question_id
stringlengths 24
24
| article_id
stringlengths 20
20
| title
stringlengths 1
179
| context
stringlengths 52
7.28k
| question
stringlengths 4
234
| answers
stringlengths 118
226
| answers_text
stringlengths 1
100
|
---|---|---|---|---|---|---|
yobbcnzgbgi1ardkcszy_001 | yobbcnzgbgi1ardkcszy | ต้นกระทือ | ชื่อวิทยาศาสตร์ : zingiber zerumbet (l.) smith.
วงศ์ : zingiberaceae
ชื่ออื่น : กระทือป่า กะแวน กะแอน แสมดำ แฮวดำ เฮียวดำ (ภาคเหนือ) เฮียวแดง (แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะ : เป็นไม้ล้มลุก สูง 0.5 - 1 เมตร มีเหง้าใต้ดิน เปลือกนอกของเหง้าสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม แทงหน่อใหม่เมื่อถึงฤดูฝน ใบเดี่ยวเรียงสลับ และเป็นรูปหอกแกมขอบขนาน กว้าง 5 - 10 ซม. ยาว 15 - 30 ซม. ด้านล่างของใบมักมีขนนุ่ม ดอกช่อแทงจากเหง้า กลีบดอกสีขาวนวล ใบประดับขนาดใหญ่สีแดง ผลเป็นผลแห้ง
ประโยชน์ทางสมุนไพร : มีฤทธิ์ขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้น การหลั่งน้ำลาย และเพิ่มความอยากอาหาร โดยใช้หัวหรือเหง้าสด ขนาดประมาณหัวแม่มือ 2 หัว ย่างไฟพอสุกตำกับ น้ำปูนใสแล้วคั้นเอาน้ำดื่ม | ต้นกระทือเป็นพืชสมุนไพรจัดอยู่ในวงศ์อะไร | {'text': array(['วงศ์ : zingiberaceae '], dtype=object), 'answer_start': array([49], dtype=int32), 'answer_end': array([72], dtype=int32)} | วงศ์ : zingiberaceae |
yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp_000 | yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp | สยามโมซอรัส | สยามโมซอรัส สุธีธรนี (อังกฤษ: siamosaurus suteethorni) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นฟัน 9 ซี่ มีลักษณะคล้ายฟันจระเข้ เป็นรูปกรวยยาวเรียว ค่อนข้างตรง และโค้งเล็กน้อยในแนวด้านหลังของฟัน บนผิวของฟันมีร่องและสันนูนเล็กๆตามแนวความยาวของตัวฟันด้านละ 15 ลายเส้นโยงจากฐานของตัวฟันไปยังส่วนของยอดฟันห่างจากส่วนปลายสุดประมาณ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่มีลักษณะเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ความยาวของตัวฟันทั้งหมด 62.5 มิลลิเมตร ลักษณะฟันดังกล่าวไม่เคยมีรายงานการค้นพบจากที่ใดๆในโลกมาก่อน จึงพิจารณาให้เป็นสกุลและชนิดใหม่ คือ "สยามโมซอรัส สุธีธรนี" | สยามโมซอรัส สุธีธรนี คือ ? | {'text': array(['เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด'], dtype=object), 'answer_start': array([55], dtype=int32), 'answer_end': array([76], dtype=int32)} | เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด |
yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp_001 | yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp | สยามโมซอรัส | สยามโมซอรัส สุธีธรนี (อังกฤษ: siamosaurus suteethorni) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นฟัน 9 ซี่ มีลักษณะคล้ายฟันจระเข้ เป็นรูปกรวยยาวเรียว ค่อนข้างตรง และโค้งเล็กน้อยในแนวด้านหลังของฟัน บนผิวของฟันมีร่องและสันนูนเล็กๆตามแนวความยาวของตัวฟันด้านละ 15 ลายเส้นโยงจากฐานของตัวฟันไปยังส่วนของยอดฟันห่างจากส่วนปลายสุดประมาณ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่มีลักษณะเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ความยาวของตัวฟันทั้งหมด 62.5 มิลลิเมตร ลักษณะฟันดังกล่าวไม่เคยมีรายงานการค้นพบจากที่ใดๆในโลกมาก่อน จึงพิจารณาให้เป็นสกุลและชนิดใหม่ คือ "สยามโมซอรัส สุธีธรนี" | สยามโมซอรัส สุธีธรนี เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ใด ? | {'text': array(['ภูประตูตีหมา'], dtype=object), 'answer_start': array([118], dtype=int32), 'answer_end': array([130], dtype=int32)} | ภูประตูตีหมา |
yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp_002 | yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp | สยามโมซอรัส | สยามโมซอรัส สุธีธรนี (อังกฤษ: siamosaurus suteethorni) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นฟัน 9 ซี่ มีลักษณะคล้ายฟันจระเข้ เป็นรูปกรวยยาวเรียว ค่อนข้างตรง และโค้งเล็กน้อยในแนวด้านหลังของฟัน บนผิวของฟันมีร่องและสันนูนเล็กๆตามแนวความยาวของตัวฟันด้านละ 15 ลายเส้นโยงจากฐานของตัวฟันไปยังส่วนของยอดฟันห่างจากส่วนปลายสุดประมาณ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่มีลักษณะเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ความยาวของตัวฟันทั้งหมด 62.5 มิลลิเมตร ลักษณะฟันดังกล่าวไม่เคยมีรายงานการค้นพบจากที่ใดๆในโลกมาก่อน จึงพิจารณาให้เป็นสกุลและชนิดใหม่ คือ "สยามโมซอรัส สุธีธรนี" | ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นอะไร ? | {'text': array(['ฟัน 9 ซี่'], dtype=object), 'answer_start': array([209], dtype=int32), 'answer_end': array([218], dtype=int32)} | ฟัน 9 ซี่ |
yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp_003 | yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp | สยามโมซอรัส | สยามโมซอรัส สุธีธรนี (อังกฤษ: siamosaurus suteethorni) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นฟัน 9 ซี่ มีลักษณะคล้ายฟันจระเข้ เป็นรูปกรวยยาวเรียว ค่อนข้างตรง และโค้งเล็กน้อยในแนวด้านหลังของฟัน บนผิวของฟันมีร่องและสันนูนเล็กๆตามแนวความยาวของตัวฟันด้านละ 15 ลายเส้นโยงจากฐานของตัวฟันไปยังส่วนของยอดฟันห่างจากส่วนปลายสุดประมาณ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่มีลักษณะเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ความยาวของตัวฟันทั้งหมด 62.5 มิลลิเมตร ลักษณะฟันดังกล่าวไม่เคยมีรายงานการค้นพบจากที่ใดๆในโลกมาก่อน จึงพิจารณาให้เป็นสกุลและชนิดใหม่ คือ "สยามโมซอรัส สุธีธรนี" | มีลักษณะคล้ายฟันของอะไร ? | {'text': array(['จระเข้ '], dtype=object), 'answer_start': array([235], dtype=int32), 'answer_end': array([242], dtype=int32)} | จระเข้ |
yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp_004 | yvuo6ysfe0cvx9vyxgvp | สยามโมซอรัส | สยามโมซอรัส สุธีธรนี (อังกฤษ: siamosaurus suteethorni) เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอด ขนาดกลาง พบครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 1 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ชิ้นส่วนตัวอย่างต้นแบบเป็นฟัน 9 ซี่ มีลักษณะคล้ายฟันจระเข้ เป็นรูปกรวยยาวเรียว ค่อนข้างตรง และโค้งเล็กน้อยในแนวด้านหลังของฟัน บนผิวของฟันมีร่องและสันนูนเล็กๆตามแนวความยาวของตัวฟันด้านละ 15 ลายเส้นโยงจากฐานของตัวฟันไปยังส่วนของยอดฟันห่างจากส่วนปลายสุดประมาณ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่มีลักษณะเป็นหยักแบบฟันเลื่อย ความยาวของตัวฟันทั้งหมด 62.5 มิลลิเมตร ลักษณะฟันดังกล่าวไม่เคยมีรายงานการค้นพบจากที่ใดๆในโลกมาก่อน จึงพิจารณาให้เป็นสกุลและชนิดใหม่ คือ "สยามโมซอรัส สุธีธรนี" | ความยาวของตัวฟันทั้งหมดคือ ? | {'text': array(['62.5 มิลลิเมตร'], dtype=object), 'answer_start': array([511], dtype=int32), 'answer_end': array([525], dtype=int32)} | 62.5 มิลลิเมตร |
yxuep8m1yzosghpl20w7_000 | yxuep8m1yzosghpl20w7 | อะลาดิน | อะลาดิน (อังกฤษ: aladdin) เป็นเทพปกรณัมเรื่องหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ว่าด้วยยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นเมื่ออ็องตวน กาล็อง (antoine galland) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ประมวลเข้าเป็นนิทานตอนหนึ่งในหนังสือชุด พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) หรือ อาหรับราตรี (the arabian nights)[1] | อะลาดินคือใคร | {'text': array(['ยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ '],
dtype=object), 'answer_start': array([75], dtype=int32), 'answer_end': array([149], dtype=int32)} | ยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ |
yxuep8m1yzosghpl20w7_001 | yxuep8m1yzosghpl20w7 | อะลาดิน | อะลาดิน (อังกฤษ: aladdin) เป็นเทพปกรณัมเรื่องหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ว่าด้วยยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นเมื่ออ็องตวน กาล็อง (antoine galland) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ประมวลเข้าเป็นนิทานตอนหนึ่งในหนังสือชุด พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) หรือ อาหรับราตรี (the arabian nights)[1] | ใครเป็นคนเขียนเรื่องอะลาดิน | {'text': array(['อ็องตวน กาล็อง (antoine galland)'], dtype=object), 'answer_start': array([197], dtype=int32), 'answer_end': array([229], dtype=int32)} | อ็องตวน กาล็อง (antoine galland) |
yxuep8m1yzosghpl20w7_002 | yxuep8m1yzosghpl20w7 | อะลาดิน | อะลาดิน (อังกฤษ: aladdin) เป็นเทพปกรณัมเรื่องหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ว่าด้วยยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นเมื่ออ็องตวน กาล็อง (antoine galland) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ประมวลเข้าเป็นนิทานตอนหนึ่งในหนังสือชุด พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) หรือ อาหรับราตรี (the arabian nights)[1] | อ็องตวน กาล็องมาจากประเทศอะไร | {'text': array(['ฝรั่งเศส'], dtype=object), 'answer_start': array([241], dtype=int32), 'answer_end': array([249], dtype=int32)} | ฝรั่งเศส |
yxuep8m1yzosghpl20w7_003 | yxuep8m1yzosghpl20w7 | อะลาดิน | อะลาดิน (อังกฤษ: aladdin) เป็นเทพปกรณัมเรื่องหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ว่าด้วยยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นเมื่ออ็องตวน กาล็อง (antoine galland) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ประมวลเข้าเป็นนิทานตอนหนึ่งในหนังสือชุด พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) หรือ อาหรับราตรี (the arabian nights)[1] | อะลาดินอยู่ในนิทานชุดไหน | {'text': array(['พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights)'], dtype=object), 'answer_start': array([290], dtype=int32), 'answer_end': array([333], dtype=int32)} | พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) |
yxuep8m1yzosghpl20w7_004 | yxuep8m1yzosghpl20w7 | อะลาดิน | อะลาดิน (อังกฤษ: aladdin) เป็นเทพปกรณัมเรื่องหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ว่าด้วยยาจกหนุ่มชาวจีนชื่อ อะลาดิน ซึ่งกลายเป็นราชาเพราะความช่วยเหลือของทาสยักษ์ เรื่องราวนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นเมื่ออ็องตวน กาล็อง (antoine galland) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ประมวลเข้าเป็นนิทานตอนหนึ่งในหนังสือชุด พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) หรือ อาหรับราตรี (the arabian nights)[1] | พันหนึ่งราตรี (one thousand and one nights) เรียกอีกอย่างว่าอะไร | {'text': array(['อาหรับราตรี (the arabian nights)'], dtype=object), 'answer_start': array([339], dtype=int32), 'answer_end': array([371], dtype=int32)} | อาหรับราตรี (the arabian nights) |
yyznzltogtru7jvg4amo_000 | yyznzltogtru7jvg4amo | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรือ ฮาร์เล็ม 1958 เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวน 57 คน ที่ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1958 บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก
ภาพหมู่นี้ถ่ายโดยอาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ของวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของปี 1958 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17 ถนนสายที่ 126 (อยู่ระหว่างฟิฟต์แอฟวะนิว และเมดิสันแอฟวะนิว) ในย่านฮาร์เล็มตะวันออก พิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1959 และกลายเป็นภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง
ในปี ค.ศ. 1994 เรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพถ่ายภาพนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดี a great day in harlem ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ประจำปี 1995
ภาพถ่ายนี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ปี 2004 ของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง the terminal (เดอะ เทอร์มินัล ด้วยรักและมิตรภาพ) นำแสดงโดยทอม แฮงค์ รับบทเป็น วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชาวยุโรปตะวันออกที่ตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี หลังจากพยายามเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อตามหาลายเซ็นของนักดนตรีคนสุดท้าย จากทั้ง 57 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย a great day in harlem เพื่อเป็นการสืบทอดความฝันของบิดาผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลา 40 ปีตามสะสมลายเซ็นของนักดนตรีทั้งหมด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มี เบนนี โกลสัน นักแซกโซโฟนชาวอเมริกัน หนึ่งในนักดนตรีในภาพถ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมแสดงรับเชิญด้วย | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรืออีกชื่อหนึ่งว่าอะไร | {'text': array(['ฮาร์เล็ม 1958'], dtype=object), 'answer_start': array([27], dtype=int32), 'answer_end': array([40], dtype=int32)} | ฮาร์เล็ม 1958 |
yyznzltogtru7jvg4amo_001 | yyznzltogtru7jvg4amo | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรือ ฮาร์เล็ม 1958 เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวน 57 คน ที่ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1958 บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก
ภาพหมู่นี้ถ่ายโดยอาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ของวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของปี 1958 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17 ถนนสายที่ 126 (อยู่ระหว่างฟิฟต์แอฟวะนิว และเมดิสันแอฟวะนิว) ในย่านฮาร์เล็มตะวันออก พิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1959 และกลายเป็นภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง
ในปี ค.ศ. 1994 เรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพถ่ายภาพนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดี a great day in harlem ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ประจำปี 1995
ภาพถ่ายนี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ปี 2004 ของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง the terminal (เดอะ เทอร์มินัล ด้วยรักและมิตรภาพ) นำแสดงโดยทอม แฮงค์ รับบทเป็น วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชาวยุโรปตะวันออกที่ตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี หลังจากพยายามเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อตามหาลายเซ็นของนักดนตรีคนสุดท้าย จากทั้ง 57 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย a great day in harlem เพื่อเป็นการสืบทอดความฝันของบิดาผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลา 40 ปีตามสะสมลายเซ็นของนักดนตรีทั้งหมด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มี เบนนี โกลสัน นักแซกโซโฟนชาวอเมริกัน หนึ่งในนักดนตรีในภาพถ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมแสดงรับเชิญด้วย | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวนเท่าไร | {'text': array(['57 คน'], dtype=object), 'answer_start': array([90], dtype=int32), 'answer_end': array([95], dtype=int32)} | 57 คน |
yyznzltogtru7jvg4amo_002 | yyznzltogtru7jvg4amo | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรือ ฮาร์เล็ม 1958 เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวน 57 คน ที่ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1958 บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก
ภาพหมู่นี้ถ่ายโดยอาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ของวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของปี 1958 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17 ถนนสายที่ 126 (อยู่ระหว่างฟิฟต์แอฟวะนิว และเมดิสันแอฟวะนิว) ในย่านฮาร์เล็มตะวันออก พิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1959 และกลายเป็นภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง
ในปี ค.ศ. 1994 เรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพถ่ายภาพนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดี a great day in harlem ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ประจำปี 1995
