title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
อย่างนี้ก็มี เจ๊ ขับรถไปผิดคัน เจ้าของโพสต์คลิปตามหาตัวขอรถคืน
หนุ่มเจ้าของรถจักรยานยนต์โพสต์คลิปวงจรปิด วินาทีเจ๊ขับรถจักรยานยนต์ไปผิดคัน ทั้งยี่ห้อ รุ่น สี เหมือนกันเปี๊ยบ แถมยังจอดข้างกัน แล้วยังใช้กุญแจสตาร์ตรถติดอีก วอนชาวเน็ตช่วยกระจายข่าวให้เจ๊เอารถมาเปลี่ยนคืน,จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ratana K PiAir โพสต์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านเกมแห่งหนึ่งในซอยเทพผาสุก ข้างตลาดน้อยสามเหลี่ยม ถนนมะลิวัลย์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น บันทึกภาพของหญิงวัยกลางคน สวมเสื้อยืด กางเกงกีฬา สะพายกระเป๋า เดินมาขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินของผู้โพสต์ ก่อนที่จะนำกุญแจออกมาไขแล้วสตาร์ตเครื่องขับออกไป ซึ่งรถจักรยานยนต์ของผู้โพสต์และรถจักรยานยนต์ของหญิงวัยกลางคนรายนี้มีลักษณะที่คล้ายกันจนทำให้เกิดการเข้าใจผิด พร้อมข้อความระบุว่า ,เจ๊ ผมขอรถคืน เจ๊ เอาไปผิดคันนะ ขับรถไปผิดคัน รถคล้ายๆกันใครเจอช่วยบอกที 088-809-9389 ปีแอร์. บ้านสามเหลี่ยม ขอนแก่น หลังจากโพสต์คลิปดังกล่าวออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาช่วยกันแชร์ และแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่าทำไมใช้กุญแจอื่นไขสตาร์ตรถออกไปได้,ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายรัตนะ จิราวิทย์ อายุ 30 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊กและเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน คันที่ถูกขับสลับไปตามคลิปมาจอดที่หน้าร้านเกม จากนั้นเข้าไปทำธุระในร้าน พอออกมาเวลาประมาณ 21.00 น. กลับพบว่ารถจักรยานยนต์ของตนหายไป จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดู จึงรู้ว่ามีคนขับไปสลับคัน เนื่องจากว่าหญิงที่ขับไปไม่มีท่าทางลุกลนเหมือนขโมย และยังเห็นรถจักรยานยนต์อีกคันจอดทิ้งไว้อยู่ จึงมั่นใจว่าผู้ที่ขับรถตนไปต้องเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถของตนเอง จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมกับโพสต์ให้ชาวเน็ตแจ้งเบาะแสเพื่อให้หญิงคนดังกล่าวนำรถมาเปลี่ยนคืน จึงอยากฝากเตือนผู้ขับขี่รถว่าให้สังเกตรถตนเองให้ดี มิฉะนั้นจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น.
หนุ่มเจ้าของรถจักรยานยนต์โพสต์คลิปวงจรปิด วินาทีเจ๊ขับรถจักรยานยนต์ไปผิดคัน ทั้งยี่ห้อ รุ่น สี เหมือนกันเปี๊ยบแถมยังจอดข้างกัน แล้วยังใช้กุญแจสตาร์ทรถติดอีก วอนชาวเน็ตช่วยกระจายข่าวให้เจ๊เอา
ข่าว,ทั่วไทย
ขับรถผิดคัน,ตามหารถ,ขอรถคืน,รถหาย,ขอนแก่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1300376
รบ.ปัดลอกแนวคิด แม้ว แก้ ก.ม.ขยายเช่าที่รัฐ 99 ปี
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ไขกฎหมายการเช่าที่ดิน หรือ พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 โดยขยายเวลาการให้เช่าที่ดินของรัฐจาก 50 ปี เป็น 99 ปีว่า แนวคิดดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศ เพราะระยะเวลาการเช่า 50 ปี ยังเป็นอุปสรรค ไม่ดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีระยะเวลาการคืนทุนที่ยาวนาน ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไม่กล้าตัดสินใจลงทุน,ทุกวันนี้การแข่งขันทางการค้าการลงทุนเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมอาเซียนแล้ว ไทยต้องแข่งขันกับประเทศสมาชิกและยังต้องแข่งขันกับประเทศอื่นๆ อีก จึงจำเป็นต้องมีมาตรการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้ดีกว่าคู่แข่งหรือไม่ก็เท่าเทียมกับเขา เช่น สิงคโปร์และมาเลเซียให้เช่าที่ดินได้นาน 99 ปี เวียดนาม 70 ปี ส่วนฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเมียนมาให้เช่าที่ดินได้ 50 ปี พล.ต.สรรเสริญ กล่าว,พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลทำก็เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งจะดำเนินการอย่างรอบคอบและมีมาตรการป้องกันการถือครองผิดวัตถุประสงค์ โดยจะให้เช่าที่ดินเฉพาะเพื่อลงทุน หรือเช่าทำธุรกิจ ที่โดยปกติมีการต่ออายุให้อยู่แล้ว ไม่รวมถึงการเช่าประเภทอื่นหรือเหมารวมทุกกิจกรรม และหากผู้เช่าไม่ทำตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ก็สามารถยกเลิกได้,กฎหมายนี้ริเริ่มโดยส่วนราชการ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ที่เห็นว่าควรปรับแก้ไขให้เป็นสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ จึงไม่ใช่แนวคิดของนายทักษิณหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตามที่มีการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ รัฐบาลขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง โดยยืนยันว่า แนวทางดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาว ดำเนินการด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ และไม่ใช่การยกแผ่นดินไทยให้ต่างชาติแต่อย่างใด พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษก รบ. ยันแก้ไขกฎหมายการเช่าที่ดินจาก 50 ปี เป็น 99 ปี เพื่อประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ขายแผ่นดินให้ต่างชาติ วอนเปิดใจกว้าง พร้อมปัดลอกแนวคิด ทักษิณ
null
ที่ดิน,เช่าที่ดิน,สรรเสริญ แก้วกำเนิด,ก.ม.ที่ดิน,พ.ร.บ.เช่าที่ดินรัฐ,ขยายเวลาเช่าที่ดิน,โฆษกรัฐบาล,อสังหาริมทรัพย์,กรมที่ดิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/567327
สจล.ปลื้ม บีบีซี ยก เครื่องวัดทุเรียน เป็น 1 ใน 7 สิ่งประดิษฐ์ที่ดี-แปลกใหม่
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วน บุนนาค) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีการจัดงานประกวดและแสดงนวัตกรรมสุดล้ำ ผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จาก 10 ภาควิชาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยมีการนำผลงานมาจัดแสดงทั้งหมด 458 ผลงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาเข้าเยี่ยมชมการจัดงาน ,แต่จุดที่เรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานได้มากที่สุดคือ จุดการแสดงผลงานเครื่องวัดความแก่-อ่อนของทุเรียนด้วยคลื่นไมโครเวฟ ผลงานการวิจัยของ ผศ.ดร.ศรวัฒน์ ชิวปรีชา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม ที่เพิ่งไปคว้ารางวัลเหรียญทองแดงสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกจากงาน International Exhibition and Invention of Geneva 2016 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับความสนใจจากสำนักข่าว BBC ยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 ผลงานที่ดีและแปลกใหม่ในงานดังกล่าวด้วย,ผศ.ดร.ศรวัฒน์ กล่าวว่า เครื่องดังกล่าวจะวัดความแก่-อ่อนของทุเรียนด้วยคลื่นความถี่คลื่นไมโครเวฟ โดยตัวเครื่องจะประกอบด้วยสายอากาศรับ-ส่งคลื่นไมโครเวฟ เครื่องรับ-ส่งคลื่นไมโครเวฟ โครงสำหรับวางทุเรียน คอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยเมื่อนำทุเรียนไปวางบนโครงแล้วปล่อยคลื่นไมโครเวฟผ่านผลทุเรียน หากพบว่ามีความถี่ที่ 57.72 ขึ้นไปผลทุเรียนยังอ่อนอยู่ แต่หากอยู่ที่ระดับ 53.17 หรือต่ำกว่า ผลทุเรียนจะแก่ สามารถนำออกจำหน่ายได้ ทั้งนี้ จากผลการทดลองดังกล่าวจะมีประโยชน์อย่างมากในการคัดเลือกทุเรียนเพื่อส่งออก เนื่องจากได้ผลมากกว่าร้อยละ 80 อย่างไรก็ตามต่อไปจะมีการพัฒนาให้สามารถแยกความแก่ของทุเรียนในระดับต่างๆ ด้วย,ด้าน รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการเชิญภาคอุตสาหกรรมมาดูผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในฐานะที่ตนได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย จะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่วาระการประชุมด้วย เนื่องจากมองว่าปัจจุบันประเทศไทยต้องเน้นพัฒนาในเรื่องความรู้ด้านเทคโนโลยีมากขึ้น
บีบีซี ยกสิ่งประดิษฐ์ เครื่องวัดทุเรียน ผลงานอาจารย์ สจล. เป็น 1 ใน7 สิ่งประดิษฐ์ที่ดี-แปลกใหม่ โดยสามารถคัดแยกความแก่-อ่อนของทุเรียน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการส่งออกเป็นอย่างมาก
null
เครื่องวัดทุเรียน,อาจารย์ สจล.,สิ่งประดิษฐ์,เครื่องแยกทุเรียน,คณะวิศวกรรมศาสตร์,วิศวะฯ สจล.,ศรวัฒน์ ชิวปรีชา,บีบีซี,การส่งออกทุเรียน,ส่งออกทุเรียน,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวการศึกษา,การศึกษา,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/609125
สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานดินวังสระปทุม เป็นของมหามงคล ดินของพ่อ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานดินจากวังสระปทุม เพื่อนำมารวมกับดินมหามงคลจาก 76 จังหวัด เพื่อจัดทำ ดินของพ่อ เป็นที่ระลึกแก่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559 ณ สะพานภูมิพล 1,เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.59 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่คณะผู้จัดงาน ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559 เป็นอย่างยิ่ง ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานดินจากวังสระปทุม ซึ่งถือเป็นดินมหามงคลจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำมารวมกับดินมหามงคลจาก 76 จังหวัด โดย ททท. ได้นำดินทั้งหมดมาจัดใส่เป็นถุง ดินของพ่อ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559 ในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ณ สะพานภูมิพล 1,สำหรับแนวคิดในการจัดทำ ดินของพ่อ นั้น ผู้ว่าการ ททท. กล่าวต่อว่า เนื่องจากวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ประกาศให้เป็นวัน ดินโลก (World Soil Day) ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้งพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการจัดการปัญหาเรื่องดินเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยือนราษฎรทุกจังหวัด ดังนั้น เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำนักงาน ททท. ในประเทศ 40 แห่ง จึงได้รวบรวม ดินมหามงคล จากโครงการในพระราชดำริ สถานที่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญในพื้นที่ 77 จังหวัด ซึ่งพระองค์ท่านเคยเสด็จฯ และทรงงานอย่างหนักด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ดินจากต้นไม้ทรงปลูก รวมทั้งดินจากศาลหลักเมืองและดินจากศาสนสถานที่สำคัญ,อาทิ ดินจากสถานที่ทรงงานและสถานที่ประทับ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ดินจากต้นพิกุลทรงปลูก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส ดินจากงานศึกษาพัฒนาปรับปรุงดิน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ดินจากอ่างเก็บน้ำช่องกล่ำบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสระแก้ว ดินจากบริเวณต้นโพธิ์คู่พระบารมี วัดหุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ดินจากศาลหลักเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ ฯลฯ,นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานดินจากวังสระปทุมอันเป็นดินจากสถานที่เป็นเสมือนบ้านที่ประทับหลังแรกในประเทศไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 หลังจากได้เสด็จนิวัตจากสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสอีกด้วย ดินทั้งหมดจะจัดทำเป็นของที่ระลึกใส่เป็นถุงดินของพ่อ จำนวน 19,999 ชุด มอบให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559 ณ สะพานภูมิพล 1 ซึ่งได้จัดพิธีรวมดินมหามงคลทั่วประเทศ จากดินของพ่อ สู่ดวงใจของคนไทย เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานควบคุมประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ กรมชลประทาน ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ,สำหรับกิจกรรมร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559 ณ สะพานภูมิพล 1 ตั้งแต่เวลา 05.00–08.00 น. เพื่อร่วมถวายมหาสังฆทานแด่พระสงฆ์ 999 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด ให้กึกก้อง และเขียนโปสการ์ดจารึกคำปฏิญาณทำความดี แสดงออกถึงความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งผู้เข้าร่วมงาน 50,000 คนแรกจะได้รับเข็มกลัดที่ระลึกรูปเลข 9 อีกด้วย.
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานดินจากวังสระปทุม เพื่อนำมารวมกับดินมหามงคลจาก 76 จังหวัด เพื่อจัดทำ ดินของพ่อ เป็นที่ระลึกแก่ประชาชนที่เข้าร่วมงาน ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 5 ธันวาคม 2559
null
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,ดินวังสระปทุม,ดินของพ่อ,สะพานภูมิพล 1,5 ธันวาคม 2559
https://www.thairath.co.th/content/800357
บิ๊กโจ๊ก รวบบริษัทหลอกขายทัวร์หลีเป๊ะราคาถูก อีกรายตุ๋น นทท.จีน
บัตรประชาชนไทย เปิดบริษัทตุ๋นชักชวนชาวจีนมาร่วมลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และทำทัวร์ โดยมีผู้สูญเงินกว่า 10 ล้าน,เมื่อเวลา 18.35 น.วันที่ 3 มี.ค.2562 ที่ห้องศปก.บก.ตม.2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รองผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 และชุด ศปอส.ตร. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหาหลอกลวงขายโปรแกรมทัวร์ตามบูธจัดงานแสดง ประกอบด้วย นายธีรวุฒิ ชังคะนาค และนางดาริณี นครไทย เจ้าของบริษัท ทีแอนด์ดีไทม์ ทัวร์จํากัด ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามการโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว,สืบเนื่องจาก ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและตำรวจท่องเที่ยวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยรวม 11 คนได้ซื้อโปรแกรมทัวร์เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล จำนวน 4 วัน 3 คืน มีกำหนดเดินทางในวันที่ 19 ธ.ค.61 - 1 ม.ค.62 กับทางบริษัท ทีแอนด์ดี ไทม์ ทัวร์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จากงานไทยเที่ยวไทย จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง วันที่ 10-13 พ.ค.61 เป็นจำนวนเงิน 90,600 บาท ต่อมาวันที่ 11 ธ.ค.61 ทางบริษัทได้โทรมาแจ้งว่าขอยกเลิกการเดินทาง โดยอ้างว่าบริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงไม่มีเงินจ่ายค่ามัดจำกับทางโรงแรมที่จองไว้จึงไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวในวันและเวลาดังกล่าวได้ เมื่อทวงถามเพื่อจะขอเงินค่าซื้อโปรแกรมจากทัวร์คืนกลับถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาและปิดบริษัทหลบหนีไปถึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ สน.หนองจอก เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย,จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า บริษัทดังกล่าวมี นายธีรวุฒิ ชังคะนาค และนางดาริณี นครไทย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม โดยบริษัทดังกล่าวจะโฆษณาขายโปรแกรมทัวร์ในประเทศไทยโดยการออกบูธในงานไทยเที่ยวไทยซึ่งจัดขึ้นณศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อิมแพคเมืองทองธานีและห้างโลตัส จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นประจำในราคาถูกเช่น 2,900 บาท โดยการจองโปรแกรมทัวร์มีทั้งแบบกำหนดวันและไม่กำหนดวันเดินทางจึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมีนักท่องเที่ยวหลงเชื่อเป็นจำนวนมากซื้อโปรแกรมทัวร์และเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันเดินทางถูกแจ้งยกเลิกและบ่ายเบี่ยงปฏิเสธการคืนเงินเช่นเดียวกันโดยมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 450,000 บาท หลังจากนั้นชุดจับกุมจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน เบื้องต้นให้การรับสารภาพ คุมตัวส่งพงส.สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ทั้งนี้หากประชาชนรายใดที่เคยซื้อทัวร์กับบริษัทแห่งนี้แล้วถูกยกเลิกทัวร์และไม่ได้รับเงินคืนสามารถเดินทางเข้าแจ้งความที่ตำรวจท่องเที่ยว,ต่อมาพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รองผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงข่าว จับกุม นายจางชิงโป (Mr.Zhang Qing Po) อายุ 43 ปี บุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ตามหมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ จ.7/2562 ลงวันที่26 ก.พ.62 ในข้อหา ทำหรือใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ, ยื่นคำขอมีบัตรโดยไม่มีสัญชาติไทยโดยการแจ้งข้อความ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตามมาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมเอกสารบัตรประชาชน,ทะเบียนบ้านและใบจดทะเบียนบริษัทต่างๆในไทย ,พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักล่าวว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมสวมบัตรประชาชนไทยใช้ชื่อ นายธวัชชัย เลายี่ปา โดยดำเนินการสวมบัตรตั้งแต่ปี 2558 ที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และยังแอบอ้างเป็นนักธุรกิจไทย เปิดบริษัทชักชวนชาวจีนมาร่วมลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย รวมถึงทำบริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในไทย และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างเดินทางเข้าไทย,จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นชาวเผินอ่าน ประเทศจีน และได้ทำการทุจริตสวมบัตรประชาชนของ นายธวัชชัย เลายี่ปา จริง หลังจากที่ได้บัตรประชาชนไทยแล้ว ได้นำบัตรประชาชนไปทำการจดทะเบียนบริษัทหลายบริษัท และทำธุรกรรมต่างๆ ในชื่อของนายธวัชชัย เลายี่ปา มาโดยตลอด จากการสืบสวนขยายผลเข้าตรวจค้นที่พักและที่ตั้งบริษัท พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมชักชวนชาวจีนเข้ามาร่วมลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่นคอนโดมิเนียม ที่ดินในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมและที่ดินในแหล่งท่องเที่ยวโดยมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท อีกทั้งยังดำเนินการในรูปแบบสมาคมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ไทยจีนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในธุรกิจ.
บิ๊กโจ๊ก พร้อม ผบช.ทท. รองผอ.ท่าสุวรรณภูมิ แถลงจับกุมเจ้าของบริษัทหลอกขายทัวร์ราคาถูกไปหลีเป๊ะ แล้วเบี้ยวทริปเดินทาง พร้อมทำการปิดบริษัทเชิดเงินนักท่องเที่ยวหนี อีกรายรวบหนุ่มมังกรจีนสวม
ข่าว,ทั่วไทย
บิ๊กโจ๊ก,ตุ๋นนักท่องเที่ยว,หลอกขายทัวร์,สวมบัตร ปชช.,ทัวร์ราคาถูก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1510100
กรมการค้าภายใน ถกขึ้นราคาไข่ไก่ 20 สต. แก้ปัญหาไข่ล้นตลาด
กรมการค้าภายใน เตรียมร่วมหารือกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ในวันนี้ (23 ม.ค.) เพื่อพิจารณาปรับราคาเพิ่มอีกฟองละ 20 สตางค์ หลังผู้เลี้ยงประสบภาวะขาดทุนจากการประกาศราคาแนะนำของกรมการค้าภายในที่ให้จำหน่ายราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไม่เกินฟองละ 2.20 บาท ทำให้ผู้เลี้ยงบางรายต้องหยุดเลี้ยงเนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้ด้าน นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดกว่าวันละ 31 ล้านฟองจากเดิม 26-27 ล้านฟอง ทำให้ราคาลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนยังคงอยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท ดังนั้นแม้จะปรับราคาเพิ่ม 20 สตางค์ก็ยังไม่คุ้มทุน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น กรมปศุสัตว์ควรดูแลการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ไม่ให้มีปริมาณมากเกินไปขณะที่นายเอนก กิตติคุณาดุลย์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ธนะชัยฟาร์ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ราคาไก่ไข่จากฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.10 บาท ส่วนฟาร์มขนาดเล็กขายได้ ฟองละ 1.60 -1.70 บาท เนื่องจากปริมาณไข่ไก่มีมากทำให้พ่อค้ากดราคา
กรมการค้าภายใน เตรียมหารือร่วมกับผู้เลี้ยงและส่งออกเพื่อหามาตรการช่วยเหลือ ในวันนี้ โดยเบื้องต้นได้ปรับราคาแนะนำไข่ไก่เพิ่ม 20 สตางค์ เพื่อแก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดจนส่งผลให้ราคาตกต่ำ
เศรษฐกิจ
กรมการค้าภายใน,ขึ้นราคา,ตลาด,ไข่ไก่
https://news.thaipbs.or.th/content/61254
บลิงคิสท์ ผู้ช่วยใหม่ของนักอ่านยุคโซเชียลมีเดีย
วันนี้ (1 มิ.ย.2559) แอพลิเคชั่นบลิงคิสท์(Blinkist) ตัวช่วยที่จะทำให้คุณอ่านหนังสือสาระประโยชน์จบทั้งเล่มภายในเวลาเพียง 15 นาที เมื่อต้นปีบริษัทสามารถหาเงินได้ถึง 4 ล้านยูโรและวางแผนจะขยายสู่ตลาดนานาชาติ แนวคิดเบื้องหลังแอพลิเคชั่นนี้ง่ายมาก นักเขียนของบลิงคิสท์จะอ่านหนังสือชื่อดัง อย่างเช่น How to Win Friends and Influence People ของ เดล คาร์เนกี้ จากนั้นจึงย่อความคิดทั้งหมดให้เหลือเพียงใจความสำคัญ ที่เรียกว่า บลิงส์ โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็สามารถเข้าใจถึงแนวคิดทั้งหมดของหนังสือได้ตอนนี้บริษัทมีผู้ใช้บริการมากกว่า 7 แสนคน โดย บลิงส์ มีให้บริการในภาษาเยอรมันและอังกฤษ แต่การอ่านหนังสือในเวลาเพียง15 นาที จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่แอพลิเคชั่น บลิงคิสท์ โฮลเกอร์ ไซม์ ผู้ก่อตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อนๆ 4 คน ยอมรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ข้อมูลถูกต้องทั้งหมด ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะอ่านหนังสือทั้งเล่มใน 15 นาที แต่สิ่งที่เราพบ คือมีคนไม่น้อยที่ไม่สามารถเริ่มต้นอ่านหนังสือได้เลย ท่ามกลางสิ่งรบกวนรอบกาย ทั้งโซเชียลมีเดียคนถูกดึงเวลาไปในการบริโภคเนื้อหาจากโทรศัพท์มือถือ หนังสือก็แย่งความสนใจไม่ได้ คนมีสมาธิสั้นลงและพยายามจะอ่านอะไรสั้นๆ สิ่งที่เราทำคือเรากลั่นใจความสำคัญของหนังสือออกมา เรากลั่นเอาความคิดหลักจากหนังสือและเรียงร้อยเป็นรูปแบบที่เหมาะกับการอ่านผ่านหน้าจอโทรศัพท์หนังสือในห้องสมุดของบลิงคิสท์มีหนังสือมากกว่า 1500 เล่ม และไม่มีหนังสือนิยายเลยสักเล่ม เนื่องจากนิยายหรือเรื่องราวที่แต่งขึ้นไม่เหมาะกับการย่อความ ดังนั้นหนังสือส่วนใหญ่ จึงเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยตัวเองและอัตชีวประวัติ หนังสือประเภทที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือหนังสือที่เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพ่อแม่ยุคใหม่แทบไม่มีเวลาเหลือ แต่ก็มีเสียงแสดงความห่วงใยว่าการมีบริการเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สังคมไร้ปัญญา คนหยุดอ่านหนังสือและอ่านแต่เพียงข้อมูลเนื้อหาสั้นๆเท่านั้นแต่โฮลเกอร์ไม่เชื่อเช่นนั้น มีคนคิดแง่ลบต่อเทคโนโลยีเสมอหรืออาจจะมองทั้งสองแง่มุม แต่สิ่งที่เราเห็นคือเราจะมองในแง่ของข้อเท็จจริง เราทำการสำรวจความเห็นของลูกค้า และพบว่าพวกเขาใช้แอฟของเราเพื่อหาหนังสือเล่มใหม่ๆที่พวกเขาจะอ่านทั้งเล่ม และทุ่มความสนใจให้กับประเด็นที่พวกเขาชื่นชอบ แต่ยังไม่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อซื้อหนังสือทั้งเล่มเกี่ยวกับประเด็นนั้นๆ เท่ากับว่าเราไม่ได้ทำลายการอ่านหนังสือทั้งเล่ม แต่กลับเป็นว่าเราช่วยให้คนได้เห็นหัวข้ออื่นๆเพิ่มขึ้นจากที่ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน และยังได้เห็นหนังสือมากขึ้น เข้าใจมากขึ้น และตัดสินใจได้ว่าจะอ่านเล่มไหนต่อไปโฮลเกอร์ ไซม์ กล่าวบลิงส์ ไม่ได้รับอนุญาตจากนักเขียนและผู้ตีพิมพ์ แต่เนื่องจากการทำงานของพวกเขา คือการอ่านและเรียบเรียงขึ้นใหม่ จึงไม่ใช่การก็อปปี้หนังสือ เท่ากับไม่ได้ละเมิดกฎหมายข้อใดเบนชูมัน ชโตเลอร์ เป็นหนึ่งในคนเรียบเรียงบลิงส์ จากข้อมูลที่นักเขียนคนอื่นเขียน ซึ่งกระบวนการกินเวลาราวๆ 1 เดือน กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือจะต้องคงแนวคิดเดิมของผู้เขียนหนังสือให้ได้มากที่สุด ถ้าผมถามแม่ว่าชอบส่วนไหนของหนังสือของนักเขียนคนหนึ่ง มั่นใจได้เลยว่าจะต้องต่างจากส่วนที่เราชอบ ถ้าถามเพื่อนก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่เราเรียนรู้และสิ่งที่เราพยายามนำเสนอ ก็คือทุกๆความคิดที่นักเขียนให้ความสำคัญจุดใหญ่ใจความของหนังสือ ดังนั้นเราก็ต้องนำเสนอนักเขียนและความคิดของนักเขียนให้ดีที่สุด ให้ยุติธรรมที่สุดบลิงคิสท์ ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2556 แนวคิดของธุรกิจนี้ไม่ได้เป็นแนวคิดใหม่ทั้งหมด แต่นำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างความนิยมและขยายตลาด โดยเปิดแอปให้ทดลองใช้ฟรี ส่วนเวอร์ชั่นสมบูรณ์ มีให้ดาวน์โหลดทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยด์ สนนราคาค่าบริการปีละ 49.99 ยูโร
ในยุคสมาร์ทโฟนเช่นนี้หลายคนอาจไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือเล่มโต ดังนั้นนักธุรกิจสตาร์ทอัพในเบอร์ลิน จึงสร้างแอพลิเคชั่นคัดย่อหนังสือดังเล่มโต เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถอ่านเนื้อหาของหนังสือทั้งเล่มจบใน 15 นาที
ต่างประเทศ
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,แอพลิเคชั่น,บลิงคิสท์,อ่านหนังสือ,หนังสือ,ห้องสมุด,ย่อหนังสือ
https://news.thaipbs.or.th/content/252767
ลด ภูมิแพ้ ไปมากแล้ว
แค่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กระแอมว้ากเล็กๆ กลางฟลอร์ ส่งสัญญาณเข้มให้แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5,หน่วยงานต่างๆ ก็ขยับรับลูกกันเป็นวงออร์เคสตรา,ไล่ตั้งแต่ กทม. ประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุม ออกมาตรการต่างๆ สั่งปิดโรงเรียนในสังกัด กทม. เช่นเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการเรียกประชุมหน่วยงานในสังกัด สั่งปิดโรงเรียนทั้งระบบ 2 วัน กระทรวงมหาดไทย โดย พี่รอง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 เรียกประชุมด่วน 6 จังหวัดปริมณฑลเพื่อหามาตรการรับมือฝุ่นฟุ้งเมือง,และแน่นอน ที่ขาดไม่ได้ กำลังทหาร โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บก.ทหารสูงสุด ส่งกำลังพลเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน กทม.ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเคลียร์ฝุ่นละออง,ขณะที่ บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ส่งกำลังพลออกฉีดพ่นละอองน้ำใน กทม.และปริมณฑล มอบหมาย กกล.รส.ร่วมตรวจควันดำและโรงงานอุตสาหกรรม–รณรงค์งดเผาขยะ,ท็อปบูตกับภารกิจในเหตุฉุกเฉิน ย้ำคำตอบชัด มีทหารไว้เพื่อสิ่งนี้ เหมือนกัน,ล่าสุด พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้สั่งให้ทุกส่วนราชการประสานงานเตรียมข้อมูล เพื่อเสนอมาตรการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวเข้า ครม. เตรียมจัดประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งศึกษาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองจากรถยนต์,ขายไอเดีย ทำงานอยู่บ้าน ลดสาเหตุฝุ่นพิษ,เรียกว่าทุกองคาพยพขยับเข้าจังหวะ ตามคอนดักเตอร์กิตติมศักดิ์กันถ้วนหน้า,โดยหลายเรื่องที่ บิ๊กตู่ ฮึ่มๆเตรียมอัด ยาแรง ก็เป็นอย่างที่ออกตัว ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษ,เพราะแค่เข้มในการใช้กฎระเบียบที่มีอยู่ก็ทำได้แล้ว,แต่ที่เสียงเข้ม ไม่ว่าจะเป็น เตรียมห้ามรถยนต์ดีเซลวิ่งบางเส้นทาง ปิดโรงงานเช้า–เย็น ห้ามไม่ให้ใช้รถยนต์เดินทางคนเดียว วิ่งวันคู่–วันคี่ ฯลฯ ก็น่าจะแค่ประชดสวนเสียงด่าว่าไม่ทำอะไร ทำได้แค่พ่นน้ำ,ออกอาการ ภูมิแพ้การเมือง ฟึดฟัดๆทิ้งท้าย นั่นก็แค่เล็กน้อย,เพราะมันสวนทางกับสถานการณ์จริง วันนี้ถึงแม้รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง บิ๊กตู่ ก็น่าจะแต่งตัว เตรียมใจพร้อมแล้วกับการขึ้นสู่บัญชี 3 ผู้นำ ของพรรคการเมือง ที่ค่ายพลังประชารัฐ (พปชร.) เคาะเข้าจังหวะ,เตรียมยกขบวนแห่ไปหาม บิ๊กตู่ ขึ้นแท่นบัญชี 3 แคนดิเดตผู้นำ,โดยมีอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร.–ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เคียงข้างบนบัญชี,ตามสูตรฉายโชว์ ผู้นำอำนาจพิเศษ ผลงานห้วงคุมวิกฤติ ปลุกกระแส เติมด้วยภาพ มืองานคนสำคัญจากทีมเศรษฐกิจรัฐบาล กระตุ้นความต่อเนื่องคิวแก้ปมปากท้อง รวมทั้งช่วยลดโทนท็อปบูต,2 บิ๊กเศรษฐกิจตัวช่วย เติมความโดดเด่นให้ บิ๊กตู่,ถึงแม้จะมีกระแสข่าวแว่วว่า ทีมสตาฟฟ์สายท็อปบูตรอบผู้นำบางส่วน มีแนวคิดอยากให้ชู บิ๊กตู่ ขึ้นแท่นเพียวๆ โชว์ว่าที่ผู้นำ จากค่าย พปชร.แบบ สเปเชียลวัน กันไปเลย,คิวนี้ชั่งน้ำหนักแล้วก็ไม่น่าจะมีเหตุพลิกผัน เพราะแม้จะมีครบ 3 รายชื่อแคนดิเดต แต่คนทั่วไปก็รู้ดี,บิ๊กตู่ คือ นัมเบอร์วัน ว่าที่นายกฯหลังเลือกตั้ง,จากเหตุผล ทั้งกรณีที่แบรนด์ ประชารัฐ ขายดีติดตลาด จนนำมาสู่การเปิดหัว พลังประชารัฐ,ยี่ห้อที่ถูกมองเชื่อมโยงผู้นำ ยังไง พปชร.ขาด บิ๊กตู่ ไม่ได้อยู่แล้ว,ส่วนที่ทีมงานบางฝ่ายระวัง ฝุ่นการเมือง ปมเล่ห์หมากกลเกม ถึงนาทีนี้เมื่อทีมการเมืองรังสรรค์ตามประสงค์ สำหรับ บิ๊กตู่ ที่เรียกว่าผ่านมาเยอะ ฉีดวัคซีนการเมืองมากว่า5 ปี ดีกรีแก่กล้า,ไม่คิดมาแหยงเหตุพลิกผันช่วงไคลแมกซ์ ระแวงกับ เกมหัก,อาการภูมิแพ้ฝุ่นการเมืองของผู้นำ น่าจะเบาไปมากโขแล้ว.,ทีมข่าวการเมือง
ถึงเวลาก็ต้องโชว์ให้เห็นเหมือนกัน มี ผู้นำอำนาจพิเศษ ไว้ทำไม แค่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.
เลือกตั้ง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,อุตตม สาวนายน,วิเคราะห์การเมือง,วิเคราะห์เลือกตั้ง,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1484851
ข้อคิดจากเจ้าพ่อวอลมาร์ท อยากรวยต้องเป็นปลาว่ายทวนน้ำ
ถ้าพูดถึงตระกูลที่รวยที่สุดในอเมริกา คงไม่มีใครชิงตำแหน่งจาก ตระกูลวอลตัน ไปได้ ด้วยสินทรัพย์ในครอบครองรวมกัน 163,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตระกูลนี้สร้างฐานะร่ำรวยมาด้วยลำแข้งและหยาดเหงื่อของ แซม วอลตัน เด็กบ้านนอกยากจนจากโอกลาโฮมา ที่ไต่เต้าจากพนักงานห้างต๊อกต๋อย ขึ้นมาเป็นเจ้าของห้างค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วอลมาร์ท ได้อย่างน่าทึ่ง โดยปัจจุบันวอลมาร์ททำยอดขายได้ปีละ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีสาขาอยู่ 12,000 สาขาทั่วโลก,สมัยเด็กๆ แซม ฝันแค่อยากเป็นเซลส์แมน เพราะเป็นอาชีพรายได้ดีที่สุดในยุคนั้น เขาเป็นเด็กขยัน ทำงานหารายได้พิเศษทุกทางเพื่อจุนเจือครอบครัว ทำมาหมดทั้งช่วยพ่อรีดนมวัวขาย, เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ และรับจ้างต่อคิวร้านอาหาร แซมกัดฟันส่งตัวเองเรียนจนจบมหาวิทยาลัยมิสซูรี และเริ่มต้นอาชีพแรกด้วยการเป็นพนักงานห้าง เจ.ซี. เพนนี กินเงินเดือน 75 ดอลลาร์สหรัฐฯ,ชีวิตของเขาพลิกผันครั้งสำคัญ เพราะได้แต่งงานกับลูกสาวนักกฎหมายมีฐานะ พ่อตาของเขาคือคนจุดประกายให้ แซม ลุกขึ้นเป็นเถ้าแก่เอง โดยให้ยืมเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อแฟรนไชส์เปิดห้างเล็กๆ เบน แฟรงค์คลิน ในรัฐอาร์คันซอ ตอนนั้นเขาอายุ 27 ปี แม้จะอ่อนด้อยประสบการณ์ไม่เคยทำธุรกิจ แต่ด้วยความดิ้นรนพลิกแพลงเก่ง ภายในเวลา 2 ปีครึ่ง ก็สามารถหาเงินมาคืนพ่อตาได้ทั้งก้อน,กลยุทธ์การทำธุรกิจแบบมวยวัดของแซม ไม่เคยเขียนในตำราเล่มไหน แต่มันคือสุดยอดคัมภีร์ของเจ้าสัวยุคก่อน เขาเป็นคนแรกๆที่ตระเวนหาสินค้าแปลกใหม่จากภูมิภาคอื่นๆมาขายเสริมในห้าง เพื่อสร้างความหลากหลายและหาช่องทางทำรายได้เพิ่มให้ธุรกิจแฟรนไชส์ โดยกลยุทธ์ที่ได้ผลมากที่สุดคือ การสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์คราวละมากๆ แล้วนำมาจัดโปรโมชันลดราคาหั่นแหลกตัดหน้าคู่แข่ง ห้างของแซมยังมีเครื่องทำไอศกรีมและป๊อปคอร์นตั้งอยู่หน้าร้าน เพื่อสร้างสีสันดึงลูกค้าจากห้างอื่น,แซม ใช้เวลาเกือบ 17 ปี กว่าจะได้เปิดห้างสรรพสินค้าของตัวเอง ภายใต้ชื่อ วอลมาร์ท โดยสาขาแรกตั้งอยู่ในเมืองโรเจอร์ส รัฐอาร์คันซอ ห้างของเขาเติบโตและขยายสาขาอย่างรวดเร็ว เพราะทำการตลาดได้ล้ำยุค วอลมาร์ทมีขายทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบในราคาถูกกว่าใครๆ ที่สำคัญหากลูกค้าไม่พอใจก็สามารถนำสินค้ากลับมาคืนได้ทันที อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้วอลมาร์ทชนะคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นคือ ยอมลงทุนกับเรื่องการจัดส่งสินค้าและการกระจายสินค้า โดยไม่ผ่านคนกลาง ทำให้ประหยัดต้นทุนไปหลายเปอร์เซ็นต์,ตอนเปิดห้างยุคแรก วอลมาร์ทชูสโลแกน Always Low Prices, Always แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นคอนเซปต์ Save Money, Live Better ถ้าถาม บิ๊กแซม อะไรคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ เขามักตอบว่า จงทำให้เกินความคาดหวังของลูกค้า แล้วลูกค้าจะกลับมาหาเราอีกแน่นอน ในทัศนะของเขาแล้ว ลูกค้าคือพระเจ้าอย่างแท้จริง เขาบอกกับพนักงานวอลมาร์ทเสมอว่า เจ้านายของพวกคุณมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือลูกค้า พวกคุณจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นกับความพอใจของลูกค้า,แม้จะรวยยกตระกูลเป็นอันดับหนึ่งของอเมริกา แต่ลูกหลานบ้านวอลตัน ก็ยังเดินตามรอย บิ๊กแซม ใช้ชีวิตติดดิน ประหยัดมัธยัสถ์ และเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ชอบเป็นข่าว สมัยแซมยังมีชีวิตอยู่ เขาขับรถกระบะคันเก่าๆ เข้าร้านตัดผมแถวบ้าน และขึ้นชื่อว่าเป็นโรคเกลียดนักข่าวที่สุด เพราะสื่อมักมองเขาเป็นคนบ้านนอกตัวประหลาด.,มิสแซฟไฟร์
ถ้าพูดถึงตระกูลที่รวยที่สุดในอเมริกา คงไม่มีใครชิงตำแหน่งจาก ตระกูลวอลตัน ไปได้ ด้วยสินทรัพย์ในครอบครองรวมกัน 163,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตระกูลนี้สร้างฐานะร่ำรวยมาด้วยลำแข้งและหยาดเหงื่อ
null
แซม วอลตัน,วอลมาร์ท,Walmart,คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์,มิสแซฟไฟร์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1365815
เคาะเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะ 2 เตรียมชงเข้า ครม.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2563 โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุม โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ยางพาราโลก ในช่วงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ไตรมาสแรก พบว่า ความต้องการใช้ยางของโลกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วลดลงร้อยละ 19.53 สำหรับประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของไทย มีการใช้ยางลดลงเกือบร้อยละ 50ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการการประกันรายได้เกษตกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 ช่วงเดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน 2563 โดยยึดแนวทางการประกันรายได้ระยะที่ 1 ส่วนรายละเอียดให้การยางแห่งประเทศไทย ไปพูดคุย และทำความเข้าใจกับเครือข่ายชาวสวนยางทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง เรื่องที่ 2 อนุมัติโครงการสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ วงเงิน 20000 ล้านบาท โดยรัฐบาลสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง จะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไปสำหรับการบริหารจัดการปริมาณยางพาราในประเทศ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการดำเนินโครงการภาครัฐด้านการตลาดและแปรรูปสินค้ายางพารา เช่น โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง ซึ่งมีกลุ่มเกษตรกรได้เบิกเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปแล้ว 11800 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 2000 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต/เพิ่มมูลค่าสินค้า มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ กู้เงินแล้ว 14000 ล้านบาท มีการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น 130000 ตันนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำเรื่องการทำสวนยางอย่างยั่งยืน โดยกำชับเรื่องการทำงานกับทุกภาคส่วน และให้กำหนดเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งเป้าดังนี้1. มีสวนยางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืน ไว้ที่ 15 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี 2. มีสวนอย่างยั่งยืนแบบผสมผสาน ลดการพึ่งพารายได้จากยางเพียงอย่างเดียว ไม่น้อยกว่า 2 ล้านไร่ ในระยะเวลา 10 ปี 3. แก้ปัญหาสวนยางในที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ โดยส่งเสริมการทำสวนยางยั่งยืนที่เกื้อกูลธรรมชาติ ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านไร่รัฐบาลตั้งใจดูแลชีวิตความเป็นอยู่ชาวสวนยาง นอกจากนโยบายประกันรายได้แล้ว ยังมีการดำเนินการในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ การลดปริมาณยางพาราในประเทศ การขยายตลาดการส่งออก การเพิ่มมูลค่าสินค้าจากยางพาราเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำควบคู่กันไป และขอให้ชาวสวนยางมั่นใจว่ารัฐบาลมีกลไกให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการ ได้เข้าถึงเงินทุนเพื่อการเพิ่มศักยภาพการผลิตและคุณภาพ สุดท้ายจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ เห็นชอบหลักการประกันรายได้ชาวสวนยางระยะที่ 2 - อนุมัติโครงการสินเชื่อผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ วงเงิน 20000 ล้าน จ่อชงเข้า ครม.
ข่าว,การเมือง
ประกันรายได้เกษตรกร,ประกันรายได้ยางพารา,ยางพารา,ชาวสวนยาง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ประกันรายได้เกษตกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2,เกษตรกร
https://www.thairath.co.th/news/politic/1858806
เช็คอุณหภูมิท้าลมหนาวปี 60 เย็นกว่ารอบ 2-3 ปี
วันนี้ (6 ธ.ค.2559) นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ทั่วประเทศไทย รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จะเริ่มสัมผัสความหนาวเย็นระลอกแรกเนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน หรือลมหนาวจากจีนจะแผ่ลงมาทำให้อุณหภูมิลดต่ำกว่าปกติอย่างรวดเร็ว 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจากการคาดการณ์ฤดูหนาวของไทยตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2559 ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ค่าเฉลี่ยทั้งฤดูอุณหภูมิจะลดต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงปี 2-3 ปีก่อนอย่างชัดเจน แต่จะไม่ฮวบฮาบและไม่ลากยาวแต่จะมีลมหนาวลงมาเป็นระยะๆ ตลอด 2 เดือนครึ่งนี้อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในเดือนธันวาคม 2559 - ช่วงต้นปี 2560 มีโอกาสที่อากาศจะเย็นกว่าปี 2558 เพราะในปีนั้นไทยได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์เอลนิโญมีความแห้งแล้ง ทำให้ลมหนาวไม่แผ่ลงมา แต่ปีนี้เริ่มเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานิญาแบบอ่อน และเข้าสู่ฤดูฝนตามปกติ ทำให้ความเย็นมีโอกาสแผ่ลงมาถึงไทยได้มากขึ้น แต่ไม่น่าจะหนาวทุบสถิติที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่เคยต่ำสุดถึง 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อ 61 ปีก่อนทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์อากาศช่วงฤดูหนาว ดังนี้สำหรับค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่ำสุดในปี 2558 เป็นดังนี้ เชียงราย 13.5 องศาเซลเซียส เชียงใหม่ 15.6 องศาเซลเซียส เลย 12.8องศาเซลเซียส นครพนม 14 องศาเซลเซียส นครราชสีมา 17 องศาเซลเซียส นครสวรรค์ 17.3 องศาเซลเซียส ส่วนกทม.20.6 องศาเซลเซียสด้านนายสนิท หอมนาน หัวหน้าอุทยานภูชี้ฟ้า สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย เปิดเผยว่า บนภูชี้ฟ้ายังมีทะเลหมอกในช่วงเช้า มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิ 11-12 องศาเซลเซียส ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากกว่าวันละ 2000-3000 คนโดยเฉพาะช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ จากช่วงวันปกติเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 500-1000 คน ซึ่งจะเริ่มคึกคักไปเรื่อยๆ จนถึงสิ้นปี คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนภูชี้ฟ้าไม่ต่ำกว่าวันละ 10000 -20000 คน ซึ่งทางอุทยานฯ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวก ทั้งด้านที่พักและเส้นทางการเดินทาง รวมถึงการดูแลความปลอดภัย
กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุกลางธันวาคมนี้ทั่วไทย เจอลมหนาวระลอกแรก คนกรุงมีโอกาสสัมผัสแน่ ชี้อุณหภูมิเฉลี่ยลดลงต่ำกว่าปีก่อน
สังคม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย,อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา,อากาศหนาว,ท่องเที่ยว
https://news.thaipbs.or.th/content/258440
แจ้งจับ เอมมี่ แม็กซิม โกงแชร์ 28 ล้าน แฉเปียมือแรกแล้วเลิก
มีผู้เสียหายมากถึง 80 คน,วันนี้ (2 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม กลุ่มตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับ เอมมี่ แม็กซิม หรือ น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ ในข้อหาฉ้อโกง หลังตั้งวงแชร์ทางกลุ่มไลน์ และประกาศเชิญชวนร่วมเล่นแชร์ บ้านเอมมี่ แต่สุดท้ายถูกโกง มูลค่าความเสียหายกว่า 28 ล้านบาท มีผู้เสียหายมากถึง 80 คน,ซึ่งผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เอมมี่ แม็กซิม โพสต์ตั้งวงแชร์หลายวง โดนเห็นเป็นบุคคลมีชื่อเสียงจึงเข้าร่วมเล่นด้วย มีตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน ซึ่งกลุ่มของตนได้เข้าร่วมวง 6 แสนบาท มีทั้งสิ้น 13 มือ มีเอมมี่เป็นเท้าแชร์ และได้สิทธิ์เปียมือแรก รับเงินไปก่อน แต่เมื่อถึงมือที่ 2 กลับแจ้งลูกแชร์ โดยอ้างว่าถูกโกง ขอยุบวงแชร์ และไม่ขอรับผิดชอบใดๆ แต่จากนั้นยังเห็นเอมมี่โพสต์เฟซบุ๊กและไอจีเปิดรับวงแชร์ตามปกติ จึงเชื่ออาจว่าถูกโกง จึงมาแจ้งความกองปราบปราม,เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำ และแนะนำให้กลุ่มผู้เสียหายไปแจ้งความที่ บก.ปอศ.อีกครั้ง เนื่องจากเป็นหน้างานที่รับผิดชอบโดยตรง,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,เปิดใจ เอมมี่ โดนเพื่อนในวงการยืมเงินไปเกือบ 100 ล้าน วอนขอคืน,- ,คนสนิท เอมมี่ แม็กซิม เผยสาเหตุที่แท้จริง หลังถูกแจ้งความโกงแชร์
กลุ่มตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกองปราบ ดำเนินคดี เอมมี่ แม็กซิม ข้อหาฉ้อโกง หลังร่วมเล่นแชร์ในกลุ่มไลน์ บ้านเอมมี่ แล้วถูกโกง แฉเปียมือแรกแล้วเลิกดื้อๆ ความเสียหายกว่า 28 ล้านบาท
ข่าว,อาชญากรรม
เอมมี่ แม็กซิม,เอมมี่ อมลวรรณ,เอมมี่ แม็กซิม โกงแชร์,ฉ้อโกง,กองปราบ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1410270
กรมทางหลวง จัดทีมพิเศษพร้อมรับเทศกาลหยุดยาวฮารีรายอ
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2558 นายชูศักดิ์ เกวี อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมทางหลวงได้เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางประชาชนช่วงเทศกาลฮารีรายอ ร่วมฉลองการประกอบพิธีฮัจญ์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมวันที่ 24 – 26 ก.ย.58 ต่อเนื่องวันหยุดเสาร์อาทิตย์ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกด้านจราจร และจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วดูแลเส้นทางและประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้มีการบันทึกข้อมูลการจราจร ด้วยระบบบริหารงานภัยพิบัติ และสถานการณ์ฉุกเฉินแบบเวลาจริง รวมถึงบันทึกอุบัติเหตุลงในระบบสารสนเทศ อุบัติเหตุบนทางหลวง ของสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวงด้วย,กระทรวงคมนาคมมีนโยบายมอบให้หน่วยงานในสังกัดทุกเพิ่ม มาตรการเข้มข้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยในด้านโครงข่ายถนน มีการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงทางลัด ไฟฟ้าแสงสว่าง สัญญาณไฟจราจรและตัดแต่ต้นไม้ที่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ พร้อมทั้งตรวจสอบและแก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่ซ่อมแซมผิวจราจร ที่กรมทางหลวง : ,www.doh.go.th, และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมทางหลวง กล่าว,นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า มาตรการถนนปลอดภัย ได้ตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงถนนและสะพานในความรับผิดชอบให้มีความปลอดภัยและพร้อมสำหรับการรองรับปริมาณการเดินทางของประชาชน ทั้งในเรื่องของผิวจราจร สัญญาณไฟ ป้ายและเครื่องหมายจราจร รวมทั้งเตรียมพร้อมปรับปรุงเส้นทางและสะพานให้มีความสะดวก ปลอดภัย มีเครื่องหมายครบถ้วน รวมถึงการแนะนำเส้นทางการเดินทาง การแก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ,สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง การจราจร พบเหตุระหว่างการเดินทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตำรวจทางหลวง 1193 สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7.
