title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ชาวบ้านม่อนแจ่ม ร้องถูก ตัดไฟฟ้า-สัญญาณมือถือ
วันนี้ (18 ก.พ.2563) ชาวบ้านและผู้ประกอบการรีสอร์ต 3 หมู่บ้านบนดอยม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เดินทางมาชุมนุมเรียกร้อง และยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยง อ.แม่ริม หลังการจัดระเบียบพื้นที่บนดอยม่อนแจ่มกระทบกับชาวบ้าน และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านแล้วจำนวน 27 คดี ล่าสุดมีการตัดกระแสไฟฟ้าชาวบ้านแล้ว 22 หลังคาเรือน และได้มีหนังสือแจ้งไปยังชาวบ้านเตรียมตัดกระแสไฟฟ้าอีกจำนวน 15 หลังคาเรือน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่ให้รื้อถอนเสาสัญญาณโทรศัพท์ และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 14 และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน พร้อมกับย้ำว่าจะนำข้อร้องเรียนทั้งหมดยื่นต่อนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หลังนั้นปลัดจังหวัดได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายไชยชนะ สุขสกุลปัญญา อดีตผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า ระบุว่าขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมากโดยอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นใจ หวั่นกระทบใช้ชีวิตประจำวัน และธุรกิจของของชาวบ้านด้านนายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ระบุว่า หน่วยงานรัฐจะแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านต้องเป็นไปตามระเบียบของกฎหมาย บนดอยม่อนแจ่มได้รับการผ่อนพันตามมติ ครม.30 มิถุนายน 2541 ปัจจุบันกำลังนำเข้าสู่โครงการ คทช. พิสูจน์สิทธิ์ และให้ชาวบ้านทำถูกให้ถูกต้องตามกฏหมาย ขณะเดียวกันพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นป่าต้นน้ำชั้น 1 ต้องควบคุมการใช้ประโยชน์อย่างเคร่งครัดไม่ให้ส่งผลกระทบเกิดขึ้นพื้นที่ท้ายน้ำนายกมล ยืนยันเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดน้ำตัดไฟชาวบ้าน มีเพียงบางส่วนที่ต่อพวงมาจากโครงการหลวง ส่วนการรื้อถอนเสาสัญญาณออกไปเพราะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ได้ประสานผู้ประกอบการให้ส่งรถสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เดินทางเข้าพื้นที่แล้วสำหรับดอยม่อนแจ่ม กรมป่าไม้ ได้เข้าสำรวจพื้นที่บนดอยม่อนแจ่ม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรีสอร์ตจำนวน 116 แห่ง ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 27 คน และมี 216 คน และมีการนำพื้นที่เกษตรมาสร้างรีสอร์ตกว่า 300 ไร่ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสอบสิทธิ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามกฎหมาย
ชาวบ้านและผู้ประกอบการรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือ จ.เชียงใหม่ หลังได้รับความเดือดร้อนถูก ตัดไฟ สัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต จากนโยบายการตรวจสอบใช้ประโยชน์ที่ดินบนดอยม่อนแจ่ม
สิ่งแวดล้อม
ม่อนแจ่ม,แม่ริม,เชียงใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/289066
จีนพัฒนาหุ่นยนต์เก็บสารคัดหลั่งจากผู้เสี่ยงติด COVID-19
สถาบันสุขภาพระบบหายใจของเมืองกว่างโจว และสถาบันระบบอัตโนมัติเมืองเสิ่นหยาง ภายใต้สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน พัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากลำคอของผู้ป่วย แล้วนำมาวินิจฉัยหาว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 ได้แล้วเนื่องจากการทดสอบกรดริวคลีจากสารคัดหลั่งฯ ของผู้ป่วย เป็นหนึ่งในวิธีวินิจฉัยการติด COVID-19 ที่สำคัญอย่างมากทำให้ต้องหาวิธีลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์เมื่อต้องเก็บสารคัดหลั่งฯ และอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย จึงทำให้เกิดหุ่นยนต์เก็บสารคัดหลั่งฯ ขึ้นมาหุ่นยนต์เก็บสารคัดหลั่งโดยตัวหุ่นยนต์จะมีแขนกลรูปร่างคล้ายงู กล่องส่องแคบแบบสองตา อุปกรณ์ส่งสัญญาณไร้สาย และจุดรับข้อมูลปฏิกิริยาระหว่างมนุษย์-คอมพิวเตอร์แขนกลดังกล่าวสามารถเก็บตัวอย่างจากลำคอ พร้อมกับใช้กล้องเก็บภาพมาแสดงผลได้ในระดับ 3 มิติ และเมื่อต่อเข้ากับเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง ก็จะทำให้สามารถอัปเดตข้อมูลตัวอย่างได้ในระดับเรียลไทม์อีกด้วยสถาบันสุขภาพระบบหายใจของเมืองกว่างโจว ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวเก็บตัวอย่างจากลำคอผู้ป่วยไปแล้ว 80 คน พบว่าอัตราความสำเร็จหลังเก็บตัวอย่างเพียง 1 ครั้ง มีมากกว่า 95% ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยงของบุคลากรทางแพทย์จาก COVID-19 นั่นเอง----------------------------รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก ไปกับ
จีนพัฒนาหุ่นยนต์เก็บสารคัดหลั่งจากลำคอของผู้ป่วยที่เสี่ยงติด COVID-19 เพื่อลดความเสี่ยงให้กับบุคลากรทางแพทย์
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
หุ่นยนต์,สารคัดหลั่ง,หุ่นยนต์เก็บสารคัดหลั่ง,COVID-19,โควิด-19
https://news.thaipbs.or.th/content/289735
ภาคประชาชนจี้รัฐยุติการใช้ความรุนแรง เร่งแก้ไขปัญหาคนจน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ยุติการใช้ความรุนแรง เร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาคนจน13 ก.พ. 2558 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ยุติการใช้ความรุนแรง เร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาคนจน โดยมีรายละเอดียดดังต่อไปนี้นับตั้งแต่มีการประชุมร่วมกับรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้คณะ กรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ จันทรโอชา ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หม่อมหลวงปนัดดา ดิษสกุล เป็นประธานคณะกรรมการ มาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2557 จนล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558 ได้มีการเปิดประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และปัญหาความขัดแย้งด้านทรัพยากรอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ของปัญหากลับเลวร้ายรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ชุมชนกว่า 300 ชุมชนได้รับผลกระทบจากการใช้คำสั่งที่ 64/255766/2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และ แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนของรัฐบาล ส่งผลกระทบให้เกษตรกร คนยากจน ต้องถูกไล่รื้อ ตัดฟัน ทำลาย ผลอาสิน ประกาศตรวจยึด ขับไล่ และดำเนินคดี วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 จังหวัดสุราษฎร์ธานีเข้าไปไล่รื้อชุมชนเพิ่มทรัพย์ ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทหารได้เรียกตัวนายเพียรรัตน์ บุญฤทธิ์ ประธานสหกรณ์ฯ เข้าไปรายงานตัวเพื่อปรับทัศคติ และกักขังไว้ในเรือนจำค่ายวิภาวดี ทั้ง ๆ ที่ พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ ที่จัดการที่ดินโดยชุมชนตามแนวนโยบายของรัฐบาลในนามสหกรณ์สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด วันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีชายฉกรรจ์ จำนวนหนึ่ง อ้างว่าเป็นคนของห้างหุ้นส่วนจำกัด บ่อบัวพัฒนา ไปไล่รื้อชาวบ้านที่ชุมชนบ่อบัว (ตลาดบ่อบัว) เทศบาลฉะเชิงเทรา ขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังทำการรื้อบ้านชาวบ้านอยู่นั่น ชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าไปขัดขวาง จึงถูกรื้อไปได้แค่ครึ่งหลัง และในเวลาต่อมาประมาณ 15.00 น. แกนนำชาวบ้านชื่อนางจินดา บัวศรี ถูกคนของห้างหุ้นส่วนจำกัด บ่อบัวพัฒนา ลอบทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ป่าไม้ จำนวนประมาณ 100 นาย เข้ามาปิดป้ายหนังสือประกาศ โดยคำสั่งที่ ทส.1621.4/2404 ลงวันที่ 26 ม.ค.58 เรื่อง สั่งให้ผู้ถือครองพื้นที่ออกจากป่าสงวนแห่งชาติ หรืองดเว้นการกระทำใดๆ หรือรื้อถอน หรือแก้ไข ทำประการอื่นใดแก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมสภาพในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสินทั้งหมดออกจากป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่มีคำสั่ง อนึ่ง ผู้เดือดร้อนมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง ภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่งและวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ชาวบ้านสมัชชาคนจน กลุ่มเขื่อนปากมูล ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล ต้องส่งตัวแทนเข้ากรุงเทพ ฯ เพื่อเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง (ครั้งที่ 4) อันเป็นผลสืบเนื่องจากการเจรจาครั้งที่ผ่านมา (ครั้งที่ 3) ซึ่งล้มเหลวเนื่องจากเกิดการตีรวนของกลุ่มจัดตั้งของการไฟฟ้า ฯ และทางสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตัดสินใจ ในการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ทั้งที่เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558 มีการประชุมคณะ กรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม มีมติในกรอบแนวทางในการดำเนินการของคณะกรรมการ คือ ให้พิจาณาช่วยเหลือประชาชน ควรคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และข้อเท็จจริงเป็นที่ตั้ง แนวทางการดำเนินการต้องไม่กระทบต่อวิถีชีวิตปกติของประชาชน และให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินตามวิถีปกติไปพลางก่อน หากการดำเนินการติดปัญหาเกี่ยวกับระเบียบกฎหมาย ควรพิจาณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบ กฎหมายให้สอดคล้องกับแนวทางแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างเหมาะสม และเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ในการเร่งรัดจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ยากไร้โดยไม่ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ แต่รับรองสิทธิร่วมในการจัดการที่ดินของชุมชน และให้หน่วยงานของรัฐยุติการดำเนินการใดๆ ที่อาจเป็นมูลเหตุให้เกิดความขัดแข้ง หรืออาจก่อให้เกิดความเดือนร้อนในการดำเนินชีวิตตามปกติสุข ความไม่คืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล อีกทั้งในทางปฏิบัติ ยังสวนทางกับนโยบาย และข้อตกลงจากการประชุมร่วมกัน ชุมชนถูกคุกคามจากทั้งหน่วยงานของรัฐ และนายทุนที่เคยใช้ประโยชน์ในที่ดิน หากนับผู้เสียชีวิตจากที่ผ่านมาถึงปัจจุบันเป็นจำนวน 4 ศพแล้ว และยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้เลย หากรัฐบาลยังเพิกเฉยล่าช้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว อาจจะเกิดการสูญเสียชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชน หรืออาจเกิดความขัดแย้งลุกลามใหญ่โตอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ดังนั้นขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ไม่สามารถนั่งรอผลการเจรจา และข้อตกลงที่ไร้ความหมาย แต่จะมีปฏิบัติการทวงถามความเป็นธรรมถ้ารัฐบาลยังไม่ตระหนักถึงปัญหา และเร่งดำเนินการตามข้อตกลง ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้น ดังนี้1.ให้เร่งดำเนินการจับคุมคนร้าย รวมถึงทลายซุ้มมือปืน ในเขต อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่2.ให้รัฐบาลรับผิดชอบ จ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต3.ให้รัฐบาล สั่งการด่วน ให้ ส.ป.ก. ส่งมอบที่ดินตามที่ สหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ได้ยื่นเรื่องร้องขอใช้สิทธิร่วมกัน ในรูปแบบสถาบันเกษตรกร4.ให้รัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติการดำเนินการใดๆที่อาจเป็นมูลเหตุให้เกิดความขัดแข้งหรืออาจก่อให้เกิดความเดือนร้อนในการดำเนินชีวิตตามปกติสุข โดยด่วน 5.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมจะไม่ยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียว จะเดินหน้าปฏิบัติการทวงถามความเป็นธรรม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนคนจนอย่างเร่งด่วนเชื่อมั่นในพลังประชาชนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม13 กุมภาพันธ์ 2558
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ยุติการใช้ความรุนแรง เร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาคนจน13 ก.พ.
การเมือง,คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
https://prachatai.com/journal/2015/02/57915
เปิดประตูมหาอำนาจรัสเซีย-1
ผมเพิ่งกลับจากการไปดูงานน้ำมันและก๊าซใน สหพันธรัฐรัสเซีย หรือ ประเทศรัสเซีย ตามคำเชิญของ ปตท. โดยมี ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธาน ปตท. คุณเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นหัวหน้าทีม พร้อมด้วยผู้บริหาร ปตท.อีกหลายท่าน และสื่อมวลชนอีกหลายสำนัก ถือเป็นการไปดูงานน้ำมันและก๊าซในรัสเซียเป็นครั้งแรกของ ปตท. และสื่อไทย,ปกติรัสเซียไม่ค่อยเปิดรับต่างชาติเท่าไหร่ โดยเฉพาะสื่อตะวันตก,วันที่เดินทางไปถึง กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เป็นเย็นวันเสาร์ที่ 17 รุ่งขึ้น วันอาทิตย์ที่ 18 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย พอดี ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะต้องชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง เพราะคู่แข่งคนสำคัญสองคนถูกตัดสิทธิการแข่งขันหมด แต่บรรยากาศในกรุงมอสโก กลับไม่มีวี่แววอะไรที่แสดงว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งผู้นำประเทศเกิดขึ้น ไม่มีป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ไม่มีคูหาลงคะแนนตามริมถนนแบบไทยๆ ผู้คนก็เดินทางปกติ ไม่มีความคึกคักใดที่แสดงถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในวันรุ่งขึ้น,ผมถามไกด์รัสเซียในรถว่า ประธานาธิบดีปูตินได้หมายเลขอะไร เพราะได้ข่าวว่ามีผู้สมัคร 7 คน เธอตอบว่าบอกไม่ได้ แต่เธอมีคนในใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะเลือกใคร,โรงแรมที่ผมพักอยู่แถว จัตุรัสแดง มีการจัดตั้งเวทีขนาดใหญ่พร้อมจอแอลซีดี มีรั้วปิดกั้นโดยรอบ กลางคืนมีการแสดงดนตรี มีการสัมภาษณ์ มีการปิดถนนหลายสาย มีทหารตำรวจตรึงกำลังเต็มไปหมด หลังอาหารค่ำ ผมเดินออกจากประตูโรงแรมจะไปถ่ายรูปเวที ทหารก็เข้ามาห้าม เมื่อเข้าไปในห้องพัก ก็มีข้อความในจอโทรทัศน์ระบุว่า วันที่ 18 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 08.00 ถึง 02.00 น. ให้ผมปิดหน้าต่างทั้งหมด และห้ามไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ห้องพักของผมอยู่ตรงข้ามกับ สภาดูมา ที่จัตุรัสแดงพอดี ผมลองแง้มๆดูก็ไม่เห็นมีอะไร ทำให้นึกถึงบรรยากาศลึกลับแบบ สายลับเคจีบี ขึ้นมาทันที,รุ่งขึ้นผมตื่นตั้งแต่ตี 4 เปิดดูโทรทัศน์ เห็นมีรายงานข่าวผลการเลือกตั้งแล้ว ที่เป็นเช่นนี้เพราะ รัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 10 ล้านตารางกิโลเมตร (ตอนเป็น สหภาพโซเวียตรัสเซีย ก่อนแตกสลายเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย และ สหพันธรัฐรัสเซีย รัสเซียมีพื้นที่ใหญ่กว่านี้มาก) ระยะทางตั้งแต่ ชายแดนตะวันตก ไปถึง ชายแดนตะวันออก ห่างไกลกันถึง 8,000 กิโลเมตร เลยทีเดียว ทำให้รัสเซียมีไทม์โซนถึง 11 เขตเวลา การเปิดหีบเลือกตั้งปิดหีบเลือกตั้งจึงแตกต่างกันไปตามเขตเวลา บางเขตเลือกตั้งก็เปิดหีบลงคะแนนตั้งแต่ก่อนตี 4 บางแห่งก็ปิดหีบลงคะแนนในช่วงดึก,ปัจจุบัน รัสเซียมีประชากร 143 ล้านคน มี 83 เขตการปกครอง มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งราว 100 ล้านคน ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า ประธานาธิบดีปูติน ได้รับการเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีสมัยที่ 4 อีก 6 ปี ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 76% เลยทีเดียว เมื่อนักข่าวถามว่า อยากลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหรือไม่ ปูตินตอบว่า คุณคิดว่าผมจะอยู่ตรงนี้จนถึงอายุร้อยปีเลยหรือ,ก่อนหน้านี้ ปูติน เคยได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีรัสเซีย สองสมัยติดต่อกัน ตอนนั้นสมัยละ 4 ปี รวม 8 ปี แล้วส่งไม้ต่อให้นอมินีลงชิงประธานาธิบดีแทน แล้วแก้รัฐธรรมนูญให้ประธานาธิบดีอยู่ได้สมัยละ 6 ปี แล้ว ปูติน ก็ลงเลือกตั้งใหม่ในสมัยต่อมา ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 เป็นเวลา 6 ปี แล้วได้รับเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ได้เป็น ประธานาธิบดีสมัยที่ 4 อีก 6 ปี ไปจนถึงปี 2024 รวมอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี 20 ปีพอดี ไม่รู้มีใครอยากเลียนแบบบ้างหรือเปล่า,ผมไม่ได้ไป กรุงมอสโก มานาน ไปครั้งนี้ กรุงมอสโกสวยงามเจริญผิดหูผิดตาเลยทีเดียว ไกด์เล่าว่า ปูติน ได้ว่าจ้างนักออกแบบฝรั่งเศส ออกแบบไฟประดับกรุงมอสโกจนสวยงามไปทุกอาคารและสวนสาธารณะ เดือนมิถุนายนนี้ รัสเซีย จะเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 แต่บรรยากาศฟุตบอลโลกกลับไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่ การหาซื้อของที่ระลึกฟุตบอลโลกก็ยากและมีน้อยมาก ทั้งที่รัสเซียได้สร้างสนามฟุตบอลใหม่จุคนหลายหมื่น เตรียมเมืองรับการแข่งขันไว้กว่าสิบเมือง,พรุ่งนี้คุยกันต่อครับ.,ลม เปลี่ยนทิศ
วันอาทิตย์ที่ 18 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย พอดี ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะต้องชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง
เลือกตั้ง
วลาดิเมียร์ ปูติน,รัสเซีย,เลือกตั้ง,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1240064
ศิริมงคล ประเคนศอก-แข้ง ชนะคะแนนจรวดศึก มวยคู่เอกลุมพินี
วันที่ 16 ก.พ. 61 ศึกฅนสู้คนมวยไทยซุปเปอร์ไฟต์ แสงมรกต ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา คู่เอก ศิริมงคล พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม พบกับ จรวดศึก ก.กัมปนาท,ศิริมงคล พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ฝ่ายแดง ถึงตัวเล็กกว่า แต่อาศัยจังหวะสับศอกทีเดียว ทำให้ จรวดศึก ก.กัมปนาท ฝ่ายน้ำเงิน แตกเป็นแผลยาวที่ขมับขวา หลังจากนั้น ศิริมงคลใช้ความเก๋า ดักเตะขวาจนครบ 5 ยก เอาชนะคะแนนไปขาดลอย,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้ ,            ,ฟ้านำชัย นิธิพัฒน์ทนายความ ชนะคะแนน ศิลปไทย ศิษย์ครูเยี่ยม,แอ๊ดเทวดา ลูกบุญมี ชนะคะแนน ก้องเมธี ศักดิ์รุ่งเรืองมวยไทยยิม,พันมงคลเล็ก เกียรติสุทัศน์ ชนะน็อกยก 3 แท่งทอง เพชรมณีรัตน์,ทอง ดร.น็อตมวยไทยยิมส์ ชนะน็อกยก 2 เพชรภูผา ศิษย์ลุงแดง,ยอดขุนพล นิธิพัฒน์ทนายความ ชนะคะแนน ไพโรจน์น้อย ศรีสุริยันโยธิน,แสนเชิงน้อย นายกสัญญา ชนะคะแนน รักสุรินทร์ เคซ่ายิม,ชัย ลูกบุญมี ชนะคะแนน ลูกแมน ศิษย์เพชรมณี,ยอดเพชร ศรีสวัสดิ์ยิม เสมอ นินจาเต่า ศิษย์เด่นชัย
ศิริมงคล พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ฟันศอกใส่ จรวดศึก ก.กัมปนาท จนแตกแต่ไม่ชนะน็อก ก่อนจะเดินหน้าเตะแหลกเอาชนะคะแนนไปได้ในการชกเป็นคู่เอก ศึกฅนสู้คนมวยไทยซุปเปอร์ไฟต์ แสงมรกต ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา
กีฬา,มวย/MMA
มวยลุมพินี,มวยไทย,ศิริมงคล พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม,จรวดศึก ก.กัมปนาท,ศึกฅนสู้คนมวยไทยซุปเปอร์ไฟต์ แสงมรกต
https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1206353
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์: พรรคเพื่อไทยต้องเร่งนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง
การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพวกจารีตนิยมกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อตั้งแต่ต้นปี 2549 ถึงปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่เศรษฐกิจสังคมไทย เกิดความแตกแยกแบ่งข้างอย่างรุนแรง และที่สำคัญคือ เป็นความขัดแย้งทางการเมืองครั้งแรกของประเทศไทยที่มีประชาชนเข้าร่วมทั้งสองฝ่ายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มวลชนที่เข้าร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย เฉพาะที่ออกมาต่อสู้บนท้องถนนทั่วประเทศก็มีจำนวนหลายแสนคนผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากความขัดแย้งดังกล่าวก็คือ พวกกลุ่มชนชั้นนำจารีตนิยมที่ฉวยใช้มวลชนภายใต้การนำของกลุ่มอันธพาลพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยที่สามารถชนะเลือกตั้งปี 2554 ขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้ตราบปัจจุบันในการระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้ ประชาชนบนท้องถนนเปรียบเสมือน ทหารราบ ที่ทำหน้าที่เคลื่อนไหว ประจันหน้า และปะทะกับพลังฝ่ายตรงข้าม และระหว่างมวลชนทั้งสองฝ่าย มวลชนฝ่ายประชาธิปไตยที่เป็นขบวนคนเสื้อแดงได้ประสบความเสียหายมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเหตุการณ์ สงกรานต์เลือด ปี 2552 และการสังหารหมู่ประชาชน เมษายน-พฤษภาคม 2553 มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายรวมกันหลายพันคน และที่ถูกจับกุมคุมขัง ทั้งคดีพรก.ฉุกเฉินและคดีอาญาต่าง ๆ มากมายหลายร้อยคนประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมมองดูความสูญเสียทั้งชีวิตร่างกายและอิสรภาพของพี่น้องร่วมอุดมการณ์เหล่านี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด และยิ่งกลายเป็นความคับแค้นเมื่อกระบวนการยุติธรรมปฏิบัติต่อผู้ต้องคดีทั้งสองฝ่ายอย่างไม่เท่าเทียมเป็นมาตรฐานเดียวกัน ในขณะที่คดีของแกนนำและมวลชนเสื้อเหลืองดำเนินไปอย่างเชื่องช้า มีการให้ประกันตัวเกือบทุกคดี แต่ในทางตรงข้าม คดีของแกนนำและมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยกลับดำเนินไปอย่างเฉียบขาด จับกุมคุมขังไม่ให้ประกันตัวเยี่ยงอาชญากรร้ายแรง ไปจนถึงคดีอาญาที่จบด้วยบทลงโทษรุนแรงผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อ และอิสรภาพของคนเหล่านี้ก็คือ แกนนำพรรคเพื่อไทย และบรรดาสส.พรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบันได้เป็นรัฐบาล รัฐมนตรี และตำแหน่งทางการเมืองต่าง ๆ นั่งกันเต็มสภาและทำเนียบรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่สูญเสีย ก็มีเพียงการเยียวยาด้วยการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่บาดเจ็บ สูญเสียชีวิตและร่างกายเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องคดี ส่วนการช่วยเหลือผู้ต้องคดีและถูกคุมขังนั้น ตั้งแต่หลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2553 พรรคเพื่อไทยมีความบกพร่องอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องการหาทนายแก้ต่าง การประกันตัว การช่วยเหลือครอบครัว เงินทุนสนับสนุนต่าง ๆ มีเสียงต่อว่ามากมายว่า ตัวแทนพรรคเพื่อไทยที่เข้ามา ช่วยเหลือ ผู้ต้องคดีทำงานล่าช้า บกพร่อง ไปจนถึงข้อครหาเรื่องการแสวงหาประโยชน์จากผู้ต้องคดีและข่าวลือเรื่องการเงินที่รั่วไหลในท้ายสุด ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ต้องจัดตั้งกันเอง รวบรวมเงินทุนบริจาค ลงแรงกันเองร่วมกับทนายอาสาสมัคร หาทางช่วยเหลือผู้ต้องคดีทั่วประเทศ ตั้งแต่การเข้าเยี่ยม การเงิน สุขภาพ ปัญหาครอบครัว ทำกันอย่างอนาถา ตามมีตามเกิด และอาจโชคดีบ้างเมื่อสส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่บางคนที่ยังมีมนุษยธรรม ให้การหนุนช่วยเท่าที่จะทำได้เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ในระยะแรกก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ต้องคดีให้ได้ประกันตัวผ่านกรมคุ้มครองสิทธิ์เสรีภาพ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เป็นผลด้วยอุปสรรคทางฝ่ายอัยการและศาล จนกระทั่งหลายคดีได้ทยอยพิพากษาจำคุกไป ความพยายามของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็จางหายไปพร้อมกับข้ออ้างว่า ไม่สามารถแทรกแซงอัยการและศาลได้ที่แย่ที่สุดคือ พรรคเพื่อไทยได้เสนอพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติเข้าสู่สภาเมื่อกลางปี 2555 แต่กลับเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงเพราะเป็นการมุ่ง นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ให้กับทุกคนทุกฝ่ายโดยไม่แยกแยะถูกผิด ที่ว่าเลวร้ายนั้น เพราะเอาการนิรโทษกรรมประชาชนไปผูกกับการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ประชาชน ส่วนที่ว่า เห็นแก่ตัว ก็คือ เอาการนิรโทษกรรมประชาชนไปผูกกับการนิรโทษกรรมคดีการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและนักการเมืองพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชนพรบ.ปรองดองฉบับนี้ก็คือการเอาประชาชนที่ต้องคดีคุมขังอยู่เป็นตัวประกัน เสมือนต่อรองกับประชาชนว่า ถ้าอยากออกจากที่คุมขังและปลอดคดี ก็ต้องกล้ำกลืนเลือด ยอมรับการนิรโทษกรรมผู้ที่สังหารประชาชนด้วย แกนนำพรรคเพื่อไทยยังทำให้การนิรโทษกรรมประชาชนยิ่งยุ่งยากมากขึ้นด้วยการพ่วงเอาการนิรโทษกรรมคดีการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและนักการเมืองพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชนเข้าไปด้วย เสมือนบอกกับประชาชนว่า ถ้าอยากออกจากคุก ก็ต้องให้พวกตนได้ประโยชน์ด้วย ที่สำคัญคือ การรวมคดีการเมืองเข้ามายังทำให้พรบ.ปรองดองถูกต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม จนไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ในระยะสองปีมานี้ ความเคียดแค้นที่ประชาชนมีต่อพวกจารีตนิยมและกลุ่มทหารที่สังหารประชาชนได้ค่อย ๆ ขยายไปเป็นความไม่พอใจต่อพรรคเพื่อไทย จนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศมาได้เกือบสองปีแล้ว พวกเขาก็ยังคงแบกรับคดีร้ายแรงต่าง ๆ และถูกจำคุกอยู่เหมือนเดิม ความไม่พอใจของประชาชนได้เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นความโกรธและคับแค้นที่มีต่อรัฐบาล รัฐมนตรี สส. และแกนนำพรรคเพื่อไทยโดยรวม บัดนี้ โอกาสสำคัญได้มาถึงแล้ว นั่นคือ ได้มีข้อเสนอทั้งจากนักวิชาการและนปช.ให้เร่งนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนทั้งสองฝ่ายที่ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นการแยกเอาประชาชนเหล่านี้ออกมาจากความขัดแย้งระหว่างพวกจารีตนิยมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนต่อไปอีกไม่ได้พฤษภาคม 2556 นี้ พวกเขาก็จะถูกจำคุกมาครบสามปี ตำแหน่งลาภยศที่พวกท่านมีในวันนี้ ก็คืออานิสงส์จากความทุกข์ทรมาณของพวกเขา พวกท่านทั้งหลายในทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาไม่รู้สึกบ้างหรือว่า พวกเขาติดคุกนานเกินไปแล้ว
การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพวกจารีตนิยมกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อตั้งแต่ต้นปี 2549 ถึงปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่เศรษฐกิจสังคมไทย เกิดความแตกแยกแบ่งข้างอย่างรุนแรง และที่สำคัญคือ
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
นักโทษการเมือง,นิรโทษกรรม,พรรคเพื่อไทย,พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
https://prachatai.com/journal/2013/01/45035
หมอทวีศิลป์ ยัน ติดเชื้อโควิด-19 เหลือ 38 ราย ไม่ใช่ประสิทธิภาพตรวจลด
การตรวจลดลงแน่วันที่ 7 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกโควิด-19 แถลงสถานการณ์ประจำวันที่ 7 เม.ย. เกี่ยวกับโรคโควิด-19 กับคำถามที่ว่า ทำไมเราต้องห้ามเครื่องบิน บินเข้ามาในประเทศไทยว่า ช่วงนี้ คนที่บินเข้าประเทศไทย ลดน้อยลงจากวันละเป็นหมื่นรายลดลงเหลือหลักร้อยราย ส่วนคนต่างชาติ ออกไปต่างประเทศและกลับเข้ามาในประเทศ เหลือเพียงวันละ พันกว่าราย จากวันละ 3 หมื่นราย ยัน เราต้องเตรียมพร้อม หาสถานที่มากักตัว 14 วัน ในลักษณะ เป็นโรงแรม เป็นบ้าน เราไม่อยากเรียกสถานที่กักกัน ตอนนี้ยืนยันตัวเลขคนเดินทางเข้า-ออก จากต่างประเทศ ลดน้อยลงเป็นอย่างมากเป็นหน้าที่ของเราส่วนคำถามว่า เห็นตัวเลขคนติดเชื้อโควิด-19 ลดลงเหลือ 38 รายในวันนี้ เพราะเราทำการตรวจเชื้อลดลง หรือเพราะประสิทธิภาพการตรวจเชื้อลดลงหรือไม่ นพ.วิษณุ กล่าวว่า ยืนยัน เราจะต้องไม่เข้าข้างตัวเอง เรามีตัวเลขสะสมการตรวจเชื้อโควิด-19 นี้ กว่า 7 หมื่นราย ซึ่งที่ประชุม ก็ยังไม่พอใจนะครับ ยังหวังว่า การตรวจเชื้อต้องเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ เราสามารถตรวจได้ประมาณ วันละ 2 หมื่นราย เราพยายามจะเพิ่มการตรวจให้มากขึ้นๆ เหมือนประเทศที่เคยบอกว่า ที่เข้าเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 เยอะ เพราะเขาตรวจเยอะ เราไม่กลัวนะว่า เราตรวจเยอะก็เจอเยอะอย่างไร ผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่ม 38 ราย ตัวเลขนี้ที่ดีขึ้น เพราะ 1.เราประกาศภาวะฉุกเฉิน และมีเคอร์ฟิว 2.เรามีการประกาศอยู่ตลอดให้ประชาชนระวังป้องกัน แม้อยู่ในบ้านก็ใส่หน้ากากอนามัย และมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำกิจกรรมร่วมกันให้น้อยลง นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. ย้ำ เหตุผล ทำไมรัฐต้องประกาศไม่ให้เครื่องบิน เข้า-ออก ช่วงเวลานี้ ยัน ตัวเลขลดจากวันละเป็นหมื่นราย เหลือแค่หลักร้อย ขณะตัวเลขติดเชื้อวันนี้ เหลือ 38 รายปัด ไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพ
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสอู่ฮั่น,ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน,ศบค.,ศูนย์โควิด-19,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1814178
สุเทพ ปัดร่วมลง MOU ปรองดอง เชื่อไร้ผล เซย์โนนิรโทษฯล้างความผิด
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ที่ศาลอาญารัชดาฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลตั้งคณะกรรมการปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่า ตนในฐานะตัวแทนมวลมหาประชาชน ขอสนับสนุนการดำเนินการตั้งกรรมการ ป.ย.ป.และคณะกรรมการย่อยอีก 4 คณะ ของ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ทั้งในด้านของยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพราะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน อย่างไรก็ตามในส่วนของการสร้างความปรองดองนั้น ยอมรับว่ายังมีความกังวล เนื่องจากมีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งตนยืนยันว่าสิ่งสำคัญของการปรองดอง คือ จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใด ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง จึงจะเกิดความสงบ นอกจากนี้ย้ำว่าไม่เห็นด้วยหากจะนิรโทษกรรม หรือการออกกฎหมายลบล้างความผิดต่างๆ ในอดีต เช่น การกระทำความผิดตามมาตรา 112 การทุจริตคอร์รัปชัน เผาบ้านเผาเมือง,ส่วนการจับมือทำ MOU หรือบันทึกข้อตกลงร่วมกันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนและมวลมหาประชาชนไม่เชื่อว่าจะได้ผล และคงไม่ไป แต่หากเชิญตนให้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกของความปรองดอง ตนยินดีที่จะเข้าร่วม.
สุเทพ หนุน รบ.ทำปรองดอง ผุด ป.ย.ป. แต่ปัดร่วมลงนามเอ็มโอยูยุติขัดแย้ง เชื่อไม่ได้ผล ยินดีร่วมวงแสดงความเห็นหาทางออก หากเชิญมา
null
ปรองดอง,ความขัดแย้ง,สุเทพ เทือกสุบรรณ,กปปส.,นิรโทษกรรม
https://www.thairath.co.th/content/837946
ยอโควิช ขยี้คู่แข่ง ลิ่วรอบ 8 คนวิมเบิลดัน สาวน้อยวัย 15 ตกรอบแล้ว
การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการที่ 3 ประจำปี 2019 รายการ วิมเบิลดัน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบที่ 4 หรือรอบ 16 คนสุดท้าย,ประเภทชายเดี่ยว คู่ที่น่าสนใจ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลก และมือ 1 ของรายการ ลงสนามพบกับ อูโก อัมแบร์ จากฝรั่งเศส,ผลปรากฏว่า โนวัค ยอโควิช โชว์ฟอร์มสมกับเป็นเต็ง 1 ไล่หวดเอาชนะ อูโก อัมแบร์ ไป 3-0 เซต 6-3, 6-2, 6-3 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปเจอกับ ดาวิด กอฟแฟง มือ 21 ของรายการจากโรมาเนีย ต่อไป,ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล มือ 3 ของรายการจากสเปน ก็เข้ารอบ 8 คนได้ตามคาด หลังเอาชนะ ชูเอา ซูซา จากโปรตุเกส 3-0 เซต 6-2, 6-2 และ 6-2 ไปเจอกับ แซม เคอร์เรย์ จากสหรัฐอเมริกา ส่วน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของรายการจากสวิตเซอร์แลนด์ ชนะ มัตเตโอ แบร์เรตตินี (อิตาลี, มือ 17) 3-0 เซต 6-1, 6-2, 6-2 เข้าไปเจอกับ เคอิ นิชิโคริ มือ 8 ของรายการจากญี่ปุ่น,ด้านประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 4 อลิสสัน ริสเก จากสหรัฐฯ พลิกล็อกเอาชนะ แอชลีย์ บาร์ตี มือ 1 ของโลกและมือ 1 ของรายการจากออสเตรเลีย 2-1 เซต 3-6, 6-2, 6-3,ขณะที่ คอรี กอฟฟ์ สาวน้อยวัย 15 ปีจากสหรัฐอเมริกา แพ้ให้กับ ซิโมนา ฮาเล็ป มือ 7 ของรายการจากโรมาเนีย ไป 2 เซตรวด 3-6, 3-6,ส่วน เซเรนา วิลเลียมส์ มือ 11 ของรายการจากสหรัฐฯ เอาชนะ คาร์ลา ซัวเรซ นาบาร์โร 2 เซตรวด 6-2 และ 6-2,ผลประเภทชายเดี่ยว รอบสี่ คู่อื่น,แซม เคอร์เรย์ (สหรัฐอเมริกา) ชนะ เทนนิส แซนด์เกรน (สหรัฐอเมริกา) 3-1 เซต 6-4, 6-7(7-9), 7-6(7-3), 7-6(7-5),โรเบร์โต เบาติสตา อากุต (สเปน, มือ 23) ชนะ เบอนัวต์ แปร์ (ฝรั่งเศส, มือ 28) 3-0 เซต 6-3, 7-5, 6-2,ดาวิด กอฟแฟง (เบลเยียม, มือ 21) ชนะ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก (สเปน) 3-1 เซต 7-6(11-9), 2-6, 6-3, 6-4- กีโด เปยา (อาร์เจนตินา, มือ 26) ชนะ มิลอส ราโอนิค (แคนาดา, มือ 15) 3-2 เซต 3-6, 4-6, 6-3, 7-6(7-3), 8-6- เคอิ นิชิโคริ (ญี่ปุ่น, มือ 8) ชนะ มิคาอิล คูคุชกิ้น (คาซัคสถาน) 3-1 เซต 6-3, 3-6, 6-3, 6-4,ผลประเภทหญิงดี่ยว รอบสี่ คู่อื่น,เอลินา สวิโตลินา (ยูเครน) ชนะ เปตรา มาติช (มือ 24, โครเอเชีย) 2-0 เซต 6-4, 6-2,คาโนลินา พลิสโควา (มือ 3, เช็ก) แพ้ คาโรลินา มูโชวา 6-4, 5-7, 11-13,บาร์โบรา สตรายโควา (เช็ก) ชนะ เอลิเซ เมอร์เทนส์ (มือ 21, เบลเยียม) 2-1 เซต 4-6, 7-5, 6-2
โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกจากเซอร์เบีย ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายศึกวิมเบิลดัน ได้สำเร็จหลังไล่ขยี้คู่แข่ง 3-0 เซต
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
คอร์รี กอฟฟ์,โนวัค ยอโควิช,วิมเบิลดัน 2019
https://www.thairath.co.th/sport/others/1610508
มินนิแอโปลิสรณรงค์หยุดจ่ายงบตำรวจ-ออกแบบวิธีใช้กฎหมายกันใหม่
สภาท้องถิ่น ผู้นำประชาสังคม และชาวเมืองต่างรณรงค์ให้ยกเลิก-รื้อถอนโครงสร้างตำรวจของรัฐมินนิโซตา และร่วมกันออกแบบหน่วยงานรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ขึ้นแทนตำรวจกรณีการสังหารคนดำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐฯ ส่งผลสะเทือนปลุกขบวนการ Black LivesMatter กลับมาประท้วงใหญ่อีกครั้งในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ การประท้วงเกิดต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว และยังก่อกระแสของผู้คนเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนกระบวนการบังคับใช้กฎหมายรวมถึงยกเลิกงบประมาณตำรวจทั้งนี้สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้นำด้านสิทธิพลเมือง และผู้อาศัยในเมืองมินนิแอโปลิสหลายคนเรียกร้องให้มีการรื้อถอนสำนักงานตำรวจของเมืองและร่วมกันออกแบบระบบการบังคับใช้กฎหมายเสียใหม่หนึ่งในผู้ที่พูดถึงนี้คือ เจเรไมอาห์ เอลลิสัน สมาชิกสภาเมืองมินนิแอโปลิสที่เป็นคนดำ เขาเรียกร้องผ่านข้อความทางทวิตเตอร์ให้มีการรื้อถอนสำนักงานตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส และขอให้มีการยกเครื่องเพื่อออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และการโต้ตอบภาวะฉุกเฉินเสียใหม่ทั้งหมด มีคนสภาที่เห็นด้วยกับเขาอย่างน้อยสามคน สมาชิกสภาอีกคนหนึ่งคือลิซา เบนเดอร์ ก็เรียกร้องให้มีการรื้อถอนกรมตำรวจเช่นเดียวกันนอกจากเมืองมินนิแอโปลิสแล้ว ในเมืองอื่นๆ ของสหรัฐฯ ก็มีการเรียกร้องในทำนองเดียวกันทั้งการยกเลิกให้งบประมาณตำรวจ การลดขนาดหรือยกเลิกกรมตำรวจทิ้งข้อเรียกร้องเหล่านี้มีขึ้นหลังจากกรณีการตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุในการจับกุมคนดำ จอร์จ ฟลอยด์ จากคดีต้องสงสัยเรื่องปลอมแปลงธนบัตรซึ่งยังเป็นแค่ข้อกล่าวหา แต่ตำรวจก็ใช้วิธีการคุกเข่ากดที่ลำคอเขากับพื้นเป็นเวลา 9 นาที โดยที่ฟลอยด์ร้องว่าเขาหายใจไม่ออก กรณีของฟลอยด์เป็นอีกหนึ่งในการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจสหรัฐฯ ต่อคนดำ หลังจากที่เคยมีกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้จำนวนมาก กรณีล่าสุดนี้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ในหลายเมืองและในบางแห่งก็มีความรุนแรงเกิดขึ้นมีหลายเมืองที่แถลงเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องระบบตำรวจ เช่นใน ลอวแองเจลิสมีการประกาศจะตัดงบประมาณตำรวจเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นิวยอร์กก็ประกาศก่อนหน้าจะมีการประท้วงแล้วว่าจะตัดงบประมาณตำรวจลงหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นเหล่านี้บอกว่ามันเป็นงบประมาณที่ไม่เคยถูกปรับลดลงเลย ในขณะที่มีการตัดงบประมาณด้านการศึกษาและโครงการเยาวชนมาโดยตลอดแดเนียล ดรอมม์ สมาชิกสภาท้องถิ่นย่านควีนของนิวยอร์ก และประธานกรรมาธิการด้านการคลังของสภาท้องถิ่นรัฐนิวยอร์กบอกว่า เขาจะชะลอการให้งบประมาณโรงเรียนฝึกตำรวจออกไปก่อน เพื่อให้มีเงินมาใช้กับโครงการเยาวชน การปรับลดงบประมาณเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่กระทบต่องบประมาณด้วย รวมถึงการที่มีกระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อความรุนแรงของตำรวจนอกจากเรื่องงบประมาณแล้วส่วนหนึ่งยังมีการพูดถึงวัฒนธรรมของกรมตำรวจที่สร้างปัญหาไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย ดรอมม์บอกว่าจากการที่เขาเห็นตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ที่ออกมาประท้วงอย่างสันติ แสดงให้เห็นว่าการปฏิรูปตำรวจในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นไม่ประสบความสำเร็จ ดรอมม์บอกว่าวัฒนธรรมของสำนักงานตำรวจนิวยอร์กซิตีมีปัญหาตรงที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงดีแต่พูดและพูดอย่างเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่ฟัง ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงผลพวงจากการประท้วงในมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา มีการทำลายข้าวของเกิดขึ้นในเมืองรวมถึงการเผาสถานีตำรวจ ทั้งนี้มีทางอัยการยังได้สั่งฟ้องร้องดำเนินคดีกับตำรวจที่ก่อเหตุใช้เข่ากดหัวฟลอยด์กับพื้นในข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฆ่าคนโดยเจตนา แต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างไรก็ตาม มีตำรวจเกษียณอายุแล้วที่เคยเป็นสมาชิกสมาคมเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดำมองว่าการยุบกรมตำรวจจะเป็นไปไม่ได้ในเชิงปฏิบัติ เกวน กุนเทอร์ กล่าวถึงประเด็นการยุบหรือตัดงบประมาณสำนักงานตำรวจว่า ส่วนหนึ่งในตัวฉันหวังว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ เพราะฉันต้องการจะดูว่ามันจะใช้เวลาเท่าไหร่ก่อนที่พวกเขาจะบอกว่า โอ้ ไม่นะ จริงๆ แล้วพวกเราต้องการสำนักงานตำรวจ แต่ทว่าข้ออ้างเรื่อง การเป็นไม่ได้ในทางปฏิบัติ นั้นก็ถูกโต้แย้งจากผู้ที่สนับสนุนการเคลื่อน โดยพวกเขาบอกว่าการมีอยู่ของสำนักงานตำรวจไม่ได้ทำให้ตำรวจทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบแต่มักจะทำให้มีการลุแก่อำนาจ กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงมากกว่าที่จะป้องกันมัน ขณะที่หน้าที่ด้านสังคมสงเคราะห์อย่างการช่วยเหลือคนเสพยาเกินขนาดหรือการทำงานร่วมกับคนไร้บ้านหรือคนป่วยจิตเวช พยาบาลหรือนักสังคมสงเคราะห์ก็ทำได้ดีกว่าหนึ่งในโมเดลใหม่สำหรับงานปฏิบัติการที่สภามินนิแอโปลิสเสนอคือการตั้งหน่วยงานคาฮูต (Cahoots) ซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติการเคลื่อนที่เพื่อรับมือวิกฤตการณ์ต่างๆ โดยไม่หวังผลกำไร ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดตั้งหน่วยงานนี้ในยูจีน รัฐโอเรกอน ใช้งบประมาณราว 2 ล้านดอลลาร์ซึ่งใช้งบประมาณน้อยกว่าสำนักงานตำรวจมาก ซึ่งน่าสงสัยว่าเอางบประมาณไปใช้ในด้านความมั่นคงอะไรมากมายนัก ทว่าในเมืองยูจีนแม้จะมีหน่วยคาฮูตแต่ยังไม่ได้ยุบสำนักงานตำรวจ ก็เกิดเหตุตำรวจยิงคนเสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายในปี 2562 อีกโมเดลหนึ่งจากกลุ่มเรียกร้องปฏิรูประบบบังคับกฎหมายเมืองเดอแฮม รัฐนอร์ทแคโรไรนา ก็มีการรณรงค์ต่อต้านการจ้างตำรวจชุดใหม่และเสนอให้หารือเรื่องจัดตั้ง ชุดปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพชุมชน ขึ้นมาแทน
ในรอบสัปดาห์หลังสหรัฐอเมริกาประท้วงหนักต่อต้านตำรวจใช้ความรุนแรงเกินเหตุ กรณีสังหาร จอร์จ ฟลอยด์ ล่าสุดที่ลอส แองเจลลิสและนิวยอร์กก็มีข้อเสนอตัดงบตำรวจ ส่วนที่มินนิแอโปลิสที่เกิดเหตุตำรวจสังหารคนดำ
สิทธิมนุษยชน,ต่างประเทศ
Black Lives Matter,BLM,สหรัฐอเมริกา, กฎหมาย,กระบวนการยุติธรรม,การปฏิรูปตำรวจ,การเหยียดเชื้อชาติ,มินนิแอโปลิส
https://prachatai.com/journal/2020/06/88041
ประมวลภาพช่วงค่ำ เยาวชนปลดแอก ลั่นหากไร้การตอบรับ จ่อยกระดับชุมนุม
ประมวลภาพบรรยากาศช่วงค่ำ การชุมนุมของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) ยืนยันชุมนุมถึงเช้าวันที่ 19 ก.ค.63 ลั่นหากไม่มีการตอบรับ จะยกระดับการชุมนุมเมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยังคงมีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกหรือFree YOUTHและมวลชนจำนวนมาก โดยทางแกนนำได้สลับกันขึ้นปราศรัยเพื่อย้ำถึงวัตถุประสงค์ของการชุมนุมในครั้งนี้ทั้งนี้ พบว่า มีประชาชนที่เข้าร่วมเดินทางกลับบางส่วนทำให้บรรยากาศเริ่มบางตาลง มีการแสดงปราศรัยสลับการเล่นดนตรีของวงสามัญชนนำโดยนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดินโดย นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก เปิดเผยว่า การชุมนุมในวันนี้มีผู้มาเข้าร่วมมากอย่างผิดคาด มีทั้งประชาชนทั่วไปและนิสิตนักศึกษา สำหรับการชุมนุมจะมีต่อเนื่องไปจนถึงเวลาช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.ค.63 จึงจะยุติ และข้อเรียกร้องของทางกลุ่มทั้ง 3 ข้อนั้นให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ ที่จะดำเนินการ หากไม่มีการตอบรับ การชุมนุมครั้งต่อไปจะไม่ใช่แค่คืนเดียว.
ประมวลภาพบรรยากาศช่วงค่ำ การชุมนุมของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) ยืนยันชุมนุมถึงเช้าวันที่ 19 ก.ค.63 ลั่น หากไม่มีการตอบรับ จะยกระดับการชุมนุม
ข่าว,การเมือง
เยาวชนปลดแอก,ชุมนุม,นักศึกษาชุมนุม,นักศึกษาประท้วง,อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย,Free YOUTH,ประท้วงรัฐบาลไทย ล่าสุด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1892389
โพล ชี้ คนกว่า 72 % เห็น แถลงนโยบายรบ.วันแรก ปชช.ไม่ได้ประโยชน์
วันที่ 27 ก.ค. สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประเมินผล แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL),นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประเมินผลแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,563 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เก็บข้อมูลวันที่ 26 ก.ค. พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ,เมื่อถามถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.8 ไม่ได้ประโยชน์ ในขณะที่ร้อยละ 27.2 ได้ประโยชน์ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.6 ไม่เชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองทำตามนโยบายหาเสียง ในขณะที่ร้อยละ 21.4 เชื่อมั่น เมื่อประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อฝ่ายต่าง ๆ ในสภาฯ ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประธานสภาฯ ในการทำหน้าที่แถลงนโยบายรัฐบาลภาพรวม เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ฝ่ายค้านได้ 6.46 คะแนน ผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ได้ 5.84 และฝ่ายรัฐบาลได้ 5.11 คะแนน, ,อย่างไรก็ตาม ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.2 ระบุ ไม่มีใครน่าชื่นชอบเลยในวันแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก ในขณะที่ ร้อยละ 20.8 ระบุ มีคนที่น่าชื่นชอบ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวช่อ พรรณิการ์ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว นางสาว ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจคือ,เมื่อถามถึง คนนอกสภาฯ ที่น่าชื่นชอบ ทุ่มเททำงานหนักแก้เดือดร้อนชาวบ้านได้ดี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.0 ระบุมีคนนอกสภาฯ ที่น่าชื่นชอบ เช่น นางปวีณา หงสกุล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 25.0 ระบุไม่มีใคร  ,ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า อารมณ์ของสาธารณชนยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลและคนในสภาฯ ได้ทำงานเร่งแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนแต่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ได้รับจากการแถลงนโยบายและขาดความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองที่เคยหาเสียงไว้ จึงเสนอให้เอาวาทกรรมการเมืองในสภามาทำให้เห็นเป็นจริงจังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จับมือแกนนำฝ่ายค้าน เดินตลาดสด หรือลงพื้นที่อื่น ๆ ที่เป็นจุดวิกฤติเดือดร้อนของประชาชนและเอามาอภิปรายแก้ปัญหาเดือดร้อนประชาชนในสภาร่วมกัน เช่น ภัยแล้ง คนไทยตกงานบริษัทใหญ่ปิดตัว ปัญหายาเสพติด ค่าครองชีพสูง ราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ จนได้ข้อยุติเป็นผลงานร่วมกัน ผลที่ตามมาคือ ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสภาฯ น่าจะกลับคืนมาได้ไม่ยากนัก, ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ไม่มีใครรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยจริงๆ ในอีก 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติที่ตั้งไว้ แต่สิ่งที่รู้มีสิ่งเดียวคือ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถจะคาดการณ์ได้และประชาชนกำลังต้องการจะรู้ว่าเป้าหมายปลายทางของนโยบายรัฐบาลอยู่ที่ไหน วันแต่ละวันพวกเขาจะหาเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ถ้าผู้นำและผู้บริหารประเทศมองเห็นเป้าหมายปลายทาง (Destination) แต่สาธารณชนยังมองไม่เห็น จึงจำเป็นต้องสร้างความฝัน (Dream) ร่วมกัน และออกแบบ (Design) ร่วมกันในการขับเคลื่อนพลังของสาธารณชนไปพร้อมกับรัฐบาลและฝ่ายค้านสู้กับความเดือดร้อนให้คลี่คลายได้, ,ประชาชนและสาธารณชนในเวลานี้อยู่ในสภาวะที่ไร้อำนาจ (Powerless) หรือสภาวะแปลกแยกในความเป็นมนุษย์ (Alienation) เพราะกำลังเดือดร้อนทุกข์หนักเกินความสามารถของตนเองและชุมชนจะจัดการได้ ข้อเสนอแนะคือ การหาทางออกร่วมกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสมาชิก ทำให้คนจนคนมีรายได้น้อย เช่น คนชายขอบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ คนในชุมชนแออัดในเมือง ได้มีอำนาจที่ชอบธรรมตามกฎหมายในการช่วยตัวเองและกำหนดทิศทางการแก้ปัญหาเดือดร้อนของตนเองในระดับชุมชนของตนเองได้มากขึ้น นำเรื่องเหล่านี้มาหารือในสภาฯ ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อสภาฯ กลับคืนมา ผศ.ดร.นพดล กล่าว
ซูเปอร์โพล ชี้ ร้อยละ72.8 เห็นว่า ปชช.ไม่ได้ประโยชน์ การแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก ขณะที่กว่าร้อยละ 79 ไม่ชื่นชอบใครเลย
ข่าว,การเมือง
แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก,ซูเปอร์โพล,คนไม่ได้ประโยชน์,นพดล กรรณิกา,SUPER POLL,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ไม่ชื่นชอบใครเลย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1624228
เกียรติ จี้ รบ.แจงสังคมหากปล่อยเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป หมดอายุความ
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.60 นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ป โดยภาษีมีมูลค่า1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการประเมินภาษีกำลังจะหมดอายุความภายในวันที่ 31 มี.ค.ว่า ที่ผ่านมามีเวลาตั้ง 5 ปีเพื่อที่จะออกหมายเรียกเก็บภาษี แต่ทำไมไม่มีการออกหมายเรียกเกิดขึ้น ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้หมดอายุความจริงก็ต้องถามไปทางสรรพากรว่า มันเกิดอะไรขึ้น สังคมควรจะทราบว่า ทำไมในช่วง 5 นั้นจึงไม่มีการดำเนินการอย่างไรเลย และในช่วงเวลานั้นมีใครเป็นอธิบดีกรมสรรพากรบ้าง แต่กลับไม่ทำหน้าที่ ส่วนเรื่องการจะขยายอายุการออกหมายเรียกเก็บภาษีออกไปหรือไม่นั้น ตนไม่ติดใจอะไร ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดดีกว่า เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายคดีที่เป็นตัวอย่างในเรื่องการหมดอายุความอยู่แล้ว,ถ้าอยู่ดีๆ ปล่อยให้มีการปล่อยให้หมดอายุความ คงต้องบอกว่าเป็นเรื่อง ที่ไม่ปกติ ในแง่ของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องมีการตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยให้หมดอายุความ และอธิบายให้สังคมทราบหน่อย เพราะคนที่เสียหายจากกรณีนี้ก็คือประชาชนทุกคน นายเกียรติ กล่าว.
เกียรติ แนะรัฐบาลแจงประชาชน หากวืดเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป โดยสรรพากรต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และในช่วง 5 ปีมีใครที่เป็นอธิบดีบ้าง
null
หุ้นชินคอร์ป,ภาษีหุ้นชิน,ภาษี1.6มื่นล้าน,หมดอายุความหุ้นชิน,เกียรติ สิทธีอมร
https://www.thairath.co.th/content/878557
หลวงตาก๊งเหล้า เมาขู่หลานคาบ้านพัก ตร.ต้องควบคุมเหตุก่อนพาไปสึก

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 ส.ค.60 ร.ต.อ.กิตติ รัตนวิจิตร รอง.สวป.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุประจำสถานีตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ว่า มีพระภิกษุเมาสุราอาละวาดภายในบ้านเลขที่ 290/202 ซอยสุขสวัสดิ์ 84 (คู่สร้าง) แยกซอยคู่สร้าง-คู่สมที่ 11 ม. 12 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.อนันต์ชัยชาญ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ทราบ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์เข้าตรวจสอบ
 
,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณใต้ถุนบ้าน พบพระบุญส่ง แก้ววิภา ฉายา สิริปัญโณ อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217 ม.1 ต.วังใหม่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จำพรรษาอยู่ที่วัดแคบางปลากดมาเป็นเวลา 1 ปี นั่งอยู่บริเวณโต๊ะรับประทานอาหารในสภาพพูดจาเอะอะโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ โดยมีสามเณรเก่ง อายุ 15 ปี นั่งอยู่ด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภายในย่ามพบขวดเปล่าเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง เมื่อเปิดฝามาสูดดมพบเป็นกลิ่นสุราขนาด 40 ดีกรีคละคลุ้ง บริเวณกระถางต้นไม้หน้าบ้านยังพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังวางทิ้งไว้อีก 2 ขวด
 
,จากการสอบถาม นายณัฐพงษ์ ฤทธิโย อายุ 26 ปี เจ้าของบ้านทราบว่า พระบุญส่งมีศักดิ์เป็นสามีใหม่ของยาย ได้บวชเป็นพระมาแล้วประมาณ 1 ปี โดยพระบุญส่งจะเดินทางมาหายายที่บ้านหลังนี้เป็นประจำและทุกครั้งจะมีขวดเครื่องดื่มชูกำลังซึ่งภายในบรรจุสุราขนาด 40 ดีกรีมานั่งดื่ม จนกระทั่งเมื่อเช้าพระบุญส่งพร้อมสามเณรเก่ง ได้เดินทางมาที่บ้าน พร้อมกับนั่งดื่มสุราที่เตรียมมาจนกระทั่งได้ที่ พระบุญส่งได้พูดจาเอะอะโวยวายและข่มขู่ว่าจะเอาปืนมายิงคนในบ้านบ้าง จะจ้างมือปืนมายิงตนเองกับพ่อบ้างในเรื่องส่วนตัวที่ไม่ลงรอยกันมานาน พร้อมทั้งจะพยายามทำร้ายร่างกายคนในบ้าน จนตนเองทนไม่ไหวในพฤติกรรมจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมตัว,

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปให้เจ้าอาวาสวัดแคบางปลากดทำการสึกขาดจากการเป็นพระ และนำไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจ ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับไป.
