title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
เฮอร์นาเนส เบิ้ล งูใหญ่ บุกเชือด ลาซิโอ 9 คน 2-1 | การแข่งขันฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2014-2015 ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. คู่ที่น่าสนใจ อินทรีฟ้าขาว ลาซิโอ ทีมอันดับ 3 ของตาราง เปิดสนามสตาดิโอ โอลิมปิโก รับการมาเยือนของ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ทีมอันดับ 8 ของตาราง,เปิดฉากครึ่งแรกมาเพียง 8 นาที ลาซิโอ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฟลิเป แอนเดอร์สัน พาบอลลุยมาในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ อันโตนิโอ คันเดรวา ซัดเข้าไปตุงตาข่าย,จากนั้น น.24 ลาซิโอ เหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ เมาริซิโอ ไปทำฟาล์ว ปาลาซิโอ ตรงหน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่อกกจากสนามทันที และจากจังหวะฟรีคิก เฮอร์นาเนส ปั่นด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม พา อินเตอร์ ตีเสมอเป็น 1-1 แล้วก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึง น.61 ลาซิโอ มาเหลือผู้เล่น 9 คน เมื่อ เฟเดริโก มาร์เคตติ ผู้รักษาประตู ที่มีใบเหลืองติดตัวตั้งแต่ครึ่งแรก โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงโดนไล่ออกจากสนามไป,เข้าสู่ช่วงท้ายเกม น.84 อินเตอร์ ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ มัตเตโอ โควาซิช เตะโด่งขึ้นหน้า ปาลาซิโอ กระโดดหลอก บอลเลยไปถึง เฮอร์นาเนส พาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด,จบเกม อินเตอร์ มิลาน บุกมาเอาชนะ ลาซิโอ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 52 คะแนน ขยับขึ้นมาอันดับ 7 ของตาราง ส่วน ลาซิโอ มี 63 คะแนน เท่าเดิม รั้งอันดับ 3 ต่อไป,ส่วนผลคู่อื่น ดังนี้,คิเอโว เสมอ เวโรนา 2-2,เวเซนา แพ้ ซัสซูโอโล 2-3,ปาแลร์โม แพ้ อตาลันตา 2-3,อุดิเนเซ แพ้ ซามพ์โดเรีย 1-4,เอ็มดปลี แพ้ ฟิออเรนตินา 2-3,ปาร์มา เสมอ นาโปลี 2-2 | อินทรีฟ้าขาว ลาซิโอ ที่โดนใบแดงไล่ออกถึง 2 คน เปิดบ้านพ่าย งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ไป 1-2 ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ชวดขึ้นรองจ่าฝูงอย่างน่าเสียดาย | null | กัลโช เซเรีย อา อิตาลี,ลาซิโอ,อินเตอร์ มิลาน,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/498003 |
โควิดทำ ป้า ขูดมะพร้าว ไม่มีเงิน ขอ 5 พันก็ไม่ได้ ผูกคอประชดชีวิต | หลานไว้ข้างหลัง ขณะที่แม่เฒ่าเสียใจ เงินซื้อโลงก็ไม่มี วอนขอรับบริจาคผู้ใจบุญเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 เม.ย.63 ร.ต.อ.วัชรพล สมศรี พสง.สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร รับแจ้งว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 2 ต.ลานดอกไม้ อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบศพของ น.ส.กรรณิกา พันศรี อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ ใช้สายไฟฟ้าสีดำผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคาเสียชีวิต ที่ปลายเท้าพบเก้าอี้สำหรับยืนขึ้นไปผูกสายไฟฟ้าบนขื่อ ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้นางชลูด พันศรี อายุ 78 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า น.ส.กรรณิกา ผู้ตายมีอาชีพขูดเนื้อมะพร้าวขายอยู่ที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนยังนั่งคุยกันเห็นมีสีหน้าเครียดๆ จากนั้นก็พากันเข้านอน พอตื่นมาตอนเช้าก็ไม่เห็นลูกสาวอยู่ในบ้าน เมื่อเปิดประตูออกมาหน้าบ้านก็พบว่าลูกสาวผูกคอตายแล้ว จึงแจ้งเพื่อนบ้านมาและให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบด้านนางดวงรัตน์ เครือโป้ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ต.ลานดอกไม้ อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นญาติของผู้ตายและมีบ้านอยู่ใกล้เคียงกันเปิดเผยว่า ผู้ตายจะมาหาทุกวันพร้อมกับนั่งปรับทุกข์บ่นกับพวกตนว่าเครียดไม่มีเงินใช้ ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากสถานการณ์โควิค-19 5 พันบาทก็ไม่ได้ และตั้งแต่โควิดระบาดก็แทบไม่มีใครมาซื้อมะพร้าว ในช่วงปกติยังสามารถขูดเนื้อมะพร้าวขายได้วันละ 400-500 บาท แต่หลังจากโควิคระบาดแล้วขายแทบไม่ได้เลย จึงไม่มีเงินใช้ บ่นเครียดมาตลอด พวกตนก็ได้แต่ปลอบใจ เพราะลงทะเบียนขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาคิดสั้นผูกคอตายสำหรับที่บ้านของผู้ตายมีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 4 คน มี แม่แเฒ่า และหลานอีก 2 คนรวมผู้ตายด้วยก็เป็น 4 คน โดยผู้ตายเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว เมื่อขายของไม่ได้จึงเกิดอาการเครียด หลังจากที่ตายแล้วทั้งบ้านเหลือเงินซึ่งเป็นเงินผู้สูงอายุของแม่แค่ 400 บาท จึงไม่มีเงินพอซื้อโลง ต้องขอรับบริจาคโลงเพื่อมาใส่ศพของผู้ตาย | พิษโควิด-19 ทำ ป้า ขูดมะพร้าวขายไม่ได้ ลงทะเบียนขอเงินเยียวยา 5 พันกลับไม่ได้ เงินก็หมด มะพร้าวขายไม่ได้ อยู่กับแม่เฒ่า หลานอีก 2 ไม่มีเงินใช้ ทุกข์ใจจนเครียด ต้องผูกคอลาตาย ทิ้งแม่เฒ่าและ | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ป้าขุดมะพร้าว,ผูกคอตาย,เงิน5พัน,ขอบริจาคโลงศพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1823949 |
ศาลอนุมัติหมายจับ 8 ผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัว จ.กระบี่ - ผบ.ตร.บินรับตัว พรุ่งนี้ | วันนี้(19 ก.ค.2560)ความคืบหน้าในคดีฆ่ายกครัว 8 ศพครอบครัวหลังรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีได้แล้ว ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่ตำรวจจับได้ก่อนหน้านี้ ศาลใช้เวลาไต่สวนและพิจารณาสำนวน พร้อมพยานหลักฐานทางคดีเสร็จสิ้น โดยรายชื่อผู้ต้องหาทั้ง 8 คน คือนายซูริกฟัต บ้านนบวงศ์กุล น.ส.ชลิตา สังข์โชติ นายประจักษ์ บุญทอย นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายธวัฒชัย บุญคง นายอรุณ ทองคำ และนายธนชัย จำนอง ฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำร้ายจิตใจผู้อื่น และแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหาร จากการสอบสวน ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปขอศาลอนุมัติหมายจับบังฟัตและพวกในวันนี้ โดยจะแจ้งเอาผิด 6 ข้อหา 1.ฆ่าโดยไตร่ตรอง2.พยายามฆ่า 3.ซ่องโจร 4.กักขังหน่วงเหนี่ยว 5.มีอาวุธปืน และ 6.ปล้นโดยแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหาร โดยมีอาวุธและยานพาหนะ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาว่าจะออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 2 คนด้วยหรือไม่ และหลังจากเจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางไปที่ จ.กระบี่ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) เพื่อรับตัว ผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีนี้ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ในอ.คลองท่อม จ.กระบี่ จากนั้นจะควบคุมตัวไปสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมดังกล่าว ล่าสุดต่างเริ่มมีอาการผ่อนคลาย จากความวิตกกังวล โดยเฉพาะบังฟัต หลังจากถูกสอบสวนได้ระบายความคับแค้นใจที่ถูกผู้ใหญ่วรยุทธขู่ฆ่า โดยมีสาเหตุมา จากปัญหาเรื่องการขายฝากที่ดิน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด สำหรับผู้ก่อเหตุที่มีนายซูริก์ฟัตบ้านนบวงศ์กุล หรือบังฟัต เป็นหัวโจกในการก่อเหตุ ล่าสุดมีการเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ร่วมก่อเหตุ 7 คน คือ น.ส.ชลิตา (ขอสงวนนามสกุล) นายประจักษ์ บุญทอย นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายธวัฒชัย บุญคง นายอรุณ ทองคำ และนายธนชัยจำนองซึ่งนายธนชัย นอกจากร่วมก่อเหตุแล้วยังสอบสวนพบว่าเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ใหญ่วรยุทธส่วนน.ส.ชลิตา เจ้าหน้าที่สอบสวนพบว่าเป็นผู้จัดหาเครื่องแต่งกายชุดลายพรางและมีส่วนรู้เห็นในการวางแผนเข้าก่อเหตุด้วย และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาสอบปากคำอีก 4 ราย ขณะที่ผู้รอดชีวิตคดีนี้ 2 คน ซึ่งเป็นเด็กอายุประมาณ 8 ขวบ และ 13 ขวบ ซึ่งรักษาตัวโรงพยาบาลกระบี่ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยมีตำรวจดูแลความปลอดภัยเข้มงวด และ นำตัวไปอยู่สถานที่แห่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัย | ศาลอนุมัติหมายจับ 8 ผู้ต้องหาคดีฆ่า 8 ศพ จ.กระบี่ ผบ.ตร.เตรีบมบินไปรับตัวผู้ต้องหา พรุ่งนี้ (20 ก.ค.) | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,คดีฆ่ายกครัว,กระบี่,อ่าวลึก,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา,ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/264507 |
บึมโหด ถล่มมัสยิด นิกายซูฟีย์ ในปากีฯ ดับสลดแล้ว 52 เจ็บเกิน100 | ระเบิดสุดเหี้ยม ถล่มมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายซูฟีย์ ในปากีสถาน ดับสลดอย่างน้อย 52 เจ็บเกือบร้อย ขณะที่มีผู้นับถือนิกายซูฟีย์จากทั่วปากีสถาน และจากประเทศอิหร่าน มายังมัสยิดแห่งนี้เพื่อร่วมในพิธีสำคัญ,12 พ.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุระเบิด ที่มัสยิด ชาห์ นูรานี ของชาวมุสลิมนิกายซูฟีย์ ในเมือง คูซดาร์ แคว้นบาลูจิสถาน ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 52 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีผู้นับถือนิกายซูฟีย์จากทั่วประเทศปากีสถาน รวมทั้งจากอิหร่าน ประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางมายังมัสยิดแห่งนี้เพื่อร่วมในพิธีสำคัญของนิกายซูฟีย์ ,ด้านนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟแห่งปากีสถาน ได้กล่าวประณามคนร้ายที่ลงมือโจมตีชาวปากีสถานที่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายซูฟีย์อย่างเหี้ยมโหด พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน ขณะที่มีรายงานว่า ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดได้ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในนครการาจี ซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลถึงประมาณ100กม.,ทั้งนี้ นิกายซูฟีย์ เป็นนิกายหนึ่งของศาสนาอิสลาม ที่บูชาพระเจ้าโดยใช้เสียงดนตรี จนถูกต่อต้านจากชาวมุสลิมสุดโต่ง รวมทั้งกลุ่มตาลีบัน ที่มองว่าเป็นนิกายนอกรีต ขณะที่ในปากีสถาน มีประชาชนที่นับถือ นิกายซูฟีย์จำนวนถึงหลายล้านคน | ระเบิดสุดเหี้ยม ถล่มมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายซูฟีย์ ในปากีสถาน ดับสลดอย่างน้อย 52 เจ็บกว่าร้อยราย ขณะที่มีผู้นับถือนิกายซูฟีย์จากทั่วปากีสถาน และจากประเทศอิหร่าน มายังมัสยิดแห่งนี้เพื่อร่วมในพิธีสำคัญ | null | ระเบิด,ปากีสถาน,ระเบิดปากีสถาน,นิกายซูฟีย์,ระเบิดถล่ม มัสยิดนิกายซูฟีย์,เมืองคูซดาร์,บาลูจิสถาน,นาวาซ ชารีฟ,นิกายซูฟี,อิสลาม,มุสลิม | https://www.thairath.co.th/content/781446 |
เตรียมตัว เสียงปริศนาร้องเตือนก่อนรถทัวร์คว่ำ 18 ศพ พบ 50 คนมีประกัน | เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. วันที่ 22 มี.ค. นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ท่องเที่ยวชนเพิงพักของชาวบ้านพลิกคว่ำบริเวณทางหลวงหมายเลข 304 ตอน วังน้ำเขียว – ดอนขวาง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ล่าสุด ยืนยันมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรวม 18 ราย โดยรายที่ 18 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ ในตัวเมืองนครราชสีมา ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน,ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุไม่นานสามารถเปิดการจราจรทุกช่องทางได้ตามปกติ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ผู้ที่มากับรถ 50 รายทำประกันไว้ ส่วนกรณีที่ว่า คนขับรถหลบหนี หรือเสียชีวิตในที่เกิดเหตุนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจอบ และวันนี้ จะได้ลงพื้นที่และหาข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ละเอียดอีกครั้ง,นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากจีพีเอสติดรถ รถคันเกิดเหตุใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดช่วงก่อนเกิดอุบัติเหตุ แต่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุต่อเนื่องถึงจุดเกิดเหตุเป็นโค้งตัวเอสลงเขา คาดว่า เบรกแตก เพราะบริเวณดังกล่าว ไม่มีรอยเบรกของรถ อย่างไรก็ตาม ได้ข้อมูลจากผู้มากับรถระบุว่า ก่อนเกิดเหตุสลดยังมีเสียงร้องเตือนให้เตรียมตัว. | ปภ.โคราชยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากรถทัวร์นำเที่ยวเกิดอุบัติเหตุวังน้ำเขียว 18 ราย ส่วนยอดผู้บาดเจ็บยังไม่นิ่ง ตรวจสอบข้อมูลจากจีพีเอสก่อนเกิดเหตุใช้ความเร็วมาตามกำหนด | ข่าว,ทั่วไทย | วังน้ำเขียว,อุบัติเหตุ,อุบัติเหตุ รถทัวร์,ปภ.,รถทัวร์คว่ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1235342 |
ธนาธร ชี้ กสทช.สั่งปิดทีวีก่อนเลือกตั้ง เท่ากับปิดหูปิดตาประชาชน | นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ ชี้ กสทช.สั่งปิดทีวีก่อน เลือกตั้ง เท่ากับปิดหูปิดตาประชาชน รับช็อกมาก กสทช. มีมติระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี นาน 15 วัน ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชน ,วันที่ 12 ก.พ. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ในเฟชบุ๊กเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหัวข้อ เสรีภาพสื่อคือเสาหลักของการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม โดยระบุว่า ตกใจมากที่ กสทช. มีมติระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี นาน 15 วัน โดยอ้างว่า รายการ Wake Up News และ Tonight Thailand มีการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ ในเชิงยั่วยุ ขัดกับหลักกฎหมาย นี่คือการปิดสื่อระดับชาติ ในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน ก่อนถึงการเลือกตั้งทั่วไป นี่คือการปิดหูปิดตาประชาชนจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร นี่คือการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ช่วงของการเปลี่ยนผ่านคืนประชาธิปไตยกลับสู่มือของเราประชาชนคนไทย,การสั่งระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีความพยายามทุกวิถีทางในการที่จะช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้ง และจะทำให้เกิดข้อกังขาต่อความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ในการเลือกตั้ง ที่จะมาถึงอย่างแน่นอน เพราะแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าสื่อก็ยังถูกจัดการอย่างเด็ดขาด แต่ผมเชื่อว่า #ยิ่งปิดคือยิ่งเปิด หมดยุคที่ประชนคนไทยจะถูกปิดหูปิดตาง่ายๆ หมดยุคที่เราจะยอมจำนนต่อการลุแก่อำนาจของเผด็จการ,ผมขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนที่ยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย เพราะเสรีภาพสื่อ คือ เสรีภาพของประชาชน และผมขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคน ร่วมกันแสดงออกว่า เราจะไม่ยอมถูกล่ามโซ่ไว้กับอดีต ไม่ยอมถูกมือเผด็จการปิดหูปิดตา ไม่ยอมให้อำนาจมืดอยู่เหนือปากกา ที่เราจะกาให้กับพรรคการเมืองที่พาประเทศไทยไปสู่อนาคต นายธนาธร ระบุ | นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ ชี้ กสทช.สั่งปิดทีวีก่อน เลือกตั้ง เท่ากับปิดหูปิดตาประชาชน รับช็อกมาก กสทช. มีมติระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี นาน15 วัน ขอเป็นกำลังใจให้สื่อฯ | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,ธนาธร จึงรุงเรืองกิจ,อนาคตใหม่,ปิดวอยซ์ทีวี,ข่าวร้อน,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1494586 |
ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกลุงน้ำ มาแล้วจ้า | แต่ก็คงไม่ใช่ทุกร้านที่จะสามารถยืนหยัด ปรับปรุงต่อยอดให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในยามที่ภาวะตลาดแข่งกันดุเดือด ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งเยอะอย่างการขายก๋วยเตี๋ยว ลูกค้ามีทางเลือกในการบริโภค ซึ่งหากร้านไหนไม่หาความต่างมานำเสนอ รวมถึงการรักษาคุณภาพ ก็เตรียมปิดตำนานไร้ชื่อไปได้เลย,เนื่องด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ ยอมจ่ายหากสินค้า หรือผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณภาพ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป แลกกับความอร่อย เท่าไรก็ยอม,Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ลุงน้ำ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ที่ดูผ่านๆก็คงเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป แต่ในความเหมือนกลับมีสิ่งที่แตกต่างซ่อนอยู่ ตั้งแต่เจ้าของร้าน ลุงน้ำ (สมบัติ คุ้ยโล่) ที่ภายนอกดูมาดเข้มดุดัน แต่แท้จริงเป็นพ่อค้าใจดี บริการเป็นกันเองกับลูกค้า,ลุงน้ำ เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการก้าวสู่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 โดยตนมีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากงานประจำที่ทำ คือเป็นพนักงานขับรถซึ่งต้องเดินทางเยอะขับรถอยู่ทุกวัน กระทั่งวันหนึ่งมีความคิดว่าอยากออกมาทำอาชีพค้าขาย จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำ,หลังจากมีความมุ่งมั่นที่อยากจะค้าขาย ผมใช้เวลาคิดระยะหนึ่งว่าจะทำอะไร กระทั่งปิ๊งไอเดียว่าขายก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เพราะเป็นเมนูที่ตนชอบทาน และเป็นอะไรที่ทำไม่น่ายากเท่าไร จึงตัดสินใจลงทุนเงินก้อนแรกในธุรกิจ 4,000 บาท เพื่อการปลุกปั้นธุรกิจนี้,ลุงน้ำ เล่าว่า ตอนนั้นมีความคิดว่าควรเป็นร้านที่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระเรื่องที่เช่าร้าน จึงไปหารถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างมาเนรมิตเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแบบเคลื่อนที่ โดยตระเวนขับไปขายตามหมู่บ้าน โรงงาน ตลาด แหล่งที่มีคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ทำยอดขายไม่ได้ดีนัก,ตอนนั้นก็รู้สึกท้อใจ แต่ก็คิดไว้เสมือนว่าเราจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ซึ่งก็ขับจักรยานยนต์พ่วงข้างขายแบบนี้อยู่เกือบ 3 ปี จนเริ่มมีลูกค้ารู้จัก และมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งต่อมาก็ขยับมาเป็นขับรถกระบะขนาดเล็ก (รถกะป๊อ) เพราะเดินทางไกลขึ้น บรรทุกของได้มากขึ้น ซึ่งก็ยังคงคอนเซปต์ ขับไปขายไปอยู่,กระทั่งวันหนึ่งลุงน้ำได้ไปช่วยทำบ้านให้น้องที่รู้จักในย่านหมู่บ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (วัดกู้ 2) แล้วได้นำรถไปจอดบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ปรากฏว่ามีคนในละแวกนั้นเดินผ่านและจะพูดว่าอยากทาน มีขายหรือไม่ จนน้องที่อยู่ในหมู่บ้านแนะนำให้มาจอดขายประจำที่บริเวณนั้นดู ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี ถึงขนาดมีรายการชื่อดังอย่างตลาดสดสนามเป้ามาขอถ่ายทำรายการ ก็ตกใจมากเพราะเราเป็นร้านเล็กๆ,ลุงน้ำ เล่าต่อว่า จากนั้นไม่นานก็ขยับขยายพื้นที่ขายอยู่พักหนึ่ง เพราะอยากให้ลูกค้าเดินทางสะดวก ซึ่งปัจจุบันก็มาลงเอยขายประจำที่ตลาดมะลิ ในเมืองทองธานี ซึ่งลูกค้าเก่าๆก็ยังตามมาทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้คำตอบเดียวกันว่าติดใจรสชาติ และบริการที่เป็นกันเอง,สำหรับสูตรก๋วยเตี๋ยวนั้นก็เป็นการนำสูตรที่ได้จากคุณแม่มาปรับปรุงพัฒนาให้ออกมาลงตัวในแบบลุงน้ำเอง เพราะส่วนตัวก็ตระเวนทานร้านดังรสเด็ดมาพอสมควร ทำให้พอจะรู้ทิศทางรสชาติได้,โดยเมนูที่ร้านมีให้เลือกทุกเส้นทั้งบะหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เลือกได้ทั้งทานแบบน้ำหรือจะแห้งก็ได้ ส่วนเครื่องก็อัดแน่นจัดเต็ม ทั้งเนื้อหมูที่เลือกใช้เฉพาะส่วนสะโพก ลูกชิ้น ตับหมู รวมถึงผักถั่วงอก ใบโหระพา ให้หยิบทานแบบจุใจ ซึ่งทางร้านไม่มีหวง ราคาเริ่มต้น 40 บาท,รวมถึงในเรื่องเครื่องปรุงก็เลือกที่จะทำเองในส่วนของพริกป่น น้ำส้ม ที่จะบอกลูกค้าเสมอว่าให้ชิมก่อนปรุง เพราะทางร้านจะปรุงน้ำมาให้แล้ว ซึ่งลูกค้าสามารถบอกได้ว่าจะเอารสชาติไหน เพราะทำแบบชามต่อชาม,ในเรื่องวัตถุดิบลุงจะเป็นคนไปเลือกซื้อเอง เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพที่สุด เพราะส่วนตัวจะยึดมั่นเสมอตั้งแต่ทำธุรกิจคือจะไม่ขี้โกงทั้งกับตนเองและลูกค้า อย่างเช่น เวลาทำน้ำก๋วยเตี๋ยวสูตรที่ทำจะมีการตักตวงอย่างมาตรฐาน ซึ่งหากตรงไหนขาดก็จะไม่ปล่อยผ่าน จะหาซื้อมาเติมแม้บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับลุงมีผลต่อรสชาติ และอาจทำให้ลูกค้าผิดหวังได้,อ่านจบหลายคนคงรู้สึกหิวงานนี้หากมีโอกาสผ่านไปตลาดมะลิ เมืองทองธานี ก็แวะไปชิมรสชาติกันได้ ร้านเปิด 17.00-23.30 น. และในเร็วๆนี้ก็มีแผนมองหาทำเลขยายร้านเพิ่มเป็นสาขาที่ 2 โดยตอนนี้ก็มีลูกชายมาช่วยสานต่อธุรกิจ. | ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก คงเป็นเมนูที่ดูแสนจะธรรมดา หาทานที่ไหนก็ได้ มีขายมากมายหลายสถานที่ ทั้งเสิร์ฟขายขึ้นห้าง หรือร้านริมทางก็มีให้ได้ลิ้มรสชาติกัน | null | ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก,ลุงน้ำ,ตลาดมะลิ,เมืองทองธานี,ก๋วยเตี๋ยว,Business on my way | https://www.thairath.co.th/news/business/entrepreneur/1514198 |
พาเลซ ปล่อย จอห์นสัน หลังหมดสัญญาระยะสั้น | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 6 ม.ค. ว่า อินทรีผงาด คริสตัล พาเลซ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศปล่อยตัวแอนดี้ จอห์นสันกองหน้าชาวอังกฤษออกจากทีมเรียบร้อยแล้วหลังหมดสัญญาระยะสั้น,สำหรับ จอห์นสัน วัย 33 ปี เคยค้าแข้งกับ คริสตัล พาเลซ ระหว่างปี 2002 ถึงปี 2006 โดยลงเล่นไปทั้งสิ้น 160 นัด ทำไป 84 ประตู ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับเอฟเวอร์ตัน, ฟูแลม และ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ตามลำดับ และหลังจากเจ้าตัวหมดสัญญากับคิวพีอาร์เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว จอห์นสัน ตัดสินใจเซ็นสัญญาระยะสั้นกลับมาร่วมทัพกับอดีตต้นสังกัดอย่าง คริสตัล พาเลซ อีกครั้งแบบไม่มีค่าตัว อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน มีโอกาสลงเล่นให้ พาเลซ แค่ 1 นัดเท่านั้น ,อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสัญญาระยะสั้นของ จอห์นสัน กับ พาเลซ ได้หมดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพาเลซตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ทำให้ตอนนี้ จอห์นสัน กลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์เรียบร้อย,จอห์นสัน กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่ได้กลับมาร่วมทีมพาเลซอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม และผมขออวยพรให้ทุกคนที่สโมสรและบรรดากองเชียร์ที่ยอดเยี่ยมประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่งทุกๆอย่างตลอดช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้ | อินทรีผงาด คริสตัล พาเลซ ประกาศปล่อยตัว แอนดี้ จอห์นสัน ดาวยิงจอมเก๋า ออกจากทีมเรียบร้อยแล้ว หลังหมดสัญญาระยะสั้น | null | พรีเมียร์ลีก,คริสตัล พาเลซ,แอนดี้ จอห์นสัน,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/473162 |
พญาโศกลอยลม เพลงในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ | พญาโศก เพลงอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีทำนองเก่าสมัยอยุธยา เป็นหนึ่งในเพลงเกร็ดที่ใช้ประกอบการแสดงโขนละครบทโศก ซึ่งมี 6 เพลง คือ เพลงพญาฝัน พญาโศก ท้ายพญาโศก พญาตรึก พญารำพึง และพญาครวญ สำหรับเพลงพญาโศกจะใช้ร้องในบทที่ตัวละครโศกเศร้าอยู่กับที่เท่านั้น เช่น ยืน นั่ง นอน จะใช้ในบทที่เดินเคลื่อนที่ไม่ได้นอกจากนี้ บทที่ร้องด้วยเพลงพญาโศกจะต้องเลือกฐานะของตัวละคร โดยมากจะเป็นตัวละครกษัตริย์ เจ้านาย หรือผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง เช่น ในบทเสภาเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน ที่ว่า เหลือบเห็นพระไวยอาลัยพ่อ น้ำพระเนตรคลอคลอถึงขุนแผน หรือบทของอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ว่า ทอดองค์ลงกับที่ศรีไสยาสน์ ร้อนราชหฤทัยหม่นหมองต่อมาพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้แต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น เมื่อปลายรัชกาลที่ 4 เพื่อใช้เป็นเพลงบรรเลงและขับร้องในวงมโหรีและวงปี่พาทย์ รวมทั้งนำมาประดิษฐ์เป็นเพลงทางเดี่ยว ซึ่งนักดนตรีสมัยต่อมายึดเป็นแบบฉบับในการเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น พระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตรเสวิน) แต่งสำหรับเดี่ยวซอสามสาย จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอก นายสอนวงฆ้อง แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ นอกจากนี้ จ่าเอกมล (เจียน) มาลัยมาลย์ ได้แต่งทำนองสำหรับเดี่ยวระนาดเอกโดยขยายเป็นสี่ชั้นเมื่อปี พ.ศ. 2462 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า สมัยนั้นไทยยังใช้เพลงต่างชาติในการเคลื่อนพระบรมศพหรือพระศพพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง จึงทรงพระนิพนธ์เพลงพญาโศกสำหรับวงดุริยางค์ใช้บรรเลงถวายในงานพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยทรงดัดแปลงเพลงพญาโศกที่เป็นดนตรีไทยให้เป็นตัวโน้ตดุริยางค์สากลเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฟังแล้ว โปรดเป็นอย่างมากและทรงเห็นว่าเหมาะสมแก่การอวมงคลเป็นอย่างยิ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ครั้งแรกในการพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศให้เป็น เพลงโศกประจำชาติ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังทรงให้ใช้ได้ตั้งแต่การพระราชพิธีพระบรมศพ พระศพเจ้านาย แม้กระทั่งงานศพสามัญชน แต่ปัจจุบันชาวบ้านนิยมใช้เพลงธรณีกันแสงในงานศพ อย่างไรก็ตาม ประชาชนไทยจะได้ยินเสียงเพลงพญาโศกลอยลมอีกครั้ง ในการอันเชิญพระบรมโกศพระบรมศพในริ้วขบวนอิสสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26 ต.ค.2560ข้อมูล : กรมศิลปากร ดนตรีไทย Thai classical music www.kingrama9.net | การซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.2560) หลายคนคงได้เห็นภาพทหารก้าวเท้าตามจังหวะเพลง พญาโศกลอยลม ในการอันเชิญพระบรมโกศพระบรมศพ | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,รัชกาลที่9,ในหลวง รัชกาลที่9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,พญาโศกลอยลม,พญาโศก,KingBhumibhol | https://news.thaipbs.or.th/content/266745 |
ยิงดับหนุ่มสวนยางคาเพิงพัก หม้อต้มใบกระท่อมแตกกระจาย | เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 28 ก.ค. 58 พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานันท์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา พ.ต.ท.ประสม หลวงพูล รอง ผกก.สส. พร้อมด้วย นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รุดตรวจสอบเหตุยิงกันตายที่บ้านกูวิง หมู่ 6 ต.บาโระ,ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้บ้านเลขที่ 105 หมู่ 6 มีเลือดกองใหญ่เปรอะบนพื้น พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. เก็บรวบรวมไว้ได้ 11 ปลอก ส่วนผู้ถูกยิงทราบชื่อนายมะหะมะเปาซี อุเซ็ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 2 บ้านตันหยง ต.บาโร๊ะ ถูกกระสุนรวม 4 นัด เจาะตามร่างกายและแขนซ้ายกับขาขวา นอนตายจมกองเลือดอยู่บนพื้น ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 50 เมตร ภายในสวนยางพารา พบเพิงชั่วคราว หลังคามุงใบไม้ ใกล้ๆ กัน พบเศษใบพืชกระท่อมต้ม ตาชั่งใหญ่และเล็กรวม 2 ตัว กับอุปกรณ์การต้มน้ำใบกระท่อมผลิตยาสูตร 4x100 จำนวนหลายรายการกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายมะหะมะเปาซี อุเซ็ง ผู้ตาย มีอาชีพกรีดยางพาราในพื้นที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุราว 02.00 น. ที่ผ่านมา ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงตกใจตื่น หลังได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด แต่ไม่มีใครกล้าออกไปดู จนกระทั่งเช้ามาไปพบว่า นายมะหะมะเปาซี ถูกยิงเสียชีวิตแล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งในการผลิตยาเสพติดสูตร 4x100 ของกลางที่พบในละแวกใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป | คนร้ายชักทูตมรณะบุกยิงหนุ่มใหญ่ ชาวสวนยาง จ.ยะลา กระสุนเจาะตามร่างกายเสียชีวิตใกล้เพิงพักชั่วคราว พบอุปกรณ์ต้มน้ำใบกระท่อมกระจัดกระจาย ตำรวจตั้งปมความขัดแย้งในการผลิตยาเสพติดสูตร 4x100 | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงหนุ่มสวนยาง,ตายคาเพิงพัก,บุกยิง,ใบกระท่อม,อุปกรณ์ต้มน้ำกระท่อม,4x100,สี่คูณร้อย,ยาเสพติดสูตรสี่คูณร้อย,ผลิตยาเสพติด,ยิงกันตาย,บ้านกูวิง,สภ.ยะหา,ยะลา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/514665 |
ยธ.เปิดเวทีระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่ง สู่แนวปฏิบัติที่ดีเลิศ | ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและขีดความสามารถทางการแข่งขัน,เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ 8 มิ.ย.60 กระทรวงยุติธรรมและกรมบังคับคดีร่วมจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่ง : การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่แนวปฏิบัติที่เลิศ (International Conference on Enforcement of Civil Judgment : Sharing Experiences towards Best Practices) โดยมีนายสมชาย เสียงหลาย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เป็นผู้กล่าวรายงาน ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร,โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐฝรั่งเศส ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม และสหพันธรัฐรัสเซีย รวมทั้งผู้แทนสภาเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างประเทศและธนาคารโลก และผู้เข้าร่วมจากประเทศไทยประกอบด้วย ผู้พิพากษา ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้บริหารจากกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนจากสถานทูตของประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ผู้แทนหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน ทนายความ ผู้แทนจากสถาบันการเงินและสภาวิชาชีพต่าง ๆ นักวิชาการ และสื่อมวลชน รวมจำนวน 400 คน,นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงกฎหมาย และสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อยกระดับกฎเกณฑ์และกระบวนการดำเนินงานของภาครัฐสู่มาตรฐานสากล และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนและขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับกรอบความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ซึ่งกรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในตัวชี้วัดการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม กรมบังคับคดีได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงกระบวนการทำงานโดยการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการทำงานด้านต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น. | กระทรวงยุติธรรมและกรมบังคับคดีร่วมจัดประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่ง ภายใต้หัวข้อ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่แนวปฏิบัติที่ดีเลิศ มุ่งหวังเกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองและความก้าวหน้าของกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง | ข่าว,อาชญากรรม | กระทรวงยุติธรรม,กรมบังคับคดี,สมชาย เสียงหลาย,การบังคับคดีแพ่ง,จัดประชุมระหว่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/crime/966815 |
พะเยา เสี่ยรับเหมา ซิ่งรถกระบะ เสียหลักชนต้นไม้ รถพลิกคว่ำทับร่างดับ | วันนี้ 21 มีนาคม 2561 เวลา 20.00 น.พ.ต.ท ธนา คำยศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ. เมืองพะเยา ได้รับแจ้งว่า มีรถกระบะพลิกคว่ำลงข้างทาง ถนนพหลโยธิน สายพะเยา-เชียงราย บริเวณบ้านโป่งขาม ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถ,จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.พะเยา กู้ภัยกลางพิทักษ์ชีพ กู้ภัยสยามรวมใจพะเยา ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ นิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 7018 พย.หงายท้องเศษชิ้นส่วนของรถกระจัดกระจาย และต้นไม้หักโค่นข้ามไปอีกเลน มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถ 1ราย ชื่อ นายวิชาญ แปงสุธรรม อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 141 หมู่ที่ 10 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา เป็นผู้ขับขี่ สภาพศพรถพลิกคว่ำทับร่าง,จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า คนขับรถคันดั่งกล่าว เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้เดินทางมาจากในตัวเมืองพะเยา กำลังขับมุ่งหน้า เพื่อที่จะกลับบ้านของตนเอง ซึ่งเหลือระยะทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงบ้านตนเอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นส้นทางตรง และมืด ทำให้ขับรถเสียหลักแฉลบลงข้างทาง รถพลิกคว่ำชนต้นไม้และข้ามเลน ไปอีกฝั่งของถนน ทำให้เสียชีวิตคาที่ หลังตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพทางชุดกู้ภัยนำศพส่งแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพะเยา เพื่อชันสูตรและมอบให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป | พะเยา หนุ่มใหญ่วัน 56 ปี เสี่ยรับเหมา ซิ่งกระบะ เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง! รถพลิกคว่ำทับร่างตัวเอง ดับคาที่ สภาพสุดเวทนา! | ข่าว,ทั่วไทย | เสี่ยรับเหมา,รถกระบะพลิกคว่ำ,ทับร่างดับ,ชนต้นไม้,พะเยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1235032 |
หนุ่มใหญ่เมาขับกระบะเสยฟุตปาท หัวรถทิ่มคลอง อ้างหักหลบ จยย.ตัดหน้า | เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 11 เม.ย. 60 ร.ต.อ.ทิวัตถ์พล ทวิชสังข์ศักดิ์ รอง สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งตกลงไปในคลอง เลียบถนนเพชรเกษม 91 หมู่ที่ 13 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน 1ฒก7994 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังต่อเติมสำหรับบรรทุกท่อนเหล็กและสแตนเลส สภาพรถพุ่งชนกับเหล็กกั้นริมทางจนหักพัง หัวรถพุ่งตกลงไปในคลอง ส่วนด้านท้ายรถยังค้างอยู่บนขอบฟุตปาท มี นายเสนาะ ศรีทองใบ อายุ 55 ปี ชาวสุพรรณบุรี เป็นคนขับ นอกจากนี้ บนถนนยังพบฝาครอบล้อรถหลุด 1 ข้าง และเศษกระจกแตกกระจัดกระจาย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต,นายเสนาะ กล่าวว่า มีอาชีพเป็นพนักงานของโรงงานเหล็กและสแตนเลส ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากตลาดนัดที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุมากนัก แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงโค้งหักศอก มีรถจักรยานยนต์ขับตัดหน้าจึงต้องหักหลบอย่างเร็ว จนรถเสียหลักปีนขึ้นไปบนฟุตปาทแล้วพุ่งชนกับเหล็กกั้นริมทางพุ่งตกคลอง จากนั้นรีบเปิดประตูรถปีนออกมาได้อย่างปลอดภัย,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายเสนาะ ศรีทองใบ คนขับรถกระบะไปสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากคนขับรถมีอาการมึนเมาร่วมด้วย อีกทั้งมีของหลวงเสียหาย ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | หนุ่มใหญ่สุพรรณบุรี ขับกระบะเสยฟุตปาทหัวรถทิ่มคลองเลียบถนนเพชรเกษม 91 อ.กระทุ่มแบน คนขับรีบปีนออกปลอดภัย อ้างช่วงโค้งหักศอกเจอจักรยานยนต์ตัดหน้าจึงหักหลบเสียหลัก ด้าน ตร.พบมีอาการมึนเมา | ข่าว,อาชญากรรม | เมาแล้วขับ,หักหลบ จยย.,รถตกคลอง,กระทุ่มแบน,สมุทรสาคร | https://www.thairath.co.th/news/crime/911477 |
นายกฯ ยัน ไม่พบอุยกูร์ดอดเข้าไทย โยก พล.ท.นักรบ เพื่อความเหมาะสม | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีหน่วยงานด้านความมั่นคงประเทศสิงคโปร์แจ้งเตือนมายังฝ่ายความมั่นคงของไทย ให้เฝ้าระวังชาวอุยกูร์หัวรุนแรง 3 คน ที่อาจจะเดินทางเข้าไทยว่า ไม่มี เขาตรวจสอบแล้ว มันไม่มีก็ไม่มี อยากไปคุ้ยให้มีก็เอาสิ เขาบอกไม่มีก็ต้องจบ จะไปคุ้ยมาทำไม หรือมีแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ คนเป็นหมื่น แสน ล้าน เข้ามาในประเทศไทย เขาตรวจสอบทำตามกฎหมายด้วยกรรมวิธีทั้งหมด เมื่อไม่เจอ ก็จะหาให้เจอจนได้ หามาทำไม หาให้มีเรื่องหรือเปล่า ผมไม่ได้ปกปิด ก็เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มี,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีคำสั่งย้าย พล.ท.นักรบ บุญบัวทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติการที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (รอง ผอ.ศปป.5) ซึ่งมีผลทำให้หลุดจากการเป็นเลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นการสลับสับเปลี่ยนกันบ้างเท่านั้นเอง ไม่มีผลกระทบใดต่อการพูดคุยสันติสุข เพราะใครก็ทำแทนได้ เป็นการปรับเปลี่ยนตามวาระ เพราะ พล.ท.นักรบ อยู่มาหลายปีแล้ว เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาใหม่ ที่จะปรับเปลี่ยน ซึ่งต้องพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมมาทดแทน ไม่ใช่ว่า คนนี้จะทำจนตาย,แล้วทำไมนายกฯ การเมือง ไม่ให้ทำจนตาย ทำไมต้องเลือกตั้งทุก 4 ปี คิดง่ายแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาถามผม อย่ามาบอกว่ารัฐบาลไม่รู้ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ถามว่าฝ่ายโน้นกับฝ่ายนี้เป็นอย่างไร เรามีความตั้งใจอย่างไร แล้วอีกฝ่ายตั้งใจอย่างไร ก็ไปดูสิ ที่ทำทุกวันนี้เราใช้อาวุธก่อนหรือเปล่า ทำไมไม่ช่วยเราตรงนี้ ไม่เข้าใจ พูดแต่สิ่งทำเสียหาย เกิดผลเสียในการแก้ไขปัญหา ไม่เกิดประโยชน์ การเจรจาพูดคุยแล้วเขารับผิดชอบไหม แล้วที่ยื่นข้อเสนอมาท่านรับได้ไหมละ มันก็ไม่ได้ทั้งคู่ รัฐมีความจริงใจแก้ไขปัญหา พร้อมเข้าสู่กระบวนการ แล้วเขาเลิกไหมละ เขาก็กดดันผ่านสื่อ แล้วมากดดันผมและรัฐบาล ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา ท่านรู้ไหมภาคใต้คนเขาอยู่กันยังไง สังคมเมือง ชนบทเขาต่างจากกรุงเทพฯ ไหม สวนยางห่างกันแล้วมันเปลี่ยวไหม จะเอาทหารมายืนทุกเส้นทาง ทุกจุดได้ไหม การแก้ไขปัญหาใช่คิดเองตอบเอง,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเจรจาสันติสุขต้องทำไปตามแผน ซึ่งจะต้องพูดคุยกันต่อไป โดยรัฐทำหน้าที่ดูแลชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนาพื้นที่ต่อไป สร้างการเรียนรู้ และการศึกษา ซึ่งกระทรวงศึกษาได้ลงพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้เรียนทั้ง 2 หลักสูตร แต่ในพื้นที่กลับต้องการเรียนหลักสูตรเดียว มีการขอเงินอุดหนุนเพื่อสอนศาสนาเพียงอย่างเดียว ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะการเรียนต่อในหลักสูตรของรัฐนั้นเรียนฟรีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาวันนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อองค์กรระหว่างประเทศ เช่น โอไอซี ด้วย | นายกฯ ยัน ไม่มีอุยกูร์หัวรุนแรงเข้าไทย วอนสื่ออย่าขุดคุ้ย ชี้ โยก พล.ท.นักรบ ออกจากคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ เพื่อความเหมาะสม ลั่น ต้องเดินหน้าเจรจาต่อ | null | อุยกูร์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นักรบ,คุยสันติสุขชายแดนใต้,นายกรัฐมนตรี,เดินหน้าเจรจา,หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ,คสช.,นักรบ บุญบัวทอง,รอง ผอ.ศปป5,คำสั่งย้าย,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/608927 |
นศ.ปัตตานี-ขอนแก่น-สกลนครย้ำ ไม่เลื่อนเลือกตั้ง | กุมภาพันธ์16 ม.ค. 2562 - ผู้สื่อข่าวรายงานกิจกรรมรณรงค์ และออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน ไม่เลื่อนเลือกตั้ง ของกลุ่มนักศึกษาหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ทั้งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครโดยที่ จ.ปัตตานี ช่วงกลางวันวันนี้ (16 ม.ค.) นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้รวมตัวกันรณรงค์ #ไม่เลื่อนเลือกตั้ง บริเวณหน้าตึก 19 ในวิทยาเขตปัตตานี โดยชูป้ายผ้า ประเทศไทย = ประชาธิปไตยขณะเดียวกัน องค์การบริหารองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ประกาศจุดยืนต่อการเลื่อนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนของนักศึกษาซึ่งได้ติดตาม และสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด มีความกังวลต่อความไม่ชัดเจนของวันที่จะมีการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 ที่รัฐบาลได้เลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งออกไปจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งและรัฐบาล คืนอำนาจสู่ประชาชนผ่านการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว และมีความชัดเจนในการกำหนดวันเลือกตั้งขณะเดียวกันสโมสรนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งตามที่กำหนดคือ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงวันเลือกตั้ง อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในการเข้าสู่สภาวะการเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยต่อสายตานานาประเทศและความไม่ชัดเจนของวันเลือกตั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมา จึงย่อมส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวไทยที่พึงมีตามระบอบประชาธิปไตยการเลือกตั้งจะนำมาซึ่งผู้แทนราษฎรที่จะมาเป็นปากเสียงหรือเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย การเลือกตั้งจึงถือเป็นสิทธิ์และเป็นหน้าที่ขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การเลือกตั้งจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นในประชาธิปไตยของประเทศต่อสาธารณชนและนานาประเทศ ในการนี้เราจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง และรัฐบาลดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี พร้อมทั้งยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย โดยการคืนอำนาจสู่ประชาชนผ่านการจัดการเลือกตั้งตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ตามแผนเดิมคือ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562ส่วนความเคลื่อนไหวของนักศึกษาในภูมิภาคต่างๆ นั้น ในเวลาประมาณ 17.30 น. นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดกิจกรรม ขอนแก่นอยากเลือกตั้ง หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นฝั่งสีฐาน ทั้งนี้เป็นการแจ้งจัดชุมนุมกับ สภ.เมืองขอนแก่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการชุมนุม ขณะที่รอบๆ พื้นที่มีตำรวจ ทหารควบคุมพื้นที่ 100 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ม.ขอนแก่น กำชับผู้ทำกิจกรรมว่าห้ามเหยียบหญ้าด้วย รายงานด้วยว่า ตำรวจเข้ามาตั้งโต๊ะตรวจบัตรประชาชนของผู้ร่วมกิจกรรม โดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่พกบัตรประชาชนเข้าร่วมชุมนุมโดยในเวลาประมาณ 17.52 น. กลุ่มนักศึกษาที่ทำกิจกรรมได้ประกาศยุติการจัดกิจกรรม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยขณะเดียวกันที่ จ.สกลนคร เวลา 17.00 น. สโมสรนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือป้าย เราพร้อมเลือกตั้ง รณรงค์ให้กับนักศึกษาและประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา ที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยด้วยกรณีจัดกิจกรรมที่หน้า ม.ขอนแก่น ในรายงานของ ระบุว่าวานนี้ (15 ม.ค.) เวลา 11.30 น. มีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 รายหนึ่งในฐานะตัวแทนกลุ่มนักศึกษาอยากเลือกตั้ง มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558โดยตอนแรก พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่นไม่รับแจ้งการชุมนุม โดยอ้างว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวอาจจะผิด พ.ร.บ.จราจร และถ้าหากมีคนแจ้งความว่ากิจกรรมกีดขวางทางจราจร ตำรวจก็จะรับแจ้งความและจะส่งฟ้องศาล พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้นักศึกษากลับไปขออนุญาตใช้พื้นที่กับทางมหาวิทยาลัย เนื่องจากสถานที่ทางเท้าตรงด้านหน้ามหาวิทยาลัยที่แจ้งการชุมนุมนั้นเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่รับแจ้งการชุมนุมแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำหนังสือว่า นักศึกษาคนดังกล่าวขอถอนเอกสารแจ้งการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่เป็นผู้ร่างหนังสือเองและขณะที่นักศึกษาผู้นี้ไปแจ้งการชุมนุมนั้น นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังมี พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หรือ เสธ.พีท หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น และผู้ติดตามอีกหนึ่งคนนั่งอยู่ในห้องด้วยจากนั้นนักศึกษาผู้นี้กลับไปยื่นหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขออนุญาตใช้สถานที่บริเวณบึงสีฐานเพื่อจัดกิจกรรมในวันเวลาดังกล่าว แต่ได้รับการตอบกลับจาก รศ.สมหมาย ปรีเปรม รองอธิการบดีฝ่ายการคลังและทรัพย์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า เนื่องจากอาจมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงไม่สามารถอนุญาตได้ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายความมั่นคงหลังจากนั้นเวลา 16.00 น. วศิน พงษ์เก่า นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ตัวแทนกลุ่มกลุ่มนักศึกษาอยากเลือกตั้ง มหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกรายหนึ่ง ได้กลับมาแจ้งการชุมนุมที่ สภ.เมืองขอนแก่นอีกครั้ง โดยยืนยันจัดกิจกรรมในบริเวณเดิม ตั้งแต่เวลา 17.00-23.59 น. ของวันที่ 16 ม.ค. 62 โดยครั้งนี้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นรับแจ้งการชุมนุม และแจ้งสรุปสาระสำคัญในการชุมนุม โดยกำชับให้ผู้จัดการชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไขในการชุมนุมสาธารณะตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 โดยเคร่งครัดผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 17 ม.ค. เวลา 16.00 น. ที่ลานหน้าป้ายมหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ประกาศว่าจะจัดกิจกรรม บูรพา ไม่เลื่อน (เลือกตั้ง) ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 18 ม.ค. เวลา 16.30 น. ซึ่งรณรงค์ไม่เลื่อนเลือกตั้งมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนจะจัดกิจกรรมประกาศจุดยืน เลือกตั้ง 24 กุมภาที่สันอ่างแก้ว ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | นักศึกษาที่ปัตตานี ขอนแก่น สกลนคร รณรงค์ ไม่เลื่อนเลือกตั้ง โดยที่ขอนแก่นมีตำรวจตั้งโต๊ะตรวจบัตรประชาชนผู้ร่วมกิจกรรม ขณะที่สุดสัปดาห์นี้ที่บางแสน-เชียงใหม่ จ่อเคลื่อนอีกรอบย้ำเจตนารมณ์เลือกตั้ง 24 | การเมือง | คนอยากเลือกตั้ง,อย่าเลื่อนเลือกตั้ง,เลือกตั้ง 62,ขอนแก่น,สกลนคร,ปัตตานี,องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา ม.อ. ปัตตานี | https://prachatai.com/journal/2019/01/80565 |
