมส์ได้ตามความคาดหมาย และในเกมต่อไปทีมสาวไทยจะพบกับเมียนมา ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เวลา 11.00 น. | ทีมลูกยางสาวไทยออกสตาร์ตซีเกมส์ด้วยฟอร์มที่เฉียบขาด ไล่ต้อนเอาชนะอินโดนีเซียไปอย่างขาดลอย 3-0 เซต ประเดิมเก็บชัยชนะได้ตามความคาดหมาย | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | วอลเลย์บอลหญิง,วอลเลย์บอลทีมชาติไทย,อินโดนีเซีย,ซีเกมส์ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1047204 |
เลขาฯสมช.ยัน ศปก.จชต.เข้มงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพ | พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้มีการหารือถึงรายละเอียดโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) โดยเป็นการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงโครงสร้างหน้าที่ โดยเฉพาะงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการติดตามประสานงานด้านข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ที่ปัจจุบันมีสำนักข่าวกรองแห่งชาติทำหน้าที่หลักในส่วนนี้อยู่ ซึ่งภายในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ รายชื่อคณะทำงานทั้งหมดจะแล้วเสร็จ และสามารถเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามได้ส่วนตำแหน่งที่มีการกำหนดบุคคลไว้เบื้องต้นคือตำแหน่งเลขาธิการ ศปก.จชต.โดยที่ประชุมเสนอให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ทำหน้าที่ดังกล่าว รวมถึงยังได้พิจารณาสถานที่จัดการประชุมเพิ่มเติมนอกเหนือจาก กอ.รมน.บริเวณสวนรื่นฤดีพล.ต.อ.วิเชียร ยังกล่าวถึงกรณีที่สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แสดงท่าทีคัดค้านการตั้ง ศปก.จชต.ว่าจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อน โดยยืนยันโครงสร้างใหม่ถือเป็นการเสริมโครงสร้างเดิม คือคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์และการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กปต.ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแล ศอ.บต. ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนงานด้านความมั่นคงก็ยังเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ กอ.รมน.เช่นเดิมอย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วิเชียร ยังกล่าวว่า ช่วงบ่ายนี้ จะเป็นประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ เวิร์คช็อป ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กปต.ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อเร่งขับเคลื่อนการตั้ง ศปก.จชต.รวมถึงงบประมาณด้วย | เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติยืนยันศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้มงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพ เผยสามารถเสนอรายชื่อคณะทำงานต่อนายกรัฐมนตรีได้ 24 ส.ค.นี้ | การเมือง | การข่าว,ประสิทธิภาพ,พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี,ศปก.จชต.,สมช. | https://news.thaipbs.or.th/content/106236 |
โปรเม ตีวัน 3 ยังไม่จบ รั้ง 5 ร่วมตามหลัง หยาง 7 สโตรกสวิงฮอนด้า | โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ฟอร์มสะดุด ถูกเอมี หยาง แชมป์เก่าปี 2015 จากเกาหลีใต้ ทิ้งห่างถึง 7 สโตรก ขณะที่ทั้งคู่เล่นไปได้แค่ 13 หลุมของรอบที่ 3 ในกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ Honda LPGA Thailand 2017 ที่สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา,วันที่ 25 ก.พ. ว่า โปรเม เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวขวัญใจชาวไทยมือ 2 ของโลก ฟอร์มสะดุดหลังเล่นไปหยุดไป ถูกเอมี หยาง แชมป์เก่าปี 2015 จากเกาหลีใต้ ฉีกห่างถึง 7 สโตรก ขณะที่ทั้งคู่เล่นไปได้แค่ 13 หลุมของรอบที่ 3 ในกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ Honda LPGA Thailand 2017 ที่สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา,ในวันนี้ยังคงถูกสภาพอากาศรบกวนจากประจุไฟฟ้าเหนือสนามจนต้องหยุดพักการแข่งขันไปอีก 1 ชม.ครึ่ง ทำให้ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมืออันดับ 2 ของโลก ซึ่งเป็นผู้นำร่วมกับเอมี หยาง แชมป์เก่า ปี 2015 จากเกาหลีใต้ ด้วยสกอร์ 6 อันเดอร์ในวันแรก ทำได้เพิ่มอีก 4 เบอร์ดี้ โดยยังคงไม่เสียโบกี้ตลอดทั้ง 2 รอบ รั้งอันดับ 2 ร่วมกับเฟิงซันซันจากจีน โดยมี โปรโม โมรียา จุฑานุกาล เก็บเพิ่มได้อีก 3 อันเดอร์ สกอร์รวม 6 อันเดอร์ ขึ้นมา อยู่ในอันดับ 9 ร่วมกับเลกซี ธอมป์สัน แชมป์เก่าปีที่แล้วจากสหรัฐฯ ในขณะที่ โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ อยู่ในอันดับ 40 ร่วม ด้วยสกอร์อีเวนต์พาร์ ส่วนลิเดีย โค มือ 1 ของโลกจากนิวซีแลนด์ อยู่ในอันดับ 24 ร่วม ด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์,เมื่อจบรอบ 2 แล้ว การแข่งขันรอบ 3 ก็ดำเนิน ต่อเนื่องไป แต่ก็แข่งไปเพียงแค่ถึงเวลา 15.13 น. ก็ต้องหยุดพักอีกครั้ง เนื่องจากตรวจพบประจุไฟฟ้าในอากาศ และกลับมาเริ่มแข่งอีกครั้งเวลา 16.50 น. ทำให้การแข่งขันรอบ 3 ไม่สามารถจบลงได้ ต้องไปแข่งกันต่อในเช้าวันอาทิตย์ โดยสกอร์ล่าสุดนั้นเอมี หยาง นำห่างออกไปด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์ หลังจากเล่นไปได้ 13 หลุม ตามมาด้วยริวโซยอนจากเกาหลีใต้เช่นกัน ซึ่งจบแล้วด้วยสกอร์ 13 อันเดอร์ อันดับ 3 ร่วม โจดี้ เอวาร์ท ชาดอฟฟ์ จากอังกฤษ (17 หลุม) 11 อันเดอร์ กับคิมไซยอง จากเกาหลีใต้ (13 หลุม) อันดับ 5 ร่วม 4 คน สกอร์ 10 อันเดอร์ คือ เชลลา ชอย จากเกาหลีใต้ จบ 18 หลุม โมรียา จุฑานุกาล (17 หลุม) เอรียา จุฑานุกาล (13 หลุม) เฟิงซันซัน จากจีน (14 หลุม) | โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ฟอร์มสะดุด ถูกเอมี ยาง แชมป์เก่าปี 2015 จากเกาหลีใต้ ทิ้งห่างถึง 7 สโตรก ขณะที่ทั้งคู่เล่นไปได้แค่ 13 หลุมของรอบที่ 3 ในกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ Honda LPGA Thailand 2017 ที่สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส | null | โปรเม,เอรียา จุฑานุกาล,เอมี หยาง,โปรโม,โมรียา จุฑานุกาล | https://www.thairath.co.th/content/867577 |
น่าห่วง ระดมค้นหา ลุงหูหนวก หลงป่านายูง 4 วัน คาดเดินไปเรื่อย | จากกรณี เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 พ.ค.63 นายเพียง ชัชวาลย์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 5 บ้านห้วยนา ต.เชียงกลม อ.ปากชม จ.เลย ผู้พิการ และป่วยทางประสาท หูหนวก พูดไม่ชัด พร้อมสุนัข 2 ตัว ได้เข้าไปหาของป่าในอุทยานนายูง ต.เชียงกลม อ.ปากชม ท้ายหมู่บ้านห้วยนาประมาณ 2 กม. จนช่วงเที่ยงชาวบ้านยังพบเห็นอยู่ กระทั่งช่วงเย็นสุนัข 2 ตัวได้วิ่งกลับมาที่บ้าน แต่นายเพียงไม่ได้กลับบ้าน คาดว่าหลงป่าหาทางออกไม่ได้ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานนายูง กู้ภัยเลย ชาวบ้านกว่า 100 คน ได้ระดมกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เดินเท้าและนั่งรถอีแต๊กเข้าไปในป่าเขตอุทยานนายูง ท้ายหมู่บ้านลึกเข้าไป 2-3 กม. เพื่อตามหาตัวนายเพียง แต่ไม่พบล่าสุด เวลา 08.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านห้วยนา หมู่ 5 ต. เชียงกลม อ.ปากชม เจ้าหน้าที่อุทยานนายูง กู้ภัยเลย ชรบ. ชาวบ้านกว่า 150 คน ได้วางแผนการค้นหาใหม่ โดยเตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่มเดินทางเข้าไปในป่าตามหานายเพียง ชัชวาลย์ ที่หลงป่าในเขตอุทยานนายูง วันนี้เป็นวันที่ 4 แล้วทั้งนี้ คาดว่า นายเพียง ซึ่งป่วยทางประสาท หูหนวก พูดไม่ชัด หาทางออกไม่ได้ จึงเดินลึกเข้าป่าไปเรื่อยๆ โดยไม่มีอาหาร และน้ำติดตัวไป จึงน่าจะอยู่ในสภาพที่อิดโรย ส่วนเช้าวันนี้ทางญาตินายเพียงได้จุดธูปไหว้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขา เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ค้นหาจนเจอตัวด้วย | เข้าสู่วันที่ 4 ตามหาชายพิการหูหนวก เดินหลงป่า อุทยานนายูง เขต อ.ปากชม จ.เลย เจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านร่วม 150 คน เตรียมเสบียงออกปูพรมค้นหาอีกวัน คาดเดินเข้าป่าลึกไปเรื่อย | ข่าว,ทั่วไทย | หลงป่า,คนหลงป่า,ตามหาคนหลงป่า,หลงป่า เลย,คนหูหนวกหลงป่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1847783 |
พายุฤดูร้อนถล่มเขต อ.เมืองอุบลฯ ทำหลังคาปลิวบ้านเรือนเสียหาย | ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มประชาชนในหมู่บ้าน ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี ทำให้มีบ้านได้รับความเสียหายเบื้องต้นจำนวน 9 หลังคาเรือน ไฟฟ้าดับนานกว่า 4 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ออกมาสำรวจความเสียหาย ก่อนซื้อวัสดุก่อสร้างมาใช้ซ่อมแซมบ้านเรือให้กลับเข้าไปอยู่บ้านได้ตามปกติ ,นางสำราญ จอมหงส์ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.10 ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยนาทีระทึกว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่บริเวณคอกวัว มีพายุฝนลมแรงพัดผ่านบ้านของตนหนามากจนมอไม่เห็นหลังคาบ้าน ตนเองและหลานจึงได้เข้าไปหลบอยู่ใต้รถเข็นเนื่องจากกลัวสังกะสีตกในหัว ประมาณ 10 นาที ฝนหายพร้อมกลับหลังคาบ้านกระจายไปตามทุ่งนา ทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายจากน้ำฝนหลายรายการ, ,ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ว่ามีจุดใดได้รับความเสียหายจากพายุช่วงค่ำหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นมีรายงานเพียงจุดเดียวคือบ้านอ้น หมู่ 10 ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ้งยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด,ด้านจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ยังคงมีฝนตกจากอิทธิของพายุฤดูร้อน จึงให้ระวังไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้านโฆษณาไม่แข็งแรงในระยะนี้ไว้ด้วย.,20180427_350 | พายุฤดูร้อนพัดถล่มเขตเมืองอุบลฯ ลมพัดวูบเดียวหลังคาปลิวหายบ้านพังไม่รู้ตัว ชาวบ้านต้องเสียเงินซ่อมแซมบ้านให้กลับมาใช้อยู่อาศัยได้ตามปกติ | ข่าว,ทั่วไทย | พายุฤดูร้อน,หลังคาปลิว,บ้านเรือนเสียหาย,อุบลราชธานี,ฝนฟ้าคะนอง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1267437 |
แถลงการณ์ครั้งที่ 1: แบ่งเบาทุกข์จากคลื่นยักษ์ ฟื้นฟูชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน | คลื่นยักษ์ที่ซัดกระหน่ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ เมื่อวันที่ 26-27 ธันวาคม 2547 ได้ก่อความเสียหายให้กับชุมชนชาวประมงพื้นบ้านซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลและเกาะของจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล จำนวน 492 ชุมชน การสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่า คลื่นยักษ์ได้กวาดกลืนเรือและเครื่องมือการประมงของชาวประมงพื้นบ้านไปไม่ต่ำกว่า 2000 ลำ และก่อความเสียหายให้กับชีวิต และทรัพย์สิน รวมทั้งทรัพยากรชายฝั่งและทะเล มีชุมชนชาวประมงพื้นบ้านประสบความสูญเสียทั้งหมู่บ้านกว่า 40 ชุมชน ความสูญเสียเหล่านี้จำเป็นต้องระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อร่วมกันบรรเทาความเสียหายเฉพาะหน้า และสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูชุมชนในระยะยาว โดยให้องค์กรชุมชนเป็นองค์กรหลักในการดำเนินการ เพื่อให้มั่นใจว่าการช่วยเหลือชุมชนและผู้ประสบภัย สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และนำไปสู่การเกื้อหนุนให้ชุมชนสามารถพัฒนาศักยภาพในการพัฒนาตนเอง เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคใต้ได้จัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชาวประมงพื้นบ้านอันดามันขึ้นเพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูชุมชนและทะเลในระยะยาว ตลอดจนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ในระยะต้นเครือข่ายความร่วมมือฯ จะดำเนินการสำรวจความเสียหาย และบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าให้กับคนจนและชาวประมงพื้นบ้าน ตลอดจนจัดตั้งกองทุนพื้นฟูชุมชนชาวประมงพื้นบ้านอันดามันเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาของชุมชนในระยะยาว ในวาระที่คนไทยทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัย เครือข่ายซึ่งเป็นองค์กรชาวประมงพื้นบ้านและองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานร่วมกับชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน ยินดีที่จะร่วมประสานการทำงานกับทุกฝ่าย เพื่อพัฒนาระบบความช่วยเหลือที่อยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ประสบภัย เคารพศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อให้ชุมชนสามารถพลิกฟื้นความเสียหายและยืนหยัดพัฒนาชุมชนตนเองได้ต่อไป ด้วยความสมานฉันท์ 28 ธันวาคม 2547 | คลื่นยักษ์ที่ซัดกระหน่ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ เมื่อวันที่ 26-27 ธันวาคม 2547 ได้ก่อความเสียหายให้กับชุมชนชาวประมงพื้นบ้านซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลและเกาะของจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2004/12/2001 |
รณรงค์แต่งชุดไทยฉลองสงกรานต์@ วันสยาม | ในงาน Siam Summer Getaway ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. ซึ่งเริ่มที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดงานคอนเซปต์ Siam Paragon Wonderful Songkran รณรงค์และส่งเสริมให้คนไทยและนักท่องเที่ยวแต่งกายชุดไทยมาร่วมงานฉลองเทศกาลสงกรานต์พร้อมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาแห่งแผ่นดิน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปมงคลโบราณปางต่างๆ จากสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จำนวน 9 องค์ มาประดิษฐานยังบริเวณ ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้น M สยามพารากอน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมชมการสาธิตการทำน้ำอบน้ำปรุง และการทำดอกใบเตยถวาย ในส่วนบริเวณพาร์ค พารากอน จัดให้มีการออกร้าน เทศกาลอาหาร สงกรานต์ ฟู้ด เฟสต์ : รสชาติแท้อาหารไทย สัมผัสรสชาติอาหารไทยดั้งเดิมกว่า 50 ร้าน,ด้าน สยามเซ็นเตอร์ จัดในคอนเซปต์ SIAM CENTER Summer Journey Exhibition พาทุกคนเปิดประสบการณ์ใหม่ในนิทรรศการจำลองเดสติเนชั่นสุดล้ำ รับแรงบันดาลใจในการเดินทางไปท่องเที่ยวในฤดูร้อนนี้ ปลุกไอเดียความคิดสร้างสรรค์เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ถ่ายรูปกันให้สุดฟิน พร้อมส่งตรงคาเฟ่สุดฮิปจากเชียงใหม่มาเป็นไฮไลต์สำคัญเอาใจคอฟฟี่เลิฟเวอร์ไปกับคาเฟ่,สุดอินดี้ RK Café by Omnia ร้านชื่อดังจากเชียงใหม่และอีกหนึ่งคาเฟ่เก๋ๆ เอาใจสาวกแนววินเทจ Museum Of Everything Jinglebell ระหว่างวันที่ 10 เม.ย.-31 พ.ค.,ปิดท้ายกันที่ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรียม ชวนคุณออกไปท่องโลก เพื่อค้นพบตัวตนใหม่ๆ กับแคมเปญ Summer Exploratorium ในรูปแบบดิจิทัลอินสตอลเลชั่นอาร์ต ด้วยกิจกรรมโพสต์ภาพถ่ายทริปที่สุดประทับใจลงในอินสตาแกรม พร้อมติดแฮชแท็ก #godiscoversummer #siamdiscovery ซึ่ง EyeEm แอพพลิเคชั่นถ่ายภาพยักษ์ใหญ่ ผู้สร้าง,คอมมูนิตี้ภาพถ่ายจากทั่วทุกมุมโลก จะเป็นผู้ตัดสินและคัดเลือกภาพถ่าย โดยผู้ชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับรางวัลบินฟรีตลอดปีกับสายการบินแอร์เอเชีย โพสต์ภาพร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้-30 เม.ย. และในระหว่างงานเพียงแสดงใบเสร็จรับประทานอาหาร จากร้านอาหารต่างๆ ภายใน 3 ศูนย์การค้า มูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป พร้อมแต่งกายชุดไทยย้อน ยุค รับทันทีบัตรกำนัลสยามกิฟต์การ์ด มูลค่า 500 บาท (จำนวนจำกัด) เพื่อใช้ในการมารับประทานอาหาร และช็อปปิ้งภายในร้านอาหาร ร้านค้าที่ร่วมรายการ. | สยามพิวรรธน์ แสดงพลังความเป็น วันสยาม ของ 3 ศูนย์การค้าชั้นนำแห่งย่านสยาม สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ฉลองเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | แต่งชุดไทย,เทศกาลสงกรานต์,สยามพารากอน,สยามเซ็นเตอร์,สยามดิสคัฟเวอรี่ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1249021 |
สุดสลด พ่อเฒ่าวัย 81 ปี ถูกหลานจ้างตุ๊กตุ๊กพามาปล่อยวัด | เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสวนีย์ วรรณวัฒนะ อายุ 54 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ภายในวัดเทพประสาท บ้านเตาถ่าน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่ามี รถสามล้อตุ๊กตุ๊ก นำชายชราคนหนึ่งมาทิ้งให้ผจญชะตากรรมอยู่ภายในวัด หลังรับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบ,พบว่าบริเวณใต้ต้นไทรขนาดใหญ่หน้าวิหารแก้ว บนแท่นปูนที่ล้อมโคนต้นไทร ใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีชายสูงวัยคนหนึ่งนั่งอยู่ในอาการเหม่อลอย สอบถามทราบว่าชื่อนายจุ่น บุญแสง อายุ 81 ปี ชาว จ.นนทบุรี สีหน้าละห้อย สายตาเศร้าสร้อย คอยแต่ชะเง้อมองไปทางประตูวัด เหมือนรอใครสักคน โดยมีไม้เท้า 4 ขา หรือวอล์คเกอร์วางอยู่ข้างกาย คู่กับแก้วพลาสติกที่ใช้ใส่ปัสสาวะ เป็นภาพที่เห็นแล้วสลดหดหู่เป็นอย่างมาก,นายจุ่น บุญแสง เล่าว่า ตนเป็นคน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไม่มีภรรยา ใช้ชีวิตสันโดษมาแต่วัยหนุ่ม อาศัยอยู่กับหลานคนเล็กก่อนที่หลานจะเสียชีวิตไป เหลือแต่เพียงหลานสาวคนโตอายุประมาณ 60 ปี ลูกของพี่สาว ที่ตนฟูมฟักเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก เช่าบ้านอยู่บริเวณหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน แต่จำไม่ได้ว่าตรงไหนแน่ จึงได้มาขออาศัยอยู่ด้วย แต่หลานได้ไล่ออกจากบ้านหลายต่อหลายครั้ง เพราะเห็นว่าตนเป็นภาระ บางครั้งก็ปล่อยให้อดมื้อกินมื้อ มีแต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงที่สงสาร คอยหาอาหารให้ประทังชีวิต,ก่อนหน้านี้ยังพอเดินไหว ก็หารายได้ด้วยการรับจ้างถางหญ้า แต่ต่อมาต้องมาใช้ไม้เท้าค้ำยัน เดินไม่ได้เหมือนเคย เป็นผลพวงจากอุบัติเหตุในอดีต จนขาต้องดามเหล็กตลอดชีวิต ประกอบกับอายุที่เข้าสู่วัยชรา จึงทำให้ภาระตกอยู่กับหลาน จนเป็นสาเหตุของการถูกนำมาทิ้งให้ผจญชะตากรรมอยู่ในวัด ไม่ต่างกับหมาหรือแมว ที่ผู้คนนำมาทิ้งไว้เป็นภาระของพระในวัด ชายชรากล่าวอย่างน่าสงสาร,ด้าน นางสวนีย์ วรรณวัฒนะ แม่ค้า เล่าว่า ขณะที่ขายอาหารอยู่ในวัดตามปกติ กระทั่งเวลา 09.00 น. ของวันนี้ ได้เห็นรถสามล้อตุ๊กตุ๊ก ถูกว่าจ้างให้นำนายจุ่นมาทิ้งไว้ในวัด นั่งอยู่บริเวณเมรุเพียงลำพัง เดินไปไหนก็ลำบาก ต้องปัสสาวะใส่แก้วที่เตรียมมา ซึ่งตนเห็นแล้วรู้สึกสงสาร และสมเพชเวทนาแต่ก็ช่วยเหลือได้เพียงนำตัวมานั่งอยู่ใต้ร่มไทร พร้อมนำอาหารและน้ำ มาให้ได้กินประทังชีวิต นำเสื่อ หมอนมาให้หนุนนอน ก่อนจะแจ้งให้นักข่าวเป็นสื่อกลางช่วยตามหาญาติ ซึ่งก็ได้แต่ภาวนาให้ลูกหลานมารับตัว กลับไปดูแลที่บ้าน. | พ่อเฒ่าวัย 81ปี ไม่มีครอบครัวไม่มีลูก มีแต่หลานที่มาขออาศัย แต่ถูกขับไล่ไสส่งเพราะเห็นว่าเป็นภาระ สุดท้ายถูกจับใส่รถตุ๊กตุ๊กมาทิ้งที่วัด ในสภาพเดินแทบไม่ไหว ต้องฉี่ใส่แก้ว ครวญเป็นคนเลี้ยงหลานคนนี้มา แต่ถูกทิ้งเหมือนกับหมาแมว | ข่าว,ทั่วไทย | ทิ้งวัด,ทิ้งคนแก่,พ่อเฒ่า,หลานทิ้ง,จุ่น บุญแสง,วัดเทพประสาท,สัตหีบ,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/495557 |
ชาวจีนชุมนุมต่อเนื่อง ประท้วงเกาะพิพาทหน้าสถานทูตญี่ปุ่น | ผู้ประท้วงชาวจีนนับพันคนบุกปิดล้อมสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่ง โดยปะทะกับตำรวจที่ถูกส่งมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของสถานทูตญี่ปุ่น แต่ผู้ประท้วงได้ขว้างปาก้อนหินและกรวยยางใส่ตำรวจ และพยายามจะบุกเข้าไปในสถานทูต การประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นในจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่าจะซื้อเกาะเตียวหยูหรือเกาะเซ็นกากุ สื่อมวลชนของญี่ปุ่นรายงานว่า วันนี้(15 ก.ย.)มีการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นในหลายเมืองของจีน ได้แก่ เมืองซีอาน เมืองซูโจว เมืองฉางชา และนานกิง เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนออสเตรเลียต้องเดินทางกลับก่อนกำหนด เพื่อรับมือกับการประท้วงที่เกิดขึ้นหลายแห่งในประเทศจีน สัปดาห์ที่ผ่านมาความไม่พอใจของชาวจีนและชาวญี่ปุ่นทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อจีนส่งเรือลาดตระเวน 6 ลำ ไปประจำการที่เกาะดังกล่าว ที่อยู่ในทะเลจีนตะวันออก ส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี | ชาวจีนในหลายเมืองทั่วประเทศรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลญี่ปุ่นซื้อเกาะเตียวหยูหรือเกาะเซนกากุ ซึ่งเป็นเกาะพิพาทที่จีนและญี่ปุ่นต่างอ้างกรรมสิทธิ์ | ต่างประเทศ | ชาวจีน,ชุมนุม,ญี่ปุ่น,ต่อเนื่อง,ประท้วง,หน้าสถานทูต,เกาะพิพาท | https://news.thaipbs.or.th/content/111727 |
เร่งล่าอีก 1 แก๊งลอตเตอรี่ปลอม วัดดังนครปฐมจัดระเบียบ เข้มผู้ค้า | จากกรณีที่คณะกรรมการวัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ร่วมกันจับกุมแก๊งเดินขายลอตเตอรี่ปลอมให้กับผู้ที่มาทำบุญปิดทองลูกนิมิต ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. - 19 ก.พ.60 มีประชาชนเดินทางมาทำบุญปิดทองกันมากมาย ประกอบกับทางวัดเปิดให้จำหน่ายลอตเตอรี่โดยไม่เก็บค่าเช่า ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพนำลอตเตอรี่ปลอมมาขาย และมีชาวบ้านหลงซื้อไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อทราบข่าวว่าจับได้ และจำหน้าของคนร้ายได้ จึงทยอยเดินทางมาชี้ตัวที่ สภ.นครชัยศรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น,ล่าสุด วันที่ 17 ก.พ.60 พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี เผยว่า ขณะนี้ยังอายัดตัวผู้ต้องหาจากศาล จ.นครปฐม เพื่อมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.นครชัยศรี การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้เราสามารถรวบรวมพยานและหลักฐานชิ้นสำคัญที่ได้จากกล้องวงจรปิด จากร้านค้าที่บุคคลเหล่านี้ไปซื้อเครื่องปริ้นท์เตอร์ กระดาษ และหมึกสี โดยประสานไปยัง กก.สส.จังหวัดเลย ส่งมาให้เพื่อเสนอขอหมายศาล จ.นครปฐม จับกุมอีก 1 ราย คือ นายจีรวัฒน์ รักขันแสง อายุ 33 ปี ชาว จ.เลย ซึ่งเป็นพี่ชายของ น.ส.ศิริมา รักขันแสง อายุ 29 ปี ที่ถูกจับกุมได้ที่วัดสว่างอารมณ์ ซึ่งตามทางการสอบสวนพบว่า เป็นตัวการใหญ่ ร่วมกับนายจีรวัฒน์ พี่ชายที่กำลังขอหมายจับจากศาล เป็นคนทำออกมาจำหน่าย,ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ นายเจษฎากร วะรีฤทธิ์ อายุ 33 ปี สามีของ น.ส.ศิริมา ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ อีซูซุแค๊ป ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บพ 3731 เลย ซึ่งทางคณะกรรมการวัดจับกุมได้ที่ลานด้านข้างพระอุโบสถ ภายในรถยังพบว่ามีลอตเตอรี่ปลอมอยู่อีกถึง 1,000 ใบ และ นายชัยนาท เดนมา อายุ 50 ปี นางมณี อุทัยพร อายุ 65 ปี ซึ่งตระเวนเดินขายภายในวัด ทั้ง 3 คน ถูกจับพร้อมกันกับ น.ส.ศิริมา ขณะนี้ตำรวจยังรอหากมีเจ้าทุกข์รายใดที่ซื้อลอตเตอรี่จากแก๊งนี้มาแจ้งความเพิ่มเติมอีก ก็จะทำให้สำนวนการสอบสวนแน่นหนามากขึ้น,พ.ต.อ.สีหเดช ยังเผยอีกว่า ล่าสุดเมื่อตอนเช้าได้ประสานไปยัง กก.สส.ภ.จว.เลย เพื่อขอกำลังให้ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นบ้านของ นายจีรวัฒน์ ซึ่งตามการสืบสวนทราบว่า เป็นแหล่งที่ทำลอตเตอรี่ปลอม แต่ปรากฏว่า ที่บ้านนั้นว่างเปล่า แม้กระทั่งตู้เสื้อผ้าก็ถูกขนย้ายออกจากบ้านไปแล้ว,เมื่อสอบถามชาวบ้านข้างเคียงทราบว่า นายจีรวัฒน์ ได้ขนย้ายของออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 15 ก.พ.60 หลังจากทราบว่า น้องสาวถูกจับกุมพร้อมพวก 4 คน ที่ อ.นครชัยศรี โดยไม่ทราบว่าไปที่ไหน ขณะนี้รอหมายศาลเพื่อส่งไปให้ท้องที่ จ.เลย ติดตามจับกุมตัวด้วย,พ.ต.อ.สีหเดช ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก. ภ.จว.นครปฐม และนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครปฐม ได้สั่งให้ตามล่าตัวแก๊งปลอมลอตเตอรี่ให้ได้ครบ เพราะเป็นข่าวที่ประชาชนสนใจและทำลายเศรษฐกิจของพื้นที่ และสร้างความเสียหายให้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย,ขณะที่ ทางวัดสว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี ยังมีประชาชนเดินทางมาปิดทองลูกนิมิตกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานจะไปสิ้นสุดในวันที่ 19 ก.พ.60 พระครูยติธรรมานุยุต หรือ อาจารย์แป๊ะ เจ้าอาวาส เผยว่า หลังจากมีข่าวแก๊งทำลอตเตอรี่ปลอมขายที่วัด ชักขยาด จะไม่ให้ขายลอตเตอรี่ภายในวัดเลยก็ไม่ได้ ที่ทางวัดอนุญาตให้ขายก็เพราะสงสารร้านค้าแผงลอย หรือถีบจักรยานขาย จะอ้างครอบครัวยากจนนำไปเลี้ยงลูก ส่งลูกเรียน ทางวัดก็อนุญาต เพราะไม่เสียหาย และไม่เคยเก็บค่าเช่าเลย ทำให้พวกมิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาโดยไม่ต้องขออนุญาต ทางวัดได้มีการประชุมคณะกรรมการ ให้ช่วยสอดส่องดูแลให้เข้มงวดขึ้น จะให้ขายเฉพาะผู้ที่เคยขายประจำ ต้องไม่ขายเกินราคา และต้องขึ้นทะเบียนให้ชื่อที่อยู่ ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับจะมีบัตรติดที่แผงลอตเตอรี่ให้ชัดเจน เพื่อคนซื้อจะได้จดจำได้ว่าซื้อกับใคร เพื่อป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดขึ้น และหากไม่ปฏิบัติตามกฎที่คณะกรรมการวางไว้ ก็จะไม่ให้ขายเด็ดขาด.,** ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,คลิกที่นี่, ** | ตร.นครปฐม เร่งล่าอีก 1 แก๊งลอตเตอรี่ปลอม พบหลบหนีออกจากบ้านพักที่ จ.เลย ไปแล้ว ขณะที่วัดสว่างอารมณ์ เตรียมจัดระเบียบออกบัตรติดหน้าแผง ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยเข้ามาก่อเหตุซ้ำ | ข่าว,ทั่วไทย | ลอตเตอรี่ปลอม,สลากฯปลอม,วัดสว่างอารมณ์,นครปฐม,คนขายลอตเตอรี่ปลอม | https://www.thairath.co.th/news/local/860652 |
อัล อัตติยาห์ คว้าแชมป์แรลลี่ ดักก้าร์ ช่วงที่ 6 | การแข่งขันแรลลี่ทางไกลรายการ ดักก้าร์ ช่วงที่ 6 ใช้เส้นทางจากเมืองอาริก้า ถึงเมืองคาลาม่า ในประเทศ ชิลี มีระยะทางรวม 455 กิโลเมตร ปรากฏว่า แชมป์ในประเภทรถยนต์เป็นของ นาสเซอร์ อัล อัตติยาห์ นักขับจากกาต้าร์ ทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 32 นาที 8 วินาที ขณะที่ผู้นำเวลารวมยังเป็นของ สเตฟาน ปีเตอร์ อองเซล นักขับฝรั่งเศส มีเวลารวม 14 ชั่วโมง 36 นาที 16 วินาทีส่วนในประเภทรถจักรยานยนต์ แชมป์ช่วงนี้เป็นของฟรานเชสโก้ โลเปส นักขับจาก ชิลี สังกัดทีมเคทีเอ็ม ทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 36 นาที 21 วินาทีการแข่งขันในช่วงนี้มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นจากการอุบัติเหตุบนเส้นทางการแข่งขันบริเวณทางด่วนใกล้กับชายแดนของประเทศเปรู และชิลี เมื่อรถของทีมงาน ดักก้าร์ ได้ชนกับรถของแฟนกีฬา ที่เดินทางไปชมการแข่งขัน อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้มีแฟนกีฬาชาวสหราชอาณาจักร เสียชีวิต 2 คน ส่วนอีก 7 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศเปรู | การแข่งขันแรลลี่ทางไกลรายการ ดักก้าร์ ช่วงที่ 6 แชมป์ในประเภทรถยนต์ ยังคงเป็นของ นาสเซอร์ อัล อัตติยาห์ | กีฬา | ดักการ์,อัล อัตติยาห์,แรลลี่ | https://news.thaipbs.or.th/content/138859 |
ขอดูใบขับขี่ ดันยื่นบัตรเอทีเอ็ม ซิวหนุ่มสาวชาวเขา ขนยาบ้า 2 ล.เม็ด | เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ที่ด้านหน้า สภ.เมืองลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง นำโดย พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมตัว นายยิ่งเจริญ ศิริธนสมบัติ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ นางศิรินันท์ วรวงค์อุดม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทั้งสองเป็นชาวเขาเผ่าม้ง พร้อมของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด และรถยนต์ 2 คัน,การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 12.10 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นำโดย ร.ต.อ.พอผล เครือสายใจรอง สวป.สภ.แม่พริก พร้อมกับพวก ร่วมกันตั้งด่านตรวจบริเวณด่านตรวจแม่พริก หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง ได้มีรถยนต์กระบะบรรทุกเสริมข้างคุมผ้าใบ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 5447 เชียงใหม่ ขับมาจาก อ.เถิน จ.ลำปาง ตำรวจได้ส่งสัญญาณให้รถหยุดเพื่อขอตรวจค้น พบว่ามีนายยิ่งเจริญ ศิริธนสมบัติ เป็นผู้ขับขี่ และมีนางศิรินันท์ วรวงค์อุดม นั่งโดยสารมาด้วย,จากการสังเกตและพูดคุยสอบถาม นายยิ่งเจริญได้แสดงอาการพิรุธ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูใบขับขี่กลับยื่นบัตรเอทีเอ็มให้แทน ส่วนนางศิรินันท์ที่นั่งมาด้วยกันก็มีพิรุธและให้การวกวน จึงเรียกเข้าจอดข้างทางเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าด้านหลังรถบรรทุกกะหล่ำปลีมาเต็มคันรถ,เบื้องต้นนายยิ่งเจริญ ให้การว่า บรรทุกกะหล่ำปลีจาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยนำไปส่งปลายทางที่ ตลาดไท จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถคันดังกล่าวเข้าอุโมงค์ x-ray ซึ่งผลปรากฏว่า มีวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่บริเวณส่วนด้านหน้ากระบะบรรทุกโดยมีกะหล่ำปลีวางทับอยู่ จึงรื้อผ้าใบคุมกระบะหลังรถออก จากนั้นก็นำกะหล่ำปลีออกจากกระบะบรรทุก กระทั่งพบกระสอบปุ๋ยสีเขียวข้างในบรรจุยาบ้า จำนวน 10 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 2 ล้านเม็ด จึงได้ควบคุมตัวนายยิ่งเจริญ และนางศิรินันท์ พร้อมของกลางดังกล่าวไว้ทันที,สอบถามนายยิ่งเจิรญ ให้การว่า การขนยาเสพติดครั้งนี้ ทำเป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท ส่วนนางศิรินันท์ให้การว่าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่นั่งรถมาเป็นเพื่อนเท่านั้น. | ความซวยเกิดได้ขึ้นทุกที่ทุกเวลา เมื่อ 2 หนุ่มสาวชาวเขาเผ่าม้ง ขับกระบะบรรทุกกะหล่ำปลี ซุกยาบ้า 2 ล้านเม็ดเข้าด่านตรวจ โป๊ะแตกตอนตำรวจขอดูใบขับขี่ กลับยื่นบัตรเอทีเอ็มให้ซะงั้น | ข่าว,อาชญากรรม | ขนยาบ้า,ยาบ้า,จับยาบ้า,ขอดูใบขับขี่,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1444518 |
ทั่วไทยอุ่นขึ้น ลุ้น 1-3 ก.พ. ลมหนาวมาเยือนอีกครั้ง | วันที่ 29 มกราคม จากการตรวจสอบสภาพอากาศพบว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง จึงทำให้บริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ยกเว้นแต่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ยังคงมีอากาศเย็นโดยทั่วไป ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ก็จะมีกำลังอ่อนลง เช่นเดียวกัน ซึ่งก็จะทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง อ่าวไทยมีคลื่นลมอ่อนลงในระยะนี้ แต่บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ยังคงมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย,หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้อีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในช่วงแรก และจะมีอากาศเย็นลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ก็จะมีกำลังแรงขึ้นไปด้วยเช่นกัน โดยจะทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย ก็จะมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร,โดยจากการตรวจสอบสถานการณ์คลื่นลมตอนนี้ พบว่าคลื่นบริเวณฝั่งอ่าวไทยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร,ส่วนสถานการณ์ฝนในบริเวณภาคใต้วันนี้ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบตลอดทั้งวันนี้ ก็พบว่าตกกระจายตัวเป็นหย่อมๆ ในบริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่าง โดยตกแบบมาไวไปไวเท่านั้น ในขณะที่ตอนบนวันนี้ อิทธิพลจากคลื่นกระแสลมตะวันตกก็อ่อนกำลังลงแล้ว จึงทำให้ฝนบริเวณตอนบนลดลงเช่นกัน,ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม แสดงกลุ่มก้อนเมฆที่ปกคลุมอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองไทยในเช้าวันนี้ก็พบว่า บริเวณภาคเหนือ ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆน้อย โดยพบเมฆชั้นกลางเล็กน้อยทางตอนล่างของภาคส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท้องฟ้าโปร่งเช่นกัน โดยเป็นเมฆชั้นกลางทางตะวันออกและตะวันตกของภาค ขณะที่ภาคกลาง มีเมฆเป็นบางส่วน โดยเป็นเมฆชั้นกลางทางตะวันออกของภาค ภาคตะวันออก ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นเมฆชั้นกลางเล็กน้อยทางตอนบนของภาค โดยตอนนี้ยังไม่พบกลุ่มเมฆฝนในพื้นที่ตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนกลางของประเทศ ส่วนภาคใต้ วันนี้ยังคงมีเมฆเป็นส่วนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง ตรวจพบกลุ่มฝนบางพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาค,ส่วนอุณหภูมิในเช้าวันนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยสีเขียว คือมีอากาศเย็นโดยทั่วไปเท่านั้น และมีพื้นที่สีน้ำเงิน คือมีอากาศหนาวปกคลุมเล็กน้อยบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยอุณหภูมิต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ประมาณ 12 - 13 องศาเซลเซียส บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนในช่วงกลางวันมีอากาศร้อน แดดแรง อุณหภูมิสูงสุด ขยับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไปแตะที่ 34 - 35 องศาเซลเซียส บริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก,ภาพรวมสภาพอากาศแต่ละภาควันนี้, ดังนี้,ภาคเหนือ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส. | ทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า ยกเว้นภาคเหนือ-อีสาน และภาคกลางตอนบน ยังคงมีอากาศเย็นโดยทั่วไป ขณะที่ภาคใต้ฝนลดลง อ่าวไทยคลื่น 1-2 เมตร หลังจากนั้น วันที่ 1-3 ก.พ. มวลอากาศเย็นระลอกใหม่ จะแพร่ลงมาปกคลุมอีกครั้ง | null | พยากรณ์อากาศ,อุตุนิยมวิทยา,ไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี,อากาศ,สภาพอากาศ,หนาว,ร้อน,ฝน,คลื่นลม,ทะเล,อ่าวไทย,อันดามัน,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/569807 |
ไทยรัฐทีวี เสริมทัพหนัง จับมือพันธมิตร เมเจอร์ฯ | สยามรัศมิ์ เลาหสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ กันตนาฯ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ดาวเทียม ช่อง M Channel, จิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์ และการตลาด ไทยรัฐทีวี และ พรพจน์ เลาหสุขเกษม ผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม เทอร์นเนอร์ จำกัด มาร่วมงานแถลงข่าวเอาใจคนรักหนังเมื่อไทยรัฐทีวีช่อง 32 จับมือกับเอ็ม ชาแนล เพิ่มรายการใหม่ เอ็ม เทียเตอร์ (M Theater) โดยจะนำเสนอภาพยนตร์ทุกประเภท ทั้งภาพยนตร์ไทย, ฮอลลีวูด, บอลลีวูด และเอเชีย มาให้คนรักหนังได้ชมกันอย่างจุใจ เป็นการเติมตัวต่อความบันเทิงซึ่งกันและกัน โดยทางเอ็มชาแนลชูจุดแข็งเป็นช่องหนังมืออาชีพ พร้อมเลือกป้อนหนังดีหนังดังให้กับทางไทยรัฐทีวีซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลทีวีที่ภาพคมชัดระดับ HD โดยออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ 2 เวลา วันศุกร์ 4 ทุ่ม และวันอาทิตย์ ตอนเที่ยงวัน เริ่มออกอากาศวันแรกในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.นี้ ,(จัดเต็ม ไทยรัฐทีวี จับมือ เอ็ม ชาแนล กวาดหนังดังให้ดูฟรีถึงบ้าน),ด้าน วัชร วัชรพล กล่าวว่า ไทยรัฐทีวีเป็นดิจิตอลทีวีความคมชัดระดับ HD ที่ดำเนินธุรกิจมาจนเข้าปีที่ 4 แล้ว ซึ่งมีจุดแข็งเรื่องข่าวและกีฬาที่เน้นความสด ทั้งเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และคุณภาพการถ่ายทอดสด ที่นำเทคโนโลยีกราฟฟิกที่ทันสมัยมาเติมเต็มอรรถรสในการรับชมได้เต็มอิ่ม และอีก 1 ประเภทคือรายการวาไรตี้ที่มาเติมเต็มความสนุกความบันเทิงให้กับผู้ชม โดย M Theater เป็นรายการล่าสุดที่ไทยรัฐทีวีนำมาเสริมทัพ และช่วยขยายฐานผู้ชมของไทยรัฐทีวี สำหรับช่วงเวลาของรายการเราเลือกแล้วว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และยังช่วยเพิ่มให้เรตติ้งในเวลานั้นเติบโตกว่าเดิมอีกเท่าตัว ความร่วมมือในครั้งนี้มองไว้ขั้นต่ำที่ 3 ปี ซึ่งหากเรตติ้งดี คนดูชอบ เราก็อาจจะรวมไปถึงซีรีส์ของทางเอ็มชาแนลอีกด้วย. | อิ่มเอมความบันเทิงกันถ้วนหน้าเมื่อสถานีโทรทัศน์ ไทยรัฐทีวี และ เมเจอร์ กันตนา บรอดแคสติ้ง แถลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีผู้บริหารใหญ่ วัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ไทยรัฐทีวี,เมเจอร์ กันตนา บรอดแคสติ้ง,M Channel,M Theater,ช่อง 32 | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1127355 |
รวบโจ๋ลัก จยย. ยึดรถคืนได้ 9 คัน ออกหมายจับร่วมแก๊งอีก 2 | เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 58 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา ได้ผู้ต้องหา 1 คน คือ นายสมศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว อ.ระโนด จ.สงขลา พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางที่ตรวจยึดคืนมาได้รวม 9 คัน,จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายสมยศ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ชาว อ.จะนะ จ.สงขลา และ นายณัฐวัฒน์ ผอมคง หรือ จ่าทวน อายุ 24 ปี ชาวสงขลา ที่ยังหลบหนีและออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในเขตเมืองสงขลา ก่อนจะนำรถที่ขโมยไปขายหาเงินเที่ยวเตร่ และบางคันแปลงสภาพไว้ใช้เอง ล่าสุด ได้เข้าไปลักรถจักรยานยนต์ในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองสงขลา ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน จนนำไปสู่การจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว โดยขณะแถลงข่าวมีผู้เสียหายนำหลักฐานมาขอรับรถคืนด้วยความดีใจ และนำช่อดอกไม้มามอบให้ พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกด้วย,พล.ต.ต.อำพล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีแล้ว และฝากเตือนถึงเจ้าของรถจักรยานยนต์ ควรล็อกล้อเวลาจอดรถทุกครั้ง เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหากล่าวว่า ถ้าล็อกล้อจะทำงานลำบาก. | ตร.สงขลา แถลงรวบหนุ่มวัยรุ่นลักจักรยานยนต์ ยึดรถของกลาง 9 คัน สารภาพ ขายหาเงินเที่ยว บางคันแปลงสภาพใช้เอง เร่งล่าเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 ราย | ข่าว,ทั่วไทย | ลักรถจักรยานยนต์,แก๊งลักรถจักรยานยนต์,โจ๋ลักรถ,วัยรุ่นลักรถ,อำพล บัวรับพร,อลงกรณ์ สีมาวุธ,ขโมยรถ,แปลงสภาพรถ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,แก๊งลักรถ,ขโมยมอเตอร์ไซค์ | https://www.thairath.co.th/news/local/524391 |
เปิดชีวิต ไทเกอร์ วูดส์ จากนักกอล์ฟมือ 1 โลก สู่ชีวิตพังเมาแล้วขับ | ซึ่งเจ้าตัวก็ดื่มแอลกอฮอล์หนักมาก จนตำรวจต้องจับกุมเข้าห้องขังไปเรียกสติ ก่อนจะได้รับการประกันตัวในเวลา 10.50 น.ในวันต่อมา และนี่ถือเป็นครั้งที่สองของวูดส์ที่ถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ หลังจากเคยโดนมาแล้วเมื่อปี 2009,อดีตแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนนี้มีชื่อเต็มว่า, เอลดริก ไทเกอร์ วูดส์, ชื่อเล่นภาษาไทยว่า ,ต้น, เกิดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 1975 ที่เมืองไซเปรสส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ส่วนสูง 6 ฟุต 1 นิ้ว (1.85 เมตร),ประวัติชีวิตส่วนตัวของไทเกอร์มีแม่เป็นชาวไทย ชื่อ นางกุลธิดา วูดส์ (พันธ์สวัสดิ์) กับพ่อชาวแอฟริกัน-อเมริกัน อดีตทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม ชื่อ เอิร์ล วูดส์ และยังมีพี่ชายต่างมารดา 2 คนคือ เอิร์ล จูเนียร์ และ เควิน และพี่สาวต่างมารดา 1 คนคือ รอยส์,ชื่อแรกของวูดส์ เอลดริก ตั้งโดยแม่ มาจากอักษรตัวแรก E (จากเอิร์ธ) และลงท้ายด้วยอักษร K (จากกุลธิดา) ชื่อกลางของเขา ต้น (Tont) มาจากชื่อในภาษาไทย ชื่อเล่นของเขา ไทเกอร์ ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้กับเพื่อนพ่อของเขา เหวื่อง ดัง ฟง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาเอาไว้ จนเป็นที่รู้จักกันในนาม ไทเกอร์ วูดส์,ไทเกอร์ เริ่มเล่นกอล์ฟขณะที่มีอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น โดยในปี 1984 ตอนที่ ไทเกอร์ อายุ 8 ขวบ เข้าร่วมการแข่งขันรายการ จูเนียร์ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิพ ครั้งแรก ก่อนที่จะคว้าแชมป์ได้ 6 สมัยหลังจากนั้น,ต่อมา ไทเกอร์ เทิร์นโปรครั้งแรก ในปี 1996 ในรายการ ก่อนคว้าแชมป์อาชีพได้เป็นครั้งแรกในรายการ Las Vegas Invitational วันที่ 6 ต.ค.ปี 1996 และสะสมรางวัลมาเรื่อย กระทั่งได้แชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในศึกเดอะมาสเตอร์ส ปี 1997 จากนั้น ก้าวขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ในวันที่ 15 มิ.ย.ปี 1997,ที่ผ่านมา ไทเกอร์ วูดส์ ชีวิตตกต่ำเพราะมีปัญหาครอบครัว โดยเขาต้องพบกับมรสุมชีวิตรุนแรง หลังจากมีปัญหากับ เอลิน นอร์เดเกรน ภรรยาอดีตนางแบบชื่อดัง โดย เอลินยืนยันว่าจะหย่ากับเขา เพราะรับไม่ได้ว่าเขานอกใจ มีผู้หญิงอื่นอีกกว่า 10 คน,ขณะที่ วูดส์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า กำลังประคองชีวิตหลังแต่งงานเอาไว้ให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ทั้งคู่หย่ากันในที่สุด หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 6 ปี, หนึ่งในถ้อยแถลงของเว็บไซต์ที่อ้างคำพูดของวูดส์และนอร์เดเกรน,นอกจากนี้มีรายงานว่า ทั้งคู่จะแบ่งกันดูแลลูกทั้ง 2 คน ส่วนเรื่องสินสมรสนั้น รายงานข่าวเผยว่า นอร์เดเกรนจะได้ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท),อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ไทเกอร์ฯ ก็มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นกอล์ฟ กระทั่งมีข่าวเมาแล้วขับดังกล่าว,สำหรับผลงานและเกียรติประวัติ ไทเกอร์ทำสถิติคว้าแชมป์อาชีพได้ 106 รายการ มีดังนี้,แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ,The Masters (1997,2001, 2002, 2005),U.S. Open (2000, 2002, 2008),The Open Championship (2000, 2005, 2006),PGA Championship (1999, 200, 2006, 2007),Amateur wins (11),PGA Tour wins (79) *มากสุดอันดับ 2 ตลอดกาล,European Tour wins (40)* มากสุดอันดับ 3 ตลอดกาล,Asian Tour wins (1),Japan Golf Tour wins (2),Other wins (16),นอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่นๆ ดังต่อไปนี้,- ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีจีเอทัวร์ ปี 1996,- นักกอล์ฟยอดเยี่ยมของพีจีเอ 11 สมัย (ปี 1997, 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2005, 2006, 2007, 2009, 2013),- ผู้เล่นยอดเยี่ยมของพีจีเอทัวร์ 11 สมัย (ปี 1997, 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2005, 2006, 2007, 2009, 2013),- นักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของพีจีเอทัวร์ 11 สมัย (ปี 1997, 1999, 2000, 2001, 2002, 2005, 2006, 2007, 2009, 2013),- วาร์ดอน โทรฟี่ 9 สมัย (ปี 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2005, 2007, 2009, 2013),- ไบรอน เนลสัน อะวอร์ด 9 สมัย (ปี 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2005, 2006, 2007, 2009),- เฟดเอ็กซ์ คัพ แชมเปียน 2 สมัย (ปี 2007, 2009),สำหรับปัจจุบันชีวิตของไทเกอร์ วูดส์ อันดับล่าสุดร่วงลงไปอยู่ที่ 876 ของโลกแล้ว.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,หน้านี่พริ้มเลย ช็อก ไทเกอร์ วูดส์ ชีวิตพังพินาศ โดนตำรวจจับ | จากข่าว ไทเกอร์ วูดส์ อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ลูกครึ่งไทย-มะกัน ตำรวจในเมืองจูปิเตอร์ รัฐฟลอริดา จับกุมในข้อหาเมาแล้วขับรถ | ข่าว | ไทเกอร์ วูดส์,นักกอล์ฟ,เมาแล้วขับ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/956805 |
ตร.ลอนดอนตามล่าหนุ่มถ่อย ถ่มน้ำลายใส่คนขับรถเมล์ ก่อนล็อกดาวน์โควิด | เมื่อ 13 พฤษภาคม 63 เว็บไซต์มิร์เรอร์ สื่อในอังกฤษรายงานตำรวจในกรุงลอนดอน เมืองหลวงอังกฤษ ตามจับกุมหนุ่มต้องสงสัย ซึ่งแสดงพฤติกรรมสุดหยาบคาย ถ่มน้ำลายใส่พนักงานขับรถโดยสารประจำทางสาย 68 ด้วยความไม่พอใจที่ถูกพนักงานขับรถคนดังกล่าวขอให้พวกเขาซึ่งขึ้นรถมาพร้อมกันกับพวกอีก 3 คน จ่ายค่ารถประจำทาง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา เพียงสองวันก่อนรัฐบาลสหราชอาณาจักรจะออกคำสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19ตามรายงานระบุว่า หนุ่มรายนี้พร้อมพวกอีก 3 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คนได้นั่งรถบัสประจำทางสาย 68 ไปยังแคมเบอร์เวลล์ บนถนนวอลเวิร์ธ กรุงลอนดอน และเกิดเหตุทะเลาะกันเมื่อประมาณ 12.30 น. หลังจากพนักงานขับรถได้ขอให้ผู้โดยสารเหล่านี้ช่วยจ่ายเงินค่ารถประจำทาง จากนั้นหนุ่มรายนี้จึงได้ถ่มน้ำลายผ่านทางช่องกั้นที่นั่งคนขับ ก่อนจะลงจากรถประจำทางไปเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจในกรุงลอนดอน ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถแสดงให้เห็นภาพใบหน้าชายคนหนึ่งที่ตำรวจกำลังต้องการตัว เนื่องจากต้องสงสัยถ่มน้ำลายใส่พนักงานขับรถประจำทางรายนี้ พร้อมกับขอร้องประชาชนหากผู้ใดจำใบหน้าของชายต้องสงสัยรายนี้ได้ให้รีบแจ้งมายังสำนักงานตำรวจลอนดอนด่วนทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา กรมขนส่งกรุงลอนดอนได้ออกคำสั่งให้ผู้โดยสารที่ขึ้นรถประจำทางสามารถขึ้นรถได้เฉพาะทางประตูกลางรถเท่านั้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ซึ่งเป็นเหตุให้มีพนักงานขับรถประจำทางหลายคนติดเชื้อไวรัสมรณะ ในขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ยังมีพนักงานขับรถประจำทางในกรุงลอนดอนหลายคน ป่วยด้วยโรคโควิดและอาการอยู่ในขั้นวิกฤติตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต อีกทั้งเมื่อวานนี้ยังมีข่าวเศร้าหญิงขายตั๋วรถไฟอังกฤษ ถูกคนถ่มน้ำลายใส่ จนติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตในที่สุดส่วนยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรจนถึงขณะนี้ พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 227741 ราย และมีผู้เสียชีวิต 32769 ศพ อยู่ที่อันดับ 4 ของโลก รองจากสเปน ซึ่งอยู่อันดับ 3 มีผู้ติดเชื้อ 228080 ราย และเสียชีวิต 26920 ศพ | ตำราจกรุงลอนดอนตามล่าหาตัวหนุ่มถ่อยถ่มน้ำลายใส่คนขับรถประจำทาง หลังไม่พอใจโดนทวงให้จ่ายเงิน เหตุเกิดเพียงสองวันก่อนรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์คุมโควิด ที่ทำให้มีคนขับรถประจำทางติดเชื้อหลายคน | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,ถ่มน้ำลายใส่คนขับรถเมล์,โควิดอังกฤษ,ลอนดอน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1843494 |