หลวงตากรึ๊บเหล้า 40 ดีกรี เมาอาละวาด พูดจาไม่รู้เรื่องแถมกลิ่นสุราคละคลุ้ง ที่บ้านหลานชาย บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 84 อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมพยายามทำร้ายคนในบ้านจึงต้องแจ้ง ตร.ให้มารับตัวก่อน นำไปทำการสึก

ข่าว,ทั่วไทย
พระเมา,หลวงตากรึ๊บเหล้า,เหล่า40ดีกรี,วัดแคบางปลากด,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1035319
เปิด 10 อันดับเกษียณอายุราชการมากที่สุด นับถอยหลัง 11 วัน 2 หมื่นเรือจ้างวางพาย
วันนี้ (19 ก.ย.2560) กรมบัญชีกลางเผยตัวเลขข้าราชการและลูกจ้างประจำพ้นจากราชการเนื่องจากมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ โดยสิ้นปีงบประมาณ 2560 มีผู้เกษียณอายุราชการทั้งสิ้น 46830 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 39968 คน และลูกจ้างประจำ 6862 คน ส่วนราชการที่มีผู้เกษียณอายุราชการมากที่สุด ได้แก่รวม 26275 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 24792 คน ลูกจ้างประจำ 1483 คน โดยสังกัดสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมากที่สุด 23847 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 23090 คนลูกจ้างประจำ 757 คน รวม 4773 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 4660 คน ลูกจ้างประจำ จำนวน 113 คน โดยสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากที่สุด 4578 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 4538 คน ลูกจ้างประจำ 40 คน รวม 3720 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 2276 คน ลูกจ้างประจำ 1444 คน โดยสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมากที่สุด 2944 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 1865 คน ลูกจ้างประจำ 1079 คนรวม 3555 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 2782 คน ลูกจ้างประจำ 773 คน โดยสังกัดกองทัพบกมากที่สุด 1536 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 1181 คน ลูกจ้างประจำ 355 คนรวม 2697 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 1230 คน ลูกจ้าง 1467 คน โดยสังกัดกรมชลประทานมากที่สุด แบ่งเป็นข้าราชการ 278 คน ลูกจ้างประจำ 946 คน รวม 1283 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 1076 คน ลูกจ้างประจำ 207 คน โดยสังกัดกรมการปกครองมากที่สุด แบ่งเป็นข้าราชการ 337 คน ลูกจ้างประจำ 28 คนรวม 835 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 691 คนลูกจ้างประจำ 144 คน โดยสังกัดกรมสรรพากรมากที่สุด 409 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 331 คน ลูกจ้างประจำ 78 คนรวม 201 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 164 คน ลูกจ้างประจำ 37 คน โดยสังกัดกรมประชาสัมพันธ์มากที่สุด 59 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 48 คน ลูกจ้างประจำ 11 คนรวม 792 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 332 คน ลูกจ้างประจำ 460 คน โดยสังกัดกรมทางหลวงมากที่สุด 512 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 168 คน ลูกจ้างประจำ 344 คนรวม 608 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 247 คน ลูกจ้างประจำ 361 คน โดยสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชมากที่สุด 243 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 87 คน ลูกจ้างประจำ 156 คนทั้งนี้ เมื่อจำแนกเป็นรายหน่วยงานพบว่าสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นหน่วยงานที่มีผู้เกษียณมากที่สุด 23847 คน รองลงมาคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ4578 คนสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2944 คนกองทัพบก 1536 คน และกรมชลประทาน 1224 คน ตามลำดับ โดยทั้ง 5 หน่วยงานนี้มีจำนวนผู้เกษียณรวมกันมากถึงร้อยละ 72.88% ของผู้เกษียณอายุราชการทั้งหมดสถิติผู้เกษียณอายุราชการ 2560จำนวนผู้เกษียณอายุราชการ ณ 1 ตุลาคม 2560แยกตามประเภทบุคคลและส่วนราชการ ดังนี้สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทยกระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการกระทรวงศึกษาธิการ (ต่อ)กระทรวงศึกษาธิการ (ต่อ)กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล หน่งวยงานอิสระของรัฐ
ปี 2560 มีข้าราชการเกษียณสังกัด สพฐ.มากสุดกว่า 20000 คน ตำรวจกว่า 4000 คน ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข อีกกว่า 2000 คน
สังคม
ข้าราชการ,เกษียณ,เกษียณอายุปี60,ตำรวจเกษียณ,ครูเกษียณ,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266210
โต้พลาดท้อง กุ๊บกิ๊บ-บี้ ร่ำไห้ขอโทษทำผิดประเพณี-เข้าโบสถ์วิวาห์ 23 ม.ค.(ชมคลิป)
แถลงข่าวที่สตูดิโอ 1 อาคารออกอากาศ บมจ. อสมท ขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้เสียใจที่ทำผิดขั้นตอนประเพณีไทย และเปล่าพลาดท้อง ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและแสดงความยินดีกับตนทั้งคู่ วางแพลนแต่งงานในโบสถ์ 23 ม.ค.นี้ ที่โบสถ์บางรัก มีฉลองที่ทะเล และจัดพิธีสวมแหวนแห่ขันหมากอีกครั้ง วันที่ 6 มีนาคมที่ สตูดิโอเบเนดิกต์ เผยเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดง ฝากท้องตั้งแต่วันแรกที่รู้ผล ฝ่ายชายมีอาการแพ้ท้องแทน 11 เดือนที่ผ่านมาผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ไม่คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เร็วเกินไป ขอบคุณแฟนคลับที่เข้าใจ ขอบคุณคนรอบข้างที่เข้าใจ ขอโทษที่ทำให้แฟนคลับบางคนเสียใจ (อ่านข่าว ,ม้วนเดียวจบ เส้นทางหัวใจ บี้ กุ๊บกิ๊บ จากจุดเริ่มต้นสู่ ฉันรักเธอ,,,กล้าทำกล้ารับ บี้ KPN แอ่นอกประกาศ กุ๊บกิ๊บ ท้องจริง ลั่นหมั้นนานแล้ว,),กุ๊บกิ๊บ (ยกมือไหว้) ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้นะคะ ดีใจมากๆ ที่กิ๊บกับบี้อยากจะแถลงข่าวเพราะต้องการอยากจะชี้แจงบางอย่างนะคะ เราไม่ได้บอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่น่ายกย่องหรือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งหมดที่เราทำเรารู้ว่าเราทำผิดประเพณีไทยที่ดีงามบางประการ เราไม่ได้ทำถูกต้องทั้งหมด ขอโทษนะคะที่จะทำให้ใครกลายๆ คนติดใจบางอย่างกับสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นสิ่งที่ดีน่ายกย่อง แต่ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับเราครอบครัวเราและคนรอบข้างของเรามันเป็นอีก 1 ทางเลือกที่เราเลือกกันเองและขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่ถูกใจใครบ้าง,ซึ่งเราทั้ง 2 คนน้อมรับคำติชมทุกอย่างค่ะ คิดว่ากลายๆ คนคงจะให้อภัยในสิ่งที่เราทำ คือเราทำผิดขั้นตอนไม่ได้ทำพลาดนะคะ เราคิดมาอย่างดีแล้วเราเลือกในสิ่งที่เราทำ เราพร้อมทุกด้าน ทุนทรัพย์ อายุ หรือว่าครอบครัวทุกอย่าง เราพร้อมแล้วอาจจะไม่ถูกต้องตามระบบทุกอย่างเราก็ขออภัยที่กิ๊บต้องพูดแบบนี้มันเป็นการรับผิดชอบอย่างหนึ่งต่อสังคม เพราะกิ๊บเป็นคนมีชื่อเสียงหลายคนอาจจะกลัวว่าเด็กๆ หรือคนที่ดูจะรู้สึกว่าทำแบบนี้แล้วเป็นเรื่องที่ดี เราไม่ได้บอกว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และขอขอบคุณทุกคนที่เลือกที่จะเอ่ยคำยินดีให้กับพวกเราเราคงจะไปบอกคนรอบข้างว่าควรทำให้ถูกต้องนะดีที่สุด คือทำตามประเพณีแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วแทนที่จะซ้ำเติมพูดให้รู้สึกแย่เป็นเรื่องน่าอายแต่ทุกคนเลือกที่จะเอ่ยและแสดงความยินดีนั่นคือสิ่งที่ทำให้กิ๊บอยากจะออกมาพูดตรงนี้ในฐานะของผู้หญิง,บี้ ในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายและต้องทำตามประเพณีไทยผมขอโทษ คุณพ่อคุณแม่ของกิ๊บและพี่น้องทุกๆ คนที่ไม่ได้ทำตามประเพณีของไทยแต่ที่ผมทำผมพร้อมผมไม่อยากให้ทุกคนใช้คำว่าพลาดตามที่ผมได้เห็นจากโซเชียลที่บางคนเห็นว่าผมพลาด ถ้าวันนี้ผมไม่พร้อมเราก็ไม่ทำเรามีความตั้งใจอยู่แล้วเพราะเราไม่ใช่เด็กๆ ผมพร้อมและอยากจะมีลูกสักคนถ้ามีสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่จะทำให้ผมโตขึ้นอีกสเต็ป 1 ชีวิตของผมจะได้สมบูรณ์อย่างที่ตัวเองคิดไว้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความยินดีและที่เข้ามาติผมจะทำให้ดีที่สุดสิ่งที่เรา 2 คนทำไปคือเรารักกันจริงๆ อยากจะให้ทุกคนเข้าใจ,กิ๊บ เรารู้ว่าทุกคนติชมนะคะทุกคนรักแล้วก็หวังดีในสิ่งที่พูดมาเราก็รับฟังมันเป็นเรื่องจริง เราไม่รู้สึกว่าคนที่คิดเขาพูดรุนแรง เขาพูดในสิ่งที่ถูกที่ควรก็รับฟังไว้ และนี่เป็นอีก 1 ช้อยส์ ที่เราเลือกเดินและเราก็สัญญาว่าจะทำชีวิตที่เราเลือกให้ดีที่สุดไม่ให้ทุกคนผิดหวัง ทำหน้าที่ของลูกผู้ชายได้ดีที่สุด ณ วันนี้เค้าเลือกที่จะทำและยอมรับไม่ปิดบังอะไรทั้งนั้น รักเราไม่รู้สึกว่าการที่เรามีท้องเป็นเรื่องที่น่าอายหนูต้องขอพูดเลยว่าไม่ได้รู้สึกอาย สามารถบอกทุกคนได้และเดินไปทุกที่โดยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ควรจะอายแต่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีคือเรามีการวางแพลนไว้อยู่แล้ว,บี้ ครับอย่างที่ทุกคนทราบในวันที่ผมขอกิ๊บเป็นแฟนตอนที่อยู่เกาหลีหลังจากนั้นผมก็ได้คุยกับกิ๊บว่ากลับมาเมืองไทยอยากจะขอคุณแม่กิ๊บหมั้นอย่างไม่ได้เป็นทางการเพราะบี้เห็นครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็น่ารักกับเรา 2 คนก็รู้สึกว่าก็อยากจะมีกิ๊กเป็นชีวิตคู่ ขอโทษครับก็ตั้งใจไว้แล้วครับเราไม่ได้พลาด,กิ๊บ เรามีแพลนแต่งงานกันประมาณปลายปีหน้านะคะก็เริ่มไปดูบ้านซื้อรถเรามีจองบ้านไปแล้วด้วย แต่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนที่เพราะว่าจะต้องอยู่ใกล้ๆ กับคนในครอบครัวหน่อยอยากให้ลูกเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนสามารถมาเลี้ยงมาเล่นกันได้ เราเลยจะเปลี่ยนที่เพราะฉะนั้นการที่เรามีน้องหรือจะแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องที่เรา 2 คนจะตกใจ แต่หลายคนอาจจะตกใจเพราะเราไม่ได้บอกเราก็เตรียมกันมาอยู่แล้วตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่าทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิมจากปลายปีเป็น 6 มีนาคมที่เราคิดกันไว้ไม่ได้กลัวว่าท้องจะใหญ่ขึ้นหรือเปล่าเลยต้องแต่งเร็ว เราไม่ได้อายกิ๊บอยากจะใส่ชุดโชว์ท้องมากแต่ไม่มีใครให้กิ๊บใส่ แต่ที่เร็วขึ้นเพราะเราอยากจะร่วมสนุกมีความสุขกับเพื่อนๆ ทุกคนกับแขกที่มาในงานเดี๋ยวท้องใหญ่แล้วมันจะเหนื่อย เราก็เลยเลื่อนให้มันขึ้นมาเร็วแค่นั้นเอง,บี้ เราอยากป้องกันให้ลูกของเราๆ ไม่ได้ฉีดวัคซีนก่อนแต่วันนี้โชคดีลูกของเราสุขภาพแข็งแรงแข็งแรงมากๆ (กุ๊บกิ๊บแทรก เต้นโชว์ตลอดเลยกิ๊บไปอัลตราซาวนด์มาครั้งหนึ่งตอนที่รู้ดิ้นเป็นตึ่งตึ่งตึ่ง) คิดว่าน่าจะได้เชื้อพ่อมานะเราก็รู้สึกแฮปปี้และยินดีมากเราอยากให้ทุกคนพี่นักข่าวและประชาชนทุกคนได้รู้ความจริงจากเรามากกว่าแทนที่จะฟังจากข่าวลือ,ฝากครรภ์รึยัง?,กิ๊บ ฝากตั้งแต่วันแรกที่รู้เลยค่ะ กิ๊บจัดการเองทุกอย่างกิ๊บต้องบอกก่อนหลายคนไปนั่งหาความจริง ตามในไอจีไม่ต้องไปตามเดี๋ยวหนูบอกให้คือหนูเริ่มจากการไปตรวจกลัวว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งหรือว่าจะเป็นเนื้องอกเพราะกิ๊บเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติเลย ก่อนที่จะตรวจประจำเดือนก็มาคือ 1 เดือนมา 2 ครั้งติดกันแบบ 2-3 เดือน แล้วมีช่วงนึงประจำเดือนหายไปก็เลยไปตรวจแล้วเค้าต้องอัลตราซาวนด์ดูว่ามีเนื้ออะไรไหมก็เลยแกล้งพูดกับคุณหมอเล่นๆ ว่าคุณหมอคะช่วยดูหน่อยว่าหนูท้องหรือว่าหนูเป็นมะเร็งค่ะคุณหมอท้องดีกว่าเป็นมะเร็งนะคะก็พูดเล่นๆ คุณหมออัลตราซาวนด์ปุ๊บไม่ต้องคิดแล้วค่ะกุ๊บกิ๊บ (ทำท่าเต้น) ลูกเต้นรอเลยก็เลยรู้สึกดีใจ,ณ วินาทีนั้นดีใจมากกิ๊บไม่ใช่เด็กแล้วกิ๊บอาจจะตัวเตี้ยเฉยๆ นะคะ ไม่ใช่เด็กแล้วคือกิ๊บ 27 แล้วอีกไม่กี่ปีก็จะเลข 3 และอยากจะมีครอบครัวอยากแต่งงานอยากมีลูกพอเห็นปุ๊บดีใจมากไม่ได้นึกถึงชื่อเสียงว่าจะเป็นยังไงไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยไม่คิดจะปิดด้วยพอตรวจเสร็จก็ฝากครรภ์เลยให้คุณหมอช่วยดูแลเลยออกมาแล้วค่อยโทรบอกบี้ บี้ก็ร้องไห้,บี้ ร้องไห้เพราะกิ๊บบอกว่าลูกแข็งแรงมาก ผมดีใจมากดีใจมีลูกแล้วมันได้โตขึ้นอีกสเต็ป 1 รู้สึกว่ามีอีก 2 ชีวิตที่ผมต้องรับผิดชอบรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นและดีใจ,วางแผนงานแต่งงานไว้อย่างไร?,บี้ จะมีงานแต่งงานที่โบสถ์วันที่ 23 มกราคมตอน 10 โมงที่โบสถ์อัสสัมชัญบางรัก,กิ๊บ เพราะว่ากิ๊บเป็นคริสต์ กิ๊บจะต้องเข้าโบสถ์ก่อน เราจะมีปาร์ตี้ที่ทะเลเรากำลังเลือกโรงแรมอยู่,บี้ 6 มีนาคม จะเป็นวันแต่งงานของเราอย่างเป็นทางการ,กิ๊บ จะมีพิธีสู่ขอหมั้นขันหมากสวมแหวนและตอนเย็นมีปาร์ตี้ฉลองส่วนสถานที่คร่าวๆ น่าจะเป็นที่เบเนดิกต์สตูดิโอนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้เชิญคนเยอะมากมายตอนนั้นก็น่าจะหลายเดือนแล้วเราอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นแบบอบอุ่นคนที่รักจริงๆ ของเรามาร่วมงานตามสไตล์เพ้อฝันของหนูเหมือนฝรั่งอบอุ่นง่ายๆ สบายๆ ไม่เน้นหรูหรา,บี้ เก็บตังค์ให้ลูกดีกว่า,เตรียมความพร้อมไปถึงไหนแล้ว?,กิ๊บ ตอนแรกแพลนไว้นานเลยยังไม่ได้เตรียม,บี้ กิ๊บว่างพอดีช่วงนี้เลยนั่งแพลนว่าจะต้องทำอะไรทุกๆ อย่างต้องจัดการก็ตามแพลนปกติที่ทุกคนเค้าจะแต่งงานกัน,กิ๊บ โชคดีมากที่คู่เรามีแต่คนเอ็นดูเขาชอบยื่นมือเข้ามาช่วยเดี๋ยวมาทำอย่างนั้นให้เดี๋ยวทำอย่างนี้ให้ กิ๊บ รับหมดเลยทุกอย่าง โอเคมากใครจะทำอะไรให้อยากให้งานแต่งงานที่มีแต่คนเอ็นดูเราเห็นเรามาตั้งแต่เด็กเห็นเราเติบโตมาเห็นบี้เติบโตมามาช่วยกันทำให้มันอบอุ่นเราเลยโชคดีไม่ต้องทำอะไรมากมายไม่มีพิธีอะไรเยอะแยะขนาดนั้นอยากได้แบบฝรั่งแนวการ์เด้นปาร์ตี้ในสวน,บี้ ก็จะเอาในสวนสบายๆในสวน,สินสอดเท่าไหร่?,กิ๊บ เรื่องสินสอดยังไม่ลงตัวเท่าไหร่,บี้ กำลังตกลงกันอยู่,กิ๊บ แต่เราไม่ได้อยากให้โฟกัสเรื่องนั้นเราอยากให้คนโฟกัสที่เรารักกันและความอบอุ่นมากกว่าเพราะว่าเรื่องเงินมันเป็นเรื่องเบสิกเป็นเรื่องรองแต่มีอยู่แล้วไม่อยากให้คนโฟกัส ว่าราแต่งงานเราอยากให้คุณมองว่าคนเราแต่งงานแต่งกันด้วยความรักและสร้างไปด้วยกันนี่คือสิ่งที่เราอยากให้คนดู,ตอนนี้ท้องกี่เดือนแล้ว?,กิ๊บ ตอนนั้น 10 วีคน่าจะประมาณเกือบ 11 สัปดาห์ดีแล้วค่ะยังไม่ทราบเพศ จะผู้หญิงหรือผู้ชายได้หมดหรือกะเทยได้หมด (บี้พูดแทรก ไม่ได้ๆ) (หัวเราะ) เค้าจะมีปฏิกิริยาตลอดเพราะว่ากิ๊บมีเพื่อนเป็นกะเทยเยอะเพื่อนๆ ก็แซงอยากจะให้มีรูปแบบนั้นแบบนี้แต่สำหรับเราอย่างไรก็ได้,บี้ ขอให้เป็นคนดี (ยิ้ม),แพ้ท้องมากมั้ย?,กิ๊บ กิ๊บไม่เป็นอะไรเลยอันนี้กิ๊บไม่ได้โกหก เพราะว่าไม่ได้เป็นอะไรเลยไม่มีการเวียนหัวไม่มีการอยากกินอะไรเป็นพิเศษและยังผอมอยู่เลยถ้าทุกคนเห็นยังไปวิ่งมาราธอนกับคุณวู้ดดี้ยังไปขึ้นสลิงกับคุณณเดชน์ยังไปปีนเขาทำกิจกรรมนุ่นนั่นนี่ปาร์ตี้คอนเสิร์ตไม่เป็นอะไรเลยยิ่งพอรู้ว่ามีน้องก็ไม่เป็นอะไรแต่คนนี้ค่ะโอ๊กอ๊าก แพ้แทน,บี้ คือผมไปดูข้อมูลมันเกิดจากการเป็นห่วงคู่รักทำให้เราเกิดอาการอาเจียนเวลาเห็นอาหารหรือได้กลิ่นบี้จะเครียดเรื่องต่างๆ ส่งข้อมูลไปถามคุณหมอว่าผมแพ้ท้องแทนหรือเปล่าซึ่งเค้าบอกว่ามันไม่ใช่,กิ๊บ เหมือนเค้าเป็นห่วงเรามากกว่าเรื่องอาหารการกินการดูแลตัวเองเพราะปรกติกิ๊บเป็นคนใช้ชีวิตสุดเหมือนกันเลยต้องปรับเปลี่ยนอะไรนิดนึง,บำรุงเยอะชนาดไหน?,บี้ ก็ให้ทานอาหาร 3 เวลาก็จะทำให้ทานไม่ให้ขาดโปรตีนทุกทุกอย่างพยายามทานคาร์โบไฮเดรตน้อยลง,ครอบครัวไหนเห่อมากกว่ากัน?,บี้ พอๆ กันครับ,กิ๊บ ทุกคนคิดชื่อทุกวันก็เตรียมโละเสื้อผ้าของหลานๆ ทุกคนเก็บมาค่ะขอพี่ญ่าของลียาก็เอามาค่ะทุกคนเห่อมากโดยเฉพาะบี้เห่อกว่าหนูเยอะเรื่องกินเรื่องอะไรทุกอย่างเค้าจะจัดการซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะรู้ว่ามีน้องก่อนที่จะรู้ว่าต้องใช้ชีวิตคู่กิ๊บจะเป็นผู้หญิงที่จัดการตัวเองทุกอย่างดูแลตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครที่จะดูแลคิดได้ดีกว่าแต่พอรู้ว่าจะเป็นครอบครัวแล้วจะมีน้องกลายเป็นกิ๊บให้เข้ามาดูแลจัดการทุกอย่างหมดเลย,งานในวงการละคะ?,บี้ ของกิ๊บน่าจะมีผลกระทบเยอะกว่า,กิ๊บ เพราะบีไม่ได้ท้องไม่เป็นไรบี้ยังเจ้าหุ่นแซ่บทำงานได้ปกติเหมือนเดิมแต่สำหรับกิ๊บก็คงจะจัดรายการตื่นฯ จนคลอดและละครน่าจะถ่ายเสร็จช่วงมีนาแล้วกิ๊บก็จะหยุดเรื่องละครก่อนแต่พวกรายการในอีเวนต์ก็คงออกได้พอคลอดเสร็จแล้วน่าจะซัก 2-3 เดือนแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ,กิ๊บเป็นคนอยู่นิ่งไม่ได้คงต้องทำงานด้วยเรื่องที่จะมีผลกระทบกับละครไม่มีแน่นอนค่ะ นอกจากหน้าที่จะตื่นขึ้นมาเลยพยายามไม่ให้น่าอืดไม่เบรกนานทำทุกอย่างปกติหมด กิจกรรมโลดโผนอย่างที่กระโดดเป็นลิงก็ต้องหยุดต้องดูแลนิดนึง รองเท้าส้นสูงก็ใส่แบบกรุบกริบเพราะเดี๋ยวจะไม่เห็นหัวหนูวิคตอเรียเบ็คแฮมยังใส่เลย เราก็ต้องใส่บ้างนิดๆ ตอนนี้ถ่ายละครเรื่องรักพลิกล็อกและเล่ห์ลับสลับร่าง,เตรียมความพร้อมเป็นคุณแม่ยังไงบ้าง?,บี้ ก็ซื้อหนังสือเข้าร้านหนังสือซื้อซัก 5-6 เล่ม เอามาอ่านกันก็เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดี,กิ๊บ บี้ชอบเปิดดูในเน็ตด้วยเป็นภาษาจีนหนูฟังไม่ออกหรอกเค้าจะฟังจะดูคลิปมีอะไรใครสอนผู้หญิงมาพูดเรื่องลูกเค้าจะรู้เยอะกว่ากิ๊บมากกิ๊บจะไม่ค่อยรู้เค้าจะรู้เยอะเขาก็จะซื้อหนังสือมาให้กิ๊บอ่านและบอกมาดูแล,ตอนนี้อยู่ด้วยกันรึยัง?,กิ๊บ ตอนแรกเรายังไม่ได้อยู่ด้วยกันเราอยู่กันคนละทีแต่พอหลังหลังเริ่มจะต้องย้ายมาอยู่ใกล้ๆ กัน,บี้ เราอยู่คอนโดเดียวกันแต่คนละชั้นกันห้องกิ๊บยังไม่เสร็จแต่ใกล้แล้วช่วงที่ตั้งท้องจะได้ดูแลกันได้เดี๋ยวกำลังจะซื้อบ้านพอน้องออกมาแล้วเดี๋ยวจะย้ายไปอยู่บ้านกันส่วนบ้านคงจะอยู่แถวบ้านแม่ตอนแรกวางไว้ที่นึง แต่มันเกิดผิดแผนก่อนเราก็เลยจะต้องย้ายเป็นอีกที่นึง,เป็นเรือนหอ?,กิ๊บ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นเรือนหอเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่ตรงนี้เพื่อให้ลูกได้เลี้ยงง่ายอยู่กับครอบครัวพอโตแล้วก็ย้ายเรือนหอไปอีกก็เปลี่ยนไปเรื่อยเรื่อยเอาตามที่เราชื่นชอบแต่ตอนนี้เราต้องการให้ลูกออกมาโดยที่ทุกคนสามารถช่วยกันเลี้ยงและมีความอบอุ่นได้อยู่กับย่ากับยายกับพี่ๆ น้าๆ อาๆ เราต้องการให้เขาได้รับความอบอุ่นเลยเลือกที่จะให้อยู่ใกล้ๆ ครอบครัว,วินาทีแรกที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้?,บี้ วันแรกที่ได้รู้จักเลยก็น่าจะเป็นเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เป็นอีเวนต์ของแฟนเขาจัสติน บีเวอร์ ตอนนั้นก็ยังเป็นพี่กุ๊บกิ๊บอยู่ก็ทักทายปกติ หลังจากนั้นก็ได้รู้จักกันแต่ครั้งแรกที่รู้สึกกับกิ๊บเมื่อตอนมาออกรายการตื่นมาคุยที่ผมมาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูมีอะไรเค้ามีเสน่ห์ เค้าน่ารัก ก็เลยรู้จักกันพอรู้จักกันเขาเป็นคนดีมากๆ รู้สึกว่าถ้าอยู่กับเขาอยู่กับเขามีความสุข อยู่กับเขาผมได้โตขึ้น อยู่กับเขาพบได้รู้จักความรักที่ไม่ได้รู้จักมาก่อนก็รู้สึกว่าเค้าทำให้เราโตขึ้นเตือนเราตลอดว่าโทรหาคุณพ่อคุณแม่หรือยังพาคุณพ่อคุณแม่มาทานข้าวด้วยกันไหม พาเขามาเที่ยวมาอยู่ด้วยกันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คอยเตือนคอยดูแลผมได้ก็รู้สึกว่าอยากจะมีเขาเป็นคนที่อยู่ด้วยมาตลอด,กิ๊บ กิ๊บไม่รู้จักเขาจริงๆ ตอนนั้นเค้ายังมีแฟนอยู่เราก็ไม่รู้จักเขารู้แค่ว่าน้องคนนี้ชื่อนี้ วินาทีแรกไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น อยากจะบอกว่าหลายคนที่ชอบวางสเปกไว้ไม่ได้หรอก ไม่มีจริงๆ หนูแพ้ความดีของเขาความพยายามเค้าเป็นคน 1 ที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรเลยไม่ว่าเราจะเรียกร้องอะไรหรือเราจะเข้าใจยากขนาดไหนเขามีเป้าหมายมายังไงตั้งแต่แรกเค้าก็จะแบบพยายาม เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ยอมแพ้มีแต่จะใจเย็นๆ ขอร้องได้ไหมพยายามได้ไหมลองปรับก่อนไหม ทุกครั้งเค้าจะเป็นแบบนี้เสมอมันทำให้กิ๊บรู้สึกว่าคนแบบนี้คือคนที่เราอยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วย,เราไม่ได้อยากได้คนที่ร่ำรวยอะไรมากมายเราอยากได้คนขยัน แม่สอนเสมอว่าต้องเลือกคนที่ขยันและคนที่มีจิตใจดีและคนที่รักเรามากและเค้าจะไม่ยอมแพ้ในตัวเราวันนึง 10 ปี 20 ปีผ่านไปความรักหวานชื่นในวันนี้มันอาจจะลดลงแต่ถ้าเค้ารักเรามากไม่ว่ายังไงเค้าจะทำให้ดีแล้วไปรอดนี่คือสิ่งที่บี้มีและนั่นคือสิ่งที่กิ๊บเลือก ก่อนที่จะเลือกกันก่อนที่จะตกลงปลงใจกันก็จัดบททดสอบเขาหนักหน่วงเหมือนกันอย่างที่ทุกคนเห็นทำตัวอิสระตลอดเวลาเค้าก็ให้เกียรติเราในทุกๆ อย่างตั้งแต่ให้ข่าวพูดกับทุกคนหรือวิธีการกระทำของเขาและแสดงความจริงใจมาโดยตลอดซึ่งหนูรู้สึกว่าเขาคู่ควรกับที่จะเป็นชีวิตคู่ของเรา,บี้ ไลฟ์สไตล์ในชีวิตของเรา ค่อนข้างที่จะแตกต่างเยอะเรื่องของความคิดหลายๆ อย่างเราก็เจออุปสรรคเยอะมากที่เกือบจะไปกันไม่ค่อยรอดคืออย่างผมจะเป็นคนที่ลุยคนเดียวมาโดยตลอดเป็นเด็กคน 1 ที่มาจากต่างจังหวัดมีชีวิตคนเดียวมาโดยตลอดแต่เขามีชีวิตคู่มาโดยตลอดเราเลยมีเรื่องตรงนี้ที่ไม่เข้าใจกันทำไมเราต้องเสียสละ ทำไมเรื่องตรงนี้เราต้องให้เกียรติกันขนาดนี้ กิ๊บสอนให้ผมเป็นผู้ชายให้มากขึ้นรู้จักความรักมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้นก็ขอบคุณครับ,ระยะเวลาที่คบกันหลายคนคอมเมนต์?,กิ๊บ ก็เป็นไปตามในไอจีเลยค่ะ ก็ขอเป็นแฟนก่อนก็เป็นลำดับไปน่าจะเป็นแฟนปุ๊บก็คงจะสปาร์คกันติดมันก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาในวันนี้ที่เรามานั่งอยู่ด้วยกันนะคะ คือทุกอย่างมันเป็นไปตามลำดับขั้นตอนของมันซึ่งกิ๊บบอกว่าทุกคนสามารถหาความจริงทุกอย่างได้โดยที่เราไม่ได้ปิดบังอะไรจากการที่กิ๊บอัพรูปวันละ 80 ล้านรูป คนสามารถไปหาความจริงในนั้นได้หมดเลย,ซึ่งทุกอย่างมันเป็นตามนั้นเลยค่ะ ก็เราคบกันเป็นแฟนกันมันกันแล้วเราก็นั่นน่ะ (ตบมือ) อื้มแล้วก็มาจนถึงวันนี้มันก็เป็นช่วงเวลาที่ประมาณนึงแต่หลายหลายคนอาจจะมองว่าคบกันแค่ 12 วีคแต่กว่าเราจะยอมเป็นแฟนกันนี่เราก็ทำความรู้จักกันมา 7 ถึง 8 เดือนแต่กว่าจะใกล้ชิดเราก็รู้จักกันมา 3 ปีแล้วซึ่งมันไม่ใช่คนอื่นคนไกล,บี้ ซึ่ง 11 เดือนที่ผ่านมามันเกิดเรื่องราวอะไรหลายหลายอย่างก็จริงๆ วันที่ขอเป็นแฟนที่เกาหลีผมก็รู้สึกว่าก็จะอยู่กับคนนี้ไปตลอดก็เลยบอกเขาว่าเดี๋ยวกลับไทยดีจากขอหมั้นกับคุณแม่นะคะแล้วเราก็เป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงอยู่แล้วแต่ว่าขั้นตอนเราอาจจะผิดแต่สิ่งที่เกิดขึ้นบี้ขออนุญาตกิ๊บว่าพร้อมหรือยัง,กิ๊บ ตลกมากเวลาเค้าจะทำอะไรเค้าจะต้องขอทุกอย่างคือบี้เป็นคนรักเด็กเหมือนเค้าจะพูดเรื่องครอบครัวตลอดเรื่องนี้ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็คงจะปรับกิ๊บไม่อยู่เค้าคงคิดแบบนี้,คิดชื่อไว้รึยัง?,กิ๊บ อะไรคุณน้องกิมจิก็มาเหรอ ช่วยกันคิดสิ แต่คิดว่าน่าจะที่เกาหลีแหละ (หัวเราะ) หรือน้องโซล เพื่อนบอกให้ชื่อนี้หรือเราจะคิดว่าตรงไหนหรือว่าน้องเมียงดง อุ๊ยเขินๆ ยังไม่รู้ว่าจะยังไงดี,ฝากขอบคุณกำลังใจพิเศษ?,บี้ ก็ขอบคุณแฟนคลับมากๆ นะครับดีใจมากคืออย่างแรกรู้สึกเลยว่าเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นแต่อาจจะเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้อาจจะเป็นเรื่องที่เสียใจสำหรับแฟนคลับบางคนนะครับถ้าผมทำให้เสียใจผมขอโทษจริงๆ แต่ว่าสิ่งที่ผมเลือกวันนี้ผมมีความสุขมากๆ ก็อยากจะให้เข้าใจก็อยากจะขอบคุณแฟนคลับที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างมาตลอด 5 ปีขอบคุณมากๆ ที่เข้าใจและรักบี้ดูแลกันมาตลอด,แล้วก็ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ผมคือวันแรกผมเข้าใจว่าด้วยความที่เป็นคนจีนคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่เห็นด้วย เรื่องที่ไม่ได้หวังความพร้อมแต่วันนี้มันเกิดขึ้นแล้วและบี้ก็โตแล้วบี้ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบก้าวขึ้นมาในชีวิตอีกสเต็ปนึงบี้ทำได้ดี เชื่อว่าบี้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่จะดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้ ไม่ใช่ว่ามีลูกและผู้หญิงที่ผมรักผมจะดูแลไม่ได้,ขอให้คุณพ่อคุณแม่ของกิ๊บและญาติพี่น้องทุกคนวางใจผมผมจะดูแลกิ๊บให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้แล้วขอบคุณผู้ใหญ่ขอบคุณคุณกรณ์ขอบคุณทีมงานที่ซัพพอร์ตดีมาตลอด 5 ปีทำให้ผมมีทุกวันนี้ผมจะตั้งใจต่อไปและวางแพลนกับชีวิตในวงการบันเทิงและครอบและคู่ของผมให้ดีที่สุดครับ ขอบคุณครับ,กิ๊บ สำหรับกิ๊บนะคะกิ๊บคงต้องขอบคุณครอบครัวต่อนะและขอบคุณแฟนคลับกิ๊บเค้าเข้าใจทุกอย่าง ทุกคนแฮปปี้ทุกคนเป็นแฟนคลับที่น่ารักอยู่แล้วทุกคนยินดีกับกิ๊บ กิ๊บต้องขอบคุณพี่พี่สื่อมวลชนทุกคนและทุกคนที่อยู่รอบคอบข้างกิ๊บรู้ว่าทุกคนมีข้อสงสัยหรือมีอะไรที่เราทำไม่ถูกไม่ควรแต่ทุกคนก็เลือกที่จะเอ่ยคำยินดีและสิ่งดีๆ ให้เราทุกคนมีแต่สิ่งดีๆ ให้คิดมาตลอดตั้งแต่กิ๊บเข้ามาในวงการบันเทิงจนวันนี้คิดมีครอบครัวทุกคนก็ยังน่ารักมาตลอด,ก็ขอบคุณนะคะที่รักกันแบบนี้มีแต่สิ่งให้มีแต่สิ่งดีๆ ให้กันแบบนี้ก็ขอให้เอ็นดูหลานด้วยนะคะขอบคุณมากๆ พวกเรามีความสุขมากจริงๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้จะมีคนรักเรามากขนาดนี้เราพูดตรงๆ ครั้งแรกเราเตรียมใจว่าจะต้องโดนเยอะแน่นอนแต่เราก็เลือกที่จะมีความสุขและเราก็เลือกที่จะไม่ปิดบังอะไรทั้งนั้นเพราะเรารู้สึกว่าเรามีความสุขมากแล้วมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแต่ผลที่ออกมาในวันนี้ผลมันออกมาเกินคาดมากๆ ที่ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ทุกคนน่ารักกับกิ๊บมากขอบคุณจากใจจริงที่เลือกเลยแต่คำยินดีและยินดีให้กับเราวันนี้พวกคุณทำให้เรามีความสุขมากจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ.
กุ๊บกิ๊บ บี้ แถลงข่าว ขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้เสียใจที่ทำผิดขั้นตอนประเพณีไทย และเปล่าพลาดท้อง ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและแสดงความยินดีกับตนทั้งคู่ วางแพลนแต่งงานในโบสถ์ 23 ม.ค.นี้ ที่โบสถ์บางรัก
null
บี้ กุ๊บกิ๊บแถลง,บี้ กุ๊บกิ๊บแต่งงาน,กุ๊บกิ๊บท้อง,กุ๊บกิ๊บเบนโล,บี้ กุ๊บกิ๊บ,บี้ KPN,กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์,กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย,ธรรศภาคย์ ชี,กุ๊บกิ๊บ ท้องกับ บี้,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/548816
ถกงบฯ64 : ประยุทธ์ แจ้งมียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อลูกหลาน ก้าวไกล ทวงสัญญาเปิดข้อมูล ธุรกิจกองทัพ
พิจารณ์ ก้าวไกล อภิปรายงบกองทัพสะท้อนรัฐเลิกอำพรางงบแบบรบกลางคืน พร้อมทวงคืนสัญญา กลาโหม เปิดข้อมูล ธุรกิจกองทัพ ด้านประยุทธ์ แจ้งหลายส่วนเป็นงบฯ ผูกพันเพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ในภารกิจดูแลป้องกันประเทศย้ำยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อลูกหลานของท่าน1 ก.ค.2563 อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เกี่ยวกับงบประมาณกองทัพ ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงาน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ช่วงหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องเงินนอกงบประมาณและรายได้จากธุรกิจของกองทัพว่า ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายในประเด็นนี้กันไม่น้อย ในภาพรวมพบว่า มีเงินนอกงบประมาณ94500 ล้านบาท แต่ กระทรวงกลาโหม ไม่มีการจัดสรรเงินนอกงบประมาณสมทบในงบประมาณเลย จึงขอสื่อสารผ่านสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในชั้น กมธ.วิสามัญ งบประมาณประจำปี 64 ขอให้ส่งรายงานการตรวจสอบบัญชีของ สตง. ที่ตรวจสอบงบการเงินของแต่ละหน่วยรับงบประมาณใต้กระทรวงกลาโหมมาให้ด้วย ทั้งนี้ เงินนอกงบประมาณในส่วนของรายได้ยังไม่ปรากฏเงินรายได้จากธุรกิจของกองทัพอย่าง สนามม้า สนามมวย สโมสรต่างๆ โรงแรม สนามกอล์ฟ และธุรกิจอื่นๆ ทั้งที่ควรต้องควรจะต้องปรากฎด้วยงบในส่วนนี้เกี่ยวพันอย่างยิ่งกับ การปฏิรูปกองทัพ ที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายก และรมว. กลาโหม รวมถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าจะทำการปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจังภายใน 90 วัน ทุกวันนี้ เป็นยุคดิจิตอล อะไรที่สัญญาไว้ พูดเอาไว้ มันปรากฎบนโลก Social Media ทั้งสิ้น ภาคประชาชนเค้าเรียกร้อง คำสัญญาที่ท่านให้ไว้ ธุรกิจของกองทัพเหล่านี้ ผมไม่กล้าหวังเลยว่าจะส่งเงินสมทบคืนคลังหรือไม่ แต่จะส่งไม่ส่งก็เป็นสิ่งที่ท่านทำได้ เพราะมีกฎหมายรองรับ อย่างไรก็ตาม อยากขอนายกในฐานะ รมต กลาโหม สักอย่างคือ ขอให้เลิกยุทธการรบในเวลากลางคืนได้แล้ว ทุกวันนี้ธุรกิจกองทัพ ทำเหมือนสู้รบในเวลากลางคืน อำพรางกาย ระวังไม่ให้ข้าศึกมองเห็น อย่ามองพวกเรา พี่น้องประชาชน เป็นข้าศึก เปิดเผยให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะอ้างข้อกฎหมายเพื่อไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลของกิจการเหล่านี้ เว้นเสียแต่ว่า เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เลยต้องหมกเม็ด ต้องกินกันลับๆพิจารณ์ กล่าวพิจารณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า หากระบุว่า กิจการ ธุรกิจเหล่านี้ดำเนินไปเพื่อจัดเป็นงบประมาณสวัสดิการของกองทัพ ยิ่งต้องทำให้โปร่งใส เพราะประชาชนเค้าพูดกันว่าสวัสดิการเหล่านี้ มีเพื่อให้ทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่วนทหารชั้นผู้น้อยไม่ได้รับ ถึงตอนนี้ 202วัน แล้วที่คำถามของ ณธีภัทร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกลอดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้สอบถามเรื่องนี้ในชั้น กมธ.วิสามัญ งบประมาณ 2563 พร้อมขอเอกสารชี้แจงจากกลาโหม เกี่ยวกับธุรกิจของกองทัพบก ในเรื่องของรายได้ ส่วนต่าง สัญญาสัมปทาน ข้อตกลงระหว่างกลาโหมกับกระทรวงการคลัง รายละเอียดของเงินนอกงบประมาณ และตนก็เคยถามคำนี้เช่นเดียวกันต่อ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในสภาแห่งนี้ เป็นกระทู้สด ข้อที่ 3 เมื่อ วันที่ 11 ธันวาคม 2562 โดยได้รับคำตอบในเวลานั้นว่า อยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูล จะประสานแจ้งให้ทราบต่อไปช่วงท้ายของการอภิปราย พิจารณ์กล่าวว่า ถึงวันนี้ เป็นเวลา 202 วันแล้ว ที่พวกเรายังไม่ได้คำตอบ ไม่ทราบว่ายังรวบรวมเอกสารไม่เสร็จอีกหรือ ดังนั้น ใน กมธ.วิสามัญงบประมาณปี 2564 เราต้องจะถามคำถามเหล่านี้และขอเอกสารต่อไป ได้แก่ รายได้จากการใช้ทรัพยากรคลื่นวิทยุย้อนหลัง 10 ปี รายชื่อบริษัทผู้รับบริหารหรือสัมปทานคลื่นวิทยุและสัญญากับทุกบริษัทสัญญาระหว่างกองทัพบกกับบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ หรือช่อง 7 ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2512 ทุกฉบับ รายได้จากการให้สัมปทานกับ ช่อง 7 ทุกปี ตั้งแต่ปี 2512 รายได้อัตราค่าเช่าโครงข่ายภาคพื้นดินหรือ MUX ย้อนหลังทุกปีตั้งแต่เริ่มมีรายได้ ข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง 2561 มาตรา 61(3) และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงิน รับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการนำส่งคลัง ปี 2562 รายละเอียดเงินนอกงบประมาณ ประเภทหนึ่ง ประเภทสอง ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเงิน ปี 2554 ว่าเงินนอกงบประมาณรายการใดอยู่ในประเภทหนึ่ง และรายการใดอยู่ในประเภทสอง และที่มารายประเภทของรายได้นอกงบประมาณ และรายจ่ายของเงินนอกงบประมาณ ย้อนหลัง 5 ปีและ รายงาน พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณของกองทัพ ว่า จากการตรวจสอบกับสำนักงบประมาณทุกอย่างยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกประการ ซึ่งเป็นงบผูกพันข้ามปีในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิต การผ่อนชำระเนื่องจากมีราคาแพง ประเทศมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอาวุธยุทธโธปกรณ์ ให้เพียงพอ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่า ประมาณ 80% และเพื่อทดแทนให้ ไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง กองทัพมีภารกิจที่ต้องดูแลป้องกันอธิปไตยในการดูแลชายแดน ซึ่งจะต้องเตรียมความพร้อม ทางด้านกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ แม้จะไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นก็ตาม สิ่งสำคัญคือวันนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ มีความก้าวหน้า ซึ่งอาวุธ ยุทธโธปกรณ์ที่ไม่มีความทันสมัยอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภารกิจป้องกันชายแดนจะต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้พอสมควร จากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลเข้าใจถึงความห่วงใยจากสมาชิก ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการทุกอย่าง ๆ ดีที่สุด ซึ่งอยากให้ทุกคนมีความเข้าใจ และให้ห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหารด้วย ที่จะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเข้าใจถึงความห่วงใยของท่าน ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พยายามจะทำให้ดีที่สุด เพียงแต่ขอความเข้าใจกันบ้างหลายๆ คนลูกหลานก็เป็นทหารทั้งสิ้น คงต้องห่วงใยเขา ถ้าหากว่าเราไม่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ไม่มียุทโธปกรณ์ที่ป้องกันตัวเองได้ ในขณะที่อาวุธต่างๆ มีความร้ายแรง ก็อาจจะทำให้เกิดความสูญเสียของลูกหลานของท่าน ของพวกเรากันเองพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจง ว่า ปัจจุบันมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่จำนวนมาก ทั้งเรื่องยาเสพติด ภัยพิบัติต่างๆ กระทรวงกลาโหม และ กองทัพ ทราบดีในสถานการณ์ในอนาคต ที่กองทัพต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชน จึงต้องปรับโครงสร้างกองทัพให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และจากสถานการณ์โควิด-19 กองทัพก็สนับสนุนบุคลากรด้านการแพทย์ จัดชุดแพทย์ไปอยู่ในทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งโรงแรม และโรงพยาบาล ขณะเดียวกันกองทัพได้จัดการกำลังที่มีอยู่ให้พร้อมที่จะปฏิบัติการหากมีสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน งบประมาณต่าง ๆ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ในการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงอากาศยานซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นในปี 2564 กองทัพจึงได้ปรับลดงบประมาณลงจากปี 2563 แต่เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นงบประมาณผูกพันที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้
พิจารณ์ ก้าวไกล อภิปรายงบกองทัพ สะท้อนรัฐเลิกอำพรางงบแบบรบกลางคืน พร้อมทวงคืนสัญญา กลาโหม เปิดข้อมูล ธุรกิจกองทัพ ด้าน ประยุทธ์ แจ้งหลายส่วนเป็นงบฯ ผูกพัน เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่
การเมือง,ความมั่นคง
งบ 64,งบประมาณกองทัพ,พรรคก้าวไกล,ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ยุทโธปกรณ์
https://prachatai.com/journal/2020/07/88414
มีชัย ส่ง กรธ.ร่วมถก วิษณุ-กกต. เรื่อง ก.ม.เลือกตั้ง 13 มิ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 61 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงโรดแม็ปการเลือกตั้ง ภายหลังกฎหมายลูก 2 ฉบับ เข้าสู่ขั้นตอนทูลเกล้าฯ ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามโรดแม็ป เดินหน้าไปตามทิศทางที่ควรจะเป็น คงไม่มีการเลื่อนด้วยเหตุธรรมดา เว้นแต่จะมีเหตุสุดวิสัยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่มีใครบอกได้อยู่แล้วว่าอุกาบาตจะตกเมื่อไร ส่วนที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกและงดเว้นไพรมารีโหวตนั้น ได้ยินมาว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย จะนัด กรธ. และ กกต.ไปพูดคุยกันวันที่ 13 มิ.ย. ช่วงเย็น ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่จะมีฝ่ายการเมืองร่วมด้วยหรือไม่ ตนไม่ทราบ และยังไม่รู้มีเรื่องไพรมารีโหวตด้วยหรือไม่ ต้องมาคุยกัน ต้องบอกให้ชัด คนแก้เขาจะได้แก้ถูก อย่างการสื่อสารเรื่องไพรมารีโหวตกับประชาชนนั้น แต่ละพรรคการเมืองก็มีช่องทางติดต่อกับลูกพรรค ไม่รู้ว่จะมีปลดล็อกพรรคเมื่อไร แต่ระหว่างที่ยังไม่ปลด การสื่อสารดังกล่าวก็ทำได้,นายมีชัย กล่าวต่อว่า ไพรมารีโหวตต้องอยู่ในช่วง 150 วัน ตามกรอบกำหนดวันเลือกตั้ง ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของ กกต. ในการคำนวณให้กรอบ 150 วัน เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งการเตรียมการพรรคการเมือง และ กกต.เอง อย่างเขตเลือกตั้งเท่าที่ฟัง เขตไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะเท่าไร ตามบทเฉพาะกาลของกฎหมายพรรคการเมือง ก็ผ่อนปรนไพรมารีให้แล้ว โดยใครมีสมาชิกในจังหวัดก็ทำได้ทุกเขต นี่จึงเป็นสาเหตุที่ต้องยืดการบังคับใช้กฎหมาย ส.ส. 90 วัน เพื่อให้ กกต.เตรียมการออกประกาศข้อบังคับ ที่จะรีบเลือกตั้งกันก็ต้องดู ถ้าจะให้เร็วกว่า 150 วัน ก็ต้องดู กกต.วางขั้นตอนไว้อย่างไร หากไม่ยืด 90 วัน แล้วต้องเตรียมการตั้งแต่วันที่ 1 ถึง วันที่ 150 จะเฉียดฉิวมาก พอขยายให้ 90 วัน ก็มีเวลา 90 บวก 150 รวม 240 ก็ต้องใช้ประโยชน์เตรียมการให้พร้อม ซึ่งกรอบเวลา 150 วัน นับเฉพาะแค่การกำหนดวันเลือกตั้งไม่รวมรับรองผลที่ กกต.จะรับรองภายใน 60 วัน หลังจากนั้น
มีชัย เผย กกต.-กรธ.-ครม. นัดถกปมไพรมารี 13 มิ.ย.นี้ แจงเหตุยืดใช้กฎหมาย เพราะให้ทุกฝ่ายเตรียมตัว ย้อนถามคนเร่งเลือกตั้ง นึกถึงผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่
ข่าว,การเมือง
มีชัย ฤชุพันธุ์,กรธ.,กฎหมาย,กฎหมายลูกเลือกตั้ง,ไพรมารีโหวต,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1305969
ผู้นำเข้า 3 สารเคมีเกษตร ขอเลื่อนแบนออกไป 6 เดือน
วันนี้ (28 ต.ค.2562)วีรวุฒิ กตัญญกุล นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรระบุว่า จากการหารือกับสมาชิกส่วนใหญ่ เห็นว่ามติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีการแบนอย่างกะทันหัน จะส่งผลกระทบทั้งผู้ประกอบการที่ยังมีภาระสต็อกที่เหลือ และเกษตรกรที่ยังไม่มีสารทดแทน โดย 3 สมาคมผู้ประกอบการสารเคมีจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติดังกล่าวขณะที่ผู้ประกอบการบางคน ระบุว่า ขอให้รัฐขยายเวลาการแบนสารออกไปอีก 6 เดือน เพราะขณะนี้ยังไม่มีสารทดแทนใดที่มีประสิทธิภาพเท่าเดิมผู้ประกอบการบางคน ระบุว่า ระยะเวลาที่เหลือเพียง 1 เดือน ถือว่าสั้นเกินไป ที่ผ่านมาการแบนสารในอดีตจะมีเวลาให้ปรับตัวอย่างน้อย 1 ปี พร้อมยืนยันว่า หากไม่มีไกลโฟเซต กับพาราควอต ส่งผลกระทบต่อระบบพืชเศรษฐกิจที่ส่งออกทั้งหมด ทั้งอ้อย มัน ข้าวโพด ปาล์ม ยาง เนื่องจากเกษตรกรจะพบปัญหาแรงงาน ค่าใช้จ่าย และยังไม่มีสารมาทดแทนส่วนสต็อกสารเคมีที่มีอยู่ประมาณ 30000 ตัน เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า เอกชนมีการนำเข้าตามโควต้าถูกต้องตามกฎหมาย และลดปริมาณการนำเข้าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแบนอย่างกะทันหันทำให้เอกชนไม่สามารถระบายสินค้าได้ทันทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการสารเคมีอยู่ใน 3 สมาคม คือ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย จำนวน 600 บริษัท ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายเคมีเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร มีประมาณ 25000 ราย
สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ประชุมร่วมกับสมาชิก เพื่อรับมือผลกระทบจากการแบนสารเคมี 3 ชนิด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค.นี้ เสนอให้รัฐบาลขยายเวลาการแบนไปอีก 6 เดือน หลังเกษตรกรยังไม่มีทางออกว่าจะใช้สารทดแทนตัวใด
สิ่งแวดล้อม
แบนสารเคมี,สารเคมีเกษตร,ชี้ชะตาสารเคมีเกษตร,ค้านแบน,เกษตรกร
https://news.thaipbs.or.th/content/285587
จ่อเพิกถอน 4 รีสอร์ตรุกป่าเขาค้อ-ใช้ผิดเงื่อนไขที่ รอส.
วันนี้ ( 8 มี.ค.2561) พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ในนามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ ประชุมร่วมกันเพื่อติดตามและตรวจสอบการ ปัญหารีสอร์ตและโรงแรมขนาดใหญ่ ที่ก่อสร้างในพื้นที่ราษฎรอาสา หรือ รอส.บริเวณบ้านส่งคุ้ม หมู่ที่ 12 ตำบลเขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ ที่มีนายทุนนอกพื้นที่เข้ามาก่อสร้างโดยพล.ท.ผดุง กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารสูง โดยระเบียบการก่อสร้างไม่สามารถทำได้ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ขณะนี้มี 27 คดี ที่อัยการหล่มสัก มีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและทหาร เห็นว่าสามารถดำเนินการเอาผิด และเพิกถอนการก่อสร้างได้ โดยเฉพาะ 4 แห่ง ในพื้นที่เขาค้อที่พบว่า การก่อสร้างมีลักษณะ เป็นประเภทอาคารสูง บ้านพักตากอากาศ และโรงแรมการประชุมวันนี้เจ้าหน้าที่จะมีความชัดเจนว่า จะตัดสินใจอย่างไร และเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กอ.รมน. รับทราบก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปสอบปากคำ เจ้าของที่ดิน 1 ใน 4 แห่ง ซึ่งยืนยันว่า มีคนรู้จักจากนอกพื้นที่ติดต่อขอเช่าที่ดินเพื่อทำบ้านพัก โดยให้ราคาเช่าประมาณปีละ 100000 บาท และขณะนี้ ทางเจ้าของที่ดิน ได้ค่าเช่าแล้วประมาณ 50000 บาทนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลทุกแปลง กำชับให้พนักงานป่าไม้ทำงานต่อเนื่องติดตามผลคดี โดยเฉพาะตึกยักษ์ที่สร้างบนที่ดินรอส.และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติบ้านสุ่งคุ้ม และคดีรีสอร์ทข้างเคียงอีก 3 คดี ซึ่งอัยการสั่งฟ้อง เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายในกรณีหากจะมีการรื้อฟื้นคดีใหม่ ต้องปิดช่องโหว่ในข้อกฎหมายตามที่นายทุนได้ยกขึ้นมาหักล้างซึ่งจากการตรวจสอบมีจำนวน 61 คดี พิพาทใช้ที่ดินทภ.3 ที่กรมป่าไม้มอบให้กับทหาร 61929 ไร่ ทราบผลทางคดีแล้ว จำนวน 9 คดี ดำเนินการทางหนังสือให้นายอำเภอเขาค้อ ลงนามเพื่อขอคัดสำเนาคำพิพากษาที่รับรองคดีถึงที่สุด เพื่อเสนอให้ มทภ.3 ส่งให้อธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พนักงานสอบสวนเห็นควรงดการสอบสวน จำนวน 1 คดี พนักงานอัยการแจ้งยุติการดำเนินคดี จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหาเสียชีวิต และอยู่ในขั้นหารือว่าจะเรียกค่าเสียหายทางแพ่งหรือไม่สำหรับอาคารขนาดใหญ่ 3 หลัง บนที่ดิน รอส.ทหารกองพันทหารม้าที่ 28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว นำกำลังเข้าไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมสั่งให้ยุติการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนและเมื่อตรวจสอบพบว่าอาคารทั้ง 3 หลังถูกจับกุมช่วงปลายเดือนธ.ค.2559 โดยแจ้งความกับ นายอภิชา วัชรโชควรากุล ซึ่งเป็นเจ้าของ แต่ในเดือนก.ย. ปี 2560 อัยการจังหวัดหล่มสัก สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ จึงมีการก่อสร้างเรื่อยมาจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของที่ดินคือ นายละออ จีนใจตรง ซึ่งเป็นหนึ่งในราษฎรอาสาสมัคร หรือรอส.สมรภูมิเขาค้อ ขณะนี้อายุ 81 ปี เป็นเจ้าของ โดยระบุว่าไม่ได้ขายที่ดินให้กับนายทุนจากกรุงเทพฯ แต่เป็นการเขียนสัญญาร่วมทุน ซึ่งเริ่มก่อสร้างอาคารเมื่อ 2 ปีก่อน โดยได้รับเงินเดือนละ 12000 บาท หรือปีละ 120 000 บาท และหลังเปิดดำเนินการจะมีการเพิ่มเงินให้อีก หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะกลุ่มนายทุนและเจ้าของที่ดิน ใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายไม่พอใจ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง จึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง สำหรับที่ดิน รอส. ในอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เกิดขึ้นหลังการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ยุติลงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน กองทัพภาคที่ 3 ได้ขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกรมป่าไม้ ในพื้นที่ 4 ตำบลของอำเภอเขาค้อ คือตำบลเขาค้อ สะเดาะพง ริมสีม่วง และหนองแม่นา เพื่อมอบให้กับ รอส. ที่ร่วมรบกับเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้ทำมาหากินและอยู่อาศัยโดยมีที่ดินกว่า 4000 แปลง พื้นที่กว่า 30000 ไร่ แต่ที่ผ่านมามีกลุ่มนายทุน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน เข้าไปซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน ก่อสร้างบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ท ทั้งที่ในระเบียบ ไม่สามารถซื้อขายกันได้ โดยที่ดินจะถูกส่งต่อให้กับลูกหลานเท่านั้นที่ดินราษฎรอาสาสมัคร หรือ รอส. บนเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นที่ที่ได้รับจากกองทัพภาคที่ 3 ที่เป็นผู้ขอที่ดินจากกรมป่าไม้ เพื่อให้ รอส.ใช้เป็นที่ทำกิน หลังร่วมต่อสู้กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ เมื่อ 40 ปีก่อนแต่ภายหลังมีการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเปลี่ยนผู้ครอบครอง จนทำให้เกิดการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ นำมาสู่การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 3 หลัง จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าตรวจสอบอ่านข่าวเพิ่มเติม
ทหาร ร่วมกับกรมป่าไม้ ประชุมหาแนวทางแก้ปัญหานายทุนใช้ที่ดินรอส.ผิดเงื่อนไข ในเขตอ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เบื้องต้นพบ 27 คดีอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่เจ้าหน้าที่ยังเชื่อเอาผิด และเพิกถอนได้ 4 แห่งเพราะสร้างเป็นอาคารสูง บ้านพักตากอากาศ และโรงแรม
ภูมิภาค
เขาค้อ,เพชรบูรณ๋,ที่ดินรอส.,นายละออ จีนใจตรง,กรมป่าไม้,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/270840
ความพอเพียงตอนไปต่างประเทศ
ผมได้รับมอบหมายจากสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยในฐานะรองประธานให้ไปประชุม UN Global Compact ขององค์การสหประชาชาติ ที่สภาฯ เป็นองค์กรผู้แทนในประเทศไทย และผมเป็นคนประสานงานกับองค์การสหประชาชาติในเรื่องนี้ การประชุมครั้งนี้จัดขึ้น ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในระหว่างวันที่ 16-20 พฤษภาคม ศกนี้ ตอนแรกผมก็คิดจะใช้บริการบินตรง 11 ชั่งโมงครึ่งของการบินไทยครับ แต่ค่าตั๋วชั้นประหยัดราคา 48000 บาท ผมเลยเปลี่ยนใจไปใช้กาตาร์แอร์เวย์ ซึ่งค่าตั๋วอยู่ที่ 38000 บาท แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮาประมาณสองชั่วโมง ทำให้เวลาเดินทาง 13 ชั่วโมง แต่ผมก็ยินดีครับเพื่อประหยัดเงินให้สภาฯ บางท่านอาจอยากถามว่าแล้วทำไมผมไม่ออกเองล่ะ ผมก็คงตอบว่า งานนี้ผมช่วยด้วยการสละเวลาทำมาหากินไป 5 วันเต็มครับ สำหรับกาตาร์แอร์เวย์ เครื่องบินก็ใหม่ อาหารดี ดนตรีไพเราะ พร้อมมีภาพยนตร์ให้ดูนับร้อยเรื่อง บริการก็ไม่แพ้ (ไม่อยากบอกว่าชนะ) การบินไทย แอร์โฮสเตสก็มีหลายสัญชาติ ให้บริการใกล้ชิดกับลูกค้าได้หลายภาษา และก็มีอายุไม่มาก เหมาะกับงานแบบนี้ ต่างกับสายการบินบางแห่งที่แอร์ฯ ชราจนน่าเป็นห่วง ซึ่งคงเป็นเพราะ (จำต้อง) เอาใจแอร์ (ลูกจ้าง) มากกว่าจะยึดเอาประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง ท่านทราบไหม ข้าราชการถูกกำหนดให้ใช้การบินไทย นี่ถ้าไม่กำหนดไว้ ป่านนี้การบินไทยจะอยู่รอดหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นข้าราชการระดับสูงยังได้สิทธิบินชั้นธุรกิจที่ค่าตั๋วเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3 เท่า (ราคา 130000 บาท) อันที่จริงถ้าเราเกรงว่าพวกข้าราชการระดับสูงจะเหนื่อยเกินไป ก็น่าให้เขาบินล่วงหน้าสัก 1 วัน และเมื่อกลับก็ให้หยุดงานได้ 1 วัน จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินมากมาย แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้าให้พวกเขาเดินทางก่อน 1 วัน พวกเขาอาจใช้เวลาดังกล่าวไป ช็อบสนั่น หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งมากกว่านอนพักหรือไม่ ผมเองเดินทางไปอเมริกาปีละ 2 ครั้ง เสียค่าเครื่องบินครั้งละ 65000 บาท ผมยังเสียดายเงินนัก ผมมักพูดเล่นออกบ่อย ๆ ว่า ถ้ามีตั๋วยืน 10000 บาท ผมซึ่งอายุปูนนี้ยังจะยอมยืนสัก 17 ชั่วโมงเพราะสามารถประหยัดได้ถึง 55000 บาท ผมไปรับจ้างพวกองค์การระหว่างประเทศบรรยายหรือทำวิจัย ก็ได้วันละราว ๆ นี้ ทางออกอีกทางหนึ่งในการประหยัดงบประมาณแผ่นดินก็คือ การเสนอให้ข้าราชการระดับสูงที่มีสิทธินั่งตั๋วธุรกิจ ให้มีทางเลือกว่า ถ้าไม่นั่ง ส่วนต่างได้กันคนละครึ่ง คือข้าราชการผู้นั้นได้ครึ่งและคืนคลังหลวงอีกครึ่ง ผมเชื่อว่าข้าราชการหลายคนอาจยินดีรับเงินเพิ่ม ทำให้ประหยัดงบประมาณแผ่นดินไปอีกมาก และในปัจจุบัน ข้าราชการระดับสูง ๆ ก็ยังได้เบี้ยเลี้ยง ค่าแต่งตัวสำหรับตนเองและคู่ครอง และอื่น ๆ อีกต่างหากเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ในเรื่องค่าที่พัก เราควรให้ข้าราชการได้รับค่าที่พักแบบประหยัดก็พอเพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น การให้ข้าราชการระดับสูงหรือบอร์ดรัฐวิสาหกิจไปต่างประเทศแบบหรูหรา ใช้เงินนับสิบล้านบาท ถือเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินและไม่ได้เจริญรอยตามหลักความพอเพียงเลย ข้าราชการไม่พึงอ้างศักดิ์ศรีของประเทศเพราะความจริงอาจกลัวเสียโอกาสเสพสุขเกินพอเพียงต่างหาก สำหรับการเดินทางของผมในครั้งนี้ ผมยังประหยัดกว่ามาตรฐานอีก ผมจองห้องพักแบบนอนรวม 6 เตียง ค่าที่พักตกเป็นเงินคืนละ 1700 บาทเท่านั้น แต่ถ้าผมพักแบบปกติก็คงต้องเสียค่าที่พักคืนละ 4000-8000 บาท ท่านเชื่อหรือไม่คืนแรกผมโชคดีได้พักกันเพียง 2 คน มีผมกับสาวสวยชาวเกาหลี ซึ่งดูเธอก็ตกใจเล็กน้อยที่มาพักกับชายแปลกหน้าสองต่อสอง แต่ที่เดนมาร์ก เขาไม่ถือเรื่องเพศ คืนแรกผ่านไปด้วยดี คืนที่สองมีสาวสวยชาวจีนอีก 2 คนมาพักด้วย คืนที่สามมีหนุ่มญี่ปุ่นมาอีก 1 ราย ส่วนคืนสุดท้ายได้ปู่อายุ 70 ปีชาวเบลเยียมมานอนครบ 6 เตียงพอดี โชคร้ายหน่อยที่ปู่แกกรนหนัก ผมยังถือปฏิบัติ ยิ่งกว่าความพอเพียง อีกเรื่องหนึ่งก็คือ การเดินทางระหว่างโรงแรมที่พักกับที่ประชุม ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน 3.5 กิโลเมตร มีทางเลือกหลายทาง เช่น นั่งแท็กซี่ รถไฟ หรือรถประจำทาง ซึ่งก็ยังต้องเดินอีกพอสมควร หรือไม่ก็เช่ารถจักรยานสองล้อ ซึ่งผมขี่เป็นประจำตอนเรียนอยู่เบลเยียมเมื่อ 25 ปีก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว สุดท้ายผมเลือกการเดินครับ ผมเดินวันละประมาณ 8-10 กิโลเมตร เพื่อไปประชุมและเดินชมเมือง บางวันที่เดิน ผมถือร่มด้วยเพราะฝนตก แต่วันหลัง ๆ ฟ้าโปร่งก็เลยสบาย ผมไม่อายที่เล่าเรื่องข้างต้นให้ฟังเพราะฝรั่งเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แม้เรามีฐานะที่ดีกว่าแต่ก็ควรอยู่อย่าง ติดดิน บ้าง จะได้ไม่กลายเป็นศักดินาบนหอคอยที่ไม่เห็นหัวของปุถุชน อย่างไรก็ตามสาระสำคัญที่ผมอยากบอกก็คือ พวกข้าราชการใหญ่โตที่ควรน้อมนำความพอเพียงมาใช้ กลับไม่นำพา พวกเขาอ้างว่าทำงานรับใช้ประชาชนและราชบัลลังก์ แต่กลับเสพสุขกันโดยใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชนอย่างสุรุ่ยสุร่าย เรื่องนี้ไม่มีใครคิดแก้ไขเพราะต่างเป็นอภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยที่ได้รับแจกจ่ายประโยชน์กันถ้วนหน้า และนับวันประโยชน์เหล่านี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทางตรงกันข้ามหน่วยงานของรัฐกลับพยายามประชาสัมพันธ์เรื่องความพอเพียงอย่างเป็นบ้าเป็นหลังให้กับประชาชนนำไปปฏิบัติกันฝ่ายเดียว
ทุกท่านคงเคยได้ยินคำว่าความพอเพียงกันมามากพอสมควร วันนี้ผมจะเล่าจากประสบการณ์จริงของผมบ้างครับ เพื่อให้เห็นความพอเพียงที่แท้ที่พวกข้าราชการระดับสูง ๆ ต่างหากที่ควรน้อมนำไปปฏิบัติ เรื่องก็คือ
การเมือง,เศรษฐกิจ
การเดินทางไปต่างประเทศ,ข้าราชการ,ความพอเพียง,โสภณ พรโชคชัย
https://prachatai.com/journal/2011/05/34811
ลูกหมอปืนโผล่ ม.6 ขับรถพ่อพาหญิงเที่ยว ชักขู่ผัวเมียมะกันที่เชียงใหม่
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 29 พ.ค. 60 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.แม่ปิง เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ปกครองนำตัวเยาวชนชายอายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังในเชียงใหม่ มาพบกับ พ.ต.ท.บุรฉัตร ขวัญคำ รอง ผกก.(หน.งานสอบสวน) สภ.แม่ปิง ภายหลังจาก เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 พ.ค.) ได้มีสองสามีภรรยาชาวอเมริกัน ที่พำนักอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ถ่ายภาพนิ่งรถยนต์โตโยต้าสีแดง ทะเบียน กง 1113 เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ หลังจากที่ขับรถเบียดปาดหน้ากันที่บริเวณทางออกห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาดา ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ และฝ่ายผู้เสียหายได้ถ่ายภาพป้ายทะเบียนรถคู่กรณีที่ชักปืนออกมาข่มขู่เอาไว้ได้ พร้อมกับแจ้งไปยัง กลุ่มแอดไลน์ 191 เชียงใหม่ว่า ขอให้ทางตำรวจช่วยดำเนินการเรื่องนี้ให้ด้วย เพราะรู้สึกหวาดกลัวมาก อีกทั้งขณะเกิดเหตุมีเด็กอยู่ในรถ 2 คนด้วย,หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ มาประสานกับตำรวจ สภ.แม่ปิง ตรวจสอบทะเบีนรถยนต์คันดังกล่าว พบว่าเป็นรถของนายแพทย์คนหนึ่งเปิดคลินิกอยู่ย่านนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน และจากการสอบถามเบื้องต้นก็ยอมรับว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ลูกชายได้นำรถเก๋งส่วนไปตัวไปรับเพื่อนหญิงไปดูหนังที่ห้างดังกล่าวจริง ต่อมา ได้ให้แม่ซึ่งเป็นผู้ปกครองพาบุตรชายพร้อมด้วยอาวุธปืนพกสั้นบีบีกัน ที่ทำเลียนแบบอาวุธปืน 11 มม. ยี่ห้อโคลท์ มาพบกับพนักงานสอบสวน ซึ่งทางตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าไม่ควรจะทำพฤติกรรมแบบนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ขอจังหวัดเชียงใหม่เสื่อมเสีย แต่ผู้ต้องหาเป็นเยาวชน จึงร่วมกับผู้ปกครองอบรมว่ากล่าวตักเตือน และเปรียบเทียบปรับในข้อหาข่มขู่ผู้อื่นทำให้ตกใจกลัว แล้วปล่อยตัวไป.