กรมทางหลวง พร้อมรับฮารีรายอวันที่ 24 – 26 ก.ย.58 จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว อำนวยความสะดวกในการใช้เส้นทาง และ ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมทั้ง ซ่อมถนนติดไฟรับเดินทางหยุดยาวของพี่น้องชาวไทยมุสลิม
null
ช่วงเทศกาลฮารีรายอ,ฮารีรายอ,วันหยุดยาว,ชาวไทยมุสลิม,ชูศักดิ์ เกวี,กรมทางหลวง,ชุดเคลื่อนที่เร็ว,อำนวยการจราจร,ปรับปรุงถนน,แนะนำเส้นทาง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/527639
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เรียกร้อง ขสมก.ชี้แจงปลดบัญชีดำให้ เบสท์ริน ประมูลรถเมล์เอ็นจีวี
วันนี้ (18 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ขสมก.ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำ ห้ามบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ร่วมประมูลทุกโครงการของ ขสมก. หลังฝ่ายอนุกฎหมาย ขสมก.พิจารณาเห็นว่าบริษัทเบสท์รินไม่มีเจตนาทิ้งงาน จากการไม่สามารถส่งมอบรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซม 489 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อกชั่นครั้งที่แล้วได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องภาษีนำเข้านายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา องค์กรฯ ได้ส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมตรวจสอบโครงการตามข้อตกลงคุณธรรม แต่ไม่พบความผิดปกติในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างการประมูลครั้งก่อน โดยเฉพาะทีโออาร์ที่มีการแก้ไขหลายครั้ง ขณะที่การปลดบัญชีดำบริษัทเบสท์ริน องค์กรฯ ต้องการให้ ขสมก.มีการชี้แจงถึงสาเหตุการปลดบัญชีดำอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างรอบใหม่ที่จะมีการประกาศออกมาใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้การจัดซื้อจัดจ้างในอนาคตมีมาตรฐาน แตกต่างจากที่ผ่านมาที่รัฐวิสาหกิจสามารถปลดบัญชีดำได้ขณะที่นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการเดินรถ ขสมก.กล่าวว่า ขสมก.ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำห้ามบริษัทเบสท์รินร่วมประมูลทุกโครงการของ ขสมก.แล้ว เนื่องจากฝ่ายอนุกฎหมายของบอร์ดพิจารณาเห็นว่าบริษัทไม่มีเจตนาทิ้งงาน ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ตั้งแต่วันที่ 7-11 สิงหาคมที่ผ่านมา ขสมก.ได้เปิดขายซองประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวีไปแล้วโดยมีเอกชนสนใจ 3 ราย ประกอบด้วยบริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์เดเวลอปเมนท์ จำกัด กิจการร่วมค้าเจวีซีซี ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งก่อนทั้งนี้ ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมบอร์ด ขสมก. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งการยื่นซองจะหมดเขตในวันที่ 24 สิงหาคม และจะเคาะราคาอีอ็อกชั่นวันที่ 8 กันยายนนี้เมื่อได้ผู้ชนะประมูลและลงนามสัญญาปลายเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะต้องส่งมอบรถภายใน 90 วัน คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนธันวาคม จะมีรถเมล์ล็อตใหม่วิ่งให้บริการประชาชน ขณะที่การประมูลครั้งนี้ใช้ราคากลาง 3387 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่บริษัทเบสท์รินเคยชนะประมูล
รองผู้อำนวยการฯ ขสมก.ระบุว่า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่ ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้่ ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เรียกร้องให้ ขสมก.ชี้แจงการปลดการขึ้นบัญชีดำของบริษัทเบสท์รินต่อสาธารณะ
เศรษฐกิจ
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ขสมก.,บัญชีดำ,เบสท์ริน,ประมูลรถเมล์เอ็นจีวี,ประมูล,รถเมล์,รถเมล์เอ็นจีวี,รถโดยสารประจำทาง,องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย),คอร์รัปชัน
https://news.thaipbs.or.th/content/265341
ทำไมต้องช่วยแรงงานข้ามชาติ: เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนคือการป้องกันโรคที่ดี
เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนหมายถึงการป้องกันโรคที่ดี และหลังวิกฤตคลี่คลาย พวกเขาคือกำลังสำคัญในการรื้อฟื้นเศรษฐกิจและสังคมให้กลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งขณะนี้แม้การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนยังคงรอการเยียวยา ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นกำลังหลักสำคัญส่วนหนึ่งในภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ไปจนถึงภาคบริการ ข้อมูลจาก กระทรวงแรงงาน ระบุว่า สถานการณ์แรงงานต่างด้าว ณ เดือนมีนาคม 2563 คนต่างด้าว (พม่า กัมพูชา ลาว) ที่ได้รับอนุญาตทำงานทั่วราชอาณาจักร มีจำนวนทั้งสิ้น 2814481 คน ซึ่งนับเป็นจำนวนไม่น้อยแต่ก่อนที่จะพูดถึงมาตรการเยียวยาแรงงานข้ามชาติ คำถามพื้นฐานที่เรามักเจอคือ คนไทยบางคนยังไม่ได้รับเงินเยียวยา แล้วทำไมเราถึงต้องไปช่วยแรงงานข้ามชาติอีกเพื่อตอบคำถามนี้ ประชาไทได้สัมภาษณ์แรงงานข้ามชาติ ผู้ที่ทำงานกับแรงงานข้ามชาติ ไปจนถึงนักวิชาการ แรงงานสัญชาติเมียนมาร์ในจังหวัดเชียงใหม่เล่าว่า ตั้งแต่มีโควิด ยังไม่เห็นรัฐมาช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ อาจมีการผ่อนปรนระยะเวลาการทำวีซ่า หรือรายงานตัว แต่ไม่มีเงินเยียวยา อย่างปัญหาของตนคือบริษัทยังให้ทำงานอยู่ แต่จะบังคับให้หยุดเป็นบางวัน ทำให้ได้ทำงานน้อยลง เงินที่ได้จึงน้อยลงด้วยทำไมต้องช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ ในขณะที่คนไทยรัฐบาลก็ยังช่วยเหลือไม่ทั่วถึง คำถามแบบนี้ผมก็เข้าใจเขานะว่าเขาเองก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เลยเกิดคำถามแบบนี้ขึ้นในใจเขา สำหรับผมก็อยากให้คิดว่าเราเป็นมนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน อาจจะไม่ต้องช่วยเท่าคนไทย แต่ขอให้ช่วยเหลือบ้าง เพราะพวกผมก็มาทำงานในเมืองไทย ไปซื้อของเราก็เสียภาษีเหมือนคนไทย ผลที่ออกมาก็เป็นของเมืองไทย เราทำงานใช้แรงเข้าสู้ได้เงินไม่เยอะ แต่ผลประโยชน์หลักๆ ก็ให้บริษัทคนไทยหมด ไอบีกล่าว ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติตอบคำถามประเด็นนี้ว่า แรงงานเหล่านี้คือแรงงานที่สร้างผลผลิตให้แก่ประเทศไทย และพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับทุกคนในสังคมไทยเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การไปแบ่งแยกว่าเขาไม่ใช่คนไทย ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือ มันก็ผิดวิสัยสิ่งที่มนุษย์พึงมีต่อกัน ผมไม่คิดว่าสังคมไทยอยู่รอดปลอดภัยจากโควิดได้โดยที่เราไม่สนใจคนอื่น เพราะสังคมไทยประกอบด้วยคนหลายกลุ่ม ดังนั้นมันคงไม่ใช่คำถามว่า ทำไมเราถึงไม่ช่วยคนไทยก่อน เพราะมันต้องช่วยไปด้วยกันทั้งหมด เขาอยู่กับเรา เขาก็เป็นพวกเดียวกับเรานี่แหละเราจะผ่านความทุกข์ร่วมนี้ไปได้ เราก็ต้องมองเห็นความทุกข์ร้อนของคนอื่นๆ และพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็จะรอดได้ การทิ้งใครไว้ข้างหลัง มันอาจหมายถึงคุณเองก็จะไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน ที่น่ากังวลคือเมื่อคุณถูกกีดกันออกจากความช่วยเหลือของสังคมนี้ มันอาจผลักให้คุณไปสู่ทางเลือกอื่นหากเข้าตาจนจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว อดิศรกล่าวอดิศรยกตัวอย่างคำพูดของมาร์กาเร็ต มีด นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมชาวอเมริกัน เมื่อนักศึกษาถามเธอว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นหลักฐานชิ้นแรกที่บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของอารยธรรมมนุษย์ มาร์กาเร็ตตอบว่า คือกระดูกต้นขาของมนุษย์ในยุคโบราณคนหนึ่ง เพราะกระดูกชิ้นนั้นมีร่องรอยของการซ่อมแซมตัวเองหลังจากกระดูกหัก เพราะในอดีตหากขาหักนั่นหมายถึงความตาย เพราะมนุษย์จะไม่สามารถออกล่าเหยื่อ ไม่สามารถเดินไปหาน้ำกิน ไม่สามารถวิ่งหนีได้เมื่อมีภัยมา แต่การค้นพบกระดูกต้นขาของมนุษย์ที่มีร่องรอยของการหัก บ่งบอกว่าเมื่อคนๆ นั้นขาหัก มีคนรอบตัวเขาคอยช่วยเหลือ หาที่ปลอดภัยให้เขา นำน้ำและอาหารให้ไปให้เขากินจนกระทั่งกระดูกของเขาซ่อมแซมตัวเองได้ แทนที่จะปล่อยเขาให้ตายไปตามลำพังอดิศรมองว่า มาตรการรัฐของแรงงานข้ามชาติที่ออกมาขณะนี้ยังไม่ครอบคลุม เช่น เงินชดเชยการว่างงาน 5000 บาท แรงงานข้ามชาติก็ไม่ได้ หรือแม้กระทั่งหากแรงงานข้ามชาติอยู่ในประกันสังคม ก็ยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงมากมาย เช่น อ่านภาษาไทยไม่ได้ กรอกภาษาไทยไม่ได้มาตรการรัฐกับกลุ่มแรงงานข้ามชาติเน้นไปที่ป้องกันโรคมากกว่าชดเชยเยียวยา ในภาวะที่ทุกคนลำบาก มาตรการรัฐที่ออกมามองราวกับว่าเขาจะเป็นคนแพร่เชื้อโรค ซึ่งมันสะท้อนวิธีคิดของรัฐและคนในสังคมเองป้องกันโรคทำไม่ได้ถ้าคุณเข้าไม่ถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เช่น หากคุณไม่มีรายได้ จากเดิมที่ห้องหนึ่งเคยอยู่ 2 คน อาจจะต้องอยู่กัน 5 คน โอกาสที่เชื้อจะแพร่ให้คนอื่นก็ง่ายมากขึ้น ขณะเดียวกันเขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเดียวกับเรา ไปทำงาน ไปซื้อของ ก็มีโอกาสที่จะควบคุมโรคไม่ได้ขณะที่โควิดเป็นโรคที่สร้างผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คน ฉะนั้นไม่สามารถจะไปรักษาแค่โรคหรือควบคุมโรคได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำคุณภาพชีวิตของคนให้ดี ให้เขาเข้าถึงบริการต่างๆ ให้เขามีความสามารถป้องกันโรค และดูแลตัวเองได้ อดิศรกล่าวอดิศรยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีมาตรการแยกแรงงานข้ามชาติออกจากคนสิงคโปร์ โดยจัดสถานที่เฉพาะไว้ให้ ซึ่งอดิศรมองว่าทำให้เกิดการแบ่งแยก และไม่เกิดการเรียนรู้ร่วมกันมีเคสหนึ่งที่คนสิงคโปร์เกิดความไม่พอใจต่อแรงงานข้ามชาติ เกิดการประท้วง ทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งยิ่งเป็นผลเสียต่อการควบคุมโรค รัฐไทยไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะการให้อยู่ร่วมกันในสังคม จะทำให้เกิดการเรียนรู้ การปรับตัว เกิดการส่งต่อข้อมูลซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ อดิศรกล่าว กลุ่มนักวิชาการเพื่อแรงงานข้ามชาติกล่าวว่า กลุ่มแรงงานข้ามชาติมีบทบาททางเศรษฐกิจต่อประเทศไทยมาเป็นเวลานาน อย่างน้อยที่สุดเริ่มเมื่อ 30 กว่าปีก่อน แรงงานข้ามชาติเริ่มเข้ามาเติมเต็มกลุ่มงานระดับล่างซึ่งคนไทยไม่นิยมทำกันแล้ว เพราะเมื่อคนไทยเริ่มมีการศึกษาสูงก็เคลื่อนย้ายตัวเองไปสู่ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ส่วนภาคการเกษตรที่เคยทำก็ลดตัวลง กลุ่มแรงงานข้ามชาติเหล่านี้เข้ามาเสริม เข้ามาอุดรอยรั่วของแรงงานทั้งภาคการเกษตร ไปจนถึงภาคบริการระดับล่าง เช่น งานล้างจาน แม่บ้าน หรือยามเราพึ่งพาเขามาตลอด แม้เขาจะถูกมองอย่างไม่มีตัวตน แต่เขาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมไทย ประเทศไทยมาโดยตลอด ในฐานะที่เราเป็นเจ้าบ้าน เราดึงดูดผลประโยชน์จากเขามามากมาย เราเองก็ต้องช่วยเหลือเขาในวิกฤตแบบนี้ อย่าลืมว่าเขาไม่ได้ไปไหน เขายังอยู่ในสังคมไทย และภายหลังจากที่โควิดคลี่คลายลง เขาเองก็เป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยรื้อฟื้นเศรษฐกิจ รื้อฟื้นสังคมไทย เพราะฉะนั้นเราต้องพึ่งพาอาศัยเขาอยู่แล้วพิสิฐมองว่า มาตรการต่างๆ ของรัฐควรครอบคลุมถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ เช่น ถุงยังชีพ หรือตัวเงิน ไปจนถึงระยะยาวที่ช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากแรงงานข้ามชาติต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า เอกสารการทำงาน หลักประกันสุขภาพ ปีละเกือบ 10000 บาท เพราะฉะนั้นหากไม่มีกำลังทรัพย์ในการไปดำเนินการทางกฎหมาย ก็อาจกลายเป็นปัญหาต่อเนื่องตามมาเรื่องการฆ่าตัวตาย การทำร้ายร่างกาย การลักเล็กขโมยน้อย การก่ออาชญากรรมในสังคมไทย ปัญหาสังคมทั้งหลายก็อาจตามมาได้หากรัฐไม่มีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือคนทุกกลุ่ม พิสิฐกล่าว
คุยกับแรงงานข้ามชาติและนักวิชาการ ตอบคำถามว่าทำไมต้องช่วยแรงงานข้ามชาติในภาวะวิกฤติเช่นนี้ นอกจากเรื่องมนุษยธรรมแล้ว คือผลประโยชน์ส่วนรวมแก่ทุกคนในสังคม
การเมือง,เศรษฐกิจ,สังคม,แรงงาน,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
แรงงานข้ามชาติ,โควิด-19,COVID-19,อดิศร เกิดมงคล,พิสิฐ นาสี
https://prachatai.com/journal/2020/05/87619
เปิดปาฐกถาครึ่งเดียวของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ในห้องเรียนประชาธิปไตยที่ถูกยกเลิก
30 นาทีกับปาฐกถานิธิก่อนถูกเชิญตัวไปสถานีตำรวจทั้งลูกศิษย์-อาจารย์ นิธิพูดถึงลักษณะของเผด็จการในแง่มุมที่น่าสนใจยิ่ง เสียดายที่ไม่มี อนาคตของเผด็จการ (บรรยายไม่จบ)เย็นวันที่ 18 ก.ย. 57 ในที่สุดห้องเรียนประชาธิปไตยครั้งที่ 2 ตอนการล่มสลายของเผด็จการในต่างประเทศก็ถูกจัดขึ้นอย่างทุลักทุเล บริเวณใต้อาคารบรรยายรวม 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ด้วยเหตุผลว่าทางมหาวิทยาลัยได้รับคำสั่งจากกองบังคับการควบคุม กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ลงชื่อโดยพันเอก พัลลภ เฟื่องฟู สั่งให้มหาวิทยาลัยระงับกิจกรรมดังกล่าว ต่อมาได้มีคำสั่งจากทางมหาวิทยาลัยประกาศงดใช้ห้องเรียนสำหรับการจัดกิจกรรมวิชาการ ทำให้กลุ่มผู้จัดงานตัดสินใจย้ายที่จัดลงมาบริเวณใต้อาคารเรียนในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า การจัดงานเสวนาวิชาการ เป็นสิทธิเสรีภาพ ที่พึงมีในระบอบประชาธิปไตย ก่อนจะถูกยกเลิกไปในที่สุดสำหรับผู้ที่พลาดโอกาสไปร่วมงาน ทั้งผู้ที่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยและพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยมานานแล้วก็ตาม ประชาไทขอหยิบบันทึกแบบเรียน นำเสนอโดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ เนื่องจากโชคดีเล็กน้อยที่เขาสามารถกล่าวปาฐกถาได้ราว 30 นาทีก่อนตำรวจจะขอให้ยุติการจัดงาน และเชิญตัวทั้งนักศึกษาผู้จัดและอาจารย์ที่ร่วมเสวนาไปที่สถานีตำรวจแม้ว่าจุดมุ่งหมายของการพูดในวันนี้จะอยู่ที่อนาคตของเผด็จการ แต่เป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีนิยามให้ชัดเสียก่อนว่าเผด็จการหมายถึงอะไร ประเด็นแรกที่ผมฟันธงคือ เผด็จการนั้นเป็นผลผลิตจากรัฐสมัยใหม่ เพราะในรัฐโบราณมีเพียงแต่ทรราช(tyrant)เท่านั้น ซึ่งหมายถึงผู้ปกครองที่มักจะทำอะไรตามอำเภอใจ โหดร้าย โหดเหี้ยม รังแกคนมาก ทรราชนี่สามารถที่จะเป็นราชาหรือไม่ใช่ราชาก็ได้ คนเหล่านี้ผมมองว่าไม่ใช่เผด็จการด้วยเหตุผล 3 ประการ1.ในโลกสมัยโบราณ ทรราชมีอำนาจจำกัด คือขาดระบบราชการ เครื่องมือในการสื่อสารคมนาคม ขาดกองทัพประจำการ หมายความว่า อาจจะมีกองทัพอยู่แต่เป็นเพียงกองทัพเล็กๆ ซึ่งใหญ่กว่าคนอื่น แต่คนอื่นๆ เขาก็มีกองทัพด้วย ทำให้ทรราชไม่สามารถจะผูกขาดความรุนแรงได้ ถ้าเป็นเผด็จการแล้วไม่ผูกขาดความรุนแรงเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ยังขาดกลไกอีกหลายอย่าง ที่ไม่สามารถเข้าสู่รายละเอียดในการควบคุมประชาชนได้ ฉะนั้นทรราชก็ได้แต่แสดงอำนาจอยู่กับคนใกล้ตัวเท่านั้น ไม่สามารถที่จะแผลงฤทธิ์ หรือแสดงความไม่ฉลาดของตนให้ปรากฏแก่สาธารณชนได้เท่าเผด็จการ โดยสรุปก็คือการที่ขาดเครื่องมือต่างๆ นั้นไม่สามารถสร้างความสะพรึงกลัวในระดับที่กว้างขวางได้ เพราะความสะพรึงกลัวนั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของเผด็จการ ทรราชนั้นไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหนก็แล้วแต่มันไม่สามารถสร้างความสะพรึงกลัวในระดับที่กว้างขวางได้2.ในระบอบปกครองของทรราช ยังมีอำนาจอื่นเหลืออยู่อีกมาก เช่น อำนาจท้องถิ่น ศาสนา ขุนนาง ประเพณี และอื่นๆ อีกหลายประการ ซึ่งทรราชไม่มีกำลังพอที่จะไปปราบอำนาจเหล่านั้นได้ วิธีเดียวที่ทรราชจะอยู่ได้คือต้องมีการประนีประนอมกับอำนาจอื่นๆ เหล่านั้น เพราะฉะนั้นโดยปกติราชาธิราชทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่าท่านอยากจะมีอำนาจมากแค่ไหน จะเหี้ยมโหดแค่ไหนก็ตาม มันจะมีอำนาจอื่นคอยขวางอยู่ตลอดเวลาทำให้ทรราชนั้นต้องประนีประนอมด้วย เพราะฉะนั้นเผด็จการจึงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีรัฐสมัยใหม่ เพราะมันไม่มีเครื่องมือต่างๆ ที่ทำให้เกิดความสะพรึงกลัว3.อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทรราชแตกต่างจากเผด็จการก็คือ ในรัฐโบราณไม่มีสิ่งที่เรียกว่าชาติ หรือรัฐชาติ ซึ่งนี้คือสิ่งที่สำคัญมากๆ ฉะนั้นถ้าไม่มีรัฐสมัยใหม่ ซึ่งเป็นรัฐชาติด้วย โอกาสจะเกิดเผด็จการนั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะชาติไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ดินแดนและกลไกของรัฐเท่านั้น แม้จะยึดดินแดน ยึดกลไกของรัฐได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าจะยึดชาติได้ เพราะชาติมีมากกว่าดินแดน และกลไกของรัฐ คือชาติมีสำนึกร่วมกันถึงอัตลักษณ์ของคนด้วย มีสำนึกของความคิดถึงอนาคตร่วมกันบางอย่าง ซึ่งรัฐเฉยๆ ไม่มี เพราะฉะนั้นเผด็จการที่แท้จริงจะต้องมีชาติอยู่ด้วยถ้าคุณยึดกุมได้แต่รัฐ คุณเป็นได้เพียงทรราช แต่ถ้าคุณยึดกุมชาติได้ด้วย เมื่อนั้นคุณจึงสามารถเป็นเผด็จการได้ ในขณะที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าความเป็นชาติของรัฐสมัยใหม่ทั้งหลายมันไม่เท่ากันการจะมีสำนึกความเป็นชาติร่วมกันได้ จะต้องยอมรับเสียก่อนว่า พลเมืองทุกคนเป็นเจ้าของรัฐอย่างเท่าเทียมกัน ถ้ายอมรับข้อนี้ไม่ได้ นั่นหมายความว่า มีเพียงแค่รัฐที่ไร้ชาติสำหรับชาติไทยนั้นมีพัฒนาการความเป็นชาติที่ช้ากว่าชาติอเมริกัน ชาติฝรั่งเศส แต่เรากำลังก้าวเดินสู่ความเป็นชาติเข้าไปเรื่อยๆ จนคนเริ่มมีสำนึกในความเป็นเจ้าของประเทศมากขึ้น จากแต่เดิมที่มีเพียงศูนย์กลางที่กรุงเทพ ข้าราชการ และชนชั้นนำของประเทศ ชาวนาเกษตรกรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและด้วยเหตุนี้ ผมมองว่าการรัฐประหารที่ผ่านมาในหลายๆ ครั้งของประเทศไทย จึงเป็นเพียงแค่การยึดรัฐ ไม่สามารถยึดชาติได้ จะมีก็เพียงสองครั้งคือ รัฐประหารปี49 และรัฐประหารครั้งล่าสุดปี57 ที่มีความพยายามจะยึดชาติด้วย และเมื่อใดก็ตามที่มีความพยายามจะยึดชาติ มันไม่ง่ายเหมือนการยึดดินแดนและกลไกของรัฐ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ เพียงแค่มีปืน มีอำนาจ จะยึดเมื่อไรก็สามารถยึดได้ แต่กับการยึดชาตินั้นเท่ากับว่าเป็นการยึดสำนึกของคน ต้องยึดความหวัง ยึดความฝันของคนด้วย ซึ่งมันไม่ง่าย และที่ผ่านมาในปี49 นั้นล้มเหลว เพราะไม่สามารถยึดชาติได้ แต่สำหรับปีนี้ เขาไม่ให้พูด ผมก็ไม่พูดสิ่งที่เผด็จการสมัยใหม่ใช้เป็นเครื่องมือนั้นมีอยู่สองสิ่ง คือความน่าสะพรึงกลัว กับอุดมการณ์บางอย่างที่ทำให้ความน่าสะพรึงกลัวเป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต้องทำงานควบคู่กันไป ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ความน่าสะพรึงกลัวเป็นเครื่องมือของการใช้อำนาจมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว พระเจ้าแผ่นดินในสมัยโบราณเวลาจะประหารคนนั้นไม่ได้มีวิธีการเอานักโทษเข้าไปฉีดยาแล้วปล่อยให้ตายในห้อง แต่เวลาจะประหารนักโทษท่านสั่งให้จับคนคนนั้นเข้าไปใส่ไว้ในตะกร้อแล้วให้ช้างเตะจนตาย ต่อหน้าคนหลายๆ คน ซึ่งนี่เป็นการสร้างความน่าสะพรึงกลัวในฐานที่ห้ามไม่ให้เกิดการละเมิดพระราชอำนาจ แต่กับเผด็จการในรัฐสมัยใหม่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นความน่าสะพรึงกลัวในรัฐสมัยใหม่นั้นเป็นการสร้างความน่าสะพรึงที่ไม่มีการแยกแยะ คือไม่ได้ใช้กับคนที่คิดจะล้มอำนาจเผด็จการเพียงอย่างเดียว แต่ใช้กับคนเล็กคนน้อยใช้ทั่วไปหมด เช่นคุณสวมเสื้อผิดสี คุณก็มีความผิด ซึ่งนี่เป็นความน่าสะพรึงกลัวที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของระบบเผด็จการสมัยใหม่ คือมีการทำร้าย ลงโทษคนอื่นทั่วไปหมดโดยไม่คำนึงว่าคนๆ นั้นเป็นศัตรูหรือไม่ ซึ่งในโซเวียตสมัยสตาลิน การลงโทษแบบไม่เลือกหน้าแบบนี้มีการทำกับพรรคพวกตัวเองด้วย ไม่ใช่เพราะพรรคพวกของตนจะหันกลับมาทำร้ายตัวเอง แต่ต้องทำเพราะให้ความน่าสะพรึงกลัวแพร่กระจายออกไป โดยทำให้คนรับรู้ว่าไม่มีทางรอดออกไปได้ง่ายๆในส่วนต่อมา การใช้ความน่าสะพรึงกลัวของเผด็จการในรัฐสมัยใหม่นั้นมีลักษณะที่เป็นการสร้างความน่าสะพรึงกลัวคือ ต้องมีการทำลายคนจำนวนมาก เช่นสิ่งที่นาซีกระทำกับชาวยิวและชนชาติอื่นๆ …ซึ่งมันเป็นการสูญเสียจำนวนมาก และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จได้เพราะประชากรมีน้อยเกินไป ฉะนั้นจึงเป็นได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้แล้วการทำร้ายคนเผด็จการจะไม่ทำร้ายคนๆ เดียว แต่จะทำร้ายเครือข่ายของคนๆ นั้นด้วย ให้เกิดความทุกข์อย่างแสนสาหัสมาก เช่นในประเทศชิลีและอาร์เจนตินา ซึ่งเคยมีการจับคนแล้วหายไปเลย โดยไม่มีใครรู้ว่าคนๆ หนึ่งหายไปไหน ซึ่งการที่หายไปเฉยๆ โดยไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หลังตายไปแล้ว ส่งผลให้คนที่เหลืออยู่ไม่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ความน่าสะพรึงกลัวอีกอย่างหนึ่ง คือมันทำให้เราไม่สามารถไว้ใจใครได้ กรณีเช่นนักไวโอลินฝีมือเอกของโลกที่ชื่อออย สตาร์ค ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลโซเวียตสมัยสตาลิน ร่วมกับเพื่อนที่เป็นนักเชลโล ชื่อรอส ทรอโพรวิชท์ วันแรกที่ทั้งสองคนไปถึงปารีสก็ได้เดินออกมาเที่ยวชมที่เมืองปารีส เมื่อมาถึงออย สตาร์ค ก็ได้สารภาพกับรอส ทรอโพรวิชท์ ว่าก่อนจะออกเดินทางมาปารีส ตนได้เขียนบทความโจมตีรอส ทรอโพรวิชท์ อย่างแหลกลาญเลย และในวันพรุ่งนี้บทความเหล่านั้นจะตีพิมพ์ แต่ทั้งสองคนก็เข้าใจกันว่าสตาลินต้องการที่จะให้ตัวรอส ทรอโพรวิชท์ออกนอกประเทศไป จึงได้สั่งให้นักดนตรีที่มีชื่อเสียงพอๆ กันเขียนบทความโจมตีรอส ทรอโพรวิชท์ สรุปก็คือความน่าสะพรึงกลัวนี้ มันกำลังทำใครคุณไม่สามารถไว้ใจใครได้ ให้คนรู้สึกถึงความอ่อนแอเมื่อรู้สึกขาดเครือข่ายโดยสิ้นเชิง อีกประการหนึ่งของความน่าสะพรึงกลัวของเผด็จการในโลกสมัยใหม่ คือมันทำให้คนไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ถูกเลย คนไม่สามารถคิดได้ว่าจะทำอะไรได้มากน้อยเพียงไหน ทำอะไรถึงจะถูกหรือทำอะไรถึงจะผิด สุดท้ายจึงส่งผลให้คนหลายๆ คนเซ็นเซอร์ตัวเองไปมากกว่าเส้นที่ผู้มีอำนาจได้ขีดไว้ และนี่คือประโยชน์ของความน่าสะพรึงกลัวของโลกสมัยใหม่ทั้งหมดนี้ทำได้อย่างไร โดยสรุปก็คือเผด็จการขุดเอากิเลสที่ฝังลึกในใจมนุษย์นั้นออกมา คือมนุษย์ทุกคนเห็นแก่ตัวกันหมด พอเราวางใจใครไม่ได้ เราก็เหลือแต่ความเป็นปัจเจกคนเดียว และนั่นทำให้เราอ่อนแอถึงที่สุดเพราะฉะนั้นความน่าสะพรึงกลัวของระบอบเผด็จการในรัฐสมัยใหม่จึงแตกต่างจากความน่าสะพรึงกลัวของโจร หรือความน่าสะพรึงกลัวของทรราช… แต่เผด็จการในรัฐสมัยใหม่ไม่ทำแบบนั้น เหตุผลสำคัญก็เพราะจุดมุ่งหมายของการสร้างความน่าสะพรึงกลัวก็คือ… Total Domination การยึดกุมคนจนสุดจิตสุดใจ หรือยอมจำนนอย่างสุดตัว…เหตุใดการสร้างความสะพรึงกลัวในลักษณะดังกล่าวจึงถูกยอมรับ เหตุผลสำคัญคือมันมีอุดมการณ์ และอุดมการณ์ของระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จทั้งหลายในโลกนั้น มันแตกต่างจากอุดมการณ์ของพวกทรราช คือพวกทรราชไหนก็ต้องมีอุดมการณ์ทั้งนั้น พระเจ้าปราสาททองยึดราชบัลลังก์จากลูกชายพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนหน้านั้นที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ แล้วท่านก็บอกว่า ไอ้นี้เป็นเด็กเล็กเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เล่นชนแพะชนทั้งวันแล้วบ้านเมืองจะไปได้ยังไง อุดมการณ์จะปล่อยให้ไปตกในมือเด็กเล็กๆ ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นกูยึดเองดีกว่า กูเป็นเอง นี้คืออุดมการณ์ รัชกาลที่1 ท่านก็บอกว่าจะขึ้นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา นี่ก็คืออุดมการณ์เหมือนกันแต่เผด็จการไม่ใช้อุดมการณ์แบบนี้ อุดมการณ์ของทรราชหรืออุดมการณ์ของเผด็จการที่มันไม่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ มันเป็นอุดมการณ์ที่จะกลับไปย้อนหาอดีต อดีตที่จริงหรือไม่จริง คือการพยายามรักษาสิ่งที่เชื่อว่าดีในอดีต มีระเบียบสังคมที่ดี สงบเรียบร้อยอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ดีในอดีต เผด็จการเพื่อรักษาสิ่งที่ดีในอดีตเอาไว้ แต่เผด็จการเบ็ดเสร็จไม่ใช่จะรักษาสิ่งที่ดีในอดีต แต่ต้องการสร้างสิ่งใหม่ให้แก่โลกปัจจุบันและอนาคต เช่น คอมมิวนิสต์ของโซเวียต ที่พยายามจะสร้างเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพ ซึ่งประวัติศาสตร์มันบังคับ บ่งบอกว่ายังไงก็ไม่มีทางหนีพ้น คนที่พยายามจะหนีจะถูกกงล้อของประวัติศาสตร์ทับตายฮิตเลอร์บอกว่ามันมีชนชั้นในทางชีววิทยา มีชนชั้นที่เป็นนาย ถึงยังไงชนชั้นนี้ก็เป็นนาย เผด็จการเบ็ดเสร็จต้องการสร้างคนชนิดใหม่ขึ้นมา ไม่ได้ต้องการรักษาคนดีเอาไว้ ต้องเป็นคนชนิดใหม่ถึงจะเหมาะสมที่จะอยู่ถึงโลกยุคใหม่ ในขณะที่เผด็จการทรราช เผด็จการธรรมดาจะพยายามกับไปรื้อระเบียบสังคมเก่าอยู่ตลอดเวลา อุดมการณ์ที่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จที่จะสร้างอนาคตใหม่ มันมีพลังมากเพราะมันควบคุมอดีตควบคุมปัจจุบันควบคุมอนาคตไว้ได้ ลองคิดถึงวิธีอธิบายการต่อสู้กันทางชนชั้น ซึ่งมันอธิบายไล่ย้อนกลับไปถึงอดีตพัฒนาเป็นปัจจุบันและอนาคต อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงเป็นอื่น เป็นสิ่งที่มีพลังมากแน่นอน เผด็จการที่ไม่ใช่เผด็จการแบบเบ็ดเสร็จไม่สามารถที่จะมีอุดมการณ์ระดับนี้ได้ ดังนั้นจึงต้องพยายามหันกลับไปยึดการรื้อฟื้นระเบียบเก่าของสังคม ระเบียบเก่าเหล่านี้ตัวเองก็ได้ประโยชน์หรือพรรคพวกตัวเองก็ได้ประโยชน์ เช่น ในแอฟริกา เผด็จการหลายแห่ง เป็นเรื่องของการต่อสู้ของชนเผ่าหลายๆ ชนเผ่า ชนเผ่าที่เคยครอบงำผลประโยชน์มากที่สุด คนในชนเผ่านี้บางคนเคยเป็นทหารและทำการยึดอำนาจได้ ชนเผ่านี้ก็พยายามยืนยันว่าจะกับไปสู่ระเบียบสังคมแบบเก่าที่มันมีความสงบสุขในลาตินอเมริกากองทัพร่วมมือกับพวกกระฎุมพีหรือกลุ่มคนชั้นกลางในเมืองเพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของกองทัพและรักษาชนชั้นกลางเอาไว้ ก็อ้างว่าเรากับไปสู่ระเบียบที่มันสงบเรียบร้อยเหมือนเดิม ในฟิลิปปินส์กองทัพร่วมมือกับเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ในประเทศเพื่อรักษาตัวระเบียบสังคมที่เชื่อว่ามันดีเผด็จการทั่วไปทำทุกอย่างที่เหมือนกับทรราชทำ คือพยายามหันกลับไปรื้อฟื้นระเบียบเหล่านี้ ซึ่งทำให้มันไม่แตกต่างกับทรราช เมื่อไรที่เราพูดถึงเผด็จการในปัจจุบัน ไม่นับฮิตเลอร์ สตาลิน เหมา เราจะนึกถึงเผด็จการที่มีลักษณะที่เป็นแบบทรราช ซึ่งเอื้อผลประโยชน์ของคนชนกลุ่มน้อย เพราะสังคมทุกสังคมในโลกมันเอื้อประโยชน์แก่ชนกลุ่มน้อยก่อนเสมอ ดังนั้นมันเป็นเผด็จการที่ตามทัศนะของผมเป็นเผด็จการที่ล้าสมัย พูดง่ายๆ คือโลกปัจจุบันไม่อนุญาตต่อเผด็จการธรรมดา แต่อาจจะอนุญาตเผด็จการแบบฮิตเลอร์ แต่เผด็จการที่ทำตัวเองเป็นทรราชเมื่อสองพันปีไปแล้วคงไม่ค่อยเอื้อเท่าไร อุดมการณ์อันเดียวที่เผด็จการทั่วไปทั้งหลายที่ไม่ใช่เผด็จการเบ็ดเสร็จมักจะทำ คือ ชาตินิยม ผมต้องเข้ามาเพื่อรักษาชาติเอาไว้ ซึ่งความเป็นชาติของเขาจะสอดคล้องกับการรื้อฟื้นระเบียบแบบเก่า เพราะว่าชาติของประเทศที่มีเผด็จการทั้งหลาย ไม่ว่าจะแอฟริกา เอเชีย ลาตินอเมริกา มันเป็นชาติที่สร้างระเบียบสังคม ชนิดที่เอื้อต่อผลประโยชน์ของกลุ่มคนจำนวนน้อยตลอดเวลา ฉะนั้นที่บอกคุณรักชาติก็คือการพยายามจะรักษาตัวระเบียบของสังคมเอาไว้ให้มันเหมือนเดิม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือพลังในชาติของโลกปัจจุบันมันอ่อนไปแล้ว มันถูกตีความได้หลายอย่าง รักชาติแบบมึง รักชาติแบบกู ฉะนั้นตัวชาตินิยมที่เฉยๆ มันจึงกลัวการไหลของข้อมูลข่าวสารที่เสรีเมื่อไรที่คุณยึดอำนาจกลายเป็นเผด็จการ คุณจะรู้สึกหวั่นไหวที่ข้อมูลข่าวสารจะหลั่งไหลอย่างอิสระจากที่ต่างๆ ในโลกเข้ามาข้างใน ถ้าบล็อคได้คุณก็บล็อค ถ้าบล็อคไม่ได้คุณก็หาทางแก้โดยวิธีต่างๆ อันนี้เป็นลักษณะที่เราพบอยู่ทั่วๆ ไป ในขณะเดียวกันคุณกลัวการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบของสังคมอย่าลืมว่าตามคำนิยาม ชาติคืออะไร ชาติก็คือสังคมนั่นเอง เพราะเราพูดถึงชาติคือ รัฐที่ยอมรับความเป็นเจ้าของประเทศที่ทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นเผด็จการจะกลัวการเคลื่อนไหวของสังคมทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เคลื่อนไหวในเชิงวิชาการ คุณจะรู้สึกหวั่นไหวในการเคลื่อนไหวในสังคมเพราะชาติที่คุณยึดได้มันไม่มีในตัวสังคมที่พูดถึง ขอกลับย้อนไปย้ำสิ่งที่พูดว่า ถ้าคุณยึดได้แต่เพียงรัฐ ยึดชาติไม่ได้ เมื่อไรที่ชาติมันเริ่มแสดงตัวขึ้นมาเมื่อนั้นคุณจะหวั่นไหวกับมันอย่างมากที่สุด ที่น่าสนใจคือคุณจะทำอย่างไรกับการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ก็ต้องปราบปรามด้วยความน่าสะพรึงกลัว เหมือนกับเผด็จการเบ็ดเสร็จใช้นั่นเอง แต่ความน่าสะพรึงกลัวที่ขาดอุดมการณ์รองรับ นอกจากที่ยกตัวอย่าง ฮิตเลอร์ สตาลิน เหมา มันทำให้เผด็จการมันกลายเป็นทรราชอีก อย่าลืมว่าความน่าสะพรึงกลัวที่ฮิตเลอร์ สตาลิน ใช้ เป็นความน่าสะพรึงกลัวที่ถูกรองรับด้วยอุดมการณ์ที่คิดถึงอนาคต ไม่ใช่การกลับไปรักษาอดีต และคนจำนวนหนึ่งที่จำนวนมากพอสมควรยอมรับกับการใช้ความน่าสะพรึงกลัว แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณใช้ความน่าสะพรึงกลัวเพื่อรักษาอำนาจของตนเอง คุณก็กลายมาเป็นทรราชอย่างเก่า ซึ่งมันไม่สามารถจะอยู่ได้ มันล้าสมัยไปแล้วในโลกปัจจุบันนี้ คุณก็ต้องหันไปหาความชอบธรรมอื่นๆ เช่น การสร้างประชาธิปไตยที่สมบรูณ์ การกำจัดคอรัปชั่น การรักษาความสงบเรียบร้อย การปฏิรูปการเมือง การรักษาสถาบันศาสนา การรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ อะไรก็ตามแต่เป็นความชอบธรรมทางการเมืองซึ่งเอามาทดแทนอุดมการณ์ ซึ่งถ้าอุดมการณ์ที่เป็นการรักษาอดีตแต่เพียงอย่างเดียว มันไม่มีพลังพอที่คุณจะใช้ความน่าสะพรึงกลัวอย่างเต็มได้พอมาถึงเรื่องของอนาคตของเผด็จการ ประเด็นแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือ เผด็จการที่พูดถึงเป็นเผด็จการทั่วไปไม่ใช่เผด็จการเบ็ดเสร็จประเด็นที่1 มีนักวิชาการชาวต่างชาติที่พูดถึงเรื่องของความงอกงามเติบโตของประชาธิปไตยในโลกสมัยใหม่ ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา และเหตุผลสำคัญคือโลกาภิวัตน์ รัฐในโลกปัจจุบันไม่ใช่รัฐแบบเก่าที่พร้อมจะปิดประเทศเพื่อที่จะอยู่คนเดียว มันเป็นรัฐที่ประเทศอื่นๆ เข้ามาแทรกวางนโยบายสาธารณะทั้งทางตรงและทางอ้อม ยกตัวอย่างเช่น รถไฟความเร็วสูง เราไปคิดเพียงแต่ว่าเปิดตลาดให้จีน ซึ่งจริงๆ แล้วตลาดจีนจะสามารถใช้ประโยชน์จากการผลิตในจีน ใช้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงได้เท่าไร ซึ่งยังไม่แน่ใจอาจจะแค่ขายราง ขายหัวจักรรถไฟ แต่ที่จริงรถไฟความเร็วสูงมันหมายถึงการขยายตัวของการบริโภค หรือสินค้าอื่นที่คนจำนวนมากและชนชั้นกลางจะเข้าถึงง่ายๆ เพราะฉะนั้นพอมีรถไฟความเร็วสูง จะมีคำถามขึ้นมาว่าสินค้าจะไหลไปจีนเพียงอย่างเดียวหรือจะมีสินค้าจากโลกข้างนอกที่เจริญกว่าจีน และไหลไปทางรถไฟเข้าไปสู่คนอีสาน เหนือ ใต้ ได้เร็วมากขึ้น จึงมีความหมายเป็นนโยบายสาธารณะของประเทศไทย แต่เป็นผลประโยชน์ทั้งของจีนและประเทศอื่นๆ ไม่ได้จำกัดเฉพาะประเทศไทยอย่างเดียวประเด็นที่2 ปัญหาความมั่นคงด้านนโยบายซึ่งเป็นเรื่องสำคัญกับประเทศมหาอำนาจ สมัยสงครามเย็นความมั่นคงด้านนโยบายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา แค่คุณวางนโยบายว่าจะต่อต้านคอมมิวนิสต์ ใครจะมาจากการเลือกตั้ง มาจากการยึดอำนาจรัฐประหารก็ได้ทั้งนั้น เพียงแค่มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ ในโลกปัจจุบันปัญหาความมั่นคงด้านนโยบาย มันมาจากการที่คุณต้องมีรัฐบาลทหารคอยกำกับให้เป็นนโยบายอย่างนั้นหรือเปล่า ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว ความมั่นคงด้านนโยบายกลับเกิดขึ้นจากการต่อต้านที่มีขีดจำกัด เช่น นโยบายที่มาจากการถกเถียงโต้แย้ง จนในที่สุดสามารถผ่านออกมาได้ แต่จะเป็นนโยบายที่มั่นคงกว่า นโยบายที่มาจากเผด็จการและสามารถวางนโยบายภายใน 3 เดือน ถ้าคิดว่ามหาอำนาจต้องการความมั่นคงทางด้านนโยบายของประเทศเล็กๆ ที่กล่าวมา ผมคิดว่าประชาชนเขาน่าจะพอใจกับระบอบประชาธิปไตยมากกว่า อันนี้ไม่เกี่ยวว่ามหาอำนาจเหล่านั้นเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตย จีนเองนี่อย่างที่ทุกท่านทราบอยู่แล้ว ประสบปัญหาการแปลงเปลี่ยน นโยบายในพม่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำเหมือง นโยบายพลังงาน หรือแม้แต่นโยบายทางการทหาร ซึ่งครั้งกองทัพพม่าซื้อแต่อาวุธจีนตลอดเวลา ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แต่เริ่มซื้ออาวุธฝรั่งบ้างเหมือนกัน เพราะฉะนั้นความมั่นคงด้านนโยบายจะมีความสำคัญต่อมหาอำนาจ ไม่ใช่ ฉะนั้นมหาอำนาจที่เป็นประชาธิปไตยแต่เพียงเท่านั้น แต่มหาอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยต่างก็ต้องการความมั่นคงทางนโยบายจากประเทศอื่นทั้งสิ้นประเด็นที่ 2 ที่ผมอย่างจะพูดถึงอนาคตของเผด็จการ คือผมคิดว่ารัฐชาติกำลังเปลี่ยนอาจจะไม่ถึงกับสลายลงไป แต่มันเปลี่ยนแน่ๆ เพราะรัฐชาติในทุกวันนี้คุณต้องอยู่กับองค์กรข้ามชาติระหว่างประเทศแยะมาก ไม่ว่าจะเป็น EU ไม่ว่าจะเป็นASEAN ไม่ว่าจะเป็นFTA ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามอีกร้อยแปดพันประการ องค์กรเหล่านี้ข้อตกลงขององค์เหล่านี้ข้ามอธิปไตยของปวงชนด้วย อย่างที่ทุกท่านทราบ เช่นเรื่องEU มันข้ามกฎหมายของทุกประเทศเลยที่เป็นสมาชิกของEU เพราะมันมีกฎหมายของมันเอง เพราะฉะนั้น…………………………………#########
30 นาทีกับปาฐกถานิธิก่อนถูกเชิญตัวไปสถานีตำรวจทั้งลูกศิษย์-อาจารย์ นิธิพูดถึงลักษณะของเผด็จการในแง่มุมที่น่าสนใจยิ่ง เสียดายที่ไม่มี อนาคตของเผด็จการ (บรรยายไม่จบ) เย็นวันที่ 18 ก.ย.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
นิธิ เอียวศรีวงศ์,ห้องเรียนประชาธิปไตย,เผด็จการ
https://prachatai.com/journal/2014/09/55641
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: 10 ปีแห่งยุครัฐประหาร
ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่นำประเทศไทยเข้าสู่ยุคแห่งการถอยหลังทางการเมืองครั้งสำคัญ และวิกฤตทางการเมืองที่เป็นผลจากการรัฐประหารยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบันย้อนหลังกลับไปพิจารณาการรัฐประหารเมื่อ พ.ศ. 2549 เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองอันเป็นผลจากชัยชนะในการเลือกตั้งของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อต้นปี พ.ศ. 2548 แต่การบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณได้สร้างความไม่พอใจให้แก่พลังอนุรักษ์นิยมในสังคมไทย ตั้งแต่กลุ่มข้าราชการระดับสูง กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนฝ่ายขวา และกลุ่มชนชั้นนำจารีตประเพณี นำมาสู่การสร้างกระแสต่อต้านที่เปิดฉากโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือข่ายหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ต่อมากลุ่มพลังฝ่ายอื่นๆก็เข้าร่วม เช่น กลุ่มสันติอโศก เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน สหภาพแรงงานกระแสหลัก เป็นต้น จัดตั้งเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีเป้าหมายการเคลื่อนไหวเพื่อการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลทักษิณ และตั้งความหวังว่าจะสามารถควบคุมทิศทางสังคมไทยในลักษณะที่ชนชั้นนำจารีตต้องการได้ที่น่าสนใจคือ ในระยะแรกฝ่ายกองทัพไม่ได้ตอบสนองข้อเรียกร้อง เพราะทราบดีว่าการรัฐประหารเป็นวิธีทางการเมืองอันล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับกระแสการเมืองสมัยใหม่ของโลกที่โน้มสู่ประชาธิปไตยมากขึ้น นอกจากนี้ยังวิตกเรื่องความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพราะมีประชาชนที่สนับสนุนฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำนวนมาก แต่กระนั้นกลุ่มชนชั้นนำจารีตได้พยายามอย่างหนักที่จะผลักดันไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพให้ทำการรัฐประหาร โดย พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพกองทัพภาคที่ 3 เป็นนายทหารคุมกำลังคนแรกสุดที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวให้มีการรัฐประหาร แต่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ตอบรับ จนกลางเดือนกันยายน พล.อ.สนธิจึงตัดสินใจทำรัฐประหาร โดย พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพกองทัพภาคที่ 1 ตอบรับเข้าร่วมเพียง 3 วันก่อนการยึดอำนาจการยึดอำนาจโดย พล.อ.สนธิเป็นหัวหน้าคณะเรียกชื่อว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) พล.อ.สนธิได้เล่าในระยะต่อมาว่า ยึดอำนาจเพราะคิดแค่ จัดการเปลี่ยนตัวผู้บริหารประเทศจากทักษิณ ชินวัตร มาเป็นคนอื่นประเทศก็จะสงบ จึงไม่มีการวางแผนและนโยบายดำเนินการล่วงหน้า เมื่อยึดอำนาจก็ต้องหาคำแถลงเหตุผลแห่งการรัฐประหารอย่างง่ายๆอธิบายกับสังคม 4 ข้อคือ การบริหารงานรัฐบาลทักษิณมีการคอร์รัปชัน สร้างความแตกแยกให้กับคนในประเทศ รัฐบาลแทรกแซงองค์กรอิสระ และมีพฤติกรรมเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังจากนั้นคณะทหารได้ให้นักกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ ยกเลิกรัฐธรรมนูญเดิม ประกาศใช้ธรรมนูญชั่วคราว ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ฯลฯ และให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อดำเนินการกับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และจัดให้มีการเลือกตั้งในประเทศที่มีรากฐานประชาธิปไตย ความขัดแย้งทางการเมืองถือเป็นเรื่องปรกติ การแก้ไขความขัดแย้งต้องใช้ระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนส่วนข้างมากเป็นผู้ตัดสิน แต่ประเทศไทยหลังรัฐประหาร พ.ศ. 2549 กลุ่มชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมไม่อาจยอมรับได้ เพราะเมื่อมีการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 พรรคเพื่อไทยซึ่งสืบทอดมาจากพรรคไทยรักไทยก็ยังชนะเลือกตั้ง ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ชนชั้นนำก็ต้องกลับมาใช้วิธีการเดิมคือ สร้างม็อบปิดเมืองเมื่อปลายปี พ.ศ. 2556 เพื่อปูทางการรัฐประหารครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 นำมาสู่ระบอบการเมืองเผด็จการเหลวไหลยิ่งกว่าเดิม ไร้เหตุผลยิ่งขึ้นกว่าเดิมถ้าย้อนกลับไปได้และไม่มีการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 สังคมไทยคงจะผ่านการเรียนรู้ทางการเมืองครั้งใหญ่และทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นต้นแบบของการแก้ปัญหาทางการเมือง การสังหารหมู่คนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ก็จะไม่เกิดขึ้น สังคมไทยจะแก้ไขความขัดแย้งได้ด้วยสันติ
ในที่สุดเวลาก็ผ่านไปถึง 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
10 ปีรัฐประหาร 2549,สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
https://prachatai.com/journal/2016/09/67922
กระแสวิจารณ์ภาพยนตร์จากนิยายดัง
แม้ได้ดาราดังแห่งยุค โรเบิร์ต เรดฟอร์ด นำแสดง พร้อมมือดัดแปลงบทหน้าใหม่อย่าง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา และอนาคตดีไซเนอร์ดัง ราล์ป ลอว์เรน ร่วมออกแบบชุดแต่งกาย แต่การดัดแปลง The Great Gatsby ผลงานวรรณกรรมชิ้นเยี่ยมของ เอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ เมื่อปี 1974 กลับถูกวิจารณ์ในแง่ลบว่าเน้นแต่ความอลังการของสังคมที่ฟุ้งเฟ้อในยุค 20 แต่ไม่สามารถถ่ายทอดคุณค่าที่อยู่ในวรรณกรรมไปสู่จอภาพยนตร์ได้ ซึ่งเป็นเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นกับ The Great Gatsby ทุกครั้งที่มีการดัดแปลงสู่จอใหญ่ เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นล่าสุดของผู้กำกับ บาซ เลอห์มานน์ แม้ปัจจุบันฮอลลีวูดจะประสบความสำเร็จกับรายได้ที่เกิดจากการดัดแปลงนิยายดังเป็นหนังใหญ่ แต่สิ่งที่ตรงข้ามกับเสียงวิจารณ์ที่ย่ำแย่ต่อคุณภาพหนังที่เทียบไม่ได้กับความสมบูรณ์แบบที่เคยอยู่ในวรรณกรรม เนื่องจากเนื้อหาที่ซับซ้อนในหนังสือยากเกินกว่าจะถ่ายทอดเป็นรูปธรรมได้ในภาพยนตร์ทอม เฮลเลอร์ จาก Everest Entertainment ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างหนังจากนิยายดังเช่น Precious 127 Hours และ Mud กล่าวว่าการเลือกตัวละครให้ใกล้เคียงกับคุณสมบัติในนิยายมากที่สุด เป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่ง แต่การยึดติดกับงานต้นฉบับเกินไป จะทำลายเสน่ห์ของตัวหนัง ขณะที่ ศาสตราจารย์เลน คาสซูโต้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีอังกฤษ ยกย่องหนังที่ใช้ความสามารถของนักแสดงมากกว่าการใช้ศิลปะพรรณนาที่เคยอยู่ในหนังสือ เช่นเรื่อง The Remains of the Day ที่ แอนโธนี ฮอปกินส์ ถ่ายทอดความขับข้องใจผ่านสีหน้า โดยไม่ต้องพึ่งการบรรยายเหมือนในหนังสือผู้สร้างหลายคนเลือกตัดทอนหัวใจสำคัญของเรื่อง เพื่อหลีกหนีการเปรียบเทียบกับต้นฉบับ เช่น The Grapes of Wrath หนังของ จอห์น ฟอร์ด ที่ลดเนื้อหาทางการเมืองและเปลี่ยนจุดจบของเรื่องให้เป็นหนังคาวบอยตะวันตกขึ้นหิ้ง และThe Natural หนังกีฬาเบสบอลที่เปลี่ยนตอนจบอันโศกเศร้าให้เป็นชัยชนะของตัวเอก รวมทั้งNo Country for Old Men ของพี่น้องโคเอน ที่ลดทอนฉากรุนแรงในเรื่อง และหันมาให้ความสำคัญการพัฒนาตัวละครในเรื่องจนคว้าออสการ์ได้เมื่อปี 2007ด้านคารอล โฮฟเนอร์ นักเขียนบทเบื้องหลังหนังดัง ชี้ว่าสิ่งที่เหมือนกันระหว่างหนังที่ประสบความสำเร็จจากการดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายดัง คือ การร่วมมือกันของทีมงานทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้เขียนบท ผู้คัดตัวนักแสดง ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้าง ที่จะทำให้ผลงานที่ออกมาประสบความสำเร็จตามความคาดหวังของผู้ชมมากที่สุด
ความสำเร็จทางรายได้ของหนังที่สร้างจากนิยายดัง ทำให้ผู้สร้างหลายคนหยิบนิยายดังมาทำหนัง แต่เกือบทุกเรื่องมักถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถสร้างผลงานเทียบเท่าคุณค่าที่อยู่ในวรรณกรรมได้
ศิลปะ-บันเทิง
ผลงาน,ภาพยนตร์,รายได้,วรรณกรรม,วิจารณ์
https://news.thaipbs.or.th/content/168547
นี่มันคืออะไร? แผงเหล็กปริศนาโผล่ ตกลงกั้นรถจักรยานยนต์ขึ้นฟุตปาท หรือ อะไร?
ปัญหารถจักรยานยนต์ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ฝ่าฝืนวิ่งบนทางเท้า มิหนำซ้ำ ในบางครั้ง ยังถึงขั้น ทั้งบีบแตร และตะโกนไล่ให้คนเดินบนทางเท้าหลบไปให้พ้นทาง จนทำชาวบ้านเอือมระอา ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่ หลายๆ หน่วยงานพยายาม หาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว บ้างก็เอาแผงเหล็กชนิดที่ยกได้มากั้นไว้ หรือไม่ก็ติดตั้งแท่งเหล็กเป็นช่องๆ,แต่ล่าสุดบริเวณหน้าสถาบันการบินพลเรือน เขตจตุจักร ได้ปรากฏแผงเหล็กสูงใหญ่สีเหลืองดำ มาติดตั้ง เพื่อป้องกันรถมอเตอร์ไซค์วิ่งขึ้นลงบนทางเท้า หากแต่แผงเหล็กดังกล่าว ได้สร้างความงวยงง ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจาก บริเวณช่องว่างตรงกลาง ที่เปิดให้คนได้เดินสัญจรไปมา มีใหญ่มากพอ ที่จะรถให้จักรยานยนต์ ผ่านไปได้เช่นกัน,จึงมีคำถามเกิดขึ้นจากคนที่พบเห็นว่า ตามมามากมายว่า แผงเหล็กดังกล่าว ถูกติดตั้งมา,เพื่อป้องกันรถจักรยานยนต์ จริงหรือไม่?,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ลงพื้นที่ไปดูให้เห็นกับตา พร้อมทั้งสอบถามความรู้สึกของผู้คนแถวนั้น ว่ารู้สึกอย่างไร หลังจากที่มีการติดตั้งแผงเหล็กนี้ขึ้นมา,โดย เจ้าหน้าที่ รปภ.หน้าสถาบันการบินพลเรือน กล่าวว่า ,แผงเหล็กนี้ถูกติดตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ค. 2561) โดยไม่ทราบว่าหน่วยงานไหนเป็นคนมาติด เท่าที่รู้คือติดเพื่อป้องกันไม่ให้รถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า เนื่องจากว่าตอนช่วงเช้าของทุกๆ วันจะมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งบนทางเท้าเยอะมาก อีกทั้งยังมีการบีบแตร่ไล่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับคนที่ใช้ทางเท้าเป็นอย่างมาก ,ส่วนประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น ให้ความเห็นกับทีมข่าวฯว่า ,การติดแผงเหล็กดังกล่าว ไม่น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขับขี่บนฟุตปาทได้ เนื่องจากช่องที่เปิดไว้ตรงกลางมีขนาดใหญ่พอที่รถมอเตอร์ไซค์จะขี่ผ่านไป ,แผงที่ติดไม่ได้สร้างความลำบากให้คนเดิน แต่คิดว่าน่าจะช่วยแก้ไขเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ได้แค่ระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าจะทำเพื่อกั้นมอเตอร์ไซค์จริงๆ ต้องทำให้แคบกว่านี้อีกนิดนึง คุณป้าที่อยู่บริเวณนั้นกล่าว ,ขณะที่บางส่วนเห็นด้วยกับการติดแผงเหล็กเพื่อป้องกั้นมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากบริเวณนั้นรถมอเตอร์ไซค์วิ่ผ่านกันเป็นจำนวนมาก เสี่ยงต่อการขับชนคนที่เดินบนทางเท้า การติดแผงนี้อาจทำให้มอเตอร์ไซค์ไม่กล้าขับขี่ขึ้นมาบนฟุตปาท,นอกจากนี้ประชาชนที่อยู่แถวนั้นยังแนะนำว่า หากจะทำเพื่อป้องกันรถมอไซต์ขับขี่บนฟุตปาท ควรจะปิดรูให้มีขนาดเล็กกว่านี้อีก และควรปรับระดับความสูงให้ต่ำลง เนื่องจากกลัวว่า เวลาที่คนข้างในสถาบันขับรถออกมาจะมองไม่เห็นรถทางฝั่งขวาที่วิ่งมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้,อย่างไรก็ดี เมื่อ ทีมข่าวฯ สอบถามข้อเท็จจริงกับ นายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กลับได้รับคำตอบว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตจตุจักร ไม่ได้เป็นคนไปติดแผงเหล็กดังกล่าว ,แต่เป็นทางสถาบันการบินพลเรือน ที่ขอติดตั้งเอง โดยให้เหตุผลว่า บริเวณนั้น มีรถมอเตอร์ไซค์ วิ่งบนฟุตปาทค่อนข้างเยอะ จนเกรงว่า อาจทำให้ประชาชนที่เดินอยู่ได้รับอันตราย,แต่อย่างไรก็ดี การตั้งแผงเหล็กดังกล่าว นั้น ทางสำนักงานเขตจตุจักร ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้มีการติดตั้งแต่อย่างใดๆ ทั้งสิ้น และได้ร้องขอให้มีการรื้อถอนออกแล้วด้วย  , นายปกครอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวทิ้งท้าย
แผงเหล็กปริศนาโผล่ หน้าสถาบันการบินพลเรือน ชาวบ้านสุดแปลกใจ ตกลง เอาใช้กั้นรถจักรยานยนต์วิ่งบนฟุตปาทใช่หรือไม่?
