Book,Page,LineNumber,Text 11,0049,001,[๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น ท้าวเธอโปรดให้ประชุมอำมาตย์ราช บริพารโหราจารย์ 11,0049,002,และมหาอำมาตย์ นายกองช้าง นายกองม้าเป็นต้น จนคนรักษา ประตู และคนเลี้ยงชีพด้วย 11,0049,003,ปัญญา แล้วตรัสถามจักกวัตติวัตรอันประเสริฐ เขา เหล่านั้นอันท้าวเธอตรัสถามจักกวัตติวัตร 11,0049,004,อันประเสริฐแล้ว จึงกราบทูลแก้ถวาย ท้าวเธอ ท้าวเธอได้ฟังคำทูลแก้ของพวกเขาแล้ว จึงทรง 11,0049,005,จัดการรักษาป้องกัน และคุ้มครอง อันชอบธรรม แต่ไม่ได้พระราชทานทรัพย์ให้แก่คนที่ไม่มี 11,0049,006,ทรัพย์ เมื่อไม่พระราชทานทรัพย์ให้แก่คนที่ไม่มีทรัพย์ ความขัดสนจึงได้ถึงความแพร่หลาย 11,0049,007,เมื่อความขัดสนถึงความแพร่หลาย บุรุษคนหนึ่งจึงขโมยทรัพย์ของคนอื่น ไป เขาช่วยกันจับ 11,0049,008,บุรุษนั้นได้แล้ว แสดงแก่ท้าวเธอพร้อมด้วยกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บุรุษคนนี้ขโมย 11,0049,009,เอาทรัพย์ของคนอื่นไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อ เขาพากันกราบทูลอย่างนี้แล้ว ท้าวเธอจึงตรัส 11,0049,010,คำนี้กะบุรุษผู้นั้นว่า พ่อบุรุษ ได้ ยินว่า เธอขโมยเอาทรัพย์ของคนอื่นไปจริงหรือ ฯ 11,0049,011,บุ. จริง พระพุทธเจ้าข้า ฯ 11,0049,012,ร. เพราะเหตุไร ฯ 11,0049,013,บุ. เพราะข้าพระพุทธเจ้าไม่มีอะไรจะเลี้ยงชีพ ฯ 11,0049,014,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น ท้าวเธอจึงพระราชทานทรัพย์ให้แก่เขา แล้วรับสั่งว่า พ่อ 11,0049,015,บุรุษ เธอจงเลี้ยงชีพ จงเลี้ยงมารดาบิดา จงเลี้ยงบุตรภรรยา จงประกอบการงานทั้งหลาย จงตั้ง 11,0049,016,ทักษิณาที่มีผลในเบื้องบน อันเกื้อกูลแก่สวรรค์ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ ในสมณพราหมณ์ 11,0049,017,ทั้งหลายด้วยทรัพย์นี้เถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เขาได้สนองพระราชดำรัสของท้าวเธอแล้ว ฯ 11,0049,018,ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้บุรุษอีกคนหนึ่งก็ได้ขโมยทรัพย์ของคนอื่นไป เขาช่วยกันจับ 11,0049,019,บุรุษนั้นได้แล้วจึงแสดงแก่ท้าวเธอพร้อมด้วยกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บุรุษผู้นี้ขโมยเอา 11,0049,020,ทรัพย์ของคนอื่นไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเขาพากันกราบทูล อย่างนี้แล้ว ท้าวเธอจึงตรัส 11,0049,021,คำนี้กะบุรุษผู้นั้นว่า พ่อบุรุษ ได้ยินว่า เธอขโมย เอาทรัพย์ของคนอื่นไป จริงหรือ ฯ 11,0049,022,บุ. จริงพระพุทธเจ้าข้า ฯ 11,0049,023,ร. เพราะเหตุไร ฯ 11,0049,024,บุ. เพราะข้าพระพุทธเจ้าไม่มีอะไรจะเลี้ยงชีพ ฯ