โสมชบาจ๊ะจ๋า 23/10/62 | สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ The Order of the Rising Sun ชั้น Grand Cordon ให้ โทชิมิทสึ โมเตกิ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น อัญเชิญไปมอบให้ บรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นการสรรเสริญที่ทำคุณประโยชน์ให้สองชาติ ตลอด 4 ปีเป็นอย่างดี ก่อนพ้นจากวาระ ยังความภาคภูมิใจ และปลาบปลื้มสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวบุนนาค อย่างหาที่สุดมิได้,ศ.นพ. ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล ผศ.ดร.ชัยพัฒน์ หล่อศิริรัตน์ และ ผศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข นำนิสิตจุฬาฯ คณาจารย์กว่า 100 ชีวิตร่วมกิจกรรม โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.อุบลฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร,วิเชียร อัศววรฤทธิ์ แห่งบี โซไซตี้ ส่งตรงความสดชื่นของ YiFang Fruit Tea (อี้ฟาง ฟรุต ที) ชาผลไม้แท้ๆแบบพรีเมียม อันดับหนึ่งของไต้หวัน มาเปิดสาขาแรกในไทย วันที่ 23 ต.ค. ที่ชั้น 2 สามย่าน มิตรทาวน์,ลูกชายปูน ใกล้จบหลักสูตรนักบินที่อเมริกาแล้ว อวิกา แจ้งเจนกิจ ปลื้มมาก เตรียมเป็นผู้โดยสารไฟลท์แรกของลูกอย่างใจจดจ่อ,หลังจัดหลักสูตร TEPCIAN (Top Executive Program on China Business Insights and Network) ให้ความรู้และเสริมสร้างความรู้ด้านการค้าและการลงทุนในจีน รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ก็คัดรายชื่อผู้บริหารระดับสูง รุ่น 1 โดยมีกฎเหล็ก ขอให้รักษาเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 75% ไม่งั้นจะขอเชิญกลับไปอยู่บ้าน,ชวนเพื่อนไปปาร์ตี้ที่เพนต์เฮาส์ ริมเจ้าพระยาวันก่อน ศานติ-นภสร ประนิช จัดรายการส่งเสริมการขาย พา พรรณพร คงยิ่งยง และ สุชีรา ท้าวคำหลง ไปเดินดูคอนโดฯที่ปิดประกาศขาย เพราะอยากได้เพื่อนไปอยู่ด้วย--ดูเสร็จ ทุกคนชอบมาก แต่ขอกลับไปปั่นรายได้ 20 ล้าน++ซัก 10 ปี ให้พอจ่าย.,โสมชบา | ลูกชายปูน ใกล้จบหลักสูตรนักบินที่อเมริกาแล้ว อวิกา แจ้งเจนกิจ ปลื้มมาก เตรียมเป็นผู้โดยสารไฟลท์แรกของลูกอย่างใจจดจ่อ | null | อวิกา แจ้งเจนกิจ,โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,นภสร ประนิช,จบหลักสูตรนักบิน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1687645 |
โนบิ 1ในผู้ต้องหาอนาจารในปาร์ตี้ เป็นทนายความ เตรียมมอบตัว | แม่ โนบิ 1 ใน 6 ผู้ต้องถูกออกหมายจับปาร์ตี้ ลันลาเบล ตาย ยันลูกจะเข้ามอบตัวที่นนทบุรี เผยเป็นเพื่อน คิว เจ้าของบ้าน เคยเรียนด้วย วันเกิดเหตุ มาจากอุดรฯมารับตั๋วทนายความ มั่นใจลูกไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา ,หลังจากที่ศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับเจ้าของงานปาร์ตี้พร้อมพวก รวม 6 คน ได้แก่ นายชัยพล พรรณนา (คิว) อายุ 29 ปี น.ส.พิกุลทอง บุญภา (เฟิร์ส) อายุ 24 ปี นายนที สถิตพงษ์สถาพร (ตี๋) อายุ 33 ปี นายกฤษฎา โลหิตดี (โนบิ) อายุ 27 ปี น.ส.พัทธนันท์ รักษากุล (ปีใหม่) อายุ 26 ปี และนายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ (ปิงปอง) อายุ 35 ปี ในข้อหา ซ่องโจรและร่วมกันกระทำอนาจาร ในคดีที่ เดียร์ พริตตี้สาวเป็นผู้เสียหาย,ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 กันยายน ได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านเลี่ยมพิลึก ต.บ้านจั่น อ.เมือง ซึ่งเป็นบ้านของ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ หนึ่งใน 6 ของผู้ที่ถูกศาลนนทบุรี ออกหมายจับ ที่เป็นชาว จ.อุดรธานี พบกับแม่และป้าของนายกฤษฎา อยู่ที่บ้าน (เขาขอสงวนชื่อ นามสกุล) ได้พูดคุยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว,แม่และป้า ของนายโนบิ บอกว่า ทราบเรื่องที่ลูกชายถูกออกหมายจับแล้ว และเขาไม่ได้หนีไปไหน เช้าวันนี้เขาก็ไปทำงานของเขาปกติ ซึ่งตัวของอาร์ท (นายกฤษฎาหรือโนบิ) โทรศัพท์มาบอก ที่ผ่านมาลูกชายมีเรื่องอะไรเขาจะเล่าให้แม่ฟังตลอด แม้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ โดยวันที่เกิดเหตุ ลูกชายเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปรับตั๋วทนายความ หลังจากที่ได้พยายามสอบมา 2 ปี ซึ่งลูกชายเป็นเพื่อนกับนายชัยพล หรือ คิว เจ้าของบ้านและเจ้าของงานปาร์ตี้ เพราะเคยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯด้วยกัน,วันนั้นลูกชายเข้าไปกรุงเทพฯ เขาได้ติดต่อกับคิว ตามประสาเพื่อนฝูง และไปหานายคิวที่บ้านบางบัวทอง ปกติลูกชายเป็นคนที่ไม่ดื่มกิน แต่วันนั้นเขาก็ดื่มกินกับคิวนิดหน่อย และอยู่ในงาน ซึ่งเขาก็เห็นน้ำอุ่นพาลันลาเบล ออกไป ลูกชายยังเป็นห่วงกลัวว่าลันลาเบล จะเป็นอะไรไป เพราะเห็นว่าเมามาก เนื่องจากว่าที่ผ่านมา เวลาอยู่อุดรธานี เขาจะเป็นจิตอาสา ออกไปช่วยมูลนิธิในอุดรธานี ไปช่วยคนเจ็บคนตาย เขาทำมานานตั้งแต่อายุ 13 ปี จนออกรถตู้มาวิ่งช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยคนตาย ตอนนั้นลูกชายก็เห็นอาการน้อง เขายังเป็นห่วง ซึ่งกลุ่มเขาจะมีกลุ่มไลน์กัน เขายังไลน์ไปบอกน้ำอุ่น เป็นห่วงอาการของน้องลันลาเบล เพราะเขาเคยช่วยเหลือคนป่วยมาก่อน,แม่ทนายโนบิ เล่าอีกว่า หลังจากนั้นลูกกลับออกมา จนมีตำรวจเรียกไปสอบถาม เขาก็เล่าเรื่องให้ฟัง ตำรวจบอกว่าไม่มีอะไร จนมาถูกออกหมายจับ ตอนแรกก็ตกใจ แต่มาคิดว่า คงเป็นกรรมเก่าที่พวกเขาทำกันมา เพราะปกติแล้ว ลูกชายเขาจะเข้าวัดตลอด นุ่งขาวห่มขาว นั่งสมาธิ ตอนเรียนที่กรุงเทพฯ เขาก็นอนที่วัด อยู่อุดรฯ ก็เข้าวัดบ่อย ตนมั่นใจว่า ลูกชายไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา,ก่อนหน้านี้มีตำรวจมาหาลูกชายที่บ้าน บอกให้ลูกชายมาพบ เพราะมีหมายจับ เราก็ติดต่อไป และเตรียมเอาโฉนดที่ดิน เพื่อเอาไปประเมินเพื่อประกันตัว แต่ลูกบอกรับปากตำรวจว่า เย็นวันนี้ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปมอบตัว โดยจะนำเงินสดของทนายรุ่นพี่ไปประกันตัว ส่วนแม่จะนำโฉนดที่ดินไปประเมินราคา และจะตามเข้าไป เพื่อเอาโฉนดที่ดินไปวางประกันแทนเงินสด ซึ่งจะคืนเจ้าของไป ลูกชายไม่หนีอย่างแน่นอน เพราะเขาบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา | แม่ โนบิ 1 ใน 6 ผู้ต้องถูกออกหมายจับปาร์ตี้ลันลาเบลตาย ยันลูกจะเข้ามอบตัวที่นนทบุรี เผยเป็นเพื่อนคิว เจ้าของบ้าน เคยเรียนด้วย วันเกิดเหตุ มาจากอุดรฯมารับตั๋วทนายความ มั่นใจลูกไม่ได้ทำ | ข่าว,ทั่วไทย | ลันลาเบล,ข่าวเด่น,น้ำอุ่น,ปาร์ตี้,หมายจับปาร์ตี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1669640 |
เดชรัตน์ สุขกำเนิด วิเคราะห์ให้เห็นชัดชัด กำลังผลิตไฟฟ้าภาคใต้ปีพ.ศ.2562 พอ-ไม่พอ | วันนี้ (31 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์รายงานว่า ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เขียนข้อความลงในเฟซบุ๊ค Decharut Sukkumnoed ถึง ระบบไฟฟ้าของภาคใต้ในปี พ.ศ.2562 ว่าข้อถกเถียงสำคัญประการหนึ่งในความขัดแย้งเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินของกฟผ. ที่จ.กระบี่ และที่ อ.เทพา จ.สงขลา คือ ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้ เพราะกำลังการผลิตสำรองในภาพรวมของทั้งประเทศในระยะ 10 ปี ที่จะถึงนี้ จะเหลือเกิน (ร้อยละ 30-40 ของความต้องการไฟฟ้าสูงสุด) กว่ามาตรฐานในการวางแผนระบบไฟฟ้ามาก (ค่ามาตรฐานคือร้อยละ 15) ดังนั้น ข้อถกเถียงจึงมุ่งเป้ามาที่ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้เป็นสำคัญทางกฟผ. มีความเป็นห่วงว่า ระบบไฟฟ้าของภาคใต้จะไม่มั่นคงในปีพ.ศ.2562 เนื่องจากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น บทความนี้จึงจะฉายภาพระบบไฟฟ้าของภาคใต้ ทั้งกำลังการผลิตและความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี พ.ศ.2562 (หรืออีก 4 ปีข้างหน้า) เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญสำหรับการถกเถียงกันในเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไปในปีพ.ศ.2562 ภาคใต้มีโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 3 โรงคือ โรงไฟฟ้าจะนะ 1 (710 เมกะวัตต์) โรงไฟฟ้าจะนะ 2 (800 เมกะวัตต์) และโรงไฟฟ้าขนอม (930 เมกะวัตต์ ซึ่งจะแล้วเสร็จแล้วใช้ทดแทนโรงไฟฟ้าขนอมเดิมในปี พ.ศ.2559) รวมทั้งหมดมีกำลังการผลิต 2440 เมกะวัตต์ ถือเป็นกำลังหลักของกำลังการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ภาคใต้มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่งคือ เขื่อนรัชประภา (240 เมกะวัตต์) เขื่อนบางลาง (72 เมกะวัตต์) และเขื่อนบ้านสันติ มีกำลังการผลิตติดตั้ง 313 เมกะวัตต์ ไม่รวมโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กภาคใต้มีโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล 2 โรงคือ โรงไฟฟ้าน้ำมันเตากระบี่ (340 เมกะวัตต์) และโรงไฟฟ้ากังหันแก๊สสุราษฎร์ธานี (234 เมกะวัตต์) รวมกัน 2 โรงเท่ากับ 574 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งมักจะเดินเครื่องเป็นโรงไฟฟ้าเสริม เพราะมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงสูง แต่ยังสามารถใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นได้ภาคใต้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ขายเข้าระบบแล้ว 221 เมกะวัตต์ (จากกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมด 249 เมกะวัตต์ เพราะบางส่วนจะใช้ในโรงงานของตนเอง) รวมกับที่ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วอีก 284 เมกะวัตต์ รวมเป็นการคาดการณ์กำลังการผลิตที่ขายเข้าระบบ 505 เมกะวัตต์ (ไม่ได้รวมผู้ผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการตอบรับซื้อไฟฟ้าแล้ว แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญารับซื้ออีก 197 เมกะวัตต์ ถ้ารวมด้วยกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 702 เมกะวัตต์) (หมายเหตุ ข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ณ เดือนกรกฎาคม 2558)เมื่อรวมกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 4 แหล่งเข้าด้วยกัน ภาคใต้จะมีกำลังการผลิตในระบบทั้งหมดในปีพ.ศ.2562 เท่ากับ 3832 เมกะวัตต์นอกจากนี้ ภาคใต้ยังมีระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 กิโลโวลต์ จากภาคกลาง ที่ใช้งานอยู่แล้วในปัจจุบันหนึ่งวงจร (ส่งไฟฟ้าได้ 650 เมกะวัตต์) และที่กำลังดำเนินการสร้างใหม่อีก 500 กิโลโวลท์ (ส่งไฟฟ้าได้ 650 เมกะวัตต์ จะแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2562) และสายส่งเชื่อมโยงไทย-มาเลเซีย ซึ่งส่งไฟฟ้าได้อีก 300 เมกะวัตต์ รวมระบบสายส่งที่มาช่วยเสริมหนุนกำลังการผลิตในพื้นที่ได้อีก 1600 เมกะวัตต์ (แต่ยังมิได้รวมเข้าไว้ในกำลังการผลิตของภาคใต้ เพราะถือเป็นส่วนเสริม)ในด้านความต้องการใช้ไฟฟ้า ภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีพ.ศ.2557 เท่ากับ 2468 เมกะวัตต์ โดยจังหวัดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดได้แก่ สงขลา (482 เมกะวัตต์) สุราษฎร์ธานี (370 เมกะวัตต์) ภูเก็ต (359 เมกะวัตต์) และนครศรีธรรมราช (331 เมกะวัตต์) ตามลำดับ โดย 4 จังหวัดนี้ ใช้ไฟฟ้ารวมกันเท่ากับ 62.5 % ของความต้องการไฟฟ้าสูงสุดทั้งภาคส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของจังหวัดต่างๆ ได้ใส่ไว้ในตัวเลขสีแดง โดยจังหวัดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยที่สุดคือ นราธิวาส (71 เมกะวัตต์) สตูล (56 เมกะวัตต์) และระนอง (48 เมกะวัตต์) ข้อมูลความต้องการไฟฟ้าสูงสุดนี้ได้จากฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่อมาจึงเป็นการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้ในปีพ.ศ.2562 โดยกำหนดให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 5.7 % ตามแนวโน้มที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าความต้องการไฟฟ้าของภาคใต้ในปีพ.ศ.2562 จะเท่ากับ 3256 เมกะวัตต์ทั้งนี้ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าจะมีการปฏิบัติตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป้าหมายในการอนุรักษ์พลังงานของภาคใต้ในปีพ.ศ.2562 เท่ากับ 170 เมกะวัตต์ ฉะนั้นหากภาคใต้ดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมาย ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดในภาคใต้ในปีพ.ศ.2562 ก็จะลดลงเหลือ 3086 เมกะวัตต์จากกำลังการผลิตทั้งหมดของระบบไฟฟ้าในภาคใต้ 3832 เมกะวัตต์ (ไม่รวมระบบสายส่ง) และความต้องการไฟฟ้าของภาคใต้ 3256 เมกะวัตต์ (ไม่หักลดการอนุรักษ์พลังงาน) ในปีพ.ศ.2562 กำลังการผลิตสำรองทั้งหมดของภาคใต้จะเท่ากับ 576 เมกะวัตต์ หรือเท่ากับร้อยละ 17.7 ของความต้องการไฟฟ้าสูงสุด โดยไม่รวมการเสริมหนุนจากระบบสายส่งแต่หากเราหักลดการอนุรักษ์พลังงานตามแผนฯ ด้วย (ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดเหลือ 3086 เมกะวัตต์) ภาคใต้จะมีกำลังการผลิตสำรองเป็น 746 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 24.2 ของความต้องการไฟฟ้าสูงสุดแม้ว่าโดยทั่วไปในการวางแผนระบบไฟฟ้าของไทย เราจะถือว่า ระบบไฟฟ้าจะมีความมั่นคงเมื่อมีกำลังการผลิตสำรองเกินกว่าร้อยละ 15 แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น ในโพสต์หน้า เราจะคำนวณกำลังการผลิตที่พึ่งพาได้ (Dependable capacity) ของโรงไฟฟ้าแต่ละประเภท (เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำอาจมีปริมาณน้ำจำกัด ทำให้เดินเครื่องได้ไม่เต็มที่) และจำลองสถานการณ์ในกรณีที่โรงไฟฟ้าโรงใดโรงหนึ่งเกิดหายไปจากระบบไฟฟ้าอย่างกระทันหัน เพื่อทำให้การถกเถียงกันเรื่องความไม่จำเป็นของโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือทางเลือกอื่นๆ ของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ตั้งอยู่บนฐานข้อมูลเดียวกันให้มากที่สุดเพราะฉะนั้น หากเพื่อนๆ พี่น้องท่านใดจะมีข้อมูล คำแนะนำ หรือคำถามประการใด ที่อยากให้แก้ไข/เพิ่มเติม/ชี้แจง สามารถแจ้งได้เลยครับ เราจะพยายามรวบรวมความคิดเห็นต่างๆ มาปรากฏอยู่ในชุดข้อมูลที่ตรงกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ แล้วเดี๋ยวโพสต์หน้าเราจะไดถกเถียงแสดงความเห็นเรื่องความจำเป็น/ไม่จำเป็นของโรงไฟฟ้าถ่านหินกันได้เต็มที่ครับคลิก | ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ คำนวณตัวเลขความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาวะปกติของภาคใต้ ในช่วงที่มีความต้องการสูงสุด กำลังการผลิต ทั้งผลิตเองและเชื่อมโยงจากภาคอื่นๆ การอนุรักษ์พลังงาน ไปจนถึงกำลังไฟฟ้าสำรองที่คาดว่าจะเหลืออยู่ | สังคม | การไฟฟ้าฝ่ายันดามันจากถ่านหินผลิตแห่งประเทศไทย,ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด,ถ่านหิน,พลังงานไฟฟ้า,เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน,ไฟฟ้า,ไฟฟ้าสำรอง | https://news.thaipbs.or.th/content/4008 |
ปอ ไม่เร่งวิวาห์ แต่งเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น | พูดติดขำเล่นกับลูกคนอื่นก็ได้ และพ่อแม่ก็ไม่เร่งอยากมีหลาน ไม่ซีเรียสหากจะได้เล่นบทพระรองในละครเจ้าบ้านเจ้าเรือน บอกให้เล่นบทอะไรได้หมดเพราะเป็นนักแสดงอยู่แล้ว ธุรกิจปลูกข้าวยังไปได้สวย มีการทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ,ไม่ใช่คาสโนว่าหรือคนเจ้าชู้ใดๆ แต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมพระเอก ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ยังไม่แต่งงานสักที เห็นคบกับแฟนสาวนอกวงการ โบว์ มาก็หลายปี อีกทั้งปีนี้ก็ 37 แล้ว แต่ยังดูเหมือนหนุ่มปอยังชิลๆ อยู่ เป็นเพราะอะไร ต้องไปฟังจากปากของเจ้าตัวเอง,วันเกิดที่ผ่านมาก็ไปทำงาน ถ่ายละครแล้วตอนเย็นก็กลับมากินข้าวที่บ้านครับ มีเซอร์ไพรส์อะไรไหม? ไม่มีๆ อยากให้มีอยู่เหมือนกัน มันเป็นวันที่เราคิดว่าจะเซอร์ไพรส์เนอะ มันก็เลยไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ โบว์มีให้ของขวัญอะไรพิเศษไหม? ไม่มีเลย แต่ถ้าวันเกิดเค้าเราไม่ให้นี้เป็นปัญหานะ ไม่แฟร์เลย (หัวเราะ) แล้วมีซื้ออะไรให้ตัวเองไหม? ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเองเลยครับ ก็ไปทำบุญเลี้ยงเด็กบ้านเด็กกำพร้า เพราะวันนั้นได้มีโอกาสไปถ่ายละครที่บ้านเด็กสงเคราะห์ที่รังสิต หรือเป็นคนไม่ชอบเซอร์ไพรส์รึเปล่า? จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากได้ของอะไรครับผม มันเปลืองตังค์ ไม่ได้อยากซื้อหรอก เราก็เอาเงินจากซื้อของขวัญ จัดงานเลี้ยงไปทำบุญทำทานให้กับเด็กที่ด้อยโอกาส โบว์ไปด้วยไหม? ไม่ได้ไปครับ วันนั้นผมไปถ่ายละครพอดีเลย ก็เลยถือโอกาสไปทำบุญ อายุ 37 แล้ว มีแพลนทำอะไรต่อไป? ก็ทำงานต่อไปครับ จะช่วยในสิ่งที่ช่วยสังคมได้ ก็ต้องตอบแทนครับ สังคมไทยให้เรามาจนเรามีที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้เพราะสังคมให้มา ถ้าเรามีอะไรช่วยสังคมได้เราก็จะช่วย โดยที่มันไม่เหลือบ่ากว่าแรงและไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร ก็ต้องช่วยครับ ตั้งเป้าทำอะไรให้สำเร็จในปีนี้? จริงๆ แล้วก็อยากจะผลักดันโครงการเกี่ยวกับเรื่องพิษสุนัขบ้าให้มันหมดไปจากประเทศไทย,จะมีข่าวดีเมื่อไหร่? ยังไม่ได้แพลนเลยครับ เดี๋ยวมีแล้วจะบอก แต่คิดว่ามันต้องมีครับ แต่ยังไม่แพลนเอาไว้ อีกกี่ปี? นั่นน่ะสิ ยังตอบไม่ได้จริงๆ กดดันไหม ถูกถามเรื่องนี้บ่อยๆ? ไม่หรอกครับ เพราะว่าเราคุยกัน ก็ไม่รู้ว่าจะไปแต่งแล้วมันจะยังไง ก็คือแบบว่ามันยังโอเคและยังสนุกอยู่ ครอบครัว ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้เร่ง อายุไม่ใช่อุปสรรคใช่ไหม? คนแก่ 80 ยังแต่งงานได้เลย เผื่อมีน้องไม่ทันใช้? ไม่เป็นไร ใช้ลูกคนอื่นก็ได้ครับผม เห็นว่ามีส่วนร่วมในการเล่นเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเรือนด้วย? ผมก็ได้ยินอยู่นะ แต่ว่ายังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มกับทางช่อง ผมก็เพิ่งปิดเรื่องหัวใจปฐพี และนางสาวทองสร้อย เค้าได้มีการติดต่อมาทางช่องไหม? คือถ้าโดยหลักการแล้ว ผมเป็นนักแสดงช่อง 3 ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งจากทางช่อง ผมก็ได้ยินนะครับแต่ผมยังไม่ได้รับคำสั่งจากทางช่อง ถ้าได้เล่นจริงๆ ก็จะเป็นพระรอง เพราะพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์เป็นพระเอก ผมไม่รู้สึกอะไร เพราะผมเป็นนักแสดง ผมเล่นได้ทุกบท ไม่เกี่ยงบทใช่ไหม? ผมก็ไม่เคยเลือกอยู่แล้วนะ ตั้งแต่เป็นนักแสดงมา ก็จะเป็นทางช่องเลือกให้หมดทุกอย่าง เราเป็นพระเอกมาตลอด แต่เรื่องนี้มีพระเอกอีกคนนึง? ผมก็เคยเล่นพระเอก 3 คนก็เคย 2 คนก็เคย มันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น อย่าไปทำให้มันมีประเด็นเลย เราเป็นนักแสดงครับ ได้รับมอบหมายให้แสดงบทไหน เราก็แสดงให้ดีที่สุด ไม่ซีเรียสเลยนะว่าจะมีพระเอกกี่คน บทแบบนี้ผมได้รับมาเยอะมากแล้วนะครับผม ขอบอกว่ามันไม่เกี่ยวเลยนะ ถ้าพูดแบบนั้นมันจะทำให้ดูไม่ดี,ธุรกิจเป็นยังไงบ้าง? ก็ดีครับ ยังไม่ขาดทุน ถือว่าเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เราทำแล้วเรามีความสุขครับ จะขยับขยายอะไรยังไง? ตอนนี้ก็ดูในเรื่องของคุณภาพก่อนครับ ส่วนปริมาณมันจะขยายเมื่อไหร่ก็ได้ครับ เอาคุณภาพให้มันดีที่สุดก่อน ต้องทดลองในหลายๆ แบบในการปลูกอยู่ เห็นว่าขายรอบล่าสุดนี้รวยเลย? สาธุนะ ก็ขอให้เป็นอย่างที่พูด ก็อย่างที่บอกมันมีหลายแบบ ก็เอาไปให้โรงเรียน ให้วัดบ้าง แล้วเอามาขาย พอเหลือก็ทำบุญไปด้วย คือก็ได้กระจายของเราให้คนได้กิน ส่วนที่เหลือก็เอามาลงทุนต่อในธุรกิจถัดไป ก็เป็นธุรกิจที่สนุกดี ไม่ต้องมาเครียด ไม่ขาดทุนและอยู่ได้มีความสุขครับ จะส่งออกเมืองนอกไหม? ส่งนอกเลยเหรอ นอกจังหวัดยังส่งไม่พอเลยครับ มีโครงการไหม? เอาแค่ขายมันก็หมดแล้วครับ ก็ไม่ได้ขนาดนั้น เอาจริงมันก็ขายแล้วหมด ถ้าขายไม่หมดมันก็เครียดนะ แสดงว่าปีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ? ไม่มีครับ เพราะเรามีน้ำเป็นของตัวเอง เราขุดที่เก็บน้ำเอาไว้ มองไว้หรือยังว่าจะขยายยังไง? ก็มองอยู่ครับ ถ้ามันได้คุณภาพอย่างที่เราต้องการ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็จะทำออกมาให้คนอื่นได้ลองดูบ้างครับ. | ปอ ทฤษฎี เผยวันเกิดครบรอบ 37 ปีที่ผ่านมา ไปทำบุญกับเด็กด้อยโอกาส เพราะไปถ่ายละครที่นั่นพอดีเลยถือโอกาสทำบุญด้วยเลย ส่วนเรื่องแต่งงานยังไม่มีแพลน เมื่อไหร่เมื่อนั้น ด้านโบว์แฟนสาว ไม่รีบ อายุไม่ใช่อุปสรรค | null | ปอ ทฤษฎี,ทฤษฎี สหวงษ์,ละคร,เจ้าบ้านเจ้าเรือน,โบว์แฟนปอ,ปอปลูกข้าว,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/478136 |
ยายชา ชีวิตพลิกตอนโดนคัดออกจาก ระเบิดเถิดเทิง ได้กินข้าวแค่วันละมื้อ | ยังจำกันได้ไหม ยายชา ผู้ที่เคยรับบทเป็นหญิงสูงวัย นั่งขายกล้วยแขกในซอยเถิดเทิง จากซิทคอมเรื่อง ระเบิดเถิดเทิง ที่เคยได้รับความนิยมมานานกว่า 18 ปี มาวันนี้รายการได้ปิดตัวลง และตัว ยายชา เองก็หายจากหน้าจอไปสักระยะ ซึ่ง ยายชา ได้บอกว่า ในชีวิตจริงนั้นตัวเองเป็นผู้ชาย แต่งงานมีภรรยาแล้ว ล่าสุด ยายชา ได้มาเปิดใจเล่าชีวิตตัวเองผ่านรายการตัวแม่มาแล้ว ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 โดยเจ้าตัวเล่าว่ามีหลายคนเคยสงสัยว่า ยายชา นั้นตายไปแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่ตาย มันเป็นหนังของยาย เพราะสื่อมันออกไปเอง จริงๆ แล้วนั้นยายเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง เพราะเราอยากได้ตังค์เค้า จะทำยังไงถึงจะได้ตังค์ มาเล่นตลกตั้งแต่เด็กๆ ได้รับค่าตัว สิบบาท ยี่สิบบาท สองร้อยบาท พอมั้ย ไม่พอหรอก และบังเอิญเป็นนักพากย์หนังกลางแปลงก็เลยทำได้ เราเป็นนักพากย์สมัยก่อนเนี่ยเราจะดัดแปลงอะไรก็ได้จากข่าวลือที่บอกว่า ยายชาตกอับนั้น ยายชาเล่าว่า ตกอับมันก็ไม่เชิง เขาคัดดาราซอยเถิดเทิงออก พวกเราก็เซ แต่ไม่ถึงตกอับ เพียงแต่ว่าเราจับจุดว่าเราจะไปยังไง ทำอะไรต่อ เพราะอยู่มาถึง 18 ปี ยายชาตกอับไม่มีตังค์ใช้ มันเป็นไปไม่ได้ เรามี แต่เราก็ต้องประหยัดบ้าง และช่วงไม่มีงานทำก็อยู่บ้านมันมีรายจ่าย แฟนก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ฉันก็อยู่บ้านเลี้ยงหมา เลี้ยงแมวอีรุงตุงนัง ก็ซื้อข้าวเข้าไปสัก 2 โล กินตั้งเกือบอาทิตย์ จะกินอะไรมากมาย กินแค่มื้อเดียวพอ ถ้ากิน 3 มื้อ 4 มื้อ ต่อให้วันละ 500 ก็ไม่พอ ต้องประหยัดเอาแต่ถ้ามีงานมีตังค์มา ไม่ใช่ว่ามีเท่าไรก็ใช้หมด ฉันเก็บตังค์ไม่ได้ ฉันเลยส่งเงินมาให้ภรรยาช่วยเก็บ เอาตังค์ฝากธนาคารไม่ทำบัตรเอทีเอ็ม ถ้าทำบัตรเอทีเอ็มใจเรามันเติบ เดี๋ยวเราก็ไปกดออกยายชา ได้ย้อนกลับไปเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กนั้นเริ่มกินเหล้าตั้งแต่อายุประมาณ 7 ขวบ เคยทำอาชีพประมงน้ำจืดมาก่อน ที่ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ทอดแห กระโดดน้ำลงงม พอขึ้นเรือมาก็ยกเหล้ากินรอบละนิดนึงจนติด พอตกเย็นหลังจากทำอะไรเสร็จเรียบร้อยเราก็จะไปกินเหล้ากับเพื่อน พอเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ตีกัน เราก็สงสารแม่ จนเรามาคิดได้ว่า เหล้าเนี่ยมันไม่ดีเลย ก็เลยหักดิบเลิกตอนอายุ 20 ปีตอนอายุประมาณ 7 ขวบ เวลาไปกินเหล้าก็จะไปกินที่ศาลาพักศพ หรือแถวๆ ป่าช้า ไปกินกับเพื่อน และเมาหลับตรงที่ป่าช้า ซึ่งตอนหลับเราเองก็จะได้ยินเสียงคนคุยกันผ่านหัวว่า ไอ้นี่เมาหลับ กลับเช้าชัวร์ และตอนนั้นเพื่อนกลับไปหมดแล้ว ด้วยความเมาเราก็บ่นตอนเมาว่า เฮ้ยคุยกันเบาๆ หน่อย คนจะหลับคนจะนอนจนเราจะดุ้งตื่นมาได้สติแล้วคิดขึ้นมาว่าเสียงใครที่คุยกับเรา แต่ไม่ได้สนใจอะไรก็เลยเดินออกทางป่าช้าไป ระหว่างทางก็จะมีต้นโพธิ์ใหญ่โอบ 3 คนไม่มิด ก็เห็นต้นโพธิ์ต้นใหญ่สั่นครึ่งต้น เราก็เลยพูดด้วยความนักเลงว่า เออสั่นไปเหอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกูไม่ช่วยมึงหรอก และตอนจะเดินออกจากป่าช้าก็จะมีขี้เหล็กต้นเท่านิ้วก้อยนิดนึง ก็เห็นผีมาแกว่งขา เราก็เลยพูดว่า ทำเอามากๆ ตกใจ ตกมาจะกระทืบซ้ำด้วยและยายชาเผยว่า กินเหล้าที่ไหนไม่อร่อยเท่าที่ป่าช้ามันได้อารมณ์ซะมากกว่าไปกินที่อื่นๆ บางทีผีก็ไม่มาหลอกจนผิดสังเกต ยายชาบอกถึงประสบการณ์เจอผีครั้งแรกคือกลัวสุดขีด ตอนที่ตกจากหลังคาบ้านมาที่พื้นทั้งๆ ที่หลังคาบ้านไม่มีอะไรเลย จนท่องนะโมตัสสะหลายครั้ง เลยกลับบ้านมาอยู่เป็นอาทิตย์ นานๆ มาเข้าก็ชินส่วนเรื่องแฟน ยายชาบอกว่า คบกันมาตั้งแต่เขาอายุ 17 ปี ตอนนี้เขาอายุ 49 ปี เราอายุ 67 ปี ไปเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน เพราะส่วนใหญ่ตลกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและก็แบ่งตังค์กัน แล้วเขาก็เข้ามาขอลายเซ็นเรา จากนั้นก็นัดเที่ยวกันและก็โทรคุยกันตอนไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกพกเงินสดเตรียมไป 50000 บาท จะลองดูใจว่าผู้หญิงคนนี้จะเอาตังค์เราไปใช้อะไรหรือเปล่าเราก็ถามเขากินอะไรไหม อยากได้ของอะไรมั้ย ถึงขั้นแบรนด์เนมเลย เขาบอกว่าไม่เอา กินข้าวไหม บอกไม่เอา แต่ซื้อมามีอยู่สิ่งนึงที่เราประทับใจมากเลย แพงสุดขีดคือ ผ้าผูกผมอันละ 5 บาท เราก็ลองมานั่งคิดดูว่าถ้าเราเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นแฟน มาเป็นภรรยาของเรา คงเก็บตังค์ให้เราได้พอเราได้เสียกับผู้หญิงคนนี้เสร็จ เราก็ให้เขาพาไปหาพ่อของเขา ตอนแรกที่เจอพ่อของเขาคำแรกเลยคือ ลุงมาหาใคร (หัวเราะ)เราก็เลยยอมรับว่า เราได้กับลูกสาวของเขาแล้ว พ่อเขาก็บอกว่า พ่อไม่ได้ว่าอะไรหรอก ก็อยู่กันไปดูแลลูกพ่อให้ดีก็แล้วกัน เราก็บอกว่า ไม่ได้ครับพ่อ เราอยากทำอะไรที่พิเศษๆ เพราะในชีวิตเรามีภรรยามาเยอะไม่เคยแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน แต่คนนี้ผมขอแต่งได้ไหม จากนั้นผมก็จัดงานแต่งเลย ส่วนสินสอดพ่อเขาบอกแล้วแต่เอ็งเลย และก็อยู่ด้วยกันจนปัจจุบัน ไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่คำเดียวสมัยหนุ่มๆ เราทำมาแล้วหลายอาชีพ เคยขายกล้วยแขก ห่อหมก ขนมหวาน ใครจ้างมาก็ทำหมด บางทีก็มีรับจ้างงมแหวน รับจ้างร้องไห้หน้าศพก็เคย เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัย 6-7 ขวบ เขาถามว่าร้องไห้หน้าศพได้ไหม ได้มา 500 เงินเยอะมาก เหมือนกับว่าคนที่ตายนั้นคือญาติของเรา ร้องไห้ตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสาม มันเป็นประเพณีของคนบ้านนอก ทำได้อยู่ 3-4 งานก็เลิกเพราะไมไหว ร้องไห้ไม่ไหว ตาช้ำไปหมดครั้งนึงเคยเสี่ยงตายเพราะอยากเล่นระเบิดเถิดเทิง มีคนท้าให้ไปกระโดดขวางหน้ารถคุณปัญญา แล้วบอกอยากเล่นระเบิดเถิดเทิง เราเลยไปกระโดดขวางหน้ารถคุณปัญญา จากนั้นก็บอกเขาว่า ผมอยากเล่นระเบิดเถิดเทิง เขาก็เลยขอเบอร์ติดต่อมา ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัว เพราะว่าคุณปัญญาเขาขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่รีบไม่ร้อน ขับสบายๆ คุณปัญญาเขาถามว่าเคยเล่นประจำที่ไหน เราก็บอกไปเขาบอกว่าจะเล่นมุกไหนก็ได้แต่จะต้องแต่งเป็นคนแก่ ไม่ต้องพูดอะไร นั่งอยู่ขอบเวทีคืนละ 3 รอบที่เหลือก็เป็นกรุงธนบุรีคอมเพล็กซ์ กรุงธนบุรีพลาซ่า ตั้งแต่เล่นตลกครั้งแรกมาปี 2519 อยู่กับตลกเล็กๆ แถวสายใต้เก่า พอมาคณะตลกซิ่งชิงแชมป์เริ่มเล่นที่ใหญ่ เริ่มมีงานมากขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับคุณปัญญาถึง 18 ปี. | ตลกยายชา เถิดเทิง เล่าชีวิตหลังจบรายการดังที่เคยทำมา 18 ปี เกือบตกอับ จากที่แต่ก่อนเคยมีเงินเหลือใช้ ต้องใช้อย่างประหยัด ดีที่ให้ภรรยาเป็นคนเก็บเงินให้ จึงมีเงินพอใช้อยู่บ้าง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ยายชา,ยายชา ระเบิดเถิดเทิง,ยายชา เถิดเทิง,ตัวแม่มาแล้ว,ข่าวบันเทิง,ตลกยายชา เถิดเทิง,ตลกยายชา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1749880 |
แก้มบุ๋ม เคลียร์ ขุน ใช่เกย์หรือไม่ บอกชัดรักจริงใครจะสร้างกระแสได้เป็นปี | เป็นอีกหนึ่งคู่ที่พบรักในกองถ่าย สำหรับสาวแก้มบุ๋ม ปรียาดา กับหนุ่มขุน ชานนท์ ที่ต้องบอกเลยว่าคู่นี้คบกันไม่ถึงปี น้ำตาลก็หมดไปเป็นโรงงานแล้ว ขยันควงกันไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ แถมผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวมีโอกาสได้เจอกันแล้วด้วย แต่งานนี้ก็ไม่วายโดนเม้าท์ต่างๆ นานา ทั้งเป็นคู่รักสร้างกระแส หนุ่มขุนเป็นเกย์บ้างแหละ ล่าสุด หนุ่มขุน และ สาวแก้มบุ๋ม ควงคู่กันมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บโชว์ ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร,เป็นแฟนกันจริงๆใช่ไหม เพราะมีบางคนมองว่าเราคบกันเพื่อปั่นกระแส?,แก้มบุ๋ม เราจะปั่นนานขนาดนี้เลยเหรอ,ใครจีบใครก่อน?,ขุน เขาเลย คือเราเล่นละครด้วยกันเรื่องรักมาก มากรัก แล้วผมก็เห็นว่าชุดแดงนี่ใคร ขายาวดี ซึ่งส่วนตัวผมชอบผู้หญิงขายาวอยู่แล้ว อีกอย่างเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ก็ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอ ตอนแรกตนชวนเค้าเล่นเกม ROV,แก้มบุ๋ม คือเขาคุยกับทุกคนในกองยกเว้นเรา,แล้วเราไปเริ่มจีบเขายังไง?,ขุน เราก็ชวนเขาเล่น ROV ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าเกมนี้คือเกมอะไร แต่เราเห็นเขาเล่นกับผู้จัดการเขา เราก็เลยไปโหลดเลย แล้วค่อยๆ ชวนเขาเล่น คือตอนแรกเขาคิดว่าเราเป็นเกย์ เขาเพิ่งมาบอกตอนหลังแล้วว่าเขาคิดว่าผมเป็นเกย์,แก้มบุ๋ม คือจริตเขาเยอะมาก และด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ด้วยข่าว ด้วยภาพลักษณ์อะไรแบบนี้,ขุน ครั้งแรกก็ชวนไปกินข้าว ชอบไปหาพ่อที่บ้าน คือพอเริ่มจะจีบจริงจังก็ขอไปหาพ่อแม่เขาที่บ้าน,รู้ไหมว่าเขาจีบ?,แก้มบุ๋ม รู้ แต่ช่วงนั้นเราก็แอบฮอตนิดนึง ตัวเลือกเยอะ แล้วเรามองว่าคนนี้หมาหยอกไก่แน่เลยแต่ก็ลองคุยดู ก็คิดว่าทำไมเขาใจกล้า เรามองเขาภาพแรกเป็นภาพแบบติดลบก่อน แต่สุดท้ายเขาก็มีด้านบวกเหมือนกัน,ด้านบวกที่ไม่มีใครเห็นคืออะไร?,แก้มบุ๋ม คือเขาเป็นคนดีก็ได้ คือเราเห็นเขาเป็นคนปาร์ตี้ สังคมจ๋า เที่ยวแบบ 7 โมงเช้า เราก็เลยคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ เพราะเราเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่มเลย แต่พอมาตอนนี้เขาก็ดีขึ้น,ตั้งแต่คบกันได้เที่ยวบ้างไหม?,ขุน ประมาณ 9 เดือนละไม่ได้ออกไปไหนเลย เลี้ยงแต่หมาอย่างเดียวเลย,แก้มบุ๋ม เราไม่ได้แบบว่าห้ามไปนะ แต่เขาไม่ไปเอง,ขุน คือเคยเจอไหม ถ้ากลับหลังเที่ยงคืนหยอดกระปุกห้าพัน เราเลยถามว่าถ้ากลับเช้าเลยล่ะ เขาเลยบอกว่า งั้นไม่ต้องกลับละนะ,ดูเหมือนปล่อย แต่บังคับด้วยเงิน?,แก้มบุ๋ม ไม่ได้บังคับ คือกระปุกทำอย่างดี ทำลายไม่ได้ ทำหล่นแตกและทำลายไม่ได้,มีบางคนที่คิดว่าขุนเป็นเกย์?,ขุน ไม่รู้เหมือนกัน ผมอาจจะอยู่กับรายการที่มีผู้หญิเยอะๆ หรือเปล่า,แล้วรู้ตอนไหนว่าเขาไม่ใช่เกย์?,แก้มบุ๋ม พอคุยไปสักพักก็รู้ ก็ดูแมนๆ หน่อย คือครั้งแรกที่ไปกินข้าวด้วยกันเราก็ขับไปเอง แต่ดันเกิดอุบัติเหตุรถโดนชนตูด แล้วเขาก็มารับ-ส่ง ประมาณเดือนครึ่งที่ซ่อมรถ,จีบกันนานไหมกว่าจะตกลงเป็นแฟนกัน?,ขุน เป็นเดือนๆ เหมือนกัน ซึ่งหลังๆ ที่ไปรับ-ส่งเขาก็ได้เจอพ่อแม่บ่อยขึ้น ก็เริ่มสนิทกัน,มีข่าวว่าแก้มบุ๋มพ่อหวง?,แก้มบุ๋ม คือเขาเข้าหาผู้ใหญ่เก่ง เขาพูดเก่ง,นอกเหนือจากเข้ากับผู้ใหญ่ได้อะไรที่ทำให้ชนะใจแก้มบุ๋ม?,แก้มบุ๋ม อย่างที่บอกตอนแรกเรามองเขาด้านลบหมดเลย แบบเจ้าชู้แน่ๆ เสือผู้หญิง ทุกคนพูดเข้าหูเราเยอะมาก แต่สิ่งที่เราเจอเขาไม่ใช่แบบนั้น เขาสามารถปรับตัวเองได้ เชื่อไหมว่าเขาวาดรูปได้ ทำกับข้าวได้ มีมุมน่ารัก ขี้อ้อน ซึ่งมันเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นนอกจากเรา,ขี้หึงกันไหม?,ขุน ผมอะหึงเขา แต่เขาไม่หึงผม เพราะผมเป็นคนเรียบร้อย,บางคนเข้าใจว่าเราเป็นเด็กของคุณเต้?,ขุน ก็พาเขาไปหามาแล้ว เข้าใจก็สนิทกัน เพราะว่าเราถ่ายซีรีส์และรายการด้วยกัน ก็เลยสนิทกันนี่ปีที่ 3 แล้ว ก็อยู่ด้วยกันและอยู่กลุ่มเดียวกันด้วย,สนิทกับคุณเต้ในฐานะอะไร?,ขุน เป็นแม่ เป็นเพื่อน เป็นพี่,โมเมนต์ขอเป็นแฟน?,ขุน มันง่ายมากเลย ก็พูดกับเขาตรงๆ ในรถว่า ขออนุญาตเป็นแฟนนะ จะดูแลอย่างดีเลย คบกันวันที่ 9 เดือน 9,พอข่าวออกไปกลัวคนคิดเป็นคู่จิ้นโปรโมตละครหรือเปล่า?,ขุน ผมไม่ได้คิดเลย แต่ไม่ต้องโปรโมตหรอก ละครดังอยู่แล้ว,คบมา 9 เดือน ทะเลาะกันบ้างไหม?,แก้มบุ๋ม ทะเลาะค่ะ ทั้งเรื่องขับรถเร็ว ดริ๊งค์กับเพื่อน ห้ามก็ไม่ฟัง นอนตื่นสาย เยอะแยะ,ขุน หลังจากบวชมาก็เรียบร้อยขึ้น,แก้มบุ๋ม ใช่เหรอ คือตั้งแต่คบกัน 9 เดือนเฟซไทม์คุยกันตลอด เห็นหมดว่าเขาทำอะไร,สิ่งที่หวานที่สุดที่ขุนทำให้คืออะไร?,แก้มบุ๋ม เขาวาดภาพให้ตอนวันเกิด เป็นภาพสีน้ำมัน ตอนนี้รูปก็อยู่บนหัวเตียง,แล้วแก้มบุ๋มทำอะไรให้เรา?,ขุน เขาก็เขียนการ์ดให้ทุกวันที่ 9,ครบเดือนจัดเซอร์ไพรส์ล่องเรือยอร์ช?,ขุน วันนั้นก็อยากให้เขาไป ไปเจอพี่ๆ เพื่อนๆ เราด้วย,แก้มบุ๋ม วันนั้นรู้ว่าเขาจะพาไป แต่วันนั้นเป็นประจำเดือนด้วย,เห็นว่าผู้ใหญ่สองฝั่งเจอกันแล้ว?,ขุน ใช่ครับ,แก้มบุ๋ม คือแม่บุ๋มเป็นคนพูดเก่ง พ่อขุนก็พูดเก่ง เราคิดในใจอย่าทะเลาะกันนะ พ่อขุนจะแนววิชาการ ส่วนแม่บุ๋มไสยศาสตร์ ตลกดีค่ะ | แก้มบุ๋ม ปรียาดา ควงหวานใจหนุ่ม ขุน ชานนท์ เคลียร์ข่าวรักสร้างกระแส | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แก้มบุ๋ม ปรียาดา,ขุน ชานนท์,แก้มบุ๋ม ขุน,แก้มบุ๋ม ขุน แฟน,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1314014 |
เพื่อไทยเตรียมหารือลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระที่ 3 วันที่ 5 มิ.ย.นี้ | นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่า วันที่ 5 มิ.ย.นี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะหารือเพื่อทำความเข้าใจกรณีการพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอเอาไว้ ซึ่งประธานรัฐสภาอาจจะเรียกประชุมพิจารณาลงมติในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ รวมถึงนำข้อสรุปที่ได้จากการลงพื้นที่ของ ส.ส. หลังได้ชี้แจงประชาชนถึง ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ มาหารือกัน เพื่อหาแนวทางการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ทีมกฏหมายของพรรคเพื่อไทยได้เตรียมข้อมูลร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการปราศรัยของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการกล่าวหาบนเวทีปราศรัย รวมถึงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ตัวแทนฝ่ายค้านเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ คณะรัฐมนตรีเร่งรัดออกพระราชกฤษฎีการปิดสมัยประชุมสภา โดยไม่เห็นด้วยกับการที่ประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมสภาเพื่อพิจารณาวาระใดๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นการเปิดช่องให้มีการนำเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือนำ พ.ร.บ. ปรองดอง มาพิจารณาอีก | พรรคเพื่อไทย เตรียมหารือแนวทางการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนุญวาระที่ 3 ภายหลังสมาชิกพรรคหลายคนเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจสั่งระงับการลงติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่วิปฝ่ายค้าน ก็จะยื่นหนังสือต่อรัฐบาล ขอให้คณะรัฐมนตรี มีมติเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ | การเมือง | ฝ่ายค้าน,พ.ร.บ.ปรองดอง,ยุบพรรค,เพื่อไทย,แก้รัฐธรรมนูญ | https://news.thaipbs.or.th/content/89167 |
ผงะ ศพหนุ่มสักเต็มอกถูกยิงฝังสวนยางพัทลุง คาดถูกฆ่าจากที่อื่น | เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. 58 พ.ต.ต.เกล้า พลนุ้ย พนักงานสอบสวน สภ.กงหรา จ.พัทลุง ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า พบศพชายฝังดินในสวนยางพารา บ้านช่องไอ้เร็ด ท้องที่หมู่ที่ 1 ต.กงหรา อ.กงหรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร ศรีนวล ผกก.สภ.กงหรา พ.ต.ท.ฉัตรชัย สุระวิโรจน์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.นิกร ปานแก้ว รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.ถาวร แก้วละเอียด พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กำลังตำรวจ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร รพ.กงหรา,ที่เกิดเหตุบริเวณสวนยางพาราปลูกใหม่ของ นายว่อง ชูสงค์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.กงหรา อ.กงหรา ห่างจากถนนสายสมหวัง-บ้านไสแตร ประมาณ 500 เมตร พบศพชายนิรนามอายุประมาณ 20-30 ปี ถูกฆ่าฝังดิน โดยมือและเท้าโผล่ขึ้นพ้นดิน ขุดขึ้นมาพบว่าสภาพคล้ายถูกยิงที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ลำตัว 1 นัด ตามลำตัวก็มีรอยสักเต็มหน้าอก ส่วนขาทั้ง 2 ข้าง มีรอยสักรูปผู้หญิง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-15 วัน เบื้องต้นไม่มีใครรู้จักผู้ตาย จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อไป,จากการสอบสวนขั้นต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเกษม หนูสุด อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.4 ต.กงหรา อ.กงหรา ขี่รถจักรยานยนต์ไปขึ้นสะตอในสวนยางพาราของตัวเอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นเน่า ลงไปดูก็พบศพถูกฝังในสวนยางพารา นายว่อง จึงแจ้งตำรวจ,พ.ต.อ.สุมิตร กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วนำศพมาฝังเพื่ออำพรางคดี ส่วนคนในพื้นที่เกิดเหตุหรือคนในพื้นที่ใกล้เคียงจะมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวหรือไม่ จะเร่งสืบสวนสอบสวนต่อไป และหากใครสงสัยว่ามีญาติลักษณะดังกล่าว สามารถมาดูภาพถ่ายผู้ตายได้ที่พนักงานสอบสวน สภ.กงหรา. | หนุ่มพัทลุง ขี่ จยย.ผ่านสวนยางได้กลิ่นเหม็นเน่า ลงไปดูพบศพถูกฝังขาโผล่จากดิน จนท.ขุดขึ้นมาตรวจสอบ เป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี สักเต็มหน้าอก-ขามีรอยสักรูปผู้หญิง มีบาดแผลถูกยิงหัว ตร.กงหรา คาด ถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำมาฝังอำพราง | null | ศพนิรนาม,ฆาตกรรม,อำพรางศพ,สุมิตร ศรีนวล,ฝังศพสวนยาง,ศพในสวนยาง,ฆ่าอำพราง,ฆ่าฝังดิน,อ.กงหรา,พัทลุง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/553207 |
ยำตำรวจหั่นดอกไม้และกระบอง 24/09/60 | โอม อมฤต เข้าเวรคอลัมน์ ยำตำรวจ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.2560,ใกล้วันเกษียณอายุราชการเข้าไปทุกขณะ 30 ก.ย.นี้เป็นวันสุดท้ายที่จะรับราชการ หัวโขนที่สวมอยู่ก็ต้องถอดออกเป็นราษฎรเต็มขั้น สีกากีบางคนจากไปท่ามกลางความเสียดายของเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และประชาชน แต่อีกหลายคนก็เกษียณไปอย่างเงียบๆ คนหนึ่งละที่ต้องถอดเครื่องแบบแต่ผลงานยังติดใจคนเมืองหลวงก็คือ พล.ต.ท.ศานิตย์,มหถาวร ผบช.น.นรต.34 บุคลิกขยันขันแข็งไปทุกที่ที่มีเหตุร้าย จี้ติดคดีสำคัญๆจนคลี่คลายไปได้หลายคดี สองปีบนเก้าอี้ชาวบ้านคงเสียดายไม่ได้เห็นหน้าทางจอทีวีอีก แต่คนที่จะมาแทนในตำแหน่ง ผบช.น.ไม่ใช่อื่นไกล พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช นรต.35 สนิท นรต.36 ฉายา บิ๊กหยม คนพูดน้อยต่อยหนัก บุคลิกไปอีกแบบ ต้องรอดูกันที่ผลงานจะเข้าตาหรือไม่,กรำศึกงานข่าวกันมาตั้งแต่ยศ ร.ต.ต.ยัน พล.ต.อ.เกษียณอายุราชการ 3 ท่าน พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ บุคลากรสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครองตัวครองตน ฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามตลอดชีวิตรับราชการมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ นายตำรวจรุ่นลูกรุ่นหลานสมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกคนไต่เต้าจากร้อยเวรโรงพักจนเกษียณที่พลตำรวจเอกครับท่าน,รายนี้ยังแข็งโป๊กจะไปเกษียณเอาปี 2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นรต.36 ลูกน้องคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปราชการงานเมืองที่ประเทศอังกฤษ 1 สัปดาห์กลับมาแล้ว ก่อนไปถูกเป็นเป้า เกาเหลา กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.มั่นคง นรต.35 ขั้วบิ๊กอีกขั้ว มูลเหตุจากคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ เลยกอดกันโชว์สื่อว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่คลื่นใต้น้ำดูเหมือนยังไม่หมด กระแสข่าวปิดกันวุ่นอาจมีภาคสองห้ามกะพริบตา,สุดอำมหิตโจรใต้กลุ่มแนวร่วมอาร์เคเควางระเบิดลวงเจ้าหน้าที่ถึง 3 ลูกซ้อน ส่งผลให้ จนท.เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 26 นาย ในจำนวนนี้สาหัส 9 ราย สดุดีวีรกรรมของ ส.ต.ธเนศ พุทโธ ทหารพรานสังกัด ฉก.ทพ.47 คนนครสวรรค์ และ ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ ตำรวจ EOD ชุดวินิจ ศปก.ตร.ภาค 9 เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ปัญหาเรื้อรังขวานทองของไทยคงไม่จบสิ้นง่ายๆ งานหนักสาหัสของ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ นรต.36 ว่าที่ ผบช.ภ.9 คนใหม่,ชาวประชาในท้องที่หนองแขมชื่นชมการทำงานของ พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี นรต.51 ผกก.สน.หนองแขม คนหนุ่มไฟแรง ฟิตปั๋ง ดึกดื่นเที่ยงคืนยังตรวจท้องที่กับลูกน้อง ที่น่าชื่นชมกรณีโรงงานรองเท้าที่ถูกเพลิงไหม้ตอนกลางวันพอตกกลางคืนยังไปดูแลไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำ หัวหน้าหน่วยต้องเป็นเช่นนี้ ยินดีกับ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 ได้รับเลือกเป็นตำรวจประพฤติปฏิบัติตนดีเยี่ยมตามจริยธรรมและจรรยาบรรณของ ตร.ประจำปี 2560,อยากเขียนถึง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.บร.นรต.34 สุภาพบุรุษนายตำรวจ อีกคนที่ประชาชนพึ่งพิงได้ แม่บ้านใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ประชุมงาน,ทั้งวันไม่รู้กี่คณะเช้ายันค่ำล้วนเรื่องใหญ่ๆทั้งสิ้น เจ้าตัวอดีตนักกีฬาโรงเรียนนายร้อยตำรวจแข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ บอกเมื่อมีโอกาสแล้วพร้อมทำงาน บุคลิกสุภาพเรียบร้อยแต่มันสมองชั้นเลิศครับ.,โอม อมฤต | ใกล้วันเกษียณอายุราชการเข้าไปทุกขณะ 30 ก.ย.นี้เป็นวันสุดท้ายที่จะรับราชการ หัวโขนที่สวมอยู่ก็ต้องถอดออกเป็นราษฎรเต็มขั้น สีกากีบางคนจากไปท่ามกลางความเสียดายของเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และประชาชน | null | ศานิตย์ มหถาวร,ราชการ,เกษียณอายุราชการ,ยำตำรวจหั่นดอกไม้และกระบอง,โอม อมฤต | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1078520 |
ชุดทดสอบ ส.ว่ายน้ำ เตรียมส่งนักกีฬา ลุยศึกที่อินเดีย | สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยเตรียมส่งนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำ เอเชียนเอจกรุ๊ป แชมเปียนชิป 2019 ครั้งที่ 10 ที่เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 22-29 ก.ย. ตั้งเป้ามีเหรียญทองกลับมาให้แฟนว่ายน้ำชาวไทยได้ชื่นชม,บิ๊กบี้ พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ กล่าวว่า นักกีฬาที่เราส่งไปแข่งขันรายการนี้ได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ในช่วงปลายปีนี้ การแข่งขันในระดับเอเชียจึงเป็นบททดสอบที่ดีโดยเฉพาะการแข่งขัน เอเชียนเอจกรุ๊ป แชมเปียนชิป 2019 ในครั้งนี้สถานที่แข่งขันอยู่ในระดับที่สูงมากความกดอากาศน่าจะส่งผลต่อการทำเวลาของนักกีฬา แต่ด้วยการฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักเชื่อว่าเราจะผ่านไปได้,สำหรับนักกีฬาชุดนี้ได้ทำการคัดเลือกมาจากชมรมสมาชิก 19 ชมรม ภายใต้การดูแลของ พล.ต.ดร.ธนนท์ แสงนาค ซึ่งได้มีการทดสอบความฟิตและความเร็วด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา จึงมีความมั่นใจว่านักกีฬาชุดนี้มีความพร้อมกับการแข่งขันระดับเอเชียรายการนี้,อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ กล่าวถึงเป้าหมายในการแข่งขันครั้งนี้ว่า ทางสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯให้ความสำคัญและความสนใจเป็นพิเศษกับการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬากับนักกีฬาทางน้ำทุกประเภทโดยเริ่มตั้งแต่การคัดตัวทางกายภาพ การฝึกกล้ามเนื้อของนักกีฬาแต่ละชนิด รวมไปถึงเรื่องโภชนาการ รวมถึงระมัดระวังเรื่องการใช้สารกระตุ้นและสารต้องห้าม โดยกำชับให้ผู้ฝึกสอนดูแลเป็นพิเศษ รายการนี้สมาคมตั้งเป้าและคาดหวังว่าจะมีเหรียญทองติดมือ | สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยเตรียมส่งนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำ เอเชียนเอจกรุ๊ป แชมเปียนชิป 2019 ที่ประเทศอิเดีย | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย,ซีเกมส์ ครั้งที่ 30,เอเชียนเอจกรุ๊ป แชมเปียนชิป 2019,เหรียญทอง,อินเดีย | https://www.thairath.co.th/sport/others/1662251 |
