Book,Page,LineNumber,Text 03,0018,001,สัตตรสกัณฑ์ 03,0018,002,แม่เจ้าทั้งหลาย ก็ธรรมคือสังฆาทิเสส ๑๗ สิกขาบทนี้แล มาสู่อุเทศ. 03,0018,003,สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑ 03,0018,004,เรื่องอุบาสกกับภิกษุณีถุลลนันทา 03,0018,005,[๓๑] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ 03,0018,006,บิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น อุบาสกคนหนึ่งถวายโรงเก็บของแก่ภิกษุณีสงฆ์แล้ว 03,0018,007,ถึงอนิจกรรม. เขามีบุตรอยู่ ๒ คน คนหนึ่งเป็นคนไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส อีกคนหนึ่งเป็นคนมี 03,0018,008,ศรัทธา เลื่อมใส. บุตรทั้งสองนั้นแบ่งสมบัติของบิดาแล้ว ต่อมาบุตรคนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส 03,0018,009,จึงได้พูดกับบุตรคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสว่า โรงเก็บของของเรายังมีอยู่ เรามาแบ่งกันเถิด. เมื่อเขาพูด 03,0018,010,อย่างนั้นแล้ว บุตรคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสพูดห้ามว่า เจ้าอย่าได้พูดอย่างนี้ โรงเก็บของนั้น บิดาของ 03,0018,011,เราได้ถวายภิกษุณีสงฆ์แล้ว. 03,0018,012,แม้ครั้งที่สอง บุตรคนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส ก็พูดว่า โรงเก็บของของเรา เราจะแบ่งกัน. 03,0018,013,ครั้งนั้นแล บุตรคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสก็พูดห้ามว่า เจ้าอย่าได้พูดอย่างนี้ โรงเก็บของนั้น บิดาของเรา 03,0018,014,ได้ถวายแก่ภิกษุณีสงฆ์แล้ว. 03,0018,015,แม้ครั้งที่สาม บุตรคนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส ก็พูดว่า โรงเก็บของของเรา เราจะแบ่งกัน. 03,0018,016,ครั้งนั้นแล บุตรคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสจึงคิดว่า ถ้าโรงเก็บของนั้นจักเป็นของเรา เราก็จักถวายแก่ 03,0018,017,ภิกษุณีสงฆ์ แล้วกล่าวว่า เราจงแบ่งกันเถิด. บังเอิญโรงเก็บของที่เขาทั้งสองแบ่งกันนั้น ได้ตกแก่ 03,0018,018,บุตรคนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส. 03,0018,019,ครั้งนั้นแล จึงบุตรคนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส ได้เข้าไปหาภิกษุณีทั้งหลาย แล้วบอกว่า 03,0018,020,เชิญแม่เจ้าทั้งหลายออกไปเถิด เจ้าข้า เพราะโรงเก็บของเป็นของข้าพเจ้า. 03,0018,021,เมื่อเขาบอกอย่างนั้นแล้ว ภิกษุณีถุลลนันทาได้พูดว่า นายอย่าพูดอย่างนี้ บิดาของพวกนาย 03,0018,022,ได้ถวายแก่ภิกษุณีสงฆ์แล้ว. 03,0018,023,ต่างเถียงกันอยู่ว่า ถวายแล้ว ไม่ได้ถวาย แล้วฟ้องมหาอำมาตย์ผู้พิพาษา. มหาอำมาตย์ 03,0018,024,ถามว่า แม่เจ้า ใครเล่าจะทราบว่าได้ถวายแล้วแก่ภิกษุณีสงฆ์? 03,0018,025,เมื่อเขาถามอย่างนั้นแล้ว ภิกษุณีถุลลนันทาย้อนถามพวกมหาอำมาตย์เหล่านั้นว่า พวก 03,0018,026,ท่านได้เห็นหรือได้ยินบ้างไหมว่า ทานที่เขาถวายกันต้องตั้งพยานด้วย?