ภาพถ่ายนี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ปี 2004 ของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง the terminal (เดอะ เทอร์มินัล ด้วยรักและมิตรภาพ) นำแสดงโดยทอม แฮงค์ รับบทเป็น วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชาวยุโรปตะวันออกที่ตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี หลังจากพยายามเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อตามหาลายเซ็นของนักดนตรีคนสุดท้าย จากทั้ง 57 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย a great day in harlem เพื่อเป็นการสืบทอดความฝันของบิดาผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลา 40 ปีตามสะสมลายเซ็นของนักดนตรีทั้งหมด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มี เบนนี โกลสัน นักแซกโซโฟนชาวอเมริกัน หนึ่งในนักดนตรีในภาพถ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมแสดงรับเชิญด้วย | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม ถ่ายขึ้นปีอะไร | {'text': array(['ค.ศ. 1958'], dtype=object), 'answer_start': array([111], dtype=int32), 'answer_end': array([120], dtype=int32)} | ค.ศ. 1958 |
yyznzltogtru7jvg4amo_003 | yyznzltogtru7jvg4amo | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรือ ฮาร์เล็ม 1958 เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวน 57 คน ที่ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1958 บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก
ภาพหมู่นี้ถ่ายโดยอาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ของวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของปี 1958 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17 ถนนสายที่ 126 (อยู่ระหว่างฟิฟต์แอฟวะนิว และเมดิสันแอฟวะนิว) ในย่านฮาร์เล็มตะวันออก พิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1959 และกลายเป็นภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง
ในปี ค.ศ. 1994 เรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพถ่ายภาพนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดี a great day in harlem ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ประจำปี 1995
ภาพถ่ายนี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ปี 2004 ของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง the terminal (เดอะ เทอร์มินัล ด้วยรักและมิตรภาพ) นำแสดงโดยทอม แฮงค์ รับบทเป็น วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชาวยุโรปตะวันออกที่ตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี หลังจากพยายามเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อตามหาลายเซ็นของนักดนตรีคนสุดท้าย จากทั้ง 57 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย a great day in harlem เพื่อเป็นการสืบทอดความฝันของบิดาผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลา 40 ปีตามสะสมลายเซ็นของนักดนตรีทั้งหมด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มี เบนนี โกลสัน นักแซกโซโฟนชาวอเมริกัน หนึ่งในนักดนตรีในภาพถ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมแสดงรับเชิญด้วย | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม ถ่ายที่ไหน | {'text': array(['บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก'],
dtype=object), 'answer_start': array([121], dtype=int32), 'answer_end': array([181], dtype=int32)} | บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก |
yyznzltogtru7jvg4amo_004 | yyznzltogtru7jvg4amo | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม หรือ ฮาร์เล็ม 1958 เป็นชื่อของภาพถ่ายขาวดำของกลุ่มนักดนตรีแจ๊สจำนวน 57 คน ที่ถ่ายเมื่อปี ค.ศ. 1958 บริเวณริมถนน หน้าอาคารแห่งหนึ่งในย่านฮาร์เล็ม มหานครนิวยอร์ก
ภาพหมู่นี้ถ่ายโดยอาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ของวันหนึ่งกลางฤดูร้อนของปี 1958 บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 17 ถนนสายที่ 126 (อยู่ระหว่างฟิฟต์แอฟวะนิว และเมดิสันแอฟวะนิว) ในย่านฮาร์เล็มตะวันออก พิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1959 และกลายเป็นภาพถ่ายที่มีชื่อเสียง
ในปี ค.ศ. 1994 เรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพถ่ายภาพนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดี a great day in harlem ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ ประจำปี 1995
ภาพถ่ายนี้ถูกนำมาอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ปี 2004 ของสตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่อง the terminal (เดอะ เทอร์มินัล ด้วยรักและมิตรภาพ) นำแสดงโดยทอม แฮงค์ รับบทเป็น วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชาวยุโรปตะวันออกที่ตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี หลังจากพยายามเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อตามหาลายเซ็นของนักดนตรีคนสุดท้าย จากทั้ง 57 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย a great day in harlem เพื่อเป็นการสืบทอดความฝันของบิดาผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลา 40 ปีตามสะสมลายเซ็นของนักดนตรีทั้งหมด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มี เบนนี โกลสัน นักแซกโซโฟนชาวอเมริกัน หนึ่งในนักดนตรีในภาพถ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมแสดงรับเชิญด้วย | อะเกรตเดย์อินฮาร์เล็ม ถ่ายโดยใคร | {'text': array(['อาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์'], dtype=object), 'answer_start': array([200], dtype=int32), 'answer_end': array([240], dtype=int32)} | อาร์ต เคน ช่างภาพอิสระของนิตยสารเอสไควร์ |
z0viv4ist5dah8u1nzkc_000 | z0viv4ist5dah8u1nzkc | ซัมซุง กาแลคซีเอส | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อังกฤษ: samsung galaxy s) เป็นตระกูลของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง (flagship) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตโดยซัมซุง โดย s มาจากคำว่า super smart[1] โดยรุ่นทั้งหมดของซัมซุง กาแลคซีเอสนั้น ขายได้มากกว่า 177 ล้านหน่วย โดยซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นแรกขายได้ 25 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 2 ขายได้ 40 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ขายได้ 60 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 4 ขายได้ 40 ล้านหน่วยและซัมซุง กาแลคซีเอส 5 ขายได้ 12 ล้านหน่วยในสามเดือนแรก | ซัมซุง กาแลคซีเอส คืออะไร | {'text': array(['สมาร์ตโฟน'], dtype=object), 'answer_start': array([58], dtype=int32), 'answer_end': array([67], dtype=int32)} | สมาร์ตโฟน |
z0viv4ist5dah8u1nzkc_001 | z0viv4ist5dah8u1nzkc | ซัมซุง กาแลคซีเอส | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อังกฤษ: samsung galaxy s) เป็นตระกูลของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง (flagship) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตโดยซัมซุง โดย s มาจากคำว่า super smart[1] โดยรุ่นทั้งหมดของซัมซุง กาแลคซีเอสนั้น ขายได้มากกว่า 177 ล้านหน่วย โดยซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นแรกขายได้ 25 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 2 ขายได้ 40 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ขายได้ 60 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 4 ขายได้ 40 ล้านหน่วยและซัมซุง กาแลคซีเอส 5 ขายได้ 12 ล้านหน่วยในสามเดือนแรก | ซัมซุง กาแลคซีเอส ใช้ระบบปฎิบัติการอะไร | {'text': array(['แอนดรอยด์'], dtype=object), 'answer_start': array([110], dtype=int32), 'answer_end': array([119], dtype=int32)} | แอนดรอยด์ |
z0viv4ist5dah8u1nzkc_002 | z0viv4ist5dah8u1nzkc | ซัมซุง กาแลคซีเอส | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อังกฤษ: samsung galaxy s) เป็นตระกูลของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง (flagship) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตโดยซัมซุง โดย s มาจากคำว่า super smart[1] โดยรุ่นทั้งหมดของซัมซุง กาแลคซีเอสนั้น ขายได้มากกว่า 177 ล้านหน่วย โดยซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นแรกขายได้ 25 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 2 ขายได้ 40 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ขายได้ 60 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 4 ขายได้ 40 ล้านหน่วยและซัมซุง กาแลคซีเอส 5 ขายได้ 12 ล้านหน่วยในสามเดือนแรก | ซัมซุง กาแลคซีเอส ผลิตโดยใคร | {'text': array(['ซัมซุง'], dtype=object), 'answer_start': array([127], dtype=int32), 'answer_end': array([133], dtype=int32)} | ซัมซุง |
z0viv4ist5dah8u1nzkc_003 | z0viv4ist5dah8u1nzkc | ซัมซุง กาแลคซีเอส | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อังกฤษ: samsung galaxy s) เป็นตระกูลของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง (flagship) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตโดยซัมซุง โดย s มาจากคำว่า super smart[1] โดยรุ่นทั้งหมดของซัมซุง กาแลคซีเอสนั้น ขายได้มากกว่า 177 ล้านหน่วย โดยซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นแรกขายได้ 25 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 2 ขายได้ 40 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ขายได้ 60 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 4 ขายได้ 40 ล้านหน่วยและซัมซุง กาแลคซีเอส 5 ขายได้ 12 ล้านหน่วยในสามเดือนแรก | ซัมซุง กาแลคซีเอส ขายได้ทั้งหมดกี่เครื่อง | {'text': array(['177 ล้านหน่วย'], dtype=object), 'answer_start': array([219], dtype=int32), 'answer_end': array([232], dtype=int32)} | 177 ล้านหน่วย |
z0viv4ist5dah8u1nzkc_004 | z0viv4ist5dah8u1nzkc | ซัมซุง กาแลคซีเอส | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อังกฤษ: samsung galaxy s) เป็นตระกูลของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง (flagship) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตโดยซัมซุง โดย s มาจากคำว่า super smart[1] โดยรุ่นทั้งหมดของซัมซุง กาแลคซีเอสนั้น ขายได้มากกว่า 177 ล้านหน่วย โดยซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นแรกขายได้ 25 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 2 ขายได้ 40 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ขายได้ 60 ล้านหน่วย, ซัมซุง กาแลคซีเอส 4 ขายได้ 40 ล้านหน่วยและซัมซุง กาแลคซีเอส 5 ขายได้ 12 ล้านหน่วยในสามเดือนแรก | ซัมซุง กาแลคซีเอส รุ่นแรกขายได้ทั้งหมดเท่าไร | {'text': array([' 25 ล้านหน่วย'], dtype=object), 'answer_start': array([266], dtype=int32), 'answer_end': array([279], dtype=int32)} | 25 ล้านหน่วย |
z2uguxvt583xlyi0lec7_000 | z2uguxvt583xlyi0lec7 | อู๋ จวินหรู | อู๋ จวินหรู (จีน: 吳君如; พินอิน: wú jūnrú) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นนักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่ เธอจะเล่นประกบคู่กับโจวซิงฉือ โดยที่เธอติดอันดับ 1 นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการจัดอันดับของ ua cinema circuit[1]
ในยุค 80s เคยตกเป็นข่าวอือฉาว ว่าเป็นมือที่สาม จนทำให้ดาราสาว องเหม่ยหลิง ฆ่าตัวตาย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอให้กำเนิดลูกสาวคนแรกกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชานโดยมิได้สมรส[2]เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 | อู๋ จวินหรู เกิดวันที่เท่าไร | {'text': array(['2 สิงหาคม พ.ศ. 2508'], dtype=object), 'answer_start': array([57], dtype=int32), 'answer_end': array([76], dtype=int32)} | 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 |
z2uguxvt583xlyi0lec7_001 | z2uguxvt583xlyi0lec7 | อู๋ จวินหรู | อู๋ จวินหรู (จีน: 吳君如; พินอิน: wú jūnrú) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นนักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่ เธอจะเล่นประกบคู่กับโจวซิงฉือ โดยที่เธอติดอันดับ 1 นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการจัดอันดับของ ua cinema circuit[1]
ในยุค 80s เคยตกเป็นข่าวอือฉาว ว่าเป็นมือที่สาม จนทำให้ดาราสาว องเหม่ยหลิง ฆ่าตัวตาย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอให้กำเนิดลูกสาวคนแรกกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชานโดยมิได้สมรส[2]เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 | อู๋ จวินหรู มีอาชีพอะไร | {'text': array(['นักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง'], dtype=object), 'answer_start': array([81], dtype=int32), 'answer_end': array([111], dtype=int32)} | นักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง |
z2uguxvt583xlyi0lec7_002 | z2uguxvt583xlyi0lec7 | อู๋ จวินหรู | อู๋ จวินหรู (จีน: 吳君如; พินอิน: wú jūnrú) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นนักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่ เธอจะเล่นประกบคู่กับโจวซิงฉือ โดยที่เธอติดอันดับ 1 นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการจัดอันดับของ ua cinema circuit[1]
ในยุค 80s เคยตกเป็นข่าวอือฉาว ว่าเป็นมือที่สาม จนทำให้ดาราสาว องเหม่ยหลิง ฆ่าตัวตาย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอให้กำเนิดลูกสาวคนแรกกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชานโดยมิได้สมรส[2]เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 | อู๋ จวินหรู ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่เธอเล่นกับใคร | {'text': array(['โจวซิงฉือ'], dtype=object), 'answer_start': array([167], dtype=int32), 'answer_end': array([176], dtype=int32)} | โจวซิงฉือ |
z2uguxvt583xlyi0lec7_003 | z2uguxvt583xlyi0lec7 | อู๋ จวินหรู | อู๋ จวินหรู (จีน: 吳君如; พินอิน: wú jūnrú) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นนักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่ เธอจะเล่นประกบคู่กับโจวซิงฉือ โดยที่เธอติดอันดับ 1 นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการจัดอันดับของ ua cinema circuit[1]
ในยุค 80s เคยตกเป็นข่าวอือฉาว ว่าเป็นมือที่สาม จนทำให้ดาราสาว องเหม่ยหลิง ฆ่าตัวตาย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอให้กำเนิดลูกสาวคนแรกกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชานโดยมิได้สมรส[2]เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 | อู๋ จวินหรู เธอติดอันดับอะไร | {'text': array(['นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง'], dtype=object), 'answer_start': array([198], dtype=int32), 'answer_end': array([235], dtype=int32)} | นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง |
z2uguxvt583xlyi0lec7_004 | z2uguxvt583xlyi0lec7 | อู๋ จวินหรู | อู๋ จวินหรู (จีน: 吳君如; พินอิน: wú jūnrú) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นนักแสดงตลกหญิงแนวหน้าชาวฮ่องกง ผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยจำได้ส่วนใหญ่ เธอจะเล่นประกบคู่กับโจวซิงฉือ โดยที่เธอติดอันดับ 1 นักแสดงหญิงที่ทำเงินมากที่สุดในฮ่องกง 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการจัดอันดับของ ua cinema circuit[1]
ในยุค 80s เคยตกเป็นข่าวอือฉาว ว่าเป็นมือที่สาม จนทำให้ดาราสาว องเหม่ยหลิง ฆ่าตัวตาย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอให้กำเนิดลูกสาวคนแรกกับผู้กำกับ ปีเตอร์ ชานโดยมิได้สมรส[2]เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 | อู๋ จวินหรู ทำเงินไปเท่าไร | {'text': array(['714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง'], dtype=object), 'answer_start': array([236], dtype=int32), 'answer_end': array([264], dtype=int32)} | 714,854,977 ล้านเหรียญฮ่องกง |
z31xdihhkczot0city8c_000 | z31xdihhkczot0city8c | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 (อังกฤษ: 1990 fivb volleyball men's world championship) เป็นครั้งที่ 12 ของการแข่งขัน ถูกจัดขึ้นในประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก จัดครั้งที่เท่าไร | {'text': array(['ครั้งที่ 12'], dtype=object), 'answer_start': array([90], dtype=int32), 'answer_end': array([101], dtype=int32)} | ครั้งที่ 12 |