แท้ง-ท้อง ยังไม่มี ทางเลือก ให้ผู้หญิงในกฎหมายและศีลธรรม | ทำไมกฎหมายและศีลธรรมไม่มีทางเลือกให้ผู้หญิง ทำไมการทำแท้งจึงผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม เมื่อผู้ต้องแบกรับทุกสิ่งอย่างจากการตั้งครรภ์หรือทำแท้งคือผู้หญิงไม่มีผู้หญิงคนไหนตั้งใจท้องเพื่อไปทำแท้ง เป็นคำพูดที่ประมาณการได้ว่าจริงมากกว่าเท็จ การเลือกที่จะยุติชีวิตในครรภ์จึงไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินได้ง่ายตรงนี้มี 2 คำที่เป็นคู่โต้แย้งกันมานมนานในประเด็นการทำแท้ง-การเลือกและชีวิตฟากฝั่งหนึ่งเชื่อว่าการทำแท้งคือการทำลายชีวิต การทำลายชีวิตคือบาปและผิดศีลธรรม คนกลุ่มนี้จึงไม่อาจยอมรับให้มีการทำแท้งได้ คำถามว่าชีวิตเริ่มต้นที่ใดจึงมีความสำคัญต่อประเด็นนี้ เพราะแม้ว่าในทางกฎหมายจะชัดเจนว่าความเป็นบุคคลเริ่มต้นเมื่อคลอดและมีชีวิตอยู่ นั่นก็ใช่ว่านิยามทางกฎหมายจะเป็นนิยามเดียวที่สังคมยอมรับ ในมิติของศาสนาและศีลธรรมชีวิตเริ่มต้นแล้วตั้งแต่ปฏิสนธิอีกฟากหนึ่งเชื่อว่าผู้หญิงควรมีสิทธิที่จะเลือกกำหนดชีวิตของตน ควรมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตน คนอื่นหรือศีลธรรมไม่ควรก้าวก่ายหรือบอกว่าอะไรเลือกได้หรือไม่ได้ เนื่องจากบริบทในชีวิตของปัจเจกไม่เหมือนกัน การใช้ชุดความเชื่อมาตัดสินชีวิตคนอื่นอาจจบลงเป็นความรุนแรงชนิดหนึ่งที่กดทับลงมาบนตัวผู้หญิงการทำแท้งในสังคมไทยจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน (อันที่จริง ทุกสังคมก็ละเอียดอ่อนต่อเรื่องนี้เกือบทั้งนั้น) รายงานชิ้นนี้มุ่งตั้ง 2 คำถามว่าการทำแท้งผิดกฎหมายหรือไม่และผิดบาปหรือไม่ เมื่อกฎหมายและศีลธรรมทางศาสนาคือสองแกนหลักที่ควบคุมชีวิตของเรา ความลำเอียงที่ซ่อนอยู่หลังม่านต่างหากที่ทำให้ศีลธรรมและกฎหมายปิดทางเลือกของผู้หญิงถ้ามองการทำแท้งผ่านแว่นพุทธศาสนา ไม่เหลือที่ว่างให้ถกเถียงเลยว่าบาปหรือไม่ ศาสนาพุทธเชื่อว่าชีวิตเกิดขึ้นเมื่อมีการปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ว่ากันตามบรรทัดฐานนี้ หากมีการตั้งครรภ์ขึ้น ไม่ว่าอายุครรภ์จะแค่ 1 วันหรือ 3 เดือน การทำแท้งผิดศีลปาณาติบาตเสมอเพราะชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วไม่มีทางแยกบนถนนของความบาปต่อเรื่องนี้ สถานการณ์ย่ำแย่งลงไปอีกเมื่อศีลธรรมเปลี่ยนสภาพเป็นตราบาปสำหรับผู้หญิงที่ทำแท้ง (ใช่ ผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงต้องทำแท้งบริสุทธิ์จากบาปโดยสิ้นเชิง) อย่างไรก็ตาม ศีลธรรมทางศาสนาไม่ได้อยู่ตามลำพัง มันจึงปะทะกับหลักการเสรีภาพของบุคคล พระชาย วรธัมโม นักบวชในพุทธศาสนาและเป็นผู้ที่สนใจประเด็นเรื่องเพศและสิทธิทางเพศ เสนอว่าบาปหรือไม่บาปเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องตัดสินใจ ไม่ใช่เรื่องของคนนอกเมื่อปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อมีการยุติก็คือการทำให้ชีวิตนั้นไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป คำถามคือมันบาปมั้ย เราว่าบาปหรือไม่บาปก็ไม่สร้างความรุนแรงให้กับตัวความรู้สึกของผู้หญิงเองที่ตั้งท้องและทำแท้ง อันนี้เป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากกว่าเรื่องบาป คำว่าบาปที่พูดกัน ส่วนใหญ่เป็นการพูดจากคนที่ไม่ได้ตั้งท้องและไม่ได้ทำแท้งเอง คำว่าบาปจึงเกิดจากคนนอก เพราะฉะนั้นเวลาพูดว่าการทำแท้งมันมีแง่มุมของการประณามและตีตราเรามองว่าการทำแท้งควรเป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้ตั้งท้องมากกว่า ว่าเขามีมุมมองต่อชีวิตที่จะเกิดขึ้นมาอย่างไร ถ้าเขาไม่พร้อม มันควรเป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ แล้วคนภายนอกไม่มีสิทธิประณาม คิดแทน หรือบอกว่าบาป จะบาปหรือไม่ควรเป็นสิทธิของคนคนนั้นที่จะนิยามตัวเขาเองมากกว่าพระชายกล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่ชอบคิดแทนคนอื่นและไม่ได้มองบริบทรอบตัวของคนที่ต้องตกระกำลำบากว่าต้องเผชิญอะไรและอย่างไร หากใช้โยนิโสมนสิการเข้าไปตรวจสอบบริบทรอบตัวของผู้ที่ทำแท้ง จะช่วยให้เห็นว่าไม่ควรคิดแทนและเปิดโอกาสให้เจ้าของชีวิตคิดและตัดสินชีวิตของตนเองคนที่ตั้งท้องบางคนก็ไม่พร้อมที่จะให้กำเนิด แล้วจะเลี้ยงเด็กให้มีคุณภาพได้อย่างไร แม้ว่าศาสนาจะบอกว่าเป็นบาปก็ตาม แต่สุดท้ายควรเป็นเรื่องของคนคนนั้นที่จะตัดสินใจกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญมากกว่าที่จะให้คนอื่นชี้นำเขาด้าน วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ ยอมรับว่าตนเคยผ่านประสบการณ์การทำแท้งและยอมรับด้วยว่าศาสนาหรือความเชื่อทางศีลธรรมไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทั้งก่อนและหลังแต่ก็ไม่ปฏิเสธอิทธิพลของคำสอน การตีความทางศาสนา และความเชื่อที่ครอบคลุมสังคมอยู่ ส่วนตัวคิดว่ามีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ทำแท้งแล้วไม่รู้สึกผิดบาปและรู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่ดีแล้วที่ตัดสินใจทำแท้ง เพียงแต่ว่าเราไม่ค่อยมีพื้นที่พูดในสังคมมากนักเพราะมีโอกาสที่จะถูกตีตราซ้ำซ้อนว่าไปทำแท้งก็แย่แล้ว แล้วยังไม่สำนึกผิดอีกอย่างไรก็ตาม วราภรณ์ย้ำว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกผิดบาปจากการทำแท้งก็ไม่ใช่เรื่องล้าหลังแต่อย่างใด เนื่องจากอิทธิพลของศาสนาและความเชื่อแทรกซึมอยู่ในชีวิต เธอเสนอทางเลือกว่าส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลสำหรับคนที่จะประกอบพิธีกรรมเพื่อคลี่คลายสิ่งที่ติดอยู่ในใจ ขบวนการของเราจะมีส่วนในการคิดสร้างสรรค์พิธีกรรมแบบสตรีนิยมที่จะคลี่คลายปมในใจ เพื่อให้มีวิธีแก้กรรมแบบทางเลือกที่ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่แสวงหาประโยชน์ด้วยเงิน และไม่ซ้ำเติมให้ผู้หญิงรู้สึกผิดอย่างไรต่างหากสังคมรู้สึกว่าการทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่การที่มันผิดกฎหมายก็เพราะความคิดอนุรักษ์นิยมที่แข็งแรงในช่วงที่เขียนกฎหมายนี้ขึ้นรศ.ดร.ปกป้อง ศรีสนิท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่าปัจจุบันมีกำหนดความผิดเกี่ยวกับการทำแท้งในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301-305 ซึ่งมีจุดกำเนิดตั้งแต่ปี 2500 ซึ่งคนในยุคนั้นมีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม มองว่าการทำแท้งเป็นบาปและผิดศีลธรรม กฎหมายจึงห้ามทำแท้งทุกกรณี ยกเว้นไว้เพียง 2 กรณีคือเหตุจำเป็นด้านสุขภาพของฝ่ายหญิงหรือถูกข่มขืน เมื่อถึงปี 2548 มีการขยายกรอบออกไป โดยทางแพทยสภาออกข้อกำหนดว่าให้รวมเอาความจำเป็นด้านสุขภาพจิตด้วย แต่ต้องผ่านกฎเกณฑ์ของแพทยสภา ทำให้เห็นว่ากฎหมายเปิดช่องไว้น้อยมากและไม่เคยให้สิทธิแก่ผู้หญิงในการตัดสินใจปี 2500 ยังไม่มีนักกฎหมายผู้หญิงสักคน การทำแท้งจึงมีความผิด ข่มขืนชำเราก็ยอมความได้ ไม่ร้องทุกข์ ไม่เอาเรื่อง ก็ไม่มีการเอาผิดปกป้องยกตัวอย่างฝรั่งเศสที่มีการถกเถียงเรื่องนี้กระทั่งตกผลึกเป็นกฎหมายที่ประนีประนอมกันระหว่างฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม เขากล่าวว่า ในอดีต การทำแท้งในฝรั่งเศสมีโทษถึงประหารอันเป็นอิทธิพลจากศาสนาที่มองว่า การเกิดและตายเป็นเรื่องของพระเจ้า มนุษย์ไม่มีสิทธิก้าวล่วง แต่แล้วก็เกิดขบวนการเรียกร้องเพื่อให้เกิดการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายฝ่ายอนุรักษ์นิยมบอกว่าเป็นสิทธิของเด็กที่จะเกิด ฝั่งเสรีนิยมบอกว่าเป็นสิทธิของผู้หญิงที่จะตัดสินใจกับร่างกายตัวเอง เมื่อสองแนวคิดมาปะทะกัน จนในที่สุดตกลงกันได้ว่าช่วงอายุครรภ์สามเดือนเป็นสิทธิของผู้หญิงที่จะเก็บหรือทำแท้ง ถ้าเกินสามเดือนถือเป็นสิทธิของเด็กที่จะมีชีวิตดังนั้น ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ผู้หญิงฝรั่งเศสสามารถทำแท้งได้โดยไม่มีความผิด เดินเข้าไปหาหมอได้ทุกตำบล ทุกคลินิก สวัสดิการออกค่าบริการให้ฟรี สามารถยุติการตั้งครรภ์โดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วใครที่ขัดขวางสิทธิของหญิงที่จะทำแท้งย่อมถูกลงโทษ เพราะเป็นสิทธิแล้ว ละเมิดสิทธิไม่ได้ มีสวัสดิการสังคมเข้าไปช่วย มีบริการทางการแพทย์คอยให้การปรึกษาปกป้องอธิบายว่า ศีลธรรมกับกฎหมายต้องแยกจากกัน การทำผิดกฎหมายเพราะการกระทำนั้นกระทบคนอื่นและสังคม ขณะที่การทำผิดศีลธรรมอาจไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การทำแท้งอธิบายด้านศีลธรรมไม่ได้ ต้องอธิบายว่ามันกระทบความสงบของสังคมหรือไม่ ถ้าไม่ การทำแท้งก็ไม่ต้องเป็นความผิดและจะช่วยให้ผู้หญิงไม่ต้องบาดเจ็บ 80000 คนต่อปีจากการทำแท้งแบบหลบๆ ซ่อนๆเรื่องนี้กฎหมายต้องชัดเจน แต่ปัจจุบันคลุมเครือมาก สิ่งที่สนับสนุนให้เกิดทางเลือกของผู้หญิงได้คือความเสมอภาคที่รับรองในรัฐธรรมนูญ กฎหมายปัจจุบันไม่เสมอภาคอย่างไร เวลาญทำแท้ง กฎหมายลงโทษฝ่ายหญิง ไม่ลงโทษฝ่ายชายที่ทำให้ท้องเลย มันจึงเป็นกฎหมายที่ไม่เสมอภาคผิดบาปหรือไม่? ผิดกฎหมายหรือไม่? ทำไมผู้หญิงไม่มีสิทธิกำหนด? | ทำไมกฎหมายและศีลธรรมไม่มีทางเลือกให้ผู้หญิง ทำไมการทำแท้งจึงผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม เมื่อผู้ต้องแบกรับทุกสิ่งอย่างจากการตั้งครรภ์หรือทำแท้งคือผู้หญิง ไม่มีผู้หญิงคนไหนตั้งใจท้องเพื่อไปทำแท้ง | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม | กฎหมาย,การทำแท้ง,การยุติการตั้งครรภ์,ปกป้อง ศรีสนิท,พระชาย วรธัมโม,วราภรณ์ แช่มสนิท,ศีลธรรม | https://prachatai.com/journal/2017/11/74086 |
ปลัดฯย้าย สารวัตรกำนันกับส.อบต.ไปส่ง ปิกอัพประสานงา ตาย2 | เวลา 18.00 น.วันที่12พ.ค. ร.ต.อ.อนิวัฒน์ สุบงกช รอง สว.สอบสวน สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักชนกันบนถนนสาย 333 ด่านช้าง-บ้านไร่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถหลายราย ,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิ แอล 200 สีแดง หมายเลขทะเบียน บย 6572 สุพรรณบุรี สภาพหน้ารถพังยับเยินชนติดอยู่กับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บว1288 สุพรรณบุรี สภาพด้านข้างฝั่งซ้ายของคนขับถูกชนจนเละ ตรวจสอบภายในซากรถ พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอัดติดในรถ หน่วยกู้ชีพ รพ.ด่านช้าง และมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี นำอุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าช่วยเหลือ นำส่ง รพ.ด่านช้าง 3 ราย,ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ มี นายมั่นคง จันทร์เสน อายุ21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.11 ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี คนขับรถกระบะมิตซูบิชิ นายสุจินต์ ชาวบางพรม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/1 ม.2 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และนายพีรพงษ์ ไทยงามศิลป์ อายุ 59 ปี สารวัตรกำนัน อยู่บ้านเลขที่ 332 ม.5 ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง แต่นายพีรพงษ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา,นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 รายติดอยู่ในรถ ทราบชื่อนายจิรวัฒน์ ชาวโพธิ์สระ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.3 ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นสมาชิก อบต.ใน อ.สองพี่น้อง ,จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุนายมั่นคง กำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากมาทำธุระที่เทศบาลตำบลด่านช้าง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุฝนตกหนัก รถอีซูซุ ที่ผู้ตายนั่งมา กลับจากเดินทางไปส่งปลัดอำเภอ ที่ย้ายจาก อ.สองพี่น้อง ไปรับตำแหน่งที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รถได้เสียหลักพุ่งข้ามฝั่งมาชนกันอย่างจัง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป | สารวัตรกำนัน นั่งรถร่วมคันมากับสมาชิกอบต. หลังไปส่งปลัดอำเภอ ย้ายจากอ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี ไปอ.บ้านไร่ อุทัยธานี ขากลับถึงด่านช้าง ชนกับรถปิกอัพ ตาย 2 เจ็บ2 | ข่าว,ทั่วไทย | ชน2ศพ,ชนสารวัตรกำนัน,ไปส่งปลัด ตาย2,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1566303 |
เบ บอล ขอบคุณ เจนนี่ ให้เอาเพลงไปร้องหากินฟรี ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ | หลังจากที่นักร้องหนุ่ม เบ บอล อดีตนักร้องในค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ขอเดินออกมาจากค่าย เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว พร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีปัญหากับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น อย่างแน่นอนล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายไปสัมภาษณ์นักร้องหนุ่มเบ บอล หลังจากที่ออกจากค่ายมา เจอดราม่าเหมือน เปา กิ่งกาญจน์ และ อั๋น ปาลิตา หรือไม่ เพราะ 2 สาวนั้น ถูกชาวเน็ตเข้ามาแฉ และตามจับผิดตลอด ซึ่งหนุ่มเบ บอลก็ได้เปิดใจบอกว่ากับเรื่องเจอคนเข้ามาดราม่า หรือแฉ ไม่มีนะครับ มีแต่มาให้กำลังใจสู้ๆ นะและบอกว่าออกมาดีแล้ว และก็อย่าลืมบุญคุณพี่เขานะ ซึ่งผมก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมออกจากค่ายพี่เจนมาด้วยเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้มีปัญหากับพี่เจนเลยได้คุยกับเปามั้ย เพราะตอนนี้เขาก็เจอคนแซะและคอยจับผิดตลอด? กับพี่เปาแรกๆ ได้คุยกันครับ ตอนนี้พี่เขางานเยอะ เลยไม่ค่อยได้คุยกันเลยหลังออกมาได้คุยกับเจนนี่บ้างมั้ย? มีโทรไปปรึกษาพี่เจนว่าเพลงของตัวผมตอนที่อยู่ค่ายเพลงเจนเอามาร้องได้มั้ย พี่เจนบอกว่าเพลงค่ายพี่ร้องได้หมด แต่เป็นพิมพ์ไลน์คุยกัน แต่ผมเปลี่ยนโทรศัพท์แล้วลืมแบ็กอัปข้อมูลไว้ มันหายหมดเลยครับ(เขาบอกว่าอย่างไร) พี่เจนบอกเอาไปร้องได้ ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ (เขาไม่เก็บ แต่ส่วนตัวคิดว่าจะจ่ายให้มั้ยเป็นค่าตอบแทนความมีน้ำใจของเขา) ถ้าเอาไปร้อง ผมก็จะจ่ายถ้างานมันมีเยอะตอนนี้มีงานร้องเพลงเยอะมั้ย? มีมาบ้างครับ เป็นของเดือนหน้า 2 งานครับรายได้โอเคมั้ยตอนนี้? โอเคนะครับ เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัวได้ ถามว่าภูมิใจในตัวเองมั้ย ภูมิใจครับ แต่ที่ได้จับเงินแสนแบบนี้ก็เพราะพี่เจนด้วย มีคนมาติดตามผมจากรายการของพี่เจน ภูมิใจไม่เท่าไร เพราะเรามีวันนี้ได้ก็ไม่ใช่เพราะตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ครับคนมองว่าเหมือนเราออกมาเกาะกระแสเจนนี่ดังจนมีงานเข้ามา? ผมก็น้อยใจนะครับ นักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมก็พูดไปตามความจริง ผมก็ไม่ได้เกาะกระแสพี่เขานะอยากบอกอะไรกับเจนนี่บ้างมั้ย? ก็ขอบคุณพี่เจนมากๆ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ที่ทำให้ผมมีงานรีวิว มีเงิน ถึงแม้จะออกจากค่ายพี่แต่น้องคนนี้ก็ยังรักและเคารพพี่เสมอ ผมออกมาเพราะมีเหตุผลของตัวเอง ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เป็นอย่างไร แต่ขอให้พี่สู้ๆ สู้ต่อไป และประสบผลสำเร็จต่อไปนะครับถ้ามีโอกาสอยากจะกลับไปร่วมงานกับค่ายได้หมดถ้าสดชื่นอีกมั้ย? ถ้ามีโอกาสจริงๆ ก็อยากกลับไปอยู่ แต่ผมออกมาและเป็นข่าวขนาดนี้ ก็คงไม่ได้แล้วแหละครับ แต่ถ้าจะได้ร้องเพลงร่วมเวทีเดียวกัน ผมก็อยากอยู่ครับ | เบ บอล ขอบคุณ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น อนุญาตให้เอาเพลงไปร้องหากินได้ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เบ บอล,เบ บอล ได้หมดถ้าสดชื่น,เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น,ค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น,เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ดราม่า,ข่าวบันเทิง,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1913773 |
ดักปลาได้งู ไอ้หลามหนัก 20 กก. ตายายเชื่อลูกหลานพญานาคมาให้โชค | วานนี้ (25 ต.ค.62) นายยอดชาย เล็งไธสงค์ อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ว่ามีชาวบ้านขอความช่วยเหลือ จับงูหลามขนาดใหญ่ติดลอบดักปลา ที่คลองน้ำชลประทาน หลังวัดป่าบ้านเลื่อม ต.บ้านเลื่อม จึงไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบงูหลามขนาดใหญ่ นอนอยู่ในลอบดักปลา ภายในลอบพบปลาบู่ 3 ตัว อาสากู้ภัยจึงนำงูออกมา วัดความยาวประมาณ 3.5 เมตร น้ำหนัก 20 กก. อาสากู้ภัยจึงจับใส่รถปิกอัพ เพื่อไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป,สอบถาม นายจร นันทโพธิ์เดช อายุ 72 ปี ชาว จ.อุดรธานี เล่าว่า ตนมีอาชีพหาปลา จะนำลอบมาดักปลาที่คลองชลประทานทุกวัน โดยจะวางลอบตอนเย็น เช้าหรือบ่ายวันต่อมา จะมาเก็บปลาในลอบที่วางไว้ ซึ่งจะได้ปลาวันละ 1-2 กก. นำไปกินและขาย วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ตนกับยายมาเก็บปลาในลอบ แต่พบงูหลามขนาดใหญ่นอนอยู่ในลอบดักปลา ตนและยายตกใจสุดขีด รีบวิ่งขึ้นไปแจ้งตำรวจที่ป้อมยาม ให้มานำงูหลามไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เมื่อนำงูออกจากลอบดักปลา พบว่าปลาหายไป คงถูกงูหลามกินหมดแล้ว,นายจร เล่าด้วยว่า เคยมีงูมาติดลอบดักปลามาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกขนาดใหญ่ แต่ตาย ครั้งที่สองตัวเล็ก ก็นำไปปล่อย เพราะตนหาปลาไปเป็นอาหาร ไม่ได้มาหางูไปกิน โดยมีความเชื่อส่วนตัวว่า งูเป็นเชื้อสาย ลูกหลาน ของพญานาค อาศัยอยู่กับลำห้วย กับหนองน้ำ คนอีสานนับถือพญานาค ตนก็เช่นกัน จึงไม่กินหรือฆ่างู ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ เพราะกลัวว่าจะเป็นลูกหลานพญานาค เมื่อเจอก็จะบอกว่าให้ไปทางใครทางมัน ส่วนตัวเชื่อว่ามาให้โชค ซึ่งตนจะเสี่ยงโชคด้วยการซื้อลอตเตอรี่ เลขอายุ และเลขที่บ้าน 72 และ 82 แล้วแต่โชคของแต่ละคน.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ขนลุก เจ้าแม่ตะเคียน ถ่ายภาพเจอบางสิ่ง เชื่อ วิญญาณคนแก่ แห่ขอเลขเด็ด (คลิป),คนรักหวยพุ่งตัวอย่างไว เลขเด็ด ตาทอง งิ้วราย มาแล้วรอบนี้เห็น 6 ชัดๆ,เพิ่งเคยเจอ ลูกไก่ 3 ขา เชื่อมาให้โชค คอหวยรู้ข่าว รีบมาดู ตีเลขเด็ด (คลิป),คอหวยส่องกันน่าดู เลขเด็ด น้ำมนต์คำชะโนด 75 มาแรงสัญชาตญาณบอก (คลิป) | ตากับยายแทบช็อก งูหลามยาว 3.5 เมตรติดลอบดักปลา เชื่อลูกหลานพญานาคมาให้โชค เตรียมซื้อลอตเตอรี่ เลขอายุ กับเลขที่บ้านไว้เสี่ยงดวง | ข่าว,สังคม | หวยไทยรัฐ,ข่าวเด่น,หวย,งู,เลขเด็ด,เลขดัง,อุดรธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1690558 |
แห่ขอหวย กล้วยออกปลีกลางต้น หลานเจ้าของบ้านรับทรัพย์เพียบ | เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพัฒนศักดิ์ ใยขม อายุ 35 ปี พบกล้วยประหลาดออกปลีกลางลำต้น จนมีชาวบ้านแห่มาจุดธูปขอหวย เพราะงวดที่แล้วมีคนถูกหวยรับทรัพย์ไปเพียบ โดยกล้วยดังกล่าวอยู่ที่บ้านเลขที่ 117/9 ซ.ประตูน้ำ ต.บางกะดี อ.เมือง ปทุมธานี หลังเดินทางไปบริเวณบ้านดังกล่าว พบว่ามีกอกล้วยน้ำว้า ขึ้นอยู่ ประมาณ 7-8 ต้น โดยต้นหนึ่งมีปลีกกล้วย และผลกล้วยงอกออกมากลางลำต้น โดยนับผลทั้งหมดแล้วได้ 79 ผล,จากการสอบถาม นางบุญนาค ใยขม อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า เมื่อประมาณวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายได้ยินเสียงผู้หญิงร้องอยู่บริเวณกอกล้วยข้างหลังบ้าน จึงเดินลงไปดูก็พบว่ามีกล้วยออกปลีกลางลำต้น ขณะนั้นตนก็ยังสงสัยว่าเสียงผู้หญิงที่ร้องหายไปไหน วันต่อมาหลานสาวได้ไปบอกขอกลับต้นกล้วยว่าอยากได้ทองใส่ ก่อนจะไปนับผลกล้วย 37 ลูก จากนั้นนำเลขเด็ดไปซื้อหวยและถูกเต็มๆ จึงได้นำเงินไปซื้อทองตามที่ขอไว้ จากนั้นมีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมาขอดู และเข้ามากราบไหว้ตามความเชื่อ เพื่อหวังจะมีโชคบ้าง | ชาวบ้านแห่ขอเลขกล้วยออกปลีกลางลำต้น เจ้าของบ้าน เผยหลานสาวถูกหวยรับทรัพย์เพียบ หลังลูกชายได้ยินเสียงผู้หญิงร้องจากกอกล้วยหลังบ้าน เมื่อไปดู ไม่ยักเจอผู้หญิงตามเสียงร้อง แต่กลับเจอกล้วย ออกปลีกลางต้น
| ข่าว,ทั่วไทย | ขอหวย,เลขเด็ด,กล้วยออกปลี,ถูกหวย,ปทุมธานี,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ภาคกลาง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/481247 |
วิษณุ ยันรัฐบาลพร้อมหนุนสร้างหนัง | ชี้นายกฯเน้นแนวส่งเสริมคุณธรรม ยก บุพเพสันนิวาส ต้นแบบละครน้ำดี,ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ตนได้เป็นประธานในพิธีเปิดคูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival de Cannes) ครั้งที่ 71 สาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมทั้งได้เข้าชมกิจกรรม ทำให้เห็นว่าเทศกาลดังกล่าวเป็นแหล่งรวมระหว่างผู้ผลิต ผู้ขาย และกลุ่มทุนที่จะได้มาพบปะเพื่อเจรจาหาข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องภาพยนตร์อย่างครบวงจร และเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยได้สนับสนุนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสมาร่วมงานเพื่อเรียนรู้ทำให้เห็นมุมมองในการผลิตภาพยนตร์ที่หลากหลาย และทำให้รู้ว่าประเทศใดให้ความสนใจภาพยนตร์ประเภทไหน ผู้ผลิตจะได้สร้างออกมาได้ตรงกับความต้องการ ไม่ใช่ลงทุนสร้างไปแล้วไม่มีใครซื้อไปฉาย ซึ่งคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย,รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไม่นานมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้มีการผลิตละคร หรือภาพยนตร์ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในลักษณะที่ไม่ต้องมานั่งสอน การดำเนินเรื่องมีการสอดแทรกเนื้อหาของวัฒนธรรมไทย หรือประวัติศาสตร์ให้ผู้ชมได้ซึมซับโดยไม่เบื่อหน่าย นำเรื่องราวที่น่าสนใจ มาสร้างเป็นละคร เช่น โขน หรือช่างสิบหมู่ ทั้งนี้นายกฯได้ยกตัวอย่างละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่มีการสอดแทรกเรื่องราวของประวัติศาสตร์และสาระอื่นๆที่สะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไปด้วยทำให้คนดูไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รับที่จะไปดำเนินการ ล่าสุดทราบว่ามีผู้ผลิตหลายรายให้ความสนใจ และ วธ.เองก็พร้อมสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้ตามความเหมาะสม,รัฐบาลยืนยันพร้อมสนับสนุนงบฯผ่านกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อให้มีการผลิตละครและภาพยนตร์เพื่อธุรกิจการค้า สามารถขายต่างประเทศได้เพื่อโปรโมตประเทศไทย แสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ใครดูแล้วก็อยากมาเที่ยวเมืองไทย และส่งเสริมการผลิตละครหรือภาพยนตร์ที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งนายกฯให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ใครที่สนใจจะขอรับการสนับสนุนขอให้ติดต่อทาง วธ. ดร.วิษณุ กล่าว. | ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ตนได้เป็นประธานในพิธีเปิดคูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) | ข่าว,ทั่วไทย | วิษณุ เครืองาม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บุพเพสันนิวาส,รัฐบาล,ประวัติศาสตร์,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1280612 |
COVID-19: ยูนิเซฟยกระดับช่วย 145 ปท.ให้เด็กเรียนรู้ต่อเนื่องบอร์ดสุขภาพฯ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญ ปชช. | ยูนิเซฟยกระดับความช่วยเหลือใน 145 ประเทศ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ต่อเนื่องในช่วงโรงเรียนปิด บอร์ดสุขภาพฯ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญประชาชนสู้ทุกตำบล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ส่งธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ รพ.บันนังสตาขณะที่การปิดโรงเรียนกำลังสร้างอุปสรรคทางการศึกษาแก่เด็กกว่าร้อยละ80ทั่วโลก ล่าสุด องค์การยูนิเซฟได้ประกาศยกระดับความช่วยเหลือทั่วโลก เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ต่อเนื่องพร้อมกับดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโควิด-1927มี.ค.2563องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยโรเบิร์ต เจนกิ้นส์ หัวหน้าฝ่ายการศึกษาขององค์การยูนิเซฟ กล่าวว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลกได้หยุดการเรียนการสอนลงแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากเราไม่ร่วมกันช่วยให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตอนนี้ ภาคสังคมและเศรษฐกิจจะต้องแบกรับภาระหนักอีกยาวนานหลังการระบาดสิ้นสุดลง ชุมชนที่อ่อนแอจะได้รับผลกระทบไปอีกหลายชั่วอายุ จากกรณีศึกษาการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่าในอดีต ทำให้เรารู้ว่า ยิ่งเด็กต้องขาดเรียนนานขึ้น ก็ยิ่งทำให้พวกเขามีโอกาสได้กลับมาเรียนน้อยลง การหาการเรียนการสอนรูปแบบอื่น ๆ การให้เด็กกลับมามีกิจวัตรในการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ถือป็นเรื่องสำคัญมากในเวลานี้ยูนิเซฟได้จัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมกว่า13ล้านเหรียญสหรัฐ (421ล้านบาท) สำหรับประเทศที่มีสถานะรายได้น้อยและปานกลางกว่า145ประเทศทั่วโลก เพื่อร่วมกับรัฐบาลและองค์กรพัฒนาเอกชนในแต่ละประเทศ โดยเกือบ9ล้านเหรียญสหรัฐ (290ล้านบาท) เป็นเงินสนับสนุนจากGlobal Partnership for Educationการช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถจัดเตรียมหลักสูตรการเรียนรู้ทางเลือกรูปแบบต่าง ๆ และช่วยให้โรงเรียนสามารถเผยแพร่ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการล้างมือและข้อปฏิบัติเพื่อสุขอนามัยสำหรับเด็ก ๆ และชุมชน พร้อมสนับสนุนการดูแลสุขภาพจิตของเด็ก ตลอดจนรณรงค์ไม่ให้เกิดการตีตราและแบ่งแยกในสังคมต่อเรื่องการแพร่เชื้อไวรัสยูนิเซฟเตรียมทำงานกับพันธมิตรใน145ประเทศ โดยมีแผนดำเนินการดังนี้ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา องค์การยูนิเซฟ องค์การอนามัยโลก (WHO)และสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC)ได้ร่วมกันเผยแพร่คู่มือป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19ในโรงเรียน (Guidance for COVID-19 Prevention and Control in Schools)โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ได้ที่ออนไลน์:โอนผ่านบัญชีธนาคาร: ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี201-3-01324-4กรุณาส่งข้อมูลติดต่อ (ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์) พร้อมใบสลิปมาที่ยูนิเซฟ โดยระบุ โควิด-19มาที่กลุ่มงานสื่อสารทางสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) รายงานว่า ที่ สช. วันนี้อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับแผนงานรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19 ที่หน่วยงานภาคียุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น สธ.สปสช.สสส.สวรส. สรพ.สพฉ. และด้านสังคม เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายหมออนามัย ๗ องค์กร และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมกับเครือข่ายภาครัฐสถาบันวิชาการธุรกิจเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่จับมือประกาศจุดยืนสู้ภัยโควิด19สนับสนุนชุมชนคลอดธรรมนูญประชาชน เน้นปกป้องผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน โดยมี สช. เป็นหน่วยประสานงานกลางหลังประชุม นายอนุทินเปิดเผยว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้หารือและเห็นว่าการระบาดของโรคโควิด19มีความรุนแรงมากขึ้นและขณะนี้กระจายเข้าสู่พื้นที่ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ถือเป็นวิกฤตของประเทศที่ต้องการรวมพลังจากทุกภาคส่วนมาหนุนช่วยขณะที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคนี้ และมุ่งปกป้องชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้ได้อย่างจริงจริงผมและกรรมการสุขภาพแห่งชาติทุกคนเห็นด้วยกับแผนงานที่ สช.เสนอ และได้มอบให้ท่านเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ไปดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งส่วนกลางและพื้นที่ทำการขับเคลื่อนเตรียมพร้อมชาวบ้านในชุมชนจากความตื่นกลัวเป็นตื่นรู้และมีเวทีเรียนรู้ จัดทำข้อตกลงร่วมหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด19ในทุกตำบลชุมชนหมู่บ้าน เพราะประชาชนเป็นพลังสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเป็นหูเป็นตา ดูแลกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อไวรัส และปกป้องผู้สูงอายุ เด็นเล็กที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้ป่วยหนักจนเป็นภาระกับโรงพยาบาล รวมถึงการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามข้อแนะนำของทางการนายอนุทิน กล่าวรองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า แม้ในโหมดของการรักษาทางกระทรวงสาธารณสุขจะค่อนข้างเตรียมความพร้อมได้ดีแล้วแต่หากมีการระบาดหนักก็ยังเป็นการยากที่จะรองรับไหว ดังนั้นการป้องกันการแพร่ระบาดโดยมาตรการSocial Distancingจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทำอย่างไรให้เรื่องนี้อยู่ในความตระหนักของประชาชนทั้งสังคมอย่างแท้จริง เรื่องนี้มีงานศึกษาจากประเทศออสเตรเลียรองรับแล้วว่า ต้องทำมาตรการนี้ให้ได้ถึงร้อยละ80จึงจะสามารถควบคุมการแพร่กระจายได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ทำได้เพียงร้อยละ70ตัวเลขเหมือนจะดูห่างกันไม่มากแค่ร้อยละ10แต่ผลลัพธ์การแพร่กระจายกลับสูงแตกต่างกันอย่างมาก ผลการศึกษายังชี้อีกว่า หากทำมาตรการนี้ได้ถึงร้อยละ90ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะหยุดการแพร่กระจายได้ในเวลาไม่นาน การสร้างความเข้าใจและทำให้ประชาชนร่วมมือให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งนพ.ประทีป ธนกิจเจริญเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่าการขับเคลื่อนรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการสนับสนุนให้ทุกตำบลจัดกระบวนการประชาคมของสภาองค์กรชุมชนร่วมกับอาสาสมัครกลุ่มต่างๆ ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้เกิดข้อตกลงร่วมของประชาชนหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด19ทุกตำบล ทุกชุมชนหมู่บ้าน ให้เต็มพื้นที่ภายในเดือนเมษายน นี้ขณะนี้มีการดำเนินการเรื่องนี้ในหลายพื้นที่แล้ว เช่นธรรมนูญสุขภาพตำบลสร้างนกทาว่าด้วยปฏิบัติการต้านโควิด19ธรรมนูญตำบลหนองหลวงว่าด้วยมาตรการเร่งด่วนเฉพาะกิจเกี่ยวกับโควิด19ธรรมนูญตำบลนาโพธิ์กลางว่าด้วยมาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่า2019เป็นต้นสำหรับในกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการนำล่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่เป็นตัวอย่างในบางชุมชนพื้นที่หรือบางเขตถ้าประชาชนในพื้นที่จับมือกันและหนุนช่วยมาตรการต่างๆ ของรัฐ เราจะชนะโรคโควิด19และประเทศไทยจะพ้นวิกฤตนี้ได้อย่างแน่นอนเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า วันนี้ เวลา 11.30 น. ที่โรงพยาบาลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พ.อ.นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแพทย์จังหวัดชายเเดนใต้ เป็นประธานมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ ในกิจกรรม ธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา ตามโครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยโควิด – 19 ภายหลังบุคลากรททางการแพทย์ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 ทำให้ปิดบริการบางส่วน และกักตัวเจ้าหน้าที่ โดยมี นายวิกฤตนรากรณ์ คงแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบันนังสตา รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบันนังสตาเข้าร่วมพ.อ.นพ.โชคชัย กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากความปรารถนาดี ความห่วงใย มายังบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลบันนังสตา ทุกคนถือเป็นบุคคลผู้เสียสละเพราะเป็นด่านแรกที่สัมผัสเชื้อโรค แต่ด้วยหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาประชาชน ซึ่งไม่สามารถเลี่ยงได้ ขอเป็นกำลังใจแก่ แพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนให้มีกำลังใจ ผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นย้ำหน่วยในพื้นที่ร่วมกับ ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับมาตราการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ ไม่ให้ขยายวงลุกลามมากขึ้นก️อ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานด้วยว่า กิจกรรม ธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นหนึ่งในกิจกรรมตามโครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยโควิด – 19 ซี่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน 4 ส่วนหน้า จัดขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ โควิด – 19 และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยขณะนี้โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา ได้ปิดทำการชั่วคราว รับเฉพาะคนไข้ฉุกเฉินเท่านั้น คนไข้ทั่วไปสามารถขอเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง | ยูนิเซฟยกระดับความช่วยเหลือใน 145 ประเทศ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ต่อเนื่องในช่วงโรงเรียนปิด บอร์ดสุขภาพฯ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญประชาชนสู้ ทุกตำบล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ส่งธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ | การศึกษา,คุณภาพชีวิต | COVID-19,องค์การยูนิเซฟ,เด็ก,คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ,ธรรมนูญประชาชน,กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า,ชายแดนใต้ | https://prachatai.com/journal/2020/03/86947 |
ลามไม่หยุด นร.โรงเรียนดังสันกำแพงบ้านเกิด ทักษิณ ชู 3 นิ้วหน้าเสาธง | จากปรากฏการณ์กลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนออกมารวมตัวชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลจำนวนมาก จนเต็มพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ล่าสุดยังเกิดปรากฏการณ์นักเรียนระดับชั้นมัธยมหลายจังหวัดทั่วประเทศ ชู 3 นิ้ว แสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้มีคลิปที่ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก กุลวัฒน์ ศรีสุข ซึ่งเป็นคลิปความยาว 37 วินาที ขณะที่เด็กนักเรียนโรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนประจำอำเภอ ได้แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้วหน้าเสาธง ขณะกำลังเคารพธงชาติก่อนขึ้นเรียน พร้อมกับติดแฮชแท็ก #SKPไม่เอาเผด็จการ โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย พร้อมกดไลค์และกดแชร์ให้อย่างไรก็ตาม สำหรับอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ถือว่าเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทยอีกด้วย. | นักเรียนโรงเรียนดังอำเภอสันกำแพง บ้านเกิด ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย รวมกลุ่มแสดงออกในสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วหน้าเสาธง ชาวเน็ตกดไลค์ กดแชร์เพียบ | ข่าว,ทั่วไทย | นักเรียนชู 3 นิ้ว,ชู 3 นิ้ว,ลูกเสือ,สันกำแพง,โรงเรียนสันกำแพง,บ้านเกิดทักษิณ,ทักษิณ ชินวัตร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1913227 |
เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วในสวนน้ำ ประเทศตุรกี เสียชีวิต 5 คน | วันนี้ (24 มิ.ย.2560) มีเด็กวัยรุ่น 3 คน อายุ 12 ปี 15 ปี และ 17 ปี ถูกกระแสไฟฟ้าดูดระหว่างลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ผู้จัดการสวนน้ำอายุ 58 ปี และลูกชายอายุ 30 ปี เห็นเหตุการณ์จึงกระโดดลงไปช่วย แต่ถูกไฟฟ้าดูดเช่นกัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สวนน้ำเมืองอัคยาซี ในจังหวัดซาคาร์ยา ห่างจากนครอิสตันบูลไปทางตะวันออกประมาณ 150 กิโลเมตรพนักงานของสวนน้ำได้ตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมด และช่วยผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 5 คน ขึ้นมาจากสระ ก่อนส่งตัวไปที่โรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เนื่องจากทั้่ง 5คน หัวใจหยุดเต้นก่อนมาถึงโรงพยาบาลมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน จากการเอามือไปจับราวเหล็กใกล้สระน้ำและถูกไฟฟ้าดูดตำรวจกำลังตรวจสอบหาสาเหตุ ที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วในสระว่ายน้ำ ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าสวนน้ำดังกล่าว ไม่ได้ติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูด | เกิดเหตุสลดที่สวนน้ำในประเทศตุรกี หลังมีคนถูกกระแสไฟฟ้าดูดในสระว่ายน้ำ เสียชีวิต 5 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,กระแสไฟฟ้ารั่ว,สวนน้ำ,สระว่ายน้ำ,เสียชีวิต,จังหวัดซาคาร์ยา,ประเทศตุรกี | https://news.thaipbs.or.th/content/263758 |
รายงานไอลอว์: หลังลูกกรงมี คนบ้า เมื่อ คนไม่บ้า เดินหน้า กระบวนการยุติธรรม | ผมไม่ได้บ้านะ ที่เขาบอกว่าผมบ้าเพราะตำรวจจะได้ไม่ดำเนินคดีผม ประจักษ์ชัย กล่าวผ่านลูกกรงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขายังไม่เข้าใจว่า บ้า ไม่ใช่คำด่า แต่อาจเป็นเหตุผลเดียวให้เขาออกจากหลังลูกกรงนั่นผมไม่ได้บ้าครับ ผมไปหาหมอมาแล้ว หมอเขาก็ไม่ได้ว่าผมเป็นอะไร ธเนศ นักโทษอีกคนเล่า หลังไปหาหมอในเรือนจำแล้ว แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยใดๆผมจำไม่ได้จริงๆ ตอนรู้ตัวก็คือผมนั่งอยู่ มีคนมายืนเต็มไปหมด สมัคร เล่าถึงเหตุการณ์วันที่เขาก่อคดีที่อ่อนไหวที่สุดของยุคสมัย อันเป็นความผิดต่อ ความมั่นคงของราชอาณาจักร คดีมาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ2 กรกฎาคม 2558 ช่วงเช้ามืด ธเนศ ถูกทหารบุกไปจับที่บ้านในจังหวัดเพชรบูรณ์ และถูกพาตัวเข้ากรุงเทพเพื่อดำเนินคดีตามมาตรา 112 ข้อกล่าวหาของเขา คือ การส่งอีเมล์ให้ชาวต่างชาติซึ่งมีลิงก์ไปยังบล็อกที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย หลังถูกตั้งข้อหา เขาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเรื่อยมาธเนศ เป็นชื่อสมมติ ของชายร่างเล็ก สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ใบหน้าซูบตอบ ยาวเรียว พูดจาสุภาพอ่อนน้อม อ่อนหวานตุ้งติ้งเล็กน้อย ก่อนถูกจับ ธเนศ อายุ 45 ปี มีอาชีพขายสินค้าเกษตรผ่านเว็บไซต์ MisterOtwo.com เขาไม่เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ แต่เขามีความเชื่อว่าเขามีใบหน้าคล้ายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เนื่องจากตอนอายุ 18 ปี แม่ค้าขายอาหารเคยเรียกเขาว่า องค์ชายตลอดระยะเวลา 20-30 ปี ที่ผ่านมา ธเนศ เชื่อว่า จากการที่มีใบหน้าเช่นนี้ ทำให้ถูกคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร คอยติดตามไปทุกหนแห่ง และกลั่นแกล้งเพื่อให้เขาไม่ได้มีชีวิตที่ดี เช่น ถูกขโมยรองเท้า ถูกคนเอาก้อนหินมาวางขวางทางตอนขี่จักรยาน เมื่อย้ายที่อยู่ใหม่ข้างห้องก็จะทำเสียงดังรบกวน เมื่อขึ้นรถเมล์คนขับก็จะขับไม่ดี และเคยถูกคนวางยาพิษใส่ไว้ในยาสีฟัน ฯลฯธเนศ นับถือศาสนาคริสต์และยึดถือคำพยากรณ์ทางเว็บไซต์เป็นหลักของชีวิต ตามคำบอกเล่าของพี่สาว เวลา ธเนศ เดินทางไปไหนจะเอาตุ๊กตายางรูปไก่มัดกับไม้เป็นรูปไม้กางเขนติดไว้หน้ารถจักรยาน พร้อมแผ่นกระดาษเขียนว่า องค์ชาย 20 ปีบันทึกรายละเอียดเรื่องที่เขาถูกกลั่นแกล้งเอาไว้เพื่ออ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ธเนศ ยังมีอาการได้ยินเสียงแว่วในหูเป็นพักๆ ซึ่งเสียงเหล่านั้นบางครั้งก็คุยกับเขา สั่งให้เขาทำสิ่งต่างๆ รวมทั้งฆ่าตัวตายธเนศ ชอบใส่ที่อุดหู เขาบอกว่าช่วยให้เขาไม่ต้องทนฟังเสียงเหล่านั้นได้ เสียงเหล่านั้นมารบกวนเขาครั้งหนึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน 2553 บอกให้เขาส่งอีเมล์เพื่อ ช่วยคนเสื้อแดง เขาเชื่อและทำไปตามนั้น จึงเป็นเหตุนำมาสู่การจับกุมดำเนินคดี ผลการตรวจของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระบุว่า ธเนศ ป่วยเป็นโรคจิตหวาดระแวง (F20.0 Paranoid Schizophrenia) และมีอารมณ์เศร้าร่วมด้วย ปัจจุบันสามารถต่อสู้คดีได้ถ้าไม่มีเสียงแว่ว ก็คงไม่ก่อเหตุ เอกสารรายงานการวินิจฉัยโรคระบุ8 กรกฎาคม 2557 สำนักข่าวหลายแห่งรายงานการจับกุมสมัคร ชายสติไม่สมประกอบที่อ.เทิง จ.เชียงราย เหตุจากการทำลายซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งอยู่ริมถนน สี่แยกอ.เทิง ตำรวจในพื้นที่พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเข้าจับกุมเนื่องจากการกระทำของคดีเกิดขึ้นหลังการประกาศให้คดีมาตรา 112พิจารณาที่ศาลทหาร สมัครถูกฝากขังต่อศาลทหารเชียงรายตามที่สมัครเล่า วันเกิดเหตุ ช่วงเย็น เขาขี่จักรยานจากบ้านไปตลาดซื้อมีดทำกับข้าวมาสองเล่ม พกใส่กระเป๋าย่ามไว้ ขากลับแวะนั่งกินเหล้าหน้าร้านขายของที่อยู่ห่างจากบ้านของเขาเพียงคนละฟากถนน เขาดื่มไปไม่น้อย จนประมาณสองทุ่มเขาก็จะเดินกลับบ้าน พอจำได้อีกทีเขาก็นั่งอยู่ที่พื้นริมถนน มีตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน นักข่าว ยืนรุมอยู่ มีดเล่มหนึ่งอยู่ในมือ อีกเล่มไม่รู้อยู่ที่ไหน ส่วนจักรยานไม่ได้ขี่กลับมาด้วยผมจำไม่ได้จริงๆจำได้ว่าดื่มเหล้านะ ตอนรู้ตัวก็คือผมนั่งอยู่ มีคนมายืนเต็มไปหมด สมัครเล่าเมื่อถามว่าได้ทำลายซุ้มเฉลิมพระเกียรติหรือไม่ เขาตอบว่าจำไม่ได้ เมื่อถามว่าทำไมนั่งอยู่ให้ถูกจับไม่เดินกลับบ้านหรือหนีไป เขาตอบว่า ก็ยังไม่อยากลุกไปไหนก่อนถูกจับสมัคร อายุ 49 ปี เป็นชายผิวดำแดง ผู้มีรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้า รูปร่างเล็กแต่ดูแข็งแรง มีอาชีพเป็นชาวนา มีที่นาเป็นของตัวเองที่ตกทอดมาจากพ่อแม่ 5 ไร่ อาศัยอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีหนี้สิน ช่วงที่ไม่ต้องทำนาก็จะเข้าไปรับจ้างในเมืองเชียงใหม่ เช่น ทำงานก่อสร้าง จัดสวนสมัครไม่สนใจการเมือง ไม่เคยไปร่วมกิจกรรมทางการเมือง แม้คนแถวบ้านจะชวนกันไปชุมนุมอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีใครมาชวนเขา เพราะรู้ว่าเขาจะไม่ไป หลังถูกจับสมัครไม่มีทรัพย์สินพอที่จะยื่นประกันตัว ที่นาที่มีอยู่ก็เป็นชื่อของแม่ ซึ่งตายไปกว่าสิบปีแล้วแต่ยังไม่เคยไปทำเรื่องจัดการมรดก เขาถูกคุมขังตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สมัครเคยมีประวัติรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ระบุว่า สมัครป่วยเป็นโรคจิตเภท (schizophrenia) และมีสติปัญญาอยู่ในระดับต่ำ IQ=63 เพื่อนบ้านรู้ดีว่าอาการของสมัคร คือ จะโมโหร้ายเป็นพักๆ เคยทำลายข้าวของและเคยเผารถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง19 กุมภาพันธ์ 2558 ประจักษ์ชัยนั่งรถเมล์ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อบอกกับ รปภ.ว่าจะมายื่นหนังสือร้องเรียน เหมือนกับที่เขาเคยทำเป็นประจำ แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับอนุญาตให้เขาไปข้างใน เจ้าหน้าที่เอากระดาษให้เขาเขียนเรื่องร้องเรียนด้วยลายมือ ทันทีที่เขายื่นข้อความยาวหนึ่งบรรทัดนั้น ตำรวจกว่าสิบนายก็ล้อมเข้ามาจับกุมประจักษ์ชัย ถูกฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพ และถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเรื่อยมา จนกระทั่ง 15 พฤษภาคม 2558 อัยการทหารยื่นคำฟ้องยาวครึ่งหน้ากระดาษต่อศาลทหารกรุงเทพ ขอให้ลงโทษตามมาตรา 112 และขอให้ริบปากกา ซึ่งเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดน้องสาวของประจักษ์ชัย เล่าว่า เวลาอยู่บ้านประจักษ์ชัยจะไม่ค่อยคุยกับใคร เข้าสังคมไม่ได้ นานๆ ครั้งจะเกิดอาการคุ้มคลั่ง เคยคุ้มคลั่งไม่ได้สติจนคนในบ้านต้องช่วยกันจับตัวส่งโรงพยาบาล คนรอบข้างจะพยายามพาเขาไปรักษาอาการทางจิตหลายครั้ง แต่ด้วยฐานะยากจน และเขาก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นบ้า จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่องก่อนถูกจับ ประจักษ์ชัย อายุ 41 ปี ทำงานเป็นช่างขัดอลูมิเนียมอยู่ที่โรงงานของเพื่อน ที่มาจากบ้านเกิดในจ.ศรีสะเกษด้วยกัน ประจักษ์ชัยเป็นชายรูปร่างผอมแห้ง ผิวคล้ำ ตาโต ขอบตาลึก แววตาเหม่อลอย พูดจาตะกุกตะกัก วกไปวนมา บางครั้งจับใจความไม่ได้ประจักษ์ชัยยังมีโรคประจำตัว คือ ตับแข็ง จากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป โรคนี้หากเครียดอาการจะกำเริบ ท้องบวม และถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีเขาอาจเสียชีวิตเขาไม่เคยฝักใฝ่กลุ่มการเมืองสีเสื้อ แต่เขามีความคิดเกี่ยวกับการเมืองในแบบของตัวเองที่รุนแรง และนอกกรอบ จนคนรอบข้างไม่ยอมรับฟังคุณไม่รู้เหรอ แบงค์ร้อยตอนนี้ มันเป็นแบงค์ปลอม นี่คุณไม่รู้กันจริงๆ เหรอ? ประจักษ์ชัยบอกคนที่ไปเยี่ยมคุณลองเอามาดูสิ แบงค์ร้อยมันต้องมีรูปช้างใช่ไหม ที่เป็นพระนเรศวร เดี๋ยวนี้มันเป็นรูปอะไร แต่เขาก็ยอมให้ใช้กันปี 37 ผมเคยถูกจับครั้งนึง แต่ผมเล่าให้ฟังแล้วผู้กำกับสน.ประชาชื่นเขาบอกว่าผมพูดถูก เขาก็ไม่ทำอะไรผมผมไม่ได้บ้านะ ที่เขาบอกว่าผมบ้าเพราะตำรวจจะได้ไม่ดำเนินคดีผมวันไหนว่างผมก็มา (มาทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียน) เสร็จจากงานผมก็นั่งรถเมล์มา รปภ.ที่นี่จำผมได้แล้ว เจอกันประจำ ผมก็บอกกับเขา อย่างงี้ตลอด แต่เขาไม่เคยทำอะไรผม ประจักษ์ชัยเล่าถึงพฤติกรรมในอดีตของตัวเอง เขาบอกว่าทำแบบนี้มากว่า 20 ครั้งแล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) มาตรา 14 กำหนดว่า ถ้ามีเหตุควรเชื่อว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ให้ส่งให้แพทย์ตรวจ ให้งดการดำเนินคดีไว้จนกว่าผู้นั้นหายวิกลจริตหรือสามารถจะต่อสู้คดีได้ และให้มีอำนาจส่งตัวผู้นั้นไปยังโรงพยาบาล หรือส่งให้ผู้ดูแล ดังนั้น หากตำรวจ หรือศาล เห็นว่าคนที่ถูกดำเนินคดีมีอาการทางจิต ก็มีอำนาจที่จะส่งให้แพทย์ตรวจ หากแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยสู้คดีไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่งงดการพิจารณาคดีและส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยไปรักษาได้ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) มาตรา 65 เปิดช่องสำหรับการไม่ลงโทษหรือลดโทษให้ผู้ที่กระทำความผิดเพราะมีจิตไม่ปกติ โดยมีหลักว่า ผู้ใดกระทำความผิด ในขณะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่อง ไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือบังคับตนเองได้บ้าง ศาลจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้ในกรณีของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี หากจำเลยมีอาการป่วยทางจิต ศาลก็อาจสั่งให้ลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้ หรือจะรอลงอาญาก็ได้ แต่ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ตึงเครียดมาตั้งแต่หลังการรัฐประหารปี 2557 การคุ้มครองผู้ป่วยทางจิต ในทางปฏิบัติอาจไม่ง่ายเช่นนั้นภายใต้บรรยากาศการเมืองที่อ่อนไหว พวกเขาตกร่องกระบวนการยุติธรรม19 กุมภาพันธ์ 2558 หลังประจักษ์ชัยถูกจับกุมจากการยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล เขาอยู่ที่สน.ดุสิตเพียง 20 นาที ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัว โดยไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เจ้าหน้าที่กลับเปลี่ยนใจและกลับไปจับกุมตัวประจักษ์ชัยในช่วงค่ำวันเดียวกันระหว่างที่เขากำลังไปทำงานที่โรงงานประจักษ์ชัยถูกนำตัวกลับไปทำประวัติที่สน.ดุสิตอีกครั้ง และถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 112 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งเรื่องราวของประจักษ์ชัยจากนักโทษคนอื่นในเรือนจำและเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ง่ายนักเมื่อญาติของเขาแจ้งว่าไม่เคยมีใบรับรองแพทย์เรื่องอาการทางจิต ทนายความและญาติจึงเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน ให้ใช้อำนาจตามป.วิ.อาญา มาตรา14 แต่พนักงานสอบสวนปฏิเสธ เพราะใช้ดุลพินิจแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหายังตอบคำถามได้ จึงไม่เข้าข่ายวิกลจริตถึงขั้นต่อสู้คดีไม่ได้ต่อมาทนายความส่งหนังสือขอให้เรือนจำส่งตัวไปตรวจรักษา แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะเรือนจำไม่มีอำนาจตามป.วิ.อาญา มาตรา 14 จึงต้องรอให้อัยการยื่นฟ้องและยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ส่งตัวไปรักษาหลังเข้าเรือนจำได้ไม่นาน ประจักษ์ชัยต้องถูกย้ายไปคุมขังที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะอาการโรคตับแข็งกำเริบ ประจักษ์ชัยได้รับการตรวจอาการทางจิตครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2558 หลังถูกคุมขังมา 5 เดือน และจนถึงเดือนกันยายน 2558 ก็ยังไม่ทราบผลการวินิจฉัย ญาติถอดใจไม่ขอยื่นประกันตัวเพราะไม่รู้จะหาหลักทรัพย์จากที่ไหนนานเกินไปแล้ว ให้อยู่นานขนาดนี้ไม่ไหว ประจักษ์ชัยเปรยกับทนายความ หลังถูกคุมขังนานกว่า 6 เดือน ศาลทหารก็ยังไม่กำหนดวันนัดพิจารณาคดี…………………………………………….