Book,Page,LineNumber,Text 03,0019,001,จึงมหาอำมาตย์เหล่านั้นพูดว่า แม่เจ้าพูดจริงแท้ แล้วได้ตัดสินโรงเก็บของนั้นให้แก่ 03,0019,002,ภิกษุณีสงฆ์. 03,0019,003,ครั้นบุรุษนั้นแพ้คดีแล้ว จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ภิกษุณีโล้นเหล่านี้ไม่เป็น 03,0019,004,สมณะ เป็นหญิงฉ้อโกง ไฉนจึงได้ให้ผู้พิพากษาริบโรงเก็บของของเราเสียเล่า. 03,0019,005,ภิกษุณีถุลลนันทาได้แจ้งความเรื่องนั้นแก่มหาอำมาตย์. มหาอำมาตย์ได้ให้ปรับไหมบุรุษนั้น. 03,0019,006,ครั้นบุรุษนั้นถูกปรับไหมแล้ว ได้ให้สร้างที่พักอาชีวกไว้ใกล้ๆ สำนักภิกษุณี แล้วส่งพวก 03,0019,007,อาชีวกไปอยู่ด้วยสั่งว่า จงช่วยกันกล่าวล่วงเกินภิกษุณีพวกนั้น. 03,0019,008,ภิกษุณีถุลลนันทาได้แจ้งความนั้นแก่มหาอำมาตย์. มหาอำมาตย์ได้ให้จองจำเขาแล้ว. พวก 03,0019,009,ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ครั้งแรกพวกภิกษุณีได้ให้เจ้าหน้าที่ริบโรงเก็บของ 03,0019,010,ครั้งที่สองให้ปรับไหม ครั้งที่สามให้จองจำ คราวนี้เห็นทีจะให้ประหารชีวิต. พวกภิกษุณีได้ยิน 03,0019,011,ชาวบ้านพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่. บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน 03,0019,012,โพนทะนาว่าไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงได้ชอบเป็นคนกล่าวหาเรื่องเล่า แล้วแจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุ 03,0019,013,ทั้งหลายๆ ได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. 03,0019,014,ทรงสอบถาม 03,0019,015,พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทา 03,0019,016,ชอบกล่าวหาเรื่อง จริงหรือ? 03,0019,017,ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า. 03,0019,018,ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท 03,0019,019,พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณีถุลลนันทา จึงได้ชอบ 03,0019,020,กล่าวหาเรื่องเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ... 03,0019,021,ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลาย จงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้: 03,0019,022,พระบัญญัติ 03,0019,023,๙.๑. อนึ่ง ภิกษุณีใด ชอบกล่าวหาเรื่องกับคหบดีก็ดี บุตรคหบดีก็ดี ทาสก็ดี กรรมกร 03,0019,024,ก็ดี โดยที่สุด แม้สมณะปริพาชก ภิกษุณีนี้ต้องธรรมคือสังฆาทิเสส ชื่อนิสสารณียะ มีอันให้ 03,0019,025,ต้องอาบัติขณะแรกทำ. 03,0019,026,เรื่องอุบาสกกับภิกษุณีถุลลนันทา จบ.