ข่าว
แผงเหล็ก,ทางเท้า,รถจักรยานยนต์,สถาบันการบินพลเรือน,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/1341003
แฟนบอลสวาทแคท แห่ซื้อตั๋วบิ๊กแมตช์ โคราช-บุรีรัมย์
วันที่ 9 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่จะใช้เป็นสนามแข่ง ฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 นัดที่ 14 ระหว่างทีมเจ้าบ้าน สวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมเยือน ที่มีศักดิ์ศรีเป็นถึงแชมป์เก่า ในวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 19.00 น. โดยเจ้าหน้าที่สนามเปิดขายบัตรเข้าชมการแข่งขันเป็นวันแรก ,สำหรับบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการเปิดจำหน่าย แฟนบอลทีม สวาทแคท ทยอยมาซื้อบัตรกันอย่างต่อเนื่อง จากการสังเกตพบว่า แฟนบอลแต่ละคนจะซื้อเฉลี่ยตกคนละ 20-50 ใบ,จากการสอบถาม นายปรีดา สาละลัย แฟนบอลสวาทแคท กล่าวว่า ได้มาซื้อบัตรก่อนล่วงหน้า เนื่องจากเกรงว่าบัตรคู่นี้จะหมดลงก่อน กำหนด จึงรีบมาซื้อที่สนามก่อน วันนี้ซื้อจำนวน 40 ใบ เนื่องจากมีเพื่อนๆ และคนในครอบครัวฝากซื้อด้วย จึงรีบมาซื้อเพื่อความสะดวก ไม่ต้องมารอต่อแถวซื้อเหมือนกับการแข่งขันที่ผ่านมา,ด้าน นายอุทัย มิ่งขวัญ ประธานสโมสร เปิดเผยว่า ทางสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มีการเปิดจำหน่ายบัตรให้กับแฟนบอลตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้เป็นต้นไป จนถึงเช้าวันแข่ง วันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ซึ่งคาดว่า ตั๋วเข้าชมเกมดาร์บี้แมตช์อีสานคู่นี้ จะหมดเกลี้ยงก่อนที่เกมจะเริ่มแน่นอน และคาดว่าจะมีแฟนบอลเข้ามาชมการแข่งขันเต็มความจุของสนาม ซึ่งสามารถจุแฟนบอลได้ถึง 22,200 ที่นั่ง โดยอัตราส่วนจะเป็นที่นั่งให้กับกองเชียร์ทีมเยือน ที่จะเข้าชมการแข่งขันในนัดนี้ ประมาณ 2,200 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือจะเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมด,อย่างไรก็ตาม ส่วนของการรักษาความปลอดภัยในการแข่งขันฟุตบอลในนัดนี้ มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมาก จึงคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาความรุนแรงแน่นอน เพราะแฟนบอลทั้ง 2 ทีม มีความเป็นมืออาชีพ และมั่นใจว่าเกมในวันเสาร์นี้จะดุเดือดแน่นอน
คึกคักก่อนแข่ง! แฟนบอล สวาทแคท ต่อแถวยาวเพื่อรอซื้อตั๋วเข้าชมเกมบิ๊กแมตช์ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 11 ก.ค. นี้ ระหว่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า
null
โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก,ไทยพรีเมียร์ลีก,ฟุตบอลไทย,สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา,แฟนบอลโคราช,สวาทแคท,ปราสาทสายฟ้า,นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/510525
จัดนิทรรศการ คิดถึงสมเด็จย่า น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, หรือ, สมเด็จย่า, ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยทรงงานด้วยสองพระหัตถ์สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความสุขให้ปวงชนชาวไทยตลอดพระชนม์ชีพ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพในปี 2562 นี้ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดนิทรรศการ ,คิดถึง สมเด็จย่า, ครั้งที่ 22 ภายใต้คอนเซปต์, มือที่สร้าง งานที่สรรค์, ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์ การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 ต.ค.,โอกาสนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ 26 ต.ค. เวลา 17.30 น.,การจัดงานครั้งนี้ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เลขาธิการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในความทรงจำของพสกนิกรไทยทุกคนต่างซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขให้กับผืนแผ่นดินอย่างมากมาย ทั้งสองพระหัตถ์ทรงงานอย่างหนักด้วยความห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎรไทยอยู่เสมอ เสมือนดั่งมือที่คอยช่วยเหลืออุ้มชู ประคองให้สามารถพลิกฟื้นผืนดินให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนสามารถเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน สำหรับนิทรรศการครั้งนี้นอกเหนือจากการนำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันของผืนแผ่นดินในภาคเหนือและดอยตุงแล้ว ยังเชิญศิลปินช่างภาพถ่ายรูปมือของคนทำงานที่ดอยตุง เช่น คนปลูกกาแฟ คนคั่วกาแฟ คนทำกระดาษสา คนปั้นดิน คนปลูกดอกไม้ คนทำสวน คนทอผ้า และปักผ้า โดยไม่เน้นหน้าของคนทำงาน แต่เน้นที่มือ สื่อให้เห็นว่าจากมือของสมเด็จย่าที่ช่วยเหลือประชาชน และใช้มือนี้สานต่องานที่พระองค์ท่านได้เริ่มไว้ สร้างสรรค์เป็นงานและอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน,ด้าน ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมเด็จย่ามีพระราชปณิธานที่จะสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้านให้ชุมชนดอยตุง ซึ่งในอดีตขาดต้นทุนชีวิต จึงต้องพึ่งพายาเสพติดและงานผิดกฎหมายในการ ดำรงชีวิต ทรงเล็งเห็นว่ารากเหง้าของปัญหาเหล่านี้ คือ ความยากจน และขาดโอกาส จึงแก้ไขปัญหาพื้นฐานอย่างรอบด้าน ทั้ง, ความเจ็บป่วย ความยากจนและ ความไม่รู้, โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่สมดุลกับความมั่นคงทางสังคมและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดยใช้ธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้แบรนด์ ดอยตุง (DoiTung) เป็นกลไกหลักในการดำเนินงานและกรอบแนวคิดการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และที่สำคัญมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ยังใช้ศักยภาพที่มีส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจเพื่อสังคมอื่นๆในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จย่า อีกทางหนึ่ง,สำหรับนิทรรศการ ,คิดถึง สมเด็จย่า ครั้งที่ 22, จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ ,มือที่สร้าง งานที่สรรค์, นำเสนอพระ ราชประวัติและพระราชกรณียกิจแล้ว ภายในงานยังมีภาพถ่ายเล่าเรื่องราวของดอยตุงด้วยคอนเซปต์ มือที่สร้าง งานที่สรรค์ ผ่านมุมมองของ 2 ศิลปิน ได้แก่ กันต์ สุสังกรกาญจน์ และวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ และมีกิจกรรมเวิร์กช็อป พร้อมด้วยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพแบรนด์ดอยตุงด้วย.
ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยทรงงานด้วยสองพระหัตถ์สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความสุขให้ปวงชนชาวไทยตลอดพระชนม์ชีพ
ข่าว,พระราชสำนัก
คิดถึง... สมเด็จย่า,สมเด็จย่า,สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี,นิทรรศการ สมเด็จย่า
https://www.thairath.co.th/news/royal/1687616
อดีตครูอุดรฯ เชื่อพระบารมี ทำพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ร.9 ไม่ไหม้ไฟ
วันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 6 บ้านเดื่อ 1 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พบนายวัฒนา วิจารณรงค์ อายุ 64 ปี และนางกองมณี วิจารณรงค์ อายุ 74 ปี สามีภรรยา หลังทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ไฟไหม้บ้านสองชั้นไม้ครึ่งปูนหมดทั้งหลัง แต่เกิดสิ่งอัศจรรย์ คือ พระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพระผนวช ที่แขวนติดไว้ผนังห้องโถงชั้นล่างกลับไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงรอยไหม้เล็กน้อยบริเวณขอบกรอบพระฉายาลักษณ์ เท่านั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา,นายวัฒนา นำพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 มาโชว์ พร้อมกับเล่าว่า ตนเคยรับราชการครู ตำแหน่งรอง ผอ.โรงเรียนบ้านนายาด ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน มีลูกชาย 1 คน แต่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ต้องอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ตนและภรรยาชอบสะสมเหรียญ และธนบัตรเก่า อีกทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ติดไว้ผนังห้องโถง เพื่อกราบไว้ เพราะตนเป็นข้าราชการของพระราชา มีความเคารพ เทิดทูนในหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ตลอดเวลา,ก่อนเกิดเหตุ เย็นวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 มีเกิดพายุฤดูร้อนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และฝนตกอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับ ตนและภรรยาได้หลบฝนอยู่ข้างบ้าน เพราะในบริเวณเดียวกันมีบ้านเรือนไทย ที่ตนสร้างไว้อยู่ใกล้ กระทั่งเวลา 19.00 น. ฝนหยุดตก และไฟฟ้าตามบ้านเริ่มติด แต่ไฟฟ้าภายในบ้านของตนไม่ติด และยังมีกลิ่นเหม็นไหม้และเสียงปะทุคล้ายค้อนทุบ บริเวณต้นเสาห้องโถงชั้นล่าง เมื่อตนวิ่งเข้าไปดูก็เห็นไฟลุกไหม้ บริเวณสายไฟฟ้า และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เพราะยังมีลมกระโชกตลอด ตนและภรรยาตกใจทำอะไรไม่ถูก ญาติที่มีบ้านอยู่ใกล้กันได้มาช่วยขนเอาทรัพย์สินออกจากบ้าน และแจ้งรถดับเพลิง มาช่วยฉีดน้ำดับไฟ แต่ไฟได้ไหม้บ้านเสียหายหมดทั้งหลังแล้ว,หลังจากเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับไฟจนมอดสนิทแล้ว ตนได้เข้ามาสำรวจดูสิ่งของภายในบ้าน ก็พบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งทรงพระผนวช ทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ติดไว้ผนังห้องโถง ซึ่งกลุ่มครูมอบให้เป็นของที่ระลึกในวันเกษียณอายุราชการ ไม่ได้รับความเสียหายจากกองเพลิงแต่อย่างใด มีเพียงบริเวณขอบรูปที่มีรอยไฟลามเลียเล็กน้อย พร้อมกับธนบัตรที่เก็บสะสม อัดกรอบไว้ ตนจึงยกมือไหว้เหนือหัวสาธุบารมีในหลวงทรงคุ้มครอง แล้วนำออกให้ภรรยาและญาติดูซึ่งต่างรู้สึกแปลกใจ ส่วนตนคิดว่า คงเพราะด้วยบุญญาธิการ ส่วนเงินเหรียญสะสมไว้ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่สามารถนำมาขัดล้างทำความสะอาดได้,ตั้งแต่จำความได้ พ่อแม่สอนไว้ว่า ในหลวง คือ สมมติเทพ หรือเทวดามาเกิด คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ในหลวงหรือราชวงศ์เสด็จฯ อุดรธานี เปรียบเสมือนช้างเหยียบนาพญาเหยียบเมือง แม้แดดเปรี้ยงยังบด เมื่อครั้งมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ตนจะกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงตลอด เพื่อขอบารมีทรงปกป้องคุ้มครอง,ตนก็ได้รื้อบ้านที่ถูกไฟไหม้ลงทั้งหมด และสร้างบ้านใหม่แทนหลังเก่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เพราะสะดวกต่อผู้สูงอายุเช่น ตนและภรรยา หลังจากทราบข่าวว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ตนและภรรยารู้สึกใจหาย เหมือนประเทศชาติขาดร่มโพธิ์ร่มโทร ซึ่งตนขอปฏิญาณตนว่า ได้น้อมนำเอาคำสั่งสอน และนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำรงชีวิต และสอนลูกหลานให้เป็นคนดีตลอดไป
อดีตรอง ผอ.โรงเรียนอุดรธานี เล่าถึงปาฏิหาริย์ เชื่อเป็นพระบารมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงที่ไม่ไหม้ไฟ
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระราชกรณียกิจ,พระราชประวัติ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระบรมฉายาลักษณ์,พระบรมสาทิสลักษณ์,พระบรมมหาราชวัง,สนามหลวง,อดีตรอง ผอ.,อดีตครูอุดรธานี,พระบารมี,ปาฏิหาริย์,ไฟไหม้,ไฟไม่ไหม้
https://www.thairath.co.th/content/767996
เลขาฯ สมช.หารือพูดคุยสร้างสันติภาพชายแดนใต้รอบ 3
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสถาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า กรอบการพูดคุยยังใช้โรดแมปที่มาจากหน่วยความมั่นคง และการสอบถามภาคประชาชนในพื้นที่ โดยการพูดคุยในวันนี้จะมีการสืบสภาพว่า 1 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มใดก่อเหตุความรุนแรง เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน หากไม่ใช่กลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะคุยกับกลุ่มอื่นตามแนวคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ส่วนจะมีการเลื่อนกำหนดพูดคุยในครั้งต่อไปหรือไม่จะต้องรอดูผลการพูดคุยในรอบที่ 3 ก่อน รวมถึงดูว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นจะสั่งการลดเหตุความรุนแรงได้หรือไม่ส่วนข้อเสนอ 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะเรื่องการปลดปล่อยชาวปาตานีนั้น เลขาธิการ สมช. ระบุว่า ขณะนี้ยังมีการแปลนัยยะไม่ตรงกันว่าจะหมายถึงการแบ่งแยกดินแดนหรือไม่ รวมถึงข้อเสนอของนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เสนอแนะเรื่องพื้นที่เขตปกครองพิเศษ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าจะต้องมีสืบสภาพในเวทีพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ โดยที่จะแยกเป็นรัฐปกครองไม่ได้ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่มองว่า อยากให้มีการปกครองท้องถิ่นแบบสร้างสันติสุข ดังนั้นจะต้องมีการพูดคุยในพื้นที่อีกครั้งขณะที่ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ต้องการให้โอไอซี และเอ็นจีโอเข้ามาร่วม สร้างสันติภาพในเรื่องนี้ก็ต้องมีการสอบถามว่าต้องการสื่อความหมายหมายเช่นไร ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ ทางไทยมีการเตรียมรายชื่อผู้มีหมายจับความคดีความมั่นคงจำนวนหนึ่งเพื่อพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นด้วย ว่าจะสามารถปล่อยตัวใครได้บ้าง แต่ไม่ขอเปิดเผยสอดคล้องกับคำยืนยันของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะประเมินการพูดคุยในวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่จะกำหนดท่าทีของรัฐบาลอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็เปิดเผยถึงกรอบของการพูดคุย 3 ประเด็น คือความไม่เป็นธรรมที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอ้างถึง การออกหมายจับโดยไม่เป็นธรรม และข้อเรียกร้องในการยกเลิก พระราชกำหนดฉุกเฉินในแต่ละพื้นที่ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากการพูดคุยรอบ 3 ความรุนแรงจะลดลง เพราะต้องใช้เวลาแก้ไข สิ่งสำคัญสำหรับการพูดคุยเจรจาคือความเข้าใจ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ต้องมองในภาพรวม และการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 13 มิถุนายน ได้กำชับกับทีมเจรจาว่า พูดคุยกับบีอาร์เอ็นหยุดก่อเหตุความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน หากยังไม่หยุดคงต้องใช้การปฏิบัติการทางทหาร เพื่อดูแลประชาชนให้ปลอดภัยมากที่สุด
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยืนยันความพร้อมในการพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นรอบที่ 3 ที่ประเทศมาเลเซียในวันที่ 13 มิถุนายน โดยกรอบการพูดคุยจะเน้นการลดความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงพูดคุยข้อเสนอ 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ยื่นมาก่อนหน้านี้
การเมือง
ชายแดนใต้,พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร,ภาคใต้,สถานการณ์ใต้,สภาความมั่นคงแห่งชาติ,โรดแมป
https://news.thaipbs.or.th/content/176508
ผู้สนับสนุน ปธน.มูร์ซีในอิยิปต์กล่าวหาฝ่ายกองทัพ อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิง
กองทัพอียิปต์เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี พยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการขว้างปาก้อนหินใส่ การปะทะระหว่างกองทัพกับกลุ่มผู้สนับสนุนนายมูร์ซีร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน บาดเจ็บมากกว่า 400 คน ถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมากที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงขับไล่นายมูร์ซีเมื่อเดือนที่แล้วนอกจากนี้ยังมีคลิปภาพที่เผยแพร่ในเว็บไซท์ยูทูบ แสดงให้เห็นว่ามีคนที่อยู่บนดาดฟ้าซึ่งแต่งกายคล้ายทหาร เล็งปืนไรเฟิลมายังกลุ่มคนที่อยู่บนถนนและยิงปืน 5 นัด โดยการกราดยิงใส่ผู้ชุมนุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถระบุได้ว่าฝ่ายใดเป็นคนลงมือฝ่ายสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีกล่าวหากองทัพว่าเป็นฝ่ายลงมือ ทั้งๆที่ผู้ชุมนุมไม่ได้กระทำการใดๆที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และในช่วงเกิดเหตุผู้ชุมนุมเพิ่งเสร็จสิ้นการทำละหมาดในรอบเช้า ในขณะที่กองทัพอ้างว่ามีมือปืนสังหารเจ้าหน้าที่และตำรวจเสียชีวิตรวม 3 นาย ทำให้กองทัพต้องตอบโต้เพื่อปกป้องสำนักงานใหญ่กองกำลังพิทักษ์สาธารณรัฐจากการถูกโจมตี ซึ่งผู้ชุมนุมเชื่อว่านายมูร์ซีถูกควบคุมตัวอยู่ด้านใน ด้านนายอั๊ดลี มันซูร์ รักษาการณ์ประธานาธิบดีได้ประกาศกฤษฎีกาจัดการเลือกตั้่งสมาชิกสภาชุดใหม่ภายในปีหน้า แต่ยังไม่กำหนดวันที่แน่ชัดด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในอียิปต์ที่ทวีความรุนแรง โดยเรียกร้องให้ฝ่ายที่ดูแลเรื่องการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ หลีกเลี่ยงการแก้แค้นการจับกุมและปิดกั้นการรายงานข่าวของสื่อมวลชน ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯยังไม่เคยใช้คำว่าปฏิวัติ กับการยึดอำนาจในอียิปต์ ดังนั้นท่าทีของสหรัฐฯจึงยังไม่แน่ชัดว่าจะระงับความช่วยเหลือที่ให้กับอียิปต์หรือไม่
เหตุกราดยิงกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอียิปต์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าฝ่ายใดเป็นผู้สังหารประชาชน และมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ภาพเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ
ต่างประเทศ
กราดยิง,กองทัพ,ประชาชน,ประท้วง,ประธานาธิบดี,รัฐบาล,สนับสนุน,อิยิปต์,โมฮัมเหม็ด มูร์ซี่
https://news.thaipbs.or.th/content/182815
ยิงตัดขั้วหัวใจ รองสารวัตรหนองขาม เข้าระงับเหตุหนุ่มเมา ควงปืนโชว์กร่าง
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 พ.ต.ท.สมพงษ์ อดิวงษ์ธาดา พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณซอยหอพักต่อศักดิ์บ้านเลขที่ 207/275 ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา ,ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำ เป็นบ้าน 2 ชั้น สีชมพู ที่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านพบ ร.ต.อ.อิสระพงษ์ กูลจินดา รอง สวป.สภ.หนองขาม ถูกยิงที่สะบักหลังขวา นอนจมกองเลือดอยู่ ใกล้กันพบนายศุภสิทธิ์ หม่องเลี้ยง อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา สภ.หนองขาม ถูกยิงที่บริเวณหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน แต่ ร.ต.อ.อิสระพงษ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากกระสุนตัดขั้วหัวใจ,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ระดมกำลังล้อมจับกุมคนร้าย ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน จากการสอบสวน ทราบชื่อคนร้าย คือ นายนิรุต จิตหมั่น อายุ 39 ปี ซึ่งมีอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ,จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบ ปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ปลอก รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสกู๊ปปี้ไอ สีแดง หมายเลขทะเบียน 31-5261 สภ.ศรีราชา รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อด้า cbp หมายเลขทะเบียน 62780 และเลข 62782 จำนวน 2 คัน,สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายกำลังดื่มสุราอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่จะเอาอาวุธออกมาโชว์กร่างใส่ชาวบ้าน จนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างหวาดระแวง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ คนร้ายก็ได้ถืออาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก วิ่งหลบหนีขึ้นบริเวณห้องนอน ชั้น 2 หลังจากนั้น ร.ต.อ.อิสระพงษ์ และนายศุภสิทธิ์ ก็ได้เดินเข้าไปตรวจสอบคนร้ายภายในบ้าน จนทั้งคู่ถูกคนร้ายยิงสวนออกมา ตำรวจอาสาบาดเจ็บสาหัส ส่วน ร.ต.อ.อิสระพงษ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้ายรายนี้ ไปสอบสวน พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
รอง สวป. สภ.หนองขาม ถูกยิงตัดขั้วหัวใจดับ ขณะเข้าระงับเหตุหนุ่มเมา ควงปืนโชว์กร่าง จนเพื่อนบ้านผวา ส่วนตำรวจอาสา ถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อน ตร. นำกำลังล้อมจับไว้ได้
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงตำรวจ,ระงับเหตุ,กระสุนตัดขั้วหัวใจ,รอง สวป.สภ.หนองขาม,ตำรวจอาสา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1197335
ทนายสงกานต์ เผยคลิปหลักฐานเด็ด คดีน้องปอนด์ เชื่อปมทำร้ายผิดตัว
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ญาติของ นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ น้องปอนด์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายและใช้ไขควงแทงที่ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หอพักแห่งหนึ่ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่วานนี้ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยมารดาและญาติน้องปอนด์ จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ช่วยการคุ้มครองเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล และขอให้โอนคดีการสืบสวนมายังกองบังคับการปราบปราม,ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือน้องปอนด์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายและใช้ไขควงแทงที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หอพักแห่งหนึ่ง และเสียชีวิต หลังจากวานนี้ได้มีการโอนคดีมาที่กองปราบปราม ว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานมอบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยหนึ่งในนั้นเป็นหลักฐานจากกลุ่มผู้ต้องหาด้วยกันเอง เป็นคลิปเสียงบันทึกคำสนทนาระหว่างกลุ่มผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุ มีความยาว 30 นาที เนื้อหาใจความในคลิปนั้นเป็นการพูดคุยกัน จับใจความได้ว่า ไม่น่าทำรุนแรงแบบนี้ แต่หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุบอกว่าก็ทำไปแล้ว,ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานและผู้เสียหายเพิ่มเติม ในรายละเอียดบางประเด็นที่พยานยังไม่ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากไม่กล้า รวมทั้งได้สอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นลูกตำรวจ โดยเบื้องต้นเจ้าตัวยังปฏิเสธ แต่มีพยานยืนยันว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวร่วมก่อเหตุด้วย เนื่องจากขณะก่อเหตุบางขณะไฟในห้องได้เปิดขึ้น ทำให้พยานจำใบหน้าได้,ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวอีกว่า ญาติของผู้เสียหายนั้นเกรงว่าจะมีการข่มขู่ญาติและพยาน จึงเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งลูก นักการเมือง และคนมีสี ประกอบกับผู้ก่อเหตุล้วนเป็นคนในพื้นที่ ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายเป็นคนภาคใต้ นอกพื้นที่ เกรงว่าหากคดีอยู่ในพื้นที่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม,ทั้งนี้ยังได้ข้อมูลอีกว่า หลังเกิดเหตุ มีการเข้ามาข่มขู่ครอบครัวและพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกด้วย โดยทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า หลังจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ปราบปรามผู้มีอิทธิพลอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีพยานที่น่าจะเป็นประโยชน์อีก 3-4 ปาก ที่ตนเองจะพามาพบพนักงานสอบสวน,อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้เกี่ยวข้องในคดีมีมากกว่า 20 คน ซึ่งตามพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีน่าจะเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้ และสาเหตุนั้นจากหลักฐานที่มีเชื่อว่าประเด็นชู้สาวเพียงหน่อยเดียวเท่านั้น สาเหตุหลักน่าจะมาจากการเอาคืนหรือทำร้ายผิดตัว โดยในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม นี้ ญาติจะเคลื่อนย้ายศพมาให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าทางคดี,ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นญาติผู้เสียชีวิตเกิดความกังวลและไม่สบายใจ กลัวอีกฝ่ายข่มขู่เอาชีวิต จึงร้องขอให้ตนโอนคดีจาก สภ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มาที่กองปราบปราม ซึ่งได้สั่งโอนย้ายคดีดังกล่าวแล้ว โดยให้ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม รับไปดำเนินการสอบสวนต่อ ส่วนนายอธิบดี กุญแจทอง 1 ใน 16 ผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับ ที่เดินทางมามอบตัว ล่าสุดตำรวจได้ควบคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาไปแล้ว,ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวตั้งข้อสงสัยถึงการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้งหมดสามารถกระทำได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมด มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ทั้งที่ยังไม่ออกหมายเรียกหรือมีหมายจับ เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ป.วิอาญา ได้มอบอำนาจให้พนักงานสอบสวนสามารถพิจารณาปล่อยตัวได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ใดๆ อย่างไรก็ตาม มองว่าคดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อน และมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน,ขณะที่ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการโอนสำนวนคดีจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มายังกองปราบปราม เบื้องต้นจากการสอบถามผบช.ภ.7 ทราบว่ายังไม่ได้รับหนังสือคำสั่งให้โอนคดีอย่างเป็นทางการ จึงต้องรอหนังสือคำสั่งดังกล่าวเสียก่อน โดยหากสำนวนถูกโอนถึงกองปราบปรามแล้ว ตนจะมอบหมาย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบคดี ซึ่งจะต้องอ่านรายละเอียดสำนวนทั้งหมด และหากติดใจสงสัย ก็จะเรียกกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง โดยยืนยันว่า ไม่มีการเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด มาสอบปากคำในวันนี้ เนื่องจากต้องรอสำนวนคดีก่อน,** ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,คลิกที่นี่, **
ศรีวราห์ เร่งเครื่องสั่งโอนคดีน้องปอนด์มากองปราบ รอส่งสำนวนจากภาค 7 ด้าน ทนายสงกานต์ เผยหลักฐานเด็ด คลิปสนทนากลุ่มคนร้าย เชื่อประเด็นเอาคืน-ทำร้ายผิดตัว
null
รุมฆ่านศ.ม.ศิลปากร,น้องปอนด์,กองปราบ,หลักฐานเด็ด,ธีระพงษ์ ฐิตะฐาน
https://www.thairath.co.th/content/879470
เรื่องเล่าความสำเร็จ : 100 เดียวเท่าแผ่นผี ไอฟลิกซ์ ลุยขายหนังออนไลน์
เปิดตัวเข้าสู่ธุรกิจบริการดูหนังและซีรีส์ออนไลน์ในเมืองไทยได้ไม่นาน แต่สามารถสร้างสีสันและได้ผลตอบรับดีทีเดียว ชนิดที่คอหนังสายแผ่นผีซีดีเถื่อนและขาโหลดบิทยังต้องแอบปันใจ แฟนคลับซีรีส์ดังต้องลอง,วันนี้ ,ไทยรัฐออนไลน์, จะพาไปแกะรอยเส้นทางธุรกิจของ ไอฟลิกซ์ จากการพูดคุยแบบเป็นกันเองกับ ,อาทิมา สุรพงษ์ชัย ,อดีตวิศวกรไฟฟ้า ที่ปัจจุบันทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ,ก่อกำเนิดไอฟลิกซ์,ไอเดียแรกมาจากฮอลลีวูดคือ บริษัท เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวูด โดยมองมาที่ตลาดเอเชียที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูง แต่ทำไมไม่มีบริการรูปแบบนี้ จึงอยากให้มีบริการที่ดีพอและถูกพอ เชื่อว่า จะทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม เหมือนกับเกิดขึ้นในตลาดเพลงก่อนหน้านี้ คราวนี้ เมื่อมองมาในภูมิภาคใครจะพอช่วยกันทำให้เกิดได้จนพบกับแคทชา กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทลงทุนที่มีชื่อเสียงในการสร้างธุรกิจออนไลน์รุ่นใหม่ และประสบความสำเร็จ,ไอเดียดังกล่าว คือ บริการดูหนังและซีรีส์ออนไลน์ โดยเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 18 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มีลูกค้าทั้งหมดประมาณ 1,500,000 ราย,2 หน้าที่หลักของไอฟลิกซ์ในไทย,ไอฟลิกซ์ในประเทศไทยมีหน้าที่หลักๆ 2 อย่าง คือ 1. ปรับปรุงปรับเปลี่ยนสินค้าคือ หนัง ซีรีส์และคอนเทนต์ให้เข้ากับตลาดไทย ตรงนี้ คือรวมทั้งเพิ่มหนังไทย เพิ่มซับไตเติ้ลไทย และเว็บแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ให้มี 2 ภาษา และ 2. หน้าที่ทางการตลาด เพราะถ้าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจต้องมีทีมการตลาดในไทย,เปิดบริการในไทยเป็นลำดับที่ 3,ขณะนี้ ไอฟลิกซ์เปิดให้บริการใน 3 ประเทศ โดย 2 ประเทศ แรกเปิดตัวพร้อมกันเมื่อเดือน มิ.ย. 2558 คือ มาเลเซียและะฟิลิปปินส์ ส่วนไทยเปิดตัวเมื่อเดือน ก.ย. 2558 อย่างไรก็ตาม ลูกค้า 1,500,000 ราย ในระยะเวลาอันสั้นนั้น ถือว่า ถือเป็นบริษัทระดับท็อปในการเติบโตเร็วในภูมิภาค,ดูหนังไม่อั้นในราคาแผ่นผีแผ่นเดียว,ไอฟลิกซ์มีวิชั่นจะขยายไปเปิดบริการในประเทศอื่นๆ เราสามารถหาคอนเทนต์ได้มากมาย เพราะคอนเทนต์โพรวายเดอร์มองเราเป็นว่า ถ้าอย่างน้อยร่วมมือกับเราจะได้คิด หรือ ออกแบบ สินค้าที่เป็นเครื่องมือสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์อื่นๆ ซึ่งมองว่า เป็นวินวินกับผู้บริโภค แทนที่สมมติจะต้องออกไปซื้อซีรีส์เป็น 10 ซีซั่น ซึ่งซีซั่นหนึ่งมี 2 แผ่น แผ่นเสียหายไหม มีเครื่องเล่นไหม ตรงนี้ การไล่ซื้อยังอาจแพงกว่า เปรียบเทียบกับไอฟลิกซ์เดือนละ 100 บาท ดูไม่อั้น มีซีรีส์ และหนังจำนวนมาก จะดูเมื่อไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ผู้บริโภคน่าจะตัดสินใจได้ง่าย ในราคาที่ไม่ได้แพงเกินไปเท่ากับแผ่นก๊อบปี้แผ่นเดียว,อีกหนึ่งจุดขายดูหนัง-ซีรีส์ทุกที่ทุกเวลา,ไอฟลิกซ์ให้นิยามตัวเองถ้าภาษาอังกฤษเรียกว่า อินเทอร์เน็ตทีวี เพราะว่า สามารถดูทีวีได้ทุกที่ ทั้งในคอมพิวเตอร์ มือถือ หรืออื่นๆ มีหนัง เป็นอินเทอรเน็ตทีวี เพราะจริงๆ แล้วก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการดู แม้จะมีฟีเจอร์ดาวน์โหลดไว้แล้วเอามาดูได้ แต่ต้องมีอินเทอร์เน็ตเริ่มต้น ฟีเจอร์นี้ เราค่อนข้างภูมิใจที่หลายๆ บริษัทไม่มี เป็นฟีเจอที่คิดและพัฒนามาเพื่อตลาดกำลังพัฒนาโดยเฉพาะ เพราะว่า อินเทอร์เน็ตอาจจะไม่เสถียร หลายๆ คนอาจจะไม่มีอันลิมิเต็ดดาต้า แต่คิดว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่บ้านและออฟฟิศเยอะมาก ดังนั้น ก่อนที่ลูกค้าจะเดินทางดาวน์โหลดไว้และสามารถดูได้,ง่ายๆ สำหรับคอหนังยังไม่เคยใช้บริการ,ให้คิดภาพตามถ้าทุกคนสามารถดูรายการทีวี หรือ หนังที่ชอบ หนังเหล่านี้ มาจากทั้งฮอลลีวูด เอเชียและอื่นๆ สามารถดูได้ในทุกเครื่องมือที่มี เช่น มือถือ แท็บเล็ต ไอโฟน เป็นต้น ดูเมื่อไรก็ได้ตามต้องการทั้งหมดในราคาเท่ากับแผ่นก๊อบปี้แผ่นเดียว และตรงนี้ เป็นวิชั่นของเรา,เปิดตัวในไทย ชี้มีความพร้อมทุกด้าน,ความจริงไอฟลิกซ์มีแผนจะเปิดบริการในไทยเป็นประเทศที่ 2 แต่ใช้เวลาเตรียมตัวนานเลยเป็นประเทศที่ 3 ความจริงไทยเป็นตลาดที่มีความพร้อมมากถึงมากที่สุด 2 ปัจจัย คือ 1.โครงสร้างพื้นฐานเข้าถึง อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยค่อนข้างเร็ว ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยเป็นระดับท็อปเลย อีกทั้งความเสถียรของ 4 จี และ 3 จี การเข้าถึงของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ถือว่า มีจำนวนมาก ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ถึง 40,000,000 คน ถือว่า จำนวนมาก และส่วนใหญเป็นความเร็วสูง ขนาดมาเลเซียและฟิลิปปินส์ยังช้ากว่าไทยนอกจากนั้น ราคาสมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ ถูกลงทุกปี ขณะนี้ ราคาไม่กี่พันบาทก็เข้าถึงได้,ทั้งนี้ อินเทอร์เน็ตทีวีต้องมีคอมพิวเตอร์ไหมไม่จำเป็นผู้บริโภคส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟน มือถือจะเป็นคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ผู้ให้บริการมือถือ โครงข่ายต่างๆ มีการแข่งขันด้านราคาสูง ผู้บริโภคได้เปรียบ ราคาดาต้าลดลงมาก  ,ปัจจัยที่ 2 คือ ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะดู ต้องการบริโภคคอนเทนต์ในเวลาของตัวเอง ยกตัวอย่าง ถ้าดูสถิติยูทูบก็ติดท็อบ 5 ในโลก ซึ่งก็เป็นวิดีโอออนดีมานด์เช่นกัน ดังนั้น จาก 2 ปัจจัยดังกล่าว ทำให้มั่นใจมากว่า ผู้บริโภคเข้าถึง มีดีมานด์ แล้วก็มีประสบการณ์พอที่จะเลือกว่า บริการของไอฟลิกซ์ดีกว่า จึงคิดว่า สมบูรณ์มาก,พอใจผลตอบรับ แต่ยังมีสิ่งต้องทำต่อ,หลังจากเปิดตัวในไทยได้ประมาณ 3-4 เดือน คิดว่า ผลตอบรับดีมาก แต่ยังมีอีกมากที่ต้องทำ ยังไม่ถึงจุดสูงสุด ปีนี้ จะเป็นปีที่เราก้าวกระโดดโตขึ้นอีก ด้วยคอนเทนต์ที่กำลังจะนำมาเพิ่ม และด้วยพาร์ทเนอร์ ซึ่งคิดว่า ไปได้อีกมาก เพราะว่า ไอฟลิกซ์เองด้วยสินค้าที่มีและราคาที่ผู้บริโภคคิดง่าย 100 เดียว ทำให้ตรงนี้ เป็นจุดแข็ง เมื่อเข้าไปดูแล้วมีของเยอะมาก มั่นใจว่า ยังมีอีกหลายคนไม่รู้จักไอฟลิกซ์ ซึ่งเป็นโจทย์ของปีนี้ว่า ทำให้ทุกคนรู้จัก แล้ววันที่รู้จักแล้วให้ลอง มีให้ลองฟรี 30 วัน ไม่จำกัด ดูได้ทุกอย่าง ถ้าชอบค่อยว่ากัน ตรงนี้ เป็นสิ่งที่บอกว่าต้องลอง ซึ่งจากลูกค้าของไอฟลิกซ์รวม 1,500,000 รายนั้น เฉพาะในไทยอยู่ที่ประมาณ 500,000 ราย,คู่แข่งมากหน้า ต่างมีจุดแข็งจุดอ่อน,สภาพการแข่งขันในธุรกิจนี้ มีมาก ถือว่าไทยเป็นตลาดที่มีคู่แข่งค่อนข้างมาก ล่าสุด ประมาณ 10 ราย แต่ละรายมีจุดอ่อนจุดแข็งต่างกัน มีตำแหน่งทางการตลาดต่างกัน บางรายเน้นหนังใหม่ บางรายเน้นซีรีส์ บางรายเน้นหนังเอเชีย แอนิเมชั่น บางรายเน้นไลว์ทีวี แต่ไอฟลิกซ์อาจจะเป็นรายเดียวที่เป็นเหมือนมีทุกรายในเจ้าเดียว เชื่อว่า ผู้บริโภคคงเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบในราคาที่ยอมรับได้ บางคนมีกำลังซื้ออาจจะซื้อหลายราย ซื้อหมดเพื่อดูทุกสิ่งทุกอย่างก็มีระดับหนึ่ง แต่โดยราคาแล้วคิดว่า ไอฟลิกซ์แข่งขันสู้ได้ และสู้ได้ดีทีเดียว โดย 15,000 ชั่วโมง ที่ได้มาราคา 100 บาท เป็นสิ่งที่คุ้มค่า,ย้ำจุดเด่นของไอฟลิกซ์คือ อะเมซซิ่งคอนเทนต์อะเมซซิ่งไพรส์ คอนเทนต์แจ่มราคาแจ๋ว คือ คอนเทนต์ดี เทคโนโลยีดีและราคาดี ซึ่งเทคโนโลยีที่ดีอย่างที่บอกคือ คุณภาพเยี่ยมมาก การมีคอนเทนต์แล้วนำไปไว้บนอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ดูเหมือนทำง่าย แต่ทำให้ดีไม่ง่าย เทคโนโลยีของการย่อยไฟล์ต่างๆ ให้สตรีมให้เร็วเป็นศาสตร์และศิลป์ที่เราทำได้ดี ทำได้ดีกว่าบางรายคนที่โฮสต์ในเมืองไทย เพราะว่าเรามีเทคโนโลยีตรงนี้ อย่างที่ว่า คอนเทนต์ เทคโนโลยีและราคาคุ้มค่าที่สุด,ราคาเดิม เพิ่มเติมคือคอนเทนต์ ,ส่วนอนาคตจะเห็นอะไรใหม่ๆ จากไอฟลิกซ์นั้น เบื้องต้นราคาคงเหมือนเดิมคุ้มค่าตลอดเวลา แต่สิ่งที่ได้ต้องมากขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ ซึ่งจุดแข็งคอนเทนต์ของไอฟลิกซ์ คือ 1. มีเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์แข็งแรงมาก เช่น มิสเตอร์โรบ็อต ที่เพิ่งได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ อย่างไรก็ตาม ผู้ทำคอนเทนต์ให้ไอฟลิกซ์มีวิสัยทัศน์และตาดี มีประสบการณ์ที่ดีมากในการเลือก ดังนั้น จึงมีเอ็กซ์คลูซีฟที่รายอื่นในไทยไม่มี เช่น มิสเตอร์โรบ็อต อัลเรียล และฟาร์โก เป็นต้น และจะเพิ่มเรื่อยๆ 2. อะเมซซิ่งบ็อกเซ็ต สิ่งเหล่านี้ การต้องหาโหลดบิท หรือ แผ่นก๊อปไม่ง่าย ไม่ใช่แค่มีของใหม่เอ็กซ์คลูซีฟ แต่ยังมีหนังที่หายาก มีคอนเทนต์รีจินอลโลคอล เช่น เกาหลี ซึ่งไอฟลิกซ์รู้ว่า ผูบริโภคชาวเอเชียชอบมาก ตรงนี้ เป็นอีกจุดแข็งหนึ่งเรามีทั้งหมดกว่า 2-3 พันชั่วโมง และ 3. ไอฟลิกซ์มีคอนเทนต์สำหรับเด็กใหญ่มาก 2-3 พันชั่วโมงเช่นเดียวกัน เพราะรู้ว่าเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายในวิดีโอออนดีมานด์ ไม่มีคอนเซปต์เวลา ความต้องการของเด็กในอนาคตจะมาทางนี้,คิดการใหญ่วางแผนผลิตคอนเทนต์เอง,อนาคตอันใกล้ไอฟลิกซ์จะมีออริจินอลคอนเทนต์คือ ทำมาเพื่อไอฟลิกซ์โดยเฉพาะ อยากมีจุดนี้ ของเราเลย ทำเพื่อไอฟลิกซ์ ทั้งหมดเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่สามารถก๊อปกันง่ายๆ ชั่วข้ามคืน เรามีผู้ถือหุ้นนักลงทุนที่แชร์วิชั่นนี้ มีเงินทุนมากพอที่จะสร้างขึ้นมาให้ผู้บริโภคเห็นว่า แตกต่างจริงๆ,อดใจรออีกนิด ภายในปีนี้ มีซับไทยครบ 100%,ขณะนี้ หนังและซีรีส์ของไอฟลิกซ์มีซับไทย แต่ยังไม่ครบ เพราะว่า ด้วยความที่ผู้นำเอาคอนเทนต์เข้ามาเร็วมากจนทำไม่ทัน ล่าสุด มีคอนเทนต์รวมประมาณ 15,000 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นเดือนละ 2,000 ชั่วโมง กำลังในส่วนทำซับไทยยังมีข้อจำกัด ภายในปีนี้ คิดว่าจะครบ 100% นอกจากนั้น อนาคตก็จะเพิ่มบรรยายไทยด้วย และเพิ่มดีไวซ์ หรือ อุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงบริการของไอฟลิกซ์ต่างๆ ก็มีอยู่ในโครงการให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น,ลูกค้าหลักกลุ่มเดียวกับดูยูทูบ ,ลูกค้าเป้าหมายในไทยกลุ่มแรกหลักๆ คือ ค่อนมาทางเด็ก ช่วงอายุต่ำกว่า 35 ปี กลุ่มวัยเริ่มทำงานลงไปถึงระดับมหาวิทยาลัย เพราะบริโภคเอนเตอร์เทนเมนต์และอยู่ในเทคโนโลยีพอ หลังจากกลุ่มนี้ จะไปบอกพ่อแม่ที่บ้านว่า มีรายการที่ชอบด้วย ที่บ้านก็จะมีการสอนพ่อแม่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ มีเวลาเยอะมาก เมื่อทราบ หรือ ดูได้แล้วจะใช้ต่อ ลูกค้าหลัก น่าจะกลุ่มเดียวกับที่ดูยูทูบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคกลุ่มดูทีวี หรือ เคเบิลทีวี ไม่ใช่เป้าหมายหลัก,เปิดแผนธุรกิจตามติดเป้าหมาย,การทำการตลาดของไอฟลิกซ์นั้น มีหลายแผน ใช้อินทิเกรเต็ดมาร์เก็ตติ้ง โดยตามผู้บริโภคไปให้หมด เราเป็นบริการออนไลน์ ดังนั้น ออนไลจึงเป็นที่แรก โดยในขั้นแรกจะตามไปในทุกช่องทางออนไลน์ อยู่ในเฟซบุ๊กก็จะตามไป อยู่ในกูเกิลก็ตามไป ไปดูบล็อกก็ไป ตามไปในวงจรชีวิตต่างๆ ที่เป็นเป้าหมาย ยกตัวอย่าง ขณะนี้ ยังตามออกไปในออฟไลน์ ซึ่งมีโฆษณาบนบีทีเอส เป็นต้น กรณีผู้บริโภคไปชอบดาราคนไหนก็อาจจะตามไป ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีดาราที่เป็นหุ้นส่วน กลุ่มนี้ มีผู้ติดตาม ช่วยโปรโมต โดยเป็นหุ้นส่วนจริงๆ เราถือว่าไอฟลิกซ์เป็นไลฟ์สไตล์โปรดักส์ เป็นสิ่งที่ไม่ได้จำกัดช่วงอายุ ดังนั้น จะพยายามตามไปทุกคนทุกแห่ง,เมื่อถามว่า ตั้งแต่เปิดตัวเรื่อยมาดูมีสีสันใช้งบทำการตลาดมากขนาดไหนนั้น ช่วงนี้ ใช้งบเยอะมาก แต่ไม่ใช่โปรยลงไป เราเป็นบริษัทที่เน้นข้อมูลค่อนข้างมาก คิดและวางแผน มีการวัดผลตลอดเวลา มีเคพีไอ ดูว่า ประสบความสำเร็จไหม เพราะว่า ทุกๆ เม็ดเงินมีค่า,ทั้งนี้ เชิญชวนผู้บริโภคที่ไม่เคยใช้บริการให้เข้าไปในเว็บไซต์ไอฟลิกซ์ดอทคอมแล้วคลิกทดลองใช้บริการ 30 วัน ไอฟลิกซ์เป็นบริการที่ไม่เหมือนรายอื่นอยากให้ทดลองเข้าไปใช้บริการ ลองดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นแล้วจะเห็นว่า ไม่เหมือนใคร มีคอนเทนต์จำนวนมากด้วยราคาที่ดีที่สุด,คาดหวังช่วยลดการละเมิดลิขสิทธิ์ทางอ้อม,เมื่อครั้งเปิดตัวใหม่ๆ มีมุมมองการละเมิดลิขสิทธิ์หนังอย่างไร และถึงวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่นั้น เรื่องนี้ มีข้อมูลการสำรวจจากออสเตรเลีย ซึ่งมีผู้ให้บริการแนวไอฟลิกซ์ 3 ราย พบว่า หลังทั้ง 3 ราย เปิดตัวอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ลดลง 25% เมื่อลองค้นหาในทวิตเตอร์ หรือ ช่องทางต่างๆ ลักษณะะแบบว่า ผู้บริโภคลาแล้วแผ่นก๊อป ด้วยราคาและสิ่งที่มีทำให้ผ้บริโภคเปลี่ยนได้ แต่ว่า ไอฟลิกซ์เองไม่ได้มีหนังใหม่ ซึ่งยังต้องยอมรับว่า หนังใหม่มีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ มีการโหลดบิทก่อนหนังออกด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์ที่ไอฟลิกซ์มีไม่ได้หาง่ายๆ ถ้าลองให้หา ณ วันนี้ ต้องใช้ความพยายามสูงและใช้เวลามาก แต่ผู้ที่สมัครไอฟลิกซ์จ่ายเพียง 100 บาท สามารถดูได้ทั้งหมด,เชื่อใครใช้บริการไอฟลิกซ์แล้วจะติดใจ,สุดท้ายฝากถึงผู้บริโภคให้ทดลองใช้บริการและให้โอกาสเรา โดยลองเลือกดูซีรีส์สักเรื่อง ดูหนังที่แนะนำให้ เชื่อว่า เป็นสิ่งที่ดูง่ายแล้วจะติดใจ คำเตือนดูแล้วอาจจะนอนดึกขึ้น ทั้งนี้ สถิติของผู้ใช้บริการเฉลี่ยดูหนัง หรือ ซีรีส์ ประมาณ 100 นาทีต่อวันทุกวัน คิดแล้วเป็นหนังเกือบ 1 เรื่อง หรือ ซีรีส์ประมาณ 3 ตอน ซึ่งสถิตินี้ เราแฮปปี้มาก เพราะผู้ใช้ใช้บริการต่อเนื่อง ดังนั้น อยากให้ทดลองดูแล้วจะติดใจ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า บางวันระบบอาจจะล่ม เพราะมีผู้ใช้บริการมาก กลับกันก็แสดงให้เห็นว่า มีผู้ใช้และติดตามจริง ระบบล่มแล้วมีผู้แจ้งมายังเราทันที ซึ่งจะได้แก้ไขปรับปรุงเพื่อลูกค้าต่อไป., 
แกะรอยเส้นทางความสำเร็จธุรกิจของ ไอฟลิกซ์ ผู้ให้บริการหนังและซีรีส์ออนไลน์ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ได้รับการตอบรับดีไม่น้อย
null
เรื่องเล่าความสำเร็จ,Success Story,ไอฟลิกซ์,iflix,หนัง,ซีรีส์,หนังออนไลน์,บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด,อาทิมา สุรพงษ์ชัย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/565572
เทพมุ้ย สุดเสียดาย อดลงช่วยช้างศึกยิงยูเออี
วันที่ 13 มิ.ย. ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าคนสำคัญทีมชาติไทย ยอมรับ เสียดายที่ล่าสุดไม่พร้อมลงสนามช่วยทัพช้างศึก เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 ในวันนี้ เนื่องจากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์,มิโลวาน ราเยวัช ยืนยันว่า ธีรศิลป์ ไม่พร้อมลงสนามในเกมนี้เมื่อมีอาการบาดเจ็บที่หลัง แต่ใส่ชื่อเป็น 23 ขุนพล เพราะมองว่าอดีตกองหน้าอัลเมเรีย วัย 29 ปี เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ควรอยู่กับทีม,ธีรศิลป์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเสียดายจริงๆ ครับ เพราะอย่างที่เคยบอกผมไม่รู้ว่าจะเหลือเวลากับทีมชาติไทยอีกนานเท่าไหร่ ผมยังดีใจทุกครั้งที่มีชื่อเข้ามา ดังนั้นในเมื่อผมมีโอกาส ผมก็อยากมีส่วนร่วมและลงเล่นให้ทีมชาติไทยให้ได้มากที่สุด แม้ผมจะไม่ได้ลงเล่น แต่ผมก็ไม่ต้องพูดให้กำลังใจอะไรหรอก ผมเชื่อว่านักฟุตบอลทุกคนใฝ่ฝันที่จะก้าวมาถึงจุดนี้อยู่แล้ว ซึ่งในเมื่อโอกาสมาแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนจะพยายามทุ่มเทเต็มที่ และผมเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีมทุกคน สุดท้ายผมหวังว่าแฟนบอลจะยังเข้ามาให้กำลังใจเรา แม้เราจะไม่มีลุ้นไปฟุตบอลโลกแล้ว แต่พวกเราทุกคนก็ยังอยากได้กำลังใจจากแฟนบอล มันเป็นหนึ่งในพลังสำคัญที่นักฟุตบอลทุกคนขาดไม่ได้ หวังว่าทุกคนจะเข้ามารวมพลังสู้ไปกับพวกเราในฐานะทีมชาติไทยครับ ธีรศิลป์ กล่าว,สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 วันที่ 13 มิถุนายน 2560 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี
มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงคนสำคัญของทัพช้างศึก ยอมรับ เสียดายที่ไม่พร้อมลงช่วยทีมชาติไทย เปิดบ้านพบกับ ยูเออี แต่ขณะเดียวกันยังเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีมทุกคน
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ธีรศิลป์ แดงดา,มุ้ย,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ยูเออี
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/971210
ความพยายามแก้ปัญหาซีเรียของ สหประชาชาติ และสันนิบาตรอาหรับ
นายลัคดาร์ บราฮิมี่ ทูตพิเศษของสหประชาชาติและอาหรับ ลีก เดินสายพูดคุยกับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลของซีเรีย รวมทั้งกลุ่มฝ่ายค้าน และกลุ่มต่อต้านภายในประเทศหลายคน ในการเยือนซีเรียเป็นวันที่ 2 เพื่อเตรียมการก่อนหน้าการประชุมสันติภาพซีเรีย จะจัดขึ้นที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางข้อกังขาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่เพราะแม้ซีเรียรับปากจะเข้าร่วม แต่หลายกลุ่มที่ร่วมในการต่อสู้ในสงครามกลางเมืองซีเรีย ก็เริ่มมีเงื่อนไขว่าจะพบ หรือจะไม่พบกับผู้แทนของบางกลุ่มการเดินทางเยือนโดย นายบราฮิมี มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่ผู้อำนวยการองค์การอาวุธเคมีต้องห้าม เปิดเผยรายงานสถานการณ์อาวุธเคมีในซีเรีย หลังจากที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเส้นตายแรกวันที่ 27 ตุลาคม ในการตรวจสอบสถานที่เก็บ และผลิตอาวุธเคมีของซีเรียได้ครบทุกแห่ง เนื่องจากเส้นตายกระชั้นชิดเกินไป ประกอบกับความไม่ปลอดภัย ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่รายงานขององค์การอาวุธเคมีต้องห้าม เปิดเผยว่า รัฐบาลซีเรีย แจ้งสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีทั้งหมด 23 จุด มีโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาวุธ 41 แห่ง ซึ่งเก็บอาวุธ สารเคมี และสารตั้งต้นในการทำอาวุธเคมี รวม 1300 ตัน และหัวกระสุนที่ยังไม่บรรจุอาวุธเคมีอีก 1200 อัน โดยองค์การอาวุธเคมีต้องห้ามสามารถตรวจสอบได้รวม 21 จุด คงเหลืออีก 2 จุด
ทูตสหพิเศษสหประชาชาติ และสันนิบาตรอาหรับ เดินทางไปซีเรียเพื่อพูดคุยกับตัวแทนของรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน และกลุ่มต่อต้านภายในประเทศ เพื่อให้เข้าร่วมการประชุมสันติภาพซีเรีย ที่กำหนดจะจัดขึ้นในเดือนหน้าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ต่างประเทศ
ซีเรีย,สหประชาชาติ,สันนิบาตรอาหรับ
https://news.thaipbs.or.th/content/204305
โรม ตามจิกคสช.ไม่เลิก ตอก แผนปฏิรูปกฎหมายเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่รัฐสภาชั่วคราว บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายรายงานผลการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่ให้ ครม.แจ้งความ คือ การปฏิรูปประเทศให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบ ทุก 3 เดือน โดยร่วมอภิปรายวิจารณ์ในด้านของการปฏิรูปกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และการปราบปรามการทุจริต โดยระบุว่า จากการอ่านรายงานความคืบหน้า พบว่า มีความสวยหรู ดูดี แต่ไม่ได้สะท้อนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา,โดยในเรื่องของกฎหมาย รายงานฉบับนี้ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคหลายฉบับ แต่ทว่าภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการออกประกาศและคำสั่งต่างๆ มากมาย เช่น การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่มีเนื้อหาปิดปากประชาชนมากขึ้น, การออก พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ที่สร้างกฎเกณฑ์และความหวาดกลัวให้กับผู้ต้องการแสดงออกทางการเมือง, การออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ให้ทหารค้นเคหสถาน หรือควบคุมตัวได้ 7 วัน โดยไม่ต้องมีหมายศาล,นอกจากนี้ ยังมีการออกคำสั่งอีกหลายคำสั่งที่มีผลกระทบในด้านอื่นๆ เช่น การยกเว้นกฎหมายผังเมือง เพื่ออนุญาตให้สร้างโรงงานบางประเภท ลัดขั้นตอนประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การให้อำนาจ กสทช.ควบคุมเนื้อหาและสั่งลงโทษสื่อมวลชน, การออกคำสั่งยืดหนี้ค่ายมือถือแบบไม่มีดอกเบี้ยนานถึงสิบปี, การออกคำสั่งทวงคืนผืนป่า จนมีประชาชนชาวบ้านถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้งๆ ที่อาศัยอยู่มาก่อนจะมีอุทยานแห่งชาติ, ไม่นับรวมการออกคำสั่งปิดเหมืองทอง ที่สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ ถ้าไม่ออกโดย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกโดย สนช. ซึ่งเป็นสภาตรายาง แต่ไม่มีเรื่องเหล่านี้ในรายงานฉบับนี้เลย นายรังสิมันต์ กล่าว,นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในส่วนของความยุติธรรม แม้ในรายงานจะระบุถึงความคืบหน้าด้านการปรับปรุงให้สถานีตำรวจ ต้องรับแจ้งความทุกท้องที่, ห้ามนำผู้ต้องหาออกแถลงข่าว, ให้มีทนายความประจำทุกสถานีตำรวจ, ให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวในวันหยุดราชการ แต่กลับไม่มีการพูดถึงคดีในศาลทหารที่ จับกุม พิจารณาดี และพิพากษาเองโดยทหารทั้งหมดเลย วันนี้ จากข้อมูลของไอลอว์ ยังคงมีคดีพิจารณาอยู่ในศาลทหารถึง 1,723 คดี และยังมีปัญหาจากกระบวนการยุติธรรมภายใต้ คสช.อีกเป็นจำนวนมาก เราจะทำอย่างไรกับประชาชน ที่ต้องกลายเป็นจำเลยจากกฎหมายของ คสช. เช่น ชาวบ้านเทพาที่ต้องเป็นจำเลยจากการคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือการที่นักกิจกรรมที่อยู่ตรงข้ามของ คสช. ถูกทำร้ายร่างกายอย่างเป็นระบบ และการที่ชนกลุ่มน้อยที่ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรมหน้ากล้องวงจรปิดที่ภาพหายไป,ปัญหาของกระบวนการยุติรรมไทยคือการใช้เป็นเครื่องมือจากผู้มีอำนาจทางการเมืองใช้เล่นงานกลุ่มตรงข้าม รายงานฉบับนี้จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่การปฏิรูป เป็นแค่การปรับปรุง ปรุงแต่งเท่านั้น ในฐานะนักกฎหมายเราต่างรู้ว่าการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับ แต่รายงานนี้เอามาโฆษณาว่าเป็นการปฏิรูปแล้ว อย่าเอาความไม่สะดวกของราชการมาบอกว่านี่เป็นความสำเร็จแล้ว ปล่อยให้คนจำนวนมากต้องถูกขังในวันเสาร์อาทิตย์ตอนที่ท่านอยู่บ้านดูทีวีหรือทำอย่างอื่น นี่ไม่ใช่การปฏิรูป,นายรังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติ่มว่า สำหรับในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แม้จะมีการโฆษณาว่าต้องการให้ประชาชนรังเกียจการทุจริต แต่เมื่อมีประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องการตรวจสอบการทุจริต กลับถูกจับกุมดำเนินคดี เช่นในกรณีการเดินทางไปตรวจสอบการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ด้วยรถไฟ นี่ยังไม่รวมถึงการตีแผ่การทุจริตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา กรณีตั้งธุรกิจในค่ายทหาร ที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อ หรือกรณีนาฬิกา 22 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ มากไปกว่านั้น เราจะพบว่าการตรวจสอบคอร์รัปชันโดยองค์กรภาครัฐ ไม่ว่าคดีไหนจะออกมามีลักษณะเหมือนกันหมด คือโปร่งใสไม่มีความทุจริต ในสภาวะที่ คสช.ออกมาให้คุณให้โทษกับองค์กรตรวจสอบเหล่านี้ได้หมด แล้วทุกวันนี้หลายคนก็ได้เป็น ส.ว.กันทั่วหน้า,ถ้าการปฏิรูปเหมือนการรีโนเวตบ้าน แต่บ้านเรามีขยะเน่าเหม็นเต็มไปหมด การคุยว่าจะเอาของหรูๆ เฟอร์นิเจอร์สวยๆ มาลง แต่ไม่คิดจะอุดรูรั่วบนหลังคา เราจะเรียกว่านี่เป็นการรีโนเวตได้อย่างไร เช่นเดียวกับการปฏิรูปด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ถ้าเราไม่จัดการกับสิ่งที่ คสช.ทำมาในอดีต เราจะเรียกมันว่าการปฏิรูปไม่ได้เลย นายรังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ โรม ตามจิกคสช.ไม่เลิก ระบุ แผนปฏิรูปกฎหมายเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ แต่ไม่สะท้อนความจริง ซัด กฎหมายส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของ คสช.