ยังไม่พบเฮลิคอปเตอร์ ทอ.สูญหายใน จ.จันทบุรี ค้นหาอีกครั้งพรุ่งนี้ | พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่เฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 หมายเลข ทอ.22/12 สังกัดหน่วยบิน 2034 ดอนเมือง ปฏิบัติภารกิจลำเลียงทางอากาศ ณ สถานีถ่ายทอดโทรคมนาคม เขาชะเมา จ.ระยอง วันนี้ (25 มิ.ย.) โดยปฏิบัติภารกิจในช่วงเช้าได้ 1 เที่ยวบิน จากนั้นสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการทำการบิน จึงทำการเตรียมพร้อมรอปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สถานีขนถ่ายเขาชะเมาต่อมาในเวลา 13.40 น. จึงได้นำเครื่องขึ้นปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง และขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ จนเกินเวลาบินสูงสุด 2.4 ชั่วโมงบินสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวมี 3 คน ได้แก่1. น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน นักบิน (ตท.41)2. ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง นักบิน (ตท.46)3. พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา เจ้าหน้าที่ช่างอากาศเบื้องต้น ทอ. ส่งทหารอากาศ จากกอ บิน.2 (ลพบุรี) จำนวน 30 นายลาดตระเวนเข้าพื้นที่ป่าคืนนี้ และพรุ่งนี้เช้าจะส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำบินลาดตระเวนทางอากาศค้นหาอีกทางหนึ่ง | กองทัพอากาศเร่งติดตามเฮลิคอปเตอร์ที่ขาดการติดต่อระหว่างปฏิบัติหน้าที่บริเวณสถานีสื่อสารเขาชะเมา จ.จันทบุรี โดยจะเริ่มค้นหานักบินและช่างเครื่องรวม 3 นายอีกครั้งเช้าพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.2559) หลังยุติการเดินเท้าไปเมื่อช่วงค่ำ | ภูมิภาค | เฮลิคอปเตอร์,กองทัพอากาศ,ทอ.,เขาชะเมา,จันทบุรี,หาย,ตามหา,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/253464 |
หนุนผู้สูงวัยใช้สื่อออนไลน์สร้างความสุขให้เข้ายุค 4.0 | สมาคมบ้านปันรัก, ได้จัดเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ ,ส.ค.อ. (ส่งความสุขออนไลน์) ซินโดรม โรคใหม่ของผู้สูงวัยยุค 4.0, สร้างความสุขให้ผู้สูงวัยอย่างยั่งยืนผ่านสื่อออนไลน์ โดย ,ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, นักวิชาการด้านสังคมผู้สูงวัยและนายกสมาคมบ้านปันรัก และ ,อ.กนกกาญจน์ บัญชาบุษบง, อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มาร่วมให้ความรู้ พร้อมแนะให้เรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีบ้าง เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร เชื่อมสัมพันธ์ครอบครัวและสร้างสุขอย่างยั่งยืน,นักวิชาการด้านสังคมผู้สูงวัย ดร.วีรณัฐ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบภายใน พ.ศ. 2568 โดยมีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10 ล้านคน และในสภาพสังคมยุคโซเชียลฯที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีต่างๆเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆของผู้สูงวัยจึงเป็นประเด็นที่สังคมควรให้ความสำคัญ เพื่อช่วยลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย และช่วยให้ผู้สูงวัยได้อยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรีและเห็นคุณค่าในตัวเอง นอกจากนี้เทคโนโลยียังช่วยให้ผู้สูงวัยได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในโลกที่ไร้พรมแดน และยังช่วยลดปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี ยังมีผู้สูงวัยบางส่วนที่ยังมีปัญหาอยู่ อาจจะเป็นเพราะไม่สามารถที่จะเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ เพราะไม่มีใครสอน หรือบางกลุ่มไม่เปิดใจยอมรับก็สุดแท้แต่ ทว่า ในกลุ่มผู้ที่ใช้เป็นแล้วแต่กลับติดโซเชียลมากเกินไป ก็ถือว่าไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเช่นกัน,ส่วน, อ.กนกกาญจน์, แนะนำว่า กลุ่มผู้สูงอายุเมื่อเกษียนอายุจากการทำงานก็จะเป็นกลุ่มที่มีเวลาว่างมาก จนทำให้เกิดความเหงา หรือมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นกลุ่มที่ต้องการการพูดคุย การเอาใจใส่และต้องการสื่อสารกับคนในครอบครัวมากกว่ากลุ่มคนอื่นๆ ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นไลน์ เป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มคนเหล่านี้ สำหรับผู้สูงอายุนั้น สื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางการสื่อสารที่ช่วยให้คลายความเหงา ความคิดถึงลูกหลาน การสื่อสารของกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะถนัดในการส่งภาพ คลิปวีดิโอ หรือการคุยแบบเห็นหน้ากันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ มากกว่าการพิมพ์ข้อความ ควรมีการพัฒนาผู้สูงอายุให้เป็นผู้สูงวัย 4.0 ที่สามารถอยู่กับเทคโนโลยีได้ จะช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย เพราะสภาพสังคมปัจจุบันเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร การดำเนินชีวิตทุกอย่างถูกผลักดันให้ดำเนินผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนเติมเต็มให้ผู้สูงวัยก้าวทันโลกทันเหตุการณ์ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และช่วยฝึกความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย เพราะการใช้โซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ผู้สูงอายุต้องใช้ทักษะสูง ทำให้ได้ฝึกสมองด้วยเช่นกัน. | เตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และพร้อมเป็นผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ ก้าวทันเทคโนโลยี สมาคมบ้านปันรัก ได้จัดเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ ส.ค.อ. (ส่งความสุขออนไลน์) ซินโดรม โรคใหม่ของผู้สูงวัยยุค 4.0 สร้างความสุขให้ผู้สูงวัยอย่างย | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | สื่อออนไลน์,ผู้สูงอายุ,มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,ดร.วีรณัฐ โรจนประภา,กนกกาญจน์ บัญชาบุษบง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/930175 |
สมบัติ ยัน ไร้ทาบนั่ง ปธ.กมธ.ยกร่างรธน.ชุดใหม่ ชี้อำนาจอยู่ที่นายกฯ | วันที่ 9 ก.ย. ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตประธาน คณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า เป็น 1 ในบุคคลแคนดิเดต อาจได้รับการเสนอชื่อเป็น ประธานกรรมาธิการยกร่างรธน.คนใหม่ ว่า จนถึงขณะนี้ ยืนยันว่า ยังไม่มีการทาบทามจาก นายกฯ-คสช. หรือจากฝ่ายใดทั้งสิ้น ส่วนตัว ไม่ทราบว่า ข่าวดังกล่าวออกมาในหน้าสื่อฯได้อย่างไร คงต้องไปถามสื่อมวลชนเอง ว่า ได้ข่าวนี้มาจากไหน ส่วนจะตอบรับ นั่งประธานกมธ. ยกร่างรธน.ชุดใหม่ หรือไม่ หากได้รับการทาบทามจริง นั้น ตนเองไม่ขอตอบ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นใด เนื่องจากไม่มีอำนาจตัดสินใจ เพราะอำนาจแต่งตั้ง กมธ.ยกร่างรธน.ทั้ง 21 คน อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จึงไม่เหมาะสมที่จะกล่าวอะไรออกไปก่อนหน้า,ส่วนกรณีที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อาจมีสมาชิก สนช.1-2 คน ไปเป็นกมธ.ยกร่างฯชุดใหม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่สมาชิกสนช. บางท่านจะไปเป็นกมธ. ยกร่างรธน. เพราะสนช.เอง ก็มีผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมหลายท่าน และต้องไม่ลืมว่า คณะกมธ.ยกร่างรธน.ชุดเก่าที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานเอง ก็มีสนช. จำนวน 5 คน ซึ่งไปร่วมร่าง รธน.ด้วย ตามโควตาที่มีการกำหนดมาในขณะนั้น ขณะที่ คณะกมธ.ยกร่างรธน.จำนวน 21 คน ที่กำลังจะมีการแต่งตั้งขึ้นใหม่ ในเวลาภายใน 30 วัน หรือครบกำหนดช่วงต้นเดือนหน้า (ต.ค.) นั้น ไม่มีข้อกำหนดนี้แต่อย่างใด | ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีต สปช. ยัน ยังไม่มีการทาบทามเป็น ปธ.กมธ.ยกร่างรธน.ชุดใหม่ ปัดแสดงความเห็น หากได้รับการติดต่อจะตอบรับหรือไม่ ชี้อำนาจตัดสินใจอยู่ที่นายกฯ หนุน สนช.เข้าร่วม กมธ.ร่างรธน. | null | สมบัติ,ไร้ทาบทาม,ปธ.กมธ.ยกร่างรธน.,สมบัติ ธำรงธัญวงศ์,ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่,อำนาจอยู่ที่นายกฯ,ไม่แสดงความเห็น,สปช.,นายกฯ,คสช.,หัวหน้า คสช.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,พรเพชร วิชิตชลชัย,ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ,สนช.,ผู้ทรงคุณวุฒิ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/524125 |
นศ.เพาะช่างประท้วงปรับนโยบายสอบเข้าเรียนปี 2555 | ตัวแทนนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์กว่า 200 คน รวมตัวประท้วงนโยบายการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ประจำปี 2555 ที่ทางวิทยาลัยปรับเปลี่ยนแนวการสอบคัดเลือก โดยยกเลิกสอบวัดความสามารถพื้นฐานทางวิชาชีพ ภาคปฏิบัติ อาทิ การสอบวาดเส้น และความถนัดสาขาวิชาเฉพาะ เป็นการสอบภาคทฤษฎีทั้งหมด แบ่งเป็นวิชาศึกษาทั่วไป ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคม 200 คะแนน และวิชาความถนัดทางวิชาชีพอีก 100 คะแนนนายปิยพล ชูประเสริฐ ตัวแทนนักศึกษามองว่า แม้การสอบเข้าที่เน้นวิชาสามัญอาจช่วยให้ได้นักศึกษาที่มีความรู้ แต่การยกเลิกการสอบภาคปฏิบัติ จะทำให้คุณภาพ และทักษะของผู้เรียนน้อยลงไปด้วยด้านนายมงคล ไชยวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง ชี้แจงว่า เป็นนโยบายของกลุ่ม 9 ราชมงคล ที่เตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงจัดสอบให้มีเนื้อหาวิชาที่หลากหลาย แต่กรณีที่เกิดขึ้นทำให้วิทยาลัยฯปรับให้มีการสอบภาคปฏิบัติในวันเดียวกันกับการสอบสัมภาษณ์ และเตรียมนำปัญหานี้เข้าสู่การพิจารณาแนวทางการสอบในปีต่อไปล่าสุด แม้ทางวิทยาลัยฯเตรียมปรับแนวทางให้ตามข้อเรียกร้อง แต่ตัวแทนนักศึกษายังต้องการให้วิทยาลัยขยายวันรับสมัครเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ที่พลาดการสมัครจากแนวทางเดิม แต่ทางวิทยาลัยไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเป็นระเบียบตามตารางการรับสมัครร่วมกันของกลุ่ม 9 ราชมงคล โดยจะมีการสอบในวันที่ 17 - 19 มีนาคมนี้ | วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์เตรียมจัดสอบภาคปฏิบัติวิชาชีพเฉพาะในวันเดียวกันกับการสอบสัมภาษณ์ หลังนักศึกษารวมตัวกันประท้วงการปรับแนวทางการสอบเข้าเรียนปี 2555 ที่เน้นแต่ภาคทฤษฎี และวิชาการ | สังคม | นศ.,ประท้วง,สอบ,เพาะช่าง | https://news.thaipbs.or.th/content/69710 |
รวมพระฉาว พระ(แท้)ในตำนาน โด่งดังเป็น คดีความ ทุกรูป | กับ ,เรื่องของทางธรรม, บางทีก็ยากจะแบ่งแยกตัดใจได้ยาก เพราะ พระสงฆ์ ก็คือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง ที่ตั้งใจที่จะลด ละ และตัดกิเลสจากทางโลก และหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม แต่การครองตนให้อยู่ในพระธรรมวินัย ในสมณเพศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและสามารถทำได้เสมอไป,เราไปดูความหมายและนิยามของการเป็นพระกันก่อน พระสงฆ์ หรือ ภิกษุ ก็คือ ชายที่บวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา โดยรวมซึ่งหมายถึง ผู้ชายที่สละการครองตน สละจากการครองเรือน และสละจากการครองทรัพย์ เพื่อมาออกบวชและถือปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอันเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยต้องปฏิบัติตามศีลทั้งหมด 227 ข้อ พร้อมกับมีหน้าที่ศึกษาพระธรรมคำสอนให้รู้แจ้ง และเผยแผ่พระธรรมคำสอนแก่ปุถุชนทั่วไป,ในอดีตที่ผ่านมา เราจะเห็นเรื่องราวของพระสงฆ์หลายต่อหลายรูป ถูกตีแผ่ในทางลบตามหน้าหนังสือพิมพ์ เรื่องราวโด่งดังจนคนเล่าขานเป็นตำนาน ถึงข้อผิดพลาดต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น ,ยันตระ เณรแอ พระนิกร ภาวนาพุทโธ, หรือ ,อิสระมุนี,จวบจนมาถึงยุคปัจจุบัน พระสงฆ์ที่ไม่สามารถครองตนตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าได้เช่นในอดีต ก็ถูกปาราชิกและโด่งดังเช่นกัน แต่วันนี้กลับไม่ใช่แค่หน้าหนังสือพิมพ์แล้วเท่านั้น เพราะโลกมันเปลี่ยนไปตามสื่อโซเชียลแล้ว ดังนั้นข่าวสารต่างๆ ก็ปรากฏโดดเด่นขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะข่าวเชิงลบยิ่งแล้ว มนุษย์โซเชียลก็จะรีบช่วยกันขุดคุ้ยหาหลักฐานมายืนยันความผิดครั้งนั้นๆ และกับเรื่องราวล่าสุด ที่เราเดินทางมาถึงยุคของ ,เณรคำ, และ ,ธัมมชโย,ไทยรัฐออนไลน์, จึงรวบรวมประวัติพระที่ถูกปาราชิกในตำนานอีกครั้ง ใครยังจะพอจำกันได้บ้าง เริ่มต้นกันที่คนแรก,พระนิกร ,นิกร ยศคำจู หรือ พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสันปง ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ที่มีคนศรัทธาและลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก,จนเมื่อปี พ.ศ. 2533 ขณะที่พระนิกร กำลังมีชื่อเสียงเป็นพระนักเทศน์เสียงทอง กลับต้องปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ หลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาว จนมีบุตรด้วยกัน และด้วยหลักฐานจดหมายรัก ภาพถ่าย ก็ยังไม่อาจทำให้พระนิกรยอมสึก,จากกรณีพระนิกรเป็นเหตุให้มีการแก้ พ.ร.บ.ปกครองสงฆ์ พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 2) ให้ตำรวจ/อัยการ จับพระสึกได้,จนมาปี พ.ศ.2557 อดีตพระนิกร หรือ ธรรมรัตน์ ยศคำจู ซึ่งเปลี่ยนชื่อในเวลาต่อมา ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อวันที่ 21 กันยายนในปีนั้น,ยันตระ,วินัย ละอองสุวรรณ หรือ พระวินัย อมโร ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ พระยันตระ อมโรภิกขุ อดีตภิกษุชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง,พระยันตระ เกิดในปี พ.ศ. 2494 ก่อนบวชเป็นพระ เขาปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤาษีอยู่หลายปี จนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง จากนั้นก็ บวชเป็นพระเมื่อ พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมา วัดรัตนาราม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิด,จนมา พ.ศ. 2537 พระยันตระถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกเปิดหลักฐานเทปบันทึกการสนทนาล่อลวงเสพเมถุน และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับทางเพศมากมาย ทั้งที่เกิดในประเทศไทยและต่างประเทศ , ,สุดท้าย พระยันตระก็พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่เขาไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุ และเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น,ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อคดีหมดอายุความ เขาเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง จากนั้นก็เดินทางกลับไปปักหลักอยู่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2557,เณรแอ,หาญ รักษาจิตร์ หรือ เณรแอ จอมขมังเวท เจ้าของตำนานย่างเด็กเพื่อทำเสน่ห์ยาแฝด เณรแอ บรรพชาเป็นสามเณรอยู่หลายปี ก่อนจะถึงวัยบวชเป็นพระได้ เณรแอกลับหันไปเอาดีทางไสยศาสตร์มนตร์ดำ จนมีวิชาแกร่งกล้าและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ในเรื่องทำเสน่ห์ ปลุกเสกของขลัง สะเดาะเคราะห์ ทำพิธีลงนะต่างๆ,ปี พ.ศ. 2537 ณ ใต้ถุนวัดหนองระกำ อ.หนองโคน จ.สระบุรี เณรแอย่างศพเด็ก เพื่อทำพิธีปลุกเสกกุมารทอง ซึ่งมีการบันทึกวิดีโอไว้เรียบร้อย สุดท้ายเณรแอติดคุก 1 ปี ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดสระบุรี จากนั้นก็มีคนนำเรื่องราวของเณรแอไปทำเป็นภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อว่า เณรแอ จอมขมังเวท,หลังพ้นโทษออกจากคุก ก็กลับเข้าสู่เส้นทางเดิม เปิดบ้านทำเสน่ห์จนร่ำรวย พ.ศ. 2538 เขาได้แต่งงาน แต่ภรรยาของเขากลับทนพฤติกรรมหลวกลวงหญิงสาวมาทำพิธีไม่ไหว จนเลิกรากัน และใน พ.ศ. 2548 ภรรยาได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธีปวีณาฯ ว่า เณรแอ เป็นจอมลวงโลก หลอกข่มขืนหญิงสาวในขณะทำพิธีทางไสยศาสตร์,ตำรวจเข้าจับกุมเณรแอ ขณะนอนหลับอยู่กับหญิงสาววัย 19 ปี โดยหญิงสาวเปิดเผยว่า เธอเต็มใจเพราะไม่มีเงินจ่ายให้กับเณรแอ หลังขอให้ทำเสน่ห์ให้,เขาถูกจำคุกเป็นเวลา 75 ปี แต่โทษจำคุกสูงสุดมีแค่ 20 ปี แล้ววันที่ 30 มี.ค. 2538 เขาได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากตลอดเวลา 10 ปี ที่ติดคุก เขามีประพฤติตัวดี เคารพกฎระเบียบ และยังได้ให้ความร่วมมือกับเรือนจำเป็นอย่างดี จนได้รับการพ้นโทษ,แต่เณรแอ ต้องถูกจับกุมอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง เข้าแจ้งความถูกเณรแอหลอกลวง หลังยอมเสียเงินจำนวน 50,000 บาท และร่วมหลับนอนด้วย เพื่อทำพิธีเรียกสามีกลับมาคืนดี แต่วันแล้ววันเล่าสามีเธอก็ไม่กลับมาคืนดี และติดต่อเณรแอไม่ได้ จึงเดินทางมาแจ้งความ จนจอมขมังเวทถูกจับกุมดังกล่าว,ภาวนาพุทโธ,จำลอง คนซื่อ หรือ พระภาวนาพุทโธ พระดังแห่งวัดสามพราน ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ที่มีลูกศิษย์ลูกหาสายภาวนาจำนวนมาก แต่พอปี พ.ศ.2538 ชีวิตต้องเผชิญความเป็นจริง กรณีขืนใจเด็กสาวชาวกะเหรี่ยงทั้ง 6 คน หลังอ้างว่ารับมาอุปการะและให้แม่ชีดูแลที่วัด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531-2538,โดยภาวนาพุทโธมีพฤติกรรมกระทำชำเราเด็กสาว โดยมีแม่ชีเป็นคนร่วมมือกระทำ หากเด็กคนไหนขัดขืน ก็จะถูกลงโทษด้วยด้วยเดินจงกรมบนหินกรวดแหลมคม,ภาวนาพุทโธ ถูกพิพากษาจำคุก 160 ปี แต่ศาลได้กำหนดโทษจำคุกเหลือ 50 ปี ตลอดเวลาที่อยู่ภายในคุก ก็ยังมีคนที่ศรัทธาเดินทางไปเยี่ยมภาวนาพุทโธ และฟังธรรมฟังเทศน์อยู่ตลอดเวลา,อิสระมุนี,พระอิสระมุนี หรือ พระพีระพล เตชะปัญโญ เดิมชื่อ นายบรรหาร อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมวิหารี (วัดร่วมใจพัฒนา-วัดป่าละอู) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พระอิสระมุนี เป็นพระสงฆ์สายวิปัสสนาชื่อดัง และยังเป็นอดีตพระเลขาของหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และยังเป็นพระที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นับถือและเลื่อมใสอย่างมาก,ตอนที่ พระอิสระมุนี เป็นพระเลขาของหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง เกิดขัดแย้งกับลูกศิษย์ของหลวงปู่ชา ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินของวัดจนถูกจับสึก จึงเดินทางมาที่จังหวัดเพชรบุรี ปักกลดและตั้งสำนักสงฆ์ บริเวณป่าละอู ต.ป่าแดง อ.แก่งกระจาน และพัฒนาจนกลายเป็นวัดธรรมวิหารี มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่,ความสามารถในการสั่งสอนธรรมะให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมของพระอิสระมุนี ถูกกล่าวถึงอย่างมาก จนได้นิยามถึงตัวตนของตนเองไว้ว่า เราผู้มีชื่อว่า อิสระมุนี ไม่ใช่ฐานันดรบุคคล ไม่ใช่พระมหาเถระผู้มีวาสนายิ่งใหญ่มหึมา ที่ใครๆ จะต้องกราบไหว้ ไม่ใช่พระมหาผู้มีความรู้กว้างขวางจนไม่มีใครเทียมเท่า ไม่ใช่บัณฑิตศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยใด ไม่ใช่นักปราชญ์หรือนักวิชาการ หรือนักคิดที่ถูกคนเขาให้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์กันเป็นกระบุงๆ เพราะฉะนั้น เราจึงมีชื่อว่า อิสระมุนี ผู้ที่ต้องการรู้จักเรา ก็จงรู้ที่ออกมาจากใจของเรา ตามที่กล่าวมานี้เถิด,จนเมื่อปี พ.ศ. 2544 พระอิสระมุนีต้องปาราชิก หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับสีกาคนสนิท เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกเปิดเผยจากทีมงานรายการถอดรหัส ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พร้อมกับหลักฐานที่เป็นจดหมายเขียนถึงสีกาสาวยาวถึง 10 หน้ากระดาษ และเทปสนทนาทางโทรศัพท์,ทั้งนี้ พระอิสระมุนีก็ได้สึกจากสมณเพศในทันที แต่ข่าวพระอิสระมุนีทำให้ช่องไอทีวีได้รับรางวัลสารคดีเชิงข่าวยอดเยี่ยม รางวัล แสงชัย สุนทรวัฒน์ ในปีนั้นด้วย,เณรคำ,วิรพล สุขผล หรือ พระวิรพล ฉัตติโก ที่เรียกตัวเองว่า หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เณรคำ,อดีตพระวิรพล เกิดวันที่ 18 ก.ย. พ.ศ. 2522 ณ บ้านทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี และบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ใน พ.ศ. 2537,จนปี พ.ศ. 2542 ได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดศรีนวล อ.พิบูลมังสาหาร เช่นกัน ก่อนจะกลับไปจำพรรษาอีกครั้งที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ต่อมาชาวบ้านได้ถวายที่ดินที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ให้กับเณรคำ เณรคำจึงสร้างสำนักสงฆ์ชื่อ สำนักสงฆ์ขันติธรรมขึ้นที่ ซึ่งรู้จักกันว่าเป็น วัดป่าขันติธรรม ในเวลาต่อมา,เณรคำ มีชื่อเสียงจากความสามารถในการสั่งสอน แต่ภายหลังถูกถอดจากสมณเพศในปี พ.ศ. 2556 เพราะมีความผิดหลายประการ ด้วยภาพและวิดีโอหลักฐานการใช้เครื่องบินส่วนตัว รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ พร้อมถือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง จนถึงขั้นต้องปาราชิก แต่ก็ยังคงเห็นเณรคำห่มผ้าเหลืองหลังหนีไปกบดานที่สหรัฐอเมริกา,อย่างไรก็ตาม เณรคำ ยังต้องข้อหาพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี กระทำชำเราเด็กหญิง ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย,ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. พ.ศ. 2560 เณรคำ แต่งพระเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย หลังถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดี งานนี้ภรรยา ก็ออกมาเรียกร้องขอค่าเลี้ยงดูบุตรด้วย,ธัมมชโย,ไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานมูลนิธิธรรมกาย และผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับลงวันที่ 17 พ.ค. 2559,ทั้งนี้ ธัมมชโย ยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนีไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว,พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2560,ในเวลาต่อมา ตำรวจได้เข้าค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าจับกุมธัมมชโย แต่ศิษยานุศิษย์หลายร้อยคนก็รวมกันต่อต้าน จนเป็นข่าวใหญ่โตกินพื้นที่สื่อเป็นอยู่สักพัก สุดท้ายปฏิบัติการค้นวัดก็ต้องยุติลง และธัมมชโยก็ได้อันตรธานหายตัวไป. | เรื่องของทางโลก กับ เรื่องของทางธรรม บางทีก็ยากจะแบ่งแยกตัดใจได้ยาก เพราะ พระสงฆ์ ก็คือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง ที่ตั้งใจที่จะลด ละ และ | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | พระฉาว,รวมพระฉาว,พระมีคดีความ,ย้อนรอยพระฉาว,คดีพระดัง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1011309 |
Il Deserto Rosso (Red Desert): อับจนหนทาง นาวาอับปาง สิทธิสตรีถูกทิ้งขว้าง กลาง ทะเลทรายสีแดง | พักสมอง—หลีกหนีวาทกรรมทางเพศที่แสนจะอื้อฉาวทั้งในและนอกสภาอภิปราย โดยเฉพาะในสภาอันมีชายคนหนึ่งฝันว่านอนกับผู้หญิงคนนี้ ชายอีกคนหนึ่งฝันว่าผู้นำหญิงไป เล่นหูเล่นตาเล่นท่า กับผู้นำชายต่างประเทศคนนั้น เป็นต้นเลิกถอนใจนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อได้ยินคุณนายใหญ่และตัวละครผู้หญิงอื่นๆ ในละครเรื่อง พูดว่าเกิดเป็นหญิงนั้นแสนลำบาก ต้องจัดการแย่งความรักจากสามีที่ ยามรัก… แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน ครั้นรักจางห่างเหินไปเนิ่นนาน แต่น้ำตาลว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล วรรคทองที่ตัดตอนมาจาก ของสุนทรภู่และล้างตาจากที่ได้เห็นฉากที่วีกิจข่มขืนมุตตา/มุนินทร์ อันนำมาซึ่งการทดสอบความบางของเยื่อพรหมจรรย์และความหนาของเยื่อความอดทนแห่งความเป็นสุดยอดสตรีไทย (ถูกข่มขืนแล้วยังอะมิโนโอเค ลุกขึ้นมาให้อภัยฝ่ายชายได้ตามแบบฉบับยอดมนุษย์เพศหญิง ใจสีขาวผุดผ่อง ไม่ ดำ… แต่ดูดี เช่น จิตใจของคุณกะละแมร์) อันนำมาซึ่งเยื่อความกระจ่างเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเงาพี่ที่แม้จะแค้นแรงกว่าคนน้อง แต่กลับเป็นสาวเวอร์จิ้นที่ถูก เปิดซิงอีกทั้ง ต้านทานแรง(งี่)เง่าของโครงเรื่องที่กำหนดให้บทลงโทษที่รุนแรงที่สุดที่ผอ. ได้รับคือการมีลูกผู้หญิงที่ยินยอมถูกเปิดซิงและท้องกับผู้ชายก่อนแต่งงาน และการมีลูกผู้ชายที่เป็นเกย์ (แต่ไม่ท้องกับผู้หญิง) ในละครเรื่อง และโบนัสที่ว่าวาทกรรมทั้งหมดแบคอัพด้วยปรัชญาพุทธแบบป๊อปปูลาร์อันว่าด้วยเรื่องกรรมที่ว่า เกิดเป็นหญิงนั้นเป็นกรรม มีลูกเป็นเกย์ก็เป็นกรรมของพ่อแม่ที่ส่งผ่านมายังลูก ที่หญิงโดนข่มขืนก็เป็นเรื่องกรรม อะไรก็เป็นกรรมไปหมด หากปรัชญาจอมปลอมนี้ถูกฝังอยู่ในหัวมนุษย์ทุกเพศทุกชนชั้นในประเทศนี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ใครจะไม่รู้สึกรู้สมอะไรเมื่อสิทธิสตรีถูกทิ้งขว้างกลางทะเลทราย มีการข่มขืนกันเป็นว่าเล่น หญิงหมกมุ่นทาครีมฟอกผิวอย่างสนุกสนาน ส.ส. ชายฝันว่านอนกับส.ส. หญิงก็คงเป็นเรื่องกรรมของส.ส. หญิงด้วยสินะ ทำไมโลกนี้มันช่างเข้าใจง่ายดายเสียเหลือเกิน (หากจะมีคนมองว่าเป็นเกมการเมือง พรรคของฝ่ายตรงข้ามเคยทำ กรรม ไม่ดีมาก่อนในอดีต หรือพูดแบบบ้านๆ ว่าส.ส. จ่า-อยาก-ดัง คนนี้มันก็ทำตัวบ้านๆ สมฐานะของมันแล้ว ผู้เขียนจะบอกว่าคิดอย่างนี้แหละ สิทธิสตรีมันถึงถูกขว้างทิ้งกลางดินกลางทรายหรือถูกตีความแบบมั่วๆ ซั่วๆ การต่อสู้อันยาวนานเพื่อและของผู้หญิงในประวัติศาสตร์โลกนั้นชี้ให้เห็นว่า The Personal is always the Political การต่อสู้ทางการเมืองที่ตั้งบนฐานวาทกรรมกดขี่สิทธิสตรี ไม่ว่าจะสังกัดพรรคใด ก็ไม่ควรค่าที่จะให้อภัยทั้งนั้น) เมื่อไหร่เราจะลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่า อะไรคือ ผิดเพศ เป็นเกย์ มันผิดด้วยหรือ ท้องก่อนแต่ง ทำแท้ง มันเป็นเรื่องหนักหนาเพียงพอที่จะส่งผู้หญิงลงนรกทั้งเป็นด้วยหรือ การ ใจแตก และ เสียตัว ของผู้หญิงมันหนักหัวของใคร การที่ตัวละครผู้หญิงเอ่ยเอื้อนวจีออกมาว่า ไม่มีใครอยากเสียคนตั้งแต่เริ่มเป็นนางสาว…ไม่มีใครอยากเกิดมาผิดเพศหรอก นั้นมันมิใช่บทพูดที่ไร้ความคิดที่สุดแล้วหรือ นักคิดที่ชื่อ Jacques Derrida กล่าวไว้ว่าภาษาเป็น Pharmakon (รากที่มาของคำว่า Pharmacology) คือเป็นได้ทั้งยาพิษและยารักษา ภาษามันเป็นเยี่ยงนี้ ความหมายวิ่งไปมาระหว่างขั้วคู่ตรงข้าม différance เช่น ดี-เลว ถูกเพศ-ผิดเพศ โสเภณี-นางฟ้าในเรือน คำต่างๆ ความหมายไม่หยุดนิ่ง แถมไม่พ้นวาทกรรมอำนาจ คำว่า เสียพรหมจรรย์ ที่มักใช้แปะป้ายประณามผู้หญิง และคำว่า ผิดเพศ ที่ใช้เป็นคำด่า นั้นมักใช้เพื่อสนองวาทกรรมเหยียดเพศทั้งสิ้น โดยที่คนพูดอาจทั้งรู้และไม่รู้ตัว เรามักกลืนยาพิษของความไม่รู้ และมักมองไม่เห็นหรือเลือกที่จะไม่คิด ไม่มองว่าภาษา -การใช้ภาษา- เป็นการเล่นของวาทกรรมอำนาจทั้งนั้น บทลงโทษที่ร้ายที่สุดของครอบครัวผอ.ไม่ใช่การมีลูกสาวที่ เสียสาว (อันเป็นอีกคำหนึ่งที่สร้างขึ้นมาจรรโลงความไม่เท่าเทียมทางเพศและปิตาธิปไตย เพราะผู้ชายมีเสียหนุ่มเสียชายเสียหายที่ไหน) และไม่ใช่การมีลูกชายที่ผิดเพศหรอก แต่โทษหนักที่สุดคือการรับความคิดเหยียดเพศมาเต็มๆ โดยที่ไม่รู้ตัวต่างหากที่พูดมายืดยาวก็เพื่อจะเล่าว่า เมื่อวานนี้ผู้เขียนชวนเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีกสองคนเดินไปตึกใหม่ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อไปดูหนังอิตาเลียนเรื่อง (แปลเป็นไทยคือ ทะเลทรายสีแดง) อันมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับกางเกงในชายยี่ห้อ Rosso แต่ก็ใกล้เคียง เพราะมันเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกหลงทางสับสนในสังคมสมัยใหม่ที่เจ้า(ของ)โลกเพศชายนั้นยังถือครองอำนาจเบ็ดเสร็จ กุมทั้งเป้า(หมาย)ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโรงงานที่พยายามสร้างให้สูงใหญ่ทิ่มแทงทะลุเยื่อขาวแห่งท้องฟ้า (แต่ผลิตอะไรไม่ผลิต ผลิตแต่ก๊าซพิษสีเหลือง—เหมือนฉี่สุนัขที่ร่ำๆ จะเป็นนิ่ว—ของความไม่เท่าเทียมทางเพศ) และแปรสภาพพื้นที่ภูมิทัศน์ของธรรมชาติและเมืองเล็กให้กลายเป็นเมืองร้างหรือโรงงานขนาดใหญ่ และกุมทั้งเป้าความ(หมาย)ของคุณค่าสตรี ทำให้สตรีไร้คุณค่าความหมายเมื่อเธอเลือกจะแยกตัวออกจากระบบภาษาชายเป็นใหญ่ไปเป็นเอกเทศซึ่งฉายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1964 เป็นคันฉ่องสะท้อนประเทศอิตาลีในช่วงทศวรรษที่ 60 สมัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของอิตาลีบูม ประชาชนย้ายถิ่นฐานจากชนบทเข้าเมือง—จากภาคใต้ขึ้นมาภาคเหนือ—มากเป็นประวัติการณ์ จนทำให้ประเทศเกษตรกรรมอย่างอิตาลี กลายร่างเป็นประเทศอุตสาหกรรมในชั่วพริบตา เหมือนหมาป่าหน้าท้องซิกซ์แพคและแวมไพร์หน้าซีดใน ที่แปลงร่างสำเร็จก่อนหนังตาของเราจะกระทบขอบตาเสียอีก ผู้กำกับของหนังเรื่อง คือ Michelangelo Antonioni ซึ่งเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1912 ตายเมื่อปี ค.ศ. 2007 (อาจารย์สอนภาษาอิตาเลียนที่เมื่อวานเข้ามาเปิดวีซีดีให้ดูก่อนหายตัวไปอย่างลึกลับพอๆ กับสิ่งมีชีวิตในทไวไลท์ บอกว่ากิจกรรมนี้ส่วนหนึ่งของเทศกาลภาษาอิตาเลียน และที่ฉายหนังของผู้กำกับคนนี้ก็เพราะปีนี้จะเป็นปีที่ครบรอบร้อยปีชาตกาลของเขานั่นเอง) Michelangelo Antonioni นั้นนับว่าเป็นผู้ที่บุกเบิกการทำหนังที่เรียกว่า ภาพยนตร์แห่งโอกาสความเป็นไปได้ (cinema of possibilities) ที่ท้าทายขนบการถ่ายหนังแนวสัจจนิยม หรือหนังที่มีการเล่าเรื่องแบนๆ โครงเรื่องเป็นขั้นตอนเส้นตรง ตัวละครแบนราบไร้มิติ เขาท้าทายขนบนี้โดยการหลีกวาทกรรมหลัก เค้าโครงเรื่องหลัก เข้าไปในกระแสสำนึกของตัวละครที่มีมิติชวนพิศวง คือชวนให้ผู้ชมท้าทายเยื่อบางๆ ที่กั้นโลกความเป็นจริงและโลกแห่งความฝันเปิดเรื่องมา ฉากคือเมือง Ravenna ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี เราเห็น Giuliana หญิงสาวตัวเอกของเรื่องและลูกชายเล็กๆ ชื่อ Valerio กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังโรงงานปิโตรเคมีของ Ugo ผู้เป็นสามี เธอสวมเสื้อโค้ทสีเขียวสดตัดฉากสีเทาหม่นของโรงงานที่ปล่อยเปลวเพลิงออกมาจากปล่องเจ้าโลก จะเห็นว่าทั้งชื่อเรื่องและการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เน้นเล่นสีอย่างมาก ถนนและตึกนั้นทาสีพาสเทลตัดกับเสื้อผ้าตัวละครสีสด ทั้งนี้เพราะ เป็นหนังเรื่องแรกของ Antonioni ที่ใช้ฟิล์มสี สีสันต่างๆ นั้นเป็นตัวไฮไลท์สภาพบ้านเมืองของอิตาลีที่กำลังฟื้นตัวหลังสงครามโลกครั้งที่สองในโรงงาน ผู้ชายสองคนกำลังคุยกันเรื่องงานท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของเครื่องจักรในโรงงาน Corrado Zeller มาเยี่ยม Ugo เพื่อหาแรงงานคนที่จะไปทำงานโรงงานอุตสาหกรรมที่ Patagonia ส่วนที่เป็นของประเทศอาร์เจนตินา (อีกส่วนเป็นของชิลี) อันเป็นภูมิภาคที่ว่ากันว่ามีความสวยงามและหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญคือ ภูมิภาค Patagonia นี้ได้มีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์ครั้งแรกในปีค.ศ. 1520 ในบันทึกการเดินทางของนักเดินเรือสำรวจชาวโปรตุเกส Ferdinand Magellan (เกิดปีค.ศ. 1480 ตายปี ค.ศ. 1521) ที่ออกเดินทางสำรวจเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะเครื่องเทศ หรือ หมู่เกาะโมลุกกะ ในประเทศอินโดนีเซีย โดยเลือกที่จะเดินเรือไปทางทิศตะวันตก ออกจากโปรตุเกสข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เลียบอเมริกาใต้ ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แทนการมุ่งหน้าออกจากยุโรปไปทางทิศตะวันออกข้ามแหลมกู๊ดโฮป Magellan ไปจบชีวิตอยู่ที่เกาะ Mactan ที่ฟิลิปปินส์ เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายใน พยายามจะไปเปลี่ยนศาสนาเจ้าครองเกาะคือ Datu Lapu-Lapu จนถูกบรรดานักรบของผู้ครองเกาะฆ่าตายในสงคราม ที่ผู้เขียนว่าเกร็ดทางประวัติศาสตร์นี้สำคัญก็เพราะ ใช้เรือขนสินค้าเป็นภาพลักษณ์และสัญลักษณ์แทนการดำรงชีวิตในโลกสมัยใหม่ อีกทั้งเน้นแนวคิดเรื่องการเดินทางและการหลงทาง ผู้เขียนจะวกกลับมาประเด็นเรื่องเรือและกระแสสำนึกตัวละครในภายหลังนอกจากเรื่องงานแล้ว ผู้ชายสองคนก็ยังคุยกันเรื่องผู้หญิงอีกด้วย โดย Ugo ได้เล่าให้เพื่อนฟังว่า Giuliana ผู้เป็นภรรยานั้นเพิ่งผ่านอุบัติเหตุรถยนต์มาสดๆ ร้อนๆ และแม้กายจะรอดปลอดภัยดี แต่จิตของเธอนั้นไม่ปกตินัก พอ Corrado พบ Giuliana เขาก็ถึงบางอ้อ รู้ทันทีว่า Ugo พูดถูก เธอดูหน้าตาเบลอๆ สับสนงุนงงยิ่งนัก บางเวลาก็เพ้อ เห้นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น บางเวลาก็พูดจาพอรู้เรื่อง แต่ยิ่งไปกว่านั้น เขาดันมาปิ๊งผู้หญิงคนนี้เมื่อทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น เขาก็ได้ล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้ว Giuliana ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไรหรอก แต่เธอได้พยายามฆ่าตัวตายต่างหาก เหตุผลน่ะหรือ? Giuliana เองไม่ได้เล่ารายละเอียดอย่างตรงไปตรงมา แต่ใช้วิธีการเล่าเรื่องซ้อนเรื่อง คือเธอเล่าว่าตอนไปนอนโรงพยาบาลเนี่ย เธอไปพบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่งว่าหมอแนะนำให้หัดรักใครสักคนและอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสามี ลูกชาย อาชีพการงาน หรือสุนัขเลี้ยง หญิงสาวผู้นั้นบอกว่าเธอรู้สึกว่าพื้นดินที่เธอกำลังยืนกำลังเดินอยู่นั้นยวบยุบหายไป ทำให้รู้สึกเหมือนลื่นหล่นลงไปในห้วงสมุทร รู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำ แน่นอน ไม่ต้องเดา เราๆ ท่านๆ ก็คงถึงบางอ้อว่าจริงๆ แล้ว Giuliana กำลังพูดถึงตัวเอง และพูดถึงชะตากรรมของผู้หญิงทั่วโลก ปิตาธิปไตยนานนับศตวรรษได้ทำให้โลกและแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันชินชารับแนวคิดที่ว่าความเป็น อยู่ คือ หรือตัวตนของผู้หญิงนั้นถูกบัญญัตินิยามบนฐานของสามีและลูกเป็นหลัก นอกเหนือจากความรักในตัวสามีและลูกแล้ว การงานอาชีพก็เป็นตัวนิยามตัวตนของผู้หญิง (แต่เป็นอันดับรองนะ เมื่อดูจากการจัดลำดับของหมอนิรนามในหนัง) แน่นอนผู้หญิงตั้งแต่กำเนิดอารยธรรมมนุษย์ชาติใช่ว่าจะไม่มีอาชีพการงานเลย โสเภณีเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดไม่ใช่หรือ อาชีพแต่งงานตั้งท้อง ดูแลลูกและสามี ทำกับข้าวและทำงานบ้านแม้ไม่ใช่งานที่ quantify ออกมาเป็นเม็ดหน่วยเม็ดเงินตอบแทนหรือมีที่ยืนในสังคม แต่มันก็เป็นอาชีพไม่ใช่หรือ ในช่วงสงครามโลก แรงงานหญิงได้ก้าวเข้ามาเสริมแรงงานชายที่ขาดหายเพราะไปรบกันหมด พวกผู้หญิงในอดีตก็ได้ลิ้มรสเสรีภาพและสถานะมนุษย์เงินเดือนจากประสบการณ์ทำงานหาเงินนอกบ้านเป็นครั้งแรก แต่กระนั้นพวกเธอก็ถูกเฉดหัวส่งกลับบ้านช่วงหลังสงคราม เมื่อพวกผู้ชายแบบสภาพลากสังขารกลับจากศึกสงคราม ทุกวันนี้ผู้หญิงทั้งที่มีงานนอกบ้านเป็นทุนเดิมก็มักต้องก้มหน้าก้มตาทำงานในบ้านไปเรื่อย ขาดตกบกพร่องมิได้ เพราะหากขาดตกอะไรไปอย่างนพนภา ก็จะถูกตีตราว่าไร้ประสิทธิภาพ สมแล้วที่สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย สมแล้วที่มีลูกที่ท้องก่อนแต่ง สมแล้วที่มีลูกเป็นเกย์ หรือเหมือนนางเอกหลายๆ เรื่องที่ละครเวทีแห่งสังคมไทยชี้ชวนให้เราพูดว่าสมแล้วที่โดนข่มขืน สมแล้วที่โดนพูดจาแทะโลมในที่สาธารณะถ่ายทอดสดทั่วประเทศ เป็นต้น ตามแบบฉบับละครไทยในศตวรรษที่ 21 ที่สะท้อนสังคมที่ล้าหลังทางปัญญา ค่านิยมมืดดำ…ที่ดูยังไงก็ดูไม่ดี…แบบที่คุณกะละแมร์จะต้องร้องอี๋ ครีมฟอกผิวพอกความขาวอะไรบนโลกใบนี้ก็แก้ไม่ได้ขอวกกลับมาเรื่องเรือสักนิด หากจะมองว่าตัวละครหลักใน เทียบได้กับนาวาล่องสมุทร คือจะมองว่าเหมือนเรือล่าปลาวาฬอย่างในเรื่องโมบี ดิกของ เฮอร์มัน เมลวิลล์ (เกิดปีค.ศ. 1819 ตายปี ค.ศ. 1891) ที่ออกตามล่าความหมายของการมีชีวิต เราจะเห็นว่า Corrado เชื่อว่าความหมายนั้นมันหาได้จากการไม่อยู่กับที่ ตัวเขาเองเป็นเรือที่ล่องไปมาในมหาสมุทรแห่งความเปลี่ยนแปลง เขาไม่พอใจที่อยู่ที่นี่ (here) หรือที่นั่น (there) แต่มีความสุขที่ได้เดินทางระหว่างที่นี่และที่นั่นร่ำไป จุดหมายไม่สำคัญ ในขณะที่ Giuliana ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในลำเรือของจิตใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ บอกว่าความหมายมันจะอยู่ที่ไหนได้เล่าในเมื่อตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่าจะพุ่งสายตาไปที่ใด ไม่รู้จะโฟกัสอะไร (I cant look at the sea for long or I lose interest in whats happening on land – ฉันมองทะเลนานๆ ไม่ได้ ไม่งั้นฉันจะไม่ใส่ใจสนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดบนบก) เธอเปรียบเสมือนเรือที่ไร้ (Gyroscope) อันเป็นอุปกรณ์ที่ Ugo อธิบายให้ลูกชายคือ Valerio ฟัง (ในฉากพ่อลูกเล่นของเล่นด้วยกัน โดยมีแม่คอยดูอยู่ห่างๆ) ว่าเป็นอุปกรณ์ล้อหมุนเร็วบรรจุในกรอบที่หมุนได้เรื่อยๆ อาศัยแรงเฉื่อยของล้อ มีโมเมนตัมที่รักษาสมดุล ทำให้อุปกรณ์นี้แม้เอียงไปมาก็ไม่ล้ม อุปกรณ์นี้มักใช้ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเรือใหญ่ เพื่อพยุงประคองไม่ให้เรือจม ผู้เขียนวิเคราะห์ว่าเพราะ Giuliana ถูกริบ จากนาวาของความเป็นแม่และเมีย เพราะความเชื่อของเธอถูกสั่นคลอน ทำให้คิดสงสัยว่าทำไมเธอถึงอยู่อย่างไร้สุขในสังคมขนบชายเป็นใหญ่ เมื่อขาด จรรโลงอำนาจนำ ก็ทำให้เธอเสียสมดุลครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่แปลกที่เธอรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว และแม้จะแสวงหาความรักและความเข้าใจจาก Corrado ถึงขั้นมีสัมพันธ์ทางกายด้วยกัน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรจะช่วยอะไรได้เล่า? ในเมื่อผู้หญิงเป็นระบบสัญญะที่พังมาตั้งแต่ต้น มันยากที่จะเยียวยาด้วยความอนุเคราะห์ของการคิดแบบปิตาธิปไตย อันสะท้อนในความคิดของ Corrado ที่ว่าเขาสามารถซ่อมผู้หญิงคนนี้ได้หากเขาพาเธอขึ้นเตียง (ซิกมันด์ ฟรอยด์คงเห็นดีเห็นงาม รีบวิ่งมาปูเตียงให้ทันที เพราะเชื่อว่าผู้หญิงอิจฉาผู้ชายเพราะผู้ชายมี –และเป็น- เจ้าโลก) แนวคิดชายเป็นใหญ่ทั้งหมดนี้ถูกท้าทายใน ทั้งสิ้นฉากที่ Giuliana ค้นพบข้อความจริงที่ว่า Valerio ลูกชาย แกล้งทำเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพื่อเรียกร้องความสนใจแม่ ทำให้ Giuliana รู้สึกโดดเดี่ยวไปใหญ่ แม่หลายคนที่มีลูกไม่ได้ดั่งใจคงคิดว่าทำไมหนอทำไม ฉันอุตส่าห์เสียสละร่างกายอุทิศเวลาและพลังงานให้ลูก ใยลูกจึงไม่รักดีและมาหักหัวอกหัวใจของฉัน ไม่แปลกที่ Giuliana รู้สึกงุนงงสับสน อับจนหนทาง จนต้องร่อนเร่เข้าไปยังบริเวณท่าเรือ ที่นั่นเธอได้พบกับคนเรือชาวต่างชาติ (หากฟังไม่ผิด คนเรือนั้นพูดภาษาตุรกี) พยายามสื่อสารกันในระดับภาษาก็ฟังกันไม่รู้เรื่อง ฉากนี้เป็นฉากที่งดงาม เพราะแสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตของคนสมัยใหม่ที่คุยกันไม่รู้เรื่อง (แม้จะพูดภาษาเดียวกันก็เถอะ) เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าคนเรือ Giuliana ก็เริ่มร่าย Soliloquy บทพูดรำพึงรำพันคนเดียว ที่สรุปใจความได้ว่า We are all separate (เราทุกคนล้วนแตกแยกแตกต่าง)หนังที่ Antonioni สร้างนั้น ขึ้นชื่อว่าดูยากดูเย็นชวนเคลิ้มหลับ เรื่อง นี้ ผู้เขียนก็ว่าจริงในบางจังหวะโอกาส โดยเฉพาะเมื่อหน้าท้องตึงจากการรับประทานหมูทอดตลาดนัดจุฬาฯ ในปริมาณเบาๆ คือสองขีดบวกข้าวเหนียวสองถุง แต่เมื่อพินิจดูดีๆ โปรเจคของผู้กำกับที่หากมีชีวิตอยู่ก็จะมีอายุครบศตวรรษในปีนี้นั้น มีโปรเจคพุ่งชนอันเดียวกันกับโปรเจคของพวกนักเขียนวรรณกรรม Modernism ชาวอังกฤษ อเมริกัน และนักคิดภาคพื้นทวีปยุโรปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ จอยซ์ (ค.ศ. 1882-ค.ศ. 1941) และเพื่อนผู้เป็นสหชาติคือ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ (ค.ศ. 1882-ค.ศ. 1941) ต่างเป็นนักเขียนผู้สำรวจกระแสสำนึกของมวลมนุษย์และเปิดโปงความล้มเหลวของระบบภาษาอันเป็นสัญญะสื่ออำนาจและสังคมที่ไม่เท่าเทียมในสังคมสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ที.เอส. เอลเลียต (ค.ศ. 1888-ค.ศ. 1965) ที่มองว่าโลกสมัยใหม่นั้นเป็นทะเลทรายที่แห้งผากเพราะสงครามโลกได้ทำให้บ่อน้ำทิพย์อารยธรรมนั้นแห้งเหือดหดหายไป หรือมาร์ติน ไฮเดกเกอร์ (ค.ศ. 1889-ค.ศ. 1976) ที่สนใจประเด็นเดียวกับ Corrado ผู้เฝ้าถามตัวเองตลอดทั้งเรื่อง อะไรคือ คือ (What is is?) อะไรคือการมีตัวตน อะไรคือวิถีและวิธีการที่เราพึงจะใช้ชีวิตบนโลกนี้ เป็นต้น แล้วโปรเจคของคนพวกนี้ก็ยังส่งเสียงร้องเหมือนเสียงผู้หญิงนิรนามในหนังเรื่อง ที่ตามมาหลอกหลอนพวกเราที่อาศัยและเร่ร่อนกลางทะเลทรายสีแดงแห่งศตวรรษที่ 21We are all separate (เราทุกคนล้วนแตกแยกแตกต่าง) เป็นคำพูดที่หลุดมาจากปากของผู้หญิงที่ตัวตนและห้วงคำนึงแตกเป็นเสี่ยงๆ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะเลิกลุกขึ้นมาจับ คัด แยกชิ้นส่วนความแตกต่างของอัตลักษณ์หญิงแต่ละคนราวแยกขยะ เลิกเอามันมาใส่ถุงมัดรวมเป็นกลุ่มก้อน เลิกเอาถุงมาวางรวมกันในโกดังของเรือสินค้าเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทที่ชื่อว่าอำนาจความไม่เป็นธรรมในวาทกรรมเรื่องเพศ? ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะตั้งคำถามความคิดเรื่องเพศที่แพร่สะพัดในสื่อทั้งสื่อบันเทิงและการเมือง และร่วมกันทำลาย หากประชาธิปไตยตั้งอยู่บนฐานของความเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์ สิทธิสตรีไม่ควรมาเป็นที่สองรองการเมือง สิทธิสตรีคือการเมือง ความเสมอภาคทางเพศคือประชาธิปไตยบางทีเราอาจต้องเผาเรือแห่งอำนาจนำ เอาดินไปถมทะเลแห่งอคติ และเมื่อทะเลกลายเป็นทะเลทราย ก็หวนกลับไปกู้ซากสิทธิสตรีที่จนถึงทุกวันนี้ยังคงรอคอยให้เราทำความเข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้งและจริงจังคุณเริ่มแล้วหรือยัง | เพื่อพักสมอง—หลีกหนีวาทกรรมทางเพศที่แสนจะอื้อฉาวทั้งในและนอกสภาอภิปราย โดยเฉพาะในสภาอันมีชายคนหนึ่งฝันว่านอนกับผู้หญิงคนนี้ ชายอีกคนหนึ่งฝันว่าผู้นำหญิงไป เล่นหูเล่นตาเล่นท่า | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,วัฒนธรรม,สังคม | ภาพยนตร์,วริตตา ศรีรัตนา,สิทธิสตรี,อิตาลี | https://prachatai.com/journal/2012/12/43980 |
รายชื่อสมเด็จพระสังฆราชส่งถึงสำนักพุทธฯแล้ว อดีตผอ.อัดพวกไม่รู้จริง | เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายชยพล พงษ์สีดา รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้มหาเถรสมาคม (มส.) ได้ส่งมติการเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มายังสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แล้ว,โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อนำเรื่องเสนอไปยัง นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพรพุทธศาสนาฯ เพื่อพิจารณาส่งเรื่องไปยัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเสนอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป โดยมติที่ทาง มส.ส่งมา นั้น เป็นมติจากการประชุมวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. และผ่านการรับรองจากการประชุมมส.เมื่อวันที่ 11 ม.ค.แล้ว,ด้านนายพิศาล แช่มโสภา ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า กรณีที่มีผู้นำเรื่องพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับเรื่องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มาพยายามโยงเข้ากับเรื่องการสร้างให้เกิดมลทินต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์นั้น ในฐานะที่ตนเคยทำงานเป็น ผอ.ส่วนงานมหาเถรสมาคม ขอชี้แจง ว่า ไม่อยากให้นำกรณีดังกล่าวมากล่าวอ้าง ว่า เป็นมลทินต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ทั้งยังมีการระบุอีก ว่า พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเป็นกฎหมาย ที่ มส.และคณะสงฆ์ต้องปฏิบัติตาม ตนขอชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องพระบัญชา กับพระลิขิต ว่า แตกต่างกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด โดยพระบัญชา คือ คำสั่งสมเด็จพระสังฆราช หรือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่คณะสงฆ์ไทยต้องปฏิบัติตาม ซึ่งการจะทรงมีพระบัญชาใดๆ นั้น มีเกณฑ์กำหนดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ว่า ทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม,นายพิศาล กล่าวด้วยว่า ส่วนพระลิขิต คือ ข้อเขียนตามพระประสงค์ จัดเป็นคำสอน ไม่ใช่คำสั่ง จึงไม่เป็นกฎหมาย ไม่มีผลต่อการปฏิบัติ เช่น พระวรธรรมคติ พระโอวาท เป็นต้น การกล่าวอ้าง ว่า มส.ขัดพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชทำให้เกิดมลทิน จึงไม่เป็นความจริง เพราะพระลิขิตที่นำมากล่าวอ้างนั้น ขัดกับกฎมส.ฉบับที่ 11 พ.ศ.2521 ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ซึ่งเกี่ยวกับระบบศาลของคณะสงฆ์ไทย แบ่งเป็น 3 ศาล อย่างทางโลก คือ ชั้นต้น ชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา โดยในข้อ 26 ระบุว่า การพิจารณาวินิจฉัยลงนิคหกรรมชั้นฎีกาให้เป็นอำนาจของ มส. เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานกรรมการ มส.โดยตำแหน่ง พระองค์จึงเปรียบเหมือนประธานศาลฎีกา ดังนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ประธานศาลฎีกา จะมีคำตัดสินว่า นาย ก. หรือ นาย ข. ถูกหรือผิด ขณะที่ศาลชั้นต้นยังไม่พิจารณา นอกจากนี้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ในการดำเนินการเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็เป็นกฎหมายที่ผ่านมติ มส. ในยุคที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ มส.ด้วย | รายชื่อสมเด็จพระสังฆราชส่งถึงสำนักพุทธฯแล้ว อดีตผอ.ส่วนงานมหาเถรฯ อัดพวกไม่รู้จริง นำเรื่องพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช มาสร้างมลทิน สมเด็จฯวัดปากน้ำ | null | พระสังฆราช,รายชื่อ,สมเด็จพระสังฆราช,สำนักพุทธศาสนา,อดีตผอ.ส่วนงานมหาเถรฯ,มหาเถรสมาคม,พวกไม่รู้จริง,พระลิขิต,มลทิน,สมเด็จฯวัดปากน้ำ,ชยพล พงษ์สีดา,รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ,มส.,พศ.,สมเด็จพระราชาคณะ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการศึกษา | https://www.thairath.co.th/content/562319 |