กรณีของ ธเนศ ก็ลำบากคล้ายๆ กับประจักษ์ชัยเพราะไม่มีใบรับรองแพทย์มาก่อนถูกจับ ช่วงแรกเจ้าตัวไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย ญาติและทนายความพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาไปพบพยาบาลที่สถานพยาบาลในเรือนจำ ซึ่ง ธเนศ ก็ยอมไป แต่เมื่อไปถึงก็ไม่เล่าเรื่องอะไรให้พยาบาลฟัง ผมไม่ได้บ้าครับ ผมไปหาหมอมาแล้ว หมอเขาก็ไม่ได้ว่าผมเป็นอะไร ธเนศ บอกหลังพยาบาลในเรือนจำยังไม่ส่งเขาไปตรวจรักษากับผู้เชี่ยวชาญธเนศ อาจโชคดีกว่าประจักษ์ชัยอยู่บ้าง เพราะทางเรือนจำส่งตัวเขาตรวจอาการทางจิต หลังญาติและทนายความพยายามส่งหนังสือเข้าไป ประกอบกับเรือนจำเองก็สังเกตเห็นอาการ ขั้นตอนการส่งตัวและการตรวจใช้เวลาไม่น้อย สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ออกใบรับรองว่าธเนศคือผู้ป่วยหลังเขาถูกคุมขังไปแล้ว 5 เดือนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยติดต่อยืมเงินจากผู้ใจบุญ เพื่อยื่นขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต เพราะเหตุว่า ความผิดตามฟ้องเป็นการเผยแพร่ข้อความเท็จ ซึ่งกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและมุ่งให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันอันเป็นที่เคารพยิ่งของประชาชน ทั้งเป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร พฤติการณ์แห่งคดีมีความร้ายแรง มีเหตุควรเชื่อว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยอาจหลบหนีหลังได้ใบรับรองแพทย์ จึงยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง ศาลไม่อนุญาต ให้เหตุผลว่า หากการเจ็บป่วยดังกล่าวทวีความรุนแรงถึงขั้นที่สถานคุมขังจะดูแลความปลอดภัยแก่ชีวิตของจำเลยไม่ได้แล้ว ย่อมต้องดำเนินการส่งตัวจำเลยให้แพทย์ทำการรักษา8 พฤษภาคม 2558 วันนัดสืบพยาน พ.ญ.ดวงตา จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เบิกความว่า อาการของจำเลยไม่ถึงขั้นวิกลจริต ตามป.วิ.อาญามาตรา14 จำเลยมีอาการป่วยจริง ผลการทดสอบทางจิตวิทยาไม่ปรากฏว่า จำเลยแกล้งป่วย จำเลยกล่าวอ้างว่าขณะที่ส่งลิงก์นั้นมีการฟอร์เวิร์ดเมล์ เหตุที่ทำไปเพราะจะเป็นการช่วยประชาชน ไม่ทราบว่าสิ่งที่ทำเป็นความผิด พี่ชายของจำเลยก็มีอาการแบบเดียวกัน อาการของจำเลยจึงน่าจะมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ โรคนี้หากเป็นแล้วต้องรักษาตลอดชีวิต สามารถรักษาให้ทุเลาลงได้ แต่ไม่สามารถหายขาด หากจำเลยได้รับการรักษาอย่างเต็มที่น่าจะมีอาการดีกว่าที่เป็นอยู่คดีของ ธเนศ ดูมีความหวังอยุ่บ้าง เพราะประเด็นอาการทางจิตของจำเลยถูกนำเสนอสู่การพิจารณาของศาลอย่างครบถ้วน ในคดีนี้ ศาลอาจใช้อำนาจตามป.อาญา มาตรา 56 ลงโทษจำเลยน้อยเพียงใดก็ได้…………………………………………….คดีของสมัครอาจจะเริ่มต้นง่ายกว่าบ้าง เพราะเขามีใบรับรองแพทย์เรื่องอาการทางจิตติดตัวมาก่อนอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่ในทางคดีสมัครก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อในคดีมีการกล่าวอ้างเรื่องอาการทางจิต ศาลจึงไม่อาจลงโทษทันที ต้องหาข้อเท็จจริงมาประกอบก่อนในกระบวนการพิจารณาคดีปกติกรณีเช่นนี้ศาลอาจใช้กระบวนการ สืบเสาะ ให้กรมคุมประพฤติไปตรวจสอบประวัติพฤติกรรมของจำเลย รวมทั้งอาการเจ็บป่วยต่างๆ และส่งข้อเท็จจริงให้ศาลใช้ดุลยพินิจว่าควรจะลงโทษหนักเบาเพียงใด ซึ่งกระบวนการเช่นนี้อาจใช้เวลา 1-2 เดือน ศาลก็มีคำพิพากษาได้ แต่เนื่องจากในศาลทหารไม่มีกระบวนการสืบเสาะ ดังนั้น คดีของสมัครจึงต้องดำเนินการสืบพยานทุกปาก12 มกราคม 2558 และ 10 กุมภาพันธ์ 2558 วันนัดสืบพยาน อัยการทหารไม่ได้มุ่งสืบพยานให้เป็นผลร้ายกับจำเลยนัก เขาเบิกตัวพยานที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาขึ้นศาล ซึ่งล้วนยืนยันถึงเรื่องอาการทางจิตของจำเลย อีกแง่มุมหนึ่ง ศาลทหารไม่ใช้ระบบนัดพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง หากวันไหนนัดแล้วสืบพยานปากนั้นไม่เสร็จ หรือพยานไม่มาศาล วันนัดก็จะเลื่อนออกไปอีกประมาณ 1-2 เดือน หากสืบพยานคนหนึ่งเสร็จ ก็จะหาวันนัดสืบพยานคนต่อไปในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ทำให้กระบวนการใช้เวลานาน10 กรกฎาคม 2558 หลังถูกคุมขังมาครบหนึ่งปีพอดี อัยการบอกว่ายังเหลือพยานอีก 7 ปาก สมัครแจ้งกับทนายความว่าไม่ต้องการจะต่อสู้คดีต่อไปแล้ว ต้องการขอรับสารภาพต่อศาลเลย เพื่อให้ทุกอย่างจบ เพราะกระบวนการใช้เวลานานเกินไป รู้สึกเครียดตลอดเวลาที่ถูกคุมขังอยู่ถ้ารับแล้วศาลลงโทษห้าปี ลดเหลือสองปีครึ่ง จะไหวไหม ทนายทดลองถาม สมัครก้มหน้ายิ้ม ไม่มีคำตอบกลับมา ทนายของสมัครยื่นคำแถลงปิดคดีขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานเบา และรอการลงโทษจำคุก เพื่อให้โอกาสจำเลยไปรักษาอาการทางจิต และเนื่องจากสมัครกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริงเรื่องอาการป่วยจึงไม่ถูกนำสืบต่อศาลอย่างเป็นทางการ6 สิงหาคม 2558 ศาลทหารเชียงราย อ่านคำพิพากษาคดีของสมัคร จากการใช้มีดทำกับข้าวทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ ให้จำคุก10 ปี ตามมาตรา 112 และให้ปรับ 100 บาท ฐานพกพาอาวุธในที่สาธารณะ เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 ปี ปรับ 50 บาทศาลอ่านคำพิพากษาโดยไม่เอ่ยถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการทางจิตของจำเลยมันนานเกินไป สมัครกล่าว แต่ก็ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม25 มิถุนายน 2558 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีของ ธเนศ จากการส่งอีเมล์ตามเสียงกระซิบในหู ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ตามมาตรา 112 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ลดโทษให้เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน ศาลระบุเหตุผลว่า จำเลยให้การได้ตามปกติ มีอาการปกติเหมือนคนทั่วไป จำเลยให้การไว้โดยละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิด เป็นขั้นเป็นตอน จำเลยสามารถประกอบการค้าขายบนอินเทอร์เน็ตได้ ไม่เชื่อว่าขณะกระทำความผิดจำเลยไม่รู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตัวเองได้ จำเลยไม่สามารถยกข้ออ้างดังกล่าวขึ้นมาให้ตัวเองพ้นผิดได้ที่ผ่านมาขอบคุณทุกคนมาก ผมอยากให้เรื่องมันจบแล้ว ผมไม่ต้องการอุทธรณ์แล้วครับ ธเนศ กล่าวกับทนายด้วยความสิ้นหวังหลังทราบผลคำพิพากษา ส่วนคดีของประจักษ์ชัย ยังไม่เริ่มการพิจารณา ยังต้องเฝ้ารอคอยการชี้ชะตากรรมต่อไป…………………………………………….เท่าที่ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพบันทึกข้อมูลไว้ ในรอบ 5 ปีก่อนการรัฐประหาร มีผู้ป่วยทางจิตที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีมาตรา 112 อย่างน้อย 3 คน หลังการรัฐประหารมีคนถูกจับกุมและตั้งข้อหามาตรา 112 อย่างน้อย 53 คน ซึ่งอย่างน้อย 5 คนมีอาการทางจิต และมีอีกหลายต่อหลายคนที่การพูดจา ขาดๆ เกินๆ แต่สติปัญญายังสมบูรณ์พร้อมคนที่สนใจเรื่องสังคมการเมืองแม้เพียงเล็กน้อยย่อมทราบดีว่า ในบรรยากาศทางการเมืองปัจจุบัน การกล่าวถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยเป็นเรื่องอ่อนไหวที่สุด โดยมีมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักคอยกำกับไว้ คนที่จะฝ่าฝืนกฎเกณฑ์นี้ ถ้าไม่เชื่อมั่นอย่างมากจริงๆ ก็คงต้องมี บ้า แถมด้วย ผมไม่เข้าใจครับ ผมรับสารภาพมาตลอด ทำไมเมื่อผมมีใบรับรองแพทย์เรื่องโรคจิต ศาลถึงลงโทษเยอะกว่า เสียงตะโกนถามดังออกมาจากหลังลูกกรงธเนศ ยังไม่เข้าใจผลคดีของตัวเอง เขาไม่เข้าใจว่าศาลไม่เชื่อผลการตรวจตามใบรับรองแพทย์แผ่นนั้น ปัจจุบันคดีของ ธเนศ เลยระยะเวลาตามกฎหมายที่จะยื่นอุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้วที่ศาลทหารเชียงราย บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลาย ทั้งวันมีคดีของสมัครเพียงคนเดียว หลังออกจากห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ชี้มือให้สมัครเดินเข้าไปในห้องขัง ขณะที่โซ่ตรวนสนิมเขรอะพันอยู่รอบขา ชาวนา IQ ต่ำ เดินเข้าไปอย่างช้าๆ เขาหันหลังกลับมาผลักประตูลูกกรงปิดขังตัวเองไว้ด้านใน แล้วเดินเข้าไปนั่งอย่างสงบอยู่คนเดียวที่มุมหนึ่งของห้องนั้น ต้องใช้เวลาอีกเกือบ 4 ปี จึงจะถึงวันที่เขาได้กลับออกมาเห็นโลกภายนอกอีกครั้ง คดีของสมัครสิ้นสุดแล้ว การพิจารณาในศาลทหารไม่มีชั้นอุทธรณ์ฎีกาอ่านข้อมูลคดีของ ธเนศ ได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/614อ่านข้อมูลคดีของสมัคร ได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/584อ่านข้อมูลคดีของประจักษ์ชัย ได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/666 | ผมไม่ได้บ้านะ ที่เขาบอกว่าผมบ้าเพราะตำรวจจะได้ไม่ดำเนินคดีผม ประจักษ์ชัย กล่าวผ่านลูกกรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขายังไม่เข้าใจว่า บ้า ไม่ใช่คำด่า แต่อาจเป็นเหตุผลเดียวให้เขาออกจากหลังลูกกรงนั่น | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | iLaw,จำเลยจิตเภท,จิตเภท,มาตรา 112,ไอลอว์ | https://prachatai.com/journal/2015/09/61616 |
กกต.แนะเปิดช่องให้ผู้ตัดสิทธิ ลต.ต่อสู้คดีใหม่ หากมีหลักฐานยันเป็นแพะ | แค่ความเห็นส่วนตัว สมชัย ชี้ที่ประชุม 5 เสือยังไม่ได้หารือ,เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่โรมแรมฮอลิเดย์ อินน์ จ.เชียงใหม่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เตรียมเสนอให้ กกต.ทำงานในรูปแบบของบอร์ด แทนการแบ่งงานเป็นด้าน ว่า ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นงานบริหาร หรืองานวินิจฉัยชี้ขาดคดีก็วินิจฉัยในรูปแบบของบอร์ดอยู่แล้ว ไม่เคยมีกฎหมายหรือระเบียบที่กำหนด กกต.ออกเป็นด้าน แต่ที่ผ่านมาที่มีการแบ่งการทำงานก็เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกในการบริหารงานเท่านั้น ส่วนกรณีที่เตรียมเสนอให้จัดเลือกตั้งในวันที่ 10 ธ.ค. 2560 ว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะจะเป็นการล่วงอำนาจ เนื่องจากต้องรอกระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งทุกอย่างมีกรอบเวลากำหนดไว้ทุกอย่างแล้ว ทั้งนี้ การกำหนดวันเลือกตั้งนั้นยังไม่แน่นอน ซึ่งคาดว่าเป็นเพียงการกำหนดโรดแม็ปที่จะต้องเตรียมความพร้อม ส่วนการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่ระบุอำนาจในการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือใบส้มนั้น การให้ใบส้ม กกต.สามารถพิจารณาได้ 2 ช่วง คือ ก่อนวันเลือกตั้ง หากพบการกระทำที่ส่อว่าทุจริตในการเลือกตั้ง และก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง หากพบว่ามีการทุจริต และเชื่อมโยงไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่แยกจากพิจารณาของศาลว่าจะให้ใบแดงกับผู้สมัครหรือไม่ เพื่ออุดช่องว่างก่อนการเลือกตั้ง เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการเลือกตั้งใหม่ ที่อาจจะสูญเสียงบประมาณ,เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านการอออกเสียงประชามติ กกต.ได้เสนอความเห็นในประเด็นสำคัญๆ อาทิ พนักงานสอบสวนของสำนักงาน กกต. เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจออกหมายเรียก ตรวจค้น ยึด หรืออายัดเอกสาร หรือพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย การคุ้มครองพยานในคดีเลือกตั้งและการกันบุคคลเป็นพยาน การจ่ายรางวัลนำจับกับผู้ชี้เบาะแส การเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดให้สูงขึ้น และให้อำนาจศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ และกำหนดให้ผู้ที่ไม่ชำระค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย นายบุญส่ง กล่าว,นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า ขอเสนอแนะไปยัง กรธ. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถึงประเด็นการกำหนดโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิตในคดีทุจริตเลือกตั้ง ว่า ขอเสนอแนะให้กำหนดเพิ่มเติมไปในกฎหมายของศาลยุติธรรม ว่าในคดีเลือกตั้งให้สามารถทบทวนคำพิพากษาของศาลที่ศาลได้พิจารณาไปแล้วได้ หากปรากฏว่ามีหลักฐานพยานใหม่ชัดเจนว่า ผู้ที่ถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตนั้น ถูกกลั่นแกล้งจากการเบิกความเท็จของพยาน เพราะถือว่าโทษดังกล่าวเป็นโทษที่มีความรุนแรง จึงควรให้สิทธิในการต่อสู้คดีอีกครั้งให้แก่ผู้ที่ถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต หากพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำผิดจริง,ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. มีการคาดการณ์วันเลือกตั้งทั่วไปว่า จะมีขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค. 2560 นั้นว่า เบื้องต้น การกำหนดวันดังกล่าวยังไม่มีการนำมาพิจารณาในที่ประชุม กกต. แต่เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลของนายสมชัยเท่านั้น | กกต.เตรียมชงร่าง ก.ม.เลือกตั้ง ให้ถอดชื่อผู้สมัครทันที ถ้าทำผิดก่อน ลต. แนะ กรธ.-สนช.เปิดช่องให้ผู้ถูกเพิกถอนเลือกตั้งต่อสู้คดีใหม่ หลังมีหลักฐานว่าเป็นแพะในคดีทุจริตเลือกตั้ง ด้าน ปธ.กกต. ชี้ 10 ธ.ค.60 ยังไม่ใช่วันเลือกตั้ง | null | เซตซีโร่ กกต.,บอร์ด กกต.,กกต.,บุญส่ง น้อยโสภณ,วินิจฉัยคดี,ชี้ขาดคดี,การเลือกตั้ง,ร่างรัฐธรรมนูญ,กำหนดวันเลือกตั้ง,โรดแม็ป,ตัดสิทธิเลือกตั้ง,ตัดสิทธิผู้สมัคร ลต.,คดีเลือกตั้ง,การกำหนดโทษ,เพิกถอนสิทธิ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/694470 |
เปิดใจ รัศมีแข โดน นิสิตสีชมพู ด่าแรงกะเทยควาย | ปากไม่ดีไปเรียบร้อยแล้ว ,เมื่อวานมีนิสิตกลุ่มหนึ่ง สีชมพู ว่าเรากะเทยควาย งง เด้, เป็นการดูถูกคุกคามทางคำพูดที่รุนแรงมาก ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นจากปากของนักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศ,แข รัศมีแข ได้เปิดใจตรงๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ สรุปใครด่าแข เป็นผู้หญิง กะเทย เกย์ หรือว่าผู้ชาย? เป็นแก๊งผู้ชาย 6 คน มีใส่หมวกด้วย เราจำได้หมด เหตุเกิดที่ไหนคะ? แถวๆ สามย่าน เราไปกินข้าวกับเพื่อน กำลังเดินกลับ นิสิตสีชมพูกลุ่มนี้ก็ด่าเรา พูดกะเทยควายเสร็จ มองหน้ากันแล้วก็ขำ เราก็อายนะที่เขาพูดจาแบบนี้,ด่าในระยะใกล้เลย? ประมาณ 3 เมตร พอดีเราเดินไปใกล้แล้วหูดีเลยได้ยิน เราก็ตะโกนสวนกลับไปเลยว่า กะเทยควาย ผู้ชายกลุ่มนั้นก็เลยเงียบ เรากำลังจะเดินเข้าไป แต่เพื่อนเราซึ่งก็เคยเป็นนิสิตเก่าของมหาลัยนี้ได้ห้ามเอาไว้ จริงๆ เราไม่สนใจก็ได้ เพราะเราก็มีภูมิต้านทานอยู่ในระดับหนึ่ง ใจแข็งในระดับหนึ่งเพราะโดนล้อมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว แต่ที่อยากจะเข้าไปพูดด้วย เพราะคิดว่าจริงๆ เขาควรได้รับบทเรียน แต่พอดีเพื่อนมาห้ามไว้ ไปกันเถอะ ก็เลยเดินหนีไปก่อน,มันไม่เกี่ยวกับสถาบัน อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วย อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่าค่ะ ตอนแรกก็เสียวๆ ที่โพสต์ไปว่านิสิตสีชมพู เพราะใครๆ ก็รู้ว่ามหาลัยไหน แต่เราโพสต์ไปเพื่ออยากให้รับรู้ว่า เฮ้ย มันมีคนแบบนี้ในมหาลัยคุณอยู่ มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอยู่จริง ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น,อยากจะฝากบอกอะไรกับคนกลุ่มที่ปากไม่ดี? เราอยู่ในสังคมต้องมีมารยาทต่อกัน เคารพกฎกติกาของสังคม คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาล้อใครแบบนี้ เราไม่รู้จักกัน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดจาแบบนี้กับเรา โอเค การนินทาหรือว่าร้ายใครทุกคนก็เคยพูดกันแหละ แต่ต้องดูให้ดีๆ ให้อยู่ในที่ลับตาคน ไม่ใช่โจ่งแจ้ง ไม่ใช่พูดกันในที่สาธารณะแบบนี้ นินทาให้ถูกที่ถูกทางด้วย,เรื่องภาพลักษณ์ของเรา ก็โดนล้อมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ครั้งนี้ เฮ้ย ทำไมนินทาดังและแรงแบบนี้ด้วย อย่างเราเป็นนักแสดงก็ให้เกียรติกับทุกคน ไม่เคยไปเหยียดใครก่อน ไม่เคยไปทำร้ายคนอื่นก่อน เราใช้ชีวิตปกติ ถ้าใครมีมารยาทมา เราก็มีมารยาทกลับไป แต่ถ้าใครไม่มีมารยาทมา เราก็สวนกลับไป ลองให้นึกว่าถ้าคนในครอบครัวของคุณ ต้องโดนด่าโดนนินทาแบบนี้ คุณจะสนุกมั้ย จะรู้สึกยังไง ที่ผ่านมาเราโดนล้อมาเยอะแล้ว ตอนนี้เราพร้อมแล้ว ที่จะสู้สุดชีวิตกับเรื่องการล้อที่ไม่โอเคแบบนี้., | ดาวตลกชื่อดัง มาดมั่นแรงด้วยบุคลิกที่ไม่เหมือนใครในปฐพี แข รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ไม่ไหวจะทน โพสต์ไอจีสะท้านมหาลัยชื่อดัง จวกเจ็บนิสิตสีชมพู | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แข รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น,รัศมีแข นิสิตสีชมพู,รัศมีแข โพสต์ไอจี,กะเทยควาย,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1211987 |
พิชัย เย้ย สมคิด หมดปัญญาต้องปั๊ม GDP เพราะ ศก.ส่อทรุด | เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความในทวิตเตอร์ของ นายสุทธิชัย หยุ่น ที่ปรึกษากองบรรณาธิการเครือเนชั่นที่อ้างว่า เป็นคำพูดของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีหน้าที่ปั๊มจีดีพี เรามีหน้าที่ปฏิรูป เรื่องปั๊มจีดีพีเป็นเรื่องรัฐบาลหน้า,นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดของนายสมคิด เนื่องจากทุกรัฐบาลต้องมีหน้าที่ดูแลจีดีพี เพราะจีดีพีเป็นตัวเลขหนึ่งในการวัดความสำเร็จในการบริหารประเทศทางด้านเศรษฐกิจ และเป็นเครื่องชี้ถึงความสุขของประชาชน หากอ้างว่ามาปฏิรูปซึ่งจับต้องไม่ได้ และที่ผ่านมาก็ไม่เห็นปฏิรูปอะไรได้ มีแต่ความเสื่อมทางเศรษฐกิจทั้ง การส่งออกทรุด และการลงทุนหดหาย ขนาดดิ้นรนแห่ไปญี่ปุ่น ญี่ปุ่นยังลงทุนลดลง 81% หรือแปลว่าเขาไม่มาลงทุนแล้ว ถ้าหากบริหารไม่ได้ก็ควรรีบจัดเลือกตั้งด้วยกติกาที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ประชาคมโลกจะได้ยอมรับ ประเทศจะได้เดินหน้าได้ ซึ่งเคยเตือนแต่แรกตอนปรับ ครม. แล้วว่าระวังคนเก่งๆ จะเสียคน และเชื่อว่าที่นายสมคิดต้องพูดแบบนี้เพราะต้นสัปดาหน้าจะมีประกาศจีดีพีปี 2558 ที่แย่แค่ 3% ก็จะยังไม่ถึง ทั้งๆ ที่อัดเงินเข้าไปเป็นแสนๆ ล้านบาท. | พิชัย โต้ สมคิด หลังลั่นรัฐบาลชุดนี้ไม่มีหน้าที่ปั๊มจีดีพี ชี้ที่พูดแบบนี้คงเพราะสัปดาห์หน้าจะมีประกาศจีดีพีปี 58 ที่แย่แค่ 3% ก็จะยังไม่ถึง | null | พิชัย นริพทะพันธุ์,อดีตรมว.พลังงาน,เฟซบุ๊กพิชัย,แนวคิดสมคิด,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,แชร์ข้อความสุทธิชัย หยุ่น,รัฐบาลปั๊มจีดีพี,จีดีพี58,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/576984 |
หรูหราอลังการแหวนหมั้น ริต้า ไม่ได้มีแค่ความใหญ่และไม่ใช่เพชรธรรมดา | เปิดต้นปีมาพร้อมกับงานหมั้นสุดหรูหราของนางเอกสาว ริต้า ศรีริต้า กับไฮโซหนุ่ม กรณ์ ณรงค์เดช พร้อมสินสอดและสักขีพยานอีกมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนสาวคนสนิทของทั้งคู่อย่าง แหวนแหวน ปวริศา ที่ได้มาร่วมงานและสาวแหวนแหวน ได้อธิบายแหวนเพชรเม็ดโตของสาวริต้าที่หนุ่มกรณ์ได้มอบให้ลงในอินสตาแกรมของตัวเองว่าAssher Cut Diamond นะฮ้าร์ ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายๆ กับเพชร Emerald Cut แต่จริงๆ แล้วเพชร Assher Cut นั้นจะดูมีประกายไฟมากกว่า เพราะมีส่วนบนของเพชร (Crown) ที่สูงกว่า มีหน้ากว้างกว่า และมีลูกเล่นขั้นบันไดที่ลึกกว่า การเล่นไฟจึงมาจากภายในตัวเพชรอย่างแท้จริง และมองแต่ละมุมจะไม่เหมือนกัน เหมือนกับริต้าที่พี่กรณ์บอกว่าเป็นคนที่มีหลากหลายมุมที่ไม่ซ้ำกันอยู่ด้วยยังไงก็ไม่เบื่อ คริๆๆๆๆ หวานแหววแถมวูบวาบตาพร่าไปเลยคร่ะ #RitaKorn | แหวนแหวน ปวริศา เพื่อนสนิทของ ริต้าและกรณ์ เผยความหรูหราอลังการของแหวนหมั้นทั้งคู่ ไม่ได้มีแค่ความใหญ่ และไม่ใช่เพชรธรรมดา | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ข่าวบันเทิง,ริต้า ศรีริต้า,กรณ์ ณรงค์เดช,ริต้า กรณ์ แต่งงาน,แหวนแหวน ปวริศา,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1743390 |
ผบก.ยะลาเผย คาร์บอมบ์โยงหลายคดี-สั่งเฝ้าระวังอีกคัน | ซุกซ่อนไว้ด้านหลังของรถยนต์ จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ไปจอดบริเวณหน้าร้านขายยาเอี่ยงไท้ไล้ เลขที่ 543 เยื้องกับแขวงการทางยะลา ถ.สิโรรส ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 จากนั้นได้กดชนวนระเบิดขึ้น ขณะรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหารพรานขับผ่าน จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด 4714 กรมทหารพรานที่ 47 ประจำฐานปฏิบัติการบ้านปะแต ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 นาย และยังมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน และประชาชนได้รับบาดเจ็บ อีกจำนวน 23 ราย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า เหตุคาร์บอมบ์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต จำนวน 1 ราย บาดเจ็บอีก 6 นาย ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บนับสิบราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD - ARMY) และกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าร่วมระดมผล เพื่อหาข้อมูลและสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการแบ่งมอบหน้าที่ในการติดตามขยายผล จากข้อมูลที่ได้ในที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่า สะเก็ดระเบิด และรูปแบบของการก่อเหตุจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ประกอบระเบิดด้วยถังแก๊สปิคนิก เหมือนกับการก่อเหตุคาร์บอมบ์ หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 13 ก.พ 2554 และเหตุจักรยานยนต์บอมบ์ หน้าร้านทองรุ่งอนันต์ ถนน ระนอง เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 21 ก.พ 2554 ซึ่งก็มีการเร่งรัดสืบสวนพยานต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้จังหวัด เพื่อเข้าไปเยียวยาผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ส่วนการสืบสวนขยายผล ชุดสืบสวนได้เข้าไปดูในข้อมูลเก่า ดูความเชื่อมโยงของคดี ดูถึงพฤติกรรมของคนร้าย รวมไปถึงกลุ่มของคนร้าย มีข้อมูลที่ตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มของผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุระเบิด เมื่อปี 52 และได้ประกันตัวไปในชั้นศาล และกำลังหลบหนีอยู่จำนวน 2 คน เข้ามาในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ก็ยังเป็นชื่อเก่าที่กำลังหลบหนีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็กำลังติดตามดูว่า เป็น 2 คนนี้หรือไม่อย่างไร ซึ่งในครั้งนี้ก็มีผู้ที่นำรถยนต์มาจอด และมีผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์มารอรับ ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาพยาน มีการหาพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งต้องใช้ภาพจากกล้องของเทศบาลนครยะลา ที่ติดอยู่ทั้งหมดกว่า 300 จุด ต้องมีการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทุกๆ จุด ต้องใช้เวลาพอสมควร ก็พบว่า รถยนต์คันที่เกิดเหตุคือรถยนต์ฮอนด้า รุ่น CIVIC แบบ 3 ประตู สีเทาดำ ได้วิ่งเข้ามาจอดตรงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 05.30 น.และก็พบว่าผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนจุดชนวนระเบิด ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน มารับผู้ที่นำรถยนต์มาจอด ขับมุ่งหน้าไปทางชุมชนตลาดเก่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น แต่ก็ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด สำหรับเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ กลุ่มที่ก่อเหตุมีรถยนต์ทั้งหมด จำนวน 5 คัน ประกอบด้วย 1. ใช้ก่อเหตุบริเวณหน้าร้านคาราโอเกะ กลางเมืองนราธิวาส เมื่อกลางดึกของวันที่ 19 ก.พ 2554 2. ใช้ก่อเหตุบริเวณแฟลต 5 ชั้น ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น แต่ก็ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 7 มี.ค 2554 3. ใช้ก่อเหตุปล้นร้านทอง บริเวณถนนบุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มี.ค 2554 จำนวน 1 คัน 4. ใช่ก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้าร้านขายยาเอี่ยงไท้ไล้ เลขที่ 543 ใกล้กับแขวงการทางยะลา ถนนสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.จำนวน 1 คัน ซึ่งในขณะนี้ก็ยังคงมีรถยนต์กระบะ ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอีก จำนวน 1 คัน คือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า รวมทั้งรถจักรยานยนต์ อีกจำนวนหนึ่งที่ถูกขโมยไป ซึ่งตนเองก็ได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไปแล้ว สำหรับมาตรการที่จะป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่า ในพื้นที่ของเทศบาลนครยะลา พื้นที่ 19 ตารางกิโลเมตร ถือว่ากว้างพอสมควร มีเส้นทางเข้าออกในเขตเมือง 23 ช่องทาง ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง มีการทุ่มเทกำลังในการป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่ ให้ประชาชนได้สนุกสนานในช่วงเทศกาลได้อย่างสบายใจ ซึ่งก็สามารถป้องกันไม่ให้มีเหตุเกิดขึ้นได้ จนกระทั่งเกิดเหตุคาร์บอมบ์ขึ้น เมื่อเกิดเหตุร้ายอย่างนี้ขึ้นตนเองก็มีความจำเป็นต้องขยายจุดปลอดภัย หรือ จุด Safety zone ไปยังถนนสิโรรส เพิ่มเติมจากจุดเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนในจุดเดิมที่มีการจัดโซน เป็นโซน Safety zone ก็ไม่ได้เกิดเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น จึงอยากฝากให้เจ้าของกิจการในย่านการค้าดังกล่าว มีความอดทน อาจจะไม่คล่องตัวเหมือนปกติ เพราะหากมีความสะดวกสบาย ช่องทางการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายก็จะเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์ | กรณีที่มีคนร้ายนำรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CIVIC แบบ 3 ประตู สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บค 5309 ยะลา (ป้ายทะเบียนปลอม) คนร้ายประกอบวัตถุระเบิดใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิก น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม | การเมือง,คุณภาพชีวิต,ความมั่นคง | ความมั่นคง,คาร์บอมบ์,ชายแดนใต้,เหตุความไม่สงบ | https://prachatai.com/journal/2011/04/34132 |
แห่แลกธนบัตรฉบับ 100 บาท ที่ระลึกพระเทพฯ 60 พรรษา | เมื่อวันที่ 2 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากต่อแถวแลกธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ วันที่ 2 เมษายน 2558 ชนิดราคา 100 บาท โดยธนาคารกำหนดให้แลก 1 คน ต่อ 1 ฉบับ เพื่อประชาชนได้รับอย่างทั่วถึงมากที่สุด โดยแต่ละสาขาจะได้รับการจัดสรรจาก ธนาคารแห่งประเทศไทยประมาณ 5 พันฉบับ มูลค่า 5 แสนบาท โดยที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ธนบัตรหมดอย่างรวดเร็วภายในเวลา 09.30 น.
ประชาชนบางรายมาเข้าแถวรอแลกธนบัตรตั้งแต่ 08.00 น. หลายคนดีใจมาก ที่ได้แลกธนบัตรเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไว้เป็นที่ระลึก,ส่วนที่อาคารไปรษณีย์กลาง เขตบางรัก เปิดจำหน่ายตราไปรษณียากรที่ระลึกชุด 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีประชาชนพากันมาจองซื้ออย่างคึกคัก
นายวาริก ไวระวัง ผู้จัดการฝ่ายไปรษณีย์นครหลวงใต้ กล่าวว่า ด้วยพระบารมีของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้การสะสมแสตมป์กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยคาดว่าประชาชนจะเข้ามาซื้อแสตมป์ที่ระลึกตลอดทั้งวัน โดยไปรษณีย์ไทย นำมาจำหน่ายทั้งหมด 500 ชุด กำหนดให้ประชาชนจองได้คนละ 1 ชุด ชุดละ 5 บาท,สำหรับความพิเศษของแสตมป์ชุดนี้ อยู่ที่การพิมพ์ภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลเสมือนจริง หรือ เออาร์ หากนำแอพพลิเคชั่น แสตมป์ อะไลฟ์ บนสมาร์ทโฟนไปสแกนจะได้รับชมวิดีโอเฉลิมพระเกียรติ ความยาว 2 นาที 30 วินาที ด้วย. | ประชาชนแห่แลกธนบัตรฉบับละ 100 บาท ที่ระลึก พระเทพฯ 60 พรรษา เป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่ไปรษณีย์ เปิดจำหน่ายตราไปรษณียากรที่ระลึกชุด 60 พรรษา สมเด็จพระเทพฯ พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลเสมือนจริง | null | สมเด็จพระเทพฯ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,60พรรษา,พระชนมายุ 5 รอบ,2 เมษายน,ธนบัตร 100 บาท,แลกแบงก์,ธนาคาร,ตราไปรษณียากร,แสตมป์ที่ระลึก,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/490656 |
หนาวนี้เตรียมไปซึ้งสนุก เทศกาลดนตรีที่สวนผึ้ง | ไอลมหนาว บรรยากาศสุดโรแมนติก ท่ามกลางขุนเขาสวยๆ พร้อมด้วยเสียงเพลงจากศิลปินสุดประทับใจไปกับเทศกาลดนตรี season of love song # 5 บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ ผู้จัดงาน การันตีความพร้อม ในการต้อนรับคนที่ชื่นชอบเทศกาลดนตรี เพราะจัดต่อเนื่องมา 5 ปี ,บรรยากาศในงานถูกจัดเตรียมให้รองรับนักท่องเที่ยวนับหมื่นในวันงาน ที่จะมาสัมผัสความสนุกสนาน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น วันที่ 29 พ.ย 2557 จนถึงตี 5 รุ่งเช้าของวันใหม่ ไฮไลต์ในปีนี้ ถ้าใครอยากเป็นส่วนหนึ่งในการจุดเทียนสี Light of Smile ที่ทำขึ้นพิเศษ ในงานนี้โดยเฉพาะ โดยได้ร่วมมือกับ บ้านหอมเทียน อ.สวนผึ้ง ในการเตรียมเนรมิตให้ลานคอนเสิร์ตสวยงามไปด้วยสีสันหลากสีที่ได้จากเทียนเพื่อสร้างรอยยิ้ม พร้อมเซอร์ไพรส์พิเศษ ตอนเที่ยงคืน แทนการปล่อยโคมคู่รัก ซึ่งรับรองความโรแมนติกไม่แพ้ทุกปีอย่างแน่นอน,ใครที่กำลังตัดสินใจ ห้ามพลาด เทศกาลดนตรี Season of Love Song Music Festival # 5 รักล้นจนอมยิ้ม วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ณ Veneto (ตลาดน้ำสวนผึ้ง) อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความประทับใจกับ 13 ศิลปิน ที่ชื่นชอบ นำโดย สิงโต นำโชค – Bedroom Audio – Mild – 25Hours – โรส ศิรินทิพย์ – Lipta – วัชราวลี – ปาล์มมี่ 2days ago kids – Tattoo Colour – P.O.P. – Scrubb – Slot Machine บัตรใบละ 1,300 บาท ส่วนใครที่หาที่พักไม่ได้ อาจจองเต็นท์พร้อมนอนภายในงานหลังละ 600 บาท หรือไม่ก็พื้นที่กางเต็นท์สนนราคา 400 บาท ได้ที่ ไทยทิคเกตเมเจอร์ ทุกสาขา. | กลับมาอีกแล้ว เทศกาลดนตรี season of love song # 5 ที่สวนผึ้ง ราชบุรี ไปเถอะไป รักล้นจนอมยิ้ม กับ 13 ศิลปิน ไปสัมผัสกลิ่น | null | season of love song,เทศกาลดนตรีสวนผึ้ง,มิวสิคเฟสติวัล,สิงโต นำโชค,Bedroom Audio,โรส ศิรินทิพย์,วัชราวลี,2days ago kids,ปาล์มมี่,Slot Machine,สวนผึ้ง ราชบุรี | https://www.thairath.co.th/content/465106 |
กลุ่มนักดนตรีเชียงใหม่จัด ร้องเพลงรอ หนุนเดินเลือกตั้ง 2 ก.พ. | กลุ่มนักดนตรีเชียงใหม่เพื่อเสรีภาพจัด ร้องเพลงรอเลือกตั้ง ข่วงประตูท่าแพ หนุนเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ฟังเสียงประชาชน ลดความรุนแรง28 ม.ค. 2557 เวลา 18.00 น. บริเวณข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มศิลปินในนาม กลุ่มนักดนตรีเชียงใหม่เพื่อเสรีภาพ ได้จัดกรรม ร้องเพลงรอเลือกตั้ง เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 โดยมีการร้องและเล่นดนตรีจากกลุ่มศิลปินนักดนตรีหลายกลุ่มในจังหวัดเชียงใหม่รูปแบบกิจกรรมในครั้งนี้มีการสลับกันเล่นดนตรีและอ่านบทกวี โดยมีวงดนตรีหลากหลายแนวเข้าร่วมกิจกรรม เช่น วงสุดสะแนน นายไปรษณีย์ วง paper space วงพู่กัน หรือกลุ่มแนวร่วมศิลปินปี่ซอพื้นบ้านเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย เป็นต้น นอกจากนั้นระหว่างกิจกรรมดนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ร่วมกิจกรรมยังได้มีการนำเทียนมาจุดและจัดวางเป็นรูปกากบาทในกรอบสี่เหลี่ยม เพื่อสื่อถึงสิทธิในการเลือกตั้ง โดยมีชาวเชียงใหม่ร่วมกิจกรรมราว 100 คน และมีนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาให้ความสนใจค่อนข้างมากอรุณรุ่ง สัตย์สวี นามปากกาของกวีและนักดนตรีวงสุดสะแนน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่างานนี้เริ่มมาจากการได้คุยกันสองสามคน แล้วรู้สึกร่วมกันว่าเราเป็นนักดนตรี เราน่าจะทำอะไรสักอย่างเล็กๆ ร่วมกัน ก็ส่งข่าวชวนเพื่อนฝูงที่เห็นร่วมกันมาจัดกิจกรรมดนตรีเล็กๆ โดยอยากจะบอกผู้คนว่ายังมีคนที่ต้องการเลือกตั้งอยู่ ในระหว่างที่มีคนบอกว่าควรจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่เราเห็นว่าคนที่จะมาปฏิรูปต้องเป็นคนที่ถูกเลือกโดยประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ใครก็ได้อรุณรุ่งเห็นว่าในตอนนี้ทางรัฐบาล กกต. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีวิธีป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมกับผลักดันการเลือกตั้ง และมีวิธีการปกป้องคนที่จะออกไปใช้สิทธิด้วย ไม่ใช่รัฐบาลนิ่งเฉยแบบในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา แล้วปล่อยให้ประชาชนเอาตัวรอดเอง โดยพื้นฐานการแก้ปัญหาความขัดแย้งถ้าไม่ได้เป็นไปตามระบบ จะยิ่งขัดแย้งกันมากขึ้น และอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง แต่การเลือกตั้งเป็นการให้ทุกๆ ฝ่ายที่ขัดแย้งกันอยู่เข้ามาใช้ระบบในการตัดสิน และจะลดความขัดแย้งลงได้ต่อปัญหาว่าแม้จะเลือกตั้งไป ความขัดแย้งก็ยังอยู่และตั้งสภาไม่ได้อยู่ดี อรุณรุ่งเห็นว่ามันเหมือนกับเชือก ถ้าเราเห็นขดเชือกมันยุ่งๆ อยู่ ถ้าเราบอกว่าแก้ปมนี้แล้วจะไปเจอปมนี้ ปมนี้ไปเจอปมนี้ แก้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าถอดใจไม่แก้เลย ปัญหามันก็จะกองอยู่ตรงนั้น แต่เราควรเลือกแก้ปมที่มันอยู่ตรงหน้าเราก่อน พอถึงปัญหาต่อไป ก็แก้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดปมในเชือกเสร็จนั้นมานพ เมืองพร้าว ช่างซอตัวแทนจาก กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นวิธีการเลือกผู้นำที่มาจากเสียงประชาชน เป็นวิธีการทราบเสียงปวงชนทั้งประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขความขัดแย้งในประเทศได้ ส่วนที่บอกว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น อยากถามว่าทำไมตอนที่ฝ่ายนั้นเป็นรัฐบาล จึงไม่ดำเนินการปฏิรูปหรือเสนอมาเลย ซึ่งเราก็รับฟัง ไม่ใช่ไม่ฟังเขา แต่กลับมาเสนอปฏิรูปตอนนี้ ทั้งที่เลือกตั้งไปแล้วจะดำเนินการปฏิรูปก็ได้มานพกล่าวว่าการรณรงค์เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยในตอนนี้ สมาชิกกลุ่มเห็นร่วมกันว่าปี่ซอพื้นบ้านสามารถนำมาใช้เป็นสื่อชนิดหนึ่ง ที่ใช้แพร่ขยายความคิดให้กับสังคมล้านนาได้ ศิลปินจึงนำภาษาเมืองมาร้องในเนื้อหาเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการรณรงค์ไปร่วมเลือกตั้ง และขับร้องเป็นเพลงซอ โดยมีสมาชิกช่างปีซอจากหลายจังหวัดในภาคเหนือเข้าร่วมด้วยอัครพงศ์ ศรีเสน่ห์ นักดนตรีวง paper space กล่าวว่าได้ทราบข่าวจากพี่นักดนตรี แม้ก่อนหน้านี้จะไม่เคยร่วมกิจกรรมใดๆ มาก่อน แต่เห็นว่าคราวนี้ต้องมาร่วม เพื่อแสดงออกให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก เพราะหากไม่มีการเลือกตั้ง เป็นไปได้ว่าอาจมีความรุนแรงหรือการตายเยอะขึ้น เลยคิดว่าต้องร่วมกันรักษาสิทธิตรงนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ นักดนตรีคงเป็นได้แค่กระบอกเสียงที่มาทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลขึ้น แม้เสียงเพลงจะแค่วันนี้ พรุ่งนี้ก็ผ่านไปแล้ว แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้เขียนเพลงถึงความคิดอุดมการณ์ที่เรามี โดยตนเองเลือกนำเพลงที่เขียนเองชื่อว่า เสรีภาพของนก มาร้องในงานนี้ | กลุ่มนักดนตรีเชียงใหม่เพื่อเสรีภาพจัด ร้องเพลงรอเลือกตั้ง ข่วงประตูท่าแพ หนุนเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ฟังเสียงประชาชน ลดความรุนแรง 28 ม.ค. 2557 เวลา 18.00 น. | การเมือง,วัฒนธรรม | การเลือกตั้ง,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,การเลือกตั้งทั่วไป 2557,เชียงใหม่ | https://prachatai.com/journal/2014/01/51474 |
สวยเด็ด นางแบบอาร์เจนฯ คัมแบ็กโชว์เดาะบอลยั่วใจ (ชมคลิป) | (ภาพจาก http://futbolete.com/),กลับมาทำให้คอบอลหนุ่มๆ ใจสั่นอีกครั้ง สำหรับ ฟิออเรนญา กัสติโญ นางแบบสาวสวยจากแดน ฟ้า-ขาว ที่มาโชว์ลีลาเดาะบอลบนรองเท้าส้นสูง หลังเคยสร้างชื่อระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ บราซิล…,สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 9 ธ.ค. ว่า ฟิออเรนญา กัสติโญ นางแบบสาวสวยจากอาร์เจนตินา กลับมาทำให้หนุ่มๆ ฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการโชว์เทคนิคเดาะบอลแบบฟรีสไตล์บนรองเท้าส้นสูง,นางแบบสาววัย 24 ปี เป็นที่รู้จักของคอลูกหนังในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล หลังจากคลิปวิดีโอที่เธอโชว์ทักษะการเดาะบอลดวลกับผู้ชายบนชายหาด อิปาเนมา ของบราซิล และคลิปที่เธอใส่ส้นสูงเดาะบอล ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกอินเทอร์เน็ต,ล่าสุด นางแบบสาวรายนี้ก็กลับมาโชว์ทักษะลูกหนังบนรองเท้าส้นสูงอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากจำนวนยอดวิวบน ยูทูบ ที่พุ่งทะลุเกิน 26,000 วิว หลังจากที่มีการอัพโหลดคลิปไปในภายในเวลาไม่กี่วัน,สำหรับ กัสติโญ ค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของตัวเองเป็นอย่างมากจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนหน้านี้ ว่าเธอเคยเดาะบอลเอาชนะผู้ชาย 800 คน บนชายหาดอิปาเนมา แถมยังเคยโค่น ลิโอเนล เมสซี จอมทัพของทีม ฟ้าขาว อาร์เจนตินา ในดวลลูกหนังแบบฟรีสไตล์มาแล้ว,คลิปผลงานล่าสุด,คลิปผลงานในอดีต | กลับมาทำให้คอบอลหนุ่มๆ ใจสั่นอีกครั้ง สำหรับ ฟิออเรนญา กัสติโญ นางแบบสาวสวยจากแดน ฟ้า-ขาว ที่มาโชว์ลีลาเดาะบอลบนรองเท้าส้นสูง หลังเคยสร้างชื่อระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ บราซิล…
| null | ฟิออเรนญา กัสติโญ,อาร์เจนตินา,เดาะบอล,นางแบบ,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/468129 |
12 จังหวัด เตรียมรับมือน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม | วันนี้ (18 ส.ค.2562)นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับกรมทรัพยากรธรณีประกาศให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ในช่วงวันที่ 17-20 ส.ค.62จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย 12 จังหวัด ดังนี้จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ขุนยวม แม่สะเรียง แม่ลาน้อย ปาย สบเมย)จ.เชียงราย (อ.แม่จัน แม่สรวย แม่ลาว เวียงป่าเป่า)จ.พะเยา (อ.เชียงม่วน เชียงคำ ปง)จ.แพร่ (อ.สอง ลอง วังชิ้น ร้องกวาง)จ.น่าน (อ.เมืองน่าน บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ เวียงสา เชียงกลาง ท่าวังผานาน้อย นาหมื่น ปัว ทุ่งช้าง สันติสุข แม่จริม บ้านหลวง)จ.อุตรดิตถ์ (อ.บ้านโคก ท่าปลา น้ำปาด)จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ)จ.นครนายก (อ.เมืองนครนายก)จ.ตราด (อ.บ่อไร่ คลองใหญ่)จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์)จ.พังงา (อ.เมืองพังงา กะปง ตะกั่วป่า ท้ายเมือง)และ จ.ตรัง (อ.นาโยง)ทั้งนี้ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่และเครือข่ายอาสาสมัครภาคประชาชนทั้งมิสเตอร์เตือนภัย อปพร. ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่กับการจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีสถานการณ์มีแนวโน้มวิกฤต ให้สั่งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทาง สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป | กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 12 จังหวัด เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือ น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 17 - 20 ส.ค.นี้ | ภูมิภาค | ฝนตกหนัก,น้ำป่าไหลหลาก,ปภ. | https://news.thaipbs.or.th/content/283034 |
ทีมเมอร์เซเดส จีพี ยังหนุนเอฟวัน | หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ทีม เฟอร์รารี และ ทีม เรด บูลล์ 2 ทีมดังจากการแข่งขัน รถสูตร 1 ชิงแชมป์โลก หรือว่า ฟอร์มูล่า วัน ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกของ สมาคมทีมแข่งเอฟวัน หรือ F.O.T.A. เนื่องจากความขัดแย้งในข้อตกลงเกี่ยวกับการจำกัดงบประมาณการทำทีม หรือที่เรียกกันว่า RRA ทำให้ตอนนี้ สมาคมทีมแข่งเอฟวัน เหลือทีมสมาชิกเพียงแค่ 9 ทีมจาก 12 ทีม เท่านั้น ได้แก่ แม็คลาเรนเมอร์เซเดส จีพีโลตัส-เรโนลต์ วิลเลียมส์โตโร รอสโซฟอร์ซ อินเดีย เซาเบอร์ชาเตอร์แฮม และ มูราเซีย เอฟวันโดยนาย นิค ฟราย ซีอีโอของทีม เมอร์เซเดส จีพี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เป้าหมายของเราคือการหาข้อสรุปเรื่องงบประมาณทำทีมทั้งทีมเล็ก และทีมใหญ่ให้ออกลงตัวที่สุด แต่การเจรจาที่จะให้ทุกฝ่ายพอใจนั้นไม่ใช่เรื่อวง่าย อย่างไรก็ดีขอยืนยันว่าจะสนับสนุนนโยบายควบคุมงบประมาณในฟอร์มูลา วัน ต่อไปสำหรับที่ผ่านมา สมาคมทีมแข่งเอฟวันประสบความสำเร็จอย่างดีในเรื่องข้อตกลงเรื่องงบประมาณทำทีม ซึ่งออกกฎมาบังคับทีมเป็นระยะๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นทีมงานสตาฟฟ์ หรือ การวิจัยเกี่ยวกับ หลักอากาศกลศาสตร์ แต่หลังจากมีข่าวลือที่ทีมเรดบูลล์ เรซซิ่ง แอบใช้งบเกินกำหนดเมื่อปี 2010 ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในสมาคมทีมแข่งเอฟวัน เป็นต้นมานอกจากนี้ ในส่วนของการเปิดตัวรถแข่งคันใหม่เวอร์ชันปี 2012 ของทีม เมอร์เซเดส จีพี มีการยืนยันจากนายรอสส์ บรอว์นว่า ทีมจะไม่รีบร้อนเปิดตัวรถ MGP W03 ของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ และนิโค รอสเบิร์กแต่อย่างใด โดยวางแผนจะพัฒนารถให้ถึงที่สุดก่อนเปิดตัวในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีหน้าที่สนามคาตาลุนญา เซอร์กิต ประเทศสเปน | ทีมเมอร์เซเดส จีพี ยังคงให้การสนับสนุนการทำงานของสมาคมทีมแข่งเอฟวัน ต่อไป แม้ว่าทีม เฟอร์รารี และทีม เรดบูลล์ เรซซิง จะถอนตัวจากการสนุบสนุนไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา | กีฬา | เมอร์เซเดส,เอฟวัน | https://news.thaipbs.or.th/content/51204 |
คูตัวร์ การันตี ฟัลเกา ดีพอสำหรับ เชลซี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 14 มิ.ย.ว่า ติโบต์ คูตัวร์ ผู้รักษาประตูร่างโย่งชาวเบลเยียมของทีมเชลซี แชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ออกโรงการันตีว่า ราดาเมล ฟัลเกา มีดีพอสำหรับการย้ายทีมร่วมทีมมหาเศรษฐีแห่งกรุงลอนดอนในฤดูกาลหน้า เพื่อพิสูจน์ตัวเองในฐานะสุดยอดดาวยิงคนหนึ่งของโลก แม้จะล้มเหลวจากการย้ายไปร่วมทีม ปิศาจแดง เมื่อปีที่ผ่านมาก็ตาม,กองหน้าทีมชาติโคลอมเบีย วัย 28 ปี ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในการยืมตัวไปลงเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างที่ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ของทีมปิศาจแดงคาดหวัง อีกทั้งยังพกพาอาการบาดเจ็บมาด้วย ทำให้ต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่บ่อยครั้ง,แต่อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว เดลี เมล์ เผยว่า ติโบต์ คูร์ตัวร์ นายทวารมือหนึ่งของทีมสิงโตน้ำเงินคราม ได้ออกมาชี้ว่า อดีตหัวหอกเพื่อนร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด มีดีพอที่จะสวมเสื้อทีมเชลซีลงสนามในฤดูกาลหน้า หลังมีข่าวว่าเจ้าตัวพร้อมย้ายมาพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เนื่องจาก โชเซ มูรินโญ และ ราดาเมล ฟัลเกา มีเอเย่นต์คนเดียวกัน ทำให้มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นและใกล้ชิด จึงมีความเป็นไปได้สูงในการย้ายทีมครั้งนี้,ผมไม่ทราบอะไรเลยเกี่ยวกับการซื้อขายตัวผู้เล่นภายในทีม แต่แน่นอนว่าผมรู้จัก ฟัลเกา เป็นอย่างดี เขาเป็นคนดี และเป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมมาก ถ้าหากเขาย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลหน้าก็คงดีไม่น้อย ผมเชื่อว่าเขามีดีพอสำหรับการสวมเสื้อเชลซีลงสนาม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดการทีมและสโมสร คูร์ตัวร์ กล่าว. | ติโบต์ คูตัวร์ เชื่อมั่นว่า ราดาเมล ฟัลเกา มีดีพอที่จะย้ายมาสวมเครื่องแบบของทีมเชลซีในฤดูกาลหน้า แม้จะล้มเหลวกับการยืมตัวกับทีมปิศาจแดงเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม | null | ติโบต์ คูตัวร์,ราดาเมล ฟัลเกา,เชลซี,โชเซ มูรินโญ,พรีเมียร์ลีก,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แอตเลติโก มาดริด,ย้ายทีม,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/504978 |
3 ส.ส.หญิง รับหนังสือรับรอง เดินหน้าแก้ปากท้องอันดับแรก | วันนี้ (29 พ.ค.2562) เวลา 09.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) น.ส.จิตภัสร์ กฤดากรผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ทางกกต.ประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการน.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่ารู้สึกดีใจ และขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนจะตั้งใจทำหน้าที่ ส.ส. ในสภา เพื่อตอบแทน และเป็นการขอบคุณประชาชนส่วนในโลกโซเชียล ถึงกรณีแฮชแท็ก #ตั้นพันเจ็ด ที่ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์นั้น ส่วนตัวกังวลหรือไม่ น.ส.จิตภัสร์ บอกว่า ไม่ทราบ และไม่ได้ติดตาม เพราะยุ่งกับการประชุมพรรค พร้อมทิ้งท้ายว่า จะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ก่อนขอตัวเดินทางไปรายงานตัวที่รัฐสภาใหม่ทันทีต่อมา เวลา 10.00 น.น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสีหรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 19 พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมารับหนังสือรับรองการเป็นส.ส. ระบุดีใจ และจะตั้งใจทำหน้าที่ในสภาให้ดีที่สุด ซึ่งอยากขับเคลื่อนนโยบายด้านกีฬา และเทคโนโลยี ที่ตนเองถนัดพร้อมระบุถึงการเป็นผู้หญิงที่ต้องเข้าไปทำงานในสภา ไม่ได้กังวล เพราะพรรคพลังประชารัฐ ถือว่ามีสัดส่วนส.ส.หญิงมากที่สุดถึง 23 คน และไม่กังวลหากในอนาคต กกต. จะมีการคำนวณสัดส่วนปาตี้ลิสต์ใหม่ และทำให้ต้องพ้นจากความเป็น ส.ส. เพราะอยู่ในวงการกีฬามา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญส่วนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ในขณะนี้ ยอมรับว่า เป็นธรรมดาของพรรคใหม่ ที่จะต้องมีการพูดคุยและเจรจาในเรื่องของตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ขอปฏิเสธว่า จะไม่มีการใช้เรื่องของการ โหวตนายกรัฐมนตรีไปก่อน เพื่อกดดันพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งได้ดูคำสำคัญของนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ก็ไม่ได้หมายความไปในทิศทางที่ว่าให้เลือกนายกรัฐมนตรไปก่อนแล้วจะยุบสภาทีหลังส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาโจมตีว่าพรรคพลังประชารัฐนั้น มีปัญหาภายใน ในการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น ยอมรับว่าพรรคพลังประชารัฐ ก็มีปัญหาภายในจริง ซึ่งเป็นธรรมดาของพรรคการเมืองน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ดีใจที่ประชาชนให้ความไว้วางใจโหวตคะแนนให้เป็น ส.ส.อย่างท่วมท้น ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ประชาชนอย่างดีที่สุดภารกิจที่จะทำให้ประชาชน คือการผลักดันปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง หนี้สิ้น ให้ได้รับการแก้ไขรับการจัดสรรงบประมาณ พร้อมกันนี้ฝากถึง ส.ส.ทุกคนให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดน.ส.ศรีนวล ระบุด้วยว่า หากเป็น ส.ส.พรรคฝ่ายค้านก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เพราะด้วยประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ได้ทำความดี และรับความไว้วางใจจากประชาชน ย้ำที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าหาผู้ใหญ่ที่คอยดูแล ฝากยังผู้มีอำนาจด้วยว่า อย่ามองประเด็นการสังกัดพรรคที่ต่างกัน และขอให้มองที่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักพร้อมกันนี้ปฏิเสธข่าวที่แชร์ผานสื่อโซเชียลที่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคให้ ส.ส.กู้เงินเพื่อไปหาเสียง 3 ล้านบาท โดยยืนยันว่าส่วนตัวใช้งบประมาณของตัวเอง ไม่มีการกู้ยืมแต่อย่างใด และย้ำว่าทุกคะแนนที่ได้มาเป็นคะแนนที่บริสุทธิ์ไม่มีการซื้อเสียง และที่ลงสมัคร ส.ส.มีอุดมการณ์ทางการเมืองเดียวกับนายธนาธรอ่าน | ศรีนวล-ตั๊น-มาดามเดียร์ 3 ส.ส.หญิงเข้ารับหนังสือรับรองการเป็นส.ส.แล้ว ระบุพร้อมทำหน้าที่ตามความถนัดช่วยพัฒนาประเทศ ขณะที่มาดามเดียร์ ยอมรับมีปัญหาภายในพรรคจริง แต่เป็นเรื่องปกติ ส่วนส.ส.พรรคอนาคตใหม่ วอนผู้นำเลิกทะเลาะกันแต่แก้ความเดือดร้อนประชาชน | การเมือง | เลือกตั้ง62,พรรคประชาธิปัตย์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/280445 |