ลูกหมออยู่ลำพูน ขับรถพาหญิงมาดูหนังห้างดังเชียงใหม่ ปาดหน้ากับรถ 2 ผัวเมียอเมริกัน ดันชักปืนโผล่ออกนอกรถ คู่กรณีถ่ายรูปได้ ตำรวจต้องเรียกให้ผู้ปกครองพามาพบ เป็น นร.ชาย ม.6 อายุ 17 ส่วนปืนเป็นบีบีกัน แต่ผิดข้อหาทำให้ตกใจกลัว
ข่าว,ทั่วไทย
ชักปืนขู่,จับลูกหมอ,ชักปืนขู่นักท่องเที่ยว,ลูกหมอชักปืน,เชียงใหม่
https://www.thairath.co.th/news/local/north/955990
นทท.ตื่นตาฝูงวาฬบรูด้าโผล่จับปลาเล็กกิน กลางทะเลหมู่เกาะอ่างทอง
ของท้องทะเลในแถบนี้,เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 พ.ค.61 นายอาริยะ ไทยเจริญ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเรือตรวจการณ์ของอุทยานฯ แล่นออกไปตรวจสอบพื้นที่รอบๆ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้พบกับฝูงวาฬบรูด้าขนาดใหญ่จำนวน 6 ตัว ที่มีความยาวประมาณ 9-10 เมตร และในจำนวนนี้ยังพบว่ามีลูกวาฬบรูด้าขนาด 3-4 เมตร อีก 1 ตัว โดยฝูงวาฬบรูด้าทั้ง 6 ตัว ได้ว่ายวนต้อนลูกปลาขนาดเล็กอยู่ใกล้ๆ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ก่อนที่แต่ละตัวจะสลับกันขึ้นมาอ้าปากกินลูกปลาขนาดเล็กเหนือผิวน้ำ สลับสับเปลี่ยนกันไป สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สามารถบันทึกภาพความสวยงามดังกล่าวไว้ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ
,ด้านนายอาริยะ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี จะมีฝูงวาฬบรูด้าเดินทางเข้ามาให้บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเลในแถบนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองได้เฝ้าติดตามเส้นทางการเดินทางฝูงวาฬบรูด้าฝูงนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง และได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับทางผู้ประกอบการเรือโดยสารนำเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หากแล่นเรือมาพบเห็นฝูงวาฬบรูด้าว่ายน้ำอยู่ ก็ให้ทำการหยุดเรือ และอย่าเข้าใกล้ฝูงวาฬบรูด้ามากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ฝูงวาฬบรูด้าเกิดอาการตกใจและหวาดกลัวได้ และหากเข้าใกล้จนเกินไปใบพัดเรืออาจจะทำให้วาฬบรูด้าได้รับอันตรายได้ โดยในช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อาจจะมีโอกาสได้พบเห็นฝูงวาฬบรูด้าในช่วงนี้ และอาจจะได้เก็บภาพความสวยงามของวาฬบรูด้าฝูงนี้ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้.
พบฝูงวาฬบรูด้า 6 ตัว เวียนว่ายโผล่ขึ้นมาจับปลาขนาดเล็กกินเหนือผิวน้ำ บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย สร้างความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวที่พบเห็น ซึ่งบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์
ข่าว,ทั่วไทย
วาฬบรูด้า,ฝูงวาฬบรูด้า,หมู่เกาะอ่างทอง,อำเภอเกาะสมุย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1281199
เดอะ การ์เดียน แฉอังกฤษเคยสอดแนมผู้เข้าร่วมประชุม G20
เดอะ การ์เดียน อ้างข้อมูลใหม่จากสโนวเดน กล่าวถึงการที่องค์กรข่17 มิ.ย. 2013 - สำนักข่าวเดอะการ์เดียนของอันอกจากนี้ยังมีผู้แทนบางคนที่ถูเรื่องดังกล่าวนี้ถูกเปิดเผยก่การเปิดโปงข้อมูลล่าสุดนี้ยัเดอะ การ์เดียน อ้างว่าพวกเขาได้รับข้อมูในรายละเอียดของเอกสารที่เดอะ การ์เดียนอ้างว่าเป็นเอกสารลัรายละเอียดของ เอกสารลับ ระบุอีกว่าวิธีการที่ทางการอัเอกสารลับระบุอีกว่า ปฏิบัติการดังกล่าวนี้ได้รัข้อมูลในเอกสารเปิดเผยว่า GCHQ ได้ทำการหาข่าวโดยการทะลวงเข้ในเอกสารฉบับเดียวกันยังได้พูเอกสารอีกฉบับหนึ่งกล่าวสรุปถึรายละเอียดของรายงานมีเอกสารอีกฉบับหนึ่งกล่าวถึเดอะ การ์เดียนกล่าวว่าปฏิบัติขณะที่ในการประชุมรัฐมนตรีด้นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิในบทปริทัศน์บทที่สองระบุว่าข้โดยหนึ่งสัปดาห์หลังจากการประชุ
เดอะ การ์เดียน อ้างข้อมูลใหม่จากสโนวเดน กล่าวถึงการที่องค์กรข่าวกรองในอังกฤษใช้เทคนิคสอดแนมข้อมูลทางโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมสุดยอด G20 ในปี 2009
ไอซีที
PRISM,การดักจับข้อมูล,การดักฟัง,การสอดแนม,การแฮก,อินเทอร์เน็ต,เสรีภาพสื่อ,เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน,โปรแกรมดักจับอีเมล์
https://prachatai.com/journal/2013/06/47255
ยุติตรวจสอบจัดซื้อเรือดำน้ำจีน-ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
วานนี้(26 ก.ค.2560) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ตามคำร้องของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ว่าไม่พบเหตุผิดปกติหรือ กระทำขัดรัฐธรรมนูญ จึงมีมติให้ยุติเรื่อง ให้เหตุผลว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ ที่เสนอจัดซื้อเรือดำน้ำไว้ในคำของบประมาณของกองทัพเรือ ปีงบประมาณ 2560 ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศ เป็นไปตามภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบ สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ และ ส่วนมติ ครม. วันที่ 18 เม.ย.2560 เป็นการรับทราบและเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ก่อนดำเนินการสวนกรณีขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำถือเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือไม่นั้น กฤษฎีกามีความเห็นว่า ไม่มีลักษณะเป็นสัญญาตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 178 เนื่องจากเป็นข้อตกลงจัดสร้างเรือดำน้ำเป็นการทำสัญญาซื้อขายเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกันการทำสัญญา ระหว่างเอกชนกับเอกชน
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยุติการตรวจสอบจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ตามคำร้องขอของนายศรีสุวรรณ จรรยา เนื่องจากไม่พบเหตุผิดปกติ หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยชี้ว่าเป็นไปตามแผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ
การเมือง
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,เรือดำน้ำจีน,นายรักษเกชา แฉ่ฉาย,สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน,รัฐธรรมนูญ
https://news.thaipbs.or.th/content/264715
ปปท.ลงพื้นที่อุดรฯ ตรวจสอบโครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม หลังพบไม่เป็นตามที่ยื่นของงบ
เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. ตรวจสอบโครงการซ่อมแซมถนนลาดยาง ที่เชื่อมระหว่างบ้านนิคม 1 หมู่ 4 ถึงบ้านโนนบุญมี หมู่ 5 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี ระยะทาง 2 กิโลเมตร งบประมาณกว่า 4 ล้านบาท พบการก่อสร้างไม่มีไหล่ทาง ซึ่งไม่ตรงตามแบบที่ยื่นของบประมาณ รวมถึงเข้าตรวจสอบการขุดลอกคลอง ต.สามพร้าว เขตอำเภอเมืองอุดรธานีทั้งหมดเป็นโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจ.อุดรธานี ที่เจ้าหน้าที่ ปปท.ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบ และพบความผิดทุกโครงการ โดยเฉพาะการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามแบบสัญญาจ้าง และผู้ควบคุมงานไม่ดูแลงานให้เป็นไปตามสัญญาจ้างนายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานปปท. ระบุว่า จากข้อมูลการลงพื้นที่ พบข้อมูลการทุจริตงบประมาณฟื้นฟู และเยียวยาน้ำท่วมใน 6 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่จ.อุดรธานี น่าจะมีมากกว่า 10 แห่ง งบประมาณกว่า 100 ล้านบาททั้งนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ จากนั้นจะเสนอข้อมูลให้กับเลขาธิการ ปปท.พิจารณา และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง และเสนอต่อคณะกรรมการ ปปท.เพื่อพิจารณาต่อไป
คณะกรรมการ ปปท. ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจ.อุดรธานีพบว่า มีหลายโครงการ ที่การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบที่ยื่นของบประมาณ
ภูมิภาค
ปปช.,ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ,โครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
https://news.thaipbs.or.th/content/111292
แม่ปิ่น โพสต์เราจะไม่ยุ่ง-ตอบคำถามโดนใจ คนโยง เจสซี่ เปิดตัวคบ เจ้าขุน
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนๆ ไปแล้ว เมื่อ เจสซี่ เดอะเฟซฯ 2 ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าคบกับ น้องเจ้าขุน ลูกชายคนที่ 2 ของคู่รักดัง เจ เจตริน และ ปิ่น เก็จมณี มาได้สักพักแล้ว แต่ไม่ขอระบุสถานะ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาสะใภ้มโนรวมถึงชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก,ซึ่งหลังจากที่เจสซี่ได้ให้สัมภาษณ์ไป ล่าสุด ปิ่น เก็จมณี ได้โพสต์ภาพตัวเองพร้อมทั้งแท็กหาคนในครอบครัวทุกคนรวมถึงเจ้าขุนและเขียนข้อความว่า ตามสบาย เราจะไม่ยุ่ง #kejmanee #happymom #optimistic และเจ เจตริน ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า เครดิต แอ๊ด,งานนี้ก็มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์ทำนองว่าจะไม่ยุ่งเหมือนกัน บ้างก็บอกว่ามีลูกชายเหมือนกันต้องทำใจ และมีบางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าถ้าเป็นรักแท้แม่ไม่ปลื้มจริงๆ ก็สงสารเจสซี่ แต่ถ้าแม่ไม่ปลื้มและไม่ไปวุ่นวาย ให้เขาจัดการกันเอง ก็จะปลื้มคุณแม่มาก นอกจากนี้ยังมีบางคนคอมเมนต์ทำนองว่าคนอายุ 15 กับ 20 ปีคบกันมันเกินวัยไปรึเปล่า,แต่ที่พีคสุด เห็นจะเป็นการตอบคำถามของปิ่น เมื่อ บี ปิติภัทร สารสิน คอมเมนต์ว่า ต้องตีความ 18 ชั้น และ ปิ่น ได้ตอบกลับว่า ตามนั้น ตรงๆ เลย แม่รักลูก เห็นจากข้อความนี้พูดเลยว่าชัดเจนจริงๆ จ้า.
ปิ่น เก็จมณี โพสต์แคปชั่นเด็ด ตามสบาย เราจะไม่ยุ่ง แถมตอบคำถามเพื่อนที่มาคอมเมนต์แบบตรงๆ โดนใจ คนโยงน่าจะเกี่ยวข้องกับดราม่า เจสซี่ เดอะเฟซฯ 2 คบ น้องเจ้าขุน ลูกชาย
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ปิ่น เก็จมณี,เจ้าขุน จักรภัทร,เจสซี่ เดอะเฟซ,เจสซี่ เจ้าขุน,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1477886
แห่ขอ เลขเด็ด รูปปั้น สุรพล สมบัติเจริญ สร้างรำลึก วันดวลเพลง
ที่ดำเนินสะดวกไม่พลาดขอ,เลขเด็ด, จากรูปปั้น ราชาเพลงลูกทุ่ง, สุรพล สมบัติเจริญ, สร้างรำลึกวันแห่งชัยชนะวันดวลเพลง เมื่อ53ปีก่อน ยืนยันสุดฉมัง จะให้ดีต้องแก้บนด้วยดนตรี-หางเครื่อง(,แม่แก้วเรือนทอง ให้โชคใหญ่ จ้างนางรำ แตรวงมาแก้บน,),วันที่ 14ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดสนามไชยราษฎร์ศรัทธาธรรม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีชาวบ้านทั้งในพื้นที่ จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก แห่กันไปขอโชคลาภ ,หวย, หา,เลขเด็ด, จากรูปปั้นปูนปลาสเตอร์เท่าคนจริง ของครูสุรพล สมบัติเจริญ อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังของเมืองไทย ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาอนุสรณ์แห่งชัยชนะ สุรพล สมบัติเจริญ พ.ศ.2509 ภายในวัดสนามไชย ซึ่งชาวบ้านต่างร่ำลือกันว่าให้เลขแม่นมาก,ทั้งนี้ เมื่องวดวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมามีชาวบ้านเดินทางไปกราบไหว้ ขอพร และขอโชคลาภ ต่างมีโชคกันถ้วนหน้าจากการเสี่ยงเซียมซี จึงรวมเงินกันจ้างวงคนตรีลูกทุ่ง และแดนซ์เซอร์มาเต้นถวายแก้บนให้กับรูปปั้นครูสุรพล บางคนก็นำอาหารคาวหวานและผลไม้มาถวายแก้บน,นายสุพิศ อิ่มสุริยวงศ์ อายุ 76 ปี และนายธนู จูเกษม อายุ 68 ปี ชาวบ้านในละแวกวัดสนามไชยราษฎร์ศรัทธาธรรม เปิดเผย ว่า ที่ศาลาอนุสรณ์แห่งชัยชนะ สุรพล สมบัติเจริญ พ.ศ.2509 แห่งนี้ จะมีชาวบ้านทั้งจาก จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภกันเยอะมาก ตลอดทั้งวันและแทบทุกวัน บางทีก็มาเป็นหมู่คณะ บางทีมา 5-6 คน ส่วนใหญ่จะมาขอเลขจากรูปปั้นครูสุรพล โดยการเสี่ยงเซียมซี แต่ขึ้นอยู่ที่บุญวาสนาของแต่ละคน ส่วนมากที่มาขอจะมีโชคดี ซึ่งวดที่ผ่านมาตนและเพื่อนก็ถูกเลข 3 ตัวตรงเช่นกันจากการเสี่ยงเซียมซี แต่ไม่ได้เลี่ยงโชคมาก พอได้เงินใช้,ยอมรับว่าถูกบ่อย ถึงจะไม่ได้ถูกทุกงวดก็ตาม ส่วนมากคนที่ถูกได้เงินเยอะๆ จะเป็นคนจากพื้นที่อื่น พอเขาถูกเขาก็จะจ้างวงคนตรีลูกทุ่งมาเล่นเพลงของครูสุรพล พร้อมจ้างหางเครื่องมาเต้นหน้ารูปปั้นครู เพื่อเป็นการแก้บน บางคนนำเอาอาหาร ผลไม้มาแก้บน ส่วนประทัดมีมาจุดแก้บนทุกวัน คุณลุงกล่าว พร้อมโชว์ลอตเตอรี่ ที่ซื้อไว้ เลขท้าย444 และ 686 ส่วนเลขเซียมซี ที่เสี่ยงทายได้ในงวดนี้คือ 15 ,ด้านนายชัยยา เพชรสาคร อยู่บ้านเลขที่ 255 หมู่ 2 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นผู้รู้ความเป็นมาของรูปปั้นครูสุรพล สมบัติเจริญ เปิดเผยว่า รูปปั้นครูสุรพล สมบัติเจริญ และศาลาอนุสรณ์แห่งชัยชนะ สุรพล สมบัติเจริญ พ.ศ.2509 สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534 สมัยหลวงตามา อดีตเจ้าอาวาส ส่วนที่มาของคำว่าอนุสรณ์แห่งชัยชนะ นั้น คือวันที่สุรพล สมบัติเจริญ มาประชันดนตรีที่วัดสนามไชยราษฎร์ศรัทธาธรรม ในปีนั้น มีดนตรีคณะเทียนชัย สมยาประเสริฐ , คณะรวมดวง , คณะสมานมิตร เกิดกำแพง และคณะสุรพล สมบัติเจริญ ซึ่งสุรพล สมบัติเจริญ ได้ชื่อว่าเป็นราชาเพลงลูกทุ่ง รู้ว่าตนเองจะมาประชันเพลงที่นี่ ก็เลยแต่งเพลงดำเนินจ๋า และเพลงที่มีเนื้อร้องถึงวัดสนามไชยฯ ลงไปด้วย แต่งเพลงในตอนเช้าและนำมาร้องประชันในเย็นวันนั้นเลย จนทำให้เป็นที่ชนะใจของแฟนเพลงเป็นอย่างมาก ได้พวงมาลัยอย่างล้นหลาม จึงเป็นที่มาคือคำว่าวันแห่งชัยชนะ และต่อมาได้สร้างรูปปั้นครูสุรพล สมบัติเจริญ เป็นอนุสรณ์ไว้ที่ศาลาอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ดังกล่าว,นายชัยยา ยังเผยต่อไปว่า ขอเชิญประชาชนทั้งจ.ราชบุรี และใกล้เคียงร่วมเที่ยววันรำลึก ราชาเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ (วันแห่งชัยชนะ) และงานประจำปีปิดทองขอพรหลวงพ่อพุทธไชยมงคล กราบมนัสการหลวงพ่อทันใจ ในวันที่ 15-21 ส.ค.62 ที่วัดสนามไชยราษฎร์ศรัทธาธรรม ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งวันที่ 19-21 ส.ค.62 จะมีการแข่งขันประกวดร้องเพลงของสุรพล สมบัติเจริญ เพื่อเป็นการรำลึกถึงครูเพลง ราชาเพลงลูกทุ่งสุรพล สมบัติเจริญ โดยจะมีสุรชัย สมบัติเจริญ ทายาทราชาเพลงลูกทุ่ง เป็นประธานจัดงาน,ข่าวเกี่ยวข้อง,- ,เลขเด็ดหญิงใบ้ รวมหวยดังใกล้วันพระใหญ่,- ,10 อันดับเลขท้าย 2 ตัว ขายดี เดินหา ลอตเตอรี่ จนทั่วหมดไม่มีเหลือ,- ,แฟนแน่น ส่องอ่างน้ำมนต์ เขย่าเซียมซียักษ์วัดไผ่แขก สุพรรณบุรี,- ,เฉพาะก่อนวันหวยออก วัดสว่างฯ ขยายเวลาให้กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอเลขเด็ด,- ,เงินสะพัด คนทะลักขอโชค พญาเต่างอย แม่ค้าเผยเลขเด็ด ขายดีที่สุด
คอหวย ที่ดำเนินสะดวกไม่พลาดขอเลขเด็ด จากรูปปั้น ราชาเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ สร้างรำลึกวันแห่งชัยชนะ วันดวลเพลง เมื่อ53ปีก่อน ยืนยันสุดฉมัง จะให้ดีต้องแก้บนด้วยดนตรี-หางเครื่อง
ข่าว,ทั่วไทย
หวย,เลขเด็ด,เลขดัง,หวยไทยรัฐ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1615008
แฮมิลตัน เข้าป้าย คว้าโพล โปรซิชั่น ไชนิส กรังปรีซ์
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 11 เม.ย. ว่า การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2015 ในรายการ ไชนิส กรังปรีซ์ ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเป็นวันที่สอง ในรอบทดสอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับหาผู้ที่ทำเวลาดี ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่ง โพล โปรซิชั่น,ผลปรากฏว่า อดีตแชมป์โลกปี 2014 จากทีมเมอร์เซเดส ลูอิส แฮมิลตัน ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดเวลา 1 นาที 35.782 วินาที คว้าตำแหน่งโพล โปรซิชั่น สนามนี้ไปครอง ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทีมดาวสามแฉก ชาวเยอรมัน นิโก รอสเบิร์ก ทำเวลาได้ 1 นาที 35.824 วินาที และอันดับที่ 3 ตกเป็นของ เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์มาเลเซียน กรังปรีซ์ 2015 ที่ผ่านมา จากทีมเฟอร์รารี่ ทำเวลาได้ 1 นาที 36.687 วินาที  ,ขณะที่อันดับที่ 4 ตกเป็นของ ฟิลิปเป้ มาสซา นักขับชาวบราซิล จากทีมวิลเลี่ยมส์ ทำเวลาไป 1 นาที 36.954 วินาที ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ วอลเตรี บอตตาส นักขับจากฟินแลนด์ จากทีมวิลเลียมส์ เช่นกัน ทำเวลาได้ 1 นาที 37.143 วินาที ,สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก สนามที่ 3 ของฤดูกาล รายการ ไชนิส กรังปรีซ์ 2015 จะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายนนี้ 
ลูอิส แฮมิลตัน แรงไม่ตก! ควบรถคู่ใจเข้าป้ายเป็นที่ 1 ทำเวลาดีที่สุดในรอบคัดเลือกศึกฟอร์มูลาร์วัน ไชนิส กรังปรีซ์ 2015 คว้าตำแหน่งโพล โปรซิชั่น ไปครองได้ตามความคาดหมาย
null
ลูอิส แฮมิลตัน,รถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก 2015,ฟอร์มูลาร์ วัน 2015,ฟอร์มูลาร์ วัน,เอฟวัน,ไชนิส กรังปรีซ์ 2015,ผลการแข่งขัง,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/492545
ตร.เร่งสอบสวนกรณีนายช่างรังวัดออกโฉนดทับที่ ส.ป.ก ในอ.ปากช่อง
ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินในพื้นที่หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตรงข้ามกับภูพบฟ้า ใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่คาดว่าเป็นของนายช่างรังวัดคนหนึ่ง ในสำนักงานปฏิรูปที่ดินจ.นครราชสีมา โดยนำที่ดินดังกล่าว ออกโฉนดทับพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมก่อนจัดสรรขายล่าสุดพลต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผย พื้นที่ดังกล่าว บุกรุกทั้งพื้นที่ของ ส.ป.ก. และป่าไม้ และปัจจุบันการสร้างบ้านพัก 3 หลัง จึงประสานแจ้งความดำเนินคดี กับ นางภัคมน กิจศิริกุล ที่แสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินและเจ้าของบ้านแล้วจากการสอบปากคำนางภัคมน ให้การว่า ไม่รู้จักกับนางพรทวี สุตันติราษฏร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา ซึ่งถูกคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เนื่องจากป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐได้ส่งข้อมูลให้ ส.ป.ก. ตรวจสอบนางพรทวี ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำที่ดินในเขตปฎิรูป อ.ปากช่อง พื้นที่กว่า 100 ไร่ ไปออกโฉนดและจัดสรรขายไร่ละ 10 ล้านบาท
ตำรวจภูธรภาค 3 เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีนายช่างรังวัดคนหนึ่ง ในสำนักงานปฏิรูปที่ดินจ.นครราชสีมา มีส่วนเกี่ยวข้องในการการออกโฉนดทับพื้นที่ ส.ป.ก. ในอ.ปากช่อง ก่อนที่จะนำไปจัดสรรขาย เบื้องต้นได้ประสาน ให้ ส.ป.ก.แจ้งความดำเนินคดี ผู้ที่แสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว
สิ่งแวดล้อม
ดำเนินคดี,นครราชสีมา,บุกรุกป่า,สำนักงานปฏิรูปที่ดิน,โฉนดทับที่ส.ป.ก
https://news.thaipbs.or.th/content/1059
ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เปิดใจหลังอัดคลิปหน้าเศร้า ขอโทษถ้าไม่ได้อยู่ต่อ
จากกรณีที่อดีตนักแสดงหนุ่ม ธีร์-ภูมิธนะวัชร์ บุญลือประดิษฐ์ อายุ 41 ปี ได้ล้มป่วยหนักเป็นวัณโรคทับตับ และต่อมน้ำเหลือง และได้เดินทางมาอยู่อาศัยที่เชียงใหม่ โดยมีแม่คอยดูแลอยู่เคียงข้าง จากนั้นได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รุ่งโรจน์ ทองไพรวัน โพสต์คลิปของ ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เปิดใจด้วยใบหน้าสุดเศร้า พร้อมแคปชั่นว่า ขอโทษด้วยถ้ามิได้อยู่ต่อ ลูกจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย กราบขอบพระคุณความเมตตาจากทุกท่านด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของหนุ่มธีร์ ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็ได้พบกับเจ้าตัวร่างกายผอมซูบ อยู่ในอาการไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ทรงๆ ทรุดๆ,โดยหนุ่มธีร์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วันก่อน ตอนนั้นมีไข้สูงมาก ปวดตัว หายใจไม่ทัน จนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ทำให้รู้สึกหมดหวังแล้วชีวิตนี้ จึงอัดคลิปขอโทษแฟนคลับที่ติดตามอาการป่วยของตน ซึ่งตนคิดว่าอาจจะไม่ได้อยู่ต่อ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีการแชร์คลิปออกไป ก็มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก,กราบขอโทษทุกคน ตอนนี้อยากอยู่ต่อเพื่อแม่ หวังว่าสักวันอาการคงดีขึ้น อยากอยู่ต่อเพื่อกลับไปทำงานที่ตัวเองรัก ถ้าผู้ใหญ่ยังให้โอกาส,ส่วนยอดบริจาคทั้งหมดนั้นอยู่รวมๆ ประมาณ 5-6 หมื่นบาท ซึ่งตนได้นำมาเช่าบ้านเพื่อพาแม่มาอยู่ด้วยกัน ส่วนรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านนั้นก็เป็นรถของตนเอง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์มายึดเพราะขาดการส่งค่างวดรถมาแล้วหลายเดือน ส่วนบ้านหลังนี้หนุ่มธีร์อ้างว่า มีป้าคนหนึ่งที่ติดตามเรื่องราวของตนผ่านข่าวสารได้ให้ความเมตตา ให้เช่าในเดือนละ 2,000 บาท.
เปิดใจอดีตดาราหนุ่ม ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ ป่วยเป็นวัณโรคทับตับและต่อมน้ำเหลือง หลังอัดคลิปร่ำไห้ ขอโทษถ้าไม่ได้อยู่ต่อ รู้สึกหมดหวังแล้วชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ บุญลือประดิษฐ์,ธีร์-ภูมิธนะวัชร์,ขอโทษถ้าไม่ได้อยู่ต่อ,เปิดใจ,ดาราป่วยวัณโรค,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1621545
อิตาลีเหยียบกันตายสลด แย่งกันออกจากไนต์คลับ ดับ 6 เจ็บอื้อ
เมื่อ 8 ธ.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุสุดสลด ผู้คนยื้อแย่งกันออกจากไนต์คลับ Lanterna Azzurra club ในเมืองโครินัลโด ประเทศอิตาลี จนเกิดการเหยียบกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยถึง 6 ราย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวอายุ 14-16 ปี และมีหญิงวัย 39 ปี 1 รายที่ต้องมาจบชีวิต ขณะพาบุตรสาวมาดูคอนเสิร์ตในไนต์คลับด้วย นอกจากนั้น เหตุเหยียบกันในไนต์คลับ ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่าร้อยคน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัสถึง 13 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ รีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน,ข่าวแจ้งว่า เหตุร้ายแรงที่ไนต์คลับเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของเช้าวันที่ 8 ธ.ค.61 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่มีผู้คนนับ 1,000 มาดูคอนเสิร์ตของนักร้องแร็ปเปอร์ Sfera Ebbasta ที่จัดขึ้นภายในไนต์คลับแห่งนี้,รอยเตอร์ เผยว่า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สำนักงานดับเพลิงในพื้นที่ ระบุเหตุการณ์สุดสลดเหยียบกันตายที่ไนต์คลับแห่งนี้ ดูเหมือนมีต้นเหตุมาจากมีใครคนหนึ่งอาจฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ผู้คน จนฝูงชนที่มาดูคอนเสิร์ตเกิดความตื่นตระหนกตกใจรีบยื้อแย้งกันออกจากไนต์คลับกันอย่างโกลาหล จนบางคนเสียหลักล้มลงและทำให้ถูกเหยียบจนถึงแก่ความตายและบาดเจ็บจำนวนมาก,ด้านนายแมตทีโอ ซัลวีนี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยของอิตาลี กล่าวด้วยความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นว่า ผู้คนไม่สามารถที่ต้องมาตายแบบนี้ เราจะต้องหาคนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 6 รายนี้ให้ได้,Crภาพ:AP/AFP
อิตาลีช็อกเกิดโศกนาฏกรรมสลด ผู้คนยื้อแย่ง หนีตายออกจากไนต์คลับ ขณะมาดูคอนเสิร์ต จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย เจ็บกว่า 100
ข่าว,ต่างประเทศ
เหยียบกันตาย,แย่งกันออกจากไนท์คลับ,อิตาลี,ไนท์คลับ,อิตาลีเหยียบกันตาย
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1440411
แน่ใจ? เจอร์ราร์ด เชื่อ มีแต่คนเชียร์หงส์แดงชนะเชลซี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 29 ม.ค. ว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกองกลางกัปตันทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล เชื่อว่า แฟนบอลของบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเฉพาะทีมหัวตาราง ต้องการให้ หงส์แดง ชนะ เชลซี ในวันอังคารนี้ เพื่อที่แต่ละทีมจะยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป,ปัจจุบัน เชลซี นำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มี 55 แต้ม จาก 22 นัด ตามมาด้วย ลิเวอร์พูล อันดับ 2 มี 47 คะแนน และทั้งสองทีมมีโปรแกรมดวลแข้งกันในวันอังคารนี้ ซึ่ง เจอร์ราร์ด เชื่อว่ามีแต่คนอยากเห็น หงส์แดง ชนะ สิงห์บลู เพื่อทำให้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังคงเปิดกว้าง,ทีมทั้งหมดในลีกต้องการให้ชัยชนะตกเป็นของลิเวอร์พูล มันเกือบจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้การลุ้นแชมป์ยังคงดำเนินต่อไป นักเตะ, ผู้จัดการทีมและสตาฟฟ์โค้ชไม่ได้โง่เง่า พวกเขารู้ว่าหากช่องว่างมันห่างไปเป็น 13 แต้ม มันก็เกมโอเวอร์ ผมคิดว่าทุกๆ คนจะเชียร์ลิเวอร์พูลในคืนวันอังคารนี้ เพราะทอตแนม ฮอตสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังหวังว่าพวกเขาจะมีความหวังเล็ก ๆ เจอร์ราร์ด กล่าว
สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานมิดฟิลด์ของลิเวอร์พูล เชื่อว่า แฟนบอลของบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะทีมหัวตาราง ต้องการให้ หงส์แดง ชนะ เชลซี ในวันอังคารนี้ เพื่อที่แต่ละทีมจะยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์ลีกต่อไป
null
สตีเวน เจอร์ราร์ด,ลิเวอร์พูล,เชลซี,พรีเมียร์ลีก,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/846439
วสท. คิดค้นห้องความดันลบต้นแบบเพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาล
วันนี้ (26 มี.ค 2563) นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (วสท.) นำชมห้องแยกการติดเชื้อทางอากาศความดันลบ (Airborne Inflection Isolation Room) ซึ่งออกแบบตามมาตรฐานทางการแพทย์และวิศวกรรม เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยเกิดความปลอดภัย คุณสมบัติใช้สำหรับนั่งคอย หรือ ใส่เตียงคนไข้ ใช้ทั้งในและนอกอาคารได้ สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย น้ำหนักเบา และมีความดันมากกว่า 12 ACH โครงสร้างหลักจะใช้วัสดุภายในประเทศเป็นหลัก ประกอบด้วย พลาสติกมาตรฐาน GMP ท่อ PVC พัดลมดูดอากาศ ทั้งหมดในราคาประมาณ 8000 บาทห้องดังกล่าว ผ่านการทดสอบว่าได้มาตรฐานจาก วสท.แล้ว หลังจากนี้จะนำไปมอบให้กับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยได้กำหนดชนิดวัสดุ อุปกรณ์ รายละเอียดการคำนวณ คู่มือการใช้ การบำรุงรักษา เพื่อใช้สำหรับการขยายผลต่อไป หลังจากนี้ วสท. เตรียมวางแผนประดิษฐ์เตียงสำหรับผู้ป่วย ถุงครอบสำหรับแพทย์โรงพยาบาลสนาม เพื่อใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ต่อไปหากหน่วยงานหรือโรงพยาบาล ที่ต้องการให้ วสท.ช่วยคิดประดิษฐ์ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือในการรักษา สามารถติดต่อ ได้ที่ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซอยรามคำแหง 39 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร โทร 02-184-4600
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) ประดิษฐ์ห้องความดันลบ เพื่อใช้เป็นห้องเอนกประสงค์ในการกักเชื้อไวรัส COVID-19 เตรียมส่งมอบให้กับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคมนี้
สังคม
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/290277
ชาวเมืองนิวทาวน์จัดพิธีรำลึกครบรอบ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์กราดยิงในสหรัฐฯ
นายแดนเนล มอลลอย (Dannel Malloy) ผู้ว่าการรัฐคอนเนคติกัต พร้อมด้วยผู้บริหารโรงเรียนของเมืองนิวทาวน์และคณะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันทำพิธีรำลึกครบรอบ 1 สัปดาห์เหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุค ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน ในจำนวนนี้่เป็นเด็กเล็กถึง 20 คน พิธีจัดขึ้นที่ศาลาว่าการเมืองนิวทาวน์เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปความโศกเศร้าอาลัย นอกจากเมืองนิวทาวน์แล้ว ยังมีการจัดพิธีรำลึกในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งที่โบสถ์แห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ซึ่งคณะผู้นำศาสนาได้เรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมกันแสดงพลังสนับสนุนให้สภาคองเกรสบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนและปฎิรูปแผนการรักษาผู้ป่วยทางจิต เพื่อหยุดยั้งความรุนแรงจากอาวุธปืนที่ขยายวงกว้างด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ได้ทำพิธีรำลึกเป็นการส่วนตัว ขณะที่รองประธานาธิบดีโจ ไบเด้น เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโอบาม่าจะผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขณะเดียวกันสมาคมไรเฟิลแห่งชาติหรือเอ็นอาร์เอ ซึ่งเป็นกลุ่มวิ่งเต้นให้กับอุตสาหกรรมปืนที่ทรงอิทธิพลของสหรัฐ ได้ออกมาแถลงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุค โดยเสนอให้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธไปประจำอยู่ตามโรงเรียนทั่วสหรัฐเพื่อทำหน้าที่หยุดยั้งมือปืนที่จะก่อเหตุขึ้นอีก
เมืองนิวทาวน์ในรัฐคอนเนคติกัตของสหรัฐฯ ทำพิธีรำลึกครบรอบหนึ่งสัปดาห์เหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุค ซึ่งยังคงสร้างความสะเทือนขวัญให้กับคนทั้งชาติ
ต่างประเทศ
กราดยิง,นิวทาวน์,สหรัฐฯ
https://news.thaipbs.or.th/content/134465
ทดลองระบบเข้าชมพระเมรุมาศ ของดเซลฟี่-ไลฟ์สด คาดตลอดเดือนเข้าชมได้ 3 ล้านคน
วันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2560 รัฐบาลกำหนดเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันนี้ (1 พ.ย.) มีการทดสอบการนำประชาชนเข้าชมนิทรรศการ โดยมีตัวแทนผู้นำศาสนา นักเรียน และเครือข่ายวัฒนธรรม มาทดสอบระบบคัดกรองการนำชมพระเมรุมาศและนิทรรศการในแต่ละอาคารภายในพระเมรุมาศ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ทางลาดของผู้พิการ และพระภิกษุสงฆ์ โดยมีทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ผู้เข้าชมจะได้รับแผ่นพับนำชมนิทรรศการ ซึ่งสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนเพื่อรับชมพระเมรุมาศแบบสามมิติ รวมถึงมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้ข้อมูลในทุกจุด ส่วนการอำนวยความสะดวก มีการประสานกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้บริการน้ำดื่ม รถสุขาเคลื่อนที่ และทีมแพทย์พยาบาลดูแลรอบสนามหลวง พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเปิดเผยว่า ประชาชนจะสามารถเข้าชมพระเมรุมาศได้บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 รวมถึงเข้าชมนิทรรศการและถ่ายรูปได้ทุกจุด แต่ขอให้มีความสำรวม ขอความร่วมมืองดเซลฟี่และงดการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะที่เจ้าหน้าที่จะคอยย้ำเตือนว่าห้ามสัมผัสพระเมรุมาศและนิทรรศการอื่นๆ โดยหลังจากทดสอบระบบในวันนี้จะมีการปรับเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น จะมีการเตรียมร่มแขวนบริการในช่วงเวลากลางวันหรือบ่าย แต่ก็ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมมาด้วยตัวเองในเบื้องต้นก่อน ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะมีการประเมินจำนวนผู้เข้าชมทุกวัน โดยแต่ละวันคาดว่าจะสามารถรองรับผู้เข้าชมได้ประมาณรอบละ 5500 คน เฉลี่ยวันละ 100000 คน รวมตลอดทั้งเดือนที่จัดนิทรรศการคาดว่า 3 ล้านคน อย่างไรก็ตาม หากประเมินแล้วว่าประชาชนมีการเข้าชมจำนวนมากก็จะเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการขยายเวลารับชมนิทรรศการอาจเป็นทั้งการขยายเวลาจาก 7.00-22.00 น. เป็น 6.00-24.00 น. หรืออาจขยายวันเพิ่มเติมจากวันที่ 30 พฤศจิกายนออกไป สำหรับจุดคัดกรองมีทั้งหมด 5 จุดคือ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณท่าช้าง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้สำหรับผู้พิการ ขอให้มาเข้าที่จุดคัดกรองพิเศษบริเวณหน้าศาลฎีกา และพระสงฆ์บริเวณหน้าธรรมศาสตร์ นิทรรศการเนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังมีเวทีมหรสพด้านนอกฝั่งทิศเหนือที่จัดแสดง 2 ช่วงคือ 18.00-19.30 น. และ 20.00-22.00 น. โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 19.00-20.00 น. จะจัดแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เริ่มครั้งแรกวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ส่วนการเดินทาง ได้ประสาน ขสมก. จัดรถเมล์ฟรีจากจุดต่างๆ มายังสนามหลวง 6 เส้นทางคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีรถไฟหัวลำโพง วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และสถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับประสานกองทัพเรือให้บริการเดินเรือตั้งแต่เวลา 6.00-22.00 น. ที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา และประสานกรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้ให้บริการเรือด่วน เรือเมล์ ขยายเวลาให้สอดคล้องกับการจัดนิทรรศการในช่วงเวลา 5.00-22.30 น.
ทดสอบระบบเปิดเข้าชมพระเมรุมาศ รองรับผู้เข้าชมได้ประมาณรอบละ 5500 คน เฉลี่ยวันละ 100000 คน พร้อมเตรียมระบบรองรับผู้พิการ คนชรา และพระสงฆ์เปิดจุดคัดกรอง 5 จุดรอบบริเวณนิทรรศการ พร้อมจัดรถเมล์ฟรี 6 เส้นทางมาสนามหลวงขอความร่วมมือประชาชนงดเซลฟี่ ไลฟ์สด และสัมผัสพระเมรุมาศและงานอื่นๆ
null
null
https://thestandard.co/kingrama9-crematory-visitor-management-systems/
คุ้มค่าตัว ผ่าคะแนนแข้งหงส์บุกอัดพาเลซ MOM ไม่ใช่คนยิงประตู
วันที่ 20 ส.ค. ควันหลงจากเกมที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 10 คน ได้ 2-0 ทำให้เก็บชัยสองเกมรวดมี 6 แต้มเต็มรั้งอันดับสองของตารางพรีเมียร์ลีก,ล่าสุดทางทีมงานไทยรัฐออนไลน์ได้ประกาศคะแนนนักเตะของหงส์แดงในเกมนัดนี้พร้อมกับยกให้ เวอร์จิล ฟานไดค์ ปราการหลังค่าตัวสถิติโลก ได้คะแนนสูงสุด 8.5 จาก 10 คะแนนเต็ม,ในวันที่เกมรุกเล่นไม่ออก ทำให้เกมรับของหงส์แดงวันนี้ดูโดดเด่นโดยเฉพาะ ฟานไดค์ ที่เล่นได้อย่างคุ้มค่าตัวทั้งเป็นผู้นำสั่งแผงหลังของทีม และสกัดลูกบอมบ์จากพาเลซ รวมถึงอ่านเกมตัดบอลลูกเรียดได้หลายลูก,ส่วนคะแนนนักเตะหงส์แดงรายอื่นมีดังนี้,ตัวจริง : อลิสสัน เบกเกอร์ 6.5, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ 7, โจ โกเมซ 7, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 8, นาบี เกอิตา 6, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม 6, เจมส์ มิลเนอร์ 7.5, โม ซาลาห์ 7.5, ซาดิโอ มาเน 7.5, โรแบร์โต เฟอร์มิโน 6.5,ตัวสำรอง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6, อดัม ลัลลานา ไม่มีคะแนน, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ไม่มีคะแนน
ประกาศคะแนนแข้ง หงส์แดง ลิเวอร์พูล แบบเรียงตัวในเกมพรีเมียร์ลีกที่เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 โดยแมนออฟเดอะแมตช์เป็นปราการหลัง
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เวอร์จิล ฟานไดค์
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1358861
มินิเท่านั้น! ฉลองความรัก 60 ปี กับยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ ในค่ำคืนโรแมนติกพร้อมคู่รัก 60 คน [PR NEWS]
ที่ใดมีรถมินิ ที่นั่นมีความรัก…เพราะ MINI ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพานะ หากแต่ยังเป็นเครื่องแสดงความรักในการใช้ชีวิตของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะข้ามพ้นมากี่ยุคสมัย ความรักในสไตล์ MINI ก็ยังคงมีเสน่ห์ คลาสสิกเหนือกาลเวลา เห็นได้ชัดจากค่ำคืนพิเศษ ที่มินิประเทศไทยตั้งใจจัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี โดยเลือกดีเดย์เดือนแห่งความรัก นำพาอีเวนต์ที่เหล่า MINI Lover ต่างคิดถึง รีเทิร์นมาอีกครั้ง กับ MINI Night Test Drive โดยมาแบบหวานๆ ในคอนเซปต์ MINI Valentines Night Test Drive เปิดโอกาสพิเศษให้คู่รัก 60 คน ได้แสดงความรักต่อกัน โดยมีมินิเป็นพยานรัก พาคนทุกคู่มาดื่มด่ำประสบการณ์พิเศษ เปิดมุมมองใหม่ท่ามกลางแสงไฟและแสงดาวทันทีที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสี แสงไฟบนท้องถนนเปิดต้อนรับมินิประเทศไทย พร้อมมอบเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าคู่รักทั้ง 30 คู่ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เซ็นชื่อลงทะเบียน ด้วยหลักฐานแทนใจอย่างแหวนคู่พร้อมสร้อยจาก MINI ที่จะทำให้คนทั้งคู่จดจำวันนี้ไปเหมือนสลักไว้ในความทรงจำ เพราะสามารถสลักชื่อตนและคนรักลงไปได้ด้วย จากนั้นทีมงานก็ส่งสัญญาณออกสตาร์ทให้คู่รักทั้ง 60 คน เดินทางไปพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่ที่แสนสนุก โดยมีทิวทัศน์สองข้างทางที่เปลี่ยนฉากในตอนกลางวันอันแสนวุ่นวาย มาเป็นมุมมองใหม่ๆ ที่ดูโรแมนติกในยามค่ำคืน ยิ่งขับเคลื่อนไปพร้อมกับ MINI ยิ่งรู้สึกได้ถึงความพิเศษที่รถยนต์คันไหนก็ให้ไม่ได้ แถมระหว่างทางยังมีเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้มาละลายความน่าเบื่อช่วงรถติด และเปลี่ยนความหงุดหงิดบนท้องถนนเป็นรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเป็นการแจกดอกกุหลาบ หรือการชูป้ายไฟ I Love MINI ซึ่งเป็นความตั้งใจของมินิที่อยากจะปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ บนท้องถนนให้แก่ทุกคนจากมิลเลนเนียม ออโต้ เอกมัย และ เยอรมัน ออโต้ บางนา นำทางความรักข้ามไปยังชานเมืองฝั่งตะวันตก บนถนนสิรินธร เพื่อไปปักหมุดดินเนอร์สุดโรแมนติกในดินแดนครีเอทีฟ อย่าง ช่างชุ่ย ซึ่งเปิดพื้นที่ร้านนาโอ บนเครื่องบินลำยักษ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ให้คู่รักได้เก็บภาพความประทับใจไปพร้อมกับการทอดเวลากับมื้อพิเศษ ก่อนจะส่งท้ายคืนวันด้วยความงดงามของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาริมสะพานพระรามแปด ให้ทุกคู่รักได้มีรูปถ่ายไว้ย้ำเตือนความทรงจำดีๆ ร่วมกัน60 ปีของมินิประเทศไทย ยังมีอีกหลายความประทับใจในมุมมองใหม่ๆ ให้ผู้คนแบบ MINI ได้ใช้เวลาร่วมกัน หากคุณเป็น MINI Lover ตัวจริง ต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต ติดตามขบวนความเซอร์ไพรส์อีกเพียบได้ที่ www.mini.co.th และ www.facebook.com/MINI.Thailand/เพราะนี่เป็นเพียงแค่หลักไมล์แห่งการเฉลิมฉลองเริ่มต้นเท่านั้นพิสูจน์อักษร:
MINI Test Drive ยามค่ำคืน พาเหล่าคู่รัก 60 คน ล่องลอยไปรับประทานดินเนอร์สุดโรแมนติก และเก็บบรรยากาศแห่งความประทับใจ บันทึกเป็นภาพถ่าย พร้อมด้วยกิจกรรมที่ทำเอาทุกคนที่มาร่วมงานยิ้มไม่หุบ
null
null
https://thestandard.co/mini-night-test-drive/
ป้องกันโควิด เริ่ม 25 มี.ค. ใครไม่ใส่หน้ากากอนามัย ห้ามขึ้นรถไฟ รถไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่งประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่องข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สำหรับผู้โดยสารและหน่วยงานที่ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ฉบับที่ 2 ซึ่งประกาศดังกล่าวจะกำหนดบังคับวันที่ 25 มี.ค.เป็นต้นไป ให้ผู้โดยสารที่จะใช้บริการสาธารณะทางรางทุกคนก่อนใช้บริการระบบราง ทั้งรถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้า ประกอบด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (ร.ฟ.ท.) และ รถไฟฟ้า ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)รวมถึงรถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะต้องให้ผู้โดยสารทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ก่อนเข้ามาใช้บริการในระบบ โดยผู้ประกอบการรถไฟ และรถไฟฟ้า จะต้องอำนวยความสะดวกในการจัดหาหน้ากากมาจำหน่ายในราคาประหยัด ให้ผู้โดยสารที่ไม่มีหน้ากากสามารถซื้อก่อนเข้าใช้บริการระบบรางทั้งนี้ได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจัดหาหน้ากากเพื่อมาจำหน่ายหน้าสถานีรถไฟ และรถไฟฟ้า เบื้องต้นได้นำหน้ากากมาจำหน่ายหน้าสถานีในเขตกรุงเทพมหานครก่อน เบื้องต้นหน้ากากจากราชทัณฑ์ ขณะนี้ได้รวบรวมได้ 5000 ชิ้น เนื่องจากของมีไม่มากและได้จัดสรรให้แอร์พอร์ตลิงก์ แจกฟรี หรือจำหน่ายราคาถูก ในราคาชิ้นละ ไม่ถึง 20 บาท เริ่มจำหน่ายในพุธที่ 25 มี.ค.นี้ ใน 3 สถานีพญาไท สถานีมักกะสัน และสถานีลาดกระบัง โดยเฉพาะสถานีพญาไท จะจำหน่ายหน้ากากผ้าฝ้ายมัสลิน เกรดพรีเมี่ยม จากโรงงานหน้ากากผ้าที่ได้คุณภาพ รับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซักได้มากกว่า 100 ครั้ง ในราคา 35 บาทต่อชิ้นส่วนผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS เริ่มจำหน่ายหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้า ในราคาเริ่มต้น 35 บาท ในวันพุธที่ 25 มี.ค. รวมถึง รฟม. และ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าใต้ดินสีน้ำเงิน ส่วนรถไฟของ รฟท. ได้มีการทดลองนำหน้ากากผ้ามาจำหน่ายที่สถานีรถไฟหัวลำโพงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ในราคาชิ้นละ 10 บาท ซึ่งการจำหน่ายหน้ากากและหน้ากากผ้า จะจำหน่ายทุกวันไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD-19) จะคลี่คลาย หรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง.