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,รังสิมันต์ โรม,อนาคตใหม่,ปฏิรูปกฎหมาย,โฆษณาชวนเชื่อ,คสช.,ประชุมสภา,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1601336
16 ศพแรงงานพม่ากับการถามหาความปลอดภัย
มีคำถามเกิดขึ้นมากมายถึงความรับผิดชอบ และระบบป้องกันการเกิดอุบัติภัยความไม่ปลอดภัยของแรงงาน กับการเดินทางทั้งระบบในพื้นที่อุตสาหกรรม ความจริงที่ต้องพูดถึงโศกนาฎกรรมชีวิตความตายในครั้งนี้ มิใช่เพียงครั้งแรกที่เกิดขึ้น ถ้าย้อนหลังกลับไปเกือบยี่สิบปีมีตัวอย่างความตายจากการเดินทางไป-กลับของแรงงานทั้งคนไทยและข้ามชาติหลายกรณี เช่น รถสองแถวขนส่งคนงานชนกับรถบรรทุกที่สงขลาทำให้คนงานเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายสิบคน กรณีรถสองแถวใหญ่ส่งคนงานย่านอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่กลับบ้านหลังฉลองปีใหม่มีคนงานเสียชีวิตสามคนและบาดเจ็บอีกนับสิบคน อาจกล่าวได้ว่ากรณีความไม่ปลอดภัยจากการเดินทางของคนงานในย่านอุตสาหกรรมนั้นเกิดขึ้นมากมาย เพียงแต่ไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นข่าว และให้ความสำคัญป้องกันแก้ไขปัญหาในระดับนโยบาย และพื้นที่อย่างจริงจัง การเกิดเหตุการณ์แต่ละครั้งกลับกลายเป็นเรื่องการดำเนินคดีความระหว่างบริษัทประกันภัยรถ กับตัวแรงงาน หรือครอบครัว มีคำถามว่าความรับผิดชอบของนายจ้างอยู่ตรงไหน ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน โดยกระทรวงแรงงานได้เข้ามามีส่วนรับผิดชอบในการรักษา เยียวยา และจ่ายค่าชดเชยอย่างไร กรมทางหลวง กรมการขนส่ง กระทรวงคมนาคม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และตำรวจทางหลวง สำนักงานตำรวจแห่ชาติ เข้ามาวางมาตรการ ออกแบบการขนส่งแรงงานกับการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านที่ปลอดภัย จากการลงพื้นที่ทำงานกับสหภาพแรงงานในย่านอุตสาหกรรม มีข้อพบเห็นเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในชีวิตด้านการเดินทางทั้งไปทำงาน และกลับจากการทำงานโดยผ่านการใช้ระบบบริการรถรับส่งของบริษัทในหลายประการกล่าวคือ หนึ่ง การลดต้นทุน การจัดจ้างรถขนส่งคนงานมักใช้รูปแบบรถสองแถวใหญ่ หรือสองแถวเล็ก มีรถบริการน้อยกว่าความต้องการเดินทางของคนงาน และไม่มีประตูปิดท้ายหรือที่กั้นแบบมาตรฐาน สำคัญคือคนงานขึ้นรถแบบอัดแน่นไม่มีที่ว่างในการยืนและนั่ง ต้องห้อยโหนออกมาท้ายรถ จนก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตร่างกาย สอง การจัดจ้างรถยนต์ที่มารับส่งคนงาน ส่วนมากจะใช้การจัดจ้างแบบรายวันเพื่อสามารถปรับลด เพิ่มตามความต้องการในการขนส่งแต่ละวัน อีกทั้งการจัดจ้างในลักษณะนี้ยังช่วยให้นายจ้างไม่ต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่ง เพราะเหมาจ่าย หรือเก็บเงินจากแรงงานโดยทำเป็นการออกเงินจ้างรถมารับ-ส่งโดยแรงงานเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ นายจ้างมักรอดตัวกับการชดใช้ความเสียหาย และการดำเนินคดี สาม พฤติกรรมของพนักงานขับรถ ส่วนใหญ่มักเป็นคนของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ดังนั้นการจัดจ้างรถรับ-ส่งคนงานส่วนใหญ่นายจ้างหลายแห่งต้องตกอยู่ในสภาพการถูกบังคับให้ต้องจัดจ้างรถของกลุ่มผู้มีอิทธิพล จากการพูดคุยกับแรงงานในย่านอุตสาหกรรมสมุทรสาคร-นครปฐมบอกว่า \พูดอะไรมากไม่ได้เดี๋ยวเขาแกล้งไม่ให้ขึ้นรถ หรือบางทีก็ปล่อยรถช้าทำให้เพื่อนกลับบ้านช้าไปด้วย เขาเป็นนักเลงขับรถเร็วมาก หรือคิดอยากจะจอดตรงไหนก็จอด เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว เดี๋ยวเรื่องก็เงียบ ที่พูดก็มีคนขับรถนิสัยดีๆ ก็มีแต่มีไม่มาก บริษัทฯควรทำคือก่อนจัดจ้างต้องมีการอบรม ทำสัญญา เพื่อควบคุมความประพฤติ\ จากสถานการณ์ด้านความไม่ปลอดภัยจากการเดินทางไปทำงาน และการตายของแรงงานชาวพม่า 16 คนที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาครล่าสุด ทำให้ถูกนำมาเป็นกรณีศึกษาเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข องค์กรแรงงาน และองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านแรงงานข้ามชาติ ต้องหันมาปรึกษาหารือกัน ในการยกระดับการแก้ไขปัญหา ข้ามพ้นการกล่าวโทษ หรือโยนความรับผิดชอบไปให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ผมจึงขอเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาใน 2 ระดับ ระดับที่หนึ่ง ระยะเร่งด่วน การดำเนินคดีให้ดำเนินการไปตามกระบวนการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างการรักษา หรือดำเนินการฟ้องร้องจะต้องไม่มีการใช้กฎหมายหลบหนีเข้าเมืองมาใช้เพื่อการส่งกลับแรงงานข้ามชาติที่บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมถึงครอบครัวของแรงงาน จนกว่าการดำเนินคดีจะสิ้นสุดและได้รับความเป็นธรรม ส่วนแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายนั้น การจ่ายค่าชดเชย การฟื้นฟู เยียวยา สำนักงานประกันสังคมจะต้องเข้ามาพิทักษ์สิทธิในฐานะแรงงานข้ามชาติที่ประสบภัยได้เข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าแรงงานที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเป็นช่วงที่ไปทำงานให้นายจ้างก็ต้องให้ไปใช้ พ.ร.บ.กองทุนเงินทดแทนในการรักษา เยียวยา ชดเชยการสูญเสีย เป็นต้น ระดับที่สอง ระยะยาว จังหวัด พื้นที่ปกครองท้องถิ่น และระดับนโยบาย ต้องจัดประชุมสหวิชาชีพเชิงปฎิบัติการด้านความปลอดภัยในการเดินทางของแรงงานที่มีมาตรฐาน โดยใช้กรณีปัญหานี้เป็นตัวอย่างการจัดระเบียบระบบของการให้ความคุ้มครองความปลอดภัยการเดินทางของแรงงานที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบการจัดจ้างรถรับส่งคนงานที่มีสัญญาการจ้างเหมาที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงรูปแบบของรถที่มีมาตรฐานความปลอดภัยในการบรรทุกขนส่ง มีการจัดอบรมและมีใบอนุญาตรับรองความประพฤติของพนักงานขับรถรับส่งคนงาน ส่วนกรณีการจอดรับส่งคนงานเพื่อเดินทางไปทำงาน หรือกลับจากการทำงาน กรมทางหลวง กรมการขนส่ง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีการพัฒนาสถานที่จอดรถอย่างปลอดภัย มีการทำสัญญาณ หรือสัญลักษณ์ที่ชัดเจน รวมถึงมีการรณรงค์เตือนภัยในการใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะเขตพื้นทีเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ส่วนกระทรวงแรงงานโดยประกันสังคมต้องเร่งออกประกาศกระทรวงเรื่องการเพิ่ม ส่งเสริมให้สถานประกอบการมีมาตรฐาน และมาตรการด้านความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งพนักงาน โดยใช้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย(จป.) และคณะกรรมการความปลอดภัย(คปอ.)เป็นกลไกการตรวจสอบยานพาหนะขนส่งแรงงานทั้งไป-กลับอย่างปลอดภัย จากข้อเสนอการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยจากการเดินทางของแรงงานในสองระดับดังกล่าว เป็นข้อเสนอที่ผู้เขียนมองจากความเป็นจริงที่ได้พบเห็นในขณะเดียวกันก็เกิดสถานการณ์จริง 16 ศพคนงานพม่าที่ต้องสังเวยการเดินทางที่ไม่ปลอดภัยจากการทำงาน นับแต่นี้ไปผมคิดว่าหน่วยงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน และองค์กรแรงงานทั้งไทยและต่างประเทศจะหยิบยกประเด็นนี้ กรณีศึกษานี้มาเป็นตัวกระตุ้นและพัฒนาความร่วมมือการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นต้องได้รับความร่วมมือและจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อาจปฎิเสธได้ เพราะความปลอดภัยจากการเดินทางสามารถป้องกันได้ถ้าเราไม่ประมาท การเคารพกฎหมายที่เคร่งครัด การพัฒนายกระดับจิตสำนึกของสถานประกอบการ นายจ้าง การให้ความรู้ความเข้าใจของคนงานและพนักงานขับรถต่อการสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติภัยจากการใช้รถใช้ถนน สุดท้ายนี้คงหวังว่าการเดินทางที่ปลอดภัยของแรงงานจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดมาแล้วหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ว่าเขาจะเป็นคนไทยหรือคนข้ามชาติใครๆ ก็รักชีวิตถ้าเลือกได้คงไม่อยากจากคนที่รักในสภาพแบบนี้ หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://voicelabour.org/?p=3644
เมื่อไม่กี่วันมานี้มีความเคลื่อนไหวในเรื่องความตายของแรงงานข้ามชาติชาวพม่าในเขตอุตสาหกรรมมหาชัย 16 คนที่เสียชีวิตจากการถูกรถบรรทุกเสยชน กับรถขนส่งแรงงานขณะรับส่งคนงานเพื่อมาทำงาน
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,แรงงาน,สังคม
กระทรวงแรงงาน,พม่า,สมุครสาคร,อุบัติเหตุ,แรงงานข้ามชาติ
https://prachatai.com/journal/2011/04/34065
ล็อกตัวคาสมุย หน.โจรไซเบอร์ กบดานไทย 2 ปี
กองปราบปรามร่วม บก.ปอท.และตำรวจ ฝรั่งเศส จู่โจมจับหัวหน้าแก๊งไซเบอร์คราม คนร้ายรายสำคัญของประเทศฝรั่งเศส แอบหลบหนีมากบดานเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ปี หลังร่วมกับพวกอีก 2 ราย ที่ถูกจับได้ที่ประเทศฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ ,แฮ็กข้อมูล,บัญชีการเงินของลูกค้าสถาบันการเงินในประเทศอังกฤษ กว่า 1,400 รายชื่อ เรียกค่าไถ่ 510,000 ปอนด์ เพื่อแลกกับการไม่นำรายชื่อลูกค้าไปเปิดเผย แล้วหลบหนีมาอยู่ประเทศไทย เปิดเว็บไซต์ดาร์กเว็บ ซื้อขายของเถื่อน ทั้งยาเสพติด และอาวุธสงคราม ก่อนจะถูกบุกจับได้พร้อมกัญชาอัดแท่ง คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กว่า 20 รายการ,กองปราบฯร่วม บก.ปอท. และตำรวจฝรั่งเศส จับหัวหน้าแก๊งไซเบอร์คราม รายสำคัญของประเทศฝรั่งเศส แฮ็กข้อมูลบัญชีลูกค้าสถาบันการเงินในประเทศอังกฤษแล้วเรียกค่าไถ่ ก่อนหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนถูกจับกุมครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ พ.ต.ท.พงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ประสานกับตำรวจ บก.ปอท. และตำรวจประเทศฝรั่งเศส สนธิ กำลังบุกจู่โจมจับตัวนายโจนาธาน เวรอน (Mr. Jonathan Verron) อายุ 25 ปี ชาวฝรั่งเศส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 429/2561 ลงวันที่ 15 พ.ค.2561 ในความผิดฐาน ขอออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน จับได้ที่บ้านเลขที่ 45/19 ม.3 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่งจำนวนหนึ่ง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ บัญชีธนาคาร และอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ กว่า 20 รายการ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานมาตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี,พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนายโจนาธาน เป็นผู้ต้องหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ คราม รายสำคัญ ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2560 ได้เข้าไปแฮ็กข้อมูลบัญชีการเงินส่วนตัวของลูกค้าสถาบันการเงินพรีเพียด ไฟแนนเชียล เซอร์วิส Prepaid financial Services (PFS) ในประเทศอังกฤษ กว่า 1,400 บัญชี หลังจากนั้นได้เรียกค่าไถ่ 510,000 ปอนด์ ประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่นำข้อมูลลูกค้าไปเปิดเผย พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นความผิด กฎหมายของประเทศฝรั่งเศส ข้อหา สมรู้ร่วมคิด ในการพยายามกรรโชกที่กระทำกันเป็นแก๊งในระบบประมวลข้อมูลโดยอัตโนมัติ การดึงข้อมูลที่อยู่ในระบบประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ การปกปิดความผิดดังกล่าว การปกปิดการขโมย การฉ้อโกงหลอกลวง การยึดครอง การมอบ การยกเลิก หรือการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ โปรแกรม หรือข้อมูลที่ได้รับการสร้างไว้ หรือดัดแปลง เพื่อการฉ้อฉลกับข้อมูลของระบบ สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งนี้มีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย นายโมฮาเหม็ด การา และนายเกรทเทน เบอเรรี ทั้ง 2 ราย ถูกจับกุมได้แล้ว ที่ประเทศฝรั่งเศส เหลือเพียงนายโจนาธาน นักถอดรหัสหัวหน้าแก๊ง ที่ยังหลบหนีการจับกุม,พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่นายโจนาธานหลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย 2 ปี ยังพบว่ามีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดด้วยการเปิดเว็บไซต์เถื่อน (ดาร์กเว็บ) ซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธสงคราม และของเถื่อนทุกชนิดอีกด้วย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ หลังจาก กก.5 บก.ป. ได้รับการประสานจากสถานทูตฝรั่งเศส สงสัยว่าผู้ต้องหาจะหลบอยู่ในประเทศไทย กก.5 บก.ป.จึงได้สืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายโจนาธาน ส่ง สภ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในคดีมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง หลังแจ้งข้อหาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.สมุยจะส่งตัวให้อัยการสูงสุดดำเนินการในกรณีผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
กองปราบปรามร่วม บก.ปอท.และตำรวจ ฝรั่งเศส จู่โจมจับหัวหน้าแก๊งไซเบอร์ คราม คนร้ายรายสำคัญของประเทศฝรั่งเศส
ข่าว,อาชญากรรม
แฮกเกอร์,เกาะสมุย,ฝรั่งเศส,แฮกข้อมูล,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1285744
จบลงที่จุดเริ่ม
จิระอนันต์, สนับสนุนธีม (THEME) หลักในชื่อภาษาอังกฤษที่ว่า In Family We Trust-เราเชื่อมั่นในสถาบันครอบครัว,ความตาย การจากพราก และรอยร้าว ถูกฉาบปิดและกลบมิดบิดเบือนด้วยความ (เลือกที่จะ) เงียบและกาลเวลาที่ล่วงเลย (เพื่อลืมเลือน) เหมือนที่แปะกู๋เมธบอกเหม่เหมลูกสาว ผ่านกรงเหล็กกั้นของคุกตะรางไว้ว่า,พวกเราต่างต้องแก้ไขมันเอง ไม่ใช่กาลเวลา เหมือนบาดแผลที่ค่อยๆแห้ง แล้วสุดท้ายค่อยๆตกสะเก็ด กลายเป็นแผลเป็นในความทรงจำ ที่ไม่มีใครอยากจะหวนย้อนกลับไปจดจำมันอีก (เลย),ภาพความผูกพันอันอบอุ่นโอบเอื้อกันและกันของ 4 กุมาร (ลูกชายทั้ง 4 คนของวิเชียร-พลวัฒน์ และภัสสร-คัทลียา) ให้ความรู้สึกที่ทบท้นอุ่นแน่นตื้นตันอยู่ในหัวใจ,ภาพเต้ยน้องชายคนเล็กที่นอนโอบกอดอี้ พี่ชายคนโตไว้ตลอดเวลา ให้คำตอบที่ยืนยันมั่นชัดว่า ทำไมพี่ชาย อี้ คนนี้ จึงต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อน้องชาย เต้ย ที่เขาเชื่อมั่นว่าบริสุทธิ์ได้อย่างสุดชีวิต,พีทกูยังเห็นมึงเป็นน้องชายอยู่ตลอดนะ คำยืนยันของอี้ ในวันที่เขาและพีทได้ขับรถสวนทางกันในวันหนึ่ง การแสดงที่ฉายชัดพัฒนาการอย่างมหันต์ของทั้งสองนักแสดงหนุ่ม ต่อ-ธนภพ และ เจเจ-กฤษณภูมิ มีเสน่ห์ดึงดูดมัดใจจำได้ทุกฉากตอน,และใครเลยจะเชื่อว่า นักแสดงที่ล่วงผ่านกาลเวลาไปพอควรแล้วอย่าง พลวัฒน์-คัทลียา จะหวนกลับมางามสง่าเฉิดฉายโฉบใจ ด้วยฝีมือการแสดงที่เยี่ยมยอด จับใจ กิน (หัว) ใจ สะเทือนใจ และประทับใจได้เหลือประมาณเช่นนี้ กับอีกเก่าเก๋าและใหม่เก๋อย่างคู่พ่อลูก ศักดิ์สิทธิ์-ศวรรยา ก็จับใจยิ่งนักแล้ว,เยี่ยมยอด คมคาย ลึกซึ้งที่สุดของที่สุดอีกสองก็คือบทและดนตรีประกอบเรื่องโดยฝีมือปราชญ์ทางดนตรี เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน คลาสสิกกระชากใจหาใดเทียบเทียม รางวัลทุกรางวัลจากทุกสถาบันเตรียม (ทุ่ม) เทคะแนนได้เลย,จบลงที่จุดเริ่ม เมื่อทุกคน (ที่เหลืออยู่) ใน จิระอนันต์ หันหน้าเข้าหากัน สานต่อธุรกิจร่วมกันต่อไปใน จิรานันตา กลับมาล้อมวงชีวิตทานข้าวร่วมโต๊ะ พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งหนึ่ง ทิ้งบาดแผลและรอยร้าวทุกรอยไว้เบื้องหลังเหลือเพียงรอยเท้ารอยใหม่จะก้าวต่อไปข้างหน้า,ขอคารวะจิตวิญญาณหาญเก่งและหาญกล้า ,ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์, และทีมงานสร้างทุกท่านครับ.,แจ๋วริมจอ,jaewrimjor@gmail.com
จบลงอย่างสงบงามในความเป็น จิระอนันต์ สนับสนุนธีม (THEME) หลักในชื่อภาษาอังกฤษที่ว่า In Family We Trust-เราเชื่อมั่นในสถาบันครอบครัว
null
เลือดข้นคนจาง,เลือดข้นคนจาง ตอนจบ,แจ๋วริมจอ,ทีวีบันเทิง,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1419065
เลือกตั้ง 2562 : วิษณุ คาดได้ ครม.ชุดใหม่เดือน มิ.ย.นี้
นอกจากกระแสข่าวว่า ส.ว.ชุดแรก 250 คนที่พิจารณาแต่งตั้งโดย คสช. จะมีสมาชิก สนช.จำนวนหนึ่งรวมอยู่ด้วยแล้ว ล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ยอมรับว่าเป็นไปได้ที่จะมีรัฐมนตรีบางคนใน ครม.-คสช.จะเป็น ส.ว.ด้วย และหากจะเป็นจริง มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับ ครม.ที่จะขับเคลื่อนงานต่อไป แต่ย้ำถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามว่าต้องลาออกจากความเป็นรัฐมนตรี ก่อน คสช.นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อแต่งตั้งนายวิษณุ ยังกล่าวอีกว่า หาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ คสช.ก็ต้องพิจารณาคัดเลือก ส.ว.รวม 250 คนให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันหลังจากนั้น และเป็นไปได้ว่า ครม.ชุดใหม่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. แต่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วหากนับ 3 วันจากวันประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.จะต้องประกาศชื่อ ส.ว.ในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 11 พ.ค. และต้องประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายใน 15 วันนับแต่ประกาศผลเลือกตั้ง ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่ารัฐพิธีที่พระมหากษัตริย์ทรงเรียกประชุมรัฐสภา จะเกิดขึ้นในวันที่ 23 พ.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ หาก กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ค. และประกาศรับรอง ส.ว. 250 คนในวันที่ 11 พ.ค. นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าอาจมีคนใน ครม.ชุดปัจจุบันร่วมเป็นวุฒิสมาชิกด้วย
การเมือง
เลือกตั้ง62,ครม.ใหม่,ส.ว.250 คน,วิษณุ เครืองาม,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/279748
ฆ่าเผาศพในสวนลำไยเชียงใหม่ เร่งส่งชันสูตร คาดเป็นพยาบาลสาวใหญ่
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 59 ร.ต.อ.ยืนยงค์ ไผ่ล้อม รอง สว.สส.สภ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านพบซากโครงกระดูกคนถูกฆ่าแล้วเผาในสวนลำไย เหตุเกิดที่สวนลำไย หมู่ 18 บ้านโทกเสือ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์เวร รพ.ดอยหล่อ เดินทางร่วมไปดูที่เกิดเหตุ โดยสภาพศพแทบไม่เหลือหลักฐานใดๆ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นพบเป็นผู้มาพบ ทราบเพียงว่าเมื่อประมาณ วันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา เห็นไฟลุกไหม้ในสวนลำไย แต่คิดว่าเป็นการเผาขยะและหญ้าแห้ง กระทั่งมีคนไปพบกองกระดูกคนถูกเผา ตรวจสอบรอบๆ เจ้าหน้าที่พบยางรถยนต์ไหม้ เศษไม้ ถังพลาสติกใส่น้ำมัน เศษเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้และกองกระดูกที่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณคล้ายกับทำลายหลักฐานไม่ให้เป็นกองเดียวกัน จึงรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อติดตามหาญาติว่ามีใครหายไปในย่านนี้หรือไม่,ต่อมาทางตำรวจได้ทราบว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา นายธนพนธ์ ปารีเสน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 18 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ติดตามหาภรรยาชื่อ น.ส.เจนจิรา เกิดแล้ว อายุ 50 ปี บ้านเดิมอยู่ ต.หนองผึ้ง อ.สารภี เชียงใหม่ ทำงานเป็นนางพยาบาลวิชาชีพชั้นสูง รพ.แห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ โดยบอกว่า ภรรยาออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 59 ขณะนี้ยังไม่กลับบ้าน ซึ่งทางตำรวจได้ตาม นายธนพนธ์ มาดูหลักฐานบางส่วนที่พบ มีความมั่นใจว่า น่าจะใช้ น.ส.เจนจิรา,เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า ซากโครงกระดูกที่พบอาจจะเป็น น.ส.เจนจิรา ที่หายตัวไป คนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี สาเหตุอาจจะมาจากปัญหาส่วนตัวระหว่างคนร้ายกับผู้ตายที่ตกลงกันไม่ได้จึงได้ลงมือสังหาร โดยคนร้ายเผาเพื่ออำพรางคดี ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจพอจะรู้สาเหตุแล้ว และนำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แน่ชัดว่า ผู้ตายเป็นใคร เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป,อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดี แต่ก็ปิดโทรศัพท์มือถือ และที่ติดต่อได้ก็บอกเพียงว่า ให้ทางนิติเวชยืนยันออกมาก่อนว่าผู้ตายเป็นใครให้แน่ชัด ทางตำรวจจึงจะดำเนินการได้ ในขณะนี้ยังไม่รู้ว่าโครงกระดูกที่พบเป็นของ น.ส.เจนจิรา หรือไม่ ต้องก็รอผลการตรวจชันสูตรก่อน.
ชาวบ้านดอยหล่อ พบศพถูกเผาเหลือแต่โครงกระดูกในสวนลำไยเชียงใหม่ โร่แจ้ง ตร. ตรวจสอบ ด้านหนุ่มใหญ่เข้าดูหลักฐานคาดเป็นภรรยาสาวใหญ่อาชีพพยาบาล หลังหายตัวไป 4 วัน
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าเผาศพ,ฆ่าอำพราง,ฆ่าหมกศพ,เชียงใหม่,ฆ่าเผาศพในสวนลำไย
https://www.thairath.co.th/news/local/809262
ยอมจ่าย 300 ยูโรกรณี โหลดไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ แล้ว หวังลูกสาวได้คืนแล็ปท็อปหมีพูห์โดยเร็ว
ความคืบหน้ากรณีตำรวจฟินแลนด์บุกค้นบ้านพร้อมยึดแล็ปท็อปวินนีเดอะพูห์ของเด็กหญิงวัย 9 ปี (ล่าสุด เธออายุ 10 ปีแล้ว) ในฐานะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดาวน์โหลดที่ผิดกฎหมาย หลังพ่อของเธอปฏิเสธจ่ายเงิน 600 ยูโรให้กับศูนย์ข้อมูลลิขสิทธิ์และต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ (The Copyright Information and Anti-Piracy Centre: CIAPC) หรือที่รู้จักกันในฟินแลนด์ในชื่อ TTVK ซึ่งพบว่ามีการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บเดอะไพเรตเบย์ จึงตามรอยและส่งหนังสือเรียกเก็บเงิน เพื่อยุติเรื่องนี้ โดยพ่อของเด็กระบุว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาไม่ได้ดาวน์โหลดเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวและยังได้ซื้ออัลบั้มของศิลปินคนดังกล่าวด้วยล่าสุด เว็บ Torrentfreak รายงานว่า Aki Nylund พ่อของเด็กหญิง ตกลงใจจ่ายเงินครึ่งหนึ่งจากที่มีการเรียกเก็บไว้ (300 ยูโร) พร้อมทั้งหวังว่าลูกสาวจะได้แล็ปท็อปคืนมาในไม่ช้าขณะที่ Antti Kotilainen ผู้อำนวยการ CIAPC ระบุว่า หลังบรรลุข้อตกลงกับพ่อของเด็กหญิง CIAPC ได้ถอนการแจ้งความแล้วทั้งนี้ ฟินแลนด์ไม่ใช่ประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่มีการปราบปรามการดาวน์โหลดที่ผิดกฎหมาย ในปี 2552 ฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมายต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือกฎหมาย HADOPI ต่อมา มีการร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันนี้ในสหราชอาณาจักร รวมถึงเกาหลีใต้และนิวซีแลนด์กฎหมายดังกล่าว มีลักษณะ Three Strikes Law คือ จะร้องขอบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตส่งจดหมายเตือนไปยังลูกค้าที่ถูกกล่าวหาว่าดาวน์โหลดเนื้อหาที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีการร้องขอโดยผู้ถือลิขสิทธิ์ และหลังจากการเตือนครั้งที่สาม กรณีนั้นๆ จะถูกนำขึ้นศาลคดีลิขสิทธิ์
หลังถูกกล่าวหาว่าดาวน์โหลดไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ ชายชาวฟินแลนด์ยอมจ่าย 300 ยูโรแล้ว หวังลูกสาวได้แล็ปท็อปหมีพูห์ที่ถูกตำรวจยึดไปคืนมาโดยเร็ว ด้าน CIAPC ยอมถอนแจ้งความ
ต่างประเทศ,ไอซีที
การละเมิดลิขสิทธิ์,ฟินแลนด์
https://prachatai.com/journal/2012/12/44018
แปลงนาเป็นโรงไฟฟ้า
ที่เข้าร่วม โครงการกองทุนหมู่บ้าน รวมทั้ง การจำหน่ายไฟฟ้าเหลือใช้จากครัวเรือนเข้าสู่ระบบไฟฟ้าส่วนกลาง,ผมอ่านแล้วก็ดีใจที่เห็น นายกรัฐมนตรี มีวิสัยทัศน์ทันยุคทันสมัย ผมพยายามเขียนเรื่องนี้มาหลายปี แต่ไม่สำเร็จ กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อยากได้แต่ โรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่มีราคาแพง เพราะต้องใช้เทคโนโลยีสูงกำจัดมลพิษจากการเผาไหม้,ความจริง การให้ครัวเรือนชนบทผลิตไฟฟ้าจากแสงแดดใช้เอง ไม่ใช่เรื่องใหม่ กระทรวงมหาดไทย เคยทุ่มงบเป็นหมื่นล้านบาททำเรื่องนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว พอเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนรัฐมนตรี โครงการดีๆที่ลงทุนไว้แล้วก็ถูกทอดทิ้งให้เป็นซาก เพื่อไปซื้อของใหม่ เปลี่ยนกันรับประทานอย่างนี้ ประเทศไทยจึงไม่เจริญยั่งยืนสักที,เมื่อ นายกรัฐมนตรี เกิดปิ๊งโซลาร์เซลล์ขึ้นมา มีคำสั่งให้ กระทรวงพลังงาน และ กระทรวงมหาดไทย ไปร่วมกันทำ โครงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน ถ้ามีไฟฟ้าเหลือใช้ ก็ให้ขายเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้า (เอกชนเรียกร้องมานานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหวงก้าง) ผมขอเชียร์เต็มที่ครับ,เพื่อให้ นายกรัฐมนตรีได้เห็นของจริงในโลกนี้ ผมขอนำข้อมูลที่ World Economic Forum (WEF) ที่เพิ่งส่งมาให้ผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องของ รัฐกรณาฏกะ รัฐทางใต้ของอินเดีย ชื่อนี้คนไทยอาจไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่าเมืองหลวงของรัฐนี้ชื่อ บังกาลอร์ เมืองเทคโนโลยีของอินเดียที่ได้ชื่อว่า ซิลิคอน วัลเลย์ แห่งอินเดีย คนไทยคงรู้จักกันดี,รัฐกรณาฏกะ (Kamataka) ไม่ใช่รัฐเล็กๆ มีประชากร 64–65 ล้านคน น้อยกว่าไทยแค่ 3-4 ล้านคน แต่สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในรัฐนี้ จน เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ต้องนำมาเผยแพร่ก็คือ ปีที่แล้ว 2560 รัฐกรณาฏกะ กลายเป็น รัฐที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งแล้วสูงถึง 12.3 กิกะวัตต์ หรือ 12,300 เมกะวัตต์ เป็นไฟฟ้า จาก แสงแดด 5,000 เมกะวัตต์ จากพลังงานลม 4,700 เมกะวัตต์ และจากพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น น้ำ ไบโอแมส ความร้อน 2,600 เมกะวัตต์ แต่ผลิตจาก โรงไฟฟ้าถ่านหิน เพียง 9,800 เมกะวัตต์ เท่านั้น,รัฐกรณาฏกะ ทั้งรัฐผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้มากกว่าถ่านหินถึง 2,500 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นถึง ศักยภาพอันมั่นคงของพลังงานหมุนเวียน ที่คนไทยเคยได้รับ ข้อมูลผิดๆจากหน่วยงานรัฐ ที่ต้องการสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหินราคาแพง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา,ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ใน รัฐกรณาฏกะ ที่มีปัญหา ขาดแคลนไฟฟ้าขั้นวิกฤติ แทนที่จะสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหิน แบบไทย ผู้บริหารรัฐกรณาฏกะ กลับ ก้าวข้ามการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินไปสู่พลังงานหมุนเวียน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม WEF อ้างรายงานของ สถาบันคลังสมองสหรัฐฯ (IEEFA) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ระบุว่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการผลักดันของรัฐบาลกรณาฏกะ จนทำให้ การประมูลไฟฟ้าจากโซลาร์เซลส์ถูกลงอย่างมาก เหลือเพียง 2.82-3.06 รูปีต่อหน่วย หรือ 1.3818-1.4994 บาทต่อหน่วย (1 รูปีเท่ากับ 0.49 บาท) ถูกกว่าไฟฟ้าจากถ่านหินเยอะ เขาทำได้ เพราะ รัฐบาลไม่ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองเสียเอง สิ่งดีๆเหล่านี้จึงเกิดขึ้นได้,ที่น่าทึ่งสุดๆ ก็คือ รัฐบาลกรณาฏกะ ได้จับมือ เป็นหุ้นส่วน กับ ชาวนา เพื่อเอาที่นาของชาวนามาสร้าง โรงไฟฟ้าแสงแดด โดยรัฐบาลจ่ายค่าเช่านาให้ชาวนา จนสามารถสร้าง โรงไฟฟ้าแสงแดด Pavagada industrial solar park กำลังการผลิต 2 กิกะวัตต์ หรือ 2,000 เมกะวัตต์ เป็น โรงไฟฟ้าแสงแดดที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ล่าสุดได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เรียกว่า solar-wind hybrid ผลิตไฟฟ้าจากแดดและลมในที่เดียวกัน เป็นแห่งแรกในอินเดีย,เป็นไอเดียดีๆที่ผมขอนำมาฝาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไว้ตรงนี้ครับ หวังว่า โครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงแดดในครัวเรือนทั่วประเทศ จะไม่ถูกขัดขวางจนล่มเสียก่อน.,ลม เปลี่ยนทิศ
มีข่าวเล็กๆชิ้นหนึ่งวันก่อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งใน ครม.ให้ กระทรวงพลังงาน ประสานกับ กระทรวงมหาดไทย ติดตั้ง ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในครัวเรือนประชาชน
null
หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ,โรงไฟฟ้า,โซลาร์เซลล์,ชาวนา
https://www.thairath.co.th/news/local/1348998
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนอากาศหนาวช่วงส่งท้ายปี-ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักถึง 3 มกราคม
หย่อมความกดอากาศสูงจะปกคลุมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทำให้พื้นที่ตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาสูงอุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส31 ธ.ค. 2559 ออกประกาศฉบับที่ 8 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากภาคใต้ตอนล่าง และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย เมื่อเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 30 ธ.ค. มีรายละเอียดดังนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมประเทศไทย ภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 - 3 มกราคม 2560 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในบางพื้นที่ระหว่างวันที่ 1-3 มกราคม 2560 ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2560 ไว้ด้วยอนึ่ง ในช่วงวันที่ 1-3 มกราคม 2560 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน และลำปางสำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย และจะปกคลุมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ โดยบริเวณเทือกเขาในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 23.00 น.กรมอตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 05.00 น.(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนหลังลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมประเทศไทย ภาคใต้และอ่าวไทย ขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำ จะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขณะที่พื้นที่ตอนบน
สิ่งแวดล้อม
กรมอุตุนิยมวิทยา,น้ำท่วมฉับพลัน,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,ภาคเหนือ,ภาคใต้,ฤดูหนาว,ลักษณะอากาศ,หย่อมความกดอากาศสูง
https://prachatai.com/journal/2016/12/69448
เตรียมเปิดม่านสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ผลัก 4 เรื่องหลัก มะเร็ง-เพศภาวะ-การใช้ยา-ไร้แร่ใยหิน
เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว-มาตรการทำสังคมไทยไร้แร่ใยหิน พร้อมโชว์ความสำเร็จจากการขับเคลื่อนมติสมัชชาฯ21 พ.ย.2562 ที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) แถลงข่าว การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯนพ.กิจจา เรืองไทย ประธาน คจ.สช. กล่าวว่า สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเป็นพื้นที่กลางที่เปิดให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพแบบมีส่วนร่วม โดยคำว่า สุขภาพ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ครอบคลุมทั้งสุขภาพทางกาย ใจ สังคม และปัญญา สำหรับปีนี้ คจ.สช. เห็นร่วมกันที่จะกำหนดแนวคิดหลักการจัดงาน คือ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ เพราะในปัจจุบัน สังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ หรือที่เรียกว่า Disruption ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการพัฒนาสิ่งใหม่จากโอกาสใหม่ๆ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิม (Transform) คจ.สช. จึงอยากสื่อสารกับสังคมว่า ระบบสุขภาพไทยก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน ทุกภาคส่วนจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงาน เพื่อร่วมกันเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลง ทั้งสังคมสูงอายุ ความแตกต่างทั้งวิถีชีวิต วิธีคิดระหว่างกลุ่มวัย (Generation) เทคโนโลยี จนถึงการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตประจำวันระเบียบวาระการประชุมที่สมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 12 กว่า 2500 คน จากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคราชการ การเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ วิชาชีพ ภาคประชาชน และเอกชนจะพิจารณาร่วมกันในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย 4 ระเบียบวาระ คือ1. ทบทวนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน เพราะแร่ใยหินทุกชนิดเป็นสารก่อมะเร็งที่มีผลต่อสุขภาพทั้งกับคนที่ทำงานสัมผัสแร่ใยหินโดยตรงและประชาชนทั่วไป ซึ่งในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 พ.ศ.2553 ได้มีมติเรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2554 เห็นชอบให้ดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ แต่การผลักดันยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรด้วยเหตุข้อขัดข้องต่างๆ จึงนำมาสู่ข้อเสนอให้มีการทบทวนมติสมัชชาฯ เรื่องนี้เพื่อให้เกิดการทบทวนและปรับมาตรการต่างๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และประสานความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น2. วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว ปัญหาการยึดติดวิถีเพศภาวะดั้งเดิมอันส่งผลให้ทั้งเพศหญิง เพศชาย และผู้หลากหลายทางเพศมีปัญหาทั้งทางร่างกาย จิตใจ ส่งผลต่อสุขภาวะครอบครัว รวมถึงความสูญเสียด้านเศรษฐกิจ นำมาสู่การเสนอประเด็นนี้เข้าเป็นหนึ่งในมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้ศ.ศิริพร จิรวัฒน์กุล ประธานคณะทำงานระเบียบวาระวิถีเพศภาวะฯ กล่าวว่า เพศภาวะคือเพศกำหนด หมายถึงว่าผู้หญิงต้องเป็นอย่างไร ผู้ชายต้องเป็นอย่างไร ประเด็นนี้ถูกกำหนดโดยสังคม รวมทั้งผู้หลากหลายทางเพศที่ก็ได้รับแรงกดดันทางสังคมจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต มตินี้จึงมุ่งไปที่ต้นเหตุของปัญหาคือครอบครัว เพื่อให้สังคมได้เรียนรู้และตระหนักในเรื่องนี้3. การจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง การใช้ยาไม่สมเหตุผลเป็นปัญหาสำคัญทั้งระดับโลกและระดับประเทศไทย โดยพบปัญหาการบริโภคยาอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาโดยไม่จำเป็น ใช้ยาตามการโฆษณาจากสื่อ ฯลฯ ในทุกระดับ ทั้งในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน รวมถึงพบการใช้ยาที่มีความเสี่ยงสูงในชุมชน เช่น ยาต้านจุลชีพ ยาสเตียรอยด์ ยาชุด เป็นต้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องดำเนินการทั้งระบบโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาของชุมชนเอง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาการใช้ยาในประเทศไทยอย่างยั่งยืนผศ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ประธานคณะทำงานระเบียบวาระการจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลฯ อธิบายว่า การใช้ยาสมเหตุสมผลคือใช้ถูกโรค ถูกคน ถูกขนาด ถูกเวลา ถูกระยะเวลา และที่สำคัญต้องถูกราคาด้วย การขับเคลื่อนในระยะต่อไปจะทำทั้งจากล่างขึ้นบนและจากบนลงล่าง โดยให้ทุกองคาพยพต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง4. รวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง มะเร็ง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย 20 ปีซ้อน ปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการเกิดโรคส่วนใหญ่เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจในการตรวจร่างกายเพื่อค้นหามะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ขณะที่ การป้องกัน เช่น การรักษาสุขภาพและการตรวจคัดกรองซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องเร่งดำเนินการกลับเป็นจริงได้ยาก เพราะประชาชนขาดความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก รวมถึงยังไม่รู้เท่าทันสื่อที่เข้าถึงประชาชนอย่างมากมายโดยเฉพาะทางสังคมออนไลน์ ดังนั้นชุมชนจึงต้องมีบทบาทและส่วนร่วมรวมพลังกันเพื่อต้านมะเร็งนพ.อุกฤษฏ์ มิลินทางกูร ประธานคณะทำงานระเบียบวาระรวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่มีมานาน มีการศึกษาวิจัยเป็นจำนวนมาก โดยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อยู่ที่พฤติกรรมของประชาชนเอง ขณะเดียวกันสิ่งแวดล้อมก็เอื้อต่อการมีพฤติกรรมที่เหมาะสมเช่นกัน ชุมชนจึงเป็นมิติที่ขาดหายไปในการป้องกันมะเร็ง วาระนี้จึงเป็นการหาแนวทางที่จะทำให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้กับมะเร็งนพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มีมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันรวม 11 ครั้ง มีมติสมัชชาฯ ทั้งสิ้น 81 มติ ซึ่งนอกจากจะนำเสนอมติเหล่านี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามบทบาทที่เกี่ยวข้อง คสช. ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ทำหน้าที่สนับสนุนให้หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมติสมัชชาฯ ร่วมมือกันขับเคลื่อนมติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยใช้หลักการสำคัญคือ การสานพลังความร่วมมือ กำหนดเป้าหมายและแผนการขับเคลื่อน โดยกำหนดหน่วยงานหลักหน่วยงานรองที่ทำงานหนุนเสริมกันไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรายงานและผลัดเปลี่ยนกันนำเสนอผลการขับเคลื่อนมติในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติทุกปีนพ.ประทีป กล่าวต่อว่า ตัวอย่างรูปธรรมการขับเคลื่อนมติสมัชชาฯ มีหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ดำเนินการจนสามารถเปลี่ยนทิศทางของประเทศได้และเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ คือ เรื่อง เกษตร-อาหารปลอดภัย ซึ่งสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมีมติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลายครั้ง คือ ครั้งที่ 1 5 และ 8 จากการขับเคลื่อนที่ผ่านมา สช. รวมกับหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่ายได้แสดงจุดยืนในการผลักดันให้เกิดการดำเนินการตามมาตรการ ลด-ละ-เลิก การใช้สารเคมีทางการเกษตรที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่การมติแบน 3 สารเคมีเกษตร คือ ไกลโฟเสต พาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส จากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา และในการขับเคลื่อนมติยังมีการเตรียมการยกร่างพระราชบัญญัติเกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาต่อไป ซึ่งจะเป็นการปรับทิศเปลี่ยนทางของระบบเกษตร-อาหารของประเทศไทยด้วยตลอดระยะเวลา 12 ปีของการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ถือได้ว่าเรามีบทบาทสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทย กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในต้นแบบกระบวนการมีส่วนร่วมทางนโยบาย แม้แต่องค์การอนามัยโลกก็ยอมรับว่าสมัชชาสุขภาพเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน เน้นการเสริมศักยภาพของประชาชนและสร้างจิตสำนึกแห่งความเป็นพลเมือง สอดคล้องกับแนวคิดสากลว่าด้วยทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพหรือ Health in All Policies นพ.ประทีป กล่าวภายหลังการแถลงข่าวมีกิจกรรม Flash Mop กินยาผิด ติดไซเรน รณรงค์เรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งเป็นหนึ่งในระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้ ณ ลานสกายวอล์ค ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตระหนักถึงการใช้ยาที่ถูกต้อง โดยมีการจัดทำมิวสิควิดิโอการแสดงดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในวงกว้างอีกด้วยทั้งนี้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเป็นการดำเนินกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ในปีนี้ นอกเหนือจากการพิจารณา 4 ระเบียบวาระหลัก ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาพิเศษ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ การเสวนาต่างๆ เช่น การป้องกัน ควบคุม และจัดการผลกระทบจากนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์ จากเด็กหลอดแก้วถึงการแช่แข็งมนุษย์: ชีวจริยธรรมเรื่องที่ต้องการการมีส่วนร่วมของสังคม สุขภาวะกับการท่องเที่ยวชุมชนย่านเก่า ที่ดินคือชีวิต ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ฯลฯ รวมถึงนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ Making The Invisible Visible: การมีส่วนร่วมในการจัดการ PM2.5 เพื่ออากาศสะอาด การจัดการขยะในทะเล กลั่นแกล้งออนไลน์ ภัยร้ายปลายนิ้ว พลังสร้างสรรค์ของเด็กพิเศษ เป็นต้น
เตรียมจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 วันที่ 18-20 ธ.ค.นี้ หารือ 4 นโยบายสำคัญ รวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง-การจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง- วิถีเพศภาวะ:
คุณภาพชีวิต
สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ,มะเร็ง,การใช้ยาอย่างสมเหตุผล,เพศภาวะ,แร่ใยหิน
https://prachatai.com/journal/2019/11/85247
อภิสิทธิ์เชื่อข้อเสนอนิติราษฎร์สุดท้ายจะพ่วงเรื่องทักษิณด้วย
เข้าไปด้วย พร้อมแนะรัฐบาลยุติการแก้ รธน. ถอนร่างกฎหมายปรองดองเพื่อนำมาหารือกับทุกฝ่ายหลังจากที่เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะนิติราษฎร์มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง และต่อมามีการอธิบายข้อเสนอดังกล่าว นำโดยวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล และจันทจิรา เอี่ยมมยุรา เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นั้น และ ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง ระบุถึงข้อเสนอให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญของนิติราษฎร์ว่า เป็นการปฏิเสธกระบวนการที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งพยายามที่จะหาเงื่อนไขหรือหาข้อยกเว้น ซึ่งตนคิดว่า ทุกอย่างต้องมีขอบเขตเช่น การนิรโทษกรรม หากเป็นความผิดทางการเมืองโดยแท้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถึงขั้นฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มีการยุยงให้ใช้ความรุนแรง ตนคิดว่าคงไม่ใช่และคำถามคือเหตุใดจึงไม่ปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนเช่น กรณีการเผาศาลากลาง ที่ทางศาลมีการเขียนในคำพิพากษาว่า เมื่อมีมูลเหตุ มีความขัดแย้งทางการเมือง ท่านก็ลดโทษให้ นี่ก็คือการที่กระบวนการยุติธรรมรองรับตรงนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นความพยายามตรงนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากว่า พรรคพวกตัวเองทำอะไรก็บอกว่าจะไม่ผิด เป็นเรื่องเหตุจูงใจทางการเมือง และสุดท้ายในไม่ช้าก็ต้องพ่วงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าไปด้วยนายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า หาก พ.ต.ท.ยอมรับความผิดและยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทยและกลับประเทศ ประเทศไทยจะมีวิธีการให้อภัย พ.ต.ท.ทักษิณว่า ตนเชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งขณะนี้ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือ การเอาตัวบุคคลมาอยู่เหนือกฎหมาย แต่หากมีคนยอมรับกฎหมาย ทุกอย่างจะคลายลง และกระบวนการต่างๆ มีทั้งสิ้นเช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ แต่หากคุณพยายามจะบอกว่าศาลตัดสินแล้ว ผมไม่ผิดนั้นเป็นไปไม่ได้ส่วนพยายามของรัฐบาลในการหาทางออกเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์เสนอว่า ความจริงตนเสนอไปแล้วคือ ควรยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการถอนกฏหมายปรองดอง และมาหารือว่าตรงไหนที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมของนิติราษฎร์ ถามทำไมปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากผูกเรื่องแรงจูงใจทางการเมืองเข้าสู่การนิรโทษกรรมสุดท้ายก็ต้องพ่วงเรื่อง ทักษิณ
การศึกษา
กระบวนการปรองดองแห่งชาติ,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ,คณะนิติราษฎร์,ทักษิณ ชินวัตร,นิรโทษกรรม,ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
https://prachatai.com/journal/2013/01/44702
กฟผ. แจ้งยังไม่รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง
เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เผยได้รับจดหมายชี้แจงจาก กฟผ. ตอบข้อชี้แจงกรณีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง ว่ายังไม่ได้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการนี้9 ส.ค. 2563 องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) ประเทศไทย แจ้งข่าวว่านายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของและเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เปิดเผยว่าได้รับจดหมายชี้แจงจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตอบข้อชี้แจงกรณีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง (Luang Prabang dam project) ว่ายังไม่ได้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง ซึ่งโดยก่อนหน้านี้เครือข่ายฯ ได้มีจดหมายไปยัง กฟผ. เพื่อสอบถามนายนิวัฒน์กล่าวว่าหนังสือชี้แจงจาก กฟผ. มีใจความสำคัญระบุว่าปัจจุบัน กฟผ.ยังไม่ได้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบางหากจะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนใน สปป.ลาวจะต้องมีกระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติ คือมีการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ปี 2561-2580 (PDP 2018) ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยแผน PDP 2018 ผ่านการพิจารณากลั่นกรองและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปต่อมา ครม. มีมติรับทราบแผนดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 โดยในแผนระบุว่ามีแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านรวม 3500 เมกะวัตต์ ในปี 2569-2578 โดยกระบวนการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานอนุกรรมการดังกล่าว โดยคณะอนุกรรมการประสานฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นหน่วยงานหลักในการนำหลักเกณฑ์การพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังน้ำใน สปป.ลาว มาพิจารณาและ กกพ.ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งประกอบด้วย กรรมการกำกับกิจการพลังงาน 3 คน ผู้แทนสำนักงานนโยบายแผนพลังงาน 1 คนและผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน 5 คนนายนิวัฒน์ กล่าวว่าในหนังสือนี้ กฟผ.ยังชี้แจงว่าปัจจุบันมีโครงกาเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลักเสนอขายไฟฟ้าให้กับประเทศไทยจำนวน 4 โครงการคือ โครงการเขื่อนปากแบง ปากลาย สานะคาม และหลวงพระบาง โดยขั้นตอนการพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังน้ำใน สปป.ลาว ตามหลักเกณฑ์นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการจัดหาฯและทางกระทรวงพลังงานอาจมีการพิจารณาทบทวนแผน PDP2018 จากผลกระทบการระบาดโรค COVID19 ทำให้ความต้องการไฟฟ้าในประเทศไม่เป็นไปตามแผนเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงได้ส่งหนังสือขอให้ กฟผ.พิจารณาระงับการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนหลวงพระบางและเขื่อนอื่น ๆ บนแม่น้ำโขงสายหลักและส่งข้อกังวลด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านและสถานการณ์การระบาดของโรค COVID19 ได้ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยลดลงอย่างมากส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองของประเทศสูงมากเกินความจำเป็นนางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา สมาชิกเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงกล่าวว่าการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตคนลุ่มน้ำอย่างรอบด้านแม่น้ำโขงเป็นมากกว่าพลังงานไฟฟ้า แต่เป็นพลังงานความมั่นคงทางอาหารที่โอบอุ้มหล่อเลี้ยงผู้คนนับล้าน ๆ คน สถานการณ์การระบาดของ COVIS19 ที่ผ่านมา แม่น้ำโขงได้ผลิตอาหารรองรับผู้คนและผู้คนชาวแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่อื่น ๆ และสามารถส่งปลาให้คนเมืองได้บริโภค ช่วยบรรเทาการขาดแคลนอาหารอย่างเห็นได้ชัดและ กฟผ. ควรคำนึงถึงปัญหาเดิมที่ยังไม่แก้ไข การรับซื้อไฟฟ้าในขณะที่ไฟฟ้าสำรองมีเกินเพียงพอ จะทำให้ไทยขึ้นชื่อว่าไฟฟ้าที่ได้มาจากเขื่อนเป็นไฟฟ้าที่มาจากคราบน้ำตาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มาจากการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไม่ใยดีอนึ่งเดือน ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงได้ออกจดหมายถึง กระทรวงพลังงานและ กฟผ. เรื่องสอบถามถึงแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง บนแม่น้ำโขงและขอให้ทบทวนพิจารณาระงับการซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบางเนื่องจากขณะนี้มีการผลักดันการสร้างเขื่อนหลวงพระบางเป็นโครงการเขื่อนแห่งที่ 5 ที่เสนอเพื่อก่อสร้างบนแม่น้ำโขงสายหลักโดยมีการประกาศครบวาระของกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า (PNPCA) ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง ปี 2538 (1995 Mekong Agreement) เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา มีประเทศไทยเป็นเป้าหมายของการรับซื้อไฟฟ้า
เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เผยได้รับจดหมายชี้แจงจาก กฟผ. ตอบข้อชี้แจงกรณีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง ว่ายังไม่ได้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการนี้9 ส.ค. 2563
สังคม,คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม
นิวัฒน์ ร้อยแก้ว,กลุ่มรักษ์เชียงของ,เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย,กฟผ.,ลาว,แม่น้ำโขง,เขื่อนหลวงพระบาง,เขื่อนบนแม่น้ำโขง,องค์กรแม่น้ำนานาชาติ,International Rivers,อ้อมบุญ ทิพย์สุนา
https://prachatai.com/journal/2020/08/88958
คุยก่อนปรองดอง#2 ใบตองแห้ง: สื่อควรแข่งขัน ถ่วงดุล และตรวจสอบกันอย่างอิสระ
ขณะที่กระบวนการพูดคุยเพื่อความปรองดองกำลังเดินหน้า กับ 11 คำถามของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่มีหลากหลายประเด็นครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการเมือง กระบวนการยุติธรรม ปัญหาคอร์รัปชัน ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปฏิรูปสื่อฯ ความเหลื่อมล้ำในสังคม ฯลฯ ประชาไทสัมภาษณ์ อธึกกิต แสวงสุข หรือ ใบตองแห้ง บรรณาธิการข่าวการเมืองอาวุโส วอยซ์ทีวี ในประเด็นด้านสื่อกับคำถามว่า ท่านมีแนวทางในการไม่ให้สื่อตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งได้อย่างไรอธึกกิต ให้ความเห็นว่า ภาพรวมของการปรองดองครั้งนี้แม้มีการกล่าวถึงกระบวนการที่คล้ายการนิรโทษกรรมแกนนำและประชาชนกลุ่มต่างๆ แต่แท้จริงแล้วเนื้อในเป็นการเคลื่อนย้ายระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ และการแสดงความคิดเห็น ให้ไปอยู่ในรัฐธรรมนูญใหม่ สร้างรัฐแห่งการควบคุม ให้ทุกสิ่งอยู่ในกรอบที่ คสช. วางไว้ ไม่ต้องการให้มีการต่อต้าน และแม้จะมีกรอบของรัฐธรรมนูญวางไว้แล้ว ก็ยังต้องออกกฎหมายควบคุมมาเสริม เช่น พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน (พ.ร.บ. สื่อ) พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งการพยายามควบคุมเรื่องพระสงฆ์และพุทธศาสนารัฐบาลพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเอกภาพนำไปสู่สังคมใต้บังคับบัญชาที่เรียกว่าการปรองดอง เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ได้นำสู่ประชาธิปไตยที่เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น ด้วยจุดมุ่งหมายทางความมั่นคงเขามองว่า นี่คือการปรองดองที่ไม่ได้เจรจาแบบที่นักการเมืองมีอำนาจต่อรอง ชูเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูป ระบอบความมั่นคงนำไปสู่ความเจริญ สร้างความฝันแบบจีนที่เมื่อเศรษฐกิจดีเราจะมั่นคงขณะที่สื่อเองก็เป็นกลไกส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคง จึงมีความจำเป็นต้องควบคุมสื่อ ที่ผ่านมาสื่อกระแสหลักแม้ไม่ได้เป็นศัตรูกับ คสช. แต่จำต้องควบคุมไม่ให้มีแรงกระเพื่อม เพราะถ้าปล่อยให้สื่อสร้างความเคลื่อนไหวจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคง รัฐบาลนี้มีเป้าหมายอันดับแรกคือความมั่นคง ต่อมาจึงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ส่วนสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสุดท้ายที่รัฐบาลจะนึกถึงจากคำถามที่ว่า ท่านมีแนวทางในการไม่ให้สื่อตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งได้อย่างไร เราอาจตีความได้ว่า สื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งอธึกกิตให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า สังคมขัดแย้งและสื่อเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง สื่อมีส่วนแต่ไม่ได้เป็นผู้เดียวที่สร้างความขัดแย้ง เป็นความจริงที่สื่อไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรทำ สื่อทำตัวเองเป็นตะเกียงไม่ใช่กระจก ทิ้งหลักการสำคัญของตัวเองในเรื่องการแสดงความคิดเห็น ปกป้องเสียงข้างน้อย และตรวจสอบอำนาจรัฐ ที่ผ่านมาสื่อทำเกินกรอบหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองประชาธิปไตย สื่อมีบทบาทที่นำไปสู่การรัฐประหาร การล้อมปราบ โดยไม่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในเวลานั้นเราเรียกสื่อเหล่านี้ว่า สื่อเลือกข้าง ซึ่งจริงๆ เลือกข้างได้ แต่อะไรคือกรอบเกณฑ์ของสื่อ นั่นคือสื่อต้องรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตย เพราะเมื่อรัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตยสื่อก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องธรรมกาย สื่อได้ตรวจสอบการใช้อำนาจนี้ไหม เรื่องนี้ต้องแยกระหว่างการไม่เห็นด้วยกับธรรมกายกับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐบาลนอกจากความพยายามวางกรอบผ่านรัฐธรรมนูญแล้ว รัฐบาล คสช. ยังวางกรอบผ่านร่างกฎหมาย โดยล่าสุด สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ด้านสื่อสารมวลชนได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. สื่อ ฉบับใหม่ ที่องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนออกแถลงการณ์แสดงการคัดค้าน เนื่องจากใน พ.ร.บ.ระบุให้มีการจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติให้เป็นองค์กรตามกฎหมายที่มีอำนาจในการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพและองค์กรสื่อมวลชน ซึ่งย่อมเป็นการเปิดช่องให้มีการแทรกแซงการทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระของสื่อมวลชนของฝ่ายการเมืองโดยผ่านสภาวิชาชีพดังกล่าวอธึกกิตกล่าวว่า กฎหมายที่ออกมาเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ความขัดแย้ง แต่จะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวาย ทำให้ปัญหาของสื่อมากยิ่งขึ้น เขาเชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.สื่อนี้หากเป็นสื่อกระแสหลักจะไม่ได้ถูกลิดรอนเรื่องการออกใบอนุญาต เพราะสื่อใหญ่ยังมีอิทธิพลต่อรองกับรัฐบาล แต่ที่เดือดร้อนคือสื่ออิสระ สื่อออนไลน์ เพราะจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดและทำให้การขอใบอนุญาตเป็นเรื่องยากพ.ร.บ.คุ้มครองสื่อ แท้จริงก็คือ พ.ร.บ.ควบคุมสื่อ เพราะเป็นการเอาอำนาจรัฐมาควบคุมสื่อ ทั้งที่รัฐเป็นผู้ที่จะต้องถูกสื่อตรวจสอบ แต่ถ้ารัฐเข้ามามีอำนาจควบคุมสื่อ หรือให้คุณให้โทษสื่อ ก็จะทำให้เกิดการเบี่ยงเบนว่าจะใช้อำนาจตรวจสอบสื่ออย่างไร การตรวจสอบสื่อควรเป็นเรื่องผู้บริโภค ควรเปิดเสรีภาพให้สื่อแข่งขันกันเพื่อถ่วงดุล ไม่ใช่ใช้อำนาจในการลงโทษและถอนใบอนุญาต เหมือนต้องมีใบอนุญาตให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งมันตลกนอกจากนี้แนวคิดที่ให้สภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติมีอำนาจที่จะควบคุมเป็นหลักการที่ผิด สื่อควรตรวจสอบกันเองแต่ไม่ใช่การควบคุมกัน เนื่องจากสื่อเป็นคู่แข่งกันทางธุรกิจและทางความคิดเห็น ในองค์กรสื่อไม่อาจเอาเสียงข้างมากมาคุมเสียงข้างน้อยได้ เพราะสื่อมีหลักการปกป้องเสียงข้างน้อย เขาชี้ว่า วงการสื่อยกระดับมาด้วยการแข่งขัน ทุกวันนี้เกิด 18 อรหันต์แบบคอลัมนิสต์ที่มีอิทธิพลต่อกระแสข่าวทางการเมืองเมื่อ 20-30 ปีก่อน เช่น กระสุนทอง พญาไม้ มดคันไฟไม่ได้ เพราะการแข่งขันทำลายพวกนี้ไปหมดแล้ว ทุกวันนี้รายการคุณอาจได้รับความนิยม แต่ถ้าคุณพูดผิดคุณก็ถูกถ่วงดุล อิทธิพลสื่อหายไปหมดแล้วเมื่อร่าง พ.ร.บ.สื่อ มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางควบคุมสื่อ สื่อยังจะสามารถแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ และนำเสนอความจริงที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมได้หรือไม่ อธึกกิตกล่าวว่า ปัจจุบันใครก็เป็นสื่อได้ พลังมาจากสื่อกระแสรอง ข่าวจำนวนมากมาจากโลกออนไลน์ ข่าวจากสื่อกระแสหลักคือข่าวที่ เนื้อหามาจากรัฐบาล เช่น ข่าวรัฐบาลแถลงการณ์ ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อก็ไม่ได้มีความสำคัญมากเท่าในโลกออนไลน์แล้ว หน่วยงานรัฐอาจจะยังให้ความสำคัญเมื่อหนังสือพิมพ์พาดหัวถึงตัวเอง แต่คนทั่วไปอ่านเนื้อหาจากเพจในเฟซบุ๊กมากกว่าอ่านบทความจากคอลัมนิสต์ชื่อดังเขาชี้ว่า ทุกวันนี้การปลุกเร้าอารมณ์ของสื่อก็มีอิทธิพล มีคนสุดขั้วที่ติดตามสื่อที่เขียนอย่างไร้สติในสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนสังคม แต่กลับกันสิ่งที่สะท้อนในสังคมออนไลน์อาจไม่ใช่ตัวจริงทั้งหมดของเขา สื่อนำความสุดโต่งนั้นมาขยายให้ดูรุนแรง ทั้งที่จริงแล้วมีคนคิดสุดโต่งอย่างนั้นไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับอิทธิพลของสื่อในยุคก่อนแล้ว อธึกกิตเห็นว่า การที่สื่อจะมีอำนาจล้มรัฐบาลได้ ต้องตรึงรัฐบาลให้อยู่กับที่แล้วซ้ำไปเรื่อยๆ ตรึงคือสร้างกระแสเรื่องใดให้อยู่ยาวๆ พาดหัวข่าวอยู่ได้เป็นเดือน เช่น ในปี 2535 เมื่อสุจินดา คราประยูร เสียสัตย์เพื่อชาติ ทุกอย่างก็พลิก หรือชวน หลีกภัยที่พูดดีแต่ทำไม่ได้ กระทั่งสมัยทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักการตลาดสมัยใหม่ คิดนำหน้าสื่อ เปิดประเด็นใหม่ตลอดเวลา สื่อตามไม่ทัน กำลังตามเรื่องนี้มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว แต่จุดขาลงรัฐบาลเริ่มจากเรื่องเครื่องตรวจจับระเบิด CTX 9000 กับกรณีทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล ซึ่งพาดหัวข่าวได้นาน ทำให้สื่อตรึงรัฐบาลได้หลังจากนั้นขณะที่ปัจจุบัน เขามองว่า ประยุทธ์มีอำนาจปิดปากสื่อ สื่อสมยอม ไม่เห็นภาวะสื่อตรึงกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่อนาคตคาดว่าจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องเดียวแต่อาจเป็นการถูกตรึงซ้ายขวา แล้วรัฐบาลเปิดประเด็นใหม่ไม่ได้ แม้เรื่องธรรมกายรัฐบาลจะเป็นฝ่ายชิงพื้นที่สื่อได้ และสื่อไม่ได้มีพลังเหมือนเมื่อก่อนตอนตรึงทักษิณแต่ตอนนี้พลังมาจากสื่อกระแสรอง สนช.โดดประชุมมาจากไอลอว์ ฝายแม่ผ่องพรรณมาจากเฟซบุ๊ก สิ่งที่สะเทือนใจสังคมไม่ได้เกิดจากสื่อกระแสหลักอีกแล้ว ถึงแม้จะดูตรึงไม่ได้ แต่เกิดกระแสหลากหลายปั่นป่วน ช่องทางสื่อที่เหลือคือการต่อรอง ภาวะรัฐบาลแม้ดูเข้มแข็ง แต่กำลังจะอยู่ในช่วงขาลง ปัญหาเศรษฐกิจ และการต่อต้านต่างๆ ทำให้รัฐบาลคิดหนักว่าจะเปิดแนวรบกับสื่อแค่ไหน ขึ้นกับภาวะการเสื่อมความนิยมของรัฐบาลด้วยอธึกกิตเสนอว่า ความจริงแล้วสื่อเป็นภาพสะท้อนที่ผนวกอารมณ์คนชั้นกลาง สมัยก่อนสื่อกระแสหลักสะสมสิ่งเหล่านี้แล้วนำไปขมวดจุดชนวน เช่น ปี 2535 ที่คนชั้นกลางไม่พอใจนายกฯชาติชาย ชุณหะวัณ อย่างรุนแรง นำไปสู่การรัฐประหารโดยพลเอกสุจินดา แต่เมื่อสุจินดาเสียสัตย์ทุกอย่างก็พลิก มาจนถึงเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 การสลายการชุมนุม ปี 2551 2552 และ 2553 รวมทั้งการรัฐประหารครั้งล่าสุดในปี 2557 สื่อเป็นเสมือนภาพสะท้อนอารมณ์ของคนชนชั้นกลาง เอาแน่เอานอนไม่ได้ ผันผวน เอาแต่ใจตัว มีความถูกต้องในทางความรู้สึกบางเรื่อง แต่คล้ายกับเตลิดไปไกลจนไม่อยู่ในกรอบประชาธิปไตยหากมองกลับกัน จุดรวมอารมณ์ที่สร้างกระแสถึงที่สุดแล้วจะเป็นอันตรายต่ออำนาจทุกฝ่าย ภาวะเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ระบอบอำนาจปัจจุบันพอใจ บางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่คนชนชั้นกลางทั่วไปไม่ได้สนใจ เช่น เรื่องไผ่ ดาวดิน แต่คนเหล่านี้จะไปสนใจในเรื่อง 7 สนช.ไม่เข้าประชุม หรือทัวร์ฮาวาย อันเป็นสิ่งสะเทือนอารมณ์คนชั้นกลาง ทำให้ระบอบ คสช.ไม่อาจสบายใจได้ ดังนั้นจึงต้องควบคุมสื่อให้อยู่ในกรอบ ไม่ก่อให้เกิดความผันผวนแต่สิ่งที่ทำให้ คสช. แตกต่างจากคณะรัฐประหารตอนปี 2535 คือขณะนี้ คสช. ยังอยู่ในสถานะที่มั่นคงเพราะภาวะสังคมที่อับจนภูมิปัญญาไม่รู้จะไปทางไหน ไม่กล้ากลับสู่ประชาธิปไตยแบบเต็มใบ กลัวเกิดความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามจะถึงจุดที่เป็นขาลง ยิ่งในภาวะการเลือกตั้งหากคุมสื่อไม่ได้ อำนาจของรัฐบาลที่เคลื่อนย้ายไปสู่รัฐธรรมนูญใหม่ก็อาจมีสถานะอันตราย แต่ความจริงก็คือ แม้จะควบคุมสื่อได้แต่คุณควบคุมอารมณ์สังคมไม่ได้ข้อเสนอของอธึกกิตต่อประเด็นการคุ้มครองสื่อคือ ควรเปิดโอกาสให้สื่อแข่งขันกันอย่างเสรีไม่ต้องมีการควบคุม สื่อจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและถ่วงดุลกันเอง ส่งเสริมองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ยกระดับให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตรวจสอบสื่อ มีกองทุนให้คนที่ถูกสื่อรังแกใช้ในการดำเนินคดี เช่น หากมีคนฟ้องวอยซ์ทีวีละเมิดจรรยาบรรณ ร้องเรียนต่อองค์กรวิชาชีพสื่อ หากองค์กรวิชาชีพสื่อเห็นว่าผิดก็ออกคำแถลงประณาม ไม่ใช่ใช้อำนาจตัดใบอนุญาต สำหรับองค์ประกอบคณะกรรมการ เขาเสนอให้มาจากภาคประชาชน ไม่ใช่มาจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทุกวันนี้มีปัญหาเพราะ กสทช. เอาประกาศของ คสช. มาใช้ จนทำให้ กสทช.มาควบคุมสื่อตามอำนาจรัฐประหาร โดยอ้างว่าเป็นรัฏาธิปัตย์ หรืออำนาจสูงสุดของรัฐ
คลิปสัมภาษณ์ ใบตองแห้ง พ.ร.บ.คุ้มครองสื่อ-แท้จริงคือควบคุมสื่อ ขณะที่กระบวนการพูดคุยเพื่อความปรองดองกำลังเดินหน้า กับ 11
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
คุยก่อนปรองดอง,ป.ย.ป.,ปรองดอง,พ.ร.บ.คุมสื่อ,มัลติมีเดีย,สัมภาษณ์,อธึกกิต แสวงสุข,เสรีภาพสื่อ,ใบตองแห้ง
https://prachatai.com/journal/2017/03/70544
นายกฯ เข้าสภาพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 64 -สมคิด ยังไม่พูดแค่ยิ้ม
นายกฯ เข้าสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 64 วงเงิน 3.3 ล้านล้าน ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ส่งสัญลักษณ์ ขอให้รอฟัง ขณะบุคคลสำคัญในรัฐบาลต่างทยอยมาร่วมประชุมสภาสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวันแรก ที่เริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 08.41 น. เป็นเวลาช่วงเดียวกับที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย เดินทางมาถึงรัฐสภาเช่นกัน คาดทั้ง 3 คน ได้พบปะพูดคุยกันก่อนเข้ารัฐสภา ซึ่งเป็นปกติของทุกวัน เมื่อมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแต่ทำสัญลักษณ์ชี้ขึ้นข้างบนห้องประชุม ก่อนขึ้นลิฟต์ไปยังห้องประชุม หลังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีที่ฝ่ายค้าน ออกมาระบุว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามอย่างไรก็ตาม ขณะที่รัฐมนตรีหลายคนต่างทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมสภา ทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ทั้งหมดไม่ได้สัมภาษณ์ โดยนายสมคิด หันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าวเท่านั้น
นายกฯ เข้าสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 64 วงเงิน 3.3 ล้านล้าน ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ส่งสัญลักษณ์ ขอให้รอฟัง ขณะบุคคลสำคัญในรัฐบาลต่างทยอยมาร่วมประชุมสภา
ข่าว,การเมือง
ไวรัสโคโรนา,โควิด-19,ประชุมสภา,ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,งบประมาณ 3.3 ล้านล้าน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1880052
ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้หดตัว -5.0%
วันนี้ (22 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในปี 2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2563 หดตัว 1.8% YoY จากปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะภัยแล้ง และความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแทบทุกตัวหดตัวลง ยกเว้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวได้ 3.0% YoY ซึ่งก็เป็นผลของปัจจัยชั่วคราวจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่มก่อนประกาศล็อกดาวน์ในขณะที่ทั้งปี 2563 ภาพรวมการใช้จ่ายครัวเรือนคาดว่าจะหดตัวที่ -1.5% ท่ามกลางการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานประกอบการหยุดชั่วคราวในช่วงเดือน เม.ย. และธุรกิจทยอยปิดกิจการ ทำให้กำลังซื้อและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยลดลง โดยเฉพาะสินค้าคงทนคาดว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่พลิกฟื้นกลับมาได้เร็วแม้ว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายลงในไตรมาส 2/2563 และไม่มีการแพร่ระบาดซ้ำ แต่เศรษฐกิจไทยจะยังไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้เร็ว เนื่องจากแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้เงื่อนไขการรักษาระยะห่าง โดยเฉพาะในภาคบริการ ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นในขณะที่รายรับถูกจำกัดด้วยกำลังซื้อและเงื่อนไขการรักษาระยะห่าง อีกทั้งการแพร่ระบาดในต่างประเทศ ยังทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหันกลับมาพึ่งพิงตลาดในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยมาตรการภาครัฐที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกหดตัวลึกกว่าครึ่งปีหลังทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวลึกกว่าการหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสที่ 2 จะหดตัวลึกที่สุดราว -10% ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 หดตัวราว -5.0%ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดรุนแรงอีกระลอก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในช่วงครึ่งปีหลังอาจเป็นบวกได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังไม่กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอาจยังคงติดลบอยู่เล็กน้อย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 หดตัวราว -5.0% ซึ่งมองว่าเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวลึกกว่าการหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสที่ 2 จะหดตัวลึกที่สุดราว -10%
เศรษฐกิจ
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,เศรษฐกิจไทย,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/292774
คนงานเหมืองชิลีให้คำแนะนำเด็กไทยติดถ้ำ
โอมาร์ เรย์กาดาส อดีตคนงานเหมืองชาวชิลี ผู้ที่เคยติดอยู่ใต้เหมืองพร้อมๆ กับเพื่อนคนงานเหมืองอีก 32 คน นานถึง 69 วัน ก่อนได้รับความช่วยเหลือในปี 2010 แนะนำให้เด็กไทยทั้ง 12 คนและครูผู้ฝึกสอนฟุตบอลที่ติดอยู่ในถ้ำให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อเตรียมจิตใจให้พร้อมสำหรับการได้รับความช่วยเหลือกลับสู่โลกภายนอกเรย์กาดาส ระบุว่า การติดอยู่ในถ้ำนานๆ ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก สำหรับเด็กอายุ 11 -16 ปี ที่ต้องเผชิญ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ครูผู้ฝึกสอนฟุตบอลที่ติดอยู่ด้วยจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะใช้จิตวิทยาในการปลุกขวัญกำลังใจให้เด็กๆ ฝ่าฟันอุปสรรคออกมาได้ในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่อาจเกิดความหวาดกลัว หรือเริ่มกังวล และยิ่งไปกว่านั้นควรให้ความสำคัญไปที่การกลับไปสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้งอดีตคนงานเหมืองชาวชิลียอมรับว่าความหวาดกลัวถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่ติดอยู่ในสภาพนี้ก็ร้องไห้ได้เช่นกัน ดังนั้นหากเกิดอาการกลัวก็ให้แสดงออกมา อย่าอายเพื่อนๆ เพราะหากอายแล้วแสดงความกล้าออกมาปกปิดความกลัวที่เกิดขึ้นนั่นอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้เรย์กาดาส เล่าประสบการณ์ที่ติดอยู่ใต้เหมืองนาน 69 วันกับเพื่อนคนงานว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขารอดมาได้นั่นคือการมีศรัทธา เพื่อนๆ ให้กำลังใจและคำแนะนำซึ่งกันและกัน รวมทั้งการมีอารมณ์ขัน การเล่าเรื่องตลกๆ และพุ่งเป้าให้มีชีวิตรอดเพื่อให้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้งให้ได้ด้านบิลล์ ไวท์เฮาส์ รองประธานสภากู้ภัยในถ้ำของอังกฤษ ระบุว่า ขณะนี้จำเป็นต้องเร่งนำเสบียงอาหารเข้าไปในถ้ำให้ได้เร็วที่สุด เพื่อรับสถานการณ์จากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เพื่อให้เด็กดำรงชีวิตอยู่ในจุดที่ถูกพบได้ต่อไป ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานหลายเดือนขณะที่ทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือการเร่งนำตัวเด็กๆ ทั้งหมดฝ่าน้ำท่วมในถ้ำออกมา ซึ่งนั่นหมายถึงความจำเป็นที่จะต้องฝึกให้ทั้งหมดดำน้ำและใช้อุปกรณ์ให้เป็น ซึ่งย่อมต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร และหากระดับน้ำสูงขึ้นอีกก็จะทำให้การดำน้ำออกมาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตสูงมากส่วนการหาทางเข้าที่ใกล้จุดที่ทั้งหมดติดอยู่จากด้านบนลงไปถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี แต่ประเมินจากสภาพพื้นที่แล้วยังถือเป็นเรื่องที่ลำบากเช่นกัน
สภากู้ภัยในถ้ำของอังกฤษแสดงความเป็นห่วงสภาพอากาศและระดับน้ำ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขณะที่อดีตคนงานเหมืองชาวชิลีที่ติดอยู่ใต้เหมืองกว่า 2 เดือน และกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกฝากให้คำแนะนำให้แก่เด็กไทย
ต่างประเทศ
คนงานติดเหมือง,เหมืองถล่ม,ชิลี,อังกฤษ,เหมืองชิลี,ถ้ำหลวง,เด็กหลงถ้ำ,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,นักฟุตบอลเยาวชน,ทีมหมูป่า,เด็กติดถ้ำ,เชียงราย,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/273149
สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ แก้ข้อบังคับให้สอดคล้อง พ.ร.บ.กีฬาฉบับใหม่
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เป็นประธานประชุมใหญ่สามัญประจำปีโดยมีสมาชิกสามัญร่วมประชุมทั้งหมด 27 สโมสร จาก 35 สโมสร ซึ่งวาระสำคัญคือการแก้ไขข้อบังคับสมาคมให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทยฉบับ พ.ศ. 2558โดยที่ประชุมเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อสมาคมเป็น สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมแก้ไขข้อบังคับอีกหลายข้อ เช่น การดำรงตำแหน่งนายกสมาคมจากวาระ 2 ปี เป็น 4 ปีเพื่อสอดคล้องกับสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) การจัดสวัสดิการให้กับนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ บุคลลากร และสมาชิก รวมทั้งสนับสนุนนักกีฬาแบดมินตันคนพิการทั้งนี้ หลังแก้ไขข้อบังคับแล้ว สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ จะกำหนดวันเลือกตั้งนายกสมาคมฯ อีกครั้ง โดยต้องไม่เกินวันที่ 10 ธ.ค.2558 เนื่องจากคุณหญิงปัทมาจะหมดวาระในวันที่ 10 ส.ค.2558 ซึ่งตามข้อบังคับต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันหมดวาระ
สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ประชุมปรับข้อบังคับสมาคมให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.กีฬาฉบับใหม่ ก่อนกำหนดวันเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ไม่เกิน 10 ธ.ค.2558
กีฬา
ข่าวกีฬา,ข่าวเที่ยง,ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล,พ.ร.บ.กีฬา,พ.ร.บ.กีฬาฉบับใหม่,สมาคมแบดมินตัน,แบดมินตัน
https://news.thaipbs.or.th/content/1396
ดูเตอร์เต ขู่ลงโทษข้าราชการทุจริตด้วยการ โยนจากเฮลิคอปเตอร์
นายดูเตอร์เตกล่าวระหว่างเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นในภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.2559) ว่า ข้าราชการคนไหนที่ทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะถูกจับโยนจากเฮลิคอปเตอร์ข้าราชการคนไหนที่ทุจริต ผมจะไปลากตัวมา แล้วโยนลงจากเฮลิคอปเตอร์ นายดูเตอร์เตกล่าว ผมเคยทำมาแล้ว ทำไมจะทำอีกไม่ได้นายดูเตอร์เตอ้างว่าคนที่ถูกเขาจับโยนออกจากเฮลิคอปเตอร์เป็นอาชญากรที่ลักพาตัวและฆ่าตัวประกันเมื่อคำพูดเขากลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กลับเปลี่ยนท่าทีระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศวันนี้ (29 ธ.ค.2559) ว่าเขาไม่รู้เรื่องดังกล่าว ถ้าผมทำจริง ก็คงไม่มาออกมายอมรับแบบนี้หรอก นายดูเตอร์เตกล่าวก่อนหน้านี้ นายดูเตอร์เตกล่าวว่าเขาลงมือวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรม 3 คนด้วยการยิง สมัยที่เข้าเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา
นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศว่าเขาจะลงโทษข้าราชการที่ทุจริตด้วยการโยนออกจากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเขาเคยทำมาแล้ว นับเป็นการกล่าววาจาที่อื้อฉาวครั้งล่าสุด หลังจากที่เขาบอกว่าเคยวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาด้วยตัวเอง
ต่างประเทศ
โยน,เฮลิคอปเตอร์,โรดริโก ดูเตอร์เต,วิสามัญฆาตกรรม,ข้าราชการทุจริต,ยิง,ทุจริต,คอร์รับชั่น,ฟิลิปปินส์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/259125
เกิดเหตุมีผู้ประท้วงก่อกวนระหว่างการรับรอง ผอ.ซีไอเอ คนใหม่ ในสหรัฐฯ
นายจอห์น เบรนนัน (John Brennan) ที่ปรึกษาระดับสูงด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ เข้าตอบซักถามของคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภา ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกเริ่มของการรับรองการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอคนใหม่ แต่กระบวนการรับรองต้องหยุดไปชั่วขณะหลังถูกก่อกวนจากกลุ่มผู้ประท้วง ก่อนที่นายบรีนันจะตอบข้อซักถามต่อในเรื่องการใช้เครื่องบินไร้คนขับโจมตีสังหารชาวอเมริกันในต่างแดนที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจลับของสหรัฐฯกลุ่มสิทธิมนุษยชนฮิวแมน ไร้ท์ส วอทช์ ออกรายงานตีแผ่ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในอินเดียที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขว้าง ทั้งในโรงเรียและสถานรับเลี้ยงเด็กของรัฐ ขณะที่รัฐบาลอินเดียไม่สามารถให้ความคุ้มครองเด็กๆ เหล่านี้ได้และไม่ได้ให้การดูแลเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ กลุ่มฮิวแมน ไร้ท์ส วอทช์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดเพื่อยุติความรุนแรงทางเพศและตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กให้มากกว่าที่เป็นอยู่ รายงานของกลุ่มฮิวแมน ไร้ทส์ วอท์ช มีขึ้นหลังเกิดเหตุสลดใจแก็งทรชนรุมข่มขืนและทำร้ายนักศึกษาสาวบนรถโดยสาร ท่ามกลางการประท้วงเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุดกลุ่มคนพิการและนักเคลื่อนไหวทางสังคมในโปรตุเกสชุมนุมประท้วงหน้ากระทรวงการคลังในกรุงลิสบอน เพื่อต่อต้านการปรับขึ้นภาษีและมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้พิการที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูง ขณะที่ร้อยละ 70 ของผู้พิการที่สามารถทำงานได้ ต้องกลายเป็นคนว่างงาน ทั้งนี้การปรับขึ้นภาษีและมาตรการรัดขัดของรัฐบาลโปรตุเกสมีขึ้นเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ 7 หมื่น 8 พันล้านยูโรที่ได้รับจากสหภาพยุโรป ธนาคารกลางและกองทุนการเงินระหว่างประเทศชาวบ้านในเมืองเรซิเฟ่ (Recife) ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ต้องลงขันจ้างชาวประมงท้องถิ่นให้ล่าฉลามที่ชอบทำร้ายนักท่องเที่ยวขณะลงเล่นน้ำและกระดานโต้คลื่น ทำให้ต้องปักป้ายเตือนตลอดแนวชายหาดให้นักท่องเที่ยวระวังอันตรายจากฉลาม โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่ามีฉลามทำร้ายนักท่องเที่ยวที่ชาดหาดแห่งนี้ถึง 55 ครั้ง ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 21 คน
คณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการให้การรับรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอคนใหม่ แต่ขั้นตอนหยุดชะงักไปชั่วขณะ หลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงก่อกวน
ต่างประเทศ
ซีไอเอ,ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า,ผอ.ซีไอเอ,อินเดีย,ฮิวแมน ไร้ท์ส วอท,โปตุเกส
https://news.thaipbs.or.th/content/145538
ตำรวจสน.หัวหมากเร่งตรวจกล้องวงจรปิด สอบเหตุเรือด่วนคลองแสนแสบชนโป๊ะ
อุบัติเหตุเรือโดยสารของ บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด บรรทุกผู้โดยสาร 80 ที่นั่ง ซึ่งวิ่งระหว่างท่าเรือประตูน้ำ ถึงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง เสียหลักพุ่งชนเข้ากับโป๊ะท่าเรือ บริเวณท่าเรือวัดเทพลีลาอย่างรุนแรง จนลำเรือคว่ำจมน้ำครึ่งลำผู้โดยสารเล่าเหตุการณ์ว่า ระหว่างที่เรือดังกล่าวแล่นมาใกล้ท่าเรือวัดเทพลีลา สังเกตว่าคนขับเรือได้ขับเรือส่ายไปมา และมีผู้โดยสารร้องตะโกนว่ามีน้ำเข้าเรือ ทำให้ผู้โดยสารที่มากับเรือต่างเร่งให้คนขับเรือรีบนำเรือเข้าเทียบท่า ก่อนที่ทุกคนจะรีบหนีขึ้นฝั่งและพยายามปีนออกมาจากเรือ จากนั้นเรือที่พยายามเข้าเทียบท่าก็ชนเข้ากับโป๊ะเรือและจมลงด้านตำรวจสน.หัวหมาก เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุมีผู้โดยสารแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดคนขับเรือแล้ว 2 กรณี โดยฝ่ายสืบสวนจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณท่าเรือ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนายไพรัช บุญดำ ผู้จัดการบริษัท ครอบครัวขนส่ง ยืนยันว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ โดยเมื่อวานนี้ได้ประกาศงดเดินเรือในคลองแสนแสบตลอดทั้งเส้นทางในบางช่วงเวลา เพราะต้องเฝ้าสังเกตระดับน้ำในคลองแสนแสบ ซึ่งวันนี้ (18 ต.ค.) จะงดการให้บริการหรือไม่ ต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน เพราะหากให้บริการช่วงที่ระดับน้ำสูง ก็อาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำได้อีกขณะที่ นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า สาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากระดับน้ำในคลองแสนแสบสูงขึ้นมาก ผู้ขับขี่เรือควบคุมเรือด้วยความลำบาก ก่อนขับพุ่งชนเข้ากับโป๊ะ เป็นการชนเกินระดับของ แนวกันกระแทกห่วงยางของโป๊ะ ทำให้เรือแตกรั่วและจมลง ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความประมาทของคนขับเรือ
ผู้ให้บริการเรือโดยสารในคลองแสนแสบจะพิจารณาการให้บริการเรือโดยสารเป็นรายวัน เพื่อความปลอดภัย หลังระดับน้ำในคลองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วงค่ำวานนี้ (17 ต.ค.) เกิดเหตุเรือด่วนพุ่งชนโป๊ะท่าเรือวัดเทพลีลา
อาชญากรรม
คลองแสนแสบ,ตำรวจสน.หัวหมาก,ท่าเรือวัดเทพลีลา,เรือโดยสาร,โป๊ะ
https://news.thaipbs.or.th/content/202225
กะเทยสัตหีบโดน ตร.จับ คิดรวยทางลัดขายยาบ้า หวังหาเงินทำสวย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ย.59 นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด ผกก.สภ.นาจอมเทียน ว่าที่พันตรี ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน ปลัดอาวุโส นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และพ.ต.ต.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ สว.สส.สภ.นาจอมเทียน ได้สนธิกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครองและตำรวจ วางแผนล่อซื้อยาเสพติด ก่อนสามารถจับกุม 2 เอเย่นต์สาวประเภทสอง คือ นายพุฒรัตน์ หรือรส นุกูลวงศ์ อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และนายอนันต์ หรือกุญแจ คิดไมตรีจิตร อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 พร้อมของกลางยาบ้า 3,000 เม็ด ชนิดใหม่สีชมพู (กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่) และรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ จีดี 110 สีบรอนซ์เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ภายในซอยนาจอมเทียน 34 ม.3 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี,นายนรเสฏฐ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่แหล่งข่าวได้แจ้งเบาะแส ถึงพฤติกรรมผู้ต้องหา ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มนักเสพและค้าในเขตท่องเที่ยวเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงได้แฝงตัวเข้าไปตีสนิทจนตายใจ ก่อนวางแผนเข้าล่อซื้อยาบ้า 3,000 เม็ด ในราคา 300,000 บาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ขี่รถจักรยานยนต์นำมาส่งให้สายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปลอมตัวมา ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รับสารภาพร่วมกันจำหน่ายยาบ้า โดยสั่งตรงนำเข้ามาจากประเทศลาวจากเพื่อนชื่อ น.ส.ทิพย์ อายุ 25 ปี ชาวลาว นำมาโยนไว้ในป่าหญ้าริมถนนแยกเกษมพล ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ซึ่งเงินกำไรจากการส่งยาครั้งนี้ 10,000 – 50,000 บาท จะนำไปแบ่งกันเพื่อนำไปตกแต่งศัลยกรรมเรือนร่างให้เป็นสวยงาม.
ตร.นาจอมเทียน และฝ่ายปกครอง อ.สัตหีบ จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าพร้อมของกลาง ยาบ้าชนิดใหม่สีชมพู 3,000 เม็ด ได้ผู้ต้องหาเป็นกะเทย 2 คนรับสารภาพ รับของมาจากฝั่งลาวได้ค่าจ้างมาเอาไว้เป็นทุนศัลยกรรมเรือนร่างให้สวยงาม
null
ค้ายาบ้า,ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด,ยาบ้าสีชมพู,นรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส,อ.สัตหีบ,ชลบุรี,สภ.นาจอมเทียน,จับกะเทย,รวบกะเทย
https://www.thairath.co.th/content/731840
คนที่นั่งข้างคุณในร้านกาแฟเป็นสายลับหรือเปล่า?
เราเชื่อว่าคุณต้องเคยชมภาพยนตร์สายลับหักเหลี่ยมโหดกันมานับไม่ถ้วนจนพอรู้ว่าถ้าใครเป็น สายลับ ตัวจริง คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลย ดังนั้นอย่าแปลกใจหากเราบอกว่าคนที่นั่งหันหลังชนกับคุณที่ร้านกาแฟนั้นอาจทำอาชีพเดียวกับ เจมส์ บอนด์ 007นินา มาทิริส (Nina Matyris) นักข่าวหญิงจากเทนเนสซีในสหรัฐอเมริกา ได้ค้นคว้าและนำเสนอเรื่องราวและคุณสมบัติของสายลับมืออาชีพผ่านทางเว็บไซต์ข่าว NPR และพบว่า สายลับต้องพึ่งพาสถานที่อย่างร้านอาหารและคาเฟ่เป็นอันดับต้นๆ เพื่อสืบเรื่องการจารกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่อดีต CIA อมาริลลิส ฟอกซ์ (Amaryllis Fox) ผู้เขียนหนังสือจากเรื่องราวของเธอที่ชื่อ Life Undercover: Coming of Age in the CIA ระบุไว้ ร้านอาหารช่วยให้คุณได้เจอคนที่คุณมองหา ซึ่งบางครั้งเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ส่วนมากทำให้ดูเหมือนดูบังเอิญมากกว่าลินด์ซีย์ โมแรน (Lindsay Moran) ผู้เขียนบันทึกที่ตีพิมพ์ในปี 2005 ชื่อ Blowing My Cover: My Life as a CIA Spy ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของเธอสมัยเป็น CIA อธิบายว่า ในช่วงที่ต้องการความช่วยเหลือจากสายลับต่างชาติ เรามักจะพบเธอหรือเขาเพื่อดื่มสักแก้ว หรือกินข้าวด้วยกัน เธอยังกล่าวอีกว่า คุณต้องมองหาสถานที่ที่หลบสายตาคนบางกลุ่ม ดังนั้นการเลือกร้านอาหารที่มักไม่อยู่ในเส้นทางที่เขาทำงานหรือใช้ชีวิตจะดีที่สุด และเลือกเวลาที่ร้านนั้นคนน้อยที่สุด เพื่อเลือกที่นั่งที่เหมาะสม และยิ่งใกล้ทางออกหลังร้านด้วยยิ่งดีอมาริลลิส ฟอกซ์ ยังเสริมในข้อนี้อีกด้วยว่า ยิ่งอาหารร้านแฟรนไชส์เยอะอย่าง McDonalds หรือ Panda Express ยิ่งเหมาะแก่การนัดพบ เนื่องจากการออกแบบร้านทำให้หายากว่าสาขาไหน แถมยังเปิดบริการถึงดึกที่น่าทึ่งกว่านั้น เธอยังเผยถึงเทคนิคการสื่อสารลับๆ อย่างชาญฉลาดที่สอนในโรงเรียน CIA อาทิ การใช้บัตรสะสมแต้มสตาร์บัคส์ในการสื่อสาร เขาให้บัตรสะสมหรือการ์ดสตาร์บัคส์ที่เป็นชื่อเขา แล้วบอกสายข่าวว่า ถ้าคุณต้องการเจอผม ใช้บัตรนี้ซื้อกาแฟ ซึ่งสายลับจะเข้าไปเช็กความเคลื่อนไหวของการ์ดนั้นๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และเมื่อมีการใช้งานเกิดขึ้น เขาจะรู้ได้ว่ามีคนต้องการพบ หรือมีข่าวคาบมาบอก ส่วนเหตุผลที่ใช้การ์ดสตาร์บัคส์นั้นก็เพราะ การ์ดคะแนนสะสมพวกนี้ไม่ได้เจาะจงเป็นรายบุคคลที่สืบได้แบบบัตรเครดิต ทำให้เป็นช่องทางติดต่อที่ปลอดภัยสรุปง่ายๆ ก็คือ หากมีวันไหนที่คุณเดินเข้าสตาร์บัคส์ หรือ Burger King ในย่านที่ไม่พลุกพล่านช่วงดึกๆ จงรู้ไว้ว่าทุกคนในนั้นอาจเป็นสายลับ โดยเฉพาะถ้าเห็นใครใช้บัตรสตาร์บัคส์ คนคนนั้นยิ่งทำงานให้องค์กรลับแน่ๆ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมมองหาทางออกหลังร้านเผื่อไว้ด้วยล่ะ…พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้าอ้างอิง:
สายลับต้องพึ่งพาสถานที่อย่างร้านอาหารและคาเฟ่เป็นอันดับต้นๆ เพื่อสืบเรื่องการจารกรรม ซึ่งร้านอาหารแฟรนไชส์เยอะอย่าง McDonalds เหมาะแก่การนัดพบ เนื่องจากการออกแบบร้านทำให้หายากว่าสาขาไหน แถมยังเปิดบริการถึงดึกสายลับจะให้บัตรสะสมหรือการ์ดสตาร์บัคส์ที่เป็นชื่อเขาหรือเธอ แล้วบอกสายข่าวว่า ถ้าคุณต้องการเจอ ใช้บัตรนี้ซื้อกาแฟ และเมื่อมีการใช้งานเกิดขึ้น เขาจะรู้ได้ว่ามีคนต้องการพบหรือมีข่าวคาบมาบอก
null
null
https://thestandard.co/ex-cia-officer-reveals-how-eateries-are-key-spycraft/
ฉลอง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 30 ปี
วันนี้ (26 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก นัดสำคัญที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ทีมอันดับ 4 ของตาราง พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง โดยนัดนี้หากทีมเยือนเก็บชัยชนะไม่ได้ จะส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกมาครองได้ทันทีครึ่งแรกจากความผิดพลาดของแนวรับ ซิตี้ ส่งผลให้ คริสเตียน พูลิซิซ หลุดเดี่ยวก่อนจะยิงให้ เชลซี เจ้าถิ่นออกนำก่อน ในนาที 36เกมในครึ่งหลังทีมเยือนตามตีเสมอได้สำเร็จในนาที 55 จากลูกฟรีคิกสุดสวยของ เควิน เดอ บรอยน์ เข้าสู่นาที 77 แฟร์นานดินโญ่ โดนใบแดงไล่ออก หลังเจตนาใช้มือปัดบอล ก่อนที่ วิลเลียน จะยิงจุดโทษไม่พลาด เป็นประตูชัยช่วยให้ เชลซี เป็นฝ่ายชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-1 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก มาครองหนแรกในรอบ 30 ปีแน่นอนแล้ว แม้จะแพ้ทุกนัดที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้โดยนักเตะ หงส์แดง นำทีมโดย เวอร์กิล ฟาน ไดร์ค โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ อลิซอน เบ็คเกอร์ รวมตัวร่วมชมเกมระหว่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างฉลองแชมป์กันอย่างสนุกสนาน หลังสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ขณะที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความยินดีไม่อยู่ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ สื่อสกายสปอร์ตหลังพาต้นสังกัดล้างอาถรรพ์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก หนแรกได้สำเร็จคล็อปป์ เปิดเผยว่า ไม่สามารถหาคำมาบรรยายความรู้สึกตัวเองได้ หลังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก จากที่รอคอยมายาวนานถึง 30 ปี พร้อมมอบความสำเร็จให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยในตอนท้ายคล็อปป์ ยอมรับว่า รู้สึกตื้นตันใจจนพูดต่อไม่ไหว และต้องขอยุติการให้สัมภาษณ์ก่อนที่น้ำตาแห่งความยินดีจะไหลออกมาขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ ชไมพร เห็นประเสริฐ แฟนบอลที่ติดตามเชียร์ลิเวอร์พูลมายาวนาน ร่วมแสดงยินดีร่วมกับเหล่า เดอะค็อป ชาวไทย ที่สมหวังได้เห็นทีมรักคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จส่วนกองเชียร์ ลิเวอร์พูล ในอังกฤษจำนวนมากรวมตัวกันหน้าสนามแอนฟิลด์ เพื่อฉลองความสำเร็จให้กับทีมรัก ท่ามกลางความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เนื่องจากมีแฟนบอลส่วนน้อยที่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งผลงานความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ในครั้งนี้ ทำให้สร้างสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ เร็วที่สุด โดยทำได้ล่วงหน้าก่อนจบฤดูกาลถึง 7 เกม ทำลายสถิติเก่าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2001 และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2018 ที่คว้าแชมป์ก่อนจบฤดูกาล 5 เกมนอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังรอสร้างสถิติใหม่อีกหลายรายการ ทั้งการเก็บชัยชนะมากที่สุดและทำแต้มมากที่สุดใน 1 ฤดูกาล โดยต้องการชัยชนะอีก 5 เกม จาก 7 นัด รวมถึงลุ้นเอาชนะแอสตัน วิลล่า เบิร์นลีย์ และ เชลซี ในการเล่นที่แอนฟิลด์ เพื่อทำสถิติชนะรวด 19 นัดในการเล่นในบ้านตลอดการแข่งขัน 1 ฤดูกาล
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครั้งแรกในรอบ 30 ปี หลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงบุกไปพ่ายเชลซี 1-2 นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 19
กีฬา
ลิเวอร์พูล,liverpool,LFC,The kop
https://news.thaipbs.or.th/content/294017
รณรงค์วันสตรีสากล คนงานร้อง รบ.เร่งเพิ่มศูนย์เลี้ยงเด็กเล็ก-ขยายสิทธิประกันสังคม
นอกจากนี้ยังมีคนงานจากสหภาพแรงงานต่างๆ ที่ถูกเลิกจ้าง ร่วมเดินขบวนและเรียกร้องให้แก้ปัญหาด้วย อาทิ สหภาพแรงงานเอ็นเอ็กซ์พี แมนูแฟคเจอริ่ง คนงานบริษัทลินฟ้อกซ์ ทรานสปอร์ต สหภาพแรงงานเจเนรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) สหภาพแรงงานอีเลคโทรลักซ์ธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการสตรี เป็นตัวแทนยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมี ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยข้อเรียกร้องประกอบด้วย 1.ให้เพิ่มจำนวนศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กในพื้นที่อุตสาหกรรมและชุมชน รวมทั้งปรับคุณภาพบริการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้หญิงทำงาน 2. ขอให้รัฐบาลลงสัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ไอแอลโอ ฉบับที่ 183 เรื่องการคุ้มครองความเป็นมารดา และ 3. ขยายสิทธิประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม เพิ่มสิทธิประโยชน์และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์ รวมถึงให้สำนักงานประกันสังคมที่เป็นอิสระและกำหนดสัดส่วนหญิงชายที่เท่าเทียมกันในคณะกรรมการประกันสังคมทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีมติเห็นชอบให้นำกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ.2555 มาใช้บังคับแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กสม. พร้อมประกาศเจตนารมณ์เป็นองค์กรที่ปราศจากการล่วงละเมิดทางเพศในสถานที่ทำงานเพื่อป้องกันมิให้เกิดการคุกคามทางเพศและล่วงละเมิดทางเพศ โดย วิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิเด็ก สตรีและความเสมอภาคของบุคคล ระบุว่า นโยบายดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญในการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันสตรีสากลปีนี้ด้วยอนึ่ง ตามกฎ ก.ร.ข้อที่ 4 ที่ระบุว่า ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดกระทำการประการใดประการหนึ่ง ดังต่อไปนี้ต่อข้าราชการด้วยกัน หรือผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในหรือนอกสถานที่ราชการโดยผู้ถูกกระทำมิได้ยินยอมต่อการกระทำนั้น หรือทำให้ผู้ถูกกระทำเดือดร้อนรำคาญ ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ตามข้อ 3 (9) คือ1. การกระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มีลักษณะส่อไปในทางเพศ เช่น การจูบ การโอบกอด การจับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นต้น2. กระทำการด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ร่างกาย พูดหยอกล้อ พูดหยาบคาย เป็นต้น3. กระทำการด้วยอากัปกิริยาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น การใช้สายตาลวนลาม การทำสัญญาณ หรือสัญลักษณ์ใด ๆ เป็นต้น4. การแสดงหรือสื่อสารด้วยวิธีการใด ๆ ที่ส่อไปในทางเพศ เช่น แสดงรูปลามกอนาจาร ส่งจดหมาย ข้อความ หรือการสื่อสารรูปแบบอื่น เป็นต้น5. การแสดงพฤติกรรมอื่นใดที่ส่อไปในทางเพศ ซึ่งผู้ถูกกระทำไม่พึงประสงค์หรือเดือดร้อนรำคาญ
(8 มี.ค.56) เครือข่ายองค์กรแรงงานหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มูลนิธิเพื่อนหญิง เดินขบวนรณรงค์เนื่องในวันสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี
คุณภาพชีวิต,แรงงาน
ประกันสังคม,วันสตรีสากล
https://prachatai.com/journal/2013/03/45663
ไม่สวมเสื้อชูชีพโอกาสจมน้ำมีมากกว่า อ.ธรณ์ แนะวิธีเอาตัวรอดกลางทะเล
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทางทะเล เผยถึงกรณีเหตุโศกนาฏกรรม,เรือล่ม,ในทะเลภูเก็ต จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งหลายคนได้ตั้งคำถามเรื่องการสวม,เสื้อชูชีพ,แล้วทำไมยังเสียชีวิต,ทั้งนี้ อ.ธรณ์ ชี้แจงว่า เสื้อชูชีพที่ใช้ตามเรือท่องเที่ยว ยังเป็นแบบเสื้อพยุงตัว ไม่ใช่เสื้อชูชีพแท้ ที่ออกแบบไว้ให้นอนหงายตลอดเวลา แต่ปกติแล้วเรือท่องเที่ยวจะใช้เสื้อชูชีพแบบนี้ เพราะนำไปใช้ในการดำน้ำดูปะการังได้สะดวก เรือท่องเที่ยวดำน้ำตื้นที่ไหนก็เหมือนกันครับ ไม่ใช่เฉพาะเรือไทย,อย่างไรก็ตาม การใส่เสื้อชูชีพอยู่ในเรือ บางครั้งจึงไม่การันตีเสมอไปว่าจะรอด เพราะเรือพลิกคว่ำ เสื้อดึงให้เราลอยขึ้นไปติดอยู่ในเรือ ดำน้ำมุดออกไม่ได้ อ้าวแล้วอย่างนี้จะใส่ทำไม? คำตอบคือถ้าไม่ใส่โอกาสจมน้ำมีมากกว่าครับ เขาจึงแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อลงเรือ เสื้อชูชีพยังไม่ได้ใช้เฉพาะเรือล่ม คุณอาจพลัดตกน้ำโดยที่เรือไม่ล่ม เรื่องนี้เสื้อชูชีพช่วยได้แน่นอน เพราะฉะนั้น ผมก็ยังแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ลงเรือ และขอให้ใส่ให้ถูกวิธี เลือกชูชีพที่สมบูรณ์ เหมาะกับขนาดตัว ติดสายให้ครบถ้วน,ที่สำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเราควรอยู่ในที่ซึ่งออกจากเรือง่าย อย่าอยู่ในที่อับหรือมีสิ่งกีดขวางที่ทำให้ออกจากเรือไม่ได้ เรืออาจพลิกคว่ำอย่างรวดเร็ว จึงต้องระมัดระวังและดูทางหนีทีไล่ให้ดี สำคัญสุดๆ อีกประการคือ อย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อย่ากรีดร้องจนตัวเกร็ง ทำอะไรไม่ถูก กอดคนข้างๆ ติดอยู่ในเรือ ฯลฯ ให้ท่องไว้ เราต้องคุมสติ ต้องรอด ต้องคุมสติ ต้องรอด วนไปมาอย่างนี้ อย่าคิดมาก,นอกจากนี้ แม้จะใส่เสื้อชูชีพ ลอยคอกลางทะเล ก็ยังอาจมีอันตราย โดยเฉพาะถ้ามีคลื่นลมรุนแรงหรือเป็นเวลากลางคืน เราต้องคุมสติให้อยู่ อย่าตระหนกตกใจจนพานิค การอยู่กับคนอื่น คุยกันเรื่อยๆ จะช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ คิดในทางที่ดี ทะเลไทยไม่ใหญ่หรอกครับ หากเกิดอุบัติเหตุตามเส้นทางที่เรือวิ่งทั่วไป ไม่กี่ชั่วโมงก็ช่วยได้ หรือเราก็ลอยอยู่แถวนั้น เดี๋ยวกระแสน้ำก็พัดไปเจอเกาะ เรือประมงในทะเลก็มีเยอะ เรือท่องเที่ยวก็เพียบ ทีมค้นหาก็ชำนาญ ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวก็มีคนมาเจอ.