อาคม เล็งเป้าการบินไทย ตามบี้เงินเดือนมากรับผิดชอบน้อย | ด้านซีเอฟโอครวญแจงเหตุรายได้ติดลบ เผย 6 เดือนแรกของปีนี้ผลตอบแทนบอร์ด เป็น ศูนย์ แม้เบี้ยประชุมยุ่บยั่บ ไม่ประชุมยังจ่าย,นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาเรื่องการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจและให้กระทรวงคมนาคมพิจารณามาตรการปฏิรูป บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งในส่วนของมาตรการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ รวมถึงสิทธิประโยชน์ของผู้บริหารทั้งอดีตถึงปัจจุบัน และให้รายงานมายังนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วันนั้น ตนได้สั่งการไปยังหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดคมนาคมทั้งหมด ให้ทำแผนแล้วรายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคมภายในเดือน พ.ย.นี้ ก่อนที่คมนาคมจะเสนอแผนปฏิรูปกลับไปยังนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน,ทั้งนี้การบินไทยต้องเข้าใจว่าโครงสร้างการดำเนินงานขององค์กรไม่สัมพันธ์กับบุคลากรและเนื้องาน หัวองค์กรโต ค่าใช้จ่ายระดับบนสูง รับเงินเดือนมากแต่รับผิดชอบน้อย และที่ผ่านมาการบินไทยพยายามปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารแล้วกว่า 77 ตำแหน่ง แต่ก็ต้องดูว่าเมื่อปรับแล้วทำไมค่าใช้จ่ายยังสูงอยู่ การปรับทำได้จริงหรือไม่,ส่วนกรณีที่ผู้บริหารการบินไทยได้ว่าจ้างที่ปรึกษาต่างชาติและใช้งบสูงนั้น นายอาคมกล่าวว่า ขอดูรายละเอียดก่อน แต่หากผู้บริหารเข้ามาแล้วยังจ้างที่ปรึกษาส่วนตัวอีก ก็ต้องดูเหตุผลว่าคืออะไร บอร์ดอนุมัติได้อย่างไร,ด้านนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน และการบัญชี (ซีเอฟโอ) การบินไทย เปิดเผยว่า การขาดทุนของบริษัทมีผลกระทบที่เกิดจาก 2-3 เรื่อง ทั้งเหตุระเบิดในพื้นที่ราชประสงค์ ทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (โหลดแฟกเตอร์) มีสัดส่วนลดลงในเดือน ก.ย.-ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายได้มีอัตราติดลบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังประสบปัญหาผลักดันการขายไม่ได้เต็มที่ ตลอดจนการปรับโครงสร้างงบดุลบริษัท ยังไม่เห็นผล โดยเฉพาะการจัดการสินทรัพย์ หากที่มองว่าเงินเดือนของผู้บริหาร ระดับสูงและผลตอบแทนของบอร์ดมีอัตราสูง เชื่อว่าไม่ใช่ผลทั้งหมด เพราะปัจจุบันผลตอบแทนของบอร์ดเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ จากการรายงานผลประโยชน์บอร์ดต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงว่า 6 เดือนของปี 2558 บอร์ดได้รับผลประโยชน์เป็นศูนย์ ทั้งสิทธิประโยชน์บัตรโดยสาร หรือสิทธิอื่นๆ บอร์ดไม่ได้อยู่แล้ว ได้เบี้ยประชุมตามระเบียบ ซึ่งก็ไม่ได้เยอะ,ทั้งนี้ ตามมติในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2557 ได้กำหนดค่าตอบแทนของบอร์ดการบินไทยประกอบด้วย 1.ค่าตอบแทนกรรมการบอร์ด คนละ 50,000 บาทต่อเดือนเป็นประจำทุกเดือน เบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทต่อเดือน (ประธานกรรมการได้รับเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการ 25% และรองประธานกรรมการได้รับเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการ 12.5%) 2.คณะกรรมการบริษัทยังได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการย่อยอื่นๆได้อีกและจะได้รับเบี้ยประชุม และค่าตอบแทนอีกคนละ 10,000 บาท 3.คณะ กรรมการตรวจสอบให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน คนละ 30,000 บาท เดือนใดไม่มีการประชุมก็ให้ได้รับค่าตอบแทนด้วย และ 4.คณะกรรมการบริษัทได้รับเงินโบนัสคำนวณจากอัตรา 0.2% ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จากงบการเงินรวม ในวงเงินรวมไม่เกิน 30 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์ด้านบัตรโดยสารยกเลิกไปแล้ว. | อาคม นั่งไม่ติด สั่งทุกรัฐวิสาหกิจใต้คมนาคม เร่งทำแผนปฏิรูปเตรียมรายงานกลับนายกรัฐมนตรีใน 30 วัน พุ่งเป้า การบินไทย รับเงินเดือนมากแต่ความรับผิดชอบน้อย | null | อาคม เติมพิทยาไพสิฐ,ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ,การบินไทย,ลดค่าใช้จ่าย,เงินเดือน,เงินเดือนสูง,ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์,การบินไทย ขาดทุน,ปรับโครงสร้าง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/536895 |
ทำอะไรดี เมื่อชีวิตไร้เทคโนโลยี ส่องวันว่าง 2 หนุ่ม เงิน-กัปตัน | กลายเป็นคนติดมือถือกันแล้วใช่มั้ย? ถ้าคุณคอยหยิบมือถือ หรือแท็บเล็ตคู่ใจมาเปิดดูความเคลื่อนไหวบนโซเชียลเน็ตเวิร์กแทบทั้งวัน แบบนั้นเราฟันธงให้เลยว่า คุณเสพติดมือถือ เอะ หรือเสพติดเรื่องราวบนโลกออนไลน์ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ว่าจะติดอะไรก็ไม่ต่างกัน เพราะนั่นหมายความว่า คุณเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลมากเกินพอดีแล้วนั่นเอง,แล้วถ้าวันนึง คุณไม่มีมือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ล่ะ จะเอาเวลาเหล่านั้นไปทำอะไรดี? คุณเคยนึกหรือเปล่า วันนี้เรามีคำตอบจาก 2 หนุ่มสุดฮอต เงิน-อนุภาษ เหลืองสดใส และ กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง ดาราหน้าใสจากเลิฟซิกเดอะซีรีส์ (Love Sick The Series) หรือ รักวุ่นวัยรุ่นแสบ ว่าพวกเขาจะทำอะไรในเวลาเหล่านั้น,3 กิจกรรมในวันที่ ชีวิตไร้ซึ่งเทคโนโลยี,เริ่มต้นที่หนุ่มมาดเข้ม อย่าง เงิน กับความคิดแรกที่บอกว่า ,ยังไงผมก็ยังอยากเล่นโซเชียล,ถ้าให้นึกถึง 3 กิจกรรมในวันที่เราไม่มีมือถือ แท็บเล็ต หรืออินเทอร์เน็ต ผมก็จะหันไปหาคอมพิวเตอร์ ยังไงก็ต้องพยายามหาจนถึงที่สุดนะ เพราะผมอยากเล่นโซเชียล แบบว่าติดโซเชียลครับ,เฮฮากับเพื่อน,อีกความสนุกในวันว่าง ก็น่าจะเป็นการนัดเพื่อนๆ ชวนกันไปเที่ยว ไปกินข้าว ผมว่าดีนะก็จะได้เฮฮาสนุกสนานกันไปด้วย,ดูหนังคนเดียว,ถ้าว่างจริงๆ ผมก็จะไปดูหนังคนเดียวนะ ชอบแนวบุ๊ แอ็กชั่นทำนองนี้ เพราะว่ามันตื่นเต้นดี สนุกด้วย เวลาเครียด เหนื่อย เบื่อ ก็ไปดูหนังดีกว่าครับ,ส่วน กัปตัน หนุ่มตี๋หน้าใส บอกว่า ,ขอเป็นหนอนหนังสือ,ตอนมีเวลาว่างก็จะอ่านหนังสือครับ อ่านได้หมดทุกประเภท จะได้ไม่เบื่อตอนว่างๆ,เที่ยวดีกว่า,หรือถ้ามีช่วงว่างหลายๆ วัน ก็น่าจะไปท่องเที่ยว พักผ่อนกันที่ต่างจังหวัด หรือถ้าไม่มีเวลาก็เป็นที่ไหนก็ได้ใกล้ๆ หรือไปห้างในกรุงเทพฯ ก็ได้,ออกทริปถ่ายรูป,จริงๆ แล้วผมชอบถ่ายรูปมาก ใช้กล้อง DSLR ถ่ายมุมต่างๆ บรรยากาศ คน วิว อะไรก็ถ่ายได้หมดครับ เพราะว่าสนุกดีแล้วก็ได้ภาพสวยๆ เก็บไว้ดูด้วย แต่ช่วงนี้ทำงานก็เลยไม่ค่อยได้ถ่าย,แล้ววันว่างที่ไร้เทคโนโลยีของคุณล่ะ เป็นแบบไหน? | ถ้าชีวิตถูกบังคับให้คุณต้องห่างจากเทคโนโลยี กิจกรรมไหนที่คุณจะใช้ฆ่าเวลา ทดแทนช่วงที่ต้องไกลจากมือถือและอินเทอร์เน็ตได้…
| null | เงิน เลิฟซิก,อนุภาษ เหลืองสดใส,กัปตัน เลิฟซิก,ชลธร คงยิ่งยง,Love Sick The Series,รักวุ่นวัยรุ่นแสบ,เลิฟซิกเดอะซีรีส์ | https://www.thairath.co.th/content/469806 |
แฟนๆ กรี๊ด บี-คริส โพสต์ภาพกอดสุดฟิน #บีคริส อันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ | เป็นคู่จิ้นที่แฟนๆ หลายคนชื่นชอบ สำหรับ 2 นักแสดงสาว บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ และ คริส หอวัง โดยแฟนๆ ส่วนใหญ่ชื่นชอบทั้งคู่จากการเป็นเมนเทอร์ในรายการดัง เดอะเฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2 ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกจับเป็นคู่จิ้นและใช้แฮชแท็ก #บีคริส เพื่อเป็นการพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับ 2 นักแสดงสาวในทวิตเตอร์ล่าสุด บี-คริส กลับมาเจอกันอีกครั้งในงานแถลงข่าว ปรากฏการณ์ One สนั่นจอ ที่โรงแรมคอนราด และ บี ก็ได้โพสต์ภาพกอด คริส ลงไอจีส่วนตัว พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า #บีคริสมาแล้ว ไหนๆๆๆ จะให้รางวัลอะไรเรา #beenamthip #crishorwang #ไม่เจอนาน คิดถึงจัง และโพสต์ลงทวิตเตอร์ โดยบอกว่า #บีคริส ติด Twitter #อันดับ1 จะปล่อยรูปอีก ด้าน คริส ก็โพสต์ภาพเดียวกันลงไอจีส่วนตัว พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า อะ เต็มที่เลยจ่ะ#บีคริส Good to see u na@beenamthipofficialซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ลงภาพดังกล่าวไปได้ไม่นาน แฮชแท็ก #บีคริส พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ไปเรียบร้อย โดยมีแฟนๆ ต่างโพสต์ภาพคู่ของ บี-คริส และรีทวีตเป็นจำนวนมาก ด้าน บี หลังรู้ว่าแฮชแท็ก #บีคริส ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ก็โพสต์คลิปวิดีโอนาทีที่ได้เจอ คริส และกอดกันด้วยความคิดถึง พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า เก่งมากทุกคน #บีคริส ติดเทรน Twitter อันดับ 1 เอาคลิปไปเลยจ้า ขอให้มีความสุขนะ แฟนๆ #บีคริส ทำเอาแฟนๆ ต่างรีทวีตคลิปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และ บี ยังโพสต์บอกแฟนๆ อีกว่า ถ้าติด Twitter อันดับ 1 อีก เดี๋ยวลงอีกอ่ะ เอาสิ โดยมีแฟนๆ รีทวีตข้อความดังกล่าวและบอกว่าอยากให้ทั้งคู่จัดงานมีตติ้งคู่กันด้วยเรียกว่าเป็นคู่จิ้นที่หลายคนชื่นชอบมากจริงๆ เจอกันทีไรมีแต่ความฟินเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้ยิ้มทุกครั้งจ้า. | บี น้ำทิพย์ และคริส หอวัง โพสต์ภาพกอดกัน ด้านบีบอกแฟนๆ หาก #บีคริส ติดทวิตเตอร์อันดับ 1 จะปล่อยรูปอีก ทำเอา #บีคริส พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | บี น้ำทิพย์,คริส หอวัง,บี คริส,บี คริส คู่จิ้น,คู่จิ้นดารา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1761715 |
ใบปอ รัตติยา ปลอดภัยแล้ว เข้าให้กำลังใจญาติคู่กรณีที่ตาย พร้อมดูแลคนเจ็บ | จากกรณีที่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 4747 ขอนแก่น ที่มีนางสาวรัตติยา พลเสน หรือ ใบปอ ราชินีรถแห่ โดยสารมาด้วยประสบอุบัติเหตุชนรถจักรยานยนต์ที่ถนนสายบ้านบ่อ-หนองแปน อ.กมลาไสย ทำให้นายบัวลา วิชาชัย เสียชีวิต ส่วนรถยนต์ของใบปอเสียหลักพลิกคว่ำทำให้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือคนขับ และใบปอ รัตติยา ได้ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ตามข่าว ,ใบปอ รัตติยา ลูกทุ่งดังซิ่งฟอร์จูนเนอร์ ชนจยย. คว่ำตกคลองเจ็บ, ที่เสนอไปแล้วนั้น,ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 ทราบว่าใบปออาการปลอดภัย และได้ออกจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์เมื่อช่วงค่ำวานแล้ว ส่วนในเรื่องคดีความ ทาง พ.ต.ท.มณี สาระขันธ์ สว. (สอบสวน) สภ.กมลาไสย เจ้าของคดี ได้บอกว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานยังไม่ระบุว่าใครถูกใครผิด ต้องรอคนขับรถยนต์คู่กรณีอาการดีขึ้นก่อนถึงจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง,ส่วนบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 7 บ้านสงเปลือย ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตั้งศพนายบัวลา วิชาชัย อายุ 62 ปี โดยทางญาติและเพื่อนบ้านได้เตรียมสถานที่ภายในงานท่ามกลางความโศกเศร้า,นางคำมูล บัวสิงห์ อายุ 60 ปี มีศักดิ์เป็นป้าของผู้ตาย ได้บอกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ทำให้ญาติทุกคนและชาวบ้านรู้สึกเสียใจ โดยหลังจากนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล ทางคู่กรณีก็เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมเป็นเจ้าภาพฟังสวดอภิธรรมอีก 2 คืน โดยได้มอบเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยงานแล้ว พร้อมบอกว่าจะขอไปดูแลผู้ที่บาดเจ็บก่อน วันเสาร์ถึงจะมาร่วมงานฌาปนกิจอีกครั้ง ,ป้าของผู้ตายกล่าวด้วยว่า ส่วนวันเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์ข้ามไปบ้านฝั่งตรงข้ามตามปกติ เพราะเป็นบ้านเกิดของผู้ตาย แล้วตอนเย็นก็จะขับรถกลับมาที่บ้านของภรรยา โดยขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร จึงไม่รู้ว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างไร ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง. | ใบปอ รัตติยา อาการปลอดภัยออกจากโรงพยาบาลแล้ว พร้อมเข้าให้กำลังใจญาติผู้ตายจากเหตุรถชนและดูแลผู้บาดเจ็บ ส่วนเรื่องคดี ตร.กำลังรวบรวมหลักฐาน รอคนขับรถเก๋งอาการดีขึ้นก่อน จึงจะสอบปากคำได้ | ข่าว,ทั่วไทย | ใบปอ รัตติยา,รัตติยา พลเสน,ราชินีรถแห่,รถคว่ำ,ชนจยย.,รถตกคลอง,ฟอร์จูนเนอร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1698928 |
ไอซีที หนุน ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง เสริมการขายผ่านโซเชียล | กระทรวงไอซีที กศน. และดีแทค จับมือเปิด ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง แห่งแรกของพิษณุโลก เปิดสอนทำแฟนเพจเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า การใช้สมาร์ทโฟน การใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ เพื่อการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมอาชีพ,เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 59 นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีข้าราชการสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี จากนั้นได้เยี่ยมชมบูธร้านค้าของชุมชนที่เข้าสู่ระบบการค้าออนไลน์ บูธแสดงนิทรรศการผลงานดำเนินงานของ กศน.จังหวัดพิษณุโลก บูธแสดงสินค้าหรือผลงานของหน่วยงานต่างๆ และพื้นที่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง,สำหรับศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง เกิดจากการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงไอซีที สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เพื่อร่วมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ซึ่งมีวิทยากรประกอบด้วย ครู กศน. และเน็ตอาสาของดีแทค ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนมาเป็นอย่างดี ร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์และได้ดำเนินการขยายผล โดยการจัดอบรมการใช้สมาร์ทโฟน การทำแฟนเพจเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า ผู้จบหลักสูตรสามารถนำความรู้ไปต่อยอด เช่น เปิดร้านส้มตำโดยใช้เฟซบุ๊กในการสื่อสารกับลูกค้า ผู้สูงอายุขายสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก อีกทั้งทำให้ร้านค้าทั้งหมดในบริเวณศูนย์ฯ และพื้นที่ใกล้เคียงปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าออนไลน์ได้,ด้าน นายกษม เหรัญ สถิติจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะตัวแทนกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง เป็นศูนย์อันดับแรกของจังหวัดและเป็นศูนย์อันดับที่สามของประเทศ การสร้างความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีดิจิตอลให้กับประชาชนในด้านการใช้งานสมาร์ทโฟน การใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ รวมทั้งโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ จากการสนับสนุนของบริษัทเอกชน เช่น เน็ตอาสาของดีแทค การทำงานอย่างเข้มแข็งของบุคลากรที่เป็นครู กศน. การสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และงบประมาณจากกระทรวงไอซีที นับเป็นการสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับชุมชนอย่างแท้จริง เนื่องจากชุมชนแห่งนี้มีพื้นที่เหมาะสมกับการเปิดเป็นพื้นที่การเรียนรู้ มีความตื่นตัวและตอบรับในการที่จะเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดิจิตอล ใช้ในการประกอบอาชีพผ่านระบบออนไลน์ เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ตลอดจนการนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี. | ก.ไอซีที กศน. และดีแทค จับมือเปิด ศูนย์ดิจิทัลชุมชน อบต.บ้านกร่าง แห่งแรกของพิษณุโลก สอนทำแฟนเพจเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า การใช้สมาร์ทโฟน การใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ เพื่อการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย | ข่าว,ทั่วไทย | ศูนย์ดิจิทัลชุมชน,อบต.บ้านกร่าง,การค้าออนไลน์,กระทรวงไอซีที,สมาร์ทโฟน,อาชีพ,รายได้,ระบบออนไลน์,คุณภาพชีวิต,พิษณุโลก | https://www.thairath.co.th/news/local/714925 |
ซัดดารา ตื่นน้ำป่าโอเวอร์ กระทบท่องเที่ยวนครนายก ห้องพักแทบร้าง | คนผวา น้ำป่า ทำแหล่งเที่ยวนครนายกเงียบเหงา ด้านสีดา รีสอร์ท โอดกระทบหนักลูกค้ายกเลิกห้อง ติงดาราไลฟ์สดโอเวอร์เกิน ย้ำน้ำป่ามาทุกปี ไม่เกิน 3 ชม.ลดลงปกติ ฝากจังหวัดเร่งพีอาร์เรียกเชื่อมั่น,เมื่อวันที่ 19 ส.ค. จากเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดน้ำป่าไหลหลากแหล่งท่องเที่ยวใน จ.นครนายก ทำให้น้ำตกนางรองและเขื่อนขุนด่านปราการชล มีสภาพค่อนข้างเงียบเหงา นักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา มีเพียงร้านค้าตั้งแผงขายสินค้า เช่นดียวกับ สีดา รีสอร์ท ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก อีกจุดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่า,ด้านนายอารัก เจริญวิทย์ ผู้จัดการทั่วไป สีดา รีสอร์ท เปิดเผยว่า ขณะนี้กรุ๊ปทัวร์ได้ยกเลิกไปจำนวนพอสมควร คิดเป็นอัตราร้อยละ 10 ของจำนวนแขกที่มาพัก เบื้องต้นเสียหายจากการยกเลิกห้องพักไปเป็นเงินกว่า 3-4 ล้านบาท และในระยะยาวยังมีอีกต่อเนื่อง รวมถึงรีสอร์ทเล็กๆ ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการจองห้องพักเช่นกัน,ขณะที่ นายประพันธ์ เจี่ยดำรง เจ้าของสีดา รีสอร์ท เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต เนื่องจากกลุ่มดาราที่มาถ่ายหนังทำการไลฟ์สด โดยบรรยายภาพด้วยอาการตื่นเต้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงน้ำป่ามาแบบนี้ทุกปี ไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง น้ำจะลดลงปกติ ซึ่งการไลฟ์สดแบบไม่มีเหตุผลในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับรีสอร์ทเป็นอย่างมาก และข้อเท็จจริง กลุ่มดาราดังกล่าวยังคงพักอยู่ในรีสอร์ท และเช้าวันรุ่งขึ้นได้ถ่ายทำภาพยนตร์ต่อเนื่อง ก่อนช่วงบ่ายได้กลับออกไป และเร็วๆ นี้ทางกองถ่ายดังกล่าว มีกำหนดจะมาพักที่สีดา รีสอร์ท จึงอยากให้ทางจังหวัดเร่งทำการประชาสัมพันธ์ความปลอดภัยของแหล่งท่องเที่ยวใน จ.นครนายก โดยอาจมีกิจกรรมส่งเสริมความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนอย่างปลอดภัย อีกทั้งลูกค้าที่มาพักขณะนี้ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่ากลัวแบบข่าวที่ออกไป, ,นายเดชา เที่ยงแท้ อายุ 50 ปี ชาวจ.ระยอง ซึ่งมาท่องเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชล เปิดเผยว่า ตนเองรวมทั้งครอบครัวมาเที่ยวหลังทราบข่าวว่าเขื่อนเปิดสปิลเวย์ทั้ง 4 บาน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก ส่วนข่าวน้ำป่า ไม่รู้สึกวิตกหรือหวาดกลัว เพราะรู้อยู่แล้วว่าจังหวัดนครนายก น้ำป่ามาเร็วไปเร็ว และการมาท่องเที่ยวครั้งนี้สถานการณ์ทั่วไปเรียบร้อยดี ไม่น่ากลัวเหมือนกับข่าวที่ออกไปแต่อย่างใด. | คนผวา!! น้ำป่า ทำแหล่งเที่ยวนครนายกเงียบเหงา ด้านสีดา รีสอร์ท โอดกระทบหนักลูกค้ายกเลิกห้อง ติงดาราไลฟ์สดโอเวอร์เกิน ย้ำน้ำป่ามาทุกปี ไม่เกิน 3 ชม.ลดลงปกติ ฝากจังหวัดเร่งพีอาร์ | ข่าว,ทั่วไทย | น้ำป่า,น้ำป่านครนายก,แหล่งเที่ยวนครนายก,ยกเลิกห้องสีดารีสอร์ท,ท่องเที่ยวหน้าฝน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1357814 |
ตร.ประสานกองสลากฯ ส่งล็อตเตอร์รี่ถูกรางวัล 30 ล้านบาทพิสูจน์ลายเซ็นต์ | นางเรวดี หาแก้ว และนางวิไลพร รัตนติสร้อย ผู้เสียหาย พร้อมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดียักยอกล็อตเตอร์รี่ที่ถูกรางวัล 30 ล้านบาท เข้าพบเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้รายละเอียดและเทียบเคียงลายเซ็นต์โดยวันนี้ (2 ก.ย.2559) พนักงานสอบสวนประสานขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 120 ชุดที่มีผู้นำไปขึ้นเงินทั้งหมด มาให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจการลงรายมือชื่อหลังสลากกินแบ่งรัฐบาลจริงหรือไม่ พร้อมทั้งให้เอาปากกาของผู้เสียหายในวันที่ได้เขียนไปด้วยเพื่อตรวจหาร่องรอยการกดหรือน้ำหมึก ซึ่งลายเซ็นต์ของผู้เสียหายอาจจะถูกลบเลือนโดยใช้สารเคมีบางชนิดเพื่อพิสูจน์ความจริงสำหรับกรณีนี้เกิดขึ้นจากนายเรวดีและนางวิไลพร รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาคือนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ร่วมหุ้นซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ โดยผู้เสียหายได้เซ็นต์รายชื่อสลักไว้หลังล็อตเตอรี่ 2 ใบ แต่เมื่อตรวจพบว่าสลากถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย.2559 รวมมูลค่า 30 ล้านบาท นางสุดารัตน์ไม่ยินยอมมอบสลากให้จนต้องเข้าแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ | ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดียักยอกล็อตเตอร์รี่ 30 ล้านบาท ประสานเจ้าหน้าที่กองสลากนำล็อตเตอร์รี่จำนวน 120 ชุดที่มีผู้นำมาขึ้นรางวัลมาตรวจพิสูจน์เที่ยบเทียงลายเซ็นต์ หลังผู้เสียหายร้องว่ามีการสลักหลังรายชื่อไว้ก่อนที่จะมีบุคคลอื่นนำไปขึ้นเงิน | อาชญากรรม | สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,สลากกินแบ่งรัฐบาล,ลายเซ็นต์,ยักยอกล็อตเตอร์รี่,ถูกรางวัลที่ 1,หวย,พิสูจน์ลายเซ็นต์,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/255425 |
ไปป์บอมบ์ ตูมสนั่นหน้ากองสลาก คล้ายบึมตู้โทรศัพท์แถวรัชโยธิน ปี 50 | เฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ,เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ 6 เม.ย. 60 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐกุล ผบก.พฐก. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้ และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่อีโอดี ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิด บริเวณถังขยะกรุงเทพมหานคร ริมรั้วข้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม ถนนราชดำเนินกลางอีกครั้ง เพื่อร่วมกันหาเศษซากชิ้นส่วนวัตถุระเบิด หาข้อสรุปจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังการปูพรมเดินค้นหาอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบเศษชิ้นส่วนโลหะ และเศษชิ้นส่วนวงจรไฟฟ้าเล็กน้อย ซึ่งหลังใช้เวลาตรวจสถานที่นานกว่า 1 ชั่วโมง ได้ประสานให้ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เปิดการจราจรให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่วนการติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว เบื้องต้น ตำรวจสืบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ที่ สน.ชนะสงคราม เวลา 10.00 น.,ต่อมา เวลา 10.30 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่อีโอดี เข้าประชุมร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณถังขยะ หน้ากองสลากเก่า ถนนราชดำเนินกลาง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าคดี โดยกำชับให้พนักงานสอบสวน และชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งวันที่ 7 เม.ย. เวลา 13.00 น. ตนจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในสิ่งที่ได้มอบหมายแบ่งงานให้ทำ ทั้งนี้ ได้ให้กำลังใจตำรวจทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว สำหรับเบาะแสคนร้าย ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ครบถ้วน เบื้องต้น ต้องเร่งพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใคร มีมูลเหตุอะไรจูงใจ เกี่ยวข้องกับใคร ส่วนกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุที่ตำรวจตรวจสอบ เป็นประโยชน์ในการติดตามคนร้าย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ใครก็ตามที่ปรากฏตัวในภาพกล้องวงจรปิด ตำรวจจะต้องตรวจสอบทุกคนก่อน ไม่ละเว้น จึงจะสามารถเปิดเผยได้ ส่วนแนวทางการสอบสวนสืบสวนยังไม่อยากให้พูดไปไกลถึงเรื่องการเมือง ขอให้จับตัวได้ก่อน แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นใด,พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบระเบิดในที่เกิดเหตุ ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบและเปรียบเทียบกับเหตุระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ถ้าหลักฐานยังไม่เพียงพอ แล้วไปพูดเชื่อมโยงกับเรื่องนี้เรื่องนั้น ก็จะทำให้การทำงานปราศจากเหตุและผล อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ตำรวจทุกสถานี เพิ่มมาตรการเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัย และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน,ต่อมา เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ พล.ต.ต.ธวัชชัย พล.ต.ต.อิทธิพล พ.ต.อ.กำธร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยาน และหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม,ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเศษซากวัตถุระเบิดเบื้องต้น พบชิ้นส่วนมีลักษณะคล้ายท่อพีวีซี (PVC) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว มีประจุดินดำ เป็นการใช้ไทม์เมอร์เป็นตัวจุดระเบิดโดยการตั้งเวลา ไม่พบการผสมวัตถุอื่นๆ ซึ่งลักษณะดังกล่าวคล้ายระเบิดประเภทไปป์บอมบ์ ที่ใช้ในการสร้างสถานการณ์ หรือเหตุความวุ่นวาย ไม่มีวัตถุประสงค์ต่อชีวิต หรือทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุการก่อเหตุนั้นต้องการป่วน สร้างสถานการณ์เพราะเหตุใดกันแน่,ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าลักษณะระเบิดดังกล่าวคล้ายกับลักษณะระเบิดในตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน เมื่อปี 2550 ที่มีแผงวงจรที่เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ได้มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว พร้อมนำหลักฐานส่งให้อีโอดีนำไปเปรียบเทียบชนิดแผงวงจร ว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ต่อไป. | ระเบิดถังขยะหน้ากองสลากเก่า เป็น ไปป์บอมบ์ คล้ายกับระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะย่านรัชโยธิน เมื่อปี 50 ด้าน ศานิตย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ อุบข้อมูลวงจรปิด บอกเป็นประโยชน์ติดตามคนร้าย กำชับทุกท้องที่เข้มงวดรักษาความปลอดภัย | ข่าว,อาชญากรรม | ระเบิดหน้ากองสลากเก่า,ลอบวางระเบิด,ไปป์บอมบ์,ศานิตย์ มหถาวร,บึมตู้โทรศัพท์ | https://www.thairath.co.th/news/crime/906931 |
ยอดป่วยเหลือ 277 ติดใหม่แค่ 15-ไม่มีตายเพิ่ม (คลิป) | เข้มต่างด้าวสกัดเป็นรังโรค ทั่วโลกติดไวรัส เกือบ3ล้านขณะที่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันลดเหลือ 15 ราย ไร้ตายหรือต่างด้าวป่วยเพิ่ม ปลื้มยอดผู้ป่วยนอนรักษาตัวต่ำ กว่า 300 รายเป็นวันแรก ส่วนยอดติดเชื้อทั่วโลกยังทะยานไปเรื่อยๆ แม้หลายประเทศเริ่มพบผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง แต่จีนเริ่มพบผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการเพียบหลังการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปทั่วโลก รวมถึงไทยผ่านมาร่วมสี่เดือน พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกใกล้แตะ 3 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2 แสนศพ โดยในไทยพบผู้ติดเชื้อรวมกว่า 2900 คน เสียชีวิต 51 ศพ แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถหายารักษาได้โดยตรง แต่พอจะมีความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสมรณะออกมาเป็นระยะติดเชื้อเพิ่ม 15 รายไม่มีตายที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย แบ่งเป็นผู้มีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 4 ราย ไปในสถานที่ชุมชน แออัด ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวใน กทม. 3 ราย อาชีพเสี่ยงใน จ.นครปฐม 1 ราย จากค้นหาเชิงรุกในชุมชน จ.ยะลา 2 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ 5 ราย ในจำนวนนี้กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4 รายกักตัวอยู่ใน กทม. และเนเธอร์แลนด์ 1 ราย กักตัวอยู่ที่ชลบุรี ยอดผู้ป่วยสะสม 2922 ราย สำหรับยอดผู้อยู่ระหว่างรักษาในโรงพยาบาล วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ผู้ป่วยที่อยู่ต่ำกว่า 300 ราย เหลือเพียง 277 ราย และไม่มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้รายงานยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 51 ราย อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขสรุปรายสัปดาห์จะค่อยๆลดลงตามลำดับ เป็นเลขสองหลัก จนเป็นที่น่าพอใจ แต่เราจะค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ที่มีการระบาดก่อนหน้านี้ต่อไป และขอแก้ไขข้อมูลสถานที่พบผู้ป่วยซึ่งเป็นคนต่างด้าวตามที่แถลงไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า สถานที่ที่พบคือ ศูนย์กักคนเข้าเมืองที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเป็นศูนย์ที่กักคนต่างด้าวที่เข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย โดยผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้มีอาการหนัก เราจะดูแลทุกคนอย่างดีตามหลักมนุษยธรรมสกัดพื้นที่ต่างด้าวรวมตัวเพาะโรคเมื่อถามว่าหลังจากพบแรงงานต่างด้าวในศูนย์กักคนเข้าเมืองที่ อ.สะเดา ติดเชื้อจำนวนมาก รัฐบาลจะดูแลอย่างไร รวมถึงพื้นที่ที่แรงงานต่างด้าวรวมตัวกันมากเช่นที่ จ.สมุทรสาคร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะใช้วิธีค้นหาเชิงรุก จะมีทีมระบาดวิทยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้าไปตรวจ และกรมอนามัยเข้าไปดูเรื่องความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีสุขอนามัยที่ดี ไม่เป็นแหล่งรังโรค เป็นเรื่องที่ สธ.คิดขึ้นมาทั้งระบบ แต่ที่สำคัญประชาชน แรงงานต่างด้าว และผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ต้องเป็นผู้สังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบแจ้ง เพราะคนที่เฝ้าระวังดีที่สุดคือ คนในพื้นที่นำบทเรียนสิงคโปร์มาปรับใช้นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 2920738 เสียชีวิต 203355 ราย ถือว่ายังไม่น่าไว้วางใจ การบินหรือการติดต่อระหว่างประเทศปิดเกือบหมดทั่วโลก มีผู้เดือดร้อนเพราะไวรัสตัวนี้ทั่วโลก อย่างรอบบ้านเรา สิงคโปร์ มีประสบการณ์คล้ายเราที่สถานการณ์เคยดีมาก่อน แต่มีการติดเชื้อจากกลุ่มแรงงานต่างด้าว และเขาพื้นที่เล็กทำให้การกระจายตัวเร็วขึ้น เราได้บทเรียนตรงนี้มา จึงเกิดการค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศในวันที่ 26 เม.ย. มาจากออสเตรเลีย 207 คน วันที่ 27 เม.ย. ญี่ปุ่น 35 คน นิวซีแลนด์ 168 คน และเนเธอร์แลนด์ 25 คน ซึ่งเป็นการต่อเครื่องบินของคนไทยที่อยู่ในยุโรปเชื้อโควิด–19 กลายพันธุ์น้อยต่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาสการย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมโรคโควิด-19 ว่า ธรรมชาติของเชื้อไวรัสสามารถกลายพันธุ์ได้ตลอด แต่ถ้าเทียบกับไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลแล้ว ถือว่าโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ค่อนข้างช้ากว่า ซึ่งคนไทยอาจจะกังวลว่า การกลายพันธุ์จะทำให้โรครุนแรงมากขึ้น ติดกันง่ายมากขึ้นหรือไม่ แต่จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า โรคโควิด-19 กลายพันธุ์น้อยมาก และยังไม่มีนัยสำคัญว่าการกลายพันธุ์ทำให้เชื้อรุนแรงขึ้นหรือติดง่ายขึ้น ขณะนี้จึงเพิ่มการนำเชื้อจากผู้ป่วยมาตรวจสอบและวิเคราะห์ 20ตัวอย่าง และกำลังจะวิเคราะห์ให้ครบ 40 ตัวอย่าง โดยคณะผู้วิจัยทั้งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศิริราช จะพยายามศึกษาติดตามถอดรหัสพันธุกรรมให้มากที่สุด เพื่อติดตามความรุนแรงต่อไป ซึ่งจะส่งผลต่อข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาวัคซีนหรือวิธีการตรวจใหม่ๆด้วยหลายสถาบันเร่งพัฒนาวัคซีนเมื่อถามว่าการแบ่งกลุ่ม A B C และสายพันธุ์ย่อย S G V มีความแตกต่างกันอย่างไร นพ.โอภาสกล่าวว่า การแบ่งกลุ่ม A B C เป็นการแบ่งกลุ่มเบื้องต้น เพราะเราวิเคราะห์เพียงแค่ 20 ตัวอย่างแต่จะมีการวิเคราะห์เพิ่มเติมและวินิจฉัยต่อไป เพื่อพัฒนาสู่การผลิตวัคซีน ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้มีหลายมหาวิทยาลัยกำลังพัฒนา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการทดสอบในสัตว์แล้ว และได้ส่งตัวอย่างเลือดของสัตว์มาให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบดูว่าเลือดดังกล่าวสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้หากภูมิคุ้มกันขึ้นก็จะสามารถนำไปสู่กระบวนการทดสอบในคนต่อไป โดยคาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ในส่วนของทางโรงพยาบาลศิริราชที่ได้มาขอรับเชื้อจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้เพาะนั้นไปพัฒนาวัคซีนแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการทดลองหากมีความคืบหน้าก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเชื้อในไทย–อู่ฮั่นกลุ่มเดียวกันด้านนางพิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ โอกาดะ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 คุณสมบัติการจับตัวกับมนุษย์มีความแตกต่างกันกับไวรัสโรคซาร์ส ทำให้การก่อโรคต่างกัน ทั้งนี้ จากการเอาเชื้อไวรัสของผู้ป่วยหลายๆรายมาศึกษาถอดรหัสพันธุกรรม พบว่ากลุ่มเชื้อไวรัสสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม A ซึ่งมีต้นตอการระบาดในจีนมาจากค้างคาว 2.กลุ่ม B มีการกลายพันธุ์บางส่วน เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในอู่ฮั่น โดยไทยการระบาดส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มบี และ 3.กลุ่ม C มีการกลายพันธุ์เล็กน้อยจากกลุ่ม B อีกทีหนึ่งเป็นการระบาดในยุโรปและสิงคโปร์3 สายพันธุ์จีโนมต่างกัน 1 จุดนางพิไลลักษณ์กล่าวว่า ปัจจุบันมีการแบ่งสายพันธุ์ของโรคโควิด-19 เป็น 3 สายพันธุ์ คือ ไทป์ S G และ V โดยไทยสายพันธุ์ที่พบหลักๆ คือ ไทป์ S แต่สายพันธุ์ S G และ V มีความแตกต่างกันที่ 1 ตำแหน่งเท่านั้น คือ จีโนมทั้งเส้นมีความแตกต่างกัน 1 จุดยังไม่แสดงผลว่ามีการก่อโรคที่แตกต่างกัน ดังนั้นการศึกษาต่อๆไปจากที่เราศึกษา 40 ราย เราจะถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มจนครบ 100 ราย เพื่อดูการกระจายตัวและดูสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงไปต่อ โดยอนาคตจะร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและสภากาชาดไทยเปิดวอร์ดรักษาต่างด้าวส่วนในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ ที่หลายจังหวัดยังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังมีการตรวจพบผู้ต้องกักเป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 คน จากทั้งหมด 115 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงปิดศูนย์ฯห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออกอย่างเด็ดขาด พร้อมดัดแปลงอาคารให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รวมถึงเปิดวอร์ดรักษาผู้ป่วยขึ้นภายในห้องกักเหมือน กับในโรงพยาบาล ยกเว้นในกรณีที่มีอาการหนักหรือ มีโรคแทรกซ้อนจะนำผู้ป่วยออกไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นๆตามที่กำหนดสอบไทม์ไลน์ละเอียดยิบนพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ยังอยู่ที่จำนวน 42 คน ทุกคนอาการปกติพร้อมตรวจสอบไทม์ไลน์อย่างละเอียดว่าถูกส่งมาจากไหน เพื่อหากลุ่มเสี่ยงที่อาจจะสัมผัสใกล้ชิด นอกจากนี้ เฝ้าสังเกตอาการบุคคลต่างด้าวที่เหลืออีก 73 คน อย่างใกล้ชิดว่าจะติดเชื้อเพิ่มอีกหรือไม่ ขณะที่นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่า แม้จะพบบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 คน แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยเพราะทุกคนอยู่ในที่จำกัดไม่ออกมาข้างนอก ที่สำคัญภาพรวมของจังหวัดยอดผู้ป่วยสะสมทั่วไป 44 คน กลุ่มดาวะห์อินโดนีเซีย 19 คน กลุ่มต่างชาติหลบหนีเข้าเมือง 42 คนยะลาปิดอีก 1 หมู่บ้านขณะที่ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พบติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 2 คน เป็นชายไทย อายุ 32 ปี และ 60 ปี ทั้งคู่เป็นราษฎร บ้านตาเนาะปูเต๊ะ หมู่ 9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในชุมชน รวมยอดผู้ป่วยสะสม 116 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 78 คน อยู่ระหว่างรักษา 36 คน เสียชีวิต 2 คน นอกจากนี้ ได้สั่งปิดหมู่บ้านพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา หลังพบผู้ติดเชื้อจากไปร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 40-50 คนลอบข้ามแดนผิด ก.ม.อื้อส่วนความเคลื่อนไหวที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส คนไทยตกค้างในประเทศมาเลเซีย ผ่านการขออนุญาตจากสถานทูตและสถานกงสุล ทยอยเดินทางข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร พร้อมตรวจคัดกรอง 55 คน นอกจากนี้ ควบคุมตัวผู้ลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ 107 คน พร้อมนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง เช็กประวัติ และเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท รวมถึงนำตัวทั้งหมดไปกักตามภูมิลำเนาตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ภูเก็ตติดเชื้อเพิ่ม 4 คนด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 คน รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพค้าขาย รายที่สองเป็นชายไทย อายุ 62 ปี อาชีพดูแลมัสยิด รายที่สามเป็นชายไทย อายุ 57 ปี อาชีพค้าขาย และรายสุดท้ายเป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพครูสอนศาสนา ทั้งหมดติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยในพื้นที่บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง รวมยอดผู้ป่วยสะสม 206 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 161 คน อยู่ระหว่างรักษา 45 คนเปิดสวนน้ำบุ่งตาหลัวที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม รวมยอดผู้ป่วยสะสม 18 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 13 คน อยู่ระหว่างรักษา 5 คน สถานการณ์เริ่มดีขึ้น จึงมีคำสั่งเปิดสวนน้ำบุ่งตาหลัวเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ประชาชนออกกำลังกายเดิน-วิ่ง แต่ห้ามปั่นจักรยานโดยเด็ดขาด ส่วนมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้มีการเข้าออกเพียง 2 ทาง และมีจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ รวมถึงประชาชนที่ออกกำลังจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคนทำงานแข่งกับเวลาพาคนไทยกลับส่วนการดูแลนำคนไทยในต่างประเทศกลับไทยนั้น วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายจักรวิกฤติ กระจายวงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ว่าประเทศออสเตรเลีย มีคนไทยอาศัยอยู่เกือบ 70000 คน ตามฐานข้อมูล ซึ่งความจริงมีมากกว่านั้น ปฏิบัติการพาคนไทยกลับบ้านในครั้งนี้ มีการเตรียมการนานมาก โดยมีนางนันทนา ศิวะเกื้อ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เป็นผู้นำในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาลไทย กระทรวงการ ต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ บมจ.การบินไทย ทั้งนี้จากข้อกำหนดจำนวนผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ไม่เกิน 200 คนต่อวัน เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ สถานกงสุล ใหญ่ จึงต้องสำรวจผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจากทั่วประเทศ หลังจากนั้น จึงประสานให้ออกใบรับรองการตรวจสุขภาพ Fit to fly พร้อมทั้งออกใบรับรองในการ กลับประเทศเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการเดินทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานแข่งกับเวลาโดยไม่มีวันหยุดเพื่อให้ทันกับวันเดินทาง และเมื่อถึงวันเดินทาง นางนันทนา ศิวะเกื้อ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้เดินทางมาดูแลส่งผู้โดยสารด้วยตนเองที่สนามบิน พร้อมมอบถุงของใช้จำเป็นที่บรรจุของว่าง เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยให้ทุกคนตรวจซ้ำ 9 คนไทยจากออสซีส่วนที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ ศบค.ได้เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ท่าอากาศยาน เพื่อตรวจดูกระบวนการคัดกรองและขั้นตอนการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยมี พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร ในฐานะ ผบ.ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหัวหน้างานที่เกี่ยวข้องรายงานสรุปผลการดำเนินงาน จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปพื้นที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศเพื่อรอรับคนไทยที่เดินทางกลับจากออสเตรเลีย จำนวน 207 คน ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา คนงาน นักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่ ซึ่งเดินทางถึงไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG426 จากเมืองซิดนีย์ ในเวลา 16.20 น. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ตรวจพบว่ามีผู้โดยสารชาวไทยมีไข้จำนวน 9 คน จึงนำส่งโรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้โดยสารที่เหลือทั้งหมด นำส่งไปกักตัวที่โรงแรมบางกอกพาเลส ย่านมักกะสันส่งชาวกีวีกลับบ้านอีก 100 คนวันเดียวกัน ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินผู้โดยสารระหว่างประเทศ Row J มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตนิวซีแลนด์ และเจ้าหน้าที่สายการบินไทย ช่วยกันอำนวยความสะดวกแก่ชาวนิวซีแลนด์ ที่ตกค้างในประเทศไทย เช็กอินขึ้นเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG4491 เที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาของรัฐบาลนิวซีแลนด์จัดให้จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับไปยังเมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ในเวลา 17.55 น. โดยมีชาวนิวซีแลนด์กว่า 100 คน มารอขึ้นเครื่องมาไทยหลักแสนขอกลับ 3 พันคนทั้งนี้ มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่าขอขอบคุณรัฐบาลไทยในฐานะมิตรประเทศที่ต่ออายุวีซ่าให้ชาวนิวซีแลนด์ที่อยู่ประเทศ ที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ในขณะนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค.2563 รวมทั้งขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศไทย และสายการบินไทย ช่วยเหลือจัดเที่ยวบินพิเศษนำพลเมืองนิวซีแลนด์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เดินทางกลับประเทศ ซึ่งหลังจากวันนี้แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเที่ยวบินพิเศษอย่างนี้อีกเมื่อใด เนื่องจากยังมีชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากแต่ละปีจะมีชาวนิวซีแลนด์เดินทางมาท่องเที่ยวและทำงานในประเทศไทยปีละ 100000 คน แต่ที่มาลงทะเบียนไว้กับทางสถานทูตขอความช่วยเหลือเพียง 3000 คนเท่านั้นติดเชื้อใกล้แตะ 3 ล้านคนส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรง (โควิด-19) ทั่วโลกมียอดสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2.92 ล้านคน โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรกยังเป็น สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี ทั้งนี้ นายแอนดริว คูโอโม นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ อนุมัติให้มีการตรวจหาแอนติบอดี้ หรือการตรวจหาภูมิคุ้มกันในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล 4 แห่ง รวมถึง ตำรวจ พนักงานขายของ และจะอนุญาตให้ตามร้านขายยาราว 5000 แห่งเริ่มเก็บตัวอย่างการตรวจหาเชื้อ อันเป็นความพยายามรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตั้งเป้าการตรวจเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 40000 ครั้งต่อวัน ขณะที่ยอดสะสมของผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 54265 ราย และติดเชื้อ 960896 ราย เกือบ 3 ใน 4 ส่วนของผู้เสียชีวิตอยู่ในนครนิวยอร์ก แต่การคลายล็อกดาวน์ให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุรกิจนั้น นายคูโอโมระบุว่ายังเสี่ยงเกินไปแห่เที่ยวแน่นชายหาดขณะที่ในบางรัฐของสหรัฐฯ คลายมาตรการเข้มงวด ทำให้มีชาวอเมริกันแห่ออกมาทำกิจกรรมต่างๆ โดยที่เขตนิวพอร์ต กับเขตฮันติงตัน ในเมืองฟลอริดา รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้คนนับพันแห่ไปเที่ยวชายหาดเพื่อคลายร้อน ซึ่งนายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวเว้นระยะห่าง หรือโซเชียล ดิสแทนซิ่ง อีกทั้งตามร้านค้าต่างๆ รวมทั้งร้านเสริมสวยในรัฐจอร์เจีย รัฐโอกลาโฮมา และอีกหลายรัฐ ก็เริ่มเปิดกิจการเป็นวันที่ 2 แต่เจ้าของร้านค้าก็เฝ้าระวังและจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จัดสรรงบประมาณ 12400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 400000 ล้านบาท ช่วยพยุงกิจการสายการบิน 93 แห่ง โดยจะยังให้จ่ายเงินเดือนพนักงานตามเดิมผู้ดีตายพุ่งอันดับ 5 ของโลกส่วนการแพร่ระบาดในยุโรป ปรากฏว่าที่อังกฤษ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตทะลุไปที่ 20319 ศพ ติดเชื้ออีก 148377 คน ทำให้กลายเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเรื่องการรับมือของรัฐบาลที่ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่ล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆในกลุ่มยุโรป รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อ ขณะที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน จะกลับเข้ามาทำงานตามปกติในวันที่ 27 เม.ย.นี้ หลังเข้ารับการรักษาการติดเชื้อโควิด-19 และออกจากโรงพยาบาลเมื่อ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาหลายชาติยุโรปคลายล็อกดาวน์ที่เยอรมนี ซึ่งมียอดสะสมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 156513 ราย เสียชีวิต 5877 ราย แต่ประชาชนก็เริ่มไม่พอใจและออกมาเดินขบวนกลางกรุงเบอร์ลิน ประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ ที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดการปะทะกันของตำรวจในชุดป้องกันโรคกลุ่มผู้ชุมนุมราว 1000 คน โดยตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมได้กว่า 100 คน ขณะที่ร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็นที่ถูกคำสั่งล็อกดาวน์ รวมร้านเสริมสวยจะเริ่มกลับมาให้บริการวันที่ 4 พ.ค.ส่วนที่ฝรั่งเศส ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี เอดัวร์ ฟิลิป จะนำเสนอต่อสมัชชาแห่งชาติในการยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ที่รัฐบาลประกาศตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสถานที่หรือจุดที่จะเริ่มผ่อนคลายให้ประเทศกลับคืนสู่ปกติตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เช่น โรงเรียน ธุรกิจเอกชน การให้บริการขนส่งสาธารณะ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า มีเพียงร้อยละ 39 ที่มั่นใจกับการรับมือของรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้ในฝรั่งเศส มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 369 ราย รวมตายสะสม 22614 ราย แยกเป็นเสียชีวิตในโรงพยาบาล 198 ราย ซึ่งต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ที่เหลืออีก 171 รายเสียชีวิตที่บ้านพักคนชรา ส่วนยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 161488 ราย ต่างจากนอร์เวย์ ที่ขยายคำสั่งล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 1 ก.ย. งดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเกิน 500 คน หลังยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7499 ราย เสียชีวิต 201 รายเตือนยังต้องเว้นระยะห่างที่สเปน นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชส เผยว่าการคลายมาตรการล็อกดาวน์จนถึงกลับคืนสู่สภาพปกตินั้นจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะอนุญาตให้ประชาชนออกมาวิ่งออกกำลังกายหรือเดินเล่นได้ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ส่วนเด็กสามารถออกมาเดิน วิ่งเล่นได้พร้อมผู้ปกครอง 1 คน แต่ต้องอยู่ในรัศมี 1 กม.จากบ้าน ทั้งนี้ สเปนต่างจากประเทศอื่นที่คำสั่งล็อกดาวน์เข้มงวดมากคือไม่อนุญาตให้ออกมาเดินเล่น วิ่ง ขี่จักรยาน หากจะออกจากบ้านให้ทำได้เฉพาะซื้ออาหาร หรือเวชภัณฑ์ พบหมอกรณีจำเป็น หรือหากพาสุนัขออกมาเดินก็จะทำได้ไม่นาน หลังประกาศขยายภาวะฉุกเฉินไปถึงเที่ยงคืนของวันที่ 9 พ.ค. โดยขณะนี้สเปนมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 23190 ราย ติดเชื้อสะสม 223759 ราย เช่นเดียวกับที่อิตาลี มีการออกคำแนะนำให้ประชาชนฝึกปฏิบัติการเว้นระยะห่างให้ชิน หลังประกาศคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.โดยประชาชนนับล้านคนจะได้กลับมาทำงานตามปกติ อย่างเร็วสุดในช่วงสัปดาห์หน้า แต่โรงเรียนต่างๆจะเริ่มเปิดภาคเรียนในเดือน ก.ย.นี้เอเชียยังติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องส่วนในเอเชีย รัฐบาลศรีลังกาเปลี่ยนแผนที่จะยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ และขยายเวลาไปอีก 1 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 4 พ.ค. หลังพบผู้ติดเชื้อแบบก้าวกระโดดเป็น 81 ราย รวมทหารเรือที่ฐานทัพเรือด้วย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 460 ราย เสียชีวิต 7 ราย ขณะที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 72 ราย ถือว่าต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 13231 ราย เสียชีวิต 360 ราย ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นยังส่งเสริมให้ประชาชนอยู่บ้านให้มากสุดเท่าที่เป็นไปได้ในช่วงวันหยุดยาว สัปดาห์ทอง หรือ โกลเด้น วีก ที่จะเริ่มวันที่ 29 เม.ย.นี้จีนเจอติดเชื้อไม่แสดงอาการเพียบสำหรับจีนประเทศต้นทางของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 11 ราย โดย 5 รายพบที่มณฑลเหอหลงเจียง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่พรมแดนติดกับรัสเซีย 1 รายพบที่มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งติดกับฮ่องกง ที่เหลืออีก 5 รายเป็นผู้ติดเชื้อที่กลับมาจากต่างประเทศ แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตเป็นวันที่ 11 นอกจากนี้ มีรายงานว่า จีนตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1000 คนที่ไม่แสดงอาการ และอยู่ระหว่างการดูแลของแพทย์ แต่กลับไม่นับรวมกลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 82827 ราย ผู้เสียชีวิต 4632 รายเพิ่มโทษปรับคนไม่ทำตามกฎขณะที่กรุงปักกิ่ง ออกกฎหมายฉบับใหม่ห้ามแสดงพฤติกรรมที่ ไร้อารยะ เช่น ไม่ปิดปากหรือจมูกเวลาไอหรือจาม รวมถึงบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยเวลาไม่สบาย เพื่อรักษาความสะอาดในที่สาธารณะ อีกทั้งยังให้ตามพื้นที่สาธารณะต้องมีเครื่องหมายของการเว้นระยะห่าง 1 เมตร ประชาชนต้องแต่งตัวสุภาพเวลาอยู่ในที่สาธารณะ ห้ามถอดเสื้อ ส่วนข้อห้ามที่มีก่อนหน้า ทั้งการทิ้งขยะไม่เลือกที่ การถ่มน้ำลาย หรือการขับถ่ายในที่สาธารณะ ก็มีการเพิ่มโทษปรับจาก 50 หยวน เป็น 200 หยวน ห้ามส่งเสียงดังในที่สาธารณะและใครปล่อยสุนัขออกมาเดิน มีโทษปรับสูงสุด 500 หยวน | นักวิจัยกรมวิทย์ฯถอดรหัสพันธุกรรม เชื้อโควิด-19 ในไทย พบกลายพันธุ์ 1 จุด แต่ไม่มีตัวบ่งชี้ ทำให้เกิดโรครุนแรงขึ้น ลุ้น จุฬาฯ วิจัยวัคซีนโควิด-19 หากสำเร็จสัปดาห์หน้า พร้อมทดลองฉีดในคน | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,ยอดผู้ป่วยโควิด-19,ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19,โควิด 19 ในไทย,สุขภาพ | https://www.thairath.co.th/news/local/1830988 |