z31xdihhkczot0city8c_001 | z31xdihhkczot0city8c | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 (อังกฤษ: 1990 fivb volleyball men's world championship) เป็นครั้งที่ 12 ของการแข่งขัน ถูกจัดขึ้นในประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก ถูกจัดขึ้นในประเทศอะไร | {'text': array(['ประเทศบราซิล'], dtype=object), 'answer_start': array([128], dtype=int32), 'answer_end': array([140], dtype=int32)} | ประเทศบราซิล |
z31xdihhkczot0city8c_002 | z31xdihhkczot0city8c | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 (อังกฤษ: 1990 fivb volleyball men's world championship) เป็นครั้งที่ 12 ของการแข่งขัน ถูกจัดขึ้นในประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก เริ่มต้นวันที่เท่าไร | {'text': array(['18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990'], dtype=object), 'answer_start': array([155], dtype=int32), 'answer_end': array([177], dtype=int32)} | 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 |
z31xdihhkczot0city8c_003 | z31xdihhkczot0city8c | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 (อังกฤษ: 1990 fivb volleyball men's world championship) เป็นครั้งที่ 12 ของการแข่งขัน ถูกจัดขึ้นในประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก คิดเป็น พ.ศ อะไร | {'text': array(['พ.ศ. 2533'], dtype=object), 'answer_start': array([179], dtype=int32), 'answer_end': array([188], dtype=int32)} | พ.ศ. 2533 |
z31xdihhkczot0city8c_004 | z31xdihhkczot0city8c | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก 1990 (อังกฤษ: 1990 fivb volleyball men's world championship) เป็นครั้งที่ 12 ของการแข่งขัน ถูกจัดขึ้นในประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 18–28 ตุลาคม ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) | วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก จัดขึ้น ค.ศ อะไร | {'text': array(['1990'], dtype=object), 'answer_start': array([25], dtype=int32), 'answer_end': array([29], dtype=int32)} | 1990 |
z4if3ooq9iafskvnztrx_000 | z4if3ooq9iafskvnztrx | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน: 上海上港; พินอิน: shànghǎi shànggǎng; สะกดแบบแมนดาริน: แม่แบบ:ipac-cmn;) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน ปัจจุบันลงเล่นในไชนีสซูเปอร์ลีก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลจีน (cfa) สโมสรตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สนามเหย้าคือสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ ความจุ 56,842 ที่นั่ง เจ้าของสโมสรคือ กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (sipg) ซึ่งจะปรากฏในชื่อของสโมสร
สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ตงหยา (dongya, จีน: 东亚; พินอิน: dōngyà; literally: "east asia") โดยอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน xu genbao และใช้ผู้เล่นที่จบหลักสูตรเยาวชนจาก genbao มาไว้ในทีมชุดใหญ่ สโมสรเริ่มต้นกับลีกระดับที่สามในปี ค.ศ. 2006 และเลื่อนชั้นจนมาถึงลีกสูงสุด โดยได้อันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2015 และต่อมาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018
อ้างจาก forbes เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศจีน ซึ่งมากถึง 159 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ.2015[1] และอ้างจากรายงานประจำปีของบริษัท สโมสรฟุตบอลมีรายได้ 565.7 ล้านหยวนในปีงบประมาณ 2015 และมีทรัพย์สินถึง 286.8 ล้านหยวน | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศอะไร | {'text': array(['ประเทศจีน'], dtype=object), 'answer_start': array([128], dtype=int32), 'answer_end': array([137], dtype=int32)} | ประเทศจีน |
z4if3ooq9iafskvnztrx_001 | z4if3ooq9iafskvnztrx | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน: 上海上港; พินอิน: shànghǎi shànggǎng; สะกดแบบแมนดาริน: แม่แบบ:ipac-cmn;) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน ปัจจุบันลงเล่นในไชนีสซูเปอร์ลีก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลจีน (cfa) สโมสรตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สนามเหย้าคือสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ ความจุ 56,842 ที่นั่ง เจ้าของสโมสรคือ กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (sipg) ซึ่งจะปรากฏในชื่อของสโมสร
สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ตงหยา (dongya, จีน: 东亚; พินอิน: dōngyà; literally: "east asia") โดยอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน xu genbao และใช้ผู้เล่นที่จบหลักสูตรเยาวชนจาก genbao มาไว้ในทีมชุดใหญ่ สโมสรเริ่มต้นกับลีกระดับที่สามในปี ค.ศ. 2006 และเลื่อนชั้นจนมาถึงลีกสูงสุด โดยได้อันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2015 และต่อมาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018
อ้างจาก forbes เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศจีน ซึ่งมากถึง 159 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ.2015[1] และอ้างจากรายงานประจำปีของบริษัท สโมสรฟุตบอลมีรายได้ 565.7 ล้านหยวนในปีงบประมาณ 2015 และมีทรัพย์สินถึง 286.8 ล้านหยวน | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ปัจจุบันลงเล่นที่ไหน | {'text': array(['ไชนีสซูเปอร์ลีก'], dtype=object), 'answer_start': array([154], dtype=int32), 'answer_end': array([169], dtype=int32)} | ไชนีสซูเปอร์ลีก |
z4if3ooq9iafskvnztrx_002 | z4if3ooq9iafskvnztrx | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน: 上海上港; พินอิน: shànghǎi shànggǎng; สะกดแบบแมนดาริน: แม่แบบ:ipac-cmn;) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน ปัจจุบันลงเล่นในไชนีสซูเปอร์ลีก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลจีน (cfa) สโมสรตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สนามเหย้าคือสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ ความจุ 56,842 ที่นั่ง เจ้าของสโมสรคือ กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (sipg) ซึ่งจะปรากฏในชื่อของสโมสร
สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ตงหยา (dongya, จีน: 东亚; พินอิน: dōngyà; literally: "east asia") โดยอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน xu genbao และใช้ผู้เล่นที่จบหลักสูตรเยาวชนจาก genbao มาไว้ในทีมชุดใหญ่ สโมสรเริ่มต้นกับลีกระดับที่สามในปี ค.ศ. 2006 และเลื่อนชั้นจนมาถึงลีกสูงสุด โดยได้อันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2015 และต่อมาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018
อ้างจาก forbes เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศจีน ซึ่งมากถึง 159 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ.2015[1] และอ้างจากรายงานประจำปีของบริษัท สโมสรฟุตบอลมีรายได้ 565.7 ล้านหยวนในปีงบประมาณ 2015 และมีทรัพย์สินถึง 286.8 ล้านหยวน | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ตั้งอยู่ที่ไหน | {'text': array(['เซี่ยงไฮ้'], dtype=object), 'answer_start': array([231], dtype=int32), 'answer_end': array([240], dtype=int32)} | เซี่ยงไฮ้ |
z4if3ooq9iafskvnztrx_003 | z4if3ooq9iafskvnztrx | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน: 上海上港; พินอิน: shànghǎi shànggǎng; สะกดแบบแมนดาริน: แม่แบบ:ipac-cmn;) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน ปัจจุบันลงเล่นในไชนีสซูเปอร์ลีก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลจีน (cfa) สโมสรตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สนามเหย้าคือสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ ความจุ 56,842 ที่นั่ง เจ้าของสโมสรคือ กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (sipg) ซึ่งจะปรากฏในชื่อของสโมสร
สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ตงหยา (dongya, จีน: 东亚; พินอิน: dōngyà; literally: "east asia") โดยอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน xu genbao และใช้ผู้เล่นที่จบหลักสูตรเยาวชนจาก genbao มาไว้ในทีมชุดใหญ่ สโมสรเริ่มต้นกับลีกระดับที่สามในปี ค.ศ. 2006 และเลื่อนชั้นจนมาถึงลีกสูงสุด โดยได้อันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2015 และต่อมาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018
อ้างจาก forbes เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศจีน ซึ่งมากถึง 159 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ.2015[1] และอ้างจากรายงานประจำปีของบริษัท สโมสรฟุตบอลมีรายได้ 565.7 ล้านหยวนในปีงบประมาณ 2015 และมีทรัพย์สินถึง 286.8 ล้านหยวน | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี มีความจุเท่าไร | {'text': array(['56,842 ที่นั่ง'], dtype=object), 'answer_start': array([278], dtype=int32), 'answer_end': array([292], dtype=int32)} | 56,842 ที่นั่ง |
z4if3ooq9iafskvnztrx_004 | z4if3ooq9iafskvnztrx | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี | สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน: 上海上港; พินอิน: shànghǎi shànggǎng; สะกดแบบแมนดาริน: แม่แบบ:ipac-cmn;) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศจีน ปัจจุบันลงเล่นในไชนีสซูเปอร์ลีก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลจีน (cfa) สโมสรตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สนามเหย้าคือสนามกีฬาเซี่ยงไฮ้ ความจุ 56,842 ที่นั่ง เจ้าของสโมสรคือ กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (sipg) ซึ่งจะปรากฏในชื่อของสโมสร
สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเซี่ยงไฮ้ตงหยา (dongya, จีน: 东亚; พินอิน: dōngyà; literally: "east asia") โดยอดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน xu genbao และใช้ผู้เล่นที่จบหลักสูตรเยาวชนจาก genbao มาไว้ในทีมชุดใหญ่ สโมสรเริ่มต้นกับลีกระดับที่สามในปี ค.ศ. 2006 และเลื่อนชั้นจนมาถึงลีกสูงสุด โดยได้อันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2015 และต่อมาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018
อ้างจาก forbes เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศจีน ซึ่งมากถึง 159 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ถึง 37 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ.2015[1] และอ้างจากรายงานประจำปีของบริษัท สโมสรฟุตบอลมีรายได้ 565.7 ล้านหยวนในปีงบประมาณ 2015 และมีทรัพย์สินถึง 286.8 ล้านหยวน | เจ้าของสโมสรคือใคร | {'text': array(['กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้'], dtype=object), 'answer_start': array([309], dtype=int32), 'answer_end': array([343], dtype=int32)} | กลุ่มท่าเรือระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ |
z8rh69pxh5nynvsxqhup_000 | z8rh69pxh5nynvsxqhup | ประติภา ปาฏีล | ประติภา เทวีสิงห์ ปาฏีล (มราฐี: प्रतिभा देवीसिंह पाटिल ปฺรติภา เทวีสิงฺห ปาฏิล; อักษรโรมัน: pratibha devisingh patil; เกิด 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477) เป็นประธานาธิบดีอินเดียคนที่ 12 นับเป็นชาวมหาราษฎระคนแรกและเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แทน อับดุล กลาม (abdul kalam) มีอายุ 73 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ปาฏีลเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติของอินเดียจากรัฐมหาราษฏระ ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสหพันธมิตรก้าวหน้า (united progressive alliance) และพรรคอินเดียซ้าย (indian left) ที่กำลังเป็นรัฐบาลอยู่ ปาฏีลได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งสำคัญคือ ไภโรน สิงห์ เศขาวัต (bhairon singh shekhawat) มากกว่า 300,000 คะแนน
ปาฏีล จบการศึกษาด้านกฎหมาย ได้เป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งมุกตาอีนคร (muktainagar) ในเขตชัฬคาง์ว (jalgaon) รัฐมหาราษฎระในตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐมหาราษฎระ (พ.ศ. 2505–2528) และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานราชยสภา (พ.ศ. 2529–2531) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเมืองอมราวดี รัฐมหาราษฎระ เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถานคนที่ 24 และเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถาน (พ.ศ. 2547–2550) | ประติภา ปาฏีล เกิดวันที่เท่าไร | {'text': array(['19 ธันวาคม พ.ศ. 2477'], dtype=object), 'answer_start': array([123], dtype=int32), 'answer_end': array([143], dtype=int32)} | 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477 |
z8rh69pxh5nynvsxqhup_001 | z8rh69pxh5nynvsxqhup | ประติภา ปาฏีล | ประติภา เทวีสิงห์ ปาฏีล (มราฐี: प्रतिभा देवीसिंह पाटिल ปฺรติภา เทวีสิงฺห ปาฏิล; อักษรโรมัน: pratibha devisingh patil; เกิด 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477) เป็นประธานาธิบดีอินเดียคนที่ 12 นับเป็นชาวมหาราษฎระคนแรกและเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แทน อับดุล กลาม (abdul kalam) มีอายุ 73 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ปาฏีลเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติของอินเดียจากรัฐมหาราษฏระ ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสหพันธมิตรก้าวหน้า (united progressive alliance) และพรรคอินเดียซ้าย (indian left) ที่กำลังเป็นรัฐบาลอยู่ ปาฏีลได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งสำคัญคือ ไภโรน สิงห์ เศขาวัต (bhairon singh shekhawat) มากกว่า 300,000 คะแนน
ปาฏีล จบการศึกษาด้านกฎหมาย ได้เป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งมุกตาอีนคร (muktainagar) ในเขตชัฬคาง์ว (jalgaon) รัฐมหาราษฎระในตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐมหาราษฎระ (พ.ศ. 2505–2528) และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานราชยสภา (พ.ศ. 2529–2531) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเมืองอมราวดี รัฐมหาราษฎระ เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถานคนที่ 24 และเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถาน (พ.ศ. 2547–2550) | ประติภา ปาฏีล เป็นใคร | {'text': array(['ประธานาธิบดีอินเดีย'], dtype=object), 'answer_start': array([149], dtype=int32), 'answer_end': array([168], dtype=int32)} | ประธานาธิบดีอินเดีย |
z8rh69pxh5nynvsxqhup_002 | z8rh69pxh5nynvsxqhup | ประติภา ปาฏีล | ประติภา เทวีสิงห์ ปาฏีล (มราฐี: प्रतिभा देवीसिंह पाटिल ปฺรติภา เทวีสิงฺห ปาฏิล; อักษรโรมัน: pratibha devisingh patil; เกิด 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477) เป็นประธานาธิบดีอินเดียคนที่ 12 นับเป็นชาวมหาราษฎระคนแรกและเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แทน อับดุล กลาม (abdul kalam) มีอายุ 73 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ปาฏีลเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติของอินเดียจากรัฐมหาราษฏระ ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสหพันธมิตรก้าวหน้า (united progressive alliance) และพรรคอินเดียซ้าย (indian left) ที่กำลังเป็นรัฐบาลอยู่ ปาฏีลได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งสำคัญคือ ไภโรน สิงห์ เศขาวัต (bhairon singh shekhawat) มากกว่า 300,000 คะแนน
ปาฏีล จบการศึกษาด้านกฎหมาย ได้เป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งมุกตาอีนคร (muktainagar) ในเขตชัฬคาง์ว (jalgaon) รัฐมหาราษฎระในตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐมหาราษฎระ (พ.ศ. 2505–2528) และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานราชยสภา (พ.ศ. 2529–2531) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเมืองอมราวดี รัฐมหาราษฎระ เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถานคนที่ 24 และเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถาน (พ.ศ. 2547–2550) | ประติภา ปาฏีล เป็นประธานาธิบดีอินเดีย คนที่เท่าไร | {'text': array(['12'], dtype=object), 'answer_start': array([174], dtype=int32), 'answer_end': array([176], dtype=int32)} | 12 |