อ.ธรณ์ ตอบข้อสงสัยสวมเสื้อชูชีพแล้วทำไมยังเสียชีวิต แจง ถ้าไม่ใส่โอกาสจมน้ำมีมากกว่า แนะ หากเกิดเหตุฉุกเฉินควรอยู่ในที่ซึ่งออกจากเรือง่าย ไร้สิ่งกีดขวาง และสวมชูชีพให้ถูกวิธี
ข่าว,สังคม
เรือล่ม,ภูเก็ต,เรือฟินิกซ์,เสื้อชูชีพ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1329466
อาเขยลวงหลานเข้าโรงแรม-ข่มขืน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ต.ค. 58 พ.ต.ท.สายันต์ จันทมาศ พงส.ผนพ.หัวหน้างานสอบสวน สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร นำตัว ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี และ นางบี (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ชาวชุมพร มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา นางบี ได้เข้ามาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.คำนวณ ปฏิแพทย์ พงส.สภ.สวี ว่า ด.ญ.เอ ได้ถูก นายบอล อายุ 33 ปี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นอาเขย ลวงไปข่มขืนที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร,นางบี ให้การว่าช่วงเย็นวานนี้ นายบอล ได้โทรศัพท์ไปหา ด.ญ.เอ บอกว่าพี่สาวต้องการพบ จึงขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อจะไปพบพี่สาวที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ใน ต.ครน อ.สวี หลังจากนั้น นายบอล ได้ลวงขึ้นรถกระบะนิสสัน นาวาร่า ตอนครึ่ง โดยให้ ด.ญ.เอ จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ก่อนพาไปข่มขืนที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.ทุ่งคา อ.เมืองชุมพร หลังเสร็จกิจ ได้พามาส่งที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นลูกสาวจึงมาเล่าให้ตนฟัง จึงพาลูกเข้าแจ้งความจับ แต่ปรากฏว่าอาเขยได้หลบหนีไปก่อน โดยขับรถกระบะคันก่อเหตุไปจอด ที่ริมถนนสายเอเชีย 41 บ้านทุ่งหงส์ หมู่ 8 ต.ทุ่งคา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ,ขณะที่ พ.ต.ท.สายันต์ จันทมาศ พงส.ผนพ. กล่าว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอหมายจับ นายบอล ต่อศาลจังหวัดหลังสวน มาดำเนินคดีต่อไป.
อาเขย ลวงหลานสาว วัย 12 ปี ไปข่มขืนที่โรงแรม หลังเสร็จกิจพาไปส่งกลางทาง เด็กกลับบ้านเล่าให้แม่ฟัง พากันเข้าแจ้งความ ตร.ชุมพร พร้อมนำตัวเด็กตรวจร่างกาย เร่งล่าตัวสอบ
ข่าว,ทั่วไทย
อาเขยข่มขืนหลาน,ข่มขืนเด็ก,กระทำชำเรา,ลวงข่มขืน,ข่มขืน,หลังสวน,ชุมพร,สวี,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/532315
วอลเลย์บอลไทย ชนะ ไต้หวัน มีหวังลุ้นไปโอลิมปิก
นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย กล่าวหลังการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วานนี้ (23 พ.ค.) ว่า ยังไม่พอใจกับผลงานของลูกทีมเท่าไรนัก แม้จะเอาชนะไต้หวัน 3-0 เซต เพราะยังมีความผิดพลาดในการเล่นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเสิร์ฟ และการรับลูก ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขให้ดีขึ้นในช่วงอีก 3 นัดที่เหลือที่ถือเป็นเกมที่สำคัญในการชี้ชะตาการผ่านเข้ารอบสุดท้ายโอลิมปิก ซึ่งการพบกับเปรูในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) ถือเป็นงานยากอีกนัดหนึ่ง เนื่องจากรูปร่างที่สูงใหญ่ของผู้เล่นเปรู รวมทั้งผู้เล่นหลายคนมีประสบการณ์สูงสำหรับสถิติที่ผ่านมาในการพบกัน 3 นัดหลังสุด ทีมไทยชนะ 2 ครั้ง และเปรูชนะ 1 นัด โดยนัดล่าสุดที่พบกันในการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่จังหวัดนครปฐมเมื่อปี 2554 ไทย ชนะเปรู 3-0 เซตทั้งนี้หลังการแข่งขันเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) เกาหลีใต้ ชนะญี่ปุ่น 3-1 เซต ทำให้เกาหลีใต้ ขึ้นมารั้งอันดับ 4 โดยมี 6 คะแนนเท่ากับไทย แต่มีค่าเรโชของคะแนนที่ดีกว่า ส่วนญี่ปุ่น อยู่อันดับ 2 ของตาราง มี 9 คะแนน ส่วนไทย ชนะ 2 นัด แพ้ 2 นัด รั้งอันดับ 5 ของตาราง แต่ 4 นัดที่เหลือไทยจะต้องพยายามเอาชนะเปรูให้ได้ และจะมีการแข่งขันพบเกาหลีใต้ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ค. ซึ่งทีมที่ชนะมีโอกาสสูงมากที่จะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายโอลิมปิก
เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ยอมรับ ลูกทีมยังมีความผิดพลาดกับการเล่นค่อนข้างมาก แม้จะชนะไต้หวัน 3-0 เซต
กีฬา
ญี่ปุ่น,ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย,หัวหน้าผู้ฝึกสอน,เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร
https://news.thaipbs.or.th/content/86872
นักปั่นหญิงโดนกระบะชนขณะร่วมกิจกรรมการกุศลที่นครปฐมเสียชีวิตแล้ว
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นางปิยะนุช ศรประสิทธิ์ อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์กระบะ ของนายพงษ์เทพ สังข์ทอง อายุ 28 ปี อาชีพรับจ้าง ขับรถกระบะพุ่งเข้าชนขณะที่ น.ส.ปิยะนุช ถีบรถจักรยานอยู่บนถนนเพชรเกษม ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม ในโครงการปั่นปันบุญ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ศีรษะได้รับการกระแทกอย่างแรง ปอดช้ำ ซี่โครงหัก ต้องนำตัวเข้าห้องไอซียู จนกระทั่ง เวลา 06.30 น. ของวันที่ 19 ธ.ค.61 นางปิยะนุช ได้หายใจอ่อนลงและเสียชีวิตแล้วที่ห้องไอซียู ชั้น 2 โรงพยาบาลนครปฐม ,บรรยากาศด้านหน้าห้องไอซียู มีนายธีระนันท์ ศรประสิทธิ์ อายุ 56 ปี สามีของนางปิยะนุช น.ส.พรรณกร ศรประสิทธิ์ หรือ น้องหญิง อายุ 21 ปี และ นายอรุณ คงมงคล ประธานชมรมจักรยานนาม่วง จ.สงขลา มีอาการกระวนกระวาย พูดโทรศัพท์บอกกับบรรดาญาติเสียงสะอึกสะอื้น โดยในมือถือเอกสารของนางปิยะนุช เพื่อยื่นต่อโรงพยาบาล เพื่อนำศพของนางปิยะนุช กลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดสงขลา บ้านเกิด โดยทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า,สามีของนางปิยะนุช กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งจากการจากไปของภรรยา พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นว่า ในตอนแรกที่ทราบว่าจะมีโครงการปั่นจักรยาน นางปิยะนุชได้มาขออนุญาตเพื่อเข้าร่วมปั่นปันบุญ ตนเองเห็นว่าเป็นโครงการดี ช่วยเหลือสังคม จึงอนุญาตให้ไป เพราะเห็นว่าเป็นการทำความดี ประกอบกับภรรยาชอบปั่นจักรยานและเป็นคนแข็งแรงมากเมื่อมีการปั่นการกุศลในจังหวัดก็จะไปร่วมตลอด ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็รู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา แต่ก็ยังมีความภาคภูมิใจในตัวของภรรยามาก ที่อย่างน้อยก็ได้ทำสิ่งที่ดีงามตอบแทนเป็นการช่วยเหลือสังคม,แม้จะยังปั่นไม่จบโครงการ ปั่นจักรยานมาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น ยังไงก็รู้สึกภาคภูมิใจ อีกทั้งพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับความกรุณาจากโรงพยาบาลนครปฐม ที่ให้การดูแลอย่างดีจนถึงนาทีสุดท้าย และโรงพยาบาลหาดใหญ่ ที่ถามไถ่ถึงอาการและเดินทางมาเยี่ยม ตนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก,ส่วน น.ส.พรรณกร ศรประสิทธิ์ หรือ น้องหญิง อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์เอกภาษาจีน มหาวิทยาลัยหนานจิงซือฟานต้าซัว ประเทศจีน บุตรสาวของผู้ตาย เผยว่า ตนกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศจีน หลังจากทราบเรื่องว่าแม่ประสบอุบัติเหตุอาการสาหัส ก็รีบเดินทางกลับทันที ยังรู้สึกเสียใจอยู่ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังดีใจที่แม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและเสียใจที่เรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้น ในเมื่อแม่ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุน อีกทั้งยังได้รับความกรุณาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์,การจากไปครั้งนี้ของแม่ ถือว่าเป็นความยิ่งใหญ่ของครอบครัว สำหรับศพของแม่นั้นตนเองได้เตรียมเสื้อผ้าสวยๆ ที่แม่ชอบ เป็นชุดไทยจิตรลดาสีเขียวไพร นุ่งผ้าถุงซิ่นสีแดงลายเขียว สวมใส่ให้ และยังโทรศัพท์ไปบอกพี่สาวให้เตรียมรองเท้าคู่ที่แม่ชอบ เห็นว่าซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใส่ ให้เตรียมไว้สวมใส่ตอนรดน้ำศพด้วย ทำเพื่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย,ด้าน นายอรุณ คงมงคล ประธานชมรมจักรยานนาม่วง จ.สงขลา เผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.นครปฐม พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ได้นำพวงหรีดขึ้นมาเพื่อเป็นการไว้อาลัยแสดงความเสียใจที่ห้องไอซียู โดยทางครอบครัวตอนนี้ได้ปรึกษากันว่า จะเตรียมเคลื่อนย้ายศพออกจากโรงพยาบาลนครปฐม เวลา 16.00 น. ของวันที่ 19 ธ.ค.61 นี้ โดยศพจะออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้าสู่วัดแม่เปียะ ต.คลองหรัง อ.นาหม่อม จ.สงขลา เพื่อเตรียมรดน้ำศพแล้วดำเนินการตามประเพณี ส่วนการกำหนดสวดพระอภิธรรมศพนั้น คาดว่าใช้เวลาเป็นอย่างน้อย 5 - 7 วัน เพื่อรอกลุ่มนักปั่นปันบุญเชียงใหม่ – หาดใหญ่ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 23 ธ.ค.61 มารวมตัวกันเพื่อมาร่วมงานศพด้วย ,ในส่วนของการเคลื่อนศพ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้จัดรถนำขบวนออกจากโรงพยาบาลไปจนสิ้นสุด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นจะเป็นรถของ จ.ชุมพรมารับช่วงต่อไปยัง จ.สงขลา พร้อมกับมีรถพยาบาลจาก รพ.นครปฐม ร่วมขบวนไปด้วยจนสิ้นสุดการเดินทาง.
เศร้า สุดแรงยื้อหญิงนักปั่นที่ถูกกระบะชนขณะร่วมปั่นการกุศลสิ้นใจแล้ว สามีและลูกสาว เผยแม้จะสูญเสียครั้งใหญ่แต่ภูมิใจที่แม่ได้ทำความดีให้สังคม เตรียมส่งศพกลับบ้านที่สงขลา
ข่าว,ทั่วไทย
นักปั่น,กระบะชนจักรยาน,ปิยะนุช ศรประสิทธิ์,โครงการปั่นปันบุญ,นครปฐม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1449188
เปิดศึกสีกากี สุชาติ ส่งตัวแทนแจ้งความเอาผิด พ.ต.อ.ปมปล่อยคลิปเสียง
จากกรณีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างตำรวจที่เป็นผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา เกี่ยวกับการขายบัตรคอนเสิร์ต คัมภีร์แผ่นดิน นำเงินเข้าชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งมีการสัมภาษณ์ พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รอง ผบก.อก.บช.ภ.9 ยอมรับว่าเป็นคนในคลิปเสียง ส่วนอีกฝ่ายมีการระบุว่า เป็น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ก.พ.63 ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ต.สุรินทร์ ทับพันบุบผา อดีต ผบก.กต.8 จต. ได้นำหลักฐานเอกสาร 27 แผ่น และคลิปเสียงความยาว 18 นาที เข้าพบ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รอง ผบก.อก.บช.ภ.9 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาพล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับการมอบหมายมาจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ให้มาดำเนินคดี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ เนื่องจาก พ.ต.อ.ไพรัตน์ ได้นำคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ เมื่อปี 2560 ขณะที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ส่วนพ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรอง ผบก.ภ. จว.เพชรบุรี ไปให้สื่อเผยแพร่วันที่ 14 มกราคม 63พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวว่า ซึ่งการปล่อยคลิปและข้อความดังกล่าว ซึ่งผ่านมาแล้วเกือบ 3 ปี เป็นการใส่ความ พล.ต.อ.สุชาติ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง การพูดคุยกับ พ.ต.อ.ไพรัตน์ ซึ่งมีคำด่า ก็เป็นการพยายามตักเตือน จึงต้องตำหนิในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อไม่ให้ตำรวจกระทำความผิดเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้รวบรวมข้อมูลเป็นคลิปเสียงความยาว 18 นาที เอกสารบทสนทนา 11 แผ่น เอกสารประกอบอื่นๆ 16 แผ่น รวม 27 แผ่น นำมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น จะรวบรวมยานหลักฐาน แล้วจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาให้รับทราบก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป.
บิ๊กใหม่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรินทร์ แจ้งความเอาผิด พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีมีคลิปหลุดการสนทนาขายบัตรคอนเสิร์ต
ข่าว,อาชญากรรม
ศึกสีกากี,สุชาติ ธีระสวัสดิ์,ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์,คลิปเสียง,หมิ่นประมาท,จเรตำรวจ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1765490
เปิดตัวเสียงผู้หญิงภาคมลายู อีกหนึ่งรายการวิทยุของเหยื่อไฟใต้
ชี้ เสียงผู้หญิงเป็นปัจจัยสำคัญของการปฏิรูปสื่อเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 มิถุนายน 2555 ที่ห้องประชุมเช็คดาวุด อัลฟาฎอนี วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้หญิงภาคประชาสังคมเปิดตัวรายการวิทยุเสียงจากผู้หญิงชายแดนภาคใต้ ภาคภาษามลายู และพบปะเสวนากับเครือข่ายสื่อวิทยุ สนับสนุนโดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี Oxfam และสหภาพยุโรปนางโซรยา จามจุรี หัวหน้าโครงการผู้หญิงภาคประชาสังคมชายแดนใต้ เปิดเผยว่า รายการวิทยุ เสียงจากผู้หญิงชายแดนใต้ภาคภาษามลายูมีเรื่องที่ออกอากาศทั้งหมด 47 ตอน ระยะเวลา 2 เดือน จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 2 กรกฎาคม 2555 ผ่าน 14 สถานีและ 3 เว็บไซต์ ได้แก่ www.civicwoman.com www.exten.pn.psu.ac.th และ www.deepsouthwatch.org แต่ละตอนยาวประมาณ 17 นาที โดย 15 นาที เป็นเนื้อหาภาษามลายู ส่วนอีก 2 นาทีเป็นสรุปภาษาไทยนางโซรยา เปิดเผยอีกว่า รายการเสียงจากผู้หญิงชายแดนภาคใต้ภาคภาษามลายู มาจากเสียงสะท้อนผ่านรายการวิทยุ เสียงผู้หญิงชายแดนใต้ภาคภาษาไทยเมื่อปีที่ผ่านมา จากการประเมินพบว่า ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้จัดรายการเป็นภาษามลายูด้วย ปีนี้เครือข่ายผู้ภาคประชาสังคมชายแดนใต้จึงทำรายการภาคภาษามลายูขึ้นมา โดยจะใช้ภาษามลายูท้องถิ่นนางโซรยา เปิดเผยด้วยว่า ส่วนเนื้อหาของรายการ มีการนำผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาพูดในรายการ ซึ่งจากการที่เขาต้องสูญเสียสามีหรือลูก หรือสามีอยู่ในเรือนจำ มาสะท้อนถึงความยากลำบากที่ตัวเองได้รับและสะท้อนถึงการก้าวข้ามความยากลำบากของผู้ที่ผู้ดำเนินรายการนางโซรยา เปิดเผยว่า นอกจากนี้ทางรายการจะนำผู้หญิงที่เป็นชาวประมง มาสะท้อนถึงปัญหาจากการประกอบอาชีพประมงหรือการที่ชาวบ้านต้องสูญเสียอาชีพและสูญเสียทรัพยากรในทะเล ส่วนผู้หญิงที่อยู่สังคมที่มีการระบาดของยาเสพติด มานำเสนอวิธีการต่อสู่กับปัญหายาเสพติดในชุมชนรายการวิทยุ เสียงประชาสังคมชายแดนภาคใต้ ยังเป็นรายการที่มีการเยียวยาระหว่างที่เป็นผู้ดำเนินรายการกับผู้ฟังรายการนี้ด้วย อีกทั้งยังเป็นเยียวยาคนไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นางโซรยา กล่าวพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดพิธีว่า รายการนี้เป็นรายการวิทยุที่เหมาะสมที่สุดที่จะเปิดโอกาส หรือเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้ที่เดือดร้อน ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และผู้ที่ไม่ได้รับโอกาส จะได้มีช่องทางสั้น เร็วและง่ายที่สุด เพื่อให้ได้รับโอกาสหรือความเป็นธรรม เพราะใช้ภาษาเดียวกันกับที่ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ใช้นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในการปาฐกถาเรื่องศักยภาพผู้หญิง และวิทยุในชุมชนท้องถิ่นชายแดนใต้กับการสื่อสารเพื่อประโยชน์สาธารณะ ว่า ประเด็นของกลุ่มผู้หญิงประชาสังคมชายแดนใต้ที่จัดรายการวิทยุ เป็นปัจจัยสำคัญของการปฏิรูปสื่อ เพราะเสียงผู้หญิงหรือเสียงของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเสียงที่ไม่เคยได้ยินมานานนางสาวสุภิญญา กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นหน้าที่ของการปฏิรูปสื่อหรือหน้าที่ของรัฐ คือส่งเสริมให้กลุ่มประชาชนที่ถูกหลงลืมมาตลอด สามารถมีพื้นที่ในการแสดงออก ความคิด ความต้องการ เพราะว่าการที่ให้กลุ่มประชาชนที่ถูกหลงลืมได้แสดงออก จะทำให้เราให้เห็นปัญหาที่แท้จริงได้สำหรับสถานีวิทยุที่รายการวิทยุเสียงจากผู้หญิงชายแดนใต้ ภาคภาษามลายที่จะออกอากาศในวันที่ 2 กรกฎาคม 2555ใน 14 สถานีวิทยุ ได้แก่
เปิดตัวรายการวิทยุเสียงผู้หญิงชายแดนใต้ภาคมลายู 2 ก.ค.เริ่มออกอากาศ รวม 47 ตอน เพิ่มอีกช่องทางสร้างโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบ สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที,สังคม
กสทช.,สุภิญญา กลางณรงค์,โครงการผู้หญิงภาคประชาสังคมชายแดนใต้,โซรยา จามจุรี
https://prachatai.com/journal/2012/06/41098
Random Thoughts: การปิดกั้นคลิปศาลอย่าง (พยายาม) เนียนของ True
ทิวสน สีอุ่น:บอกเล่าถึงความพยายามอย่างสุดสติปัญญาและความสามารถของTrueในการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนในกรณีคลิปศาล ถึงวันนี้ แม้บางคนอาจจะยังไม่ได้ดูด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ผู้ที่มีเวลาพอและสนใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองก็คงทราบกันดีแล้วว่า มีคนที่ใช้ชื่อ ใน YouTube เผยแพร่วิดีโอคลิปที่ปรากฏภาพคนหน้าตาคล้ายและเสียงคล้ายบุคลากรศาลรัฐ ธรรมนูญ พูดเรื่องการเตรียมการในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และเรื่องการโกงการสอบเข้าเป็นข้าราชการตุลาการเรื่องเนื้อหาในวิดีโอคลิปนั้นไม่ใช่ประเด็นของบล็อกตอนนี้ ประเด็นก็คือ มีความพยายามในการปิดกั้นการดูวิดีโอคลิปพวกนี้แล้วโดยผู้ให้บริการอินเทอร์ เน็ตหลายรายด้วยกัน ซึ่งก็ใช้อำนาจอะไรก็ไม่รู้ (อำนาจกู?) เพราะกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก็พูดในเองว่ายังไม่ได้ขออำนาจศาล อย่างไรก็ตาม ลองมาดูว่าเขา บล็อคคลิป กันอย่างไรเริ่มจาก TOT ก่อน ผมยังไม่ได้ลองเองแต่เขา ว่าจากหน้า YouTube นั้นมันจะเปลี่ยนไปเป็นหน้า This website has been blocked by ICT พร้อมอ้างอำนาจ ศอฉ. ซึ่งก็ไม่ทราบว่าคลิปนี้เกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนกันกรณีนี้ เข้าใจว่า TOT ปิดกั้นที่ URL ของหน้านั้น (อาจจะใช้ HTTP 302 Moved Temporarily ส่งต่อไปหน้าอื่น) ทำให้ถ้าเข้าผ่านหน้าอื่นของ YouTube แต่เป็นวิดีโอเดียวกัน เช่น อันที่ถูกแปะใน Facebook ก็น่าจะดูได้ผมเองใช้บริการของ True ซึ่งที่ผ่านมาก็เปิดหน้าคลิปนั้นได้ตลอด (แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว - ดูหมายเหตุข้างบน) เนื่องจากใช้ Flashblock ไม่ให้พวก flash หรือวิดีโอมันเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติ ก็เลยคิดว่าไม่ได้มีการปิดกั้นอะไรจนวันนี้ลองคลิกดูคลิป ก็พบว่ามันกลายเป็นภาพข้อความ This video has been removed due to term of use violation ไปเสียฉิบเผลอคิดไปแวบนึงว่า โอว YouTube เอาออกเรอะ แต่พอดูอีกที ถ้ามันจะเป็นการเอาออกโดย YouTube มันน่าจะเป็นข้อความธรรมดามากกว่า ไม่ใช่วิดีโอภาพนิ่งความละเอียดห่วย ๆ อัตราส่วนเพี้ยน ๆ แบบนี้ พอลองใช้ proxy เข้าดู ก็พบว่าดูได้ปกติแปลว่าโดนปิดกั้นเข้าให้แล้วลองมาดูว่าหน้าเว็บของคลิปนี้มันโหลดอะไรมาบ้างพบว่ามีการโหลดอะไรสักอย่างจากหมายเลขไอพี 119.46.196.23 ซึ่งแล้วจะเห็นว่าเป็นเครื่องของ True (เห็น ไหมเล่า)ทีนี้มันโหลดอะไรมา ก็ จะเห็นว่าเป็นวิดีโอข้อความ This video has been removed due to term of use violation นั่นเองนับว่าวิธีการปิดกั้นของ True นี้เหนือชั้นกว่าของ TOT เพราะแบบนี้จะเอาไปแปะใน Facebook ก็ไม่ได้ แต่ที่น่าเศร้าคือดันปิดอย่างแอบ ๆ พยายามเนียน คนที่ไม่ทันสังเกตก็อาจคิดว่า YouTube เป็นผู้เอาออกเผยแพร่ครั้งแรกที่:
ทิวสน สีอุ่น:บอกเล่าถึงความพยายามอย่างสุดสติปัญญาและความสามารถของTrueในการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนในกรณีคลิปศาล [อัปเดต 11.35 น.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที,ความมั่นคง
censorship,intellect,internet,ohmygod3009,rant,True,YouTube,ทิวสน สีอุ่น
https://prachatai.com/journal/2010/11/31843
โพลชี้ประชาชนสับสนบัตรเลือกตั้ง
วันนี้ (17 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมนัดหารือพรรคการเมือง เพื่อชี้ขาดบัตรเลือกตั้งในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เบื้องต้น ได้เตรียมบัตรเลือกตั้งไว้ 2 รูปแบบ คือบัตรที่มีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งหมายเลข ชื่อ และโลโก้พรรค กับบัตรที่มีเพียงหมายเลข โดยจะรวบรวมข้อดีและข้อเสียเสนอต่อ กกต.พิจารณาขณะที่สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจกรณีข้อเสนอให้มีการตัดโลโก้ และชื่อพรรคการเมืองออกจากบัตรเลือกตั้ง และให้เป็นแบบมีแต่เบอร์เท่านั้น ร้อยละ 40.55 พบว่าประชาชนเกิดความสับสน จำชื่อ และหมายเลขพรรคไม่ได้ รองลงมาร้อยละ 24.62 พบว่าอาจเกิดการทุจริต โกงเลือกตั้งได้ง่ายขึ้น ส่วนร้อยละ 20.74 พบว่าไม่เป็นมาตรฐาน และไม่เป็นสากลนอกจากนี้ ผลสำรวจเกี่ยวกับปัญหาที่ประชาชนพบจาก บัตรเลือกตั้ง ที่ผ่านมา คือร้อยละ 38.79 พบว่าตัวหนังสือแน่น รายละเอียดเยอะและลายตา ส่วนร้อยละ 34.54 พบว่าชื่อพรรคและโลโก้พรรคไม่ชัด ทำให้ดูลำบาก และร้อยละ 19.09 พบว่ามีบัตรหลายใบ จำไม่ได้ว่าต้องกาใบไหนแบบไหน และเมื่อถามว่าประชาชนอยากให้บัตรเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นแบบใด พบว่าร้อยละ 48.13 คือมีชื่อผู้สมัคร โลโก้ ชื่อพรรคการเมืองครบถ้วน และชัดเจน ส่วนร้อยละ 22.70 คือกระดาษดี สีสด และตัวหนังสือชัด และร้อยละ 21.11 คือมีช่องให้กากบาทสะดวก ตัวเลือกไม่สับสน เข้าใจง่ายสำหรับปัญหาที่ประชาชนพบจาก การไปเลือกตั้ง ครั้งที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 32.55 คือไม่ทราบขั้นตอนวิธีการใช้สิทธิเลือกตั้ง และต้องค้นหารายชื่อ ส่วนร้อยละ 30.35 คือหน่วยเลือกตั้งอยู่ไกล ไปผิดหน่วย เสียเวลา และร้อยละ 24.11 คือต้องกลับไปเลือกที่บ้านเกิด เดินทางลำบาก ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงกาผิด ลืมชื่อ ลืมเบอร์ และจำรายชื่อผู้สมัครไม่ได้ส่วนผลสำรวจของนิด้าโพลเกี่ยวกับการรับรู้ภาพลักษณ์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในสายตาประชาชน พบว่าประชาชนรู้จักในการทำหน้าที่ สนช.มากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 83.54 ขณะเดียวกัน พบว่า ยังมีประชาชนบางส่วน ไม่รู้จักการทำหน้าที่ของ สนช. หรือร้อยละ 16.46 ขณะที่ผลสำรวจต่อการดำเนินงานของ สนช. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการดำเนินงานด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย หรือร้อยละ 84.50 รองลงมา คือด้านการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน หรือร้อยละ 82.50 ด้านการตรากฎหมาย ร้อยละ 82.00 และด้านการต่างประเทศ ร้อยละ 81.75ส่วนการดำเนินการด้านอื่นๆ ของ สนช. พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 19.88 ระบุว่า สนช.ดำเนินงานได้ดีแล้ว ทำให้ประชาชนได้รับรู้ถึงบทบาทหน้าที่ทางด้านนิติบัญญัติ ร้อยละ 13.25 ระบุว่า ควรเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์และข้อมูลข่าวสาร ร้อยละ 9.94 ระบุว่า ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ ขณะที่ร้อยละ 4.22 ระบุว่า อยากให้ สนช. ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้มากกว่านี้ รวมถึงการทำงานต้องปราศจากการแทรกทางการเมือง ควรเป็นกลาง และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
นิด้าโพลชี้ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักการทำหน้าที่ของ สนช.เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 แนะเร่งประชาสัมพันธ์ส่งเสริมประชาธิปไตย และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้มากขึ้น ขณะที่สวนดุสิตโพล ระบุประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความสับสนเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งที่มีแต่เบอร์
การเมือง
เลือกตั้ง 2562,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง,บัตรเลือกตั้ง,กกต.,สนช.,โพล,นิด้าโพล,สวนดุสิตโพล,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/276356
ไอ้ตั้มจนมุมแล้ว ผงะซุกเงิน 1.2 ล้านบาท (คลิป)
ฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็นเค้นหาผู้ร่วมสังหาร,กองปราบฯบุกชาร์จล็อกตัว ไอ้ตั้ม มือสังหารโหด เศรษฐินีสายบุญ ยัดศพหมกตู้เย็นโบกปูนทับได้แล้ว หลังแกะรอยจนพบใช้เงินของเหยื่อซื้อบิ๊กไบค์ซิ่งหลบหนี แฉขี่รถหลอกล่อให้ตำรวจสับสน ใช้เส้นทางจากนครปฐมมุ่งหน้าเมืองกาญจน์ ตัดเข้าสุพรรณฯทะลุออกชัยนาท ก่อนจนมุมในพื้นที่นครสวรรค์ ผงะเจอเงินสด 1.2 ล้านบาทมัดเป็นฟ่อนยัดใส่เป้ พร้อมสร้อยทองหนัก 5 บาท และมือถือ 2 เครื่อง คุมตัวส่งตำรวจภาค5 สอบปากคำเค้นความจริงยังมีใครร่วมทีมฆ่าอีกหรือไม่,คดีสะเทือนขวัญ คนร้ายอำมหิตฆ่าโหด ,น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง, อายุ 58 ปี เศรษฐินีสายบุญ ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับมัดมือมัดเท้าใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวจนสิ้นใจ นำศพยัดใส่ตู้เย็นแล้วโบกปูนซีเมนต์ปิดทับ หมกไว้ในห้องครัวตึกแถว 3 ชั้น เลขที่ 90/3 บ้านหลวง หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พบศพเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ตำรวจมุ่งประเด็นฆ่าเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ และศาล จังหวัดฮอด ออกหมายจับนายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือตั้ม หรือเอ็ม อายุ 39 ปี อดีตโชเฟอร์รถสองแถว มือสังหาร หลังมีภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปตระเวนกดเงินสดถึง 20 ครั้ง ได้เงินไปราว 1.2 ล้านบาท พร้อมขโมยรถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น เอ็กซ์ 1 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 3769 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย ต่อมาพบรถยนต์ถูกถอดป้ายทะเบียนออก นำไปจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ขณะที่คนร้ายโทรศัพท์กลับไปหาภรรยาอ้างว่าไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่มีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนคอยบงการ,ตำรวจใช้เวลาเพียง 5 วัน สามารถจับกุมฆาตกร อำมหิตและคลี่คลายคดีนี้ได้แล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ทีมสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์อำไพจิตร์ สว.กก.4 บก.ป. ร.ต.อ.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ รองสว. กก.4 บก.ป. ด.ต.นิติธร ประชันกาญจนา ด.ต.ยุทธนา ดวงดาว และ ส.ต.อ.กัมปนาท อุตบัววงศ์ ผบ.หมู่กก.4 บก.ป. ที่แกะรอยและเฝ้าติดตามนายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือเอ็ม หรือตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับมาตลอดหลายวัน กระทั่งพบตัวนายวิฑูรย์ ผู้ต้องหา สวมเสื้อแขนยาวสีเทาอ่อน คลุมทับด้วยเสื้อลายพรางแขนสั้นสีเทาเข้ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า 300 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปตามถนนสาย 1072 ต.หนองกระโดน อ.เมืองนครสวรรค์,เจ้าหน้าที่ได้วางแผนอย่างรอบคอบเพื่อเข้าตะครุบตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเริ่มไหวทัน และพยายามเร่งเครื่องรถ จยย.หนีสุดกำลัง ชุดจับกุมที่ขับรถเก๋งและรถกระบะไล่ตามมา ได้กระจายกันปิดล้อมดักสกัดตามเส้นทาง ก่อนตัดสินใจใช้รถเก๋งปาดหน้ารถ จยย.ของผู้ต้องหาจนต้องเบี่ยงลงไหล่ทางและหมดหนทางหลบหนี ชุดจับกุมปรี่เข้าชาร์จล็อกตัวกดลงกับพื้นก่อนสวมกุญแจมือไพล่หลัง ทันทีที่รู้ว่าสูญสิ้นอิสรภาพ นายวิฑูรย์ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน พูดเพียงว่า ผมยอมแล้วครับ เจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายจับให้ฟัง เบื้องต้นนายวิฑูรย์ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าผู้ตายจริงเพราะต้องการทรัพย์สิน ตรวจค้นในช่องเก็บของใต้เบาะรถ จยย.พบกระเป๋าเป้สีน้ำเงิน ภายในมีเงินสด 1.2 ล้านบาท ที่ใช้บัตรเอทีเอ็ม ของผู้ตายตระเวนกดเงินสดออกมา สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง,มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน กก.4 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี รีบรายงานไปยัง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน และ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ นำกำลังลงพื้นที่ทันที ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหานำเงินสดจำนวน 1.6 แสนบาท ไปซื้อรถ จยย.คันดังกล่าวที่ร้านจำหน่ายรถ จยย.บิ๊กไบค์ ในพื้นที่ อ.สนามจันทร์ จ.นครปฐม เพื่อใช้เป็นพาหนะหลบหนี และเมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนแกะรอยจนทราบว่าผู้ต้องหาขี่รถมุ่งหน้าไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี ก่อนจะไป อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรีจากนั้นใช้เส้นทาง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มุ่งสู่ จ.ชัยนาท ก่อนตัดเข้าพื้นที่ จ.นครสวรรค์ คาดต้องการไปหาสถานที่กบดาน เพราะรู้ว่ากำลังถูกตำรวจไล่ล่ามาอย่างกระชั้นชิด,พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช, ผบก.ป. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. ว่าร่วมกับตำรวจภูธร ภาค 5 จับกุมตัว นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วและรายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบ ชุดจับกุมจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ต่อไป,เวลา 17.30 น.วันเดียวกัน ,พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข, ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า เมื่อตำรวจชุดจับกุมนำตัว,นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์, มาที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 จ.เชียงใหม่ จะนำมาแจ้งข้อหาและสอบปากคำเพื่อขยายผล ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพเป็นผู้กระทำเอง แต่จะมีใครร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ยังไม่ชัดเจน เพราะคนร้ายพยายามพูดไปหลายเรื่องหวังเบี่ยงเบนประเด็น ตำรวจจะเก็บพยาน หลักฐานไว้ หากสาวไปถึงใครและมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด,พล.ต.ท.ประจวบกล่าวต่อว่า ในส่วนที่ผู้ต้องหาโทรศัพท์พูดคุยกับภรรยาคนหนึ่ง และอ้างว่ามีใครร่วมมือด้วยอย่างไรนั้น จะต้องได้ตัวผู้ต้องหามาสอบสวนอย่างละเอียดก่อน เชื่อว่ามูลเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือเกิดจากคุ้นเคยกับผู้ตายเพราะขับรถสองแถวรับจ้างแถวหน้าวัดจนรู้จักกัน และรู้ความเคลื่อนไหวว่าผู้ตายอยู่บ้านเพียงคนเดียว อีกทั้งมีทรัพย์สมบัติมากพอสมควรเลยวางแผนก่อเหตุขึ้นมาเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ สำหรับคนนำรถยนต์ของผู้ตายไปซ่อนและซุกป้ายทะเบียนไว้ในโถชักโครกที่ตำรวจได้ตัวมาแล้วนั้น เรื่องนี้ต้องดูพยานหลักฐาน หากเชื่อมโยงไปถึงจะดำเนินคดีแน่นอน และขณะจับกุมพบว่าในตัวคนร้ายยังมีเงินสดเหลืออยู่จำนวนมาก กำลังไล่ตรวจสอบบัญชีผู้ตายทั้งหมดให้แน่ชัดว่ามียอดเงินรวมเท่าไหร่ และถูกคนร้ายกดออกไปเท่าไหร่ ขอให้ได้ตัวผู้ต้องหามาแล้วถึงจะเปิดแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบ จากนั้นจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หากผู้ต้องหาไม่ขัดข้อง,ขณะที่บรรยากาศที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ถนนมหิดล ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่ภายในห้องประชุมไว้เป็นห้องสอบสวน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมห้องสอบสวนไว้แล้ว ชุดสอบสวนภาค 5 จะร่วมกับ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงมากที่สุด คดีนี้จะต้องทำอย่างรัดกุม ให้มัดตัวผู้ต้องหาจนดิ้นไม่หลุด การสอบสวนคงจะใช้เวลาพอสมควร,เย็นวันเดียวกัน ภายหลังตำรวจจับกุม,นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์, ได้แล้ว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 5 หมู่ 9 ต.ทุ่งฝาย อ.เมืองลำปาง ขอพบบิดามารดาของนายวิฑูรย์ ผู้ต้องหา เพื่อสอบถามว่าทราบหรือไม่ว่าลูกชายถูกจับกุมแล้ว เมื่อไปถึงปรากฏว่าบ้านปิดเงียบ ผู้สื่อข่าวพยายามเรียกแต่ไม่มีใครออกมา สอบถามบ้านข้างเคียงบอกว่า หลังเกิดเหตุพ่อแม่ของนายวิฑูรย์เก็บตัวเงียบมาหลายวันแล้ว เนื่องจากเครียดมากที่ลูกชายไปก่อเหตุร้ายดังกล่าว,นางแต้ว (นามสมมติ) อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอ้างว่า รู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวผู้ต้องหาเป็นอย่างดี ช่วงที่อยู่บ้าน จ.ลำปาง นายวิฑูรย์จะใช้ชื่อเล่นว่า เอ็ม แต่พอไปขับรถสองแถวอยู่ จ.เชียงใหม่ เปลี่ยนไปใช้ชื่อเล่นว่า ตั้ม หลายวันมานี้พ่อและแม่ของนายเอ็มมีอาการเครียดจัด โดยเฉพาะพ่อนายเอ็ม จะเก็บตัวเงียบและบอกว่าเครียดมากที่ลูกชายมาก่อเหตุแบบนี้ และยังพูดเปรยว่า แล้วแต่เวรแต่กรรมที่ลูกชายกระทำไป ส่วนแม่ของนายเอ็มยังไม่มีใครบอกว่าลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากเกรงจะกระทบกระเทือนกับโรคทางจิตเวชที่เป็นอยู่ ก่อนหน้านี้ช่วงที่นายเอ็มหายตัวไปก่อนพบศพเศรษฐินี พ่อของนายเอ็มยังอยู่เฝ้าบ้านที่เชียงใหม่ เพียงลำพัง และเมื่อติดต่อนายเอ็มไม่ได้หลายวันหลังตำรวจพบศพแล้ว พ่อนายเอ็มเลยขึ้นรถทัวร์กลับมาที่ลำปาง แล้วปิดบ้านเก็บตัวเงียบ คาดว่าคงทำใจยอมรับชะตากรรมของลูกชายที่อาจได้รับโทษถึงประหารชีวิต
กองปราบฯบุกชาร์จล็อกตัว ไอ้ตั้ม มือสังหารโหด เศรษฐินีสายบุญ ยัดศพหมกตู้เย็นโบกปูนทับได้แล้ว หลังแกะรอยจนพบใช้เงินของเหยื่อ
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าเศรษฐินี,ฆ่าโบกปูนยัดตู้เย็น,เชียงใหม่,ล็อกตัว,นครสวรรค์,วิฑูรย์ ศรีตะบุตร์,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1694480
วิว เสียวตกสะพาน นิว ลังเลจะช่วยดีมั้ย?
นิว-ชัยพล, ในละคร ,รักซ่อนแค้น, เริ่มสับสนตัวเองเมื่อได้ใกล้ชิดกับสาว ,วิว–วรรณรท, ล่าสุดเจอโจทย์ที่ทำให้คิดหนักเหมือนกันว่าจะเลือกทางไหน โดยเป็นตอนที่ ,อิน (วิว), กำลังถ่ายแบบอยู่บนสะพาน และระหว่างนั้น, อิน, เกิดพลาดจนเกือบจะตกสะพานอยู่รอมร่อ ,ปืน (นิว), ที่มาทำหน้าที่บอดี้การ์ดรีบเข้าไปช่วย แต่แล้วจิตใจข้างในก็เกิดความขัดแย้งขึ้นมา,---ฉากนี้ ผกก. ,หนุ่ม­-อรรถพร, ยกกองไปถ่ายที่สะพานพระรามแปด จุดที่ต้องเกือบตกลงไป ,วิว, เดินไปสำรวจด้วยตัวเอง แค่ชะโงกหน้าไปดูก็เข่าอ่อนซะแล้ว เพราะสูงเท่าตึก 5 ชั้นทีเดียว แต่ ผกก.ก็ปลอบว่า ไม่ต้องกลัวเรามีการเซฟอย่างดี โดยใช้เครนขึงลวดสลิงไว้คอยดึง, วิว, ก็ค่ะๆ เล่นได้ค่ะ หลังจากซักซ้อมคิวกับ ,นิว, เสร็จทีมงานก็มาสวมใส่สลิงให้ จากนั้น ,วิว, ก็ปีนราวสะพานขึ้นไปเพราะตามบทตากล้องสั่งให้, วิว, ขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน พอจังหวะจะปีนรองเท้าส้นสูงเกิดหลุด ทำให้ ,วิว, ร่วงลงไป ดีที่มือจับราวสะพานไว้ ,นิว, รีบวิ่งเข้าไปทันที ,วิว, เริ่มเกาะไม่ไหวช่วงที่มือกำลังจะหลุด, นิว, ก็พุ่งเข้าไปคว้ามือไว้ทัน แต่แล้ว, นิว, ก็คิดถึงความแค้นขึ้นมาทำให้ 2 ความคิดตีกันว่าจะปล่อยมือหรือช่วยชีวิต แต่สุดท้ายฝ่ายดีก็ชนะ ,นิว, ดึง ,วิว, ขึ้นมา แล้วทั้งคู่ก็เซล้มไปทับกันบนพื้น ตาสบตากันอยู่พักนึง,ถ่ายฉากนี้เสร็จ ,วิว, ยอมรับ หนูกลัวจริงนะตอนนั้น แม้จะรู้ว่าเซฟดีแต่มันสูงมากอะค่ะอย่าพลาดชมคืนนี้ ทางช่องวัน 31.
จะรักหรือจะแค้นดีน้า พระเอก นิว–ชัยพล ในละคร รักซ่อนแค้น เริ่มสับสนตัวเองเมื่อได้ใกล้ชิดกับสาว วิว–วรรณรท ล่าสุดเจอโจทย์ที่ทำให้คิดหนักเหมือนกันว่าจะเลือกทางไหน
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
รักซ่อนแค้น,นิว ชัยพล,วิว วรรณรท,ช่องวัน 31,หนุ่ม อรรถพร,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1031407
กองทัพปลดปล่อยซีเรียยื่นคำขาดให้รัฐบาล หยุดยิง-ถอนกำลัง ตามมติยูเอ็น
วิดีโอที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูบ พ.อ.คัสซิม ซาลาเฮ็ดดิน ระบุว่า เป็นผู้บัญชาการกองกำลังปลดปล่อยซีเรียยื่นคำขาดให้รัฐบาลซีเรียหยุดยิงและถอนกำลังทหารจากพื้นที่ของพลเรือนภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อเคารพต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และความชอบธรรมสากล โดยต้องยุติความรุนแรงทุกรูปแบบและอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นทางกองทัพปลดปล่อยซีเรียจะออกมาปกป้องประชาชนนอกจากนี้ยังมีนักเคลื่อนไหวเผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นการโจมตีเมืองฮูล่า และ เมืองฮอมด้วยปืนใหญ่ด้วยแม้ว่าทางกองทัพปลดปล่อยประชาชนจะยืนยันว่าทำตามแผนการที่เสนอโดยนายโคฟี่ อันนัน ทูตพิเศษสหประชาชาติ แต่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของซีเรีย ระบุว่า มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงกว่า 3500 ครั้ง โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีการปะทะกันระหว่างกองทัพและกองกำลังปลดปล่อยประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศขณะที่เด็กชายชาวซีเรียอายุ11 ปี เล่าถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ 108 ศพที่เมืองฮูล่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขารอดชีวิตมาได้ขณะที่มือปืนบุกสังหารคนในครอบครัวของเขา เพราะเขาเอาเสื้อผ้าที่สวมอยู่ชุบเลือดของพี่ชายเพื่อหลอกกลุ่มคนร้ายว่าตายแล้ว
กองทัพปลดปล่อยซีเรียยื่นคำขาดให้รัฐบาลซีเรียหยุดยิงและถอนกำลังทหารตามข้อตกลงของสหประชาชาติภายในวันนี้ ( 1 มิ.ย.) ไม่เช่นนั้นทางกองทัพปลดปล่อยซีเรียจะออกมาปกป้องประชาชน
ต่างประเทศ
กองทัพปลดปล่อย,ซีเรีย,ถอนกำลัง,ยื่นคำขาด,ยูเอ็น,หยุดยิง
https://news.thaipbs.or.th/content/88550
รวบหนุ่มมะกันต้องสงสัยอุ้มฆ่านักธุรกิจออสซี่ สอบเค้นแฟนผู้ต้องหา
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 58 ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติ 5 คน บุกทำร้ายร่างกายและลักพาตัว นายเวย์น ชไนเดอร์ ชาวออสเตรเลีย นักธุรกิจเกี่ยวกับฟิตเนสที่เมืองซิดนีย์ จนกระทั่งพบเป็นศพถูกฝังอยู่ในป่า ห่างจากริมถนนสายวิหารเซียน-เขาชีจรรย์ ประมาณ 100 เมตร ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในสภาพคอหัก ไม่สวมเสื้อผ้าและมีรอยแตกบริเวณคิ้วซ้ายนั้น,ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.อนุกูล ปรีดายุทธ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 345/3 ซอย 6 ถ.พระตำหนัก หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นบ้านที่ นายแอนโทนิโอ แบคนาโต้ ผู้ต้องหาเช่าไว้ และถูกระบุว่าเป็นสถานที่ที่คนร้ายลงมือฆ่า นายเวย์น พบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกสร้างอย่างหรูหราในพื้นที่กว่า 50 ตร.ว. เบื้องต้นเก็บรอยนิ้วมือแฝงและร่องรอยเลือดตามจุดต่างๆ ของบ้าน พร้อมกับค้นหาหลักฐานอื่นๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี,จากนั้น พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงาน ประกอบด้วย ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี เพื่อสรุปรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว,พล.ต.ต.อำพล เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากสามารถเก็บรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญต่างๆ ได้มากขึ้น โดยสามารถสรุปได้ว่า คนร้ายลงมือก่อเหตุลักพาตัว นายเวย์น ในช่วงเช้าของวันที่ 30 พ.ย. จากนั้นลงมือฆ่าที่บ้านพักของ นายแอนโทนิโอ ก่อนนำศพไปฝังไว้ที่ อ.สัตหีบ และแยกย้ายกันหลบซ่อนตัว จากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายยังไม่หลบหนีออกนอกประเทศ,ล่าสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัว Mr.Tyler Joseph Fulton Sheen Gerard อายุ 21 ปี สัญชาติอเมริกัน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้ที่ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ และยังอยู่ในระหว่างการนำตัวมาที่ สภ.เมืองพัทยา ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ตั้งประเด็นไว้ในเรื่องธุรกิจยาเสพติด และการทะเลาะวิวาทส่วนตัว,ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.เปรี้ยว (นามสมมติ) ได้รับคำสั่งจากแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลีย ทางโทรศัพท์ ให้เช่ารถกระบะคันก่อเหตุจากเต็นท์รถหน้าเอ็กซ์ไซต์ ถนนพัทยาสาย 3 ย่านพัทยากลาง ในราคาวันละ 1,500 บาท เพื่อนำมาให้กลุ่มผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ และมีกำหนดส่งคืนวันที่ 3 ธ.ค. แต่แฟนหนุ่มของ น.ส.เปรี้ยว เดินทางกลับประเทศออสเตรเลีย ไปก่อน และสั่งให้ลบข้อมูลการสนทนาทางโทรศัพท์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ตำรวจคุมตัว น.ส.เปรี้ยว ไว้สอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่.
ผู้การฯ ชลบุรี เผย อุ้มฆ่านักธุรกิจหนุ่มออสซี่ คดีคืบไปมาก สอบแฟนสาวหนึ่งในผู้ต้องหา รับเป็นคนเช่ากระบะคันก่อเหตุ ชุดสืบสวนบุกค้นบ้านเก็บหลักฐาน ขณะ ตม. รวบหนุ่มอเมริกัน ต้องสงสัยเตรียมหนีออกนอกประเทศด้าน จ.สระแก้ว
null
อุ้มฆ่านักธุรกิจออสซี่,อุ้มฆ่า,ลักพาตัว,อำพล บัวรับพร,เวย์น ชไนเดอร์,นักธุรกิจออสซี่,นักธุรกิจออสเตรเลีย,สภ.เมืองพัทยา,คนร้ายอุ้มฆ่านักธุรกิจ,ฆ่าฝังศพ,ฆ่าหมกศพ,พัทยา,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/543670
ลอบวางระเบิดทหารเฉพาะกิจปัตตานีบาดเจ็บ 8 นาย
เกิดเหตุลอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุใส่ถังแก็ส น้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ไปฝั่งไว้ริมถนน บริเวณทางเข้าหมู่บ้านราวอ หมู่ 3 ตำบลกระหวะ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ก่อนจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือมือ เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ เร่งตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ ขณะที่ทหารร้อย ร. 15331 เฉพาะกิจปัตตานี จำนวน 8 นาย นั่งรถยนต์ลาดตระเวนนำหน้า โดยมีชุดเดินเท้า เดินตามหลังเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครู เดินทางไปโรงเรียนบ้านราวอ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แรงระเบิดทำให้ผู้ที่นั่งมาในรถโดยเฉพาะ ส.อ.อดิพงษ์ รักวงศ์ พลขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีก 7 นาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนชุดเดินเท้าปลอดภัยพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลความมั่นคง ได้เดินทางเข้าประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ติดตามสถานการณ์ภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอน โดย พล.ต.อ.ประชา ระบุก่อนการประชุมว่า รู้สึกยินดี ที่จะได้ทำงานร่วมกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจในการขับเคลื่อนภารกิจให้เป็นไปตามนโยบาย และยุทธศาตร์ ส่วนการประชุมในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการพูดคุยติดตามสถานการณ์ภาคใต้ และในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งบางพื้นที่จะเริ่มในวันที่ 9 กรกฎาคม
กลุ่มผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดทหารในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย บาดเจ็บอีก 7 นาย ขณะลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครู เดินทางไปโรงเรียนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ภูมิภาค
ชุดรักษาความปลอดภัยครู,ถังแก๊ส,ปัตตานี,ลอบวางระเบิด,โทรศัพท์มือถือ
https://news.thaipbs.or.th/content/182599
ที่ว่าแน่ๆอาจจะไม่แน่ก็เป็นได้
การที่ประชาชนไปใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมากทั้งแบบนอกประเทศและล่วงหน้า ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่ายินดียิ่ง,ด้านหนึ่งคือไปทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองไทย,อีกด้านหนึ่งก็ต้องการได้นักการเมือง พรรคการเมืองและนายกฯตามที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม,พูดง่ายๆเพื่อที่จะกำหนดผู้บริหารประเทศด้วยมือของพวกเราเองในการไปหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง,ประชาชนเป็นใหญ่ก็ตรงนี้แหละครับ,ไม่ใช่ออกจากปากนักการเมืองที่พูดเอง เออเอง พอเลือกตั้งเสร็จก็แล้วกันไปไม่เคยฟัง ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ ไม่เห็นหัวแม้แต่น้อย,อย่างที่พูดกันว่าประชาธิปไตย 5 นาทีทำนองนั้น,ด้วยกระแสการเมืองในลักษณะที่ประชาชน ตื่นรู้ อย่างนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าในวันที่ 24 มี.ค. คงไปใช้สิทธิกาบัตรกันเป็นจำนวนมาก,พรรคการเมืองไหนได้เสียงมากสุดก็เท่ากับว่าประชาชนตัดสินใจที่จะเลือกพรรคนั้นด้วยเหตุผลอะไร ก็เป็นทิศทางอนาคตของประเทศต่อไป,แต่ก็คงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้,จะเป็นประเด็นสำคัญทางการเมืองของประเทศที่มีตัวแปรเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลายอย่าง,แม้แต่บรรดาโพลที่ออกมาก็มีทิศทางที่ต่างกัน ยังไม่สามารถเชื่อถือได้มากนัก หรือแม้กระทั่งบรรดาโหรทั้งหลายก็มีมุมมองที่ต่างกัน,ไม่มั่นใจว่าผลจะออกมาอย่างไรเช่นกัน ถึงขั้นบอกว่าอาจจะ ล็อกถล่ม ก็มีความเป็นไปได้เพราะดวงเมืองมฤตยูทับพระอาทิตย์ดวงเดิม นอกจากจะบอกถึงเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาได้,คือจะเกิดอาการผันแปรอันส่งผลให้จิตใจของคนในเมืองอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามอาการของมฤตยูด้วยจึงคาดหมายได้ยาก,ก็คือคนทั้งเมืองออกอาการ อึดอัด ต่อการเลือกตั้ง จึงต้องการแสดงออก,นักการเมืองก็คงจะเช่นกัน เมื่ออ่านอาการของสังคมอย่างนี้คือไม่มีความแน่นอน จึงพยายามที่จะดำเนินยุทธวิธีต่างๆ ด้วยการสร้างโอกาสเพื่อจะไปถึงจุดนั้นให้ได้,ถึงขั้นประกาศเสียงดังๆว่า ต่อไปนี้ไม่เกรงใจใครอีกแล้ว แบบว่ายอมแตกหักไม่ว่าจะเคยมีสัมพันธ์หรือแนบแน่นกันมาก่อนก็ตาม,หรือถ้ามองกันอย่างเป็นรูปธรรมนอกจากประกาศนโยบายหวังได้ใจคนแล้ว ในเกมการเมืองอย่างนี้,ก็ต้องหาเป้าหมายเพื่อถล่มให้เละ เพื่อตัดออกจากเส้นทางเนื่องจากประเมินแล้วว่าน่าจะเป็นตัวเต็งทั้งตัวบุคคลที่เป็นนายกฯ และพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลคิดว่าเป็นคู่แข่ง คู่ต่อสู้,นึกอะไรไม่ออกก็รุมด่า ลุงตู่ ลูกเดียวเพราะง่ายที่สุด,หากว่ากันตามเกมที่เห็นๆกันอยู่นั้น น่าจะมีพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรคที่จะขับเคี่ยวกันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ,อันดับ 1 และอันดับ 2 จึงเป็นเป้าหมายสูงสุด?,เพราะโอกาสและความเป็นไปได้นั้นออกได้ทุกหน้า พรรคไหนคว้าเสียงได้ใน 2 อันดับนี้จึงมีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล,ที่พูดๆประกาศกันตอนนี้ถือเสียว่าฟังหูไว้หูเอาไว้แค่นั้นแหละ ส่วนจะเลือกใคร พรรคไหนเป็นเรื่องที่จะต้องตั้งสติคิดและไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนก็แล้วกัน,นักการเมืองไทย คิดอย่างเดียวขอให้ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น.,สายล่อฟ้า,อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
ไฟปรารถนาแตกซ่าน การที่ประชาชนไปใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมากทั้งแบบนอกประเทศและล่วงหน้า ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่ายินดียิ่ง
null
เลือกตั้ง,เลือกตั้ง62,พรรคการเมือง,เลือกตั้งล่วงหน้า,ประชาธิปไตย,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า
https://www.thairath.co.th/news/politic/1522256
อุเทน ซัด สธ.-กต. คิดช้า-ทำช้า จนข่าวลือไวรัสโคโรน่าสะพัด
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ในประเทศจีนว่า เท่าที่ติดตามข้อมูลจะเห็นได้ว่า โรคนี้อาจไม่ร้ายแรง แต่บั่นทอนจิตใจผู้คนมาก เพราะแพร่เชื้อเร็ว ความตื่นตระหนกที่เกิดในประเทศไทยนั้น ต้องขอตำหนิไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศ รวมไปถึงนายกรัฐมนตรี ที่คิดช้า ทำช้า หรือคิดไม่เป็น ทำไม่ได้ ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวลือมากมาย เนื่องจากรัฐบาลไม่เด็ดขาด ขาดความชัดเจน เกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวัง และการคัดกรองผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในประเทศว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ตนยังมีความเป็นห่วงกรณีคนไทยและนักศึกษาไทย 64 ชีวิตที่ยังอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่รัฐบาลควรอำนวยความสะดวกในการนำคนเหล่านั้นกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุดด้วยรัฐบาลไทยควรใช้วิกฤติครั้งนี้เป็นโอกาสในการแสดงน้ำใจในฐานะบ้านพี่เมืองน้องกับประเทศจีน โดยการเสนอตัวที่จะส่งคณะแพทย์ พยาบาล ไปช่วยเหลือประเทศจีน ที่สถานการณ์การระบาดรุนแรงรวดเร็ว ทั้งยังเป็นโอกาสที่จะขอนำคนของเรากลับมาด้วย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องมีหน้าที่ในการประสานงานไปทางประเทศจีนโดยเร็วที่สุด นายอุเทนกล่าว.