คนร้ายซุ่มยิงรถบรรทุกน้ำผู้รับเหมาทำถนนที่พัทลุง เผยข่มขู่ก่อนลงมือ | เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 10 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบบริเวณลานวัดกลาง ท้องที่ ม.8 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งเป็นที่จอดรถเครื่องจักรของบริษัทไพศาลเมืองทอง ซึ่งเข้ามาก่อสร้างถนนของโครงการถนนลาดยางสายโคกแย้ม-บ้านกลาง ในพื้นที่ ต.ร่มเมือง อ.เมืองพัทลุง ของ อบจ.พัทลุง เมื่อประมาณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2562,ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่ ห่างจากปลอกกระสุนออกไปประมาณ 15-20 เมตร มีรถบรรทุกน้ำของบริษัทรับเหมาจอดอยู่ ตรงบริเวณประตูด้านฝั่งข้างคนขับมีรอยกระสุนปืนประมาณ 10 รู กระจกทั้ง 2 ข้างแตกกระจาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ,ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีเสียงปืนดังจำนวน 3 นัด แต่น่าจะถูกรถจำนวน 2 นัด หลังเสียงปืนเงียบลงก็มีชายแต่งกายชุดดำสวมหมวกไอ้โม่ง วิ่งหลบไปหนีไปในความมืดอย่างไรก็ดี ชาวบ้านยังเล่าอีกว่า เมื่อประมาณ 3 คืนก่อนก็ได้มีคนมาป่วนเปี้ยนแถวลานจอดรถของบริษัทครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีใครเอะใจ คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลา ,พ.ต.ท.วีรศักดิ์ คงเพชร ผบ.ร้อย.ตชด.434 พัทลุง กล่าวว่า บริษัทไพศาลเมืองทอง เป็นบริษัทรับเหมาช่วงต่อจากบริษัทเดิมที่ประมูลงานได้ เพราะบริษัทเดิมไม่กล้าเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากหลังประมูลงานได้ ถูกข่มขู่จะยิงและเผารถ หากเข้ามาดำเนินการโครงการ พร้อมผู้รับเหมารายเดิมได้มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปทางจังหวัดพัทลุงแล้ว ซึ่งหลังบริษัทไพศาลเข้ามาดำเนินการเมื่อประมาณอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย ขณะดำเนินการก่อสร้าง จนสุดท้ายก็มาเกิดเหตุจนได้,อย่างไรก็ดี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสอบสวนขยายผลปมความขัดแย้งว่ามาจากเรื่องใด ก่อนขยายผลติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. | คนร้ายซุ่มยิงรถบรรทุกน้ำของ บ.ไพศาลเมืองทอง ผู้รับเหมาก่อสร้างถนนลาดยางที่พัทลุง จนได้รับความเสียหาย โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ พบมีการข่มขู่จะยิงและเผารถ จนบริษัทรับเหมาเดิมไม่กล้าเข้าพื้นที่ | ข่าว,ทั่วไทย | พัทลุง,คนร้ายซุ่มยิง,ผู้รับเหมา,ข่มขู่ผู้รับเหมา,ถนนลาดยางสายโคกแย้ม-บ้านกลาง,สภ.เมืองพัทลุง,รถบรรทุกน้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1612591 |
ผู้ประสบภัยในฟิลิปปินส์ยังต้องการความช่วยเหลือ | ต้นคริสมาสต์ถูกนำมาประดับตกแต่ง หน้าที่พักอาศัยชั่วคราวของผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ เด็กๆ ได้เก็บต้นคริสมาสต์นี้ได้จากซากความเสียหาย และนำมาซ่อมแซมเพื่อหวังสร้างความสุขเพียงเล็กน้อยให้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายในพื้นที่ประสบภัยพิบัติขณะที่ผู้ประสบภัยบางคนระบุว่า เทศกาลคริสมาสต์คือ สิ่งสุดท้ายที่จะนึกถึงในขณะนี้ เนื่องจากยังคงต้องเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ไร้ที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่เงินที่จะใช้ในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ ผู้ประสบภัยบางส่วนยังคงร้องเรียนว่า การส่งความช่วยเหลือเข้ามาในพื้นที่เป็นไปอย่างล่าช้า และไม่สม่ำเสมอขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในเมืองทาโคลบัน ซึ่งเป็นพื้นที่เสียหายหนักจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้จัดตั้งโครงการจ่ายเงินหรืออาหาร ให้กับผู้ที่มาช่วยทำความสะอาดซากความเสียหายในเมือง โดยอาสาสมัครคนหนึ่งจะได้รับเงินวัละ 500 เปโซ หรือประมาณ 330 บาทการทำความสะอาดซากความเสียหาย ทำให้อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ พบร่างผู้เสียชีวิตมากขึ้น โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 5235 คน สูญหาย 1613 คน และประชาชนกว่า 4 ล้านคน ไร้ที่อยู่อาศัยด้านหน่วยงานบรรเทาทุกข์ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า แม้การช่วยเหลือจำนวนมากจะเข้าไปถึงพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว แต่ผู้ประสบภัยยังคงต้องการอาหาร น้ำสะอาด และที่พักอาศัย เนื่องจากประชาชนจำนวนมาก ยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ เด็กประมาณ 1.5 แสนคน ก็กำลังมีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับสตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรเกือบ 800000 คน ที่ต่างต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร | ทางการฟิลิปินส์เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน โดยจัดทำโครงการจ่ายเงิน ให้กับผู้ที่มาช่วยทำความสะอาดเมือง ขณะที่ผู้ประสบภัยบางส่วน ยังคงร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับการช่วยเหลือ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นมากกว่า 5000 คนแล้ว | ต่างประเทศ | HelpPhilipines,คริสมาส,ฟิลิปปินส์,ฟื้นฟู,ไห่เยี่ยน | https://news.thaipbs.or.th/content/208592 |
แม่สายแบ๊ว มิ้นท์ เถ้าแก่น้อยเล่า ลูกตื่นฉันก็ตื่น | มิ้นท์ ประภัสสร วิริยะกิจนุกูล, พูดชื่อนี้คงเฉยๆ แต่ถ้าบอก มิ้นท์ เถ้าแก่น้อย ภรรยาคนสวยของ, ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์, เจ้าของสาหร่ายยี่ห้อดัง เถ้าแก่น้อย ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน,และหากพูดถึงแฟชั่น มิ้นท์ ไม่ธรรมดา ขึ้นชื่อตัวแม่กับเขาอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ พักเรื่องแฟชั่นเอาไว้ก่อน ขอถามเทคนิคเรื่องการเลี้ยงดูลูกชาย ,น้องโทบิ, ว่าเป็นวิธีไหน แล้วส่วนตัวมีไลฟ์สไตล์ประจำวันเกี่ยวข้องกับลูกอย่างไร มิ้นท์เล่าให้เราฟังว่า,ลูกชาย 3 ขวบค่ะ เข้าโรงเรียนแล้ว กิจกรรมมิ้นท์จะเปลี่ยนไปเลย ไลฟ์สไตล์ตอนมีลูกกับไม่มีลูก คนละแบบเลย จะดูเป็นคนรักสุขภาพมากขึ้น อย่างสมัยก่อนเป็นวัยรุ่นอยากทำอะไรทำเลย จะผาดโผนมา เดี๋ยวนี้จะคิดแล้วคิดอีก จะเล่นอะไรก็จะกลัว เรามีลูกแล้ว เราอยากอยู่ดูแลเขา อยากใกล้ชิด เราอยากสอนเขาเอง อยากให้เขาซึมซับพ่อแม่อะไรแบบนี้ พยายามเลยนะที่จะดูแลเอง ,พ่อแม่ลูกใครติดใคร?,พ่อจะติดลูกค่ะ ถ้ามีเวลาเขาจะกลับมาเล่นด้วยตลอด แต่จะอยู่กับแม่มากกว่า เพราะแม่คอยรับส่งที่โรงเรียนตลอด เราได้ใกล้ชิดเพ,ราะมิ้นท์รับส่งเขาด้วย,วิธีการเลี้ยงลูกยากไหม,ไม่ยากนะคะ เหมือนมันต้องทำตามขั้นตอนที่มีอยู่แล้ว อย่างเวลาลูกตื่นเราก็ต้องตื่น ลูกนอนเราก็นอน ลูกเล่นเราก็เล่น ทำอะไรไปพร้อมๆ กับเขา จะได้ทดสอบเขาไปในตัว แต่ช่วงแรกยอมรับว่าหนักมาก ตอนกลางคืนแทบไม่ได้นอนเลย เพราะลูกจะกินนมทุก 2 ชั่วโมง ทั้งอึ ทั้งฉี่ เปลี่ยนแพมเพิร์ส ก็จะมีร้องไห้ด้วย พอผ่านมาสัก 3 เดือน ก็เริ่มอยู่ตัว เริ่มยืดเวลานมลูกเป็นกินทุก 3 ชั่วโมงครึ่ง แล้วเริ่มมีปั๊มนมแช่ตู้เย็นไว้ให้กิน ก็เลยได้มีเวลานอนยาวขึ้น มีพี่เลี้ยงช่วยอีกแรงด้วย แล้วก็มีคุณแม่พี่ต๊อบช่วยดูแลเวลาที่เราสองคนไปทำงาน ,ใครดุกว่ากัน ระหว่างคุณพ่อคุณแม่?,คุณพ่อ เราวางตัวเป็นคุณพ่อให้เขาเกรงใจ แต่เราจะไม่เน้นดุ จะสอนให้เขารู้ว่าอะไรที่ควรและไม่ควร ไม่ให้เอาแต่ใจ แต่เอาจริงๆ ลูกคนเดียวอ่ะเนอะ ก็ไม่ค่อยกล้าดุกัน แต่คุณพ่อเขาเอาจริง แต่พี่ต๊อบจะติดลูกมากเลย ตื่นเช้ามาต้องเล่นก่อนไปทำงาน กลับมาก็ต้องโผหาลูกก่อน อะไรแบบนี้ เขาช่วยเลี้ยง ช่วยดูแล ช่วยเล่นค่ะ,วางอนาคตลูกไว้อย่างไร,ไม่วางเลยค่ะ ขอให้เขาเป็นคนดีก็พอดี มิ้นท์ไม่อยากวางอะไรให้เขามากมาย เดี๋ยวเขาโตอีกนิดเขาจะรู้เองว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร เราก็พร้อมจะสนับสนุน,วิธีดูแลตัวเอง?,ช่วงนี้ไม่เชิงดูแลตัวเอง แต่ว่าอยู่กับลูกนอนเร็วตื่นเช้า เป็นกิจวัตรไป ทานข้าวตรงมื้อมากกว่า ไม่ได้ดูแลพิเศษ คือเหมือนทำกิจกรรมร่วมกับลูกก็ได้ดูแลตัวเองไปในตัวด้วยค่ะ ส่วนพอถึงเวลาเที่ยว มิ้นท์จะเที่ยวแบบเต็มที่ค่ะ และพอเวลาที่ดูแลลูกก็เต็มที่เช่นกัน.,ที่มา: ,mintvip | ก็เพราะว่าไม่ให้ลูกกินขนม คุณแม่ยังสาว มิ้นท์ ประภัสสร วิริยะกิจนุกูล พูดชื่อนี้คงเฉยๆ แต่ถ้าบอก มิ้นท์ เถ้าแก่น้อย ภรรยาคนสวยของ ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของสาหร่ายยี่ห้อดัง เถ้าแก่น้อย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | แม่และเด็ก,มิ้นท์ ประภัสสร วิริยะกิจนุกูล,มิ้นท์เถ้าแก่น้อย,ต๊อบ เถ้าแก่น้อย,ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/momandkid/1048815 |
เปิดคลิป ทหารอียิปต์ ไม่ยอมให้ตรวจ COVID-19 | วานนี้ (13 ก.ค.2563) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อ COVID-19 ว่า ได้หารือกับกรมควบคุมโรคและทีมระบาดวิทยา ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลแล้ว และทางโรงแรมถูกสั่งปิดบางส่วนแล้วเบื้องต้นพบผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสได้ให้ไปกักตัวเอง และกำลังติดตามว่ามีใครไปที่ไหนอย่างไร ในห้าง 2 ห้างที่ระยอง ช่วง 11.00-15.00น. ซึ่งก็จะต้องไปติดตามจากกล้องวงจรปิดในการสอบสวนบุคคลว่าไปตรงไหนสัมผัสกับใครบ้าง รวมถึงรถจากโรงแรมไปที่ห้างต่าง ๆ ด้วย ตอนนี้เริ่มต้นที่โรงแรมได้ดำเนินการไปแล้วนายสาธิต กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นพบว่าเดิมทหารกลุ่มนี้จะต้องพักแต่ในโรงแรมเท่านั้น แต่ทหารกลุ่มนี้ไม่เชื่อฟังและไม่ยินยอมที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างเชื้อในช่วงแรกที่มาถึงด้วย เพราะทีมกรมควบคุมโรคได้ลงพื้นที่ไปเก็บแล้ว จึงต้องประสานไปยังสถานทูตฯ จนได้รับความร่วมมือรวมถึงการห้ามออกนอกเขตพื้นที่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเช่นกัน ทั้งนี้ในวันนี้ (14 ก.ค.) กรมควบคุมโรคจะนำรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยฯ ไปสุ่มตรวจในพื้นที่เพื่อเป็นการตรวจเชิงรุกส่วนสถานที่ที่พบข้อมูลว่าทหารกลุ่มดังกล่าวได้ออกไปเดินเล่นนั้น ทั้งเซ็นทรัลและห้างแหลมทอง หากใครที่มีความเสี่ยงให้มาตรวจกับรถคันนี้ได้ หลังจากนั้นก็จะทำการสอบสวนเพื่อขีดกรอบให้กว้างที่สุด ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ใน จ.ระยอง เพราะพื้นที่นี้ไม่มีการแพร่ระบาดมานานแล้ว และยืนยันจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ตรวจเชิงรุกให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เล็ดลอดออกไปในวงกว้าง นายสาธิต กล่าวว่า คณะนี้ไม่ใช่แขกของรัฐบาลแต่ต้องไปทำการสอบสวนอีกครั้ง โดยตามหลักทั่วไปหากเข้ามาในพื้นที่ทหารต้องได้รับอนุญาตจากกองทัพอากาศ และครั้งนี้เป็นเครื่องบินทหารเข้ามาคล้ายกับกรณีลูกเรือซึ่งต้องมีสถานที่กำหนดว่าห้ามไปไหนเพื่อรอขึ้นบินต่อเป็นมาตรการอยู่แล้ว ส่วนโรงแรมที่กลุ่มทหารดังกล่าวใช้มีแค่โรงแรมเดียวและพักชั้นเดียวและชั้นนั้นไม่มีแขกอื่นพัก มีเฉพาะแขกกลุ่มนี้และมีการเสริฟอาหารเป็นข้าวกล่องส่วนใครที่มีความเสี่ยงก็ได้นำเข้ากักตัวแล้วและจะทำการสอบสวนโรคต่อ ซึ่งยืนยันว่าจะปฏิบัติด้วยความโปร่งใสและชี้แจงทุกขั้นตอนขณะที่ @queenblackspade เผยแพร่คลิปอ้างเป็นเหตุการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปขอตรวจเชื้อ COVID-19 กับคณะทหารอียิปต์ที่โรงแรมใน จ.ระยอง แต่ไม่ยินยอมจนต้องนำตำรวจเข้าไปด้วยแต่ก็ยังไม่ยอม จนสุดท้ายต้องประสานกับทางสถานทูตจึงให้ความร่วมมือ.คลิปขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปขอตรวจโควิดคณะทหารอียิปต์ที่โรงแรมใน จ.ระยองภายหลังตร.ประสานสถานทูตจึงใหร่วมมือ ล่าสุดวันนี้ (14 ก.ค.) นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณะสุข จ.ระยอง กล่าวถึงคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเชื้อ COVID-19 กับคณะทหารอียิปต์ ซึ่งในช่วงแรกเขาไม่ยอมให้ตรวจ ภายหลังประสานกับสถานทูตจึงได้รับความร่วมมือ โดยได้อธิบายถึงความจำเป็นและการเฝ้าระวังป้องกันโรค | เปิดคลิปอ้างเป็นเหตุการณ์ ทหารอียิปต์ ไม่ยอมให้ตรวจ COVID-19 ตำรวจ สถานทูตฯ ร่วมเจรจา สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ สาธิต หลังได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรคว่าพบปัญหาในการเข้าตรวจโรคจริง | สังคม | COVID-19,โควิด-19,ระยอง,ทหารอียิปต์ | https://news.thaipbs.or.th/content/294540 |
ผัวฝรั่ง-เมียไทย ควบกระบะ พุ่งชน จยย.โจ๋ 17 กระเด็นตกร่องกลางถนนดับ | ชายต่างชาติ พร้อมเมียชาวไทย ขับกระบะมุ่งหน้าซื้อของเมืองพัทยา พุ่งชน จยย.โจ๋ 17 กระเด็นตกร่องเกาะกลางถนนเสียชีวิต เมียเผย จยย.ตัดหน้าข้ามเลนกระทันหัน เบรคไม่ทัน เป็นเหตุชนดับเมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 18 ก.พ.63 ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ช่วงจุดกลับรถ วัดเขาบำเพ็ญบุญ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อาการสาหัส ขาขวาท่อนบนผิดรูป ศีรษะถูกกระแทกอย่างรุนแรง นอนอยู่ในร่องกลางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์ รพ.วัดญาณสังวราราม เร่งทำการช่วยเหลือก่อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ส่งรักษายังโรงพยาบาล ทราบชื่อต่อมา คือ นายณัฐนันท์ ทองรอด อายุ 17 ปี ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังเสียหาย ถูกชนอัดติดด้านหน้ารถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีทอง ทะเบียน ศฐ 9567 กทม. สภาพพังเสียหายอย่างมาก โดยมี MR.ALLEN MICKENS อายุ 65 ปี ชาวต่างชาติ เป็นผู้ขับขี่พร้อมภรรยาชาวไทย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจจากการสอบถามภรรยา คนขับรถกระบะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุแฟนชาวต่างชาติ ได้ขับรถจากบ้านพักในพื้นที่ อ.สัตหีบ เพื่อจะไปซื้อของที่เมืองพัทยา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งมาจากช่องทางด้านซ้าย ซึ่งลักษณะจอดอยู่และพุ่งตัดข้ามมายังเลนขวาอย่างรวดเร็วทำให้เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนอย่างแรง จนผู้ตายกระเด็นตกไปในร่องน้ำเกาะกลางถนน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมาดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุ และคำให้การของผู้ขับขี่และภรรยาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป | ชายต่างชาติ พร้อมเมียชาวไทย ขับกระบะมุ่งหน้าซื้อของเมืองพัทยา พุ่งชน จยย.โจ๋ 17 กระเด็นตกร่องเกาะกลางถนนเสียชีวิต เมียเผย จยย.ตัดหน้าข้ามเลนกระทันหัน เบรคไม่ทัน เป็นเหตุชนดับ | ข่าว,ทั่วไทย | รถชนกัน,กระบะชนจักรยานยนต์,จยย.ถูกชน,กระบะชน จยย.,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1774958 |
นักท่องเที่ยวชื่นชมแห่กระทงใหญ่ งานยี่เป็งเชียงใหม่ | เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 7 พ.ย. ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงว่า งานลอยกระทงยี่เป็งวันนี้ ไฮไลท์ของงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ คือการประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ที่หน่วยงานและองค์กรต่างๆรวมทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆของเชียงใหม่ ได้ส่งกระทงใหญ่ จำนวนมากถึง 30 ขบวน ที่เริ่มต้นตั้งแต่ข่วงประตูท่าแพ ไปตามถนนท่าแพ และถนนวิชยานนท์ เพื่อไปยังจุดประกวดหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ระยะทางกว่า 2 กม. ปรากฎว่า ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาปรอยๆ แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นชาวจีนตลอดสองข้างทางนับหมื่นคน รวมทั้งชาวไทยได้ออกมารอชมขบวนแห่ ซึ่งปีนี้แต่ละขบวนตกแต่งอย่างสวยงาม โดยริ้วขบวนแต่ละขบวนจะมีผู้ร่วมนับร้อยนับพัน โดยการแต่งกายอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมล้านนาสวยงามมาก โดยเฉพาะขบวนแห่ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ที่ได้แชมป์ 3 สมัยปีนี้นำมาโชว์อย่างสวยงามเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว ขณะที่สองฝั่งแม่น้ำปิงยังมีผู้คนำไปร่วมลอยกระทงกัน แต่การปล่อยโคมไฟสู่ท้องฟ้าซึ่งจะอนุญาตให้ปล่อยหลังเวลา 21.00 น.ซึ่งปรากฎว่าท้องฟ้าเริ่มเปิดเห็นดวงจันทร์ สร้างความดีใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและได้มีการปล่อยโคมขึ้นสู่ท้องฟ้าจนสว่างไสวไปทั่ว. | นักท่องเที่ยวต่างชื่นชม ไฮไลต์งานยี่เป็งเชียงใหม่วันที่สอง ของขบวนแห่กระทงใหญ่ ที่สวยงามตระการตา ท่ามกลางความสนใจโดยมีการแห่ไปตามถนนสายต่างๆจนไปถึงหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ | null | ลอยกระทง,งานยี่เป็งเชียงใหม่,ประเพณีลอยกระทง,ประกวดขบวนกระทงใหญ่,เทศบาลนครเชียงใหม่ | https://www.thairath.co.th/content/462013 |
เอล ฟาโรห์ เหมาสอง หมาป่า ขย้ำ เอ็มโปลี 3-1 ขึ้นที่ 3 | ศึกฟุตบอลกัลโชเซเรียอา อิตาลี ฤดูกาล 2015/16 ประจำวันที่ 27 ก.พ. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง เอ็มโปลี เปิดสนาม คาร์โล คาสเตลานี ต้อนรับการมาเยือนของ หมาป่าแห่งกรุงโรม โรมา,เจ้าถิ่นผลงานกำลังย่ำแย่ไม่ชนะใครในลีกมา 7 เกมติดต่อกันโดยวันนี้ยังส่ง มัสซิโม่ มัคคาโรเน หัวหอกโป๊งเหน่งเป็นตัวความหวังในแนวรุกเช่นเคย ขณะที่ทีมเยือนกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงเก็บชัยในลีกมา 5 เกมติดต่อกันส่ง สเตฟาน เอลชาราวี,ดิเอโก เปร็อตติ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นตัวทีเด็ดในแผงรุก,เปิดฉากมาแค่ 5 นาที หมาป่า ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ เอลชาราวี ลากมาก่อนปั่นไซด์โค้งด้วยขวาบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยสดงดงาม,เกมเจ้าถิ่นไม่มีอะไรเลยแต่ทว่านาทีที่ 22 พวกเขากลับมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเปิดบอลทางฝั่งซ้ายของ มาริโอ รุย บอลเข้ากลางแต่ เชสนี ดันไปชกโดน ซูคาโนวิช เข้าประตูตัวเองไปซะอย่างนั้น,แต่อีก 5 นาทีไล่หลัง หมาป่า ก็ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกฟรีคิก มิราเล็ม ปานิช ซัดไปติดกำแพงก่อนจะตามตะบันซ้ำอีกรอบส่งบอลเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม,จบครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่มยังเป็น โรมา บุกขึ้นมานำ เอ็มโปลี อยู่ 2-1,เข้าสู่ครึ่งหลังยังเป็น โรมา ครองบอลได้มากกว่า ก่อนจะมาได้ประตูตอกฝาโลงนาทีที่ 74 ทิ้งห่าง 3-1 จากจังหวะที่ ซาลาห์ ลากมาก่อนซัดเต็มข้อบอลติดเซฟ สโครุปสกี แต่บอลมาเข้าทาง เอล ชาราวี ซ้ำดาบสองไม่เหลือซาก,ในช่วงทดเจ็บ มาริโอ รุย แบ็กซ้ายของเอ็มโปลี มาออกลูกเกเรรวบใส่ รูดิเกอร์ ก่อนจะโดนผู้ตัดสินควักเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนจะเป่านกหวีดยาวจบเกมการแข่งขันไปเลย ทำให้ โรมา บุกมาเอาชนะ เอ็มโปลี ถึงถิ่น 3-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญขึ้นที่สามของตารางชั่วคราว | เอล ฟาโรห์ สเตฟาน เอลชาราวี โชว์ทีเด็ดเหมาสองประตูพา หมาป่าแห่งกรุงโรม โรมา บุกไปถลุง เอ็มโปลี คาบ้าน 3-1 เก็บชัยชนะทะยานขึ้นที่ 3 กัลโชเซเรียอาชั่วคราว | null | กัลโชเซเรียอา,เอล ฟาโรห์,สเตฟาน เอลชาราวี,โรมา,ข่าวกีฬา,เอ็มโปลี,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/583421 |
ออกจากปาก ผบ.ซีล ภารกิจสุดหิน เหตุผล? ไม่ใช่ฮีโร่ถ้ำหลวง | เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ หรือหน่วยซีล ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการนำ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง กล่าวในรายการจอมขวัญ โดยออกตัวว่า พวกตนไม่ใช่วีรบุรุษ และเหตุไม่ให้เรียกว่าฮีโร่ เพราะการปฏิบัติภารกิจไม่ใช่หน่วยซีลหน่วยเดียว ซึ่งที่ผ่านมาใช้เงินประเทศฝึกคนมาเพื่อทำหน้าที่ตรงนี้ แต่ยังมีคนปิดทองเบื้องหลัง ไม่น้อยเหมือนหน่วยซีล เมื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ฝึกมาจึงทำไม่ได้ แต่ได้ทำหน้าที่อื่น ดังนั้นภารกิจถ้ำหลวงจึงไม่ใช้หน่วยซีลที่ทำ พวกเขาทุกคนก็เป็นฮีโร่ และที่ผ่านมาได้บอกซีลทุกคนให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการปิดทองหลังพระ ไม่จำเป็นประกาศให้โลกรู้ แต่การปิดทองหลังพระ ได้ทำพระพุทธรูปข้างหลังดูสวย ก็ขอยอมปิดทองหลังพระ,ส่วนเบื้องหลังการทำเพจ Thai NavySEAL ได้มีการกรองข้อมูลอย่างมาก เพราะขณะนั้นสังคมค่อนข้างสับสน มีข่าวลือจำนวนมาก จึงออกช่องทางให้คนรับรู้ความจริง อีกทั้งผู้สื่อข่าวถูกกันพื้นที่ จึงมีการแคะคุ้ยข้อมูล ซึ่งจริงบ้างไม่จริงบ้าง ทั้งนี้ช่วงช่วยเหลือทีมหมูป่าที่หนักและโหดที่สุด เริ่มจากครั้งแรกเจอน้ำในถ้ำรุก จนมาถึงการเสียชีวิตของจ่าแซม จ่าเอกสมาน กุนัน และช่วงที่สามในการนำน้องๆ ออกมา ที่มีความเสี่ยงสูง,ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ ต้องเสี่ยง อย่างน้อย 50% ก็พอ ที่ผ่ามมาใช้แรงกายแรงใจใช้พลัง จนมาถึงวันที่สูญเสียจ่าแซม แต่การช่วยเหลือต้องทำให้ถึงที่สุด หากหน่วยเราไม่ทำ ไม่มีหน่วยไหนทำได้ การถอดบทเรียนเหตุการณ์นี้ ยืนยันน้องๆ และโค้ชไม่ผิด ผมว่าเขาเก่ง เป็นเด็กชอบการผจญภัย ดีกว่าอยู่หน้าจอคอมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องถ้ำ ต่อไปต้องมีการห้ามเข้าไปช่วงหน้าฝน งานนี้เป็นงานระดับชาติ ซึ่งระดับจังหวัดไม่พอในการแก้ปัญหา โดยมีผู้ใหญ่หลายท่านมาดูแล และตามนโบายนายกฯ ต้องการให้ทางจังหวัดดูแล ให้ผู้ว่าฯมาดูแล ซึ่งงานนี้ถือว่าหนักสำหรับ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ | ผบ.ซีล ลั่นไม่ใช่ฮีโร่ถ้ำหลวง ช่วย 13 หมูป่า ขอปิดทองหลังพระ ไม่จำเป็นประกาศให้โลกรู้ บอกทุกคนเป็นฮีโร่ เผยงานหนักและโหดสุด 3 ช่วง เจอน้ำรุก เหตุจ่าแซมเสียชีวิต และต้องเสี่ยงนำเด็กออกจากถ้ำ | ข่าว,ทั่วไทย | ถ้ำหลวง,ซีลไม่ใช่ฮีโร่,ฮีโร่ถ้ำหลวง,ซีล,หมูป่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1335715 |
เปิดประวัติ หลวงปู่ทวน พระเกจิดังเมืองจันท์ ก่อนมรณภาพด้วยอุบัติเหตุ | หลังจากเกิดเหตุการณ์สลด หลวงปู่ทวน วัดโป่งยาง เกจิดังเมืองจันทบุรี อายุ 110 ปี มรณภาพเพราะอุบัตติเหตุ ระหว่างไปปฏิบัติศาสนกิจ จนทำให้ลูกศิษย์ต่างร่ำไห้กับการจากไปของหลวงปู่ ตามข่าวที่เสนอไปนั้น,สำหรับ ประวัติของ หลวงปู่ทวน ปุสสวโร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤษภาคม 2451 เป็นชาวอำเภอโคกสำโรง จ.ลพบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 110 ปี เป็นเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคม มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศแห่งวัดจันทคุณาราม หรือ วัดโป่งยาง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี,ครั้นในอดีต ,หลวงปู่ทวน, เคยเล่าไว้ว่า โยมพ่อโยมแม่ของหลวงปู่บอกว่าตัวหลวงปู่เกิดในสองวัน ความหมายคือ ตอนที่หลวงปู่ออกมานั้น หัวของหลวงปู่ออกมาก่อนในวันพุธกลางคืนก่อนเที่ยงคืน และตัวของหลวงปู่ก็ออกมาทั้งหมดในวันพฤหัสบดีคาบเกี่ยวกัน เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักน้อยคนที่จะออกมาแบบนี้,ขณะที่ ตอนท่านบวชเป็นเณร ได้เคยไปอยู่และเรียนกับ ,หลวงพ่อเดิม, วัดหนองโพ เกจิชื่อดังเมืองนครสวรรค์ เมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้บรรพชาที่วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี หลังจากบรรพชาได้ระยะนึง หลวงปู่ทวนท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อบุญธรรม และคณะสงฆ์หลายรูปเพื่อขัดเกลากิเลส จุดหมายคือจังหวัดอุบลราชธานี,แต่ระหว่างการเดินทาง ก็ได้พบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งคนทั้งผีเจอมาหมด และสิ่งที่หลวงปู่ภาคภูมิใจระหว่างเกินเดินธุดงค์นั้นคือ ได้พบกับ, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, พระอาจารย์ใหญ่แห่งสายพระกรรมฐานที่จังหวัดสกลนคร และได้อยู่ปฏิบัติธรรมและฝึกกรรมฐานกับหลวงปู่มั่นอยู่ระยะหนึ่ง,อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน หลวงปู่ทวน ได้ช่วยสั่งสอนธรรมะ และคอยช่วยเหลือชาวบ้าน จนเป็นที่เคารพรักใคร่ จวบจนไปถึงคนใน จ.จันทบุรีและต่างจังหวัด รวมทั้งยังได้เมตตาสร้างวัตถุมงคลให้ลูกศิษย์ ไว้ใช้ป้องกันตัวจนเกิดประสบการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ, โชคลาภ ซึ่งเป็นที่นิยมต่างหากันมาติดตัวกันจำนวนมาก.,กลุ่มศิษย์หลวงปู่ทวน,,- ,ลูกศิษย์ร่ำไห้ หลวงปู่ทวน เกจิดังเมืองจันท์ อายุ 110 ปี มรณภาพ | เปิดประวัติ หลวงปู่ทวน อายุ 110 ปี พระเกจิดังเมืองจันท์ 6 แผ่นดิน เป็นที่รักและเคารพของลูกศิษย์จำนวนมาก ก่อนมรณภาพด้วยอุบัติเหตุ | ข่าว,สังคม | หลวงปู่ทวน,หลวงปู่ทวน ปุสฺสวโร,หลวงปู่ทวน ปุสฺสวโรมรณภาพ,วัดโป่งยาง,จันทบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1399890 |
เกษตรฯ ขานรับนโยบายรัฐ คัดเกรด ศพก. ต่อยอดพัฒนาภาคเกษตรยั่งยืน | วันที่ 19 ก.ย.60 นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงทิศทางขับเคลื่อนพัฒนาศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ปี 2561 ว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีแผนเร่งพัฒนายกระดับ ศพก. ที่มีจำนวน 882 ศูนย์ ให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่งให้เกษตรกรผู้นำ ศพก. เป็นแกนเชื่อมโยงนโยบายต่างๆ เข้าไปที่เกษตรกรโดยตรง เพื่อสร้างการรับรู้และสะท้อนปัญหาจากพื้นที่ พร้อมให้เกษตรกรเรียนรู้การวิเคราะห์ปัญหาในพื้นที่ โดยรัฐบาลและหน่วยงานรัฐจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและสนับสนุน คาดว่าจะช่วยให้เกิดการพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน,เบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดลักษณะและจัดระดับ ศพก. แบ่งเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย ศพก.ระดับดี หรือเกรด A มีจำนวน 470 ศูนย์ ศพก.ระดับปานกลาง (เกรด B) 401 ศูนย์ และ ศพก.ระดับปรับปรุง หรือเกรด C จำนวน 11 ศูนย์,สำหรับการพัฒนายกระดับ ศพก. เกรด A นั้น กรมส่งเสริมการเกษตรจะเร่งเสริมสร้างศักยภาพให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น สามารถรองรับบริการด้านเกษตรให้ครอบคลุมกิจกรรมการเกษตรในพื้นที่ได้ ทั้งยังมุ่งพัฒนาศูนย์เครือข่ายและสร้างเครือข่ายการทำงาน และประสานความร่วมมือหน่วยงานวิชาการ งานวิจัยด้วย ขณะเดียวกันยังเร่งพัฒนาศักยภาพ ศพก. เกรด B ยกระดับขึ้นเป็นเกรด A เพิ่มมากขึ้น เน้นการพัฒนาเกษตรกรผู้นำและหลักสูตรการเรียนรู้ มีเป้าหมายต่อยอดพัฒนาขยายศูนย์เครือข่าย รวมถึงการให้บริการของ ศพก. และสร้างเครือข่ายการทำงาน เป็นต้น,ส่วน ศพก.เกรด C เป็นกลุ่มที่ต้องเร่งปรับปรุง โดยเน้น 4 องค์ประกอบ ได้แก่ เกษตรกรต้นแบบ, ฐานเรียนรู้, แปลงเรียนรู้ และหลักสูตรการเรียนรู้ เพื่อให้มีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้และให้บริการด้านการเกษตรของชุมชน ที่สำคัญยังมุ่งให้ ศพก.ทุกศูนย์ขยายผลการเรียนรู้สู่การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงเกษตรกรภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนด้วย,กรมส่งเสริมการเกษตรมีแผนดำเนินการปรับปรุงฐานเรียนรู้และแปลงต้นแบบทุก ศพก. ต้องมีงานเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เรียนรู้ เพื่อเป็นแนวทางช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเร่งพัฒนาเกษตรกรต้นแบบให้มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ เติมเต็มองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ,ทั้งยังพัฒนาระบบติดตามและการให้บริการโดยติดตามผลการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ การสร้างกลุ่มลูกศิษย์เพื่อต่อยอดสู่แปลงใหญ่ และการเป็นศูนย์กลางการใช้บริการทางการเกษตร ตลอดจนเป็นผู้นำการพัฒนาการเกษตรของชุมชนด้วย ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม ศพก.ต้นแบบ ได้ ในการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การเชื่อมโยงเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) สู่การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย.60 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว | กรมส่งเสริมการเกษตร คัดเกรด ศพก. 3 ระดับ พร้อมยกเครื่องเกษตรกรต้นแบบเป็นกลไกเข้าถึงเกษตรกรโดยตรง เร่งปรับปรุงฐานเรียนรู้-แปลงต้นแบบทุกศูนย์มีงานเกษตรทฤษฎีใหม่ ขยายผลสู่แปลงใหญ่ขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยยั่งยืน | ข่าว,ทั่วไทย | กรมส่งเสริมการเกษตร,เกษตรกร,ศพก.,พัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1074799 |
หนุ่มใหญ่ข้ามถนน ถูกกระบะซิ่งพุ่งชนดับคาที่ อ้างทางมืด เบรกไ่ม่ทัน | หนุ่มใหญ่เมืองคอน เดินข้ามถนน ถูกกระบะพุ่งชนดับคาที่ สอบสวนพบกระบะขับมาเร็ว บวกทางมืด มองไม่เห็น จึงเบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง เป็นเหตุสลดเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3 ก.พ.63 ร.ต.อ.จรินทร์ หลีเอบ รอง สว (สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนคนข้ามถนน เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนสายนครศรีฯ-พรหมคีรี ใกล้ถึงมหาวิทยาลักราชภัฏนครศรีธรรมราช ท้องที่หมู่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยใต้เต๊กตึ๊งที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนพบศพ นายจรัญ อมรเวช อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/11 หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง แขนขาหัก ห่างจากศพไม่มากพบถังน้ำดื่มสีขาวขนาด 20 ลิตร สภาพแตกเสียหาย และรองเท้าแตะของผู้ตาย นอกจากนี้ห่างออกไป 300 เมตร ยังพบรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฒห 4180 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับเยิน จอดอยู่ริมถนน ส่วนคนขับหลังเกิดเหตุเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะผู้ตายกำลังเดินข้ามถนนไปร้านชำฝั่งตรงข้าม เพื่อเปลี่ยนถังน้ำดื่มขนาด 20 ลิตร ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะคันดังกล่าวแล่นมาด้วยความเร็ว ประกอบกับจุดเกิดเหตุถนนมืด เนื่องจากไฟเกาะกลางและไฟส่องสว่างริมถนนเสีย ทำให้คนขับรถกระบะมองไม่เห็น ผู้ตายกำลังเดินข้ามถนน จึงเบรกไม่ทัน และพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนร่างกระเด็นกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่เบื้องต้นตำรวจจะเร่งสอบสวนคนขับรถกระบะและพยานที่เห้นเหตุการณ์ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป | หนุ่มใหญ่เมืองคอน เดินข้ามถนน ถูกกระบะพุ่งชนดับคาที่ สอบสวนพบกระบะขับมาเร็ว บวกทางมืด มองไม่เห็น จึงเบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง เป็นเหตุสลด | ข่าว,ทั่วไทย | รถชนคน,คนถูกรถชน,กระบะชนคน,คนข้ามถนน,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1763266 |
ขึ้นอภิปรายครั้งแรก มงคลกิตติ์ โดนประท้วง เลอะเทอะ (คลิป) | ในการประชุมสภาวันนี้ (26 พ.ค.) หลังเสร็จสิ้นการนับคะแนนเสียงเลือกรองประการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 สมาชิกสมาผู้แทนราษฎร ได้มีการอภิปรายประท้วงเรื่องขอตรวจสอบบัตรลงคะแนน ซึ่ง นายชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่ประธานสภา ระบุไม่สามารถให้ดูได้ ,หลังจากนั้น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ได้ใช้สิทธิอภิปรายครั้งแรก โดยระบุว่า ขออนุญาตครับ โดยปู่ชัย ตอบ ,เชิญครับ ช่างกล,จากนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ,ผม มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศิวิไลย์ วันนี้ก็นั่งตั้งแต่เช้า ฟังพี่ๆ ว่าที่ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ก็ฝากบอกพี่ๆ ฝ่ายค้านทุกคน ไม่ต้องเสียใจ ยังมีเวลาครับ และก็เกมจบแล้วครับ,ซึ่งขณะที่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้โต้กลับทันทีว่า ,เลอะเทอะครับ ท่านประธานครับ ประท้วงเลอะเทอะครับ เพิ่งเข้ามานี่เลอะเทอเลยครับ จะพูดทั้งที ท่านประธานต้องวินิจฉัยตามข้อบังคับข้อ 61 ไม่ใช่ว่าสักแต่มีไมค์แล้วพูดไปเรื่อย เรื่อยเปื่อย อย่างนี้ไม่ค่อยเท่เท่าไร กำลังหารือเรื่องสาระ,ขณะที่ ปู่ชัย ทำหน้าที่ประธาน ยังอดขำไม่ได้. | ชาวเน็ตบอก เหมือนดูสภาโจ๊ก หลัง มงคลกิตติ์ ใช้สิทธิอภิปรายครั้งแรกในสภา เจอประท้วงทันควัน เลอะเทอะ ขนาด ปู่ชัย ยังขำ | ข่าว,สังคม | อภิปราย,มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์,เลอะเทอะ,จิรายุ ห่วงทรัพย์,เพื่อไทย,ประท้วง,ปู่ชัย หัวเราะ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1576826 |
นทพ.ร่วมกับ มูลนิธิมิราเคิลฯ นำเด็กพิเศษดูงาน ศาสตร์พระราชา | เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 พล.อ.ธงชัย สาระสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสาธารณประโยชน์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา วันที่ 28 ก.ค.61 โครงการ หนึ่งใจ นทพ. จุดประกายให้เยาวชนกลุ่มพิเศษ,โดยนำเยาวชนกลุ่มพิเศษ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ผู้บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ จากโรงเรียนโสตศึกษา นนทบุรี และโรงเรียนศึกษาพิเศษ ชลบุรี เข้าทัศนศึกษาดูงาน หัวข้อ ศาสตร์พระราชา เพื่อชีวิตที่พอเพียง โดยเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ นทพ. บอร์ดวอล์ค และบ้านหนึ่งไร่พอเพียง ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมศาสตร์พระราชา โครงการพระราชดำริต่างๆ และการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง พร้อมการปลูกฝังให้เยาวชนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นผู้มีจิตอาสาบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ ตามแนวทางพระราชทาน เราทำความดี ด้วยหัวใจ โดยจัดขึ้น ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เขตดอนเมือง ,พล.อ.ธงชัย กล่าวว่า กิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในวันนี้ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 วันที่ 28 ก.ค.61 ซึ่งนทพ.มีความภาคภูมิใจที่ได้จัดกิจกรรมให้แก่เยาวชนกลุ่มพิเศษ ได้มีโอกาสมาศึกษาดูงาน และเปิดโลกทัศน์ พิพิธภัณฑ์ นทพ. บอร์ดวอล์ค นั้นได้จัดแสดงโครงการพระราชดำริต่างๆ ประวัติของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และรวบรวมผลงานการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ทั้งในยามเกิดภัยพิบัติและยามปกติ ,ด้าน พ.อ.กฤตพันธุ์ รักใคร่ ที่ปรึกษาศูนย์ หนึ่งใจช่วยเหลือเกษตรกร มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ และ รองผู้อำนวยการ สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ในฐานะประธานคณะผู้จัดงาน กล่าวว่า เป็นการเปิดโลกทัศน์และปลูกฝังให้เยาวชน ได้ศึกษาศาสตร์พระราชา เพื่อชีวิตที่พอเพียง ได้ศึกษาโครงการพระราชดำริต่างๆ ผ่านการจัดแสดงประวัติและผลงานของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และเยาวชนยังได้มีโอกาสศึกษาและเยี่ยมชม บ้านหนึ่งไร่พอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นทพ. ซึ่งได้น้อมนำแนวพระราชดำริ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ในชีวิตประจำวัน เกิดการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ได้แก่ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานีวิทยุ ม.ก. ธนาคารออมสิน บริษัท ฟาร์มแชนเนล ประเทศไทย จำกัด ในเครือบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด มหาชน บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด บริษัท อาร์เอ็กซ์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด บริษัท บูโอโน่ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ผู้ผลิตขนมจีบ ป. แก้ว ขนมจีบ 9 หน้า และ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป. | มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำเด็กพิเศษดูงาน ศาสตร์พระราชา เฉลิมพระเกียรติ ร.10 ปิดโลกทัศน์ ปลูกฝังให้เยาวชนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ | ข่าว,ทั่วไทย | นทพ.,มูลนิธิมิราเคิล,มิราเคิล ออฟไลฟ์,ศาสตร์พระราช,กิจกรรมจิตอาสา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1337710 |
รองนายกฯ เตรียมตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาชายแดนใต้ | น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหารือกับหน่วยงานความมั่นคงและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงหามาตรการป้องกันเหตุในพื้นที่ในช่วงสงกรานต์ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำในที่ประชุมให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มงวด ซึ่งหากทำไม่ได้จะถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมกันนั้น ได้สั่งการให้ปรับปรุงการปรามปราบและการพัฒนาเพิ่มความรอบคอบในงานด้านการข่าวมากขึ้น ซึ่งยังคงใช้ยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ด้วยตัวเองส่วนกรณีเหตุระเบิด ที่เกิดขึ้นได้ทำเป็นกระบวนการซึ่งการจะแก้ปัญหาได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันเตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ หรือเรียกว่า บก.ส่วนหลัง โดยใช้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ทำการ เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงานด้านการข่าวกับผู้ปฏิบัติการ | รองนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้เพื่อประสานงานด้านการข่าว ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้พร้อมเพิ่มความรอบคอบงานด้านการข่าวมากขึ้น | ภูมิภาค | ยงยุทธ์,ยิ่งลักษณ์,รองนายก,ศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาชายแดนใต้,เหตุระเบิด | https://news.thaipbs.or.th/content/77597 |
แท็กซี่ตี นศ.เจ็บ มอบตัว ฉุนถูกให้ของลับก่อน 2 ฝ่ายจับมือขอโทษ | นศ.ถูกแท็กซี่ตีเจ็บ ให้ปากคำ ตร.เพิ่มเติม ก่อนหนุ่มใหญ่ขับแท็กซี่คู่กรณี เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้ปากคำ รับ เด็กให้ของลับก่อน จากนั้น ตร.แจ้งข้อกล่าวหา ก่อน 2 ฝ่ายจับมือขอโทษ ด้านขนส่งปรับ พร้อมสั่งพักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะเป็นเวลา 90 วัน,เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 59 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ร.ต.อ.เสถียร เสนผาบ รอง สว. (สอบสวน) ได้สอบปากคำเพิ่มเติม นายณัฐภัทร ทรัพย์สุทธิ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชั้นปีที่ 4 ผู้เสียหายที่ถูก นายเบญจา ถุงเงินโต อายุ 60 ปี ชาว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี คนขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทล 3626 กรุงเทพมหานคร ใช้ท่อนเหล็กแป๊บตี ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย โดยอ้างว่าคนขับหงุดหงิด หลังจากพยายามบอกเส้นทาง (,หงุดหงิดบอกเส้นทาง นศ.อ้าง ถูกแท็กซี่คว้าเหล็กตีเจ็บ,),ต่อมา เวลา 10.00 น. นายเบญจา คนขับรถแท็กซี่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีพล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.อ.ปกรณ์ เปลี่ยนรังษี หก.กกร.มทบ.11 พ.อ.วงศ์วิศว์ จันทร์เจริญ หก.กกพ.มทบ.11 เดินทางมาร่วมสอบปากคำ,นายเบญจา ให้ปากคำว่า วันเกิดเหตุได้ขับรถเข้าไปรับ นายณัฐภัทร ที่หมู่บ้านย่านบางบัวทอง โดยแฟนของนายณัฐภัทรบอกให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต ตนจึงมุ่งหน้าขับเพื่อไปส่งที่หมอชิต แต่ไม่ได้บอกว่าให้แวะส่งนายณัฐภัทรที่แยกพระนั่งเกล้า ตนได้ขับรถมาตามเส้นทาง พอมาถึงหน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี นายณัฐภัทรได้บอกให้เลี้ยวเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย เพื่อไปถนนราชพฤกษ์แบบกะทันหัน จนมาถึงสะพานพระนั่งเกล้า ก็บอกให้ขับข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเก่า ทั้งๆ ที่กำลังขับอยู่ช่องทางด่วน ด้วยความโมโห ตนเลยพูดต่อว่า พอมาถึงแยกพระนั่งเกล้าก็จอดให้ลง ระหว่างที่ตนกำลังจะทอนเงิน นายณัฐภัทร ได้ยื่นหน้ามามองพร้อมทั้งให้ของลับ ตนจึงหยิบท่อนเหล็กที่วางไว้ที่พื้นข้างคนขับมาตี นายณัฐภัทร ก่อนจะขับรถไป ซึ่งตนยอมรับว่าก่อเหตุจริง แต่ถ้าไม่หาเรื่องก่อนก็คงไม่ตี ซึ่งตนขับรถแท็กซี่มา 20 กว่าปี ไม่เคยมีเรื่องเลย ตนคงจะเลิกขับรถแท็กซี่แล้ว,จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายเบญจา ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,ขณะที่ ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการขอโทษ และจับมือต่อหน้าสื่อมวลชน โดยทางนายเบญจา ยอมรับผิดต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ทางขนส่งจังหวัดนนทบุรีได้เปรียบเทียบปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมสั่งพักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะเป็นเวลา 90 วัน. | นศ.ถูกแท็กซี่ตีเจ็บ ให้ปากคำ ตร.เพิ่มเติม ก่อนหนุ่มใหญ่ขับแท็กซี่ คู่กรณี เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้ปากคำ รับ เด็กให้ของลับก่อน จากนั้น ตร.แจ้งข้อกล่าวหา ก่อน 2 ฝ่ายจับมือขอโทษ ด้านขนส่งปรับ พร้อมสั่งพักใบขับขี่ 90 วัน | null | แท็กซี่ตี นศ.,แท็กซี่,แท็กซี่ทำร้ายผู้โดยสาร,นักศึกษา,นนทบุรี,ทำร้ายร่างกาย,รับทราบข้อกล่าวหา,ของลับ,ปรับ,พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะ,ขอโทษ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/592317 |
พล.อ.ประยุทธ์ ไปเมียนมา ผลักดันโครงการ 5 ประเทศ 1 จุดหมาย | การประชุม ACMECS ที่เมียนมาเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.2558ACMECS เป็นกรอบความร่วมมือที่เป็นข้อริเริ่มของไทยเมื่อปี 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาค และสนับสนุนการรวมตัวของอาเซียน ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมระดับผู้นำแล้ว 5 ครั้ง โดยจัดขึ้นทุก 2 ปี การประชุมครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่เวียงจันทน์ สปป. ลาว เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ทั้งนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำครั้งต่อไป (ครั้งที่ 7)ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำของประเทศสมาชิกประกอบด้วย ไทย กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา และเวียดนาม จะหารือแนวทางการสานต่อความร่วมมือใน 8 สาขาความร่วมมือ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การเกษตร อุตสาหกรรมและพลังงาน การเชื่อมโยงคมนาคม การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนแนวทางการส่งเสริม การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและส่วนท้องถิ่น ซึ่งผู้นำจะรับรองร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี 2559-2561 เพื่อวางกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS ในด้านต่างๆในส่วนของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จะเสนอผลการดำเนินงานของโครงการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งข้ามพรมแดน การพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor) และผลักดันโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยและการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน การส่งเสริมการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคภายใต้แนวคิด 5 ประเทศ 1 จุดหมาย การจัดตั้งเมืองคู่แฝด เพื่อสร้างเสริมความร่วมมือระหว่างเมืองชายแดน | กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่าวันนี้ (22 มิ.ย.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ครั้งที่ 6 ซึ่งนายกฯ เตรียมจะผลักดันโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคภายใต้แนวคิด 5 ประเทศ 1 จุดหมาย | การเมือง | 5 ประเทศ 1 จุดหมาย,ACMECS,East-West Corridor,คมนาคม,ท่องเที่ยว,ประยุทธไปเมียนมา,พล.อ.ประยุทธ์,อิรวดี,เจ้าพระยา,เมียนมา,แม่โขง,แอคเมคส์ | https://news.thaipbs.or.th/content/2907 |
