Book,Page,LineNumber,Text 13,0048,001,ดูกรตปัสสี เราย่อมบัญญัติกรรม ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรมไว้ ๓ 13,0048,002,ประการ คือ กายกรรม ๑ วจีกรรม ๑ มโนกรรม ๑. 13,0048,003,พระโคดม ก็กายกรรมอย่างหนึ่ง วจีกรรมอย่างหนึ่ง มโนกรรมอย่างหนึ่งมิใช่หรือ? 13,0048,004,ดูกรตปัสสี กายกรรมอย่างหนึ่ง วจีกรรมอย่างหนึ่ง มโนกรรมอย่างหนึ่ง. 13,0048,005,ท่านพระโคดม ก็บรรดากรรมทั้ง ๓ ประการ ที่จำแนกออกแล้วเป็นส่วนละอย่างต่างกัน 13,0048,006,เหล่านี้ กรรมไหน คือ กายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรมที่พระองค์บัญญัติว่ามีโทษมากกว่า 13,0048,007,ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรม? 13,0048,008,ดูกรตปัสสี บรรดากรรมทั้ง ๓ ประการ ที่จำแนกออกแล้วเป็นส่วนละอย่างต่างกัน 13,0048,009,เหล่านี้ เราบัญญัติมโนกรรมว่ามีโทษมากกว่า ในการทำบาปกรรม ในการเป็นไปแห่งบาปกรรม 13,0048,010,เราจะบัญญัติกายกรรม วจีกรรมว่ามีโทษมากเหมือนมโนกรรมหามิได้. 13,0048,011,ท่านพระโคดม พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ? 13,0048,012,ดูกรตปัสสี เรากล่าวว่ามโนกรรม. 13,0048,013,ท่านพระโคดม พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ? 13,0048,014,ดูกรตปัสสี เรากล่าวว่ามโนกรรม. 13,0048,015,ท่านพระโคดม พระองค์ตรัสว่ามโนกรรมหรือ? 13,0048,016,ดูกรตปัสสี เรากล่าวว่ามโนกรรม. 13,0048,017,ทีฆตปัสสีนิครนถ์ให้พระผู้มีพระภาคทรงยืนยันในเรื่องที่ตรัสนี้ถึง ๓ ครั้ง ด้วยประการ 13,0048,018,ฉะนี้ แล้วลุกจากอาสนะเข้าไปหานิครนถ์นาฏบุตรถึงที่อยู่. 13,0048,019,[๖๕] ก็สมัยนั้น นิครนถ์นาฏบุตรนั่งอยู่พร้อมด้วยคิหิบริษัทเป็นอันมาก ผู้มีความเขลา 13,0048,020,มีอุบาลิคฤหบดีเป็นประมุข. ได้เห็นทีฆตปัสสีนิครนถ์มาแต่ไกล ได้กล่าวกะทีฆตปัสสีนิครนถ์ว่า 13,0048,021,ดูกรตปัสสี ดูเถอะ ท่านมาจากไหนแต่ยังวันเทียวหนอ? 13,0048,022,ทีฆตปัสสีตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ามาจากสำนักพระโคดมนี้เอง. 13,0048,023,นิ. ดูกรตปัสสี ก็ท่านได้เจรจาปราศรัยกับพระสมณโคดมเรื่องอะไรบ้างหรือ? 13,0048,024,ที. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้เจรจาปราศรัยกับพระสมณโคดมมาบ้าง. 13,0048,025,ดูกรตปัสสี ก็ท่านได้เจรจาปราศรัยกับพระสมณโคดมมาอย่างไร?