z8rh69pxh5nynvsxqhup_003 | z8rh69pxh5nynvsxqhup | ประติภา ปาฏีล | ประติภา เทวีสิงห์ ปาฏีล (มราฐี: प्रतिभा देवीसिंह पाटिल ปฺรติภา เทวีสิงฺห ปาฏิล; อักษรโรมัน: pratibha devisingh patil; เกิด 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477) เป็นประธานาธิบดีอินเดียคนที่ 12 นับเป็นชาวมหาราษฎระคนแรกและเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แทน อับดุล กลาม (abdul kalam) มีอายุ 73 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ปาฏีลเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติของอินเดียจากรัฐมหาราษฏระ ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสหพันธมิตรก้าวหน้า (united progressive alliance) และพรรคอินเดียซ้าย (indian left) ที่กำลังเป็นรัฐบาลอยู่ ปาฏีลได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งสำคัญคือ ไภโรน สิงห์ เศขาวัต (bhairon singh shekhawat) มากกว่า 300,000 คะแนน
ปาฏีล จบการศึกษาด้านกฎหมาย ได้เป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งมุกตาอีนคร (muktainagar) ในเขตชัฬคาง์ว (jalgaon) รัฐมหาราษฎระในตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐมหาราษฎระ (พ.ศ. 2505–2528) และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานราชยสภา (พ.ศ. 2529–2531) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเมืองอมราวดี รัฐมหาราษฎระ เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถานคนที่ 24 และเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถาน (พ.ศ. 2547–2550) | ประติภา ปาฏีล เป็นชนชาติใด | {'text': array(['มหาราษฎระ'], dtype=object), 'answer_start': array([187], dtype=int32), 'answer_end': array([196], dtype=int32)} | มหาราษฎระ |
z8rh69pxh5nynvsxqhup_004 | z8rh69pxh5nynvsxqhup | ประติภา ปาฏีล | ประติภา เทวีสิงห์ ปาฏีล (มราฐี: प्रतिभा देवीसिंह पाटिल ปฺรติภา เทวีสิงฺห ปาฏิล; อักษรโรมัน: pratibha devisingh patil; เกิด 19 ธันวาคม พ.ศ. 2477) เป็นประธานาธิบดีอินเดียคนที่ 12 นับเป็นชาวมหาราษฎระคนแรกและเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แทน อับดุล กลาม (abdul kalam) มีอายุ 73 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ปาฏีลเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติของอินเดียจากรัฐมหาราษฏระ ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสหพันธมิตรก้าวหน้า (united progressive alliance) และพรรคอินเดียซ้าย (indian left) ที่กำลังเป็นรัฐบาลอยู่ ปาฏีลได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งสำคัญคือ ไภโรน สิงห์ เศขาวัต (bhairon singh shekhawat) มากกว่า 300,000 คะแนน
ปาฏีล จบการศึกษาด้านกฎหมาย ได้เป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งมุกตาอีนคร (muktainagar) ในเขตชัฬคาง์ว (jalgaon) รัฐมหาราษฎระในตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐมหาราษฎระ (พ.ศ. 2505–2528) และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานราชยสภา (พ.ศ. 2529–2531) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเมืองอมราวดี รัฐมหาราษฎระ เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถานคนที่ 24 และเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้ว่าราชการรัฐราชสถาน (พ.ศ. 2547–2550) | ประธานาธิบดีอินเดีย ปัจจุบันอายุเท่าไร | {'text': array(['73'], dtype=object), 'answer_start': array([345], dtype=int32), 'answer_end': array([347], dtype=int32)} | 73 |
z9zx5r2ppb40bkukzpas_000 | z9zx5r2ppb40bkukzpas | กรานาโด เอสพาดา | กรานาโด เอสพาดา หรือ granado espada พัฒนาโดย imc games co.,ltd ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัท บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในเกมจะอิงศิลปะยุคบาโรก ที่เน้นความหรูหรา ตัวเกมได้รับรางวัล best graphics and game of the year ในปี 2006 จากประเทศเกาหลี
เปิด close beta เวอร์ชัน 1.8.11 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 17.00 น. เปิดเพียง 1 server คือ andromeda หลังจากนั้น วันที่ 16 ตุลาคม 2549 ได้เปิด server เพิ่มอีกชื่อว่า ara เพื่อรับผู้เล่นหน้าใหม่และแก้ปัญหาระบบ mission และการเก็บ level จนถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา 24.00 น. ได้ทำการปิดช่วง close beta เพื่อปรับปรุงรอทำการเปิดเป็น open beta อีกครั้ง
การเข้าเล่น granado espada นั้นในตอนแรกทาง asiasoft คิดว่าจะเก็บเป็น air time โดยค่าใช้จ่ายจะเหมือนกับ ragnarok คือ 30 วันราคา 349 บาท แต่ได้มาเปลี่ยนเป็น free to play ในช่วงก่อนเปิด open beta และทำการขาย item พิเศษภายในเกมแทน | กรานาโด เอสพาดา พัฒนาโดยใคร | {'text': array(['imc games co.,ltd'], dtype=object), 'answer_start': array([45], dtype=int32), 'answer_end': array([62], dtype=int32)} | imc games co.,ltd |
z9zx5r2ppb40bkukzpas_001 | z9zx5r2ppb40bkukzpas | กรานาโด เอสพาดา | กรานาโด เอสพาดา หรือ granado espada พัฒนาโดย imc games co.,ltd ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัท บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในเกมจะอิงศิลปะยุคบาโรก ที่เน้นความหรูหรา ตัวเกมได้รับรางวัล best graphics and game of the year ในปี 2006 จากประเทศเกาหลี
เปิด close beta เวอร์ชัน 1.8.11 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 17.00 น. เปิดเพียง 1 server คือ andromeda หลังจากนั้น วันที่ 16 ตุลาคม 2549 ได้เปิด server เพิ่มอีกชื่อว่า ara เพื่อรับผู้เล่นหน้าใหม่และแก้ปัญหาระบบ mission และการเก็บ level จนถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา 24.00 น. ได้ทำการปิดช่วง close beta เพื่อปรับปรุงรอทำการเปิดเป็น open beta อีกครั้ง
การเข้าเล่น granado espada นั้นในตอนแรกทาง asiasoft คิดว่าจะเก็บเป็น air time โดยค่าใช้จ่ายจะเหมือนกับ ragnarok คือ 30 วันราคา 349 บาท แต่ได้มาเปลี่ยนเป็น free to play ในช่วงก่อนเปิด open beta และทำการขาย item พิเศษภายในเกมแทน | กรานาโด เอสพาดา ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัทอะไร | {'text': array(['บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด'], dtype=object), 'answer_start': array([104], dtype=int32), 'answer_end': array([141], dtype=int32)} | บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด |
z9zx5r2ppb40bkukzpas_002 | z9zx5r2ppb40bkukzpas | กรานาโด เอสพาดา | กรานาโด เอสพาดา หรือ granado espada พัฒนาโดย imc games co.,ltd ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัท บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในเกมจะอิงศิลปะยุคบาโรก ที่เน้นความหรูหรา ตัวเกมได้รับรางวัล best graphics and game of the year ในปี 2006 จากประเทศเกาหลี
เปิด close beta เวอร์ชัน 1.8.11 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 17.00 น. เปิดเพียง 1 server คือ andromeda หลังจากนั้น วันที่ 16 ตุลาคม 2549 ได้เปิด server เพิ่มอีกชื่อว่า ara เพื่อรับผู้เล่นหน้าใหม่และแก้ปัญหาระบบ mission และการเก็บ level จนถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา 24.00 น. ได้ทำการปิดช่วง close beta เพื่อปรับปรุงรอทำการเปิดเป็น open beta อีกครั้ง
การเข้าเล่น granado espada นั้นในตอนแรกทาง asiasoft คิดว่าจะเก็บเป็น air time โดยค่าใช้จ่ายจะเหมือนกับ ragnarok คือ 30 วันราคา 349 บาท แต่ได้มาเปลี่ยนเป็น free to play ในช่วงก่อนเปิด open beta และทำการขาย item พิเศษภายในเกมแทน | กรานาโด เอสพาดา ภายในเกมจะอิงอะไร | {'text': array(['ศิลปะยุคบาโรก'], dtype=object), 'answer_start': array([163], dtype=int32), 'answer_end': array([176], dtype=int32)} | ศิลปะยุคบาโรก |
z9zx5r2ppb40bkukzpas_003 | z9zx5r2ppb40bkukzpas | กรานาโด เอสพาดา | กรานาโด เอสพาดา หรือ granado espada พัฒนาโดย imc games co.,ltd ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัท บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในเกมจะอิงศิลปะยุคบาโรก ที่เน้นความหรูหรา ตัวเกมได้รับรางวัล best graphics and game of the year ในปี 2006 จากประเทศเกาหลี
เปิด close beta เวอร์ชัน 1.8.11 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 17.00 น. เปิดเพียง 1 server คือ andromeda หลังจากนั้น วันที่ 16 ตุลาคม 2549 ได้เปิด server เพิ่มอีกชื่อว่า ara เพื่อรับผู้เล่นหน้าใหม่และแก้ปัญหาระบบ mission และการเก็บ level จนถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา 24.00 น. ได้ทำการปิดช่วง close beta เพื่อปรับปรุงรอทำการเปิดเป็น open beta อีกครั้ง
การเข้าเล่น granado espada นั้นในตอนแรกทาง asiasoft คิดว่าจะเก็บเป็น air time โดยค่าใช้จ่ายจะเหมือนกับ ragnarok คือ 30 วันราคา 349 บาท แต่ได้มาเปลี่ยนเป็น free to play ในช่วงก่อนเปิด open beta และทำการขาย item พิเศษภายในเกมแทน | กรานาโด เอสพาดา ตัวเกมได้รับรางวัลอะไร | {'text': array(['best graphics and game of the year'], dtype=object), 'answer_start': array([214], dtype=int32), 'answer_end': array([248], dtype=int32)} | best graphics and game of the year |
z9zx5r2ppb40bkukzpas_004 | z9zx5r2ppb40bkukzpas | กรานาโด เอสพาดา | กรานาโด เอสพาดา หรือ granado espada พัฒนาโดย imc games co.,ltd ถูกนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทยโดยบริษัท บริษัท เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ภายในเกมจะอิงศิลปะยุคบาโรก ที่เน้นความหรูหรา ตัวเกมได้รับรางวัล best graphics and game of the year ในปี 2006 จากประเทศเกาหลี
เปิด close beta เวอร์ชัน 1.8.11 ในวันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 17.00 น. เปิดเพียง 1 server คือ andromeda หลังจากนั้น วันที่ 16 ตุลาคม 2549 ได้เปิด server เพิ่มอีกชื่อว่า ara เพื่อรับผู้เล่นหน้าใหม่และแก้ปัญหาระบบ mission และการเก็บ level จนถึง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา 24.00 น. ได้ทำการปิดช่วง close beta เพื่อปรับปรุงรอทำการเปิดเป็น open beta อีกครั้ง
การเข้าเล่น granado espada นั้นในตอนแรกทาง asiasoft คิดว่าจะเก็บเป็น air time โดยค่าใช้จ่ายจะเหมือนกับ ragnarok คือ 30 วันราคา 349 บาท แต่ได้มาเปลี่ยนเป็น free to play ในช่วงก่อนเปิด open beta และทำการขาย item พิเศษภายในเกมแทน | กรานาโด เอสพาดา เปิดวันที่เท่าไร | {'text': array(['16 ตุลาคม 2549'], dtype=object), 'answer_start': array([397], dtype=int32), 'answer_end': array([411], dtype=int32)} | 16 ตุลาคม 2549 |
z9yugmpgvei9bjvrg5v5_000 | z9yugmpgvei9bjvrg5v5 | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย หรือ ไชยบูลย์ สุทธิผล เป็นพระภิกษุชาวไทย เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานมูลนิธิธรรมกาย และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร[1][2]
พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อจรรยงค์ สุทธิผล มารดาชื่อจุรี สุทธิผล[3]
ในวัยเด็กมักค้นคว้าหาความรู้ด้านธรรมะ และคำถามที่ติดอยู่ในใจเสมอคือ "เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายชีวิต" จึงได้แสวงหาคำตอบเรื่อยมา ขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยหลังจากได้ฟังการบรรยายธรรมจากวิทยากรท่านต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนตั้งชุมนุมยุวพุทธ
พ.ศ. 2506 เมื่อขณะศึกษาอยู่ชั้น ม. 8 (เทียบเท่า ม. 6 ปัจจุบัน) กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้อ่านพบหนังสือชื่อ "วิปัสสนาบันเทิงสาร" ลงเรื่องแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งได้ศึกษาวิชชาธรรมกายมาจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงได้ไปขอเรียนการปฏิบัติธรรมจากแม่ชีท่านนี้[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) เป็นพระอุปัชฌาย์[4] พระครูพิพัฒน์ธรรมคณี เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระวิเชียรกวี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมชโย" แปลว่า "ผู้ชนะโดยธรรม" | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโยเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดอะไร | {'text': array(['ดพระธรรมกาย'], dtype=object), 'answer_start': array([86], dtype=int32), 'answer_end': array([97], dtype=int32)} | ดพระธรรมกาย |
z9yugmpgvei9bjvrg5v5_001 | z9yugmpgvei9bjvrg5v5 | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย หรือ ไชยบูลย์ สุทธิผล เป็นพระภิกษุชาวไทย เคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานมูลนิธิธรรมกาย และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร[1][2]
พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อจรรยงค์ สุทธิผล มารดาชื่อจุรี สุทธิผล[3]
ในวัยเด็กมักค้นคว้าหาความรู้ด้านธรรมะ และคำถามที่ติดอยู่ในใจเสมอคือ "เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายชีวิต" จึงได้แสวงหาคำตอบเรื่อยมา ขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยหลังจากได้ฟังการบรรยายธรรมจากวิทยากรท่านต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนตั้งชุมนุมยุวพุทธ
พ.ศ. 2506 เมื่อขณะศึกษาอยู่ชั้น ม. 8 (เทียบเท่า ม. 6 ปัจจุบัน) กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้อ่านพบหนังสือชื่อ "วิปัสสนาบันเทิงสาร" ลงเรื่องแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งได้ศึกษาวิชชาธรรมกายมาจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงได้ไปขอเรียนการปฏิบัติธรรมจากแม่ชีท่านนี้[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) เป็นพระอุปัชฌาย์[4] พระครูพิพัฒน์ธรรมคณี เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระวิเชียรกวี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมชโย" แปลว่า "ผู้ชนะโดยธรรม" | พระไชยบูลย์ ธมฺมชโยจบการศึกษาปริญญาตรีจากที่ไหน | {'text': array(['มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์'], dtype=object), 'answer_start': array([995], dtype=int32), 'answer_end': array([1017], dtype=int32)} | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
zedogkjmthzzq0bh0syl_000 | zedogkjmthzzq0bh0syl | ครัวซ็อง | ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) ครัวซ็องเป็นขนมที่มีส่วนผสมของเนย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว ครัวซ็องและขนมอบประเภทนี้มีการนำแป้งมาม้วนเป็นชั้นๆก่อนเข้าตู้อบ ส่วนผสมในชั้นของแป้งที่มีส่วนผสมของเนยถูกม้วนและพับไปมาจนกลายเป็นรูปร่างของขนมครัวซ็องในลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ้อนกัน และมีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว ขนมรูปจันทร์เสี้ยวเกิดขึ้นในสมัยของช่วงยุคกลาง และเค้กต่างๆในรูปจันทร์เสี้ยวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้านี้
ครัวซ็องนั้นกลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่างๆของประเทศฝรั่งเศส ในปลายทศวรรษปีค.ศ.1970 มีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตอาหารแช่แข็ง โดยการนำส่วนผสมต่างๆของแป้งที่พร้อมอบ แปลงสภาพเป็นอาหารที่สามารถเตรียมได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการทำอาหาร ขนมครัวซ็องจากประเทศฝรั่งเศส เป็นขนมอีกอย่างที่สามารถตอบโจทย์ในรูปแบบอาหารจานด่วนของประเทศอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ในปัจจุบันนี้ครัวซ็องจำนวน 30-40% ที่ขายตามร้านขนมในประเทศฝรั่งเศสมาจากการแช่แข็งก่อนนำไปอบ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานอาหารเช้าจนถึงทุกวันนี้ | ครัวซ็อง เป็นขนมที่มีส่วนผสมอะไร | {'text': array(['เนย'], dtype=object), 'answer_start': array([83], dtype=int32), 'answer_end': array([86], dtype=int32)} | เนย |
zedogkjmthzzq0bh0syl_001 | zedogkjmthzzq0bh0syl | ครัวซ็อง | ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) ครัวซ็องเป็นขนมที่มีส่วนผสมของเนย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว ครัวซ็องและขนมอบประเภทนี้มีการนำแป้งมาม้วนเป็นชั้นๆก่อนเข้าตู้อบ ส่วนผสมในชั้นของแป้งที่มีส่วนผสมของเนยถูกม้วนและพับไปมาจนกลายเป็นรูปร่างของขนมครัวซ็องในลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ้อนกัน และมีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว ขนมรูปจันทร์เสี้ยวเกิดขึ้นในสมัยของช่วงยุคกลาง และเค้กต่างๆในรูปจันทร์เสี้ยวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้านี้