สปท.ค้าน เขียน ก.ม.เซตซีโร่ยุบพรรคการเมือง | เมื่อวันที่ 9 ส.ค.59 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ด้านการเมือง กล่าวว่า ในการประชุม สปท.การเมือง ช่วงที่ผ่านมา ได้พิจารณาถึงสาระสำคัญที่ควรบรรจุไว้ในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ โดยตั้งคณะทำงาน 4 คณะ ไปพิจารณารวบรวมประเด็นสำคัญที่ควรใส่ไว้ในกฎหมายดังกล่าว ได้แก่ 1. คณะทำงานพิจารณาร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง มีนายสมพงษ์ สระกวี เป็นประธาน 2. คณะทำงานพิจารณาร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. 3. คณะทำงานพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. โดยมี นายวันชัย สอนศิริ และนายสุชน ชาลีเครือ เป็นประธาน 4. คณะทำงานพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการเลือกตั้ง มีตนเป็นประธาน โดยให้เวลาคณะทำงานแต่ละชุด 1 สัปดาห์ ไปพิจารณาสาระสำคัญที่ควรบรรจุไว้ในกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อส่งให้ที่ประชุม สปท.การเมืองและที่ประชุม สปท. ให้ความเห็นชอบ จากนั้น จะส่งข้อเสนอต่างๆ ให้ กรธ.ไปพิจารณาประกอบการร่างกฎหมายลูกทั้งสี่ฉบับต่อไป รวมทั้งส่งให้ สนช.และกกต.ทราบด้วย,ส่วนกระแสข่าวเรื่องการเซตซีโร่พรรคการเมืองนั้น ส่วนตัวมองว่า ไม่ควรเซตซีโร่ด้วยการยุบพรรคการเมืองทุกพรรค เพราะอาจจะสร้างความขัดแย้งยิ่งขึ้น ควรให้พรรคคงไว้ แต่อาจไปปรับเรื่องสมาชิกพรรคใหม่ มิเช่นนั้นพอได้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็จะไปขัดแย้งกับพรรคการเมืองกลายเป็นปัญหายิ่งขึ้น | สปท.ค้านเซตซีโร่ยุบพรรคการเมือง ห่วงยิ่งเพิ่มความขัดแย้งฝ่ายการเมือง ตั้งคณะทำงาน 4 ชุดพิจารณาสาระสำคัญ ที่ควรบรรจุไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ส่งให้กรธ.พิจารณา | null | ร่างพ.ร.บ.ประกอบ รธน.,การเลือกตั้ง,ยุบพรรคการเมือง,เซตซีโร่พรรคการเมือง,ปฏิรูปพรรคการเมือง,พ.ร.บ.พรรคการเมือง,ร่างรัฐธรรมนูญ,สปท.,ความขัดแย้ง,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/686008 |
นายกฯ กำชับห้าม จนท.รัฐเกี่ยวข้องค้ามนุษย์ | วันนี้ (6 มิ.ย.2559) ระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ผ่านมา เป็นเพียงความสำเร็จขั้นที่ 1 ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยให้ผลงานปรากฏเป็นรูปธรรมและวางเป้าหมายในอนาคตให้ชัดเจน โดยสร้างโครงข่ายแก้ปัญหาร่วมกันระหว่างประเทศ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง นายกรัฐมนตรียังกำชับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาการค้ามนุษย์ หากพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัย พร้อมย้ำความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรา 44 ในการแก้ปัญหาเพื่อบูรณาการร่วมกัน และออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขอประชาชนอย่าต่อต้านการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะต้องการสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและทำให้ประเทศไทยมีที่ยืน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศ | นายกฯ กำชับห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ หากพบกระทำผิดจะเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย-ค้ามนุษย์ | อาชญากรรม | ค้ามนุษย์,วันต่อต้านการค้ามนุษย์,พล.อ.ประยุทธ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/252889 |
โหดไปไหน บาร์ซา ไม่ไว้หน้ากะซวก เกตาเฟ ไส้แตก 6-0 | ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2015/16 ประจำวันที่ 12 มี.ค. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง บาร์เซโลนา จ่าฝูง เปิดสนาม คัมป์นู ต้อนรับการมาเยือนของ เกตาเฟ ทีมอันดับ 17 ของตาราง,เกมนี้เจ้าถิ่นใช้ผู้เล่นชุดผสมพัก หลุยส์ ซัวเรซ ไว้ที่ม้านั่งสำรอง แต่ยังมี ลีโอเนล เมสซี กับ เนย์มาร์ เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก ส่วนทีมเยือนฟอร์มกำลังแย่แพ้มา 7 จาก 8 นัดหลังสุดยังใช้ เปโดร ลีออน เป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม,เปิดฉากเกมมาแค่ 8 นาทีเจ้าถิ่นก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 เมสซี ไหลให้ อัลบา หลุดมาเปิดเข้ากลาง แต่ทว่า ฆวน โรดริเกซ กองหลังทีมเยือนสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง,อีก 3 นาทีให้หลัง บาร์ซา ไม่ได้ประตูหนีห่าง 2-0 เมื่อมาได้ลูกโทษ แต่ทว่า ลีโอเนล เมสซี ดันยิงไปติดเซฟกวาอิตา นายด่านทีมเยือนซะอย่างนั้น,อย่างไรก็ตามนาทีที่ 19 บาร์ซา ก็หนีห่าง 2-0 จนได้ จากจังหวะเตะมุมสั้น อิเนสตา เปิดให้กับ เมสซี ก่อนจะแปคืนให้ มูเนียร์ ยิงง่ายๆเข้าไป,ไปกันใหญ่ นาทีที่ 32 บาร์ซา ฉีก 3-0 จากจังหวะที่ เมสซี โชว์ทักษะแทงทะลุช่องให้กับ เนย์มาร์ ปั่นโค้งเรียดด้วยขวาบอลเสียบเสาเข้าไป,นาทีที่ 40 บาร์ซา ขออีกเม็ดนำห่าง 4-0 เมสซี ไม่พูดพร่ำทำเพลงลากมาก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าไปตุงต่ายและครึ่งแรกก็จบลงด้วยสกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 51 บาร์ซาเอาอีกประตูหนีเป็น 5-0 เมสซี อีกแล้วจ่ายให้ เนย์มาร์ กระชากเข้าเขตโทษก่อนซัดเข้าไปไม่เหลือซาก,อีก 6 นาทีต่อมา บาร์ซา ทำประตูเพิ่มเป็น 6-0 จากลูกเตะมุม เนย์มาร์ เปิดเข้ากลางบอลเลยมาเสาสอง ตูราน ยิงง่ายๆเข้าไปเลย,หลังจากนั้น บาร์ซา เริ่มผ่อนเกมก่อนจะครบ 90 นาทีเป็น บาร์เซโลนา เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะ เกตาเฟ ขาดลอย 6-0 เป็นชัยชนะที่ 12 ติดต่อกันของบาร์ซาพร้อมทำแต้มฉีกหนี แอตเลติโก มาดริด รองจ่าฝูงห่างเป็น 11 แต้มแล้ว, ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น,แอตเลติโก มาดริด ชนะ เดปอร์ติโบ ลากอรุนญา 3-0,เชลตา บีโก ชนะ เรอัล โซเซียดาด 1-0 | ยังโชว์ฟอร์มสมราคาเบอร์ 1 ของโลกสำหรับ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา หลังสวมบทโหดเดินหน้าไล่ยำ เกตาเฟ ไปแบบขาดลอย 6-0 เก็บ 3 แต้มรั้งจ่าฝูงลาลีกา สเปน ต่อไป | null | ลาลีกา,บาร์เซโลนา,เกตาเฟ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/589952 |
โรคมือเท้าปาก ระบาดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อุดรฯ สั่งหยุดเรียน 1 อาทิตย์ | วันที่ 30 ม.ค. เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ว่า ทางศูนย์ได้เปิดเรียนวันแรกในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม หลังจากที่ผู้ปกครองได้นำบุตรหลานมาส่งที่ศูนย์พัฒนาเด็ก แล้วคุณครูได้รวมแถวและได้ตรวจสุขภาพและร่างกายของเด็กก่อนจะเข้าห้องเรียนจึงพบว่ามีเด็กที่มีอาการโรคมือเท้าปาก มีตุ่มบริเวณปากและตามมือ จำนวน 15 คน และอีกส่วนหนึ่งได้ขาดเรียน ซึ่งในศูนย์จะรับเด็กนักเรียน อายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 5 ขวบ มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 75 คน หลังจากครูตรวจพบแล้วได้นำส่งที่ รพ.สต.หนองเม็ก ตรวจในเบื้องต้นจึงทราบว่าเด็กนักเรียนเป็นโรคมือเท้าปาก,นางมยุรี บาดชาลี ผอ.รพ.สต.จึงให้เจ้าหน้าที่อนามัยออกมาร่วมทำความสะอาดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และให้หยุดเรียนหนึ่งสัปดาห์ พร้อมติดตามอาการที่เด็กป่วย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด,น.ส.ภคอร ไชยสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีเด็กเล็ก จำนวน 75 คน ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก เกือบ 20 คน การแพร่ระบาดโรคนี้ในศูนย์เป็นครั้งที่ 2 และได้รายงานให้ทางเทศบาลทราบ และได้ร่วมกับคณะในศูนย์ เจ้าหน้าที่อนามัย และเทศบาล ทำความสะอาดพื้น เครื่องเล่น รวมถึงห้องน้ำ,เจ้าหน้าที่ รพ.สต. กล่าวว่า โรคมือเท้าปาก เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ไม่มียารักษา หากผู้ป่วยติดเชื้อจะมีอาการเป็นตุ่มตามมือ ตามปาก และจะมีอาการไข้ด้วย ติดต่อกันเร็วมากโดยการสัมผัส หากลูกหลานป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก จะหายไปเองประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากระบาดในสถานศึกษา การป้องกันในเบื้องต้นคือ หยุดเรียน ในช่วงหยุดครูจะต้องทำความสะอาดภายในสถานศึกษาให้เรียบร้อย. | โรคมือเท้าปาก ระบาดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองเม็ก จ.อุดรธานี สั่งปิดเรียนหนึ่งอาทิตย์ เพื่อทำความสะอาด พบเด็กเล็กป่วยแล้วเกือบ 20 ราย | null | โรคมือเท้าปาก,หยุดเรียน 1 อาทิตย์,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อุดรฯ,อุดรธานี | https://www.thairath.co.th/content/847232 |
นายกฯ ยัน ไม่เคยก้าวล่วง คดีบอส-ปรับครม.เรียบร้อยไม่เกินกลาง ส.ค.แน่ | ให้โควิด-19 หากระบาดรอบ 2วันที่ 29 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ประจำวันที่ 29 ก.ค. ปม ประชาชนและสังคม สงสัย อัยการไม่ฟ้อง คดี บอส อยู่วิทยา ว่า รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร เพื่อให้มีความขัดเจนเกิดขึ้น ผมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยมี ศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ เป็นประธาน เนื่องจากคดีนี้ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการมีหน้าที่ให้หาข้อเท็จจริง ยืนยันว่าผมไปก้าวล่วงอะไรไม่ได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม นายกฯ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย อะไรเลย ผมย้ำเสมอมา และก็ไม่เกี่ยวกับการบริจาคอะไร ยืนยัน ผมไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น 5 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อะไรเลยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปรับครม.ใหม่ ผมดำเนินการในส่วนของผมเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงทำตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เกินกลางเดือน ส.ค.แน่นอนส่วนเรื่องค่าตอบแทน สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) นายกฯ กล่าวว่า ผมยืนยันว่าให้ค่าตอบแทน อสม. 7 เดือนแรกก่อน และยินดีให้ค่าตอบแทนให้ อสม.เขาเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลขอจ่าย 7 เดือนนี้ก่อน เพราะงบประมาณก็ต้องมีการสำรองไว้ก่อน เพราะถ้าโควิด-19 มันยาวนานกว่านี้ และวันหน้าคนต่างด้าวเข้าประเทศ แล้วการท่องเที่ยว จะไม่ใช้เขาหรือผมยืนยัน ผมจะดูแลให้ดีที่สุด ถามทำไมถึงให้ค่าตอบแทนถึง เดือน ก.ย. ก็เพราะให้เท่ากับหน่วยงานอื่นๆ. | นายกฯ ยัน ไม่เคยก้าวล่วง คดี บอส อยู่วิทยา ตั้งคณะกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรม ปรับครม.เรียบร้อย ไม่เกินกลาง ส.ค.แน่ ยัน รัฐจ่ายค่าตอบแทน อสม. 7 เดือนก่อน เหตุ ต้องสำรองงบฯไว้ | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,บอส อยู่วิทยา,ประชุมครม.,ปรับครม.,อสม.,ค่าตอบแทน,โควิด-19,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1899256 |
ยันปรับโครงสร้างภาษีเหล้าไม่กระทบปชช. เหตุไม่จำเป็นต้องเก็บเต็มเพดาน | วันนี้ (28 ก.พ.2560) นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงกรณีการเปิดเผยข้อมูลการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่ส่งผลให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทั้งสุรา เบียร์ และไวน์ จะปรับอัตราภาษีตามปริมาณเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า อัตราใหม่เป็นการคำนวณจากเพดานจัดเก็บภาษีสูงสุด แต่การจัดเก็บภาษีจริงจะไม่สูงตามเพดาน ส่วนจะเก็บเท่าใดจะต้องกำหนดอีกครั้ง แต่จะต้องไม่ทำให้จำนวนค่าภาษีสูงกว่าของเดิม โดยยืนยันว่าจะดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาระผู้ประกอบการและประชาชนสำหรับ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ ทำให้เพดานภาษีเบียร์ขยับขึ้น เช่น เบียร์ 3.5 ดีกรี ขนาด 0.62 ลิตร ขยับจากขวดละ 41.60 บาท เป็น 78.50 บาทเบียร์ 5 ดีกรี ขนาด 0.62 ลิตร ขยับจากขวดละ 42.10 บาท เป็น 108 บาทเบียร์ 5.8 ดีกรี ขนาด 0.62 ลิตร ขยับจากขวดละ 40.70 บาท เป็น 123 บาท ขณะที่ ไวน์มีขนาดเดียวคือ 0.75 ลิตร ระดับดีกรีตั้งแต่ 12.5-14.5 ดีกรี อัตราเพดานต่ำ สุดในปัจจุบันขวดละ 225 บาท จะขยับขึ้นเป็นขวดละ 519 บาท และสูงสุดอยู่ที่ขวดละ 1482 บาทส่วนสุราทุกประเภท ได้แก่ สุราขาวชุมชน ขนาด 0.625 ลิตร ดีกรีเริ่มต้นที่ 28 ดีกรี อัตราเพดานปัจจุบันอยู่ที่ขวดละ 98 บาท ปรับเพิ่มเป็นขวดละ 199 บาท ขนาด 35 ดีกรี ปรับเพิ่มจาก 121 บาท เป็น 244 บาท ส่วนสุราขาว 40 ดีกรี แจ้งราคาขายส่ง 75 บาท จากขวดละ 137.50 บาท เป็น 277 บาท และสุรากลั่น อื่น ๆ ขนาด 0.70 ลิตร เริ่มจาก 35 ดีกรี แจ้งราคาขายส่ง 125 บาท เพดานขยับเพิ่มจากขวดละ 160 บาท เป็น 312 บาท | กรมสรรพสามิต เตรียมปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่ โดยปรับวิธีคำนวณคิดตามมูลค่า บวกปริมาณต่อดีกรี ขยับเพดานสุราขึ้นร้อยละ 150 สูงสุดอาจปรับเพิ่มถึง 447 บาทต่อขวด ไวน์ 1482 บาท ขณะที่เบียร์ปรับเริ่มต้น 78 บาท สูงสุด 178 บาท | เศรษฐกิจ | กรมสรรพสามิต,ภาษี,เครื่องดื่ม,แอลกอฮอล์,สุรา,เบียร์,ไวน์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/260533 |
คลี่ก.ม.ต่างด้าวใหม่ เกษตร-ประมงอ่วม แรงงานขาด นายจ้างทุนน้อยต้องทำใจ | หลังจากมีการบังคับใช้ ,พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ,เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยได้รวมกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 และ พ.ร.ก.การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559,ทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายให้ครอบคลุมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวทั้งระบบ ให้สามารถแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว และเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ที่ถูกต่างชาติมองว่าไทยยังหละหลวม โดยมีกฎข้อบังคับสำคัญๆ ดังนี้,1. นายจ้างรับคนต่างด้าวทํางาน ที่ห้ามคนต่างด้าวทํา,2. รับคนต่างด้าว ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ,3. รับคนต่างด้าว ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานกับนายจ้างที่พาไปขึ้นทะเบียน เข้าทํางาน ยกตัวอย่างเช่น นายเอก แรงงานต่างด้าวจากกัมพูชา มีใบอนุญาตทำงานกับนายจ้างเอ แต่ปรากฏว่านายเอก กลับไปทำงานให้นายจ้างบี,เหล่านี้ มีโทษปรับตั้งแต่ 400,000 - 800,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน ยกตัวอย่างเช่น หากนายจ้างมีแรงงานผิดกฎหมาย 10 คน ค่าปรับก็จะอยู่ 4,000,000 - 8,000,000 บาท,ทั้งนี้ นาย ,อนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ,ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การกำหนดอัตราโทษสูง ไม่ใช่รัฐต้องการค่าปรับหรือไม่ต้องการให้ใช้แรงงานต่างด้าว แต่ต้องการบังคับใช้กฎหมายให้นายจ้างปฏิบัติอย่างถูกต้อง,ขอยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดจดทะเบียนรอบใหม่ จะให้นำเข้ามาตามระบบเอ็มโอยูเท่านั้น ซึ่งเดิมการขอโควตากับกรมการจัดหางานใช้เวลา 18 วัน ได้ปรับลดลงเหลือ 5 วันเท่านั้น และมีขั้นตอนนำเข้าจากประเทศต้นทางใน 2 เดือน ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีนำเข้ามา 1.5 แสนคน อยู่ระหว่างขั้นตอนนำเข้าอีก 1.6 แสนคน หรือหากจะใช้แรงงานไทยก็สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์สมาร์ทจ๊อบ ถ้าทำถูกกฎหมายก็ไม่ต้องกลัวเสียค่าปรับ,ภาคเกษตรวุ่น ฟันธงนายจ้างยอมติดคุกแทนค่าปรับ ,พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่าหลังกฎหมายแรงงานฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ทำให้มีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ทยอยมาแสดงตัว และยอมให้เจ้าหน้าที่ ตม.ในแต่ละจังหวัด พากลับประเทศ,ทั้งนี้ ตม.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือกับหลายหน่วยงานในพื้นที่ออกทำการประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างที่จ้างแรงงานกัมพูชาได้รับรู้ถึงโทษที่จะได้รับเพื่อไม่ให้กระทำความผิด พร้อมทั้งประสานไปยัง ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา เร่งประชาสัมพันธ์ให้แรงงานชาวกัมพูชาที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ต้องรีบทำพาสปอร์ตแรงงานเพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมดำเนินคดีได้,แรงงานภาคเกษตรที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ชายแดน สระแก้ว ต้องมีบอเดอร์พาส หรือหนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา ที่สามารถเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะภาคการเกษตร ได้เป็นเวลา 30 วัน,ทางด้าน นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า กฎหมายแรงงานฉบับใหม่นี้ถือว่าแรง และมีผลกระทบต่อชาวบ้านตามแนวชายแดนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อไปภาคการเกษตร เพราะขาดแคลนแรงงาน โดยแรงงานกัมพูชาตามชายแดน ส่วนใหญ่ยากจนไม่มีเงินไปทำพาสปอร์ตที่มีราคาสูงเล่มละเกือบ 10,000 บาท,นายณรงค์ชัย ทันบุตรกา กำนันตำบลท่าข้าม อ.อรัญประเทศ กล่าวว่า ชาวสระแก้ว ส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนทำไร่ และทำนา ที่สำคัญคือต้องจ้างแรงงานกัมพูชา ซึ่งแรงงานเหล่านี้ มาทำงานรับจ้างแบบเช้ามา-เย็นกลับ เพราะชาวบ้านไม่มีเงินไปจ้างแรงงานเขมรเป็นเดือน ซึ่งกฎหมายใหม่ต้องจ้างแรงงานเขมรที่มีพาสปอร์ต หรือบอเดอร์พาสแรงงาน ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น,นายจ้างไทย โดยเฉพาะภาคเกษตร ไม่มีปัญญาจะทำพาสปอร์ตให้แรงงานเขมรได้แน่ ทุกวันนี้พยายามที่จะลดต้นทุนไม่ใช่เพิ่มต้นทุน และยิ่งบอกว่าผู้จ้างจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400,000-800,000 บาท เชื่อว่าจะมีชาวนาชาวสวนติดคุกแทนค่าปรับจำนวนมากเพราะไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับ,ภาคประมงอ่วม ขาดแรงงานร่วมพัน,นายบุญชู แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า ผู้ประกอบการประมงส่วนใหญ่ หวั่นเกรงว่าจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ประมง บ้านอยู่อาศัย และร้านค้า ซึ่งรัฐบาลไม่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนมานานแล้ว และถ้านำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนให้หมดให้ถูกต้องแล้วค่อยนำกฎหมายมาบังคับใช้ให้ถูกต้องน่าจะดีกว่า เพื่อลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานชาวประมงยังขาดแรงงานประมาณกว่า 1,000 คน ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างมากในการต้องเสียค่าปรับ,ทำไมรัฐบาลไม่ทำให้ถูกต้องให้มีการมาขึ้นทะเบียนแรงงานก่อนที่จะประกาศใช้กฎหมาย นำแรงงานที่ไม่มีบัตรให้มาขึ้นทะเบียนซึ่งยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก และเราก็ยังสามารถควบคุมแรงงานพวกนี้ได้อีกด้วย จึงอยากจะเสนอแนะไปทางรัฐบาล สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานด้านการประมงตอนนี้ มีจำนวนกว่าหนึ่งพันคน อยากให้รัฐบาลเปิดให้มีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวใหม่เพื่อให้ผู้ประกอบการจะได้ทำงานกันอย่างสบายใจ,นายบุญชู กล่าวอีกว่า ,การออกกฎหมายของกรมเจ้าท่า ฉบับที่ 17 ,มีผลกระทบอย่างมากกับท่าเรือ ท่าเทียบเรือ กระชังปลา ได้รับผลกระทบหมดทั่วประเทศ แต่ก็ต้องขอขอบคุณท่านนายกฯ ที่มีการนำ ม.44 มาผ่อนผันให้ทางผู้ประกอบการได้มีเวลาออกไปอีก 60 วัน และ 180 วัน,ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่นำ ม.44 มาบังคับใช้ทำให้ผู้ประกอบการ ชาวประมง ชาวบ้านต่างๆ ที่มีความเดือดร้อนทั่วประเทศได้ลืมตาอ้าปากได้ และทุกคนก็พร้อมไม่ว่าจะเป็นแพปลา ท่าเทียบเรือ ที่มีการรุกล้ำน่านน้ำให้มีการเช่าตารางเมตรละ 5 บาททุกคนพร้อมที่จะจ่าย และผมเองก็เชื่อว่าไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายหากรัฐบาลเปิดช่องให้พวกเราพี่น้องจังหวัดพังงาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทุกอย่าง | นายจ้างคนไทย โดยเฉพาะภาคเกษตร ไม่มีปัญญาจะทำพาสปอร์ตให้แรงงานเขมรได้แน่ ทุกวันนี้พยายามที่จะลดต้นทุนไม่ใช่เพิ่มต้นทุน | ข่าว,เศรษฐกิจ | พ.ร.บ.แรงงานต่างด้าว,กระทรวงแรงงาน,ต่างด้าว,แรงงานต่างด้าว,แรงงานผิดกฎหมาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/987732 |
ลงทะเบียน กำลังใจ พร้อมให้ 1.2 ล้านคน รับสิทธิ์เที่ยวผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทย | โครงการ กำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และรพ.สต. เปิดลงทะเบียน 25 ก.ค.นี้ ผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทย สำหรับผู้มีสิทธิ์ 1.2 ล้านรายที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขวันที่ 22 ก.ค. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าโครงการ กำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อสม. อสส.และเจ้าหน้าที่รพ.สต. จะเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 25 ก.ค. 63 โดยผู้ขอรับสิทธิ์ต้องเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมี 1.2 ล้านราย โดยลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ Smartphone พร้อมบัตรประชาชน โดยมือถือ 1 เครื่องสามารถลงทะเบียนได้ 1 คนเท่านั้นสำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนนั้น เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย KTB แล้ว ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและเบอร์มือถือเพื่อรับ OTP กรอกรหัส OTP และตั้งค่า PIN ถ่ายบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อระบบยืนยันความถูกต้องจะปรากฏไอคอนรูปหัวใจฝากข้อความ กำลังใจ ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์ต้องนำมือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้ ติดตัวตลอดการเดินทาง เพื่อสแกน QR Code ยืนยันตัวตนในวันเดินทางวันแรกและวันที่สองตามโปรแกรมท่องเที่ยวที่ได้เลือกไว้ทั้งนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังแนะผู้ที่ได้รับสิทธิ์ค้นหาโปรแกรมท่องเที่ยวได้จากเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย หรือบริษัทนำเที่ยวที่ผ่านเกณฑ์จากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและจดทะเบียนเป็นบริษัทนำเที่ยวก่อนวันที่ 1 ม.ค. 63 ซึ่งจะมีโปรแกรมทัวร์ที่ได้รับการอนุมัติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกบริษัทนำเที่ยวนอกเขตพื้นที่ตนเองได้ โดยเริ่มเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 30 ก.ค. - 31 ต.ค. 63 นี้อย่างไรก็ตาม รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนเจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และรพ.สต. ใช้สิทธิ์ในโครงการ ซึ่งหากต้องการเดินทางมากกว่า 2 วัน 1 คืน ก็สามารถทำได้เพียงแต่ค่าใช้จ่ายจะไม่ถูกรวมอยู่ในโครงการนี้. | โครงการ กำลังใจ ของเจ้าหน้าที่ อสม. อสส. และรพ.สต. เปิดลงทะเบียน 25 ก.ค.นี้ ผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทย สำหรับผู้มีสิทธิ์ 1.2 ล้านรายที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุข | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราเที่ยวด้วยกัน,ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน,กำลังใจ,ลงทะเบียนกำลังใจ,เที่ยวปันสุข,โครงการเราเที่ยวด้วยกัน,โครงการกำลังใจ | https://www.thairath.co.th/news/business/1894984 |
ตำนานคัมแบ็ก ส.ยิมฯ ดึง อมรเทพ ผนึกโค้ชต่างชาติติวเข้มเด็กไทย | และ นาเดีย ติวเข้ม เพื่อหวังปูพรมหวังผลเป็นเลิศในรายการชิงแชมป์เอเชีย และเวิลด์ คัพ ตลอดปี 2562,วันที่ 18 มี.ค.62 ความเคลื่อนไหวของนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ล่าสุดได้เรียกนักกีฬาในโครงการโรดทูโตเกียว และเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งยิมนาสติกศิลป์, ยิมนาสติกลีลา และนักกีฬายิมนาสติกกรุ๊ปเอ็กเซอร์ไซส์ จำนวนทั้งสิ้น 30 คน เข้าปฐมนิเทศที่ศูนย์ฝึกทีมชาติไทย ในซอยเพชรเกษม 81 โดยมี น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานและร่วมให้โอวาท,นอกจากนี้ยังได้กำหนดกฎเหล็ก 5 ข้อ ห้ามนักกีฬาประพฤติตนออกนอกกฎระเบียบปฏิบัติ ซ้อมวันละไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง ต้องเข้านอนไม่เกิน 21.00 น. / ห้ามยุ่งเกี่ยวกับ ยาเสพติด แอลกอฮอล์ รวมทั้งของมึนเมาทุกชนิด / ห้ามมีเรื่องชู้สาว และต้องเชื่อฟังผู้ฝึกสอนอย่างเคร่งครัด หากใครไม่ปฏิบัติตามถือว่ามีความผิดร้ายแรง ต้องถูกตัดออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติทันที,โดยขณะนี้นักกีฬาทุกคนยังคงปักหลักซ้อมกันอย่างกนัก ที่ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขันในซอยเพชรเกษม 81 ซึ่งยิมนาสติกศิลป์ ได้ดึง เจ้าหมู อมรเทพ แววแสง อดีตฮีโร่เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย มร.จีกอร์รีฟ อีฟกีนี่ เจ้าของเหรียญทองยิมนาสติกศิลป์โอลิมปิก 4 สมัย วัย 74 ปี ชาวเบลารุส เข้ามาคุมเข้มและเสริมแกร่งกันอย่างเต็มที่ ขณะที่ยิมนาสติกลีลายังคงเป็น นาเดีย ราชินี โอลิมปิกดูแลอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้นักกีฬามีความแข็งแกร่ง และพัฒนาศักยภาพได้อย่างน่าพอใจ,ซึ่ง น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ได้วางโปรแกรมส่งนักกีฬายินนาสติกศิลป์และลีลาเข้าร่วมทำการแข่งขันรายการใหญ่ตลอดทั้งปี ทั้ง อินวิเตชั่น, ชิงแชมป์เอเชียรวมถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลก ประกอบด้วย การแข่งขันยิมนาสติกศิลป์ ฮ่องกง อินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเตชั่น แชมเปียนชิพ 2019 ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 1 เมษายน ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง รายการนี้ส่งทิษณุพรรณ วิเชียรประดิษฐ์, จามร พรหมณี, สีน้ำ รักษ์ภู และฟูกะ โนมูระ (ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น) เดินทางไปแข่งขัน,รายการที่สอง ส่งนักกีฬายิมนาสติกลีลา 2 คนได้แก่ น.ส.กานต์พิชชา พัฒนศักดิ์ และ น.ส.เบ็ญจพร ลิ้มพานิชย์ เดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เมืองทาสเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม จนถึงวันที่ 17 เมษายน ต่อเนื่องด้วยส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการ ยิมนาสติกลีลา เวิลด์คัพ ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน ที่อุซเบกิสถานในเวลาเดียวกัน,รายการที่สาม ส่งนักกีฬายิมนาสติกศิลป์ เข้าร่วมแข่งขันรายการ เวิลด์ ชาลเล้นจ์คัพ ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม ที่เมืองซูเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่ง ณัฐติพงษ์ เอียดวงศ์ และ ฑิฆัมพร สุรินทร์ทะ เข้าร่วมแข่งขัน,รายการที่สี่ ส่งนักกีฬายิมนาสติกศิลป์เข้าร่วมแข่งขัน ซีเนียร์ เอเชียน แชมเปียนชิพ ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน ที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ต่อเนื่องด้วยรายการที่ 5 การแข่งขันยิมนาสติกลีลา ชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562 ที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะปิดท้ายปี ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค. ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งนี้เพื่อให้นักกีฬายิมนาสติกทุกคนมีความพร้อมมากที่สุด. | สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย วางโปรแกรมแน่นส่งยิมศิลป์และยิมลีลา เข้าร่วมแข่งขันต่างประเทศเต็มเหยียด 6 รายการ พร้อมทั้งดึง อมรเทพ แววแสง ผนวกกับโค้ชอาชีพชาวเบลารุส | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย,อมรเทพ แววแสง,น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์,โรดทูโตเกียว 2020,ซีเกมส์ 2019 | https://www.thairath.co.th/sport/others/1522283 |
จนท.ดับไฟป่าเชียงดาวโชคร้ายพลัดตกเขาขาหัก เร่งหามนำส่ง รพ.ปลอดภัยแล้ว | เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 21 เมษายนนี้ นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้รับรายงานจากนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ว่าได้เกิดอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่บริเวณร่องห้วยในป่าบ้านนาเลาใหม่ อ.เชียงดาว จ.เชียงดาว พลัดตกเขาได้รับบาดเจ็บ จึงได้สั่งการให้ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ช่วยกันนำตัวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวขึ้นมาจากหุบเขาพบว่าข้างขวาหัก ทราบชื่อต่อมา คือ นายทนง เหมยป้อ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่ตะไคร้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวนายทนงนอนอยู่บนเปล เนื่องจากนายทนงไม่สามารถเดินได้ ขณะเจ้าหน้าที่ต้องค่อยๆ ช่วยกันลำเลียงนายทนงลงมาจากเขาที่สูงชันด้วยความยากลำบาก ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงนำนายทนงลงมายังหมู่บ้านใกล้เคียง และประสานรถกู้ภัยของเทศบาลตำบลเชียงดาว มารับตัวนายทนงไปยังโรงพยาบาลเชียงดาว เพื่อทำการรักษาเบื้องต้น ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการเน้นย้ำให้ชุดลาดตระเวนทั้งหมดที่สนธิเข้าปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานให้มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีกโดยวางแนวทางการปฏิบัติ ให้ทำการสับเปลี่ยนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่หมุนเวียนในการปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อไม่ให้กำลังพลอ่อนล้า. | จนท.ควบคุมไฟป่าพลัดตกเขาได้รับบาดเจ็บขาหัก ขณะเข้าดับไฟป่าในพื้นที่ร่องห้วยในป่าบ้านนาเลาใหม่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ล่าสุดสามารถนำตัวออกจากป่า ก่อนนำส่งโรงพยาบาลนครพิงค์รักษาปลอดภัยแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟป่าเชียงใหม่,ดับไฟป่า,เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า,พลัดตกเขา,อ.เชียงดาว,ตกเขา,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1827093 |
โด้กู้ชีพ ยูเวนตุสไล่เจ๊าโตริโนท้ายเกม 1-1 ศึกเซเรีย อา | การแข่งขันฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2018-19 ประจำวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. ม้าลาย ยูเวนตุส ทีมแชมป์ซีซั่นนี้ เปิดสนามอัลลิอันซ์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ กระทิงหิน โตริโน,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 18 โตริโน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะความผิดพลาดของนักเตะยูเวนตุส เจา คันเซโล ทุ่มบอลคืนหลังแรงเกิน ซาซา ลูคิช เบียดเอาเอาชนะ มิราเลม ปานิช ก่อนปั่นด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไป,นาทีที่ 20 ยูเวนตุสเกือบตีเสมอ คริสเตียโน โรนัลโด กระดกบอลมาฝั่งซ้ายในเขตโทษ แบลส มาตุยดี วอลเลย์ด้วยซ้าย ซิริกู เซฟออกไปไ้ด้อย่างสุดยอด,และในนาทีที่ 21 โอกาสของยูเวนตุสอีกแล้ว คริสเตียโน โรนัลโด ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งเป็นจรวดเฉี่ยวเสาแรกไปนิดเดียว,จบครึ่งแรก โตริโน บุกมานำ ยูเวนตุส 1-0,กบับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 84 ยูเวนตุส ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ เลโอนาร์โด สปินาซโซลา เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ คริสเตียโน โรนัลโด โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ยูเวนตุสเสมอ โตริโส 1-1 เก็บเพิ่มเป็ย 89 คะแนน ส่วน โตริโน มี 57 คะแนน อยู่อันดับ 6 | คริสเตียโน โรนัลโด ทำประตูกู้ชีพช่วยให้ ม้าลาย ยูเวนตุส เปิดบ้านไล่ตีเสมอ โตริโน 1-1 ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ยูเวนตุส,โตริโน,กัลโช เซเรียอา,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1559990 |
นิด้าโพลเผยคนรู้สึกว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไม่ละเมิดสิทธิ์ 24.09% ละเมิดสิทธิ์ 21% ไม่แน่ใจ 54.91% | โดยเริ่มทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7 – 12 มิ.ย. 2562 จากประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และเป็นผู้ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2507 หน่วยตัวอย่าง สอบถามการรับรู้ ความเข้าใจ และความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยการสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็น ด้วยวิธีแบบหลายขั้นตอน (Multistage Sampling) และเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการลงพื้นที่สัมภาษณ์แบบพบตัว โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.00จากการสำรวจเมื่อถามถึงการรับรู้หรือเคยได้ยินเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.89 ระบุว่า เคยได้ยิน ขณะที่ ร้อยละ 17.11 ระบุว่า ไม่เคยได้ยินในจำนวนของผู้ที่ระบุว่า เคยได้ยินเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พบว่า ร้อยละ 55.58 ระบุว่า พอทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์หลักของ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ร้อยละ 26.71 ระบุว่า ทราบดี และร้อยละ 17.71 ระบุว่า ไม่ทราบเลยและสำหรับช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของผู้ที่ ระบุว่า ทราบดีและพอทราบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.27 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รองลงมา ร้อยละ 58.65 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อโทรทัศน์ ร้อยละ 10.82 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อเว็บไซต์ ร้อยละ 7.37 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 5.26 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อบุคคล และร้อยละ 2.63 ระบุว่า รับรู้ผ่านสื่อวิทยุเมื่อถามประชาชนถึงการรับรู้สาระสำคัญเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยแบ่งเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้(1) ประเด็น พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยดูแลและปกป้องระบบคอมพิวเตอร์ของภาครัฐและเอกชน ให้มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 94.80 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 5.20 ระบุว่า ไม่ทราบ(2) ประเด็น พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไม่ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการเฝ้าระวัง สอดส่องติดตามข้อมูลเนื้อหาในโลกโซเชียลของประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.87 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 27.13 ระบุว่า ไม่ทราบ(3) ประเด็น สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ มีหน้าที่ดูแล และเฝ้าระวังการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับ สาธารณูปโภค การบริการทางการเงิน และความมั่นคงของประเทศ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.91 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 25.09 ระบุว่า ไม่ทราบ(4) ประเด็น ในกรณีเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับไม่ร้ายแรง สามารถอุทธรณ์ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ได้ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 51.75 ระบุว่า ไม่ทราบ และร้อยละ 48.25 ระบุว่า ทราบ(5) ประเด็น ในกรณีเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ระดับร้ายแรง เจ้าหน้าที่ต้องมีหมายศาลในการ ตรวจค้น ยึดอุปกรณ์ และการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 51.05 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 48.95 ระบุว่า ไม่ทราบ(6) ประเด็น กรณีเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ระดับวิกฤติ เจ้าหน้าที่ไม่ต้องมีหมายศาลในการตรวจค้น ยึดอุปกรณ์ และการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ แต่หลังจากดำเนินการแล้วต้องแจ้งรายละเอียดต่อศาลโดยเร็ว พบว่า ประชาชน ร้อยละ 51.87 ระบุว่า ไม่ทราบ และร้อยละ 48.13 ระบุว่า ทราบด้านความคิดเห็นที่มีต่อ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ว่าจะช่วยสร้างความมั่นคงปลอดภัยและแก้ปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.80 ระบุว่า ช่วยได้ค่อนข้างมาก รองลงมา ร้อยละ 23.10 ระบุว่า ช่วยได้มาก ร้อยละ 20.47 ระบุว่า ช่วยได้ค่อนข้างน้อย และร้อยละ 2.63 ระบุว่า ช่วยไม่ได้เลยเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ในประเด็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.09 ระบุว่า ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพราะ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีไว้เพื่อป้องกัน และรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และเศรษฐกิจ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่เกี่ยวกับการสอดส่องดูข้อมูลส่วนตัวของประชาชน อีกทั้งมีกฎหมายควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมถึงเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 21.00 ระบุว่า ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพราะ มองว่า พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้สิทธิและอำนาจเจ้าหน้าที่รัฐเกินไป ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลประชาชนได้ง่าย เลยกังวลว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล รวมถึงไม่มีหน่วยงานอิสระที่ถ่วงดุลอำนาจ และตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเลย เลยกลัวว่ารัฐบาลจะใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ และร้อยละ 54.91 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจท้ายที่สุดเมื่อถามถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.22 ระบุว่า ควรสร้างความรู้/จิตสำนึกให้กับประชาชนเกี่ยวกับโทษในการคุกคามความมั่นคงทางไซเบอร์ รองลงมา ร้อยละ 61.99 ระบุว่า ควรควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐนำไปใช้ในทางมิชอบ ร้อยละ 56.84 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและลงโทษขั้นรุนแรงกับผู้ที่กระทำผิด ร้อยละ 42.63 ระบุว่า ควรมีหน่วยงานภายนอกที่เป็นองค์กรอิสระเข้ามาถ่วงดุลอำนาจและตรวจสอบการทำงาน ร้อยละ 0.53 ระบุว่า ควรมีการรายงานผลความสำเร็จของ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเล็งเห็นถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต่อไป และร้อยละ 10.41 ไม่ระบุ/ไม่สนใจ | 21 ก.ค. 2562 กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมกับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ | การเมือง,สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต,ไอซีที | โพล,นิด้าโพล,พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ | https://prachatai.com/journal/2019/07/83512 |
นักวิชาการชี้หากไม่ปรับโครงสร้างยางพารา อาจเสียการเป็นศูนย์กลางอาเซียนด้านยาง | ผศ.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เร่งปรับโครงสร้างยางพาราทั้งระบบภายใน 5 ปี ไทยอาจเสียตำแหน่งการเป็นศูนย์กลางยางพาราในอาเซียน ทั้งนี้ควรเริ่มจาก ตั้งคณะกรรมการคิดต้นทุนยางพารา ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากเกษตรกร ภาครัฐและเอกชน เพื่อหาต้นทุนแท้จริง และคิดราคาช่วยเหลือที่เหมาะสมให้เกษตรกร พร้อมเร่งปรับสัดส่วนการใช้ภายในประเทศให้เพิ่มขึ้นขณะที่ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า เตรียมจะพัฒนาตลาดการค้ายางในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองราคากับผู้ซื้อ รวมทั้งส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งมาตรการช่วยเหลือวงเงินสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย จำนวนกว่า 20000 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้การใช้ยางในประเทศเพิ่มอีกเท่าตัวในปี 2557นายยุคล กล่าวอีกว่า จะเร่งสร้างความร่วมมือด้านยางพาราระดับอาเซียนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีเพียง 3 ประเทศคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เนื่องจากปัจจุบัน มีประเทศในอาเซียนคือ เวียดนาม ลาวและกัมพูชา เพิ่มพื้นที่ปลูกยาง ดังนั้นการขยายความร่วมมือ จึงเป็นการสร้างความเข้มแข็งด้านราคาในตลาดโลก | นักวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า หากไทยไม่ปรับโครงสร้างยางพาราทั้งระบบภายใน 5 ปี ก็อาจเสียการเป็นศูนย์กลางอาเซียนด้านยางให้แก่ประเทศอื่นภูมิภาค | เศรษฐกิจ | นักวิชาการ,ยางพารา,สวนยาง,หอการค้า,อาเซียน,โครงสร้างยางพารา | https://news.thaipbs.or.th/content/195439 |
คุกตลอดชีวิต มือยิง ผกก.ไทรงามปี54 ศาลชี้โทษเหมาะสมกับความผิด | เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 มี.ค.2561 นี้ ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีผู้อื่น หมายเลขดำ อ.3117/54 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิมู จะหย่อ อายุ 55 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอร์ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พ ร.บ.อาวุธปืน และอื่นๆ ตามฟ้องของอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 54 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 19 เม.ย. 54 จำเลยกับพวกได้ใช้อาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิธ แอนด์ เวสสัน สเปเชียล ขนาด.357 ไม่มีทะเบียน ลูกกระสุนขนาด .38 ยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร (ขณะนั้น) ขณะกำลังล้างรถยนต์ตู้บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 282/67-68 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีไป,ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ พร้อมอาวุธปืน ของกลาง และให้การรับสารภาพโดยตลอดว่า รับจ้างจากนายต่าย ไม่ทราบนามสกุล เป็นเงิน 1 แสนบาทมาฆ่าผู้ตาย , ,คดีนี้เมื่อวันที่ 3 ก.ค.57 ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาประหารชีวิต คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ริบอาวุธปืนของกลาง จำเลย ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์ ลดโทษให้ด้วย , ,ต่อมาวันที่ 28 ก.ค. 59 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตาม ศาลชั้นต้น จำเลยยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกา พิพากษาลดโทษให้บ้าง, ,ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นเหมาะสมกับความผิดแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายสิมู จำเลย จากเรือนจำกลางบางขวางซึ่งสวมชุดต้องโทษ มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาโดยมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่พูดอะไร. | ศาลฎีกา พิพากษายืนให้จำคุกตลอดชีวิต มือปืนชาวเผ่ามูเซอร์ ก่อเหตุยิง อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อปี 54 ศาลชี้ จำเลยก่อเหตุไม่เกรงกลัวความผิด โทษที่ได้รับเหมาะสมแล้ว | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่า ผกก.ไทรงาม,ยิง ผกก.สภ.ไทรงาม,สิมู จะหย่อ,จำคุกตลอดชีวิต,เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1241091 |
ตร.กองปราบจับขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบ พบเงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท | ตำรวจกองปราบปราม จับผู้ต้องหา 10 คน พร้อของกลางเงินสดเกือบ 30000 บาท และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการติดตามทวงหนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บันทึกข้อมูลลูกหนี้ และสัญญาเงินกู้ รวม 42 รายการ โดยทั้งหมดเป็นขบวนการเงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และนนทบุรีพลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่าเครือข่ายจังหวัดชลบุรี เป็นเครือข่ายเงินกู้จาก จังหวัดอุทัยธานี ประกอบกิจการในจังหวัดชลบุรี พัทยา และใกล้เคียง รวมทั้งเครือข่ายในจังหวัดนนทบุรี ที่มีพ่อค้ารายใหญ่ในจังหวัดเป็นนายหน้าปล่อยเงินกู้ระบบ โดยจะปล่อยเงินกู้และคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20- 30 ต่อวัน เช่น หากกู้เงินมา 10000 บาทจะถูกหัก 400 บาท และถูกเก็บอีกวัน 400 บาท จำนวน 30 วัน ซึ่งหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด จะถูกพูดจาข่มขู่ หว่านล้อม โดยทั้งสองเครือข่าย มีลูกหนี้รวม 400 คนโดยกลุ่มปล่อยเงินกู้นี้ จะใช้วิธีการป้องกันไม่ให้ถูกจับ คือ หลังทำสัญญาเงินกู้แล้ว จะนำสัญญากลับมาบันทึกข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือสมุดส่วนตัว และจะทำลายสัญญาที่มีการเขียนขึ้น เบื้องต้นมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 2 ล้านบาทซึ่งตำรวจจะติดตามรายชื่อลูกหนี้ และจะเรียกมาสอบปากเกี่ยวกับการจ่ายดอกเบื้ยเกินที่กฎหมายกำหนดเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาตำรวจแจ้งข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลโดยจัดหาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืม โดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด | ตำรวจกองปราบปรามจับขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบเครือข่ายจังหวัดชลบุรี และนนทบุรี พบมีลูกหนี้กว่า 400 ราย มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 2 ล้านบาท | อาชญากรรม | กองปราบ,ตำรวจ,ผู้ต้องหา,สัญญา,หมุนเวียน,เครือข่าย,เงินกู้ | https://news.thaipbs.or.th/content/161541 |