กลุ่มนักอนุรักษ์-ภาคประชาชน คัดค้านถนนขึ้นพะเนินทุ่ง | วันนี้ (11 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักอนุรักษ์และภาคประชาชนในพื้นที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ร่วมกันจัดกิจกรรม ถนนในป่าอนุรักษ์ ความพอดีอยู่ตรงไหน เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตสายบ้านกร่าง-พะเนินทุ่ง ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยกลุ่มนักอนุรักษ์ยอมรับในความจำเป็นของการปรับปรุงถนนให้มีความปลอดภัย แต่ไม่เห็นด้วย หากอุทยานฯ จะปรับปรุงถนนทั้งเส้น ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตรเป็นคอนกรีต เพื่อขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งถือเป็นใจกลางป่าแก่งกระจานที่อุดมสมบูรณ์ทางกลุ่มจึงยืนยันในข้อเสนอให้ปรับปรุงถนนเฉพาะจุดเสี่ยงที่จำเป็น มากกว่าการปรับปรุงตลอดทั้งเส้น โดยเชื่อว่าสภาพเดิมของถนนที่มีความยากลำบากในบางช่วง ถือเป็นจุดคัดกรองไม่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปรบกวนธรรมชาติจนเสียสมดุล เหมือนอุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่ง ที่ความสะดวกสบายของถนน ส่งผลสัตว์ป่าได้รับอันตรายล่าสุด มีความพยายามหาทางออกเรื่องนี้ โดยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งชะลอโครงการสร้างถนนคอนกรีตขึ้นเขาพะเนินทุ่ง จนกว่าจะได้ข้อยุติร่วมกันจากทุกฝ่าย และในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ส่งหนังสือเชิญทั้งฝ่ายสนับสนุน คัดค้าน และผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่แก่งกระจาน ร่วมประชุมรับฟังความเห็น และชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการ เพื่อนำไปสู่การหาทางออกร่วมกัน ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานสำหรับโครงการปรับปรุงถนนขึ้นเขาพะเนินทุ่ง มีมูลค่า 80 กว่าล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงถนนเดิมที่เคยสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ แต่ปัจจุบันเกิดความชำรุดทรุดโทรมมาก เป็นอุปสรรคทั้งต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว และการส่งกำลังลาดตระเวนเข้าพื้นที่ของ จนท.อุทยานฯ เพื่อดูแลความมั่นคงตามตะเข็บชายแดนแต่โครงการดังกล่าวถูกมองจากกลุ่มอนุรักษ์ว่าอาจทำให้เกิดการรบกวน หรืออุบัติเหตุแก่สัตว์ป่าจำนวนมากในระหว่างก่อสร้าง และจากนักท่องเที่ยวที่อาจเพิ่มขึ้นหลังจากถนนแล้วเสร็จ ซึ่งบริเวณพื้นที่ป่าแก่งกระจาน โดยเฉพาะพะเนินทุ่ง ถือเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ | กลุ่มนักอนุรักษ์และภาคประชาชนในพื้นที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ร่วมกันจัดกิจกรรม ถนนในป่าอนุรักษ์ ความพอดีอยู่ตรงไหน เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตสายบ้านกร่าง-พะเนินทุ่ง | สิ่งแวดล้อม | พะเนินทุ่ง,เขาพะเนินทุ่ง,แก่งกระจาน,อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน,ป่าแก่งกระจาน,สัตว์ป่า,เพชรบุรี,ปรับปรุงถนน,มรดกโลก,กลุ่มนักอนุรักษ์,ภาคประชาชน,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/275632 |
14เขตเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า บางรัก ปทุมวันฯ-ป้ายเต็มเมืองแต่ภาษีป้ายไม่ตามเป้า | เมื่อวันที่ 23 ก.ค.58 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายกฤษฎา กลันทานนท์ รองปลัด กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมกับหัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต 50 เขต ว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานสถิติการจัดเก็บรายได้ในภาพรวม ซึ่งขณะนี้ยอดรายรับของ กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557-15 ก.ค.2558 จัดเก็บได้ดังนี้ รายได้ที่ กทม. จัดเก็บเอง ประมาณการไว้ 13,685 ล้านบาท เก็บได้ 14,678 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 107.26 ขณะที่ รายได้ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ ประมาณการไว้ 51,315 ล้านบาท เก็บได้ 41,503 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80.88 รวมยอดประมาณการรายรับ 65,000 ล้านบาท จัดเก็บได้ 56,181 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 89.43,นายกฤษฎากล่าวว่า สำหรับภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ และภาษีป้าย ใน 3 ไตรมาส ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557-30 มิ.ย.2558 ในภาพรวม สามารถจัดเก็บได้ดังนี้ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีกำหนดเป้าหมาย 11,132 ล้านบาท จัดเก็บได้ 9,356.24 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84.05 ภาษี บำรุงท้องที่ กำหนดเป้าหมาย 133 ล้านบาท จัดเก็บ ได้ 118.04 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88.75 ภาษีป้าย กำหนดเป้าหมาย 783.50 ล้านบาท จัดเก็บได้ 709.69 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 90.58 ทั้งนี้คาดว่า ที่เหลืออีกหนึ่งไตรมาสจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งขณะนี้มีสำนักงานเขตที่สามารถจัดเก็บ ได้เกินเป้าหมายแล้ว 36 เขต ส่วนอีก 14 เขต จัดเก็บ ได้ต่ำกว่าเป้า ซึ่งสำนักงานเขตที่จัดเก็บได้สูงสุดเทียบกับเป้าหมาย 10 อันดับ ได้แก่ เขตทวีวัฒนา หนองจอก ราษฎร์บูรณะ มีนบุรี บางพลัด บางกอกน้อย ลาดกระบัง วัฒนา ดุสิต และพระนคร ส่วนสำนักงานเขตที่จัดเก็บได้ต่ำสุดเมื่อเทียบกับเป้าหมาย 10 อันดับ ได้แก่ หลักสี่ จตุจักร คลองสาน ดินแดง ทุ่งครุ บางรัก ปทุมวัน บางขุนเทียน คันนายาว และบางแค ทั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักงานที่เก็บรายได้ ต่ำกว่าเป้า เข้มงวดการจัดเก็บรายได้ให้ได้ตามเป้า โดยเร็ว โดยเฉพาะป้ายโฆษณาให้เช่าคอนโดมิเนียม ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก รวมทั้งภาษีบำรุงท้องที่จากการให้เช่าคอนโดมิเนียม ซึ่งปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้สำนักงานเขต ที่ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรายได้ยังว่างอีก 17 เขต ให้ปฏิบัติงาน อย่างเต็มที่ไม่ให้บกพร่อง. | ในที่ประชุมได้มีการรายงานสถิติการจัดเก็บรายได้ในภาพรวม ซึ่งขณะนี้ยอดรายรับของ กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557-15 ก.ค.2558 จัดเก็บได้ดังนี้ รายได้ที่ กทม. จัดเก็บเอง ประมาณการไว้ 13,685 ล้านบาท เก็บได้ 14,678 ล้านบาท คิดเป็น | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวกทม.,ข่าว,กฤษฎา กลันทานนท์,การจัดเก็บรายได้,เก็บภาษี,ต่ำกว่าเป้า,ภาษีป้ายไม่ตามเป้า,ภาษีโรงเรือนและที่ดิน,ภาษีบำรุงท้องที่,ภาษีป้าย | https://www.thairath.co.th/news/local/513749 |
กรรมการสิทธิฯ วอน รบ.รักษาพื้นที่เลือกตั้งเป็นกรณีพิเศษ | นี้ เรียกร้องให้รัฐฐาลต้องมีมาตรการป้องกันมิให้เกิดความรุนแรง เรียกร้องผู้จัดชุมนุมต้องปฏิบัติภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย เรียกร้องห้รัฐบาลและกกต.ทำความเข้าใจประชาชนว่าการเลือกตั้งดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลศาลรัฐธรรมนนูญ และเป็นหน้าที่ของประชาชน เรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่เป็นความจริงปราศจากอคติ รวมทั้งรัฐและผู้จัดการชุมนุมต้องให้หลักประกันความปลอดภัยของสื่อด้วย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเร่งดำเนินการสืบสวน และสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดในการก่อความรุนแรงต่างๆมาดำเนินคดีเพื่อลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว รวมไปถึงรัฐบาลต้องดูแลเยียวยาผู้เสียหาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เสียชีวิตจากกรณีเหล่านั้นทุกฝ่ายโดยมีหลักเกณฑ์มาตรฐานชัดเจนด้วย เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมโดยมีรายละเอียดดังนี้สืบเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมืองของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมในสถานที่ต่างๆ โดยยึดหลักความเป็นกลาง อิสระ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนทุกฝ่าย ไม่เลือกปฏิบัติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดแนวทางสันติในการแก้ปัญหา เคารพสิทธิซึ่งกันและกันมาโดยตลอดจากการประชุมร่วมระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยประธานกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 เพื่อหารือการดำเนินการเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามข้อวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผลการปรึกษาหารือร่วมกันดังกล่าว มีข้อสรุปว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปที่กำหนดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ยังคงยืนยันตามพระราชกฤษฎีกาฯ ที่กำหนดไว้เดิมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทราบและเข้าใจสาเหตุการรวมกลุ่มชุมนุมและข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เกิดขึ้นเรื่อยมา นับตั้งแต่การคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม จนกระทั่งการประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้า โดยกลุ่มผู้ชุมนุมให้เหตุผลว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ยอมรับว่าหากรัฐภาคีใด ไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมแล้ว ประชาชนของรัฐภาคีนั้น ย่อมสามารถพึ่งวิถีทางสุดท้าย คือ การลุกขึ้นต่อต้านความอยุติธรรม อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขัดขวางประชาชนจนไม่สามารถไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ รวมถึงการประกาศให้มีการคัดค้านหรืออาจมีการกระทำที่เป็นการขัดขวางมิให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนแก่ทุกฝ่ายเกี่ยวกับการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุม และการใช้อำนาจของรัฐเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงมีข้อห่วงใยและข้อกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง กรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนคำนึงและสมควรดำเนินการตามข้อที่ควรปฏิบัติ ดังนี้1. รัฐบาลต้องมีมาตรการป้องกันมิให้เกิดความรุนแรง ไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบกับผู้ชุมนุม และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องปรามมิให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก ผู้จัดการชุมนุมต้องดูแลการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุม และต้องปฏิบัติภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ โดยจะต้องหลีกเลี่ยงและป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นอีกรัฐบาลและผู้จัดการชุมนุมต้องร่วมกันในการสร้างระบบการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุม ตลอดจนต้องกำหนดมาตรการต่างๆ ในการเฝ้าระวัง หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และป้องปรามผู้ไม่หวังดีที่ก่อสถานการณ์ความรุนแรง2. รัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการอำนวยความสะดวกต่อประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์ในการทำหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้เป็นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 72 และขณะเดียวกันรัฐบาลต้องรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในการใช้เสรีภาพในการชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 633.รัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ควรทำความเข้าใจต่อประชาชนให้เข้าใจถึงการดำเนินการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ว่าได้ดำเนินการไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นว่าการปรึกษาหารือร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินการกระบวนการเลือกตั้งของรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นวิธีการที่จะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบ หากมีข้อขัดข้อง หรือมีอุปสรรคใดๆ ที่คาดว่าจะมีผลกระทบรุนแรงต่อการเลือกตั้ง รัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้งควรได้มีการเจรจา และประชุมเพื่อหารือร่วมกัน เป็นระยะๆ มีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องก่อนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง และประเทศชาติเกิดความเสียหายจากการนี้4. สื่อมวลชนต้องนำเสนอข่าวที่เป็นความจริง ปราศจากอคติ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและต้องเป็นการสร้างสรรค์ ช่วยให้สังคมเกิดความสันติ อีกทั้ง รัฐบาลและผู้จัดการชุมนุมต้องรับผิดชอบในหลักประกันความปลอดภัยต่อการทำงานของสื่อมวลชนในที่ชุมนุม และในบริเวณหน่วยเลือกตั้ง5. รัฐบาลต้องกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการสืบสวน และสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีเพื่อลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง บริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง บริเวณถนนบรรทัดทอง บริเวณวัดศรีเอี่ยม บริเวณห้าแยกลาดพร้าว บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต ที่มีการใช้ความรุนแรงที่มีการสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สิน ตามกฎหมาย ด้วยความโปร่งใส เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และมีความไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแถลงให้ประชาชนได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง และความคืบหน้าให้สาธารณชนได้รับรู้เป็นระยะโดยเร็ว6. รัฐบาลจะต้องให้การดูแลรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ การเยียวยาผู้เสียหาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เสียชีวิตจากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้เป็นมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม โดยการให้หลักประกันว่าจะให้ความเป็นธรรมและเยียวยาทุกฝ่าย ทั้งในรูปเงินช่วยเหลือ การฟื้นฟู การช่วยเหลืออื่น ๆ และการเยียวยาด้านจิตใจโดยไม่เลือกปฏิบัติทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตไว้เป็นข้อมูลเพื่อให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา ทั้งในรูปตัวเงิน การดูแลด้านจิตใจ และการช่วยเหลืออื่นๆ ต่อไปคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายได้ใช้สติโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก หยุดการเผชิญหน้าและหยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทางออกที่ดีที่สุดคือกลับมาสู่การเจรจาโดยเร็วเพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย | 29 ม.ค.2557 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ข้อห่วงใยและข้อกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง กรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กปปส.,การชุมนุม,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) | https://prachatai.com/journal/2014/01/51490 |
ตร.ท่องเที่ยว ตรวจความเรียบร้อย ถ.ข้าวสาร หลังมีชาวต่างชาติถูกทำร้าย | เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 ส.ค. 59 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ทท. และสน.ชนะสงคราม ร่วมกันเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณถนนข้าวสาร และตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าโรงแรมบัดดี้ ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. จนมีผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้และเผยแพร่ลงโลกโซเชียล จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา,พ.ต.ท.นิติธร กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 14 ต่อเนื่องวันที่ 15 ส.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 4 คน ถือขวดเบียร์พยายามเข้าไปในบาร์ของโรงแรม แต่การ์ดของร้านไม่อนุญาตเนื่องจากมีกฎว่าห้ามนำขวดเบียร์จากภายนอกเข้ามา จึงให้รออยู่ที่หน้าร้าน จากนั้นทางกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอาการเมาสุราจึงเข้าไปในห้องน้ำแล้วสาดเบียร์ในห้องน้ำ รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่น การ์ดจึงพยายามพาออกไปจากพื้นที่ โดยมีการยื้อยุดและด่าทอเป็นถ้อยคำหยาบคายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก่อนจะเกิดเหตุทำร้ายร่างกายหน้าโรงแรมดังกล่าว,ทั้งนี้ เมื่อเห็นเหตุการณ์ผ่านคลิปที่มีการเผยแพร่ จึงเดินทางมาตรวจสอบ ทราบว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้เข้ามาระงับเหตุและให้นักท่องเที่ยวไปแจ้งความที่โรงพักทันที พร้อมจับกุมการ์ดของร้านจำนวน 2 คน ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท ทางศาลตัดสินให้รอลงอาญา 1 ปี และทางร้านจ่ายค่าชดเชยให้กับนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน คนละ 10,000 บาท ซึ่งทางนักท่องเที่ยวก็เที่ยวต่อในประเทศไทยอีก 6 สัปดาห์ ส่วนการ์ดของร้านที่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ทางร้านก็ไล่ออกทันที ,ส่วนนักท่องเที่ยวถูกทำร้าย 2 คน ทราบชื่อ นายอาร์มันโด โรดิเกวซ และ นายฌอน อังฟรีต สัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและลำตัว เบื้องต้นนำตัวส่ง โรงพยาบาลอาการปลอดภัย ขณะผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ สน.ชนะสงคราม จับกุมได้ทราบชื่อ นายปรีชา ปานสมบูรณ์ อายุ 30 ปี และ นายจิรานุวัฒน์ ไสยดี อายุ 23 ปี พร้อมคุมตัวดำเนินคดี.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,จับแล้ว การ์ดชุดดำรุมตีกลุ่มฝรั่งเลือดอาบ ถนนข้าวสาร (ชมคลิป) | รอง ผบก.ทท. พร้อม ผกก.สน.ชนะสงคราม นำกำลังตรวจความเรียบร้อย ถ.ข้าวสาร พร้อมตรวจจุดมีชาวต่างชาติถูกการ์ดทำร้าย ทางร้านสั่งไล่ออกแล้ว ชดเชย 4 นทท. คนละ 10,000 บาท | null | ทำร้ายนักท่องเที่ยว,ทำร้ายชาวต่างชาติ,ทำร้าย นทท.,สน.ชนะสงคราม,ถ.ข้าวสาร,ถนนข้าวสาร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวอาชญากรรม,กทม. | https://www.thairath.co.th/content/693622 |
คุยกับนักปรัชญา ปมศูนย์เฟคนิวส์ เตือนอย่าปล่อยให้รัฐผูกขาดความจริง | ความเชื่อ และอคติต่างหากที่ควรร่วมกันตรวจสอบ เพราะการปล่อยให้รัฐผูกขาดความจริงเป็นสิ่งอันตรายปลายปีที่แล้ว พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก่อตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ศูนย์เฟคนิวส์ โดยมุ่งตรวจสอบข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง เช่น โรคระบาด เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ข่าวที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมและทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และความมั่นคงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ศูนย์เฟคนิวส์จะเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ต้องการต่อต้านข่าวปลอมหรือต่อต้านข่าวที่ไม่เป็นคุณต่อรัฐบาล มันจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเล่นงานฝั่งตรงข้ามหรือไม่ จะกระทบเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนหรือไม่คำถามที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เรา ในที่นี้หมายถึงประชาชน ควรมอบอำนาจให้รัฐเป็นผู้ตัดสินหรือนิยามว่าข่าวใดเป็นข่าวปลอมแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ในมุมมองของญาณวิทยาเชิงสังคม นี่เป็นสิ่งอันตราย ไม่ต่างอะไรจากการผูกขาดความรู้ ความรู้ที่รัฐเท่านี้ที่มีสิทธิบอกว่าเป็นจริง ศิรประภา ชวะนะญาณ จากภาควิชาปรัชญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนทนากับ ประชาไท ถึงประเด็นนี้และบอกเหตุผลว่าทำไมฝูงชนจึงควรเป็นผู้ตรวจสอบข่าวปลอมที่ดีกว่าก่อนอื่นเรามาทำความใจเบื้องต้นสักนิดว่า ญาณวิทยา หรือ epistemology คืออะไร ศิรประภาอธิบายว่า รากศัพท์ของคำนี้มาจาก episteme แปลว่าความรู้ ญาณวิทยาเป็นสาขาหนึ่งของปรัชญาที่สนใจว่าความรู้คืออะไร ต่างจากความเชื่ออย่างไร แหล่งที่มาของความรู้เป็นอย่างไร เวลาพูดว่ารู้ มีองค์ประกอบอะไรบ้างจึงทำให้เราพูดได้ว่าฉันรู้ และเวลาพูดว่าฉันรู้ ผู้พูดมีเหตุผลอันควรให้เชื่อ (justification) อย่างไรแต่กาลเวลาผ่านไป ญาณวิทยาก็มีการพัฒนาแนวคิดของตนแตกแขนงเป็นสิ่งที่เรียกว่า ญาณวิทยาเชิงสังคมตัวเองสนใจญาณวิทยาสังคมซึ่งจะแตกต่างจากญาณวิทยาแบบดั้งเดิม คือจะสนใจแหล่งที่มาจากคนอื่นหรือคนในสังคม ถ้าเราไปเทียบกับญาณวิทยาแบบดั้งเดิม เวลาพูดว่าเรารู้อะไร ต้องมาจากตัวเอง การคิดด้วยตัวเอง หรือต้องมาจากการมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง แต่ญาณวิทยาเชิงสังคมจะสนใจแหล่งที่มาจากคนอื่นคำว่าแหล่งที่มาจากคนอื่นกินความถึงผู้เชี่ยวชาญ หนังสือ งานวิจัย ข่าวลือ ทฤษฎีสมคบคิด หรือแม้แต่ผู้คนหลากหลายในสังคม แหล่งที่มาต่างๆ เหล่านี้มีเหตุผลอันควรให้เชื่อหรือไม่ อย่างไร สิ่งนี้เองที่ทำให้ญาณวิทยาเชิงสังคมลงมาเกี่ยวข้องกับข่าว เพราะข่าวเป็นสิ่งที่คนอื่นบอกกับเราสมมติว่าถ้านิยามของเฟคนิวส์คือข่าวที่เป็นเท็จ แน่นอนว่าข่าวที่เป็นเท็จ ถ้าพูดถึงคุณค่าในทางญาณวิทยาที่ให้คุณค่ากับความรู้ ข่าวที่เป็นเท็จโดยตัวมันเองก็ไม่น่าจะมีคุณค่า ถ้าเทียบกับข่าวที่เป็นจริง อันนี้หมายถึงโดยแนวคิดแต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าสิ่งที่เรียกว่าข่าวมีหลายแบบ เช่น ข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวที่ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ข่าวที่ตีความได้หลากหลายว่าจริงหรือไม่ พอเป็นแบบนี้มันเลยทำให้การแยกว่าอะไรคือข่าวที่เรียกว่าเฟคนิวส์ มันยาก คือโดยแนวคิด มันไม่ดี แต่การจะไปตัดสินว่าอะไรคือสิ่งนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงเฟคนิวส์โดยนิยามก็คิดว่ามันมีปัญหา แต่ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าอะไรคือเฟคนิวส์ศิรประภายกตัวอย่างว่า ช่วงปีใหม่เพจ Anti-Fake News Center ระบุถึงข่าว สัญญาณเตือนเศรษฐกิจวิกฤตกระทบทุกชนชั้น ว่าเป็นข่าวปลอม อย่าแชร์ โดยเนื้อความอ้างถึงจีดีพีที่เติบโตขึ้น แน่นอน การบอกว่ากระทบทุกชนชั้น ไม่จริง เพราะมีชนชั้นที่ไม่กระทบ แต่ถ้าอ่านอย่างที่ชาวบ้านทั่วๆ ไปอ่าน การพูดว่าเศรษฐกิจดีคืออะไร การอ้างอิงจากจีดีพีก็น่าตั้งคำถามว่าสามารถเป็นตัวบอกได้จริงหรือ ถ้าจีดีพีสูงจริง แต่เงินกระจุกตัวอยู่แค่คนกลุ่มหนึ่ง ส่วนคนทั่วไปไม่มีเงิน มีหนี้เพิ่มขึ้น แบบนี้เรียกว่าเศรษฐกิจดีหรือเปล่า เมื่อรัฐบอกว่าข่าวนี้เป็นข่าวปลอมโดยใช้จีดีพีมาอ้างอิง มันคล้ายไปปิดกั้นคำอธิบายเศรษฐกิจที่ดีแบบอื่นๆ และถ้าคนเชื่อรัฐว่าข่าวเศรษฐกิจไม่ดีเป็นเฟคนิวส์ ย่อมเท่ากับลวงอีกชั้นหนึ่งให้ผู้อ่านรับนิยามของรัฐและไม่อธิบายว่าจีดีพีที่ว่านี้ได้มาอย่างไรมันจึงกลับมาสู่ประเด็นที่ว่ามันแยกยากว่าอะไรคือข่าวจริง อะไรคือข่าวปลอม เพราะข้อความที่วันนี้เราแชร์กันหลายๆ อย่างก็พูดยากว่ามันจริงหรือเปล่า การให้อำนาจรัฐคนเดียวบอกว่าอะไรคือข่าวจริงหรือข่าวปลอม มันมองได้ 2 แง่กว้างๆ แง่หนึ่งคือรัฐใช้มันเป็นเครื่องมือ อันนี้คงต้องใช้เพราะที่ดูมันไม่มีข่าวของฝ่ายตรงข้ามเลย ถ้าใช้เป็นเครื่องมือของตัวเองก็ยิ่งเป็นอะไรที่อันตราย ทำให้ยิ่งไม่ควรยอมรับแต่ถ้าจะมองว่ารัฐเจตนาดีหมายถึงฉันจะไม่โกหก ฉันตั้งศูนย์นี้ฉันจะเลือกข่าวเป็นประโยชน์ต่อชาติ แต่คนที่ตั้งใจจะไม่โกหกก็เสนอข่าวเท็จได้อยู่ดี ด้วยความที่ตัวเองมีข้อจำกัดเชิงญาณวิทยาคือตัวเองก็เชื่อว่ามันจริง แล้วก็พยายามทำให้ทุกคนเชื่อตาม มันเกิดของแบบนี้ขึ้นตลอดว่าฉันคิดว่าฉันพูดจริง แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันก็มีข้อจำกัดทางความรู้ ดังนั้น ต่อให้เจตนาดีว่าจะไม่โกหกคุณก็พูดเท็จได้ ถ้าเป็นเช่นนี้มันก็ยิ่งไม่ควรให้มีการผูกขาดว่าคนๆ นี้จะเป็นคนที่พูดความจริงขณะที่ญาณวิทยาดั้งเดิมมักจะต้องการหาความรู้ที่ผิดไม่ได้ เป็นความจริงสูงสุด แน่นอน ตายตัว แต่ญาณวิทยาเชิงสังคมจะเข้าไปเกี่ยวพันกับสิ่งที่ผู้อื่นบอกและมองว่าผิดได้ ไม่ตัดทิ้ง นักญาณวิทยาเชิงสังคมจะคิดว่าข่าวลือมีประโยชน์อย่างไร ทฤษฎีสมคบคิดมีประโยชน์อย่างไร ทำไมของพวกนี้จึงควรปล่อยให้เป็นอิสระอย่างที่บอกว่ามีข่าวหลายแบบและเราแยกยากว่าอะไรเป็นอะไร อย่างข่าวลือก็มีการเขียนบทความถกเถียงกันว่าข่าวลือมันทำให้คนตั้งคำถามกับข่าวทางการ หรือเรื่องอะไรที่พูดเป็นทางการไม่ได้ ไม่มีวันจะพูดเป็นทางการได้ มันก็มีช่องทางพูดอย่างไรก็ตาม ญาณวิทยาเชิงสังคมไม่ได้ปฏิเสธแหล่งความรู้ที่มาจากตัวเอง เพียงแต่ไม่ได้ทิ้งหลักฐานเชิงสังคมทุกวันนี้เราดำรงชีวิตอยู่ เรารับอะไรจากคนอื่นตลอด เราจะต้องมีหลักการอย่างไรเมื่อเจออย่างนี้ จะทิ้งมันไปหมดเลยจริงเหรอ สมมติอยากรู้เรื่องนี้แล้วไปค้นวิกิพีเดีย แต่วิกิพีเดียไม่รู้ว่าใครเขียน เราจะทิ้งเลยเหรอ ญาณวิทยาสังคมจะคิดว่าเมื่อเจอของในวิกิพีเดีย อะไรคือเหตุผลที่เราควรยอมรับหรือไม่ควรยอมรับ มันคล้ายๆ กับการมาดูหลักฐานเชิงสังคมประเภทต่างๆ ไม่ทิ้งของพวกนี้ไปเลยทันทีทีนี้ ถ้าถามว่ามันเป็นจริงเสมอไหม ความเชื่ออะไรที่มีเหตุอันควรให้เชื่อแล้ว มันไม่จำเป็นต้องจริงเพราะเหตุอันควรให้เชื่อกับความจริงเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม ต่อให้มันเป็นคนละส่วนกัน เขาก็มองว่าอะไรที่มีเหตุอันควรให้เชื่อดีกว่าไม่มีเหตุอันควรให้ชื่อ เพราะอย่างน้อยคุณก็มีหลักฐาน มีคำอธิบายว่าทำไมคุณจึงเชื่อมัน ดีกว่าเชื่อเฉยๆ ในโลกที่บอกว่าอะไรจริงยาก การมีเหตุผลอันควรให้เชื่อจะดีกว่าไหมและเหตุผลอันควรให้เชื่อแบบไหนถึงดีอาจถามได้ว่าทุกคนล้วนมีเหตุผลอันควรให้เชื่อของตนแตกต่างกันไป ศิรประภา อธิบายว่าถ้าข่าวนั้นเป็นเท็จจริงๆ ก็อาจจะพูดได้ว่าเหตุผลอันควรเชื่อของบุคคลนั้นมีปัญหา เกณฑ์มีปัญหา ซึ่งมันจะนำไปสู่การพูดคุยว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่ามีเหตุผลอันควรให้เชื่อญาณวิทยาเชิงสังคมจึงไม่ได้มุ่งบอกว่าอะไรความรู้ที่ควรเชื่อ กลับกัน มันให้วิธีคิดว่าเราควรมีเหตุผลอันควรให้เชื่อเรื่องราวต่างๆ อย่างไรจุดร่วมของนักญาณวิทยาเชิงสังคมคือคนที่เอาหลักฐานเชิงสังคม สิ่งที่เราได้จากสังคมมาตรวจสอบว่าจะให้เกณฑ์กับมันยังไง ทีนี้ ตัวเกณฑ์ก็แตกต่างกันไป แต่ก่อนที่เคยบอกว่าต้องเห็นถึงจะมีเหตุอันควรให้เชื่อ ต้องสอดคล้องกับความเชื่อตัวเองถึงจะมีเหตุอันควรให้เชื่อ ถ้าเรามาเจอหลักฐานเชิงสังคม ทฤษฎีแบบเดิมๆ อาจจะไม่พอ ไม่ใช่ปล่อยให้หลักฐานเข้ามาหาเราแบบ passive แต่เราต้องตรวจสอบความจริง พยายามหาความจริงด้วย คุณถึงจะพูดได้ว่าคุณมีเหตุผลอันควรให้เชื่อยกตัวอย่างวิกิพีเดีย ถ้าจะใช้มีนักญาณวิทยาเชิงสังคมที่เสนอว่า คุณต้องมีความเข้าใจว่าสารานุกรมนี้เป็นอย่างไร วิกิพีเดียเป็นสารานุกรมที่มีหน้าทอล์ค Discussion หลังคำว่าคำนี้เคยเปลี่ยนแปลงอะไรมาบ้าง ใครเป็นคนเปลี่ยน ให้ดูอ้างอิง คือไม่ใช่แค่อ่านด้านหน้าแล้วจบ แต่คุณต้องดูของข้างหลังว่าเขาถกเถียงกันอย่างไร ต้องดูการอ้างอิง ถ้าคุณทำของพวกนี้ถึงจะถือได้ว่าคุณมีเหตุผลอันควรให้เชื่อในเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนั้น เกี่ยวกับความเชื่อที่ได้จากการอ่านคำนั้น ไม่ได้หมายความว่ามันมีเหตุอันควรให้เชื่อแบบเต็มที่ แต่ถ้าจะอ่านของจากใครก็ไม่รู้ ต้องทำอะไรบ้างถึงจะพูดได้ว่าในเบื้องต้นคุณมีเหตุอันควรให้เชื่อแล้วญาณวิทยาเชิงสังคมพยายามจะให้ทักษะเรา Google มีระบบการทำงานแบบนี้ มันกรองของบางอย่างออกไป ถ้าคุณไม่รู้ คุณก็จะถูกครอบให้เห็นเฉพาะสิ่งที่คุณอยากเห็น ญาณวิทยาเชิงสังคมคือการพยายามให้เกณฑ์เพื่อดีลกับปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นปัญหามีอยู่ว่าหลายครั้งเฟคนิวส์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถตรวจสอบหรือหาแหล่งอ้างอิงได้ง่าย ถึงกระนั้น ศิรประภาก็ให้ความเห็นว่า การตรวจสอบยากไม่ได้นำไปสู่เหตุผลว่ารัฐควรเป็นผู้ตรวจ การตรวจสอบยากอาจนำไปสู่ข้อสรุปอื่นๆ ที่ดีกว่ารัฐเป็นผู้ตรวจ นั่นก็คือให้ทุกคนเป็นผู้ตรวจจะดีกว่าหรือไม่ถ้าการตรวจสอบเฟคนิวส์ทำได้ยาก แล้วทุกคนช่วยกันตรวจคือทุกๆ คนทำตัวเป็น Active User เจอข่าวปุ๊บ เช็คว่ามันจริงไหม ถ้าทุกคนช่วยกันเช็คมันเป็นพลังที่เรียกว่า Wisdom of Crowd ญาณวิทยาเชิงสังคมก็ถกเถียงกันเรื่องผู้เชี่ยวชาญกับฝูงชน เพราะปกติเวลาเราจะเชื่ออะไรสักอย่าง เรามักจะเชื่อตามผู้เชี่ยวชาญ แต่ในญาณวิทยาเชิงสังคมจะมีการถกกันถึงพลังของฝูงชนว่าการที่คนจำนวนมากๆ มาอยู่รวมกันมันสามารถที่จะสร้างความรู้ได้ ตรวจสอบความจริง หลีกเลี่ยงความเท็จได้ด้วยการแชร์ข้อมูล ต่อให้ทุกคนไม่รู้ว่าใคร แต่ด้วยเทคโนโลยีมันทำให้เถียงกันได้ว่าอันนี้พูดเท็จ แล้วจะดีกว่าไหมที่จะให้รัฐผูกขาดโดยปกติแล้วเรามักจะมองคำพูดของบุคคลนิรนามหรือคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครในเชิงไม่น่าเชื่อ ซึ่งศูนย์เฟคนิวส์จะทำให้ข่าวที่ไม่รู้ว่ามาจากใครหายไป แต่นักญาณวิทยาเชิงสังคมพยายามจะพูดถึงพลังของการพูดของคนที่ไม่รู้ว่าใครจริงๆ แล้วการที่ไม่รู้ว่าใครพูดอาจจะมีข้อดีอื่นๆ ด้วยซ้ำ เช่น ถ้าเราอ่านความเห็นเขาโดยต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มันเปิดการถกเถียงได้แบบไม่ต้องกลัวกัน มันเพิ่มคำวิจารณ์ อีกอย่างคือการคุยแบบที่รู้ว่าเป็นใคร บางทีมีอคติด้วยว่าคนนี้ไม่รู้จริงหรอก แล้วบางทีเป็นอคติที่มาจากโครงสร้างสังคมทำให้เราตัดสินใจก่อนว่าคนนี้พูด ฉันไม่เชื่อ แต่การที่ไม่บอกว่าเป็นใครมันทำให้เราสามารถจะตัดอคติออกไปได้ อย่าไปคิดว่าการไม่บอกว่าเป็นใครจะมีผลเสียอย่างเดียว มันอาจจะมีผลดีก็ได้ จะดีกว่าไหมถ้าปล่อยให้ฝูงชนช่วยตรวจสอบด้วยแต่ฝูงชนล้วนมีอคติ?แต่ถ้าลองคิดดูว่าไม่ให้ฝูงชนเข้ามาตรวจสอบ ให้รัฐเป็นคนบอก อันนี้เราจะไม่รู้ทางเลือกอื่นเลย ทั้งที่รัฐก็มีอคติ มันไม่ดีกว่าเหรอที่เราจะฟังจากหลายๆ คนและสงสัยงงงวยกับตัวเองว่าอันไหนจริง ดีกว่าฉันเชื่อคนนี้บอก คือต่อให้แต่ละคนมีอคติ แต่การที่เราฟังจากหลายๆ คนที่มีอคติต่างกัน มันทำให้เราไม่คิดว่าอะไรจริงไปเลย การคิดว่าอะไรจริงไปเลยจะมีปัญหากว่าไหมถ้ามันไม่จริงนักญาณวิทยาเชิงสังคมจึงพิจารณาว่าฝูงชนมีข้อดีอย่างไร ข้อดีนี้จะทำให้เรามีเหตุผลอันควรให้เชื่อได้อย่างไร ซึ่งต้องดูด้วยว่าเป็นฝูงชนแบบไหนถึงน่าเชื่อ ฝูงชนนั้นใหญ่พอหรือไม่ ฝูงชนนั้นมีศูนย์กลางที่สั่งใครได้หรือไม่ ฝูงชนนั้นมีความแตกต่างทางความคิดเห็นมากพอหรือไหม ถ้าฝูงชนมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้ สิ่งที่กลั่นกรองออกมาได้จะน่าเชื่อ จะมีแนวโน้มว่าจะจริง เหมือนเป็นการให้เกณฑ์เพื่อเผชิญกับของที่เราเจอในชีวิตทุกวันนี้เราชวนถกต่อว่า บางเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากๆ เช่น เรื่องทางวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ ฝูงชนจะเข้ามาร่วมตรวจสอบได้อย่างไร ศิรประภา กล่าวว่าถ้าพูดถึงคนในระบอบประชาธิปไตย เขาควรได้รับข้อมูลจำนวนมากและหลากหลายตามที่เขาสนใจ ถ้าเขาสนใจอยากรู้เรื่องอะไร ในฐานะคนทำวิจัยควรจะทำให้มันเข้าใจง่ายเพราะบางเรื่องฝูงชนถกเถียงไม่ได้ ซึ่งก็จริงว่าเขาไม่ควรถกเถียงในเรื่องที่เขาไม่รู้ แต่ประเด็นก็คือส่วนหนึ่งมาจากการที่มันเข้าใจไม่ได้สำหรับเขา มันจึงเป็นหน้าที่ของคนที่ทำงานพวกนี้ด้วยไหมที่ควรทำให้เขารู้กล่าวได้ว่าญาณวิทยาเชิงสังคมให้คุณค่ากับเสรีภาพในการแสดงออกของผู้คนอย่างหลากหลาย โดยไม่แบ่งแยกจากระดับการศึกษาหรือชนชั้น เพียงแต่ให้แนวทางว่าฝูงชนที่จะช่วยกันกลั่นกรองหรือตรวจสอบความรู้ควรมีลักษณะเช่นไร และแต่ละคนควรมีวิธีคิดอย่างไรจึงจะพูดได้ว่าตนเองมีเหตุผลอันควรให้เชื่อในความรู้นั้นณ ตอนนี้ ศูนย์ข่าวปลอมเกิดขึ้นแล้ว ในฐานะฝูงชนยังพอทำอะไรได้บ้าง ศิรประภา ตอบว่าอย่าหยุดตรวจสอบเธอขยายความเพิ่มเติมว่าการแก้ปัญหาเฟคนิวส์ไม่ควรแก้จากข้างบนลงมา แต่ควรไปแก้ที่ทุกคน เช่น การเข้าไปสู่ระบบการศึกษา ทำอย่างไรให้คนมีเกณฑ์ในการตัดสินว่าอะไรควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อแบบที่เป็นนักตรวจสอบและต่อให้เรารู้สึกว่าความคิดนั้นไม่มีเหตุผลเลย แต่ก็ไม่ควรตัดออกไปหรือไม่ฟังเลย การที่เราทำแบบนี้ นักญาณวิทยาเห็นว่าเป็นภัยต่อการมีความรู้ การที่เรามีอคติทำให้เราปฏิบัติต่อบางคนอย่างไม่เป็นธรรมเพราะเรามองว่าคนคนนี้ไม่มีวันรู้หรอก เราควรฟังเขาไหมว่าอะไรทำให้เขาคิดอย่างนั้น | ศูนย์เฟคนิวส์เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2562 โดยการริเริ่มของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้ทำหน้าที่บอกเราว่าอะไรคือข่าวจริง อะไรคือข่าวปลอม ในมุมมองของนักญาณวิทยาเชิงสังคม ฝูงชน ที่มีความรู้ | การเมือง,การศึกษา,ไอซีที | ศิรประภา ชวะนะญาณ,ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม,Fake News,ญาณวิทยา,ญาณวิทยาเชิงสังคม,ฝูงชน,เสรีภาพในการแสดงออก | https://prachatai.com/journal/2020/01/86048 |
แสนสงสาร น้องหมาใจสลาย ถูกนำมาทิ้งไว้บนดอย นอนนิ่งไม่ไหวติง | เหตุการณ์ พบ น้องหมา นอนหมอบอยู่ริมถนนบนดอย คาดว่าน่าจะถูกพามาทิ้ง เปิดเผยขึ้น โดยเพจเฟซบุ๊ก, ปณิธาน รัตนธรรม , ระบุ อยู่ที่ Doi Ang Khang ได้โพสต์ว่า ,วันนี้ (7 ส.ค.) ขับรถลงดอยอ่างขาง ขณะที่ขับรถผ่านโค้งหักศอก กม.15 ก็เหลือบไปเห็นสุนัข สีดำเงยหัวขึ้นมามองหน้าเราพอดี (ตอนนั้นเปิดกระจกรถอยู่) พอขับเลยไปสักพักก็คิดขึ้นได้ เอ๊ะ นี่มันไม่ใช่สุนัขแถวนี้นี่ ดูเป็นสุนัขพันธุ์ และมีท่าทีแปลกๆ คือนอนนิ่ง บวกกับแถวๆ นั้นเป็นป่าทึบ ก็เลยตัดสินใจจอดรถแล้วเดินกลับมาดู เมื่อเดินไปใกล้ๆ สุนัขตัวนี้ก็ยังคงนอนนิ่ง ไม่มีท่าทีตื่นกลัวหรือหวาดระแวง ใดๆ เลยลองเอื้อมมือไปลูบหัว มันก็เงยหน้าให้ลูบ ใกล้ๆ กับตัวสุนัขมีขันน้ำพลาสติก อยู่ คาดว่าเป็นของมัน เราเดินห่างออกไปเพื่อถ่ายภาพจากระยะไกลเจ้าสุนัขตัวนี้ยังคงนอนนิ่ง ไม่ยอมขยับตัว ในใจก็คิดอีกว่า หรือมันจะโดนรถชนบาดเจ็บ ก็เลยเดินกลับไปลูบมันอีกครั้งแล้วพยามพลิกตัวมันดูว่ามีบาดแผลอะไรไหม มันก็ค่อยๆ พลิกตัวช่วยและยอมยกขาหลังให้ดู เราดูและคลำอยู่สักพักก็ไม่พบบาดแผลอะไร ก็คิดอีกว่า หรือมันจะป่วย พร้อมกับคิดว่า แล้วนี่สุนัขใคร เพราะแถวๆนั้นไม่มีบ้านคนเลย ซึ่งสุนัขลักษณะ แบบนี้ไม่ใช่สุนัขเร่ร่อน เรายืนรอสักพัก เพื่อดูว่าจะมีใครผ่านมาเหลียวแล มันไหม แต่ก็ไม่มี เราตัดสินใจพามันขึ้นรถกะพาไปหาหมอเพื่อตรวจดูอีกทีว่ามันเป็นอะไรรึเปล่า ในใจกังวนว่ามันจะยอมขึ้นรถไหม ปรากฏว่า ตอนที่อุ้มขึ้นรถ มันยอมขึ้นอย่างง่ายดาย นี่มันลักษณะ สุนัขเคยขึ้นรถ และมันคุ้นคนมาก ทำให้แน่ใจว่ามันต้องมีเจ้าของ,ป.ล.สุนัขตัวนี้แข็งแรงดี กินอาหารเก่ง ฉลาด ให้นั่งก็นั่งให้ยืนก็ยืนไม่เดินเพ่นพ่าน นั่งรอนิ่งๆ ในรถได้หลายชั่วโมงโดยไม่มีอาการกระสับกระส่าย เลยแต่ที่สังเกตได้ชัดคือ มันมีท่าทางโศกเศร้า(นิ่งๆ) เหมือนกับรอเจ้าของ,เจ้าของสุนัขตัวนี้ติดต่อผมได้ที่เบอร์ นี้นะครับ0866587435 ยังไงก็ฝากแชร์กันหน่อยนะครับ สงสารมัน,ทั้งนี้ ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นกันหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า มันถูกมาพาทิ้งไว้ ดูได้จากขันใส่น้ำ พร้อมกับให้คนที่ไปเจอและพามันมา เลี้ยงไว้เอง เพราะเจ้าของคงไม่อยากเลี้ยงแล้ว,(ภาพ-เรื่องปณิธาน รัตนธรรม) | มีคนขับรถผ่านดอยอ่างขางแล้วพบน้องหมาสีดำ นอนหมอบอยู่ริมถนน พร้อมขันใส่น้ำ1ใบ ด้วยความสงสารและสงสัยจึงจอดลงไปดู พบนอนแน่นิ่งด้วยท่าทีเศร้าโศก เลยนำไปไว้ที่บ้าน พร้อมประกาศตามหาเจ้าของ | ข่าว,ทั่วไทย | น้องหมา,ทิ้งหมา,ทิ้งไว้บนดอย,ทิ้งหมาบนดอย,โพสต์ทิ้งหมา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1633910 |
รวบแล้วโจรชิงทอง 53 บาท เจอที่ชายแดนกาญจน์ คุมตัวทำแผน 20 ธ.ค.นี้ | ความคืบหน้ากรณีคนร้ายอายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อสีเทา กางเกงขายาวสีดำ และมีผ้าแมสก์ปิดปาก ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนบุกเข้าไปร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาชลบุรี บนชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โฮมโปร สาขาชลบุรี ริมถนนสุขุมวิท ตั้งอยู่เลขที่ 15/17 หมู่ 3 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังจากนั้นได้ใช้ปืนเทียมทุบไปที่ศีรษะของพนักงานขาย แล้วกระโดดข้ามไปบริเวณตู้โชว์ทอง ใช้ด้ามปืนทุบตู้กระจก และกวาดทองรูปพรรณไปได้ทั้งหมด 53 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หลังจากนั้นได้วิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขี่หลบหนีไป เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา,หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้คือ นายประเสริฐ รอดคง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 408/72 หมู่ 10 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้บุกเข้าไปชิงทองบริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ต่อมาได้ตรวจยึดรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู ทะเบียน 1กก 4910 นครปฐม ได้ที่ภายในซอยหมู่ 4 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี และตามไปยึดรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน ซันนี่ สีขาว ทะเบียน กษ 8601 ชลบุรี ได้ที่ลานจอดรถยนต์ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด เลขที่ 194 หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี,ล่าสุดวันที่ 19 ธ.ค.2561 ตำรวจไทยได้ประสานงานประเทศเพื่อนบ้านติดตามจับกุมตัว นายประเสริฐ รอดคง ได้แล้วที่เขตชายแดนไทย–พม่า ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จาก จ.กาญจนบุรี บินด่วนมาลงที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมี พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มารอควบคุมผู้ต้องหา ทั้งนี้มี พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 เดินทางไปรับตัวที่ จ.กาญจนบุรี เอง หลังจากนั้นได้คุมตัวมาสอบถามเล็กน้อย ก่อนที่จำคุมตัวไปที่ สภ.เสม็ด เพื่อนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างบิ๊กซี ในเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.นี้,พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 เผยว่า ได้จับกุมตัวนายประเสริฐ รอดคง ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองในห้างบิ๊กซีเขต สภ.เสม็ด ได้แล้ว โดยมีรอง ผบช.ภ.2 และผู้การกบ ได้ประสานงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านจับกุมตัวได้ที่ชายแดนไทย– พม่า เบื้องต้นรอสอบสวนผู้ต้องหาอีกครั้งว่าได้หลบหนีไปอย่างไร และเอาทองคำไปซุกไว้ที่ไหน สาเหตุที่ก่อเหตุนั้น นายประเสริฐ บอกว่าจะเอาไปซื้อบ้านและรถ พรุ่งนี้จะคุมตัวไปทำแผนเวลา 10.00 น. | ตร.ชลบุรี ชุดไล่ล่าโจรชิงทอง 53 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้าน หลังจากยึดรถ จยย.และรถยนต์ ล่าสุดรวบได้ที่ชายแดนไทย–เมียนมา จ.กาญจนบุรี จับขึ้น ฮ.บินด่วน พรุ่งนี้คุมตัวไปทำแผน | ข่าว,ทั่วไทย | โจรชิงทอง,ชิงทอง 53 บาท,ชลบุรี,จิตติ รอดบางยาง,จับโจรชิงทอง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1449063 |
เคนยาเผางาช้างของกลางหนักเกิน 100 ตัน ล็อตใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี อูฮูรู เคนยัตตา แห่งประเทศเคนยา เป็นประธานจุดไฟเผางาช้างของกลางทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากขบวนการลักลอบล่าสัตว์และค้าสิ่งผิดกฎหมาย รวมน้ำหนักมากกว่า 105 ตันจากช้างกว่า 6,700 ตัว แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 30 เม.ย. ที่อุทยานแห่งชาติไนโรบี เพื่อแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของเคนยาในการช่วยเหลือช้างสายพันธ์ุแอฟริกา,ก่อนลงมือจุดไฟ ประธานาธิบดีเคนยัตตากล่าวว่า ความสูงของงาช้างที่กองอยู่ต่อหน้าพวกเรา แสดงถึงความแข็งแกร่งในการตัดสินใจของพวกเขา ไม่มีใคร ผมขอย้ำ ไม่มีใคร ควรมีธุรกิจใดๆเกี่ยวกับการค้าขายงาช้าง การค้าขายสิ่งนี้หมายถึงความตายของช้างของเรา และความตายของมรดกทางธรรมชาติของเรา,ทั้งนี้ การเผางาช้างของเคนยาเกิดขึ้นหลังจากเหล่าผู้นำประเทศในทวีปแอฟริกาประชุมกันในเคนยา เพื่อกระตุ้นให้ยุติการค้างานช้างผิดกฎหมาย,อย่างไรก็ตาม นักอนุรักษ์บางคนแสดงการต่อต้านการเผางาช้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ของเคนยา โดยชี้ว่าการทำลายของหายากเช่นนี้อาจทำให้มูลค่าในท้องตลาดของมันสูงขึ้น ส่งเสริมทางอ้อมให้เกิดการล่าช้างเอางามากขึ้น โดยประเทศบอสวานา ก็ต่อต้านการเผางาช้างเช่นกัน และประธานาธิบดีของพวกเขาก็ไม่ไปร่วมประชุมในเคนยาด้วย,อนึ่ง ทวีปแอฟริกาเป็นบ้านของช้างจำนวนประมาณ 450,000-500,000 ตัว แต่ในแต่ละปีมีช้างถูกล่่าเพื่อเอางามากกว่า 30,000 ตัว ประเทศแทนซาเนียสูญเสียประชากรช้างไปถึง 65% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การเผางาครั้งล่าสุดของเคนยา เป็นการเผางาจำนวนมากกว่าที่เคยทำลายมาจนถึงตอนนี้ทั้งหมดรวมกันถึง 7 เท่า มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคิดเป็น 5% ของจำนวนงาช้างที่เก็บเอาไว้ทั่วโลก | ทางการเคนยาดำเนินการเผาทำลายงาช้างของกลางที่ยึดมาได้จากขบวนการล่าสุดลักลอบล่าสัตว์และค้าสิ่งผิดกฎหมายแล้ว โดยเป็นการทำลายงาช้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ น้ำหนักรวมเกิน 100 ตัน | null | เผางาช้าง,งาช้างของกลาง,เผางาช้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์,ช้างแอฟริกา,ลักลอบล่าสัตว์,อุทยานแห่งชาติไนโรบี,ประธานาธิบดี,อูฮูรู เคนยัตตา,ค้าสิ่งผิดกฎหมาย,กรุงไนโรบี,ตลาดมืด,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/613736 |
ปินส์ปิดหาดโบราไกย์ หลังนักท่องเที่ยวมักง่าย ฝังผ้าอ้อมใช้แล้วใต้ทราย (คลิป) | สำนักข่าว ,shanghai.ist, รายงานเมื่อ 15 ส.ค. 2562 ว่า ทางการของประเทศฟิลิปปินส์สั่งผิดพื้นที่ชายหาดของเกาะโบราไกย์ ตอนกลางของประเทศ บางส่วนเป็นการชั่วคราว หลังจากมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่า หญิงนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง แอบฝังผ้าอ้อมเด็กที่เพิ่งถอดจากลูกของตัวเอง ลงใต้ผืนทราย,คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ โดยไม่มีการเปิดเผยว่าหญิงรายนี้เป็นคนชาติใด แต่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนมากเชื่อว่าเธอเป็นคนจีน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเกาะแห่งนี้เป็นชาวจีน โดยแค่ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 ก็มีชาวจีนมาเยือนกว่า 218,161 คนแล้ว และมักก่อปัญหามากมาย จนทางการท้องถิ่นต้องตั้งข้อห้ามหลายอย่าง รวมทั้งการห้ามฝังผ้าอ้อมที่ชายหาด,การกระทำของหญิงคนนี้ทำให้ทางการฟิลิปปินส์ออกมาเคลื่อนไหวในวันพุธ โดยพวกเขาปิดหาดเป็นระยะทาง 100 เมตรเป็นเวลา 48-72 ชั่วโมงเพื่อทำการตรวจสอบหลายๆ อย่าง,เหตุการณ์นี้ยังทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในฟิลิปปินส์ รวมทั้งที่สำนักงานประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตร์เต ด้วย โดยโฆษกประธานาธิบดีเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจับกุมตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และว่าชาวฟิลิปปินส์รู้สึกโดนดูถูกจากการกระทำเช่นนี้ | เกิดเหตุนักท่องเที่ยวหญิงซึ่งเชื่อว่ามาจากจีน ฝังผ้าอ้อมใช้แล้วใต้ทรายที่ชายหาดเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมของฟิลิปปินส์ ทำให้ทางการต้องผิดชายหาด ขณะที่สำนักงานประธานาธิบดีเรียกร้องให้จับคนทำผิด | ข่าว,ต่างประเทศ | ปิดชายหาด,เกาะโบราไกย์,ฟิลิปปินส์,ฝังผ้าอ้อมใต้ทราย,จีน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1638806 |
เบนเทย์กา วี 8 เฉียบ | ยังคงรุกตลาดรถหรูเมืองไทยเต็มพิกัด,ในส่วนของ ,เบนท์ลีย์ ประเทศไทย, โดยค่ายเอเอเอสออโต้เซอร์วิส พร้อมนำเสนอรถอภิมหาทรงศักดิ์อัครฐานของเบนท์ลีย์มาให้นักเลงรถชาวไทยได้เลือกสรรตามโจทย์ที่ต้องการ,หนึ่งในนั้นก็คือ ,เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา วี 8, รถเอสยูวีหรูที่ถูกกล่าวขานกันสนั่นในตลาดรถหรูทั่วโลก,เพราะได้ชื่อว่าเป็นรถเอสยูวีที่หรูหรา ทรงพลัง เปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตพร้อมอรรถประโยชน์ที่ล้นเหลือ,ถูกออกแบบให้สะท้อนภาพลักษณ์สุดสปอร์ตยกระดับสายพันธุ์เบนเทย์กาให้เหนือล้ำไปอีกขั้นด้วยความโดดเด่นที่เปี่ยมเอกลักษณ์ สะท้อนความแข็งแกร่ง ดุดัน เตะตาโดนใจตั้งแต่แรกเห็น,ภายในห้องโดยสารเปี่ยมด้วยความหรูหราสง่างามด้วยงานฝีมือระดับช่างชั้นครู วัสดุตกแต่งคุณภาพอันดับหนึ่งที่ผ่านการคัดสรรมาจากแหล่งกำเนิดทั่วทุกมุมโลก โดยเจ้าของรถยังสามารถเลือกสรรรูปแบบการตกแต่งภายในห้องโดยสารได้ตามใจปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นรอยตะเข็บที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามบนเบาะนั่งและแผงประตู,กระหึ่มด้วยขุมพลังเจเนอเรชันล่าสุด เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างพละกำลังมหาศาลกับประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าอัศจรรย์,เสริมบุคลิกสุดแกร่งด้วยปลายท่อไอเสียคู่ทรงรี และอุปกรณ์พิเศษระบบเบรก carbon-ceramic นับเป็นชุดเบรกคู่หน้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการติดตั้งลงในรถยนต์จากสายการผลิตปกติ,ให้พละกำลังสูงสุด 550 แรงม้า แรงบิดมหาศาลกว่า 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม.,เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ล้ำยุคและระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด,สนนราคาเริ่มต้น 21.5 ล้านบาท,เกสตาโป,gestapone@thairath.co.th, | ค่ายเอเอเอสออโต้เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ 2 แบรนด์หรูอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย คือ ปอร์เช่ และเบนท์ลีย์ | null | ปอร์เช่,เบนท์ลีย์,เอเอเอสออโต้ เซอร์วิส,เบนท์ลีย์ ประเทศไทย,เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา วี8 ดีไซน์ ซีรีส์,สังเวียนยานยนต์,เกสตาโป | https://www.thairath.co.th/news/auto/1665735 |