ครัวซ็องนั้นกลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่างๆของประเทศฝรั่งเศส ในปลายทศวรรษปีค.ศ.1970 มีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตอาหารแช่แข็ง โดยการนำส่วนผสมต่างๆของแป้งที่พร้อมอบ แปลงสภาพเป็นอาหารที่สามารถเตรียมได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการทำอาหาร ขนมครัวซ็องจากประเทศฝรั่งเศส เป็นขนมอีกอย่างที่สามารถตอบโจทย์ในรูปแบบอาหารจานด่วนของประเทศอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ในปัจจุบันนี้ครัวซ็องจำนวน 30-40% ที่ขายตามร้านขนมในประเทศฝรั่งเศสมาจากการแช่แข็งก่อนนำไปอบ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานอาหารเช้าจนถึงทุกวันนี้ | ครัวซ็อง เป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปอะไร | {'text': array(['รูปจันทร์เสี้ยว'], dtype=object), 'answer_start': array([117], dtype=int32), 'answer_end': array([132], dtype=int32)} | รูปจันทร์เสี้ยว |
zedogkjmthzzq0bh0syl_002 | zedogkjmthzzq0bh0syl | ครัวซ็อง | ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) ครัวซ็องเป็นขนมที่มีส่วนผสมของเนย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว ครัวซ็องและขนมอบประเภทนี้มีการนำแป้งมาม้วนเป็นชั้นๆก่อนเข้าตู้อบ ส่วนผสมในชั้นของแป้งที่มีส่วนผสมของเนยถูกม้วนและพับไปมาจนกลายเป็นรูปร่างของขนมครัวซ็องในลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ้อนกัน และมีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว ขนมรูปจันทร์เสี้ยวเกิดขึ้นในสมัยของช่วงยุคกลาง และเค้กต่างๆในรูปจันทร์เสี้ยวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้านี้
ครัวซ็องนั้นกลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่างๆของประเทศฝรั่งเศส ในปลายทศวรรษปีค.ศ.1970 มีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตอาหารแช่แข็ง โดยการนำส่วนผสมต่างๆของแป้งที่พร้อมอบ แปลงสภาพเป็นอาหารที่สามารถเตรียมได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการทำอาหาร ขนมครัวซ็องจากประเทศฝรั่งเศส เป็นขนมอีกอย่างที่สามารถตอบโจทย์ในรูปแบบอาหารจานด่วนของประเทศอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ในปัจจุบันนี้ครัวซ็องจำนวน 30-40% ที่ขายตามร้านขนมในประเทศฝรั่งเศสมาจากการแช่แข็งก่อนนำไปอบ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานอาหารเช้าจนถึงทุกวันนี้ | ครัวซ็อง กลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่างๆของประเทศอะไร | {'text': array(['ประเทศฝรั่งเศส'], dtype=object), 'answer_start': array([522], dtype=int32), 'answer_end': array([536], dtype=int32)} | ประเทศฝรั่งเศส |
zedogkjmthzzq0bh0syl_004 | zedogkjmthzzq0bh0syl | ครัวซ็อง | ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) ครัวซ็องเป็นขนมที่มีส่วนผสมของเนย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในขนมปังรูปจันทร์เสี้ยว ครัวซ็องและขนมอบประเภทนี้มีการนำแป้งมาม้วนเป็นชั้นๆก่อนเข้าตู้อบ ส่วนผสมในชั้นของแป้งที่มีส่วนผสมของเนยถูกม้วนและพับไปมาจนกลายเป็นรูปร่างของขนมครัวซ็องในลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ้อนกัน และมีลักษณะเป็นแผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว ขนมรูปจันทร์เสี้ยวเกิดขึ้นในสมัยของช่วงยุคกลาง และเค้กต่างๆในรูปจันทร์เสี้ยวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้านี้
ครัวซ็องนั้นกลายมาเป็นอาหารหลักตามร้านขนมต่างๆของประเทศฝรั่งเศส ในปลายทศวรรษปีค.ศ.1970 มีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตอาหารแช่แข็ง โดยการนำส่วนผสมต่างๆของแป้งที่พร้อมอบ แปลงสภาพเป็นอาหารที่สามารถเตรียมได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการทำอาหาร ขนมครัวซ็องจากประเทศฝรั่งเศส เป็นขนมอีกอย่างที่สามารถตอบโจทย์ในรูปแบบอาหารจานด่วนของประเทศอเมริกาอย่างเห็นได้ชัด ในปัจจุบันนี้ครัวซ็องจำนวน 30-40% ที่ขายตามร้านขนมในประเทศฝรั่งเศสมาจากการแช่แข็งก่อนนำไปอบ และยังได้รับความนิยมในการรับประทานอาหารเช้าจนถึงทุกวันนี้ | ครัวซ็อง มีลักษณะอย่างไร | {'text': array(['แผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว'], dtype=object), 'answer_start': array([327], dtype=int32), 'answer_end': array([364], dtype=int32)} | แผ่นเกล็ดเล็กๆหลังจากการเข้าตู้อบแล้ว |
zglcipzyrg1w7fuann9u_000 | zglcipzyrg1w7fuann9u | อเทวนิยม | อเทวนิยม (อังกฤษ: atheism) คือ ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า[1] และเชื่อในกฎธรรมชาติ ตรงกันข้ามกับเทวนิยม[2][3] อเทวนิยมแตกต่างจากอไญยนิยม (agnosticism) ซึ่งเป็นมุมมองที่ว่ามนุษย์ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ รวมถึงปรากฏการณ์ที่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสบการณ์ทางผัสสะ[2] | อเทวนิยมภาษาอังกฤษคืออะไร | {'text': array(['atheism'], dtype=object), 'answer_start': array([18], dtype=int32), 'answer_end': array([25], dtype=int32)} | atheism |
zglcipzyrg1w7fuann9u_001 | zglcipzyrg1w7fuann9u | อเทวนิยม | อเทวนิยม (อังกฤษ: atheism) คือ ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า[1] และเชื่อในกฎธรรมชาติ ตรงกันข้ามกับเทวนิยม[2][3] อเทวนิยมแตกต่างจากอไญยนิยม (agnosticism) ซึ่งเป็นมุมมองที่ว่ามนุษย์ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ รวมถึงปรากฏการณ์ที่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสบการณ์ทางผัสสะ[2] | อเทวนิยมคืออะไร | {'text': array(['ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า'], dtype=object), 'answer_start': array([31], dtype=int32), 'answer_end': array([64], dtype=int32)} | ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า |
zglcipzyrg1w7fuann9u_002 | zglcipzyrg1w7fuann9u | อเทวนิยม | อเทวนิยม (อังกฤษ: atheism) คือ ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า[1] และเชื่อในกฎธรรมชาติ ตรงกันข้ามกับเทวนิยม[2][3] อเทวนิยมแตกต่างจากอไญยนิยม (agnosticism) ซึ่งเป็นมุมมองที่ว่ามนุษย์ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ รวมถึงปรากฏการณ์ที่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสบการณ์ทางผัสสะ[2] | อเทวนิยมเชื่อในอะไร | {'text': array(['เชื่อในกฎธรรมชาติ'], dtype=object), 'answer_start': array([71], dtype=int32), 'answer_end': array([88], dtype=int32)} | เชื่อในกฎธรรมชาติ |
zglcipzyrg1w7fuann9u_003 | zglcipzyrg1w7fuann9u | อเทวนิยม | อเทวนิยม (อังกฤษ: atheism) คือ ทรรศนะที่ไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า[1] และเชื่อในกฎธรรมชาติ ตรงกันข้ามกับเทวนิยม[2][3] อเทวนิยมแตกต่างจากอไญยนิยม (agnosticism) ซึ่งเป็นมุมมองที่ว่ามนุษย์ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ รวมถึงปรากฏการณ์ที่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสบการณ์ทางผัสสะ[2] | อเทวนิยมตรงข้ามกับอะไร | {'text': array(['เทวนิยม'], dtype=object), 'answer_start': array([102], dtype=int32), 'answer_end': array([109], dtype=int32)} | เทวนิยม |
zheilrbyoeamlwgupxlj_000 | zheilrbyoeamlwgupxlj | เล็บเหล็กหวงเฟยหง | เล็บเหล็กหวงเฟยหง (อังกฤษ: last hero in china) เป็นภาพยนตร์กำลังภายในสัญชาติฮ่องกงในปี ค.ศ. 1993 เขียนบทและกำกับโดย หวังจิ่ง ออกแบบคิวบู๊โดย หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง ซึ่งออกจำหน่ายหลังจากที่มีภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหง 3 ภาคแรก นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,จาง เหมี่ยน. ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นับเข้ากับภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหงของฉีเคอะแต่อย่างใด | เล็บเหล็กหวงเฟยหง เป็นภาพยนตร์แนวอะไร | {'text': array(['กำลังภายใน'], dtype=object), 'answer_start': array([59], dtype=int32), 'answer_end': array([69], dtype=int32)} | กำลังภายใน |
zheilrbyoeamlwgupxlj_001 | zheilrbyoeamlwgupxlj | เล็บเหล็กหวงเฟยหง | เล็บเหล็กหวงเฟยหง (อังกฤษ: last hero in china) เป็นภาพยนตร์กำลังภายในสัญชาติฮ่องกงในปี ค.ศ. 1993 เขียนบทและกำกับโดย หวังจิ่ง ออกแบบคิวบู๊โดย หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง ซึ่งออกจำหน่ายหลังจากที่มีภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหง 3 ภาคแรก นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,จาง เหมี่ยน. ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นับเข้ากับภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหงของฉีเคอะแต่อย่างใด | เล็บเหล็กหวงเฟยหง เป็นภาพยนตร์สัญชาติอะไร | {'text': array(['สัญชาติฮ่องกง'], dtype=object), 'answer_start': array([69], dtype=int32), 'answer_end': array([82], dtype=int32)} | สัญชาติฮ่องกง |
zheilrbyoeamlwgupxlj_002 | zheilrbyoeamlwgupxlj | เล็บเหล็กหวงเฟยหง | เล็บเหล็กหวงเฟยหง (อังกฤษ: last hero in china) เป็นภาพยนตร์กำลังภายในสัญชาติฮ่องกงในปี ค.ศ. 1993 เขียนบทและกำกับโดย หวังจิ่ง ออกแบบคิวบู๊โดย หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง ซึ่งออกจำหน่ายหลังจากที่มีภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหง 3 ภาคแรก นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,จาง เหมี่ยน. ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นับเข้ากับภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหงของฉีเคอะแต่อย่างใด | เล็บเหล็กหวงเฟยหง เกิดขึ้นปีอะไร | {'text': array(['ค.ศ. 1993'], dtype=object), 'answer_start': array([87], dtype=int32), 'answer_end': array([96], dtype=int32)} | ค.ศ. 1993 |
zheilrbyoeamlwgupxlj_003 | zheilrbyoeamlwgupxlj | เล็บเหล็กหวงเฟยหง | เล็บเหล็กหวงเฟยหง (อังกฤษ: last hero in china) เป็นภาพยนตร์กำลังภายในสัญชาติฮ่องกงในปี ค.ศ. 1993 เขียนบทและกำกับโดย หวังจิ่ง ออกแบบคิวบู๊โดย หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง ซึ่งออกจำหน่ายหลังจากที่มีภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหง 3 ภาคแรก นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,จาง เหมี่ยน. ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นับเข้ากับภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหงของฉีเคอะแต่อย่างใด | เล็บเหล็กหวงเฟยหง เขียนบทและกำกับโดยใคร | {'text': array(['หวังจิ่ง'], dtype=object), 'answer_start': array([116], dtype=int32), 'answer_end': array([124], dtype=int32)} | หวังจิ่ง |
zheilrbyoeamlwgupxlj_004 | zheilrbyoeamlwgupxlj | เล็บเหล็กหวงเฟยหง | เล็บเหล็กหวงเฟยหง (อังกฤษ: last hero in china) เป็นภาพยนตร์กำลังภายในสัญชาติฮ่องกงในปี ค.ศ. 1993 เขียนบทและกำกับโดย หวังจิ่ง ออกแบบคิวบู๊โดย หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง ซึ่งออกจำหน่ายหลังจากที่มีภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหง 3 ภาคแรก นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย,จาง เหมี่ยน. ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่นับเข้ากับภาพยนตร์ชุด หวงเฟยหงของฉีเคอะแต่อย่างใด | เล็บเหล็กหวงเฟยหง ออกแบบคิวบู๊โดยใคร | {'text': array(['หยวน หวูปิง'], dtype=object), 'answer_start': array([141], dtype=int32), 'answer_end': array([152], dtype=int32)} | หยวน หวูปิง |
zipa3oxhywm9co55ogy1_000 | zipa3oxhywm9co55ogy1 | ยูโกสลาเวียในโอลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ณ เมืองแคลการี ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมการแข่งขันอะไร | {'text': array(['กีฬาโอลิม'], dtype=object), 'answer_start': array([27], dtype=int32), 'answer_end': array([36], dtype=int32)} | กีฬาโอลิม |
zipa3oxhywm9co55ogy1_001 | zipa3oxhywm9co55ogy1 | ยูโกสลาเวียในโอลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ณ เมืองแคลการี ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูไหน | {'text': array(['ฤดูหนาวครั้ง'], dtype=object), 'answer_start': array([39], dtype=int32), 'answer_end': array([51], dtype=int32)} | ฤดูหนาวครั้ง |
zipa3oxhywm9co55ogy1_002 | zipa3oxhywm9co55ogy1 | ยูโกสลาเวียในโอลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ณ เมืองแคลการี ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่เท่าไร | {'text': array(['15'], dtype=object), 'answer_start': array([55], dtype=int32), 'answer_end': array([57], dtype=int32)} | 15 |
zipa3oxhywm9co55ogy1_003 | zipa3oxhywm9co55ogy1 | ยูโกสลาเวียในโอลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ณ เมืองแคลการี ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปีอะไร | {'text': array(['ค.ศ. 1988'], dtype=object), 'answer_start': array([58], dtype=int32), 'answer_end': array([67], dtype=int32)} | ค.ศ. 1988 |
zipa3oxhywm9co55ogy1_004 | zipa3oxhywm9co55ogy1 | ยูโกสลาเวียในโอลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ยูโกสลาเวีย เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ณ เมืองแคลการี ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | ยูโกสลาเวีย แข่งขันที่เมืองอะไร | {'text': array(['เมืองแคลการี'], dtype=object), 'answer_start': array([82], dtype=int32), 'answer_end': array([94], dtype=int32)} | เมืองแคลการี |
zjo3m18cpmibvnjp6vib_000 | zjo3m18cpmibvnjp6vib | บิกแบง | บิกแบง (อังกฤษ: big bang, "การระเบิดครั้งใหญ่") เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้กล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ นักวิทยาศาสตร์และพระโรมันคาทอลิก เป็นผู้เสนอแนวคิดการกำเนิดของเอกภพ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ ทฤษฎีบิกแบง ในเบื้องแรกเขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า สมมติฐานเกี่ยวกับอะตอมแรกเริ่ม (hypothesis of the primeval atom) อเล็กซานเดอร์ ฟรีดแมน ทำการคำนวณแบบจำลองโดยมีกรอบการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิลค้นพบว่า ระยะห่างของดาราจักรมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเคลื่อนไปทางแดง การสังเกตการณ์นี้บ่งชี้ว่า ดาราจักรและกระจุกดาวอันห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ออกจากจุดสังเกต ซึ่งหมายความว่าเอกภพกำลังขยายตัว ยิ่งตำแหน่งดาราจักรไกลยิ่งขึ้น ความเร็วปรากฏก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากเอกภพในปัจจุบันกำลังขยายตัว แสดงว่าก่อนหน้านี้ เอกภพย่อมมีขนาดเล็กกว่า หนาแน่นกว่า และร้อนกว่าที่เป็นอยู่ แนวคิดนี้มีการพิจารณาอย่างละเอียดย้อนไปจนถึงระดับความหนาแน่นและอุณหภูมิที่จุดสูงสุด และผลสรุปที่ได้ก็สอดคล้องอย่างยิ่งกับผลจากการสังเกตการณ์ ทว่าการเพิ่มของอัตราเร่งมีข้อจำกัดในการตรวจสอบสภาวะพลังงานที่สูงขนาดนั้น หากไม่มีข้อมูลอื่นที่ช่วยยืนยันสภาวะเริ่มต้นชั่วขณะก่อนการระเบิด ลำพังทฤษฎีบิกแบงก็ยังไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะเริ่มต้นได้ มันเพียงอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเอกภพที่เกิดขึ้นหลังจากสภาวะเริ่มต้นเท่านั้น
คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักดาราศาสตร์ชื่อ เฟรด ฮอยล์ ตั้งใจดูหมิ่นและทำลายความน่าเชื่อถือของทฤษฎีที่เขาเห็นว่าไม่มีทางเป็นจริง ในการออกอากาศทางวิทยุครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในเวลาต่อมา ฮอยล์ได้ช่วยศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ในการก่อเกิดธาตุมวลหนักที่ได้จากธาตุซึ่งมีมวลน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลในปี ค.ศ. 1964 ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิกแบงได้ | บิกแบงคืออะไร | {'text': array(['แบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ'], dtype=object), 'answer_start': array([52], dtype=int32), 'answer_end': array([93], dtype=int32)} | แบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ |
zjo3m18cpmibvnjp6vib_001 | zjo3m18cpmibvnjp6vib | บิกแบง | บิกแบง (อังกฤษ: big bang, "การระเบิดครั้งใหญ่") เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้กล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ นักวิทยาศาสตร์และพระโรมันคาทอลิก เป็นผู้เสนอแนวคิดการกำเนิดของเอกภพ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ ทฤษฎีบิกแบง ในเบื้องแรกเขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า สมมติฐานเกี่ยวกับอะตอมแรกเริ่ม (hypothesis of the primeval atom) อเล็กซานเดอร์ ฟรีดแมน ทำการคำนวณแบบจำลองโดยมีกรอบการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิลค้นพบว่า ระยะห่างของดาราจักรมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเคลื่อนไปทางแดง การสังเกตการณ์นี้บ่งชี้ว่า ดาราจักรและกระจุกดาวอันห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ออกจากจุดสังเกต ซึ่งหมายความว่าเอกภพกำลังขยายตัว ยิ่งตำแหน่งดาราจักรไกลยิ่งขึ้น ความเร็วปรากฏก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากเอกภพในปัจจุบันกำลังขยายตัว แสดงว่าก่อนหน้านี้ เอกภพย่อมมีขนาดเล็กกว่า หนาแน่นกว่า และร้อนกว่าที่เป็นอยู่ แนวคิดนี้มีการพิจารณาอย่างละเอียดย้อนไปจนถึงระดับความหนาแน่นและอุณหภูมิที่จุดสูงสุด และผลสรุปที่ได้ก็สอดคล้องอย่างยิ่งกับผลจากการสังเกตการณ์ ทว่าการเพิ่มของอัตราเร่งมีข้อจำกัดในการตรวจสอบสภาวะพลังงานที่สูงขนาดนั้น หากไม่มีข้อมูลอื่นที่ช่วยยืนยันสภาวะเริ่มต้นชั่วขณะก่อนการระเบิด ลำพังทฤษฎีบิกแบงก็ยังไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะเริ่มต้นได้ มันเพียงอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเอกภพที่เกิดขึ้นหลังจากสภาวะเริ่มต้นเท่านั้น
คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักดาราศาสตร์ชื่อ เฟรด ฮอยล์ ตั้งใจดูหมิ่นและทำลายความน่าเชื่อถือของทฤษฎีที่เขาเห็นว่าไม่มีทางเป็นจริง ในการออกอากาศทางวิทยุครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในเวลาต่อมา ฮอยล์ได้ช่วยศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ในการก่อเกิดธาตุมวลหนักที่ได้จากธาตุซึ่งมีมวลน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลในปี ค.ศ. 1964 ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิกแบงได้ | ใครคือนักวิทยาศาสตร์ผู้เสนอแนวคิดของการกำเนิดเอกภพ | {'text': array(['ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์'], dtype=object), 'answer_start': array([382], dtype=int32), 'answer_end': array([397], dtype=int32)} | ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ |
zjo3m18cpmibvnjp6vib_002 | zjo3m18cpmibvnjp6vib | บิกแบง | บิกแบง (อังกฤษ: big bang, "การระเบิดครั้งใหญ่") เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้กล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ นักวิทยาศาสตร์และพระโรมันคาทอลิก เป็นผู้เสนอแนวคิดการกำเนิดของเอกภพ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ ทฤษฎีบิกแบง ในเบื้องแรกเขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า สมมติฐานเกี่ยวกับอะตอมแรกเริ่ม (hypothesis of the primeval atom) อเล็กซานเดอร์ ฟรีดแมน ทำการคำนวณแบบจำลองโดยมีกรอบการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิลค้นพบว่า ระยะห่างของดาราจักรมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเคลื่อนไปทางแดง การสังเกตการณ์นี้บ่งชี้ว่า ดาราจักรและกระจุกดาวอันห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ออกจากจุดสังเกต ซึ่งหมายความว่าเอกภพกำลังขยายตัว ยิ่งตำแหน่งดาราจักรไกลยิ่งขึ้น ความเร็วปรากฏก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากเอกภพในปัจจุบันกำลังขยายตัว แสดงว่าก่อนหน้านี้ เอกภพย่อมมีขนาดเล็กกว่า หนาแน่นกว่า และร้อนกว่าที่เป็นอยู่ แนวคิดนี้มีการพิจารณาอย่างละเอียดย้อนไปจนถึงระดับความหนาแน่นและอุณหภูมิที่จุดสูงสุด และผลสรุปที่ได้ก็สอดคล้องอย่างยิ่งกับผลจากการสังเกตการณ์ ทว่าการเพิ่มของอัตราเร่งมีข้อจำกัดในการตรวจสอบสภาวะพลังงานที่สูงขนาดนั้น หากไม่มีข้อมูลอื่นที่ช่วยยืนยันสภาวะเริ่มต้นชั่วขณะก่อนการระเบิด ลำพังทฤษฎีบิกแบงก็ยังไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะเริ่มต้นได้ มันเพียงอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเอกภพที่เกิดขึ้นหลังจากสภาวะเริ่มต้นเท่านั้น
คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักดาราศาสตร์ชื่อ เฟรด ฮอยล์ ตั้งใจดูหมิ่นและทำลายความน่าเชื่อถือของทฤษฎีที่เขาเห็นว่าไม่มีทางเป็นจริง ในการออกอากาศทางวิทยุครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในเวลาต่อมา ฮอยล์ได้ช่วยศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ในการก่อเกิดธาตุมวลหนักที่ได้จากธาตุซึ่งมีมวลน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลในปี ค.ศ. 1964 ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิกแบงได้ | แนวคิดของการกำเนิดเอกภพรู้จักกันในชื่อใด | {'text': array(['ทฤษฎีบิกแบง'], dtype=object), 'answer_start': array([491], dtype=int32), 'answer_end': array([502], dtype=int32)} | ทฤษฎีบิกแบง |
zjo3m18cpmibvnjp6vib_003 | zjo3m18cpmibvnjp6vib | บิกแบง | บิกแบง (อังกฤษ: big bang, "การระเบิดครั้งใหญ่") เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้กล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ นักวิทยาศาสตร์และพระโรมันคาทอลิก เป็นผู้เสนอแนวคิดการกำเนิดของเอกภพ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ ทฤษฎีบิกแบง ในเบื้องแรกเขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า สมมติฐานเกี่ยวกับอะตอมแรกเริ่ม (hypothesis of the primeval atom) อเล็กซานเดอร์ ฟรีดแมน ทำการคำนวณแบบจำลองโดยมีกรอบการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิลค้นพบว่า ระยะห่างของดาราจักรมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเคลื่อนไปทางแดง การสังเกตการณ์นี้บ่งชี้ว่า ดาราจักรและกระจุกดาวอันห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ออกจากจุดสังเกต ซึ่งหมายความว่าเอกภพกำลังขยายตัว ยิ่งตำแหน่งดาราจักรไกลยิ่งขึ้น ความเร็วปรากฏก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากเอกภพในปัจจุบันกำลังขยายตัว แสดงว่าก่อนหน้านี้ เอกภพย่อมมีขนาดเล็กกว่า หนาแน่นกว่า และร้อนกว่าที่เป็นอยู่ แนวคิดนี้มีการพิจารณาอย่างละเอียดย้อนไปจนถึงระดับความหนาแน่นและอุณหภูมิที่จุดสูงสุด และผลสรุปที่ได้ก็สอดคล้องอย่างยิ่งกับผลจากการสังเกตการณ์ ทว่าการเพิ่มของอัตราเร่งมีข้อจำกัดในการตรวจสอบสภาวะพลังงานที่สูงขนาดนั้น หากไม่มีข้อมูลอื่นที่ช่วยยืนยันสภาวะเริ่มต้นชั่วขณะก่อนการระเบิด ลำพังทฤษฎีบิกแบงก็ยังไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะเริ่มต้นได้ มันเพียงอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเอกภพที่เกิดขึ้นหลังจากสภาวะเริ่มต้นเท่านั้น
คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักดาราศาสตร์ชื่อ เฟรด ฮอยล์ ตั้งใจดูหมิ่นและทำลายความน่าเชื่อถือของทฤษฎีที่เขาเห็นว่าไม่มีทางเป็นจริง ในการออกอากาศทางวิทยุครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในเวลาต่อมา ฮอยล์ได้ช่วยศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ในการก่อเกิดธาตุมวลหนักที่ได้จากธาตุซึ่งมีมวลน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลในปี ค.ศ. 1964 ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิกแบงได้ | ใครคือผู้ค้นพบว่าเอกภพกำลังขยายตัว | {'text': array(['เอ็ดวิน ฮับเบิล'], dtype=object), 'answer_start': array([738], dtype=int32), 'answer_end': array([753], dtype=int32)} | เอ็ดวิน ฮับเบิล |
zjo3m18cpmibvnjp6vib_004 | zjo3m18cpmibvnjp6vib | บิกแบง | บิกแบง (อังกฤษ: big bang, "การระเบิดครั้งใหญ่") เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้กล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ฌอร์ฌ เลอแม็ทร์ นักวิทยาศาสตร์และพระโรมันคาทอลิก เป็นผู้เสนอแนวคิดการกำเนิดของเอกภพ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ ทฤษฎีบิกแบง ในเบื้องแรกเขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า สมมติฐานเกี่ยวกับอะตอมแรกเริ่ม (hypothesis of the primeval atom) อเล็กซานเดอร์ ฟรีดแมน ทำการคำนวณแบบจำลองโดยมีกรอบการพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิลค้นพบว่า ระยะห่างของดาราจักรมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับการเคลื่อนไปทางแดง การสังเกตการณ์นี้บ่งชี้ว่า ดาราจักรและกระจุกดาวอันห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ออกจากจุดสังเกต ซึ่งหมายความว่าเอกภพกำลังขยายตัว ยิ่งตำแหน่งดาราจักรไกลยิ่งขึ้น ความเร็วปรากฏก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากเอกภพในปัจจุบันกำลังขยายตัว แสดงว่าก่อนหน้านี้ เอกภพย่อมมีขนาดเล็กกว่า หนาแน่นกว่า และร้อนกว่าที่เป็นอยู่ แนวคิดนี้มีการพิจารณาอย่างละเอียดย้อนไปจนถึงระดับความหนาแน่นและอุณหภูมิที่จุดสูงสุด และผลสรุปที่ได้ก็สอดคล้องอย่างยิ่งกับผลจากการสังเกตการณ์ ทว่าการเพิ่มของอัตราเร่งมีข้อจำกัดในการตรวจสอบสภาวะพลังงานที่สูงขนาดนั้น หากไม่มีข้อมูลอื่นที่ช่วยยืนยันสภาวะเริ่มต้นชั่วขณะก่อนการระเบิด ลำพังทฤษฎีบิกแบงก็ยังไม่สามารถใช้อธิบายสภาวะเริ่มต้นได้ มันเพียงอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเอกภพที่เกิดขึ้นหลังจากสภาวะเริ่มต้นเท่านั้น
คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักดาราศาสตร์ชื่อ เฟรด ฮอยล์ ตั้งใจดูหมิ่นและทำลายความน่าเชื่อถือของทฤษฎีที่เขาเห็นว่าไม่มีทางเป็นจริง ในการออกอากาศทางวิทยุครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในเวลาต่อมา ฮอยล์ได้ช่วยศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ในการก่อเกิดธาตุมวลหนักที่ได้จากธาตุซึ่งมีมวลน้อยกว่า อย่างไรก็ดี การค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลในปี ค.ศ. 1964 ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิกแบงได้ | คำว่า "บิกแบง" ที่จริงเป็นคำล้อเลียนซึ่งเกิดขึ้นจากนักดาราศาสตร์คนใด | {'text': array(['เฟรด ฮอยล์'], dtype=object), 'answer_start': array([1616], dtype=int32), 'answer_end': array([1626], dtype=int32)} | เฟรด ฮอยล์ |
zkuxhgnonitpf9yxaq6d_000 | zkuxhgnonitpf9yxaq6d | ขั้นตอนวิธี | ขั้นตอนวิธี หรืออัลกอริทึม (อังกฤษ: algorithm) หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาที่สามารถเข้าใจได้ มีลำดับหรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาใดปัญหาหนึ่งอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและชัดเจน เมื่อนำเข้าอะไร แล้วจะต้องได้ผลลัพธ์เช่นไร ซึ่งแตกต่างจากการแก้ปัญหาแบบสามัญสำนึก หรือฮิวริสติก (heuristic) | ขั้นตอนวิธีเรียกอีกอย่างว่าอะไร | {'text': array(['อัลกอริทึม'], dtype=object), 'answer_start': array([16], dtype=int32), 'answer_end': array([26], dtype=int32)} | อัลกอริทึม |
zkuxhgnonitpf9yxaq6d_003 | zkuxhgnonitpf9yxaq6d | ขั้นตอนวิธี | ขั้นตอนวิธี หรืออัลกอริทึม (อังกฤษ: algorithm) หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาที่สามารถเข้าใจได้ มีลำดับหรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาใดปัญหาหนึ่งอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและชัดเจน เมื่อนำเข้าอะไร แล้วจะต้องได้ผลลัพธ์เช่นไร ซึ่งแตกต่างจากการแก้ปัญหาแบบสามัญสำนึก หรือฮิวริสติก (heuristic) | ฮิวริสติกคืออะไร | {'text': array(['การแก้ปัญหาแบบสามัญสำนึก'], dtype=object), 'answer_start': array([223], dtype=int32), 'answer_end': array([247], dtype=int32)} | การแก้ปัญหาแบบสามัญสำนึก |
zuduenpvvu3wehosnqbj_000 | zuduenpvvu3wehosnqbj | มิทาราชิ อังโกะ | มิทาราชิ อังโกะ (ญี่ปุ่น: ทับศัพท์: อังโกะ) เป็นตัวละครการ์ตูนจากเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ โดยชื่อของเธอแยกได้เป็นสองคำ คือ ขนมเค้ก, ถั่วแดง | มิทาราชิ อังโกะ เป็นตัวละครการ์ตูนจากเรื่องใด | {'text': array(['นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ'], dtype=object), 'answer_start': array([73], dtype=int32), 'answer_end': array([90], dtype=int32)} | นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ |
zvasbamd0arjpenlidsu_000 | zvasbamd0arjpenlidsu | ไทยรัฐ | ไทยรัฐ (อังกฤษ: thai rath) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย นำเสนอข่าวทั่วไป ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ปัจจุบันมี บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นเจ้าของ, ยิ่งลักษณ์ วัชรพล เป็นผู้อำนวยการ และสราวุธ วัชรพล เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ มีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ 1,000,000 ฉบับ ราคาจำหน่าย 10.00 บาท | ไทยรัฐคืออะไร | {'text': array(['หนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย'], dtype=object), 'answer_start': array([31], dtype=int32), 'answer_end': array([56], dtype=int32)} | หนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย |
zvasbamd0arjpenlidsu_001 | zvasbamd0arjpenlidsu | ไทยรัฐ | ไทยรัฐ (อังกฤษ: thai rath) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย นำเสนอข่าวทั่วไป ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ปัจจุบันมี บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นเจ้าของ, ยิ่งลักษณ์ วัชรพล เป็นผู้อำนวยการ และสราวุธ วัชรพล เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ มีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ 1,000,000 ฉบับ ราคาจำหน่าย 10.00 บาท | ไทยรัฐเสนอบทความเกี่ยวกับอะไร | {'text': array(['ข่าวทั่วไป'], dtype=object), 'answer_start': array([63], dtype=int32), 'answer_end': array([73], dtype=int32)} | ข่าวทั่วไป |
zvasbamd0arjpenlidsu_002 | zvasbamd0arjpenlidsu | ไทยรัฐ | ไทยรัฐ (อังกฤษ: thai rath) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย นำเสนอข่าวทั่วไป ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ปัจจุบันมี บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นเจ้าของ, ยิ่งลักษณ์ วัชรพล เป็นผู้อำนวยการ และสราวุธ วัชรพล เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ มีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ 1,000,000 ฉบับ ราคาจำหน่าย 10.00 บาท | ใครเป็นคนก่อตั้งไทยรัฐ | {'text': array(['กำพล วัชรพล ปัจจุบันมี '], dtype=object), 'answer_start': array([149], dtype=int32), 'answer_end': array([172], dtype=int32)} | กำพล วัชรพล ปัจจุบันมี |
zvasbamd0arjpenlidsu_003 | zvasbamd0arjpenlidsu | ไทยรัฐ | ไทยรัฐ (อังกฤษ: thai rath) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย นำเสนอข่าวทั่วไป ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ปัจจุบันมี บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นเจ้าของ, ยิ่งลักษณ์ วัชรพล เป็นผู้อำนวยการ และสราวุธ วัชรพล เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ มีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ 1,000,000 ฉบับ ราคาจำหน่าย 10.00 บาท | ราคาจำหน่ายของไทยรัฐในปัจจุบันคือเท่าไหร่ | {'text': array(['10.00 บาท'], dtype=object), 'answer_start': array([332], dtype=int32), 'answer_end': array([341], dtype=int32)} | 10.00 บาท |
zvasbamd0arjpenlidsu_004 | zvasbamd0arjpenlidsu | ไทยรัฐ | ไทยรัฐ (อังกฤษ: thai rath) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย นำเสนอข่าวทั่วไป ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ปัจจุบันมี บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นเจ้าของ, ยิ่งลักษณ์ วัชรพล เป็นผู้อำนวยการ และสราวุธ วัชรพล เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ มีจำนวนพิมพ์ปัจจุบันที่ 1,000,000 ฉบับ ราคาจำหน่าย 10.00 บาท | ใครเป็นผู้อำนวยการของไทยรัฐ | {'text': array(['ยิ่งลักษณ์ วัชรพล'], dtype=object), 'answer_start': array([205], dtype=int32), 'answer_end': array([222], dtype=int32)} | ยิ่งลักษณ์ วัชรพล |
zyzmkltm0zor9wlbyngz_000 | zyzmkltm0zor9wlbyngz | บอระเพ็ด | บอระเพ็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : tinospora crispa ( l.) miers ex hook.f. & thoms
วงศ์ : menisspermaceae
ชื่ออื่น : เครือเขาฮอ จุ่งจิง เจตมูลหนาม เจตมูลยาน เถาหัวด้วน หางหนู
ลีกษณะ : ไม้เถาเลื้อยพัน มีลักษณะคล้ายชิงช้ามาก ต่างกันที่เถามีขนาดใหญ่กว่า มีปุ่มปมมากกว่า มีรสขมกว่าและไม่มีปุ่มใกล้ฐานใบ
ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตำรายาไทยใช้เถาเป็นยาแก้ไข้ ขับเหงื่อ แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน โดยนำเถาสดขนาดยาว 2 คืบครึ่ง (30-40 กรัม) ต้มคั้นเอาน้ำดื่ม หรือต้มเคี่ยวกับน้ำ 3 ส่วนจนเหลือ 1 ส่วน ดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น หรือเมื่อมีไข้ นอกจากนี้ใช้เป็นยาขมเจริญอาหารด้วย ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมผลิตทิงเจอร์บอระเพ็ด เพื่อใช้แทน tincture gentian ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาธาตุที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ การทดลองในสัตว์พบว่าน้ำสกัดเถาสามารถลดไข้ได้ | บอระเพ็ดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าอย่างไร | {'text': array(['ชื่อวิทยาศาสตร์ : tinospora crispa ( l.) miers ex hook.f. & thoms'],