เริ่ม 25 มี.ค. ขึ้นรถไฟ-รถไฟฟ้า บังคับผู้โดยสารทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า ป้องกันโควิดแพร่ระบาด ใครไม่มี สามารถซื้อได้ตามสถานีต่างๆ ในราคาถูก เริ่มต้น 10-35 บาท
ข่าว,เศรษฐกิจ
โควิด-19,ขึ้นรถไฟฟ้าต้องสวมหน้ากากอนามัย,หน้ากากอนามัย,บังคับสวมหน้ากากอนามัยขึ้นรถไฟ,ไวรัสโคโรน่า,รถไฟฟ้าบีทีเอส,บังคับสวมหน้ากากอนามัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1803038
ผู้ใหญ่บ้านสุดทนแจ้งความ-ร้องเรียน ถูกนายอำเภอตบหัวบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายสรเชษฐ์ โพธิรุกข์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า เข้าแจ้งความเอาผิดและร้องศูนย์ดำรงธรรมภายในศาลากลาง จ.มหาสารคาม โดยกล่าวหาถูกนายอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ทำร้ายร่างกายใช้มือตบศีรษะได้รับบาดเจ็บ ต่อผู้ว่าฯ แต่ไปราชการ จึงไปพบเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมร้องเรียนเพื่อที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น,นายสรเชษฐ์ กล่าวว่า ถูกนายอำเภอโกสุมพิสัย ทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่บ้านพักนายอำเภอโกสุมพิสัย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายตนไม่ทราบสาเหตุ โดยนายอำเภอได้ให้ตนและคณะกรรมการจัดงานข้าวคูณลานเข้าไปหารือการจัดงานที่บ้านพักหลังจากหารือกันเสร็จแล้วมีการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน เมื่อได้เวลาตนขออนุญาตนายอำเภอเพื่อไปทำหน้าที่ต่อโดยใช้มือกอดโอบเอว แต่นายอำเภอกลับใช้มือตบศีรษะอย่างแรง ทำให้ล้มลงกระแทกกับพื้น และมีบาดแผลบริเวณศีรษะต่อหน้าเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ โดยปลัดอำเภออยู่ในเหตุการณ์ช่วยพยุงให้ลุกขึ้น และหลังจากเกิดเหตุ ตนได้เข้าไปตรวจรักษาอาการบาดเจ็บโรงพยาบาลโกสุมพิสัย พร้อมทั้งได้นำใบรับรองแพทย์เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โกสุมพิสัย แล้ว และเพื่อขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ จึงเข้ามาร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมทั้งทำหนังสือเพื่อยื่นขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าฯ,นายสรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากทางจังหวัดได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ล่าสุด หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยความเป็นธรรมที่ทำการปกครอง จ.มหาสารคาม ได้ตั้งให้นิติกรไปหาข้อเท็จจริง เบื้องต้น สอบพยานแวดล้อมต่างๆ แล้วนำเสนอต่อผู้ว่าฯ ประกอบการพิจารณาดำเนินการถ้าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ก็จะต้องส่งเรื่องไปต่อที่กรมการปกครอง เพื่อตั้งคณะกรรมการลงมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ความเป็นธรรมะกับทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไปสำหรับกรณีดังกล่าว,ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง ผกก.สภ.โกสุมพิสัย เพื่อขอทราบความคืบหน้าด้านคดี และติดต่อไปยังนายอำเภอโกสุมพิสัย เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถติดต่อทั้ง 2 คนได้ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
ผู้ใหญ่บ้านใน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม สวมบทหมูไม่กลัวน้ำร้อน ระบุขึ้นโรงพักแจ้งความกล่าวหาว่าถูกนายอำเภอตบหัวถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ พร้อมไปร้องศูนย์ดำรงธรรมขอความเป็นธรรม
ข่าว,ทั่วไทย
ผู้ใหญ่บ้าน,นายอำเภอ,ตบหัว,ทำร้ายร่างกาย,มหาสารคาม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1453585
ตร.มาเลย์รวบผู้ต้องสงสัยคนที่ 3 เอี่ยวฆ่าพี่ชาย คิม จอง-อึน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนาย คิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา,ตำรวจไม่เปิดเผยสัญชาติของผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 แต่ระบุว่า เขาเป็นเพื่อนของหญิงชาวอินโดนีเซียผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 ที่ถูกตำรวจจับกุมก่อนหน้านี้ เขาถูกจับกุมความสะดวกในการสืบสวน เนื่องจากเขาเป็นแฟนของผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 อาบู ซามาห์ มัต ผู้บังคับการตำรวจรัฐสลังงอร์ บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส,ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 จะถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้เป็นเวลา 7 วันเพื่อสอบสวน เช่นเดียวกับหญิงผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติเวียดนามในชื่อ ดวน ถิ เฮือง ผู้ต้องสงสัยคนที่ 1 ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 ขณะพยายามเดินทางออกจากมาเลเซีย,อนึ่ง นายคิม จอง นัม วัย 46 ปี ถูกจู่โจมตีที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 เมื่อวันจันทร์ ด้วยสิ่งที่เชื่อว่าเป็นพิษที่ออกฤทธิ์ไว ขณะที่เขากำลังรอเครื่องบินไปมาเก๊า โดยเขาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สนามบิน แต่เสียชีวิตระหว่างถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล,ในเบื้องต้นสมาชิกสภาเกาหลีใต้อ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของพวกเขาว่า สายลับหญิงจากเกาหลีเหนือ 2 คนเป็นผู้ก่อเหตุลอบสังหารนายคิม ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ระบุว่า เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ,,รวบ สายลับหญิงรายที่ 2 ฉีดสเปรย์มรณะ ลอบสังหารช็อกโลก พี่คิม จอง อึน,ตร.มาเลย์รวบหญิงต้องสงสัยฆ่า คิม จอง-นัม พบถือพาสปอร์ตเวียดนาม
ตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยยรายที่ 3 ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม คิม จอง-นัม พี่ชายของคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้เป็นรายที่ 3 แล้ว
null
คิม จอง นัม,คิม จอง อึน,ลอบสังหาร,มาเลเซีย,จับผู้ต้องสงสัย
https://www.thairath.co.th/content/860153
อริปาระเบิดใส่หนุ่ม นศ. ทิ้งรถหนีเจอไล่ยิงซ้ำ เสียชีวิต
เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 16 พ.ค.61 ร.ต.ต.หญิง ภาวินี วิเศษทอง ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรีว่า มีเหตุปาระเบิดและยิงกันบริเวณถนนราษฎรดำริ ข้างป้อมตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 ราย,หลังจากรับแจ้งร้อยเวรพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี นายนรเสฎฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี กำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบเศษวัตถุระเบิดกระจายอยู่ห่างจากป้อมประมาณ 3 เมตร และพบระเบิดชนิดทำเองแบบกว้างอีกจำนวน 1 ลูก พร้อมรอยเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อให้การรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายอนุวัฒน์ รักพงษ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา ,ส่วนที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาทำการเก็บกู้ โดยใช้ยางรถยนต์มาครอบตัววัตถุระเบิดดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดชนิดทำเอง พันด้วยเทปสีดำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บกู้ไปเก็บรักษา พร้อมนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้เสียชีวิตนำไปเก็บรักษาที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี,ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่บริเวณสะบักหลังซ้าย ข้อแขนซ้าย และขาซ้าย,สอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า นายอนุวัฒน์ เป็นนักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ปวช.ปี 1 ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ปรากฏว่าได้มีคู่อริขี่จักรยานยนต์มาจำนวน 2 คัน 3 คน เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นนายอนุวัฒน์ จึงได้ใช้ระเบิดที่ทำเองปาเข้าใส่นายอนุวัฒน์จำนวน 2 ลูก หลังจากระเบิดทำงานไป 1 ลูก อีก 1 ลูกด้าน นายอนุวัฒน์ จึงปล่อยรถทิ้งและวิ่งหนี ปรากฏว่าหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงเข้าใส่ร่างของนายอนุวัฒน์จำนวน 4 – 5 นัด จนทำให้นายอนุวัฒน์ ล้มฟุบลงกับพื้น หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไป,ส่วนสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ตายมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่น บ้านดงพระราม เมื่อผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุ จึงถูกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวปาระเบิดและยิงจนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่หนุ่ม นศ. ที่ปราจีนฯ เจ้าตัวทิ้งรถ จยย. วิ่งหนี เจอไล่ยิงซ้ำ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล คาดฝีมืออริ
ข่าว,อาชญากรรม
ปาระเบิด,ยิงซ้ำ,อริ,นักศึกษา,ปราจีนบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1283604
เปิดตัว TAXI VIP ราคาเริ่มต้น 150 บาท
ภายหลังการเปิดตัวแท็กซี่ วีไอพีของบริษัท ออล ไทย แท็กซี่ จำกัด นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า แท็กซี่ วีไอพี ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นแท็กซี่ โอเค โดยใช้รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น C 350 e Avantgarde รองรับความต้องการกลุ่มผู้โดยสาร นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายและการให้บริการระดับพรีเมี่ยมทั้งนี้ ผู้ให้บริการแท็กซี่ วีไอพี ต้องเป็นนิติบุคคล ตัวรถมีสมรรถนะสูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เป็นรถใหม่หรือมีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี และไม่เกิน 20000 กิโลเมตร ส่วนการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบภายในรถเหมือนกับแท็กซี่ โอเค นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสาร เช่น น้ำดื่มฟรี หนังสือพิมพ์ ผ้าเย็น บริการฟรี WI-FI ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ฯลฯสำหรับอัตราค่าบริการแท็กซี่ วีไอพี เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรต่อไปกิโลเมตรละ 12-16 บาท กรณีรถติดนาทีละ 6 บาท กรณีเรียกรถผ่านศูนย์บริการสื่อสารครั้งละไม่เกิน 50 บาท การจองล่วงหน้าและการจ้างจากท่าอากาศยานครั้งละไม่เกิน 100 บาทการให้บริการแท็กซี่วีไอพีล็อตแรก ขณะนี้สามารถจดทะเบียนได้แล้ว 15 คัน และหลังจากนี้ภายใน 2 เดือน คาดว่าจะมีรถมาให้บริการเพิ่มเป็น 100 คัน เบื้องต้นประเมินว่า ปริมาณรถแท็กซี่วีไอพีที่ให้บริการได้ครอบคลุมจะอยู่ที่ 10000 คัน และในปีนี้น่าจะมีการจดทะเบียนได้ประมาณ 1000-2000 คัน จึงยังไม่เพียงพอต่อความต้องการส่วนความคืบหน้าการขึ้นปรับค่าโดยสารของรถโดยสารสาธารณะนั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างราคาค่าโดยสารใหม่ให้ครอบคลุมในทุกปัจจัย คาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยระหว่างนี้ยังคงต้องคุมเข้มการบังคังใช้กฏหมายเพื่อควบคุมการให้บริการ เพราะปัจจุบันยังมีการร้องเรียนแท็กซี่ปฏิเสธ ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์รับจ้างที่เรียกผ่านแอพพิเคชั่น หรือแกร็บไบท์ ยืนยันว่าจะต้องจดทะเบียนตามกฏหมาย ไม่สามารถให้บริการแบบป้ายขาวได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดลงทะเบียนผู้ขับขี่ฯ รอบ 3 สามารถยื่นความจำนงได้ โดยจะมีการกำหนดสถานที่ตั้งวินอีกครั้ง เพราะไม่สามารถให้บริการแบบข้ามเขตได้
กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับบริษัทออลไทยแท็กซี่ เปิดตัว แท็กซี่วีไอพี นำรถเบนซ์มาให้บริการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท คาดปีนี้จดทะเบียน 2000 คัน
สังคม
แท็กซี่วีไอพี,TAXI,TAXIVIP,แท็กซี่,ออลไทย,กรมการขนส่งทางบก
https://news.thaipbs.or.th/content/272550
ระวัง ต่อต่อย
สุดสัปดาห์นี้ลูกหนังไทยลีก เว้นวรรคชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ฟุตบอลถ้วยเมเจอร์แรกของปีได้ชิงชนะเลิศกัน นั่นก็คือ ถ้วย ลีกคัพ 2019 ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกัน ระหว่าง ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ต่อพิฆาต พีที ประจวบ เอฟซี ในค่ำวันเสาร์ที่ 28 ก.ย.นี้ ที่เอสซีจี สเตเดียม สังเวียนเหย้าของเมืองทอง ยูไนเต็ด,พลิกปูมคู่ชิงดูแล้ว ต้องยอมรับว่าแข้งเซราะกราวภาษีดีกว่าประจวบจมหูเลยครับ,พวกเขาถูกโฉลกเหลือเกินกับถ้วยใบนี้ เพราะคว้าแชมป์มาครองแล้วถึง 5 สมัยจากการเข้าชิง 6 ครั้ง,ขณะที่พลพรรคต่อพิฆาต นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ตบเท้าเข้าชิงฟุตบอลรายการหลักของประเทศ,ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าแฟนลูกหนังจากสามอ่าว สเตเดี้ยม จะตื่นเต้นคึกคักกันขนาดไหน เพราะบัตรเข้าชมทางฝั่ง พีที ประจวบ ถูกจำหน่ายล่วงหน้าหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือหรอ,ผมเองก็ตื่นเต้นและแอบเชียร์พวกเขาอยู่เหมือนกัน เพราะส่วนตัวแล้วเคยผูกพันกับประจวบ ในฐานะที่เคยถูกเชิญไปเป็นพิธีกรในงานเปิดตัวสโมสรเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นพวกเขายังอยู่ในที 2,ความสำเร็จของทีมต่อพิฆาตที่ทุกคนต้องพูดถึง คือการเป็นโมเดลทีมภูธรที่ไม่ได้มีหน้าเสื่ออะไรแข็งโป๊ก,แต่กลับสร้างผลงานโดดเด่นในลีกสูงสุดตั้งแต่ขวบปีแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นมา,จริงๆแล้วการมีประธานสโมสรจอมทุ่มเท อย่าง ,นายกเกียร์ ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์, คอยเป็นแบ็กอัปชั้นดี คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ประจวบมีชัยไปกว่าครึ่ง,เช่นเดียวกับการทำทีมอันสุดยอดของ ,โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, กุนซือมากฝีมือ ก็ช่างลงล็อกลงตัวไปซะหมด,เส้นทางของ ,พีที ประจวบ เอฟซี, ในการทะลุเข้าชิงถ้วยลีกคัพ เริ่มจาก รอบ 32 ทีมสุดท้าย ชนะ ราชนาวี 2-0 รอบ 16 ทีม คว้าชัยเหนือ มหาวิทยาลัยธนบุรี 3-1 จนมาถึงรอบก่อนรอง จะหักด่าน โปลิศ เทโร 2-1,แต่ไฮไลต์อยู่ที่เกมตัดเชือก ที่พวกเขาบดเกือกกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนเสมอกันสุดมัน (โคตร) ในช่วง 120 นาที 3-3 และสุดท้ายดวลจุดโทษชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 เขี่ยแชมป์เก่าตกรอบไปอย่างพลิกความคาดหมาย,ซึ่งภายหลังจากที่ผ่านเข้าชิงเป็นต้นมา เหลือเชื่อว่าประจวบกลับมาโชว์ฟอร์มในลีกได้อย่างแข็งแกร่ง,โดยพวกเขาหวิดจะคว้าชัย 4 นัดติด (ชนะ 3 เสมอ 1) แถมยังเป็น คลีนชีต ไม่เสียประตูให้ใครเลยอีกต่างหาก,นัดชิงดำลีกคัพเสาร์นี้ แน่นอนว่า เมื่อดูจากสถิติเก่าๆแล้วบุรีรัมย์ต้องถูกยกให้เหนือกว่า อย่างไม่ต้องสงสัย,แต่วันแข่งจริง ระวัง ไว้เถอะ,พิษ ต่อ ตัวเล็กๆนี่แหละ เวลาถูกมันต่อยเข้าจังเบอร์,ช่างเจ็บปวดดีนักแล,บี บางปะกง
สุดสัปดาห์นี้ลูกหนังไทยลีก เว้นวรรคชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ฟุตบอลถ้วยเมเจอร์แรกของปีได้ชิงชนะเลิศกัน นั่นก็คือ ถ้วย ลีกคัพ 2019 ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกัน ระหว่าง ปราสาทสายฟ้า
null
ลีกคัพ 2019,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,พีที ประจวบ เอฟซี,ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล,ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์,ตะลุยฟุตบอลโลก,บี บางปะกง
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1669658
อเล็กซิส คอมเมนต์ถึง ป็อกบา หลังคืนฟอร์มโหดยุคโซลชาร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 ก.พ. ว่า อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้ากึ่งปีกชาวชิลีของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาคอมเมนต์ถึง พอล ป็อกบา กองกลางชาวฝรั่งเศส ภายหลังจากที่คืนฟอร์มโหดในยุค โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชั่วคราวชาวนอร์เวย์,เป็นที่เข้าใจกันว่า พอล ป็อกบา โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังในช่วงต้นซีซั่น ซ้ำร้ายยังมีปัญหากับอดีตผู้จัดการทีมคนก่อนอย่าง โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส แต่ทว่าทันทีที่อดีตเทรนเนอร์ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ถูกปลดออกจากตำแหน่งพร้อมกับถูกแทนที่ด้วย โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เขาก็กลับมาสู่ฟอร์มที่ร้อนแรงอีกครั้งด้วยการขับเคลื่อนเกมรุกที่เป็นดั่งหัวใจของทีมพร้อมทั้งทำประตูและแอสซิสต์ได้มากมาย,ล่าสุด อเล็กซิส ซานเชซ ออกมากล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมรายนี้ว่า ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าเขา (พอล ป็อกบา) มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องให้อิสระรวมถึงความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเขา เขามีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นหลังทีมเปลี่ยนโค้ชและเขาก็เล่นได้ขึ้น ที่สำคัญตอนนี้บรรยากาศในทีมกำลังยอดเยี่ยมจริงๆ
อเล็กซิส ซานเชซ ตัวรุกชาวชิเลียนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแดนผู้ดี ออกมาคอมเมนต์ถึง พอล ป็อกบา หลังคืนฟอร์มโหดในยุค โอเล กุนนาร์ โซลชาร์
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พอล ป็อกบา,อเล็กซิส ซานเชซ,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1493226
‘สมคิด เลิศไพฑูรย์’ จุดยืนธรรมศาสตร์ จุดยืนรัฐประหาร และเส้นทางชีวิต ในวันถอดหัวโขนอธิการบดี
ในรอบทศวรรษของประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีชื่อของ ศาสตราจารย์ ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนที่ 16 ทำหน้าที่สองวาระต่อเนื่องกัน ขณะเดียวกันหน้าที่อาจารย์สอนกฎหมายประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ยังคงเป็นงานหลักที่ไม่เคยทอดทิ้ง นับตั้งแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 อาจารย์สมคิดได้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ผ่านมาไม่ถึง 10 ปี จากเหตุการณ์วันนั้น วงจรการเมืองไทยวนกลับมาสู่จุดเดิมอีกครั้ง 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร หลังจากนั้นอาจารย์สมคิดได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านมา 3 ปี โรดแมปการเลือกตั้งถูกเลื่อนไปมาอยู่หลายครั้ง ความไม่แน่นอนทางการเมืองผันผวนว่องไว อาจารย์สมคิดถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงจุดยืนที่มีต่อประวัติศาสตร์ของธรรมศาสตร์ จุดยืนต่อการรัฐประหาร แม้แต่จุดยืนต่อนักศึกษา ที่มีบางกลุ่มออกมาต่อต้านการควบคุมอำนาจ และต่อต้านบทบาทของอาจารย์สมคิดเอง บรรทัดต่อจากนี้ คือการเปิดเปลือยความคิดของ สมคิด เลิศไพฑูรย์ ในวันที่เขานั่งเก้าอี้อธิการบดีเป็นเวลา 6 ปี 327 วัน และอีกไม่นานก็กำลังจะหมดวาระ อนาคตจากนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะมารับไม้ต่อ แต่ที่แน่ๆ อาจารย์สมคิดจะหลุดจากหัวโขนนี้ในไม่ช้า THE STANDARD ชวนอ่านทุกคำตอบ เพื่อขบคิดบทบาทและตัวตนของเขาในโมงยามและบรรยากาศบ้านเมืองในปัจจุบันขณะนี้ผมได้เสนอนโยบายที่สำคัญไปสามเรื่อง หนึ่งคือเรื่องงานวิจัย สองคือเรื่องความเป็นอินเตอร์ของธรรมศาสตร์ และสามคือความเป็นธรรมศาสตร์ของนักศึกษา อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ สมัยที่สองผมเสนอเพิ่มอีกหนึ่ง ผมเรียกว่า นโยบาย 3+1 ก็คือเรื่อง Active Learning สองวาระของการดำรงตำแหน่งอธิการบดี ได้ทำอะไรให้กับธรรมศาสตร์บ้าง และมีเรื่องไหนยังต้องทำต่ออีก ผมได้เสนอนโยบายที่สำคัญไปสามเรื่อง หนึ่งคือเรื่องงานวิจัย สองคือเรื่องความเป็นอินเตอร์ของธรรมศาสตร์ และสามคือความเป็นธรรมศาสตร์ของนักศึกษา อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ สมัยที่สองผมเสนอเพิ่มอีกหนึ่ง ผมเรียกว่า นโยบาย 3+1 ก็คือเรื่อง Active Learning เรื่องการวิจัย ผมสนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัยมากขึ้น บังคับให้อาจารย์ทำวิจัยมากขึ้น เดิมทีอาจารย์ธรรมศาสตร์ต้องสอนหนังสือ จะทำวิจัยหรือไม่ทำวิจัยก็ได้ เมื่อสามปีที่แล้วผมก็ได้บังคับว่าอาจารย์ทุกคนจะต้องทำวิจัยปีละหนึ่งชิ้นให้แก่ธรรมศาสตร์ อาจารย์ธรรมศาสตร์มี 2200 คน ก็หมายความว่าทุกปีจะมีงานวิจัยออกมา 2200 ชิ้น ซึ่งก็ดีกับประเทศ เพราะงานวิจัยคือหัวใจของการพัฒนา ปีที่ผ่านมา มหาลัยธรรมศาสตร์ได้รับรางวัลสูงสุดที่ประเทศไทยเคยได้ คือ Grand Pride เป็นรางวัลสูงสุดที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ถือว่าเราได้เป็นครั้งแรก และยังเป็นครั้งแรกของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย จำนวนงานวิจัยก็พุ่งเป็นเส้นกราฟ 45 องศา สอง ในด้านความอินเตอร์ ก็เป็นระบบของโลกว่า มหาวิทยาลัยทั้งหลายไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง มหาวิทยาลัยจะต้องมีความร่วมมือกับต่างประเทศ ผมก็ปรับปรุงหลายเรื่อง เช่น ผมเสนอว่าทุกคณะต้องมีหลักสูตรอินเตอร์ เดิมทีเราจะเห็นว่าบางคณะมีหลักสูตรอินเตอร์ บางคณะก็ไม่มี วันนี้ธรรมศาสตร์มีเกือบหมดแล้วทุกคณะ ทุกคณะต้องมีอาจารย์ชาวต่างชาติประจำอยู่ในคณะอย่างน้อยคณะละ 2 คน รวมทั้งขอให้คณะทุกคณะเปิดสอนวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 2 วิชาให้นักศึกษาภาษาไทยได้เรียน ยกเลิกโควตาการเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก่อนการจะลงเรียนวิชาภาษาอังกฤษได้ คุณจะต้องมาเข้าคิวขอโควตา คนที่ได้โควตาหลักก็คือนักศึกษาที่เรียนภาษา แต่คนที่เรียนรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ มักจะไม่ได้โควตา แต่ตอนนี้เราเปิดหมดแล้ว ไม่มีโควตาสำหรับนักศึกษาอีกแล้ว เราไปเซ็นสัญญา MOU กับมหาวิทยาลัยในอาเซียนทุกประเทศมาหมดแล้ว มีการเปิดศูนย์ที่เรียกว่า ศูนย์อาณาบริเวณศึกษา Area Study และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่มีศูนย์ Area Study มากที่สุดในประเทศไทย เรามีรัสเซีย มีเอเชียตะวันออก คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี มีอาเซียน มีอินเดีย มีเอเชียแปซิฟิก และมีออสเตรเลีย เรามีเกือบทุกภูมิภาคของโลกแล้วที่ควรจะมี ตัวชี้วัดหนึ่งที่เราเห็นชัดก็คือเรื่อง QS World University Ranking ถ้าเป็นในต่างประเทศเขาจะเรียกว่า Outbound Inbound ธรรมศาสตร์มีนักศึกษาแลกเปลี่ยนมากที่สุดในประเทศไทย อันนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่เรามองได้ เรื่อง จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ บางคนก็ถามว่ามันคืออะไร จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ก็คือการรักความเป็นธรรม การกล้าต่อสู้ กล้าเสียสละ คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม มีต้นกำเนิดจากอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เราก็พยายามทำหลายเรื่อง เราพยายามสอนเด็กให้รักประชาชน เราปฐมนิเทศเด็ก ฉายให้ดูประวัติศาสตร์การต่อสู้ของธรรมศาสตร์ เราไปติดตั้งคำขวัญต่างๆ ที่ตึกทั้งหลาย เช่น ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน หรือว่า Thammasat for People ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราทำ แต่เราตั้งใจว่าจะมีคนอ่าน จะมีคนไปถ่ายรูป จะมีเด็กเอาเรื่องเหล่านี้ไปคิดบ้าง เราเปิดวิชา TU-100 พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นวิชาบังคับ เด็กธรรมศาสตร์ทุกคนต้องได้เรียนรู้เรื่องนี้ และวิชานี้ได้เผยแพร่ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทย โดยใช้มาตรฐานของ TU-100 ไปจัดการเรียนการสอนในวิชาพื้นฐานทั้งสิ้น เรายังทำเรื่อง Service Learning คือ ให้นักศึกษาออกไปทำเคสต่างๆ ได้เรียนรู้ปัญหาที่แท้จริง เราพยายามทำในอีกหลายเรื่องและแทรกเข้าไปในทุกอย่างช่วงที่เป็นอธิการบดี มีการเปลี่ยนผ่านมหาวิทยาลัยไปสู่การออกนอกระบบ มีเหตุผลอะไร เพื่อความเข้าใจตรงกัน เวลาที่พูดว่าออกนอกระบบนี้ คนเข้าใจในหลายมิติไม่ตรงกัน ความจริงการออกนอกระบบ เดิมทีทุกมหาลัยของประเทศไทยเป็นของส่วนราชการ และการเป็นส่วนราชการนั้นก็มีความแข็งตัว ปรับตัวได้น้อย ไม่ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องเสีย ถ้าตามระบบราชการ คุณต้องรอเพื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ คุณจะต้องไปเขียนสเปก คุณจะต้องไปตั้งกรรมการ ใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปีกว่าจะได้เครื่องมาใหม่ ระบบราชการ ถ้าเป็นอาจารย์ทั่วๆ ไปที่เป็นด็อกเตอร์จะจ่ายให้เขา 35000 บาท ถามว่าถ้าเราอยากได้อาจารย์ระดับรางวัลโนเบลมาสอน จ่ายเงินให้เขาแค่ 35000 บาท เขาจะมาไหม เพราะฉะนั้นระบบราชการมันถูกกฎระเบียบของรัฐตรึงไว้แบบนี้ ถูกรัดตรึงทั้งในแง่กระบวนการ นี่คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยต่างๆ อยากจะปลดเปลื้องภาระในฐานะที่เป็นระบบราชการ เราเรียกมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบว่าเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เรียกว่าเปลี่ยนสภาพจากราชการไปเป็นองค์การมหาชน ข้อดีของมหาวิทยาลัยอิสระนี้คือการที่เราปลดเปลื้องกฎเกณฑ์ของกระทรวงการคลังที่บังคับกับราชการ เราก็จะมีอิสระในการเป็นของตัวเอง บริหารจัดการได้คล่องตัว เครื่องคอมพิวเตอร์เสียวันนี้เราก็สามารถไปจัดการซื้อได้เลยด้วยเงินในระบบที่เรามีอยู่ มหาวิทยาลัยออกจากระบบราชการไม่ได้เป็นเอกชน ยังเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐอยู่ แต่เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการ ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เป็นส่วนงานที่เราเรียกว่าองค์การมหาชน คนเข้าใจผิดในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ความเข้าใจผิดส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก เมื่อมหาวิทยาลัยออกจากระบบราชการไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับแล้ว รัฐมนตรีการศึกษาบางคน นายกฯ บางคนก็ไปพูดว่า คุณมีเงินเยอะแยะ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มีเงินเยอะแยะ รัฐบาลจะไม่ให้เงินอีก เพราะคุณออกนอกระบบราชการ แต่รัฐบาลเข้าใจผิด เขายังเป็นหน่วยงานของรัฐ ความเข้าใจผิดที่สองก็คือค่าหน่วยกิต ถามว่าก่อนปี 2558 ที่ธรรมศาสตร์ออกจากระบบราชการ ผมขึ้นค่าหน่วยกิตได้ไหม ได้ ไม่มีปัญหาเลยเรื่องขึ้นค่าหน่วยกิต ไม่ว่าจะอยู่ในระบบหรืออยู่นอกระบบ แต่เราไม่ทำ เพราะเรารู้ว่าเราเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ เราไม่ได้มีหน้าที่แสวงหาผลกำไร เราไม่มีหน้าที่รวยจากนักศึกษา และเรารู้ว่านักศึกษาของเราส่วนใหญ่ยากจน ค่าหน่วยกิตธรรมศาสตร์ตอนนี้คือ 800 บาท แต่เนื่องจากในตอนนี้เราใช้ระบบเหมาจ่าย เพราะฉะนั้นค่าเทอมเทอมหนึ่งจะตกเทอมละประมาณ 15000 บาท ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้มากเกินไป ในขณะเดียวกันเราก็มีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาจำนวนมาก จุฬาฯ และมหิดลออกจากระบบราชการก่อนธรรมศาสตร์ประมาณ 10 ปี จนปัจจุบัน จุฬาฯ และมหิดลไม่เคยขึ้นค่าหน่วยกิตเลย ผมเองก็ประกาศเลยว่า ผมเป็นอธิการบดี ผมจะไม่ให้ขึ้นค่าหน่วยกิต แต่เราก็รู้ว่าค่าหน่วยกิตมันต้องขึ้น ถ้าผมไม่ขึ้น อธิการบดีคนต่อไปจากผมก็ต้องขึ้นอยู่ดี มันไม่มีที่ไหนหรอกที่ไม่ขึ้นค่าหน่วยกิต แต่อย่าเอาเรื่องของการขึ้นค่าหน่วยกิตมาผูกกับการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ หรือไม่เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ ไม่มีอธิการบดีคนไหนหรอกที่อยากจะขึ้นค่าหน่วยกิต เพราะทุกครั้งที่มหาลัยขึ้นค่าหน่วยกิต มหาวิทยาลัยก็จะต้องทะเลาะกับนักศึกษา คนเป็นอธิการบดีไม่ว่าอย่างไรก็อยากให้นักศึกษารักผมเองก็ประกาศเลยว่า ผมเป็นอธิการบดี ผมจะไม่ให้ขึ้นค่าหน่วยกิต แต่เราก็รู้ว่าค่าหน่วยกิตมันต้องขึ้น ถ้าผมไม่ขึ้น อธิการบดีคนต่อไปจากผมก็ต้องขึ้นอยู่ดี มันไม่มีที่ไหนหรอกที่ไม่ขึ้นค่าหน่วยกิต แต่อย่าเอาเรื่องของการขึ้นค่าหน่วยกิตมาผูกกับการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับมองบทบาทตัวเอง กับจุดยืนนักศึกษาในการเคลื่อนไหวทางการเมือง และต่อต้านอาจารย์อย่างไร ผมมาอยู่ในช่วงที่มีเหลือง มีแดง ผมก็จะลำบากหน่อย ผมพยายามวางตัวเป็นกลางมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กรณีนักศึกษาไม่ยืนขึ้นเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ก็มีคนมาไล่ล่า เราก็พยายามปกป้องเด็ก บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล่าแม่มด แม้แต่ อั้ม เนโกะ ผมก็ไม่ได้อะไรมากมาย เขาก็ทำหลายเรื่อง ทั้งประท้วงผมและเคลื่อนไหวทางการเมือง ผมก็อำนวยความสะดวกเขาในเรื่องสถานที่ผ่านอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผมได้บอกกับอาจารย์ปริญญาไปว่า เราจะต้องส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมในขอบเขตที่เหมาะสม เพราะผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าเด็กที่ทำกิจกรรม จะเป็นเด็กที่เจริญเติบโตทางความคิดมากกว่าเด็กที่ไม่ทำอะไร แน่นอน อั้ม เนโกะ จ่านิว โรม หรือใครก็แล้วแต่ อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกันกับผม ไม่ตรงกับผู้บริหาร แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไป เช่น ความแตกต่างระหว่างวัยมีผลอยู่แล้วกับการตัดสินใจ ผมเชื่อว่าตอนที่เป็นนักศึกษากับตอนที่จบออกไปนั้นก็ไม่เหมือนกัน คิดต่างกัน ผมยกตัวอย่างสมัยก่อน อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ก็ถูกนักศึกษาคัดค้านตลอด ผมไปอ่านเอกสารที่พูดถึงอาจารย์ป๋วย นักศึกษาสมัยนั้นเขาก็มองอาจารย์ป๋วยเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย เป็นฝั่งตรงกันข้ามกับนักศึกษา คอยไม่ให้นักศึกษาประท้วง คอย Conservative ในสถานการณ์ต่างๆ ผมเองก็เหมือนกัน ผมคิดว่าเรื่องการประท้วงเป็นเรื่องปกติ สมัยที่ผมเป็นนักศึกษา ผมก็ไปประท้วง ตอนที่ พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ขึ้นราคาน้ำมัน แต่ว่าในฐานะอธิการบดีที่ต้องดูแลทั้งมหาวิทยาลัย ในฐานะที่เป็นครู เป็นอาจารย์ เราก็ต้องไปเตือนเด็กบ้างว่าให้อยู่ในขอบเขต บางคนออกไปจากธรรมศาสตร์แล้วผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปว่าอะไร แต่ถ้าคุณยังอยู่ในธรรมศาสตร์ คุณยังเป็นธรรมศาสตร์ แล้วคุณไปทำอะไรในธรรมศาสตร์ มันขว้างงูไม่พ้นคอ สุดท้ายมันก็จะกลับมาที่อธิการบดี ผมก็จะย้ำเสมอว่าผมจะไม่เอาอุดมการณ์ หรือแนวคิดทางการเมืองไปตัดสิน ผมมีโอกาสแต่ผมก็ไม่ใช้อุดมการณ์แบบนี้กับนักศึกษา ผมอาจจะพูดกับนิติราษฏร์ เพราะผมถือว่านิติราษฏร์ก็เป็นอาจารย์เหมือนกัน แต่ผมไม่พูดกับนักศึกษา นักศึกษาต้องมีสิทธิ์เชื่อว่าอะไรถูกอะไรผิด อันนี้เป็นสิทธิ์ของนักศึกษาเอง และผมก็ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งหรือกิจกรรมนักศึกษา ธรรมชาติของคนธรรมศาสตร์ทำให้เราทำแบบนั้นไม่ได้หรือเปล่า ก็ไม่แน่ เราอาจจะจัดการได้ แต่เราไม่ทำ เราไม่เคยคิดทำ เราไม่ได้จะตั้งนอมินี เราไม่ได้คิดว่าเรื่องพวกนี้เราต้องไปทำอะไร การที่นักศึกษาประท้วงอธิการบดี ประท้วงคณบดี ประท้วงนายกฯ มันเป็นธรรมชาติของธรรมศาสตร์ สมัยผม ผมก็ทำ เพราะฉะนั้นถ้าสมัยนี้เด็กจะทำมันก็เรื่องธรรมดา นี่คือด้านหนึ่งที่เรามองเด็ก แต่ในอีกด้านหนึ่งอธิการบดีก็ต้องถูกกดดันจากภายนอก ทหารเขาก็จับจ้องมองว่าอธิการบดีเข้าข้างเด็กหรืออย่างไร ไม่เคยห้ามเด็กเลยหรือ เปล่า เราก็พูดกับเด็กของเราพอสมควร เราก็บอกทหาร ผมก็พูดเอง อาจารย์ปริญญาไปพูด หลายคนไปพูด ผมบอกกับคนเหล่านั้นเลยว่า นี่คือธรรมชาติของคนธรรมศาสตร์ ถ้าเขาพูดในมหาวิทยาลัยก็ขอให้เขาได้พูดเถอะ แต่ถ้าเขาออกไปข้างนอกมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ที่ผ่านมาในอดีตใครที่มาขอใช้พื้นที่ธรรมศาสตร์อภิปราย วิจารณ์รัฐบาล เราก็เปิดโอกาสให้เขาได้วิพากษ์วิจารณ์ อย่างตอนจัดฟุตบอลประเพณี ผมก็รู้ว่าฟุตบอลประเพณีมันจะต้องมีพาเหรด และอย่างที่รู้กันว่าพาเหรดมันก็ต้องมีล้อการเมือง อันนี้มันเป็นธรรมชาติของธรรมศาสตร์ แต่ขอพูดให้ชัดอย่างหนึ่งก่อนว่า ฟุตบอลประเพณีไม่ได้เป็นกิจกรรมของธรรมศาสตร์ แต่เป็นกิจกรรมของสมาคมธรรมศาสตร์ ฉะนั้น การตั้งกติกาเรื่องการล้อการเมืองว่าควรจะทำมากน้อยแค่ไหนอย่างไรบ้าง มันก็จะเป็นเรื่องของสมาคมฯ ไม่ใช่ของอธิการบดี แต่คนก็เข้าใจตลอดว่ามันเป็นของอธิการบดี คุณด่าเผด็จการไม่มีใครว่าหรอก คุณด่าทหารคำกลางๆ มันก็ไม่เป็นอะไร คืออย่าไปใช้คำหยาบคาย ด่าแบบหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได้ ด่าอย่างมีสำบัดสำนวน ด่าแล้วคนเจ็บ แต่ไปด่าเขาใต้สะดือ ใช้คำพ่อขุนราม อย่างนี้เป็นธรรมดาของคนที่ต้องโกรธ มีอารมณ์ ผมก็จะย้ำเสมอว่าผมจะไม่เอาอุดมการณ์ หรือแนวคิดทางการเมืองไปตัดสิน ผมมีโอกาสแต่ผมก็ไม่ใช้อุดมการณ์แบบนี้กับนักศึกษา ผมอาจจะพูดกับนิติราษฏร์ เพราะผมถือว่านิติราษฏร์ก็เป็นอาจารย์เหมือนกันมีนโยบายสนับสนุนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ แต่ก็มีคนมองว่าการกระทำอาจารย์สวนทาง มีคนถามว่าผมสนับสนุนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ แต่พอเขาจะทำอะไรกลับไปเบรกเขา ผมอยากจะบอกว่านั่นไม่จริง ผมแทบไม่เคยเบรกใครเลย คนอาจเข้าใจว่าผมอยู่เบื้องหลังการเบรกทั้งหลายก็ได้ อย่างเช่นถ้าเกิดมีใครจะเข้ามาขอใช้พื้นที่ธรรมศาสตร์ในการอภิปราย ผมก็ไม่ได้มาดูหรอกว่าใครมาขอใช้ ที่ท่าพระจันทร์ผมก็ให้รองฯ ท่าพระจัทร์ดูแล แต่ที่ผมเตือนนี่คือ ขอว่าพยายามให้จัดกิจกรรมให้มีแต่ละฝ่ายเท่าๆ กันหน่อย มีสองฝ่ายได้ไหม ไม่ใช่ว่ามีแต่ฝ่ายเดียว เพื่อไม่ให้เห็นว่าธรรมศาสตร์จะไปฝักใฝ่ฝ่ายใด ให้มันเป็นงานวิชาการที่เห็นภาพแตกต่างกันออกไป ผมพูดตรงๆ เลยนะว่า ถ้าผมไม่ได้เป็นอธิการบดี ผมจะไม่ออกมาเตือนใครหรอก ถ้าผมไม่ใช่อธิการบดี เขาจะด่าใคร ลงโทษใคร ประท้วงใคร ก็แล้วแต่เขาสิ แต่ผมเป็นอธิการบดี ผมก็ต้องมีสิทธิ์เตือนเขาบ้างในฐานะอาจารย์ แต่เวลาผมเตือนผมก็จะพูดทีเดียว ผมเชื่อ และผมยังยืนยันว่าที่ผมโตมาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะผมทำกิจกรรม และผมก็มั่นใจว่าเด็กที่เขาทำกิจรรมเขาจะโตกว่าเด็กที่ไม่ได้ทำกิจกรรม เขาจะได้เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้โลก อาจารย์คิดอย่างไรกับคำว่า ธรรมศาสตร์คือพื้นที่ทางการเมือง ธรรมศาสตร์หนีการเมืองไม่ได้หรอก ผมเข้าใจว่าทำไมกลุ่มการเมืองถึงมาใช้ธรรมศาสตร์ ทำไมไม่ใช้จุฬาฯ ไม่ใช้รามคำแหง เพราะมาใช้ที่ธรรมศาสตร์แล้วมันเป็นข่าว ยกตัวอย่างอย่างเรื่องที่ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ผมไม่ได้เป็น สนช. อยู่คนเดียว มีอธิการบดีอีก 9 คนที่เป็น สนช. เนติวิทย์ไม่เห็นวิจารณ์อธิการบดีจุฬาฯ เลยว่าทำไมไปเป็น สนช. รับใช้เผด็จการ แต่วิจารณ์ธรรมศาสตร์ เพราะวิจารณ์ธรรมศาสตร์แล้วมันเป็นข่าวหรือเพราะว่าเขาคาดหวังกับธรรมศาสตร์มากกว่าที่อื่นหรือเปล่า ไม่หรอก เขาอยากให้มันเป็นข่าวการเมือง วิจารณ์จุฬาฯ มันก็เป็นข่าวธรรมดา แต่วิจารณ์ธรรมศาสตร์แล้วมันเป็นข่าวใหญ่ ข่าวการเมืองอะไรเป็นตัวชี้วัด เรื่องจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ที่อาจารย์พยายามสร้าง มันไม่มีตัวชี้วัด แต่ผมเชื่อว่ามันประสบความสำเร็จ ถ้าคุณมองทุกวันนี้คุณจะเห็น ไผ่ ดาวดิน จากขอนแก่น เนติวิทย์ จากจุฬาฯ แต่เราก็เห็นโรม เห็นนิว เห็นใครหลายคนจากที่นี่ ที่ธรรมศาสตร์ และธรรมศาสตร์ก็จะเป็นแหล่งใหญ่ของการคัดค้านรัฐประหาร ธรรมศาสตร์เป็นแหล่งใหญ่ของคนที่โต้เถียงกันในทางวิชาการ ทั้งฝ่ายเหลือง และฝ่ายแดง ผมเชื่อว่านี่เป็นบรรยากาศที่ดี เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเสรีภาพ เป็นเสรีภาพทุกตารางนิ้วอย่างที่อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ว่าไว้ และผมเชื่อว่าเรื่องนี้มันไม่มีเครื่องมืออะไรวัดว่าเด็กธรรมศาสตร์ทำเพื่อสังคมมากกว่าคนอื่นไหมคุณด่าเผด็จการไม่มีใครว่าหรอก คุณด่าทหารคำกลางๆ มันก็ไม่เป็นอะไร คืออย่าไปใช้คำหยาบคาย ด่าแบบหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได้ ด่าอย่างมีสำบัดสำนวน ด่าแล้วคนเจ็บ แต่ไปด่าเขาใต้สะดือ ใช้คำพ่อขุนราม อย่างนี้เป็นธรรมดาของคนที่ต้องโกรธ มีอารมณ์สภาพนักกฎหมายตอนนี้ เหมือนมีการตีความกฎหมายเพื่อเอาชนะกันในแต่ละฝ่าย มองเรื่องนี้อย่างไร มันเป็นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็นในสมัยเหลืองแดง เวลาทนายความเขาสู้กันในศาล เขาก็มุ่งเอาชนะ เวลาอาจารย์นิติศาสตร์เถียงกัน เขาก็ยกเหตุผลต่างๆ ผมคิดว่ามันจริงและไม่จริง จริงก็คือมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่นักกฎหมายไม่ค่อยนิ่ง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ผมเอาเหตุการณ์ที่ทันสมัยเลยที่ทำให้คนตั้งคำถามกันก็คือเรื่องเซตซีโร่ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ กกต. เซตซีโร่ กรรมการสิทธิเซตซีโร่ ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่เซตซีโร่ กรณีแบบนี้ทำให้คนเขาคิดสงสัย ทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำไมเลือกปฏิบัติ ทำไมมีสองมาตรฐาน และคำถามนี้ก็ไปสู่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไปสู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ด้วยความเคารพผมก็ไม่เห็นด้วย ผมก็มองว่ามันควรจะมีมาตรฐานเดียวกัน ถ้าคุณจะเซตซีโร่ คุณก็ต้องเซตซีโร่ทุกองค์กร แน่นอนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเขาก็อธิบายว่าที่เขาไม่เซตซีโร่ไปทั้งหมด เพราะองค์กรแต่ละองค์กรมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป แต่เงื่อนไขที่เขาอธิบายมันก็ยังไม่ประทับใจ ไม่โน้มน้าวให้คนเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวของเขา ผมกลับไปที่ศาล ศาลก็ตัดสินหลายคดี แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นศาลการเมือง เป็นศาลที่ตัดสินไปทางการเมืองผมยังไม่ค่อยเห็นด้วย ผมหมายความว่าเรื่องเดียวกันนี้ ความคิดของศาลก็อาจไม่เหมือนกัน ระบบศาลมีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา การตัดสินไม่ตรงกัน มันเกิดขึ้นประจำสม่ำเสมออยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาเลย มันก็กลับไปกลับมา เช่น เมื่อก่อนหน้าบ้านคุณไม่มีอะไรเลย วันดีคืนดีเขาจะสร้างสะพานลอย มีตอหม้อมาขวางหน้าบ้านคุณ ถามว่าละเมิดไหม จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนคุณไหม เมื่อก่อนศาลตัดสินว่าละเมิด ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ต่อมาหลังจากปี 2521 เป็นต้นมา ศาลก็มาตัดสินว่าไม่ละเมิด มีกลับไปกลับมาไปเรื่อย แต่ว่าส่วนหนึ่งที่ผมเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์ศาลเพราะว่า ก่อนหน้าปี 2540 ศาลไม่มายุ่งการเมือง คำว่ายุ่งมี 2 ความหมายนะ ความหมายที่หนึ่งคือศาลไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาเลย กับสอง ก่อนหน้าปี 2540 ศาลไม่ยุ่งกับการตัดสินคดีทางการเมือง แต่หลังปี 2540 มีปรากฏการณ์หนึ่งคือ ตุลาการมาทำหน้าที่กรรมการสรรหา และคนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าตุลาการเลือกคนได้ไม่ดี เลือกคนที่เป็นพวกเดียวกัน เลือกคนที่เป็นพวกเดียวกับผู้มีอำนาจ ผมอธิบายก่อนว่ามันไม่มีอะไรหรอก ระบบมันต้องมีกรรมการสรรหา กรรมการสรรหาเขาก็ต้องหาคนที่ดีที่สุดมาเป็นกรรมการ เขาหันซ้าย แลขวา จะเอาพระเหรอ จะเอาองคมนตรีเหรอ ก็ไม่ได้ คนที่เป็นกลางมากที่สุด ดีที่สุดในสายตาพวกเขาก็คือศาล ถามว่าศาลเขาอยากทำไหม เขาก็ไม่อยากทำ แต่เขามาทำก็เพราะว่ามีคนไว้วางใจเขา เขาก็มาทำหน้าที่ แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะ อันที่สองที่ผมพูดคือคดีการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญมาเกิดขึ้นในปี 2540 เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญซึ่งคดีก็ไม่มากนัก คดียุบพรรค คดีต่างๆ ก็มาอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญหมด ศาลก็ตัดสินไปตามหลักฐาน แต่โดยรวมไม่ว่าคุณจะตัดสินอย่างไรก็แล้วแต่ มีคนได้มีคนเสีย ฉะนั้น คนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็จะลำบากพอสมควร แต่ว่าส่วนหนึ่งที่ผมเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์ศาลเพราะว่า ก่อนหน้าปี 2540 ศาลไม่มายุ่งการเมือง คำว่ายุ่งมี 2 ความหมายนะ ความหมายที่หนึ่งคือศาลไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาเลย กับสอง ก่อนหน้าปี 2540 ศาลไม่ยุ่งกับการตัดสินคดีทางการเมือง แต่หลังปี 2540 มีปรากฏการณ์หนึ่งคือ ตุลาการมาทำหน้าที่กรรมการสรรหาแล้วในเรื่องของเสรีภาพ มันแคบลง เหมือนรัฐพยายามจำกัดความคิดเห็น ขึ้นอยู่กับคุณมองอย่างไร ถ้าคุณมองเรื่องหลังรัฐประหารคุณไม่ต้องถามผมหรอก หลังรัฐประหาร สิทธิเสรีภาพคนมันน้อยลงอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่หลัง คสช. ทุกครั้งที่มีการรัฐประหารจะมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพคน อาศัยเหตุความมั่นคง ซึ่งก็มีทั้งที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล ชุดนี้เขาก็รู้สึกว่าถ้าเขาปล่อยให้คนมาเดินประท้วง ปล่อยให้คนมานู่นมานี่บ้านเมืองจะวุ่นวาย ทั้งที่ยังไม่รู้ ก็ขึ้นอยู่กับคนมองว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยแต่บทบาทของมหาวิทยาลัย อาจารย์ยืนยันว่า จะให้เสรีภาพเต็มที่? พูดให้ชัด คนเป็นอธิการบดีไม่ได้มีบทบาทไปวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตย คุณจะเห็นว่าทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหว จะมาจากอาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา เหตุการณ์ 14 ตุลาคม เหตุการณ์ 6 ตุลาคม พฤษภาทมิฬ ไม่มีอธิการบดีคนไหนหรอกที่จะออกมาเคลื่อนไหว คนมาถามผมว่า ท่านอธิการบดี ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพน้อยลง ทำไมอาจารย์ไม่ไปประท้วง คสช. มีที่ไหนที่อธิการบดีจะออกมา อาจารย์ป๋วยก็ไม่ออกมาว่ารัฐบาล บางคนบอกว่าอาจารย์ป๋วยพูดครับ ในฐานะนายเข้ม เย็นยิ่ง ไม่ครับ เข้ม เย็นยิ่ง ไม่ใช่อธิการบดี และอาจารย์ป๋วย เขียนในนาม เข้ม เย็นยิ่ง เพราะอาจารย์ป๋วยรู้จักคุณถนอม เป็นการส่วนตัว ถึงเขียนไปได้ ผมจะเขียนว่าผมเป็นเข้ม เย็นยิ่ง หรือเขียนถึง คุณประยุทธ์ ผมก็ไม่รู้จักเขา แต่ถามว่าเราคิดว่าสิทธิเสรีภาพสำคัญไหม สำคัญครับ เราต้องมี แต่ว่าหลังการรัฐประหารคุณจะพูดสิทธิเสรีภาพว่าอย่างไร เราก็ยังไม่มีการเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพมันก็น้อย ถามว่าผมคิดว่าเราควรมีสิทธิเสรีภาพไหม ควรครับ ถามว่าอาจารย์ในธรรมศาสตร์มีสิทธิเสรีภาพไหม มีครับ ผมยังเห็นเขาด่ารัฐบาลกันอยู่เลย นักศึกษาเขาก็จับไปบ้าง แล้วก็ปล่อย ยังไม่เคยจำคุกเลย เคสไผ่ ดาวดิน ก็เป็นเรื่อง ม.112 ต่างหาก สิ่งที่ผมทำได้วันนี้ก็มีแค่คอยปกป้องเด็ก คือ หนึ่ง อภิปรายในธรรมศาสตร์ได้ไหม ธรรมศาสตร์จะได้ช่วยให้ ดูให้เรื่องห้อง เราอาจช่วยเจรจากับทหารตำรวจให้ว่านักศึกษาเขาจะพูดประเด็นนี้นะ ขอให้เขาได้พูดเถอะ นักศึกษาธรรมศาสตร์ หรือนักศึกษาทั่วไปในรุ่นหลังรัฐประหาร เขาตื่นตัวแบบไหน เขาก็ตื่นตัวทั้งนั้นแหละ แต่ที่ผมห่วงคือเขาควรจะรู้ว่าเวลาไหนควรจะตื่น เวลาไหนควรจะหยุดบ้าง ถามว่าทำไมวันนี้นิติราษฎร์ไม่เคลื่อนไหวล่ะ ถามว่านิติราษฎร์ชอบเหรอ แต่ถามว่าทำไมนิติราษร์ไม่เคลื่อนไหว ทั้งที่นิติราษฎร์เคลื่อนไหวก่อนการรัฐประหารมาก แต่หลังการรัฐประหารเขาก็ไม่ถึงกับหยุดการเคลื่อนไหว แต่การเคลื่อนไหวเขามีน้อยมาก ถามว่าเพราะอะไร เพราะเขารู้ว่าเมื่อไรจะต้องตื่น เมื่อไรจะต้องพัก เมื่อไรจะต้องหยุดโครงสร้างของระบบกฎหมาย มันมี ม.44 โผล่ขึ้นมา มันส่งผลต่อการใช้กฎหมายไหม มาตรา 44 มีผลทางกฎหมาย 2 ประการ ประการที่หนึ่งคือมาตรา 44 ทำให้รัฐบาลสามารถออกกฎเกณฑ์กติกา คำสั่งทั้งหลาย โดยไม่ต้องใช้กฎกติกาปกติ เช่นถ้าคุณอยากจะลงโทษนาย ก. ปลัดกระทรวง ผู้ว่าคนหนึ่ง อธิบดีคนหนึ่ง ปกติถ้าคุณจะย้ายเขาออกจากตำแหน่ง เขาจะต้องมีความผิด คุณจะต้องมีการกล่าวหา คุณจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเขา จนพิสูจน์ว่าเขาผิดถึงจะย้ายเขาออกจากตำแหน่งได้ กระบวนการตรงนี้ยาวมาก มาตรา 44 ทำให้กระบวนการสั้นลง ไม่ต้องใช้กระบวนการปกติ อันที่สองคือ มาตรา 44 เป็นไปตามหลักทฤษฎีกฎหมายที่เรียกว่าการกระทำทางรัฐบาล คือเป็นการใช้อำนาจของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ เป็น Act of Government ผลที่ตามมาคือการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ไม่ว่าผิดหรือถูก จะไม่ถูกฟ้องศาล จะฟ้องศาลไม่ได้ สรุปคือมาตรา 44 มีผลสองอย่าง หนึ่งแก้ไขปัญหากระบวนการขั้นตอนทั้งหลาย สองฟ้องผู้ออกคำสั่งไม่ได้ การที่เราไปช่วยคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นพวกเขา ผมย้ำอีกทีนึง อาจารย์ป๋วยก็ไปช่วยถนอม หลังถนอมรัฐประหาร นายกฯ อานันท์ก็ไปช่วยสุจินดา คนเหล่านี้เขาก็ไม่ได้คิดหรอกว่าเขาไปช่วยใคร เขาคิดว่าเขาไปช่วยประเทศ อะไรที่ทำได้เขาก็จะทำให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอนาคตจะมีรัฐประหารอีกไหม ผมบอกไม่ได้หรอกว่ามันจะมีการรัฐประหารอีกไหม แต่ผมไม่สนับสนุนการรัฐประหาร การรัฐประหารเมื่อปี 2557 ผมก็ไม่ได้มีส่วนร่วม ไม่ได้รู้จักเขา เขาก็มาเชิญไปเป็น สนช. ผมก็ไปเท่านั้นเอง เพราะผมคิดว่า ผมจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือประเทศชาติเท่าที่ทำได้ ผมโชคดี ผมไปอ่านเจอตอนอาจารย์ป๋วยรับตำแหน่งผู้ว่าแบงก์ชาติ ถามว่าใครเป็นคนไปเชิญ คนที่มาเชิญคือ สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แล้วอาจารย์ป๋วยก็รับ และผมก็ไม่ได้ว่าอาจารย์ป๋วย แถมไม่มีใครว่าอาจารย์ป๋วยเป็นพวกเดียวกับเผด็จการด้วย แต่ทีผม มีคนมาว่าว่าผมเป็นพวก คสช. อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน คมช. เป็นคนตั้ง สุจินดา คราประยูร ตั้งถามว่า สุจินดา เอานายกอานันท์อยู่ไหม ถามว่า ถ้าคณะรัฐประหารเป็นต้นไม้พิษ สุจินดาเป็นพลไม้พิษไหม อาจารย์ป๋วยได้รับการแต่งตั้งโดยถนอม ถามว่าอาจารย์ป๋วยเป็นพวกถนอมไหม เปล่า ถ้าใครไปอ่านประวัติศาสตร์ อาจารย์ป๋วยก็พูดชัด พูดเหมือนผมนี่แหละ พอดีผมพูดเหมือนอาจารย์ป๋วย เหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก็พูดว่าถ้าเราทำอะไรเพื่อประโยชน์ประเทศชาติได้ ถ้าเรามีหนทางที่จะทำอะไรได้ เราก็ไปทำเท่านั้นเอง ผมไปเป็นกรรมการปฏิรูปตำรวจ มีคนมาทาบทาม ผมก็บอกเขาไปแล้วว่าผมเป็นอธิการบดี ผมไม่ค่อยมีเวลา แต่เขาก็รู้ว่าผมใกล้จะหมดวาระแล้ว ผมก็รู้ว่ามันก็อาจจะสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ในฐานะที่เราเป็นคนไทย ในฐานะที่เราเป็นนักวิชาการ ในฐานะเราเป็นคนมีความรู้ ในฐานะที่คนเขาเชื่อเราว่าเราจะทำได้ เราไม่ควรทำเหรอ ผมตั้งคำถามแบบนี้ เราไม่ควรไปช่วยประเทศชาติหรือ เราจะบอกหรือว่าถ้าเขามาจากการเลือกตั้งเราช่วยนะ แต่ถ้าไม่มาจากการเลือกตั้งเราไม่ช่วย เราไม่ได้ดูอย่างนั้นหรอกครับ และการที่เราไปช่วยคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นพวกเขา ผมย้ำอีกทีนึง อาจารย์ป๋วยก็ไปช่วยถนอม หลังถนอมรัฐประหาร นายกฯ อานันท์ก็ไปช่วยสุจินดา คนเหล่านี้เขาก็ไม่ได้คิดหรอกว่าเขาไปช่วยใคร เขาคิดว่าเขาไปช่วยประเทศ อะไรที่ทำได้เขาก็จะทำให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าหมดวาระอธิการบดีแล้วจะไปทำอะไร อนาคตจะไปเล่นการเมืองไหม? ลงจากอธิการอย่างเดียวที่ผมกลุ้มใจก็คือ ผมจะขนของไปไว้ที่ไหน เพราะมันเยอะมาก 7 ปี แต่ที่ผมจะทำคือ ผมจะกลับคณะนิติศาสตร์ ไปสอนหนังสือ ไปเขียนตำรา ผมอยากจะเขียนหนังสือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผมอยากจะเขียนหนังสือกฎหมายปกครอง ซึ่งคณะนิติศาสตร์ยังมีน้อยมาก ผมจะเหลืออายุรการอีก 2 ปี ถ้าผมเกษียณที่อายุ 60 ปี ก็ไม่ได้คิดจะไปที่ไหน ไม่คิดจะไปอยู่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้คิดจะไปอยู่ศาลปกครอง องค์กรอิสระ ไปเป็นรัฐมนตรี ผมจะอยู่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร ในทางเรียนหนังสือผมสูงสุดแล้ว ผมเป็นด็อกเตอร์ ในทางการสอนหนังสือ ผมสูงสุดแล้วเป็นศาสตราจารย์ ในทางบริหารผมสูงสุดแล้วเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ ผมเป็นนักวิจัยดีเด่นของประเทศ ผมได้เขียนรัฐธรรมนูญ ผมได้ทำมาหมดแล้ว ถามว่าผมมีอะไรอยากทำไหม อยากทำ ถามว่าเกษียณแล้วจะไปทำอะไร ผมพูดแล้วว่าผมจะไปตีกอล์ฟกับไปปลูกต้นไม้ จะใช้ชีวิตให้มีความสุขมากๆ หลังจากที่ทำงานหนักมาโดยตลอด ก็ทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำ ดีไม่ดีอะไรอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคืออยากสอนหนังสือ ผมเป็นคนอุบลราชธานี แม่ผมเป็นคนอุบลราชธานี แต่ผมมาเกิดกรุงเทพฯ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากไปช่วยที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สอนหนังสือหลังเกษียณ ผมรู้สึกอยากจะไปทำงานชดใช้เมืองแม่หน่อย ในฐานะที่แม่เป็นคนอุบลราชธานี เด็กกรุงเทพฯ ไม่ได้ต้องการเรามากหรอก แต่เด็กต่างจังหวัดน่าจะต้องการกันเยอะ ก็คิดแค่นั้น จะใช้ชีวิตธรรมดาสามัญ ไม่ได้โลดโผนอะไร แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนะ งานที่มันท้าทาย ก็อาจจะอยากทำ แต่ว่าพูดให้ชัดอีกทีหนึ่ง ไม่ชอบงานการเมือง ไม่ชอบเป็น ส.ส. ไม่ชอบเป็น ส.ว.และไม่เป็นรัฐมนตรีแน่นอน
เกือบ 7 ปีที่ ศาสตราจารย์ ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาบอกว่าตั้งใจที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้เต็มที่ สร้างจิตวิญญาณของที่นี่ให้เกิด และเมื่อหมดจากวาระเก้าอี้นี้แล้ว จะขอกลับไปเป็นอาจารย์สอนกฎหมายเช่นเดิมสมคิดบอกว่า การทำงานกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือการเข้าทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เราไม่อาจปฏิเสธการทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ ทั้งรัฐบาลเลือกตั้งหรือรัฐประหาร เขายกเหตุการณ์ของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มาเปรียบเทียบในแง่จุดยืนของนักศึกษา ทั้งการประท้วงรัฐประหารและประท้วงเขา ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นเสรีภาพของนักศึกษา แต่ในฐานะอธิการบดีก็ต้องการให้นักศึกษารักเช่นกัน รวมทั้งยกตัวอย่างการหยุดเคลื่อนไหวของนิติราษฎร์ในเวลานี้เป็นตัวอย่างให้เห็นภาพ
null
null
https://thestandard.co/somkit-lertpaithoon/
พบพระพุทธรูปหินทรายไร้เศียรอายุหลายร้อยปี ที่วัดร้างกลางทุ่งนาอ่างทอง
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบพระพุทธรูปหินทราย ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก สูงประมาณ 4 ศอก ไม่มีเศียร ตั้งอยู่ภายในพื้นที่รกร้างวัดโคกค้างคาว กลางทุ่งนาหมู่ 6 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นพื้นที่กว่า 2 ไร่ มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่,นายสุรศักดิ์ ไม้เจริญ กำนันตำบลบางพลับ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นวัดร้างมานาน มีเรื่องเล่าขานว่าเป็นสุสานที่ใช้ฝังศพทารกที่คลอดแล้วตายในสมัยก่อน ด้าน นายฉลวย แก้วดี อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 69 หมู่ 6 ต.บางพลับ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาก็พบวัดร้างนี้แล้ว สมัยก่อนมาเลี้ยงควายอยู่บริเวณกลางทุ่งนา พบเห็นพระพุทธรูปหินทรายถูกตัดเศียรวางเรียงรายอยู่ที่บริเวณโคนต้นมะขามจำนวนมาก ปัจจุบันพบว่ามีเหลืออยู่เพียง 2 องค์ ชาวบ้านสมัยโบราณเวลาคลอดลูกแล้วเสียชีวิตก็ได้นำมาฝังไว้บริเวณป่ากลางวัดจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ดอนเป็นโคกสูง น้ำท่วมไม่ถึง,ขณะที่ นายวันลพ ม่วงอ่อน สารวัตรกำนัน เผยว่า มีชาวบ้านใน ต.บางพลับ ฝันว่ามีพระจมอยู่ใต้ดินบริเวณวัดโคกค้างคาว จึงมาตรวจหาและพบพระพุทธรูปหินทรายดังกล่าวจมอยู่ใต้ดิน ขุดขึ้นมาพบว่าไม่มีเศียร จึงนำออกมาตั้งไว้บริเวณชายป่าบนวัดโคกค้างคาว จนถึงทุกวันนี้ ส่วนพื้นที่โดยรอบวัดพบเป็นกำแพงอิฐเก่าแก่จำนวนมาก คาดว่าเป็นกำแพงรอบวัดและชุมชนของชาวบ้านสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อถูกข้าศึกโจมตีจึงอพยพหลบหนีไป ปล่อยเป็นพื้นที่รกร้างมาจนถึงปัจจุบัน.