อุเทน ซัด สธ.-กต. คิดช้า-ทำช้า จนข่าวลือไวรัสโคโรน่าสะพัด ห่วง 64 คนไทยในอู่ฮั่น แนะ รบ.เสนอตัวส่งแพทย์-พยาบาลไปช่วยที่จีน ถือโอกาสพาคนไทยกลับบ้านด้วย
ข่าว,การเมือง
ไวรัสโคโรน่า,โคโรน่าไวรัส,ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรนา,อุเทน ชาติภิญโญ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1760011
ประจิน รับผลงานไม่น่าพอใจ ประเมินคมนาคม 6 เดือนยังไม่ได้เนื้อหนัง
เพราะต้องเร่งให้จบในรัฐบาลนี้ หากไม่จบต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่,พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคมในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า ในระยะเวลาของการบริหารงานกระทรวงคมนาคมเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ทุกโครงการยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะกระทรวง คมนาคมส่วนมากจะเป็นนโยบายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม แต่งานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแก้ปัญหามากกว่า ซึ่งแต่ละโครงการยังมีความคืบหน้าไม่มาก บางโครงการไม่คืบหน้า ก็เลยไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นผลงาน ซึ่งถ้าเป็นบุคคลทั่วไป ไม่ว่าผลงานจะลบหรือบวกแค่มีความคืบหน้าก็จะถือว่าเป็นผลงาน,คำว่าผลงานคือสร้างสรรค์และเป็นบวก และหากถามว่าพอใจกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องบอกว่าไม่พอใจเลย เพราะสิ่งที่ทำนั้น ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่ประชาชนมาร้องเรียน หรือเป็นความหวังของประชาชนได้ทุกเรื่อง ถ้าได้ทุกเรื่องจะพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาแท็กซี่ก็ยังไม่จบ เรื่องการจัดระเบียบแท็กซี่ก็ยังไม่ทำต่อ เรื่องของรถ ขสมก.ก็ยังไม่คืบหน้า การพัฒนาสนามบินก็ยังต้องทำต่อ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, สนามบินอู่ตะเภา เรื่องท่าเรือก็ยังไม่ก้าวหน้า ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น, โครงการตั๋วร่วม, มอเตอร์เวย์, ทางด่วน ทั้งหมดยังดำเนินการไม่จบ จึงยังไม่เห็นผลงานที่น่าพอใจ ซึ่งในใจตนเองถือว่าการดำเนินตามแผนงานของกระทรวงคมนาคมทั้งหมดยังล่าช้าเพราะไม่สามารถทำได้ตามคาดหวัง แต่ก็จะต้องเร่งเดินหน้าให้จบตามแผนงาน,พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า การทำงานทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ไม่สามารถข้ามขั้นตอนได้ ดังนั้นทุกโครงการก็ยังล่าช้าอยู่ หากทำงานแบบเร่งรัดขั้นตอน ก็อาจจะทำให้แต่ละโครงการเกิดปัญหาได้ ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความล่าช้าไปอีก ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการดำเนินการ การทำงานก็ต้องอาศัยขบวนการขั้นตอนให้เวลาในการทำงาน หากจะแก้ไขให้เร็วขึ้นก็ต้องไปปรับโครงสร้างขบวนการทำงานใหม่,ทั้งนี้ ในแต่ละโครงการของทุกกระทรวงที่ล่าช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้เร่งให้แต่ละกระทรวงเร่งดำเนินการ กระทรวงคมนาคมก็เช่นกัน เพราะอยากให้ทุกโครงการสามารถเห็นเป็นรูปธรรมหรือเริ่มต้นโครงการได้แล้วเสร็จในวาระของรัฐบาลนี้ เพราะหากไม่เกิดในช่วงนี้ ทุกอย่างก็อาจจะต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ,อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม หากยังไม่มีความคืบหน้าตามเป้าหมายหรือล่าช้ากว่าเป้าหมายมาก ก็ต้องมีความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 ในการเร่งผลักดันในแต่ละโครงการ เช่น เรื่องผลกระทบจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ซึ่งต้องใช้แน่นอน หรือการจะใช้ในการตั้งหน่วยงานใหม่ก็มีโอกาสที่จะขอใช้มาตรา 44 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกรมขนส่งทางอากาศ ที่จะมาแทนกรมการบินพลเรือน เรื่องของกฎหมายพวกนี้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรา 44 เข้ามาช่วยดำเนินการให้เร็วขึ้น ส่วนกรมการขนส่งทางราง ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่างๆ ให้รอบคอบ ก่อน ส่วนโครงการอื่นหากพิจารณาแล้วเห็นว่าเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ต้องการให้โครงการเดินหน้าได้เร็ว ก็อาจจะลดขั้นตอนแล้วใช้มาตรา 44 แต่ก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลบนพื้นฐานความจำเป็น.
ประจิน ไม่พอใจผลงานกระทรวงคมนาคม 6 เดือน ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่คนร้องเรียน หรือเป็นความหวังของประชาชนได้ ทั้งเรื่องจัดระเบียบแท็กซี่ ขสมก. พัฒนาสนามบิน รถไฟรางคู่ที่เพิ่งเริ่ม มั่นใจหลายเรื่องต้องใช้มาตรา 44
null
ข่าวเศรษฐกิจ,ประจิน จั่นตอง,ไม่พอใจผลงาน,ผลักดัน,โครงสร้างพื้นฐาน,ไม่สามารถ,แก้ปัญหาร้องเรียน,จัดระเบียบแท็กซี่,จัดระเบียบ ขสมก.,พัฒนาสนามบิน
https://www.thairath.co.th/content/493238
หนุ่ม 15 ขี่ จยย.ส่งหมูกระทะ พุ่งชนกระบะกะโหลกแตกดับ คาดเบรกไม่อยู่
หนุ่ม 15 ขี่ จยย.กำลังมุ่งหน้าไปส่งหมูกระทะ พุ่งชนกระบะอย่างจัง กะโหลกแตกเสียชีวิต คนขับกระบะคาด จยย.เบรกไม่อยู่เมื่อเวลา 20.20.น. วันที่ 22 พ.ค.63 พ.ต.ท.สมรัก มูลหาร สว.(สอบสวน) สภ.แสนสุข รับแจ้งเหตุรถชนกัน บนถนนสายอ่างศิลา-เขาสามมุข ปากทางออกหมู่บ้านเดอะสามมุก วิลเลจ 1 ต.อ่างศิลาอ.เมือง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรมที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กช 2518 ชลบุรี ดัดแปลงเป็นรถส่งหมูกระทะ พุ่งชนบริเวณประตูด้านคนขับของรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 4 กม 8024 กรุงเทพฯ บุบเสียหาย นอกจากนี้ยังพบศพ นายคมสัน กึ่งไกรอายุ 15 ปีคนขี่จักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพกะโหลกศีรษะแตก ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายก้องภพ สายสุด อายุ 19 ปีจากการสอบสวน นายก้องภพ คนขับรถกระบะ เล่าว่า จักรยานยนต์กำลังจะไปส่งหมูกระทะ เบรกไม่อยู่พุ่งชนรถตนอย่างแรง จนเป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตดังกล่าวเบื้องต้นตำรวจได้คุมตัว นายก้องภพ คนขับรถกระบะไปสอบสวนหาสาเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หนุ่ม 15 ขี่ จยย.กำลังมุ่งหน้าไปส่งหมูกระทะ ขับชนกระบะพุ่งออกจากซอยสนั่น ล้มคว่ำกะโหลกแตกเสียชีวิต คนขับกระบะคาด จยย.เบรกไม่ทัน
ข่าว,ทั่วไทย
รถชนกัน,จักรยานยนต์,จยย.ชนกระบะ,รถตัดหน้า,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1851264
รณรงค์ลดความเสี่ยงติด COVID-19 จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (28 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบกแจ้งขอหยุดการปฏิบัติภารกิจล้างสิ่งปนเปื้อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. หลังจาก กองทัพบกได้ปฏิบัติภารกิจในหลายพื้นที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า ขนส่งสาธารณะ และย่านชุมชน ต่อเนื่ิองมาตั้งแต่วันที่ 18 -27 มี.ค.ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า รณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นับถือศาสนาอิสลาม ร่วมปฏิบัติตาม 5 มาตรการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 คือ ไม่ใช้น้ำละหมาดร่วมกัน ไม่ปูพรมในมัสยิด ไม่ให้ผู้มีอาการป่วย อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ไม่ให้สัมผัสหรือสวมกอด ให้ใช้การยกมือขวา และกล่าวสลามแทนเพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หลังมีผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสียชีวิต 1 ราย หลังเดินทางกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
กองทัพบกหยุดภารกิจล้างสิ่งปนเปื้อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 วัน ขณะที่ กอ.รมน.ภาค4ส่วนหน้าขอความร่วมมือประชาชนชายแดนใต้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
การเมือง
โควิด19,กองทัพบก,จังหวัดชายแดนภาคใต้,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID-19,COVID19
https://news.thaipbs.or.th/content/290340
อีริคสัน ยกนิ้ว ปู่รอย เลือก แรชฟอร์ด ติดทัพสิงโตก่อนไปยูโร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 18 พ.ค. ว่า สเวน โกรัน อีริคสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ชี้ว่าการที่ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน เรียกตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด ติดทีมชาติครั้งแรกก่อนลุยศึกยูโร 2016 เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง,ดาวยิงวัยละอ่อน 18 ปี ถูก รอย ฮอดจ์สัน เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเบื้องต้น ก่อนลุยศึกยูโร 2016 ร่วมกับ เวย์น รูนีย์ กัปตันเพื่อนร่วมสังกัด, แฮร์รี เคน ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกของ สเปอร์ส, เจมี วาร์ดี เจ้าของแข้งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกจาก เลสเตอร์ และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ขาประจำของ ลิเวอร์พูล,ถึงแม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของ รอย ฮอดจ์สัน นั้นเร็วไปและสมควรหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรล่าสุด สเวน โกรัน อีริคสัน อดีตกุนซือทัพสิงโตคำราม ปี 2001-2006 ก็ออกสนับสนุน ฮอดจ์สัน และเชิดชูการตัดสินใจครั้งนี้,เขา (แรชฟอร์ด) มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม กุนซือชาวสวีเดน กล่าวผ่าน Newsweek ผมไม่รู้จักเขาดีเท่าไร แต่ผมเคยเห็นเขาเล่นบ่อยครั้ง ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ผมคิดว่ามันคือความสดใหม่ และผมคิดว่ารอยทำได้ดีแล้วที่เลือกเขามา,ทุกครั้งที่ผู้จัดการทีมเลือกนักเตะหนุ่ม มันจะเป็นเรื่องบวกเสมอ มันเป็นเรื่องดีสำหรับตอนนี้และสำหรับอนาคต,ผมไม่รู้ว่าเขาควรไปฝรั่งเศสหรือเปล่านะ แต่ถ้าผู้จัดการทีมเลือกนักเตะหนุ่ม นักเตะที่มีความสามารถมันส่งผลดีมากอยู่แล้ว,ก่อนหน้านี้ อีริคสัน เคยเลือก ธีโอ วัลคอตต์ ดาวยิงของอาร์เซนอล ติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลก 2006 ทีประเทศเยอรมนี ขณะที่เขายังอายุแค่ 17 ปี และยังไม่เคยติดทีมชาติเลยแม้แต่ครั้งเดียว,โดย อีริคสัน ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า ผมเลือก ธีโอ วัลคอตต์ ตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มและไม่ได้ลงเล่นมากนัก ผมชื่นชมเพราะผมนำเขาเข้ามาในทีม แต่กลับถูกวิจารณ์เพราะผมไม่ได้ให้เขาลงเล่นเลย
สเวน โกรัน อีริคสัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ สนับสนุนความคิดของ รอย ฮอดจ์สัน ที่เลือก มาร์คัส แรชฟอร์ด หอกดาวรุ่งของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดทัพสิงโตคำรามเบื้องต้น ก่อนลุยศึกยูโร 2016…
null
ยูโร 2016,ทีมชาติอังกฤษ,มาร์คัส แรชฟอร์ด,สเวน โกรัน อีริคสัน,รอย ฮอดจ์สัน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/622430
บุคคลในวงการฟุตบอลไทยร่วมไว้อาลัย โค้ชแต๊ก
บรรยากาศในพิธีรดน้ำศพโค้ชแต๊ก หัวหน้าโค้ชทีมเพื่อนตำรวจและอดีตนักเตะทีมชาติไทยที่วัดธาตุทองศาลา 18 เต็มไปด้วยความเศร้าโศก โดยมีบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลต่างเดินทางมาร่วมไว้อาลัย เช่น ชาญวิทย์ ผลชีวิน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน รวมทั้้งนักเตะ สต๊าฟโค้ช สโมสรเพื่อนตำรวจทั้งทีมนายวรรณพล ปุษปาคม ลูกชายของโค้ชแต๊กเปิดเผยว่าบิดาทุ่มเทให้กับการคุมทีมฟุตบอลโดยไม่เคยห่วงสุขภาพของตัวเอง ซึ่งก่อนจะล้มป่วยจนเสียชีวิตก็ทำหน้าที่คุมทีมจนถึงนาทีสุดท้าย คือการแข่งขันระหว่างสโมสรเพื่อนตำรวจกับสโมสรสงขลา ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2558 ที่จ.สงขลาคุณพ่อเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน เป็นคนที่รักงานมากกว่าตัวเอง แม้ว่าจะป่วยก่อนไปคุมทีมที่ จ.สงขลา ก็ยังเดินทางไปคุมทีมจนวินาทีสุดท้าย สมาชิกในทีมเล่าว่าคุณพ่อยืนคุมการเล่นจนจบแม้ว่าร่างกายจะไม่ไหวแล้วก็ยังคุมเด็กอยู่ในสนามจนจบเกม เพราะอยากให้ลูกทีมเห็นว่ายังอยู่ บุตรชายกล่าวปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติยกย่องโค้ชแต๊กว่าเป็น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการฟุตบอลไทย เป็นนักฟุตบอลที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของประเทศไทย มีความขยันและความฟิตเป็นเลิศ และฝีเท้าจัดจ้านมากส่วนการทำทีมสโมสรเพื่อนตำรวจนั้น สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษฎาประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจยืนยันว่าจะยังไม่หาโค้ชใหม่มาทำทีมแทนโค้ชแต๊ก แต่จะขอยึดตามระบบที่โค้ชแต๊กที่ได้วางเอาไว้ใน 7 นัด จนกว่านัดสุดท้ายก่อนปิดเบรกให้ทีมชาติในวันที่ 10 พ.ค. จึงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งเรื่องการคุมทีมขณะนี้เรายังไม่คิดเรื่องการหาโค้ชใหม่ นักฟุตบอล ทีมงานและสต๊าฟโค้ชทุกคนเห็นร่วมกันว่าทุกคนจะช่วยกันเล่นใน 7 นัดที่เหลือ พวกเราจะสู้เพื่อพี่แต๊ก เราจะซ้อมกันเอง เล่นกันเอง เพราะพี่แต๊กได้วางระบบการเล่นไว้ให้เราแล้ว ประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจกล่าว ทั้งนี้ ทีมสโมสรเพื่อนตำรวจจะมีคิวลงเตะโตโยต้าลีกคัพบุกไปเยือนยาสูบ เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย. และยามาอ่าลีกวันในวันที่ 22 เม.ย.ที่สนามกีฬากองทัพบก โดยเพื่อนตำรวจจะเปิดบ้านพบ ตราดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปของโค้ชแต๊ก ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ที่เคยทำทีมคว้าแชมป์มาอย่างมากมาย และเตรียมร้องเพลง เรามีเรา ซึ่งเป็นเพลงประจำสโมสรเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไปของเขาในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.2558)นายเนวินได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กของสโมสรแสดงความไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของโค้ชแต๊ก อดีตกุนซือของบุรีรัมย์บุรีรัมย์ที่คุมทีมตั้งแต่ปี 2010-2013 พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 1 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย โตโยต้าลีกคัพ 1 สมัย แชมป์ถ้วย ก. 1 สมัย และยังพาทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่มเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกในปี 2013 ประธานสโมสรบุรีรัมย์กล่าวยกย่องโค้ชแต๊กและกล่าวขอบคุณที่มีส่วนสร้างเกียรติประวัติให้สโมสร โดยนายเนวินจะติดภาพโค้ชแต๊กที่นำทีมขึ้นรับแชมป์เป็นวอลเปเปอร์ในไอโมบายสเตเดียมจนถึงทุกวันนี้ สโมสรบุรีรัมย์เตรียมไว้อาลัยอดีตกุนซือของทีมด้วยการร้องเพลง เรามีเรา ซึ่งเป็นเพลงประจำสโมสรให้โค้ชแต๊กก่อนเริ่มเกมโตโยต้าลีกคัพในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) ที่บุรีรัมย์จะเจอกับทหารบก เอฟซี ที่สนามกีฬากองทัพบก เวลา 18.45 น.และหลังจากแข่งเสร็จบุรีรัมย์จ่าฝูงกลุ่ม เอฟเตรียมเดินทางไปลงเตะเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกกับซองนัมในวันที่ 22 เม.ย.ที่ประเทศเกาหลีใต้
สโมสรเพื่อนตำรวจยืนยันจะไม่หาโค้ชใหม่ในช่วงเวลานี้เพื่อมาทำหน้าที่แทน อรรถพล ปุษปาคม หรือ โค้ชแต๊ก ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดช่วงเช้าวันนี้ (16 เม.ย.2558) ขณะที่พิธีรดน้ำศพที่วัดธาตุทองวันนี้มีนักเตะของสโมสรเพื่อนตำรวจและบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก
กีฬา
งานศพ,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน,ลูกชาย,วรรณพล ปุษปาคม,สโมสรเพื่อนตำรวจ,อรรถพล ปุษปาคม,เนวิน ชิดชอบ,โค้ชแต๊ก
https://news.thaipbs.or.th/content/326
ส.ว.เสนอเลื่อนสรรหา กสทช.ออกไปอีก 1 ปี
การประชุมวุฒิสภานัดแรกวันที่ 8 สิงหาคมนี้ สมาชิกวุฒิสภาบางคนจะเสนอที่ประชุมให้เลื่อนกระบวนการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จำนวน 11 คน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 กันยายนนี้ ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อแก้ปัญหาเรื่องตำแหน่งที่มาของกรรมการสรรหา ว่าขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญตามที่มีผู้ร้องเรียน พร้อมเห็นด้วยที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบในประเด็นที่เป็นข้อกังขาด้านนายสมชาย แสวงการ ประธานด้านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯว่าการร้องเรียนอาจเชื่อมโยงทางการเมือง ทั้งในส่วนประวัติผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบกระบวนการสรรหา และการทำหน้าที่ของอธิบดีดีเอสไอในช่วงนี้ ซึ่งนายสมชายกล่าวด้วยว่าวันเปิดประชุมวุฒิสภาจันทร์นี้ อาจเสนอให้มีการสอบสวนการปฎิบัติหน้าที่ของดีเอสไอว่าก้าวล่วงอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่ วาระแรกที่ถูกเสนอเป็นเรื่องเร่งด่วนคือการสรรหา กสทช. โดยที่ประชุมจะเสนอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ 25 คน เพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมว่าที่ กสทช.ทั้ง 44 คน คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์ หากพบว่ามีเรื่องร้องเรียนเพิ่ม ก็จะเสนอให้สมาชิกวุฒิสภารับทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงคะแนนเลือก 11 คนในวันที่ 5 กันยายนนี้ โดยจะไม่ตัดสิทธิ์ผู้ใด
ส.ว.บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเมืองอยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องกระบวนการสรรหา กสทช. ขณะที่มีการเตรียมเสนอให้เลื่อนกระบวนการสรรหาจากเดือนกันยายนนี้ ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
เศรษฐกิจ
กสทช.,การเมือง,ดีเอสไอ,ส.ว.,สมชาย แสวงการ,สรรหา
https://news.thaipbs.or.th/content/26971
พวงทอง ภวัครพันธุ์: นัยของการยื่นศาลโลกตีความคำพิพากษาปี 2505 ของกัมพูชา
ในที่สุดสิ่งที่ผู้เขียนเคยคาดการณ์ไว้ก็เป็นจริง เมื่อรัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจยื่นให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตีความคำพิพากษากรณีปราสาทพระวิหารปี 2505 เพราะเห็นว่าไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาข้อพิพาทเหนือพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารโดยลำพังสองประเทศอีกต่อไป รัฐบาลอภิสิทธิ์ที่รังเกียจบทบาทของบุคคลที่สามมาตลอด ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป เพียงแต่เมื่อถึงตอนที่กระบวนการตีความเริ่มขึ้น อาจไม่มีรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว แต่เป็นรัฐบาลอื่นที่ต้องมารับปัญหาต่อไปการยื่นขอให้ศาลโลกตีความนี้ กัมพูชาอาศัยมาตรา 60 ของธรรมนูญศาลโลก ที่ระบุว่า ในกรณีที่มีข้อพิพาทว่าด้วยความหมายหรือขอบเขตของคำพิพากษา ศาลพึงตีความตามคำร้องของคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยมาตรา 60 อนุญาตให้กัมพูชายื่นได้โดยลำพัง ไม่จำเป็นต้องได้รับการสมยอมจากไทย ไม่ได้กำหนดว่าต้องยื่นภายในระยะเวลาเท่าไร (อันนี้คนละเรื่องกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ที่ต้องกระทำภายใน 10 ปีหลังมีคำพิพากษา) แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ ฝ่ายไทยก็ต้องตั้งทีมกฏหมายเพื่อไปโต้แย้งข้อกล่าวหาและคำร้องของกัมพูชาอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่ไป ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ฝ่ายกัมพูชาชี้แจงกับศาลโลกอยู่ฝ่ายเดียว เสียเปรียบแน่นอนเรื่องกัมพูชายื่นให้ศาลโลกตีความนี้ เป็นข่าวอยู่หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าจะยื่นให้ศาลตีความประเด็นอะไร จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.นี้ เว็บไซต์ของศาลโลกก็ตีพิมพ์ใบแถลงข่าว ทำให้มีรายละเอียดมากพอที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังได้ จะเข้าใจประเด็นที่กัมพูชายื่นให้ตีความ เราจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูคำพิพากษาปี 2505 เสียก่อนความพ่ายแพ้ของไทยในคดีปราสาทพระวิหาร เป็นผลจากคำพิพากษาของศาลโลก 3 ข้อด้วยกันคือ1. ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในอาณาเขตภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา2. ไทยมีพันธะที่จะต้องถอนกำลังทหารหรือตำรวจ ผู้เฝ้ารักษาหรือผู้ดูแลซึ่งประเทศไทยส่งไปประจำอยู่ที่ปราสาทพระวิหารหรือในบริเวณใกล้เคียงบนอาณาเขตของกัมพูชา3. รัฐบาลไทยมีพันธะที่จะต้องส่งคืนโบราณวัตถุต่างๆ ที่ฝ่ายไทยได้โยกย้ายออกไปจากปราสาทพระวิหารกัมพูชาได้ยื่นขอให้ศาลตีความคำพิพากษาข้อ 2 ข้อเดียว โดยขอให้ศาลวินิจฉัยและชี้ขาดว่าประเด็นที่ว่าแปลข้อความดังกล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ กัมพูชาต้องการให้ศาลชี้ชัดว่า ที่ศาลเคยพิพากษาว่าไทยจะต้องถอนกองกำลังออกจากปราสาทพระวิหารและ บริเวณใกล้เคียง (vicinity) ในเขตกัมพูชานั้น ขอบเขตของ บริเวณใกล้เคียง ถูกกำหนดด้วยเส้นเขตแดนที่ปรากฎในแผนที่ใช่หรือไม่ทั้งนี้ กัมพูชาถือว่าศาลโลกได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าเส้นเขตแดนในบริเวณพิพาทคือเส้นที่ลากไว้บนแผนที่ อันเป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันผสมสยาม-ฝรั่งเศส (หรือแผนที่ 1: 200000) ดังนี้แม้ว่าศาลโลกได้ระบุไว้ว่าข้อวินิจฉัยเรื่องเส้นเขตแดนนี้ จะไม่ถูกรวมไว้ใน บทปฏิบัติการ (operative clause) ของคำพิพากษา แต่เป็น การให้เหตุผล เพื่อใช้ตัดสินสามประเด็นที่ยกมาข้างต้นเท่านั้น แต่ฝ่ายกัมพูชามองว่านี่คือจุดแข็งของตนเอง เพราะศาลระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าเส้นเขตแดนในบริเวณปราสาทพระวิหาร คือเส้นที่ปรากฏในแผนที่ ขณะที่ศาลไม่เคยวินิจฉัยยอมรับว่าเส้นสันปันน้ำ คือเส้นเขตแดนในบริเวณพิพาทเลย แต่ศาลยังเห็นว่านัยของการตีความข้อนี้คือ หากศาลตีความเป็นคุณให้กับฝ่ายกัมพูชา ก็หมายความว่าไทยต้องถอนทหารออกจากบริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.ให้หมดนั่นเอง(Provisional measures)กัมพูชายังได้ยื่นคำร้องเพิ่มเติมว่า ในระหว่างรอผลการตีความของศาลนี้ ขอให้ศาลได้ออกมาตรการเฉพาะกาล (provisional measures) เป็นการเร่งด่วน ดังต่อไปนี้1. ให้กองกำลังทั้งหมดของไทยถอนตัวออกจากดินแดนของกัมพูชาในบริเวณปราสาทพระวิหาร2. ห้ามไทยกระทำกิจกรรมทางทหารทุกชนิดในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร3. ให้ประเทศไทยยุติการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นการแทรกแซงสิทธิของกัมพูชา หรือทำให้สถานกาณ์เลวร้ายลงกัมพูชาให้เหตุผลประกอบคำร้องดังกล่าวว่า เป็นผลจากการปะทะกันอย่างรุนแรงของกำลังทหารในบริเวณปราสาทพระวิหารและชายแดนจุดอื่นๆ จนนำไปสู่ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน การบาดเจ็บ และผู้คนจำนวนมากต้องอพยพออกจากที่พัก มาตรการเฉพาะกาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของกัมพูชา ทำให้ไทยยุติการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐอื่น และป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิมในกรณีนี้ กัมพูชาอ้างมาตรา 41 ของธรรมนูญศาลโลกที่บัญญัติว่า หากศาลพิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นในทางสถานการณ์ ศาลพึงมีอำนาจที่จะกำหนดให้ใช้มาตราการเฉพาะกาลที่จะช่วยพิทักษ์สิทธิของคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นี่จึงเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ฝ่ายไทยจะต้องโต้แย้งอีกเช่นกัน เพราะหากศาลมีคำสั่งตามที่กัมพูชาร้องขอ ก็จะนำไปสู่คำถามที่สำคัญอีกว่า อาณาบริเวณที่กองกำลังของไทยจะต้องถอนตัวออกมานี่ มีขอบเขตแค่ไหน ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ผู้เขียนเห็นด้วยกับอ.ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช ที่ว่าเป็นการยากที่จะคาดคะเนว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ แพ้ หรือเสมอ และศาลอาจรับหรือไม่รับคำร้องขอให้ตีความของกัมพูชาก็ได้ การอ่านผลของคดีเก่าๆ อาจช่วยให้เราคาดคะเนทิศทางการวินิจฉัยคดีของศาลได้บ้าง แต่ก็เป็นได้แค่การประเมินเท่านั้น เพราะแต่ละคดีมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ การตีความเหตุการณ์และตัวกฎหมายยังขึ้นกับตัวผู้พิพากษาเป็นสำคัญ แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ ทีมกฎหมายของไทยมีงานหนักที่จะต้องโต้แย้งคำร้องของกัมพูชาอยู่หลายข้อทีเดียวอย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ที่ในที่สุดกรณีปราสาทพระวิหารต้องเดินมาถึงจุดนี้ เพราะในความเป็นจริง ในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช หน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องปราสาทพระวิหาร สามารถเจรจาจนรัฐบาลกัมพูชายอมรับที่จะให้มีการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารร่วมกัน แต่ความพยายามนี้ก็ต้องถูกทำลายลงด้วยกระแสคลั่งชาติ จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทั้งสองฝ่ายหลายครั้งหลายครา ปัญหาคือ การยื่นตีความนี้ ไม่ว่าฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะ ก็จะไม่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น มีแต่จะเป็นเหตุแห่งการเพิ่มพูนความเกลียดชังซึ่งกันและกันยิ่งขึ้นไปอีก
ในที่สุดสิ่งที่ผู้เขียนเคยคาดการณ์ไว้ก็เป็นจริง เมื่อรัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจยื่นให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตีความคำพิพากษากรณีปราสาทพระวิหารปี 2505
การเมือง,ต่างประเทศ,สังคม
กัมพูชา,ปราสาทพระวิหาร,พวงทอง ภวัครพันธุ์,ศาลโลก
https://prachatai.com/journal/2011/05/34397
อนุทิน ปิดประตู บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมาย 100% นำบอร์ด สสส.ออกกำลังกาย
วันที่ 16 ส.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะ รองประธานกรรมการกองทุนฯ คนที่ 1 เข้าร่วมประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 7/2562 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเริ่มการประชุม นายอนุทิน พร้อมด้วย รมช.สาธารณสุข ร่วมออกกำลังกาย บริหารร่างกายสไตล์ไทย ที่ สสส. ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน พัฒนาท่าบริหารร่างกายประกอบเพลงเพื่อให้คนทำงานได้บริหารร่างกายก่อน หรือช่วงเวลาปฏิบัติงานระหว่างวัน เพื่อเตรียมร่างกาย และจิตใจให้พร้อมทำงาน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและสมอง ช่วยให้ปอดและหัวใจแข็งแรงขึ้น,นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบแผนการดำเนินงานประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดตัวชี้วัดหลักที่สอดคล้องกับเป้าหมายและตัวชี้วัดแผนหลัก 3 ปี และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถึงร้อยละ 89.3 อาทิ เสริมประสิทธิภาพงานควบคุมยาสูบระดับเขตและจังหวัด เคลื่อนงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เน้นอำเภอเสี่ยง 283 อำเภอ และแก้ปัญหารถจักรยานยนต์ในกลุ่มเสี่ยง เพิ่มกิจกรรมทางกายในโรงเรียน สถานประกอบการ และชุมชนตามแผนกิจกรรมทางกายชาติ ลดอัตราภาวะน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วนในวัยเรียนให้น้อยกว่าร้อยละ 10 สนับสนุนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติและจังหวัดต้นแบบยุติเอดส์ เกิดกลไกระดับอำเภอดูแลสุขภาวะเด็กกลุ่มเปราะบางเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐ กลุ่มคนไร้บ้านมีศักยภาพความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม สนับสนุนขับเคลื่อนด้านวิชาการ การใช้กัญชาทางการแพทย์ ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้กัญชา กัญชง หรือพืชสมุนไพรอื่นๆ,นอกจากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบโครงการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ โดยกรมควบคุมโรค ทำหน้าที่เสริมความเข้มแข็งของการควบคุมแอลกอฮอล์และยาสูบ ผ่านคณะทำงานระดับชาติ เขต จังหวัด และอำเภอ จนถึงระดับชุมชน ขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุม ป้องกันนักสูบนักดื่มหน้าใหม่ ผ่านสถานศึกษาทุกระดับ ดำเนินงานตามเกณฑ์คุณภาพสถานศึกษาปลอดบุหรี่และสุรา เป็นการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง สสส. และกระทรวงสาธารณสุข,ผมพร้อมสนับสนุน สสส. และภาคีเครือข่าย ซึ่งหลายโครงการของ สสส. ที่ขับเคลื่อนอยู่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่อย่างชัดเจน อาทิ สนับสนุนการขับเคลื่อนระบบสุขภาพระดับอำเภอทั่วประเทศอย่างน้อย 800 อำเภอ ผ่านกลไก คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต(พชอ) ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสริมสมรรถนะการจัดการสุขภาพในพื้นที่ แต่ขอให้ สสส.เน้นการทำงานลงไปถึงพื้นที่ ลงถึงชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะ สสส. เป็นพลังที่จะช่วยให้การทำงานตามนโยบายของรัฐบาลถูกนำไปปรับใช้อย่างแท้จริง นายอนุทิน กล่าว,นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีความพยายามที่จะนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และสื่อสารว่าช่วยลดเลิกบุหรี่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีพิษภัย และห้ามนำเข้า 100% หากจะนำเข้าต้องมีการแก้กฎหมาย ซึ่งในยุคนี้คงไม่มีใครทำเรื่องแบบนั้น เพราะจะเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน แม้จะมีนิโคตินในปริมาณน้อยกว่า แต่หากสูบผลลัพธ์ก็คือการเสพติดอยู่ดี ดังนั้นฝากให้กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อสารสร้างความเข้าใจถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
อนุทิน นำบอร์ด สสส.ออกกำลังกายสไตล์ไทย ชี้ สสส. คือ พลังนโยบายภาครัฐ เดินหน้าขยายงาน พชอ.จับมือ มท.-สธ.ลุย 800 อำเภอ ปิดประตูบุหรี่ไฟฟ้าผิด ก.ม. 100 % สูบแล้วติด ห่วงเยาวชนเข้าใจผิด
ข่าว,การเมือง
อนุทิน ชาญวีรกูล,บุหรี่ไฟฟ้า,ปิดประตูบุหรี่ไฟฟ้า,สสส.,ออกกำลังกาย,รมว.สาธารณสุข,กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1639316
แผนฝุ่นชาติ : มาตรฐานโลกไม่อยู่ที่ไทย ?
เปิดมือถือเช็กค่าฝุ่นต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องเปิดแอปพลิเคชันในมือถือเพื่อเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 ในอากาศกันอีกครั้ง หลัง กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ระหว่าง วันที่ 5 - 13 พ.ย.2562 หลายพื้นที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานก่อนหน้านี้ (ก.ย.2562) พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ถูกจู่โจมด้วยหมอกควันข้ามแดนจากไฟป่าและพื้นที่เกษตรขนาดใหญ่บนเกาะสุมาตรา และเกาะกาลีมันตัน ประเทศอินโดนีเซีย ภาพ : Greenpeaceแต่นั่น ก็ไม่ทำให้เกิดคำถามต่อรัฐบาล เท่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ช่วงประชุมสุดยอดอาเซียน ที่มีการรณรงค์ของนักสิ่งแวดล้อม ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน เปิดเวทีแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนให้เห็นเป็นรูปธรรม ตามโรดแมปอาเซียนปลอดหมอกควัน ปี 2020 จนถึง ล่าสุด ที่มีสัญญาณสีส้มของค่าฝุ่นเต็มจอมือถือแผนฝุ่นชาติ คือ 3 ตัวชี้วัดหลักในแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562 หลังรัฐบาล คสช. ประกาศให้การแก้ปัญหาฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแผนนี้วางอยู่บนหลักการป้องกันไว้ก่อน (Precautionary Principle) โดยเน้นการทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันผลกระทบล่วงหน้า ผ่าน 3 มาตรการสำคัญ คือ การบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การบริหารจัดการมลพิษที่ต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพ และสุดท้าย คือ มาตรการในการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง5 แหล่งกำเนิดมลพิษที่แผนนี้จะเข้าไปจัดการ คือ มลพิษจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่งและภาคเกษตร การก่อสร้างและผังเมือง อุตสาหกรรม และครัวเรือน โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับผิดชอบ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ ที่จะต้องเปลี่ยนไปสู่น้ำมัน Euro 5 ภายในปี 2564 และ Euro 6 ภายในปี 2565ขอสัก 25 ได้ไหม?นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลในการจัดทำแผนฉบับนี้ เพราะจะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้เห็นแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นได้ชัดเจนขึ้น แต่รู้สึกเสียดายที่แผนให้น้ำหนักกับสุขภาพของประชาชนน้อยเกินไปเขายกตัวอย่าง การแบ่งระดับการปฏิบัติการที่แต่ละจังหวัดต้องใช้เกณฑ์มาตรฐานของค่าฝุ่น PM 2.5 ราย 24 ชั่วโมง เป็นตัวกำหนด เช่น ระดับที่ 1 ค่าฝุ่นไม่เกิน 50มคก./ลบ.ม. ให้ทุกหน่วยฏิบัติภารกิจตามปกติ จากนั้นค่อย ๆ ยกระดับปฏิบัติการให้เข้มข้นขึ้น ตามค่าฝุ่น PM 2.5 ที่มากขึ้นในช่วงที่ฝุ่นปกคลุมกรุงเทพฯ และภาคเหนือตอนบน ตัวเลข 50 เคยถูกตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ปรับค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ให้ต่ำกว่านี้ แน่นอนว่า แผนฉบับนี้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่ก็ระบุไว้เพียงให้พิจารณาความเหมาะสมในการปรับค่ามาตรฐาน PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตามเป้าหมายระยะที่ 3 ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ 37มคก./ลบ.ม. ภายในปี 2565-2567ผู้อำนวยการกรีนพีซ ฯ เสนอให้รัฐบาล ใช้ตัวเลขค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ WHO แนะนำ คือ 25มคก./ลบ.ม. มาแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังด้านสุขภาพได้เลย ไม่ว่าในอนาคตจะมีการปรับค่ามาตรฐานตามแผนฯ ที่ระบุไว้หรือไม่87 สถานีทั่วไทย ไม่พอการผูกปฏิบัติการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศไว้กับค่ามาตรฐาน PM 2.5 ราย 24 ชั่วโมง ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องคิดต่อว่า ข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจจะมาจากไหน? ในเมื่อสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่สามารถวัดค่า PM 2.5 ทั่วประเทศมีอยู่เพียง 87 สถานีรศ.ศิริมา ปัญญาเมธีกุล ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้เรามีข้อมูลปริมาณฝุ่นที่จะใช้ประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหาตามแผน รวมถึงใช้ข้อมูลนี้แจ้งเตือนประชาชนได้ปลายปีนี้ กรุงเทพมหานคร จะติดตั้งสถานีตรวจวัดฯ ที่สามารถวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ครบทั้ง 50 เขต และจะมีการขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ แต่สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกับทีมวิชาการ ทำโมเดลจำลองการกระจายตัวของฝุ่น ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์ปริมาณความหนาแน่นของฝุ่นในพื้นที่ได้ขณะที่ เครือข่ายภาคประชาชนและนักวิชาการในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน ได้พัฒนาเครื่องมือในการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระดับชุมชน ภายใต้ชื่อต่าง ๆ เช่น และ เพื่อทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลในการเตือนภัยได้แต่โจทย์ที่ท้าทาย คือ การพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อข้อมูล พร้อมไปกับการสร้างเครือข่ายติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ซึ่งในแผนปฏิบัติการฉบับนี้ ระบุไว้ แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และเท่าทันกับสถานการณ์ปัญหา หรือไม่ ยังเป็นคำถาม ที่ไม่มีคำตอบ
เปิดแผนปฏิบัติการฝุ่นระดับชาติ เน้นเชิงรุก หลังสัญญาณเตือนสีส้มกระพริบหลายจุดในกรุงเทพฯ กรีนพีซ ชมรัฐบาลไทยตื่นตัว แต่ยังให้น้ำหนักด้านสุขภาพน้อย เสนอรัฐประกาศเตือนภัยตามค่ามาตรฐานโลก ขณะที่ นักวิชาการจุฬาฯ ระบุ ข้อมูลจากสถานีตรวจวัดสำคัญต่อการวางแผน
สิ่งแวดล้อม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ฝุ่น,PM2.5
https://news.thaipbs.or.th/content/286115
บิ๊กตู่ ขอร่วมกันฝ่าโควิด-19 อย่ากักตุนสินค้า-หน้ากากอนามัย ชี้ โทษหนัก
บิ๊กตู่ โพสต์เฟซฯอย่ากักตุนสินค้า-หน้ากากอนามัย ขู่เจอโทษหนัก ทั้งจำทั้งปรับ สั่งตรวจร้านค้าทุกขั้นตอน ขอรวมกันเป็นหนึ่ง ฝ่าวิกฤตตโควิด-19วันที่ 6 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ตอกย้ำ อย่ากักตุนสินค้าและหน้ากากอนามัย ไม่เช่นนั้นเจอโทษหนัก จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท กำชับ สธ.ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับโรงพยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ หลังจากเพียงพอแล้วค่อยกระจายสู่ประชาชนในลำดับถัดไปรัฐบาลยังคงเข้มงวดกับทุกมาตรการ ทุกช่องทาง ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ แรงงาน หรือคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ หลังจากนี้ทุกคนต้องผ่านมาตรการติดตามและควบคุมในพื้นกักกันโรคที่รัฐกำหนด ส่วนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ก็จะมีมาตรการป้องกันตามที่ได้ประกาศไว้ ขอให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย ผมได้สั่งการและกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ และความเร่งด่วนเป็นอันดับแรกกับโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ หลังจากเพียงพอแล้วค่อยกระจายสู่ประชาชนในลำดับถัดไป จะมี จนท.ตรวจในส่วนของการกระจายไปร้านค้าในทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ผมขอสนับสนุนให้ชุมชนร่วมกันผลิตหน้ากากผ้าเพื่อนำมาใช้ผมขอย้ำนะครับ หากพบผู้ใดกักตุนสินค้าหรือฉวยโอกาสขายเกินราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในยามนี้ประเทศไทยของเราจะฝ่าฟันวิกฤติโรคโควิด-19 ไปด้วยกันด้วยพลังที่เป็นหนึ่ง ร่วมมือกันครับ.
บิ๊กตู่ โพสต์เฟซฯ อย่ากักตุนสินค้า-หน้ากากอนามัย ขู่เจอโทษหนัก ทั้งจำทั้งปรับ สั่งตรวจร้านค้าทุกขั้นตอน ขอรวมกันเป็นหนึ่ง ฝ่าวิกฤติโควิด-19
ข่าว,การเมือง
ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,โควิด-19,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,หน้ากากอนามัย,อย่ากักตุนสินค้า,จำคุก7ปี ปรับ1.4 แสนบาท,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1788806
ตร.คลองหอยโข่งเร่งล่า หัวหน้าแก๊งยา กิ้มสั้วภูเขาทอง พบประวัติเพียบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ก.พ.61 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการ สภ.คลองหอยโข่ง พร้อมฝ่ายสืบสวนประชุมวางแผนเพื่อติดตามจับกุมแก๊ง กิ้มสั้วภูเขาทอง ที่มีสัญลักษณ์ตัดผมเป็นเลข 9 ไทย โดยมีนายธีปกรณ์ แก้ววิจิตร อายุ 28 ปีหรือ กิ้มสั้ว หรือ บ่าว เป็นหัวหน้าแก๊ง หลังจากที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มหนุ่มวัย 19 ปี จากบ้านพักในพื้นที่ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เหตุเพราะค้างค่ายาเสพติด 4,000 บาท ไปทรมานในป่าสวนยางพื้นที่ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โดยการจับถอดเสื้อผ้า รุมซ้อมและปัสสาวะใส่ จนได้รับบาดเจ็บและคดีนี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุยกแก๊งทั้งหมด 7 คน และเข้ามอบตัวแล้ว 1 คน คือ น.ส.ชนาพร แนมน้อย สาวทอม อายุ 20 ปี ,หลังการประชุมวางแผนทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหอยโข่ง พร้อมอาวุธครบมือได้ปูพรมออกตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุดในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง ซึ่งใช้เป็นแหล่งกบดานและมั่วสุมเสพยาเสพติดของแก๊งกิ้มซั้วภูเขาทองที่ยังหลบหนีอีก 6 คน แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ และเจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธปืนได้ 2 กระบอก ทั้งขนาด 11 มม.และขนาด .38 และนำไปตรวจสอบว่าเคยใช้ก่อคดีใดหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของการเสพยาและเทปกาวที่ใช้พันยาบ้าอยู่ในลำโพงด้วย ,สำหรับประวัติของ นายธีปกรณ์ หรือ กิ้มสั้ว หรือ บ่าว หัวหน้าแก๊งกิ้มสั้ว เป็นคนร้ายที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัวมีหมายจับคดีค้ายาเสพติดและคดีร่วมกันฆ่าติดตัว 2 คดี โดยคดีที่โหดเหี้ยมที่สุดคืออุ้มฆ่าหนุ่มวัย 22 ปี สายของตำรวจหมกท่อระบายน้ำอย่างโหดเหี้ยมในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมและตั้งค่าหัว 1 หมื่นบาท ให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแส และจากการสอบสวนสาวทอมที่เข้ามอบตัว บอกว่านายธีปกรณ์ ประกาศตัวจะขอสู้ตายหากตำรวจเข้าจับกุมโดยพกอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมระเบิดลูกเกลี้ยงติดตัวตลอดเวลา.
ตร.คลองหอยโข่ง วางแผนเร่งติดตามจับกุมแก๊ง กิ้มสั้วภูเขาทอง ที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มหนุ่มวัย 19 ปี ไปทำร้ายเพราะค้างค่ายาเสพติด โดยล่าสุด ตร.บุกค้นรังที่กบดานยึดปืนได้ 2 กระบอก ส่วนคนร้ายไหวตัวทันหนีไปได้
ข่าว,อาชญากรรม
แก๊งยาเสพติด,สภ.คลองหอยโข่ง,กิ้มสั้วภูเขาทอง,ธีปกรณ์ แก้ววิจิตร,ทำร้ายหนุ่มวัย 19 ปี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1213977
ครูสาวแจง คลิปเสียงว่อน ต่อว่าเด็กไม่มีสติ โยงกราดยิงโคราช
จากกรณีที่ โลกออนไลน์มีการแชร์ คลิปเสียงครูโรงเรียนชื่อดัง ใน จ.เลย ขณะกำลังสอนเด็กนักเรียนหน้าเสาธง ว่า นักเรียนไม่มีสติ เหมือนคนที่โดนยิงตายเมื่อวันเสาร์ ทำให้ชาวเน็ตเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการพูดที่ไม่เหมาะสมล่าสุด วันที่ 12 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนดังกล่าว พบครูเพ็ญ (นามสมมติ) โดย ครูเพ็ญ ยอมรับว่า เสียงที่อยู่ในคลิปเป็นตนเอง โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะมีการเข้าแถวเคารพธงชาติและ ผอ.โรงเรียนให้โอวาทเด็กนักเรียน และนำนักเรียนยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต จากเหตุกราดยิงโคราชขณะที่ยืนไว้อาลัยอยู่นั้น มีเด็กนักเรียนบางส่วนค่อนข้างเสียงดัง และไม่ให้ความร่วมมือ ตนจึงพูดออกไปตามที่ปรากฏในคลิป เตือนเด็กนักเรียนให้มีสติ หากใครไม่มีสติ ถ้าเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินเหมือนกับที่โคราช จะเอาชีวิตรอดอย่างไร เป็นการเปรียบเทียบให้เด็กได้เห็นว่า คนเราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หมิ่น หรือพาดพิงผู้เสียชีวิตแต่อย่างใดด้าน ด.ช.เอ (นามสมมติ) ชั้น ม.2 เล่าว่า ครูเพ็ญ เป็นคนใจดี นักเรียนรัก และชอบให้ครูเพ็ญสอน ส่วนคลิปที่มีการแชร์นั้นหลังจากที่ได้ฟัง ก็รู้สึกว่าครูกำลังสอนอยู่ด้าน ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า วันนั้นนักเรียนแต่งดำมาทั้งโรงเรียน เพื่อไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตที่โคราช หลังจากยืนเคารพธงชาติ ก็มีการยืนสงบนิ่ง 1 นาที จากนั้นมีการพูดคุยกับเด็กนักเรียน ถึงอาวุธปืนและการยับยั้งชั่งใจ จนมีคลิปเสียงออกไป โดยส่วนตัวครูคนนี้เป็นคนเอาใจใส่ต่อนักเรียนเป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการพูดคุยกับเด็กที่เป็นเจ้าของคลิป จนเข้าใจตรงกันแล้ว.