วัดดังสุพรรณฯ แจกกระทง 890 ใบ เลี้ยงอาหารฟรี ถวายเป็นพระราชกุศล | เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ย. พระครูสิริวรธรรมาภินันท์ หรือหลวงตาแดง เจ้าอาวาสวัดมะนาว (วัดหลวงพ่อโบ้ย) ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี, นายสฤษฎ์ น้ำค้าง นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี, นางสมฤดี จัยทร์สุสรรณ นายกเทศบาล ต.หน้าพระลาน, นายเด่นชัย เด่นชัยประดิษฐ์ ประธานผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยรัฐ กลุ่มเจ้าอินทรี ภาคกลาง และนายนาวิน พิกุลทอง นายก อบต.ทับตีเหล็ก ร่วมเป็นประธานจัดพิธีแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และประเพณีลอยกระทงประจำปี โดยจัดกิจกรรม เปิดวัดกินฟรี ถวายในหลวง ได้นำร้านอาหารดังๆ ทั่วสุพรรณบุรี จำนวน 89 ร้าน เท่าพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน มาเปิดบูธให้ประชาชนกินฟรี มีทั้งอาหารทั้งคาว หวาน ผลไม้ และขนม,ทั้งนี้ประธานในพิธี ได้เปิดกรวยถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และนำประชาชนจุดเทียน ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 3 จบ เพื่อแสดงความอาลัย จากนั้นได้ทำพิธีเปิดซุ้มอาหารเลี้ยงฟรี จำนวน 89 ซุ้ม ริมเขื่อนแม่น้ำท่าจีน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล,นอกจากนี้ทางวัดได้จัดเตรียมกระทงต้นกล้วยสด จำนวน 890 ใบ แจกฟรีให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน พร้อมทั้งร่วมลอยกระทงในแม่น้ำท่าจีนบริเวณท่าน้ำของวัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมถึงแจกวัตถุมงคลหลวงพ่อโบ้ยเนื้อดินย้อนยุคให้กับผู้มาร่วมงานทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล. | วัดมะนาว ร่วมกับศูนย์ข่าวไทยรัฐสุพรรณบุรี จัดพิธีแสดงความอาลัย แจกกระทง 890 ใบ เลี้ยงอาหารฟรี ถวายเป็นพระราชกุศล ริมเขื่อนแม่น้ำท่าจีน
| ข่าว,ทั่วไทย | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ประเพณีลอยกระทง,แจกกระทง 890 ใบ,หลวงตาแดง,วัดมะนาว,วัดหลวงพ่อโบ้ย,ต.ทับตีเหล็ก,อ.เมืองสุพรรณบุรี,สุพรรณบุรี,กระทงต้นกล้วยสด,หลวงพ่อโบ้ยเนื้อดินย้อนยุค | https://www.thairath.co.th/news/local/783162 |
อั้นไม่ไหว สาวเกาะล้านคลอดลูกในเรือ ขณะวิ่งมาพัทยา | เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 23 เม.ย. เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีหญิงท้องแก่ใกล้คลอด อยู่ที่บ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้นำเรือกู้ภัยไปรับ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางละมุง รอรับตัวที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้,จากนั้นได้รับหญิงท้องแก่คนดังกล่าวขึ้นบนเรือ ทราบว่าคือ นางอำภา ก่ำทา อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานเมืองพัทยา มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และมีน้ำคร่ำไหลออกมา ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวมายังท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ แต่พบว่าศีรษะของทารกโผล่ออกมาแล้ว จึงจำเป็นต้องช่วยกันทำคลอดระหว่างอยู่กลางทะเล และสามารถทำคลอดเด็กออกมาได้ เป็นทารกเพศชาย ผิวขาว ปลอดภัยทั้งแม่และลูก,กระทั่งมาถึงท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมทีมแพทย์โรงพยาบาลบางละมุง จึงช่วยกันเคลื่อนย้ายนำตัวแม่และทารกน้อยส่งโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งในขณะนี้นางอำภายังไม่สามรถตอบคำถามใดๆ ได้ เนื่องจากอยู่ในอาการอ่อนเพลีย แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด. | หญิงท้องแก่บนเกาะล้านเจ็บท้องคลอด กู้ภัยรีบนำเรือไปรับจะพาส่ง รพ. ที่พัทยา ปรากฏว่าเกิดคลอดบนเรือขณะแล่นอยู่กลางอ่าว เป็นทารกเพศชาย ปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก
| ข่าว,ทั่วไทย | คลอดลูก,คลอดในเรือ,ทำคลอด,อำภา ก่ำทา,เกาะล้าน,พัทยา,มูลนิธิสว่างบริบูรณ์,รพ.บางละมุง,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/news/local/494921 |
เลือกทางไหนก็เจ็บ สาวรู้ว่าเป็นมือที่ 3 แต่มะเร็งกลับเหนี่ยวรั้งเขาไว้ | สมาชิกพันทิปหมายเลข 5176046 ตั้งกระทู้ ,เมื่อมะเร็งรั้งเค้าไว้ให้อยู่กับเรา, โดยสรุปได้ว่า เจ้าของกระทู้มีแฟนที่อายุมากกว่า 9 ปี ทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่เขากลับมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าของกระทู้เพิ่งมารู้ความจริงตอนที่รักเขาไปหมดทั้งหัวใจ เขาเป็นคนแรกในทุกๆ เรื่องของเจ้าของกระทู้ทำให้เธอตัดใจจากเขาไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ตัวเองเข้มแข็งให้มากกว่านี้ และจะเป็นคนเดินจากไปเอง,แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ ยิ่งนานเท่าไหร่ แอลก็ยิ่งรักเค้ามากขึ้นๆ แอลยอมรับได้ทุกอย่าง ยอมได้แม้กระทั่งนอนฟังเค้าคุยโทรศัพท์กับแฟนเค้า มันเป็นความคิดที่โง่มากๆ และแอลเองก็รู้สึกผิดที่ยังยอมเป็นมือที่สาม แอลพยายามเลิกยุ่งกับเค้า แต่ทุกครั้งเค้าก็บอกว่าเค้าเองก็ต้องการแอล แอลเป็นส่วนนึงในทุกๆ วันของเค้าไปแล้ว,ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ ได้ไปตรวจสุขภาพและพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันระยะที่ 4 และคงอยู่ได้อีกไม่นานเพราะมะเร็งได้ลามไปทั่วร่างกายแล้ว หลังจากรู้ตัวก็เสียใจ และโทรไปบอกพ่อกับแม่ พร้อมทั้งบอกกับแฟน เผื่อว่าเขาอาจจะตัดใจได้,พอเค้าได้ยิน เค้าก็ร้องไห้ แล้วบอกว่าเค้าจะมาอยู่กับแอล เค้าอยากจะใช้เวลาอันน้อยนิดที่แอลเหลืออยู่กับเค้า เราโทรประชุมสายกัน ซึ่งมีแอล มีเค้า และมีแฟนเค้า เค้าบอกเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงจะเลิกกับแฟนเค้า พอแฟนเค้าได้ยินก็ร้องไห้ ตัวพี่เค้าเองก็ร้องไห้ ตอนนั้นแอลคิดอย่างเดียว นี่เราคิดถูกจริงๆ ใช่ไหมที่บอกเรื่องมะเร็งของแอล แอลเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนสองคนต้องเลิกกันทั้งๆ ที่เค้ารักกันมาก เรามันโง่ เรามันเลว เรามันชั่วทุกอย่างกำลังจะจบลง เค้าบอกว่าขอคุยกับแฟนคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย วันถัดมาเค้าก็บอกกับแอลว่าแฟนเค้ารับได้ที่เค้าจะมาคุยกับแอล เพราะแฟนยังรักเค้าอยู่ ยังไม่พร้อมที่จะเลิก เค้าบอกว่าเค้าเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าแฟนจะรับได้,อย่างไรก็ตาม เจ้าของกระทู้ บอกกับแฟนว่า เรื่องนี้จะไม่มีคน 3 คน และให้ผู้ชายเลือก แต่เขาก็บอกว่าเลือกไม่ได้ และทุกครั้งที่เธอเลือกที่จะเดินออกมา เขาก็บอกว่าอยากให้รอ เผื่อวันนึงแฟนเขาอาจจะทนไม่ได้ ถ้าเธอหายจะได้อยู่กับเขาไปนานๆ จะได้แต่งงาน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน,จนถึงตอนนี้มันก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ แอลรอทั้งๆ ที่มองไม่เห็นความหวัง คิดอยู่ว่าคงต้องรอไปจนกว่าตัวเองจะตาย แอลไม่รู้ว่าวันนั้นของแอลจะมาถึงตอนไหน วันที่แอลจะไม่มีลมหายใจ แอลไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว แต่แอลก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแอลจะรับไหวมั้ยกับความรู้สึกที่ไม่มีเค้าเเล้ว นอกจากจะต้องสู้กับความทรมานที่ได้รับจากการให้คีโม แอลยังจะต้องทรมานกับความรู้สึกที่ไม่มีเค้าอีก,ทั้งนี้ มีสมาชิกในพันทิปเข้ามาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ เรื่องการรักษาโรคมะเร็ง พร้อมทั้งแสดงความ,คิดเห็นดังนี้ ,สมาชิกหมายเลข 3539746, : เรายังไม่เห็นความแตกต่าง จากตอนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นมะเร็ง จนรู้ว่าเป็นมะเร็ง เพราะคุณก็ยังอยู่จุดจุดเดิม เพิ่มเติมคือแฟนผู้ชาย รู้ว่ามีคุณ แถมใจดี ให้ผู้ชายมาดูแลคุณได้ เพราะอาจจะคิดว่า พอไม่มีคุณผู้ชายก็จะกลับไปหาเธออยู่ดี,เพิ่มเติมอีกอย่าง คุณจำความรู้สึกที่นอนฟังผู้ชายของคุณ คุยกับแฟนเค้าไหมคะ ในวันนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งก็คงนอนร้องไห้ที่รู้ว่าแฟนของเธอมาอยู่กับผู้หญิงอีกคน มาถึงตรงนี้ เราคิดว่า เจ้าของกระทู้คงปล่อยให้มันเลยตามเลย เพราะถ้าเข้มแข็งได้กว่านี้ คงเดินออกมาได้ตั้งแต่คบกันทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้ชายมีแฟนอยู่แล้ว รักษากาย รักษาใจ ,สมาชิกหมายเลข 5145123 , : บางอย่างเราไม่เข้าใจ คุณเหมือนจะเอามะเร็งดึงเค้าไว้ก็เหมือน , เพราะเค้าบอกแฟนเค้ารับได้ ทีนี้คุณดันไม่ยอม จะต้องเลือกคนใดคนนึงอีก ทั้งๆ ที่ตอนแรก ตัวเองแอบซ่อนมาตลอด เราไม่ค่อยเข้าใจความคิดตรงนี้,ถ้าคิดจะเลิก ก็เลิกออกมาเลย ตัวเองไปเป็นมือที่สาม ยังไม่คิดเลิกเหรอ ต้องรอให้ฝ่ายชายเลือก ถ้าผู้ชายอยู่ในหมวดใจอ่อนขี้สงสาร การทิ้งคุณก็คือรู้สึกผิดไปจนตาย มันก็เหมือนเงื่อนไขเอามาบีบให้ฝ่ายชายเปิดเผยความจริง แต่เอาจริงๆ ผู้ชายเค้าเลือกคุณนะ เค้าถึงได้เปิดคุยให้แฟนเค้ารับรู้ แต่คุณพอเค้าทำแบบนั้น กลับจะยึดเอาคนเดียว ทั้งๆ ที่มาทีหลังแถมฉวยโอกาสจากการป่วย,เราว่าไม่แฟร์สำหรับผู้หญิงอีกคนนึงเลย กลายเป็นว่า คนมาก่อน ต้องมานั่งขอโอกาส ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำผิด ต้องมานั่งเห็นใจผู้หญิงที่มาแย่งแฟนตัวเอง ต้องมานั่งขอร้องให้ผู้ชายอยู่ในสถานะ สามคน , คุณป่วย เราต้องพูดดถนอมน้ำใจคุณไหม แบบนี้ เท่ากับ คุณใช้คำว่าป่วยเป็นเกราะ,ถ้าคิดถึงใจเค้าใจเรา ผู้หญิงที่มาก่อน จะเจ็บปวดแค่ไหน และก็คงเหมือนคุณ ที่อยากเลิกแต่ใจยังรับกับมันไม่ไหว ทั้งๆ ที่เค้ามาก่อนและไม่ได้แอบทำร้ายใคร ทำไมเค้าถึงต้องเป็นฝ่ายเสียใจ ลองไปคิดดู คุณควรถอยออกมาหรือเปล่า แล้วไปดูแลตัวเองดีๆ ใช้ชีวิตสบายๆ ให้สบายใจ ใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ ไม่ดีกว่าเหรอ,สมาชิกล็อกอิน แมวสีเทา , : ถ้าผมใกล้ตายจะปฏิบัติธรรมเท่าที่ทำได้ กิเลส ตัณหา อย่ามาเข้าใกล้,สมาชิกพันทิปล็อกอิน RoadRider, : ถ้าเป็นจริงป่านนี้นอนพะงาบๆ อยู่โรงพยาบาลแล้ว ไม่ได้มาโพสต์ในพันทิปหรอก ไม่มีอารมณ์เรื่องความรักความใคร่หรอก แค่เดินยังเหนื่อย เพราะออกซิเจนในเลือดไม่พอ,(คลิกอ่านต้นฉบับ ,ที่นี่,) | บทสรุปที่เจ็บปวดกันทุกคน สาวรู้ตัวว่าเป็นมือที่ 3 มารู้ทีหลังว่า ป่วยเป็นมะเร็ง แฟนหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะเลือกใคร | ข่าว,สังคม | มะเร็ง,มือที่ 3,กระทู้พันทิป,ข่าวโซเชียล,ความรัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1517043 |
ทดลองคืบ-ข้ามเจ้าพระยา | นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อระยะทาง 23 กม. ว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (บีอีเอ็ม) ได้รับสัญญาจ้างเดินรถโครงการดังกล่าว ได้นำขบวนรถไฟฟ้าเข้ามาครบทั้ง 21 ขบวน จำนวน 63 ตู้ เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับทยอยนำขบวนรถไฟฟ้าออกทดสอบจากศูนย์ซ่อมบำรุง หรือเดปโป้ที่คลองบางไผ่ มายังสถานีตามแนวเส้นทาง ล่าสุดทดสอบวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาถึงสถานีพระนั่งเกล้าแล้ว คาดว่าจะค่อยทยอยทดสอบมาถึงสถานีปลายทางเตาปูนภายในเดือน มี.ค.นี้,นายพีระยุทธกล่าวว่า การทดสอบเดินรถจะทำไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเดือน ส.ค.2559 สำหรับช่วงเวลาการเปิดให้ประชาชนขึ้นไปทดลองนั่งรถไฟฟ้าก่อนเปิดให้บริการจริงนั้น ทาง รฟม.ได้ประสานกับบริษัท บีอีเอ็ม ขอให้ปรับแผนเร็วขึ้น เป็นเดือน พ.ค.ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอม จากเดิมประมาณเดือน ก.ค. ทางบริษัท บีอีเอ็ม แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการเตรียมพร้อมของระบบจะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. เพราะหากเร่งรัดเร็วเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการให้บริการและความปลอดภัยได้. | ขบวนรถไฟฟ้าสีม่วง ถึงไทยครบแล้ว 21 ขบวน ทดลองวิ่งข้ามเจ้าพระยาถึงสถานีพระนั่งเกล้า ยันเปิดให้คนนั่งเดือน ก.ค. ก่อนเปิดจริง ส.ค.59 นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึง | null | รถไฟฟ้าสายสีม่วง,รถไฟฟ้าสีม่วง,บางใหญ่-บางซื่อ,ทดลองเดินรถ,รถไฟฟ้า,พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล,รฟม.,ทดสอบวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา,สถานีพระนั่งเกล้า,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/579444 |
ร้องรัฐเยียวยาเท่าเสื้อแดง ถกตั้ง 12 ทีมช่วยดับไฟใต้ | วันที่ 12 มกราคม 2555 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกรรมการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนภาคประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ประมาณ 100 คน นางคอดีเยาะ หะหลี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งบิดาเสียชีวิตในเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 กล่าวในที่ประชุมว่า ตนคิดจะเลิกต่อสู้ให้มีการช่วยเหลือเยียวยาจากกรณีที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่เมื่อทราบว่ารัฐบาลจะมอบเงินช่วยเหลือเยียวยากลุ่มคนเสื้อแดง เสื้อเหลืองที่เสียชีวิตรายละเกือบ 8 ล้านบาท ทำให้ตนต้องลุกขึ้นมาพูดเรื่องนี้ว่า คนในพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าจะเยียวยาก็ต้องให้เท่าเทียมกัน พล.ต.อ.ประชา กล่าวตอบเรื่องนี้ รับที่จะนำเรื่องนี้ไปคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน แต่มติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2555 เห็นชอบให้ช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตรายละ 4.5 ล้านบาท ไม่ทราบว่าทำไมข่าวออกมาว่าเกือบ 8 ล้านบาท นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือถึงการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่มีการร่างรายชื่อไว้เป็นกรอบในการพิจารณา รวม 12 ชุด เช่น คณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์การเยียวยา คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การเยียวยา คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาข้าราชการ คณะอนุกรรมการการสื่อสร้างเพื่อสร้างความเข้าใจ คณะอนุกรรมการฮัจย์ คณะอนุกรรมการระบบการรักษาความเป็นธรรม คณะอนุกรรมการป้องกันผู้บริสุทธิ์ เป็นต้น ที่ประชุมได้มีการแสดงความเห็นกันอย่างหลากหลายถึงการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เช่น คณะอนุกรรมการระบบการรักษาความเป็นธรรม โดยนายอนุกูล อาแวปูเตะ ประธานศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ถ้าระบบความยุติธรรมหมายถึงกระบวนการยุติธรรม น่าจะไม่เข้ากับเรื่องกฎหมายอิสลาม พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า คณะอนุกรรมการชุดนี้ยังไม่ต้องการให้แตะไปถึงกระบวนการยุติธรรมปกติ เพราะอาจเป็นการละเมิดอำนาจศาล ส่วนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นเรื่องการรักษาความเป็นธรรม ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ในฐานะกรรมการ กล่าวว่า ถ้าไม่แตะไปถึงกระบวนการยุติธรรมก็น่าจะแก้ปัญหาความยุติธรรมไม่ได้ ดังนั้นคณะอนุกรรมการจึงน่าจะประมวลปัญหาทั้งหมดแล้วเสนอให้รัฐบาลเป็นผู้แก้ไข ส่วนประเด็นการตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การเยียวยา พล.ต.อ.ประชา ได้มอบให้ศอ.บต.นำมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการเยียวยาผู้เสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมืองมาใช้ในการพิจารณาในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ด้วย ส่วนประเด็นการตั้งคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาข้าราชการ พล.ต.อ.ประชา ได้มอบหมายให้พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.)รับดำเนินการเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาข้าราชการที่ได้รับผลกระทบที่ได้ย้ายออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว นายอับดุลรอซัก อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การช่วยเหลือเยียวยาของรัฐไม่มีการติดตามประเมินผล ทำให้ไม่ทราบว่าผู้ได้รับการช่วยเหลือเยียวสามารถช่วยเหลือตัวเองแล้วหรือไม่ เช่น กรณีคนร้ายกราดยิงในมัสยิดไอร์ปาแย จังหวัดนราธิวาส จึงควรติดตามประเมินผลด้วย นายแพทย์อนันต์ชัย ไทยประทาน ที่ปรึกษาสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย ในฐานะกรรมการ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานด้านยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพียงชุดเดียว คือ คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ หรือ กอส. ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ไม่มีคณะกรรมการที่ทำงานลักษณะนี้ จึงเสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการลักษณะนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยให้ทำงานในระยะยาวไม่ใช่ 1 ปี พล.ต.อ.ประชา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อจะกำหนดแนวทางการทำงานของคณะกรรมการเยียวยาฯ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 โดยเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมทางการเมือง โดยในส่วนของพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ใช้มาตรการช่วยเหลือเยียวยากับผู้ที่ได้รับผลกระทบอันเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลเป็นรูปธรรมอย่างถูกต้องต่อไป พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มีหลักการส่วนหนึ่งคือ ต้องให้สอดรับกับหลักศาสนา ซึ่งหลังจาก ศอ.บต.ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด เมื่อหลายวันก่อน คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาว่า ควรมีการพิจารณาคดีความที่เกี่ยวกับครอบครัวและมรดกอิสลาม และขอให้หน่วยงานภาครัฐส่งเสริมการใช้ภาษามลายูในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ศอ.บต.มีนโยบายเร่งด่วนในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ โดยเน้นครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน เด็กกำพร้า ทั้งในเรื่องทุนการศึกษา การส่งเสริมอาชีพ โดยการเยียวยาในด้านต่างๆ ต้องสอดคล้องกับหลักศาสนา เป็นการเยียวยาอย่างเร่งด่วน ทั้งด้านเงินและด้านจิตใจอย่างยั่งยืน สำหรับคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ให้ถ่ายโอนภารกิจการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สำหรับรายชื่อคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วย - พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธงทอง จันทรางศุ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดลนางจิราพร บุนนาค อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายเจริญ หมะเห ประธานชมรมสรรหาคนดีศรีทักษิณ นายถิรชัย วุฒิธรรม โฆษกกระทรวงยุติธรรม นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ ผศ.ปิยะ กิจถาวร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) แพทย์หญิง เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ดร.เมตตา กูนิง อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ.ปัตตานี และศูนย์ประสานงานวิชาการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ จังหวัดชายแดนใต้ (ศว.ชต.) รศ.รัตติยา สาและ อาจารย์คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีมลายูศึกษา นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย น.ส.ศุภวรรณ พึ่งรัศมี จาก ศว.ชต. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายแพทย์ อนันต์ชัย ไทยประทาน ที่ปรึกษาสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ นายอิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีวิทยาลัยอิสลามยะลา ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่วน เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นกรรมการและเลขานุการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล จากกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการอื่นจำนวนไม่เกิน 3 คนที่เลขาธิการ ศอ.บต.แต่งตั้ง | รัฐมนตรียุติธรรมนำประชุมกรรมการเยียวยา เหยื่อไฟใต้ร้องช่วยเท่าผู้ชุมนุมทางการเมือง พล.ต.อ.ประชา รับไปคุยกับนายกฯ ถกตั้งอนุกรรมการ 12 ชุดช่วยดับไฟใต้ เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | กระบวนการยุติธรรม,ชายแดนใต้,ยุติธรรม,เยียวยา | https://prachatai.com/journal/2012/01/38726 |
กราดยิงชาย-หญิงเสียชีวิตในบ้านพักที่ยะลา | เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 พ.ค.2561) ผู้ก่อเหตุกราดยิงประชาชนใน ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเจ้าหน้าที่พบศพนายมะรอพี ลาเกาะ อายุ 25 ปี และนางสาวยูนัยน๊ะห์ มะรานอ อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้าและอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณศีรษะและลำตัวหลายนัด จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายมะรอพี ลาเกาะ กำลังนั่งพูดคุยธุระกับ น.ส.ยูนัยน๊ะห์ มะรานอ ภายในบ้านพัก ได้มีผู้ก่อเหตุไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าและอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. บุกเข้ามากระหน่ำยิงทั้งคู่จำนวนหลายสิบนัด จนทำให้ทั้งคู่ล้มลงและเสียชีวิตเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ | เกิดเหตุกราดยิงชาย-หญิง เสียชีวิต 2 คนที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ตัดประเด็นสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ | ภูมิภาค | ยะลา,กราดยิง,กราดยิงชาย-หญิง,ปืนอาก้า,ปืนพกสั้น,สร้างสถานการณ์,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272450 |
อุ้ม ยังคบ บอล กฤษณะ แต่ไร้แพลนแต่ง คดีความผิดถูกปล่อยไปตามกฎหมาย | อุ้ม ลักขณา ขอโทษทุกคนที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย บอกตอนนี้พร้อมแล้วถึงได้รับงาน ย้ำสถานะกับ บอล กฤษณะ ยังคบกันอยู่เหมือนเดิม แต่เรื่องงานแต่งยังตอบไม่ได้ เป็นเรื่องขออนาคต รอดูกันต่อไป ส่วนเรื่องคดีความของฝ่ายชายอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมอยู่ สัมพันธ์กับจียอน ยังคงเป็นห่วง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน, , หายหน้าหายตาไปจากการออกงานไปนานหลังจากที่มีเรื่องคดีความแฟนหนุ่มสั่งกระทืบลูกนายพล วันนี้ อุ้ม ลักขณา ก็ได้ฤกษ์ออกมาเจอนักข่าวที่งาน เปิดตัวภาพยนตร์ KONG SKULL ISLAND คอง มหาภัยเกาะกระโหลก ณ โรงภาพยนตร์ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็ม ควอเทียร์ ซึ่งนักข่าวก็ได้อัพเดตเรื่องความสัมพันธ์ของอุ้ม และ บอล กฤษณะ แฟนหนุ่ม ว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งเรื่องคดีความ ซึ่งสาวอุ้มเผยว่า,ทำไมตัดสินใจรับงานนี้ ไม่รับงานนานมากแล้ว? คิดว่าทุกคนคงคิดถึงอุ้มกันเนอะ ทำไมถึงรับ ก็ด้วยระยะเวลาหลายๆ อย่างมันก็ลงตัวแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าคิดถึงทุกๆ คน อุ้มก็ต้องขอขอบคุณก่อนและขอโทษที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่ว่าทุกคนก็เข้าใจ ตอนนี้สภาพจิตใจโอเคขึ้นมั้ย? ตอนนี้โอเคค่ะ ความรักล่ะ มีข่าวออกมาว่าเลิกกับบอลแล้ว? คือต้องบอกว่าทุกสิ่งที่อย่างในการคบกันหรืออะไรก็แล้วแต่อุ้มอยู่ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ตลอด ไม่ว่าเรื่องราวอะไรก็แล้วที่เกิดขึ้นคุณพ่อคุณแม่รับรู้ทุกเรื่องทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นตอนนี้และความรัก ณ ตอนนี้ ไม่ว่าอุ้มรักใคร คุณพ่อคุณแม่ก็รักด้วย และได้มีการเข้ามาพูดคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ ก็ยังคบกันอยู่ค่ะ ที่เข้มาคุยคือเรื่องที่จะแต่งงาน? อ๋อ ณ ตรงจุดนั้น อุ้มยังไม่ขอพูดถึงนะคะ เอาเป็นว่า ณ ตอนนี้เราแค่อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นความเป็นจริง ณ ตอนนี้ให้กำลังใจซึ่งกันและกันซึ่งอุ้มเชื่อว่าถ้าเราทั้ง 2 คนเป็นเนื้อคู่กันยังไงมันก็คงได้มีวันนั้น แต่ ณ วันนี้ก็แค่รู้สึกว่าคนเราเวลาที่มีความสุขเราก็มีความสุขด้วยกัน เวลาที่เราหัวเราะ เราก็หัวเราะด้วยกัน แต่ถ้าเวลาที่ลำบากเราก็ต้องลำบากไปด้วยกันค่ะ ยังเจอกันปกติ ไปไหนมาไหนด้วยกัน? ก็เจอกันบ้าง ต่างคนก็ต้างมีภาระหน้าที่ในการทำงาน ก็มีการเจอกันบ้างไปไหนกันปกติ อุ้มก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เพียงแต่ว่าก็ไม่ได้มาออกข่าวหรือลงโซเชียล,จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความรักของอุ้มสะดุดไปมั้ย? อุ้มว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่มีทั้งแง่ดีและไม่ดี ในเรื่องที่ไม่ดีก็มีเรื่องที่ดีเกิดขึ้น มันไม่ใช่อุปสรรคแต่เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปดีกว่าค่ะ พิสูจน์อะไรกันบ้าง? อุ้มมองว่าเป็นเรื่องของอนาคต ให้ดูที่ปัจจุบันเพราะว่าอุ้มก็ยังมีสถานะภาพที่เหมือนเดิม มีอะไรที่ยังเป็นห่วงบอลมั้ย? ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ดอกไม้ที่ได้ในวันวาเลนไทน์ก็คือบอลให้? ใช่ค่ะ (ยิ้ม) เป็นกำลังใจให้บอลเยอะมั้ยที่ผ่านมา? ก็เป็นกำลังใจให้กันและกันค่ะ ตัวอุ้มก็มีครอบครัวที่เป็นกำลังให้เรา เราก็เป็นกำลังใจให้เค้า อุ้มว่าที่สำคัญที่สุดในชีวิตอุ้มไม่ใช่พี่บอลคนเดียว แต่คนที่ทำให้อุ้มเดินผ่านมาถึงตรงนี้ได้คือครอบครัว (ยิ้ม) สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไม่ค่อยได้ระบาย? มันผ่านมาแล้ว ก็ไม่อยากไปนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่ผ่านมา แต่ ณ ปัจจุบันอุ้มเข้มแข็งดีค่ะ อุ้มไปปฏิบัติ เข้าวัด? อ๋อๆ เรื่องของการเข้าวัด จริงๆ แล้วอุ้มเป็นคนเข้าวัดอยู่แล้วนะคะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าพอมีปัญหาถึงต้องเข้าวัด ครอบครัวอุ้มเป็นครอบครัวที่ชอบทำบุญอยู่แล้ว แต่ ณ ช่วงเวลานั้นเราก็อยากจะมีที่พึ่งทางใจบ้าง ก็เลยเข้าวัดทำบุญเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ช้ำมากถึงกับต้องไปบวชค่ะ,ในส่วนของคดีความดำเนินการไปถึงไหน? ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นศาลก็ปล่อยให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปถามถูก ในส่วนของตัวอุ้มคนที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นก็ต้องเข้าไปเป็นพยาน เพียงแต่ว่ายังไม่ถึงเวลาว่าจะต้องขึ้นตอนไหน รวมทั้งหมาก แต้ว และ มิวด้วย? อุ้มไม่ทราบว่าทางตำรวจจะเรียกใครบ้าง บอลให้ความร่วมมือตลอด? ใช่ค่ะ ไปรายงานตัวทุกครั้งที่มีการเรียก ไม่เคยหนี ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้คนมองอุ้มกับบอลในแง่ลบ อยากจะบอกอะไรคนที่คิดอย่างนั้นมั้ย? คุณพ่อคุณแม่อุ้มยังอยู่ สิ่งสำคัญคือคนในครอบครัวอุ้มรู้ดีที่สุดค่ะว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าอุ้มไม่ได้แคร์ว่าสังคมจะมองยังไง อุ้มเป็นนักแสดง เป็นคนสาธารณะ มีทั้งคนรักและคนเกลียด มีคนทั้งเข้าใจผิดและเข้าใจถูก ทุกอย่างอุ้มน้อมรับในสิ่งที่ทุกคนจะพูดยังไงก็ได้ เพียงแต่ว่าอุ้มเชื่อว่า ณ วันนึงเวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไร หลังจากที่เกิดเรื่อง บอลเข้าไปคุยกับที่บ้านหรือยัง? พี่บอลคุยกับครอบครัวอุ้มตลอดเวลาไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเรื่อง ปกติพี่บอลจะเข้าออกที่บ้านเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่อุ้ม และคุณพ่อคุณแม่พี่บอล รับทราบทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทุกๆ ขั้นตอนในการดำเนินชีวิตของเรา 2 คนอยู่ในสายตาผู้ปกครอง แม้อุ้มจะอายุ 34 แล้ว แต่อุมก็ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ตลอด เพราะฉะนั้นทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่อุ้มรับทราบหมดค่ะ ทุกอย่างมีแนวโน้มจะไปในทิศทางที่ดี? ก็อย่างที่บอกค่ะว่า เวลาจะบอกเองว่าอะไรเป็นอะไร,จากข่าวที่เกิดขึ้นคนมองว่าบอลเป็นมาเฟีย เรารู้สึกอย่างไร? จริงๆ ถ้าไม่เกิดข่าวคนก็มองว่าพี่บอลเป็นมาเฟียอยู่แล้ว คนจะเห็นว่าพี่บอลทั้งสัก ทั้งเจาะ ตัวดำ หน้าตาดูไม่เรียบร้อย ดูเป็นคนโหดๆ จริงๆ ไม่ต้องมีข่าวคนก็มองแบบนั้นอยู่แล้ว ตัวอุ้มเอง จริงๆ เป็นคนอย่างไร คนก็ไม่รู้จักตัวอุ้มจริงๆ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกว่าอุ้มดูร้าย ดูแรง เพราะอุ้มเล่นบทนางร้าย อุ้มเป็นตัวร้าย ก็สามารถที่จะคิดกันไปได้ค่ะว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไรแล้วแต่เค้าจะคิด จนกว่าจะได้เข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง อุ้มไม่ออกตัวให้พี่บอล ไม่รับแทนพี่บอลว่าพี่บอลเป็นมาเฟียหรือพี่บอลเป็นคนดี ถ้ารู้จักก็จะรู้กันเองค่ะว่าเค้าเป็นคนยังไง ดูที่คุณพ่อคุณแม่อุ้มดีกว่าค่ะว่าเค้าเลี้ยงดูอุ้มยังไง เค้าปลูกฝัง ถ้าคุณพ่อคุณแม่โอเคและมีความสุขในสิ่งที่ลูกมีความสุขก็แค่นั้นแหละค่ะ คดีความทำให้งานแต่งเลื่อนหรือชะงักไปหรือเปล่า? จริงๆ เรื่องการแต่งงานยังไม่มีแพลนตั้งแต่แรกว่าเราจะแต่งเมื่อไหร่ แค่คิดกันเฉยๆ ว่าคนเราคบกัน เราก็อายุเยอะแล้ว เราก็แค่มองว่าอาจจะมีวันนั้น แต่ในเรื่องของการแต่งงานตอนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต จะเบรกงานในวงการบันเทิงมั้ย? ไม่ได้เบรกค่ะ ก็กลับมาทำงานตามปกติ ตอนที่เกิดเรื่องที่ไม่รับงานเพราะอยากจะให้เรื่องมันสงบก่อนแล้วค่อยออกมาพูดทีเดียว เคยถามบอลว่าอยากจะออกมาพูดมั้ย เพราะตั้งแต่มีเรื่องโดนคนขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ มากมาย? ไม่ได้ถามค่ะ เพราะว่าพี่บอลไม่ได้พูดเรื่องส่วนตัวมากมาย อยากให้บอลออกมาชี้แจงบ้างมั้ย? อย่างที่บอกค่ะ ถ้าวันนึงการตัดสินทุกอย่างเรียบร้อย จบสิ้นตามกระบวนการอุ้มว่าวันนั้นคนคงจะรู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร พี่บอลถึงจะออกมาพูดค่ะ หมอดูทักว่าคบกันแล้วอาจจะไม่รอด มีการไปแก้ดวงมั้ย? มีทั้งด้านบวกและด้านลบค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอามาสิ่งไหนมาปฏิบัติมากกว่า เรื่องไหนไม่ดีอุ้มก็น้อมรับฟัง ส่วนการทำบุญก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็ดี ทำให้พี่บอลได้ทำบุญมากขึ้นด้วย เรื่องที่ไม่ดีก็เก็บไว้เป็นบทเรียนให้กับชีวิตดีกว่า มีข่าวว่าบอลจะบวช? บวชไปแล้วค่ะ ไม่ระบุแล้วกันว่าบวชเมื่อไหร่ แต่บวชไปแล้วเรียบร้อยค่ะ อุ้มไม่ได้ไปงานบวชค่ะ อุ้มทำงานไม่แน่ใจว่าเค้าบวชกี่วัน,มีลายสักใหม่? จริงๆ ก็สักมานานแล้วค่ะ แต่ไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ รู้สึกว่าไปเที่ยวกับครอบครัวนานๆ ทีลุกขึ้นมาเซ็กซี่บ้างดีกว่า (หัวเราะ) ข่าวจียอน มีคนมองว่าแก๊งเราแตกแล้ว? ไม่ได้แตกค่ะ แต่ว่าไม่ค่อยได้เจอกันไม่ค่อยได้คุยกันมากกว่า แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน? ไม่ได้มีปัญหาค่ะ ต่างคนต่างใช้ชีวิต จียอนโดนกระแสข่าว มีได้ให้กำลังใจบ้างมั้ย? คือตัวอุ้มเองก็ปัญหาเยอะ แต่ก็อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ค่ะ เรื่องความสัมพันธ์ ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันมันแน่นอนอยู่แล้วเราก็ยังมี เพียงแต่ว่า ณ วันนี้ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ที่จะต้องดำเนินต่อไป อุ้มเชื่อว่าจีก็น่าจะรู้ว่าลึกๆ แล้วว่าอุ้มยังรักและหวังดีกับเค้ามาตลอด อุ้มโพสต์ข้อความในไอจี คนมองว่าอุ้มเหน็บจียอน? ว้าย ไม่เหน็บค่ะ ไม่ได้เหน็บจียอน ในเรื่องของเพื่อนเราก็แค่ไปอ่านเจอมาแล้วรู้สึกว่ามันก็จริงนะ ก็เลยโพสต์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใคร ช่วงนี้ดูห่างเหินกัน? ก็ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ ตัวอุ้มก็แทบไม่ได้เจอกับชมพู่ น้อยมาก นานๆ เจอกันที แต่ทุกครั้งที่กลับมาคุยกัน ก็รู้สึกว่าพู่ก็คือเพื่อนเรา ยังคุยกันได้ทุกเรื่องเหมือนเดิมค่ะ ปีนี้น่าจะมีงานแต่งมั้ย หลายคนรอ? ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ (ยิ้ม) เรื่องของการแต่งงานอุ้มเชื่อว่าทุกคนต้องอยากแต่งงานอยู่แล้วเมื่อถึงวันนึง แต่ก็ต้องดูว่าเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราภูมิใจว่าน้องเรามีความสุขแล้ว และจุดที่เรายืนอยู่มันก็โอเคแล้ว เพราะเรื่องคดีความที่มีส่วนทำให้ยังไม่ทราบเรื่องแต่งงาน? ก็อย่างที่บอกค่ะว่าทุกสิ่งทุกอย่างให้มันดำเนินไปตามขั้นตอนค่ะ | อุ้ม ลักขณา ขอโทษทีก่อนหน้านี้ไม่ได้ตอบคำถาม บอกตอนนี้พร้อมถึงรับงาน ย้ำสถานะกับ บอล กฤษณะ ยังคบกันอยู่ แต่เรื่องงานแต่งยังตอบไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีความของฝ่ายชายอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมอยู่ สัมพันธ์จียอน ยังเป็นห่วง | ข่าว | อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ,อุ้ม บอล,บอล กฤษณะ อมิตรสูญ,อุ้ม ไม่เลิก บอล,บอล แฟนอุ้ม | https://www.thairath.co.th/news/879351 |
ต่าย ชุติมา ตั้งใจทำขนมฝาก น้องพิพิม ไปให้ ทิม พิธา ทำคนลุ้นรีเทิร์น | มีเรื่องราวน่ารักๆ และโมเมนต์ดีๆ ระหว่างครอบครัวพ่อ แม่ ลูก ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ สำหรับ ต่าย ชุติมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีภาพกับอดีตสามี ทิม พิธา ที่ได้จูงมือลูกสาว น้องพิพิม ไปส่งที่โรงเรียนด้วยกัน ถึงแม้ทั้งสองจะแยกทางกันและแยกบ้านกันอยู่ แต่ก็ยังทำเพื่อลูกในสถานะพ่อกับแม่,ล่าสุด ต่าย ก็ได้โพสต์ภาพตัวเองที่กำลังทำขนม เพื่อให้ลูกสาวเอาไปฝากคุณพ่อได้ทานด้วย โดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชั่น พร้อมแท็กไปถึงอดีตสามีว่า งานเครียดดดดด กลัวไม่อร่อย ฝากพิพิมไปให้คูมพ่อแล้วกินด้วยนา @tim_pita #rabbityehomemade #ไม่ต้องช่วยลุ้นนาจา #ไม่มีอะไรทั้งน๊าน,งานนี้แฟนๆ ต่างเข้ามาคอมเมนต์ลุ้นกันเป็นจำนวนมาก เพราะอยากให้ทั้งคู่กลับมาเหมือนเดิม แต่ ต่าย ก็ดันทำฝันสลายนะนี่ เพราะเธอได้เขียนกำกับไว้ว่า ไม่ต้องช่วยลุ้นนะจ๊ะ ไม่มีอะไรทั้งนั้น โห เจอแม่ต่ายดักทางแบบนี้ แฟนๆ มีแอบเซ็งเหมือนกันนะเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ดีใจที่ทั้งต่ายและทิมยังมีโมเมนต์น่ารักๆ แบบนี้ถึงกันเสมอ | ต่าย ชุติมา ตั้งใจทำขนมไปฝาก ทิม พิธา หลายคนช่วยลุ้นอยากให้ทั้งสองกลับมาคืนดี ด้านเจ้าตัวรีบดักทาง ไม่มีอะไรทั้งนั้น | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ต่าย ชุติมา,ต่าย ทิม,ทิม พิธา,ต่าย ทิม คืนดี,ต่าย ทิม ลูก,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1692525 |
ไหนเป็นไงบ้าง ? เช็กความรู้สึก คนใกล้-คนไกลบ้าน เมื่อสงกรานต์งด | แต่มีหลายวิธีบอกผ่านความคิดถึง ทั้งคนใกล้-คนไกลบ้าน ถึงจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ชีวิตใช่จะมีแต่ความเหงา เรื่องราวที่ดีในช่วงเก็บตัว-หยุดเชื้อเพื่อชาติบางมุมคุณก็ยิ้มได้เล่าผ่าน 4 ชีวิต ของคนใกล้-คนไกลบ้าน บางคนต้องติดเกาะ-กักตัวอยู่ในที่พัก เพราะมาตรการปิดเมือง แต่บางที่งานหด กลับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ได้ กลับบ้าน1.ติดเกาะที่ ภูเก็ต ผู้เคยผ่านเวทีประกวดสู้เพื่อ มง (มงกุฎ) ผันตัวมาสู้เพื่อ หมา และบรรดาสัตว์เลี้ยงเต็มตัวหมอฟ้า เป็นคนลำพูน จบการศึกษา ป.ตรี คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)ตลอดวัยเรียน นอกจากเดินเปลี่ยนห้องเรียน เธอสลับเดินบนเวทีต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวทีนางงามที่ประกวดมาแล้วหลายเวทีของประเทศ แต่เมื่อเรียนจบและบินออกจากเชียงใหม่เมื่อปี 2559 ก็ย้ายมาทำงานที่คลินิกสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต อยู่เป็นนานถึงปัจจุบันซ้าย-ฟ้า พรรณภา กึ่งวงษ์ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติคงไม่เป็นไร เพราะเธอคนนี้ บินไป-บินมา ระหว่าง ภูเก็ต-เชียงใหม่ เป็นประจำแต่เมื่อภูเก็ตกลายเป็นพื้นที่ระบาด บางช่วงอัตราผู้ติดเชื้อต่อประชากรสูงเสียยิ่งกว่ากรุงเทพฯเพราะหากเป็นช่วงนี้ของปีที่แล้ว เธอคงจะ ปกติฮา (คำเรียกตัวเองของคนเหนือ) อยู่บ้านแล้ว รดน้ำดำหัว ไปเที่ยวหาญาติๆ พักผ่อน ไปดูคนเล่นน้ำที่เชียงใหม่แต่ไม่เล่นนะนั่นแหละนะ วิถีปกติ-ที่ไม่ปกติ ไม่แปลกที่จะตอบแบบนั้น เพราะหากเป็นช่วงเวลานี้ ที่คนเหนือเรียกว่า ปี๋ใหม่เมือง พ่อแม่คงพาลูกๆ ไปรดน้ำดำหัวปู่ย่าตายาย หรือไม่คงรวมตัวกันร้องคาราโอเกะที่ไหนซักที่ลแม้อยู่ที่ภูเก็ต ตามคำเธอว่า แต่หน้างานที่เธอรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ ไม่มีคำว่า เหงา -เบื่อหมอหมา หรือสัตวแพทย์ เป็นอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ยิ่งสถานพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ ถ้ามีทั้งโรงแรม ร้านค้า และคลินิก ต้องบริหารคนให้พอดีกับงาน แต่กับบางหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ชีวิต งานหนักกว่าเดิมที่ทำงานของ หมอฟ้า แบ่งงาน-แบ่งเวลาทำงานเหมือนกัน แม้บางกะบางเวรคนทำงานจะน้อยลง แต่คนเข้าบริการไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะภูเก็ต ล็อกดาวน์ และบางพื้นที่ห้ามเดินทางข้ามตำบลอาจจะมีบ้างที่คนไกลบ้านไม่ได้กลับบ้านไปรับการดูแลจากครอบครัว แต่จะให้เธอเหงาได้อย่างไร ในเมื่อหมา-แมว ที่เธอรักยังรอการรักษาส่วน แม่ ที่เธอแสนคิดถึงนั้น Video Call คุยกันทุกวัน วันไหนอยู่นอกบ้านการโทรศัพท์ก็พอใช้ได้2.ปีนี้ได้กลับบ้าน อดีตช่างแต่งหน้า (บางครั้งยังรับแต่งหน้าอยู่) ผันตัวมาเป็นผู้ออกแบบและผลิตเครื่องประดับโบราณ และหลายงาน คุณเจ คือ ผู้จัด ที่ดีไซด์งานให้เป็นรูปเป็นร่างแต่เมื่อเชียงใหม่ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือ ปิด แม้ไม่ปิดด้วยคำสั่ง แต่การท่องเที่ยวก็ปิดตัวโดยปริยาย เมื่อไม่มี Event สงกรานต์ที่เป็นงานใหญ่อย่างทุกปีคุณเจ อ่านเกมขาดแต่ต้น ตั้งแต่ต้นปีเมื่อมีโควิด-19 ระบาด และเชียงใหม่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ เดือน ก.พ.- มี.ค.ผู้อยู่ในวงการจึงอ่านสัญญาณได้ไม่ยากซบยาว คุณเจ เชื่ออย่างนั้น จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ จ.สุโขทัย แต่เนิ่นๆ ยอมกักตัว 14 วัน และอยู่ที่นั่นจนถึงวันนี้พูดอีกครั้ง ที่ว่านาน นานหลายปีตั้งแต่ คุณเจ เรียนจบ เพราะช่วงเวลานี้ คือ เงินทอง ของคนในวงการ Eventปีนี้กลับบ้าน โดนยกเลิกงานตั้งแต่ช่วงแรก กลุ่มที่ตัดสินใจกลับบ้านถือว่าดี กลุ่มทีไม่กลับ ซบยาว ไม่มีรายได้และค่าใช้จ่ายเท่าเดิมทันทีที่ คุณเจ ถึง จ.สุโขทัย แล้วกักตัว 14 วัน โดยแยกบ้านกับพ่อแม่ เมื่อครบกำหนด คุณเจ เริ่มโครงการใหม่ทันที เพราะเชื่อว่าท่องเที่ยวเชียงใหม่ ซบยาว เริ่มลงมือลงแรงปลูกพืชผักสวนครัวยิ้มน้อยๆ เมื่อเหลือเวลาทำกับข้าวกับพ่อแม่ ที่ตั้งแต่จบมาทำงานก็ไม่ได้กลับมาช่วงสงกรานต์ นอกนั้นยังได้ช่วย พ่อแม่ ดูแลสวนส้มคุณเจ ถือว่าเป็น ผู้โชคดี ไม่มีหนี้สิน-ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ผมไม่ชอบผ่อนการงาน เมื่อไม่มี Event จึงไม่จำเป็นต้องอยู่เก็บตัวที่เชียงใหม่ ที่วันหนึ่งไม่ต่ำ 300-400 บาท แต่กลับมาบ้านวันละ 100 บาทก็เกินพอ ที่สำคัญ คุณเจ เน้นย้ำคือการวางแผน เมื่อแผนดีไม่มีภาระหนี้สิน3.ครูเช็ค เช็ก อะโหล อะโหลเช็ก อะโหล อะโหล เสี่ยงมัคทายกเช็กไมค์ในงานบุญ ก่อนเสียงปี่แน-แตรวงจะดังขึ้นขบวนแห่ไม้ก้ำ (ไม้ค้ำยัน) จะเข้าวัด เพื่อทำบุญเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตใหม่ในเทศกาล ปี๋ใหม่เมือง หรือเทศกาลสงกรานต์ประเพณีหลักที่จัดขึ้นแทบทุกวัด นอกจากการดำหัวขอพร ก็จะมีงานแห่ไม้ก้ำ หรือ ไม้ค้ำยันเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นหนึ่งในนักดนตรีพื้นเมือง ที่ร่วม วงแห่ ลักษณะนี้ ตั้งแต่เรียนมัธยมยันมหาวิทยาลัย และกระทั่งเรียบจบมาเป็นครูถ้าเป็นช่วงเวลานี้ของกู่ปี๋ (ทุกปี) งานชุก ครูเช็คกล่าวปกติช่วงนี้ของปีตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ครูเช็ค รับงานแทบไม่มีหยุด การแห่ปี๋แน นำขบวนแห่ไม้ค้ำ เป็นงานหนึ่งของครูเช็คคิดถึงงาน จึงไม่ใช่แค่งาน แต่เป็นผู้คน ผู้คนที่นับรวมถึงผู้มาร่วมกิจการงานบุญ และเพื่อนพ้องลูกศิษย์ที่มาร่วมขบวนแห่แม้ไม่มีขบวนแห่ไม่ค้ำยัน-งานดำหัว (ปกติจะมีงานบุญดำหัวเจ้าอาวาสทุกวัด เวียนกันไป) แต่สถานที่และเวลาในยุคนี้เปลี่ยนช่องทางออนไลน์จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ครู-ศิษย์ หรือเพื่อนได้รวมตัวให้ลูกศิษย์ส่งการบ้านผ่านเฟซบุ๊ก อัดคลิป ประลองฝีมือ สีสะล้อ-ดีดซึง ให้ครูเช็ค ได้เช็กและคอมเมนท์ส่วนคนที่ขยันเป็นพิเศษ ครูเชคเปิดโอกาสให้มาทดสอบกันสดๆ ผ่านทางวิดีโอคอล ถึงขั้นเช็กทุกเม็ด (เม็ด คือ ตัวโน๊ตในดนตรีพื้นเมือง รวมถึงลูกเล่นที่ใส่ในเพลงด้วย)ครูเชครู้สึกดีที่อย่างน้อยได้พักผ่อน แต่ครูเชคก็รู้สึกดีว่า กึ๊ดเติงหาความเป็น ครู ทั้ง 2 มิติ ไม่ว่าครูดนตรีพื้นเมือง หรือครูสอนภาษาไทย การปิดภาคเรียน และส่งเสริมการเรียนออนไลน์ยังเป็นปัญหาแก้ไม่ตกเพราะ internet ไม่ได้ดีทุกที่ และ internet ไม่ได้มีทุกบ้าน นี่จึงไม่ใช่แค่ความคิดถึงห่วงหา แต่คือความคิดถึงถึงเยาวชนใน ฤดูโควิด ด้วย4.Misscall จาก ยะลา ถึง อุดรธานีชีวิตไม่ติดบ้าน เหมือนจะเหมาะกับชีวิตสาวยะลา อย่าง ไม่ติดบ้าน ไม่ได้แปลว่าเธอมีบ้าน แล้วชอบเที่ยวนอกบ้าน แต่ชีวิตตั้งแต่เริ่มมหาวิทยาลัย เธอคือนิยามของคนไกลบ้านโดยแท้สาวยะลา ที่แอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เรียนจบเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ กระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาย้ายไปทำงานในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งที่ จ.อุดรธานีใต้ เหนือ กลาง อีสาน เธออยู่อย่างจริงจังมาเกือบทุกภูมิภาคของประเทศไทยขวา-กวาง กมลเนตร มีชัยแน่นอนว่าชีวิตเธอ ห่างไกลครอบครัวเป็นปกติ และช่วงเทศกาลคือเวลาสำคัญที่จะอยู่พร้อมหน้า-ครบคนปีนี้คุณกวางมีแพลนอันซับซ้อน เพราะพ่อแม่ น้องสาว และญาติๆ อยู่กันคนละที่ละทางเธอวางแผน ขับรถไปกรุงเทพฯ ไปที่บ้านน้องสาว และรอแม่บินมาจากใต้ (แม่และพ่อมีบ้านที่ จ.ยะลา) เพื่อมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ โดยมี เธอ น้องสาว และแม่จากนั้นค่อยนั่งเครื่องกลับไปใต้ ลงสนามบิน จ.สงขลา เพื่อไปเยี่ยมตา-ยาย ที่นั่น และพ่อของเธอก็ขับรถจากยะลาตามมาสมทบฟังดูซับซ้อน แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกของคนไกลบ้าน ที่พวกเขาจะต้องวางแผนเดินทางแบบนี้ เพราะพ่อแม่มาเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ ก็เพื่อมาดูความเป็นอยู่ และการที่ลูกกลับไปบ้านเกิด ก็เพื่อเยี่ยมเยือนตายายและญาติๆเอาเป็นว่า ปีนี้ แพลนของเธอถูกพับเก็บ เพราะแม้แต่พ่อแม่ก็ต้องเก็บตัวอยู่ที่ จ.ยะลา ไม่เดินทางไปเยี่ยมตายายที่ จ.สงขลา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อขณะที่ เธอและน้องสาว เดิมทีที่มีแผนไปรวมตัวกันที่กรุงเทพฯ ก็พับแผนทันที่เมื่อโควิด-19 ระบาดแม้ว่าพ่อแม่ของพวกเธอลองพยายามจะมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ แล้วในช่วงแรกๆ ที่เริ่มมีการปิดเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องขออนุญาตจากหลายระดับ ตั้งแต่ท้องที่ยันคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดโทรหาแม่ทุกวันอย่างที่ทำอยู่แล้ว แต่ตากับยายแก่มากแล้ว เวลาโทรหาต้องโทรหาลุงป้า ปีนี้ต้องบอกแก เพราะปกติลูกหลานไปหา แต่ปีนี้ไปกันไม่ได้ แม้แต่พ่อแม่ก็ไปไม่ได้เงียบ ที่ว่าไม่ได้หมายถึงผู้คนที่ไม่พลุกพล่านย่านหอพัก แต่หมายถึง เงียบเชียบ จริงๆ เพราะคนวัยทำงานส่วนใหญ่ย้ายออกหอเกือบหมด เหลือเพียง 3-4 ห้อง ของคนที่ทำงานประจำ และยังได้เงินเดือนเลี้ยงปากท้อง ส่วนที่เป็นลูกจ้างล้วนแต่ย้ายหนีกลับภูมิลำเนา เพราะที่ จ.อุดรธานี ยังเข้าออกได้สงกรานต์ ที่ไม่มีสงกรานต์ ถ้ารู้สึก คิดถึง คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เชื่อเถอะว่านับร้อยนับพันความคิดถึงของผู้คนในตอนนี้ จะมีเรื่องราวดีๆ ที่คุณ คิดถึง และชวนให้ยิ้มออกมา | กึ๊ดเติงหา หวังเหวิด คิดฮอด คำพูดคนเหนือ ใต้ อีสาน ใช้พูดแทนความ คิดถึง แม้ปีนี้ไม่มีสงกรานต์ | สังคม | สงกรานต์,โควิด19,คิดถึงบ้าน | https://news.thaipbs.or.th/content/291090 |
กรธ.เล็งเปิด 2 ร่าง ก.ม.ลูก สัปดาห์หน้า ดับฝัน พระ ห้ามยุ่งการเมือง | เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างแรกกฎหมายลูก ว่าด้วย กกต. และพรรคการเมือง ว่า ยังไม่เรียบร้อยดี สัปดาห์หน้า กรธ.ยังนัดประชุมตามปกติ โดยวันที่ 28-29 พ.ย. ที่ประชุม กรธ.จะทบทวนร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับอีกครั้ง คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ โดยรูปแบบการนำเสนอจะหารือกับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. อีกครั้งว่า จะแถลง หรือจัดสัมมนาเชิญทุกฝ่ายมารับฟังคำอธิบายเจตนารมณ์และหลักการของ กรธ. แล้วเปิดให้แสดงความคิดเห็นให้ กรธ.นำไปพิจารณาก่อนจัดทำเป็นร่างสุดท้าย ,สำหรับการส่งให้ สนช.พิจารณา กรธ. จะส่งร่างสุดท้ายของกฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมาย กกต.ให้ หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ส่วนข้อเสนอที่ลงพื้นที่รับฟังจากประชาชน ก็นำเข้าไปหารือในที่ประชุม กรธ.แล้ว บางประเด็นก็รับฟังไว้ แต่คงไม่ปรับตามเช่น ข้อเสนอให้บุคลากรสำนักงาน กกต.เป็นข้าราชการ เพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในการทำหน้าที่ แต่ กกต.เอง เกิดขึ้นครั้งแรกก็เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะให้เป็นข้าราชการเหมือน สตง. และ ป.ป.ช. ที่มีจุดเริ่มต้นหรือแตกตัวมาจากหน่วยงานราชการคงไม่ได้, เมื่อถามถึงข้อเสนอจากประชาชนอยากเปิดช่องให้พระเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ นายชาติชาย กล่าวว่า คงไม่ได้ ตามหลักพระธรรมวินัย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือแม้แต่คุณสมบัติต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่า รมต. ส.ส. และ ส.ว. ก็กำหนดว่าห้ามเป็นพระ | กรธ.เล็งเปิด 2 ร่าง ก.ม.ลูก สัปดาห์หน้า เตรียมหารือ มีชัย จัดแถลง หรือสัมมนา ดับฝัน พระ ห้ามยุ่งการเมือง | null | กฎหมายลูก,พระ,สมาชิกพรรคการเมือง,กรธ.,ร่างรัฐธรรมนูญ | https://www.thairath.co.th/content/794601 |
อุตสาหกรรมอาหารไทยโตต่อเนื่อง ซีพีแรม ตั้งเป้าปี 60 พุ่ง 2 หมื่นล้าน | วันที่ 17 พ.ย. 58 นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมทางด้านอาหาร และธุรกิจอาหารในประเทศไทย ซึ่งได้รับรางวัล Deming Prize 2015 ไป เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา จากสมาคมนักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรของประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดเผยว่า รางวัลดังกล่าวได้รับเพราะการพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของภาพรวมของการบริหารจัดการ มีการนำเป้าหมายขององค์กร กลยุทธ์องค์กร ซึ่งองค์กรต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การจัดการด้านคุณภาพองค์กรภายใน รวมทั้งผลประกอบการที่อาจจะไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่รวมถึงความพึงพอใจของลูกค้า ความพึงพอใจของพนักงาน และการให้ประโยชน์กับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รางวัลจะมีการพิจารณาอีกครั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า,การนำระบบการจัดการทั่วทั้งองค์กรมาใช้นั้น ช่วยทำให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงการบูรณาการตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยสู่ชั้นแนวหน้าของโลกที่นานาชาติยอมรับ,นายวิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการตลาดขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 8 แสนล้าน ขณะที่การส่งออกของบริษัทมีการเติบโตคงที่ต่อเนื่อง อยู่ที่ 10-15% การได้รับรางวัลจะช่วยต่อยอดความสำเร็จมากขึ้น คาดว่าปีหน้า แนวโน้มการส่งออกจะเติบโตมากขึ้น ตั้งเป้าปี 2560 เติบโต 2 หมื่นล้านบาท เพราะจากที่ผ่านมาหากมีการปรับราคา ลูกค้าก็จะชะงัก แต่เนื่องจากต่อไปได้มีการเปิดตลาดใหม่ ในออสเตรเลียและแคนาดา จึงช่วยในเราชดเชยในส่วนนั้นได้,ถ้าเรามีความพร้อม พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นลูกค้าก็จะเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยไม่ด้อยกว่าชาติใดในโลก ถ้าตั้งใจทำจริง เกื้อกูลกัน อย่าต่างคนต่างทำ แต่ให้รวมกันทำเป็นทั้งวงจร ถ้ามีวัตถุดิบที่ไม่สมบูรณ์ อาหารก็จะออกมาดีไม่ได้ ฉะนั้น ถ้าเราทำทั้งประเทศ ประเทศไทยไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน นายวิเศษ กล่าวทิ้งท้าย. | กรรมการ ผจก.ซีพีแรม เผย รางวัล Deming Prize 2015 กระตุ้นความเชื่อมั่นลูกค้า ยัน ด้านมาตรฐาน ระบุ การส่งออกเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 60 เติบโต 2 หมื่นล้าน ชี้ หากไทยร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย ย่อมไม่ด้อยกว่าชาติใด … | null | ซีพีแรม,ซีพี,อาหารไทย,อุตสาหกรรมอาหารไทย,รางวัล Deming Prize 2015,ซีพีแรม รับรางวัล,ซีพีแรม รางวัล Deming Prize 2015,คุณภาพอาหาร,การส่งออก,การตลาด,วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/540027 |