พบพระพุทธรูปหินทรายไม่มีเศียรอายุหลายร้อยปี บริเวณวัดร้างกลางทุ่งนา จ.อ่างทอง ชาวบ้านเผย สมัยก่อนใช้เป็นที่ฝังเด็กคลอดแล้วตาย
null
พระพุทธรูปหินทราย,พระพุทธรูปไม่มีเศียร,พระพุทธรูปโบราณ,วัดร้าง,อ่างทอง
https://www.thairath.co.th/content/854418
ในหลวง ร.10 โปรดเกล้าฯ พระราชทาน กระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจแก่ครอบครัว อส.ทพ.พลีชีพ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.62 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้แทนพระองค์นำกระเช้าพระราชทานไปมอบเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ นางเยาวเรศ เรือนคำ ภรรยาของ อส.ทพ.อังคาร เรือนคำ อายุ 33 ปี ตำแหน่งพลปืนเล็ก กองร้อยทหารพราน 3311 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ณ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 8 บ้านทุ่งป่าคา ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน,ขณะที่ ทางครอบครัวและญาติ รู้สึกปลาบปลื้มที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากสมเด็จหระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทั้งนี้ ทางครอบครัวเห็นถึงความตั้งใจของสามีที่ต้องการเป็นชายชาติทหารไปรับใช้ชาติซึ่งเป็นสิ่งที่รัก จึงรู้สึกภาคภูมิใจในตัวสามีเป็นอย่างมาก ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่สมกับชายชาติทหารกล้าอย่างสมศักดิ์ศรี และเสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่,สำหรับ อส.ทพ.อังคาร เรือนคำ อายุ 33 ปี ตำแหน่งพลปืนเล็ก กองร้อยทหารพราน 3311 หน่วยเฉพาะกิจกรมกรมทหารพรานที่ 33 จ.ยะลา มีภูมิลำเนาอยู่หมู่บ้านขุนแม่ต๊อบ พื้นที่ หมู่ 10 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นบุตรนายสมาน เรือนคำ และนางโตแหระ ผลชัยชาญมั่น มีพี่น้องรวม 3 คน เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านขุนแม่ต๊อบ อ.แม่สะเรียง จากนั้นได้บวชและอยู่ที่วัดห้วยวอก ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง และเรียนจบชั้น ม.3 ได้ลาสิกขามาทำงานพร้อมกับเรียน กศน. จนจบชั้น ม.6 ปี 2558 ไปสมัครเป็นทหารพราน ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด ปี 2560 สมรสกับนางเยาวเรศ เรือนคำ ที่บ้านทุ่งป่าคา อ.แม่ลาน้อย ยังไม่มีบุตร แล้วได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ จนเสียชีวิต จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะลาดตระเวนบริเวณบ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานกระเช้าเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครอบครัว อส.ทพ.อังคาร ที่เสียชีวิตเหตุระเบิด จ.ยะลา ด้าน ครอบครัวรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ข่าว,ทั่วไทย
กระเช้าพระราชทาน,ในหลวง ร.10,อังคาร เรือนคำ,อส.ทพ.,แม่ฮ่องสอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1509440
ขายยาบ้าหาเงินง่าย หนุ่มสารภาพก่อนเข้าคุกตามเมีย ลูก5ขวบใครจะเลี้ยง
วัย 5 ขวบ ขายยาบ้าหาเงินง่ายสุด ,วันที่ 23 เม.ย. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นครพนม พ.อ.ชัยพฤกษ์ กองสมบัติ รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ประสานงาน พ.ต.ท.ชนทัต เทียมนาค ผบ.ร้อย ตชด.236 นครพนม นายชินวัตร ทองปรีชา ป้องกันจังหวัดนครพนม สั่งการให้ จ.ส.อ.วรายุทธ สุวรรณมาโจ ชุดเฉพาะกิจการข่าวฯ ร่วมกับ ด.ต.อนุชิต ป้องขวาเลา ชุดเฉพาะกิจ ร้อย ตชด.236 เจ้าหน้าที่ อส.ร้อย จ.นครพนมวางแผนสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ หลังลักลอบนำยาบ้าเข้ามาขายในพื้นที่ จนสามารถจับกุม นายชุติชัย โพธิ์ชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 บ้านรามราช หมู่ 2 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า 2,957 เม็ด  ,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงระดมกำลังวางแผนจับกุมได้ ขณะขับรถจักรยานยนต์ มารอส่งรับเงินซื้อยาบ้าจากลูกค้า นำไปตรวจค้นยึดยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้ริมถนน บ้านนามน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง นครพนม และตรวจค้นที่บ้านพัก,จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ปกติมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง แต่รายได้ไม่พอต้องเลี้ยงลูกชาย 5 ขวบ คนเดียว เนื่องจากภรรยาติดคุก กับน้องชายในคดียาเสพติด เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ติดต่อซื้อยาบ้าจากเครือข่ายชาวลาวที่เคยรู้จักกัน เนื่องจากตนเคยต้องคดียาเสพติดมียาบ้าไว้ในครอบครอง ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2559 จึงตัดสินใจมาเป็นเอเย่นต์อีกเพราะได้เงินง่าย โดยจะมีหน้าที่ติดต่อซื้อขายนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้า นัดหมายจุดรับส่งยา และรับเงิน ได้ค่านายหน้า ครั้งละประมาณ 10,000 บาท หลังพ้นโทษ ทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับอีก.
รวบหนุ่มท่าอุเทน นครพนม ทำธุรกิจเป็นนายหน้าหาลูกค้า และส่งยาบ้าให้ขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ แลกเงินครั้งละหมื่น เพิ่งออกจากคุกหมาดๆ รวมทั้งเมียกับน้องชายตอนนี้ยังอยู่ในคุก ล่าสุดถูกจับอีกพร้อมของกลางเกือบ 3 พันเม็ด อ้างต้องเลี้ยงลูก
ข่าว,ทั่วไทย
จจับเอเย่นต์ยาบ้า,เข้าคุกตามเมีย,ยาบ้าข้ามขาติ,นครพนม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/920557
เขื่อนอุบลรัตน์ ปล่อยน้ำขั้นสูงสุด ชาวบ้านอพยพหนี หวั่นน้ำพองล้นท่วม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2560 นายภูวดล หงส์กาญจนกุล นายช่างชลประทานชำนาญการ เขื่อนหนองหวาย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะได้ออกสำรวจปริมาณน้ำในลำน้ำพองแต่เช้า พร้อมกับนำชาวบ้านทำการบรรจุกระสอบทรายนำไปปิดกั้นพื้นที่ลุ่มที่น้ำพองไหลเข้ามาไม่ให้ท่วมภายในหมู่บ้าน เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ยังเกินปริมาณกักเก็บอยู่ โดยวันนี้มีปริมาณ 2,878 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 118 ของความจุอ่าง จึงได้พาชาวบ้านทำการอพยพวัวควาย สัตว์เลี้ยง และข้าวของขึ้นไปไว้บนที่สูงเป็นการชั่วคราว ,นายภูวดล กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้ทางเขื่อนอุบลรัตน์ได้เริ่มระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 50 ล้าน ลบ.เมตร เป็น 54 ล้าน ลบ.เมตร ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่ทางคณะกรรมการจัดสรรน้ำจังหวัดขอนแก่นได้มีมติร่วมกันในการประชุมที่ผ่านมา ประกอบกับตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงเกรงว่าประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพอง โดยเฉพาะที่หมู่บ้านนาเพียง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรงนี้ถือเป็นพื้นที่ลุ่มอยู่ติดกับลำน้ำพอง ขณะนี้น้ำปริ่มริมฝั่งและไหลเข้ามาในหมู่บ้านแล้วในบางจุดที่เป็นที่ลุ่มต่ำ คาดว่าวันนี้ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพราะทางเขื่อนเริ่มระบายน้ำเป็น 54 ล้าน ลบ.เมตรแล้ว ตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นมา จึงมีความจำเป็นต้องนำชาวบ้านทำการบรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปวางปิดกั้นทางน้ำตรงจุดที่น้ำในลำน้ำพองไหลทะลักเข้าหมู่บ้าน,นายช่างชลประทานชำนาญการ กล่าวอีกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้รับคำสั่งจาก ผวจ.ให้นำบิ๊กแบ็กไปปิดบริเวณปากห้วยใหญ่ ซึ่งเป็นลำห้วยติดกับลำน้ำพอง เพื่อไม่ให้น้ำพองไหลเข้ามาในลำห้วย เพราะหากน้ำพองไหลมาตามลำห้วยก็จะไปถึงพุทธมณฑลอีสาน บ้านเต่านอ ต.ศิลา และหมู่บ้านอื่นๆ หลายหมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น จึงเป็นการป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความเสียหาย.
เขื่อนอุบลรัตน์มีมติเร่งระบายน้ำขั้นสูงสุดในวันนี้เป็น 54 ล้าน ลบ.เมตร ผวจ.สั่งนำบิ๊กแบ็กปิดประตูน้ำห้วยใหญ่ที่หมู่บ้านนาเพียง ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น หวั่นน้ำพองทะลักมาตามลำห้วยทะลุถึงพุทธมณฑลอีสานในเขตอำเภอเมือง
ข่าว,ทั่วไทย
เขื่อนอุบลรัตน์,ขอนแก่น,แม่น้ำพอง,น้ำล้นตลิ่ง,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1100554
ร้องกรี๊ดหนักมาก หนุ่มโปแลนด์เล่นพิเรนทร์ทำไดโนเสาร์ปลอมแกล้งคน (ชมคลิป)
กลับมาเรียกเสียงฮือฮาในเว็บไซต์ยูทูบอีกครั้ง สำหรับสมาชิกที่ชื่อว่า SA Wardega หรือ ซีลเวสเตอร์ วาร์เดกา ชาวโปแลนด์ผู้ที่มีชื่อเสียงในฐานะนักเล่นพิเรนทร์แกล้งคน หลังจากเมื่อปีที่แล้วเขาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอปล่อยน้องหมาในชุดแมงมุมยักษ์ ออกมาแกล้งผู้คนตามถนนในเมือง จนเกิดกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล และมีผู้เข้าชมคลิปกว่า 100 ล้านครั้ง (,สุดหลอน หนุ่มโปแลนด์ปล่อยหมา(ในชุด)แมงมุมแกล้งชาวเมือง,),ล่าสุดหนุ่มโปแลนด์คนนี้ได้กลับมาคิดแผนแกล้งคนให้ตกใจเล่นอีกครั้ง โดยการเกาะแสภาพยนตร์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ เรื่อง จูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World) โดยให้คนสวมใส่มาสคอตไดโนเสาร์ 2 ตัว ที่มีลักษณะรูปร่างเสมือนจริง ออกมาแกล้งผู้คนในเมืองตามสถานที่ต่างๆ ในยามค่ำคืน จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับผู้คนที่พบเห็นจำนวนมาก ล่าสุดหลังจากคลิปวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไป มีผู้เข้าชมคลิปนี้กว่า 1 ล้านครั้ง,นอกจากนี้ ซีลเวสเตอร์ วาร์เดกา ยังได้เผยแพร่คลิปวิดีโออีกหนึ่งคลิป เป็นมาสคอตไดโนเสาร์ 2 ตัวในคลิปดังกล่าว ออกมาแกล้ง คริส แพรตต์ พระเอกหนุ่มจากภาพยนตร์เรื่อง จูราสลิค เวิล์ด ในอาคารแห่งหนึ่ง จนหนุ่มคริส แพรตต์ แทบช็อก แสดงสีหน้าท่าตกใจสุดขีด ล่าสุดคลิปวิดีโอนี้ มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 9 แสนครั้งแล้ว
ซีลเวสเตอร์ วาร์เดกา ชาวโปแลนด์ผู้ที่มีชื่อเสียงในฐานะนักเล่นพิเรนทร์แกล้งคน ออกมาเผยแพร่ 2 คลิปวิดีโอมาสคอตไดโนเสาร์แกล้งคนอีกครั้ง
null
คลิปวิดีโอ,แกล้ง,คลิปแกล้งคน,ซีลเวสเตอร์ วาร์เดกา,โปแลนด์,เล่นพิเรนทร์,ไดโนเสาร์,จูราสสิค เวิล์ค,Jurassic World,มาสคอต,มาสคอตไดโดนเสาร์,คริส แพรตต์,พระเอกหนัง,พระเอก,โซเชียล,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ยูทูบ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/505454
จุ๋ย เอาใจขั้นสุด ควง พุฒ ช็อปมือถือทองคำสุดหรู แถมสลักชื่อเล่น PU ติดเครื่อง
ทำเอาโซเชียลอิจฉากันอีกแล้ว สำหรับคู่จิ้นทะลุจอ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา กับ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน หลังจากที่ต่างคนต่างโหมงานหนัก แล้วก็เลยหาเวลาว่างจัดทริปกันไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ พอกลับมาก็ควงกันไปถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่ แต่ละดับซุปตาร์ มีเหรอจะธรรมดา,ล่าสุด ทั้งคู่ก็ได้โพสต์ภาพคู่ลงไอจีพร้อมโทรศัพท์หรู iPhone 6s ทำจากทองคำ 24k แถมพิเศษด้วยการสลักชื่อด้านหลังเครื่องเป็นตัวอักษร PU ที่ย่อมาจากชื่อเล่นของหนุ่มพุฒทั้ง 2 เครื่อง โดยของนางเอกสาวเป็นสี Veronica Pink ส่วนดีเจหนุ่มเลือกสี Marvelous White …ไม่ว่าจะใช้เครื่องไหน ก็มีแต่พุฒอยู่ข้างๆ ตลอด หวานเฟร่อ, , , , , , , , ,สำหรับโทรศัพท์หรูที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เซเลบรุ่นนี้ เป็นของแบรนด์ GOLD ELITE (โกลด์ อีลีท) ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์ 99.9% ผสานเทคนิคการผลิตขั้นสูงของงานไฟน์จิวเวลรี่บนตัวเครื่องโทรศัพท์จากทองคำ 24K (99.9%) มีให้เลือก 3 สี คือ ทองคำ (Ultimatum Gold) ทองคำขาว (Marvelous White) และทองชมพู (Veronica Pink) สนนราคาประมาณ 159,000 - 179,000 บาท
เที่ยวหนักแถมช็อปหรู พุฒ-จุ๋ย ควงกันซื้อโทรศัพท์ทองคำสุดหรู พร้อมสลักชื่อเล่นของดีเจหนุ่มไว้ทั้ง 2 เครื่อง
null
จุ๋ย,ดีเจพุฒ,จุ๋ย วรัทยา,วรัทยา นิลคูหา,พุฒิชัย เกษตรสิน,พุฒ,คู่จิ้น,คู่รักดารา,พุฒจุ๋ย,ไอโฟนทองคำ,โทรศัพท์ทองคำ,GOLD ELITE,โกลด์ อีลีท,ทองคำเค,ทอง 24k,PU,สลักชื่อ,ดารา,ข่าวบันเทิง,ข่าว,ข่าวออนไลน์,อินสตาแกรม,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/612048
โผนายพลนิ่ง โยก ธรรมศักดิ์ ไปทำเนียบฯ ดัน ชัยวัฒน์ รอง ผบ.ตร.
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.- ผบก. วาระประจำปี 2561 ใกล้มีความชัดเจน ล่าสุด มีมติ ครม. ให้ พล พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา สบ 10 ไปช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระดับซี 11,ขณะที่ วันที่ 27 ก.ย.เวลา 14.00 น. ที่องประชุมศรียานนท์ มีกำหนด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ก.ตร. จากเดิม ก.ตร.มีหนังสือเวียนนัดประชุม ก.ตร.วาระพิเศษพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. คำสั่งจะต้องมีผลภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้,ทั้งนี้ ระดับรอง ผบ.ตร. ว่าง 1 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง ผบช.ว่าง 12 ตำแหน่ง รอง ผบช.ว่าง 27 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 48 ตำแหน่ง,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระดับรอง ผบ.ตร. ที่ว่าง 1 ตำแหน่ง หลังจาก พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ไปช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คาดว่า จะมีการขยับ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 36 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มือปราบคนดังมาเป็นรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบคดีสำคัญ,ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ว่าง 4 ตำแหน่ง พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ภ.3 นรต.รุ่น 38 อาวุโส ลำดับที่ 1 พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 นรต.รุ่น 36 นักสืบลูกหม้อนครบาล เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.รร.นรต. นรต.รุ่น 38 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.ศ. นรต.รุ่น 40 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 นรต.รุ่น 34 ถูกขยับเป็นรอง จตช.,ระดับ ผบช. คาดว่า พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 35 อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 นรต.รุ่น 36 ที่โชว์ผลงานปราบปรามเงินกู้นอกระบบอยู่ที่เดิม พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นรต.รุ่น 36 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบช.ก. นรต.รุ่น 37 มาเป็น ผบช.ก. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. นรต.รุ่น 36 นักสืบมือดีลูกหม้อนครบาล ขยับมาเป็น ผบช.น. พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.สงป. นรต.รุ่น 35 เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ประจำ ตร. ลูกชาย พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีต อ.ตร. ลูกหม้อ บช.ปส. เป็น ผบช.ปส. แทนมือปราบยาเสพติด พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส.ที่เกษียณราชการ พล.ต.ต.นิทัศน์ ลิ้มสิริพันธ์ รรท.ผบช.ก.ตร. ขยับเป็น ผบช.ก.ตร. พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 36 โยกมาเป็น ผบช.สกพ.,ส่วนระดับ ผบก.หน่วยหลัก บช.ก. มีการขออนุมัติ ก.ตร.ยกเว้น เนื่องจากครองตำแหน่งไม่ครบตามหลักเกณฑ์ 3 ตำแหน่ง พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.นรต.50 เป็น ผบก.ป. เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ.นรต.50 เป็น ผบก.สปพ. คุมพื้นที่ กทม. และ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบก.ป. อดีต ผกก.ปพ.บก.ป. (คอมมานโด) เป็น ผบก.ถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ส่วน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. นรต.รุ่น 37 ถูกโยกไปเป็น ผบก.ปอศ.
โค้งสุดท้ายการแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่นายพลตำรวจประจำปี 2561 มีความเคลื่อนไหวสำคัญ ขณะที่โผตำแหน่งใหญ่ลงตัวและเร่ิมนิ่งแล้ว หลังมีทางออกเปิดเก้าอี้ว่าง
ข่าว,ทั่วไทย
โผนายพล,โผตำรวจ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ,ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย,ราชการ
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1384070
พนังกั้นน้ำแตกที่เนินกุ่ม ทหารกองบิน 46 รุดช่วยชาวบ้านอุดรูรั่ว
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำจากแม่น้ำวังทองและน้ำจากคลองชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้พนังดินกั้นน้ำของคลองเนินกุ่ม ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านท่ายาง และหมู่ 3 บ้านเนินกุ่ม ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก แตกอีกครั้งเพิ่มเป็น 2 จุด ส่งผลให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 300 หลังคาเรือน และโรงเรียนบ้านท่ายางซึ่งอยู่ในพื้นที่ต้องปิดการเรียนการสอนทันที เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงถึง 50 ซม. บางแห่งสูงถึง 1 เมตร การเดินทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเป็นไปอย่างยากลำบาก ชาวบ้านต้องใช้รถแทรกเตอร์และเรือท้องแบน หรือรถยนต์ยกสูง เป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกจากบ้านพัก,ขณะที่ ร.ท.ประเสริฐ บิณฑโก นายทหารชำนาญงานกองบิน 46 นำกำลังทหารในสังกัดกว่า 50 นาย ไปร่วมกับ นางสนม ชาชาวนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเนินกุ่ม และ น.ส.วิรัตน์ ใจซื่อ กำนันตำบลเนินกุ่ม ออกสำรวจความเสียหายเบื้องต้น และนำกำลังพลทหารกองบิน 46 ลงเรือท้องแบนล่องไปยังจุดที่พนังดินกั้นน้ำแตก ระหว่างทางต้องฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก ทหารแต่ละนายต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย โดยพบว่าคันดินพนังกั้นน้ำพังทลายยาวถึง 5 เมตร ทางทหารและชาวบ้านต้องรีบช่วยกันตัดไม้ยูคาลิปตัสเป็นท่อนๆ เพื่อทำเป็นเสาหลัก ก่อนจะนำกระสอบทรายที่กรอกเตรียมเอาไว้จำนวน 5,000 กระสอบ มาวางเป็นแนวกั้นทางน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน คาดว่าจะใช้เวลา 1 วัน จึงจะแล้วเสร็จ,สำหรับพนังดินกั้นน้ำในคลองกุ่ม ก่อนหน้านี้เคยแตกพังทลายมาแล้วถึง 3 รอบ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านเนินกุ่ม เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณที่มาก ต้านกระแสน้ำเอาไว้ไม่อยู่ และครั้งนี้พังทลายเพิ่มใหม่อีกจุดที่หมู่ 1 บ้านท่ายาง ซึ่งน้ำที่ทะลักออกจากคลองเนินกุ่มได้ไหลหลากท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้านแล้วจำนวน 3,000 ไร่ และมวลน้ำก้อนนี้จะขยายวงกว้างไปเข้าสู่พื้นที่ ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร ต่อไป,นางสนม ชาชาวนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเนินกุ่ม ได้รายงานความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ทั้งหมดไปยัง นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้รับทราบแล้ว ทั้งนี้เพื่อทางจังหวัดจะได้หามาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป. 
ชาวบ้านเนินกุ่ม จ.พิษณุโลก สุดกลุ้ม หลังพนังกั้นน้ำแตก ไหลบ่าท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลัง ทหารกองบิน 46 ลงพื้นที่ช่วยเหลือแล้ว โดยร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ทำแนวกั้นน้ำอุดรูรั่ว คาดอีก 1 วันเสร็จ
ข่าว,ทั่วไทย
พิษณุโลก,ต.เนินกุ่ม,พนังกั้นน้ำแตก,กองบิน 46,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1074847
ผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งรื้อถอน ไทเกอร์ ดิสโก้เธค ภายใน 60 วัน
ฝาผนังที่ทำจากโฟมกว่าร้อยละ 40 ภายในอาคารของไทเกอร์ ดิสโก้เธค ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ที่เกิดไฟไหม้ เมื่อเช้ามืดวันที่ 17 ส.ค. เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม จ.ภูเก็ต เห็นว่าทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้ อาคารของไทเกอร์ดิสโก้เธค เป็นอาคารพาณิชย์ที่ใช้อยู่อาศัย ก่อนที่จะถูกซื้อแล้วนำมาดัดแปลงเป็นสถานบันเทิง ขณะที่การตรวจสอบบันไดหนีไฟที่มี 7 ช่องทาง พบว่า มีมากกว่า 3-4 ช่องทาง ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะบันไดไม่ต่อถึงพื้นดิน ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนหลบหนีไม่ทันระหว่างเกิดไฟไหม้ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะโครงสร้างเหล็กของอาคาร ทำให้นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ลงพื้นที่วันนี้(20 ส.ค.) สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รื้อถอนภายใน 60 วัน ส่วนการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทางผู้บริหารของไทเกอร์ดิสโก้เธค ยินยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง และจะจ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ครอบครัวละ 1000000 บาท รวมทั้งจ่ายเงินปลอบขวัญบางส่วนด้วยสำหรับด้านคดีขณะนี้ ตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต ยังไม่ตั้งข้อหาใดกับเจ้าของไทเกอร์ดิสโก้เธค โดยระบุว่า ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งรื้อถอนไทเกอร์ดิสโก้เธค ภายใน 60 วัน หลังพบว่าโครงสร้างอาคารเสียหายอย่างมาก ขณะที่ตำรวจจังหวัดภูเก็ต ยังไม่ตั้งข้อหา กับเจ้าของไทเกอร์ดิสโก้เธค โดยอ้างว่า ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน
ภูมิภาค
60 วัน,ดิสโก้,ผู้ว่า,ภูเก็ต,รื้อถอน,เธค,ไทเกอร์,ไฟไหม้
https://news.thaipbs.or.th/content/106006
เข้มงวดขึ้นพ.ร.บ.ปราบปรามค้ามนุษย์ ฉบับ 2 ลงในราชกิจจาฯแล้ว
วันที่ 28 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป,โดยมีทั้งหมด 9 มาตรา ซึ่งมาตรา 3 ผู้ใดแจ้งแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่า มีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าได้กระทําโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิด ทั้งทางแพ่งและทางอาญา , มาตรา 4 ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, มาตรา 5 การเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรการดังกล่าว, มาตรา 6 ให้นายกรัฐมนตรีมีอํานาจออกประกาศกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ, มาตรา 7 คณะกรรมการและคณะกรรมการ ปกค. จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด, มาตรา 8 ค่าปรับตามที่กระทรวงการคลังอนุญาต ให้นําไปใช้ได้โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้
ของแผ่นดิน,มาตรา 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 53/1 และมาตรา 53/2 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 53/1 ถ้าการกระทําผิดตามมาตรา 52 หรือมาตรา 53 วรรคสอง เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทํา 1. รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่แปดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนหกหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือจําคุกตลอดชีวิต 2. ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจําคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิตมาตรา 53/2 เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้ดําเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงานหรือยานพาหนะ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งตามมาตรา 16/2 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ,ทั้งนี้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ออกให้กฎหมายมีความเข้มงวดขึ้นทั้งทางด้านการค้ามนุษย์จากการประมง ที่ส่งผลให้อียู ออกประกาศใบเหลืองเป็นสัญญาณเตือนให้กับประมงไทย รวมไปถึงการช่วยเหลือ ขอทาน และแรงงานต่างชาติ,http://www.mratchakitcha.soc.go.th/
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 แก้ไขและเพิ่มเติมทั้งหมด 9 มาตรา หวังแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในการประมง ขอทาน และแรงงานต่างชาติ อีกหนึ่งทางที่จะช่วยปลดใบเหลืองออกจากอียู
null
พระราชบัญญัติ,ราชกิจจานุเบกษา,แก้ไข,เพิ่มเติม,พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์,การประมง,ขอทาน,แรงงานต่างชาติ,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ,มาตรา,ใบเหลือง,อียู,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/495763
อู่ฮั่น เคราะห์ซ้ำกรรมซัดน้ำท่วมหลังวิกฤติโควิด
เมืองอู่ฮั่นของจีนต้องเผชิญกับวิกฤติซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ที่ก่อนหน้านี้เป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต้องเผชิญกับน้ำท่วมสูง บ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้น้ำ ถนนถูกตัดขาดกระทบการสัญจรไปมาของประชาชนโดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มณฑลหูเป่ย ต้องเผชิญกับฝนตกหนัก 7 รอบ ซึ่งในแต่ละรอบสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ 55.3 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จนทางการต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับครั้งล่าสุดที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองอู่ฮั่น คือเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนถึง 11 ล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ยาวนาน 76 วัน ด้านประชาชนในพื้นที่ได้ให้สัมภาษณ์เชิงตัดพ้อกับสำนักข่าว SCMP ว่า อู่ฮั่นเพิ่งพ้นจากวิกฤติโควิด-19 แต่ต้องมาเจอน้ำท่วมซำ้อีก ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่เลวร้ายสำหรับชาวอู่ฮั่น ขณะที่อีกรายหนึ่งระบุว่าเขาไม่เคยเห็นอู่ฮั่นน้ำท่วมสูงขนาดนี้มาก่อน ทางการระบุว่าหลังจากนี้มณฑลหูเป่ยยังคงต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักต่อไปอีก และยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำของแม่น้ำแยงซีเอ่อล้นทะลัก ล่าสุดภัยพิบัติน้ำท่วมในจีนส่งผลให้มีประชาชนต้องอพยพจากที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 33 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 141 ศพที่มา: SCMP Reuters
เมืองอู่ฮั่นยังไม่พ้นเคราะห์ น้ำท่วมเมืองซ้ำหลังวิกฤติโควิด ชาวบ้านเศร้ายอมรับเป็นปีที่เลวร้าย
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,COVID-19,โควิดจีน,น้ำท่วม,จีน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1887483
ย้อนตำนานจักรวาลไดโนเสาร์ อุ่นเครื่องก่อนดู Jurassic World: Fallen Kingdom
ย้อนกลับไปในวันแรกที่พ่อมดแห่งวงการหนังฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้ร่ายมนต์ปลุกชีวิตไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปหลายร้อยล้านปีให้กลับมามีชีวิตบนจอภาพยนตร์อีกครั้งด้วยภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park ในปี 1993 และสร้างปรากฏการณ์มากมายที่ทำลายทุกสถิติ ทั้งยังมีภาคต่อที่พยายามเดินรอยตามออกมาเรื่อยๆ ถ้านับภาคล่าสุด Jurassic World: Fallen Kingdom ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ แฟรนไชส์หนัง Jurassic ก็ได้เดินทางมาถึงภาคที่ 5 เป็นที่เรียบร้อยTHE STANDARD ได้รวบรวมเหตุการณ์ตลอด 25 ปีที่แฟรนไชส์ไดโนเสาร์เดินทางมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่หลายคนอาจหลงลืมไป เพื่อสร้างอรรถรสที่มากขึ้น ก่อนไปดูภาคใหม่ที่เขาว่ากันว่าจะเป็นภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา 1. Jurassic Park (1993) เปิดตำนานจาก ก้อนอำพัน ทุกอย่างเริ่มต้นจากความฝันอยากชุบชีวิตไดโนเสาร์ของ จอห์น แฮมมอนด์ มหาเศรษฐีที่ใช้ทุนมหาศาลให้นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญไปขุดค้น ฟอสซิล ไดโนเสาร์จากทั่วโลก จนกระทั่งค้นพบก้อนอำพันที่เก็บซากของยุงที่มีชีวิตอยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์ และสกัดดีเอ็นเอจากเลือดไดโนเสาร์ที่ยุงกินเข้าไปเอามาผสมกับดีเอ็นเอของกบจนโคลนนิ่งชีวิตใหม่ของเหล่าไดโนเสาร์ออกมา และสร้างเป็นธีมปาร์กขนาดยักษ์ชื่อ Jurassic Park บนเกาะอิสลา นูบลาร์ เพื่อเปิดให้คนเข้าชม แต่ยังไม่ทันเปิดให้บริการก็มีข่าวพนักงานในธีมปาร์กถูกไดโนเสาร์ทำร้าย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นเรื่องระบบความปลอดภัย ทำให้แฮมมอนด์ต้องระดมทีมผู้เชี่ยวชาญ (แต่พาหลานไปเที่ยวด้วย) ในด้านต่างๆ ไปที่เกาะเพื่อยืนยันว่า Jurassic Park พร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการจริงๆ กลายเป็นภารกิจ 48 ชั่วโมงบนเกาะที่สร้างตำนานบทแรกของแฟรนไชส์ไดโนเสาร์นี้ขึ้นมา Jurassic Park คืออีกหนึ่งเครื่องยืนยันฉายา พ่อมดแห่งวงการหนังฮอลลีวูด ของสปีลเบิร์กได้เป็นอย่างดี เพราะตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 7 นาที เราจะได้เห็นการเซอร์วิสจินตนาการคอหนังด้วยฉากที่สวยงาม ตื่นเต้น ลุ้นระทึกได้แบบไม่มีเบื่อ เราได้เห็นทั้งบราคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ไดโนเสาร์คอยาวที่แสนเชื่องช้าแต่สง่างาม ได้เห็นเจ้าสามเขาขวัญใจเด็กๆ ไทรเซราท็อปส์ (Triceratops) ไปจนถึงฉากการตามล่าจากไดโนเสาร์สุดโหดที่ทำให้ลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเบาะ ทั้งเจ้าไดโลโฟซอรัส (Dilophosaurus) ไดโนเสาร์ตัวจิ๋ว แต่น่ากลัวเมื่อเวลาอยู่รวมกัน เวโลซีแรปเตอร์ (Velociraptor) ที่ทั้งฉลาดและไวเป็นกรด และไทแรนโนซอรัส หรือทีเร็กซ์ (Tyrannosaurus Rex / T-Rex) ยักษ์ใหญ่ที่ทำให้ฉากกัดห้องน้ำกลายเป็นฉากคลาสสิก และทำตัวเป็นเหมือนพระเอกในหนังเรื่องนี้ไปด้วยอีกคน Jurassic Park กลายเป็นปรากฏการณ์ในวงการภาพยนตร์ตอนนั้นทันที เพราะเพียงแค่สัปดาห์แรกที่เข้าฉายในอเมริกาก็ทำรายได้มากถึง 81.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และขึ้นครองอันดับหนึ่งหนังทำเงินสูงที่สุดในโลกเวลานั้นด้วยจำนวน 914 ล้านเหรียญสหรัฐนาน 4 ปีเต็ม (สุดท้ายโดน Titanic ของเจมส์ คาเมรอน ทำสถิติแซงหน้าไป) อัปเดตตัวเลขล่าสุด Jurassic Park อยู่ในอันดับ 28 ทำเนียบหนังทำเงินสูงสุด โดยทำเงินไปแล้ว 1029 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยโปรดักชันและทีมงานคุณภาพ ทำให้ Jurassic Park คว้ารางวัลออสการ์ได้ถึง 3 สาขา ตั้งแต่ลำดับเสียงยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม ที่ต้องยกให้เรื่องนี้จริงๆ 2. The Lost World: Jurassic Park (1997) ในวันที่ มนต์ ของพ่อมดเริ่มเสื่อมคลาย หลังเอาชีวิตรอดจากเกาะอิสลา นูบลาร์ มาได้ แฮมมอนด์ตระหนักถึงอันตรายของเหล่าไดโนเสาร์ที่ไม่อาจควบคุม แต่หลานชายของเขาไม่คิดเช่นนั้น แถมยังมีความสุดโต่งด้วยการคิดจะสร้าง Jurassic Park ขึ้นมาอีกครั้งกลางเมืองซานดิเอโก ปัญหาของงานนี้ก็คือพวกเขาต้องนำเข้าไดโนเสาร์จากเกาะอิสลา ซอร์นา ใกล้ๆ กับเกาะอิสลา นูบลาร์ ที่ใช้เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ก่อนส่งเข้าไปที่ Jurassic Park ในภาคก่อน และหลังจาก Jurassic Park ถูกปิดไป ทำให้ไดโนเสาร์บนเกาะแห่งนี้ไม่มีคนดูแล ทุกตัวต้องใช้สัญชาตญาณสัตว์ป่าในการเอาตัวรอดกันอย่างเต็มที่ ทำให้ไดโนเสาร์บนเกาะนี้มีความดุร้ายมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ซึ่งแฮมมอนด์ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ จึงได้จ้างวานให้นักวิชาการกลุ่มหนึ่งเข้าไปทำภารกิจที่ตรงกันข้ามกับเมื่อ 4 ปีก่อน คือครั้งนี้พวกเขาต้องเข้าไปเพื่อยืนยันให้ว่าไดโนเสาร์เหล่านี้อันตรายจริงๆ ในภาคนี้เหมือนเป็นภาคกลับของภาคแรก เพราะเราจะได้เห็นความโหดร้ายของนายพรานที่ออกมาล่าไดโนเสาร์อย่างน่าสงสาร เพราะฉะนั้นการไล่ล่ามนุษย์ของไดโนเสาร์ในภาคนี้จึงไม่ได้ทำไปเพียงเพราะสัญชาตญาณเอาตัวรอด แต่ออกตามล่าเพื่อล้างแค้นมนุษย์เพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งปัจจัย และภาคนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มีการนำไดโนเสาร์เข้ามาอยู่ในเมือง คือทีเร็กซ์ตัวพ่อที่หลุดจากการจับกุมเพื่อมาตามหาลูกน้อย และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดียิ่งกว่าผลการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะตอนนี้ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า Jurassic Park ไม่ควรเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าเมื่อหนังฉายออกไปจะโดนถล่มเละทั้งการผูกเรื่องที่ดูสับสนไปหมด โปรดักชัน ความสวยงามด้านการดีไซน์ไดโนเสาร์ก็แทบไม่มีการพัฒนา แถมไม่มีฉากคลาสสิกให้จำเหมือนภาคแรก แต่ The Lost World ยังถือว่าประสบความสำเร็จในด้านรายได้ เพราะทำเงินทั่วโลกไปได้มากถึง 618 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้สปีลเบิร์กที่ยืนยันจะทำภาคนี้ต่อไม่เจ็บตัวเท่าไรนัก3. Jurassic Park III (2001) เจ็บหนักจนเกือบปิดตำนาน เรื่องราวในภาคนี้ยังเกิดขึ้นที่เกาะอิสลา ซอนา ในอีก 4 ปีให้หลัง เมื่อพ่อแม่คู่หนึ่งต้องการตามหาตัวลูกชายที่พลัดหลงบริเวณเกาะนี้ เนื้อเรื่องที่เหลือก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปจากสองภาคที่ผ่านมาคือการตามหาคนท่ามกลางไดโนเสาร์ ถูกไดโนเสาร์ไล่ล่า วิ่งหนี เอาจริงๆ ถ้าไม่นับเรื่องการกลับมาทำภารกิจอีกครั้งของ ดร.แกรนต์ (รับบทโดย แซม นีล) หัวหน้าทีมในครั้งแรก เรื่องนี้ก็แทบไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับแฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้อีกเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการวางมือจากการเป็นผู้กำกับของสปีลเบิร์กและส่งไม้ต่อให้ โจ จอห์นสตัน ที่กำลังมือขึ้นหลังจากกำกับหนังเรื่อง Jumanji (1995) แต่ดูเหมือนเขาไม่สามารถดึงเสน่ห์ความสนุกแบบนั้นเอามาใช้กับ Jurassic Park ภาคนี้ได้ดีพอ สุดท้ายหนังทำรายได้รวมแบบเหงาๆ ไปที่ 368 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมคำวิจารณ์แบบสับเละชนิดที่สปีลเบิร์กตอนทำภาค 2 คงเบาใจได้ เพราะแฟนหนังหลายคนถึงกับถอดใจ คิดว่าคงไม่มีทางได้ดูหนังไดโนเสาร์สนุกๆ แบบภาคแรกอีกแล้ว 4. Jurassic Park (2015) การกลับมาเพื่อคารวะหนังภาคแรกเนื้อเรื่องภาคนี้ดำเนินต่อมาจากเหตุการณ์บนเกาะอิสลา นูบลาร์ จากภาคแรก 22 ปี โดยมีกลุ่มคนที่คิดจะรื้อโปรเจกต์ Jurassic Park ขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น Jurassic World ให้เป็นสวนสนุกที่มีคอนเซปต์ผสมผสานความน่าอัศจรรย์ใจของวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ให้เข้ากับเทคโนโลยีที่แสนสะดวกสบายและหรูหรา แต่อาศัยแค่ไดโนเสาร์ชุดเดิมโลกคงไม่จดจำ พวกเขาเลยคิดสร้างไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่รวบเอายีนเด่นๆ ของไดโนเสาร์สายพันธุ์อื่นไว้ด้วยกันจนกลายเป็นไอ-เร็กซ์ หรืออินโดไมนัส เร็กซ์ ที่ได้ทั้งขนาดตัวใหญ่ยักษ์มาจากทีเร็กซ์ และความฉลาดเป็นกรดจากเวโรซีแรปเตอร์และปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่ออินโดไมนัส เร็กซ์ หนีจากระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดออกมาได้ (อีกแล้ว) และทุกชีวิต (ทั้งคนและไดโนเสาร์) ต้องเอาตัวรอดจากไดโนเสาร์ที่ดุร้าย ฉลาด และตัวใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาให้ได้ โดยมี โอเวน (รับบทโดย คริส แพรตต์) ผู้มีความสามารถพิเศษในการฝึกเวโรซีแรปเตอร์ให้เชื่องเป็นผู้นำ นอกจากเนื้อเรื่องคล้ายๆ เดิมแล้ว ความน่าสนใจของภาคนี้อยู่ที่เราจะได้เห็นการร่วมมือกันระหว่างทีเร็กซ์ เวโรแรปเตอร์ทั้งสี่ และโมซาซอรัส (Mosasaurus) กิ้งก่ายักษ์ขนาดเท่าเครื่องบิน เพื่อต่อสู้กับบอสใหญ่ไอ-เร็กซ์ ซึ่งถือว่าทำได้ดีใกล้เคียงกับการเป็นฉากคลาสสิกแบบภาคแรกได้อยู่เหมือนกันความน่าสนใจอีกอย่างของ Jurassic World คือการที่ผู้กำกับอย่าง โคลิน เทรเวอร์โรว์ พยายาม เคารพ หนังภาคแรกของสปีลเบิร์กด้วยการใส่หลายฉากที่แฟนๆ Jurassic Park คุ้นเคยกันดีเข้ามาให้หายคิดถึง ทั้งคบเพลิง 6 อันที่ประตูทางเข้า ความคลั่งไคล้ของเด็กๆ ที่มีต่อไดโนเสาร์ ก้อนอำพันที่มียุงอยู่ข้างใน ฉากเหยื่อล่อไดโนเสาร์สุดโหด ความฉลาดของแรปเตอร์ที่ทำให้มันทั้งน่ากลัวและน่ารักไปพร้อมๆ กัน ฯลฯ ทันทีที่เข้าฉาย Jurassic World ก็สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งทันที เพราะกลายเป็นหนังเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเงินในสัปดาห์แรกได้มากถึง 516 ล้านเหรียญสหรัฐ และครองอันดับที่ 5 จากหนังที่ทำรายได้รวมทั่วโลกทั้งหมดอยู่ที่ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ 5. Jurassic World: Fallen Kingdom (2018) การกำเนิดไดโนเสาร์ที่ดุร้ายที่สุด (อีกแล้ว) 7 มิถุนายนนี้ จะเป็นวันแรกที่เราได้ดูภาคต่อของแฟรนไชส์ Jurassic กันแบบเต็มๆ ตอนแรกหนังเปิดเผยเนื้อเรื่องออกมาเพียงว่าจะเป็นภารกิจที่โอเวนต้องกลับไปช่วยเหล่าไดโนเสาร์อพยพออกจากเกาะอิสลา นูบลาร์ จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่อาจทำให้สัตว์โลกล้านปีต้องกลับไปสูญพันธุ์อีกครั้ง แต่ล่าสุดหนังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่านั่นเป็นเพียงพาร์ตแรกเพื่ออารัมภบทเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วการส่งโอเวนกลับไปที่เกาะเป็นหนึ่งในแผนการนำตัว บลู แรปเตอร์ตัวสุดท้ายที่เหลือรอดจากสงครามในภาคก่อนเพื่อสร้างไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่ดุร้ายกว่าทุกๆ สายพันธุ์ที่เคยมีมา (ภาคที่แล้วก็บอกแบบนี้) ความน่าสนใจอย่างแรกคือผู้กำกับอย่าง เจ.เอ. บาโยนา ออกมายืนยันว่า Jurassic World: Fallen Kingdom จะเป็นภาคที่ยิ่งใหญ่และมีไดโนเสาร์ปรากฏตัวออกมามากที่สุดของแฟรนไชส์นี้ และความน่าสนใจอย่างที่สองที่เราอยากเห็นเป็นพิเศษคือการเข้ามาเป็น พระเอก เต็มตัวของบลูที่เพิ่งเสียพี่น้องอีก 3 ตัวไปในภาคที่แล้วว่าจะพาให้หนังเรื่องนี้ไปได้ไกลขนาดไหน ตัวอย่างภาพยนตร์ Jurassic World: Fallen Kingdom
Jurassic Park ภาคแรกคือจุดเริ่มต้นของตำนานที่เพียงแค่เข้าฉายสัปดาห์แรกในอเมริกาก็ทำรายได้ไปถึง 81.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และขึ้นครองอันดับหนึ่งหนังทำเงินสูงที่สุดในโลกเวลานั้นด้วยสถิติ 914 ล้านเหรียญสหรัฐนาน 4 ปีเต็ม ล่าสุด Jurassic Park อยู่อันดับ 28 ในทำเนียบหนังทำเงินสูงสุด ทำเงินไปแล้ว 1029 ล้านเหรียญสหรัฐถึงแม้คำวิจารณ์ของ The Lost World จะออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังถือว่าประสบความสำเร็จด้านรายได้ เพราะทำเงินทั่วโลกไปได้มากถึง 618 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคที่ 3 อย่าง Jurassic Park III ถือว่าเจ็บตัวหนักสุด ทำรายได้รวมแบบเหงาๆ ไปที่ 368 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมคำวิจารณ์แบบสับเละชนิดที่สปีลเบิร์กตอนทำภาค 2 คงเบาใจได้ เพราะแฟนหนังหลายคนถึงกับถอดใจ คิดว่าคงไม่มีทางได้ดูหนังไดโนเสาร์สนุกๆ แบบภาคแรกอีกแล้วการกลับมาหลังเว้นช่วงไป 14 ปี Jurassic World ก็สร้างปรากฏการณ์ทันที เพราะกลายเป็นหนังเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเงินในสัปดาห์แรกได้มากถึง 516 ล้านเหรียญสหรัฐ และครองอันดับที่ 5 จากหนังที่ทำรายได้รวมทั่วโลกทั้งหมดอยู่ที่ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐJurassic World: Fallen Kingdom คือภาคที่ 5 ของแฟรนไชส์นี้ เป็นอีกหนึ่งภาคที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุด และเป็นอีกหนึ่งภาคที่เราจะได้เห็นไดโนเสาร์กลับมาเป็น พระเอก เต็มตัวอีกครั้ง
null
null
https://thestandard.co/jurassic-world-fallen-kingdom/
LEXUS เปิดตัว LS PLUS CONCEPT ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 45
โตโยต้าซิตี้ ประเทศญี่ปุ่น–เลกซัสเปิดตัวรถต้นแบบพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติภายใต้ชื่อ LS+ Concept เป็นครั้งแรกของโลกวันนี้ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 45 นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงรถรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น อีก 2 รุ่น ได้แก่ RC F และ GS F เพื่อฉลองการครบรอบ 10 ปีที่โมเดล F Sport ถือกำเนิดขึ้น ,ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์โลกให้มีการจราจรที่คล่องตัวและปลอดภัย ผลักดันให้เลกซัสเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยภายใต้พื้นฐานแนวคิดการจัดการความปลอดภัยแบบบูรณาการ (Integrated Safety Management Concept)*2 อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้เลกซัสยังตั้งใจที่จะให้ทุกคนได้อิ่มเอมไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยราบรื่นพร้อมสนุกสนานและเพลิดเพลินตลอดทุกการเดินทาง อันเป็นที่มาของการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ โดยเลกซัสตั้งใจจะใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติที่มีชื่อว่า Urban Teammate เพื่อการใช้งานบนท้องถนนทั่วไปภายในช่วงต้นทศวรรษ 2020 นี้,ลักษณะเด่นของรถต้นแบบ LS+ Concept,รถต้นแบบ LS+ Concept ของเลกซัสคันนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สะท้อนให้เห็นภาพอนาคตของรถซีดานรุ่นเรือธงในตระกูล LS ด้วยเส้นสายการออกแบบที่เผยให้เห็นถึงความล้ำสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราสง่างามที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งวางแผนเปิดตัวให้ใช้งานจริงในปี 2020 ทำให้ LS+ Concept เป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของเลกซัสได้อย่างลงตัว,ในฐานะที่เป็นรถต้นแบบซึ่งเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ของรถเลกซัสในตระกูล LS ในอนาคต LS+ Concept คือยนตรกรรมที่สะท้อนภาพแห่งความสง่างามและเป็นต้นแบบสำหรับใช้ออกแบบเลกซัสในรุ่นต่อๆ ไปตามปรัชญาการออกแบบ L-finesse*3 ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเลกซัส นอกจากจะมีกระจังหน้า Spindle Grille ที่ได้รับออกแบบใหม่ให้ดูดุดันยิ่งขึ้นและมีตะแกรงเปิดปิดกระจังขนาดใหญ่เพื่อช่วยระบายอากาศและเสริมสมรรถนะระบบอากาศพลศาสตร์แล้ว LS+ Concept ยังเผยให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันโดดเด่นกว่าใครของเลกซัสด้วยการออกแบบให้ไฟหน้าและชุดไฟท้ายมีไฟเลเซอร์ ตลอดจนมีกระจกข้างปรับไฟฟ้าอีกด้วย,เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติล่าสุด,เลกซัสมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเดินทางสัญจรได้อย่างปลอดภัย ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เลกซัสติดตั้งเทคโนโลยี Highway Teammate ลงใน LS+ Concept ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยขับรถอย่างอัตโนมัติตลอดระยะทางที่อยู่บนทางด่วน นับตั้งแต่ตอนที่รถผ่านด่านเข้าทางด่วนจนกระทั่งออกจากทางด่วน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะใช้ได้จริงในปี 2020 ทั้งนี้ เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัตินี้จะสามารถใช้ได้ในสถานการณ์การขับขี่บนเส้นทางที่มีแต่รถยนต์เท่านั้น โดยระบบปฏิบัติการการขับขี่จะประเมินสถานการณ์ที่พบเบื้องหน้า จากนั้นก็ทำการตัดสินใจและดำเนินการอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์การจราจร เทคโนโลยีนี้จะช่วยขับขี่อัตโนมัติได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเลนร่วม การเปลี่ยนเลน การเบี่ยงเลน การขับให้รถคงอยู่ในเลน และการรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่โดยรอบ,รถต้นแบบ LS+ Concept สามารถเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลในการที่จะอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ เข้ามา ในขณะเดียวกันก็ยังจะมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่จะเรียนรู้ข้อมูลขนาดมหาศาลเกี่ยวกับเส้นทางและสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการขับขี่อัตโนมัติจะยังคงมีประสิทธิภาพสูง รถคันนี้สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวมันเองไปพร้อมกับผู้ขับขี่ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงโลกในยุคใหม่ที่รถและคนสามารถสร้างความเชื่อมโยงต่อกันได้อย่างแนบแน่น,ลักษณะเด่นของรถโมเดล F รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ฉลองครบรอบ 10 ปี,นับตั้งแต่การเปิดตัวรถ IS F ครั้งแรกในปี 2007 เลกซัสก็ได้พัฒนาแนวทางการออกแบบรถสปอร์ตในซีรีส์ F ด้วยความมุ่งมั่นที่จะ ประดิษฐ์รถสปอร์ตที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ขับขี่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สนุกสนานโดยไม่จำกัดระดับทักษะการขับขี่ แนวทางดังกล่าวได้ยกระดับภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตของเลกซัสขึ้นไปอีกขั้น,ในวันนี้ เลกซัสประกาศเปิดตัวรถโมเดล F รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ครบครันไปด้วยสเปกที่พิเศษสุดเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีนับตั้งแต่วันแรกที่รถโมเดล F ถือกำเนิดขึ้น โดยรถรุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับโช้กอัพสมรรถนะสูงเพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับการควบคุมพวงมาลัย อีกทั้งยังมีหม้อพักท่อไอเสียที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบา โดยเป็นรถที่ได้รับการพัฒนาสมรรถนะจากที่เคยมีในบรรดารถโมเดล F ที่เรารู้จักกันดีขึ้นไปอีกขั้น ,องค์ประกอบภายนอกตัวรถมีการใช้วัสดุพลาสติกชนิดเสริมแรงด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ผสานกับชิ้นส่วนตัวถังที่เป็นสีเทาด้าน ในส่วนของภายในตัวรถนั้นมาในสีฟ้า Heat Blue อันเป็นสีพิเศษที่โดดเด่นพร้อมด้วยสัญลักษณ์ F ด้วยคุณสมบัติข้างต้นบวกกับลักษณะพิเศษอื่นๆ ทำให้รถรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นนี้เป็นรถที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่นไม่เป็นรองใคร ,เลกซัสวางแผนจะจำหน่ายรถ RC F และ GS F รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสทั่วประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2018,รถ GS F รุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น,งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 45 จัดขึ้นที่ Tokyo Big Sight ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายนนี้ โดยรอบสื่อมวลชนจะจัดขึ้นวันที่ 25 – 26 ตุลาคม รอบแขกรับเชิญพิเศษจัดขึ้นวันที่ 26 ตุลาคม พิธีเปิดอย่างเป็นทางการและรอบพรีวิวจัดขึ้นวันที่ 27 ตุลาคม และงานจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน  ,L-finesse คือปรัชญาการออกแบบตามแบบฉบับของเลกซัสซึ่งตั้งอยู่บนแนวคิดของ ความล้ำสมัย และ ความมีชั้นเชิง เพื่อมุ่งสร้างคุณค่าในรูปแบบใหม่ด้วยการนำเอาคุณลักษณะที่ดูเหมือนจะอยู่ต่างขั้วกันให้มาผสมกลมกลืนด้วยแนวทางที่รู้จักกันในชื่อ YET,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,chang.arcom@thairath.co.th,Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
เลกซัสเปิดตัวรถต้นแบบ LS+ Concept มุ่งผลักดันการใช้งานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติในปี 2020 พร้อมเผยโฉม F Sport รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ฉลองครบรอบ 10 ปี กำเนิดโมเดล F Sport
ข่าว,ยานยนต์
ยานยนต์,รถยนต์,Lexus,Lexus LS Plus,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1116380
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: ว่าด้วยการปฏิวัติ-รัฐประหาร
ใช้ในภาษาอังกฤษว่า coup détat ซึ่งเป็นคำยืมมาจากภาษาฝรั่งเศส จะมีความแตกต่างกับอีกคำหนึ่งที่ใช้กันคือ ปฏิวัติ ในภาษาอังกฤษจะใช้ว่า revolutoin ซึ่งจะมีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนระบอบ หรือเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีรัฐประหารมากเป็นอันดับสามของโลก รัฐประหารครั้งแรกนั้น คือ การประกาศงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราโดยรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดาในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2476 แม้ว่าจะไม่มีการเคลื่อนกำลังทหาร แต่ผลของการงดใช้รัฐธรรมนูญโดยไม่ระบุมาตรา และปิดสภาผู้แทนราษฎร ก็ทำให้การใช้อำนาจของรัฐบาลเป็นแบบเผด็จการ พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา และ พ.ท.หลวงพิบูลสงคราม จึงยึดอำนาจเพื่อรื้อฟื้นรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2476 ทำให้ประเทศมีการปกครองแบบประชาธิปไตยต่อมาสำหรับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ในปัจจุบันไม่ถือเป็นการรัฐประหาร แต่เป็นการปฏิวัติประเทศ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมือง และนำมาซึ่งการเปลี่ยนในเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคมอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยที่คล้ายการปฏิวัติอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ก็คือ กรณี 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ที่ระบอบเผด็จการทหารถูกโค่นลงด้วยอำนาจประชาชนส่วนการรัฐประหารในประเทศไทยครั้งที่สามเกิดเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 ต่อมา ก็คือรัฐประหาร พ.ศ.2494 รัฐประหาร พ.ศ.2500 รัฐประหาร พ.ศ.2501 รัฐประหาร พ.ศ.2514 รัฐประหาร 6 ตุลา พ.ศ.2519 รัฐประหาร พ.ศ.2520 รัฐประหาร พ.ศ.2534 รัฐประหาร พ.ศ.2549 และรัฐประหารครั้งนี้ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ถือเป็นการรัฐประหารครั้งที่ 12 ในประวัติศาสตร์การยึดอำนาจบ่อยในประเทศไทย ทำให้มีการใช้คำที่สับสนปนเปกัน เพราะประชาชนมักเรียกการยึดอำนาจโดยทหารว่า ปฏิวัติเสมอ ซึ่งความสับสนนี้ เป็นผลิตผลแห่งการยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2501 จอมพลสฤษดิ์เรียกคณะยึดอำนาจของตนเองว่า คณะปฏิวัติ และครองอำนาจเผด็จการมายาวนาน ต่อมา จอมพลถนอม กิตติขจร ก็ครองอำนาจเผด็จการต่อ และทำรัฐประหารตนเองเมื่อ พ.ศ.2514 โดยใช้คำว่า คณะปฏิวัติอีกครั้ง การเรียกการยึดอำนาจโดยฝ่ายทหารว่าปฏิวัติจึงติดปากชาวไทย ทั้งที่การยึดอำนาจหลังจากนั้น ไม่ได้ใช้คำว่าคณะปฏิวัติกันอีกเลย แต่มาใช้คำว่า ปฏิรูป หรือรักษาความสงบเรียบร้อยแทน และด้วยความสับสนในการใช้คำ ปรีดี พนมยงค์จึงเสนอให้ใช้คำเรียกเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ว่า การอภิวัฒน์การก่อรัฐประหารทั่วโลกจะมีลักษณะคล้ายกัน คือ เริ่มก่อการจากทหารจำนวนน้อย หรือมาจากผู้บัญชาการทหารที่ควบคุมกองทัพ แล้วเคลื่อนกำลังหรือประเทศยึดอำนาจแบบฉับพลัน เพื่อโค่นรัฐบาลชุดเดิม แล้วตั้งคณะบริหารหรือรัฐบาลชุดใหม่ และหลายครั้งจะมีการยกเลิกอำนาจนิติบัญญัติคือ รัฐสภาชุดเดิม และล้มรัฐธรรมนูญฉบับเดิมด้วย จากนั้น ก็จะมีการตั้งกรรมการมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมักจะมีการใช้ไปจนถึงรัฐประหารครั้งต่อไป ประเทศที่รัฐประหารบ่อยก็จะมีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญบ่อย เช่นในประเทศไทยจึงมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้ว 18 ฉบับ ซึ่งถือเป็นสถิติอัปยศในโลก ฉบับของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่จะให้มีขึ้นจะเป็นฉบับที่ 19 แล้วคงจะมีฉบับที่ 20. 21 ต่อไปอีก ในการรัฐประหารครั้งหน้าและครั้งต่อไปแต่กระนั้น การรัฐประหารถือว่าเป็นวิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและไร้กติกา เพราะในระบอบประชาธิปไตยโดยทั่วไป จะกำหนดวิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไว้แล้ว ด้วยการลงคะแนนเสียงของประชาชน หมายถึงว่า ผู้ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศจะมีอำนาจเต็มในการดำเนินนโยบายตามที่ตนเองเสนอ ในกรอบเวลาที่แน่นอนชัดเจน เช่น 4 ปี หรือ 5 ปี จากนั้น ก็จะต้องไปสู่ประชาชน ก็คือให้ประชาชนเลือกกันใหม่ว่า จะให้ใครหรือพรรคใดบริหารประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในลักษณะนี้จึงไม่ต้องก่อการรัฐประหาร เราจึงพบว่ามีประเทศประชาธิปไตยก้าวหน้าจำนวนมากไม่เคยมีการรัฐประหารเลย เช่น ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สวิทเซอร์แลนด์ สวีเดน ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ อินเดีย ฯลฯ ประเทศเช่น คอสตาริกา รัฐประหารครั้งสุดท้ายตั้งแต่ พ.ศ.2460 แล้วไม่มีรัฐประหารอีกเลยจนปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น และ เยอรมนี ไม่เคยมีการรัฐประหารเลยนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ในภาคีอาเซียน ประเทศเช่น มาเลเซีย ก็ไม่เคยมีการยึดอำนาจรัฐประหารเลยเช่นกันในประเทศที่ไม่เคยมีการรัฐประหารเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง เพียงแต่ถือกันว่า วิธีแก้ปัญหาทางการเมืองที่มีอารยธรรมก็คือ การใช้ประชาธิปไตย เคารพในความเห็นของเสียงข้างมากในกรอบเวลาที่แน่นอน แล้วเปลี่ยนอำนาจด้วยเสียงประชาชน กองทัพในประเทศเหล่านี้ จึงไม่เคยมีบทบาทแทรกแซงทางการเมืองเลย นี่คือเหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ใช้กองทัพยึดอำนาจถือเป็นเรื่องล้าหลังไดโนเสาร์ยิ่งนักแต่ประเทศล้าหลังทางการเมือง ชนชั้นนำของประเทศเหล่านี้มักจะไม่มีความรู้ทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ไม่เคยคิดจะเคารพเสียงของประชาชน จึงถือการรัฐประหารเป็นทางออก ดังนั้น ประเทศเช่น ไฮติ จึงมีการรัฐประหาร 25 ครั้ง ถือเป็นสถิติโลก ประเทศโบลิเวียอยู่ในอันดับรองมา คือ มีรัฐประหาร 14 ครั้ง แต่การรัฐประหารครั้งสุดท้ายเกิดเมื่อ พ.ศ.2523 แล้วไม่มีการรัฐประหารอีกเลย ประเทศปากีสถานมีการรัฐประหาร 6 ครั้ง ครั้งสุดท้ายคือ พ.ศ.2542 โดย พล.อ.เปอร์เวซ มูชาราฟ แต่ขณะนี้ได้กลับมาเป็นประชาธิปไตยแล้ว ประเทศพม่ามีการรัฐประหารเพียง 2 ครั้ง พ.ศ.2505 และ พ.ศ.2531 เพียงแต่การปกครองเป็นแบบเผด็จการทหารตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2505 เป็นต้นมา แต่ในปัจจุบันก็มีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนไปสู่ประชาธิปไตยมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหลายประเทศที่ยังคงใช้วิธีการรัฐประหารแก้ไขปัญหาทางการเมือง แม้ว่าจะมีค่อนข้างน้อยก็ตาม เช่น ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา มีการรัฐประหารเกิดขึ้น 10 ประเทศ คือ ไฮติ (2547) มอริตาเนีย (2548) โตโก (2548) ไทย (2549) ฟิจิ (2549) มอริตาเนีย (2551) กินี (2551) ไนเจอร์ (2553) มาลี (2555) กินีบิเซา (2555) อียิปต์ (2556) และ ไทย (2557) ส่วนประเทศที่ยังคงปกครองภายใต้ระบอบรัฐประหารใน พ.ศ.2557 นี้มี 9 ประเทศ คือ อีควอเตอเรียลกีนี บูร์กินาฟาโซ ซูดาน แกมเบีย ฟิจิ มอริตาเนีย กินีบิเซา อียิปต์ และ ไทยคำถามคือ เคยมีหรือไม่ที่การรัฐประหารในประเทศล้าหลังทางการเมืองเหล่านี้ ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปทางการเมืองที่ดีขึ้น เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า คำตอบจากสถิติของการรัฐประหารในประเทศต่างๆ คือ โอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้ามักจะมาจากการรัฐประหารที่นำโดยทหารระดับกลาง และมีความคิดแบบใหม่ เช่น การรัฐประหารในกรีกเมื่อ พ.ศ.2510 การรัฐประหารในโปรตุเกส เมื่อ พ.ศ.2517 แต่ถ้าเป็นการรัฐประหารโดยผู้บัญชาการกองทัพ แทบทั้งหมดจะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง เพราะเหล่าผู้บัญชาการกองทัพมักจะมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม หลงอำนาจ ดูถูกประชาชน และต่อต้านการเปลี่ยนแปลง การรัฐประหารจึงเป็นไปเพื่อรักษาระบอบเก่า โอกาสที่จะมีการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย โดยเหล่าผู้บัญชาการทหารจึงไม่มีเมื่อการก่อรัฐประหารเป็นเรื่องที่ล้าหลังพ้นสมัยเช่นนี้ การรัฐประหารหลายครั้งจึงถูกต่อต้านจากประชาชนอย่างหนัก เช่นรัฐประหารพม่าเมื่อ พ.ศ.2531 และรัฐประหารอียิปต์ พ.ศ.2555 ประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้าน จนรัฐบาลทหารต้องใช้วิธีการปราบปรามอย่างนองเลือดเพื่อคุมอำนาจ ระบอบปกครองแบบรัฐทหารแม้ว่าจะยังรักษาอำนาจไว้ได้ แต่ก็เป็นรังเกียจและสาบแช่งของประชาชนตลอดเวลานี่เป็นเพียงเรื่องเล่าส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการรัฐประหารทั่วไป ซึ่งอาจจะช่วยสะท้อนตำแหน่งแห่งที่ของรัฐบาลทหารในประเทศไทยได้
การยึดอำนาจด้วยกองทัพเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถือเป็นวิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ใช้กันมากแบบหนึ่งในระบบการเมืองแบบด้อยพัฒนา การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบนี้ เรียกกันว่า รัฐประหาร หรือ
การเมือง
ปฏิวัติ,รัฐประหาร,สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
https://prachatai.com/journal/2014/05/53606
ขอน้ำใจคนละนิดช่วยครอบครัวยากจน สามี-ลูกพิการ ภรรยาหาเลี้ยงคนเดียว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการร้องเรียนว่า มีครอบครัวฐานะยากจนสามีและลูกสาวพิการ มีภรรยาหาเลี้ยงเพียงคนเดียว จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 50 หมู่ 9 บ้านสันติสุข ต.ตะกุดไร อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ พบสภาพบ้านผุพัง โดย นายทวีป แก้วอำพล อายุ 60 ปี พิการตามองไม่เห็น ขาไม่มีแรง เดินไม่ได้ ส่วน น.ส.ชุติมา แก้วอำพล อายุ 19 ปี ลูกสาว ก็พิการทางสมอง ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้ นางวันนา แก้วอำพล อายุ 55 ปี ภรรยาของนายทวีป ต้องหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว หนำซ้ำลูกชายยังเอาหลานสาวมาให้เลี้ยงอีก 1 คน ส่วนตัวเองหายไปหลายปี ต้องแบกภาระรับจ้างทั่วไปรายได้วันละ 200 บาท ถ้าวันไหนไม่มีคนจ้างก็พากันอด อาหารหลักก็มีปลากระป๋องให้พอประทังชีวิต ทุกวันนี้ได้ น.ส.พิชญ์นรี สันวงศ์ หรือผู้ใหญ่อ้อม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านสันติสุข ต.ตะกุดไร คอยดูแล และ พ.ต.ท.สันติราษฎร์ แสงไชย สวป.สภ.ดงขุย ร.ต.ท.วีระ สันวงศ์ รอง สวป. ออกตรวจเยี่ยมนำข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม มาให้,นางวันนา เผยว่า เมื่อหลายปีก่อนสามีช่วยเหลือสังคมสังกัดอยู่มูลนิธิร่วมกตัญญู จนอายุมากลาออกมาอยู่บ้าน แต่ต่อมาพิการตามองไม่เห็น ขาไม่มีแรง ทำให้ภาระหาเลี้ยงครอบครัวตกมาอยู่ที่ตนเองคนเดียว อยากขอความเมตตาผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัว ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม หรือบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เลขบัญชี 020101596744 ชื่อบัญชี นายทวีป แก้วอำพล โดย นางวันนา แก้วอำพล หรือ สามารถโทรศัพท์ติดต่อผ่าน ผู้ใหญ่อ้อม ได้ที่หมายเลข 096-514-0154.