dtype=object), 'answer_start': array([10], dtype=int32), 'answer_end': array([77], dtype=int32)} | ชื่อวิทยาศาสตร์ : tinospora crispa ( l.) miers ex hook.f. & thoms |
zyzmkltm0zor9wlbyngz_001 | zyzmkltm0zor9wlbyngz | บอระเพ็ด | บอระเพ็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : tinospora crispa ( l.) miers ex hook.f. & thoms
วงศ์ : menisspermaceae
ชื่ออื่น : เครือเขาฮอ จุ่งจิง เจตมูลหนาม เจตมูลยาน เถาหัวด้วน หางหนู
ลีกษณะ : ไม้เถาเลื้อยพัน มีลักษณะคล้ายชิงช้ามาก ต่างกันที่เถามีขนาดใหญ่กว่า มีปุ่มปมมากกว่า มีรสขมกว่าและไม่มีปุ่มใกล้ฐานใบ
ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตำรายาไทยใช้เถาเป็นยาแก้ไข้ ขับเหงื่อ แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน โดยนำเถาสดขนาดยาว 2 คืบครึ่ง (30-40 กรัม) ต้มคั้นเอาน้ำดื่ม หรือต้มเคี่ยวกับน้ำ 3 ส่วนจนเหลือ 1 ส่วน ดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น หรือเมื่อมีไข้ นอกจากนี้ใช้เป็นยาขมเจริญอาหารด้วย ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมผลิตทิงเจอร์บอระเพ็ด เพื่อใช้แทน tincture gentian ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาธาตุที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ การทดลองในสัตว์พบว่าน้ำสกัดเถาสามารถลดไข้ได้ | บอระเพ็ดเป็นพืชจัดอยู่ในวงศ์ของพรรณไม้ชนิดใด | {'text': array(['วงศ์ : menisspermaceae'], dtype=object), 'answer_start': array([79], dtype=int32), 'answer_end': array([102], dtype=int32)} | วงศ์ : menisspermaceae |
zzfyqgcauuj5re8n4okn_000 | zzfyqgcauuj5re8n4okn | นิวต์ กิงริช | นิวตัน ลีรอย "นิวต์" กิงริช (อังกฤษ: newton leroy "newt" gingrich) มีชื่อเมื่อเกิดว่า นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน (อังกฤษ: newton leroy mcpherson, เกิด 17 มิถุนายน พ.ศ. 2486) เป็นนักการเมือง นักประพันธ์และที่ปรึกษาการเมืองชาวอเมริกัน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58 ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง 2542 เขาเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ 6 ของรัฐจอร์เจียพรรครีพับลิกัน นับแต่ พ.ศ. 2522 กระทั่งลาออกจากตำแหน่งใน พ.ศ. 2542 เขาเป็นผู้สมัครสำหรับการเสนอชื่อรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันใน พ.ศ. 2555 | นิวต์ กิงริช ชื่อเดิมว่าอะไร | {'text': array(['นิวตัน ลีรอย'], dtype=object), 'answer_start': array([0], dtype=int32), 'answer_end': array([12], dtype=int32)} | นิวตัน ลีรอย |
zzfyqgcauuj5re8n4okn_001 | zzfyqgcauuj5re8n4okn | นิวต์ กิงริช | นิวตัน ลีรอย "นิวต์" กิงริช (อังกฤษ: newton leroy "newt" gingrich) มีชื่อเมื่อเกิดว่า นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน (อังกฤษ: newton leroy mcpherson, เกิด 17 มิถุนายน พ.ศ. 2486) เป็นนักการเมือง นักประพันธ์และที่ปรึกษาการเมืองชาวอเมริกัน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58 ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง 2542 เขาเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ 6 ของรัฐจอร์เจียพรรครีพับลิกัน นับแต่ พ.ศ. 2522 กระทั่งลาออกจากตำแหน่งใน พ.ศ. 2542 เขาเป็นผู้สมัครสำหรับการเสนอชื่อรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันใน พ.ศ. 2555 | นิวต์ กิงริช มีชื่อเมื่อเกิดว่าอะไร | {'text': array(['นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน'], dtype=object), 'answer_start': array([86], dtype=int32), 'answer_end': array([111], dtype=int32)} | นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน |
zzfyqgcauuj5re8n4okn_002 | zzfyqgcauuj5re8n4okn | นิวต์ กิงริช | นิวตัน ลีรอย "นิวต์" กิงริช (อังกฤษ: newton leroy "newt" gingrich) มีชื่อเมื่อเกิดว่า นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน (อังกฤษ: newton leroy mcpherson, เกิด 17 มิถุนายน พ.ศ. 2486) เป็นนักการเมือง นักประพันธ์และที่ปรึกษาการเมืองชาวอเมริกัน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58 ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง 2542 เขาเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ 6 ของรัฐจอร์เจียพรรครีพับลิกัน นับแต่ พ.ศ. 2522 กระทั่งลาออกจากตำแหน่งใน พ.ศ. 2542 เขาเป็นผู้สมัครสำหรับการเสนอชื่อรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันใน พ.ศ. 2555 | นิวต์ กิงริช เกิดวันที่เท่าไร | {'text': array(['17 มิถุนายน พ.ศ. 2486'], dtype=object), 'answer_start': array([150], dtype=int32), 'answer_end': array([171], dtype=int32)} | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2486 |
zzfyqgcauuj5re8n4okn_004 | zzfyqgcauuj5re8n4okn | นิวต์ กิงริช | นิวตัน ลีรอย "นิวต์" กิงริช (อังกฤษ: newton leroy "newt" gingrich) มีชื่อเมื่อเกิดว่า นิวตัน ลีรอย แมคเฟียร์สัน (อังกฤษ: newton leroy mcpherson, เกิด 17 มิถุนายน พ.ศ. 2486) เป็นนักการเมือง นักประพันธ์และที่ปรึกษาการเมืองชาวอเมริกัน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58 ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง 2542 เขาเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ 6 ของรัฐจอร์เจียพรรครีพับลิกัน นับแต่ พ.ศ. 2522 กระทั่งลาออกจากตำแหน่งใน พ.ศ. 2542 เขาเป็นผู้สมัครสำหรับการเสนอชื่อรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันใน พ.ศ. 2555 | นิวต์ กิงริช ดำรงตำแหน่งอะไร | {'text': array(['ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58'], dtype=object), 'answer_start': array([246], dtype=int32), 'answer_end': array([286], dtype=int32)} | ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาคนที่ 58 |
zagi9nlu6wlrfx0y9usg_000 | zagi9nlu6wlrfx0y9usg | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 21 มิถุนายน ค.ศ. 2016 กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเยอรมนี, ยูเครน, โปแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรปเพียงทีมเดียวในกลุ่มนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศสามครั้ง (ใน ค.ศ. 1972 และ ค.ศ. 1980 ในฐานะเยอรมนีตะวันตก และใน ค.ศ. 1996 ในฐานะทีมชาติเยอรมนีหลังรวมประเทศ) | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นตั้งแต่วันที่เท่าไร | {'text': array(['12 ถึง 21 มิถุนายน'], dtype=object), 'answer_start': array([61], dtype=int32), 'answer_end': array([79], dtype=int32)} | 12 ถึง 21 มิถุนายน |
zagi9nlu6wlrfx0y9usg_001 | zagi9nlu6wlrfx0y9usg | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 21 มิถุนายน ค.ศ. 2016 กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเยอรมนี, ยูเครน, โปแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรปเพียงทีมเดียวในกลุ่มนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศสามครั้ง (ใน ค.ศ. 1972 และ ค.ศ. 1980 ในฐานะเยอรมนีตะวันตก และใน ค.ศ. 1996 ในฐานะทีมชาติเยอรมนีหลังรวมประเทศ) | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นในปีอะไร | {'text': array(['ค.ศ. 2016'], dtype=object), 'answer_start': array([80], dtype=int32), 'answer_end': array([89], dtype=int32)} | ค.ศ. 2016 |
zagi9nlu6wlrfx0y9usg_003 | zagi9nlu6wlrfx0y9usg | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 21 มิถุนายน ค.ศ. 2016 กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเยอรมนี, ยูเครน, โปแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรปเพียงทีมเดียวในกลุ่มนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศสามครั้ง (ใน ค.ศ. 1972 และ ค.ศ. 1980 ในฐานะเยอรมนีตะวันตก และใน ค.ศ. 1996 ในฐานะทีมชาติเยอรมนีหลังรวมประเทศ) | ในกลุ่มนี้ใครประสบความสำเร็จมากที่สุด | {'text': array([' เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรป'], dtype=object), 'answer_start': array([152], dtype=int32), 'answer_end': array([178], dtype=int32)} | เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรป |
zagi9nlu6wlrfx0y9usg_004 | zagi9nlu6wlrfx0y9usg | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 กลุ่มซี ลงเล่นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 21 มิถุนายน ค.ศ. 2016 กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยเยอรมนี, ยูเครน, โปแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เยอรมนีเป็นอดีตแชมป์ยุโรปเพียงทีมเดียวในกลุ่มนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศสามครั้ง (ใน ค.ศ. 1972 และ ค.ศ. 1980 ในฐานะเยอรมนีตะวันตก และใน ค.ศ. 1996 ในฐานะทีมชาติเยอรมนีหลังรวมประเทศ) | เยอรมนี ได้รับรางวัลยุโรปกี่ครั้ง | {'text': array(['สามครั้ง'], dtype=object), 'answer_start': array([221], dtype=int32), 'answer_end': array([229], dtype=int32)} | สามครั้ง |
zcdlkohwegrb9wlxrxq7_001 | zcdlkohwegrb9wlxrxq7 | โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) | ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) เป็นโรงเรียนที่หลวงบำรุงราชนิยม (สูญ สิงคาลวณิช) กับนายวิชัย อูนากูล ได้ปรึกษากันว่าน่าจะสร้างโรงเรียนขึ้นสักหลังหนึ่งในเนื้อที่ 8 ไร่ใกล้กับสถานเปลื้องทุกข์ เพื่อให้เป็นสถานศึกษา
เนื่องจากวันหนึ่งคุณหลวงบำรุงราชนิยม ท่านได้ไปเยี่ยมท่าน'เจ้าคุณพระไพโรจน์ภัทรธาดา (จำรัส นุตตานนท์) เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทารามผู้ที่นับถือ เห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างโรงเรียน จึงปรารภว่า "อยากได้ยินเสียง ค้อน ตะปู ที่เปลื้องทุกข์บ้าง" พระไพโรจน์ภัทรธาดาถามว่า "จะสร้างโรงเรียนใช่ไหม ไม้ก็มี ช่างก็มี"
หลังจากยื่นความจำนงต่อทางราชการโดยร่วมกันบริจาคทรัพย์ 210,000 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อก่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายแล้ว พระไพโรจน์ก็รับออกแบบแปลน และติดต่อช่างทองเชือน ไขรัศมี ให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยนายวิชัย อูนากูล เป็นตัว แทนซื้อของ ในขณะที่กำลังก่อสร้าง นายเสริม วินิจฉัยกุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ผ่านมาพบเห็นการก่อสร้าง เมื่อทราบว่าการก่อสร้างนั้นใช้เงินของหลวงบำรุงราชนิยมและลูกหลาน จึงได้ขอเงินจากราชการจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) มาช่วยเหลือและสร้างเป็นโรงอาหาร สำหรับการตั้งชื่อโรงเรียนนั้น พระไพโรจน์ภัทรธาดา ได้ตั้งชื่อว่า "จั่นวิทยา" แต่หลวงบำรุงราชนิยม ได้เรียนว่าน่าจะตั้งชื่อ "จั่นอนุสรณ์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณยายจั่น สืบสงวน ผู้เป็นย่าทวดของท่าน และเลี้ยงดูท่านมา | โรงเรียนบ้านสวน สร้างขึ้นครั้งแรกกี่ไร่ | {'text': array(['8 ไร่'], dtype=object), 'answer_start': array([175], dtype=int32), 'answer_end': array([180], dtype=int32)} | 8 ไร่ |
zcdlkohwegrb9wlxrxq7_002 | zcdlkohwegrb9wlxrxq7 | โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) | ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) เป็นโรงเรียนที่หลวงบำรุงราชนิยม (สูญ สิงคาลวณิช) กับนายวิชัย อูนากูล ได้ปรึกษากันว่าน่าจะสร้างโรงเรียนขึ้นสักหลังหนึ่งในเนื้อที่ 8 ไร่ใกล้กับสถานเปลื้องทุกข์ เพื่อให้เป็นสถานศึกษา
เนื่องจากวันหนึ่งคุณหลวงบำรุงราชนิยม ท่านได้ไปเยี่ยมท่าน'เจ้าคุณพระไพโรจน์ภัทรธาดา (จำรัส นุตตานนท์) เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทารามผู้ที่นับถือ เห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างโรงเรียน จึงปรารภว่า "อยากได้ยินเสียง ค้อน ตะปู ที่เปลื้องทุกข์บ้าง" พระไพโรจน์ภัทรธาดาถามว่า "จะสร้างโรงเรียนใช่ไหม ไม้ก็มี ช่างก็มี"
หลังจากยื่นความจำนงต่อทางราชการโดยร่วมกันบริจาคทรัพย์ 210,000 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อก่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายแล้ว พระไพโรจน์ก็รับออกแบบแปลน และติดต่อช่างทองเชือน ไขรัศมี ให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยนายวิชัย อูนากูล เป็นตัว แทนซื้อของ ในขณะที่กำลังก่อสร้าง นายเสริม วินิจฉัยกุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ผ่านมาพบเห็นการก่อสร้าง เมื่อทราบว่าการก่อสร้างนั้นใช้เงินของหลวงบำรุงราชนิยมและลูกหลาน จึงได้ขอเงินจากราชการจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) มาช่วยเหลือและสร้างเป็นโรงอาหาร สำหรับการตั้งชื่อโรงเรียนนั้น พระไพโรจน์ภัทรธาดา ได้ตั้งชื่อว่า "จั่นวิทยา" แต่หลวงบำรุงราชนิยม ได้เรียนว่าน่าจะตั้งชื่อ "จั่นอนุสรณ์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณยายจั่น สืบสงวน ผู้เป็นย่าทวดของท่าน และเลี้ยงดูท่านมา | โรงเรียนบ้านสวน ยื่นความจำนงต่อทางราชการโดยร่วมกันบริจาคทรัพย์เท่าไร | {'text': array(['210,000 บาท'], dtype=object), 'answer_start': array([580], dtype=int32), 'answer_end': array([591], dtype=int32)} | 210,000 บาท |
zcdlkohwegrb9wlxrxq7_003 | zcdlkohwegrb9wlxrxq7 | โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) | ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) เป็นโรงเรียนที่หลวงบำรุงราชนิยม (สูญ สิงคาลวณิช) กับนายวิชัย อูนากูล ได้ปรึกษากันว่าน่าจะสร้างโรงเรียนขึ้นสักหลังหนึ่งในเนื้อที่ 8 ไร่ใกล้กับสถานเปลื้องทุกข์ เพื่อให้เป็นสถานศึกษา
เนื่องจากวันหนึ่งคุณหลวงบำรุงราชนิยม ท่านได้ไปเยี่ยมท่าน'เจ้าคุณพระไพโรจน์ภัทรธาดา (จำรัส นุตตานนท์) เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทารามผู้ที่นับถือ เห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างโรงเรียน จึงปรารภว่า "อยากได้ยินเสียง ค้อน ตะปู ที่เปลื้องทุกข์บ้าง" พระไพโรจน์ภัทรธาดาถามว่า "จะสร้างโรงเรียนใช่ไหม ไม้ก็มี ช่างก็มี"
หลังจากยื่นความจำนงต่อทางราชการโดยร่วมกันบริจาคทรัพย์ 210,000 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อก่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายแล้ว พระไพโรจน์ก็รับออกแบบแปลน และติดต่อช่างทองเชือน ไขรัศมี ให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยนายวิชัย อูนากูล เป็นตัว แทนซื้อของ ในขณะที่กำลังก่อสร้าง นายเสริม วินิจฉัยกุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ผ่านมาพบเห็นการก่อสร้าง เมื่อทราบว่าการก่อสร้างนั้นใช้เงินของหลวงบำรุงราชนิยมและลูกหลาน จึงได้ขอเงินจากราชการจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) มาช่วยเหลือและสร้างเป็นโรงอาหาร สำหรับการตั้งชื่อโรงเรียนนั้น พระไพโรจน์ภัทรธาดา ได้ตั้งชื่อว่า "จั่นวิทยา" แต่หลวงบำรุงราชนิยม ได้เรียนว่าน่าจะตั้งชื่อ "จั่นอนุสรณ์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณยายจั่น สืบสงวน ผู้เป็นย่าทวดของท่าน และเลี้ยงดูท่านมา | โรงเรียนบ้านสวน ผู้รับเหมาโดยใคร | {'text': array(['ช่างทองเชือน ไขรัศมี'], dtype=object), 'answer_start': array([701], dtype=int32), 'answer_end': array([721], dtype=int32)} | ช่างทองเชือน ไขรัศมี |
zcdlkohwegrb9wlxrxq7_004 | zcdlkohwegrb9wlxrxq7 | โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) | ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) เป็นโรงเรียนที่หลวงบำรุงราชนิยม (สูญ สิงคาลวณิช) กับนายวิชัย อูนากูล ได้ปรึกษากันว่าน่าจะสร้างโรงเรียนขึ้นสักหลังหนึ่งในเนื้อที่ 8 ไร่ใกล้กับสถานเปลื้องทุกข์ เพื่อให้เป็นสถานศึกษา
เนื่องจากวันหนึ่งคุณหลวงบำรุงราชนิยม ท่านได้ไปเยี่ยมท่าน'เจ้าคุณพระไพโรจน์ภัทรธาดา (จำรัส นุตตานนท์) เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทารามผู้ที่นับถือ เห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างโรงเรียน จึงปรารภว่า "อยากได้ยินเสียง ค้อน ตะปู ที่เปลื้องทุกข์บ้าง" พระไพโรจน์ภัทรธาดาถามว่า "จะสร้างโรงเรียนใช่ไหม ไม้ก็มี ช่างก็มี"
