Book,Page,LineNumber,Text 33,0009,001,นั่ง หรือนอน ย่อมระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดอยู่ทุกขณะ 33,0009,002,ความพร่องในปัจจัยนั้นๆ คือ จีวร บิณฑบาต ที่นอนที่นั่ง และ 33,0009,003,คิลานปัจจัย มิได้มีแก่เรา นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา บัดนี้ เราบรรลุ 33,0009,004,อมตบทอันสงบระงับ เป็นธรรมยอดเยี่ยม กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง 33,0009,005,แล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระ 33,0009,006,พุทธเจ้าอันใด ด้วยการบูชานั้น เราจึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง 33,0009,007,พุทธบูชา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว 33,0009,008,ตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ การที่ 33,0009,009,เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ 33,0009,010,วิชชา ๓ เราได้บรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จ 33,0009,011,แล้ว คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ 33,0009,012,เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราทำเสร็จแล้ว ดังนี้. 33,0009,013,ทราบว่า ท่านพระติณสูลกฉาทนิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. 33,0009,014,จบ ติณสูลกฉานิยเถราปทาน. 33,0009,015,มธุมังสทายกเถราปทานที่ ๔ 33,0009,016,ว่าด้วยผลแห่งการถวายเนื้อสุกรผสมน้ำผึ้ง 33,0009,017,[๔] เราเป็นคนฆ่าหมูอยู่ในนครพันธุมดี เราเลือกเอาเนื้อดีๆ มาเทลง 33,0009,018,แช่น้ำผึ้ง เราได้ไปสู่ที่ประชุมสงฆ์ ถือเอาบาตรมาใบหนึ่ง เอาเนื้อ 33,0009,019,ใส่บาตรนั้นให้เต็มแล้ว ได้ถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ ครั้งนั้น เราได้ 33,0009,020,ถวายแก่พระสังฆเถระ ด้วยคิดว่าเพราะเอาเนื้อใส่บาตรให้เต็มนี้ 33,0009,021,เราจักได้สุขอันไพบูลย์ เสวยสมบัติ ๒ อย่าง อันกุศลมูลตักเตือน 33,0009,022,เราแล้ว เมื่อถึงภพสุดท้ายจักเผากิเลสได้ เรายังจิตให้เลื่อมใสใน 33,0009,023,ทานนั้นแล้ว ได้ไปยังดาวดึงสพิภพ ณ ที่นั้น เรากิน ดื่ม ได้สุข 33,0009,024,อย่างไพบูลย์ ที่มณฑป หรือโคนไม้ เรานึกถึงบุรพกรรมเสมอ