สรุป 4 ทีมเอเชียไปบอลโลก ซาอุฯ ผงาดทีมท้ายส่ง จิงโจ้ ไปเพลย์ออฟ | การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมาเสร็จสิ้นรอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย โดย ซาอุดิอาระเบีย ฮึดเอาชนะ ญี่ปุ่น ไปแบบหวุดหวิด 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมกับทำคะแนนจบอันดับสองของกลุ่มบี เข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียโดยอัตโนมัติ ตาม ญี่ปุ่น จ่าฝูงของกลุ่ม,ขณะที่ ออสเตรเลีย ที่นัดสุดท้ายเอาชนะ ไทย 2-1 ได้เป็นเล่นในรอบเพลย์ออฟเท่านั้นแม้จะมีคะแนนเท่ากับ ซาอุดิอาระเบีย แต่ประตูได้เสียเป็นรองสองลูก,ด้านกลุ่มเอ อิหร่าน เข้ารอบสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มโดยนัดสุดท้ายทำได้เพียงเสมอกับ ซีเรีย 2-2 ส่วนอันดับสองตกเป็นของ เกาหลีใต้ ที่นัดสุดท้ายทำได้เสมอกับ อุซเบกิสถาน 0-0 ขณะที่อันดับสามเกิดเรื่องดราม่าเล็กน้อย ซีเรีย ที่บุกไปตีเสมอ อิหร่านในช่วงทดเจ็บ 2-2 ทำให้พวกเขาเบียดอุซเบกิสถาน เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟด้วยการเป็นอันดับสามกลุ่ม โดยมี 13 แต้มเท่ากันแต่ประตูได้เสียดีกว่า 2 ลูก,ทั้งนี้ในรอบเพลย์ออฟของฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย ระหว่าง ออสเตรเลีย กับ ซีเรีย จะมีขึ้นวันที่ 5 ตุลาคม และ 10 ตุลาคมนี้ โดยผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบไปพบกับอันดับ 4 จากโซนคอนคาเคฟเพื่อคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียกลางปีหน้า | สรุป 4 ทีมเอเชียไปฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย ผงาดเป็นทีมสุดท้ายที่คว้าตั๋วแบบอัตโนมัติส่ง ออสเตรเลีย ไปรอบเพลย์ออฟเท่านั้น | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ซาอุดิอาระเบีย,ญี่ปุ่น,ฟุตบอลโลก 2018,อิหร่าน,เกาหลีใต้ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1061264 |
รัฐพิหารในอินเดีย ประกาศห้ามขาย-บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐพิหาร ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย ประกาศห้ามขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในรัฐอย่างเต็มรูปแบบ เพียงไม่กี่วันหลังจากประกาศห้ามขายสุราต้มเองภายในรัฐ และเดิมวางแผนจะสั่งห้ามอย่างเต็มรูปแบบใน 6 เดือนข้างหน้า,อย่างไรก็ตาม นายนิติช กุมาร มุขมนตรีรัฐพิหาร ระบุว่าเขาเร่งกำหนดการให้เร็วขึ้นเนื่องจาก การห้ามขายสุราต้มเองได้รับการสนับสนุนอย่างดีมากตั้งแต่ 4 วันแรกหลังประกาศ จนรัฐบาลพร้อมที่จะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเต็มรูปแบบในทันที เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสังคมในรัฐพิหาร,การตัดสินใจเร่งกำหนดการห้ามขายแอลกอฮอล์อย่างเต็มรูปแบบของนายกุมารได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกสภารัฐ 243 คน,ทั้งนี้ การห้ามขายแอลกอฮอล์ในรัฐพิหารได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนอย่างมากโดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากพวกเธอเชื่อว่าการที่ผู้ชายดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว, การคุกคาม รวมทั้งความยากจน แต่มาตรการนี้จะทำให้รัฐบาลท้องถิ่นสูญเสียรายได้จากภาษีที่เก็บจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบ 5 หมื่นล้านรูปี,อนึ่ง นอกจากรัฐพิหารแล้ว ยังมีอีก 3 รัฐที่ห้ามขายแอลกอฮอล์อย่างสิ้นเชิงคือ รัฐคุชราต, รัฐนาคาแลนด์ และรัฐมณีปุระ | ทางการรัฐพิหาร ในประเทศอินเดียประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในรัฐอย่างเป็นทางการในวันอังคาร เพียงไม่กี่วันหลังจากประกาศห้ามขายสุราต้มเอง และได้รับการสนับสนุนดี | null | รัฐพิหาร,อินเดีย,ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์,ห้ามขายสุรา,ห้ามขายเหล้า,สุราต้มเอง,ความรุนแรงในครอบครัว,ภาษี,รัฐคุชราต,รัฐนาคาแลนด์,รัฐมณีปุระ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/601843 |
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศยุบ พรรคกิจสังคม | วันนี้ (22 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยมีเนื้อหา ดังนี้ตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายทะเบียนพรรคการเมือง) ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 24 ก.ย.2525 เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมือง กรณีรับจดทะเบียนพรรคกิจสังคมเป็นพรรคการเมือง ตามความในพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ.2524 ต่อมาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 บัญญัติให้พรรคการเมืองซึ่งจดทะเบียนพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ.2524 เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 บัญญัติให้พรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 บัญญัติให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และยังดำรงอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้นนายทองพูล ดีไพร หัวหน้าพรรคกิจสังคม มีหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าพรรคกิจสังคมมีสมาชิกเหลือไม่ถึงห้าพันคน ทำให้พรรคกิจสังคมเลิกพรรคตามข้อบังคับพรรคกิจสังคมพ.ศ.2551 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ ๗ พ.ศ.2548) ข้อ 103 (1) จึงเป็นเหตุให้พรรคกิจสังคมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ตามมาตรา 91 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันปรากฏว่านายทองพูล ดีไพร หัวหน้าพรรคกิจสังคม ได้มีหนังสือแจ้งยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของพรรคกิจสังคมต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง จำนวน 8 คน ตามมาตรา 140 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองลงวันที่ 22 ธ.ค. พุทธศักราช 2560 กรณีดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้พรรคกิจสังคมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ 48/2561 (19) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ๒๕๖๑ที่ประชุมได้มีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ให้ประกาศการสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองของพรรคกิจสังคมจึงประกาศให้พรรคกิจสังคมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7)และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปประกาศณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561อิทธิพร บุญประคองประธานกรรมการการเลือกตั้ง | เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง พรรคกิจสังคมสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง | สังคม | ราชกิจจานุเบกษา,ยุบพรรค,พรรคการเมือง,พรรคกิจสังคม,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275238 |
ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตรายที่ 49 หญิงวัย 58 ติดเชื้อจากลูกสาว | วันที่ 22 เมษายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย สะสมรวม 2826 ราย หายป่วยแล้ว 2352 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ สะสมรวม 49 ศพ มีรายละเอียดดังนี้ผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 49 เป็นหญิงไทย อายุ 58 ปี อาชีพแม่บ้าน โรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วน พบประวัติเสี่ยงคือ ใกล้ชิดกับลูกสาวซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-1920 มีนาคม 2563 เริ่มมีอาการไข้ ไอ เสมหะ มีน้ำมูก22 มีนาคม 2563 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ28 มีนาคม 2563 ผลการตรวจยืนยันว่าพบเชื้อโควิด-19 โดยระหว่างการรักษามีอาการทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา. | ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 เผยไทม์ไลน์ผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ เป็นศพที่ 49 เป็นหญิงไทย วัย 58 ปี ติดเชื้อจากลูกสาวที่ป่วยก่อนหน้านี้ | ข่าว,สังคม | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,สบค.,ผู้ป่วยโควิด-19,ผู้ป่วยโควิดรายใหม่,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1827313 |
มูรินโญ โว เสี่ยหมี รู้ดีตนเหมาะคุมเชลซีที่สุด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 9 ธ.ค. ว่า โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยัน ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับข่าวลือที่บอกว่าเขาจะโดนปลดออกจากตำแหน่ง ชี้ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมรู้ดีว่าเขามีศักยภาพเหมาะสมที่จะคุมทีมมากที่สุด,มูรินโญ ตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังพาทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีก โดยมีเพียง 15 แต้ม อยู่อันดับ 14 ของตาราง โดยล่าสุดเพิ่งพ่ายให้กับ บอร์นมัธ ไป 0-1 ขณะที่ในถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เชลซี ต้องเอาชนะ ปอร์โต ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี คืนนี้ ให้ได้เพื่อการันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะถ้าแพ้แล้วทาง ดินาโม เคียฟ เอาชนะ มัคคาบี เทล อาวีฟ ได้ จะทำให้เชลซีได้อันดับ 3 ร่วงไปเตะยูโรปาลีกทันที,มูรินโญ กล่าวว่า มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะชนะ เสมอ หรือแพ้ ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมได้รับสิ่งที่ดีมากมายจากสโมสรแห่งนี้ เจ้าของสโมสรเขารู้ถึงคุณภาพที่ผมมีเป็นอย่างดี เจ้าของสโมสรรู้จักผมดีและรู้ว่าผมให้อะไรกับสโมสรบ้าง เจ้าของสโมสรเชื่อว่าผมเป็นคนที่เหมาะกับงานนี้ ตอนนี้ผมไม่ได้พูดเกี่ยวกับเจ้าของสโมสร ผมแค่พูดความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างหาก คุณสามาถพูดเรื่องผลการแข่งขันแย่ๆ เหล่านี้ แล้วโฟกัสความผิดทุกอย่างว่าเป็นเพราะผู้จัดการทีมก็ได้ คุณจะมองไปที่ผลการแข่งขันแล้วตามด้วยมองไปยังนักเตะที่เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานก็ได้ คุณจะมองไปยังประเด็นที่เราโชคร้ายกับคำตัดสินของกรรมการก็ได้ | โชเซ มูรินโญ กุนซือทีมเชลซี ยืนยัน ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับข่าวลือที่บอกว่าเขาจะโดนปลดออกจากตำแหน่ง ชี้ เจ้าของทีมอย่าง โรมัน อับราโมวิช รู้ดีว่าตนเป็นคนที่เหมาะคุมทัพสิงห์บลูที่สุด | null | พรีเมียร์ลีก,เชลซี,โชเซ มูรินโญ,โรมัน อับราโมวิช,ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/546702 |
ดิสคัฟเวอรี แชนแนล เตรียมฉายสารคดี ภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง | วันนี้ (13 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ twenty/twenty ของ สถานีโทรทัศน์เอบีซี จากสหรัฐอเมริกา ออกอากาศสารคดี Triumph in Thailand หรือ ชัยชนะในประเทศไทย ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แบ่งเป็น 6 ตอน โดยรวบรวมขั้นตอนการกู้ภัยเอาไว้อย่างละเอียด รวมถึงมีการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ ครอบครัว และเพื่อนของนักฟุตบอลเยาวชนที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนอย่างใจจดใจจ่อเช่นเดียวกับช่อง รายการสารคดีชื่อดังอย่าง Discovery Channel เตรียมออกอากาศ Operation Thai Cave Rescue ในวันนี้ เวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ท่ามกลางกระแสการตอบรับและความสนใจจากคนทั่วโลก และจะรีรันอีกครั้ง ทางช่อง Science Channel ในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 22.00 น. โดยจะเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จของภารกิจครั้งนี้ ตลอดจนการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ และจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทั้ง 13 คนสามารถเอาตัวรอดในถ้ำได้อย่างไรเป็นเวลาหลายวันขณะที่บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกา ส่งทีมงานลงพื้นที่ในไทยเพื่อเก็บรายละเอียด สำหรับเตรียมแผนการผลิตและถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความร่วมมือร่วมใจของคนทั้งโลกในการช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง แต่ทีมงานภาพยนตร์ ย้ำว่า ไม่ได้เร่งรัดที่จะติดต่อหรือพูดคุยกับครอบครัวของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน เพราะทราบดีว่าตอนนี้ทุกครอบครัวกำลังต้องการความเป็นส่วนตัวหลังจากที่เพิ่งจะได้พบหน้าลูกหลานที่รักอีกครั้งฮอลลีวูดเตรียมหารือไทยสร้างหนังทีมหมูป่ามีรายงานว่า น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกงสุลใหญ่ประเทศไทย ณ นครลอสแองเจลิส ว่า บริษัท Creative Talent Agency ได้ติดต่อเข้าพบกงสุลใหญ่ในวันนี้ เพื่อขออนุญาตให้บริษัทเดินทางเข้าประเทศไทย และหารือผู้ที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการสร้างภาพยนตร์เหตุการณ์ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ติดถ้ำหลวงขณะที่ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า หากฮอลลีวูดสนใจจริงจะต้องทำเรื่องขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่อทางการไทย ถ้าบทผ่านการพิจารณาก็จะมีขั้นตอนการเข้าไปดูแลให้การถ่ายทำสร้างจากเหตุการณ์จริง ถือเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นวาระของโลกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจและเอาใจช่วย | ดิสคัฟเวอรี แชนแนล ช่องรายการสารคดีชื่อดัง เตรียมออกอากาศสารคดี ปฎิบัติการกู้ภัยถ้ำหลวง วันนี้ 13 ก.ค. ขณะที่บริษัทสร้างภาพยนต์ ขอพบกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แองเจลลิส หารือสร้างหนังทีมหมูป่าติดถ้ำ | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ถ้ำหลวง,ทีมหมูป่า,เชียงราย,ดิสคัฟเวอรี แชนแนล,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,นักฟุตบอลเยาวชน,13ชีวิตรอดแล้ว,ฮอลลีวูด | https://news.thaipbs.or.th/content/273345 |
ธงโอลิมปิกถึงเมืองริโอ เดอ จาไนโร เจ้าภาพครั้งต่อไป | ธงโอลิมปิกจากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาถึงเมืองริโอ เดอ จาไนโร ประเทศบราซิล เจ้าภาพการแข่งขันในปี 2016 แล้ว โดยจะมีพิธีการส่งมอบให้กับนายดิลม่า รุสเซฟ ประธานาธิบดีบราซิล เพื่อเตรียมเดินหน้าในการเตรียมการจัดการแข่งขันด้านนายจาไนโร่ เอดูอาร์โด้ พาเอส นายกเทศมนตรีเมืองริโอ เดอ จาไนโร เปิดเผยว่า เมืองริโอจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้อย่างประสบความสำเร็จ และเป็นที่กล่าวขวัญของคนทั่วโลกไปอย่างยาวนาน พร้อมกับเป็นการกู้ชื่อเสียงของเมืองริโอให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากสูญเสียสถานะการเป็นเมืองหลวงของประเทศบราซิลให้กับกรุงบราซิเลียไปเมื่อ 52 ปีที่แล้วทั้งนี้ ธงโอลิมปิก ถูกถักทอด้วยผ้าไหม และมีการนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันโอลิมปิกปี 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ขณะที่เมืองริโอ เดอ จาไนโร จะเป็นเมืองแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก | ธงโอลิมปิกจากลอนดอย ถึงเมืองริโอ เดอ จาไนโร ประเทศบราซิล เจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกปี 2016 | กีฬา | ธงโอลิมปิก,บราซิล,เจ้าภาพ,เมืองริโอ เดอ จาไนโร | https://news.thaipbs.or.th/content/104787 |
ตีตั๋วชนโรง : The Secret Life of Pets 2 ภาคต่อเรื่องลับของสัตว์เลี้ยงแสนรัก | และตัวเลขรายรับทั่วโลกกว่า 875 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นคำตอบให้แล้วว่า The Secret Life of Pets ประสบความสำเร็จแค่ไหน จึงไม่แปลกที่จะมีภาคต่อตามออกมาใน The Secret Life of Pets 2 หรือในชื่อไทยว่า ,เรื่องลับแก๊งขนฟู 2,The Secret Life of Pets 2 โฟกัสเรื่องราวไปที่ 3 ตัวละคร ประกอบด้วย แม็กซ์ กับภารกิจปกป้องหนูน้อยเลียมจากอันตรายต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้ กิดเจ็ท สุนัขสาวสวยผู้หลงรักแม็กซ์กับภารกิจที่ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแมว และ สโนว์บอล กระต่ายที่อยากเป็นฮีโร่ ที่ต้องสู้กับเจ้าของคณะละครสัตว์เพื่อปกป้องเสือขาว (?) ใช่แล้ว กระต่ายช่วยเสือขาว 3 ตัวละคร 3 เส้นทาง ที่สุดท้ายก็มาเชื่อมโยงกันในท้ายที่สุด,น้องๆ น่ารัก เสน่ห์ล้นทะลุจอ,นี่คือหนังที่รู้ว่าตัวเองมี จุดขาย อะไร โดยไม่พยายามไปเป็นอะไรที่ไม่ใช่ แล้วก็เน้นไปที่จุดขายนั้น ซึ่งจุดขายที่เห็นๆ กันอยู่ก็คือ เสน่ห์ของเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรัก ด้วยภาพในแบบแอนิเมชั่นเปิดโอกาสให้นำความน่ารักของเหล่าน้องๆ มาขยี้และเพิ่มดีกรีความมุ้งมิ้งเข้าไปได้อีกมาก ซึ่งหนังก็ไม่ลืมที่จะใส่พฤติกรรมจริงๆ ที่มีในเหล่าน้องๆ เข้ามาในแอนิเมชั่นในแบบที่คนรักสัตว์ไม่อาจต่อต้านเสน่ห์เหล่านั้นได้เลย ตอกย้ำว่านี่คือหนังแอนิเมชั่นที่จะทำให้คนรักสัตว์ฟินคาโรงแน่นอน,สนุก ฮา ในแบบหนังครอบครัว,ในภาพรวม The Secret Life of Pets 2 ไม่ได้เน้นเรื่อง Secret ของเหล่าน้องๆ จนเป็นที่มาของฉากน่ารักๆ มากมายเหมือนกับภาคแรก แต่มุ่งเน้นไปที่ภารกิจของเหล่า 3 ตัวละครสำคัญ ซึ่งเสน่ห์ตัวละครก็เพียงพอที่ทำให้เราติดตามเรื่องราวไปได้ ดูสนุก เต็มไปด้วยฉากฮาๆ ที่จะเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากมาย นอกจากจะเป็นแอนิเมชั่นสำหรับคนรักสัตว์แล้ว ยังเป็นความบันเทิงในแบบครอบครัว ที่เหมาะกับการจูงมือเด็กน้อยไปตีตั๋วดูในโรงภาพยนตร์มากๆ,เนื้อเรื่องภาคต่อที่เติบโตมากยิ่งขึ้น,เนื้อเรื่องภาคต่อนี้ถูกยกระดับให้เห็นถึงการเติบโตอย่างชัดเจน นัยเรื่องราวของตัวละครเด่นทั้ง 3 เป็นสิ่งที่น่าจะกระทบใจกับคนเป็นพ่อแม่ที่กำลังมีลูกน้อยในการดูแลมากเป็นพิเศษ แม็กซ์ ที่ได้เผชิญหน้ากับบทเรียนที่ทำให้เขาตระหนักว่าและก้าวผ่านความกลัวในจิตใจตัวเอง ในขณะที่ กิดเจ็ท ก็เจอกับสถานการณ์ที่ต้องปรับตัวให้เข้าสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย การอยู่อย่างเข้าใจในความแตกต่าง และ สโนว์บอล กับความกล้าที่จะทำในสิ่งที่แม้จะใหญ่เกินตัว แต่หากเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ต้องกระทำ,The Secret Life of Pets 2 ขยายเรื่องราวให้มากกว่าเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงว่า ไม่ใช่คนดูแลสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงก็แอบดูแลเจ้าของเหมือนกัน เป็นภาคต่อที่ยกระดับตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม อีกทั้งยังปลูกฝัง ความดี ไว้ในหัวใจของคนดูรุ่นเล็ก ในขณะที่รุ่นใหญ่ก็คงได้มุมมองที่เปิดกว้างและข้อคิดดีๆ ติดตัวออกไปจากโรงภาพยนตร์,อ่านรีวิวหนัง ตีตั๋วชนโรง เรื่องอื่นๆ,ชา ตีตั๋วชนโรง,Twitter: ,@Chamanz13,Facebook: ,ตีตั๋วชนโรง | แอนิเมชั่นที่ว่าเล่าเรื่องราว ลับ ของเหล่าสัตว์เลี้ยงหลังจากที่เจ้าของออกไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ เป็นพล็อตที่เดาเลยว่ามันต้องประสบความสำเร็จแน่ๆ | null | ตีตั๋วชนโรง,The Secret Life of Pets 2,เรื่องลับแก๊งขนฟู 2,รีวิวหนัง,หนังใหม่ | https://www.thairath.co.th/entertain/movie/1586338 |
เบื้องหลังภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงบนเวทีออสการ์ | ออสการ์ในแต่ละปีย่อมโผล่ชื่อภาพยนตร์เข้าชิงรางวัลใหญ่ๆ ที่ Based on a True Story หรือสร้างจากเรื่องจริงมาอยู่เสมอ กระทั่ง Forbes เองยังเคยมีบทความ True Stories Dominate Oscar Nominees ที่พูดถึงภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงและได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ซึ่งในปี 2014 ที่บทความปล่อยออกมานั้นมีภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงถึง 7 เรื่อง จากรายชื่อหนังที่เข้าชิงทั้งหมด 9 เรื่อง ได้แก่ American Hustle Captain Phillips Dallas Buyers Club Nebraska Philomena The Wolf of Wall Street รวมถึง 12 Years a Slave ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นไปครองเช่นเดียวกับงานประกาศรางวัลออสการ์ในปี 2015 และ 2016 ที่มีภาพยนตร์จากเรื่องจริงถึง 4 เรื่องเท่ากันที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จนมาถึงงานออสการ์ ครั้งที่ 90 ในปี 2018 ภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสร้างจากเรื่องจริงมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง ได้แก่ Darkest Hour Dunkirk และ The Post นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์จากเรื่องจริงที่ได้เข้าชิงรางวัลสาขาอื่นๆ ด้วยแคธารีน แกรห์ม และเบน แบรดลี รับบทโดย เมอรีล สตรีป และทอม แฮงส์ ใน The Post (2017)จากชีวิตจริงสู่เวทีออสการ์มีการรวบรวมข้อมูลผลรางวัลออสการ์จาก hubspot.net ที่ระบุว่า ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงและได้อยู่บนเวทีออสการ์ตั้งแต่ปี 1935-2015 มีภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง 24% ที่ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในขณะที่นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงมี 30% นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม 19% และผู้กำกับยอดเยี่ยม 22% ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่ได้สูงเกินคาด ในแง่ของการตลาด เปอร์เซ็นต์ของภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงก็ทำเงินได้น้อยกว่าภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องแต่งอยู่มาก วิเคราะห์ได้จากสถิติรายได้โดยรวมของ U.S. Box Office ช่วงปี 1990-2016 ภาพยนตร์ทั่วไปที่สร้างจากเรื่องจริงจะทำเงินได้ประมาณ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาพยนตร์จากเรื่องแต่งทำเงินได้ถึง 74 ล้านเหรียญสหรัฐมาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์ รับบทโดย เดวิด โอเยโลโว ใน Selma (2015)จริงแค่ไหนเรียกว่าจริงแต่การจะเรียกภาพยนตร์เรื่องหนึ่งว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงนั้นก็อาจจะกำกวมอยู่พอสมควร เพราะในจำนวนภาพยนตร์ที่อ้างว่าสร้างจากเรื่องจริงทั้งหมดก็มีเรื่องจริงปนอยู่ในหนังไม่เท่ากัน informationisbeautiful.net ได้ทำการศึกษาภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงจำนวน 17 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ เพื่อคำนวณหาเปอร์เซ็นต์ของเรื่องจริง-เรื่องแต่งในแต่ละเรื่อง ได้แก่ Lion (2016) Hidden Figures (2016) Hacksaw Ridge (2016) The Big Short (2016) Spotlight (2015) Bridge of Spies (2015) Selma (2015) American Sniper (2015) The Imitation Game (2015) Dallas Buyers Club (2014) The Wolf of Wall Street (2014) 12 Years a Slave (2014) Philomena (2013) Captain Phillips (2013) Rush (2013) The Social Network (2010) และ The Kings Speech (2010) ผลสำรวจพบว่าภาพยนตร์ที่มีเรื่องจริงมากที่สุดคือ Selma (100%) ตามมาด้วย The Big Short (91.4%) และ Bridges of Spies (89.9%) โดยภาพยนตร์ที่อ้างว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่มีการแต่งเติมเรื่องราวเข้าไปมากที่สุดคือ The Imitation Game ซึ่งมีเรื่องจริงอยู่เพียง 41.4%คริสตอส ไมเคิลส์ ตัวแทนจาก Lee & Thompson LLP บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายในอังกฤษ เคยให้สัมภาษณ์กับ The Independent อธิบายถึงคำศัพท์ที่ใช้กำกับภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงเอาไว้ว่าการใช้คำว่า Inspired by a true story หรือได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง หมายถึงภาพยนตร์นั้นๆ อาจจะแค่เอาไอเดียคร่าวๆ มาจากเรื่องจริง โดยเนื้อหาในภาพยนตร์ไม่ต้องตรงกับข้อเท็จจริงเลยก็ได้ และตัวละครก็ไม่จำเป็นต้องมีอยู่จริง ในขณะที่คำว่า Based on a true story จะต้องเล่าถึงเนื้อหาที่มีตัวบุคคลจากเรื่องจริง และจำเป็นต้องอาศัยความถูกต้องชัดเจนของเนื้อหาในภาพยนตร์มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวก็ยังแตกต่างไปในแต่ละประเทศด้วยวินสตัน เชอร์ชิลล์ รับบทโดย แกรี โอลด์แมน ใน Darkest Hour (2017)หนังที่สร้างจากเรื่องจริงบนเวทีออสการ์ ปี 2018ในปีนี้เราก็ยังได้เห็นเทรนด์ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงบนเวทีออสการ์อยู่บ้าง ทั้งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขาอื่นๆ ทั้งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงที่น่าจับตามองและได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ปี 2018 มีดังนี้Loving Vincentเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม Loving Vincent สร้างจากชีวประวัติของศิลปินชื่อดังระดับโลก วินเซนต์ แวน โก๊ะ กำกับโดย โดโรตา โคเบียลา และฮิวจ์ เวลช์แมน จากการรวบรวมทุนทำภาพยนตร์ผ่านเว็บไซต์ Kickstarter ที่ทำให้เราได้ชมภาพยนตร์เรื่องแรกของโลกที่ใช้ลายเส้นวาดทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อโลกค้นพบทฤษฎีการฆ่าตัวตายที่น่าเศร้าของแวน โก๊ะ Loving Vincent จึงเล่าเรื่องราวชีวิตการเป็นศิลปินและความเดียวดายของเขาเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้สุดท้าย ความจริง ของการจากไปของศิลปินระดับตำนานคนนี้ยังไม่อาจสรุปได้แน่ชัด แต่ Loving Vincent ก็เตือนให้คนดูสนใจเรื่องราวขณะเขามีชีวิต ไม่ใช่สาเหตุการตายเท่านั้นPhoto: www.historyvshollywood.comDunkirkภาพยนตร์ฝีมือการกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน เข้าชิงถึง 8 รางวัลออสการ์ รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Dunkirk เล่าเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1940 และยุทธการดันเคิร์ก หรือการอพยพทหารอังกฤษและฝรั่งเศสออกจากชายหาดในเมืองดันเคิร์ก ซึ่งในภาพยนตร์นำเสนอบทบาทของชาวบ้านที่ส่งเรือเล็กไปช่วยเหลือทหารที่ติดอยู่บนชายหาดกว่า 400000 นาย โดยสามารถช่วยได้สำเร็จถึง 338000 ราย การหยิบยกเรื่องดันเคิร์กมาเล่าเป็นเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์ แต่โนแลนเลือกที่จะสร้างคาแรกเตอร์ในหนังขึ้นมาใหม่ประกอบกับเรื่องราวจริง แต่ก็มีตัวละครหลักอย่างนักบิน Royal Air Force Farrier ที่นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี ที่แม้จะเป็นตัวละครที่แต่งขึ้น แต่ก็มีความใกล้เคียงกับบุคคลในประวัติศาสตร์จริงอย่าง อลัน คริสโตเฟอร์ เดียร์ นักบินชาวนิวซีแลนด์ ที่เครื่องบินตกบนชายหาดเช่นเดียวกับตัวละครของทอม ฮาร์ดี Darkest Hourเข้าชิงออสการ์ถึง 6 รางวัล รวมทั้งรางวัลที่น่าจับตามองอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (แกรี โอลด์แมน) กำกับภาพยนตร์โดย โจ ไรต์ Darkest Hour เล่าเรื่องราวของวินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวของดันเคิร์กเช่นเดียวกัน มีการระบุว่าเนื้อหาใน Darkest Hour ไม่นำเสนอความจริงทางประวัติศาสตร์ได้ถูกต้องเท่าที่ควร และบ้างก็อ้างว่า Darkest Hour ถูกเสริมรายละเอียดบางอย่างให้สนุกเกินจริง อย่างซีนที่วินสตันขึ้นรถไฟใต้ดินและได้รับกำลังใจจากประชาชนให้สู้ต่อไปก็เป็นเรื่องราวที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ก็เป็นซีนที่ทำให้ Darkest Hour เวอร์ชันภาพยนตร์ทรงพลังยิ่งขึ้นI Tonyaจากนักสเกตน้ำแข็งรางวัลโอลิมปิก ทอนยา ฮาร์ดิง ต้องเจอกับคดีลอบทำร้ายคู่แข่งจนทำให้กลายเป็นข่าวดังและทำลายชีวิตการทำงานของเธอ หนังพาเราย้อนเรื่องราวของคดีดังกล่าวและความเป็นมาของทอนยาผ่านฝีมือการกำกับของเครก กิลเลสปีย์ โดยในปีนี้ I Tonya เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในชีวิตจริง คดีของทอนยา ฮาร์ดิง และเพื่อนคู่แข่งแนนซี เคอร์ริแกน ก็ยังไม่สามารถยืนยันเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ แม้จะมีหลายกระแสที่กล่าวว่าทอนยาสมรู้ร่วมคิดในการลอบทำร้ายแนนซีจริง และภาพยนตร์ I Tonya ถือเป็นการบอกเล่าประวัติชีวิตของทอนยาในแบบที่เธอต้องการ The Postเรื่องราวของ Pentagon Papers และการเปิดโปงความลับรัฐบาล ที่นำแสดงโดย ทอม แฮงส์ และเมอรีล สตรีป กำกับภาพยนตร์โดย สตีเวน สปีลเบิร์ก The Post เข้าชิงออสการ์ 2 รางวัลคือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในช่วงปี 1971 แคธารีน แกรห์ม (รับบทโดย เมอรีล สตรีป) ทำงานในสำนักพิมพ์ The Washington Post และตัดสินใจร่วมมือกับบรรณาธิการ เบน แบรดลี (รับบทโดย ทอม แฮงส์) ในการประสานงานกับ The New York Times เพื่อเปิดโปงความลับของรัฐบาลที่อยู่มานานกว่า 3 ทศวรรษ ภายใต้การปิดบังของประธานาธิบดีถึง 4 คน ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงทั้งชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเองในฐานะสื่อกับการเปิดเผยความจริงให้กับประชาชนชาวอเมริกันได้รับรู้ All The Money in the Worldคริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ชีวประวัติดราม่า All the Money in the World กำกับภาพยนตร์โดย ริดลีย์ สก็อตต์ ที่เล่าเรื่องราวของ Getty Kidnapping ในปี 1973 คดีการลักพาตัวหลานชาย วัย 16 ปี จอห์น พอล เก็ตตี ที่ 3 และปู่ของเขา จอห์น พอล เก็ตตี ผู้เป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่ไม่ยอมจ่ายค่าประกันตัว นำแสดงโดยนักแสดงมือรางวัลทั้ง มิเชล วิลเลียมส์ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ และมาร์ก วอห์ลเบิร์ก เขียนบทโดย เดวิด สการ์ปา ที่ใช้เรื่องราวจากหนังสือ Painfully Rich: The Outrageous Fortune and Misfortunes of the Heirs of J. Paul Getty เขียนโดย จอห์น เพรสตัน ที่แม้แต่บทภาพยนตร์และฉากในภาพยนตร์ที่ออกมาก็มีการอ้างว่าดราม่าน้อยกว่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำนอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงและได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาอื่นๆ ในปีนี้อีกทั้ง The Big Sick The Greatest Showman และ Victoria and Abdulสำหรับงานอคาเดมี อวอร์ดส์ หรืองานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90 ประจำปี 2018 ได้พิธีกรอารมณ์ดี จิมมี คิมเมล มาเป็นโฮสต์ของงาน โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น | ออสการ์ ครั้งที่ 90 ในปี 2018 ภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสร้างจากเรื่องจริงมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง ได้แก่ Darkest Hour Dunkirk และ The Post นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์จากเรื่องจริงที่ได้เข้าชิงรางวัลสาขาอื่นๆ ด้วยจากสถิติรายได้โดยรวมของ U.S. Box Office ช่วงปี 1990-2016 ภาพยนตร์ทั่วไปที่สร้างจากเรื่องจริงจะทำเงินได้ประมาณ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาพยนตร์จากเรื่องแต่งทำเงินได้ถึง 74 ล้านเหรียญสหรัฐ | null | null | https://thestandard.co/true-stories-dominate-oscar-nominees/ |
โอบามา ออกตัวแรง ชี้ ทรัมป์ ไม่เหมาะเป็นประธานาธิบดี | วันนี้ (3 ส.ค.2559) สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายโอบามาได้ตั้งคำถามต่อสมาชิกพรรครีพับลิกันของเขาว่า เหตุใจจึงพากันสนับสนุนนายทรัมป์ เนื่องจากเขามองว่าบุคคลผู้นี้ไม่เหมาะที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองสหรัฐฯ บอกว่าเป็นท่าทีที่รุนแรงที่สุดที่โอบามามีต่อทรัมป์เรามาถึงจุดที่จะต้องบอกว่า พอกันที โอบามาแสดงความเห็น พร้อมกับบอกว่า แม้ตัวเขาจะมีความเห็นและแนวนโยบายที่แตกต่างจากประธานาธิบดีและผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันคนก่อนๆ แต่ไม่เคยคิดว่าเขาเหล่านั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดีเหมือนครั้งนี้นายทรัมป์กำลังถูกตำหนิติเตียนอย่างรุนแรงจากหลายฝ่าย รวมทั้งบรรดาสมาชิกของพรรครีพับลิกันด้วยกันเองกรณีที่นายทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ของทหารอเมริกันนายหนึ่งที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการในอิรักซึ่งออกมาต่อต้านนายทรัมป์ประธานาธิบดีโอบามาบอกว่าพฤติกรรมของนายทรัมป์ต่อทหารหาญที่พลีชีพเพื่อชาติเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขาไม่ได้เหมาะที่จะมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาผู้สมัครของพรรครีพับลิกันคนนี้ไม่เหมาะจะเป็นประธานาธิบดี เห็นได้จากพฤติกรรมที่เขาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า โอบามากล่าวพร้อมกับชี้ให้เห็นว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนได้ออกมาตอบโต้คำปราศรัยของนายทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายด้านสตรี ผู้อพยพและชาวมุสลิมแกนนำพรรครีพับลิกันด้วยกันที่ออกแถลงการณ์ว่าตัวเองไม่ขอเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดหมางระหว่างนายทรัมป์กับครอบครัวทหารนี้ก็ประกอบด้วยนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนายจอห์น แมคเคน อดีตผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2551หลังจากถูกนายโอบามาวิจารณ์อย่างหนัก ทรัมป์ออกแถลงการโจมตีการทำงานของโอบามาว่าเป็นผู้นำที่ล้มเหลว แต่ไม่ได้ตอบโต้โดยตรงต่อคำวิจารณ์ของโอบามาที่บอกว่าเขาไม่เหมาะจะเป็นประธานาธิบดี | ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เหมาะที่จะมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันยุติการสนับสนุนนายทรัมป์ | ต่างประเทศ | บารัค โอบามา,โดนัลด์ ทรัมป์,ประธานาธิบดี,อเมริกา,วิจารณ์,รีพับลิกัน,ไม่เหมาะสม,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ | https://news.thaipbs.or.th/content/254557 |
ดาวดังเพียบ ฟีฟ่า แบโผ 55 แข้งยอดเยี่ยม ฟิฟโปร 2015 | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 27 พ.ย. ว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ทำการประกาศรายชื่อนักฟุตบอลจำนวน 55 คนจากทั่วโลก ซึ่งได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ ฟิฟโปร 2015 โดยมีบรรดาผู้เล่นชื่อดังของโลกติดทีมกันอย่างถ้วนหน้า,สำหรับในปีนี้ปรากฏว่า มีผู้เล่นจากทีม เรอัล มาดริด ติดเข้ามามากที่สุดจำนวน 12 ราย รองลงมาได้แก่ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก 11 ราย และทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน บาร์เซโลนา ติดทีมเข้ามา 11 ราย,ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมจากอังกฤษที่มีนักเตะติดโผเข้ามามากที่สุด 4 ราย รองลงมาเป็น เชลซี จำนวน 3 ราย, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 ราย และ อาร์เซนอล ติดโผเข้ามาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น คือ อเล็กซิส ซานเชส,สำหรับการประกาศรางวัล 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี จะมีขึ้นในวันที่ 11 มกราคมที่จะถึงนี้ ที่สำนักงานใหญ่ฟีฟ่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างการประกาศรางวัลบัลลงดอร์ 2015,55 รายชื่อนักเตะยอดเยี่ยมของฟิฟโปร 2015,ผู้รักษาประตู :, จิอันลุยจิ บุฟฟอน (ยูเวนตุส), อิเคร์ กาซิยาส (เอฟซี ปอร์โต), ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), เคย์เลอร์ นาบาส (เรอัล มาดริด), มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิก),กองหลัง :, ดาวิด อลาบา, เฌอโรม บัวเต็ง, ฟิลิปป์ ลาห์ม (บาเยิร์น มิวนิก), ฆอร์ดี อัลบา, ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน, เคราร์ด ปิเก (บาร์เซโลนา), ดาเนียล การ์บาฆาล, มาร์เซโล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน (เรอัล มาดริด), จอร์จิโอ คิเอลลินี (ยูเวนตุส), ดาวิด ลุยซ์, ธิอาโก ซิลวา (ปารีส เเซงต์ แชร์กแมง), ดิเอโก โกดิน (แอตเลติโก มาดริด), มัทส์ ฮุมเมิลส์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี (เชลซี), แวงซองต์ กอมปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้),กองกลาง :, ธิอาโก อัลคันทารา, ชาบี อลอนโซ, อาร์ตูโร วิดัล (บาเยิร์น มิวนิก), เซร์คิโอ บุสเกตส์, อันเดรส อิเนียสตา, อิวาน ราคิติช (บาร์เซโลนา), เอเดน อาซาร์ด (เชลซี), โทนี โครส, ลูกา โมดริช, ฮาเมส โรดริเกซ (เรอัล มาดริด), อันเดรีย ปิร์โล (นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี), พอล ป็อกบา (ยูเวนตุส), ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), มาร์โก แวร์รัตติ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง),กองหน้า :, เซร์คิโอ อเกวโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), เกเรธ เบล, คาริม เบนเซมา, คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด), ดักลาส คอสตา, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, โธมัส มุลเลอร์, อาร์เยน ร็อบเบน (บาเยิร์น มิวนิก), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง), ลิโอเนล เมสซี, เนย์มาร์, หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลนา), เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล), คาร์ลอส เตเบซ (โบคา จูเนียร์) | ฟีฟ่า ประกาศรายชื่อนักเตะยอดเยี่ยมของโลก 2015 จำนวน 55 ราย มีดาวดังจากยอดทีมชั้นนำของโลก ตบเท้าเข้ามาอย่างพร้อมหน้า ประกาศผล 11 แข้งยอดเยี่ยม ม.ค.ปีหน้า | null | ฟีฟ่า,สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ,ฟิฟโปร 2015,ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี,บัลลงดอร์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/542397 |
ครม.สั่งปิดเหมืองทอง พิจิตร ให้ก.แรงงานดูแล คนงานกว่า 1000 คน | มติ ครม.สั่งปิดเมืองชาตรี อัครา จ.พิจิตร โดยขยายเวลาใบอนุญาตไปจนถึง สิ้นปี 2559ส่วนพนักงานและผู้รับเหมา รวม กว่า 1000 กว่าคน ให้ กระทรวงแรงงานดูแล10 พ.ค.2559 เมื่อเวลา 14.35 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก รายงานว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งปิดเหมืองชาตรี อัครา หลังสิ้นปี 59 แต่ขยายเวลาใบอนุญาตไปจนถึง สิ้นปี 2559 ส่วนพนักงานและผู้รับเหมา รวม กว่า 1000 กว่าคน ให้ กระทรวงแรงงานดูแล ตามข้อเสนอของ รัฐมนตรี 4 กระทรวงเสนอ ในระหว่างนี้ ให้ บริษัท ขนแร่ ได้ถึงสิ้นปี โดย รัฐมนตรี 4 กระทรวง เห็นร่วมกันว่า เพื่อบรรเทาความขัดแย้ง การต่อต้านของประชาชน ในพื้นที่ ไม่หวั่น เหมืองฟ้องร้องโดยรายงานด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาการต่อใบอนุญาตเหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 13 พ.ค. นี้โดยช่วงเช้ามีประชาชนที่อาศัยอยู่รอบพื้นที่ทำเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ เดินทางมาเฝ้ารอติดตามฟังผลการประชุม ครม. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ประชาชนในกรุงเทพฯ ต่างเดินทางมาให้กำลังใจประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วยสำนักข่าวอิสรา รายละเอียดผลการประชุม ครม. ซึ่งมีมติ ดังต่อไปนี้1. ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย2. ในกรณีของบริษัท อัคราฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัท อัคราฯ เร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัท อัคราฯ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และกระทรวงแรงงานดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รมว.อุตสาหกรรม)ระบุว่า นายกรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามมติร่วมกันของทั้ง 4 กระทรวงข้างต้นแล้วกระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบที่ได้รับความเห็นชอบให้ดำเนินการ ทั้งด้านการกำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง การดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวทั้งนี้ การช่วยเหลือพนักงานของบริษัท อัคราฯ นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานกับกระทรวงแรงงานในการให้ความช่วยเหลือแล้ว จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรให้นำเงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 45 ล้านบาท มาให้การช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วย . | มติ ครม.สั่งปิดเมืองชาตรี อัครา จ.พิจิตร โดยขยายเวลาใบอนุญาตไปจนถึง สิ้นปี 2559ส่วนพนักงานและผู้รับเหมา รวม กว่า 1000 กว่าคน ให้ กระทรวงแรงงานดูแล 10 พ.ค.2559 เมื่อเวลา 14.35 น. | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,เศรษฐกิจ,สิ่งแวดล้อม | อรรชกา สีบุญเรือง,เหมืองทองพิจิตร,เหมืองทองอัครา | https://prachatai.com/journal/2016/05/65702 |
ยังตราตรึง อมร เปิดใจหลังพา ต่อพิฆาต ต่อยกิเลนยับ 6 แผล | วันที่ 13 มี.ค.61 ความเคลื่อนไหวหลังเกมที่ ต่อพิฆาต พีที ประจวบ เอฟซี ทีมน้องใหม่แห่งศึกโตโยต้า ไทยลีก เปิดสนาม สามอ่าว สเตเดียม เอาชนะ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปอย่างขาดลอยถึง 6-1 ซึ่งถือเป็นการแพ้ที่ย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมเยือนอีกด้วย จนส่งผลให้ทาง โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน ไขก๊อกลาออกจากตำแหน่ง,ล่าสุด อมร ธรรมนาม แข้งตัวรุกมากประสบการณ์ของเจ้าถิ่นออกมาเปิดใจกับ ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์ ถึงเกมนัดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาว่า ก่อนเกมในทีมศึกษาข้อมูลจากสเกาซ์ของทีม โดยพี่วัง (ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล) พูดกับพวกเราก่อนเกมว่าให้ทุกคนมีสมาธิ เล่นตามแท็กติกที่วางไว้ คือการเน้นเกมรับและโต้กลับเป็นหลัก,ทันทีที่จบการแข่งขันพี่วังก็เข้ามาขอบคุณลูกทีมรวมถึงแสดงความยินดีกับลูกทีมทุกคนที่เล่นตามแท็กติกที่วางไว้ได้อย่างไร้ที่ติ และเขาก็บอกพวกเราอีกว่าทีมเราสู้ได้ทุกทีมถ้ามีระเบียบวินัยในการเล่น สกอร์ที่ออกมาค่อนข้างสูงก็มาจากการมีส่วนร่วมของนักเตะทุกคน,สำหรับในเกมดังกล่าวที่ผมทำได้สองประตูก็รู้สึกดีใจ และมันมาเร็วเกินคาดไปนิดหน่อยในความรู้สึกแรก แต่พอมาลำดับเหตุการ์ย้อนความดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรมากมาย เพราะมันเป็นแค่ผลที่เกิดขึ้นหลังจากการทำได้ตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พวกเขา (เอสซีจี เมืองทองฯ) ก็ถือว่าเล่นได้ดีแต่แค่บางจังหวะอาจจะไม่เป็นใจเท่านั้น,พีที ประจวบ เอฟซี แน่นอนว่าเราคือทีมน้องใหม่ เราพร้อมที่จะสู้เต็มที่และยิ่งได้รับการหนุนหลังจากแฟนบอลมาอย่างดีเยี่ยมและมีแต่จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ส่งผลให้ทีมคว้าชัยชนะรวด 3 นัดที่เล่นในบ้าน ผมบอกไว้เลยว่าทีมใดก็ตามที่มาเยือนที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คว้าแต้มกลับออกไปเพราะด้วยความที่เราเป็นทีมน้องใหม่แต่เรามีสปิริตทีมที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะสู้เต็มที่ทุกจังหวะ | อมร ธรรมนาม แข้งตัวเก่งของ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมน้องใหม่ไทยลีก 1 ออกมาเผยความรู้สึกหมดเปลือกในเกมที่พาทีมถล่ม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 6-1 | กีฬา,ไทยลีก | อมร ธรรมนาม,พีที ประจวบ เอฟซี,ไทยลีก,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,พีที ประจวบ เอฟซี 6-1 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | https://www.thairath.co.th/sport/thaipremierleague/1226640 |
สมัชชาคนจนอัด กอ.รมน.ขัดคำสั่ง คสช.กรณีผลักดันคนออกจากพื้นที่พิพาทป่าโนนดินแดง | นี้ ว่าเป็นการกระทำอันขัดต่อคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 ที่ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ยึดถือนโยบายการปฏิบัติงาน โดยการดำเนินการใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า การประชาสัมพันธ์กับสาธารณะว่าได้มีการผลักดันให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ เข้าไปข่มขู่ บีบบังคับ เอากับชาวบ้าน และได้มีการจับกุมแกนนำชาวบ้านแถลงการณ๋ของ สคจ.ได้เรียกร้องให้ สื่อมวลชน นักสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการเข้าร่วมสังเกตุการณ์สถานการณ์ความขัดแย้งจากเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ระบุข้างต้น๐๐๐๐6 กรกฎาคม 2557เรื่อง ขอเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบ การอพยพไล่รื้อชาวบ้านที่อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์เรียน สื่อมวลชน นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน และพี่น้องประชาชนที่รักความเป็นธรรมทุกท่านตามที่ กอ.รมน. จ.บุรีรัมย์ ได้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าดงใหญ่ ตามแนวทางคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 โดยชุดปฏิบัติการร่วม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชุดมวลชนสัมพันธ์ กอ.รมน.จว.บ.ร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนดินแดง ได้ออกปฏิบัติการเข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจ และกำหนดแผนการปฏิบัติงานดังนี้1. วันที่ 1–7 กรกฎาคม 2557 ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจ2. วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 เชิญแกนนำกลุ่มผู้บุกรุกทุกกลุ่มมาชี้แจงทำความเข้าใจถึงมาตรการที่กำหนด3. ดำเนินการคัดกรองผู้บุกรุกที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 กรกฎาคม 25574. ดำเนินการจัดสถานที่พักพิงชั่วคราวและจัดทำแผนการดูแลผู้ที่ถูกผลักดันออกจากป่าดงใหญ่ เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อพักคอยการช่วยเหลือ ให้ อ.โนนดินแดงเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการและประสานงาน ทั้งนี้ โดยกำหนดให้ใช้พื้นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (สปก.) แปลงที่กรมพัฒนาที่ดินขอใช้ประโยชน์ จำนวนประมาณ 90 ไร่ ณ ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์5. วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ดำเนินการผลักดันผู้บุกรุกออกจากพื้นที่บุกรุกทุกกลุ่มและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งพืชผลอาสินของกลุ่มผู้บุกรุก6. วันที่ 9 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ดำเนินการจัดระเบียบและควบคุมพื้นที่บุกรุกเพื่อป้องกันมิให้มีการบุกรุกซ้ำ ทั้งนี้ โดยกำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อผู้บุกรุก ดังนี้1) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ให้ผลักดันกลับจังหวัดที่มีภูมิลำเนาเดิม2) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่ได้อยู่ในอำเภอโนนดินแดงให้ผลักดันกลับอำเภอที่มีภูมิลำเนาเดิม3) กลุ่มที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอโนนดินแดง ในเบื้องต้นให้กลับบ้านหรือภูมิลำเนาเดิม หากอ้างว่าเดือดร้อนไม่มีที่ไป ก็จัดเข้าที่พักพิงชั่วคราวเพื่อให้คณะกรรมการคัดกรองดำเนินการคัดกรองฯ ต่อไปสมัชชาคนจนเห็นว่า การกระทำของ กอ. รมน. จ.บุรีรัมย์ เป็นการกระทำอันขัดต่อคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 ที่ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ยึดถือนโยบายการปฏิบัติงาน โดยการดำเนินการใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ประกอบกับวิธีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วยความสมัครใจนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ เข้าไปข่มขู่ บีบบังคับ ให้ชาวบ้านรื้อบ้านออกภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 ถ้าหากไม่รื้อบ้านออกหรือรื้อบ้านไม่แล้วเสร็จ ในวันที่ 8 – 12 กรกฎาคม 2557 ทาง กอรมน. จ.บุรีรัมย์จะเข้ามารื้อถอนเอง อีกทั้งมีการจับกุมแกนนำที่เห็นแย้งไปควบคุมตัวไว้ที่จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ด้วย และนอกจากนี้ยังจะเอาที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันอยู่ไปจัดเพื่อรองรับการอพยพในครั้งนี้ด้วย โดยไม่ยอมรับฟังการคัดค้านของชาวบ้านและผู้ปกครองท้องที่ การปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาจจะเกิดเหตุรุนแรงต่อชาวบ้านในพื้นที่สมัชชาคนจน จึงใคร่ขอเชิญสื่อมวลชน นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน และพี่น้องประชาชนที่รักความเป็นธรรมทุกท่าน เข้าร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบการอพยพไล่รื้อชาวบ้านที่อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ในระหว่างวันที่ 7 – 12 กรกฎาคม 2557 นี้ ซึ่งสามารถติดต่อและขอข้อมูลการเดินทางได้ที่กองเลขานุการสมัชชาคนจน โทรศัพท์ 09 – 2289 – 6875ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจนสมัชชาคนจน | สมัชชาคนจน( สคจ.) ออกแถลงการณ์เชิญสื่อมวลชน นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ การอพยพไล่รื้อชาวบ้านที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ออกจากที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ในวันที่ 7 – 12 กรกฎาคม 2557 | การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน | คสช.,สมัชชาคนจน,สวนป่าโนนดินแดง | https://prachatai.com/journal/2014/07/54445 |