นิพิฏฐ์ เชื่อ คสช.มีเหตุผลพิเศษ ไม่ปลดล็อก ปล่อยผีพรรคการเมือง | เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 60 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทาง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่า ตนเข้าใจว่าเขาคงมีวาระพิเศษ หรือเหตุผลพิเศษที่ยังไม่สามารถปลดล็อกพรรคการเมือง อยากให้รอดูไปก่อนสักระยะหนึ่งจะดีกว่า อาจจะเห็นเหตุผลของ คสช.ว่าคืออะไร ส่วนตัวเชื่อว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้เคยกล่าวว่า การยืดระยะเวลาปลดล็อกการทำกิจกรรมออกไป จะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง ดังนั้น เขาคงจะมีวิธีที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และหากดูจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวไว้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. จะเห็นได้ว่าการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้นจะต้องคำนึงถึงเรื่องความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความพร้อมของพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งโดยชอบธรรมตามหลักของกฎหมายด้วย ซึ่งรัฐบาลก็น่าจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ก่อนจะปลดล็อกพรรคการเมือง ไม่ใช่นึกจะปลดก็ปลดล็อกเลย,นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รัฐบาลจะไม่กล้าทำในสิ่งที่ขัดกับหลักกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่า การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนในที่สุดการเลือกตั้งครั้งนั้นก็เป็นโมฆะไป ดังนั้น คสช.ก็น่าจะคิดถึงประเด็นเหล่านี้ไว้แล้ว เมื่อถามต่อถึงการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีว่า อาจจะทำให้เกิดภาพของการเอาเปรียบหาเสียงหรือไม่ เพราะพรรคการเมืองอื่นๆ ยังทำกิจกรรมไม่ได้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า บางทีเมื่อนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่นั้น ก็มีบรรยากาศที่เรียกว่ากลอนพาไป คือเวลาที่อยู่ท่ามกลางมวลชนหมู่มาก แล้วมีคนมาเชียร์มากมาย ก็มีความรู้สึกเคลิ้มไปกับเสียงเชียร์เหล่านั้นได้ แต่ตนเคยย้ำตลอดว่า ประเทศไม่ได้ปกครองด้วยรัฐบาล แต่ปกครองด้วยหลักกฎหมาย รัฐบาลไม่อาจจะอยู่เหนือกฎหมายได้ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องสอนประชาชนให้เข้าใจในหลักการเหล่านี้ด้วย และอย่าพยายามไปถามอะไรในสิ่งที่มันอยู่นอกกฎหมาย,นายนิพิฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ออกมาระบุว่า เวลาการหาเสียงของพรรคการเมืองอาจจะลดลงนั้น เรื่องเวลาการหาเสียงที่ลดลง ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะว่าสื่อนั้นทันสมัยมาก สมาชิกพรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องไปไล่เคาะประตูบ้านแบบเมื่อก่อนแล้ว ที่ต่างประเทศขั้นตอนการเลือกตั้งรวมหาเสียงแล้วบางทีใช้เวลาแค่ 15 วันก็เสร็จสิ้น ซึ่งตนมองว่าเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยเฉพาะการทำไพรมารีโหวตนั้นดูน่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะกติกาเหล่านี้ถือว่าเป็นของใหม่ และเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองขนาดเล็กจะได้เปรียบมากกว่าพรรคใหญ่ เพราะสมาชิกพรรคการเมืองเขาน้อยกว่า | นิพิฏฐ์ เชื่อ คสช.มีเหตุผลที่ไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง ย้ำประเทศปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ใช่รัฐบาล เวลาหาเสียงลดลงไม่เป็นปัญหา | ข่าว,การเมือง | นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,ปชป.,ประชาธิปัตย์,ปลดล็อกพรรคการเมือง,พรรคการเมือง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1113750 |
รบ.มาเลย์เริ่มโครงการอีเมลประจำตัว โดนค้านเปลืองงบ-ห่วงความเป็นส่วนตัว | รัฐบาลมาเลเซียเผยประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปได้อีเมลส่วนตัวใช้ติดต่อภาครัฐคนละ 1 เมล แจงวุ่นเป็นโครงการเอกชน ไม่ได้ใช้เงินรัฐ ด้านชาวมาเลเซียค้านอื้อในโลกออนไลน์ เชื่อรัฐใช้ภาษีประชาชนลงทุน-ห่วงความเป็นส่วนตัวนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ระบุว่า ชาวมาเลเซียที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จะได้บัญชีอีเมล (email account) เพื่อใช้ในราชการคนละ 1 บัญชี โดยอีเมลดังกล่าวจะทำให้ประชาชนและรัฐบาลสามารถสื่อสารถึงกันได้โดยตรงและปลอดภัย ทั้งนี้ อีเมลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเว็บท่าสำหรับรับบริการของรัฐบาลแบบครบวงจรด้วยโครงการนี้ดำเนินการโดยบริษัท Tricubes Berhad โดยพัฒนาภายใต้ความร่วมมือกับไมโครซอฟต์ และในอนาคตจะให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ การตรวจสอบใบแจ้งหนี้และชำระเงินออนไลน์ด้วยด้านไครัน ไซนัล มอกตาร์ ซีอีโอของ Tricubes Berhad กล่าวว่า บริการอีเมลดังกล่าวตั้งเป้าว่าจะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยจะเป็นเหมือนอีเมลส่วนบุคคลเพื่อรับบริการจากรัฐบาล ประกาศต่างๆ และใบแจ้งหนี้จากรัฐบาลจะถูกส่งเข้าอินบ็อกซ์ของประชาชนโดยตรงทั้งนี้ หลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฎว่ามีกระแสต่อต้านจากประชาชนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่พอใจที่มีการใช้เงินในโครงการนี้ถึง 50 ล้านริงกิต หรือประมาณ 500 ล้านบาท รวมถึงกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวว่ารัฐบาลอาจเข้ามาสอดส่องพฤติกรรมของประชาชนเจ้าของอีเมลในอนาคตด้วย ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ hashtag #1malaysiaemail ติดอันดับสองของหัวข้อยอดนิยมในมาเลเซียในวันที่มีการออกข่าว ในเฟซบุ๊กมีการตั้งกลุ่มเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวด้วย เช่น(ชาวมาเลเซียหนึ่งล้านคน ไม่ต้องการโครงการอีเมลของนาจิบ) โดยตัวเลขของผู้กด like ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด (23 เม.ย. 01.40น.) อยู่ที่ 45786 รายแล้วด้านนายกฯ มาเลเซียได้ออกมาย้ำว่า ความคิดริเริ่มดังกล่าวเป็นของภาคเอกชน และไม่ใช้งบประมาณของรัฐแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า การสมัครใช้อีเมลดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมัครใจขณะที่มีการรายงานว่า เว็บไซต์ The Performance Management and Delivery Unit (Pemandu) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลมาเลเซีย มีการแก้ไขรายละเอียดของโครงการดังกล่าวจากโครงการโดยรัฐเป็นโดยเอกชน ซึ่งคือ Tricubes ด้วยด้านบริษัท Tricubes ซึ่งมีข่าวว่าอาจถูกคัดชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา มาเลเซีย เนื่องจากข้อผิดพลาดในงบการเงิน ก็ออกมายืนยันไปในทางเดียวกันว่า รัฐบาลไม่ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณโครงการนี้หรือร่วมลงนามแต่อย่างใด | รัฐบาลมาเลเซียเผยประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปได้อีเมลส่วนตัวใช้ติดต่อภาครัฐคนละ 1 เมล แจงวุ่นเป็นโครงการเอกชน ไม่ได้ใช้เงินรัฐ ด้านชาวมาเลเซียค้านอื้อในโลกออนไลน์ | คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,ไอซีที,สังคม | ความเป็นส่วนตัว,มาเลเซีย,อินเทอร์เน็ต | https://prachatai.com/journal/2011/04/34185 |
เสื้อแดง แห่รับ ขวัญชัยพ้นคุก เจ้าตัว งดจ้อการเมือง ขอรักษาสุขภาพ | ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่สถานวิทยุชุมชนคนรักอุดร 97.5 เมกะเฮิรตซ์ หมู่ 11 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ อายุ 64 ปี ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน ได้พ้นโทษหลังต้องคดีคดีทำร้ายร่างกายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2559 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาลับหลัง จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับนายประกัน 5 แสนบาท ซึ่งนายขวัญชัย ได้หลบหนีไปนั่งสมาธิและทำใจ ต่อมาได้เข้ามอบตัวในวันที่ 6 ก.ค. 2559 และนำตัวเข้าเรือนจำกลางอุดรธานี ,โดยบรรยากาศรอบสถานีวิทยุคนรักอุดร ได้มีนายนิสิต สินธุไพร ส.ส. จ.ร้อยเอ็ด และแกนนำ นปช. นักการเมืองท้องถิ่น ชาวบ้าน และคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่ทราบข่าว เดินทางมาให้การต้อนรับนายขวัญชัย ด้วยการผูกข้อมือเรียกขวัญตามประเพณีอีสาน ซึ่งนายขวัญชัย มีหน้าตาสดใส สุขภาพแข็งแรง โดยมีนางอาภรณ์ สาราคำ ภริยา ซึ่งเป็น อดีต ส.ว.อุดรธานี นั่งอยู่เคียงข้างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยชาวบ้านบางรายได้นำรูปภาพพระเกจิอาจารย์มามอบให้เป็นของขวัญ และนำเงินมาผูกข้อมือเรียกขวัญให้กลับบ้าน โดยชมรมคนรักอุดร ได้ทำก๋วยเตี๋ยว และข้าวราดแกง คอยให้ชาวบ้านจำนวนมากได้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ โฆษกและนักจัดรายการวิทยุ ได้พูดต้อนนายขวัญชัยกลับบ้าน พร้อมกับเปิดเพลงและหมอลำกันอย่างสนุกสนาน,นายขวัญชัย เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่มีพี่น้องมาต้อนรับจำนวนมาก ตนอยู่ในเรือนจำครบ 2 ปีเต็มพอดี เวลา 06.00 น.วันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ขับรถมาส่งถึงบ้าน ขณะอยู่ในเรือนจำไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกยิงอย่างต่อเนื่อง แต่ถือว่ายังดีที่ไม่เจ็บป่วยรุนแรง อย่างมากแค่เป็นไข้หวัดเท่านั้น และยังได้พบและนอนห้องเดียวกับนักการเมืองท้องถิ่นที่ต้องโทษ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงมากกว่าอยู่ด้านนอก จึงอยู่กันแบบพี่น้อง และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน วันนี้ของดพูดเรื่องการเมือง เพราะยังไม่มีแผนเกี่ยวกับการเมือง ขอรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังจากการถูกยิงให้หายดีก่อน เพราะแขนซ้ายยังสั่น เมื่อถึงฤดูการเลือกตั้ง ค่อยว่ากันใหม่ | เสื้อแดงแห่รับ ขวัญชัย พ้นคุกเรือนจำอุดรธานี งดจ้อการเมือง มุ่งรักษาสุขภาพ เจ้าตัวดีใจ เผยยังไม่มีแผนการเมือง แย้ม เมื่อถึงฤดูการเลือกตั้ง ค่อยว่ากันใหม่ | ข่าว,ทั่วไทย | ขวัญชัย ไพรพนา,ขวัญชัย สาราคำ,พ้นคุก,เสื้อแดง,งดพูดการเมือง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1328735 |
โจ๋ชุมพร กราดยิงสาวประเภทสองกับเพื่อนชายอาการสาหัส | เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 7 ม.ค.57 ร.ต.ท.พงศธร พิชิตชลธร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเหตุคนถูกยิงที่บริเวณ ถนนสายหนองคล้า หมู่ 6 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร หลังรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เร่งรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจสายสืบ สายตรวจ และหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพร ในที่เกิดเหตุริมถนนห่างจากหน้าบ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 6 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ประมาณ 15 เมตร พบร่างคนถูกยิง 2 คน นอนร้องด้วยความเจ็บปวด ทราบชื่อนายพัฒพงศ์ หงส์สท้าน อายุ 27 ปี อยู่หมู่ 9 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ต้นขาด้านหลัง 1 นัด และนายจิตจำนงค์ หนูคง อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 6 ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร ถูกปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ไหล่ขวา 1 นัด หลังเท้าซ้าย 1 นัด และต้นขาขวา 1 นัด อาการสาหัส เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยเร่งนำทั้งสองส่งโรงพยาบาลชุมพร เขตอุดมศักดิ์โดยด่วน หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเป็นปืนแบบลูกโม่,จากการสอบสวนทราบว่า นายพัฒพงศ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไปหานายจิตจำนงค์ เพื่อนชายคนสนิทที่บ้านหลังดังกล่าวนั้น ซึ่งเป็นบ้านป้าของนายจิตจำนงค์ ที่มาอาศัยนอนอยู่เป็นประจำ เมื่อทั้งสองคนได้ออกมายืนคุยกันริมถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้าน โดยที่เพื่อนสาวประเภทสองอีก 2 คน ของนายพัฒพงศ์ ที่มาด้วยกันยืนรออยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นประมาณ 10 นาที มีรถยนต์เก๋งไม่ทราบสีและยี่ห้อ ขับมาจากทางสี่แยกหนองส้ม และมีรถยนต์กระบะสี่ดำไม่ทราบยี่ห้อ ขับตามหลังมาห่างๆ เมื่อรถยนต์เก๋งขับมาถึงจุดที่นายพัฒพงศ์ ยืนคุยอยู่กับนายจิตจำนงค์เพื่อนชายคนสนิท,จากนั้นรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้กระพริบไฟสูง ลักษณะส่งสัญญาณกับรถกระบะคันที่ขับตามหลังมาและลดกระจกด้านซ้ายลง จากนั้นคนที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับได้ชักปืนออกมายิงใส่ทั้งสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ประมาณ 4-5 นัด จนทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับรถหลบหนีไปทางสี่แยกปฐมพร,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีเรื่องกับกลุ่มของผู้ถูกยิง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ได้มีเรื่องกับแก๊งของนักศึกษาสายอาชีพสถาบันแห่งหนึ่ง ที่มีบ้านอยู่แถวสี่แยกปฐมพร บริเวณหน้าสถานีรถไฟชุมพร ขณะที่แก๊งนักศึกษากลุ่มดังกล่าวเคยทำร้ายตบตีผู้หญิง ทำให้กลุ่มของผู้ถูกยิง ส่วนใหญ่เป็นสาวประเภทสองนั่งกินข้าวต้มอยู่ระแวกนั้น ได้เข้าไปห้ามปราบ ทำให้กลุ่มนักศึกษาไม่พอใจใช้ไม้เบสบอลรุมตีกลุ่มเพื่อนสาวประเภทสองที่ถูกยิงถูกตีบาดเจ็บสาหัสไป 1 คน ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะรีบขับรถหลบหนีได้พูดจาขู่อาฆาตไว้ โดยหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ถูกทำร้ายเข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพรไว้ก่อนแล้ว กระทั่งมาถูกตามยิงบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจจะได้สอบสวนสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อติดตามกลุ่มมือปืนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | กลุ่มวัยรุ่นชุมพรเลือดร้อน ก่อเหตุยิงอุกอาจสาวประเภทสองกลางถนน กับเพื่อนชายอาการสาหัส คาดอริตามแก้แค้น | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงสาวประเภทสอง,ชุมพร,แก้แค้น,สี่แยกปฐมพร,ข่าวอาชญากรรม,ไม้เบสลอบรุมตี,สาวประเภทสองถูกยิง,หนองคล้า,ยิงอุกอาจ | https://www.thairath.co.th/news/local/473427 |
วุฒิสภา ติงรัฐบาลจัดทำงบฯขาดดุล กระทบวินัยการคลัง | ตลอดทั้งวันของการประชุมวุฒิสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 การอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดงบประมาณแบบขาดดุลอย่างต่อเนื่องจะเป็นอันตรายประเทศและประชาชน จึงเห็นว่ารัฐบาลควรมีการกำหนดนโยบายและกรอบเวลา ที่ชัดเจนถึงการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลจะเกิดขึ้นเมื่อใดนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง ชี้แจงว่า รัฐบาลมีแผนงานทำให้เกิดความสมดุลในเรื่องงบประมาณ โดยในปี 2556 ที่จัดสรรงบแบบขาดดุล 300000 ล้านบาท และปีต่อๆไป จะลดการขาดดุลลงปีละ 100000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะมีการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลได้ในปี 2559ก่อนหน้านี้ สมาชิกวุฒิสภาท้วงติงว่า ไม่ได้รับความสำคัญจากรัฐบาลที่จะเข้าร่วมรับฟังและชี้แจง โดยตั้งแต่เช้า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมรัฐมนตรีบางส่วน เข้าร่วมประชุม แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาในช่วงบ่ายการพิจารณาร่างงบประมาณจะใช้เวลา 2 วัน คือวันนี้ (3 ส.ค.) และวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)ที่จะเป็นวันลงมติเห็นชอบร่างฯ ของรัฐบาล ตามที่สภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบมาก่อนหน้านี้หรือไม่ สำหรับขั้นตอนต่อไป นายกรัฐมนตรี จะนำร่างฯดังกล่าว ทูลเกล้าเกล้าทูลกระหม่อม ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างฯ จากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 150 | ที่ประชุมวุฒิสภา พิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 โดยเตรียมลงมติในวันพรุ่งนี้ ส่วนการประชุมตลอดทั้งวันนี้ สมาชิกได้ตั้งข้อสังเกตว่า การจัดทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่องอาจเป็นอันตรายต่อประเทศ เพราะกระทบต่อวินัยการเงินการคลังภาครัฐ | การเมือง | งบประมาณ,วุฒิสภา,อภิปราย | https://news.thaipbs.or.th/content/108968 |
รู้จักซิมบับเว ทำไมคนในชาติไม่อยากอยู่ 8 ชีวิตค้างสุวรรณภูมิ 3 เดือน | ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง 8 ชีวิตชาวซิมบับเว ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 4 คน เป็นชาย 2 หญิง 2 และเด็กๆ อีก 4 คน ที่พำนักพักพิงอยู่ในส่วนอาคารผู้โดยสารชั้นในของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มานานนับ 3 เดือนแล้ว,และขณะนี้ ชาวซิมบับเวทั้ง 8 คน รวมทั้ง นายมูวาดี โรดริก (Muvadi Rodrick) กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) อย่างมีความหวัง ในการเป็นธุระประสานงานพาพวกเขาลี้ภัยอยู่ในประเทศที่ 3,เรียกว่า จะให้ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ ซิมบับเว บอกว่าสถานการณ์ที่บ้านเกิดไม่ปลอดภัย ได้ยินอย่างนี้ จึงอยากพาคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ ไปรู้จักซิมบับเว ประเทศที่อดีตประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ วัย 93 ปี เพิ่งโดนกองทัพกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ ที่ยึดครองมานานถึง 37 ปี จนเป็นข่าวใหญ่สะท้านโลก เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา,*ซิมบับเว อยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้,ซิมบับเว มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐซิมบับเว เดิมชื่อ เซาธ์ โรดีเซีย หรือ โรดีเซียใต้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยทิศเหนือติดกับประเทศแซมเบีย ทิศตะวันออกติดกับโมซัมบิก ทิศตะวันตกติดกับบอตสวานา และทิศใต้ติดกับแอฟริกาใต้,พื้นที่ของประเทศซิมบับเว เล็กกว่าประเทศไทย เพราะมีพื้นที่ประมาณ 390,757 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลวงชื่อ กรุงฮาราเร ประชากรมีจำนวนประมาณ 16 ล้าน ซึ่งประมาณร้อยละ 98 เป็นชาวพื้นเมืองผิวดำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวโซนา (ราว 80-84%) รองลงมาคือ ชาวเดเบเล ประมาณ 10-15% ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากซูลู ที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่ในซิมบับเว ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษท่ี 19 นอกจากนั้นยังมีคนผิวขาว ซึ่งส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นประเทศเจ้าอาณานิคม ก่อนซิมบับเวจะได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2537,*วิกฤติเงินเฟ้อในซิมบับเว ระดับอภิมหาตำนานของโลก,วิกฤติเศรษฐกิจในซิมบับเว ภายใต้การปกครองของ โรเบิร์ต มูกาเบ ที่อุบัติขึ้นตั้งแต่ปี 2543 จากการบริหารจัดการที่ผิดพลาด และการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลมูกาเบ โดยเฉพาะการที่รัฐบาลออกกฎหมายใหม่ปฏิวัติการจัดการที่ดินทำกิน ยึดคืนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไร่นาของคนผิวขาว เอามาแจกคนผิวดำให้มีที่ดินทำกิน โดยที่ไม่ได้ตระเตรียมแผนการรองรับ และไม่ได้ให้องค์ความรู้ทักษะต่างๆ แก่คนผิวดำไว้ก่อน ได้นำไปสู่การเกิดวิกฤติเงินเฟ้อระดับอภิมหาอำนาจวิกฤติเงินเฟ้อที่เคยเกิดขึ้นในโลกใบนี้ รุนแรงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์โลก เป็นรองก็แค่วิกฤติเงินเฟ้อในฮังการี เมื่อปี 2489 เท่านั้น,อัตราเงินเฟ้อในซิมบับเว พุ่งแบบติดจรวด เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 32 ต่อปี เมื่อปี 2531 มาถึงร้อยละ 231,000,000 เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2551 จนถึงขนาดแบงก์ชาติซิมบับเวต้องออกธนบัตรใบละ 1 แสนล้านดอลลาร์มาใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2551 แน่นอนว่าสินค้าของกินของใช้ที่ราคาพุ่งพรวดเป็น 200 ล้านเท่า ทำให้ชาวซิมบับเวลำบากอย่างแสนสาหัส อัตราคนว่างงานสูงกว่า 80% จนต้องหนีตายไปอาศัยชาติเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะแอฟริกาใต้ หลายล้านคน ซึ่งทุกวันนี้ชาวซิมบับเวก็ยังประสบความทุกข์ยากอยู่,ทุกวันนี้ ชาวซิมบับเว มีรายได้ต่อหัวเมื่อปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,027 ดอลลาร์ หรือราว 33,891 บาทต่อปีเท่านั้น,*ชาวซิมบับเวเผชิญปัญหาอื่นๆ ตามมาอื้อ,จากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนในซิมบับเว เผชิญกับปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขภาพ มีรายงานว่าอัตราการติดเชื้อเอดส์ในซิมบับเว สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก หรือประชากรในวัยผู้ใหญ่ 1 ใน 10 คนจะติดเชื้อเอดส์ และมีชาวซิมบับเวเสียชีวิตจากเอดส์ ถึงปีละประมาณ 300,000 คนเลยทีเดียว,*ประธานาธิบดีใหม่ขอนานาชาติช่วยเหลือ,จากความบอบช้ำในประเทศซิมบับเว จากที่เคยเกิดสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานาน และวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ทำให้ นายเอ็มเมอร์สัน มนังกากวา ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำซิมบับเว สืบต่อจากอดีตประธานาธิบดีมูกาเบ กล่าวเรียกร้องขอให้นานาชาติช่วยเหลือซิมบับเว เพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจที่ล่มสลาย,สำหรับ นายมนังกากวา ผู้นำใหม่ซิมบับเวนั้น เคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลมูกาเบ แต่เขาถูกสั่งปลดฟ้าผ่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เพื่อปูทางให้ นางเกรซ มูกาเบ ภริยาสืบทอดอำนาจ จนนำไปสู่การออกมาเคลื่อนไหวของกองทัพกดดันบังคับให้ นายมูกาเบ ผู้นำชราลาออกไปได้สำเร็จ,ด้วยเหตุนี้ ความหวังของชาวซิมบับเว จึงเรืองรองขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากหมดยุคของมูกาเบไปได้เสียที พร้อมกับขอฝากความหวังไว้กับนายมนังกากวา ผู้นำใหม่,เพียงแต่สำหรับชาวซิมบับเวบางคน ที่ลำบากยากแค้นแสนสาหัสมานาน พวกเขาเหล่านั้น ก็ไม่อาจจะอดทนรออนาคตที่ดีขึ้นของประเทศชาติได้ไหว และชาวซิมบับเว 8 ชีวิตที่ยอมค้างคืน กินอยู่หลับนอนอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิมานานนับ 3 เดือน คือบางส่วนของชาวซิมบับเว ที่ขอเลือกไม่อยู่ในประเทศซิมบับเวอีกต่อไป | คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ครอบครัวสักครอบครัวหนึ่งจะตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ขอกลับบ้านเกิด และเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่สาธารณะ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีความสะดวกสบาย เหมือนอยู่บ้าน | ข่าว,ต่างประเทศ | ซิมบับเว,ชาวซิมบับเว 8 คนค้างสุวรรณภูมิ,รู้จักซิมบับเว,วิกฤติเงินเฟ้อซิมบับเว,ข่าวเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1165005 |
สายตรงจากต่างแดน 18/08/62 | นายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กสญ.ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกับคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นำข้าราชการและชุมชนชาวไทย นักธุรกิจในรัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์และรัฐใกล้เคียง ร่วมงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ วัดวชิรธรรมปทีป ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก,งานเริ่มด้วยการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเครื่องสักการะ กล่าวคำปฏิญาณ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสดุดีพระแม่ไทย ถวายอาหารเพลและรับประทานอาหารร่วมกันจากนั้น พระกิตติญาณวิเทศ เจ้าอาวาส นำผู้ร่วมงานปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ ศาลาอเนกประสงค์สุจิตรา ปาลีวงศ์ ประธานศูนย์วัฒนธรรมไทยแห่งรัฐนิวยอร์ก นำคณะไปร่วมงานด้วย,วัดไทยนครลอสแอนเจลิส ร่วมกับ สกญ. ณ นครลอสแอนเจลิส และ สมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนีย จัดงาน มหกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 2 โดยมี มังกร ประทุมแก้ว กสญ. เป็นประธานเปิดงานงานนี้ พญ.สุชานันท์ กาญจนพงศ์, พญ.กิติกานต์ ธนะอุดม และ ศ.พญ.วรวรรณ ลิ่มปิติกุล ไปให้ความรู้เรื่องโรคต่างๆและการดูแลสุขภาพ คนร่วมฟังกว่า 300 คน,พลาดไม่ได้สกญ. ณ นครลอสแอนเจลิส และ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชน แถลงข่าวเชิญชวน ชม ละครเวทีไทย จัดยิ่งใหญ่อีกครั้งที่โรงละครกลางแจ้งนครลอสแอนเจลิส โดย ครูหมึก-สาโรจน์ วายุโชติ แห่ง มันตราสยาม นำการแสดงชุด Tales from Mount Sumeru : the Golden peacock (ตำนานเขาพระสุเมรุ) มาให้ชมอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมนักแสดงกว่า 40 ชีวิต พร้อมแสง สี เสียงตระการตารายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน,งาน ราตรีชาวใต้ 2019 วันเสาร์ที่ 7 ก.ย. ที่โรงแรมลินคอล์น พลาซ่า เมืองมอนเทอเรย์ ปาร์ค บัตรราคา $40, $45 และ $50 ซื้อได้ที่ นายกดำ-จุฑาภรณ์ ไชยรัตน์ติเวช โทร. 818-438-6426, และ แจ๊ส วรลักษณ์ โทร.818-239-9634 รายได้นำเข้า โครงการห้องสมุดคอมพิวเตอร์ สำหรับโรงเรียนในถิ่นกันดารของภาคใต้เหมือนทุกปี,ซุ่มเงียบเรียนเกี่ยวกับกัญชาจนสำเร็จแล้ว หนึ่ง-นภดล วงศ์ชัยวัฒน์ กลายเป็นผู้มีความรู้เรื่องกัญชาอย่างถูกต้องใน แอล.เอ.อีกคน,แจ้งถึงชาวไทยในนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา และใกล้เคียง สกญ. ณ นครลอสแอนเจลิส จะจัด กงสุลสัญจร ไปบริการที่ วัดพุทธยานันทาราม นครลาสเวกัส 7-8 ก.ย. เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามได้ที่ โทร.702-437-3320,ออสเตรเลีย,จักร์กฤดิ กระจายวงค์ กสญ. ณ นครซิดนีย์ ร่วมกับข้าราชการและชุมชนชาวไทยทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระเพล ที่ วัดพุทธรังษี แอนเนลเดล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา,อาทิตย์ที่แล้ว ประยูร มากิจ นักกอล์ฟมือโปรชวนเพื่อนฝูงหลายคน อาทิ ทองบ่อ แก้วสะเทือน ราษฎรอาวุโส, สัจจา ตันศิริ เลขาฯสมาคมร้านอาหารไทย ไปร่วมสังสรรค์ในงานคล้ายวันเกิดของตัวเอง ที่ร้านอาหารไทย-ไทยซิดนีย์ ได้ วิบูรณ์ศักดิ์ รักษาด่าน คนใจกว้างเป็นเจ้ามือเอง,คนใจบุญ ชัชวาล วิชากรกุล เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดลำไส้ใหญ่ เมื่ออาทิตย์ก่อน มีเพื่อนฝูงมาเยี่ยมให้กำลังใจทุกวัน,เยอรมนี,สอท. ณ กรุงเบอร์ลิน ร่วมกับชาวเยอรมัน 13,000 คน ร่วมทำกิจกรรมเปิดบ้านรับเลี้ยงสัตว์กรุงเบอร์ลิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง มีการขายสินค้าไทย อาหารไทย ขนม มอบรายได้ให้องค์กร 1,330 ยูโร,ขอเชิญพี่น้องชาวไทยร่วมเป็นกำลังใจให้กับ เล็ก ชัยเลิศ สาวไทยฮีโร่เอเชียที่โลกยกย่องในฐานะนักอนุรักษ์ จะมาพบกับพี่น้องชาวมิวนิก วันที่ 22 ส.ค.นี้ บิ๊ก-สุภวัส วรมาลี ร่วมสัมภาษณ์ด้วย ที่ City Kino Mchnสอบถามคุณตุ่ม โทร.080-65642,มิสเตอร์แบล็ก,thaioversea2@gmail.com, | นายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กสญ.ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกับคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นำข้าราชการและชุมชนชาวไทย | null | วัดวชิรธรรมปทีป,นิวยอร์ก,ทำบุญตักบาตร,วัดไทยนครลอสแอนเจลิส,ลอสแอนเจลิส,สายตรงจากต่างแดน,มิสเตอร์แบล็ก | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1639700 |
เก็บตกความสยอง ส่องไอจีดารา แต่งแฟชั่นปาร์ตี้คืนปล่อยผี | เทศกาลวันฮาโลวีน 2015 ผ่านพ้นไปด้วยดี ในเมืองไทยก็คึกคักไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อไปส่องอินสตาแกรมของเหล่าคนดังดาราก็ไม่น้อยหน้า พากันแต่งหน้าผีสุดสยอง ทำเอาสาวกไอจีหลอนไปตามๆ กัน งานนี้จะมีใครบ้าง? สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปชมกัน,1.แก๊งนี้ สวยแซ่บไม่แพ้กัน ทั้งสาว หญิง รฐา และสองสาว เบลล์-หว่าหวา ไชน่าดอลล์ ที่ร่วมแต่งแฟชั่นฮาโลวีน พร้อมติดแฮชแท็ก #happyhalloween2015,
,
,
,
,
,
,2.พระหนุ่มคนนี้มองผ่านๆ เกือบจำไม่ได้ สำหรับ ก้อง กรุณ แต่งผีปาร์ตี้ฮาโลวีน ที่ประเทศญี่ปุ่น,
,
,
,
,
,
,3.คุณแม่ยังสวย ทาทา ยัง ขออุ้มท้องร่วมแต่งชุดแฟชั่นปาร์ตี้ผี แบบน่ารัก,
,
,
,
,
,
,4. ปิ๊ก ชาญฉลาด ผู้จัดการฯของพระเอกหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ก็ได้โพสต์ภาพหนุ่มเจมส์เวอร์ชั่นเป็นผีดูดเลือด,
,
,
,
,
,
,5.ผีเด็กก็ไม่น้อยหน้า เมื่อ คุณแม่เมย์ ปทิดา ขอร่วมโพสต์รูป อวดความน่ารักของ น้องมายู ในวันฮาโลวีน,
,
,
,
,
,
,6.นักแสดงสาว นิวเคลียร์ หรรษา จัดเต็มความหลอน วันฮาโลวีน,
,
,
,
,
,
,7.อาจารย์คนสวยอย่าง เบเบ้ ธันย์ชนก ก็ขอแต่งผี หลอนในคืนฮาโลวีน,
,
,
,
,8.สามสาวสวยพี่น้อง พิกเล็ต–ชาราฎา,เนย-วรัฐฐา และ แจม ชรัฐฐา ก็ร่วมแต่งปาร์ตี้ปล่อยผี,
,
,
,
,
,
,9.ความหลอนมาเป็นคู่ๆ ไฮโซฯหนุ่ม ป๊อก ภัสสรกรณ์ ควง มาร์กี้-ราศรี แต่งหน้าผี,
,
,10.แก๊งนางฟ้าก็ไม่พลาด อย่างสาวเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, นานา ไรบีนา รวมตัวจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนเช่นกัน,
,
,
,
,
,
| ส่องอินสตาแกรมดารา รวมภาพคืนปล่อยผีปาร์ตี้ฮาโลวีน กับแฟชั่นการแต่งตัวและแต่งหน้าผีของดาราคนดัง | null | ฮาโลวีน,halloween,ฮาโลวีน2015,ปาร์ตี้ฮาโลวีน,คืนปล่อยผี,ปาร์ตี้ปล่อยผี,ผี,แต่งหน้าผี,แฟชั่นผี,ไอจี,อินสตาแกรม,ดารา,บันเทิง,โซเชียล,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว,ข่าวด่วน,ข่าวไทยรัฐ,Thairath | https://www.thairath.co.th/content/536329 |
บิ๊กตู่ ยันไม่มีข้ามห้วย รอส่งชื่อครบ แต่งตั้งบิ๊ก ขรก.14 หน่วยงาน | อยู่ที่ความเหมาะสม,เมื่อวันที่ 11 ก.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 14 หน่วยงานว่า วันนี้ตนจำเป็นต้องดูภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่แต่งตั้งปลัดกระทรวงแล้วทุกคนจะสบายใจ ทุกหน่วยงานต้องเสนอขึ้นมาเพื่อพิจารณาทั้งหมดว่า ถ้าจะปรับหมุนเวียนกันแล้วจะหมุนเวียนกันอย่างไร ใครจะไปทดแทนตำแหน่งใดบ้าง ซึ่งหลักการของทหารเป็นแบบนี้ จะได้รู้ว่าเส้นทางการเจริญเติบโตเป็นมาอย่างไร จะได้ดูถึงความเหมาะสม ดูทั้งเรื่องอาวุโส ความรู้ความสามารถควบคู่กันไป โดยจะพิจารณาดูภายใน 2 สัปดาห์นี้,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนกำลังให้แต่ละหน่วยงานส่งมาให้ครบ อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งทั้งหมดก็เป็นกลไกของแต่ละหน่วยงานที่จะแต่งตั้งขึ้นมา โดยมีคณะกรรมการพิจารณาแต่ตนก็จะต้องไปเช็กและตรวจสอบเรื่องหน้าบ้านหลังบ้าน รวมทั้งความประพฤติที่ผ่านมาด้วย ก็เป็นส่ิงที่ทำให้คนดีได้มีการเจริญเติบโต รวมทั้งการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นโดยเฉพาะ กทม.ก็เช่นเดียวกัน ต้องดูเวลาที่เหมาะสม ทั้งหมดก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ส่วนจะก่อนหรือหลังเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องดูสถานการณ์ที่ต้องว่ากันอีกที,เมื่อถามว่า ในการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวง ถ้ามีการพิจารณาข้ามห้วยจะใช้หลักการและเหตุผลอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ายังไม่มีการข้ามห้วยอะไรทั้งสิ้น นโยบายผมไม่ได้ให้มีการข้ามห้วยเป็นหลัก ถ้าจะมีการข้ามห้วยก็ต้องมีเหตุผลและความจำเป็น ความเหมาะสมอย่างยิ่งยวด ไม่ใช่วันนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนนั้นคนนี้จะข้ามห้วยไปกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ โดยวิจารณ์กันไปเอง ไอ้คนที่มีชื่อจะได้ข้ามห้วยก็ดีใจ แต่พอถึงเวลาไม่ได้ขึ้นมาก็ไปรับผิดชอบกันด้วยก็แล้วกัน หลักการของผมคือทุกคนจะต้องโตภายในแท่งของหน่วยงานตัวเองไปก่อน เว้นแต่มีปัญหาก็ค่อยแก้ไขกัน ต้องยึดหลักการตรงนี้ ถ้ามัวแต่ไปคิดว่าจะสามารถข้ามห้วยได้ อีกหน่อยก็ไม่มีคนอยากทำงาน คิดแต่จะข้ามห้วยกันไปหมด คนในห้วยก็ไม่ต้องไปไหนกัน จมน้ำตายกันอยู่ตรงนั้นหรือ ต้องนึกถึงตรงนี้บ้าง,เมื่อถามว่า เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายมีข้าราชการระดับล่าง กลุ่มหนึ่งอยากให้การแต่งตั้งโยกย้ายเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย.หลังจากผ่านพ้นงานพระราชพิธีไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนให้แต่ละปีมีการปรับย้ายได้ 2 ครั้ง ดังนั้นเมื่อข้าราชการเกษียณไปแล้วในวันที่ 30 ก.ย. ถ้าไม่มีการแต่งตั้งแล้วใครจะทำงาน เพราะฉะนั้นก็ต้องยึดตามกฎหมายเป็นหลัก คือ เมื่อมีการเกษียณอายุของข้าราชการก็ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่เข้ามาทำงานทันที ซึ่งไม่ใช่เป็นการตั้งใหม่ทั้งหมด คนที่ยังมีอายุราชการอยู่ก็ทำงานต่อ คนที่เกษียณก็ต้องตั้งคนใหม่เข้ามาแทนที่,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่มีได้รู้จักทุกคน แต่ไม่ว่าจะเสนอแต่งตั้งใครขึ้นมาต้องตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งตนมีคนคอยตรวจสอบว่าที่ผ่านมามีพฤติกรรมอย่างไร บางทีก็มีผิดพลาดมากบ้าง น้อยบ้าง บางอย่างให้อภัยได้ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ใช่ว่าจะต้องได้คนดี 100% แม้มันจะมีแต่อยู่ในจุดที่เราจะเลือกหรือเปล่า ส่วนใหญ่คนดีๆ ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ วันนี้ตนถือว่าทุกคนดี 100% เพราะตนยังไม่ได้ตรวจสอบใคร,วันนี้ทุกหน่วยงานทำงานด้วยระบบและแผนงาน ผู้ว่าฯ ทำงานอยู่นาน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องย้าย อยู่แล้วทำงานไม่ได้ก็ต้องย้าย ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องอยากให้ผู้ว่าฯ ที่จะถูกปรับย้ายเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 1 พ.ย.นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะการปรับย้ายก็ต้องเริ่มในวันที่ 1 ต.ค. มีวงรอบการปรับย้ายอย่างชัดเจนตามกติกา เป็นการปรับด้วยความเหมาะสม ปรับเลื่อนจากชั้น 2 สู่ชั้น 1 ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ต้องเอาคนที่ทำงานได้ไปทำงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง จะให้อยู่ในพื้นที่เดิมจนตายหรืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,เมื่อถามว่า แต่ข้าราชการในพื้นที่เกรงว่า เมื่อมีนายใหม่เข้ามาแล้วงานจะขาดความต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แสดงว่ามันห่วย เขาทำงานกันด้วยระบบ ไม่ได้ทำงานด้วยตัวคน ทุกอย่างยืนยันทำตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ผมไม่ได้ตั้งกฎ ตั้งระเบียบขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างมีกติกาอยู่แล้ว. | นายกฯ รอส่งชื่อครบแต่งตั้งโยกย้าย ขรก.ระดับสูง พิจารณาดูภายใน 2 สัปดาห์นี้ ยันตรวจสอบเพื่อให้คนดีได้เติบโต พร้อมระบุไม่มีแต่งตั้งข้ามห้วย ยึดตาม ก.ม.กำหนดช่วงแต่งตั้ง ไม่ยื้อเลื่อนออกไป พร้อมย้ำการเลือกตั้งท้องถิ่นมีแน่ | ข่าว,การเมือง | นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,แต่งตั้งโยกย้าย,แต่งตั้งข้าราชการ,ข้าราชการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1001262 |
ผู้ตรวจการฯ มีมติยืนศาลรัฐธรรมนูญตีความ ม.128 ชอบด้วย รธน. หรือไม่ ตีตกเลือกตั้งโมฆะ | แต่มีมติเอกฉันท์ยื่นตีความมาตรา 128 (สูตรคำนวณที่นั่ง ส.ส.) ขัดต่อ มาตรา 91 หรือไม่26 เม.ย. 2562 รักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการนำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงหลังประชุมพิจารณาคำร้องขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ที่ยื่นโดยเรืองไกร ลิกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ และวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งชี้ประเด็นถึงการดำเนินการต่างๆ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)รักษเกชา ระบุว่าคำร้องของเรืองไกร ซึ่งได้ยื่นมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. ชี้ว่าจำนวนบัตรเลือกตั้ง กับจำนวนคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ตรงกันโดยแตกต่างกัน 9 ใบ รวมทั้งการแถลงข่าวของ กกต. ที่ไม่สอดคล้องกัน ผู้ตรวจการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการของ กกต. ยังเป็นเพียงการแถลงความเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น ยังไม่มีการแถลงข้อมูลที่เป็นทางการจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด ส่วนกรณีการคำนวณ ส.ส. ในระบบบัญชรรายชื่อซึ่งเรืองไกรเห็นว่าอาจจะเป็นปัญหา ทางกกต. ได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่รับคำร้องดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่า จะต้องส่งคำร้องผ่านทางผู้ตรวจการแผ่นดินรักษเกชา กล่าวต่อไปถึงข้อร้องเรียนที่ กกต. ไม่นำบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากประเทศนิวซีแลนด์มานับนั้น ในประเด็นนี้ก็มีคำวินิจฉัยของ กกต. ออกมาเรียบร้อยแล้วและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่าไม่มีการปิดประกาศผลคะแนนเลือกตั้งรายหน่วย ในทางปฎิบัติ กกต. ได้ชี้แจงว่า ที่หน่วยเลือกตั้งจะมีการปิดประกาศหลักฐานในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งประชาชนสามารถขอดูและติดตามได้อยู่แล้ว ไม่ได้มีการปิดบังประการใด ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีการ นำคนต่างชาติมารวมอยู่ในทะเบียนราษฎร ผู้ตรวจการฯ พิจารณาพบว่า ในการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. นั้นเป็นเพียงการดำเนินการเพื่อดูว่าในเขตเลือกตั้งนั้นมีจำนวนราษฎรอยู่ทั้งหมดกี่คนซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีทั้งที่เป็นคนไทย และไม่ใช่คนไทย ซึ่งกระบวนการนี้เป็นไปเพื่อทำให้รู้ว่าพื้นที่นั้นมีจำนวนราษฎรมากน้อยเพียงใด และควรจะมี ส.ส. ทั้งหมดกี่คน ฉะนั้นกระบวนการนี้จึงถือว่าเป็นไปตามกฎหมายรักษเกชา กล่าวต่อว่าอีก กรณีที่มีการร้องว่า มาตรา 128 ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่ ที่ประชุมผู้ตรวจการฯ ได้วินิฉัยแล้วพบว่า มาตรา 128 มีทั้งสิ้น 8 อนุมาตรา ขณะที่มาตรา 91 ตามรับธรรมนูญมี 5 อนุมาตรา ฉะนั้นเท่ากับว่ามีอนุมาตราใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่เพิ่มมา 3 อนุมาตราคือ อนุมาตราที่ 4 6 และ 7 ซึ่งเป็นการขยายความเพิ่มจากรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ว่า การที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีการเพิ่มอนุมาตราขึ้นนั้น ทำให้การคำนวณ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อมีปัญหา กล่าวคิอมาตรา 128 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีปัญหาขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 91 จึงให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย | ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้ข้อร้องเรียนต่างๆ ของเรืองไกรเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกตั้งของ กกต. นั้น กกต. ได้ทำหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ปัดตกยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะ | การเมือง | รักษเกชา แฉ่ฉาย,ผู้ตรวจการแผ่นดิน,กกต.,เลือกตั้ง,เลือกตั้ง 62. กกต. | https://prachatai.com/journal/2019/04/82211 |
โปเซ็ตติโนชี้ยังเร็วเกินไปยก ไก่ ลุ้นแชมป์ | สำนักข่าวต่่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน กุนซือ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เผยยังเร็วเกินไปที่ยกให้ทีมของตนเองขึ้นแท่นลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้จะทำผลงานได้ดี,สเปอร์ส มีโปรแกรมเปิดรัง ไวท์ ฮาร์ทเลน รับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งก่อนเกม สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือของ สาลิกาดง ก็ได้ให้สัมภาษณ์ยกให้ทัพ ไก่เดือยทอง มีลุ้นซิวแชมป์ลีกหลังเก็บ 26 คะแนนจากเกม 15 นัด อยู่อันดับที่ 5 ของตารางอยู่ในตอนนี้,อย่างไรก็ตามตัวของกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธความเห็นดังกล่าว โดยเผยว่า ผมเคารพความเห็นของเขา ผมเชื่อด้วยว่าเรามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมากๆ และมีนักเตะเก่งๆหลายคน หลังจากที่ไม่แพ้ใครในลีกมา 14 เกมติดแล้ว เราก็ยังต้องเล่นให้ได้แบบเดิมเพื่อที่จะชนะทุกเกม แต่มันเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องการได้แชมป์ลีก,ความสำเร็จมาตอนสิ้นฤดูกาล สำหรับผมแล้วมันยังไวไป เราต้องทุ่มเทอย่างหนักและแสดงให้เห็นถึงจิตใจมุ่งมั่นเอาชนะอย่างเดิม เรื่องนี้สำคัญเพราะถ้าเราพูดถึงการท้าทายเป้าหมายท้ายฤดูกาลแล้วบางทีเราจะต้องใช้พลังงานไปกับหลายๆสิ่งที่ไม่ได้สำคัญในวันนี้ เราต้องอย่าเหลิง นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด. | เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน กุนซือ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ชี้ยังเร็วเกินไปที่ยกให้ทีมของตนเองขึ้นแท่นลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ…
| null | พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน,ไก่เดือยทอง,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,สาลิกาดง,นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/548301 |
อัยการแจงคดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจเสียชีวิตปี 55 ยันพยายามตามตัวมาส่งฟ้องตลอด | รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แจงข้อเท็จจริงคดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจเสียชีวิตปี 55 ระบุเจ้าตัวใช้ทุกช่องทางเลี่ยงมาพบเพื่อส่งฟ้องต่อศาล ขีดเส้น 27 เม.ย.นี้ต้องมา30 มี.ค. 2560 กรณีความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเจ้าของกระทิงแดง หลังสำนักข่าวเอพีในนิวยอร์ก สหรัฐฯ นำเสนอชีวิต วรยุทธ ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศด้วยความสบายใจโดยยังไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ ทั้งที่คดีใกล้จะหมดอายุความภายในปีนี้และถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแล้วไม่เข้ารายงานตัวหลายครั้ง ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้นล่าสุดวันนี้ (30 มี.ค.60) ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าคดีนี้ว่า หลังช่วงปลายเดือนมี.ค. ปีก่อน(2559) ทาง วรยุทธ ได้ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งในประเด็นซ้ำซ้อน โดยเฉพาะเรื่องความเร็วของรถ อัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรและแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จึงได้สั่งยุติการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมออกหนังสือให้มาพบอัยการเพื่อนำตัวฟ้องต่อศาลในวันที่ 25 เม.ย. 2559 ต่อมา วรยุทธ ขอเลื่อนเข้าพบอัยการ ด้วยเหตุทั้งติดภารกิจในต่างประเทศ และมีการร้องขอความเป็นธรรมที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติเรื่อยมา ระหว่างนั้นอัยการได้มีหนังสือถึงตำรวจ สน.ทองหล่อ ให้ติดตาม วรยุทธ มาพบเพื่อส่งฟ้องตลอด จนล่าสุด ได้มีการนัดให้ วรยุทธ มาพบในวันนี้ (30มี.ค.60) แต่ผู้ต้องหาก็ยังมีหนังสือขอเลื่อนเนื่องจากติดภารกิจที่ประเทศอังกฤษ จึงเลื่อนนัดไปวันที่ 27 เม.ย. นี้ หากยังขอเลื่อนนัดด้วยเหตุเลื่อนลอยอาจเป็นเหตุให้อัยการพิจารณาออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีได้กรณีที่ผ่านมา วรยุทธ มีหนังสือร้องเรียนขอสอบสวนเพิ่มเติมไปยังคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำให้เป็นเหตุไม่สามารถออกหมายจับได้ ซึ่งในทางข้อเท็จจริงแล้วกรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้เข้าก้าวล่วงอำนาจกระบวนการสอบสวนคดีอาญาแต่อย่างใด แต่เป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการร้องขอความเป็นธรรมและหน้าที่ของกรรมาธิการฯในการสอบสวนตามคำร้องขอทางสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่า คดีดังกล่าวมีความพยายามติดตามตัว วรยุทธ มาส่งฟ้องตลอด ประเด็นผู้ต้องหามีชื่อเสียง มีฐานะทางสังคมสูงนั้น เชื่อว่าจะทำให้คดีเป็นที่สนใจติดตามและถูกตรวจสอบจากสังคมมากขึ้น ขณะที่อายุความของข้อหาที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีในความผิดฐานหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรและแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที คดีจะหมดอายุความวันที่ 3 ก.ย.ปีนี้ ส่วนข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นั้นจะหมดอายุความวันที่ 3 ก.ย. 2570 หรืออีก 10 ปี ข้างหน้า ที่มา : และเฟซบุ๊กแฟนเพจ | รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แจงข้อเท็จจริงคดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจเสียชีวิตปี 55 ระบุเจ้าตัวใช้ทุกช่องทางเลี่ยงมาพบเพื่อส่งฟ้องต่อศาล ขีดเส้น 27 เม.ย.นี้ต้องมา 30 มี.ค. | สังคม | กระทิงแดง,กระบวนการยุติธรรม,ขับรถชนตำรวจ,ตำรวจ,ประยุทธ เพชรคุณ,วรยุทธ อยู่วิทยา,สำนักงานอัยการสูงสุด,เสียชีวิต | https://prachatai.com/journal/2017/03/70819 |
ดาราสาวจีนชื่อดัง ถวายเงินวัดสว่างฯ | ได้ขอเข้าพบกราบนมัสการขอพร พระครูยติธรรมานุยุต หรืออาจารย์แป๊ะ เจ้าอาวาส โดยมีการสนทนาธรรมผ่านล่ามชาวฮ่องกง พร้อมกันนี้อาจารย์แป๊ะ ได้พาคณะชมรอบบริเวณวัด พระอุโบสถ และโรงเจวัดสว่างอารมณ์ และดูเมรุเผาศพ ซึ่งกำลังสร้างศาลาสวดศพ บริเวณรอบเมรุ หลังจากพาชม น.ส.หลู เจียหลง ได้ถวายเงิน 1 แสนบาท ให้พระครูยติธรรมานุยุติ เพื่อสมทบทุนร่วมสร้างพื้นศาลาสวดศพวัดสว่างอารมณ์ ก่อนเดินทางกลับได้เผยผ่านล่ามว่า เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก เมื่อเห็นอาจารย์แป๊ะ ดูเป็นพระติดดินไม่ค่อยถือตัวและยังเป็นกันเองพาชมรอบบริเวณวัด จนเกิดความศรัทธา ถวายเงินเพื่อสมทบทุนทำพื้นศาลาสวดศพใหม่ให้ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้มาอีกเมื่อไหร่แต่ถ้าได้มาเมืองไทยก็จะมาแวะวัดสว่างอารมณ์,หลังจากที่ดาราสาวชาวจีนเดินทางกลับแล้ว อาจารย์แป๊ะได้เผยชวนสาธุชนร่วมทอดกฐินวัด สว่างอารมณ์ ในวันที่ 2 พ.ย.58 ซึ่งในวันเดียวกันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าพระกฐิน โดยมอบหมายให้ พล.ต.สุรศักดิ์ ทิมมาศ ผู้ช่วยเจ้ากรมเสมียนตรา เป็นผู้แทน นำมาถวายให้อาตมา ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ในวันนั้นผู้ที่นำพุ่มกฐินมาร่วมทอด กองละ 2558 บาท อาตมาจะมอบวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ พระขุนแผน เนื้อผงที่อาตมาปลุกเสกถึง 3 ไตรมาศ มอบให้กับผู้นำพุ่มกฐินมาถวายในวันนั้นด้วย นอกจากนี้ อาจารย์แป๊ะยังกล่าวเชิญชวนผู้ยากไร้มารับสิ่งของแจกในวันสุดท้ายของเทศกาลถือศีลกินเจ วันที่ 21 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ที่ด้านหน้าของโรงเจวัดสว่างอารมณ์ ที่เตรียมไว้แจกจ่ายถึง 2 พันชุด. | เมื่อสายวันที่ 16 ต.ค. ที่วัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม น.ส.หลู เจียหลง อายุ 32 ปี นักแสดงชาวจีนชื่อดัง พร้อมคณะโดยมีนายซูหลง มัคคุเทศก์ชาวฮ่องกง เดินทางร่วมมาด้วย | ข่าว,ทั่วไทย | ถวายเงินวัด,หลู เจียหลง,นักแสดงชาวจีน,วัดสว่างอารมณ์,นครชัยศรี,นครปฐม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/532917 |