สาวใหญ่เพชรบูรณ์ วอนขอความเมตตาช่วยเหลือครอบครัวยากจน สามีและลูกสาวพิการ แถมลูกชายพาหลานมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง มีเพียงรายได้จากการรับจ้างวันละ 200 วันไหนไม่มีใครจ้าง 4 ชีวิตก็ต้องอดข้าว
ข่าว
ช่วยคนยากจน,บริจาคเงิน,บริจาคเงินช่วยคนจน,เพชรบูรณ์,ช่วยคนพิการ
https://www.thairath.co.th/news/882805
ยอดผู้ป่วย อีโบลา ทะลุ 20000 คน พบผู้ป่วยรายแรกในสกอตแลนด์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอ็นเอชเอส สำนักงานสาธารณสุขแห่งสกอตแลนด์ มีแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ยีนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัส อีโบลา รายแรกของประเทศแล้วที่เมืองกลาสโกว์ โดยเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่ช่วยต่อสู้กับการระบาดของเชื้ออีโบลา และเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเซียร์ราลีโอนเมื่อคืนวันอาทิตย์,แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้เดินทางโดยเครื่องบินของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ส จากเซียร์ราลีโอนผ่านสนามบินในเมืองคาซาบลังกา ประเทศโมร็อคโก และสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน และเดินทางถึงสนามบินเมืองกลาสโกว์ในเวลาประมาณ 23:30น. ตามเวลาท้องถิ่น,ผู้ป่วยรายนี้ถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงเช้ามืดวันจันทร์ หลังจากรู้สึกไม่สบาย และถูกแยกเดี่ยวในเวลา 7:50 น. โดยผู้ที่เป็นไปได้ว่าจะติดต่อกับผู้ป่วยรายนี้ทุกคนกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และรายใดที่มีความเสี่ยง จะถูกติดตามสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด,ด้านนาย นิโคลา สเตอร์เจียน หัวหน้าคณะรัฐบาลสกอตแลนด์ เรียกประชุมคณะกรรมาธิการฉุกเฉินของ เพื่อรับประกันว่าจะมีการใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา โดยนายสเตอร์เจียน ระบุในแถลงการณ์ว่า สกอตแลนด์เตรียมตัวสำหรับความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยในประเทศ มาตั้งแต่เกิดการระบาดในแอฟริกาตะวันตกแล้ว และเขาเชื่อมั่นว่าสกอตแลนด์เตรียมตัวได้อย่างดี,ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO: ฮู) เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับการระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตก โดยยอดผู้ติดเชื้อที่พบในประเทศกินี, เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น มีถึง 20,081 รายแล้ว และในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วถึง 7,842 คน
หน่วยงานสาธารณสุขของสกอตแลนด์ยืนยัน พบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในประเทศแล้ว โดยเป็นเจ้าหน้าที่ที่เดินทางกลับมาจากประเทศในแอฟริกาตะวันตก
null
อีโบลา,อีโบล่า,ข่าวอีโบลา,ผู้ป่วยอีโบลา,กรมควบคุมโรค,สาธารณสุข,อีโบลาระบาด,ยอดคนตาย,เชื้ออีโบลาระบาด,อีโบลาคือ,เชื้ออีโบลาคืออะไร,แอฟริกาตะวันตก,กินี,เซียร์ราลีโอน,ไลบีเรีย,สกอตแลนด์,องค์การอนามัยโลก,ฮู,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/471940
เทียบชั้นแองเจลีนา โจลี่ 5 สเต็ปง่ายๆ เมคริมฝีปากอิ่มเอิบสะกดสายตา
ฝันอยากจะมีริมฝีปากเต็มอิ่มแบบนั้นบ้าง แต่แทนที่จะรอสวรรค์สรรสร้าง ลองหันมาเนรมิตริมฝีปากอวบอิ่มง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่ 5 สเต็ปก็คงจะเวิร์กกว่าไม่น้อย … ,1. ทารองพื้นปากด้วย ลิปคอนซีลเลอร์,ไม่เพียงแต่เฉพาะใบหน้าที่ต้องการการปกปิด-เนียนสวย ริมฝีปากเบาบางของคุณก็ต้องการความเรียบเนียนด้วยเช่นกัน หลายคนอาจมองข้ามสเต็ปนี้เพราะคิดว่ายังไงผลลัพธ์ก็เหมือนกัน (ทำให้ริมฝีปากมีสีสัน ไม่ซีดแลดูป่วย) แต่จริงๆ แล้วการลง ลิปคอนซีลเลอร์ ก่อน จะช่วยสร้างความแตกต่างได้มากทีเดียว ไม่ว่าจะทำให้ริมฝีปากของคุณเรียบเนียนมากขึ้น กลบรอยย่น และผิวที่แตกลอกจนไม่เป็นที่สังเกต รวมทั้งยังทำให้มันดูอวบอิ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ สเต็ปนี้เพียงแค่คุณแต้มคอนซีลเลอร์เล็กน้อยลงบนจุดกึ่งกลางของริมฝีปากล่าง แล้วค่อยๆ เกลี่ยออกให้ทั่ว มันก็จะทำให้ริมฝีปากคุณดูเต็มอิ่มมากกว่าที่เคยแล้วล่ะ,2. วางโครงริมฝีปากของคุณ, ,ถ้าคุณต้องการเฟคริมฝีปากที่ดูบางไร้เสน่ห์ของคุณให้อวบอิ่มขึ้น ดึงดูดหนุ่มๆ รอบข้าง สเต็ปสองให้ลองใช้ ลิปดินสอไลเนอร์ วาง/สร้างโครงเบาๆ รอบริมฝีปาก (แค่วาดให้เลยออกมาจากเส้นริมฝีปากจริงเล็กน้อย ไม่เกินกว่ามิลลิเมตร) การร่างโครงริมฝีปากใหม่ของคุณเองนี้ จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณดูหนา-ใหญ่เต็มอิ่มมากขึ้น และหลังจากคุณวาดเส้นโครงเสร็จแล้ว ให้ใช้ลิปดินสอแท่งเดิม เติมระบายส่วนที่เหลือด้านในอย่างเบามือ ค่อยๆ ระบายให้ริมฝีปากด้านในเต็มเรียบเป็นเนื้อเดียวกัน (สีเรียบเสมอกัน) แล้วคุณจะไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่า มันจะช่วยให้ริมฝีปากคุณดูโดดเด่นขึ้นขนาดไหน ,3. ใช้ลิปสติกที่มีส่วนผสมความมันวาว,จากนั้นให้คุณใช้ลิปสติกที่มีความเป็นกลาง แต่ให้ความเงามัน ทาทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ปากดูอวบอิ่มชัดเจนมากขึ้น (จากความมันเงา) คุณควรหลีกเลี่ยงการทาปากในเฉดสีคล้ำๆ หรือมืดๆ เพราะนั่นจะทำให้เรียวปากดูเล็กลงแทนที่จะอิ่มเอิบ คุณลองนึกถึงเวลาคุณใส่เสื้อผ้าสีมืดๆ อย่างเดรสสีดำสิ มันก็ช่วยพลางหุ่นคุณให้ดูเพรียวบางขึ้น ดูผอม และตัวเล็กลงได้ ฉะนั้นแล้วสีลิปสติกก็เหมือนกัน ใช้หลักการเดียวกัน เราแนะให้คุณใช้สีชมพูอ่อนๆ หรือลิปมันที่มีความมันวาวก็พอ แค่นี้ก็ช่วยเติมความอ่อนหวานให้คุณผู้หญิงได้ไม่น้อยเลย ,4. ทาลิปกลอสทับอีกครึ่งหนึ่ง,ถ้าคุณอยากมีริมฝีปากที่เปล่งประกาย ดูชุ่มชื่น เย้ายวน และอิ่มเอิบมากกว่านี้ ให้คุณเติมลิปกลอสมันวาวเล็กน้อยทับลงอีกชั้นหนึ่ง มันจะช่วยทำให้ริมฝีปากคุณเพอร์เฟกต์ได้อย่างไม่มีที่ติ และหากในระหว่างวันริมฝีปากของคุณเริ่มแห้ง ความชุ่มชื่นเริ่มจางหาย เราแนะนำให้คุณใช้ แค่ลิปกลอส มาแต่งแต้มทาบริเวณกึ่งกลางของริมฝีปากล่าง (หรือทาให้ทั่วริมฝีปากก็ไม่ว่ากัน สำหรับสาวๆ ที่ชอบให้ริมฝีปากเจ่อหน่อยๆ) ซึ่งจะช่วยเติมความมั่นใจให้ริมฝีปากเนียนสวย ดูมีมิติน่ามอง และมีออร่าสะกิดสายตาหนุ่มๆ มากขึ้น เพียงแค่แท่งเดียวก็เอาอยู่ เลิศเว่อร์สุดๆ แล้ว,5. แต่งแต้มริมฝีปากด้วยไฮไลต์-ชิมเมอร์,สเต็ปสุดท้ายนี้ สำหรับสาวคนไหนที่ต้องการให้ริมฝีปากดูโอ่อ่าอลังการ เปล่งประกายความอิ่มเอิบแบบเต็มสตรีม ก็ให้เติมไฮไลต์ หรือชิมเมอร์สีขาว (กากเพชร) เล็กน้อย ลงบนส่วนของขอบริมฝีปากด้านบนที่เป็นเหมือนคันศรกามเทพ (Cupids bow) มันจะช่วยเพิ่มความลึกของริมฝีปากเล็กน้อย ให้ออร่าเป็นประกายเมื่อแสงสะท้อน และทำให้ริมฝีปากคุณดูเยิ้ม เจ่อๆ แลดูอวบอิ่มจากการบำรุงเต็มที่ ไฮไลต์จะสร้างความลวงตาให้ริมฝีปากมีเส่นห์มากขึ้นกว่าเดิม จนใครๆ ที่เห็นก็อยากมีริมฝีปากหนาอิ่มเอิบเหมือนคุณ … เชื่อเถอะ หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นริมฝีปากที่ธรรมชาติสรรค์สร้างมาให้คุณซะด้วยซ้ำ,ที่มา : ,womenshealthmag.com
นอกจากหน้าตา และเรียวขาเนียนสวยจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้หนุ่มๆ เข้าหาแล้ว ริมฝีปากเย้ายวนน่าดูดดื่มก็ชวนสะกดสายตาได้ไม่แพ้กัน เคยไหมที่คุณอิจฉานักแสดงสาวอันมีริมฝีปากอิ่มเอิบชวนหลงใหลอย่าง แองเจลีนา โจลี่ หรือ ไคลี่ เจนเนอร์ และ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ปากอิ่มเอิบ,ปากอวบอิ่ม,ลิปคอนซีลเลอร์,วาดโครงปาก,ลิปสติกมันวาว,ลิปกลอส,ชิมเมอร์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,แองเจลีนา โจลี่
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/501513
ดาว์พงษ์ รุกงานวิจัยรับไทยแลนด์ 4.0 จี้วางแผนเตรียมคนตั้งแต่เด็กจนโต
ว่า คณะทำงานฯได้มานำเสนอแนวคิดเรื่องของการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับไทยแลนด์ 4.0 โดยภาพรวมการวิจัยเห็นตรงกันว่าต้องให้น้ำหนักประเด็นที่ต้องการศึกษาวิจัยให้ชัดเจน ส่วนเรื่องงบประมาณต้องมีการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ของการพัฒนาด้านการศึกษา ตนได้ให้ข้อเสนอแนะว่า การวางแผนวิจัยและพัฒนาควรต้องมองตั้งแต่การเตรียมความพร้อมคนตั้งแต่วัยเด็กจนถึงโต,รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ตนได้ให้โจทย์ คณะทำงานฯ กลับไปเตรียมข้อมูลและรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยต้องเสนอให้เห็นว่าปัญหาของการวิจัยและพัฒนาประเทศมีอะไรบ้าง หน่วยงานวิจัยในประเทศไทยปัจจุบันมีกี่หน่วย สังกัดใดบ้าง และทำการวิจัยพัฒนาเรื่องอะไร ขณะเดียวกัน ขอให้แจกแจงด้วยว่างานวิจัยเรื่องใดที่จัดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำ และงานวิจัยในแต่ละระดับ อาทิ ระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องทำ นอกจากนี้ ขอให้ ทปอ. ยกตัวอย่างงานวิจัย 1 ชิ้น อาทิ การวิจัยเรื่องหุ่นยนต์ มีหน่วยงานใดเกี่ยวข้องบ้าง ใครเป็นเจ้าภาพหลักและใครเป็นหน่วยเสริม ตรงนี้จะสะท้อนภาพการทำงานวิจัยได้ชัดเจนและเข้าใจง่ายมากขึ้น,พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้รับทราบปัญหา ธรรมาภิบาลและปัญหาการจัดการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเบื้องต้นพบปัญหา 12 แห่ง เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ 2 แห่ง และเอกชน 10 แห่ง พร้อมมีมติตั้งคณะกรรมการกลางสอบสวนข้อเท็จจริง 2 คณะนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ส่วนตัวคิดว่า กกอ.และเลขาธิการ กกอ.น่าจะดูแลเรื่องนี้ได้ และในการประชุมผู้บริหารมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ,ทั้งรัฐและเอกชนตนก็ได้เน้นย้ำให้ทุกมหาวิทยาลัยได้ตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องธรรมาภิบาล อีกทั้งได้รับฟังความเห็นของผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาว่าคิดเห็นกันอย่างไร ตนจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่มหาวิทยาลัยคิด และจะได้ชี้แจงเรื่องที่ ศธ.ต้องการให้ช่วยกันขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติต่อไป.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังรับฟังการนำเสนอความก้าวหน้าทางการดำเนินการขับเคลื่อนตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของคณะทำงานด้านการวิจัยของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
null
นโยบายไทยแลนด์ 4.0,ทปอ.,ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ,กระทรวงศึกษาธิการ,ปฏิรูปการศึกษา,คณะกรรมการการอุดมศึกษา,การจัดการเรียนการสอน,สถาบันอุดมศึกษา,มหาวิทยาลัยรัฐ,มหาวิทยาลัยเอกชน,ข่าวการศึกษา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/688258
สั่งสอบใช้งบ อบต.ผิด ไม่งั้นนายกโดนด้วย
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.หนองบัว งบประมาณ98,500 บาท (เก้าหมื่นแปดพันห้าร้อยบาท) เมื่อวันที่5เม.ย.2559 ล่าสุดได้มีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับนางอรพิน อภัยแสน ผอ.กองการศึกษา อบต.หนองบัว เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการพื้นฐานต้องบรรจุอยู่ในโครงการ/งบประมาณของ อบต.แต่กองการศึกษา อบต.ใช้อำนาจพิจารณาอนุมัติเองนั้น,ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายมลชัย จันทโรธร นายอำเภอนามน ในฐานะผู้กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เมื่อผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯสรุปว่ามีมูล ในขั้นตอนต่อไปทางอำเภอจะให้นายก อบต.หนองบัว ตั้งกรรมการสอบทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องและดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด หากนายก อบต.ไม่ปฏิบัติตาม นายก อบต.อาจจะเป็นผู้ถูกสอบสวนเสียเอง,ด้าน น.ส.กิ่งฟ้า วรรณโณมัย รก.หัวหน้าศูนย์เด็กเล็ก อบต.หนองบัว เปิดเผยว่า ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุและได้เซ็นชื่อกำกับไว้ในเอกสารต่างๆจริง โดยเข้าใจว่า ผอ.กองการศึกษาทำมาถูกต้องแล้ว หากการสอบวินัยมาถึงตนก็พร้อมที่จะให้ความจริงด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก่อนหน้านี้เคยทำบันทึกเสนอต่อนายก อบต.หนองบัวไว้แล้วขอยืนยันว่าจะให้การไปตามนั้น ขอให้พนักงานส่วนท้องถิ่นทั้งหลายพึงระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และให้ดู อบต.หนองบัวเป็นตัวอย่าง หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาไม่มีใครช่วยได้.
จากกรณีนายมลชัย จันทโรธร นายอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้นายเยื้อน เขจรศาสตร์ นายก อบต.หนองบัว ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการว่าจ้างการปรับปรุงซ่อมแซมต่อเติมอาคารและกั้นห้อง
null
หนองบัว,มลชัย จันทโรธร,งบประมาณ,ซ่อมแซมต่อเติมอาคาร,เยื้อน เขจรศาสตร์,กิ่งฟ้า วรรณโณมัย,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/633496
ตูบแสนรู้ ช่วยเจ้าของเรี่ยไรเศษอาหาร หาเลี้ยงพวกอีกกว่า 30 ตัว
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบลุงวัยกว่า 50 ปี  ปั่นจักรยานประดิษฐ์ต่อพ่วงท้ายด้วย โครงไม้ทำเป็นที่วางสิ่งของความยาวกว่า 5 เมตร มีสุนัขสีดำใส่หมวกนั่งซ้อนท้าย ในท่านั่งขับรถยนต์ โดยขาหน้าทั้งสองข้างเกาะพวงมาลัย และมีร่มกางกันแดดปกคลุม ด้านท้ายมีกระป๋องใส่เศษอาหาร วิ่งอยู่บนถนนสุขุมวิท เส้นทางขาเข้าระยอง บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สร้างความแปลกประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็น และชื่นชมกับความแสนรู้ของเจ้าสุนัข เพื่อขอเศษอาหารทิ้งแล้วตามร้านอาหาร,จากการสอบถามคุณลุงเจ้าของรถจักรยานปั่นคู่เจ้าตูบแสนรู้ ทราบชื่อ นายสว่าง พลทะมัย อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างตัดหญ้า ส่วนเจ้าสุนัขแสนรู้ชื่อ หน้าสั้น พันธุ์พุดเดิ้ล เพศเมีย อายุ 5 เดือน กำลังกลับจากรับจ้างตัดหญ้า ระหว่างเดินทางกลับที่พัก จะพากันแวะเรี่ยไรเศษอาหารที่ขอจากร้านอาหาร เพื่อนำเศษอาหารที่ได้มา ไปให้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้กว่า 30 ตัว ได้ประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ,ผู้สื่อข่าวได้ติดตามตลอดทาง กระทั่งถึงที่พักปลูกเป็นกระต๊อบ อยู่ในพื้นที่ป่าหญ้ารกร้าง ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน เมื่อใกล้ถึงที่พัก พบว่าจะมีสุนัขจรจัดจำนวนมาก ออกมาเฝ้ารอรับลุงสว่างด้วยความดีใจ และรู้ว่าลุงสว่างจะกลับมาพร้อมอาหาร เป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างมาก เพราะอาหารที่ลุงสว่างนำกลับมานั้น เป็นเศษอาหารเหลือกิน ไม่มีความสะอาด บ้างก็เน่าเสีย แต่สุนัขทุกตัวก็ต้องกินไปตามอัตภาพ และเพื่อความอยู่รอด,ด้านนายสว่าง กล่าวว่า อดีตมีอาชีพขับรถเทรลเลอร์ ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน กลับไม่เป็นเวลา ทำให้สุนัขที่เลี้ยงไว้หลายตัวต้องอยู่อย่างอดมื้อกินมื้อ ประกอบกับสุนัขได้ออกลูกเพิ่มสมาชิก จึงตัดสินใจลาออกจากงาน มาประกอบอาชีพตัดหญ้าและรับจ้างทั่วไป เพื่อมีเวลาดูแลสุนัขอย่างเต็มที่ ทุกๆ วันที่ออกไปทำงาน เมื่อเห็นสุนัขจรจัดที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามท้องถนน ด้วยความเวทนาก็จะเก็บกลับมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ปัจจุบันมีสุนัขต่างสายพันธุ์ จำนวนมากถึง 32 ตัว,ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดภาระมากขึ้น รายได้ไม่พอเลี้ยง แต่ก็ไม่อาจทอดทิ้งสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้ จึงต้องดิ้นรนตัดสินใจต่อเติมจักรยานคู่ใจ ทำเป็นที่วางของ และที่นั่งของสุนัขแสนรู้ พาเจ้าหน้าสั้นซ้อนออกไปทำงานด้วย และเร่ขอเศษอาหารเหลือกินจากร้านอาหารต่างๆ เมื่อเจ้าของร้านและชาวบ้าน เห็นความแสนรู้ของเจ้าหน้าสั้น ประกอบกับความเวทนา ก็จะให้อาหารและเศษอาหารติดมือกลับมาเกือบทุกครั้ง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อจำนวนสุนัข 30 กว่าชีวิต หากวันไหนโชคดี อาหารไม่เน่าเสีย สามารถเก็บได้กิน 2 มื้อ แต่หากเน่าเสียก็อาจได้กิน 1 มื้อ หรือต้องอดไปทั้งวัน
เจ้าตูบแสนรู้ ปั่นรถจักรยานพ่วงท้าย ช่วยเจ้าของเรี่ยไรเศษอาหาร ตามร้านบริเวณ กม.1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ เพื่อหาเลี้ยงพวกตูบอดอยากอีกกว่า 30 ตัว
ข่าว,ทั่วไทย
สุนัข,สุนัขแสนรู้,จักรยานประดิษฐ์,สัตหีบ,ชลบุรี,สุนัขจรจัด,เลี้ยงสุนัข,หมาแสนรู้,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/479577
มาแล้ว อลิสสัน พูดถึงจังหวะโดนฉกไปยิง โวยแข้งหงส์แดง 1 ราย
วันที่ 2 ก.ย. ความเคลื่อนไหวหลังจบศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 มีประเด็นให้ต้องพูดถึงเรื่องความผิดพลาดของ อลิสสัน เบคเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมลิเวอร์พูล,สำหรับจังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 63 เมื่อ อลิสสัน ได้บอลในเขตโทษที่ส่งคืนมาจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แล้วพยายามจะเลี้ยงหลบ แต่โดน เคเลชี อิเฮียนาโช ฉกบอลไปจ่ายให้ ราชิด เกรซซัล ยิงเข้าประตูไปให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 1-2,หลังจบเกม อลิสสัน กล่าวว่า ผมโกรธตัวเองกับความผิดพลาดนั้นที่ทำให้ทีมต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ผมทำผิดพลาดในจังหวะอ่านการเล่น ผมไม่ได้รับการจ่ายบอลที่ดีนัก และเรามีการพูดคุยเรื่องนี้กันในห้องแต่งตัว และผมพูดกับ ฟาน ไดค์ ว่านั้นไม่ใช่การจ่ายบอลที่ดี แต่ผมก็น่าจะเตะมันออกไปเลยมากกว่า ผมอยากเก็บบอลไว้เพื่อรักษาการครองบอลของทีม ตอนนี้ผู้คนคงจะวิจารณ์ผม แต่ผมคงไม่โง่และทำผิดพลาดซ้ำอีก เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา มันเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นของผม (การขึ้นเกมจากด้านหลัง)
อลิสสัน เบคเกอร์ ผู้รักษาประตูจอมเทคนิคของลิเวอร์พูล ออกมาชี้แจงหลังโชว์เหวอจนทีมเสียประตูในเกมบุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 พร้อมโวยเพื่อนร่วมทีม 1 ราย
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
อลิสสัน เบคเกอร์,เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,ลิเวอร์พูล,เลสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1366822
แมตช์ผีบอก : ผลพวงเมื่อเป็นแชมป์ของเลสเตอร์ ซิตี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ใครที่ได้ชมเกมถ่ายทอดสดคู่ของเลสเตอร์กับเอฟเวอร์ตัน คงจะชื่นมื่นกันเป็นแถว เพราะมันช่างเป็นภาพที่สุดแสนประทับใจ ทั้งผลการแข่งขัน รวมไปถึงพิธีการสำคัญของการเฉลิมฉลองแชมป์ ภาพที่เราเห็นท่านประธานสโมสรอย่าง,คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา, และ,คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, รองประธานสโมสร เดินแถวนำเหล่าบรรดาทีมงานของ,สโมสรเลสเตอร์ซิตี้,ลงสู่สนาม เพื่อรอคอยและต้อนรับเหล่าบรรดานักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ผู้ซึ่งทำงานอย่างหนักตลอดทั้งฤดูกาล อันสุดแสนมหัศจรรย์ ลงมาเถลิงบัลลังก์แชมป์ ต่อหน้าแฟนบอลที่เข้ามาเป็นสักขีพยาน เต็มความจุของสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ผมบอกเลยว่ามันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ ที่เราได้เห็นความสำเร็จของคนไทยที่เฝ้าทำงานอย่างหนัก หลังจากที่เข้าไปซื้อกิจการของสโมสรแห่งนี้มาเมื่อปี 2010 ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ทุ่มเทและทำงานอย่างหนัก วันนี้เราได้เห็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่หาคำพูดไหนมาพูดก็ไม่หมด,และยิ่งปลาบปลื้มไปมากกว่านั้น ซึ่งมันก็คือ ภาพที่เหล่าบรรดาผู้จัดการทีมสตาฟฟ์ รวมไปถึงตัวนักเตะ เดินลงสนาม เข้ามาสวมกอด 2 ผู้บริหารของทีมด้วยความรักและเคารพในตัวของทั้งสอง จนมาถึงบรรยากาศที่ทุกคนรอคอย หลังจากทีมงานทั้งหมดทยอยรับเหรียญรางวัลแชมป์อันทรงเกียรติ ก็มาถึงคนสำคัญอย่างกัปตันทีม เวส มอร์แกน เดินมารับเหรียญแชมป์และรอการรับมอบถ้วยแชมป์ที่วางเด่นสง่าวาววับ มันช่างเป็นวินาทีที่ตื่นเต้นมากๆ ซึ่งผมเชื่อได้เลยว่า คนหลายร้อยหลายพันคนน่าจะสัมผัสได้ถึงแววตาของทั้ง 2 คน ไม่ว่าจะเป็น รานิเอรี และมอร์แกน ที่เฝ้าถวิลหาและอยากจะเดินเข้าไปหยิบถ้วยใบนั้น และพอทั้ง 2 คนยื่นมืออันสั่นเทาไปประคองถ้วยรางวัลเท่านั้นล่ะครับ ,ภาพของการระเบิดอารมณ์ดีใจแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวก็ระเบิดออกมาทันที พร้อมกับเหล่าบรรดาเพื่อนร่วมทีมที่กรูกันเข้ามาแสดงความดีใจออกมาอย่างเต็มที่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และภาพประทับใจก็ทยอยออกมาให้เห็นอย่างมากมาย แต่ไม่มีภาพไหนประทับใจไปกว่าภาพที่ ท่านประธานและรองประธานเดินชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกไปทั่วสนาม พร้อมกับพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงของเราเดินไปรอบสนาม นี่สิครับ ยิ่งทำให้เราประทับใจมากยิ่งขึ้นอย่างหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้จริงๆ,ซึ่งนั่นก็คือผลพวงจากการทุ่มเทและทำงานอย่างหนักของทั้งเจ้าของทีมและเหล่าบรรดาทีมงาน ที่ฝ่าฟันมาจนถึงฝั่งฝันได้ และมันก็พลอยได้ผลพวงการตอบแทนกลับมาอย่างมากมาย อย่างแรกเลยนั่นก็คือความคึกคักของชาวเมืองเลสเตอร์ ที่ผมเห็นภาพบรรยากาศก่อนเกมที่จะแข่งขันในวันเสาร์จากน้องๆ ที่ได้ไปเป็นสักขีพยานในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขายของที่ระลึกของสโมสร ซึ่งเรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างขายเกลี้ยงแทบจะไม่มีเหลือ หรือแม้กระทั่งวันแข่งที่มีการจำหน่ายชุดแข่งฤดูกาลใหม่ ก็มีแฟนบอลจำนวนมากมายืนต่อแถวซื้อกันอย่างมากมายจนเกลี้ยงร้าน,นี่ยังไม่รวมอย่างอื่นที่กำลังตามมานะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ของสโมสร ที่ต้องบอกเลยว่ามันจะมีเม็ดเงินเข้ามาจำนวนมหาศาล ทั้งเรื่องราวของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเองก็ดี ทั้งในส่วนของพรีเมียร์ลีกเองก็ดี หรือแม้กระทั่งเงินก้อนโตที่จะได้จากการได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ก็ประมาณ 210 ล้านปอนด์ ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ หนึ่งหมื่นล้านบาท ขอบอกเลยว่าต้องใช้คำว่าโอ้โหเลยนะครับ ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว พวกเค้ามีรายได้เข้าสโมสรอยู่ประมาณ 100 ล้านปอนด์ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดแบบชัดเจนจริงๆ หลังจากการคว้าแชมป์มาครอบครอง และมันจะสร้างมูลค่ามหาศาลอีกมากยิ่งขึ้น ถ้าพวกเค้ายังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ,แฟนบอลหลายคนก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ซึ่งผมก็หวังเช่นเดียวกัน เพราะหลังจากนี้ไปแล้ว ความกดดันต่างๆ มันก็ย้อนกลับมาหาตัวสโมสรอีกมากมาย ไม่ต่างจากเม็ดเงินที่ได้มา คราวนี้ล่ะครับเราจะได้เห็นกันแล้วว่า เมื่อพวกเค้าอยู่ภายใต้ความกดดันมากมายมหาศาล พวกเค้าจะทำผลงานได้ดีมากน้อยเพียงใด ซึ่งหลายๆ คนมองว่า ไม่น่าจะเป็นเหมือนฤดูกาลนี้แน่นอน เพราะภายในฤดูกาลหน้าพวกเค้าจะต้องเจอกับ เสือ สิงห์ กระทิง แรด แบบจริงๆ จังๆ ทั้งในลีกเองก็ดี รวมไปถึงเวทียุโรป ที่เฝ้ารอคอยต้อนรับทีมน้องใหม่ถอดด้ามอย่างพวกเค้าอีกด้วย,ซึ่งผมถือว่านี่คือบททดสอบอีกก้าวหนึ่งของทีมเลยนะครับ ว่าถ้าพวกเค้าอยากประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก พวกเค้าต้องผ่านเรื่องราวพวกนี้ไปให้ได้ ซึ่งถ้าเปรียบเลสเตอร์เป็นเรือ เค้าก็คือเรือเล็กลำหนึ่ง ที่ถึงเวลาออกจากฝั่งไปเผชิญโลกกว้างใหญ่ไพศาล แม้รู้ดีว่าภายนอกฝั่งนั้นจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรค และคลื่นลูกใหญ่รออยู่ แต่ถ้าเค้ายังคงเฝ้ามองจุดหมายปลายทางข้างหน้าอยู่ในฝั่งเหมือนเช่นเดิม พวกเค้าก็จะไม่ได้รับรู้เลยว่า ที่สุดปลายขอบฟ้านั้นมันมีอะไรรอพวกเค้าอยู่,และนี่คือทั้งหมดทั้งมวลของผมในวันนี้ครับ วันนี้คงไม่ทิ้งท้ายเรื่องของการวิเคราะห์บอลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แค่อยากจะบอกว่ารอลุ้นพร้อมกันไปเลยนะครับ ในวันอาทิตย์นี้ที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะลงเตะพร้อมกันหมดทุกคู่ รักใครชอบใครก็ตามเชียร์กันได้นะครับ แล้วสัปดาห์หน้าเราจะกลับมาพูดถึงเรื่องราวทั้งหมดตลอด 1 ฤดูกาลของฟุตบอลยอดฮิตขวัญใจมหาชนคนไทยกัน วันนี้ขอบคุณทุกท่านในการติดตาม ลาไปก่อน สวัสดีครับ
คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา,คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา,สโมสรเลสเตอร์ซิตี้
คนดังนั่งเขียน
คนดังนั่งเขียน,ป๋องกพล,กพลทองพลับ,ป๋อง กพล,กพล ทองพลับ,ป๋อง กพล ทองพลับ,แมตช์ผีบอก,คนดังไทยรัฐ,คอลัมน์ป๋องกพล,ป๋องฟันธง,กีฬา,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,คอลัมน์คนดัง,คอลัมน์ไทยรัฐ,thairath,ไทยรัฐ,เลสเตอร์ ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา,อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา,สโมสรเลสเตอร์ซิตี้,แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ,ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/content/618189
ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชาเงียบเหงา หลังประกาศกฎหมายแรงงาน
วันนี้ ( 2 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ก่อนเวลา 06.00 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีชาวกัมพูชานับร้อยคนจากฝั่งจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา มารอเวลาด่านเปิด เพื่อข้ามมายังฝั่งไทย แรงงานกลุ่มนี้ เดินทางเข้ามาโดยใช้บัตรผ่านแดน หรือ บอร์เดอร์พาส และอิมมิเกรชั่น คาร์ด ซึ่งสามารถเข้ามาค้าขายและรับจ้างได้เฉพาะจุดผ่อนปรนเขตการค้าฝั่งไทย คือบริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมฐานหลบหนีเข้าเมืองแม้พระราชกำหนดการบริหารจัดการคนต่างด้าว พ.ศ.2560 จะไม่มีผลกับแรงงานกลุ่มนี้ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน แต่พวกเขายังต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพที่ดีในฝั่งไทยได้ในระยะยาวขณะที่ แรงงานชาวกัมพูชาอีก 780 คน ที่เข้าไปเป็นแรงงานทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรีจ. ปทุมธานี จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สระแก้ว ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผลักดันกลับประเทศกัมพูชาผ่านทางด่านปอยเปต เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เพราะเข้าเมืองผิดกฎหมาย และไม่มีใบอนุญาตทำงาน กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ที่เพิ่มค่าปรับและโทษรุนแรงขึ้น ทำให้แรงงานกลุ่มนี้เกิดความกลัวและยอมกลับประเทศต้นทาง ซึ่งตลอดช่วง 9 วันที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ผลักดันแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศแล้ว 3238 คนนางสมพร สุวรรณทล ผู้ประกอบการบริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สะท้อนว่า กฎหมายใหม่ที่เพิ่มโทษทั้งนายจ้างและลูกจ้างต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน อาจกระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่จำเป็นต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ ในช่วงจำเป็นเร่งด่วนในมุมมองผู้ประกอบการในพื้นที่มองว่า แม้บทลงโทษและค่าปรับนายจ้าง-ลูกจ้างที่ฝ่าฝืนรุนแรงขึ้น อาจทำให้ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งไม่กล้าแบกรับความเสี่ยงจ้างงานแรงงานต่างด้าวช่วงนี้ รวมทั้งกำลังคนทำงานราคาถูกอาจจะหายไป แต่นี่ก็ยังเป็นผลดีต่อการตรวจสอบกรณีกระทำผิดเกิดอาชญากรรม และค้ามนุษย์
บริเวณจุดผ่านแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นเส้นทางสำคัญที่แรงงานชาวกัมพูชาจะข้ามมาทำงานที่ฝั่งไทย ภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังกฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ประกาศใช้ ทำให้แรงงานกัมพูชาส่วนหนึ่งเบาบางถนัดตา
ภูมิภาค
พระนครศรีอยุธยา,สระบุรี,ปทุมธานี,ฉะเชิงเทรา,สระแก้ว บ้านคลองลึก,อรัญประเทศ,แรงงาน,กัมพูชา,ต่างด้าว,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/263997
ผ่าเงินกู้ 4 แสนล้าน พบหลายหน่วยงานเสนอโครงการเบิกงบตัวเลขพุ่ง 7 แสนล้าน
สภาพัฒน์ เผยหลายหน่วยงานเสนอโครงการเบิกงบประมาณ 4 แสนล้านฟื้นฟูประเทศ ดันยอดขอใช้งบแตะ 7 แสนล้าน ระบุ ไม่สำคัญไม่ให้ ไม่ตรงวัตถุประสงค์ตีตกแน่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงระหว่างนี้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.63 หลายหน่วยงานกำลังอยู่ในช่วงการยื่นโครงการเพื่อขอใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400000 ล้านบาท กับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ล่าสุด นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ณ วันที่ 5 มิ.ย.63 เสนอเข้ามาแล้ว 28425 โครงการ วงเงิน 590000 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ยังต้องตัดทอนอีก และยังเปิดให้เสนอโครงการรอบ 2 จนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้ทั้งนี้ สภาพัฒน์ ได้วางกระบวนการให้ประชาชน ประชาสังคมติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินกู้ ตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอขอโครงการการอนุมัติ การดำเนินโครงการ จนถึงการประเมินผลโครงการ ผ่านเว็บไซต์ ThaiME หรือ http://thaime.nesdc.go.th ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำนายทศพร กล่าวอีกว่า โครงการทั้งหมดมาอยู่ในถังข้อมูลสภาพัฒน์แล้ว และช่วยกันดูว่าโครงการใด ใช่เลย มีประโยชน์ ตอบโจทย์จริงๆ จะทำให้การพิจารณารอบคอบมากขึ้น สำหรับโครงการที่เสนอมาแล้ว ได้แก่1. โครงการเพื่อปรับปรุงการผลิต การท่องเที่ยว เกษตรมูลค่าสูง 91 โครงการ วงเงิน 220000 ล้านบาท2. เศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจชุมชน เสนอมาจากท้องถิ่นใน 55 จังหวัด 28331 โครงการ วงเงิน 372532 ล้านบาท3. รวมถึง 13 กระทรวงและ 4 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เสนอมา 115 โครงการ วงเงิน 168889 ล้านบาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 761421 ล้านบาทที่เสนอมา ยังไม่รวมการแจกคูปองท่องเที่ยว และยังมีข้อเสนออีก 3 โครงการในการทำแพลตฟอร์มดิจิทัล สภาพัฒน์จะกลั่นกรองเบื้องต้นจนถึงวันที่ 15 มิ.ย.นี้ โครงการใดไม่ตรงวัตถุประสงค์จะแจ้งเลยว่าไม่ได้ เช่น สร้างถนน สนามบิน นายทศพร กล่าวนอกจากนี้ นายทศพร ยังระบุอีกว่า ส่วนโครงการใดต้องปรับแต่ง จะให้นำไปปรับปรุงแล้วเสนอกลับมารอบ 2 จนถึงวันที่ 9 ก.ค.63 รวมถึงคนที่ส่งโครงการรอบแรกไม่ทัน ยังส่งมาได้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้ สำหรับการกลั่นกรอง มีดังนี้- ขั้นตอนแรก คณะทำงานจะวิเคราะห์โครงการ เปิดให้ประชาชนร่วมกลั่นกรอง- ขั้นตอนที่สอง คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะพิจารณา- ขั้นตอนที่สาม เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยลอตแรกจะเสนอ ครม.อนุมัติเดือน ก.ค.นี้ โครงการสุดท้ายต้องทำให้เสร็จก่อนเดือน ธ.ค.64(แนวทางอนุมัติโครงการดูได้ ที่นี่)ส.ส.หมดสิทธิ์รุมทึ้งเงินกู้ 4 แสนล้านสรุป พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน รัฐไม่ทิ้งใคร ช่วยกันพยุงเศรษฐกิจต้านโควิด-19
สภาพัฒน์ เผยหลายหน่วยงานเสนอโครงการเบิกงบประมาณ 4 แสนล้านฟื้นฟูประเทศ ดันยอดขอใช้งบแตะ 7 แสนล้าน ระบุ ไม่สำคัญไม่ให้ ไม่ตรงวัตถุประสงค์ตีตกแน่
ข่าว,เศรษฐกิจ
เงินกู้ 4 แสนล้าน,สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,ฟื้นฟูเศรษฐกิจ,แจกเงินเที่ยว,พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน,พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้าน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1864278
สร้างแนวร่วมกรมศิลป์-อปท.ดูแลโบราณสถาน
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ที่ประชุมได้มีการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่) พ.ศ. ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้เสนอต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จากนั้นได้ขอให้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอความเห็นตามอำนาจหน้าที่และภารกิจของกรมศิลปากร ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ ให้อำนาจหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และดูแลรักษาโบราณสถาน และโบราณวัตถุเฉพาะที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ และความสำคัญในระดับชุมชน และระดับท้องถิ่น,รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ อปท. ขออำนาจในการประกาศขึ้นทะเบียนและบูรณะโบราณสถาน ที่มิได้อยู่ในความครอบครองของผู้ใด และยังไม่ได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร โดยเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีช่องโหว่ และทำให้การทำงานขาดเอกภาพ เพราะการขึ้นทะเบียนโบราณสถานนั้นจะต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ทั้งนี้ได้เปิดให้ อปท.มีส่วนในการสำรวจและจัดทำข้อมูลสถานที่ต่างๆ เพื่อขอให้กรมศิลปากรประกาศโบราณสถานได้ ทั้งยังแสดงความเห็นถึงกรณีที่ อปท. ขอออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าชมโบราณสถาน,โดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะค่าธรรมเนียมเข้าโบราณสถาน ถือเป็นผลประโยชน์อันเกิดจากโบราณสถาน ซึ่งควรจะเป็นเงินที่ต้องนำส่งเข้าเป็นรายได้กองทุนโบราณคดี เพื่อใช้จ่ายในกิจการ งานโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ แต่หาก อปท.ต้องการมีรายได้หาประโยชน์จากโบราณสถานแล้ว สามารถเข้าไปดำเนินการในเรื่องอื่นๆตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมศิลปากรกำหนด.
โดยที่ประชุมเห็นว่าควรนำร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มารวมกับของการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.โบราณสถานฯ ของ วธ. และให้ วธ.เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ เพื่อร่วมกันพัฒนาการดูแลโบราณสถานในท้องถิ่นต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและถูกต้อง
null
ข่าวการศึกษา,ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร,สร้างแนวร่วม,กรมศิลปากร,อปท.,ดูแลโบราณสถาน,โบราณวัตถุ,ศิลปวัตถุ,พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
https://www.thairath.co.th/content/762507
GSB E-CUP ได้ตัวเซียนวินนิ่ง เข้ารอบไฟนอลที่ เดอะ มอลล์ บางกะปิ
การแข่งขัน รายการ GSB E-CUP 2019 ณ สนามแข่งขัน PRINCESS BEJARATANA ARENA ESPORTS ภายในธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน เมื่อวันที่ 28-29 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้โฉมหน้าตัวแทนนักกีฬาที่จะได้เข้าสู่รอบ Grand Final เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประเภทเดี่ยวมีผู้ที่เข้ารอบทั้ง 8 คน ได้แก่,1. คุณจิรพันธุ์ พลบูรณ์,2. Le Doan Thanh Tam,3. Rizky Faidan,4. คุณณัชพล แต้วัฒนาสกุล,5. QUACH TUAN DUC,6. Ngo Vinh Quang,7. Le Do Hoang Quan,8. NGUYEN THANH TUNG,ส่วนผู้เข้ารอบประเภททีม ทั้งหมด 8 ทีม ได้แก่ ,1. Mochammad Yos Krisna / Rizky Faidan ,2. Sakti Aulia Sulistyo / Mohamad Akbar Paudie,3. ธาดา สิทธิบุศย์ / ธนชิตบุญรัตน์,4. Nguyen Phuc Dang Khoa / Luong Trong Binh,5. ณัฐพล คดฤทธิ์ / อภิชา อินทรธรรม ,6. Rizal Danyarto / Adyatma Priady ,7. เทิดพงษ์ พลเภรีย์ / พิรีย์ วงศ์พิริยะสิริ ,8. ธนกฤต บุญฤทธิ์ภักดี / เธียรวิทิต ศรีนาม,สำหรับการแข่งขันการแข่งขัน GSB E-CUP 2019 รอบ Grand Final จะจัดขึ้นที่เดอะ มอลล์ บางกะปิ โดยในวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. 2562 จะเป็นการแข่งขันประเภทเดี่ยว (1vs1) ทั้งหมด 16 คน และวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. 2562 จะเป็นการแข่งขันประเภททีม (2vs2) ทั้งหมด 16 ทีม ซึ่งจะมีตัวแทนจากประเทเทศไทย, อิหร่าน, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, โปรตุเกส และ เนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมศึกตัดสินในครั้งนี้ นอกจากการแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นของการแข่งขันแล้ว ยังมีการแสดงโชว์จากสาวๆ BNK48 ที่จะเข้ามาช่วยสร้างสีสันให้บรรยากาศสนุกสนานมากขึ้นไปอีก
GSB E-CUP ได้มือโปรเข้ารอบแกรนด์ไฟนอล ที่จะตัดสินแชมป์กันในวันที่ 5-6 ต.ค.นี้ ที่ เดอะ มอลล์ บางกะปิ โดยจะมี BNK48 เข้ามาช่วยสร้างสีสันให้กับการแข่งครั้งนี้ด้วย
กีฬา,E-Sport
GSB E-CUP 2019,วินนิ่ง,PES 2019,เดอะมอลล์ บางกะปิ
https://www.thairath.co.th/sport/esport/1672850
อภ.ยอมรับ N95 - PPE ยังไม่พอ ประกาศหาผู้ประกอบการเสนอขาย
วันนี้ (18 เม.ย.2563) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม แถลงสถานการณ์การจัดสรรและกระจายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ โดยระบุว่าสำหรับหน้ากาก N95 กระทรวงสาธารณสุขยังต้องการอีกมาก เนื่องจากตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านชิ้น สำหรับรองรับการทำงานของทุกภาคส่วน ซึ่งในเดือนนี้หาได้ 580000 ชิ้นขณะที่สถิติการใช้ต่อวันอยู่ที่ 13900 ชิ้น แต่ความต้องการใน 1 เดือนอยู่ที่ประมาณกว่า 600000 ชิ้น จึงถือว่ายังไม่สามารถสรรหามาให้เพียงพอการใช้งานได้ แต่ทุกภาคส่วนต่างพยายามพัฒนาสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างกรณี ซิลิโคนแมส N99 ซึ่งผลิตโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ก็ได้พัฒนาหน้ากาก N99 ขึ้นมา โดยสามารถใช้ซ้ำหลายครั้งได้ส่วนชุด PPE ยังคงมีความต้องการใช้ถึง 5 ล้านชุด สอดคล้องกับความต้องการหน้ากาก N95 โดยขณะนี้หาได้จาก 3 แหล่ง ซื้อจากเวียดนามเดือนนี้ 136250 ชิ้น และได้จากอีกบริษัทประมาณ 100000 ชิ้น และได้เสื้อกาวน์ (surgical gown) อีก 100000 ชุดขณะเดียวกันได้ร่วมพัฒนาผู้ประกอบการในประเทศ โดยร่วมมือกับสภาพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อผลิต surgical gown ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 20 ครั้ง อยู่ใน่ชวงการพัฒนาและเร่งมือผลิตด้วยรวมทั้งจะมีการพัฒนา PPE ที่เป็นของคนไทยเอง โดยจะมีการทดสอบที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และต้องได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนจาก อย.ด้วยเช่นกันสำหรับสถิติการใช้ PPE ในไทย ใช้อยู่เฉลี่ยวันละ 18411 ชุด ยอดคงคลังในปัจจุบัน N95 เฉพาะที่อยู่ในคลังองค์การเภสัชกรรมมีจำนวน 80000 ชิ้น โดยเข้ามาวันที่ 15 เม.ย. จำนวน 100000 ชิ้น ส่วนชุดหมีมีในคลังประมาณ 11000 ชุด ส่วนชุดคลุมทับ(Isolation Gowns) มี 3366 ชุดดังนั้น องค์การเภสัชกรรม จึงประกาศข่าวด่วน ประสงค์จัดหาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ หน้ากาก N95 ชุด PPE หากประชาชนหรือผู้ประกอบการใดมีความพร้อม ขอให้เข้าร่วมเสนอราคา เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้มีเครื่องป้องกันสู้ COVID-19กระจายหน้ากากอนามัยถึงมือทีมแพทย์ ใช้ได้ถึง 27 วันขณะนี้ไทยมีหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (surgical mask) ที่คงคลัง ณ หน่วยบริการปัจจุบัน 11 ล้านชิ้น อัตราการใช้งานต่อวันอยู่ที่ 443042 ชิ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ยังสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 27 วัน โดยหลังองค์การเภสัชกรรม ได้รับจัดสรรมาจะต้องดูแลภาพรวมในโรงพยาบาลในสังกัด โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัด กทม. รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนด้วยส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยในช่วงเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12-15 เม.ย. มีจำนวนรับเข้า 21 ล้านชิ้น เฉลี่ยต่อวันประมาณ 1.5 ล้านชิ้น และได้จัดส่งไปแล้วประมาณ 18 ล้านชิ้น เฉลี่ยต่อวันจัดส่งไปแล้วอยู่ที่ 1.3 ล้านชิ้นยาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอ ใช้กับผู้ป่วยในไทยแล้ว 682 คนในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ที่นำเข้ามาแล้วอยู่ที่ 187000 เม็ด อยู่ระหว่างการนำเข้าจากญี่ปุ่น 138060 เม็ด ซึ่งจะเข้ามาภายในเดือนนี้ และได้สั่งเพิ่มจากจีนอีก 200000 เม็ด โดยไทยมีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยแล้ว 682 คน ใช้ไปแล้วประมาณ 54000 เม็ด ยังเหลือในหน่วยบริการประมาณ 30000 เม็ด เพราะฉะนั้นยาคงคลังยังเหลืออยู่ 94000 เม็ด
องค์การเภสัชกรรม ยอมรับหน้ากาก N95 และ ชุด PPE ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประกาศหาประชาชนหรือผู้ประกอบการที่มีหน้ากาก N95 และชุด PPE ได้มาตรฐานเข้าเสนอราคาขายด่วน เพื่อจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ได้มีใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19
สังคม
COVID-19,COVID19,โควิด19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ปอดอักเสบ,โควิด-19,หน้ากากอนามัย,หน้ากาก N95
https://news.thaipbs.or.th/content/291338
ส่องานเข้า ดีเจเชาเชา แม่โจ๋ร้องตร. ซิ่งรถหรูชนลูกตาย ไม่เหลียวแล
แม่โจ๋วัย 18 ปีตามคดีที่ สน.สายไหม ลูกชายโดน ดีเจเชาเชา ขับรถหรูพุ่งชนดับ ทว่ากลับเรื่องเงียบ ไม่ได้รับการเหลียวแล แถมมีคนเห็นเจ้าตัวหน้าแดง คล้ายคนเมา ขณะดีเจดังยังเสียงแข็ง ยันไม่ได้เป็นคู่กรณีตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นพลเมืองดีที่ลงไปช่วย,เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 2 พ.ค.60 ที่สน.สายไหม นางสมควร ธงอาษา อายุ 50 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัยณรงค์ แดงนกขุ้ม สว.(สอบสวน) สน.สายไหม เพื่อให้ช่วยติดตามคดีกรณีนายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี ลูกชาย ถูกรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว หมายเลขทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี หรือดีเจ เชาเชา เฉี่ยวชนบริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.ภูมิพล แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณีแต่อย่างใด ,ดีเจเชาเชา ยืนยันไม่ได้ชนโจ๋ดับ แค่เข้าไปช่วย-รอปรึกษาทนาย,ด้านนายเอ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 24 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนพร้อมผู้บาดเจ็บและเพื่อน 6-7 คน รถจักรยานยนต์ 4 คัน นัดกันออกมาขับรถเล่น เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนและเพื่อนๆ ได้จอดรถอยู่ริมถนน ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มจักรยานยนต์อีกหลายกลุ่มออกมาจอดเช่นกัน จู่ๆ มีกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่บนสะพานปาก้อนหินลงมา ตนและผู้บาดเจ็บเกรงว่าจะมีเรื่องจึงได้รีบขับรถออกมาจากตรงนั้น จังหวะเดียวกันรถคู่กรณีขับมาในลักษณะขวางเลนซ้ายและกลางก่อนจะชนเข้าที่ท้ายรถผู้บาดเจ็บ ตนจึงลงไปดู ทีแรกคนขับรถคันดังกล่าวไม่ยอมลงมา อีกทั้งมีทีท่าว่าจะหนีเพื่อนตนจึงนำรถไปขวางไว้ เมื่อกู้ภัยมาถึงคนขับจึงลงมา ตนจึงเข้าไปสอบถามว่าจะทำยังไงต่อ มาทราบอีกทีว่าคนขับคือดีเจ เชาเชา ซึ่งขณะที่คนขับลงมานั้นตนสังเกตเห็นว่าใบหน้ามีสีแดง แต่ระบุไม่ได้ว่าเมาหรือไม่ หลังจากนั้นตนก็ไม่ทราบว่าใครพาคนเจ็บไปส่งและคู่กรณีไปไหน,ด้าน พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ทางนายชวลิต ได้ขับรถมาตามถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าสะพานใหม่ ในช่องทางเลนกลาง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บจำนวนประมาณ 4-5 คัน จอดอยู่ริมถนนเลนซ้ายสุด จู่ๆ กลุ่มผู้บาดเจ็บได้ขับรถออกมาจากเลนซ้ายไปเลนขวาสุดในลักษณะเฉียงข้ามเลนมา ซึ่งมีผู้บาดเจ็บขับออกมาเป็นคันสุดท้าย จึงเกิดการเฉี่ยวชนดังกล่าว,ในเบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นคนเจ็บ คู่กรณี รวมไปถึงเพื่อนผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็จะทำการสอบคนอื่นไปก่อน เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดมาเปรียบเทียบกับข้อกฎหมาย ซึ่งในคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเป็นคดีจราจรธรรมดา เพียงแต่มีดารานักแสดงเป็นคู่กรณีเท่านั้น ในส่วนของการแจ้งข้อหาตอนนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับใครได้เนื่องจากมีเพียงหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่เป็นร่องรอยการเฉี่ยวชน และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่าไม่มีกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ หากมีพยานหลักฐานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถที่ขับตามหลังมา หรือกล้องหน้ารถ ถ้ามี ก็จะนำมาประกอบสำนวนเพื่อหาผู้กระทำผิด ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน,อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้วที่ รพ.ภูมิพล เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) โดยจะมีการนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.กำแพงเพชรในวันนี้,เมื่อโทรไปสอบถามญาติผู้เสียชีวิต กลับไม่ให้ข้อมูลใดๆ บอกเพียงว่าไม่พร้อมจะให้ข้อมูลก่อนจะตัดสายไป,ด้านนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือดีเจ เชาเชา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์เพียงสั้นๆ ว่า ตนเป็นพลเมืองดีที่ลงไปช่วยน้องคนเจ็บ ไม่ใช่คู่กรณีตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งหลังจากนี้ตนจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตามจะมีการแถลงข่าวในเร็วๆ นี้ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
แม่โจ๋วัย 18 ปีตามคดีที่สน.สายไหม ลูกชายโดน ดีเจเชาเชา ขับรถหรูพุ่งชนดับ ทว่ากลับเรื่องเงียบ ไม่ได้รับการเหลียวแล แถมมีคนเห็นเจ้าตัวหน้าแดง คล้ายคนเมา ขณะดีเจดังยังเสียงแข็ง ยันไม่ได้เป็นคู่กรณีตามที่ถูกกล่าวหา
ข่าว,อาชญากรรม
ดีเจเชาเชา,ดีเจเชาเชา ขับรถชนคนตาย,ดีเจเชาเชา ช่วนคนโดนรถชน,ดีเจเชาเชา ขับรถชนมอเตอร์ไซต์,ชนวัยรุ่นตาย
https://www.thairath.co.th/news/crime/929283
ย้ายเสาไฟเทียมร่วมมิตร ตำรวจเดินหน้าเพิ่มช่องจราจร-คราวนี้หารือการไฟฟ้าฯ
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจร กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 9 ถนนเทียมร่วมมิตร พบว่าบริเวณแยกถนนวัฒนธรรมตัดถนนเทียมร่วมมิตร ช่องจราจรเป็นคอขวด เนื่องจากติดแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงซึ่งกีดขวาง ทำให้รถที่มาจากแยกผังเมือง ถนนพระราม 9ที่จะวิ่งตรงเข้าถนนรัชดาภิเษกจำนวน 3 ช่องทางเมื่อวิ่งมาถึงจุดดังกล่าวจะเหลือเพียง 2 ช่องทางก่อนจะขยายเป็น 4 ช่องทาง บช.น.จึงได้ประสานที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กรุงเทพมหานคร (กทม.)ย้ายแนวเสาไฟฟ้ากลางแยกและปาดเกาะกลางถนนเพิ่มผิวจราจรอีก 1 ช่องทาง เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ทั้งสองหน่วยรับไปดำเนินการแล้ว ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพราะการย้ายเสาไฟฟ้าอาจทำให้ไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวและใกล้เคียงดับเป็นช่วงๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้,พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวต่อว่า ถนนวัฒนธรรม เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างถนนเทียมร่วมมิตรกับถนนพระราม 9 ขนานกับถนนรัชดาภิเษก โดยจัดเดินรถทางเดียว จากแยกผังเมืองมุ่งหน้าแยกเทียมร่วมมิตร แต่เมื่อมาถึงจุดดังกล่าว รถที่จะเข้าถนนรัชดาภิเษกจะถูกบีบให้เหลือ 2 ช่องจราจรทำให้การเคลื่อนตัวของรถสะดุด ดังนั้นหากได้มาเพิ่มอีก 1 ช่องทางก็จะทำให้การเคลื่อนตัวของรถสามารถไปได้เร็วขึ้น.
จากการสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม9 ถนนเทียมร่วมมิตร พบว่าบริเวณแยกถนนวัฒนธรรมตัดถนนเทียมร่วมมิตร ช่องจราจรเป็นคอขวด เนื่องจากติดแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงซึ่งกีดขวาง ทำให้รถที่มาจากแยกผังเมือง
null
ข่าวกทม.,จิรพัฒน์ ภูมิจิตร,ถนนเทียมร่วมมิตร,จราจรติดขัด,ช่องจราจรเป็นคอขวด,เสาไฟฟ้าแรงสูง
https://www.thairath.co.th/content/751982
แผนพัฒนา ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ฉบับที่ 5
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. มูลนิธิไทยรัฐ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงนามความร่วมมือประกาศใช้แผนพัฒนาคุณภาพ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ฉบับที่ 5 (พุทธศักราช 2563-2566) โดย นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการ กพฐ. และนายวิเชน โพชนุกูล เลขาธิการมูลนิธิไทยรัฐ จากนั้น นายสนิท เปิดเผยว่า การประกาศใช้แผนพัฒนาคุณภาพ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ฉบับนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากแผนฯ ฉบับที่ 4 ซึ่ง สพฐ.จะทุ่มเทและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งให้เป็นไปตามอัตลักษณ์ของ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ที่มุ่งเน้นในการสร้างเด็กให้เป็นคนดี และออกไปตอบแทนสังคมได้ ขณะที่ด้านวิชาการจะทำให้เข้มข้นยิ่งขึ้น จะไม่ปล่อยและไม่ทอดทิ้งโรงเรียนที่มีภาคเอกชนมาช่วยดูแล สำหรับวิชาสื่อมวลชนศึกษาเชื่อว่าจะช่วยเด็กที่ต้องออกไปสู่โลกภายนอก และเจอกับสังคมที่เป็นโซเชียลในรูปแบบต่างๆ ทั้งเป็นแบบอย่างให้โรงเรียนอื่นๆ ซึ่งหลักสูตรนี้คงไม่ได้หวงห้ามไว้ใช้เฉพาะแค่ในโรงเรียนไทยรัฐวิทยา และต้องขอบคุณมูลนิธิไทยรัฐที่ขยายโรงเรียนไทยรัฐวิทยาเพิ่ม รวมเป็น 111 โรงทั่วประเทศด้านนายมานิจ สุขสมจิตร กรรมการบริหารมูลนิธิไทยรัฐ กล่าวว่า การที่ นสพ.ไทยรัฐเข้ามาทำโรงเรียนนั้น เนื่องจากต้องการตอบแทนบุญคุณประชาชนที่ได้โอบอุ้ม นสพ.ไทยรัฐ และเติมเต็มความด้อยโอกาสของเด็กที่อยู่ในชนบทห่างไกลความเจริญ และมีหลักสูตรพิเศษ คือ ความรอบรู้เรื่องสื่อมวลชน โดยในยุคนิวนอร์มอลนี้ มีทั้งข่าวลวง ข่าวปลอมมากมาย ซึ่งเราไม่ต้องการให้เด็กของเราตกไปเป็นเหยื่อ และหลักสูตรพลเมืองดี ซึ่งต้องการให้เด็กไทย โดยเฉพาะเด็กที่จบจาก ร.ร.ไทยรัฐวิทยา เป็นเด็กที่รู้จักหน้าที่ แล้วถึงจะมาใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นพลเมืองดีของสังคม ซึ่งเป็นไปตามคำขวัญว่า ร.ร.ไทยรัฐวิทยา คือ โรงเรียนสอนคนดี มีวิชา และ นักเรียนไทยรัฐวิทยาวันนี้คือคนดีของสังคมในวันหน้า
มูลนิธิไทยรัฐ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงนามความร่วมมือประกาศใช้แผนพัฒนาคุณภาพ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ฉบับที่ 5 (พุทธศักราช 2563-2566)
ข่าว,สังคม
ไทยรัฐวิทยา,โรงเรียนไทยรัฐวิทยา,สพฐ.,สนับสนุนการศึกษา,แผนพัฒนาคุณภาพ ไทยรัฐวิทยา,ข่าววันนี้,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1896397
เคราะซ้ำกรรมซัด สุพรรณบุรี โดนปรับ 6 หมื่นเซ่นเหตุการณ์ฉาวหลังเกม
วันที่ 19 ก.ค. 62 คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ครั้งที่ 41/2562 ณ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์กีฬาหัวหมาก กรุงเทพมหานครฯ โดยมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานในที่ประชุม มีเรื่องพิจารณา ดังนี้,1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1),คู่ระหว่างสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สโมสรตราด เอฟซี,วันที่ 6 กรกฎาคม 2562 ,- เหตุการณ์,ในนาทีที่ 61 ผู้รักษาประตูหมายเลข 27 นายธีรัตม์ นาคชำนาญ สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ได้รับบอลกำลังจะโยนบอลให้ผู้เล่น แต่ถูกผู้เล่นหมายเลข 40 สโมสรตราด เอฟซี บังไว้ จึงได้กางศอกกระแทกใบหน้า โดยผู้ตัดสิน นายกชภูมิ มีศรีเดชา ได้ให้ใบแดงไล่ออกจากสนามแข่งขัน และระบุรายงานว่าเป็นใบแดงประเภทกระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง, ,- ผลพิจารณาโทษ,ลงโทษผู้รักษาประตูหมายเลข 27 นายธีรัตม์ นาคชำนาญ สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท,2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1),คู่ระหว่างสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี พบ สโมสรสุโขทัย เอฟซี,วันที่ 14 กรกฎาคม 2562,- เหตุการณ์,หลังจบการแข่งขัน ได้มีกองเชียร์สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี รุมล้อมหน้าห้องผู้ตัดสิน เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในจังหวะนาทีที่ 90+4 ของการแข่งขันสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ลูกเตะมุม และได้โยนบอลมาที่หน้าประตูของสโมสรสุโขทัย เอฟซี ผู้เล่นสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ฟ้องแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแล้วเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน จึงได้มาดักรออยู่ทางออกสนามบริเวณอัฒจันทร์หลัก กับจุดจอดรถของฝ่ายจัดการแข่งขัน แต่ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย,- ผลพิจารณาโทษ,ลงโทษกองเชียร์สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.7 ขัดขวางรุมล้อมหรือคุกคาม เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัย ปรับเงิน 60,000 บาท
เรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเลยทีเดียวสำหรับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่โดนปรับถึง 60,000 บาท หลังเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังเกมล่าสุด ขณะที่นายด่าน ชัยนาท ฮอร์นบิล ไม่รอดโดนแบน 2 นัด ปรับ 2 หมื่น
กีฬา,ฟุตบอลไทย
สุพรรณบุรี เอฟซี,ไทยลีก,ฟุตบอลไทย
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1618293
โค้ชดม หวังนำโต๊ะเล็กท่าเรือฯ ทะลุตัดเชือกสโมสรเอเชียอีกครั้ง
วันที่ 6 ส.ค.62 ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2019 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ที่บางกอก อารีนา หนองจอก ระหว่างวันที่ 7-17 สิงหาคมนี้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนเปิดฉากนัดแรกกันในวันพรุ่งนี้,โดย โค้ชดม อุดม ทวีสุข กุนซือใหญ่ของการท่าเรือ เอเอสเอ็ม ซึ่งเป็นตัวแทนของไทยในปีนี้กล่าวว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เราเคยแข่งในรายการชิงแชมป์เอเชียที่อิหร่าน และจบด้วยการคว้าอันดับ 4 ซึ่งเราก็รอเวลาที่จะเข้ามาแข่งอีกครั้ง และปีนี้ที่ทำได้สำเร็จ โดยได้มีการเตรียมทีมกันมา 8-9 เดือน,ตอนนี้ถือว่าสภาพทีมเราพร้อมมาก ตัวผู้เล่นก็ล้วนเป็นตัวหลักที่เล่นในลีกด้วยกันมา และได้ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา มาช่วยเสริมในตำแหน่งหน้าเป้า ก็เป็นอะไรที่เราพอใจมาก เพราะ เหม็ด เป็นนักฟุตซอลที่มีความสามารถสูง ทำให้มาเติมเต็มให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น,แน่นอนเป้าหมายของเราคือ ต้องการเข้ารอบให้ลึกที่สุด ด้วยการเข้าถึง 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ก่อน จากนั้นก็หวังที่จะเข้าชิงฯ และพยายามจะคว้าแชมป์ในบ้านเพื่อเป็นเกียรติประวัติของสโมสรต่อไป,นอกจากนี้ โค้ชดม ยังเผยถึงเกมแรกที่จะเจอกับ สตาร์ เอฟเอส โซล ว่า เราไม่ประมาทแน่นอน แต่ก็มั่นใจในศักยภาพของผู้เล่นทุกคนว่าจะทำผลงานออกมาได้อย่างประทับใจ ด้วยการคว้า 3 แต้มแรกให้ได้,ด้าน นคร พวงบุบผา ประธานสโมสรฯ กล่าวว่า มาถึงวันนี้เราพร้อมเต็มร้อยแล้ว และมั่นใจว่าจะเอาชนะสตาร์ เอฟเอส โซล ได้แน่นอน ก็ขอฝากแฟนบอลไปร่วมให้กำลังใจกันมากๆ โดยทางสโมสรก็มีบริการรถบัสในการรับส่งเดินทางไปยังสนามไว้ด้วยจำนวน 1 คัน นอกจากนี้เรื่องของการอัดฉีดปกติเราก็มีเรื่อยๆ ถ้าทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจก็มีให้อย่างแน่นอน,สำหรับการท่าเรือ เอเอสเอ็ม จะประเดิมสนามเกมแรก ด้วยการพบกับ สตาร์ เอฟเอส โซล จากเกาหลีใต้ ในวันพุธที่ 7 สิงหาคมนี้ เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง BUGABOO TV และช่อง 7 HD เสนอเทปบันทึกการแข่งขันเวลา 02.00 น.
กุนซือโต๊ะเล็กสิงห์คลองเตย ประกาศคว้าสามแต้มให้ได้ในเกมนัดเปิดหัวสโมสรเอเชีย 2019 และตั้งเป้าเข้าถึงรอบตัดเชือกให้ได้เป็นอย่างน้อย
กีฬา,ฟุตซอล
การท่าเรือ เอเอสเอ็ม,ฟุตซอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย,โค้ชดม,อุดม ทวีสุข,นคร พวงบุบผา
https://www.thairath.co.th/sport/futsal/1631686
ก.สาธารณสุขตั้งกรรมการสอบสินบนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ คาดรู้ผลใน 30 วัน
เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.2560) จากกรณีเว็บไซต์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (เอสอีซี) เผยแพร่ว่า เอสอีซีแจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัทวิจัยด้านการวินิจฉัยทางคลินิกและชีววิทยาศาสตร์ เพราะพบมีการตกแต่งบัญชี และบริษัทสาขาให้สินบนในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องนี้ กระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้น ซึ่งมี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษากระทรวง เป็นประธาน โดยขั้นตอนการตรวจสอบตามกรอบเวลาเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 30 วัน จะเริ่มจากประสานความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขาย ส่งเอกสารมาให้ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการในสัปดาห์ถัดไป โดยให้มีผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาช่วยวิเคราะห์เอกสารด้วยส่วนข้อมูลจากหน่วยงานอื่นๆ นั้นได้ประสานเป็นการภายในไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว
กระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีรับสินบนการซื้อขายเครื่องมือทางการแพทย์จากบริษัทในสหรัฐฯ เบื้องต้น คาดว่าน่าจะรู้ผลภายใน 30 วัน
สังคม
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,สินบน,เครื่องมือแพทย์,โรลส์รอยซ์,สหรัฐฯ,ป.ป.ช.,เอสอีซี
https://news.thaipbs.or.th/content/260216
ร้อง ปอท.เอาผิด จีจี้ ปีโป้ หลอกขายทองผ่านเฟซบุ๊ก
วันนี้ (8 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหาย 20 พร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับนายธีรชัย คงทอง ผู้ต้องหา หลอกขายทองผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ใช้บัญชีชื่อว่า จีจี้ ปีโป้ ซึ่งมีผู้ติดตามเพจดังกล่าวจำนวนมากน.ส.เบญจพร หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ติดตามเพจนี้มาระยะหนึ่งและเห็นว่ามีผู้ซื้อได้รับทองจริง ประกอบนายธีรชัย ซึ่งเป็นเจ้าของเพจสร้างกับโปรไฟล์น่าเชื่อถือ โดยความเสียหายแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ กลุ่มที่สั่งซื้อทองในเปอร์เซ็นที่แจ้งไม่ตรงตามจริง กลุ่มโอนเงินไปแล้ว แต่ไม่ได้รับสินค้า และกลุ่มที่ถูกแจ้งอ้างว่าขายทองราคาสูง แต่เมื่อนำไปขายต่อกลับไม่ได้ราคาที่ระบุไว้ หากผู้เสียหายต้องการนำของคืน หรือขอเงินคืน ทางเพจจะหักเงินร้อยละ 15-30 จากเงินทั้งหมด ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากเบื้องต้นพบผู้เสียหายกว่า 4000 คน มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ขณะที่ผู้เสียหายได้พยายามติดต่อกับผู้ต้องหาหลังจากเกิดเหตุ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายธีรชัย ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์
ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ปอท. ดำเนินคดีนายธีรชัย คงทอง ระบุถูกหลอกขายทองผ่านเฟซบุ๊ก จีจี้ ปีโป้ บางคนโอนเงินแล้วไม่ได้สินค้า หรือเปอร์เซ็นทองไม่ตรงตามจริง เบื้องต้นพบเสียหายกว่า 4000 คน มูลค่าหลายสิบล้านบาท
อาชญากรรม
จีจี้ ปีโป้,ธีรชัย คงทอง,หลากขายทอง,ขายทองผ่านเฟซบุ๊ก,ปอท.
https://news.thaipbs.or.th/content/294374
หลายประเทศประท้วงต้านนิวเคลียร์ในวันรำลึกครบ 1 ปีแผ่นดินไหว-สึนามิญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นหลายพันคนชุมนุมเดินขบวนต่อต้านนิวเคลียร์ไปตามท้องถนนของกรุงโตเกียว วานนี้ (11 มี.ค.) หลังเสร็จสิ้นพิธีสงบนิ่งไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุมหาพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ครบ 1 ปี ซึ่งการประท้วงมีขึ้นในขณะที่เตาปฎิกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของญี่ปุ่นยังเปิดใช้อยู่ 2 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 54 แห่ง แต่คาดว่าเตาปฎิกรณ์ 2 แห่งที่ยังเปิดใช้จะปิดเพื่อซ่อมบำรุงในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นต้องประสบปัญหาด้านพลังงานในช่วงฤดูร้อนที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณที่สูงมากขึ้น แต่ชาวญี่ปุ่น ที่เป็นพวกขวาจัด ยังสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยคนกลุ่มนี้พากันขับรถผ่านกลุ่มผู้ประท้วงและตะโกนใส่ผู้ประท้วง พร้อมระบุ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อเป็นเขี้ยวเล็บตอบโต้การคุกคามจากเกาหลีเหนือส่วนกลุ่มผู้ต่อต้านนิวเคลียร์ที่ฮ่องกงกว่า 100 คน ชุมนุมประท้วงในย่านธุรกิจ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และแสดงความวิตกถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สองแห่งในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเกาะฮ่องกง 60 กิโลเมตร โดยไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกขณะที่กลุ่มกรีนพีชในฮ่องกง จัดนิทรรศการศิลปะชุดพิเศษเนื่องในวันครบ 1 ปีเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น โดยมีศิลปินจากญี่ปุ่นและยูเครมนำผลงานมาจัดแสดงเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะส่วนคณะนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์พาบา ประเทศอินเดีย ยืนยันให้ความมั่นใจกับประชาชนถึงระบบความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คูดานกุลาม (Koodankulam) ในรัฐทมิฬ นาดูทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดการประท้วงรุนแรงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเตาปฎิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คูดานกุลามมีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดความปลอดภัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อความคลายความวิตกกังวลของประชาชนว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นจัดพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ ครบรอบ 1 ปี วานนี้ (11 มี.ค.) และมีการชุมนุมประท้วงต่อต้านนิวเคลียร์ในหลายประเทศ จากความวิตกว่าอาจเกิดเหตุซ้ำรอยวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ
ต่างประเทศ
ญี่ปุ่น,ต่อต้านนิวเคลียร์,พิธีรำลึก,สึนามิ,แผ่นดินไหว
https://news.thaipbs.or.th/content/71906
ลาวคุมตัวคนขับรถ เพื่อนชาวจีน แกะรอยล่าแก๊งรีดค่าไถ่คนไทย 5 ล้าน
ญาติประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ที่ถูคนร้ายลักพาตัวเรียกค่าไถ่ 5 ล้าน เตรียมข้ามไปฝั่งบ่อแก้ว สปป.ลาวอีกครั้ง เพื่อพบกับคนขับรถชาวลาว และเพื่อนชาวจีน ที่โทรศัพท์มานัดก่อนจะถูกจี้จับตัว ล่าสุด จนท.ลาวยังไม่มีเบาะแส ,กรณีนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมผู้ประกอบการส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ส่งออก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ถูกคนร้ายเข้าอุ้มตัวขณะข้ามไปดูโรงงานฆ่าสัตว์ ในเขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และถูกทำร้าย เอาปืนจ่อศีรษะพร้อมถ่ายคลิปส่งมาให้ญาติดูเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 5 ล้านบาท พร้อมส่งข้อความทางแอปพลิเคชันห้ามญาติแจ้งตำรวจ หากไม่เชื่อจะฆ่านายสิงห์แก้ว จนญาติเข้าแจ้งนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน และ พ.ต.อ.เอกณสันต์ ศรีสองเมือง ผกก.สภ.เชียงแสน,ต่อมา นายประสงค์ ได้เรียก พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่านตม.เชียงแสน และ ร.อ.โกมินทร์ บุญภา ผบ.ร้อยทหารพราน 3103 ประชุมด่วน พร้อมทำหนังสือถึงเจ้าเมืองต้นผึ้ง นำญาติข้ามแม่น้ำโขงไปพบกับเจ้าเมืองต้น,ความคืบหน้า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 29 ก.ค. นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน ได้ร่วมประชุมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เชียงแสน และญาติของนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น ทราบจาก เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ให้ข้อมูลว่ายังไม่พบจุดที่คนร้ายนำตัวนายสิงห์แก้ว ไปกักขัง,อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 ก.ค.ทางอำเภอเชียงแสนประสานได้ประสานเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว เพื่อให้ ภรรยาและบุตร ไปพบกับ นายสะวาด คนขับรถชาวลาว และนายจุ๋ม เพื่อนคนจีน คนที่โทรนัดให้ นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ไปพบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ควบคุมตัวไว้ ทั้ง 2 คนที่เมืองต้นผึ้ง เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการถูกลักพาตัว โดยนายสันติ อินทนิล ปลัดอำเภอหัวหน้างานความมั่นคง อำเภอเชียงแสน จะนำญาตินายสิงห์แก้วไปพบกับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ฝั่งเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว
ญาติประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสนที่ถูกคนร้ายลักพาตัวเรียกค่าไถ่5ล้าน เตรียมข้ามไปฝั่งบ่อแก้วสปป.ลาวอีกครั้ง เพื่อพบกับคนขับรถชาวลาว และเพื่อนชาวจีน ที่โทรศัพท์มานัดก่อนจะถูกจี้จับตัวล่าสุด
ข่าว,ทั่วไทย
เรียกค่าไถ่,รีดค่าไถ่,เรียกค้าไถ่5ล้าน,สิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1625695
อสส.หอบสำนวนฟ้อง บุญทรง กับพวก คดีระบายข้าวจีทูจี
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวน นำสำนวนพร้อมหลักฐาน เรื่องการทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน จำนวน 205 ลัง ความหนามากกว่า 6 หมื่น 7 พันหน้า มายื่นฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ ฮั้วประมูล และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีระบายข้าวแบบจีทูจี,

ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ ภายใน 14 วัน หลังจากรับสำนวน ประธานศาลฎีกา จะต้องเรียกประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมดเพื่อลงมติเลือกองค์คณะเพื่อพิจารณาคดี จำนวน 9 คน ก่อนให้ผู้พิพากษาทั้ง 9 คนลงมติเพื่อเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน เพื่อฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ โดยขณะนี้ ศาลฎีกายังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนัดฟังคำสั่งเมื่อใด ,

ทั้งนี้ ในการฟ้องดังกล่าว นายบุญทรง และผู้ถูกกล่าวหา รวม 21 คน ไม่ได้เดินทางมาศาล ซึ่งกระบวนการดังกล่าว จะเหมือนกับกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่ง ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 19 มีนาคม 2558 นี้.
อัยการสูงสุด นำสำนวนคดีการระบายข้าว แบบจีทูจี กว่า 200 ลัง หนากว่า 6.7 หมื่นหน้า ของ บุญทรง กับพวกรวม 21 คน มาส่งฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
null
คดีระบายข้าว,รัฐต่อรัฐ,จีทูจี,G2G,อัยการสูงสุด,สำนวน,ส่งฟ้อง,บุญทรง เตริยาภิรมย์,อดีต รมว.พาณิชย์,ศาลฎีกา,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/487397
ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ ชี้ กต.ควรเผยข้อมูลนำเข้าขยะอันตรายจาก JTEPA
ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ กังวลการซื้อขายขยะอันตรายจากข้อตกลง JTEPA หลังกระทรวงการต่างประเทศเสนอเข้ามากำกับดูแลแทน ก.พาณิชย์ ชี้ปัญหาขยะอุตสาหกรรมอยู่ขั้นรุนแรง ชี้ กต.ควรเผยข้อมูลนำเข้าขยะอันตราย9 ก.พ.2558 เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ แสดงความกังวลถึงการที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอให้โอนภารกิจกำกับดูแลความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย–ญี่ปุ่น (JTEPA) จากกระทรวงพาณิชย์ไปยังกระทรวงการต่างประเทศ โดยกังวลถึงปัญหาการนำเข้าขยะอันตราย เนื่องจากมีการเจรจายอมรับขยะสารพิษและขยะอันตรายเป็นสินค้าที่มีซื้อขายกันได้ปกติเพ็ญโฉมกล่าวว่า ผลกระทบต่อประเทศไทยที่เกิดขึ้นจากความตกลง JTEPA ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเจรจานั้น กำลังปรากฏชัดอย่างน่าวิตก ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีปัญหาขยะอุตสาหกรรมและขยะชุมชนในระดับรุนแรงมาก และมีโรงงานคัดแยกและแปรรูปขยะมากผิดปกติ ซึ่งหลังจากการคัดแยกและแปรรูปแล้ว มีขยะที่เหลือจากกระบวนการถูกนำไปทิ้งตามที่ต่างๆ ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย ซึ่งกำลังก่อความเสียหายกับชุมชนมากขึ้นเรื่อยๆการติดตามพบว่า มีขยะอันตรายนำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไปลอบทิ้งตามหลุมขยะของชุมชนและตามที่ต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี แต่ 6 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐซึ่งไปทำความตกลงให้ขยะอันตรายกลายเป็นสินค้าปกติ ไม่เคยทำข้อมูลหรือเปิดเผยข้อมูลว่า แต่ละปีมีการนำเข้าขยะอันตรายจากกี่ประเทศ เป็นปริมาณเท่าไร และเศษสุดท้ายจากการคัดแยกที่ไม่สามารถแปรรูปแล้วไปอยู่ที่ใด ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศกล่าวผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งโรงงานแปรรูปขยะที่มากขึ้นเรื่อยๆ กำลังเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษอีกรูปแบบของชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงเราพบว่า ปี 56-57 มีขยะที่ไม่สามารถแปรรูปได้ถูกลักลอบทิ้งจำนวนมาก และจากการติดตามข่าวนับจากเพลิงไหม้ที่แพรกษา จาก มี.ค.-มิ.ย. 57 พบว่ามีการลอบเผาบ่อขยะชุมชนมากถึง 15 ครั้ง ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นการทำลายหลักฐานการลอบทิ้งขยะอันตราย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ แต่ไม่มีการสำรวจปัญหาที่แท้จริงนอกจากนี้ ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศยังเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและมีการศึกษา-สำรวจว่า จากความตกลง JTEPA ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายขยะอันตรายทั้งนำเข้าและส่งออกกี่ชนิด จำนวนเท่าไร และปลายทางการกำจัดส่วนที่ไม่สามารถแปรรูปได้อยู่ที่ไหนอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ชุมชนต่างๆ เป็นผู้รับภาระผลกระทบจากสารพิษเหล่านี้สำหรับของเสียอันตรายที่อยู่ในพิกัดภาษีศุลกากรของ JTEPA อาทิ ขี้แร่ ขี้ตะกอน เศษอื่นๆ ที่ได้จากการผลิตเหล็กหรือเหล็กกล้า ตะกอนของน้ำมันเบนซินชนิดเติมสารตะกั่ว ตะกอนของสารกันเครื่องยนต์เคาะที่มีตะกั่ว เถ้าและกากที่ได้จากการเผาขยะเทศบาล ของเสียทางเภสัชกรรม ของเสียจากสถานพยาบาล ผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากอุตสาหกรรมเคมีหรือจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน ขยะเทศบาล ตะกอนจากน้ำเสียและของเสียอื่นๆ ของเสียที่เป็นของเหลวกัดล้างโลหะ น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเบรคและของเหลวกันการเยือกแข็ง ของเสียอื่นๆ จากอุตสาหกรรมเคมีหรือจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) กระทรวงการต่างประเทศจะเสนอให้ ครม.โอนภารกิจกำกับดูแลความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย–ญี่ปุ่น (JTEPA) จากกระทรวงพาณิชย์ไปที่กระทรวงต่างประเทศ โดยออกเป็นคำสั่งสำนักนายกฯ เรื่องการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการกำกับการดำเนินการตามข้อตกลง และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน
ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ กังวลการซื้อขายขยะอันตรายจากข้อตกลง JTEPA หลังกระทรวงการต่างประเทศเสนอเข้ามากำกับดูแลแทน ก.พาณิชย์ ชี้ปัญหาขยะอุตสาหกรรมอยู่ขั้นรุนแรง ชี้ กต.ควรเผยข้อมูลนำเข้าขยะอันตราย 9
เศรษฐกิจ,สิ่งแวดล้อม
กระทรวงการต่างประเทศ,ขยะสารพิษ,คณะรัฐมนตรี,ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย–ญี่ปุ่น (JTEPA),มูลนิธิบูรณะนิเวศ,เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง
https://prachatai.com/journal/2015/02/57848
อุตุฯ ฉ.19 เหนืออุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาฯ เช้านี้ นทท.แห่ดูเหมยขาบบนดอย
กรมอุตุฯ ฉ.19 เหนืออุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาฯ อ่าวไทยคลื่น 2-3 ม.,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 59 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย 
ฉบับที่ 19 โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าว ยกเว้นภาคเหนือ มีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ไว้ด้วย,
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้,อุณหภูมิบนดอยอินทนนท์เช้านี้หนาวเย็น 0 องศาฯ,นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เช้านี้อุณหภูมิที่ดอยอินทนนท์ บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหูภูมิวัดได้ 0 องศาเซลเซียส และบริเวณบนยอดดอยจุดสูงสุดวัดได้ 4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดหญ้าวัดได้ 3 องศาเซลเซียส มีเหมยขาบเกิดขึ้นบางๆ บริเวณหน้าหน่วยที่ทำการอุทยาน และกิโลเมตรที่ 43 นักท่องเที่ยวยังคงเดินขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวและชมพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกที่บนดอยอินทนนท์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์จะมากกว่าวันปกติ,ด้าน นายรักชัย ศรีนวน พยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณประเทศไทยและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวโดยทั่วไปและหนาวจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ ด้วยอากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 8-11 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-5 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,บ้านใหม่ร่องกล้าเกิดเหมยขาบอีกรอบ หนาวสุดท้ายของปี,หลังจากความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากจีนที่แผ่ปกคลุมภาคเหนือ ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงมาก และกลับมาหนาวจัดอีกรอบ ส่งผลให้เช้าวันนี้ที่บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่ระดับความสูง 1,400 เมตร ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าอากาศหนาวมาก อุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ 2 องศาเซลเซียส ได้เกิดเหมยขาบหรือน้ำค้างแข็ง เกาะตามกระจกรถยนต์ ยอดหญ้า กระดานไม้ และหลังคาบ้านขาวโพลนเต็มไปหมด นับเป็นครั้งที่ 3 ของฤดูหนาวปีนี้ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกับสภาพอากาศหนาวเย็น และเดินทางไปพักค้างคืนกันที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเมื่อคืนที่ผ่านมา ต่างพากันไปถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก คาดว่าหากพรุ่งนี้อากาศยังหนาวอีกวัน อาจมีเหมยขาบเกิดขึ้นให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอีก และน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของหนาวปีนี้.
อุตุฯ ฉ.19 ระบุ เหนืออุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาฯ ด้านดอยอินทนนท์เช้านี้อุณหภูมิต่ำสุด วัดได้ที่ 0 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวยังแห่สัมผัสอากาศพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนภูหินร่องกล้ายังมีเหมยขาบ คาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของปี
ข่าว,ทั่วไทย
อากาศหนาว,ภัยหนาว,หนาวเย็น,อากาศหนาวเย็น,ดอยอินทนนท์,ภูหินร่องกล้า,เหมยขาบ,หมอกตอนเช้า,อุณหภูมิลดลง,สภาพอากาศ,หนาวจัด,อากาศ,เชียงใหม่,พิษณุโลก,กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อุณหภูมิ,คลื่นลมแรง,คลื่นลมอ่าวไทย,คลื่นลมอันดามัน,เรือประมง,อ่าวไทย,ทะเลอันดามัน,ข่าวสังคม,ข่าว,ภูมิภาค,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/574911
สาวโร่แจ้งความ หนุ่มต่างชาติ ลวงเงินผ่านเฟซบุ๊ก
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. 58 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ นางเกด (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้เข้าพบ ร.ต.อ.สง่า สมสุข พงส. สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กรณีที่ถูกหลอกให้โอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการรับเงิน ซึ่งส่งมาจากต่างประเทศ,นางเกด ให้การว่า เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมาตนได้รู้จักกับเพื่อนทางเฟซบุ๊ก ที่อ้างเป็นชาวอังกฤษ อยู่ที่กรุงลอนดอน ทำงานเป็นวิศวกร ตอนแรกก็คุยกันธรรมดา พอผ่านไป 1 เดือน ก็บอกว่าอยากมาอยู่ที่เมืองไทยด้วย ขอให้ตนติดต่อหาซื้อบ้านให้ เพื่อที่จะมาอยู่ด้วยกัน โดยจะส่งเงินมาให้จำนวน 15 ล้านบาท จนกระทั่ง วันที่ 22 พ.ค. 58 บอกว่าได้ส่งเงินผ่านทางบริษัทรักษาความปลอดภัยมาให้แล้ว 15 ล้านบาท แต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำเงินออกจากบริษัท,นางเกด เล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 58 ก็มีคนติดต่อให้โอนเงินไป เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จะรับของออกจากบริษัทจำนวน 32,500 บาท ให้โอนเข้าบัญชีชื่อ นางสาวมัลลิกา สุขชม ต่อมาวันที่ 25 พ.ค. 58 ได้รับแจ้งให้โอนไปอีก 68,900 บาท เข้าบัญชี นางสาวสายวสันต์ พิญนุกิจ ,จากนั้นก็ได้รับการประสานจากคนชื่อ ปวัศรา มั่นคง อ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการเอกสารบริษัท ดี ฟอร์แมท ว่า เนื่องจากสิ่งของที่ส่งมาให้ตนนั้น มีมูลค่าสูง จึงต้องเสียเงินใต้โต๊ะ โดยให้โอนเงินไปอีกจำนวน 130,000 บาท เข้าบัญชีชื่อ นางเกศริน อเนก ตนคิดเอะใจ ว่าทำไมต้องโอนไปหลายครั้ง ประกอบกับเจ้าของเฟซบุ๊ก ได้ปิดเฟซบุ๊กหนีหายไป จึงได้ปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เชื่อว่าถูกหลอก สำหรับเงินที่โอนไปให้แก๊งคนร้ายรวมทั้งสิ้น 101,400 บาท จากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนดังกล่าว,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบทะเบียนบุคคลเจ้าของบัญชีต่างๆ ที่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้า จนทราบว่า คือ นางสาวมัลลิกา เป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์ นางสาวสายวสันต์ มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานคร ส่วนนางเกศริน ซึ่งยังไม่ได้รับการโอนเงิน เป็นชาวจังหวัดลำพูน ซึ่งจะได้สอบสวนหารายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการติดตามกลุ่มขบวนการนี้มาดำเนินคดีฉ้อโกงต่อไป
สาวศรีสะเกษเข้าแจ้งความ หลังถูกหนุ่มต่างชาติลวงเงินผ่านเฟซบุ๊ก อ้างอยากมาอยู่ไทย ลวงให้สาวโอนเงินกว่า 1 แสนบาท สาวเอะใจ เมื่อหนุ่มปิดเฟซหนี แจ้ง จนท.ตามจับกุม
ข่าว,ทั่วไทย
คดีฉ้อโกง,ถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊ก,ต่างชาติหลอกสาวไทย,สนทนากับคนแปลกหน้า,ภัยร้ายโลกโซเชียล,ข่าวสังคม,ติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก,หลอกให้โอนเงิน,คุยกับคนแปลกหน้า,โอนเงินเข้าบัญชี,หลอกลวง,ผู้เสียหาย,สูญเสียเงิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/508293
UCHOOSE มากกว่าแอปพลิเคชัน แต่คือบริการที่รู้ใจคุณที่สุดเท่าที่เคยมีมา [Advertorial]
สิ่งที่ท้าทายที่สุดของการทำธุรกิจยุคดิจิทัลคือ การบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป การทำการตลาดที่ลงลึกถึงระดับบุคคลเป็นเรื่องจำเป็นและต้องใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อวางกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะทำได้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คือผู้นำในตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน UCHOOSE ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญที่จะพลิกโฉมการทำการตลาดและตอบสนองลูกค้าได้อย่างรู้ใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา และ ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องนี้กับ THE STANDARDมากกว่าข้อเสนอที่ดีที่สุด แต่เป็นโซลูชันที่ตรงใจและครอบคลุมที่สุดกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในฐานะผู้นำตลาดบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่สุด แม้จะมีทีมบริการที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับฐากร เขายังไม่คิดว่าบริการที่มีนั้นดีที่สุด เนื่องจากปัจจุบันยังมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือ สอบถามนับสิบล้านสายเหมือนกับสถาบันการเงินอื่น ซึ่งแสดงว่าส่วนงานบริการเดิมที่มียังไม่ได้โดดเด่นกว่ารายอื่นนักทางทีมจึงกลับมาทบทวนและใช้เวลาในการวิเคราะห์ Customer Pain Point ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยใช้เวลาในการศึกษาเกือบ 3 เดือนจึงเห็นได้ครบมุม และตกผลึกแนวคิดเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยแก้ไขปัญหาและนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงใจอย่างแท้จริง โดยก้าวข้ามจากการพึ่งพาบริการที่เน้นเจ้าหน้าที่ Call Center เป็นหลักแบบเดิม เนื่องจากอัตราการเปลี่ยนงานของตำแหน่งเหล่านี้สูงมาก ท้ายที่สุดก็จะไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงลองคิดดูว่าถ้าเรารถติดอยู่บนทางด่วนช่วงเย็น อีกหน่อยสิ่งที่ UCHOOSE จะทำได้ คือบอกกับลูกค้าว่าแวะร้านข้างหน้าก่อนไหม มีอาหารญี่ปุ่นที่คุณชอบ เราให้ส่วนลด 30% เลย และจองผ่าน QueQ ได้เลย เราจะให้ส่วนลดที่ไม่เท่ากัน คุณกินร้านนี้บ่อย เอาส่วนลดไปเลยมากกว่าคนอื่น จะไม่นำเสนอสิ่งที่คุณไม่ต้องการ นั่นเป็นทางที่เราจะไป คือการตลาดที่เป็น Data Driven Marketing ฐากรแชร์ไอเดียเขาเล่าอย่างภูมิใจว่า แอปพลิเคชัน UCHOOSE นี้ เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในองค์กร หลังจากที่เขาให้โจทย์ใหญ่ในการแก้ไขปัญหานี้ไป กระทั่งชื่อของ UCHOOSE ก็มาจากการประกวดตั้งชื่อของพนักงานเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เป้าหมายสำคัญของแอปพลิเคชันนี้มี 3 ส่วนด้วยกันคือ1. Acquisition เป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยระบบจะเชื่อมโยงกับ Digital ID ที่รัฐบาลพยายามเร่งพัฒนาอยู่ เมื่อผ่านแล้วจะสามารถให้บริการสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) ซึ่งลูกค้าไม่ต้องกรอกเอกสารให้ยุ่งยากอีกต่อไป ทำตามขั้นตอนที่แจ้ง จากนั้นระบบจะตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์และอนุมัติสินเชื่อได้ในไม่กี่นาที และสามารถใช้งานทันทีผ่าน QR Payment ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการให้สินเชื่อเพื่อตอบรับกับการซื้อของออนไลน์ที่เติบโตถึงปีละกว่า 30%2. Marketing ฐากรย้ำว่า UCHOOSE คือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ปัจจุบัน กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีฐานข้อมูลลูกค้าที่ใหญ่มาก จากนี้จะต่อยอดใช้ GEO Location เพื่อเก็บข้อมูลแต่ละจุดที่ลูกค้าใช้ชีวิตในแต่ละวัน โดยจะทราบพฤติกรรมของลูกค้าตั้งแต่การเดินทางออกจากบ้านไปทำงาน รู้กระทั่งร้านอาหารและปั๊มน้ำมันที่ใช้บริการ ระบบจะมีการแจ้งเตือนแบบ Push Notification บอกกับลูกค้าว่าสถานที่ใกล้เคียงจุดใดมีโปรโมชันที่น่าสนใจบ้าง เป็นลักษณะของ Predictive Model บนฐานข้อมูลที่ระบบเก็บรวบรวม3. Service UCHOOSEช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้มากขึ้น โดยมีบริการเบื้องต้นที่ลูกค้าสามารถดำเนินการได้เองผ่านแอปพลิเคชัน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ที่สะดวกและรวดเร็ว (Simple Service) ซึ่งช่วยลดขั้นตอนในการติดต่อบริษัทฯ ไปได้มาก และถือเป็นการบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้าที่ครอบคลุมเมื่อบัตรหายหรือหาไม่เจอ ลูกค้าอาจจะขอล็อกบัตรชั่วคราวผ่าน UCHOOSE ได้ ถ้าอีกครู่หาเจอก็ปลดบล็อกออกใช้ต่อได้เลย ถ้าหาไม่เจอก็แจ้งทำบัตรใหม่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถบล็อกกลุ่มประเทศที่คุณคิดว่าไม่มีธุรกรรมแน่ๆ เพื่อความปลอดภัย หรือจะตั้งวงเงินจำกัดสำหรับการใช้จ่ายก็ได้ด้วย ทุกอย่างทำได้เองไม่ต้องโทรไป Call Centerเราแยกทีมการตลาดออกมาต่างหาก เพราะว่าต้องคิดกันคนละแบบ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการพอควร รวมถึงเข้าใจการตลาดดิจิทัลและเทคโนโลยีด้วย จะคิดแบบเดิมๆ ว่าตัวอักษรต้องใหญ่ๆ ตัวโตๆ ทำสีแดง คิดแบบเดิมๆ ไม่ได้ ตอนนี้เราแข่งขันกันเป็นระดับนาทีแล้ว ฐากรเน้นย้ำเรื่องการทำงานของทีมการตลาดสำหรับสิทธิพิเศษลูกค้าบัตรเครดิต นอกจากส่วนลดต่างๆ ณ จุดขายแล้ว สิ่งที่เป็นทีเด็ดคือการใช้คะแนนสะสมบัตรเครดิตให้สะดวกและคุ้มค่ามากขึ้น ล่าสุด UCHOOSE เชื่อมต่อกับระบบของ Major Cineplex ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถจองรอบหนังได้ และใช้คะแนนตัดเป็นค่าตั๋วได้ทันที เราจะเห็นความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอื่นมากขึ้น ทั้งบริการ Ride Sharing หรือร้านอาหาร ซึ่งตัวแอปพลิเคชันเป็นลักษณะ Open API เปิดให้เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย จึงตั้งเป้าเพิ่มคู่ค้า 3-4 รายในปีนี้ สิ่งที่ท้าทายของ UCHOOSE คือฐานข้อมูลจะแยกออกจาก Krungsri Mobile Application ของธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าบัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพราะผู้ที่มีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จำนวนไม่น้อย ยังไม่ได้เป็นลูกค้าธนาคาร ซึ่งจะสร้างโอกาสในภาพรวมได้อีกมากผ่านการเชื่อมต่อของระบบ ซึ่งฐากรคาดหวังว่าจะสามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ผ่าน UCHOOSE ในอนาคตสำหรับแผนธุรกิจในปี 2561 ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน UCHOOSE ประมาณ 1 ล้านคนและมี Active Users ถึง 3 แสนคน ซึ่งถือว่าน่าสนใจและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมาก โดยตั้งเป้าขยายผู้ใช้งานเป็น 2 ล้านคนและตัวเลข Active Users เป็น 6 แสนคนในปีนี้ ซึ่งเป็นไปได้สูง เนื่องจากลูกค้าบัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ปัจจุบันมีเกือบ 4 ล้านคนลูกค้าชอบการแจ้งเตือนเมื่อมีการใช้จ่ายมากที่สุด รู้ทันทีแบบเรียลไทม์ ย้อนหลังไปดูได้ง่าย ไม่ต้องรอสเตทเมนต์ เวลาชำระเงินก็แค่ใช้แอปฯ ไปยิงบาร์โค้ดจ่ายเงินได้เลยถือว่าสะดวกมากส่วนการทำการตลาดจะเน้นใช้ฐานข้อมูลเป็นหลัก ใช้จุดที่อยู่และพฤติกรรมในการศึกษา ปกติคนเราก็มีชีวิตไม่เกินเส้นทางของออฟฟิศกับบ้านหรอก จุดที่ปักหมุดในการนำเสนอโปรโมชันอยู่ไม่เกินรัศมี 3 กิโลเมตร เราก็จะบอกกับพาร์ตเนอร์ได้ กลายเป็น Loyalty Platform และบอกได้ว่าทำไมต้องให้ส่วนลดคนนี้มากกว่าคนอื่นๆถ้าลูกค้ารักแบรนด์มากๆ ก็จะคิดว่า ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ดูแลฉันดีๆ ก็พอ ราคาอาจไม่ใช่ถูกที่สุดแต่ก็เลือกเรา เพราะดูแลเราดีที่สุดการขับเคลื่อนธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จากนี้ต่อไปไม่เพียงแต่การขยาย UCHOOSE ให้ครองใจลูกค้าทั้งประเทศเท่านั้น หากแต่จะดำเนินการใน 4 ด้านคือผู้บริหารกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้เทคโนโลยีในการยกระดับองค์กร ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการนำ Call Center Automation มาปรับใช้ ซึ่งที่ผ่านมาระบบได้บันทึกเสียงลูกค้าเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งต่อมานำเสียงไปแปลงเป็นตัวหนังสือแล้วจัดหมวดเป็น Library Index ดังนั้นเมื่อลูกค้าสอบถามข้อมูลผ่านโทรศัพท์ ระบบก็สามารถดึงข้อมูลที่จับคู่เอาไว้และตอบคำถามอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Tone Analyzer สำหรับวิเคราะห์น้ำเสียงของลูกค้าที่อยู่ในสายและแบ่งเป็นระดับได้ ซึ่งจะแจ้งเตือนไปที่หัวหน้างานเวลาที่เจอกรณีที่มีปัญหาให้เข้ามาช่วยได้ทันท่วงที ฐากรชี้ว่า ทุกธนาคารตอนนี้มองเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในองค์กรลงที่ 20-30% ในปี 2563 นี้ หากเปลี่ยนผ่านได้เร็วก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อความมั่นคงและการพัฒนาองค์กรด้วยส่วนงบการทำการตลาดปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ วางไว้ที่ 2-3 พันล้านบาท เน้นหนักเรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มตัวใหม่ ซึ่งสามารถทำให้ทุกส่วนทำงานพร้อมกันได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงรายการส่งเสริมการขายที่ทำร่วมกับพันธมิตรที่มี และงบประมาณด้านการสร้างแบรนด์ ขณะที่ตัวเลขใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% จะขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น 8% และสินเชื่อที่มีขณะนี้คือ 1.3 แสนล้านบาท คาดว่าจะโตขึ้นอีก 7-8% เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่คิดใหญ่ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และเชื่อว่าจากนี้อุตสาหกรรมบริหารด้านการเงินรายย่อยต้องร้อนแรงขึ้นอีก เมื่อมีแอปพลิเคชัน UCHOOSE รุกตลาดอย่างเข้มข้น และจะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนผ่านชีวิตคนไทยสู่ Digital Lifestyle ที่สำคัญอย่างแน่นอน
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีฐานลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดถึง 4 ล้านราย พร้อมต่อยอดแอปพลิเคชัน UCHOOSE เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าUCHOOSE เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะเปลี่ยนโฉมหน้าการตลาดดิจิทัลในฐานะ Lifestyle Application
null
null
https://thestandard.co/uchoose/
บิ๊กตู่ ยันลงพื้นที่ สุรินทร์-บุรีรัมย์ ไม่เอี่ยวการเมือง
นายกฯ ลั่นลงพื้นที่ สุรินทร์-บุรีรัมย์ ไม่เอี่ยวการเมือง บอก จนท.เป็นคนจัดจะให้ไปพบริมน้ำหรือในป่าก็พร้อมไป แม้มีคนมารับเพียงคนเดียวก็ไม่เกี่ยง โวเป็น รบ.แรกที่ไปทุกพื้นที่ แต่ไม่ได้อนุมัติงบทุกความต้องการ แจงแว้นโชว์เพื่อเรียนรู้ด้วยตนเอง วอนสื่อทำความเข้าใจ-สร้างการรับรู้,เมื่อวันที่ 8 พ.ค.61 ที่อาคารอเนกคุณาคารมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อยากให้ทุกคนกับไปดูว่า ในปีแรกของรัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งอาจจะไปในพื้นที่ที่มีปัญหาก่อน เพื่อแก้ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และแม้จะไปในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งก็ตาม ก็จะมีการเชิญผู้ว่าราชการในกลุ่มจังหวัดนั้นๆ มาพูดคุยทุกครั้ง และการประชุม ครม.นอกสถานที่ก็ได้นำ ครม.รวมทั้ง กรอ.มาร่วมประชุมร่วมกับสภาการค้าอุตสาหกรรม ท้องถิ่น การที่รัฐบาลลงมาในพื้นที่ต่างจังหวัดไม่ได้ลงมาเพื่อรับคำขอ และรัฐบาลก็ทำการบ้านก่อนมาตลอด เราจะยึดหลักการเหตุผลความคุ้มค่า และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ และต้องตัดสินใจให้รอบคอบว่า จะใช้งบประมาณส่วนใดที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เรามีแผนงานของรัฐบาลอยู่แล้ว และให้พื้นที่เสนอความต้องการขึ้นมาสิ่งให้ที่ตรง มีงบประมาณเพียงพอ ก็สามารถทำให้ได้ทันที ส่วนสิ่งใดที่ยังไม่ตรงก็ต้องมีการหารือและปรับ ซึ่งทุกเรื่องจะต้องเข้าสู่ที่ประชุมและเป็นมติของครม. ว่าจะอนุมัติหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อการเมือง หรือเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง หรือตนไม่ต้องลงไปได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ แม้จะมีแผนงานแล้วก็ตาม แต่ก็อยากเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะกลัวข้อมูลจะไม่เพียงพอและในแต่ละพื้นที่ก็ไม่สามารถใช้มาตรฐานเดียวกันได้จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้มาเพื่อการเมืองการเมืองคือการทำเศรษฐกิจ สร้างสภาวะแวดล้อมให้มั่นคงปลอดภัย,ดังนั้นการเดินทางมาประชุม ครม.ในครั้งนี้ไม่ใช่ลงมาเพื่ออนุมัติงบประมาณ 10,000-20,000 ล้านอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ขอให้ทุกคนได้ใช้สติปัญญา ใคร่ครวญด้วยไม่ใช่อะไรก็การเมืองทั้งหมด เพียงแต่ช่วงนี้เป็นการเดินหน้า สู่เรื่องของการเลือกตั้ง หลายคนจึงมองว่าเป็นงานการเมือง การที่รัฐบาลเดินทางมานี้ มุ่งหวังจะไปให้ครบทุกจังหวัด แม้จะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เลือกไปให้ครบทุกกลุ่มจังหวัดก่อน ยืนยันว่ารัฐบาลต้องการไปทุกจังหวัดเพื่อรับฟังความต้องการของประชาชนโดยตรงสอดคล้องกับแผนที่รัฐบาลมีอยู่ในมือและที่ผ่านมาใน 4 จังหวัด 4 ปี,รัฐบาลใช้เงินเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำประมาณ 3,000 ล้านบาทและปีนี้เสนอมาอีกพันกว่าล้านก็น่าจะอนุมัติให้ได้ เพราะตรงกับแผนงานของรัฐที่วางไว้และตรงกับความต้องการของประชาชน จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ว่าลงมาแล้วเขาขออะไรรัฐบาลก็ให้โดยคิดไม่เป็น รัฐบาลมีความตั้งใจดี อยากจะให้ทุกอย่างแต่ต้องดูว่างบประมาณเราเพียงพอหรือไม่เพราะเราไม่ต้องการเอาเงินอนาคตมาใช้ เพราะจะมีปัญหาในเรื่องหนี้สาธารณะ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า การมาบุรีรัมย์ครั้งนี้ มันก็เป็นประเด็นทางการเมือง ว่า มาพบกับคนนั้นคนนี้ยืนยันว่าการที่ตนจะไปพบใครที่ไหนอย่างไร หรือจะพูดจากับประชาชนในสถานที่แห่งไหน ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่เป็นผู้เตรียมการทั้งหมด ตนไม่ได้สั่งการว่าจะเป็นที่นี่ที่นั่น เจ้าหน้าที่เขาจะต้องดูว่าความพร้อมมีที่ไหน ก็จะเชิญไปที่นั่น,ผมพร้อมจะพบกับคนทุกที่ และผมไม่ได้พบกับใครเป็นการส่วนตัว ไม่ได้พบใครในที่รโหฐาน ทุกคนสามารถถ่ายรูปได้มากมายก็จะเห็นว่าผมไม่ได้ไปแอบพบ แอบคุยกับใคร และไม่มีการคุยเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น ผมถือว่าวันนี้เราต้องหาความร่วมมือ ในเรื่องการปฏิรูปประเทศ ในการทำงานเพื่อประชาชนในอนาคตให้ได้โดยเร็วทำความเข้าใจในเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ ความมั่นคง การสนับสนุนมาตรการในการแข่งขันรวมทั้งการพัฒนาในด้านต่างๆ เรื่องเหล่านี้เราต้องมีหลักการในการทำงาน และถึงผมมาแล้วไม่มีใครรับผมก็มา ที่ไหนไม่มีคนมารับผมสักคนหรือมีเพียงคนเดียว ผมก็มา เพราะผมมาเพื่อที่จะพัฒนาเขา แต่เมื่อเขามาตอนรับก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของประชาชนในพื้นที่ให้เกียรติกับผมก็โอเค แต่ผมไม่ต้องการแลกเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องของรัฐบาลไม่ใช่ความดีความชอบของคนเพียงคนเดียว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อการเมือง ที่เดินทางไปสนามช้างอารีน่า ก็เพราะเขาเตรียมการต้อนรับในพื้นที่ตรงนั้น ถ้าเขาจัดต้อนรับที่ริมแม่น้ำ รับในป่าตนก็พร้อมไป ตนจะไปบังคับใครได้ในเมื่อประชาชนเขาอยากมาก็เป็นเรื่องที่เขาอยากจะพบกับตน ตนก็ต้องไปเจอเขา อย่าไปพูดจาให้เกิดความเสียหาย ส่วนเรื่องการขับขี่จักรยานยนต์ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นั้น ตนจำเป็นต้องไปดู และตนก็ขี่เป็นอยู่บ้างก็เลยลองดู อย่างไรก็ตามการที่จะทำอะไรก็ตามถ้าเราได้เรียนรู้ด้วยตนเองจะรู้ถึงความยากง่าย ตนไม่ได้เก่งไปกว่าใคร ก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน ถ้าล้มคว่ำคะมำหงาย ก็อายคนเขาเหมือนกันแต่บังเอิญว่าเคยขี่มาตั้งแต่เด็ก ด้วยความเร็วไม่ได้มากนัก 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็รู้ตัวของตัวเองแต่ทั้งหมดก็ทำให้รู้ว่า เด็กเหล่านี้มีความพยายาม ในการขี่จักรยานยนต์แข่งที่ต้องใช้ความเร็วสูงถึง 200-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องง่ายมีความเสี่ยง ขณะหลวงพ่อคูณนั่งรถแค่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ลงไปแล้ว ดังนั้นต่อให้ห้อยหลวงพ่อคูณก็เอาไม่อยู่ ทั้งหมดอยู่ที่ตัวของเราเอง อยู่ที่ความเชื่อมั่น,ลองคิดดูว่า การแข่งขันมอเตอร์ไซค์แต่ละครั้ง 4 ชั่วโมง ไม่มีหยุด ต้องเอนตัว แต่ละรอบไม่รู้กี่ครั้ง เอนตัวไปทั้งด้านซ้ายละขวา มันอันตรายแค่ไหน ความเร็วในโค้ง 200-300 กิโลเมตร เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นกิจกรรมการแข่งขันด้านกีฬาที่คนทั้งโลกนิยม ก็น่าดีใจ ที่เรามีคนของเรา มีชื่อเสียงระดับโลก มีคนกล้าที่จะฝึก เมื่อวานที่ผมขี่อันตรายก็อยู่ที่ช่วงเข้าโค้ง การควบคุมรถการถ่วงน้ำหนัก ถ้าใช้ความเร็วมากผมก็คงหลุดโค้ง จึงต้องระมัดระวัง ผมรู้ตัวว่าทุกคนจ้องจะถ่ายผม ตอนขี่ดีๆ ไม่ถ่ายการลงพื้นที่ครั้งนี้จึงได้เห็นถึงความรักสามัคคีของคนในจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยอะไร แต่เขาก็มีความรักความสามัคคีทำประโยชน์ให้เกิดกับชาติ ซึ่งก็น่าจะดี และได้มีโอกาสไปดูตลาดคนเดินเซราะกราว ซึ่งปกติขายเฉพาะเสาร์อาทิตย์ แต่วานนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะอยากมาดูหน้านายกฯ คนแน่นตลอดไปหมด ซึ่งอยากจะบอกว่านายกฯไม่ใช่คนพิเศษ เป็นคนธรรมดาแตะต้องสัมผัสได้ ผมถือว่า ผมได้รับความรัก ได้รับความเมตตาจากประชาชน ผมไม่ได้พูดแบบนักการเมือง กับลูกน้อง กับทหาร ผมก็พูดแบบนี้ มาตลอด เราอยู่คนเดียวไม่ได้ คนเป็นนายกฯก็เช่นกัน อยู่ได้ก็ด้วย ครม. ข้าราชการประชาชนผู้ได้รับประโยชน์ การจะทำให้ประเทศแก้ไขปัญหาได้ไม่ใช่แก้เพียงโครมคราม พันหน้าพันหลังเราต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ไม่ใช่นายกฯจะไปชี้โน้นชี้นี่ ก่อนหน้าสองวันได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ลงทุกพื้นที่ใน 4 จังหวัดอีสานใต้ เพื่อรวมรวมปัญหาอุปสรรคและความต้องการของประชาชน และนำมาหารือในที่ประชุม ครม.ซึ่งการทำงานควรต้องเป็นแบบนี้ในอนาคตก็ต้องเป็นเช่นนี้ด้วย ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ตาม ฝากสื่อไว้ด้วยตนจะอยู่หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่สื่อคือส่วนที่อยู่ในทุกๆ รัฐบาล ก็ขอร้องให้ช่วยทำความเข้าใจ ให้ประชาชนเข้าใจให้ดีขึ้นและไม่ว่ารัฐบาลหน้าจะเป็นใครก็ตามจะต้องสร้างการยอมรับและความไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้ อย่าไปสอนประชาชนให้ได้อะไรมาง่ายๆเพราะมันจะสูญสลายหมดสิ้นไปง่ายเช่นกัน แต่ละปีงบประมาณหมดไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลนี้เป็นห่วงมากที่สุด,ผมอยากฝากสื่อมวลชน เพราะหลายคนบอกว่ายังไม่รู้รัฐบาลทำอะไรให้บ้าง เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลที่ติดตามคือเรื่องความขัดแย้ง ชาวบ้านไม่ได้ตามดูข้างในว่ารัฐบาลทำอะไร ชาวบ้านมักเอาการเมืองมาขับเคลื่อนความสงบและความไม่สงบเรียบร้อยมักเกิดขึ้นจากพวกเรา จากสื่อ และรัฐบาลอาจพูดจาจนเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะผม ชอบพูดเยอะ แต่ผมพูดด้วยความตั้งมั่นตั้งใจดีของผมเอง บางทีไม่มีเจตนาก็ต้องขอโทษด้วย เราจึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะมีการขึ้นป้ายทั้งหมดขอบคุณ ฯพณฯ คนนั้นคนนี้ที่สร้างสะพานสร้างถนนให้ แต่ผมบอกไม่จำเป็น สิ่งที่รัฐบาลทำคือการสร้างความรับรู้กับสื่อและสังคมโซเชียลว่าเราทำอะไรไปบ้าง แลผมเชื่อว่าไม่เคยมีแบบนี้มาก่อนที่รัฐบาลลงพื้นที่เกือบทุกจังหวัด ทุกภาค ผมไม่ได้มาประชาสัมพันธ์เพื่อให้รักรัฐบาล แต่อยากชี้ให้เห็นถึงจิตใจของ ครม.ข้าราชการ พยายามทำดีอย่างเต็มที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ลั่นลงพื้นที่ สุรินทร์-บุรีรัมย์ ไม่เอี่ยวการเมือง บอก จนท.เป็นคนจัดจะให้ไปพบริมน้ำหรือในป่าก็พร้อมไป แม้มีคนมารับเพียงคนเดียวก็ไม่เกี่ยง โวเป็น รบ.แรกที่ไปทุกพื้นที่แต่ไม่ได้อนุมัติ