ปีเตอร์ เผยเหตุผลซึ้งๆ ใส่เนกไทสีแดงมางานศพ ไมเคิล น้องชาย | เรียกว่าเป็นความสูญเสียกะทันหันที่ทำให้ครอบครัวของนักร้องนักแสดงหนุ่ม ,ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, ยากที่จะทำใจจริงๆ สำหรับการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารของ ,ไมเคิล คอร์ป ไดเรนดัล, น้องชายของปีเตอร์ หลังรักษาตัวใน รพ. เกือบ 2 เดือน โดยในเวลานี้ได้ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ณ วัดธาตุทอง ศาลา 26 (สิงหเสนี),ล่าสุด ,ปีเตอร์, โพสต์ภาพตัวเองในงานศพน้องชาย โดยสวมชุดสูทสีดำ เนกไทสีแดง พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า ผมอยากใส่เนกไทสีแดงเพื่อน้องชายครับ เป็นสีแห่งความรัก ไมเคิลไม่ชอบอะไรที่ดูเศร้า ไม่ชอบให้คนเศร้า ในเมื่อวันนี้เราเห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ผมเลยอยากให้น้องได้รู้ว่าผมรักเค้า ทำเพื่อเค้าได้เสมอ,ผมขอขอบคุณไปถึงทุกงานที่ยินดีคืนคิวงานทั้งหมดช่วงนี้ให้ผมได้มาดูแลน้องชายที่รักเต็มที่เป็นครั้งสุดท้าย ดูแลกันมาตั้งแต่เริ่มจะดูแลกันต่อไปให้สุด ทุกวันเราหวังให้เค้าดีขึ้น ตอนนี้เราหวังให้เค้าหมดห่วงแล้วไปอยู่ในที่สบายก็พอ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงาน ส่งพวงหรีด หรือส่งข้อความมาให้กำลังใจครับ #mikecorp,
,
,ซึ่งหลังจากที่, ปีเตอร์, โพสต์ไปก็มีแฟนๆ เข้ามาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงคนบันเทิง อาทิ วุ้นเส้น วิริฒิพา, ปราง กัญญ์ณรัณ, ลูกเกด เมทินี, ก้อย รัชวิน, แคทรียา อิงลิช, ธัญญ่า ธัญญาเรศ, อ้อม พิยดา ฯลฯ. | ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล เผยเหตุผลซึ้งๆ ที่ใส่เนกไทสีแดงมาร่วมงานศพของไมเคิล คอร์ป ไดเรนดัล น้องชายสุดรัก พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงาน ส่งพวงหรีด หรือส่งข้อความมาให้กำลังใจ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล,ไมเคิล คอร์ป ไดเรนดัล,ปีเตอร์ น้องชายเสียชีวิต,ไมเคิล คอร์ป ไดเรนดัล เสียชีวิต,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1712426 |
หน้าเด็กเหมือน 12 ส่อง Marina Nagasawa เน็ตไอดอลชาวญี่ปุ่น | แม้ว่าเราจะพยายามอย่างหนักในการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอและเราก็เติบโตและแก่ขึ้นเรื่อยๆ แต่คงใช้คำนี้กับสาวญี่ปุ่นคนนี้ไม่ได้ เมื่ออายุของเธอถูกเปิดเผยเล่นเอาทั้งโลกงุนงงกันเลยทีเดียว,ถ้ามองเผินๆ คุณอาจจะคิดว่า ,Marina Nagasawa, เป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนอายุ 12 ปี แต่ในขณะที่ถ้าคุณมองอีกครั้งคุณจะค่อยๆ พิจารณาว่ามันมีบางสิ่งผิดแปลกอยู่ ด้วยทรวดทรงองค์เอว เธอไม่ใช่เด็ก แต่เธอแค่ดูคล้ายเด็กเท่านั้นเอง,และเธอเป็นที่รู้จักในชื่อ ,Gouhou Loli 合法ロリ, (แปลตามตัวอักษรว่า Legal Lolita) ซึ่งเป็นคำที่หมายถึงผู้หญิงที่ดูไม่บรรลุนิติภาวะหรือเรียกง่ายๆ ว่าดูเด็กนั้นแหละ แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นผู้ใหญ่ เหมือนใบหน้าของเธอเป็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษา แต่ร่างกายของเธอคือเป็นดั่งความฝันของผู้หญิงทุกคนที่อยากจะมีคือ อกเอวสะโพก ที่เป๊ะและเข้ากันอย่างดี,ซึ่งในไอจีส่วนตัว เธอมีลักษณะเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยที่อยู่ในชุดนักเรียนอันแสนน่ารักทำให้เธอดูเหมือนวัยรุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่โตเต็มวัยแล้ว ให้ทายว่าอายุของเธอเท่าไหร่? เธอเกิดเมื่อปีพ.ศ. 2538 ซึ่งตอนนี้เท่ากับเธออายุ 22 ปี เหลือเชื่อมั้ยหละ?,แต่เชื่อเถอะ แม้จะมีหลักฐานหลายอย่างที่บ่งบอกว่าเธออายุมากพอที่จะสวมชุดบิกินีแล้ว แต่คนที่เห็นก็ยังไม่เชื่อได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุ 22 ปี เนื่องจากใบหน้าอันดูเด็กของเธอ ในประเทศญี่ปุ่น เธอได้รับความนิยมชมชอบมากมายจากแฟนคลับและฐานแฟนคลับของเธอก็กว้างขวางและขยายขึ้นทั่วโลก และยื่งตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเธออยู่ในชุดบิกินีถ่ายแบบหวิวให้กับนิตยสารชั้นนำต่างๆ.,ชื่อจริง: Marina Nagasawa 長澤茉里奈,ชื่อเล่น: Mari-chiu,วันเกิด: วันที่ 8 ตุลาคม 2538,บ้านเกิด: ไซตามะ, ญี่ปุ่น,กรุ๊ปเลือด: O,งานอดิเรก: วาดภาพ, เล่นเกมบน Super Nintendo Entertainment System,สูง: 155 ซม,ขนาด หน้าอก-เอว - สะโพก: B80 - W55 - H82,ที่มา :,http://www.viral4real.com/mari-chiu-baby-face-japan/,ภาพ :,marinanagasawa1008 | ตำนานสาว หน้าเด็ก แห่งแดนอาทิตย์อุทัย ทำช็อกทั้งโลก! หลังจากที่เปิดเผยอายุของเธอ เธอดูเด็กกว่าครึ่งหนึ่งของอายุจริงๆ
| ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | เน็ตไอดอล,Marina Nagasawa,ชาวญี่ปุ่น,หน้าเด็ก | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1132570 |
กรมควบคุมมลพิษ ยัน ค่าฝุ่นละอองใน กทม.ไม่เกินมาตรฐาน | และการเผาในที่โล่ง,จากกรณี ,หมอกปกคลุมทั่วกทม., และเป็นฝุ่นควันค่าขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถผ่านขนจมูก โพรงจมูก คอ หลอดลมใหญ่ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ,ล่าสุด นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า สถานการณ์มลพิษทางอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 24 ม.ค. 61 ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ (ค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม.) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ เวลา 12.00 น. ณ วันที่ 24 มกราคม 2561 อยู่ในช่วง 54 – 85 มคก./ลบ.ม. สูงสุดที่ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี สมุทรปราการ 59 – 71 มคก./ลบ.ม. และสมุทรสาคร 114 มคก./ลบ.ม.,สำหรับผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐาน 120 มคก./ ลบ.ม.) ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลักของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ การจราจร รองลงมาคืออุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง,ขณะเดียวกัน เมื่อสภาพอากาศนิ่ง ลมสงบ และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ปรากฏการณ์นี้จะพบเป็นบางวันในช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับ PM 2.5 สูงขึ้นผิดปกติในช่วงนี้,ทั้งนี้ จากข่าวที่แชร์ในเว็บเพจต่างๆ ซึ่งเป็นรูปจากเว็บไซต์ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เว็บไซต์ดังกล่าวใช้ค่าเฉลี่ย 1 ชั่วโมง เทียบกับดัชนีคุณภาพอากาศของ U.S. EPA ซึ่งต้องใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในการเทียบ จึงทำให้การรายงานดัชนีคุณภาพอากาศของเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ในช่วงสีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ),โดยข้อเท็จจริง หากใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะอยู่ในเกณฑ์สีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคระบบทางหายใจ หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร,ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีและไม่ปล่อยควันดำ และถ้าเป็นไปได้ควรลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันไปใช้ระบบขนส่งมวลชน ก็จะช่วยสถานการณ์และลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ได้. | กรมควบคุมมลพิษ แจง หมอกปกคลุม กทม. เกิดจากสภาพอากาศนิ่ง และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ยันผลตรวจฝุ่นละออง ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ชี้แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลักคือ การจราจร อุตสาหกรรม | ข่าว,สังคม | สุณี ปิยะพันธุ์พงศ์,กรมควบคุมมลพิษ,ฝุ่นในกทม.,หมอกลงกทม.,หมอก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1185945 |
ภูเก็ต เตรียมออกประกาศให้ผู้เลี้ยงจระเข้แจ้งการครอบครอง ฝ่าฝืนจำคุก 1 ปี | วันนี้ (24 ก.ค.61) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเตรียมออกประกาศแจ้งให้ผู้ที่เลี้ยงจระเข้ที่ไม่ได้จดแจ้งไว้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้รีบแจ้งจังหวัดโดยเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ. ศ. 2535 มาตรา 49 ที่ระบุว่า ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับนอกจากนี้ จากการตรวจสอบของ นายไพศาล สุขปุณพันธ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ถึงที่มาของจระเข้ ตัวดังกล่าวว่าจะหลุดมาจากฟาร์มเลี้ยงทั้ง 5 แห่งในพื้นที่ภูเก็ตหรือไม่ ปรากฏว่า ไม่พบจระเข้หลุดออกจากที่ฟาร์มเลี้ยงแต่อย่างใด ดังนั้นจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่า จระเข้ตัวดังกล่าว มีแหล่งมาจากที่ใดซึ่งต้องจับตัวให้ได้ก่อนจากการพิจารณาด้วยสายตา ในสภาพพื้นที่จริงจระเข้ตัวดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งเป็นจระเข้ที่ไม่ใหญ่มากนัก จึงไม่มีความดุร้ายเหมือนกับจระเข้ขนาดใหญ่ ส่วนแหล่งที่มาของจระเข้ตัวดังกล่าว หากไม่ได้มาจากแหล่งเลี้ยงที่ถูกต้องอาจจะมาได้จากการหลุดจากแหล่งเลี้ยงที่ไม่แจ้งการครอบครองหรือ จากแหล่งธรรมชาติ หรือมีการลักลอบนำมาปล่อยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการค้นหาขณะนี้ชุดเฉพาะกิจที่นำโดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทอง ลุ่มน้ำตาปีจาก จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้ระดมช่วยกันค้นหาแต่ปัญหาอุปสรรคคือสภาพอากาศที่มีคลื่นลมแรงและเป็นบริเวณทะเลเปิดทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่จะเข้าถึงจระเข้ได้ อย่างไรก็ตามชุดเฉพาะกิจทีมค้นหายังคงดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมถึง การเฝ้าระวังว่าทางจังหวัดได้จัดทีมเฝ้าระวังแจ้งข่าวเพื่อแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ตห้ามลงเล่นน้ำในทะเล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายฝั่งเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ตลอดแนวชายหาดทั้งหาดไตรตรัง หาด Paradise และหาดป่าตอง รวมทั้งหาดต่างๆที่คิดว่าเป็นเส้นทางที่จระเข้จะเดินทางไปได้ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแส จระเข้ดังกล่าวมายังจังหวัดภูเก็ต ที่หมายเลข โทรศัพท์ 092 -2468366 081 8673664 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเนื้อหา : ประชาสัมพันธ์ จ.ภูเก็ต | จ.ภูเก็ต เตรียมออกประกาศแจ้งให้ผู้เลี้ยงจระเข้ที่ไม่ได้จดแจ้งไว้ รีบแจ้งจังหวัดโดยด่วน ป้องกันความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 10000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ | ภูมิภาค | จระเข้,ภูเก็ต,หาดไตรตรัง,หาดป่าตอง,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/273566 |
ไขข้อข้องใจคนไทย ปมตั้งอาชีวะ? ฟังรัฐบาลนิวซีแลนด์ขอตอบเอง | นายเอกภพ เหลือรา หรือ อยู่ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองหรือไม่ ประเทศไทยและนิวซีแลนด์ มีพันธสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันหรือไม่ และผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 สามารถถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้หรือไม่ คำถามที่ค้างคามาเนิ่นนาน ในวันนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ร่วมกับ ,ทีมข่าวต่างประเทศไทยรัฐออนไลน์, ได้พยายามเสาะแสวงหาคำตอบ ผ่านไปทางสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย จนที่สุดได้รับคำตอบจากกระทรวงต่างประเทศนิวซีแลนด์ ในข้อสงสัยต่างๆ มาดังนี้,ถาม : ,1. ขอทราบขั้นตอนในการยื่นขอสถานะการเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ หรือการขอวีซ่าถาวร??,ตอบ : นโยบายคนเข้าเมืองของนิวซีแลนด์ อนุญาตที่จะรับแรงงานที่มีฝีมือและมีทักษะขั้นสูง รวมทั้งครอบครัวของพวกเขามาอยู่ในนิวซีแลนด์ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของเราเติบโต ขณะเดียวกัน ก็ยังอนุญาตให้พลเมืองนิวซีแลนด์ให้การสนับสนุนครอบครัวที่มีความใกล้ชิดกับพวกเขาเข้ามาอยู่ในนิวซีแลนด์ด้วย,ทั้งนี้ มีบุคคลหลายประเภทที่มีสิทธิยื่นสมัครขอเข้ามาอยู่อาศัยในนิวซีแลนด์ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ Immigration New Zealand (INZ),อย่างไรก็ตาม การยื่นขอเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ เป็นงานกระทรวงมหาดไทยนิวซีแลนด์ ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นคำขอตามลิงก์ที่แนบมานี้ ,http://www.dia.govt.nz/New-Zealand-citizenship,ถาม : ,2. การยื่นขอเป็นพลเมืองหรือขอวีซ่าถาวรในนิวซีแลนด์นั้น ผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาจากประเทศไทยสามารถดำเนินการยื่นขอได้หรือไม่?,ตอบ : กรมตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานะของคนเข้าเมืองเป็นรายบุคคลได้ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลนั้น และเรื่องการขอเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์นั้น ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยนิวซีแลนด์,ถาม : ,3. ต้องการทราบกฎระเบียบของการยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองในนิวซีแลนด์ และคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ใช้ในการพิจารณาขอลี้ภัยทางการเมืองในนิวซีแลนด์คืออะไร?,ตอบ : รัฐบาลนิวซีแลนด์ดำเนินการตามพันธสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และความรับผิดชอบตามพันธสัญญาอย่างเคร่งครัด,ซึ่งการลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับสถานะของผู้ลี้ภัย (Refugee Convention) ปี 1951 และพิธีสารปี 1967 ได้ถูกกำหนดให้พิจารณาคำอ้างทั้งหมดเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัย จากผู้ที่พยายามจะเข้ามาขอลี้ภัยอยู่ในพรมแดนของนิวซีแลนด์ โดยสถานะผู้ลี้ภัยนั้น สามารถถูกนำมาอ้างได้เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินหรือท่าเรือของนิวซีแลนด์ หรือยื่นภายหลังเดินทางมาถึงนิวซีแลนด์แล้ว โดยผู้ขอลี้ภัยนั้น คือประชาชนซึ่งมีคุณสมบัติในการขอลี้ภัย ตาม Refugee Convention ซึ่งได้รับการแก้ไขใหม่และอยู่ในพิธีสารปี 1967,เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินคำอ้างเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัยในนิวซีแลนด์ ถือเป็นลำดับขั้นตอนแรกเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัย จากนั้นจะไปสู่ขั้นตอนของการยื่นเรื่องขอลี้ภัย และการคุ้มครองของศาลยุติธรรม โดยคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัยในนิวซีแลนด์ตามลิงก์ข้างล่างนี้ -,http://www.immigration.govt.nz/NR/rdonlyres/E809F05F-60EF-4483-9272-92B0EACDB440/0/claimingrefugeeprotectionstatus.pdf,ส่วนกรณีการให้สิทธิผู้ลี้ภัยที่แยกออกมานั้น ภายใต้โครงการโควตาผู้ลี้ภัยของนิวซีแลนด์ ได้กำหนดให้รับผู้ลี้ภัยปีละ 750 คน ซึ่งถูกเสนอมายังนิวซีแลนด์ โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกพิจารณาโดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์เพื่อเข้ามาพำนักอยู่ในนิวซีแลนด์ ภายใต้โครงการโควตาผู้ลี้ภัย ซึ่งต้องได้รับการยอมรับในฐานะผู้ลี้ภัยและเสนอมาโดย UNHCR,โดยตามข้อตกลง UNHCR มีหน้าที่ตัดสินเลือกบุคคลเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประเทศที่ดีสุดให้แก่ผู้ลี้ภัย หรือการพิจารณาว่าสมควรจะส่งผู้ลี้ภัยไม่ว่าจะชายหรือหญิง ไปยังประเทศที่สาม เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา ซึ่งผู้ลี้ภัยทั้งหมดจะต้องยอมรับในข้อตกลงเข้ามาพำนักอยู่ในนิวซีแลนด์ ภายใต้โครงการโควตาผู้ลี้ภัย ซึ่งจำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามนโยบายผู้ลี้ภัย, สุขภาพ, ความมั่นคง และความเสี่ยงของการเข้าเมือง,ถาม : ,4. คนไทยที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทำความผิดในคดีอาญา มาตรา 112 สามารถขอลี้ภัยอยู่ในนิวซีแลนด์ได้หรือไม่?,ตอบ : กรมตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับบุคคลที่ขอลี้ภัยว่า จะได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยหรือไม่ เนื่องจากตามมาตรา 151 ในกฎหมายคนเข้าเมืองปี 2009 ของนิวซีแลนด์นั้น ได้กำหนดว่าต้องรักษาคำขอลี้ภัยเหล่านั้นไว้เป็นความลับ เพื่อให้ความเคารพต่อผู้อ้างสิทธิลี้ภัย รวมทั้งผู้ลี้ภัยและการคุ้มครองประชาชน,ถาม :, 5. ประเทศไทยและนิวซีแลนด์มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่?,ตอบ : ไทยและนิวซีแลนด์ ไม่มีข้อตกลงหรือสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ระหว่างนิวซีแลนด์กับนานาประเทศนั้น ดำเนินการตามกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของนิวซีแลนด์ ปี 1999 ซึ่งทางการนิวซีแลนด์อาจถูกผูกพันในฐานะเป็นรัฐที่รับช่วง ตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงโดยสหราชอาณาจักร ก่อนหน้าที่นิวซีแลนด์จะได้รับเอกราช,สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสนธิสัญญาและกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน สามารถดูได้ที่ ,http://www.mfat.govt.nz/Treaties-and-International-Law/06-International-Courts-and-Tribunals/6-Extradition.php,ถาม : ,6. ต้องการทราบสถานะของนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ในนิวซีแลนด์ว่าเขาได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ หรือได้สิทธิ์พำนักถาวรในนิวซีแลนด์หรือยัง???,ตอบ : กรมตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ ไม่สามารถแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับสถานภาพของคนเข้าเมืองเป็นรายบุคคลได้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น,ฉบับภาษาอังกฤษ ,Query: I would like to know about the procedure to apply for New Zealand citizenship or permanent residence?,Response: Immigration policy allows highly skilled and experienced workers and their immediate families to migrate to New Zealand to help our economy grow. It also allows New Zealanders to sponsor their close family to migrate to New Zealand.,There are several categories under which people can apply to migrate to New Zealand. Full details are available on the Immigration New Zealand (INZ) website.,Please note that citizenship is a matter for the Department of Internal Affairs. You can find more details on citizenship requirements at the following link:- ,http://www.dia.govt.nz/New-Zealand-citizenship,Query: In case of applying for New Zealand citizenship or permanent residence status, can the criminal suspected person from Thailand apply for it?,Response: Immigration New Zealand is not able to comment on the immigration status of individuals without a privacy waiver. As noted above citizenship is a matter for the Department of Internal Affairs., ,Query:I would like to know the regulations regarding seeking political asylum in New Zealand and what is the most important qualification for considering political asylum in New Zealand ?,Response: New Zealand takes its international humanitarian obligations and responsibilities seriously. , ,As signatories to the 1951 Convention Relating to the Status of Refugees (Refugee Convention) and its 1967 Protocol is obliged to consider all claims made for refugee status from asylum seekers within New Zealands borders. Refugee status can be claimed on arrival at a New Zealand airport or port, or at a later time after arrival in New Zealand. Refugees are people who meet the definition of a refugee provided in the Refugee Convention, as amended by its 1967 Protocol. The authorities involved in determining claims for refugee status in New Zealand are at first instance the Refugee Status Branch of Immigration New Zealand and then on appeal the Immigration and Protection Tribunal. You can find further information about claiming refugee status in New Zealand at the following link:- ,http://www.immigration.govt.nz/NR/rdonlyres/E809F05F-60EF-4483-9272-92B0EACDB440/0/claimingrefugeeprotectionstatus.pdf ,Separately under New Zealands Refugee Quota Programme, New Zealand resettles 750 refugees per year which are referred to New Zealand by the United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR). Refugees considered by Immigration New Zealand for resettlement under the Refugee Quota Programme must be recognised as mandated refugees and referred by UNHCR according to prescribed international resettlement guidelines. For refugees referred for resettlement by the UNHCR, the UNHCR determines the persons refugee status, whether resettlement is the best option for the refugee and whether his/her case will be referred for resettlement to a safe third country. All refugees accepted for resettlement in New Zealand under the Refugee Quota Programme need to meet immigration policy and health, security and immigration risk requirements. , ,Query: Is a Thai national who is suspected of violating Thai Criminal Code, article 112 Article can seek political asylum in New Zealand?,Response: Immigration New Zealand is not able to comment on whether someone has claimed asylum or been granted asylum or not. This is because section 151 of the Immigration Act 2009 requires that confidentiality must be maintained in respect of asylum claimants, refugees and protected people., ,Query: Does Thailand and New Zealand have extradition treaty?,Response: No, there is no agreement/treaty - but extradition between New Zealand and an overseas state is covered by the Extradition Act 1999. New Zealand may be bound as a successor state to extradition treaties concluded on its behalf by the United Kingdom prior to independence. For more information about treaties and international law, see: ,http://www.mfat.govt.nz/Treaties-and-International-Law/06-International-Courts-and-Tribunals/6-Extradition.php,Query: I would like to know about the status of Mr.Ekapop luera or Tang Acheewa in New Zealand, is he a New Zealander citizen or permanent resident?,Response: Immigration New Zealand is not able to comment on the immigration status of individuals without a privacy waiver. | ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทางการไทยต้องการตัว พำนักอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ ในฐานะอะไร? | null | ตั้ง อาชีวะ,พลเมืองนิวซีแลนด์,เอกภพ เหลือรา,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ส่งผู้ร้ายข้ามแดน,ม.112,มาตรา 112,หมิ่นสถาบัน,หลบหนีคดี,กฎหมายระหว่างประเทศ,สถานะพลเมือง,ขอสิทธิเป็นพลเมือง,พลเมือง,หนีคดี | https://www.thairath.co.th/content/510273 |
ตั้งกก.สอบ พ.ต.ท.โรงพักโชคชัย ปมฉาวรีดเงินทำคดี เหยื่อผิดหวังฆ่าตัว | จากกรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ค.62 พบผู้เสียชีวิตที่ห้องเลขที่ 207 ภายในอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่งในพื้นที่สมุทรปราการ เป็นชาย 1 รายในสภาพนอนตะแคงขวา สวมเสื้อโปรโลแขนสั้น สีดำ กางเกงยืนขายาว เสียชีวิตมาแล้วไม่ตำกว่า 3 วัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในห้องพบสมุดเขียนจดหมายลาตาย รวม 2 ฉบับ,โดยฉบับแรกมีข้อความว่า กราบถึง พล.อ.ประยุทธ จันโอชา ข้าพเจ้า นายไพวัลย์ แซ่ลี้ ได้นำรถกระบะมาสด้า บีที 50 โปร ทะเบียน 6723 ร้อยเอ็ด สีบรอนเทา ไปจำนำไว้ตั้งแต่ 15 มกราคม 2561 วันที่ 23 มกราคม 61 ข้าพเจ้าได้ติดต่อคนที่รับจำนำ แต่ไม่สามารถติดต่อไถ่ถอนคืนกลับมาได้ ข้าพเจ้าเลยเข้าแจ้งความดำเนินคดีแก่คนรับจำนำ กับ สน.โชคชัย และ พ.ต.ท.ประทวน ได้เรียกเงิน 3,000 กับค่าสืบอีก 2,000 บาท ข้าพเจ้าก็จ่ายไป บัดนี้ผ่านมา 7 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่จะจับกุมผู้กระทำความผิด และติดตามรถกลับมาได้เลย ข้าพเจ้า ขอความเป็นธรรมจากท่านนายกฯ ผู้ที่รักษาซึ่งกฎหมายและความยุติธรรม ขอให้ท่านติดตามความคืบหน้า เร่งรัดคดีให้ด้วย,ส่วนฉบับที่สองมีข้อความว่า ข้าพเจ้า นายไพวัลย์ แซ่ลี้ ได้กระทำการฆ่าตัวตายด้วยตนเอง ข้าพเจ้าไม่มีญาติ ไม่มีบ้าน ข้าพเจ้ามีแต่ความล้มเหลว และผิดหวัง ขอความกรุณา เจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยเผาศพให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เงินจำนวนนี้ + โทรศัพท์2เครื่อง และของในห้องทุก ๆ อย่าง ขอมอบให้แก่เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ที่ช่วยเผาศพของข้าพเจ้า ลงชื่อท้าข้อความ ไพวัลย์ แซ่ลี้,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 พ.ค.62 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอเรียนชี้แจงในประเด็นแรกเกี่ยวกับคดียักยอกทรัพย์ ตามที่ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กับ สน.โชคชัย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำพยานและออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยมีผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุมาพบและรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจำนวน 1 ราย ในส่วนรายอื่นที่ยังไม่มาพบ พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป,ในส่วนประเด็นต่อมาตามที่ผู้ตายได้ทิ้งจดหมาย และมีข้อความบรรยายกล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์นั้น ขณะนี้ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องแล้ว และให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว โดยหากผลการตรวจสอบพบว่ามีข้อบกพร่องหรือการกระทำความผิดก็จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ตามกฎหมายต่อไป,รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า คงต้องรอให้คณะกรรมการทำการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ไม่มีการให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องผู้ที่กระความผิดอยู่แล้ว โดยจะดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมกับคู่กรณีทุกฝ่าย ตามขั้นตอนกฎหมาย,ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือ ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุกแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด,หากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเรียกรับผลประโยชน์ในทางคดี ก็พิจารณาความบกพร่องทั้งทางวินัยและการดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของผู้บังคับบัญชาที่ไม่กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะถูกพี่นาโทษด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน.,ที่ สน.โชคชัย รายงานข่าวแจ้งว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีหนังสือสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยมี พ.ต.อ.ทรงธรรม ศรีกาญจนา ผู้กำการกลุ่มงานสืบสวน บก.น.4 เป็นหัวหน้าชุดในการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบภายใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนในการสืบสวนสอบสวน หากพบมีการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้. | รองโฆษกตร.เผย สั่งตั้งกรรมการสอบแล้ว พ.ต.ท.สังกัด สน.โชคชัย พัวพันการเสียชีวิตของหนุ่มรมควันดับในพื้นที่สมุทรปราการ หลังพบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ ระบุรีดใต้โต๊ะ 5 พัน ค่าทำคดียักยอกทรัพย์ | ข่าว,อาชญากรรม | ตำรวจรีดเงิน,รีดเงิน,สน.โชคชัย,ตั้งกก.สอบ,เรียกรับสินบน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1561743 |
ดุสิตโพล ชี้ ปชช.สนใจข่าว เก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป มากสุด | เมื่อวันที่ 2 เม.ย.60 สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง เหตุการณ์บ้านเมืองที่มีผลกระทบต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,134 คน ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-1 เม.ย.60 พบว่า ข่าวหรือเหตุการณ์ที่ประชาชนสนใจติดตามมากที่สุด โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.43 ระบุว่าเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 17,629 ล้านบาท รองลงมาร้อยละ 69.84 ระบุ กสท.สั่งปิดวอยซ์ทีวี 7 วัน และร้อยละ 68.25 ระบุ หม่อมอุ๋ย แฉ 6 อดีตบิ๊กทหาร ดันตั้งบรรษัทน้ำมัน,ด้านข่าวหรือเหตุการณ์ที่ประชาชนคิดว่ามีผลกระทบต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลมากที่สุด ร้อยละ 81.75 ระบุว่าเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 17,629 ล้านบาท ร้อยละ 76.98 ระบุว่า หม่อมอุ๋ย แฉ 6 อดีตบิ๊กทหาร ดันตั้งบรรษัทน้ำมัน ร้อยละ 61.38 ระบุว่า กสท.สั่งปิดวอยซ์ทีวี 7 วัน ทั้งนี้ประชาชนคิดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ปัญหาเหตุการณ์ต่างๆ ต่อไปนี้ได้หรือไม่ได้ การเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป 17,629 ล้านบาท ร้อยละ 44.18 ระบุว่าไม่แน่ใจ ร้อยละ 28.04 ระบุว่าแก้ได้ ร้อยละ 27.78 ระบุแก้ไม่ได้ หม่อมอุ๋ย แฉ 6 อดีตบิ๊กทหาร ดันตั้งบรรษัทน้ำมัน ร้อยละ 39.95 ระบุว่าไม่แน่ใจ ร้อยละ 34.39 ระบุว่าแก้ได้ และร้อยละ 25.66 ระบุว่า แก้ไม่ได้ กสท.สั่งปิดวอยซ์ทีวี 7 วัน ร้อยละ 48.94 ระบุว่า แก้ได้ ร้อยละ 28.57 ระบุแก้ไม่ได้ ร้อยละ 22.49 ระบุแก้ไม่ได้ และ บิ๊กป้อม แย้มอยากคืนเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน ร้อยละ 43.65 ระบุไม่แน่ใจ ร้อยละ 34.66 ระบุแก้ได้ และร้อยละ 21.69 ระบุแก้ไม่ได้. | สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความเห็น ชี้ ปชช.สนใจข่าว เรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป มากที่สุด รองลงมา กสท.สั่งปิดวอยซ์ทีวี 7 วัน อันดับ 3 เป็น หม่อมอุ๋ย แฉ 6 อดีตบิ๊กทหาร ดันตั้งบรรษัทน้ำมัน | ข่าว,การเมือง | ดุสิตโพล,โพล,ผลสำรวจความเห็น,ข่าว,หุ้นชินคอร์ป | https://www.thairath.co.th/news/politic/902697 |
ชาวพุทธกับพระพุทธปฏิมา1: กำเนิดพระพุทธรูป | สืบเนื่องจาก พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในห้วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บทความนี้ให้ความสนใจต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการตอบสนองต่อการถกเถียงเรื่องนี้โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมทางวัตถุที่มีความสำคัญในวิถีชีวิตของชาวพุทธทั้งไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วทุกนิกาย คือ พระพุทธปฏิมาหรือพระพุทธรูป ผู้เขียนค้นคว้าเรื่องนี้และเขียนไว้เป็นส่วนหนึ่งของตำราที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนวิชาพุทธศาสนาในชีวิตคนไทย ในระดับปริญญาตรี อันที่จริงก็เป็นเพียงการศึกษาขั้นเบื้องต้นของผู้เขียนเท่านั้น แต่เมื่อเกิดการถกเถียงต่อต้านเกี่ยวกับงานศิลปะเกี่ยวพันหมิ่นเหม่ต่อศรัทธาที่มีต่อสัญลักษณ์ทางศาสนาของชาวไทย จึงอยากนำเรื่องนี้มาเสนอในประชาไท โดยให้ถือเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเพื่อการศึกษาร่วมกันมากกว่าจะแสดงว่าผู้เขียนเป็นผู้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเทียบกับนักประวัติศาสตร์ด้านพุทธศิลป์ของไทยผู้เขียนยังเป็นเพียงผู้เริ่มต้นศึกษาเท่านั้น บทความชุดนี้ออกเป็น 4 ตอน ภายใต้หัวข้อใหญ่คือ พระพุทธปฏิมา : จากองค์ประธานของเรื่องเล่าถึงหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ในที่ขอบคุณประชาไทที่อนุญาตให้นำเรื่องนี้มาตีพิมพ์ในที่นี้ด้วยโดยสาระหลัก บทความนี้จะพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางวัตถุของพุทธศาสนาในชีวิตของชาวพุทธไทย ในเบื้องต้นจะเป็นการปูพื้นความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธรูปหรือพระพุทธปฏิมาตั้งแต่เริ่มแรกก่อนจะมีพระพุทธรูป คำถามหลักในบทความชุดนี้คือ พระพุทธรูปมีสถานะ บทบาท และนัยสำคัญอย่างไรในวิถีชีวิตของชาวพุทธไทย เป็นเครื่องมือสื่อสารธรรม เป็นรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นเพียงวัตถุแห่งการค้า พระพุทธรูปมีความหมายอย่างไรเมื่อถูกสร้างขึ้นและนำไปประดิษฐานไว้ภายในสถานที่สำคัญ เช่น ในโบสถ์ วิหาร ลานพระเจดีย์ เป็นต้น ในบทสุดท้ายจะพูดถึงการท้าทายจารีตประเพณีเกี่ยวกับพระพุทธรูปในสังคมไทยของพุทธทาสภิกขุ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง พระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้าบังพระธรรม ซึ่งนำไปสู่การปฏิเสธคุณค่าหรือความหมายของพระพุทธรูปตามจารีตของชาวพุทธ หวังว่าทั้งหมดนี้ จะช่วยให้เราได้เห็นคุณค่า ความหมายและบทบาทของพระพุทธรูปอันแตกต่างหลากหลายในสังคมไทย รวมทั้งคติความเชื่อและมุมมองต่างๆ ที่มีเกี่ยวกับพระพุทธรูปของชาวพุทธไทยด้วยในที่นี้ผู้เขียนประสงค์จะแสดงให้เห็นว่า พระพุทธรูปเกิดขึ้นจากการเล่าพุทธประวัติและความต้องการที่จะมีองค์ประธานของเรื่องเล่าที่ชัดเจนขึ้น หมายความว่า พระพุทธรูปเกิดจากการศึกษาเรื่องราวของพระพุทธเจ้าและความปรารถนาที่จะมองเห็นพระพุทธเจ้าซึ่งอยู่ในโลกของตำนานและจินตนาการของคนอินเดียยุคหลังพุทธกาล เมื่อเรื่องเล่าพุทธประวัติแบบมุขปาฐะถูกเล่าผ่านภาพหินสลัก พื้นที่ว่างในเรื่องเล่าบนภาพหินจำหลักจึงถูกเติมเต็มด้วยพุทธปฏิมาแบบที่เราถือเป็นแบบอย่างต่อมาจนปัจจุบันในสมัยแรกๆ เรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าจะแสดงออกเป็นรูปธรรมผ่านภาพหินสลัก ซึ่งการศึกษาพบว่า การเล่าเรื่องราวเกี่ยวพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในสมัยหลังพุทธกาล ราวพุทธศตวรรษที่ 3 - 6 ที่แสดงผ่านงานศิลปะอินเดียโบราณ (สมัยที่ 1) ยังนิยมแทนรูปของพระพุทธเจ้าด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น สถูป บัลลังก์เปล่า เสาไฟ เป็นต้น ส่วนการใช้พระพุทธรูปเป็นภาพแทนในการเล่าเรื่องของพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นครั้งแรกในศิลปะอินเดียสมัยที่ 2 (ศิลปะคันธาระ ศิลปะมถุรา และศิลปะอมราวดี ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 6 - 10) แต่ระหว่างศิลปะคันธาระกับศิลปะมถุรา ศิลปะใดที่ประดิษฐ์พระพุทธรูปขึ้นก่อนนั้นยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ แคว้นคันธาระตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอนุทวีปอินเดีย อยู่ใกล้ช่องเขาไคเบอร์ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ใช้เป็นเส้นทางบุกรุกอินเดีย วัฒนธรรมกรีก – โรมันจึงเข้ามาปูพื้นฐานก่อนการสร้างพระพุทธรูปที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์กุษาณะ ชนชาติซิเถียนซึ่งเป็นเผ่าร่อนเร่บนหลังม้า อพยพจากเอเชียกลางเข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวและสถาปนาราชวงศ์กุษาณะขึ้น แผ่ขยายอำนาจครอบครองทั้งแคว้นคันธาระและอุตตรประเทศ ราชวงศ์นี้นำวัฒนธรรมกรีก - โรมันมาผสมผสานกับวัฒนธรรมเอเชียกลางของตน สันนิษฐานกันว่าพระเจ้ากนิษกะอาจเป็นกษัตริย์พระองค์แรกๆ ที่อุปถัมภ์การสร้างพระพุทธรูป มีหลักฐานสำคัญคือด้านหลังเหรียญของพระองค์ปรากฏพระพุทธรูปที่มีจารึกว่า BUDDO (พุทโธ) หลักฐานทางโบราณคดีชี้ว่า พระพุทธรูปหรือการบูชาพระพุทธรูปของชาวพุทธไม่ได้มีมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของประวัติศาสตร์พุทธศาสนาแต่เริ่มต้นด้วยอิทธิพลของกรีก-โรมัน ข้อนี้ขัดแย้งกับตำนานเกี่ยวกับพระพุทธรูปที่มีการเล่าขานต่อกันมาตั้งแต่สมัยพระถังซ่ำจั๋งเดินทางไปอินเดียแล้วดังนั้น หากมองเรื่องการสร้างพระพุทธรูปผ่านตำนานเกี่ยวกับพระพุทธรูปในประเทศต่างๆ จะพบคติที่ว่าพระพุทธรูปเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล ตำนาน พระแก่นจันทน์ อันเป็นข้อมูลในวรรณกรรมเก่าแก่ของอินเดียและลังกา กล่าวว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์เป็นเวลา 1 พรรษา พระเจ้าปัสเสนทิโกศล (ประเสนชิต) ทรงรำลึกถึงพระพุทธเจ้า จึงสั่งให้นายช่างทำพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงขึ้นเพื่อสักการบูชาโดยประดิษฐานไว้เหนืออาสนะที่พระพุทธเจ้าเคยประทับ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และเสด็จมายังที่ประทับในพระราชวัง ด้วยอานุภาพของพระองค์ พระพุทธรูปแก่นจันทน์จึงเคลื่อนย้ายจากที่ประทับของพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเห็นดังนั้นจึงตรัสห้าม พระพุทธรูปแก่นจันทน์จึงเคลื่อนกลับไปประทับ ณ ที่เดิม ตำนานของศรีลังกาและอินเดียกล่าวว่าพระพุทธเจ้าตรัสให้รักษาพระพุทธรูปนั้นไว้เพื่อให้สาธุชนใช้เป็นแบบอย่างในการสร้างพระพุทธรูปหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพานแล้ว ตำนานนี้สอดคล้องกับจดหมายเหตุบันทึกเรื่องประเทศทางภาคตะวันตกของพระสมณะเสวียนจั้งที่เล่าว่าพระเจ้าอุเทน (พระเจ้าอุทยัน) แห่งนครโกสัมพีโปรดให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นด้วยไม้จันทน์องค์หนึ่งขณะเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดาบนชั้นดาวดึงส์ เนื่องจากพระองค์ทรงรำลึกถึงพระพุทธเจ้ายิ่งนัก จึงขอให้พระโมคคัลลานะพานายช่างหลวงขึ้นไปจำลองรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้ามาสร้างเป็นพระพุทธรูป ตำนานพระแก่นจันทน์ ของวัดทรายมูล ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อันเป็นสำนวนที่แพร่หลายในประเทศไทย เล่าเรื่องการสร้างพระพุทธรูปของพระเจ้าปัสเสนทิโกศล โดยระบุว่าทรงให้ราชทูตไปนำไม้แก่นจันทน์จากพระยาสุวรรณพรหมาแล้วให้ช่างแกะสลักพระพุทธรูปสูง 6 องคุลี หน้าตักกว้าง 20 ศอก บ่ากว้าง 26 องคุลีกับนิ้วครึ่ง พระแก่นจันทน์องค์นั้นมีน้ำหนักถึง 6000 ชั่ง ในพระไตรปิฎก ไม่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธรูปดังในตำนาน แต่มหาปรินิพพานสูตรได้กล่าวถึงการสักการะสถานที่สำคัญเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 4 แห่ง พระอานนท์ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า เมื่อก่อนภิกษุทั้งหลายจากที่ต่างๆ เดินทางมาพบพระพุทธองค์ พวกเขาย่อมได้พบ ได้ใกล้ชิดพระพุทธองค์และย่อมเบิกบานใจ แต่เมื่อพระองค์ล่วงลับไป พวกข้าพระองค์ทั้งหลายก็จะไม่ได้พบ ไม่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์อีก พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า มีสถานที่ 4 แห่งที่กุลบุตรผู้มีศรัทธา (ประสงค์จะเห็นพระพุทธเจ้า) ควรไปดู คือสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงธรรม และสถานที่ดับขันธปรินิพพาน อนึ่ง ชนเหล่าใดจาริกไปยังเจดีย์ มีจิตเลื่อมใสตายไปก็จะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ความในมหาปรินิพพานสูตรไม่ได้กล่าวถึงการสร้างรูปเคารพเพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้าหลังจากที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว มีแต่เรื่องราวการสร้างสถูปเจดีย์เพื่อบรรจุพระมหาธาตุของพระพุทธเจ้าไว้สักการะ 9 แห่ง ได้แก่ กรุงราชคฤห์ กรุงเวสาลี เมืองกบิลพัสดุ์ เมืองอัลกัปปะ เมืองรามคาม เมืองเวฏฐทีปกะ เมืองปาวา เมืองกุสินารา และเมืองปิปผลิวัน ซึ่งปรากฏอยู่ในช่วงท้ายของมหาปรินิพพานสูตรสรุปว่า การสร้างรูปเคารพเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าก็ยังไม่ปรากฏในช่วงเวลา 1 - 300 ปีหลังพุทธกาล พระพุทธประวัติของไทยที่แต่งอิงปฐมสมโพธิกถาของลังกาได้เล่าเรื่องราวบางอย่างไว้น่าสนใจซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นจิตสำนึกแรกๆ ของชาวพุทธที่เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของพระพุทธรูป หนังสือ พระปฐมสมโพธิกถา ได้เล่าเรื่องการขุดค้นหาพระธาตุของพระพุทธเจ้าในเมืองต่างๆ มารวบรวมไว้ที่เมืองปาฏลีบุตรแล้วทำการบูชาอย่างยิ่งใหญ่โดยพระเจ้าอโศกมหาราช (มีพระชนม์ชีพอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 3 – 4) ขณะเมื่อเฉลิมฉลองบูชาพระธาตุนั้น มีพระยามารลงมาจากสวรรค์เพื่อทำลายพิธี แต่พระอุปคุตเถระได้ทำหน้าที่อารักขาจนสามารถปราบพระยามารให้สิ้นพยศได้ เมื่อพระอุปคุตรู้ว่าพระยามารเคยเห็นพระพุทธเจ้า จึงขอให้พระยามารเนรมิตตนเองเป็นพระพุทธเจ้าผู้ประกอบด้วยมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ อนึ่ง ท่านจงได้อนุเคราะห์แก่อาตมา ด้วยสมเด็จพระศาสดาบังเกิดในโลกเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานเสียแล้ว เราได้เห็นแต่พระธรรมกาย บมิได้เห็นพระสรีรกาย ท่านจงอนุเคราะห์นฤมิตพระรูปกายแห่งพระศาสดาจารย์ พร้อมด้วยอาการทั้งปวงสำแดงแก่เราให้เห็นประจักษ์ เมื่อพระยามารเนรมิตกายเป็นพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งเหล่าพระสาวก พระอุปคุตและชาวเมือง (รวมทั้งพระเจ้าอโศกมหาราช) เห็นรูปลักษณ์ดังกล่าวจึงก้มกราบพระพุทธเจ้าจำแลง พระยามารตกใจถามว่าเหตุใดพระเถระจึงทำเช่นนั้น ท่านได้สัญญาแล้วมิใช่หรือว่าจะไม่ถวายนมัสการข้าพเจ้า พระอุปคุตจึงตอบว่า อาตมาบมิได้นมัสการซึ่งท่าน กระทำอภิวันทนาการสรีรรูปพระบรมครูกับทั้งพระสาวกทั้งปวงตำนานนี้น่าสนใจตรงที่ได้ให้นัยว่าการกราบไว้พระพุทธรูปเป็นสิ่งที่ทำได้หรือยอมรับได้สำหรับชาวพุทธ คำพูดของพระอุปคุตสะท้อนการยอมรับดังกล่าว พระพุทธนฤมิตซึ่งแท้จริงคือรูปกายของพระยามาร พระพุทธนฤมิตเป็นเพียงมายาภาพ แต่พระอุปคุตเถระก็ยังกราบไหว้พระพุทธนฤมิตดังกล่าว พร้อมทั้งอธิบายว่าเมื่อกราบนมัสการนั้น ท่าน (พระอุปคุต) ไม่ได้มีจิตมุ่งหมายจะนมัสการรูปร่างของมาร แต่มีใจมุ่งจดจ่อที่พระพุทธนฤมิต ไม่สำคัญว่าสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริงหรือไม่ เจตนาของผู้กราบไหว้ขณะกระทำการนมัสการนั้นต่างหากที่สำคัญ นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังทำให้ทราบเหตุการณ์ก่อนการเกิดขึ้นของพระพุทธรูปในอินเดียอีกด้วย เนื่องจากยังไม่มีการจารึกเรื่องราวของพระพุทธเจ้าเป็นลายลักษณ์อักษร เรื่องราวของพระพุทธเจ้าและพระสาวกถูกถ่ายทอดต่อจากคนรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งผ่านคำบอกเล่า วิธีเล่าแบบหนึ่งคือสร้างเป็นภาพจำหลักหินในสถานที่สำคัญ ดังในบันทึกของสมณะเสวียนจั้งได้กล่าวถึงสถูปที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชว่า ส่วนบนองค์สถูปสร้างเป็นฐานสี่เหลี่ยมคล้ายจะให้เป็นบัลลังก์ แล้วสร้างเป็นฉัตรปักไว้บนบัลลังก์นั้นอีกต่อหนึ่ง รอบพระสถูปมีบริเวณก็ให้ทำเป็นรั้วเขตล้อมรอบและสลักศิลาเป็นรูปเรื่องพุทธประวัติหรือเรื่องราวในชาดก ภาพจำหลักนั้นงดงามมาก แต่ภาพพระพุทธประวัติที่ว่านั้นมิได้ปรากฏว่ามีภาพพระพุทธรูปอยู่เลย นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะชาวอารยันในสมัยโบราณไม่นิยมการสร้างรูปเคารพ ชาวอารยันคิดจะมาสร้างรูปเคารพขึ้นก็ภายหลังติดต่อถ่ายเทอารยธรรมกับพวกกรีกแล้ว สมัยพระเจ้าอโศกแม้จะมีการติดต่อกับชาวกรีก แต่ยังไม่มีการสร้างรูปเคารพของพระพุทธเจ้า ภาพพุทธประวัติจึงไม่มีรูปพระพุทธเจ้า แต่ใช้สัญลักษณ์บางอย่างแทน เช่น (1) ภาพประสูติ จำหลักเป็นภาพพระนางสิริมหามายาทรงยืนเหนี่ยวกิ่งต้นสาละ ไม่มีรูปพระกุมาร (2) ภาพออกมหาภิเนษกรมณ์ จำหลักเป็นภาพม้ากัณฐกะผูกเป็นเครื่องอานเปล่า (3) ภาพตรัสรู้ จำหลักเป็นต้นศรีมหาโพธิ ภาพใต้มีวชิรบัลลังก์อาสน์ตั้งอยู่เปล่าๆ มีรูปพญามารผจญและนางธรณีปรากฏอยู่ บางภาพก็ไม่มี (4) ภาพแสดงปฐมเทศนา จำหลักเป็นภาพวงล้อมธรรมจักร มีรูปกวางหมอบอยู่ข้างๆ (5) ภาพดับขันธปรินิพพาน จำหลักเป็นภาพอาสนะเปล่าระหว่างต้นสาละ มีรูปพระสาวกประกอบหรือบางทีทำเป็นรูปพระแท่น ในพระไตรปิฎก มีคำบรรยายเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมหาบุรุษผู้ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า หรือไม่ก็อาจได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เหนือดินแดนที่มีมหาสมุทรทั้งสี่เป็นขอบเขต เราอาจเรียกคำบรรยายดังกล่าวนี้ว่าเป็นการวาดรูปร่างในเชิงอุดมคติของพระพุทธเจ้าขึ้นมา ในพระสูตรบางเรื่อง เช่น มหาปทานสูตร ได้มีการวาดภาพของพระพุทธเจ้าในอดีตคือพระวิปัสสีพุทธเจ้าผ่านพระดำรัสของพระโคดมพุทธเจ้าอีกทีหนึ่ง ในขณะที่ลักขณสูตร พระพุทธเจ้าตรัสบรรยายถึงรูปลักษณ์ของพระองค์เองว่ามีลักษณะต่างๆ อย่างไร และพระองค์ได้ลักษณะดังกล่าวมาด้วยอานิสงส์ของการบำเพ็ญกุศลกรรมเรื่องใด เช่น ในอดีตชาติตรัสแต่เรื่องที่ให้คนสามัคคีกลมเกลียวกันไม่แตกแยกกัน พระองค์จึงมีพระทนต์ 40 ซี่และเรียงกันเรียบสนิทดี การที่พระองค์ไม่กล่าวคำหยาบรุนแรงในอดีตชาติทำให้มีพระชิวหาใหญ่และมีเสียงดุจพรหม เป็นต้น รูปลักษณ์ทางกายภาพของพระพุทธเจ้าจึงเป็นรูปลักษณ์ของผู้มีบุญบารมี เป็นอานิสงส์จากคุณธรรมและบทบาททางจริยธรรมที่ทรงบำเพ็ญในอดีตชาติขณะที่บางพระสูตรกล่าวถึงลักษณะทางกายภาพของพระพุทธเจ้าว่ามีความสำคัญอย่างไร เช่น ลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาเข้าเฝ้าหรือเฝ้าติดตามด้วยความเลื่อมใส ภาพลักษณะภายนอกจึงเป็นเครื่องมือสร้างศรัทธาหรือการยอมรับในเบื้องต้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญแก่ลักษณะของบุคคลสำคัญตามจารีตนิยมของสังคม หรือเชื่อถือคัมภีร์ทางโหราศาสตร์ คำเล่าลือเกี่ยวกับลักษณะรูปร่างของพระพุทธเจ้าดึงดูดความสนใจเสมอแม้ในกลุ่มพระสาวกของพระองค์เองบางพระสูตร เช่น ในวักกลิสูตร เมื่อพระวักกลิอาพาธหนัก พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยมถึงที่พัก พระวักกลิจึงทูลให้ทราบถึงความปรารถนาของตนที่อยากไปเห็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่สามารถเดินทางไปได้เพราะอาพาธหนัก พระองค์ตรัสว่าไม่มีประโยชน์อันใดในการเห็นร่างกายอันเปื่อยเน่านี้ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม ความจริง เมื่อเห็นธรรมก็ชื่อว่าเห็นเรา เมื่อเห็นเราก็ชื่อว่าเห็นธรรม ถือตามความในพระสูตรนี้ ร่างกายของพระพุทธเจ้ามีความหมายเดียวกันกับธรรมอันเป็นนามธรรม การเห็นรูปร่างของพุทธะกับการเห็นธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งจึงเท่ากับการเห็นอีกอย่างหนึ่ง อรรถกถาธรรมบทเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระวักกลิแตกต่างจากพระไตรปิฎก แต่ก็มีสาระตรงกันที่แสดงให้เห็นว่าการพบเห็นพระพุทธเจ้ามีบทบาทสำคัญต่อการบรรลุธรรมของพระวักกลิพระพุทธดำรัสกับพระวักกลิกลายเป็นคำนิยามสำคัญเกี่ยวกับท่าทีของพุทธศาสนาที่มีต่อรูปเคารพของพระพุทธเจ้า ทำนองว่า การเป็นชาวพุทธที่แท้ไม่ไหว้พระพุทธรูป เพราะการกราบไหว้รูปเคารพแสดงถึงการไม่เข้าใจสัจธรรม นอกจากนี้ พระพุทธดำรัสสุดท้าย (ปัจฉิมโอวาท) ของพระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพาน ที่ตรัสให้สาวกยึดถือ พระธรรมวินัย เป็นศาสดา ถูกอ้างมาเพื่อสนับสนุนท่าทีที่ปฏิเสธการสร้างรูปเคารพของพระพุทธเจ้าในยุคเริ่มแรก แต่พุทธทาสภิกขุอธิบายว่า ธรรมเนียมการไม่สร้างรูปเคารพขึ้นเพื่อบูชาในเหล่าพุทธศาสนิกชนยุคเริ่มแรกหลังพุทธกาลนั้นมาจากสาเหตุทางวัฒนธรรมของชาวฮินดูในยุคพุทธกาลมากกว่าจะมาจากอิทธิพลของคำสอนในวักกลิสูตรโดยตรง การไม่ยอมทำรูปเคารพหรือภาพพระพุทธเจ้าในเรื่องเล่าพุทธประวัติมีสาเหตุมาจากคนสมัยอุปนิษัทมีวัฒนธรรมทางจิตใจหรือทางศาสนาสูงถึงขนาดที่ประณามรูปเคารพ ไม่บูชารูปเคารพในลักษณะของคนเขลาและคนขลาดทั้งในหมู่พุทธศาสนิกชนและศาสนิกอื่นๆ ในยุคอุปนิษัทของอินเดีย คนรู้จักค้นหาสิ่งนามธรรมและมีความสูงส่งในแง่จิตวิญญาณกันทั่วไป คำสอนของพระพุทธเจ้ามีเนื้อหาสาระอยู่ที่การบังคับตัวเองหรือการตัดกิเลส พระองค์ทรงขอให้สาวกทุกคนมองหา ผู้นำ ในตัวธรรมและมองตนเองในฐานะเป็นสรณะที่พึ่ง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีรูปเคารพอื่นใดเป็นที่พึ่งหรือไว้สำหรับกราบไหว้บูชา ในทัศนะของพุทธทาสภิกขุ การไม่สร้างรูปเคารพหรือการไม่แสดงรูปร่างอย่างมนุษย์ของพระพุทธเจ้าด้วยวัตถุใดๆ เป็นแต่ใช้สัญลักษณ์บางประการแทนนั้น แสดงถึงการมีจิตวิญญาณขั้นสูงทางศาสนธรรม การบูชากราบไหว้รูปเคารพของพระพุทธเจ้า สถานศักดิ์สิทธิ์หรือแม้กระทั่งการยึดมั่นในพระสรีรธาตุของพระพุทธเจ้าล้วนเป็นผลมาจากความขลาดเขลาและปรารถนาที่จะกราบไหว้พระพุทธเจ้าอย่างเป็นผู้ช่วยให้รอด ความไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร การทำพระพุทธรูปขึ้นเคารพบูชาจึงเป็นการถอยหลังเข้าคลองในทางธรรมหรือในทางจิตวิญญาณ นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่พระพุทธประวัติหินจำหลักไม่มีพระพุทธเจ้าโดยปกติ เมื่อเราเล่าเรื่องราวบางอย่าง องค์ประธานหรือตัวละครหลักของเรื่องเล่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่องเล่า มีตัวละครอื่นๆ หรือสิ่งอื่นๆ เป็นองค์ประกอบรายล้อมองค์ประธานของเรื่อง การเล่าพุทธประวัติด้วยภาพหินจำหลักแม้จะมีองค์ประธานของเรื่องเล่า แต่ไม่นิยมแสดงองค์ประธานคือภาพจำหลักพระพุทธเจ้าไว้ในเรื่องเล่า อันที่จริง ชาวอินเดียสมัยนั้นน่าจะรู้จักรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้าผ่านคำบรรยายมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้าที่บันทึกไว้ในพระสูตร เป็นไปได้ว่า การถ่ายทอดรูปลักษณ์ของศาสดาลงบนวัตถุ (หินจำหลัก) ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดการรับรู้ผิดๆ เกี่ยวกับรูปกายของศาสดา หรืออาจก่อให้เกิดการยึดติดในรูปเคารพดังที่พุทธทาสภิกขุอธิบายไว้ ดังนั้นจึงปล่อยพื้นที่ว่างไว้เพื่อให้ผู้อ่านภาพจำหลักได้จินตนาการเอง แต่การจินตนาการรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้าผ่านมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ ไม่ใช่จะทำได้ง่ายนัก เพราะลักษณะต่างๆ นั้นไม่เหมือนมนุษย์โดยทั่วไป การบรรยายในคัมภีร์เองก็อาจทำให้จินตนาการเกี่ยวกับรูปกายของพระพุทธเจ้าของแต่ละคนแตกต่างกันไปหลังจากใช้สัญลักษณ์ต่างๆ แทนพระพุทธเจ้าในภาพสลักพุทธประวัติมาชั่วระยะหนึ่ง เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในอินเดียได้ส่งผลให้เกิดการสร้างรูปจำลองของพระพุทธเจ้าขึ้นมา ในประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดีย พระพุทธรูปเกิดขึ้นในยุคที่ 2 เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนาเริ่มพัฒนาเป็นมหายาน คือราวพุทธศตวรรษที่ 6 และพุทธศาสนานิกายเถรวาทดั้งเดิมเสื่อมความนิยมในภาคกลางของอินเดีย ย้ายศูนย์กลางไปอยู่ที่ประเทศศรีลังกาแล้ว มีการสังคายนาและจารึกพระไตรปิฎกภาษาบาลีเป็นลายลักษณ์อักษร พุทธศาสนานิกายสรวาสติวาทินเจริญรุ่งเรืองขึ้นในทางภาคเหนือของอินเดียและได้รับการอุปถัมภ์จากพระเจ้ากนิษกะที่ 2 เกิดศิลปะคันธาระและมถุราขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันคือระหว่างพุทธศตวรรษที่ 6 - 9 นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าอาจเป็นไปได้ที่พระพุทธรูปในศิลปะคันธาระเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในศิลปะอินเดีย อันเนื่องมาจากการพบว่าด้านหลังเหรียญตราของพระเจ้ากนิษกะมีพระพุทธรูปปรากฏอยู่ ส่วนนักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าศิลปะมถุราน่าจะเป็นศิลปะแรกที่ประดิษฐ์พระพุทธรูปเนื่องจากมุทราและระบบประมานวิทยาของพระพุทธรูปแบบมถุรามีลักษณะ เก่า กว่าพระพุทธรูปศิลปะคันธาระมาก ที่ว่า เก่า นั้นคือ พระพุทธรูปในศิลปะมถุรานิยมแสดงอภัยมุทรา (ประทานอภัย) เพียงมุทราเดียว ทั้งไม่ปรากฏอิทธิพลกรีก-โรมันเลยแต่มีความเป็นพื้นเมืองสูง ทำให้นึกถึงประติมานกรรมยักษ์ในศิลปะอินเดียโบราณมากกว่าหนังสือ ที่กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้พิทูร มลิวัลย์ และไสว มาลาทอง เรียบเรียงขึ้น เขียนเป็นข้อสันนิษฐานไว้ว่า การจะสร้างพระพุทธรูปขึ้นทีแรกนั้นน่าจะเป็นพระราชดำริของพระมหากษัตริย์แล้วให้นักปราชญ์ราชบัณฑิต กับพวกนายช่างประชุมปรึกษาหารือกันว่าควรจะทำอย่างไร และพวกที่ปรึกษากันนั้นก็เคยมีความรู้สึกว่าเป็นการยากมิใช่น้อย เนื่องจากต้องคำนึงข้อสำคัญ 2 ประการ คือ การสร้างพระพุทธรูปนั้นต้องคิดให้แปลกกับรูปภาพคนอื่นๆ โดยให้รู้ทันทีว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้า และพระพุทธรูปต้องให้มีลักษณะงดงาม เป็นที่ชอบใจเลื่อมใสของคนทั้งหลายที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา ขณะที่พวกช่างพากันคิดรูปแบบของพระพุทธรูปนั้น พระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานไปหลายร้อยปีแล้ว รูปพรรณสัณฐานของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครเคยพบเห็น มีแต่คำบอกเล่ากันสืบมา ยิ่งกว่านั้นยังมีตำนานกล่าวถึงพระพุทธลักษณะไว้ในคัมภีร์มหาปุริสลักษณะของพราหมณ์ที่เขียนไว้ก่อนพุทธกาล ช่างผู้ทำพระพุทธรูปก็ต้องอาศัยคำบอกเล่าและความรู้ทางพุทธประวัติ บวกกับแบบอย่างจากจารีตประเพณีของชาวมัชฌิมประเทศ (ภาคกลางของอินเดียสมัยโบราณ) เกี่ยวกับแบบอย่างของการนั่ง การครองจีวรของภิกษุที่มีอยู่ในสมัยนั้น และคตินิยมทางสุนทรียศาสตร์ในกระบวนช่างของชาวกรีก (โยนก) เป็นหลักคิดเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปขึ้นทั้งๆ ที่โดยทั่วไปแล้ว ก็รู้อยู่ว่าไม่เหมือนองค์พระพุทธเจ้า แต่ก็สามารถทำให้คนทั้งหลายนับถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าได้ จึงนับว่าผู้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมานั้นเป็นผู้ที่ฉลาดอย่างยิ่งกล่าวโดยสรุป พระพุทธรูปเป็นวัฒนธรรมทางวัตถุหรืองานศิลปะที่เกิดจากจินตนาการของคนรุ่นหลังพุทธกาล สร้างขึ้นโดยอาศัยเรื่องเล่า (พุทธประวัติ) คำบรรยายหรือคติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธลักษณะ (ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ) และแนวคิดด้านสุนทรียศาสตร์ (ลักษณะความงามที่เห็นแล้วเกิดความเคารพเลื่อมใส) ซึ่งต้องอาศัยช่างที่มีจินตนาการและมีฝีมือประณีตเป็นผู้ถ่ายทอด หากเรายึดตามข้อสันนิษฐานที่ปรากฏในหนังสือของกรมการศาสนาที่กล่าวถึงนี้และยึดตำนานพระอุปคุต การสร้างพระพุทธรูปยุคแรกน่าจะมาจากความปรารถนาที่จะทำให้มโนทัศน์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้าชัดเจน พวกเขาอยากรู้ว่ามหาบุรุษที่เรียกว่าพระพุทธเจ้านั้นมีรูปร่างลักษณะอย่างไรมากกว่าจะมุ่งเน้นการใช้พระพุทธรูปเพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือเพื่อกราบไหว้บูชาดังกรณีตำนานพระแก่นจันทน์ ถ้าเราเปรียบพระยามารที่เนรมิตพระพุทธเจ้าและเหล่าพระสาวกให้พระอุปคุตได้ทัศนาเป็นเหมือนศิลปินผู้สร้างงานศิลป์ ศิลปินผู้นั้น (พระยามาร) ได้อาศัยความทรงจำเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่ตนเองเคยพบเป็นแบบในการสร้างงานพุทธศิลป์ขึ้นมา ส่วนพระอุปคุตและชาวพุทธในยุคนั้นรู้จักพระพุทธเจ้าผ่านเรื่องเล่าแต่ไม่มีจินตภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับพระพุทธองค์เพราะไม่เคยประสบพบเห็นด้วยตาตนเองมาก่อน มารได้เนรมิตรูปพระพุทธเจ้าขึ้นมาจากความทรงจำของตนเองเพื่อตอบสนองความปรารถนาของพระอุปคุตผู้ประสงค์จะเห็นรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้าโดยอาศัยการตีความจากตำนานดังกล่าวนี้ ผู้เขียนอยากเสนอความเห็นส่วนตัวว่า จุดมุ่งหมายของการเนรมิตรูปปั้นของพระพุทธเจ้า (พระพุทธปฏิมา) คือเพื่อจะได้เห็นพระลักษณะของพระพุทธเจ้าชัดเจนขึ้น ซึ่งการเห็นนั้นจะก่อให้เกิดศรัทธายิ่งขึ้นในศาสนาดังสำนึกที่แสดงออกผ่านตำนานเรื่อง พระพุทธรูปมารนฤมิตรที่กล่าวถึงแล้ว ผู้เขียนคิดว่า ก่อนจะมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาโดยชาวกรีกนั้น เรื่องของพระพุทธเจ้าถูกนำเสนอผ่านภาพหินจำหลักรอบพระสถูปมาก่อน เป็นการเล่าพุทธประวัติที่ไม่ปรากฏรูปองค์ของพระพุทธเจ้า ต่อมาจึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้น การสร้างพระพุทธรูปนัยหนึ่งจึงเป็นการเติมช่องว่างทางจินตนาการเกี่ยวกับองค์ประธานของเรื่องเล่าพุทธประวัติ องค์ประธานของเรื่องเล่าที่เป็นเคยความว่างเปล่าได้ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการของศิลปินให้มีรูปลักษณะที่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น จนกลายเป็นที่นิยมนับถือสืบต่อกันตราบเท่าปัจจุบันรายการอ้างอิง เชษฐ์ ติงสัญชลี พระพุทธรูปอินเดีย (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ 2554) หน้า 17. เรื่องเดียวกัน หน้า 20. ปฐม หงษ์สุวรรณ ตำนานพระพุทธรูปล้านนา: พลังปัญญาทางความเชื่อและความสัมพันธ์กับท้องถิ่น (กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย 2554) หน้า 69 - 70. เรื่องเดียวกัน หน้า 70. อนุศักดิ์ เนตรานนท์ ตำนานและอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป ใน ตำราพระพุทธรูปปางต่างๆ ตามพระมติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส บรรณาธิการโดย เสาวณิต วิงวอน (คณะสงฆ์วัดพระเชตุพน จัดพิมพ์ประกาศพระเกียรติคุณ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส 9-11 ธันวาคม 2550) หน้า 218. ที.ม. 10/202 ที.ม. 10/239 สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระปฐมสมโพธิกถา พิศดาร 29 ปริจเฉท (กรุงเทพฯ: รุ่งเรืองสาส์นการพิมพ์) หน้า 499 - 500. เรื่องเดียวกัน หน้า 501. เสถียร โพธินันทะ ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพฯ: สร้างสรรค์บุ๊คส์ 2544) หน้า 144 - 146. ที.ม. 10/33 - 36 ที.ปา. 11 /198 - 241 สํ.ข. 17/87 สารัตถปกาสินี อรรถกถาสังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ขยายความว่า ธรรมกายแลคือพระตถาคต ความจริงโลกุตตรธรรม 9 อย่าง (มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1) ชื่อว่า พระกายของพระตถาคต ดู มหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระไตรปิฎกและอรรถถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.2525. (ชุด 91 เล่ม). เล่ม 27 พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย 2545) หน้า 283. มหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏฎราชวิทยาลัย พ.ศ.2525. (ชุด 91 เล่ม). เล่ม 43 หน้า 392 - 394. อนุศักดิ์ เนตรานนท์ ตำนานและอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป หน้า 219 - 220. ดู คำนำ ใน พุทธทาสภิกขุ พุทธประวัติจากหินสลัก (กรุงเทพฯ: อมรินทร์ธรรมะ 2552). เชษฐ์ ติงสัญชลี พระพุทธรูปอินเดีย หน้า 20 - 21. กระทรวงศึกษาธิการ กรมการศาสนา ประวัติพระพุทธรูปปางต่างๆ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา 2525) หน้า 10 - 12. | เครดิตภาพ: เศียรพระพุทธรูป (ศิลปะคันธาระ ราวคริสตวรรษที่ 4-5) ค้นพบในอาฟกานิสถานhttp://collections.vam.ac.uk/item/O25038/head-of-the-buddha-sculpture-unknown/สืบเนื่องจาก พระพุทธรูปอุลตร้าแมน | สังคม,วัฒนธรรม,การศึกษา | ชาญณรงค์ บุญหนุน,ศาสนา,พุทธศาสนา,พระพุทธรูปอุลตร้าแมน | https://prachatai.com/journal/2019/09/84380 |
โรเมโร เผยยังแฮปปี้กับผีแดง รับไม่อยากคิดเรื่องอนาคต | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 พ.ย. ว่า เซร์คิโอ โรเมโร นายทวารเบอร์ 2 ของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเขายังแฮปปี้กับทีมและยังไม่คิดเกี่ยวกับอนาคตของเขาแม้จะเป็นแค่มือ 2 ของทีมรองจาก ดาบิด เดเคอา นายด่านชาวสเปนอยู่ในเวลานี้ก็ตาม,มือกาววัย 28 ปีเซ็นสัญญากับปิศาจแดงเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาโดยมีโอกาสลงสนามเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้กับต้นสังกัดใหม่ใน 6 เกมแรก อย่างไรก็ตามหลังการต่อสัญญาฉบับใหม่ของ ดาบิด เดเคอา ทำให้ นายด่านชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ต้องกระเด็นกลับไปเป็นมือ 2 ตามระเบียบ,โดย โรเมโร ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง อีเอสพีเอ็น หลังถูกถามเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของตัวเองว่า ผมไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องอนาคตจริงๆ อย่างน้อยไม่ใช่ช่วงนี้ มีเวลาอีกมากที่จะเห็นกับสิ่งเกิดขึ้น ผมไม่คิดมากหรอกนะเกี่ยวกับเรื่องอนาคต ผมเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน ในฟุตบอลคุณไม่เคยรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้คุณได้เล่นพรุ่งนี้คุณไม่ได้เล่น ผมแฮปปี้ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนะ ผมอยู่กับหนึ่งทีมในอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและหนึ่งทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก | เซร์คิโอ โรเมโร นายด่านจอมอดทนของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเขายังแฮปปี้กับทีมและยังไม่คิดเกี่ยวกับอนาคตภายภาคหน้าของเขา | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เซร์คิโอ โรเมโร,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/538824 |
ไล่ออก ธาริต เพ็งดิษฐ์ แล้ว หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติ | วันนี้ (24 เม.ย.2560) นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้าการไต่สวนกรณี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ และมีพฤติการณ์ถ่ายเททรัพย์สินบางส่วนไปยังบุคคลอื่นว่า เป็นการขยายผลสืบเนื่องจากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเดิมของนายธาริต เบื้องต้น มติ ป.ป.ช.ให้อายัดทรัพย์สินไว้ก่อนประมาณ 90 ล้านบาท จากทรัพย์สินทั้งหมด 346 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจร่ำรวยผิดปกติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างไล่สอบเส้นทางการเงินและตรวจสอบเชิงลึก นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่านายธาริตได้โยกย้ายทรัพย์สินบางส่วนมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาทไปอยู่กับคนใกล้ชิดทั้งบุตร ภรรยา คนใกล้ชิด และนายตำรวจใกล้ชิดรายหนึ่งเป็นผู้ถือทรัพย์สินแทน โดยส่วนใหญ่เป็นเงินและหุ้นของบริษัทต่างๆ รวมถึงที่ดิน ซึ่งจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม และให้นายธาริต ชี้แจงถึงทรัพย์สินดังกล่าว หากชี้แจงไม่ได้ ก็จะต้องยึดอายัดเพิ่มมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนและรายงานความเห็นกรณีชี้มูลความผิดนายธาริตร่ำรวยผิดปกติไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ลงโทษไล่นายธาริตออกจากราชการ ซึ่งมีรายงานว่า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายธาริตถูกสั่งย้ายให้ไปประจำอยู่ ได้มีคำสั่งให้ไล่ออกนายธาริตแล้วสำหรับนายธาริต ถูกคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2557 ให้ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน นายธาริตถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติโดย ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ว่า นายธาริตร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 346652588 บาท แต่เนื่องจากทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติบางส่วนมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน ทำให้ไม่สามารถติดตามทรัพย์สินได้ คงเหลือทรัพย์สินที่ ป.ป.ช.เคยอายัดทรัพย์ไว้ก่อนหน้านี้ 90260687 บาท ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ ที่เหลือ 256391901 บาทให้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส | สำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะที่ ป.ป.ช.เตรียมอายัดทรัพย์เพิ่ม หลังพบหลักฐานว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินให้คนใกล้ชิดเกือบ 100 ล้านบาท | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ป.ป.ช.,เส้นทางการเงิน,กรมสอบสวนคดีพิเศษ,โยกย้ายทรัพย์สิน,ธาริต เพ็งดิษฐ์,ร่ำรวยผิดปกติ | https://news.thaipbs.or.th/content/261857 |
ช็อก ฉลาม 3 ตัวรุมกัดนศ.สาวสหรัฐฯ เหวอะทั่วร่างดับสลด | สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานเมื่อ 27 มิ.ย. 2562 ว่า จอร์แดน ลินด์ซีย์ นักศึกษาสาวชาวอเมริกันวัย 21 ปี เดินทางไปท่องเที่ยววันหยุดกับครอบครัวที่ประเทศบาฮามาส ในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ในระหว่างที่เธอกำลังดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลที่นอกเกาะโรส เธอก็ถูกฉลาม 3 ตัวจู่โจมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่สุด,ข่าวระบุว่า พ่อแม่ของจอร์แดนสังเกตเห็นฉลามและพยายามจะเตือนเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยิน ทำให้เธอถูกทำร้าย โดยเธอถูกกัดที่แขน ขา บั้นท้าย และเสียแขนขวาไปด้วย ซึ่งหลังจากนั้นจอร์แดนก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา,ครอบครัวลินด์ซีย์ออกแถลงการณ์ไว้อาลัยต่อการจากไปของจอร์แดนโดยระบุว่า จอร์แดนมีจิตวิญญาณที่อ่อนโยนและงดงามที่สุด และเราจะคิดถึงเธอ เธอเป็นทั้งลูกสาว, น้องสาว, แฟนสาว และเพื่อนที่ได้รับความรักอย่างมาก ครอบครัวลินด์ซีย์ยังจัดแคมเปญระดมทุนทางออนไลน์เพื่อใช้เป็นค่าพิธีศพและการนำศพของจอร์แดนกลับบ้านที่แคลิฟอร์เนียด้วย,ทั้งนี้ จอร์แดนศึกษาด้านการสื่อสารมวลชนอยู่ที่มหาวิทยาลัย โลโยลา แมรีเมาต์ ในลอสแอนเจลิส ซึ่งทางมหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของจอร์แดน ขณะที่คณะกรรมการการท่องเที่ยวของบาฮามาสก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวลินด์ซีย์ด้วย. | เกิดเหตุฉลาม 3 ตัวรุมกัดนักศึกษาสาวที่กำลังดำน้ำเล่นที่ประเทศบาฮามาส จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา | ข่าว,ต่างประเทศ | ฉลามกัด,นักศึกษาสหรัฐ,บาฮามาส,ฉลามทำร้ายคน,ดำน้ำ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1601865 |
เผยเมาแล้วขับพุ่งหลังผ่อนล็อกดาวน์ | เวทีเสวนา ดื่มแล้วขับ ผลกระทบทางสังคม กับกระบวนการยุติธรรมไทย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ขับขี่ดื่มแล้วขับที่บาดเจ็บและเสียชีวิตช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. พบมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 สาเหตุจากมาตรการล็อกดาวน์ช่วงระบาดโควิด-19 แต่หลังจากมีมาตรการผ่อนปรนหลังวันที่ 3 พ.ค. ตัวเลขอุบัติเหตุเริ่มสูงขึ้น รวมถึงการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้ตั้งกระจายครอบคลุมมากพอ ทำให้เกิดการหลีกเลี่ยง คดีเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและเสียชีวิต หลายคดียังมีช่องว่างทางกฎหมายจึงขอให้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพในคดีจราจร โดยเฉพาะการใช้หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือกว่าพยานบุคคลมาหักล้างคำกล่าวอ้าง และมีระบบตรวจสอบถ่วงดุลในกระบวนการยุติธรรมด้านนางรัชฐิรัชฎ์ ซุ่นสั้น ภรรยาดาบตำรวจอนันต์ ซุ่นซั้น ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.คลองเต็ง อ.เมืองตรัง เหยื่ออุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนกลุ่มหน่วยกู้ภัยและตำรวจเสียชีวิตรวม 5 ราย กล่าวว่า เหตุเกิด 3 ปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยา ผู้ก่อเหตุก็ไม่แสดงความรับผิดชอบครอบครัวผู้สูญเสียเหมือนตายทั้งเป็น แม้จะพยายามรณรงค์ไม่ให้เมาแล้วขับ แต่ก็ยังปรากฏให้เห็นมากขึ้น. | เผยเมาแล้วขับพุ่งหลังผ่อนล็อกดาวน์ ดื่มแล้วขับ สถานการณ์ผู้ขับขี่ดื่มแล้วขับที่บาดเจ็บและเสียชีวิตช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. พบมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 | ข่าว,ทั่วไทย | ดื่มแล้วขับ,เมาแล้วขับ,ธนะพงศ์ จินวงษ์,คลายล็อกดาวน์,ตรวจวัดแอลกอฮอล์,อุบัติเหตุ,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/local/1910016 |
ผัวขี้เมาคลั่ง จุดไฟเผาบ้าน ลากเมียตบตี ระแวง-ปันใจมอบให้ชายอื่น | เลยฉุนฟิวส์ขาด ทุบกระจกบานเกล็ดแตกก่อนเอาขวดเหล้าขาวจุดไฟโยนเข้าไปในบ้านจนเพลิงไหม้ เมียเปิดประตูวิ่งหนีออกมาถูกลากไปซ้อมน่วม ก่อนจะมีชาวบ้านมาห้ามปรามพร้อมแจ้งรถดับเพลิงมาระงับเหตุ ตำรวจคุมตัวผัวหึงโหดไปดำเนินคดี,พฤติกรรมผัวโหดระแวงเมียปันใจ เมาคลั่งวางเพลิงเผาบ้านวอดรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 14 เม.ย. ร.ต.อ.จาตุรนต์ สงวนประสิทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 339/249 ซอย 7 หมู่บ้านเอื้ออารีย์ หมู่ 5 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากเครืออุตสาหกรรมสหพัฒน์ และ อบต.นนทรี ไประงับเหตุ,ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว มีเพลิงลุกไหม้อยู่ในบ้านอย่างรุนแรง ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้านใกล้เคียงพากันขนข้าวของออกมาจากบ้านของตัวเองกันโกลาหล เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง เนื่องจากเป็นทาวน์เฮาส์ปลูกติดกันแถวยาว ใช้เวลาไม่นานสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน ถูกนำส่ง รพ.กบินทร์บุรี ทราบชื่อนางรุ่งทิวา คลกานต์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน ถูกไฟลวกที่แขนและถูกทำร้ายร่างกายฟกช้ำดำเขียว และนายมงคล อุดเหนียว อายุ 45 ปี สามีของนางรุ่งทิวา มีบาดแผลที่ปาก,หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าภายในบ้านมีทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด และพบขวดเหล้าขาวตกอยู่บนโซฟา เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุของไฟไหม้เป็นการวางเพลิง โดยนายมงคลใช้ขวดเหล้าขาวจุดไฟโยนเข้าไปในบ้านทำให้เกิดเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรีเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง,สอบสวนทราบว่า นายมงคลผู้ก่อเหตุเป็นชาว จ.เชียงราย แต่งงานอยู่กินกับนางรุ่งทิวามานานหลายปีมีลูกสาว 1 คน ช่วงหลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้งเพราะความหึงหวงหวาดระแวงว่าภรรยาจะปันใจให้ชายคนอื่น จนฝ่ายหญิงทนไม่ไหวขอแยกกันอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน แต่ยังไม่ได้หย่ากัน นายมงคลไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุดื่มสุราจนมีอาการมึนเมากลับมาที่บ้านภรรยา เคาะประตูเรียกแต่ภรรยาออกมาเปิดประตูช้า สร้างความไม่พอใจให้นายมงคลถึงกับคลุ้มคลั่งตะโกนลั่น ตายเป็นตาย กูยอมติดคุก ก่อนทุบกระจกบานเกล็ดแตกแล้วจุดไฟใส่ขวดเหล้าขาวโยนเข้าไปตกบนโซฟาภายในบ้าน จนเกิดเพลิงลุกไหม้ลามอย่างรวดเร็ว นางรุ่งทิวาเปิดประตูหนีออกมาถูกนายมงคลลงมือตบตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีเพื่อนบ้านมาห้ามปรามพร้อมแจ้งตำรวจและรถดับเพลิงมาระงับเหตุ หลังให้แพทย์ทำแผลแล้วตำรวจคุมตัวนายมงคลไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป | ผัวเมาคลั่งระแวงเมียปันใจ วางเพลิงเผาบ้านวอด หลังมีปากเสียงวิวาทรุนแรงเรื่องความหึงหวงบ่อยครั้งจนฝ่ายหญิงขอแยกกันอยู่ได้ 3 เดือน ก่อนเกิดเหตุกลับมาหาที่บ้าน เคาะประตูเรียกแต่เมียออกมาเปิดช้า | ข่าว,ทั่วไทย | ผัวเมาคลั่ง,เมาคลั่ง,เผาบ้านตัวเอง,หึงหวง,กบินทร์บุรี,จุดไฟเผาบ้าน,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1545441 |
ซูเปอร์ไลฟ์ มาที3วง เอ็กโซ:ซีบีเอ็กซ์-เรด เวลเว็ท-โรมิโอ | K-POP, เมื่อศิลปินเกาหลีเบอร์แรงประกาศขึ้นเวทีเดียวกันที่ประเทศไทย โดยบ.เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) ประกาศตัดริบบิ้นโปรเจกต์ใหม่ด้วยคอนเสิร์ตระดับ ,ซูเปอร์, สามศิลปินเกาหลี ขึ้นแสดงเต็มโชว์บนเวทีเดียวกัน กับ ,เฟโอห์ พรีเซนต์ 2017 แบงคอก ซูเปอร์ ไลฟ์, คอนเสิร์ตวาระพิเศษโปรดักชั่นจัดเต็มสุดเข้มข้น ในวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. เวลา 18.00 น. ณ อิมแพค ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี,เริ่มด้วยข่าวดีสำหรับเอ็กโซแอล ,(EXO-L), ได้กรี๊ดสนั่นไปกับซับยูนิตแรกของสุดยอดบอยแบนด์เกาหลีวง, เอ็กโซ (EXO), งานนี้สามหนุ่ม, เฉิน (CHEN), แบคฮยอน (BAEKHYUN), และ,ซิ่วหมิน (XIUMIN), ในนาม, เอ็กโซ–ซีบีเอ็กซ์ (EXO–C.B.X), จะมาพร้อมกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของพวกเขาครั้งแรกในเมืองไทย ความสดใสของเกิร์ลกรุ๊ปมาแรง, เรด เวลเว็ท (Red Velvet), ยังไม่หมดผนึกกำลังด้วย ซูเปอร์ไอดอลกรุ๊ปน่าจับตามองเจ็ดหนุ่ม ,โรมิโอ (Romeo) ซึงฮวาน (Seung hwan-หัวหน้าวง), ยุนซอง (Yunsung), ไมโล (Milo), มินซอง (Minsung),, ,ไคล์ (Kyle), ฮยอน คยอง (Hyunkyung), และ,คัง มิน (Kangmin), เปิดจองบัตรพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29 เม.ย. เวลา 10.00น. เป็นต้นไป ทาง ,ไทยทิคเก็ตเมเจอร์, เพิ่มเติมจากผู้จัดงานได้ทาง ,https://www.facebook.com/FeohThai, และ ,Twitter@FeohThai,. | แค่ประกาศรายชื่อศิลปิน ก็สะเทือนวงการคอนเสิร์ต K-POP เมื่อศิลปินเกาหลีเบอร์แรงประกาศขึ้นเวทีเดียวกัน!ที่ประเทศไทย!! โดยบ.เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) ประกาศตัดริบบิ้นโปรเจกต์ใหม่ด้วยคอนเสิร์ตระดับ ซูเปอร์! | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | คอนเสิร์ตเกาหลี,EXO,C.B.X,Red Velvet,Romeo | https://www.thairath.co.th/entertain/news/903636 |
ยื่นป.ป.ช.สอบจำนำข้าว หลังกระทรวงพาณิชย์แจงตัวเลขขาดทุนไม่ชัดเจน | กรรมการพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ให้เร่งรัดตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ว่าขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการกลไกการค้าเสรีหรือไม่ โดยเคยยื่นหนังสือให้ไปแล้วเมื่อ 15 ตุลาคม พ.ศ.2555 แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าพร้อมกันนี้ได้ยื่นหนังสือเพิ่มให้ตรวจสอบความเสียหาย กรณีที่คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลิตผลทางเกษตร ระบุว่า ขาดทุนกว่า 200000 ล้านบาท ซึ่งรวมตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวด้วย แต่ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถชี้แจงความเสียหายที่ชัดเจนได้นายสมศักดิ์ เห็นว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการเรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ยังเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลการระบายข้าวที่ได้คืนเงินให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรไปแล้ว 120000 ล้านบาท ว่ามีที่มาอย่างไรเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้านนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวหลังชี้แจงนโยบายจำนำข้าวกับเกษตรกร ที่จ.กำแพงเพชร ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เชื่อว่าผู้ปลูกข้าวส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายรับจำนำข้าว เพราะได้รับประโยชน์ และหลังจากนี้จะเดินสายชี้แจงในเวทีจำนำข้าว ที่จ.อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา โดยระบุว่าจะชี้แจงเป็นกลุ่มจังหวัด รวมทั้งจังหวัดที่มีผลผลิตข้าวสูง | พรรคสังคมประชาธิปไตยไทยยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบเพิ่มเติมการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถชี้แจงตัวเลขขาดทุนที่ชัดเจนได้ | การเมือง | ป.ป.ช. จำนำข้าว กระทรวงพาณิชย์ ขาดทุน | https://news.thaipbs.or.th/content/175779 |
ศาลพม่า เตรียมตัดสินคดีคนไทย 92 คน ข้อหายาเสพติด-อาวุธสงคราม | กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย แจ้งขอเข้าเยี่ยมคนไทยในเรือนจำ และอยู่ระหว่างรอคำตอบ ซึ่งนายธานี ทองภักดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานทูตต้องพูดคุยกับคนไทยทั้งหมดก่อน จึงจะดำเนินการช่วยเหลือได้ ว่าต้องการที่จะขออุทธรณ์หรือต้องการขอลดหย่อนโทษหรือไม่ แต่กระบวนการทุกอย่างก็ต้องไปตามขั้นตอนทางกฏหมายของทางการพม่าเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ศาลเกาะสองได้ตัดสินคดี คนไทย 92 คน ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และบุกรุกพื้นที่ป่า โดยให้จำคุกทั้งหมดเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน และมี10 คนในจำนวนผู้ที่ถูกจับไปทั้งหมด จะถูกพิจารณาความผิดในคดียาเสพติด อาวุธสงคราม และการลักลอบนำเครื่องจักรกลเข้าไปในฝั่งพม่า ที่จะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลในวันนี้ (27 ก.ค.55) ทั้งนี้ ตามขั้นตอน หลังศาลพิจารณาคดีจะส่งเรื่องให้รัฐบาลกลางพม่า ที่กรุงเนปิดอว์ พิจารณาอีกครั้ง ซึ่ง พ.อ.พรศักดิ์ พูนสวัสดิ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง ระบุว่า คณะกรรมการระดับท้องถิ่นไทย-พม่า หรือ ทีบีซี ยังคงส่งเสื้อผ้า อาหาร และของใช้ที่จำเป็นไปให้อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีไทยหารือกับประธานาธิบดีพม่า พล.อ. เต็งเส่ง ถึงการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งมีคำยืนยันว่า ทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของพม่าก่อน จึงจะพิจารณาช่วยเหลือด้วยการลดหย่อนโทษได้หรือไม่ | วันนี้ (27 ก.ค.55) ศาลพม่าจะตัดสินคดีคนไทย 92 คน ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและ อาวุธสงคราม หลัง ศาลเกาะสอง ตัดสิน จำคุกคนไทยเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ในข้อหาบุกรุก และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาแล้ว | สังคม | ช่วยคนไทย92คน,ตัดสินคดี,ศาลพม่า,เกาะสอง | https://news.thaipbs.or.th/content/101028 |
ผลสำรวจสถานการณ์สูบบุหรี่ในศาสนสถาน พบ ผู้นำศาสนายังคงสูบบุหรี่ 31% | ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ได้กำหนดสถานที่ปลอดบุหรี่ไว้จำนวนมากซึ่งศาสนสถานถือเป็นสถานที่หนึ่งที่ห้ามสูบบุหรี่โดยมีการศึกษาวิจัยเพื่อนำไปสู่การรณรงค์ให้ศาสนสถานเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่โดยศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (มสบ.) ร่วมกับ สำนักวิจัยเอแบค โพลมหาวิทยาลับอัสสัมชัญ ได้ร่วมทำการศึกษา เรื่องพฤติกรรมและความคิดเห็นต่อการสูบบุหรี่ของผู้นำศาสนา :กรณีศึกษาพระและผู้นำทางศาสนา ในกลุ่มตัวอย่างผู้นำทางศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามจำนวน 905 ตัวอย่าง ในเขต กทม. และจังหวัดภูมิภาค เช่นเชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และสงขลา ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.52 – 8 มิ.ย. 52โดยผลการศึกษาพบว่า ผู้นำศาสนาเกินครึ่ง หรือ 52.7% ระบุว่าเคยสูบบุหรี่/ยาสูบมาก่อน ซึ่งปัจจุบันบางท่านเลิกสูบแล้วคงเหลือผู้ที่สูบอยู่ในปัจจุบันคิดเป็น 31% ของผู้นำศาสนาโดยผู้ที่เคยลองสูบมีอายุเฉลี่ยที่สูบบุหรี่ครั้งแรก คือ 17ปี ประเภทของยาสูบที่ใช้เป็นประเภทบุหรี่ซองมากที่สุด รองลงมาคือ ยาสูบมวนเอง ยาเส้น ซิก้าร์ ไปป์เมื่อคิดปริมาณการสูบโดยเฉลี่ยพบว่า อยู่ที่วันละ 11 มวน ดร.นพดล กรรณิกา ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน (เอแบคโพล) มหาวิทยาลับอัสสัมชัญ กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มตัวอย่างที่ยังสูบบุหรี่ 95% ระบุว่า สูบในเขตศาสนสถาน สถานที่ที่สูบ คือห้องนอนส่วนตัว ใต้ต้นไม้ ในอาคารพักอาศัย สนาม นอกอาคาร สุขา โดยมีเพียง 5% ที่ระบุว่า สูบในขณะที่อยู่นอกศาสนสถาน ส่วนช่องทางที่ได้บุหรี่/ยาสูบ มานั้น ส่วนใหญ่ซื้อเอง และรองลงมาระบุว่าฝากบุคคลอื่นซื้อ และศาสนิกชนนำมาถวาย หรือได้รับจากคนสนิท เมื่อถามว่า กลุ่มตัวอย่าง เคยพบเห็นคนในบริเวณศาสนสถานสูบบุหรี่/ยาสูบ ในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา หรือไม่ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 51.7% ระบุว่าพบเห็นน้อยมาก-ไม่พบเลยในขณะที่ กลุ่มตัวอย่าง 33.4%เคยพบในระดับปานกลาง และกลุ่มตัวอย่าง 14.9% พบเห็นมาก-มากที่สุด โดยมาตรการที่พบเห็นว่ามีการใช้ในศาสนสถานมากที่สุด คือการติดป้ายห้ามสูบบุหรี่/ยาสูบ รองลงมา คือ มาตรการสั่งสอน ตักเตือน เมื่อถามกลุ่มตัวอย่าง พบว่า กลุ่มที่อยากจะเลิกสูบยามี 57.2% โดยให้เหตุผล ว่า ทราบว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคประจำตัวต่างๆ ทำให้โรคกำเริบ และบุหรี่มีราคาแพงขึ้น ในขณะที่ 24.5% ของกลุ่มตัวอย่างที่ยังสูบบุหรี่ระบุว่า คิดจะเลิกสูบบุหรี่ แต่ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ และ 18.3% ระบุว่า ยังไม่คิดเลิกสูบบุหรี่ เพราะเวลาไม่สูบจะหงุดหงิด โดยกลุ่มตัวอย่าง 3 ใน 4ระบุว่า การที่ผู้นำศาสนาสูบบุหรี่ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในเยาวชนได้ ดร.นพดล กล่าว ดร.นพดล กล่าวว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ ยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 85.3%เห็นด้วย หากจะ รณรงค์ ไม่ให้ ศาสนิกชนถวาย/ให้บุหรี่/ยาสูบ แก่ผู้นำทางศาสนา มีเพียง 6.9% ระบุไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุว่าการสูบบุหรี่ต่อหน้าสาธารณชนเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและยังไม่เห็นด้วยในการถวายบุหรี่/ยาสูบ ของศาสนิกชนโดยกลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งหรือ 55.1% เห็นว่าผู้นำศาสนาควรจะปฏิเสธ หากศาสนิกชนนำบุหรี่/ยาสูบ มาถวาย โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสมเพราะเป็นสมณเพศ ไม่ควรยุ่งกับสิ่งเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นการผิดวินัย โดย92.4% ระบุว่า บุหรี่/ยาสูบ ถือเป็นสิ่งเสพติด นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ว่า วัด / โบสถ์/มัสยิด ควรมีบทบาทในการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ เช่น แนะนำผู้ที่ต้องการเลิกติดป้ายรณรงค์ และเข้าร่วมกับชุมชนเพื่อให้ความรู้ ควบคู่ไปกับทำให้ศาสนสถานปลอดบุหรี่โดยการใช้ป้ายรณรงค์ ถือเป็นมาตรการที่สำคัญ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อปฏิบัติตามกฎกระทรวงอย่างเคร่งครัด ด้านศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ผู้นำศาสนาเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป และเป็นผู้นำทางความคิดของสังคม สมควรอย่างยิ่งที่จะเข้ามาแสดงบทบาทนำในการแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ ซึ่งสาเหตุของการป่วยและเสียชีวิตก่อนเวลาที่สำคัญที่สุดของคนไทย ปีละ 48000 กว่าคน ทั้งนี้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 19 ได้กำหนดให้ศาสนสถานอันรวมถึงวัด มัสสยิดและโบสถ์ ต้องปลอดบุหรี่ทั้งหมด ผู้นำศาสนาทุกคนจึงควรเป็นแบบอย่าง โดยไม่สูบบุหรี่ในบริเวณวัด มัสยิด และโบสถ์ ยกเว้นในกุฏิส่วนตัว หรือที่ที่ลับตาประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนทั่วไป | ศจย. เผย รับผู้นำศาสนามีผลกระทบต่อสาธารณชนอาจอมควันตาม 3 ใน 4 เห็นด้วยรณรงค์ไม่ถวาย/ให้ บุหรี่และมีสิทธิปฏิเสธไม่รับ เพราะเป็นสิ่งเสพติด ผิดหลักศีลธรรม | สังคม | ควบคุมยาสูบ,ผู้นำศาสนา,พระภิกษุ,ศาสนสถาน,สำรวจ,สูบบุหรี่ | https://news.thaipbs.or.th/content/55436 |
อุ๋งอุ๋ง สุดน่ารัก สัตว์คุ้มครองชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ | วันนี้ (23 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวนากจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่ในวงศ์เพียงพอน ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก หลายคนอาจตกใจหากรู้ว่านาก เป็นสัตว์ผู้ล่าที่กินเหยื่อ โดยเฉพาะ ปลา เป็นอาหาร นอกจากนี้สัตว์ขนาดเล็กอย่างนก แมลง หอย กุ้ง ปู รวมไปถึงคางคกก็ยังเป็นอาหารหลักของนากเช่นกันนากจึงถือได้ว่าเป็นสัตว์ผู้ล่าที่อยู่ตำแหน่งสูงสุดในระบบนิเวศลำน้ำ ทั้งยังเป็นตัวชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำบ่งบอกคุณภาพและความสะอาดของแหล่งน้ำได้อย่างดี โดยปกติจะสามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่วมาก เนื่องจากมีรูปร่างสั้นและกว้างแบน หูมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้ขน นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้างมีพังผืดคล้ายตีนเป็ด ขนลำตัวสีน้ำตาลอมเทา 2 ชั้น ฟันคมแหลมและแข็งแรงเป็นอาวุธชั้นดีในการล่าเหยื่อขณะที่หนวดยาวที่ยื่นออกมาคล้ายแมวน้ำ ใช้เป็นอวัยวะจับการเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่ใต้น้ำและใช้เป็นประสาทสัมผัสเมื่ออยู่ในน้ำในการ ไล่จับปลาและสัตว์น้ำเล็ก ๆ เป็นอาหาร โดยจะออกหากินทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ขุดรูอยู่ริมตลิ่ง ตัวนากจึงเป็นสัตว์ที่มีที่อยู่ในธรรมชาติใกล้กับแหล่งน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำต่าง ๆ ทั้งบึง ทะเลสาบ ลำธาร ป่าชายเลน แม้แต่พื้นที่เกษตรกรรมของมนุษย์ เช่น ท้องร่องในสวนผลไม้ นาข้าว นากุ้ง หรือบ่อปลาก็เป็นที่อยู่อาศัยของนากเช่นกันสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยข้อมูลว่าในประเทศไทยพบตัวนากทั้งหมด 4 ชนิด คือ 1.นากเล็กเล็บสั้น มักอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำตื้น หรือบริเวณลำห้วยสายเล็กๆ ซึ่งมีปูชุกชุม และยังสามารถพบในแม่น้ำ ลำธาร ปากแม่น้ำ และป่าชายเลนทั่วประเทศ ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนากชนิดนี้ จะกินปลาน้อยกว่านากชนิดอื่นๆ แต่ชอบกินปูเป็นอาหารหลัก และชอบหากินในเวลากลางวัน อาศัยอยู่เป็นฝูง 4-12 ตัว เป็นนากที่มีการแพร่กระจายดีที่สุด สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ดีกว่านากชนิดอื่นๆนากเล็กเล็บสั้นนี้จะผสมพันธุ์ในน้ำแต่ทำโพรงดินริมตริ่งคลอดลูก ซึ่งโพรงนี้จะต้องอยู่เหนือน้ำ เพราะลูกนากเล็กๆ ถูกน้ำไม่ได้ ตัวเมียจะเป็นสัดทุก 28 วัน เป็นสัดอยู่ 3 วัน ตกลูกครั้งละ 2-5 ตัว ลูกคลอดออกมาใหม่ยังไม่ลืมตาจนอายุได้ 40 วันไปแล้ว และเริ่มว่ายน้ำเมื่ออายุพ้น 60 วันไปแล้วจะเริ่มกินอาหาร2.นากใหญ่ขนเรียบ มีแม่น้ำ ลำห้วย ทะเลสาบ รวมทั้งคลองและอ่างเก็บน้ำและป่าชายเลนเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย อาหารหลัก คือ ปูและปลา อุปนิสัย ปกติพบใกล้แหล่งน้ำ อยู่เป็นคู่หรือเป็นครอบครัว ส่วนใหญ่จะผสมพันธุ์ตอนต้นปี ตั้งท้อง 63 วัน ลูกนากจะลืมตาได้เมื่ออายุ 10 วัน หย่านมเมื่ออายุ 3 เดือน โตเต็มที่เมื่อมีอายุได้ประมาณ 3 ปี ส่วน ใหญ่จะมีลูกครั้งแรกเมื่ออายุ 4 ปีสำหรับประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาค โดยพบได้แม้กระทั่งเมืองใหญ่ๆ เช่น เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ในแถบป่าชายเลน ในเขตบางขุนเทียน ฝั่งธนบุรี รวมถึงบริเวณพื้นที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม3.นากใหญ่จมูกขนหรือนากใหญ่หัวปลาดุก พบมากในเขตพื้นที่ป่าพรุ รวมทั้งป่าเสม็ดทางภาคใต้ตอนใต้สุด มีรายงานการพบที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ จ. นราธิวาส มีอาหารโปรดคือ ปลา อุปนิสัย ปกติพบใกล้แหล่งน้ำในพื้นที่ความสูงระดับต่ำ ยังไม่ทราบพฤติกรรมมากนักชีววิทยาของนากชนิดนี้ยังรู้กันน้อยมาก โดยนากใหญ่จมูกขนนอกจากที่ประเทศไทยแล้วยังพบในเวียดนาม เขมร ลงไปจนตลอดแหลมมลายู สุมาตราเกาะบอร์เนียว และ ชวา4.นากใหญ่ พบมากในลำธาร แม่น้ำ และทะเลสาบตามภูเขาทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ขุดโพรงอาศัยอยู่ระหว่างซอกหินหรือใต้รากไม้ขนาดใหญ่ริมน้ำ มีลักษณะคล้ายถ้ำขนาดเล็ก มีทางเข้าและทางออกหลายทาง และมีทางหนึ่งอยู่ใต้น้ำ นากชนิดนี้กินปลา ปู และสัตว์ที่มีเปลือกแข็งอื่นๆ รวมทั้งกบนากใหญ่ธรรมดามีเขตแพร่กระจายกว้างมาก พบในทวีปยุโรป และทวีปเอเซียตั้งแต่ตอนเหนือลงมาถึงสุมาตราและชวา ในประเทศไทยพบในบริเวณภูเขาสูงทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยทั่วไปจะออกลูกครั้งละ 2-4 ตัว มีอายุยืนประมาณ 15 ปีแม้งานวิจัยจากวารสารสัตว์ป่าเมืองไทย จะระบุสถานการณ์ปัจจุบันของนากว่า ถูกจัดให้อยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยเฉพาะ นากใหญ่ขนเรียบ แต่นากยังคงถูกคุกคามจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการล่าเพื่อนำไปขาย หรือการทำร้ายนากโดยตรงจากคนหาปลาที่มักจะฆ่านาก เมื่อพบว่านากจับปลาจากข่าย หรือลอบดักปลา รวมไปถึงการทำลายและเปลี่ยนแปลงสภาพถิ่นที่อยู่อาศัย ทั้งคุณภาพน้ำ และแหล่งหาอาหารของนาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมี การใช้เครื่องมือจับปลาที่มีอำนาจทำลายล้างสูง การจับปลาด้วยวิธีการที่ขาดจิตสำนึก หรือในปริมาณที่เกินกำลังการฟื้นฟูได้ตามธรรมชาติ ล้วนส่งผลต่อประชากรนากอย่างรุนแรงทั้งสิ้นอ่านข่าวเพิ่มเติม | ไทยพีบีเอสออนไลน์ พามารู้จักกับ ตัวนาก สัตว์ที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรักด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเอ็นดูและแสนรู้จนทำให้ใครหลายคนสนใจอยากจะเลี้ยง แต่แท้จริงแล้วตัวนาก คือ สัตว์ป่าคุ้มครองที่ไม่สามารถซื้อ–ขายได้ อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่ชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ | สิ่งแวดล้อม | นาก,ทูตแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272374 |
พร้อมลุย ทัพลูกยางชายไทย จัดเต็มพิกัด ศึกเอวีซี คัพ 2016 | ก่อนหน้านี้ ศึกวอลเลย์บอลชาย เอวีซี คัพ ทำการแข่งขันกันมาแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งแรกมีขึ้นเมื่อปี 2008 จ.นครราชสีมา รับเป็นเจ้าภาพ แชมป์ได้แก่ ทีมอิหร่าน ส่วนทีมไทย ได้อันดับ 6,จากนั้นในปี 2010 จัดที่เมืองอูร์เมีย ประเทศอิหร่าน และทีมอิหร่าน ได้แชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ทีมไทยไม่ได้ร่วมแข่งในครั้งนี้,มาถึงปี 2012 จัดขึ้นที่เมืองวินเยน ประเทศเวียดนาม ทีมไทยไม่ได้ร่วมแข่งเหมือนครั้งก่อน ส่วนแชมป์ตกเป็นของทีมจีน,และในปี 2014 จัดขึ้นที่เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน ทีมไทยกลับมาร่วมแข่งอีกครั้ง และได้อันดับ 8 ส่วนแชมป์ได้แก่ ทีมเกาหลีใต้,มาถึงปี 2016 จ.นครปฐม ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 22-28 กันยายน ที่สนามเทศบาลนครปฐม ตลอดการแข่งขัน,สำหรับในครั้งนี้ มี 8 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเอ ไทย, จีน อดีตแชมป์ 1 สมัย, คาซัคสถาน และ ไต้หวัน ส่วนกลุ่มบี ญี่ปุ่น, อิหร่าน อดีตแชมป์ 2 สมัย, ออสเตรเลีย และ เกาหลีใต้ แชมป์เก่า,ในเกมรอบแรกทั้ง 3 นัดของทีมไทย แข่งเวลา 16.15 น. วันที่ 22 ก.ย. นัดแรก พบกับ ไต้หวัน, วันที่ 23 ก.ย. นัดที่ 2 พบกับ จีน และ วันที่ 24 ก.ย. นัดที่ 3 พบกับ คาซัคสถาน,รายชื่อนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย มีดังนี้,1.จิรายุ รักษาแก้ว,2.มนตรี พ่วงลิบ,3.มนตรี แหวนประดับ,4.กฤษฎา นิลไสว,5.จักรกฤษณ์ จันดาหัวดง,6.กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์,7.กฤษฎา สมคะเน,8.กิตติศักดิ์ แสงสี,9.กันตพัฒน์ คูณมี,10.กิตตินนท์ ขามขุนทด,11.ปิยะรัฐ ตุ้นทัพไทย,12.กิตติพงษ์ สุขศาลา,13.บุญญฤทธิ์ วงศ์ธร,14.มาวิน มณีวงษ์,สำหรับวอลเลย์บอลชาย เอวีซี คัพ 2016 สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และสื่อในเครือไทยรัฐทั้งหมด รวมทั้งเอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ และ เอไอเอส เพลย์ แอปพลิเคชั่น | ศึกวอลเลย์บอลชาย เอวีซี คัพ 2016 ที่จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 22-28 กันยายน ใกล้เปิดฉากตบกันแล้ว และทัพลูกยางหนุ่มไทย พร้อมที่จะตามล่าหาแชมป์สมัยแรกให้ได้ ส่วนแฟนกีฬาที่ไม่ได้ไปชมในสนาม เปิดช่องไทยรัฐทีวี รับชมการถ่ายสด | null | วอลเลย์บอล,วอลเลย์บอลชาย,เอวีซี คัพ 2016,วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย,ไทยรัฐทีวี | https://www.thairath.co.th/content/729935 |