Book,Page,LineNumber,Text 37,0048,001,[๙๖] ส. เพราะอาศัยเวทนา จึงบัญญัติบุคคลขึ้น หรือ? 37,0048,002,ป. ถูกแล้ว 37,0048,003,ส. เพราะอาศัยเวทนาเป็นอัพยากฤต จึงบัญญัติบุคคลเป็นอัพยากฤตขึ้น หรือ? 37,0048,004,ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ 37,0048,005,ส. เพราะอาศัยเวทนาเป็นอัพยากฤต จึงบัญญัติบุคคลเป็นอัพยากฤตขึ้น หรือ? 37,0048,006,ป. ถูกแล้ว 37,0048,007,ส. เวทนาเป็นอัพยากฤต ไม่เที่ยง เป็นสังขตะ อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น มีความ 37,0048,008,สิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็น 37,0048,009,ธรรมดา มีความแปรไปเป็นธรรมดา หรือ? 37,0048,010,ป. ถูกแล้ว 37,0048,011,ส. ถึงบุคคลเป็นอัพยากฤต ก็ไม่เที่ยง เป็นสังขตะ อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น มี 37,0048,012,ความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับ 37,0048,013,ไปเป็นธรรมดา มีความแปรไปเป็นธรรมดา หรือ? 37,0048,014,ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ 37,0048,015,ส. เพราะอาศัยสัญญา ฯลฯ เพราะอาศัยสังขาร ฯลฯ เพราะอาศัยวิญญาณ 37,0048,016,จึงบัญญัติบุคคลขึ้น หรือ? 37,0048,017,ป. ถูกแล้ว 37,0048,018,ส. เพราะอาศัยวิญญาณเป็นกุศล จึงบัญญัติบุคคลเป็นกุศลขึ้นหรือ? 37,0048,019,ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ 37,0048,020,ส. เพราะอาศัยวิญญาณเป็นกุศล จึงบัญญัติบุคคลเป็นกุศลขึ้นหรือ? 37,0048,021,ป. ถูกแล้ว 37,0048,022,ส. วิญญาณเป็นกุศล มีผล มีวิบาก มีผลน่าปรารถนา มีผลน่าใคร่ มีผลน่าฟูใจ 37,0048,023,มีผลแสลง มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก หรือ? 37,0048,024,ป. ถูกแล้ว