ครูสาวแจง หลังคลิปเสียงว่อนโซเชียล ต่อว่าเด็กหน้าเสาธง ไม่มีสติ โยงกราดยิงโคราช ยันไม่ได้หมิ่น หรือพาดพิงผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
ข่าว,สังคม
กราดยิงโคราช,คนร้ายกราดยิง,คลิปเสียง,ครูต่อว่าเด็ก,ไม่มีสติ,ข่าวโซเชียล,จ.เลย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1769785
ฝนถล่มเชียงราย นอภ.แม่จัน ทหารพรานนำกำลังเร่งเกี่ยวข้าวช่วยชาวบ้าน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 พ.ย.59 นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย ร่วมกับ พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ รอง ผบ.ฉก.ทพ.31 กกล.ผาเมือง พ.ต.ธงชัย อันมหาใจ ผบ.ร้อย.ทพ.3108 นำกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง อส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านกว่า 300 คน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวประชารัฐร่วมใจ บนที่นาแปลงรวม 15 ไร่ ของชุมชน บ.แม่คำฝั่งหมิ่น หมู่ 9 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน ท่ามกลางฝนตกหนัก ทำให้ ต้นข้าวล้มราบกับพื้น การเก็บเกี่ยวเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ทุกคนต่างช่วยกันด้วยความเต็มใจบรรยากาศยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สามารถเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกได้ 11 ตัน สร้างความดีใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก,นอภ.แม่จัน กล่าวว่า การมาช่วยลงแขกทำนาเกี่ยวข้าวกับชาวบ้าน นอกจากเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระ ลดต้นทุนการผลิต ยังได้สร้างความสามัคคีความรักใครปองดองในชุมชน เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จจะนำไปตากที่ลานตากข้าวของหมู่บ้าน จากนั้นจะใช้เครื่องสีข้าวของชุมชนซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างชาวบ้านด้วยกัน ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ต้องคอยพึงพางบประมาณจากทางราชการเพียงอย่างเดียว ขณะนี้ หลายตำบลของ อ.แม่จัน ได้สีขายสารจำหน่ายสู่ตลาด หน่วยงานราชการ ส่งออกชายแดน ทำให้กลไกตลาดขับเคลื่อน ผู้ซื้อข้าวเปลือกแข่งขันกันขึ้นราคาข้าวเหนียว กข.6 สูงถึง 10.50 บาท ซึ่งเป็นราคาน่าพอใจ,พ.อ.พักตร์พงษ์ กล่าวว่าการเข้าช่วยเหลือชาวบ้านแบบบูรณการของหน่วยงานทหารและฝ่ายปกครอง ได้สร้างความพึงพอใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ราษฎร์รู้สึกอบอุ่นที่มีข้าราชการเข้ามาดูแลให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด เป็นกันเอง ขณะนี้มีนาข้าวในพื้นที่ อีกหลายแปลงที่กำลังขอให้ไปช่วยเก็บเกี่ยว เนื่องจากฝนตกต้นข้าวล้ม ราคารถเกี่ยวข้าวสูงเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็นภาระที่ชาวบ้านรับไม่ไหว ทหารและฝ่ายปกครองจะเข้าให้ความช่วยเหลือจนกว่าหมดฤดูกาล
ฝนถล่มเชียงราย ทำนาล่ม นอภ.ร่วมกับทหารพรานนำกำลัง จนท.ไปลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยชาวบ้าน อ.แม่จัน บรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่ รถเกี่ยวขึ้นราคาเท่าตัว ชาวบ้านอีกหลายรับไม่ไหว รอทหารปกครองเข้าช่วยเหลือ
ข่าว,ทั่วไทย
เชียงราย,ลงแขกเกี่ยวข้าว,ช่วยชาวนา,สมศักดิ์ คณาคำ,พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ
https://www.thairath.co.th/news/local/795361
ชีวิตคนละขั้ว 2 แข้งหงส์แดงเตรียมแยกทาง สวนทางตัวโจ๊กเกอร์อยู่ไปอีกยาว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 มิ.ย. ว่า เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังเมืองผู้ดีตีข่าวว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล กำลังเจรจากับทาง ดิวอก โอริกี กองหน้าตัวโจ๊กเกอร์ของทีมต่อสัญญาฉบับใหม่ระยะยาวออกไปในซัมเมอร์นี้,สัญญาของเขาเหลืออีกแค่ปีเดียวเท่านั้นซึ่งตอนแรกหงส์แดงมีแผนยืดสัญญากับเขาอีกเพียงแค่ปีเดียวแต่ทว่าช่วงท้ายฤดูกาล โอริกี สวมบทฮีโร่ยิงประตูสำคัญให้กับทีมบ่อยครั้งโดยเฉพาะลูกยิงพาทีมโค่นบาร์เซโลนา 4-0 ในรอบตัดเชือกแชมเปียนส์ลีก และประตูปิดกล่องเอาชนะ สเปอร์ส 2-0 พร้อมกับคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ไปครอง,ทำให้หงส์แดงเตรียมมอบสัญญาระยะยาวให้กับ โอริกี ซึ่งคาดกันว่าตัวนักเตะจะตอบรับข้อเสนอดังกล่าวด้วย แต่ทว่าจากรายงานของสื่อเดียวกันระบุว่า ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ อัลแบร์โต โมเรโน คือสองนักเตะที่จะแยกทางกับทีมแน่นอนในซัมเมอร์นี้,สัญญาของทั้งคู่จะหมดลงหลังจบเดือนมิถุนายน ซึ่งทางหงส์แดงไม่ได้ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมของเยอร์เกน คลอปป์ ทำให้ทั้ง สเตอร์ริดจ์ และ โมโรเน จะกลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ย้ายไปเล่นให้กับทีมไหนก็ได้ในฤดูกาลหน้า
ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหลังมีรายงานว่าสองแข้งดังของ หงส์แดงลิเวอร์พูล เตรียมแยกทางกับทีมแบบไร้ค่าตัว ส่วนตัวโจ๊กเกอร์ของทีมอย่าง ดิวอก โอริกี กำลังได้สัญญาระยะยาว
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ดิวอก โอริกี,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์,อัลแบร์โต โมเรโน,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1583486
อีกนานไหม อิบรา มั่นใจ แข้งผีแดง จะเข้าขากันทั้งในและนอกสนาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 พ.ย. ว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อมั่นว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะเข้าขากันได้มากขึ้นทั้งในสนามและนอกสนามภายหลังความไม่สม่ำเสมอของผลงานโดยรวมของทีมในฤดูกาลนี้,ลูกทีมของ โชเซ มูรินโญ เพิ่งจะคว้าชัยในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรกในรอบห้าเกม หลังเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุด อิบราฮิโมวิช ก็มั่นใจว่าชัยชนะนัดนี้จะช่วยให้ทีมมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม และเชื่อมั่นว่าความเข้าขาของทีมจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้,มันแค่ต้องใช้เวลามันถึงจะลงตัว เราแค่รอช่วงเวลานั้นตอนที่อะไรหลายอย่างมันคลิกกัน เข้ากันแบบเป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่ใช่แค่ในสนามแต่รวมไปถึงนอกสนามด้วย,ผมไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้มันแย่เพราะนี่คือสิ่งดี เราโชคไม่ดีเล็กน้อยในหลายๆเกมแต่เราเชื่อมั่นและเมื่อคุณมีความเชื่อสิ่งดีๆต่างๆก็จะเข้ามาเอง,ผมชอบที่จะซ้อมหนักๆนั่นคือปรัชญาของผมถ้าคุณซ้อมหนักคุณก็จะได้สิ่งที่คุณต้องการ การทำงานหนักจะได้สิ่งตอบแทนตามความคิดผมและนั่นแหละมันคือประสบการณ์ของผมหลังจากผ่่านไป 20 ปี
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดดาวยิงของ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะเข้าขากันแบบมองตาก็รู้ใจทั้งในและนอกสนาม
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/777801
หนุ่มอินเดียฆ่ากันเอง วิศวกรปล้ำเมียลูกน้องในห้องน้ำ โดนตีดับ
ส่วนคนตีเข้ามอบตัวพร้อมรับสารภาพ  ,เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 ส.ค. พ.ต.อ.ขจิตร คงปราบ ผกก.สภ.เขาพนม จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาพนม คุมตัวนายประกาศ นันทารัง อายุ 25 ปี สัญชาติอินเดีย พนักงานโรงงานซาราฟเอ็นเนอร์ยี่ จก. ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ ต.เขาพนม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมชี้จุดเกิดเหตุทำร้ายนายนาการาจัน มูไนยันติ อายุ 36 ปี วิศวกรไฟฟ้าชาวอินเดีย จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านพักคนงานภายในโรงไฟฟ้า หมู่ 6 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่,สำหรับเหตุฆ่ากันรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ส.ค. ตำรวจรับแจ้งคนงานภายในโรงงานไฟฟ้าดังกล่าว ก่อเหตุทะเลาะวิวาท มีการทำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บสาหัส คนเจ็บคือนายนาการาจัน ถูกคนงานด้วยกันนำส่ง รพ.เขาพนม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านพักคนงาน พบกองเลือดจำนวนมาก ใกล้กันพบท่อเหล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้ว ยาว 1.2 เมตร ติดคราบเลือดตกอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาได้ไปชันสูตรศพพบผู้ตายถูกตีด้วยของแข็งเข้าบริเวณใบหน้าจนหน้าแตกยับ เลือดอาบ ตามตัวไม่พบบาดแผล,พ.ต.อ.ขจิตร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุในคืนเดียวกันนายประกาศ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายผู้ตายเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายไปลวนลามภรรยาของผู้ต้องหา โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตาย ซึ่งเป็นหัวหน้างานของผู้ต้องหา มานั่งดื่มเหล้าด้วยกันหน้าห้องพักที่เกิดเหตุ มีเพื่อนคนงานมานั่งกันหลายคนมี น.ส.เก๋(นามสมมติ) ภรรยาชาวไทยของผู้ต้องหา นั่งร่วมวงอยู่ด้วย หลังจากคนงานแยกย้ายกันกลับ น.ส.เก๋ ได้ขอตัวกลับเข้าไปอาบน้ำภายในบ้านพัก ตัวผู้ต้องหากำลังเก็บของอยู่หน้าบ้าน แต่ผู้ตายแอบเข้าไปในบ้าน และเข้าไปลวนลาม น.ส.เก๋ ที่ห้องน้ำภายในบ้าน ผู้ต้องหาตามเข้าไปเห็น จึงคว้าท่อนเหล็กจะเข้าไปทำร้าย ผู้ตายวิ่งหนีออกมาหน้าบ้าน ผู้ต้องหาจึงตามมาทำร้ายทุบตีเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนล้มลง จากนั้นเพื่อนคนงานมาช่วยกันระงับเหตุ แล้วนำตัวคนเจ็บส่ง รพ. และเสียชีวิตดังกล่าว ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย คุมตัวดำเนินคดี ส่วนศพผู้เสียชีวิต กำลังประสานญาติที่ประเทศอินเดีย ให้มารับกลับ.
ตีหัวดับ หนุ่มวิศวกรไฟฟ้าชาวอินเดีย มาทำงานที่กระบี่ นั่งดื่มกับลูกน้องชาวอินเดียด้วยกัน แล้วแอบย่องลวนลามเมียลูกน้องขณะอาบน้ำ ผัวมาเห็นพอดี ตีด้วยท่อนเหล็กหน้าแหกยับไปตายที่ รพ.
ข่าว,ทั่วไทย
ตีตาย,ฆ่าวิศกรไฟฟ้า,อินเดียฆ่ากัน,ลูกน้องฆ่าตาย,หนุ่มอินเดีย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1347210
ผงะ ศพในรถ ร.ต.อ.ผู้กองหนุ่มโดนกระสุนเจาะขมับ ตายมาแล้ว6วัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.อ.ธงชัย แก้ววังปา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองไหม อ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากชาวบ้านโคกแปะ ว่า พบคนตายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 45 ขอนแก่น จอดอยู่บนถนนริมถนนคลองชลประทาน ท้ายหมู่บ้านโคกแปะ ม.12 ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 และแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ร่วมชันสูตรศพผู้ตาย,ไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พันกฤษณ์ วิชญชีวินทร์ ผกก. พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดชิดขอบทางล็อกประตูทุกด้าน และไม่ได้ติดเครื่องยนต์ มีกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว เมื่อส่องเข้าไปภายในรถยนต์ พบศพคนตายลักษณะนอนหงายขึ้นอืดบนเบาะคนขับ ซึ่งลักษณะเป็นการปรับเบาะเอนนอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจสอบทะเบียนรถ จนทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของ ร.ต.อ.วรวุฒิ ภัทรวิจิตรภักดี อายุ 31 ปี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองขอนแก่น อยู่บ้านเลขที่ 334/18 ถนนหน้าเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อประสานไปยังพ่อของผู้ตายให้ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตในรถยนต์ แต่เปิดเอาศพออกมาไม่ได้ พ่อผู้ตายจึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกุญแจสำรอง เปิดประตูรถอก,เมื่อเปิดประตู เจ้าหน้าที่มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ ได้นำศพผู้ตายออกจากรถ แพทย์ชันสูตรศพพบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน สภาพศพขึ้นอืด สวมชุดธรรมดานอนพิงเบาะคนขับ ที่บริเวณขมับขวา พบรอยกระสุน 1 รู ข้างเบาะนั่งด้านขวามือของคนขับ พบปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม.ตกอยู่ และปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ภายในรถ จำนวน 1 ปลอก ยังพบขวดเบียร์ที่ดื่มหมดแล้ว ตกอยู่ที่วางเท้าหลังเบาะคนขับ 1 ขวด และที่เบาะหลังคนขับ พบชุดเครื่องแบบ จราจร สภ.เมืองขอนแก่นกองอยู่ นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ ข้างในกระเป๋ามีเงินจำนวนหนึ่ง บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรข้าราชการตำรวจของผู้ตาย ระบุชื่อ ร.ต.อ.วรวุฒิ ภัทรวิจิตรภักดี เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้ ,จากการสอบถามนายเหง้า นิคม ชาวบ้านที่พบรถยนต์คันดังกล่าว ทราบว่า รถจอดตั้งแต่เย็นวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 9 พ.ค.ก็ยังเห็นจอดอยู่ที่เดิม เห็นเพียงกลุ่มวัยรุ่น ประมาณ 4–5 นั่งรถยนต์ปิกอัพไม่ทราบบี่ห้อ ทะเบียน ขับมาจอดอยู่ใกล้ๆ กับรถเก๋งของผู้ตาย ถึง 2 ครั้ง แต่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่ได้เดินมาดูที่รถผู้ตาย จอดไม่นานก็ขับออกไป กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังเห็นจอดนิ่งเหมือนเช่นทุกวัน ทั้งๆ ที่ฝนตก รถก็ไม่มีการขับเคลื่อน จึงเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นเหม็น คาดว่าน่าจะมีคนตายอยู่ข้างใน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองไหม มาตรวจสอบ,ขณะที่บิดาผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนเงียบๆ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และไม่เคยบ่นเรื่องที่ทำงานให้ฟัง ส่วนการพบเป็นศพในรถ ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นปืนที่ตกอยู่ข้างเบาะนั้นจะเป็นปืนของลูกชาย เพราะปืนที่ลูกชายพกติดตัวกระบอกเล็กกว่าที่เห็น,ด้าน พ.ต.ท.นนภูริช เดชธนดุล รอง ผกก.จร.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ร.ต.อ.วรวุฒิ หรือ ผู้กองเจมส์ เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ถึงเวลาเข้าเวรก็มาเข้าตามปกติ มีบ้างที่หายไป แต่ก็มีคนอื่นเข้าเวรแทน ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีการประชุมรวมของงานจราจร สภ.เมืองขอนแก่น แต่ผู้กองเจมส์ไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงโทรศัพท์หา แต่ไม่รับสาย จากนั้นก็ไม่มาปฏิบัติหน้าที่อีก กระทั่งพบเป็นศพในรถเก๋งส่วนตัว ซึ่งในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้กองเจมส์ไม่มีปัญหากับใคร แต่การกระทำเช่นนี้ เหมือนว่าฆ่าตัวตาย แต่ปัญหาที่คนจะฆ่าตัวตายนั้นนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ ส่วนอาวุธปืนที่ตกอยู่ข้างเบาะ ต้องให้ทาง ศพฐ.4 ตรวจสอบ เพราะผู้กองเจมส์มีปืนพกติดตัว แต่จะใช่กระบอกเดียวกันหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์เท่านั้น,ขณะที่จ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองไหม ตั้งประเด็นการตายไว้ 2 ประเด็นคือฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และเรื่องถูกฆาตกรรม ซึ่งต้องสอบสวนคนใกล้ชิดผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงต่อไป รวมทั้งการชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวชด้วยว่า เป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่
ชาวบ้านผ่านไปผ่านมาเห็นรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ที่เดิม จนวันที่ 6 ตัดสินใจเข้าไปดู ผงะเจอศพคนอืดเหม็นตลบ เป็นศพผู้กองหนุ่มวัย 31 ปี รอง สว.จร.เมืองขอนแก่น โดนยิงที่ขมับ ยังไม่แน่ว่าฆ่าตัวตาย
ข่าว,ทั่วไทย
ตำรวจฆ่าตัวตาย,ศพในรถ,ตำรวจตายในรถ,ร.ต.อ.ยิงตัวตาย,สภ.เมืองขอนแก่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1280192
วัดกันไปเลย 11 นัดที่เหลือโปรแกรมเดือด หงส์หนักน้อยกว่าเรือกระชากแชมป์
วันที่ 25 ก.พ. หลังจากพรีเมียร์ลีกเดินทางมาถึง 27 นัด ส่งผลให้เหลือ 2 ทีมที่ลุ้นแชมป์ในปีนี้ นั่นก็คือ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่มีแต้มเหนือกว่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต้มเดียว วันนี้เราจะมาดู 11 เกมที่เหลือของสองทีมนี้ว่าจะเจออะไรกันบ้าง,โดย หงส์แดง กับ 11 นัดที่เหลือมีโปรแกรมหนักแค่ 3 นัดคือทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์บุกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน, เปิดบ้านพบกับ สเปอร์ส ทีมอันดับสาม และบุกไปเยือน เชลซี ทีมอันดับ 6,ขณะที่ เรือใบสีฟ้า ต้องบุกไปเยือน ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เปิดบ้านพบกับ สเปอร์ส และบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ซึ่งถือเป็นทีมฟอร์มแรงอย่างมากตอนนี้,โปรแกรมนัดที่เหลือ ลิเวอร์พูล 11 นัด,27 ก.พ. ลิเวอร์พูล พบ วัตฟอร์ต ,3 มี.ค. เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล ,10 มี.ค. ลิเวอร์พูล พบ เบิร์นลีย์ ,17 มี.ค. ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล ,31 มี.ค. ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส,6 เม.ย. เซาแธมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล ,13 เม.ย. ลิเวอร์พูล พบ เชลซี ,20 เม.ย. คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล,27 เม.ย. ลิเวอร์พูล พบ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ,4 พ.ค. นิวคาสเซิล พบ ลิเวอร์พูล,12 พ.ค. ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ,โปรแกรมนัดที่เหลือ แมนฯซิตี้ 11 นัด,27 ก.พ. แมนฯซิตี้ พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด,2 มี.ค. บอร์นมัธ พบ แมนฯซิตี้ ,9 มี.ค. แมนฯซิตี้ พบ วัตฟอร์ต ,16 มี.ค. แมนฯยูไนเต็ด พบ แมนฯซิตี้ ,30 มี.ค. ฟูแลม พบ แมนฯซิตี้ ,6 เม.ย. แมนฯซิตี้ พบ คาร์ดิฟฟ์ ,13 เม.ย. คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯซิตี้ ,20 เม.ย. แมนฯซิตี้ พบ สเปอร์ส ,27 เม.ย. เบิร์นลีย์ พบ แมนฯซิตี้,4 พ.ค. แมนฯซิตี้ พบ เลสเตอร์ ซิตี้ ,12 พ.ค. ไบรท์ตัน พบ แมนฯซิตี้ 
เปิดโปรแกรมเดือด 11 นัดที่เหลือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สองทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลิเวอร์พูล,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1505171
ส.ศิวรักษ์ ทำจม.ส่งอัยการ คดี ม.112 พร้อมเลื่อนนัดเป็น 17 ม.ค.61


เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 7 ธ.ค.60 ที่ศาลทหารกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อมาฟังคำสั่งฟ้อง - ไม่ฟ้อง จากอัยการทหาร ในข้อหาความผิดตาม ม.112 (หมิ่นพระนเรศวร) จากการเป็นวิทยากรในงานเสวนา ประวัติศาสตร์ว่าด้วยการชำระและการสร้าง จัดโดย กลุ่มสภาหน้าโดม เมื่อ 5 ต.ค.2557 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

,โดยนาย ส.ศิวรักษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบอัยการศาลทหาร ว่า การดำเนินคดีของตน เห็นว่าไม่ควรใช้ ม.112 มาดำเนินคดี โดยอ้างถึงม.112 บังคับใช้ได้เฉพาะรัชกาลปัจจุบัน แต่กรณีดังกล่าวผ่านมา กว่า 500 ปีแล้ว อยากทราบว่าจะนำมาบังคับใช้ได้อย่างไร ตนขอเรียกร้องรัฐฯ ตอบเหตุผล กรณีดำเนินคดีกับตนต่อส่วนต่างๆ ที่มีการตั้งคำถามไป

,จากนั้นนาย ส.ศิวรักษ์ ได้เข้าไปภายในศาลทหาร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยอัยการศาลทหารได้เลื่อนการฟังคำสั่งฟ้อง-ไม่ฟ้องออกไปเป็น 17 ม.ค.61 เวลา 09.00 น.,

นายส.ศิวรักษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ ตนได้ทำจดหมาย ขอเลื่อนการฟังคำสั่งออกไป เพราะเห็นว่ามีข้อมูลอีกหลายอย่างที่จะนำมาชี้แจงและส่งเพิ่มเติมให้กับทางพนักงานสอบสวน และอัยการ โดยอัยการศาลทหาร ได้เลื่อนการฟังคำสั่งออกไป เป็น 17 ม.ค.61 ระหว่างนั้นจะมีการเรียกพยานมาพูดคุยหรือไม่ตนไม่ทราบ.
ส.ศิวรักษ์ ขึ้นศาลทหารกรุงเทพ ฟังคำสั่งฟ้อง - ไม่ฟ้อง จากอัยการทหาร พร้อมทำจดหมายส่งอัยการ คดี ม.112 หมิ่นพระนเรศวร ก่อนศาลจะเลื่อนนัดเป็นวันที่ 17 ม.ค.61
ข่าว,การเมือง
ส.ศิวรักษ์,ศาลทหาร,ม.112,หมิ่นพระนเรศวร,สุลักษณ์ ศิวรักษ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1146763
คอสตา ระห่ำ ยิงปุ๊บแดงปั๊บหมีสอนบอลเกตาเฟ 2-0 จี้ฝูง 6 แต้ม
การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2017/18 ประจำวันที่ 6 ม.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง ตราหมี แอตเลติโก มาดริด เปิดสนาม วานต๋า เมโทรโปลิตาโน พบกับ เกตาเฟ,เปิดฉากเกมขึ้นมาตราหมีบุกแหลกตามคาดและมาได้ประตูออกนำ 1-0 นาทีที่ 18 จากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ พลิกบอลเลี้ยงจี้ก่อนจ่ายให้ คอร์เรอา ตบคืนให้ กรีซมันน์ ดีดไซด์ก้อยโล่งๆบอลพุ่งเรียดตุงตาข่าย,จากนั้นเกมดูเดือดน่าดูสกอร์ยังไม่ขยับ จบครึ่งแรก แอตเลติโก มาดริด นำ เกตาเฟ อยู่ 1-0,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 68 ตราหมีหนีห่าง 2-0 เวอร์ซัลจ์โก เติมมาฝั่งขวาก่อนเปิดให้กับ คอสตา แปสวนตัวนายด่านเกตาเฟเข้าไป,แต่ทว่าจังหวะดีใจของ คอสตา ไปเฮกับข้างสนามจนแฟนบอลกรูกันมาฉลอง แต่ผู้ตัดสินมองว่าเกินไปควักเหลืองที่สองให้กับคอสตาเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปเฉยเลย,เวลาที่เหลือ ตราหมี 10 คนยังเอาตัวรอดไปได้ จบเกมการแข่งขัน แอตเลติโก มาดริด เอาชนะ เกตาเฟ 2-0 รั้งที่สองตามหลัง บาร์เซโลนา จ่าฝูง 6 แต้ม,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น,บาเลนเซีย ชนะ กิโรนา 2-1,ลาสพัลมาส แพ้ เอบาร์ 1-2,เซบีญา แพ้ เรอัล เบติส 3-5
ดิเอโก คอสตา ระห่ำสุดๆประเดิมเกมแรกในลาลีกากับ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด เปิดซิงทันควันแต่ก็โดนใบแดงทันทีเช่นกัน แต่ทีมยังเอาชนะ เกตาเฟ ไปได้ 2-0 ขึ้นที่สองตามหลังบาร์เซโลนา 6 แต้ม
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลาลีกา,แอตเลติโก มาดริด,เกตาเฟ,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1170658
ลิโอนาร์โด โพสต์ถึง มาเรียม ขวัญใจคนไทยตายจากพลาสติก
วันนี้ (25 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลีโอนาร์โด ดิคาปรีโอ ดาราฮอลลีวูดชื่อดังระดับโลก ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์ภาพและข้อความผ่านทาง อินสตราแกรม leonadodicaprio ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 34 ล้านคนเป็นภาพของมาเรียม พะยูนขวัญใจชาวไทยและคนทั่วโลก ที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้าหน้าที่ดูแลชาวไทยพร้อมข้อความบางส่วน ซึ่งนำมาจากรายงานจากสื่อชื่อดังวอชิงตันโพสต์ ที่รายงานความสูญเสียพะยูนสัตว์ทะเลหายากของคนไทยและของโลก ซึ่งมีสาเหตุจากการที่มาเรียม กินขยะพลาสติกเข้าไปจนเกิดการอักเสบในลำไส้ ทำให้มีแก๊สสะสมในทางเดินอาหาร ส่งผลให้มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และตายเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาโพสต์ที่แชร์โดย (@leonardodicaprio) เมื่อ ก่อนหน้านี้ ลีโอนาร์โด ได้เคยโพสต์ภาพเสือในป่าห้วยขาแข้งของไทย และชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ช่วยดูแลเสือโคร่งจนมีประชากรเพิ่มขึ้น ถือเป็นความสำเร็จในการพยายามฟื้นฟูประชากรเสือในป่าธรรมชาติให้อยู่ในภาวะไม่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อ่าน
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ดาราฮอลลีวูดชื่อดังระดับโลก โพสต์ภาพมาเรียมในอ้อมกอดของพี่เลี้ยง พร้อมระบุถึงการสูญเสียพะยูน สัตว์ทะเลหายาก จากปัญหาขยะพลาสติก
สิ่งแวดล้อม
มาเรียม,พะยูน,ลีโอนาร์โด ดิคาปรีโอ,พลาสติก,เกาะลิบง
https://news.thaipbs.or.th/content/283330
รอชมช้างโยกหัว เปิดใจ Syd Weiler ผู้ออกแบบสติกเกอร์นกม่วงกวนประสาท
ที่มักจะมีชาวเน็ตใช้สติกเกอร์ดังกล่าวแปะลงไป สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่ผู้พบเห็นจนบางรายถึงกับบอกว่า พอได้แล้วกับเจ้านกโยกหัวตัวนี้ ขณะที่บางรายได้ทำคลิปวิดีโอล้อเลียนขึ้นมา ,ล่าสุดทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสตั้งคำถามถึง ซิด ไวเลอร์ (Syd Weiler) ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์และออกแบบสติกเกอร์ชุดนี้ ถึงที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจในการทำมันขึ้นมา,Q : ช่วยแนะนำตัวเองสั้นๆ,A : ฮัลโหล ไทยแลนด์ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ซิด ไวเลอร์ เป็นคนออกแบบสติกเกอร์นกสีม่วง Trash Doves,Q : แรงบันดาลใจในการออกแบบ,A : สติกเกอร์นกสีม่วง ได้แรงบันดาลใจมาจาก นกพิราบที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปตามท้องถนน ฉันคิดว่ามันดูเป็นนกที่ดูโง่ๆ ทึ่มๆ ดี ก็เลยเลือกนำมาวาดเป็นสติกเกอร์,Q : ตอนที่ออกแบบเจ้านกม่วง คุณคิดอะไรอยู่ และใช้เวลาออกแบบนานมั้ย?,A : ย้อนไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ฉันใช้เวลาคิดประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ลงมือวาดจริงๆ 2 วัน โดยถ่ายทอดสดผ่านแชนแนลใน Twitch,Q : คุณเคยคิดมาก่อนมั้ยว่ามันจะเป็นที่นิยมมากเท่านี้?,A : ฉันไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า มันจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ฉันรู้สึกดีใจมากที่พวกคุณชอบมัน,Q : ได้ข่าวมาว่าคุณออกแบบสติกเกอร์นกม่วงสำหรับใช้ใน LINE ด้วย เมื่อไหร่เราจะได้เห็นของจริง?,A : ใช่แล้วค่ะ คุณจะได้เห็นเร็วๆ นี้ ฉันเพิ่งจะอัพโหลดไฟล์ส่งไปให้ LINE และเมื่อทีมงานตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ คุณก็จะสามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ทันที หวังว่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้แหละ,Q : คุณจะออกแบบสติกเกอร์ตัวอะไรออกมาอีก?,A : ตอนนี้ฉันกำลังวาดสติกเกอร์อยู่ 2-3 เซต มีคาแรคเตอร์แรคคูน แล้วก็ซูชิ,Q : คุณคิดจะออกแบบสติกเกอร์สำหรับแฟนๆ ชาวไทยบ้างมั้ย อย่างสติกเกอร์ช้างโยกหัว?,A : ได้เลย ฉันตั้งใจจะวาดสติกเกอร์ช้าง เป็นพิเศษให้กับคนไทย ใครที่อยากเห็น ส่งข้อความมาบอกฉันได้ทางเฟซบุ๊กนะ,Q : ช่วยเล่าให้เราฟังถึงโครงการ Adobe Creative Resident หน่อย?,A : โครงการนี้ของ Adobe ช่วยสานฝันศิลปินให้เป็นจริงได้ ตลอดทั้งปีที่ฉันได้มีโอกาสเข้าร่วมในโครงการ ฉันได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ พบปะผู้คนเจ๋งๆ และได้รับแรงบันดาลใจจากนักสร้างสรรค์อีกเพียบ ที่สำคัญคือช่วยให้ฉันได้ทำงานที่รัก และประสบความสำเร็จ,Q : สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรแฟนๆ ชาวไทยที่ชื่นชอบงานออกแบบของคุณบ้าง?,A : ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ชื่นชอบสติกเกอร์นกม่วง ฉันรู้สึกเป็นปลื้มมากๆ และหวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้ใช้งานมันนะ.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสติกเกอร์นกพิราบสีม่วงโยกหัวไปมา กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเฟซบุ๊ก โดยเฉพาะตามช่องแสดงความคิดเห็น
null
Syd Weiler,ผู้ออกแบบ,สติกเกอร์,นกพิราบ,นกม่วงโยกหัว
https://www.thairath.co.th/content/856738
พรเพชร มั่นใจ 6 พ.ย.ได้ข้อสรุปสอย สมศักดิ์-นิคม
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวถึงการประชุมสนช. เพื่อพิจารณาการรับเรื่องถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ ในวันที่ 6 พ.ย.ว่า การประชุมในวันดังกล่าว คาดว่า ที่ประชุมน่าจะมีคำตอบเป็นที่ยุติว่า ที่ประชุมสนช. จะรับเรื่องการถอดถอนนายสมศักดิ์ และนายนิคมไว้พิจารณาหรือไม่ หลังจากให้สมาชิกสนช.ไปศึกษาสำนวน ป.ป.ช.กว่า 4,000 หน้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว,สิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างมากในวันที่ 6 พ.ย.คือ เรื่องฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 50 ตามที่ ป.ป.ช.ส่งมานั้น ยังคงมีอยู่หรือไม่ ถ้ายังคงมีอยู่ก็จะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการถอดถอนต่อไป แต่ถ้าฐานความผิดไม่อยู่แล้ว สนช.ก็ไม่ควรรับเรื่องเข้ามาพิจารณา,ส่วนที่นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. ระบุ หากสนช.ไม่รับเรื่องถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมไว้พิจารณา จะเผชิญหน้ากับมวลมหาประชาชนนั้น ไม่รู้สึกกดดัน เชื่อว่า ที่ประชุมสนช.ไม่กดดันเช่นกัน และไม่ว่า สนช.จะมีมติอย่างไร ย่อมมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งสนช.ต้องยึดหลักกฎหมายในการพิจารณา การที่นายถาวร ระบุว่า สนช.มีอำนาจการถอดถอนตามมาตรา 5 และ 6 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น ไม่ขอปฏิเสธว่า สนช.มีอำนาจอยู่จริง แต่ต้องดูฐานความผิดด้วยว่า ยังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่ ถ้าความผิดถูกยกเลิกไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งที่ประชุมสนช. ต้องมาหารือกันในประเด็นนี้ว่า ความผิดยังคงมีอยู่หรือไม่.
พรเพชร มั่นใจ 6 พ.ย.ได้ข้อสรุป สนช.รับเรื่องสอย สมศักดิ์-นิคม หรือไม่ เล็งระดมสมองตีปมความผิดรธน.ปี 50 ยังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่ เผยหากความผิดยกเลิกไปแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้
null
สอยสมศักดิ์,สนช.,ถอดถอนสมศักดิ์,พรเพชร วิชิตชลชัย,6พ.ย.,ที่ประชุมสนช.,สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์,นิคม ไวยรัชพานิช,ข่าวการเมือง,ถาวร เสนเนียม,กปปส.
https://www.thairath.co.th/content/460702
รับวันเด็ก โจรใต้ปะทะทหารพรานปัตตานีตาย 2 จนท.และด.ญ.9ขวบถูกยิงบาดเจ็บ (คลิป)
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 12 ม.ค.2562 ร.ต.อ.ขจรศักดิ์ เกื้อมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงปะทะกัน บริเวณ ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ 100 นายกำลังปิดล้อมบ้านหลังหนึ่ง ปรากฏขณะเจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อมคนร้ายที่หลบอยู่ในบ้านได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงเจ้าหน้าที่จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องรีบกระจายกำลังหาที่กำบัง พร้อมกับตะโกนเรียกให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายยังคงยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ และเกิดการยิงตอบโต้กันทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และยังมีชาวบ้านถูกลูกหลง 1 คนเป็นเด็กผู้หญิง ทราบชื่อ ด.ญ.ฆอยรู อิบบาตีซาน อาแว อายุ 9 ปี ทั้งสองถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี,จนกระทั่งเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงยิงปะทะต่อเนื่องและยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่โดยรอบได้ เบื้องต้นพบว่าฝ่ายคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ขณะนี้ยังคงปิดรอบบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากมีรายงานว่าคนร้ายยังมีอีก 1 คนที่ยังไม่ยอมจำนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำศาสนามาเจรจาเพื่อต้องการให้ยุติสถานการณ์ครั้งนี้.
โจรใต้ก่อเหตุรับวันเด็กปะทะทหารพรานและตำรวจ ที่ปัตตานี พื้นที่ ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ เป็นเหตุให้ จนท.ถูกยิง และมีด.ญ.วัย 9 ขวบโดนลูกหลงเจ็บรวม 2 ราย คนร้ายตาย 2 อีก 1 ยังไม่ยอมจำนนให้จับกุม
ข่าว,อาชญากรรม
โจรใต้,ปะทะกับเจ้าหน้าที่,ปัตตานี,วันเด็ก,ตาย 2 เจ็บ 2,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1467824
เฒ่าควบกระบะเลยบ้าน ตกอ่างเก็บน้ำ คาดวูบ หมอพบลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 59 ร.ต.อ.สมเกียรติ กล้ากระโทก รอง สว.สส.สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งจาก นายเฉลิม ก้อนทอง ผู้ช่วยกำนันตำบลกลางดง ว่า มีรถกระบะตกถนนลงไปในอ่างเก็บน้ำชลประทาน หมู่ที่ 5 บ้านปางแจ้ง ผู้ขับขี่สูงอายุได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพเทศบาลตำบลสีมามงคล นำส่ง รพ.ปากช่องนานา จึงเดินทางไปตรวจสอบ ,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีดำ ทะเบียน บพ 4998 พระนครศรีอยุธยา หัวรถตกอยู่ในอ่างเก็บน้ำ ส่วน นายสน วิริยะกานนท์ อายุ 75 ปี ชาว ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บที่หลัง พูดจาวกวน หลังแพทย์ รพ.ปากช่องนานา ตรวจรักษาเบื้องต้นพบว่ามีอาการปากเบี้ยว เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน เกรงจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมโทรศัพท์แจ้งญาติที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบ,จากการสอบสวนชาวบ้านทราบว่า นายสน มีบ้านอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แต่เมื่อถึงหน้าบ้านไม่เลี้ยวรถเข้า กลับขับเลยไปจนถึงอ่างเก็บน้ำชลประทาน จนกระทั่งตกถนนลงไปในอ่างเก็บน้ำและเฉี่ยวเสาไฟฟ้า โดยหัวรถจมอยู่ในน้ำ โชคดีที่รถหยุดก่อนที่จะจมทั้งคัน ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าขับมาด้วยความเร็ว คาดว่าคงวูบ ไม่รู้สึกตัว.
เฒ่าวัย 75 ขับรถมาโคราช แต่ไม่เลี้ยวเข้าบ้าน ก่อนรถพุ่งตกถนนลงอ่างเก็บน้ำชลประทาน ชาวบ้านเห็นรถมาเร็ว คาดวูบ จนท.ช่วยออกจากรถส่ง รพ. แพทย์พบมีอาการปากเบี้ยว เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน
null
รถตกถนน,รถตกอ่างเก็บน้ำ,โคราช,วูบตกถนน,นครราชสีมา
https://www.thairath.co.th/content/721625
คนกรุงรับสภาพอากาศปิด วิกฤตฝุ่น หนักสุดเช้านี้
วันนี้ (16 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศเช้านี้ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะปิด ทำให้ฝุ่นสะสมตัว และนับว่าจะเป็นวันที่วิกฤตอีกวันที่ฝุ่นจะมากผิดปกติ เพราะสภาพอากาศปิด คือลมสงบ การลอยตัวของอากาศไม่ดี และเกิด Inversion หรือการผกผันของอุณหภูมิตามมาด้วย ซึ่งจะมีผลต่อการสะสมของฝุ่นด้วย เพราะถ้าเป็นสภาพตามปกติ อากาศข้างล่างจะร้อน และอากาศร้อนเป็นอากาศที่เบาจะลอยตัวขึ้นไป และเมื่อลอยตัวสูงขึ้นไปอากาศจะเย็นลงตามลำดับ แต่พอเกิด inversion หรือการผกผันของอุณหภูมิ จะส่งผลตรงข้าม เพราะทำให้อากาศด้านบนจะอุ่นกว่าด้านล่าง พอเป็นแบบนั้นอากาศด้านล่างก็เลยลอยขึ้นไปไม่ได้ เหมือนมีฝาครอบไว้ ฝุ่นก็เลยมีโอกาสที่จะสะสมตัวมากขึ้นอากาศลอยตัวไม่ดี ฝุ่นสะสมตัวทั้งนี้ ข้อมูลการลอยตัวของอากาศจากแบบจำลองของศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าเช้าวันนี้ไปจนถึงช่วงค่ำ บริเวณตอนบนของประเทศไทยจะมีสีเหลือง และเขียวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ่งบอกถึงการลอยตัวของอากาศที่เป็นลบ หรือไม่ค่อยจะดี เพราะถ้าอากาศจะลอยตัวได้ดีต้องมีสีแดงๆ เข้มๆ ขึ้นไป ดังนั้น เมื่อการลอยตัวของอากาศไม่ดี ฝุ่นจึงมีโอกาสที่จะสะสมตัวได้ลมไม่แรงพอที่จะพัดฝุ่นออกไปส่วนข้อมูลเรื่องลมจากวินดี้ ตั้งแต่เวลา 24.00 น. จนเวลา 23.00 น. ของวันนี้ (16 ม.ค.) จะพบว่าช่วงเช้าลมบริเวณกรุงเทพฯ มีความเร็วลมอยู่ที่ประมาณ 5-8 นอต ซึ่งมีความเร็วเพียงพอที่จะพัดพาเอาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ไปได้ แต่พอถึงช่วงเวลา 12.00 น. จนถึงช่วง 23.00 น. ลมจะอ่อนลง มีความเร็วประมาณ 2-3 นอต ซึ่งมีความเร็วหรือแรงไม่พอที่จะพัดฝุ่นออกไปได้ภาคเหนือตอนบน ฝุ่นสะสมทั้งวันขณะที่ภาคเหนือตอนบนลมที่พัดอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นลมเบา อาจจะไม่แรงพอที่จะพัดเอาฝุ่นออกไปได้เช่นกัน หากรวมปัจจัยเรื่องลม และการลอยตัวของอากาศ จึงมีความเป็นไปได้ที่ภาคเหนือตอนบนฝุ่นสามารถสะสมตัวได้ตลอดทั้งวัน ขณะที่กรุงเทพฯ ฝุ่นมีโอกาสลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้นในช่วงเช้า แต่ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ฝุ่นจะสะสมตัวได้ดีขึ้น ตามที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุไว้ก่อนหน้านี้10 พื้นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่ต้องกังวลมากนัก ข้อมูลคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ ในวันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. พบว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเพียง 10 พื้นที่ ที่มีฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน หรืออยู่ในระดับสีส้ม คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรนอกจากนี้ ยังมีบริเวณริมถนนซอยสุขุมวิท 63 เขตวัฒนา ไม่ได้ระบุค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรริมถนนสามเสน เขตพระนคร มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แขวงคลองเตย เขตคลองเตย มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เช้านี้ (16 ม.ค.) พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สภาพอากาศปิด ทำให้ฝุ่นสะสมตัว และนับว่าจะเป็นวันที่วิกฤตอีกวันที่ฝุ่นจะมากผิดปกติ เพราะสภาพอากาศปิด คือลมสงบ การลอยตัวของอากาศไม่ดี และเกิด Inversion หรือการผกผันของอุณหภูมิตามมาด้วย
สิ่งแวดล้อม
ฝุ่น,ฝุ่น PM2.5,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,ฝุ่นพิษ
https://news.thaipbs.or.th/content/288018
ไทยยืนยันผลหารือผู้แทนเจรจามรดกโลกมีแนวโน้มที่ดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุถึงความคืบหน้าจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศฝรั่งเศส กรณีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารว่านายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ส่งข้อความสั้นรายงานแนวโน้มการประชุมว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกอาจเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารออกไป ซึ่งแนวทางหลังจากนี้ไทยจะต้องเดินหน้าทำความเข้าใจคณะกรรมการฯ ถึงปัญหาต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดน ซึ่งจะต้องพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสม เมื่อคืนนี้นายสุวิทย์แถลงข่าวถึงแนวโน้มที่ดีในการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา ซึ่งนางอิรินา โบกาวา ผู้อำนวยการองค์การยูเนสโก จะแถลงด้วยตนเองในช่วงบ่ายวันนี้ (27 พ.ค.) ตามเวลาประเทศไทย ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันชัดเจนว่าต้องเดินหน้าต่อไป แม้ที่ผ่านมาจะมองได้ว่ากัมพูชาอาจต้องการทำให้เห็นว่ากลไกของ 2 ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ แต่ไทยยืนยันว่ากลไกสามารถเดินหน้าได้ และ อินโดนีเซียได้รับทราบแล้วรอแต่เพียงการทำหนังสือในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อ ตกลงในการจัดส่งผู้สำรวจและกำหนดวันที่จะเดินทางเข้ามาดูพื้นที่ของทั้งสอง ประเทศก่อน โดยจะเป็นการสำรวจเฉพาะในพื้นที่อยู่อาศัย และที่พัก ประมาณ 1-2 วัน โดยไม่ให้เข้าไปในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาเลื่อนแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารออกไปก่อน หลังหารือกับคณะผู้แทนเจรจามรดกโลกทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้วเมื่อคืนนี้
การเมือง
กัมพูชา,พระวิหาร,มรดกโลก,ยูเนสโก
https://news.thaipbs.or.th/content/12709
ขอย้าย คดีเภสัชกรโหดฆ่าพ่อตาแม่ยายไปกองปราบ เหยื่อหวั่นถูกทำร้าย
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆกับจอมขวัญว่า หลังจากมีการจับกุมนายกฤษณชัย จันทราศรี อายุ 51 ปี อดีตลูกเขยที่ฆ่าพ่อตายแม่ยาย เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2548 และหลบหนีคดีนานกว่า 13 ปี และถูกจับกุมได้ที่กทม.นั้น,ล่าสุดมีสายรายงานว่า วันนี้มีการนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ปรากฏว่าผู้ต้องหากลับคำให้การ ส่งผลให้อดีตภรรยา และน้องสาว กลัวว่าผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัว ซึ่งผู้ต้องหาเคยข่มขู่ว่าถ้าเลิกกันเมื่อไรจะฆ่าล้างโคตร หรือถ้าถูกจับได้พวกจะฆ่าให้ตายทั้งหมด,อย่างไรก็ตาม ตนก็บอกกับผู้เสียหายว่า เมื่อวานมีการเขียนคำคัดค้านประกันตัวยื่นให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าผู้ต้องหาจะได้ประกันตัวมา ศาลท่านหูไวตาไว ท่านดูหลักฐาน ก็ทราบว่าคดีนี้อุกฉกรรจ์ เหี้ยมโหด และศาลจะรับทราบว่าเป็นอย่างไร,ทั้งนี้ ผู้ต้องหากลับคำได้ตลอดจนกว่าศาลจะตัดสิน ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ฉลาดและมีลูกล่อลูกชน เรามีพยานหลักฐานครบถ้วน จริงๆ เขาต้องการฆ่าน้องสาวของภรรยา แต่พ่อแม่เข้ามาช่วยเหลือ พอลงมือเสร็จ ก็พูดว่าไม่ต้องไปเสียใจ พ่อแม่แก่แล้วสมควรตาย เช่นนี้เป็นต้น,นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า ตัวผู้ต้องหาเองก็มีญาติเป็นตำรวจ และเป็นครูที่โรงเรียนที่น้องสาวผู้เสียหายเรียนอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเรียกน้องสาวผู้เสียหายไปคุยด้วย ครอบครัวเขาจึงเป็นกังวลตลอดเวลา ขณะที่อดีตภรรยาของผู้ต้องหาก็ต้องไปกินนอนที่โรงพักนาน 3 เดือน เพราะกลัวอดีตสามีจะมาฆ่า ซึ่งผู้ต้องหามีการขอคุยกับตำรวจชุดคุ้มกัน พอจะวางแผนจับกุมก็หลบหนี และเงียบไป,ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 13 ปี ผู้เสียหายกังวลตลอด กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และคดีก็ไม่คืบหน้าเพราะตัวผู้ต้องหาหลบหนีได้ตลอด ซึ่งทางเราก็ประสานไปกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ก็สแกนหาว่าเป็นใคร ตำรวจคนไหนดูแลหรือไม่ จนนำมาสู่การจับกุม,ผู้เสียหายอยากโอนคดีมากองปราบ เขาห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะกลัวว่าจะได้ประกันตัว แต่ผมบอกฮีโร่คือ อัยการ และศาลนะ แต่เขาก็ยังกังวล เราต้องไม่ลืมว่าที่หลบหนีได้ คุยกับตำรวจคุ้มกัน มีลักษณะข่มขู่ และมีพี่น้องเป็นราชการ,นางสาวรัชฎาพร บุญทาทอง อดีตภรรยาเภสัชกรกฤษณชัย กล่าวว่า ตนกังวลเรื่องกฎหมาย กลัวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนไม่รู้ ญาติพี่น้องไม่รู้กฎหมาย กลัวว่าถ้าอดีตสามีได้รับการประกันเขาจะมาฆ่าเรา เขาเคยส่งจดหมายมาขู่ฆ่าน้อง โดยบอกว่า ตำรวจก็ตามจับเขาไม่ได้,ทั้งนี้ มูลเหตุที่เขาลงมือเพราะเขาคิดว่าพ่อแม่กีดกัน เรากับเขา ในความคิดของเขา เขาขู่ฆ่าน้องเรา เขาบอกว่าอยากให้รู้ว่า การพรากจากคนรักมันเป็นอย่างไร เขาคิดว่าพ่อกับแม่ทำให้เราต้องเลิกรากัน,อย่างไรก็ตาม การที่เขาพูดว่า ทำไมต้องมาจับเขา เขาเป็นแบบนี้ก็ทรมานแล้วนั้นเราอยู่กับเขามานาน เรารู้ว่าถ้าเขาได้รับการประกันตัว เรากับน้องไม่ปลอดภัยแน่ โดย 13 ปีที่ผ่านมาที่เราเสียพ่อกับแม่ไป เขาตามรังควาญ 1 เดือนก็โทรเข้ามา ส่งจดหมายมา มีการนัดพบ ครั้งสุดท้ายเป็นจดหมายขู่ฆ่าน้องถ้าจับตัวเขาได้,ตอนนี้กลัวอย่างเดียว คือถ้าเขาได้รับการประกันตัว ฟังจากเขาพูดเมื่อวานว่า เขาแก่แล้วจะจับเขาทำไม เราฟังรู้เลยว่า เขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หนูอยากคัดค้านประกันตัว และย้ายคดีมากองปราบ คดีอยู่ที่เดิมหนูไม่มั่นใจ
อดีตภรรยา เภสัชกรโหดฆ่าพ่อตาแม่ยายที่เชียงราย หวั่นผู้ต้องหาได้ประกันตัว กลัวออกมาข่มขู่ฆ่าตัวเองและน้องสาวอีกครั้ง หลังหนีคดีนาน 13 ปีแถมส่งจม.มาข่มขู่ฆ่า ขอโอนย้ายคดีให้กองปราบช่วยดูแล
ข่าว,ทั่วไทย
ถามตรงๆ กับจอมขวัญ,เภสัชกรโหด,ฆ่าพ่อตาแม่ยาย,สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์,รัชฎาพร บุญทาทอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/982065
ผบ.ทสส. ชี้แจงยึดอำนาจเป็นทางออกสุดท้าย -จุดยืนประเทศสงบ
วันนี้ (19 ต.ค.2561) ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งแรก ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่มีพล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผบ.ทสส. เป็นประธาน โดยมีพร้อมกับผู้นำเหล่าทัพ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี กล่าวถึงบทบาทของทหาร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ลงจากอำนาจว่า คงพยากรณ์ไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น แต่สถานการณ์ประเทศไทย 4 ปีที่ผ่านมา ถือว่า มีพัฒนาการดี ก้าวหน้า และมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอดส่วนสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบก พูดนั้นพูดด้วยประสบการณ์ คือ แผนเผชิญเหตุสุดท้าย แต่ในขณะที่กลไกกฎระเบียบของบ้านเมืองยังใช้บังคับได้ และผู้คนเคารพกฎหมาย ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ก็ยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวลทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวแสดงความยินดี กับผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และนายทหารชั้นสัญญาบัตรที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญรวมทั้งผู้ที่ได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยมอบนโยบายแก่เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความเข้าใจและกำหนดนโยบายในการปฏิบัติงานให้และเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน ทั้งการพิทักษ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี การแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติโดยในปี 2562 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียน จึงมอบหมายเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมการสนับสนุนการประชุมและกิจกรรมในกรอบของรัฐบาล เช่น การประชุมสุดยอดอาเซียนและในกรอบของกระทรวงกลาโหม ตลอดจนเตรียมการจัดกิจกรรมในกรอบของกองทัพไทย และกิจกรรมในกรอบของเหล่าทัพ เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในทุกระดับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอ่านข่าวเพิ่มเติม
นัดแรก ประชุมเหล่าทัพ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขออย่ากังวลว่า ทหารจะทำอะไร หากทุกฝ่ายประคองให้ประเทศเกิดความสงบ และยังไม่มีนัยยะทางการเมืองที่จะวุ่นวาย จนนำไปสู่ความขัดแย้ง
การเมือง
กองทัพบก,ผู้บัญชาการทหารบก,ผู้บัญชาการทหารสูงสุด,ตำรวจ,กองทัพเรือ,การเมือง,เลือกตั้ง,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/275207
ตร.อังกฤษเจอ 15 ผู้ลักลอบเข้าเมืองซุกท้ายรถบรรทุก หวั่นซ้ำรอยคดี 39 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ย. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษจับกุมตัวชายจำนวน 15 คน หลังจากพบพวกเขาซุกซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกบนถนนหลวงในมณฑลวิลต์เชียร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ในฐานะผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังจับกุมคนขับชาวไอร์แลนด์ซึ่งมีอายุในช่วง 50 ปี ฐานช่วยเหลือคนกลุ่มนี้,ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีในวันพุธว่าพบรถบรรทุกต้องสงสัยวิ่งบนถนนหลวงใกล้เมืองชิปเพนแฮมในเวลาประมาณ 16:30น. วันพุธ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นและเกิดการจับกุมดังกล่าว โดยชายที่พบมีอายุระหว่าง 16-30 ปี แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสัญชาติ,เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากตำรวจอังกฤษ พบศพชายหญิงชาวเวียดนามจำนวนถึง 39 คนเสียชีวิตอยู่ท้ายรถบรรทุกคันหนึ่งในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน แสดงให้เห็นปัญหาการลักลอบเข้าเมืองในอังกฤษ โดยการสืบสวนล่าสุดตำรวจในเวียดนามจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แล้ว 8 ราย,ขณะที่ในคดีล่าสุด ชายทั้ง 15 คนมีสุขภาพเแข็งแรงดี โดยหนึ่งในนั้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อป้องกันไว้ก่อน ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล หลังไม่พบปัญหาสุขภาพ และตอนนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว
ตำรวจอังกฤษเจอผู้ลักลอบเข้าเมือง 15 คนซุกซ่อนท้ายรถบรรทุก คล้ายกับกรณีพบศพชาวเวียดนาม 39 ศพ แต่ครั้งนี้ทั้งหมดปลอดภัย โดยถูกตำรวจจับพร้อมกับคนขับ
ข่าว,ต่างประเทศ
รถบรรทุก,ลักลอบเข้าเมือง,อังกฤษ,ศพในรถบรรทุก,วิลต์เชียร์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1699500
รพ.ศิริราชชวนบริจาคโลหิต หลังเลือดสำรองไม่พอจาก COVID-19
วันนี้ (4 มี.ค.2563 ) รศ.พญ.ปาริชาติ เพิ่มพิกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดเผยว่า สถานะเลือดสำรองของธนาคารเลือดโรงพยาบาลศิริราช พบว่า มีปริมาณเลือดสำรองหมู่ A B O ไม่เพียงพอ ขณะที่หมู่ AB มีเลือดสำรองเพียงพอ ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนบริจาคเลือดเพื่อให้มีเลือดเพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยสามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารเลือด โรงพยาบาลศิริราช ตึก 72 ปี ชั้น 3 ทุกวันไม่ เว้นวันหยุดราชการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 -16.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-419-8081 ต่อ 123 128อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคเลือดขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม โดยพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง น้ำหนัก 48 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อที่จะนำเลือดมาปั่นแยกเอาผลิตภัณฑ์ไปใช้อย่างอื่นร่วมด้วยและต้องไม่มีโรค ประจำตัว ทั้งนี้สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งขอความร่วมมือหากท่านที่มีไข้ มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ หรือ มีประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โปรดงดบริจาคเลือดในช่วงนี้
โรงพยาบาลศิริราชเชิญชวนบริจาคเลือดหลังพบปริมาณเลือดสำรองไม่เพียงพอ จากสถานการณ์ไวรัสCOVID-19
สังคม
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,COVID19,ไวรัสโคโรนา,ปอดอักเสบ,ไวรัสโคโรนา2019
https://news.thaipbs.or.th/content/289515
ผู้นำอังกฤษกล่าวสรรเสริญพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวต่อที่ประชุมสภา สรรเสริญสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 องค์ประมุขแห่งคริสต์จักรโรมันคาทอลิค หลังพระองค์สร้างความประหลาดใจให้กับคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลก เมื่อประกาศว่าจะสละตำแหน่งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากสุขภาพไม่อำนวย นับเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในรอบ 600 ปี ที่ก้าวลงจากอำนาจในขณะที่ยังมีพระชนน์ชีพโดยนายคาเมรอน กล่าวว่า คริสต์ศาสนิกชนนับล้านคนทั่วโลกจะจดจำพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญานของคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิคตลอดไป และพระองค์ทรงตรากตรำอย่างหนัก เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสำนักวาติกัน หลังการเสด็จเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2553ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งมีพระชนมายุ 85 พรรษา ทรงเปิดเผยว่า สังเกตเห็นสุขภาพของพระองค์เองถดถอยลงเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องสละตำแหน่ง โดยพระองค์ทรงได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษจากชาวคาทอลิคหัวอนุรักษ์ แต่ก็ถูกเคลือบแคลงจากพวกเสรีนิยม
นายกรัฐมนตรีของอังกฤษกล่าวสรรเสริญสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 องค์พระประมุขแห่งคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิค หลังจากพระองค์ทรงประกาศจะสละตำแหน่งในสิ้นเดือนนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลก
ต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี,พระสันตะปาปา,สรรเสริญ,สละตำแหน่ง,อังกฤษ,เบเนดิกต์ที่ 16
https://news.thaipbs.or.th/content/146378