ศาลสั่งจำคุก จตุพร หมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ 6 เดือนรอลงอาญา 2 ปี-ยกฟ้องคดีหนีทหาร | นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมทนายความเดินทางมาที่ศาลอาญารัชดาเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค.-15ก.พ. 2553 นายจตุพรขึ้นเวทีปราศรัย และ จัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นสั่งฆ่าประชาชนและหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจากพยานหลักฐานในกรณีกล่าวปราศรัยฆ่าประชาชนว่า ถือเป็นการหมิ่นประมาททำให้โจทก์เกิดความเสียหายจึงพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 50000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปีส่วนกรณีปราศรัยกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ศาลเห็นว่า เป็นการติชมแสะแสดงความเห็นโดยสุจริต ซึ่งในขณะนั้นโจทก์อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีย่อมมีการตรวจสอบได้ อีกทั้งหลักฐานเอกสารการของโจทก์ยังมีข้อพิรุธสงสัยศาลจึงพิพากษายกฟ้อง | ศาลอาญารัชดามีคำพิพากษาให้จำคุก 6 เดือนปรับ 50000 บาทนายจตุพร พรหมพันธ์ กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฟ้องร้อง ฐานหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาว่า สั่งฆ่าประชาชน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนกรณีกล่าวหาหนีทหารยกฟ้อง เพราะเอกสารนายอภิสิทธิ์ยังมีข้อพิรุธสงสัย | อาชญากรรม | จตุพร,ศาลอาญา,หนีทหาร,หมิ่นประมาท,อภิสิทธิ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/114554 |
ไฟไหม้บ่อขยะในอยุธยาทำพิษ หมอกควันหนาปกคลุมทั่วพื้นที่ | สภาพหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเสาธง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องอยู่ในสภาพหมอกควันปกคลุมหนาทึบทั้งหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุไฟไหม้ไฟกองขยะกลางทุ่งนา เนื้อที่กว่า 60 ไร่ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านเพียง 1 กิโลเมตรตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมรถดับเพลิง 4-5 คัน มาฉีดน้ำล่อเลี้ยง แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้กองขยะได้ ล่าสุดกระแสลมที่แรงได้พัดพาควันฟุ้งกระจายไปหลายหมู่บ้านในอำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราช ส่งผลให้ชาวบ้านโดยเฉพาะเด็กและคนชราหลายคนเริ่มมีอาการเจ็บคอ และ แสบจมูก ขณะเดียวกันสาธารณสุขบางปะหัน ต้องเร่งนำหน้ากากอนามัยไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน 6 -700 คนที่ประสบภัย พร้อมแนะนำให้อพยพออกจากพื้นที่ชั่วคราวด้านกระทรวงสาธารณสุขกำชับให้แพทย์โรงพยาบาล ที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุเข้ามาดูแลชาวบ้านอย่างเต็มที่ เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์หมอกควันได้ ส่วนบริเวณโรงงานกำจัดขยะสารพิษ ในตำบลห้วยแห้ง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่มีเสียงคล้ายระเบิดเมื่อวานนี้ ได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงว่า ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าให้รายละเอียดมากนัก โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของมลพิษทางอากาศ และแหล่งน้ำธรรมชาติที่เกิดขึ้นบริเวณบ่อกำจัดขยะสารพิษดังกล่าวเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของโรงงาน ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านบริเวณนี้ ต้องทำใจยอมรับสภาพความเป็นอยู่นานหลายปี ทั้งกลิ่นและน้ำจากบ่อขยะ ที่มีสีดำไหลลงนาข้าว และแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือเด็กๆที่อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องสุขภาพ | ชาวบ้าน3 อำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องประสบกับปัญหาหมอกควันปกคลุมหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะเนื้อที่กว่า 60 ไร่ในอำเภอบางปะหัน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณหมอกควันได้ | ภูมิภาค | บ่อขยะ,ปกคลุม,สาธารณสุข,หมอกควันหนา,อยุธยา,ไฟไหม้ | https://news.thaipbs.or.th/content/77363 |
ชาวกระแสบนต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล ป้องแหล่งน้ำประปา-รักษาพื้นที่เกษตร | ชาวบ้านกระแสบน จ.ระยอง หลายร้อยคนรุกพบผู้ว่าฯ ระยองและอุตสาหกรรมจังหวัด ขอยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศของท้องถิ่น และอาชีพเกษตรเมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม 2558) ชาวบ้านจาก ต.กระแสบนกว่า 300 คน ซึ่งรวมตัวกันในนาม กลุ่มรักษ์กระแสบน ได้เคลื่อนขบวนจากตำบลกระแสบนมาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดระยอง พร้อมด้วยป้ายคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดและยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทสหกิจไบโอเพาเวอร์ จำกัด โดยได้ยื่นรายชื่อและสำเนาบัตรประชาชนของผู้คัดค้านกว่าพันคนจากหลายหมู่บ้านทั้งนี้ นายธีระวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เป็นผู้มารับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ซึ่งติดภารกิจลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนจากภัยน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของจังหวัด นอกจากนี้ยังมีนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ผู้แทนพลังงานจังหวัดระยอง และผู้แทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดระยอง ออกมาร่วมรับหนังสือในครั้งนี้ด้วยนายดนัย วงษ์ยัง ตัวแทนกลุ่มคนรักษ์กระแสบน กล่าวว่า พื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นพื้นที่ร้บน้ำ และเป็นพื้นที่เกษตรที่สำคัญของชุมชน ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้ตั้งโรงไฟฟ้า ดังนั้นทางจังหวัดควรตั้งคณะทำงานไปศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ให้ดีเสียก่อนตัดสินใจในเรื่องนี้ด้านนายธีระวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้กล่าวกับตัวแทนชาวบ้านว่า ขณะนี้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยองยังอยู่ในช่วงพิจารณาโครงการ ยังไม่มีการอนุมัติหรือออกใบอนุญาตแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้กล่าวย้ำว่า การจะอนุมัติหรือออกใบอนุญาตให้สร้างโรงไฟฟ้าได้นั้น จะต้องจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ประชาชนจึงสามารถใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นตามกระบวนการได้ และก่อนหน้านี้หลังจากที่มีข่าวว่าประชาชนในพื้นที่คัดค้านโครงการนี้ ทางจังหวัดก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานไปศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่นี้แล้วทั้งนี้ บริษัทสหกิจไบโอเพาเวอร์ จำกัด มีแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล บนเลขที่ 999 หมู่ 9 ตำบลกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยพื้นที่ตั้งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ต.กระแสบน อีกทั้งด้านหลังยังติดกับลำคลองกระแส ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำประปาหลักที่หล่อเลี้ยงชุมชนกระแสบน และเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำประแสร์ ประชาชนในพื้นที่จึงเกิดความวิตกว่า หากในอนาคตมีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำแห่งนี้นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่งของพื้นที่โครงการยังอยู่ใกล้โรงเรียนวัดกระแสบนและวัดกระแสคูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชุมชนและมีโบสถ์อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี อนึ่ง นอกจาก ต.กระแสบน จะเป็นแหล่งรับน้ำที่สำคัญแล้ว ยังเป็นพื้นที่เกษตรที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนจำนวนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาทิ สวนยางพารา ทำนาข้าว และสวนไม้ผลแบบผสมผสาน เช่น ทุเรียน มังคุด กระท้อน มะม่วง และอื่นๆ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของชุมชนนายชำนาญ หนูชูแก้ว หนึ่งในตัวแทนกลุ่มคนรักษ์กระแสบน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การรวมตัวของครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ทุกคนมีความรักในท้องถิ่น และเห็นว่าพื้นที่นี้เป็นแหล่งเกษตร ไม่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นเพราะจะมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนและสิ่งแวดล้อมขณะที่นางพรรณทิพา วรรณศิริ ตัวแทนกลุ่มคนรักษ์กระแสบนอีกคนหนึ่ง ก็ได้ให้ข้อมูลว่า แม้ในปัจจุบัน ต.กระแสบน ก็มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาดำเนินกิจการอยู่แล้วหลายโรง เช่น โรงงานไต๋รับเบอร์ โรงงานไทยทราโฟแมนูแฟคเจอริ่ง โรงงานระยองกล๊าสอินดัสตรี และโรงงานไทยอีสเทิร์นวู้ด เป็นต้น ซึ่งบ่อยครั้งที่ชาวบ้านต้องเดือดร้อนกับปัญหากลิ่นเหม็นจากโรงงาน แต่ก็ไม่มีหน่วยงานราชการใดให้ความสนใจเข้ามาตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ ชาวบ้านที่นี่จึงไม่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าหรือโรงงานใดๆ เข้ามาสร้างเพิ่มเติมอีกนอกจากนี้ชาวบ้านยังทราบมาว่า บริษัท สหกิจไบโอพาวเวอร์ จำกัดที่เป็นเจ้าของโครงการมีสายสัมพันธ์กับประธานอุตสาหกรรมไม้ยางพาราภาคตะวันออกและเจ้าของบ่อขยะที่ห้วยยาง ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านกังวลว่า ในอนาคตอาจจะมีการนำขยะมาเป็นเชื้อเพลิงและก่อปัญหามลพิษที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่นี้ได้ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดได้รับหนังสือคัดค้านตามหน้าที่แล้ว หลังจากนี้ก็จะสรุปการคัดค้านของภาคประชาชน และจะทำหนังสือนำส่งเรื่องนี้ไปยังกระทรวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง คือ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานหากพี่น้องประชาชนชาวกระแสบน ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าชีวมวล คงต้องรอคำตอบจากกระทรวงที่มีอำนาจอนุมัติ อนุญาต เมื่อทางจังหวัดได้รับหนังสือนี้แล้ว ก็จะทำสำเนาส่งกลับไปให้ประชาชนรับทราบต่อไปการยื่นหนังสือคัดค้านของชาวบ้านกระแสบนครั้งนี้ เป็นการใช้สิทธิ์ตามที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้ขอความร่วมมือจาก อบต.กระแสบน ให้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการพิจารณาเกี่ยวกับโรงงานจำพวก 3 กรณีบริษัทสหกิจไบโอเพาเวอร์ จำกัด ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ อบต.กระแสบน ได้แจ้งให้กลุ่มรักษ์กระแสบนที่ประสงค์จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ แจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 11 ตุลาคม 2558 ตามประกาศสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เรื่องการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในการพิจารณาเกี่ยวกับโรงงานจำพวก 3โดยในประกาศดังกล่าวระบุว่า วัตถุดิบของโครงการนี้ ประกอบด้วย เศษไม้ยางพารา จำนวน 142387 ตันต่อปี มีการใช้สารคลอรีนเป็นเคมปรับสภาพน้ำ 600 ตันต่อปี และใช้งบประมาณลงทุนเบื้องต้น 800 ล้านบาท พร้อมทั้งได้ระบุว่าผลกระทบจากโครงการนี้มีเพียง 2 ประการ คือเสียงดังและฝุ่นละออง โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือประชาชนซึ่งอยู่ในรัศมีเพียง 500 เมตรทั้งนี้ ในวันที่ 8 ต.ค. 58 นี้ ตัวแทนกลุ่มรักษ์กระแสบนจะเดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านโครงการต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิชุมชนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไป | ชาวบ้านกระแสบน จ.ระยอง หลายร้อยคนรุกพบผู้ว่าฯ ระยองและอุตสาหกรรมจังหวัด ขอยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศของท้องถิ่น และอาชีพเกษตร เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม 2558) | คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | กลุ่มรักษ์กระแสบน,โรงไฟฟ้าชีวมวล | https://prachatai.com/journal/2015/10/61819 |
ย้ำ เจลล้างมือโหลดขึ้นเครื่องบินไม่เกิน 2 ลิตร พกติดตัวไม่เกิน 100 มล. | จากกรณีช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVD-19) ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย ทำให้เกิดความจำเป็นต้องใช้ทั้งในส่วนของหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเรียกว่าถือเป็นอุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัวไปทุกที่ โดยในส่วนของเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดีสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.ได้ออกมาย้ำถึงปริมาตรในการพกพาที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ที่ได้กำหนดข้อจำกัดในการพกพา หรือ นำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเดินทาง โดยเฉพาะการใช้บริการสายการบินนั้นๆนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.เปิดเผยว่า กรณีแอลกอฮอล์ขึ้นเครื่องติดตัวนั้นจะเป็นไปตามระเบียบเดิม คือต้องมีปริมาตรไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยยึดถือปริมาตรที่ระบุข้างบรรจุภัณฑ์ในกรณีพกเจลแอลกอฮอล์เดินทางขึ้นเครื่องบิน แอลกอฮอล์ที่โหลดลงท้องเครื่องบิน ผู้โดยสารสามารถนำไปได้ ชิ้นละไม่เกิน 500 ซีซี.รวมทั้งหมดแล้วไม่เกิน 2 ลิตร โดยสาเหตุสำคัญที่ต้องมีการคุมปริมาตรเนื่องจาก เจลแอลกอฮอล์นั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัสดุที่ติดไฟได้หากมีปริมาณที่เยอะ. | กพท.ย้ำ พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือขึ้นเครื่องติดตัวได้ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรยึดตามปริมาตรที่ระบุข้างบรรจุภัณฑ์ ส่วนการโหลดใต้ท้องเครื่องบิน นำไปได้ ชิ้นละไม่เกิน 500 ซีซี.รวมไม่เกิน 2 ลิตร | ข่าว,เศรษฐกิจ | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,เจลล้างมือ,เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ,แอลกอฮอล์ขึ้นเครื่องบิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1789016 |
หญิงไทยโกงสุดเนียน เตรียมขึ้นศาลสหรัฐฯ ลวงซื้อ-คืนกระเป๋าถือแบรนด์ดัง | แถมยังไม่พอ เอากระเป๋าของแท้ไปขายผ่าน IG,เมื่อ 30 พ.ค. เว็บไซต์ forum.purseblog.com ส่องอินตราแกรม หรือไอจี แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ (Praepitcha Smatsorabudh) หญิงไทยวัยประมาณ 40 ที่มีถิ่นฐานอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย ในสหรัฐฯ ต้องตกเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลก จากการที่เธอถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เข้าจับกุมเมื่อวันพฤหัสฯที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากใช้กลโกงสุดแนบเนียน วางแผนซื้อกระเป๋าถือแบรนด์เนมของแท้ อย่าง กุชชี่, เฟนดิ จากร้านค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้า แต่กลับ นำกระเป๋าของปลอม เกรด A ผลิตในจีนและฮ่องกง ไปคืนร้านกระเป๋าแบรนด์เนมของยี่ห้อเหล่านี้ ตามห้างสรรพสินค้าในสหรัฐฯถึงอย่างน้อย 12 รัฐ ส่วนกระเป๋าแบรนด์เนมของจริง ก็นำไปขายในโลกออนไลน์ ทางอินสตาแกรม หรืออีเบย์ จนทำให้เธอมีรายได้มหาศาล,ไอจี ของแพรพิชชา ที่เว็บไซต์ forum.purseblog.com นำมาลงนั้น ระบุว่า ใช้ชื่อว่า richgirlscollection ซึ่งได้เขียนคำโฆษณาเชื้อเชิญให้มาซื้อกระเป๋าว่า Rich Girls Collection เป็นกระเป๋าระดับ ไฮเอนด์ ของแท้ 100% สามารถเข้าไปดูได้ที่อีเบย์ส่วนตัวของฉัน : loukpeach and richgirlscollection พร้อมกับได้มีการลงรูปกระเป๋าถือของผู้หญิง แบรนด์ดังในไอจีของเธอ ที่เชื่อว่าสาวน้อยสาวใหญ่ที่ได้เห็นกระเป๋าเหล่านี้แล้ว ต้องตาลุกวาว อยากจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของแน่นอน,สำนักข่าวเอบีซีของสหรัฐฯ แจ้งว่า ตามรายงานเอกสารการสืบสวนของเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ยื่นต่อศาล ระบุ แพรพิชชา ได้ก่อพฤติกรรมผิดกฎหมายนี้มาหลายปี โดยกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ ที่เธอซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้า นั้น ส่วนมาก สนนราคาตกใบละถึง 2,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 70,000 บาท แต่จากนั้น เธอก็นำกระเป๋าของปลอม เกรด A ไปคืน และได้รับเงินคืนจากห้างสรรพสินค้า ทั่วสหรัฐฯ,จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯยังพบว่า เมื่อก.ย.2557 แพรพิชชา ได้ส่งอีเมลไปยังผู้ผลิตกระเป๋าแบรนด์เนม ของปลอมรายหนึ่ง โดยเธอเขียนข้อความว่า นี่เป็นกระเป๋าของปลอมที่เหมือนมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา คุณสามารถส่งกระเป๋าแบบนี้ของโรงงานคุณมาอีกได้มั้ย โดยแพรพิชชา ยังถูกกล่าวหาว่า ได้เดินทางไปคืนกระเป๋าตามรัฐต่างๆในสหรัฐฯ อย่างน้อย 12 รัฐ เพื่อขอเงินคืนจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยมีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เธอไปบ่อยมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่เปิดเผยว่าเป็นห้างสรรพสินค้าใด,เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คาดว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แพรพิชชามีรายได้จากเงินค่าคืนกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นเงิน มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 35 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ สามารถจับกุมสาวไทยรายนี้ได้เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สืบสวนของปลอมของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง รวมทั้ง สำนักงานตำรวจ อาร์ลิงตัน เคาน์ตี้ และเจ้าหน้าที่สืบสวนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งได้ปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของแพรพิชชาที่ขายทางอินสตาแกรมและอีเบย์,สำนักข่าวเอบีซีแจ้งว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2559 เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านของแพรพิชชา ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย และพบกระเป๋าถือของผู้หญิง จำนวนถืง 572 ใบ ส่วนมากเป็นของปลอม โดยขณะนี้ แพรพิชชาได้ถูกตั้งข้อหา ฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งถ้าศาลตัดสินว่าเธอทำผิดจริงตามข้อกล่าวหา จะต้องเผชิญหน้ากับโทษจำคุกสูงสุดนานถึง 20 ปี ขณะที่ตามกำหนดการของศาลนั้น แพรพิชชาจะไปให้การต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย ในสัปดาห์หน้า,ขณะที่ เอบีซี ยังรายงานทิ้งท้ายว่า แพรพิชชา เกิดในประเทศไทย แต่ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่า เธอมีสถานะเป็นคนเข้าเมือง หรือ มีสถานะเป็นพลเมืองของสหรัฐฯ | หญิงไทยวัยประมาณ 40 พำนักอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย เตรียมขึ้นศาลสหรัฐฯสัปดาห์หน้า หลังโดน จนท.รบ.กลางจับกุม ข้อหาวางแผนสุดเนียน ซื้อกระเป๋าถือแบรนด์เนมจากร้านค้าออนไลน์ของห้างฯ แต่เอาของปลอม เกรด A ไปคืนแทน ฟันเงินแล้วกว่า 35 ล้าน | null | หญิงไทยโกงเนียน,หญิงไทยโดนจับในสหรัฐฯ,หญิงไทยขึ้นศาลในสหรัฐฯ,ลวงซื้อกระเป๋าแบรนด์ดัง,แพรพิชชา,รัฐเวอร์จิเนีย,สหรัฐฯ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/628568 |
สมาคมแบดฯ ลั่นซีเกมส์มีทอง-สุธีรมานเข้า 8 ทีม | วันที่ 3 ก.พ. นายสมพล คูเกษมกิจ หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักแบดมินตันทีมชาติไทย เปิดเผยว่า หลังจาก อาร์ทบดินทร์ อิสสระ กับ เอมณีพงศ์ จงจิตร สะสางปัญหาต่างๆ และเมื่อบดินทร์ กลับจากการเล่นลีกอาชีพที่มาเลเซียเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะกลับมาไทยวันที่ 9 ก.พ.นี้ ก็จะให้ทั้งคู่เริ่มฝึกซ้อมร่วมกันในวันที่ 10 ก.พ.ทันที เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันรายการแรกคือ สวิส โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ โกลด์ ชิงเงินรางวัลรวม 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,840,000 บาท วันที่ 10-15 มี.ค.นี้ ที่เมืองบาเซิ่ล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์, ,นายสมพล กล่าวว่า แม้ตอนนี้คู่เอ-อาร์ทจะหลุดไปรั้งคู่มือ 230 ของโลก แต่เชื่อว่าด้วยศักยภาพ และความสามารถของทั้งคู่จะทำผลงานติดไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลในปีหน้าได้ แม้จะต้องออกแรงเหนื่อยพอสมควร ซึ่งเมื่อผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้วก็เชื่อว่ามีลุ้นเหรียญรางวัลแน่นอน เพราะเมื่อถึงจุดนั้นแล้ว ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่อยากให้ทั้งคู่เร่งที่สุดคือการเล่นให้เข้าขากันโดยเร็ว, ,นอกจากนี้ นายสมพล ยังกล่าวถึงการเตรียมนักตบลูกขนไก่ทีมชาติไทยว่า วันที่ 10-17 พ.ค.นี้ จะยกทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่งขันศึกทีมผสมชิงแชมป์โลก สุธีรมาน คัพ ที่จีน โดยครั้งก่อนเราเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแต่ไปพ่ายเกาหลีใต้ ส่วนครั้งนี้ก็หวังขั้นแรกคือเข้ารอบ 8 ทีมให้ได้ ขณะที่การเตรียมทีมซีเกมส์ ครั้งที่ 28 วันที่ 5-16 มิ.ย. ที่สิงคโปร์ ยังต้องดูว่าชาติในอาเซียน อย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะส่งทีมชุดใดไป เพราะตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้ ทุกชาติน่าจะพุ่งเป้าหมายไปที่การเก็บคะแนนสะสมไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ แต่ไม่ว่าแต่ละชาติจะส่งชุดใดไป ส่วนตัวมองว่านักตบลูกขนไก่ไทยมีลุ้นคว้าเหรียญทองได้แน่นอน โดยเฉพาะ หญิงเดี่ยว รองลงมาคือ ชายเดี่ยว ซึ่งทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข เป็นแชมป์เก่า ขณะที่คู่ของ บดินทร์-มณีพงศ์ จะร่วมทีมไปซีเกมส์หรือไม่ต้องดูอันดับโลกช่วงนั้นว่าดีขึ้นเพียงใด หากดีขึ้น ก็สามารถร่วมทีมไปลุ้นเหรียญได้แน่, ,ด้าน มณีพงศ์ และ บดินทร์ แสดงทัศนะส่วนตัวตรงกันว่า ในรายการแรกที่สวิสเซอร์แลนด์ จะพยายามเข้ารอบให้ลึกที่สุด ส่วนสองรายการหลังทั้ง โปลิช โอเพ่น วันที่ 18-21 มี.ค. ที่โปแลนด์ และ ออร์เลออง อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเล้นจ์ วันที่ 26-29 มี.ค. ที่ฝรั่งเศส จะดึงฟอร์มเก่งเพื่อที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ และเป็นการเคาะสนิมเรียกฟอร์มเดิมกลับมาด้วย | นายสมพล คูเกษมกิจ หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักแบดมินตันทีมชาติไทย มั่นใจ ทัพลูกขนไก่ทีมชาติไทยมีลุ้นถึงทองในกีฬาซีเกมส์แน่นอน ส่วน ศึกทีมผสมชิงแชมป์โลก สุธีรมาน คัพ ที่จีน ตั้งเป้าอย่างน้อย 8 ทีมสุดท้ายเหมือนครั้งที่แล้ว | null | นายสมพล คูเกษมกิจ,แบดมินตันทีมชาติไทย,มณีพงศ์ จงจิตร,บดินทร์ อิสสระ,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/478909 |
จ่อยิงลูกทุ่ง แสงเพชร แสงอนันต์ ดับคาร้านอาหาร | เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. ร.ต.ท.ณัฐพล ศุภกระศร พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในร้านอาหารครัวเชียร เลขที่ 93/61 ม.10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง ริมถนนกาญจนาภิเษกขาออก,หลังทราบเหตุได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยพล.ต.ต.สำราญ ยินดีอารมย์ ผบก.ภ.นนทบุรี พ.ต.อ.ปรีชา มาเจริญ ผกก.ปค.ศฝร.ภ.1 รักษาการ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.รุ่งระวี สุขัง รองผกก.ป. พ.ต.ท.จามร สุนทรกิจ รองผกก.สส. พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ อัฑฒพงษ์ สว.สส. แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ฯ และมูนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ เป็นร้านอาหาร หลังคามุงจาก มีไม้ไผ่ทำเป็นรั้วอย่างมิดชิด อยู่ริมถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกไปสุพรรณบุรี ภายในร้านมีผู้มาทานอาหารกว่า 50 คนอยู่ในอาการตื่นตระหนก พบผู้เสียชีวิต เป็นชาย อยู่หน้าห้องน้ำ ข้างเวทีด้านในร้าน,ทราบชื่อผู้ตายคือ นายแสงเพชร นาคสุข อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/25 ม.5 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพช่างเย็บเสื้อผ้าโหล และยังเป็นนักร้องเพลงเก่า ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย ทะลุหน้าผาก ที่สีข้างและลำตัวอีกรวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 6 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,ต่อมาได้มี นางกันทรากร สุขศิลปชัย อายุ 52 ปี ภรรยาผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่า นายแสงเพชร สามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครเลย และไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เพียงแต่ว่าเป็นคนที่ชอบร้องเพลง และเคยออกอัลบั้มเพลง ลูกทุ่งรีเทิร์น โดยนำเพลงของสายัณห์ สัญญา มาร้องใหม่ ใช้ชื่อว่า แสงเพชร แสงอนันต์ เมื่อไม่นานมานี้เอง,จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายแสงเพชร ผู้ตาย ได้มาพร้อมกับ นายกมล อ่ำสงวน อายุ 59 ปี โดยมาร่วมงานวันเกิดนายชินโชติ จั่นฤทธิ์ อายุ 49 ปี ผู้บริหารของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้านจันทิมา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยก่อนเกิดเหตุ นายแสงเพชร ได้เดินเข้าห้องน้ำ และมีคนร้ายเดินตามเข้าไป ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 6-7 นัด หลังก่อเหตุมือปืนได้วิ่งออกประตูด้านหลังร้าน ไม่ทราบว่าหลบหนีไปทิศทางใด,อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ อัฑฒพงษ์ สว.สส.สภ.สภ.บางบัวทอง พร้อมชุดสืบสวน ได้ออกหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนร้าย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นเหตุเฉพาะหน้า ที่มาจากการทะเลาะวิวาท | ฆ่าอุกอาจ มือปืนจ่อยิงนักร้องรุ่นเก๋า แสงเพชร แสงอนันต์ ดับหน้าห้องน้ำร้านริมถนนย่านบางบัวทอง เมียบอกผัวไม่เคยมีเรื่องกับใคร เพียงแต่ชอบร้องเพลง เคยออกอัลบั้มนำเพลงของสายัณห์ สัญญา มาร้องใหม่ ตร.คาด ปมเหตุเฉพาะหน้า | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่านักร้อง,ยิงนักร้อง,นักร้องรุ่นเก่า,แสงเพชร นาคสุข,แสงเพชร แสงอนันต์,ร้านครัวเชียร,บางบัวทอง,นนทบุรี,อาชญากรรม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/468397 |
ยิงดับหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาเล่นมือถือ ลูกซองซัดเข้ากลางอก คาดติดค่ายา | เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ม.ค.62 ร.ต.อ.ศุภวิทย์ ไชยประพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายข้างบ้านเลขที่ 15/3 หมู่ 8 บ้านควนสะตอ ต.บางรูป จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก. พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป. พ.ต.ต.สมนึก สุวรรณวงศ์ สว.สส. ร.ต.อ.ธีระโชติ ณ พัทลุง หน.สายตรวจรถยนต์ พญ.กิตินารถ นาคเสน แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์จุดบางรูป,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ติดกับถนนสายบ้านควนสะตอ ชลประทาน ข้างกำแพงหน้าบ้านพบศพ นายสุชัย จี้บุตร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 8 ต.บางรูป อดีตพนักงานขายซิงเกอร์ สภาพศพถูกจ่อยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนกระจายเต็มหน้าอกและลำคอนับได้ 6 รู และที่ข้อมือซ้ายอีก 3 รู รวม 9 รู้ นอนคุดคู้คว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในชุดใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ใส่รองเท้าแตะหนังสีดำยังสวมอยู่ที่เท้าทั้งสองข้าง,ที่เกิดเหตุพบหมอนรองกระสุนสีแดงตกอยู่ที่ปลายเท้าผู้ตาย 1 อัน ใกล้กันพบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือมีรอยถูกยิงชิ้นส่วนกระจาย อีกเครื่องผู้ตายนนอนทับสภาพยังใช้งานได้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อหาเบาะแสร่องรอยการติดตามตัวหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี,สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเดินออกจากบ้านที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 10 เมตร เพื่อมานั่งเล่นโทรศัพท์ตรงที่มีคลื่นสัญญาณ ระหว่างที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเล่นโทรศัพท์อยู่นั้น มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิดและทะเบียน นั่งซ้อนท้ายมากันสองคนขี่เข้ามาจอดใกล้กับที่ผู้ตายนั่งอยู่,จากนั้นหนึ่งในสองคนร้ายเดินลงจากรถ ตรงเข้าไปพูดคุยเพื่อตกลงในเรื่องอะไรบางอย่าง แต่น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องคนร้ายที่นั่งคุยสบโอกาสชักปืนลูกซองที่พกติดตัวมาจ่อยิงเข้าที่กลางอกไป 1 นัด เห็นผู้ตายทรุดนอนคว่ำหน้าจมเลือด จึงรีบวิ่งไปขึ้นรถที่เพื่อนจอดติดเครื่องรออยู่ขี่หลบหนีไป,ส่วนสาเหตุการสังหารโหดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นไว้ 2 คือโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากพบว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประมาณสองเดือนผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกับคู่อริรายหนึ่งที่อยู่คนละตำบลกับผู้ตาย ถึงขั้นขู่จะทำร้าย จนผู้ตายทนไม่ได้ต้องกลับมาอยู่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุได้เพียง 3 วัน กระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิต,อีกเรื่องคือ หักหลังในธุรกิจผิดกฏหมาย จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติด ผู้ตายอาจจะไปติดค้างค่ายาแล้วไม่จ่าย จนทำให้ผู้ร่วมขบวนการไม่พอใจ จึงมาทวงถามเงินส่วนนั้นแต่ผู้ตายไม่มีให้ คนร้ายจึงตัดสินใจใช้ปืนมาจ่อยิงจนเสียชีวิต,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำกำลังลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ ทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล เช็กดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฏหมายต่อไป. | เห็นเหยื่อตั้งหน้าตั้งตาเล่นมือถืออยู่ข้างบ้าน 1 ใน 2 คนร้ายโดดลงจากรถจยย. ทำทีเข้าไปพูดคุย สบโอกาสชักปืนลูกซองสั้นจ่อยิงกลางอกจนพรุน อดีตพนักงานขายเสียชีวิตคาที่ ตร.ตั้ง 2 ประเด็นสังหารโหด | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงดับ,บิดค่ายา,ตั้งหน้าตั้งตาเล่นมือถือ,ลูกซองซัด,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1467021 |
คมนาคม สั่ง รฟท. เร่งลงนามรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ภายใน ส.ค.นี้ | นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้การรถไฟฯ เร่งการลงนามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน (ดอนเมืองสุวรรณภูมิ อู่ตะเภา กับกลุ่มซีพี ซึ่งจะพยายามเร่งลงนามให้ทันในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งที่ผ่านมายังคงติดปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าส่วนเรื่องความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อแปลง A ภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2566 ซึ่งการรถไฟได้เปิดจำหน่ายเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมทุน (TOR) จนถึงเมื่อวานนี้ที่ปิดกำหนดรับซองเอกสารการคัดเลือกแต่ปรากฏว่าไม่มีบริษัทใดเข้ายื่นซองเอกสาร นายวรวุฒิ ระบุว่าหลังจากนี้จะต้องหารือกับคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป โดยจะมีการพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขบางข้อ แต่ยืนยันว่าราคากลางจะไม่มีการปรับลดอย่างแน่นอน | ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งลงนามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน หลังจากติดปัญหาส่งมอบพื้นที่ล่าช้า คาดลงนามทันภายใน ส.ค.นี้ | เศรษฐกิจ | รถไฟ,ดอนเมือง,อู่ตะเภา,สนามบิน | https://news.thaipbs.or.th/content/282207 |
คลังจ่อคลอด พิโกไฟแนนซ์พลัส | จากปัจจุบันอนุญาตให้ปล่อยสินเชื่อได้ไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ต่อปี จะเพิ่มเป็นไม่เกิน 100,000 บาท โดยเงินกู้ที่เกิน 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 28% หรือเรียกว่า พิโกไฟแนนซ์พลัส ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มั่นใจว่า พิโกไฟแนนซ์พลัสจะช่วยแก้ไขหนี้นอกระบบได้มากขึ้น เพราะถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ที่สามารถกู้เพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเพื่อดำเนินธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น ทะเบียนรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ แต่ผู้ที่ได้รับในอนุญาตพิโกไฟแนนซ์ ต้องระบุขอบเขตการปล่อยสินเชื่อ เช่น จังหวัด หรืออำเภอ เป็นต้น,กระทรวงต้องการลดหนี้นอกระบบให้เป็นหนี้ในระบบ เพราะปัจจุบันประชาชนจำนวนมาก มีหนี้นอกระบบที่มากกว่า 50,000 บาท จึงต้องเพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อให้แก่พิโกไฟแนนซ์ เพื่อช่วยลดหนี้นอกระบบ ส่วนนาโนไฟแนนซ์ ยังไม่มีนโยบายอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นการปล่อยกู้เพื่อทำธุรกิจ และต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน,ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 ถึงเดือน ม.ค.62 มีนิติบุคคลที่ยื่นขออนุญาตพิโกไฟแนนซ์ทั่วประเทศ 794 ราย ใน 68 จังหวัด แต่ได้รับใบอนุญาตแล้ว 469 ราย ใน 66 จังหวัด ในจำนวนนี้ เปิดดำเนินการแล้ว 382 ราย ใน 64 จังหวัด และมีผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อแล้ว 358 ราย ใน 63 จังหวัด โดย ณ สิ้นเดือน ธ.ค.61 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสม 56,558 บัญชี รวม 1,558.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ย 27,564.01 บาทต่อบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อแบบมีหลักประกัน 30,274 บัญชี รวม 929.26 ล้านบาท หรือ 59.61% ของยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน 26,284 บัญชี รวม 629.71 ล้านบาท หรือ 40.39%,ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 20,402 บัญชี คิดเป็นเงิน 587.97 ล้านบาท สำหรับสินเชื่อคงค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มี 1,944 บัญชี คิดเป็นเงิน 57.90 ล้านบาท หรือ 9.85% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม และมีสินเชื่อคงค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (เอ็นพีแอล) 645 บัญชี คิดเป็นเงิน 35.91 ล้านบาท หรือ 6.11% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม. | นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) | ข่าว,เศรษฐกิจ | อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,อัตราดอกเบี้ย,พิโกไฟแนนซ์พลัส,เงินกู้,สินเชื่อ,หนี้นอกระบบ,หลักทรัพย์ค้ำประกัน | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1523015 |
อเล็กซิส พาเฮ ชิลีเฉือนหวิวเอกวาดอร์ 2-1 ลิ่วโคปา อเมริกา | วันที่ 22 มิ.ย.62 การแข่งขันศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา 2019 ที่บราซิล โดยเกมนัดที่สองของกลุ่ม ซี ชิลี แชมป์เก่า ซึ่งเก็บชัยมาในเกมแรก พบกับ เอกวาดอร์ ซึ่งต้องการแต้มในเกมนี้ เพื่อต่อลมหายในใจการเข้ารอบ,เปิดฉากครึ่งแรกไปเพียงแค่ 8 นาที เป็นฝั่งชิลีที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู โฮเซ เปโดร ฟวนซาลิดา เก็บตกแถวสองด้วยการตะบันเต็มข้อตุงตาข่าย,แต่นาที 26 เอกวาดอร์ตามตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ เมื่อได้ลูกที่จุดโทษ ก่อนที่ เอนเนอร์ วาเลนเซีย รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังนาที 51 ชิลีก็ขยับนำอีกครั้งเป็น 2-1 ชาร์ลส์ อารันกิซ เปิดบอลมาที่เสาสองให้กับ อเล็กซิส ซานเชซ ยิงด้วยขวาเข้าไป,จากนั้นเกมของทั้งสองทีมเปิดแลกกันมากขึ้น แต่ในช่วงท้ายเกมนาที 89 เอกวาดอร์ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น เมื่อ กาเบรียล อาคิลเลียร์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม,กระทั่งจบเกม ชิลี ไล่เบียดเอาชนะ เอกวาดอร์ ไปในที่สุด 2-1 เก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัด ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว แม้จะเหลือเกมนัดสุดท้ายกับอุรุกวัยก็ตาม ขณะที่เอกวาดอร์ต้องไปลุ้นเข้ารอบกับญี่ปุ่นต่อไป. | อเล็กซิส ซานเชซ ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ซัดประตูชัยช่วยให้ชิลีไล่เบียดเอาชนะเอกวาดอร์ไป 2-1 การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ โคปา อเมริกา 2019 แน่นอนแล้ว | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ผลบอล,โคปา อเมริกา 2019,ทีมชาติชิลี,ทีมชาติเอกวาดอร์,อเล็กซิส ซานเชซ | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1597498 |
ผลสอบเครนล้มทับผู้แสวงบุญที่ซาอุฯ ชี้บ.ก่อสร้าง ไม่เคารพกฎความปลอดภัย-จุดตั้งเครนไม่เหมาะสม | สำนักข่าวของทางการซาอุดิอาระเบียรายงานผลการสอบสวนกรณีเครนล้มทับกลุ่มผู้แสวงบุญในนครมักกะฮ์ของคณะกรรมาธิการการสอบสวน โดยระบุว่าบริษัท ซาอุดิ บินลาดิน กรุ๊ป มีส่วนรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากทางบริษัทไม่ยอมเคารพกฎระเบียบด้านความปลอดภัยและวางเครนไว้ในจุดที่ไม่เหมาะสม ทำให้เมื่อมีลมกระโชกแรงเครนจึงล้มลงมาทับผู้แสวงบุญเสียชีวิต 111 คน บาดเจ็บอีกประมาณ 400 คนรัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะจ่ายเงิยชดเชยให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตคนละ 266000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.8 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชยร้อยละ 50 ของเงินจำนวนนี้ ส่วนสมาชิก 2 คนจากครอบครัวของผู้เสียชีวิต จะได้รับเชิญให้เดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ที่นครมักกะฮ์ในปีหน้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในส่วนของบริษัท ซาอุดิ บินลาดิน กรุ๊ป นั้น ทางการซาอุดิอาระเบีย มีคำสั่งห้ามผู้บริหารของบริษัทเดินทางออกนอกประเทศจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทจะไม่สามารถทำสัญญาในโครงการใหม่ๆ ได้ นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังมีคำสั่งให้ทบทวนสัญญาจ้างอื่นๆ ที่ได้ลงนามกันไปแล้วอีกด้วยทั้งนี้บริษัทซาอุดิ บินลาดิน กรุ๊ป เป็นบริษัทของบิดาของนายโอซามะ บิน ลาดิน อดีตผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์และถือเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของโลกอาหรับ | ทางการซาอุดิอาระเบียเปิดเผยผลการสอบสวนกรณีที่เครนขนาดใหญ่ล้มทับกลุ่มผู้แสวงบุญในแกรนด์ มัสยิด ที่นครมักกะฮ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ย.2558 โดยระบุว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทก่อสร้างที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย | ต่างประเทศ | ข่าว12.00,ข่าวต่างประเทศ,ซาอุ,ซาอุดิอาระเบีย,ผู้แสวงบุญ,มักกะฮ์,เครนล้ม,เมกกะ | https://news.thaipbs.or.th/content/5231 |
เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมใน อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ คาดพรุ่งนี้เข้าสู่ภาวะปกติ | เจ้าหน้าที่ระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามจุดต่างๆ ในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ หลังน้ำป่าจากเทือกเขาแม่วงก์ เข้าท่วมกว่า 3 วัน ล่าสุด น้ำเริ่มลดระดับลง คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 16 สิงหาคมชาวบ้านตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เริ่มทำความสะอาด และสำรวจความเสียหายของทรัพย์สิน หลังน้ำลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงพื้นที่การเกษตรบางส่วนที่ยังมีน้ำท่วมขังที่จังหวัดเชียงราย ถนนสายเชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ถูกกระแสน้ำกัดเสาะจนทรุดตัวลึกกว่า 3 เมตร เทศบาลตำบลเวียง ได้เข้าซ่อมแซม และสามารถเปิดใช้ได้ตามปกติขณะที่นาข้าวที่บ้านนาบง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ชาวนาบอกว่า นาข้าวได้ถูกน้ำท่วมนานกว่า 4 วัน หากน้ำยังไม่ลด จะทำให้ข้าวหลายสิบไร่เน่าตาย | หลายพื้นที่ภาคเหนือซึ่งถูกน้ำท่วมขัง ขณะนี้น้ำเริ่มลดระดังลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเฉพาะที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) | ภูมิภาค | กำแพงเพชร,นครสวรรค์,น้ำท่วม,เครื่องสูบน้ำ,เทือกเขาแม่วงก์ | https://news.thaipbs.or.th/content/189943 |
สันติภาพในอาเจ๊ะห์ | ในที่สุดการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาเจ๊ะห์ หรือ GAM ก็ยุติลงได้หลังจากการเจรจากันครั้งที่ 5 ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ใช้เวลาในการเจรจานานนับสัปดาห์ และเป็นการยุติการต่อสู้ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี โดยการลงนามในข้อตกลงกันทั้งสองฝ่ายนั้นจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 เดือนสิงหาคม ศกนี้การต่อสู้ที่มีมาอย่างยาวนานของกลุ่ม GAM และรัฐบาลอินโดนีเซียที่มีมาตั้งแต่ปี 1976 และสูญเสียชีวิตของผู้คนไปถึง 15000 คนนั้นมีความเกี่ยวพันทั้งในเรื่องของประวัติศาสตร์ การเมือง และ เศรษฐกิจ กล่าวคือ ดั้งเดิมนั้น อาเจ๊ะห์ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะสุมาตรานี้ เป็นแคว้นอิสระที่ปกครองโดยสุลต่าน ครั้นเมื่อสมัยที่ชาวดัชต์เข้ามาปกครองอินโดนีเซียนั้น ดัชต์ก็ยังคงให้อิสระกับอาเจ๊ะห์ โดยไม่ได้นำเข้าไปรวมกับอินโดนีเซียด้วย อาเจ๊ะห์จึงสามารถยังคงความเป็นแคว้นอิสระได้มาโดยตลอด แต่หลังจากที่ซูการ์โน สามารถขับไล่ชาวดัชต์ออกไปได้ จึงรวมเอาอาเจ๊ะห์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียด้วย นี่ก็นับเป็นจุดแรกที่เป็นชนวนความต้องการแบ่งแยกดินแดนที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การต่อสู้เพื่ออิสระภาพของกลุ่ม GAM นั้นเริ่มต้นด้วยเห็นว่า อินโดนีเซียนั้นได้เข้ามาแสวงประโยชน์จากทรัพยากรก๊าซและน้ำมันในอาเจ๊ะห์อย่างมากและไม่เป็นธรรมต่ออาเจ๊ะห์ ส่วนในทางการเมืองนั้นถึงแม้ว่าอินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่มีผู้นับถืออิสลามมากที่สุดในโลก แต่มุสลิมในอินโดนีเซียนั้นเป็นมุสลิมสายกลาง(secular) ในขณะที่กลุ่ม GAM นั้นต้องการที่จะเป็นมุสลิมแบบชาริอะห์ หรือ Fundamentalist การเจรจาที่ผ่านมาตลอดที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้นั้นเนื่องจากทางอาเจะห์ได้ยืนยันมาตลอดที่จะของแยกประเทศออกเป็นอิสระ ในขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียไม่สามารถจะยอมได้ และรัฐบาลก็ได้ทำทุกวิถีทางที่จะจัดการกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนดังกล่าว และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้เองที่รัฐบาลได้ประกาศใฃ้กฎอัยการศึกในจังหวัดอาเจ๊ะห์ อาจมีความประหลาดใจเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อยที่ในการเจรจารอบนี้กลับประสบความสำเร็จ โดยที่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ใน 3 ประการหลักๆคือ อาเจะห์จะไม่แยกตัวออกเป็นประเทศอิสระอย่างเต็มรูปแบบแต่ขออำนาจในการปกครองตนเอง อาเจ๊ะหขอใช้งบประมาณของตนเอง 70 % และ ทั้งสองฝ่ายจะวางอาวุธภายใน 3 เดือนทั้งนี้ สิ่งที่อาเจ๊ะห์ต้องยินยอมประนีประนอมไม่แยกตัวออกเป็นประเทศอิสระนั้น เนื่องจาก เมื่อปีที่ผ่านมานั้นอาเจ๊ะห์ได้ประสบกับภัยซึนามิที่ทำให้ให้ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนไปถึง 131000 คน อาเจ๊ะห์จำเป็นจะต้องใช้เวลาในฟื้นฟูในหลายๆด้าน ดังนั้นความพยายามที่จะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นนั้นส่วนหนึ่งก็เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติสามาถเข้าถึงอาเจ๊ะห์ได้ นอกจากนั้นแล้วจากเหตุการณ์สึนามิก็ทำให้กองกำลังและผู้นำบางคนต้องล้มตายหรือสูญหายไปด้วยอย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อไปว่าสันติภาพในอาเจ๊ะห์นั้นจะยั่งยืนหรือไม่ หรือว่าจริงๆแล้ว GAM อาจจะแค่ต้องการเวลาสงบศึกชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูอาเจ๊ะห์และกองกำลังของกลุ่มเท่านั้น ทั้งนี้ มีประเด็นใหญ่ๆอยู่ 2 ประเด็นที่อาจจะเป็นการจุดชนวน ประการแรกเกี่ยวกับเรื่องการถอนทหาร แม้จะระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะวางอาวุธภายใน 3 เดือน แต่รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศว่าจะถอนทหารออกจากอาเจ๊ะห์ทันทีที่ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนอาเจะะห์วางอาวุธทั้งหมด ดังนั้นก็ยังดูคล้ายๆกับการต่อรองกันก็ยังไม่สิ้นสุดอยู่ดี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความจริงใจของทั้งสองฝ่ายอีกประเด็นหนึ่งก็คือ เนื่องจากว่า ในข้อเรียกร้องของ GAM ที่จะปกครองตนเองนั้น GAM ต้องการที่จะให้มีการตั้งพรรคการเมืองในท้องถิ่น ซึ่งสมาชิกรัฐสภาหลายคนเห็นว่านี่จะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซีย ว่าด้วยเรื่องการตั้งพรรคการเมืองซึ่งจำเป็นจะต้องมีสาขาพรรคอยู่ทั่วประเทศอย่างน้อย 30 สาขา ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นก็คือรัฐบาลจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญข้อที่เกี่ยวกับการตั้งพรรคการเมืองเสียก่อน โดยอาจจะระบุว่าในกฎหมายเกี่ยวกับเขตปกครองตนเองก็ได้ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะยินยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยอมผ่านกฎหมายข้อนี้หรือไม่ หากอาเจ๊ะห์ไม่สามารถตั้งพรรคการเมืองเองได้ก็แน่นอนว่าการปกครองตนเองของอาเจ๊ะห์อาจไม่เป็นจริง การหวนกลับมาต่อสู้ก็อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้งหนึ่ง | ในที่สุดการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาเจ๊ะห์ หรือ GAM ก็ยุติลงได้หลังจากการเจรจากันครั้งที่ 5 ที่กรุงเฮลซิงกิ | การเมือง | null | https://prachatai.com/journal/2005/07/4962 |