หลังจากยื่นความจำนงต่อทางราชการโดยร่วมกันบริจาคทรัพย์ 210,000 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เพื่อก่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายแล้ว พระไพโรจน์ก็รับออกแบบแปลน และติดต่อช่างทองเชือน ไขรัศมี ให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยนายวิชัย อูนากูล เป็นตัว แทนซื้อของ ในขณะที่กำลังก่อสร้าง นายเสริม วินิจฉัยกุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ผ่านมาพบเห็นการก่อสร้าง เมื่อทราบว่าการก่อสร้างนั้นใช้เงินของหลวงบำรุงราชนิยมและลูกหลาน จึงได้ขอเงินจากราชการจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) มาช่วยเหลือและสร้างเป็นโรงอาหาร สำหรับการตั้งชื่อโรงเรียนนั้น พระไพโรจน์ภัทรธาดา ได้ตั้งชื่อว่า "จั่นวิทยา" แต่หลวงบำรุงราชนิยม ได้เรียนว่าน่าจะตั้งชื่อ "จั่นอนุสรณ์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณยายจั่น สืบสงวน ผู้เป็นย่าทวดของท่าน และเลี้ยงดูท่านมา | หลวงบำรุงราชนิยม ได้เรียนว่าน่าจะตั้งชื่อว่าอะไร | {'text': array(['จั่นอนุสรณ์'], dtype=object), 'answer_start': array([1184], dtype=int32), 'answer_end': array([1195], dtype=int32)} | จั่นอนุสรณ์ |
zcqwglruu1blyqeaw2ea_000 | zcqwglruu1blyqeaw2ea | ไดอาน่า แรนด์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand (ชื่อเล่น: ไดอาน่า เกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส
"ไดอาน่า แรนด์" (diana rand) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น โดยออกอัลบั้มเต็มเพียง 2 ชุดเท่านั้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงโดยผ่านงานถ่ายมิวสิควีดีโอ ของบริษัท อาร์เอส คือเพลง เลิกง้อ ของ จอนนี่ อันวา และเพลง ย่ำ (ตระเวณราตรี) ของ ลิฟท์-ออย
หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด และได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเมื่อปีพ.ศ. 2544 หลังจากที่ใช้เวลาในการทำงานเพลงถึง 1 ปี เพราะเธอมีปัญหาในการออกเสียง ภายหลังออกอัลบั้มชุดแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "สิ่งมีชีวิต" "ระยะเผาขน" และเพลง "แค่นี้พอใจไหม"
ในปีถัดไปคือปีพ.ศ. 2545 ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เหตุผลคือ งานเพลงชุดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มชุดแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "excited" โดยมีเพลงเปิดตัวคือเพลง "เอ็กไซเต็ด"และ "ผีหลอก" นอกจากนี้ยังเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น มาดูคนเขารักกัน, แกล้ง, ถ้าเธอหลบตา และเพลง วิท เอาท์ ยู ในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยเพลงเร็ว จึงเป็นที่รู้จักไม่มาก
ส่วนอัลบั้มพิเศษของทางอาร์เอสคืออัลบั้ม "rsc.acoustic for friends" เป็นอัลบั้มที่ศิลปินอาร์เอสนำเพลงเก่าเก่ามาร้องใหม่เป็น acoustic version ไดอาน่าได้ร้องเพลง "ไว้อาลัย" ซึ่งเป็นเพลงของศิลปินรุ่นพี่ โมเม นภัสสร บุรณศิริ
ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ "rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก" จัดขึ้นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นการรวมตัวของศิลปินอาร์เอสทั้งหมด อาทิ นาตาลี-แจ๊สกี้, ดีทูบี, อ้อน ลัคนา, บาซู, เจมส์ เรื่องศักดิ์ , จอนนี่ อันวา , หลุยส์ สก๊อต, เอิร์น จิรวรรณ, แนนซี นันทพร, ดัง พันกร ฯลฯ ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าได้เป็นแขกรับเชิณนั้น "d2b summer live in concert" จัดขึ้นที่ ห้องเพลนนารีฮอลล์ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand เกิดวันที่ ? | {'text': array(['4 กันยายน พ.ศ. 2528'], dtype=object), 'answer_start': array([50], dtype=int32), 'answer_end': array([69], dtype=int32)} | 4 กันยายน พ.ศ. 2528 |
zcqwglruu1blyqeaw2ea_001 | zcqwglruu1blyqeaw2ea | ไดอาน่า แรนด์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand (ชื่อเล่น: ไดอาน่า เกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส
"ไดอาน่า แรนด์" (diana rand) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น โดยออกอัลบั้มเต็มเพียง 2 ชุดเท่านั้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงโดยผ่านงานถ่ายมิวสิควีดีโอ ของบริษัท อาร์เอส คือเพลง เลิกง้อ ของ จอนนี่ อันวา และเพลง ย่ำ (ตระเวณราตรี) ของ ลิฟท์-ออย
หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด และได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเมื่อปีพ.ศ. 2544 หลังจากที่ใช้เวลาในการทำงานเพลงถึง 1 ปี เพราะเธอมีปัญหาในการออกเสียง ภายหลังออกอัลบั้มชุดแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "สิ่งมีชีวิต" "ระยะเผาขน" และเพลง "แค่นี้พอใจไหม"
ในปีถัดไปคือปีพ.ศ. 2545 ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เหตุผลคือ งานเพลงชุดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มชุดแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "excited" โดยมีเพลงเปิดตัวคือเพลง "เอ็กไซเต็ด"และ "ผีหลอก" นอกจากนี้ยังเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น มาดูคนเขารักกัน, แกล้ง, ถ้าเธอหลบตา และเพลง วิท เอาท์ ยู ในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยเพลงเร็ว จึงเป็นที่รู้จักไม่มาก
ส่วนอัลบั้มพิเศษของทางอาร์เอสคืออัลบั้ม "rsc.acoustic for friends" เป็นอัลบั้มที่ศิลปินอาร์เอสนำเพลงเก่าเก่ามาร้องใหม่เป็น acoustic version ไดอาน่าได้ร้องเพลง "ไว้อาลัย" ซึ่งเป็นเพลงของศิลปินรุ่นพี่ โมเม นภัสสร บุรณศิริ
ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ "rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก" จัดขึ้นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นการรวมตัวของศิลปินอาร์เอสทั้งหมด อาทิ นาตาลี-แจ๊สกี้, ดีทูบี, อ้อน ลัคนา, บาซู, เจมส์ เรื่องศักดิ์ , จอนนี่ อันวา , หลุยส์ สก๊อต, เอิร์น จิรวรรณ, แนนซี นันทพร, ดัง พันกร ฯลฯ ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าได้เป็นแขกรับเชิณนั้น "d2b summer live in concert" จัดขึ้นที่ ห้องเพลนนารีฮอลล์ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand เป็นลูกครึ่งอะไร ? | {'text': array(['ลูกครึ่งไทย อังกฤษ'], dtype=object), 'answer_start': array([75], dtype=int32), 'answer_end': array([93], dtype=int32)} | ลูกครึ่งไทย อังกฤษ |
zcqwglruu1blyqeaw2ea_002 | zcqwglruu1blyqeaw2ea | ไดอาน่า แรนด์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand (ชื่อเล่น: ไดอาน่า เกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส
"ไดอาน่า แรนด์" (diana rand) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น โดยออกอัลบั้มเต็มเพียง 2 ชุดเท่านั้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงโดยผ่านงานถ่ายมิวสิควีดีโอ ของบริษัท อาร์เอส คือเพลง เลิกง้อ ของ จอนนี่ อันวา และเพลง ย่ำ (ตระเวณราตรี) ของ ลิฟท์-ออย
หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด และได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเมื่อปีพ.ศ. 2544 หลังจากที่ใช้เวลาในการทำงานเพลงถึง 1 ปี เพราะเธอมีปัญหาในการออกเสียง ภายหลังออกอัลบั้มชุดแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "สิ่งมีชีวิต" "ระยะเผาขน" และเพลง "แค่นี้พอใจไหม"
ในปีถัดไปคือปีพ.ศ. 2545 ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เหตุผลคือ งานเพลงชุดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มชุดแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "excited" โดยมีเพลงเปิดตัวคือเพลง "เอ็กไซเต็ด"และ "ผีหลอก" นอกจากนี้ยังเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น มาดูคนเขารักกัน, แกล้ง, ถ้าเธอหลบตา และเพลง วิท เอาท์ ยู ในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยเพลงเร็ว จึงเป็นที่รู้จักไม่มาก
ส่วนอัลบั้มพิเศษของทางอาร์เอสคืออัลบั้ม "rsc.acoustic for friends" เป็นอัลบั้มที่ศิลปินอาร์เอสนำเพลงเก่าเก่ามาร้องใหม่เป็น acoustic version ไดอาน่าได้ร้องเพลง "ไว้อาลัย" ซึ่งเป็นเพลงของศิลปินรุ่นพี่ โมเม นภัสสร บุรณศิริ
ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ "rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก" จัดขึ้นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นการรวมตัวของศิลปินอาร์เอสทั้งหมด อาทิ นาตาลี-แจ๊สกี้, ดีทูบี, อ้อน ลัคนา, บาซู, เจมส์ เรื่องศักดิ์ , จอนนี่ อันวา , หลุยส์ สก๊อต, เอิร์น จิรวรรณ, แนนซี นันทพร, ดัง พันกร ฯลฯ ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าได้เป็นแขกรับเชิณนั้น "d2b summer live in concert" จัดขึ้นที่ ห้องเพลนนารีฮอลล์ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | ไดอาน่า แรนด์ คือใคร ? | {'text': array([' เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส'], dtype=object), 'answer_start': array([93], dtype=int32), 'answer_end': array([117], dtype=int32)} | เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส |
zcqwglruu1blyqeaw2ea_003 | zcqwglruu1blyqeaw2ea | ไดอาน่า แรนด์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand (ชื่อเล่น: ไดอาน่า เกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส
"ไดอาน่า แรนด์" (diana rand) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น โดยออกอัลบั้มเต็มเพียง 2 ชุดเท่านั้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงโดยผ่านงานถ่ายมิวสิควีดีโอ ของบริษัท อาร์เอส คือเพลง เลิกง้อ ของ จอนนี่ อันวา และเพลง ย่ำ (ตระเวณราตรี) ของ ลิฟท์-ออย
หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด และได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเมื่อปีพ.ศ. 2544 หลังจากที่ใช้เวลาในการทำงานเพลงถึง 1 ปี เพราะเธอมีปัญหาในการออกเสียง ภายหลังออกอัลบั้มชุดแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "สิ่งมีชีวิต" "ระยะเผาขน" และเพลง "แค่นี้พอใจไหม"
ในปีถัดไปคือปีพ.ศ. 2545 ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เหตุผลคือ งานเพลงชุดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มชุดแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "excited" โดยมีเพลงเปิดตัวคือเพลง "เอ็กไซเต็ด"และ "ผีหลอก" นอกจากนี้ยังเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น มาดูคนเขารักกัน, แกล้ง, ถ้าเธอหลบตา และเพลง วิท เอาท์ ยู ในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยเพลงเร็ว จึงเป็นที่รู้จักไม่มาก
ส่วนอัลบั้มพิเศษของทางอาร์เอสคืออัลบั้ม "rsc.acoustic for friends" เป็นอัลบั้มที่ศิลปินอาร์เอสนำเพลงเก่าเก่ามาร้องใหม่เป็น acoustic version ไดอาน่าได้ร้องเพลง "ไว้อาลัย" ซึ่งเป็นเพลงของศิลปินรุ่นพี่ โมเม นภัสสร บุรณศิริ
ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ "rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก" จัดขึ้นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นการรวมตัวของศิลปินอาร์เอสทั้งหมด อาทิ นาตาลี-แจ๊สกี้, ดีทูบี, อ้อน ลัคนา, บาซู, เจมส์ เรื่องศักดิ์ , จอนนี่ อันวา , หลุยส์ สก๊อต, เอิร์น จิรวรรณ, แนนซี นันทพร, ดัง พันกร ฯลฯ ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าได้เป็นแขกรับเชิณนั้น "d2b summer live in concert" จัดขึ้นที่ ห้องเพลนนารีฮอลล์ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | เพลงฮิตของไดอาน่า แรนด์คือเพลงอะไร ? | {'text': array(['สิ่งมีชีวิต'], dtype=object), 'answer_start': array([644], dtype=int32), 'answer_end': array([655], dtype=int32)} | สิ่งมีชีวิต |
zcqwglruu1blyqeaw2ea_004 | zcqwglruu1blyqeaw2ea | ไดอาน่า แรนด์ | ไดอาน่า แรนด์ diana rand (ชื่อเล่น: ไดอาน่า เกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528) เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส
"ไดอาน่า แรนด์" (diana rand) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เป็นศิลปินสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น โดยออกอัลบั้มเต็มเพียง 2 ชุดเท่านั้น เธอเข้าสู่วงการบันเทิงโดยผ่านงานถ่ายมิวสิควีดีโอ ของบริษัท อาร์เอส คือเพลง เลิกง้อ ของ จอนนี่ อันวา และเพลง ย่ำ (ตระเวณราตรี) ของ ลิฟท์-ออย
หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด และได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเมื่อปีพ.ศ. 2544 หลังจากที่ใช้เวลาในการทำงานเพลงถึง 1 ปี เพราะเธอมีปัญหาในการออกเสียง ภายหลังออกอัลบั้มชุดแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "สิ่งมีชีวิต" "ระยะเผาขน" และเพลง "แค่นี้พอใจไหม"
ในปีถัดไปคือปีพ.ศ. 2545 ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดสุดท้าย เหตุผลคือ งานเพลงชุดนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มชุดแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "excited" โดยมีเพลงเปิดตัวคือเพลง "เอ็กไซเต็ด"และ "ผีหลอก" นอกจากนี้ยังเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น มาดูคนเขารักกัน, แกล้ง, ถ้าเธอหลบตา และเพลง วิท เอาท์ ยู ในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยเพลงเร็ว จึงเป็นที่รู้จักไม่มาก
ส่วนอัลบั้มพิเศษของทางอาร์เอสคืออัลบั้ม "rsc.acoustic for friends" เป็นอัลบั้มที่ศิลปินอาร์เอสนำเพลงเก่าเก่ามาร้องใหม่เป็น acoustic version ไดอาน่าได้ร้องเพลง "ไว้อาลัย" ซึ่งเป็นเพลงของศิลปินรุ่นพี่ โมเม นภัสสร บุรณศิริ
ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ "rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก" จัดขึ้นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นการรวมตัวของศิลปินอาร์เอสทั้งหมด อาทิ นาตาลี-แจ๊สกี้, ดีทูบี, อ้อน ลัคนา, บาซู, เจมส์ เรื่องศักดิ์ , จอนนี่ อันวา , หลุยส์ สก๊อต, เอิร์น จิรวรรณ, แนนซี นันทพร, ดัง พันกร ฯลฯ ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าได้เป็นแขกรับเชิณนั้น "d2b summer live in concert" จัดขึ้นที่ ห้องเพลนนารีฮอลล์ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ไดอาน่าไปร่วมแสดงก็คือ ? | {'text': array(['rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก'], dtype=object), 'answer_start': array([1338], dtype=int32), 'answer_end': array([1382], dtype=int32)} | rs meeting concert star mission มันส์หลุดโลก |
zcms61solqiznuu9o67c_000 | zcms61solqiznuu9o67c | ปลาน้ำหมึก | ปลาน้ำหมึก (อังกฤษ: stream barilius) เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า opsarius pulchellus อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (cyprinidae) รูปร่างคล้ายปลาน้ำหมึกโคราช (o. koratensis) ซึ่งเป็นปลาในสกุลเดียวกัน ต่างกันที่น้ำหมึกมีลำตัวที่ป้อมสั้นกว่า ปลายปากป้าน มีสีสันที่สดใสกว่าและลายขีดข้างลำตัวใหญ่และชัดเจนกว่า เกล็ดมีขนาดใหญ่กว่า ครีบหลังมีแต้มสีแดงเห็นชัดเจน มีขนาดประมาณ 10 เซนติเมตร
พบอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่และลำธารในป่าและเชิงเขาที่น้ำสะอาดไหลแรงที่ภาคเหนือของประเทศไทย พบในแม่น้ำโขงด้วย แต่ไม่พบในแม่น้ำสาละวิน มีพฤติกรรมมักแย่งชิงตัวเมียกันในฤดูผสมพันธุ์ โดยปลาตัวผู้จะใช้หัวและลำตัวฟาดคู่ต่อสู้ บริเวณส่วนหัวจะมีตุ่มขึ้นในฤดูนี้
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม | ปลาน้ำหมึกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าอย่างไร | {'text': array(['ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า opsarius pulchellus'], dtype=object), 'answer_start': array([63], dtype=int32), 'answer_end': array([101], dtype=int32)} | ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า opsarius pulchellus |
zcms61solqiznuu9o67c_001 | zcms61solqiznuu9o67c | ปลาน้ำหมึก | ปลาน้ำหมึก (อังกฤษ: stream barilius) เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า opsarius pulchellus อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (cyprinidae) รูปร่างคล้ายปลาน้ำหมึกโคราช (o. koratensis) ซึ่งเป็นปลาในสกุลเดียวกัน ต่างกันที่น้ำหมึกมีลำตัวที่ป้อมสั้นกว่า ปลายปากป้าน มีสีสันที่สดใสกว่าและลายขีดข้างลำตัวใหญ่และชัดเจนกว่า เกล็ดมีขนาดใหญ่กว่า ครีบหลังมีแต้มสีแดงเห็นชัดเจน มีขนาดประมาณ 10 เซนติเมตร
พบอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่และลำธารในป่าและเชิงเขาที่น้ำสะอาดไหลแรงที่ภาคเหนือของประเทศไทย พบในแม่น้ำโขงด้วย แต่ไม่พบในแม่น้ำสาละวิน มีพฤติกรรมมักแย่งชิงตัวเมียกันในฤดูผสมพันธุ์ โดยปลาตัวผู้จะใช้หัวและลำตัวฟาดคู่ต่อสู้ บริเวณส่วนหัวจะมีตุ่มขึ้นในฤดูนี้
นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม | ปลาน้ำหมึกนั้นเป็นปลาที่จัดอยู่ในวงศ์ใด | {'text': array(['วงศ์ปลาตะเพียน (cyprinidae)'], dtype=object), 'answer_start': array([108], dtype=int32), 'answer_end': array([135], dtype=int32)} | วงศ์ปลาตะเพียน (cyprinidae) |