ข่าว,การเมือง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ,ประชุม ครม.สัญจร,ครม.สัญจร,จ.บุรีรัมย์-จ.สุรินทร์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1276077
สถานทูตฯ เตือนคนไทยเกาะติดแผ่นดินไหวฮอกไกโด
วันนี้ (6 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานสถานการณ์เหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.7 ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 03.08 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองอาซึมาโจ จ. ฮอกไกโด ความรุนแรงของแผ่นดินไหวทำให้เกิดหินถล่ม จากรายงานของตำรวจแจ้งว่าจุดที่เกิดหินถล่มมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 40 คน ในขณะนี้ 10 คน ได้รับการยืนยันความปลอดภัย 10 คนได้รับการช่วยเหลือออกจากพื้นที่โดยฮอลิคอปเตอร์ และส่วนที่เหลืออีก 20 คน ยังไม่สามารถตรวจสอบสถานะได้ขณะที่ จากการสำรวจผลกระทบเมื่อเวลา 09.30 น. พบว่ามีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 120 คน สูญหาย 19 คนนอกจากนี้ แผ่นดินไหวทำให้เกิดไฟไฟดับประมาณ 295 ครัวเรือน ซึ่งการไฟฟ้าฮอกไกโดอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะใช้พลังงานน้ำไปช่วยในการปั่นไฟ ทำให้ในขณะนี้ไม่สามารถถ่ายทอดข่าวสารทางสถานีโทรทัศน์ได้ และทำให้การรับข่าวสารต่าง ๆ ภายในฮอกไกโด ยังหยุดชะงักอยู่ขณะที่ สนามบินชิโตเซ ฮอกไกโด ได้ประกาศปิดการให้บริการในวันนี้ (6 ก.ย.) เนื่องจากฝาผนังของสนามบินหลายส่วนพังทลาย และท่อประปาแตกหลายจุด ทางการญี่ปุ่นกำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซมสนามบิน และยังไม่ประกาศกำหนดเปิดให้บริการ นอกจากนี้ มีประกาศปิดการให้บริการรถไฟสาย JR Hakodateshiden และรถไฟเกือบทุกขบวนในขณะนี้ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตขอให้คนไทยในพื้นที่ดังกล่าว ติดตามข่าวและปฏิบัติตามประกาศของทางการท้องถิ่น และอาจมีคำแนะนำอพยพไปพำนักในที่ปลอดภัย เนื่องจากจะมี aftershock เกิดขึ้นอีกหลายครั้งในช่วง 2-3 วันนี้
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวที่ฮอกไกโด ขนาด 6.7 มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 120 คน สูญหาย 19 คน
ต่างประเทศ
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,แผ่นดินไหว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ฮอกไกโด
https://news.thaipbs.or.th/content/274433
Once a Blue, always a Blue การกลับบ้านอีกครั้งของ ‘เวย์น รูนีย์’
ถึงจะเป็นเรื่องที่พอคาดเดาบทสรุปเอาไว้ได้บ้างอยู่แล้ว แต่การร่ำลาโอลด์แทรฟฟอร์ด เพื่อกลับถิ่นกูดิสันพาร์กอีกครั้งของ เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney) ก็สะกิดความรู้สึกที่หลายหลากในหัวใจของคนที่ได้พบเห็นไม่ว่าจะเป็น เรด อาร์มี เอฟเวอร์โตเนียน หรือใครก็ตามมีทั้งสุขและเศร้าในคราวเดียวกันถึงจะไม่ได้รับการยอมรับในความสง่างามเทียบเท่ากับ ไรอัน กิ๊กส์ (Ryan Giggs) หรือ พอล สโคลส์ (Paul Scholes) แต่เหล่าแฟน ปีศาจแดง ก็อดใจหายไม่ได้ที่เจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร และครั้งหนึ่งเคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมต้องจากไปแบบนี้ขณะที่เหล่าแฟน ทอฟฟีสีน้ำเงิน ที่เคยแค้นเคืองโกรธโทษเด็กหนุ่มผู้ทรยศหนีออกจากบ้านไปเมื่อ 13 ปีก่อน กลับยินดีปรีดามากกว่าการเห็นสโมสรทุ่มเงินซื้อนักเตะระดับสตาร์หลายรายในช่วงก่อนหน้านี้มันเป็นความย้อนแย้งที่ยากจะอธิบายครับแม้ในอีกทางหนึ่ง ก็น่าคิดว่ามันก็ดูเป็นเรื่องราวของ เวย์น รูนีย์ ในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่งที่มีเส้นทางชีวิตที่ชวนสับสนและเต็มไปด้วยความขัดแย้งความมหัศจรรย์สีน้ำเงินชื่อของ เวย์น รูนีย์ ปรากฏขึ้นในเมอร์ซีย์ไซด์ในช่วงต้นยุค มิลเลนเนียม ในยามนั้นเมอร์ซีย์ไซด์มีการพูดถึง Wonderkid หรือเจ้าหนูมหัศจรรย์คนใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นต่อจาก ไมเคิล โอเวน เด็กมหัศจรรย์คนก่อนที่ก้าวขึ้นจากทีมเยาวชนของลิเวอร์พูล และกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดของประเทศชื่อของไอ้หนูขี้อายกระฉ่อนไปทั่วสนามฟุตบอลที่ย่านวอลตัน (Walton) และ เคิร์กเดล (Kirkdale) ในวันอาทิตย์ที่มีการแข่งขัน Sunday League (ลีกฟุตบอลสมัครเล่นของชาวอังกฤษ)บ็อบ เพนเดิลตัน (Bob Pendleton) อดีตแมวมองของเอฟเวอร์ตัน บอกเล่าถึงความหลังครั้งที่ได้เห็นรูนีย์ ลงเล่นเป็นครั้งแรกผ่าน BBC ว่าวันนั้นเขาได้เห็นรูนีย์ ลงเล่นที่สนามเจฟฟรีย์ ฮัมเบิล (Jeffrey Humble) ที่ลองเลน (Long Lane) ในย่านวอลตันสิ่งที่บ็อบ – ผู้ที่ค้นพบรูนีย์ และรู้จักเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรก – จำได้ในวันนั้นคือ ภาพของเด็กน้อยในชุดทีมคอปเปิลเฮาส์ บอยส์ (Copplehouse Boys) ที่พาบอลไปทั่วสนาม ยิงประตูได้ในทุกโอกาสที่เขามี แม้กระทั่งการยิงประตูจากระยะ 20 หลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเด็กตัวเล็กๆ อายุ 9 ขวบ ที่แบกอายุลงเล่นในทีมชุดอายุต่ำกว่า 11 ปีถึงจะตัวเล็กแต่ทรงพลังอย่างยิ่งบ็อบ ตัดสินใจในทันทีว่าจะต้องจับเด็กคนนี้เซ็นสัญญากับเอฟเวอร์ตันให้ได้แต่คำตอบแรกจาก Big Nev ผู้จัดการทีมคอปเปิลเฮาส์ บอยส์ คือ ไม่ เพราะรูนีย์เพิ่งจะเซ็นสัญญากับพวกเขา และหากบ็อบนำตัวเด็กคนนี้ไปพวกเขาก็จะหมดสิทธิ์ใช้งานไอ้หนูรายนี้อีกเพียงแต่แมวมองผู้มากประสบการณ์และเป็น เอฟเวอร์โตเนียน (Evertonian) มาตั้งแต่ปี 1948 และทำงานรับใช้สโมสรอย่างเข้มแข็งในการหาเพชรเม็ดงามมาให้ทีมรัก ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะสำหรับบ็อบแล้ว รูนีย์คือสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาไม่เคยพบมาตลอดชีวิตนี้ บ็อบ ตามติดไปขอพูดคุยกับครอบครัวของเจ้าหนู เวย์น และได้พบกับ เวย์น ซีเนียร์ (Wayne Sr.) และเจียเนตต์ (Jeanette) พ่อและแม่ของเจ้าหนูรายนี้ ก่อนจะโล่งใจที่รู้ว่าครอบครัวนี้ สีน้ำเงิน เป็นเอฟเวอร์โตเนียนแบบเดียวกับเขา หลังการพูดคุย บ็อบส่งเทียบเชิญให้เจ้าหนูเวย์นมาที่เบลล์ฟิลด์ (Bellefield) สนามซ้อมของเอฟเวอร์ตัน ในวันพฤหัสบดีเพื่อทดสอบฝีเท้า แต่อะไรมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้นครับ เพราะรูนีย์มีคิวที่จะไปสนามซ้อมของ ลิเวอร์พูลก่อนในวันอังคาร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าหนูหมูน้อยได้โอกาสลงฝึกซ้อมกับลิเวอร์พูลก่อนแล้วแต่ยังไม่โอเค แต่เมื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างเริ่มดังขึ้น ทีมสีแดงแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ก็หวงก้างขึ้นมาทันที เมื่อทราบข่าวบ็อบตัดสินใจเร่งการทดสอบฝีเท้าให้ไวขึ้นเพื่อตัดหน้าลิเวอร์พูล แล้วก็ทำสำเร็จ โดยรูนีย์ได้เข้ารับการทดสอบฝีเท้าต่อหน้า เรย์ ฮอลล์ (Ray Hall) ผู้ดูแลอคาเดมีของเอฟเวอร์ตันในขณะนั้น และจากนั้น โจ รอยล์ อดีตผู้จัดการทีมในขณะนั้นได้มาพบเจ้าหนูตามคำร้องขอของบ็อบ ที่ยืนกรานว่าหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องเซ็นสัญญากับเด็กคนนี้ให้ได้ ท้ายที่สุดแล้วทั้ง เรย์ และ โจ ต่างประทับใจกับเด็กคนนี้ ในที่สุด เวย์น รูนีย์ ก็ได้เข้าสู่ทีมเยาวชนของ เอฟเวอร์ตัน ความเก่งกาจของเขาเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้อีก จากระดับเยาวชน เขาก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ของเอฟเวอร์ตัน ในวัยเพียง 16 ปี เจ้าหนูมหัศจรรย์รายนี้ทำให้ บิลล์ เคนไรต์ (Bill Kenwright) อดีตประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน ถึงกับเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้เมื่อให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุ BBC 5 Live เพราะแม้จะพยายามบอกว่าเขาไม่อยากพูดอะไรถึงเด็กคนนี้ให้เป็นที่กระโตกกระตาก แต่ความจริงแล้วบิลล์พูดชมเจ้าหนูรายนี้แทบทุกคำ เขามหัศจรรย์มาก เขามีทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างไรก็ดีความลับไม่มีในโลก และประตูปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมในช่วงท้ายเกมกับอาร์เซนอล ในวันที่ 2 ตุลาคม 2002 หยุดสถิติไร้พ่ายของอาร์เซนอลเอาไว้ที่ 30 นัด เป็นการประกาศนามของ เวย์น รูนีย์ ต่อโลกใบนี้รุ่งโรจน์และร่วงโรย เด็กคนนี้ต้องแกล้งทำเป็นอายุ 16 แน่ อาร์แซน เวนเกอร์ (Arsène Wenger) แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เขาได้เห็นหลังทีมต้องประสบความพ่ายแพ้ในเกมที่กูดิสัน พาร์ก ด้วยประตูมหัศจรรย์ของเด็กที่ เดวิด มอยส์ (David Moyes) เพิ่งส่งลงสนามได้เพียง 10 นาที และยิงประตูจากระยะ 30 หลาผ่านมือ เดวิด ซีแมน (David Seaman) นายทวารมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษได้ก่อนหมดเวลาการแข่งขันแค่ 28 วินาที และเป็นประตูฉลองวันคล้ายวันเกิดอายุ 17 ปีล่วงหน้าของเขาที่จะครบรอบในอีก 5 วันให้หลัง จากนั้นชื่อของรูนีย์กลายเป็นที่สนใจของผู้คนทันที ในฐานะความมหัศจรรย์ครั้งใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ ท่ามกลางการยกย่องว่าเด็กคนนี้อาจเป็นผู้มีพรสวรรค์สูงสุดของประเทศนับตั้งแต่สิ้นยุคของ พอล แกสคอยน์ (Paul Gascoigne) นับจากนั้น 6 เดือน รูนีย์ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษในยุคของ สเวน โกรัน อีริกส์สัน (Sven Goran Erikssons) และหลังจากนั้นไม่ถึง 2 ปี เขากลายเป็นนักเตะที่ถูกต้องการตัวมากที่สุด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอ 20 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับเจ้าหนูรายนี้ แต่ เอฟเวอร์ตันซึ่งพยายามยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ให้ด้วยเงินมหาศาลถึง 50000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวไป แต่เมื่อรูนีย์รู้ว่าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรอันดับหนึ่งของประเทศต้องการได้ตัวเขาไปร่วมทีม เจ้าหนูก็ทะเยอทะยานมากพอที่จะหักน้ำใจกับสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ต้นด้วยการขอขึ้นบัญชีย้ายทีมที่กำลังอยู่ในภาวะยากลำบาก และทำให้เอฟเวอร์ตันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการปล่อยให้สายเลือดของสโมสรที่พวกเขาภาคภูมิใจมากที่สุดต้องจากทีมไปอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่า บิลล์ เคนไรต์ ถึงกับร้องไห้อย่างหัวใจสลายพร้อมก่นด่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า พวกมันขโมยเด็กของผมไป อย่างไรก็ดีมันเป็นการตัดสินใจที่รูนีย์ในวัย 18 ปีพอใจ และเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมากดังใจหวังในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย และอีกมากมาย ไม่นับการทำลายสถิติการทำประตูตลอดกาลของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (Sir Bobby Charlton) ที่ยืนยงมายาวนาน 44 ปีนับตั้งแต่ปี 1973 และเขาก็เป็นคนทำลายสถิติผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของชาร์ลตัน ในทีมชาติอังกฤษด้วยเช่นกัน ในช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดของเขา รูนีย์เป็นที่ปรารถนาของทุกสโมสรบนโลก เขาเคยได้รับการยกย่องว่าจาก เฟอร์กี้ ว่าเป็น เปเล่ขาว แม้แต่ เปเล่ (Pele) ราชาลูกหนังโลกก็เคยกล่าวยกย่องฝีเท้าของนักเตะอันดับหนึ่งของอังกฤษเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ท่ามกลางแสงสกาวของความสำเร็จ รูนีย์กลับพลาดโอกาสที่จะได้รับการยกย่องในฐานะตำนานตลอดกาลผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะในนามของนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือในนามทีมชาติอังกฤษ บาดแผลทางใจจากการที่รูนีย์พยายามจะกดดันสโมสรด้วยการขอย้ายทีมถึง 2 ครั้งด้วยเหตุผลว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดความทะเยอทะยาน ทำลายความรักและความรู้สึกดีๆ ที่เหล่าสาวกอสูรแดงเคยมีให้ต่อเขาจนสิ้น หากยังรักก็ไม่อาจพูดได้ว่าหมดใจ ขณะที่กับทีมชาติอังกฤษ เขา – ในฐานะผู้เป็นความหวังสูงสุดของชาติตลอดระยะเวลา 15 กว่าปีที่ผ่านมา – ก็ไม่เคยทำให้ชาวอังกฤษได้สมหวังกับความสำเร็จในเวทีระดับสากล ในทางตรงกันข้าม รูนีย์ทำให้แฟนบอล สิงโตคำราม ผิดหวังในเวทีใหญ่มาโดยตลอด โดยทัวร์นาเมนต์เดียวที่เขาทำผลงานได้ดีที่สุดคือฟุตบอลยูโร 2004 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เขากำลังสดและห้าวมากที่สุด และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รูนีย์ค่อยๆ กลายเป็น ส่วนเกิน ไม่ว่าจะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือทีมชาติอังกฤษ เขาอาจเป็นกัปตันทีมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอยู่ แต่มันไม่มีค่าอันใดเลยเมื่อเขาไม่ได้รับโอกาสในการลงสนาม หรือหากได้โอกาสก็เป็นเพียง ส่วนประกอบ หรือได้ลงสนามเพราะความ เห็นใจ มันทำให้รูนีย์คิดและไต่ตรอง บางทีมันถึงเวลาที่เขาต้องออกเดินทางอีกครั้งบ้านและครอบครัว ผมไม่แน่ใจนักว่ามันมีน้ำหนักมากพอจะพูดได้ไหมว่า รูนีย์คิดถึงการย้ายกลับมาเอฟเวอร์ตันเสมอ แต่อย่างน้อยที่สุดการหวนกลับมาลงสนามในชุดสี Royal Blue ในเกมนัดเทสติโมเนียลแมตช์ของดันแคน เฟอร์กูสัน (Duncan Ferguson) อดีตหัวหอกจ้าวเวหาเมื่อปี 2015 ก็เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าเขาเองคิดถึงบ้านหลังนี้เสมอ เพียงแต่ด้วยบทบาทและสิ่งที่เคยทำรวมถึงความบาดหมางต่างๆ ทำให้เขา ไม่กล้า ที่จะบอกกับใครอย่างชัดเจนว่าเขาคิดถึง เขากลัวว่าเหล่าเอฟเวอร์โตเนียนจะไม่ยกโทษให้ แต่เอาเข้าจริงนอกจากจะไม่มีเสียงโห่ฮาป่าเถื่อนจากทั้ง 4 ทิศของอัฒจันทร์ – หรืออาจจะมีแต่มันก็เบาเกินกว่าจะได้ยิน – รูนีย์ ที่สวมเสื้อหมายเลข 18 ยืนรอเปลี่ยนตัวลงสนามในช่วง 15 นาทีสุดท้าย กลับได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากแฟนบอลที่ไม่ต่าง อะไรจากการบอกว่าความผิดในอดีตนั้นได้รับการให้อภัยแล้ว มันผ่านไปแล้ว วันเวลาได้เยียวยาความเจ็บปวดจนเบาบางแล้ว และสำหรับเอฟเวอร์โตเนียน เขายังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ครอบครัว เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม นั่นคือความหมายที่แท้จริงของ Once a Blue always a Blue ที่เขาเคยโอ้อวดในวัยเยาว์โดยที่ไม่ได้เข้าใจความหมายของมันเลยแม้แต่น้อยในเวลานั้น หลังการได้กลับไปกูดิสันพาร์ก ครั้งนั้นผมเชื่อว่ารูนีย์คิดถึงการย้ายกลับมาบ้านหลังเดิมของเขาตลอด และเมื่อเขายอมรับว่าเวลาของเขากับแมนฯ ยูไนเต็ด หมดลงแล้วเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะทำลายสถิติของสโมสร แต่มันเป็นฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุด เขาก็มองหาที่หมายปลายทางแห่งใหม่ ซึ่ง เอฟเวอร์ตันเป็นหนึ่งในทีมที่เขาคิดถึง เมื่อข้อเสนอจากจีนถูกขัดขวางโดยคอลลีน ภรรยาสาวที่ไม่ต้องการพาลูกไปอยู่แดนไกล และข้อเสนออื่นๆ ว่างเปล่าเกินไป รูนีย์จึงตัดสินใจที่จะขอกลับบ้านอีกครั้ง โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยินดีเปิดทางให้หลังรับใช้สโมสรมากว่า 13 ปี นี่อาจจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา กำลังวังชาแข้งขาอาจไม่เหมือนเก่าในวันที่เขาคือความมหัศจรรย์สีน้ำเงิน แต่เขาพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และหวังว่าจะทำภารกิจที่ค้างคากับเอฟเวอร์ตันให้สำเร็จ นั่นคือการช่วยนำสโมสรให้กลับมาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่เหมือนในยุค 80s อีกครั้ง เพื่อเป็นการปิดตำนานของเขาในฐานะนักเตะที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคอย่างแท้จริง
ถึงจะไม่ได้รับการยอมรับในความสง่างามเทียบเท่ากับ ไรอัน กิ๊กส์ (Ryan Giggs) หรือ พอล สโคลส์ (Paul Scholes) แต่เหล่าแฟน ปีศาจแดง ก็อดใจหายไม่ได้ที่ เวย์น รูนีย์ เจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรต้องร่ำลาโอลด์แทรฟฟอร์ ดเพื่อกลับสู่กูดิสันพาร์กอีกครั้งขณะที่เคยอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวย์น รูนีย์ เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย ไม่นับการทำลายสถิติการทำประตูตลอดกาลของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (Sir Bobby Charlton) ที่ยืนยงยาวนานมา 44 ปีนับตั้งแต่ปี 1973เมื่อเวย์น รูนีย์ ยอมรับว่าเวลาของเขากับแมนฯ ยูไนเต็ด หมดลงแล้วเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขาก็มองหาที่หมายปลายทางแห่งใหม่ ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน เป็นหนึ่งในทีมที่เขาคิดถึงมาโดยตลอด
null
null
https://thestandard.co/opinion-sport-goal-of-life-wayne-rooney/
ชาตินี้ต้องไปสักครั้ง 5 ที่สุด รีสอร์ตสุดหรู สวนสวรรค์แห่งที่สามตรีสรา รีสอร์ต
ถ้าคิดถึงการพักผ่อน คิดถึงทะเล คุณจะคิดถึงที่ไหน? เราเชื่อว่า คำตอบแรกๆ ที่คุณจะคิดถึง คือ ภูเก็ต จังหวัดที่ได้ชื่อว่ามีทะเลเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน วันนี้ คู่มือคนเมือง ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้ไปเยือนภูเก็ต และได้ไปพักที่รีสอร์ตสุดหรู ขอบอกว่างานนี้หรูหรา เริด ประทับใจ ฟินสุดๆ จนอยากจะให้ทุกคนมีโอกาสได้ไปลองสักครั้งในชีวิตกับ ตรีสรา รีสอร์ต,เราสะดุดหูตั้งแต่ชื่อรีสอร์ต ,ตรีสรา, ชื่อไพเราะมาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่า ,สวนสวรรค์แห่งที่สาม, หลายคนอาจจะคิดว่ามีดีแค่ชื่อสวยหรูรึเปล่า แต่ถ้าคุณได้มาสัมผัส ที่นี่ไม่ได้เป็นสวรรค์เพียงแค่ชื่อ แต่ตรีสราเป็นรีสอร์ตและท่ีพักระดับหรูในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับการโหวตให้เป็น โรงแรมและรีสอร์ตขนาดเล็ก ขนาดต่ำกว่า 100 ห้องที่ดีที่สุดในโลก และ รีสอร์ตที่ดีที่สุดในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้อ่าน Gallivanters Guide ในปี พ.ศ. 2554,ตรีสรา ได้กลายมาเป็นที่รู้จักตั้งแต่เปิดบริการในเดือนพฤศจิกายน 2547 รีสอร์ตสุดหรู และเป็นส่วนตัวที่สุดบนเกาะภูเก็ตแห่งนี้ตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวห่างจากสนามบินนานาชาติ ภูเก็ตเพียง 15 นาที ทางด้านชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือที่เงียบสงบคงไว้ซึ่งความเป็นชนบท เส้นทางขับรถไม่ไกลจากสนามบิน ภูเก็ตเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่เมืองภูเก็ต แท้ๆ ที่งดงาม โดยเดินทางลดเลี้ยวผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ป่าและชายหาดต่างๆ ก่อนจะเดินทางมาถึงทางเข้ารีสอร์ตสงบร่มรื่น,รีสอร์ตแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องพูลสวีตและวิลล่า 48 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกของแขก และวิลล่าแบบที่พักอาศัยขนาด 2-6 ห้องนอน ตั้งอยู่ในสวนพื้นที่ 40 เอเคอร์ ที่ค่อยๆ ไล่ระดับสูงขึ้น 2,000 เมตรติดทะเล โดยห้องพักทั้งหมดมีบรรยากาศร่มรื่นเป็นส่วนตัวจากสวนไม้เขตร้อนที่เขียวชอุ่ม,สอดส่อง ลัดเลาะ สแกน 5 ที่สุด ตรีสรา รีสอร์ต,1. บริการสุดประทับใจ,บอกเลยว่าใครที่รักความเป็นส่วนตัว คุณต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้ ,กิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี, เจ้าของและผู้บริหาร ตรีสรา บอกกับเราว่า ที่นี่เป็นส่วนตัวที่สุด แขกเข้ามาแล้วไม่ต้องเจอกับใครให้วุ่นวาย การบริการของพนักงานก็ส่วนตัวและประทับใจอีกด้วย เพราะที่นี่มีพนักงานกว่า 400 คน แต่แขกมีเยอะสุดก็จะประมาณร้อยกว่าคน ดังนั้นเฉพาะแขกแต่คนละจะมีพนักงาน 4 คน คอยช่วยดูเอาใจใส่,ตรีสรา เน้นด้านการเทรนด์บุคลากร จากสถาบันศึกษาตรีสรา เป็นสถานที่ฝึกอบรมที่ออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอหลักสูตรทักษะการต้อนรับโดยเฉพาะให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าตรีสรารีสอร์ตมีสถานที่ตั้งที่สมบูรณ์แบบในการเรียนรู้และประสบการณ์ทักษะที่จำเป็นในการเป็นส่วนหนึ่งและเป็นผู้นำในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับงานต้อนรับบริการของประเทศไทย,2. โลเคชั่นสุดเริด,ตรีสรา รีสอร์ต มีหาดส่วนตัว พื้นที่เป็นเนิน ถ้าดูแผนที่หรือมองจากข้างบน มันจะเป็นโค้งๆ เหมือนเป็นที่ไว้ดูการแสดงได้ เพราะฉะนั้นทุกหลังที่อยู่บนเนินก็จะมีวิวในแต่ละห้อง แต่ละหลังก็จะมีวิวที่ไม่เหมือนกัน เรามีพื้นที่แบบนี้ทำให้เราสามารถที่จะจัดให้ทุกหลังไม่ใกล้ชิดกันมากจนเกินไป โลเคชั่นก็เป็นสิ่งที่สองที่ดีที่สุด,3. กิจกรรมสุดมัน,ภูเก็ตมีสิ่งน่าสนใจมากมาย ที่นี่สามารถให้คำแนะนำกับแขกได้เป็นอย่างดี สามารถช่วยวางแผนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสกับความประทับใจต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือยอชต์ไปเกาะใกล้เคียง ดำน้ำแบบสน็อกเกิล ทัวร์ตลาดและอาหารท้องถิ่น ขี่ช้าง เดินป่า สำรวจเมื่องเก่าในตัวเมืองภูเก็ต หรือถ้าแขกไม่อยากออกไปนอกรีสอร์ต อยากจะพักผ่อนสบายๆ ภายในตรีสราก็มีตรีสราสปา มีห้องยิมอยู่ด้านล่างสปา ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างครบครัน ทั้งยังมีชั้นเรียนว่ายน้ำ เรียนชกมวย เล่นเทนนิส,4. อาหารสุดแจ่ม,ผู้บริหารบอกกับเราว่า ตรีสราพยายามจะมีอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด แขกสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารไทยแท้ และอาหารนานาชาติได้ ทั้งยังสุดพิเศษกับ, ตรีสราซีฟู้ด, ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารทะเลชื่อดัง the French Riviera and Capri ซึ่งบอกเลยว่าวัตุดิบนั้นสดใหม่มาจากทะเลอันดามันและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน,นอกจากนั้นวันอาทิตย์สบายๆ ยังมี ,ซันเดย์บรันช์ แจ๊ส, ฟินสุดๆ กับ มุมซีฟู้ด, ล็อบสเตอร์นำเข้า, กุ้งลายเสือ, ปู และหอยนางรม 4 ชนิดแล้ว ซันเดย์บรันช์โฉมใหม่ของตรีสรา ภูเก็ต ยังมีเมนูบาร์บีคิวมากมายให้เลือกสรร รวมถึงมินิเบอร์เกอร์หมูตุ๋น ซึ่งกำลังจะกลายมาเป็นเมนูเด็ดจานใหม่ของตรีสรา แขกทุกท่านสามารถดื่มด่ำวิวทะเล ผ่อนคลายกับการบรรเลงขับกล่อมจากวงดนตรีแจ๊ส ไปพร้อมการลิ้มรสอาหารปรุงสดใหม่ด้วยฝีมือทีมเชฟของตรีสรา และบาร์เทนเดอร์ที่พิถีพิถันในการชงบลัดดี้แมรี่รสกลมกล่อมสำหรับดื่มคู่กับมื้ออาหารเลิศรส ,5. ห้องพักสุดหรู,ถ้าดูจากภายนอกจะเห็นได้ชัดว่าสไตล์ห้องพักแต่ละห้องค่อนข้างตกแต่งอย่างไทย เข้าไปข้างในห้องพักก็ยังคงความเป็นไทยอยู่แต่ก็ไม่ไทยมากเกินไป ใช้โทนสี พื้นไม้สีที่ค่อนข้างอบอุ่นทำให้ห้องไม่ดูโล่งเกิน ถึงแม้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มีห้องพักให้เลือกหลายแบบด้วยกัน,1. พลูวิลล่าแบบ 1 ห้องนอน มีจำนวน 22 ห้อง มีพื้นที่ 240 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้าไร้ขอบยาว 10 เมตร,2. ห้องพักมีสระว่ายน้ำและวิวทะเล 12 ห้องอยู่เหนือพลูวิลล่าแบบมองเห็นวิวทะเลโดยมองเห็นทัศนียภาพผืนทะเลที่กว้างไกลทุกห้อง ห้องพักมีสระว่ายน้ำประกอบด้วยพื้นที่รวม 117 ตารางเมตร,3. พลูสวีตแบบมองเห็นวิวทะเล 3 ห้องตั้งอยู่ติดกันเหนืออ่าวพร้อมวิวทะเลงดงามและกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา สาารถเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้เป็นห้องนอนสำรองสำหรับเด็กสองคนได้ง่ายๆ ทั้งยังมีระเบียงแบบเปิด มีสระว่ายน้ำไร้ขอบขนาด 9 เมตร,4. พูลวิลล่าแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 2 ห้องของเราตั้งอยู่เหนืออ่าวพร้อมทัศนียภาพและความเป็นส่วนตัวที่เหนือกว่าวิลล่าเหล่านี้ ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของห้องนั่งเล่นส่วนกลาง รวมไปถึงมีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 10 เมตร,5. ตรีสราวิลล่า 8 ห้อง ล้อมรอบไปด้วยสวนไม้เมืองร้อนเขียวชอุ่ม ซึ่งสามารถมองทะลุผ่านสระว่ายน้ำไปสู่วิวอันดามันสวยงาม โดยห้องนอน 2 ห้อง ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของส่วนห้องนั่งเล่นและศาลารับประทานอาหารส่วนกลางซึ่งมีทางเดินส่วนตัวไปยังสระว่ายน้ำและระเบียงด้านนอก สระว่ายน้ำไร้ขอบขนาดใหญ่ 18 เมตร ,6. วิลล่าแบบที่พักอาศัย (1 หลังใหญ่) สุดยอดที่พักแบบส่วนตั๊วส่วนตัว 20 ยูนิต มีถึง 2-6 ห้องนอน งานนี้บอกเลยว่ายกกันมาทั้งตระกูลก็พักด้วยกันได้ ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่และมีห้องครัวส่วนตัวไว้บริการด้วย เหมาะสำรับการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง และยังมีห้องดูหนัง เล่นพูล บอกเลยอลังการสุดๆ
ถ้าคิดถึงการพักผ่อน คิดถึงทะเล คุณจะคิดถึงที่ไหน? เราเชื่อว่า คำตอบแรกๆ ที่คุณจะคิดถึง คือ ภูเก็ต จังหวัดที่ได้ชื่อว่ามีทะเลเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน วันนี้ คู่มือคนเมือง ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้ไปเยือนรีสอร์ตสุดหรู
null
ตรีสรา รีสอร์ต,รีสอร์ตจังหวัดภูเก็ต,รีสอร์ตสุดหรู,รีสอร์ตภูเก็ต,เที่ยวภูเก็ตพักไหน,เที่ยวภูเก็ต,ไปภูเก็ตพักที่ไหน,โรงแรมใกล้สนามบินภูเก็ต,ข่าว,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/513703
โปรดเกล้าฯถอดยศ ร.ท.หญิง รัตติยา ทหารมหาดเล็กฯ เหตุประพฤติผิดวินัยทหาร
โปรดเกล้าฯถอดยศ ร.ท.หญิง รัตติยา ทหารมหาดเล็กฯ ประพฤติผิดวินัยทหารขาดวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่ ถวายงาน และไม่ได้มาตรฐานนายทหารสัญญาบัตร หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์9 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตร ออกจากยศทหาร ระบุว่า มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ร้อยโทหญิง รัตติยา สิทธิสมบูรณ์ นายทหารสัญญาบัตร ตําแหน่ง รักษาราชการ ประจําฝ่ายกิจการวัง กองบังคับการโรงเรียน ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ออกจากยศร้อยโทหญิง คงเป็น สิบเอกหญิง ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2560 เนื่องจากประพฤติผิดวินัยทหาร กล่าวคือ มีความหย่อนยาน ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ แต่งกายเครื่องแบบพระราชฐานไม่เรียบร้อย ไม่สวมหมวก ไม่มีอาวุธ ประจํากาย ไม่ถวายความเคารพตามแบบธรรมเนียมทหาร หรือตามมารยาท ราชสํานัก หลบหนี หลีกเลี่ยง หลังจากกระทําความผิด ขาดวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่ ถวายงาน และไม่ได้มาตรฐานนายทหารสัญญาบัตร หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
โปรดเกล้าฯถอดยศ ร.ท.หญิง รัตติยา ทหารมหาดเล็กฯ ประพฤติผิดวินัยทหารขาดวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่ ถวายงาน และไม่ได้มาตรฐานนายทหารสัญญาบัตร หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 9 ต.ค.
การเมือง
ถอดยศทหาร,ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์,รัตติยา สิทธิสมบูรณ์
https://prachatai.com/journal/2017/10/73611
กวีประชาไท: ศิลปินแห่งชาติ
เดือนสิงหาคมลมฝนหม่นเมฆฟ้า ปีนี้พาสายฝนหล่นไม่น้อยสายฝนฉ่ำรสด่ำดื่มไม่ลืมรอย เหมือนแม่คอยป้อนน้ำท่านา ๆ พันธุ์แผ่นดินทองท้องของถิ่นสร้างวิญญาณ มีลูกหลานกานท์กวีศรีสืบสรรค์โดยปากกาพาอักษรกลอนกำนัล กาพย์โคลงฉันท์บรรพชนบนแผ่นดินกวีมีรากฐานวิถีการผลิต เพลงเกี่ยวข้าวคือชีวิตนิจสินมีเพลงเรือเอื้ออำนวยให้รวยริน ลึกในวิญญาณของครรลองเราศิลปจะมาเพื่อเกื้อชีวิต ถ้อยประดิดประดอยคอยแก้เหงาจากเหนื่อยเหน็ดเสร็จงานนามาบรรเทา นั่งลงเกลาเคล็ดคำเค้นเป็นกวีถ้อยเคล็ดคำทำหยดเหงื่อเปียกเสื้อแห้ง แดดร้อนแรงรุมเร้าแต่เหงาหนีลงแขกเกี่ยวข้าวทุกคราวหนุ่มสาวมี สดุดีแม่โพสพอบอวลมาบางพื้นที่พี่น้องมีสรรพลี้หวน เพื่อจะชวนให้ขำนำหรรษารสถ้อยคำนำไปใช้พิจารณา พี่หว่างขาพี่หว่างคะหัวจะคะมำคุณสว่างตาสว่างรางวัลซีไรต์ ศิลปินแห่งชาติไทยไม่ขันขำเขียนกลอนอันไพเราะเสนาะคำ เป็นกลอนอำจำนำข้าวหนาวใจเอย
เดือนสิงหาคมลมฝนหม่นเมฆฟ้า ปีนี้พาสายฝนหล่นไม่น้อย สายฝนฉ่ำรสด่ำดื่มไม่ลืมรอย เหมือนแม่คอยป้อนน้ำท่านา ๆ พันธุ์ แผ่นดินทองท้องของถิ่นสร้างวิญญาณ มีลูกหลานกานท์กวีศรีสืบสรรค์
การเมือง,วัฒนธรรม
กวีประชาไท,ธุลีดาวหาง,ศิลปินแห่งชาติ,สรรพลี้หวน,ไพทูรย์ ธัญญา
https://prachatai.com/journal/2017/08/72994
สิบล้อเบรคแตกบี้ทัวร์ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ตาย-เจ็บกว่า 50 คน
(SHAN 17 มี.ค. 53) - เกิดเหตุรถบรรทุกปูนซีเมนต์เบรคแตก พุ่งชนท้ายรถทัวร์โดยสารสายท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง ในรัฐฉาน มีผู้เสียชีวิต 17 ศพ เจ็บอีกกว่า 30 คนมีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อ พุ่งชนท้ายรถทัวร์โดยสารของบริษัท ส่วยเยก่าน ซึ่งบรรทุกผู้โดยราว 50 – 60 คน จากจังหวัดท่าขี้เหล็ก มุ่งหน้าไปทางเมืองเชียงตุง ส่งผลให้รถทัวร์โดยสารพลิกคว่ำและมีผู้เสียชีวิตคาที่ 17 คน บาดเจ็บสาหัส 38 คน เหตุเกิดบนเส้นทางสายท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง บริเวณใกล้กับบ้านปางควาย ก่อนถึงเมืองเชียงตุง ประมาณ 10 ไมล์ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวกำลังวิ่งลงเขา ได้มีรถบรรทุกสิบล้อคันหนึ่ง บรรทุกปูนซีเมนต์เต็มคันวิ่งตามหลังลงด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็พุ่งชนท้ายรถทัวร์โดยสารอย่างแรงจนพลิกคว่ำตกลงข้างทาง ส่งผลให้ผู้โดยสารบางส่วนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ขณะที่ส่วนใหญ่ถูกอัดติดอยู่ในซากรถ และมีอีกหลายคนถูกรถทับร่างไว้ซึ่งจนถึงช่วงเย็นวันเกิดเหตุยังไม่สามารถนำตัวออกมาได้ ส่วนรถบรรทุกปูนซีเมนต์ซึ่งคาดว่าเบรคแตก ได้พลิกคว่ำและคนขับก็เสียชีวิตคาที่เช่นกันแหล่งข่าวเผยว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถ ซึ่งในส่วนของผู้บาดเจ็บได้ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลเมืองเชียงตุง และมีพล.ต.จ่อเพียว แม่ทัพภาคสามเหลี่ยมประจำเมืองเชียงตุง เข้าไปเยี่ยมพร้อมกำชับแพทย์โรงพยาบาลดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ทั้งนี้ อุบัติเหตุบนท้องถนนในพม่ามักจะเกิดอยู่บ่อยครั้ง เหตุเนื่องจากสภาพถนนย่ำแย่ ประกอบกับรถยนต์ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานยาวนาน ขณะที่รัฐบาลทหารพม่าได้กีดกันประชาชนคนธรรมดาห้ามนำเข้ารถจากต่างประเทศ นอกจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือนักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับเหล่าผู้นำเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต ขณะที่มีข้อมูลว่า รถยนต์โดยสารในพม่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นรถที่ผลิตในญี่ปุ่นและต่างมีอายุการใช้มาแล้วมากกว่า 10 ปีชมภาพ / อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ http://www.khonkhurtai.org/(SHAN – Shan Herald Agency for News) เป็นสำนักข่าวอิสระจัดตั้งโดยกลุ่มชนไทยใหญ่พลัดถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ shan_th@cm.ksc.co.th หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org ภาคภาษาไทยใหญ่ที่ www.mongloi.org และภาคภาษาไทยที่ www.khonkhurtai.org
(SHAN 17 มี.ค. 53) - เกิดเหตุรถบรรทุกปูนซีเมนต์เบรคแตก พุ่งชนท้ายรถทัวร์โดยสารสายท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง ในรัฐฉาน มีผู้เสียชีวิต 17 ศพ เจ็บอีกกว่า 30 คน มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ
ท่าขี้เหล็ก,รัฐฉาน,อุบัติเหตุ
https://prachatai.com/journal/2010/03/28351
ญาติเตรียมเผาศพหนุ่มบิ๊กไบค์ที่ชนกระบะตายพร้อมเมียบนเขาค้อวันพรุ่งนี้
ครอบครัวของหนุ่มวัย 23 ปี คนขี่บิ๊กไบค์ ที่แหกโค้งชนกระบะบนเขาค้อจนเสียชีวิตพร้อมภรรยาและลูกในท้อง เตรียมทำพิธีฌาปนกิจวันพรุ่งนี้ที่วัดเนินพลวง จ.พิจิตร ส่วนศพภรรยา ญาตินำไปทำพิธีที่เพชรบูรณ์จากกรณีที่ รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 4044ประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งล้มเสียหลักไถลพุ่งไปชนกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน 867 ที่วิ่งสวนทางมา ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 345-346 บริเวณโค้ง ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้ นายพงษ์พิสุทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ขับขี่ที่กำลังขี่รถจากอำเภอหล่มสัก เพื่อไปเที่ยวเขาค้อ พร้อมกับนางสาวธนภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี แฟนสาวนั่งซ้อนท้าย ทำให้ นายพงษ์พิสุทธิ์ เสียชีวิตคาที่ ส่วน นางสาวธนภรณ์ แฟนสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหล่มสัก ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น.ของวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาญาติของนางสาวธนภรณ์ ได้นำศพไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์ประดิษฐ์วราราม จ.เพชรบูรณ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้า โดยรายงานข่าวระบุว่า หญิงสาวผู้ตายกับสามี กำลังจะไปเที่ยวและสมัครงานบนเขาค้อ แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุก่อน ทั้งนี้ หญิงสาวที่เสียชีวิตกำลังตั้งครรภ์เพียง 4 เดือนด้วย แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตทั้งแม่และลูกในท้องจากอุบัติเหตุล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 ที่วัดเนินพลวง หมู่ 8 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ญาติพี่น้องได้ตั้งศพ นายพงษ์พิสุทธิ์ อายุ 23 ปี ชาวบ้าน ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม หนุ่มที่ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพียงญาติๆ ของผู้ตายประมาณสิบกว่าคน เตรียมงานศพ โดยมีกำหนดที่จะทำพีธีฌาปนกิจในเวลา 16.00 น.วันที่ 9 ก.ค.2563นางแถม อายุ 57 ปี มารดานายพงษ์พิสุทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับศพของภรรยาของลูกชาย ทางญาติฝ่ายหญิงได้นำไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่ จ.เพชรบูรณ์ ตอนนี้รู้สึกเสียใจ และยังได้คุยกับคู่กรณี อยากให้ทางตำรวจช่วยเหลือทางเรื่องคดี ก่อนหน้านี้ ลูกชายกับภรรยาทำงานที่ กทม.พบเจอวิกฤติโรคระบาดช่วงโควิด-19 ก็ ตกงานพร้อมภรรยา จึงเดินทางกลับมาอยู่ที่ จ.พิจิตร แล้วช่วงวันหยุดยาว 4 วันเลยพากันไปเที่ยวเขาค้อ แล้วแวะไปบ้านภรรยาที่เพชรบูรณ์ ก่อนจะไปหางานทำที่ กทม. แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียเสียชีวิตทั้งสองคน.
ครอบครัวของหนุ่มวัย 23 ปีคนขี่บิ๊กไบค์ ที่แหกโค้งชนกระบะบนเขาค้อจนเสียชีวิตพร้อมภรรยาและลูกในท้อง เตรียมทำพิธีฌาปนกิจวันพรุ่งนี้ที่วัดเนินพลวง จ.พิจิตร ส่วนศพภรรยา ญาตินำไปทำพิธีที่เพชรบูรณ์
ข่าว,ทั่วไทย
บิ๊กไบค์ชนกระบะ,บิ๊กไบค์ชนตาย 2,พิจิตร,บิ๊กไบค์ชนบนเขาค้อ,ตายพร้อมลูกในท้อง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1884864
ศศิธร มอบตัวคดีค้ามนุษย์ วิคตอเรีย ซีเครท ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันนี้ (16 ม.ค.2561) เจ้าหน้าที่กรมการปกครองนำหลักฐานการตรวจคัดกรองเด็กผู้ให้บริการ และพบว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 11 คน เข้าแจ้งความเพิ่มในข้อหาค้ามนุษย์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางพ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน นำเอกสารหลักฐานไปขอศาลอาญาพิจารณาอนุมัติหมายจับ นางศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ผู้ถือใบอนุญาตสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท พร้อมพวก รวม 8 คน ใน 13 ข้อหา เช่น ความผิดฐานค้ามนุษย์ / พระราชบัญญัติค้าประเวณี / พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง และความผิดอื่นๆ ซึ่งศาลกำลังพิจารณาพยานหลักฐานวันนี้ นางสาวศศิธร ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลพล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า การตรวจสอบยังพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับอีก 10 สถานบริการ รวมทั้งยังพบว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนอีก 6-7 คน รวมทั้งได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลที่ระบุว่ามีเจ้าของสถานบริการ อักษรย่อ ก.ไก่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นบุคคลใดอ่านข่าวเพิ่มเติม
นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ผู้ถือใบอนุญาตสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท เข้ามอบตัวกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว หลังถูกออกหมายจับในความผิดร่วมกันค้ามนุษย์ ขณะที่กรมการปกครองนำหลักฐานแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม
อาชญากรรม
ศศิธร วิระเทพสุภรณ์,วิคตอเรีย ซีเครท,คดีค้ามนุษย์,สถานบริการ,มอบตัว,พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา,หมายจับ,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/269388
โชคและดวงมาครบ
ประตูชัยสุดกดดันของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ได้มาจากการสังหารจุดโทษในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 95 ช่วยให้ หงส์แดง เฉือนชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เล่นเอาแฟนบอลทั่วโลกเป่าปากด้วยความผ่อนคลายหลังสิ้นเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสิน,ต้องยกประโยชน์ให้กับ หงส์แดง จริงๆ สำหรับการได้จุดโทษในจังหวะนี้ เพราะหากเป็นผู้ตัดสินเก๋าๆ มากประสบการณ์ อาจไม่เป่าให้จังหวะนี้เป็นจุดโทษก็ได้,แต่สำหรับ คริส คาวานาฟ สิงห์เชิ้ตดำวัย 34 ปี จากเมืองแมนเชสเตอร์ กลับตัดสินใจเป่าให้จุดโทษในจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน ถูกขัดขาล้มในเขตโทษ ก็ต้องถือว่าได้ประโยชน์ไปสำหรับ หงส์แดง  ,จากชัยชนะแบบพกดวงและโชคมาแบบนี้ จึงเป็นผลบุญหนุนนำให้ หงส์แดง ยังนำจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก ต่อไปอีกพักใหญ่ อย่างน้อยก็ภายในเดือน อันดับ 1 ของตารางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง,สำหรับ 3 แต้มที่ได้ในนัดนี้ นอกจากจะทำสถิติชนะรวด 8 นัด มี 24 แต้มเต็มแล้ว ยังเป็นการยืดสถิติไร้พ่ายเกมพรีเมียร์ลีกในสนามแอนฟิลด์ เป็น 44 นัดติดต่อกันอีกด้วย,รวมไปถึงไม่แพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในถิ่นตัวเองมานานกว่า 19 ปี อีกต่างหาก ถือเป็นตัวเลขที่สวยหรูไร้ที่ติจริงๆ,นั่นทำให้ในสัปดาห์นี้ เดอะ ค็อป ทั่วโลก คงเดินยิ้มแก้มปริไปหลายวัน เพราะนอกจากทีมรักจะชนะแล้ว 2 ทีมคู่แค้นจากเมืองแมนเชสเตอร์ นัดกันแแพ้อีกต่างหาก อะไรมันจะขนาดนั้น,เริ่มด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไล่บี้แย่งแชมป์ พลาดท่าปราชัยคาบ้านให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-2 แบบเหลือเชื่อ ทำให้ช่องว่างห่างจาก ลิเวอร์พูล เป็น 8 แต้มเข้าไปแล้ว,ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ได้ลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้แน่นอนแล้วล้านเปอร์เซ็นต์ ออกไปพ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-1 นับเป็นข่าวดีก่อนพักยาวจริงๆ,สำหรับนัดที่ 9 ของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก จะเป็นศึกแดงเดือดยกแรกที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยจะแข่งวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม,จากสถิติ 5 นัดหลังสุดในการมาเยือนที่นี่ ลิเวอร์พูล ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น เห็นทีต้องลุ้นกันเยี่ยวเหนียวเหมือนที่ผ่านๆ มาเป็นแน่,และที่สำคัญ พอหมดจากเกมทีมชาติ ก็ต้องลุ้นกันอีกว่า จะมีใครเจ็บกลับมาหรือเปล่า คนที่เครียดของแท้คงหนีไม่พ้น เยอร์เกน คลอปป์ ที่ต้องรอรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ได้,แต่ถ้าโชคยังอยู่เคียงข้าง ไม่มีใครเจ็บกลับมาเลย นักเตะตัวหลักสามารถลงสนามได้ทุกคน บอกได้เลยว่า สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นแน่นอน,JUPITER
หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทำสถิติชนะรวด 8 นัดได้แบบจวนเจียน ในเกมที่ต้องอาศัยลูกจุดโทษช่วงทดเวลาเจ็บ ไม่อย่างนั้นอาจมีอาการเซถลาก่อนจะหยุดพักเพื่อหลีกทางให้ทีมชาติ
null
สังคมกีฬา,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1676898
มะกันเงิบ ผลแล็บชี้ ไอซิสไม่ได้ยิงอาวุธเคมีใส่ฐานทัพในอิรัก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันอังคารที่ 27 ก.ย. กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอซิส) เปิดเผยผลการตรวจสอบอาวุธของไอซิสขั้นสุดท้ายในห้องแล็บ ว่า ไอซิสไม่ได้ใช้อาวุธเคมี แก๊สมัสตาร์ด โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในภาคเหนือของประเทศอิรัก ตามที่เชื่อกันก่อนหน้านี้,พันเอก จอห์น ดอร์เรียน โฆษกของกองกำลังพันธมิตรฯ ระบุบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า ผลสรุปขั้นสุดท้ายของการตรวจสอบในห้องแล็บแสดงให้เห็นว่า อาวุธที่โจมตีฐานทัพอากาศ คายารา เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ไม่ใช่อาวุธเคมี,ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบจากห้องแล็บขัดแย้งกับคำพูดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาร่องรอยอาวุธเคมีออกมาเป็นบวก ขณะที่อาวุธที่ใช้ก็อาจจะเป็นจรวดหรือปืนใหญ่ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังร้องขอให้มีการกำจัดสารพิษด้วย,ขณะที่เมื่อสัปดาห์ก่อนพลเอก โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานเสนาธิการทหารร่วม บอกกับคณะกรรมาธิการด้านนโยบายอาวุธของวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า พวกเขาประเมิณว่าอาวุธที่ไอซิสใช้เป็นก๊าซพิษซัลเฟอร์ เขาระบุด้วยว่า กองทัพมุ่งเป้าโจมตีสิ่งปลูกสร้างของไอซิส 30 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ด้วย,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า ไอซิสใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนและพันธมิตรของสหรัฐฯในเภาคเหนือของอิรักและในซีเรีย และแม้ผลการตรวจสอบขั้นสุดท้ายที่ออกมาจะเป็นลบ แต่เขาก็คาดว่า การโจมตีเช่นนั้นจะเกิดขึ้นในอนาคต,ด้านนาวาเอก เจฟฟ์ เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับสื่อเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ ได้มอบหน้ากากกันแก๊สให้กองทัพอิรักจำนวน 50,000 ใบแล้ว เพื่อตอบโต้่การใช้อาวุธเคมีของไอซิส,,ตะลึง ไอซิสเหี้ยม อาจใช้อาวุธเคมี แก๊สมัสตาร์ด โจมตีทหารมะกันในอิรัก
ผลการตรวจสอบอาวุธของไอซิสขั้นสุดท้ายในห้องแล็บชี้ว่า อาวุธที่ไอซิสยิงเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่ใช่อาวุธเคมี ตรงข้ามกับที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อมาตลอดว่านี่เป็นอาวุธเคมี
null
กองกำลังพันธมิตร,สหรัฐ,กลุ่มติดอาวุธ,รัฐอิสลาม,ไอซิส,ตรวจสอบขั้นสุดท้าย,ไอเอส,ไอซิล,อาวุธเคมี,แก๊สมัสตาร์ด,ฐานทัพสหรัฐ,อิรัก,ทวิตเตอร์,ฐานทัพอากาศ,กำจัดสารพิษ,ผลแล็บ
https://www.thairath.co.th/content/736582
สลด ปิกอัพชนดับ 2 ศพ ตากับหลานชาย ขี่ จยย.ไปออกกำลังกายด้วยกัน
อดีตพนักงาน กฟภ.วัย 64 ปี พาหลานชาย 8 ขวบ ซ้อน จยย.มาออกกำลังกายตอนเช้า ขากลับแวะซื้อกับข้าวกลับไปกินบ้าน แต่ไปไม่ถึง ถูกรถกระบะ คนขับอ้างเบรกแตก ชนแล้วลากไปด้วย เสียชีวิตคาสะพานที่ชุมพร 2 ศพเวลา 06.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.อ.นันทิยา รักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ที่บริเวณแยกปฐมพร ถนนเอเชีย 41 หมู่ 1 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัย กู้ชีพ มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามคลองชุมพร ถนนขาล่องใต้ห่างจากสี่แยกปฐมพร ประมาณ 200 เมตร พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ อยู่บนสะพาน ศพแรกทราบชื่อภายหลังคือ นายสมโชค รัฐการ อายุ 64 ปี ข้าราชการเกษียณ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีขาวแถบดำ ขาข้างซ้ายสวมรองเท้าผ้าใบสีเทา ส่วนขาข้างขวาสวมแต่ถุงเท้า ห่างกันประมาณ 5 เมตร ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก ทราบชื่อเด็กชายธัชชัย ไทยถาวร อายุ 8 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสายทาง 3 สีน้ำเงินเหลืองขาว ทั้งสองศพเป็นตากับหลานชาย บ้านอยู่ตำบลบ้านนา อ.เมืองชุมพรตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนสะพาน มีชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กับรถยนต์แตกกระจายเกลื่อน และมีผักสดกับข้าว หล่นปะปนอยู่ด้วย ที่ขอบสะพานมีรถยนต์ครูดเป็นทางยาวไปจนถึงตีนสะพานห่างจากศพประมาณ 30 เมตร และมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียน ขคจ 954 ชุมพร สภาพพังยับเยินตกอยู่ไหล่ทาง ห่างลงไปอีกประมาณ 10 เมตร ที่ริมคลองใต้สะพานมีรถยนต์กระบะนิสสันตอนเดียว สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต 5333 ชุมพร ด้านหน้ายุบพังเสียหายจอดอยู่ส่วนคนขับรถยนต์กระบะ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อ นายสำราญ สวดตะมะนัง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 5 ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ให้การว่า ตนเองขับรถออกมาจากบ้านที่ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จะไปตัดปาล์มในสวนที่ตำบลทุ่งคา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะขับอยู่เลนซ้ายจนมาถึงที่เกิดเหตุใกล้กับสะพาน ได้เร่งเครื่องแซงรถยนต์คันหน้า เมื่อพ้นแล้วได้หักรถเข้าเลนซ้าย แต่เป็นจังหวะที่มีรถจักรยานยนต์ขับขี่อยู่ จึงเบรกแต่ไม่อยู่ เนื่องจากเบรกแตก ทำให้พุ่งชนรถจักรยานยนต์อย่างจัง และรถยนต์ไถลไปครูดกับขอบสะพาน ลากรถจักรยานยนต์ไปจนถึงตีนสะพานแล้วรถยนต์หมุนตกลงไปริมคลองใต้สะพาน ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ และเด็กที่ซ้อนท้าย ตายอยู่บนสะพานขณะที่ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ทราบว่าเป็นตากับหลาน ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้า ตาได้ขี่รถจักรยานยนต์พาหลานชายวัย 8 ขวบ มาออกกำลังกายตอนเช้าที่สวนสาธารณะ ก่อนจะกลับบ้านได้แวะซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดสี่แยกปฐมพร จนมาประสบเหตุถูกรถยนต์ชนตายทั้ง 2 คนดังกล่าว
อดีตพนักงาน กฟภ.วัย 64 ปี พาหลานชาย 8 ขวบ ซ้อน จยย.มาออกกำลังกายตอนเช้า ขากลับแวะซื้อกับข้าวกลับไปกินบ้าน แต่ไปไม่ถึง ถูกรถกระบะ คนขับอ้างเบรกแตก ชนแล้วลากไปด้วย เสียชีวิตคาสะพานที่ชุมพร
ข่าว,ทั่วไทย
ชนตาหลาน,ปิกอัพชนตาหลาน,ชนตาหลาน2ศพ,ชน2ศพชุมพร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1786393
ครม.ประยุทธ์กับคำถาม 6 ข้อ
นำไปสู่การปูทางลงสนามการเมืองในอนาคต แต่ถ้ามองให้รอบด้านจะเห็นว่า เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ทหารจะลงสนามการเมืองชนิดเปิดเผย ไม่ใช่อีแอบ หรือ คอยถือปืนบงการอยู่ข้างหลัง ว่ากันซึ่งหน้า เปรียบเทียบระหว่าง นักการเมืองที่เป็นมืออาชีพ กับ ทหารประชาธิปไตย มีความแตกต่างกันอย่างไร,ก็เก๋ไก๋ไปอีกแบบ,หลังจากมีการ ปลดล็อกพรรคการเมือง เที่ยวนี้ สาธารณชนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ยังตัดสินไม่ได้ว่า เป็นการปฏิรูปการเมือง หรือการเมืองเข้าสู่ยุคมืด เพราะระหว่างความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ กับ เผด็จการซ้อนประชาธิปไตย อยู่ในลู่วิ่งเดียวกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าจะบอกว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่มาจาก เสียงข้างมาก เอาเข้าจริง เสียงข้างน้อย กินเรียบทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ,กลุ่มการเมืองล้มพรรคการเมืองแบบชิวๆ,มีอย่างที่ไหน รัฐบาลเสียงข้างมาก แพ้ ฝ่ายค้านเสียงข้างน้อย ในสภา รัฐบาลที่ได้คะแนนเสียงรับเลือกตั้งมามากที่สุดแพ้ มวลชนของฝ่ายค้าน ที่มีมวลชนเป็นรองกว่านอกสภา และมีอย่างที่ไหน รัฐบาล ต้องเอาใจกองทัพ และ กองทัพ เป็นผู้สนับสนุนรัฐบาล ก็มีแต่ประเทศไทยนี่แหละ,ประชาธิปไตยภาคประชาชนยังอ่อนปวกเปียก,เพราะฉะนั้น การปรับ ครม. ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน จะคำนึงถึงพรรคพวกเพื่อนพ้องมากกว่าจะคำนึงถึงความเหมาะสมและประสิทธิภาพของงาน อย่าว่าแต่ ครม.เลย จะตั้งเลขาหน้าห้องจะตั้งกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสักชุด ก็ต้องดูชื่อนามสกุลก่อนว่า คุ้นหรือไม่คุ้น,ยังหนีไม่พ้นสังคมอุปถัมภ์,ประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปได้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่ง ไม่ได้อยู่ที่ ภาครัฐ ภาคประชาชน หรือภาคเอกชน ไม่ได้อยู่ที่ อำนาจปกครอง 3 ฝ่าย นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ,แต่ขึ้นอยู่กับ สื่อ ศาล ทหารและนายทุน ภาพลวงตาในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศนับร้อยนับพันฉบับ เป็นแค่สิ่งที่สมมติขึ้นมาเพื่อรองรับการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มคนเท่านั้น,เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์อยากจะเปิดตัวลงสนามการเมืองด้วยวิถีปฏิรูป เข้ากับบรรยากาศที่กำลังเบื่อการเมืองเบื่อนักการเมืองสร้างภาพ ดีแต่พูดทำไม่เป็น ก็ต้องให้โอกาส หรือถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องปรับ ครม.เพื่อรักษาเสถียรภาพของกองทัพและ คสช.เอาไว้ ก็ต้องเห็นใจ เพราะการเมืองไทยปกครองด้วยประชาธิปไตยภาพซ้อนมานาน,ถึงได้ติดหล่มจมปลักจนทุกวันนี้.,หมัดเหล็ก,mudlek@thairath.co.th
การมองปัญหาแบบ 360 องศา จะได้มุมมองที่ดีๆอีกเยอะ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ตั้งคำถามทางการเมืองกับประชาชน 6 ข้อ ถ้าจะมองแบบผิวเผินเหมือนเป็นการโยนหินถามทาง
null
คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,6 คำถามนายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปฏิรูปการเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1132145